Skip to content
Home » [NEW] Eng Hero เรียนภาษาอังกฤษ ออนไลน์ ฟรี | กริยา 3 ช่อง repair – NATAVIGUIDES

[NEW] Eng Hero เรียนภาษาอังกฤษ ออนไลน์ ฟรี | กริยา 3 ช่อง repair – NATAVIGUIDES

กริยา 3 ช่อง repair: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Post on 16 / 02 / 20

by: English Hero

804 viewed

Modal Verbs คือ กริยาช่วย ที่มีความพิเศษตรงนี้มีความหมายในตัวมันเอง (ปกติกริยาช่วยมีหน้าที่ทำให้ประโยคสมบูรณ์แต่ไม่มีความหมาย) 

Modal Verbs ที่ต้องรู้ 

  1. Can/Could = สามารถ
  2. Will/Would = จะ
  3. Shall/Should = ควรจะ
  4. May/Might = อาจจะ
  5. Must = ต้อง
  6. Ought to = ควรจะ

 

Modal Verbs ต่างจาก verb ปกติอย่างไร?

  1. Modal Verbs ไม่ต้องเติม s ไม่ว่าประธานจะเป็นตัวไหน

     – I will visit Japan next year. 

     – She can speak Italian. 
 

  1. สามารถทำเป็นประโยคปฏิเสธหรือประโยคคำถามได้เลยโดยไม่ต้องใช้กริยาช่วยตัวอื่น เช่น do, does

     – Students can’t enter this room.

     – Can you pass me the sugar?
 

  1. หลัง Modal Verbs ต้องตามด้วย infinitive verbs (verb รูปธรรมดาที่ไม่เติม -ing, -ed, to, s หรือ es)

     – I should arrive by lunch time.

     – You must study hard.

 

คราวนี้มาดูหลักการใช้ Modal Verbs แต่ละตัวกันเลย

Can/Could

รูปปฏิเสธของ Can คือ Can not (Can’t)

รูปปฏิเสธของ Could คือ Could not (Couldn’t)
 

– ใช้บอกความสามารถ โดย Can บอกความสามารถในปัจจุบัน Could บอกความสามารถในอดีต

     Ex 1. He can fix computers. (เขาสามารถซ่อมคอมพิวเตอร์ได้)

     Ex 2. When I was younger, I could run marathons without a problem. (ตอนฉันเด็ก ๆ ฉันสามารถวิ่งมาราธอนได้โดยไม่มีปัญหา)
 

– ใช้ถามเพื่อขออนุญาต, ให้การอนุญาตหรือไม่อนุญาต, ร้องขอบางสิ่งบางอย่าง, เสนอการช่วยเหลือ โดย Could มีความสุภาพมากกว่า Can

     Ex 1. Can I use this restroom please? (ฉันสามารถใช้ห้องน้ำนี้ได้ไหม?)

     Ex 2. Could you fill in these blanks please? (รบกวนช่วยกรอกข้อมูลตรงช่องว่างนี้ได้ไหมคะ?)

     Ex 3. Can you help me please? (คุณสามารถช่วยฉันได้ไหม?)

 

– ใช้บอกสิ่งที่เป็นไปได้หรือเกิดขึ้น โดย Could บอกสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต มีโครงสร้าง Could + have + past participle (V.3)

     Ex 1. It can get very hot there at night. (ตอนกลางคืนมันจะร้อนมาก ๆ)

     Ex 2.  I could have done it by myself. (ฉันสามารถทำมันได้ด้วยตัวฉันเอง)

 

Will/Would

รูปปฏิเสธของ Will คือ Will not (Won’t)

รูปปฏิเสธของ Would คือ Would not (Wouldn’t)
 

– Will ใช้บอกสิ่งที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นในอนาคต, บอกความตั้งใจ

     Ex 1. I will visit Japan next year. (ฉันจะไปญี่ปุ่นปีหน้า)

     Ex 2. We will give you this book. (พวกเราจะให้หนังสือเล่มนี้แก่คุณ)
 

– Would ใช้พูดถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอดีต, ใช้ขอร้องอย่างสุภาพ, บอกความต้องการ และใช้ในประโยคเงื่อนไข 

     Ex 1. I knew that Nid would be successful. (ฉันรู้ว่านิดจะประสบความสำเร็จ)

     Ex 2. Would you mind if I asked you to work today? (คุณรังเกียจไหมถ้าฉันจะถามคุณเรื่องงานวันนี้)

     Ex 3. Would you like some milk? (คุณต้องการนมไหม?)

 

Shall/Should

รูปปฏิเสธของ Shall คือ Shall not (Shan’t)

รูปปฏิเสธของ Should คือ Should not (Shouldn’t)
 

– Shall ใช้ในการเสนอแนะ ชี้แนะ เสนอความช่วยเหลือ

     Ex. Shall I carry your bags for you? (ฉันถือกระเป๋าให้คุณไหม?)
 

หมายเหตุ: ในปัจจุบันไม่ค่อยใช้ Shall กันแล้ว แต่บางครั้งอาจเจอได้ในการพูดอย่างเป็นทางการ และบางเอกสารทางกฎหมาย สำหรับภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันจะเจอ Shall มากที่สุดในประโยคคำถามยื่นข้อเสนอ หรือเสนอแนะ ชักชวน ว่า Shall I…? / Shall we…? 
 

– Should แปลว่า ควรจะ… ใช้ในการแนะนำ

     Ex 1. Should we take a taxi? (พวกเราควรจะขึ้นแท็กซี่นะ?)

     Ex 2. I think you should stop smoking. (ฉันคิดว่าคุณควรเลิกสูบบุหรี่นะ)

 

May/Might

May และ Might แปลว่า อาจจะ สามารถใช้แทนกันได้ แต่ Might จะสื่อว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยกว่า

รูปปฏิเสธของ May คือ May not

รูปปฏิเสธของ Might คือ Might not (Mightn’t)
 

– ใช้บอกความเป็นไปได้ หรือสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น

     Ex. She may be in danger. (เธออาจจะตกอยู่ในอันตราย)
 

– ใช้ในการให้อนุญาต, ขออนุญาต

     Ex 1. May I borrow your phone? (ฉันขอยืมโทรศัพท์คุณได้ไหม?)

     Ex 2. You may call me anytime. (คุณโทรหาฉันได้ทุกเวลานะ)

 

Must

– แปลว่า ต้อง ใช้พูดถึงสิ่งที่ต้องทำ สิ่งจำเป็นที่ขาดไม่ได้

     Ex 1. I must finish my work. (ฉันต้องทำงานให้เสร็จ) 

     Ex 2. Plants must have light and water to grow. (พืชต้องมีแสงและน้ำเพื่อการเจริญเติบโต)

     Ex 3. The show must go on. (ชีวิตต้องดำเนินต่อไป) 
 

– เมื่อเป็นรูปปฏิเสธ Must not (Mustn’t) จะหมายถึง ข้อห้าม, ไม่อนุญาตให้ทำ

     Ex. You mustn’t drink that. (คุณห้ามดื่มสิ่งนั้นนะ)

 

Ought to

Ought to แปลว่า ควรจะ เป็นคำที่คนสมัยก่อนใช้กัน ปัจจุบันนี้ไม่ค่อยใช้กันแล้ว จะใช้ Should มากกว่า

     Ex. We ought to help the poor. = We should help the poor. (เราควรจะช่วยเหลือคนจน)

 

 

สามารถดูตัวอย่างเพิ่มเติมได้จาก http://www.trueplookpanya.com/knowledge/content

 

 

 

[Update] Absolute Phrase (วลีกริยา) | กริยา 3 ช่อง repair – NATAVIGUIDES

Absolute Phrase ครับ หรือที่เรียกว่า วลีกริยา นั่นเอง มาดูซิว่า มันมีหน้าที่อย่างไร ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหา ผมก็ขอย้อนอดีตอีกเช่นเคย ผมคงแก่แล้วจริงๆ ชอบพูดเรื่องเก่า เรื่องมีอยู่ว่า
 ตอนเรียนอยู่มัธยม ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง เป็นคนตาเหล่ เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Squint..ตาเหล่มาก สังเกตุเห็นได้ชัดเลย..มันเลยโดนแซวตลอดเวลาที่มันถูกเรียกให้ไปทำแบบฝึกหัดหน้าห้อง ตัวผมเองก็เคยแซวมันอยู่ครั้งหนึ่ง พอเวลาผ่านไปคือพอเรียนจบออกมาทำงาน เจอคนมากขึ้น หวนนึกถึงเพื่อนคนนี้แล้วรู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่เคยแซวเพื่อนแบบนั้น…..เพราะมาทราบภายหลังว่าจริงๆแล้วคนเราก็ตาเหล่กันแทบจะทุกคน เพียงแต่จะเหล่มากเหล่น้อยแค่นั้นเอง….เอาเถิดเรื่องมันผ่านมาแล้ว มาเรียนภาษาอังกฤษ เรื่อง Absolute Phrase ดีกว่า ฟังผมบ่นมากไปจะไม่ได้ความรู้อะไร ได้แต่เรื่องไร้สาระซะเปล่า ๆ เหอๆ

วันนี้เราจะมาในหัวข้อที่ 5 กัน เรื่องครับ หรือที่เรียกว่า วลีกริยา นั่นเอง มาดูซิว่า มันมีหน้าที่อย่างไร ก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหา ผมก็ขอย้อนอดีตอีกเช่นเคย ผมคงแก่แล้วจริงๆ ชอบพูดเรื่องเก่า เรื่องมีอยู่ว่าตอนเรียนอยู่มัธยม ผมมีเพื่อนคนหนึ่ง เป็นคนตาเหล่ เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า..ตาเหล่มาก สังเกตุเห็นได้ชัดเลย..มันเลยโดนแซวตลอดเวลาที่มันถูกเรียกให้ไปทำแบบฝึกหัดหน้าห้อง ตัวผมเองก็เคยแซวมันอยู่ครั้งหนึ่ง พอเวลาผ่านไปคือพอเรียนจบออกมาทำงาน เจอคนมากขึ้น หวนนึกถึงเพื่อนคนนี้แล้วรู้สึกผิดอยู่เหมือนกันที่เคยแซวเพื่อนแบบนั้น…..เพราะมาทราบภายหลังว่าจริงๆแล้วคนเราก็ตาเหล่กันแทบจะทุกคน เพียงแต่จะเหล่มากเหล่น้อยแค่นั้นเอง….เอาเถิดเรื่องมันผ่านมาแล้ว มาเรียนภาษาอังกฤษ เรื่องดีกว่า ฟังผมบ่นมากไปจะไม่ได้ความรู้อะไร ได้แต่เรื่องไร้สาระซะเปล่า ๆ เหอๆ

5. Absolute Phrase (วลีกริยา)

ได้แก่ phrase ที่มีลักษณะคล้ายกับเป็นประโยค แต่ก็ไม่ใช่ประโยค เพราะไม่มีกริยาแท้ (Finite Verb) เพียงแต่มีคำซึ่งทำหน้าที่คล้ายกับกริยาประกอบอยู่หลังคำนามเท่านั้น แบ่งออกเป็น 3 ชนิดคือ

1)Absolute Phrase ซึ่งใช้รูปกริยาเติม ing หรือรูปกริยาช่อง 3ไปประกอบหลังนาม เช่น
The train being late, they had to stay overnight at the station.

เนื่องจากรถไฟมาล่า (กว่ากำหนด) พวกเขาจึงจำต้องพักค้างคืนอยู่ที่สถานี

The pagoda ruined, the Department of Fine Arts had to repair it.

เนื่องจากเจดีย์นั้นหักพัง กรมศิลปากรจึงจำต้องซ่อมแซม

(the train being late, และ the pagoda ruined เป็นวลีอิสระทำหน้าที่คล้าย Adverb ไปขยาย stay และ repair)

2)Absolute Phrase ซึ่งใช้รูป having + กริยาช่องที่ 3 หรือ having been + กริยาช่องที่ 3 แล้วนำไปใช้ประกอบหลังนาม เช่น

The sun having set, they didn’t go back home.
เมื่อดวงอาทิตย์ตกแล้ว พวกเขาก็ยังไม่กลับบ้าน

The house having been burnt, we had to live under the tree.

เนื่องจากบ้านได้ถูกไฟไหม้ พวกเราจึงจำเป็นต้องอาศัยอยู่ใต้ต้นไม้

(the sun having set และ the house having been burnt เป็น Absolute Phrase ทำหน้าที่อย่าง Adverb ไปขยายกริยา go และ live)

ข้อสังเกต : Absolute phrase ต้องใช้ comma คั่นเพื่อแยกออกจากประโยคใหญ่เสมอ (ตามตัวอย่างที่ยกมาให้ดู)

3)Absolute Phrase ซึ่งไม่มีรูปกริยาใดๆ เลย phrase ในข้อนี้ อันที่จริงก็เหมือนการสร้างประโยคธรรมดาทั่วไปนั่นเอง เพียงแต่ไม่ใส่กริยาเอาไว้เท่านั้น (น่าจะเป็นเพราะละไว้ในฐานที่เข้าใจแล้วเพื่อกระตุ้นให้ผู้อ่านเกิดความรู้สึกผิดไปจากปกติเท่านั้นเอง) เช่น

I stared at the stranger, my bare hands on the table.

ผมจ้องไปยังคนแปลกหน้า โดยมีมืออันว่างเปล่าของผมวางอยู่บนโต๊ะ

(น่าจะมาจากประโยคสมบูรณ์แบบว่า……..my bare hands were on the table.)

The old mining town was utterly deserted, its streets gray and dead.

เมืองซึ่งเคยเป็นเมืองเหมืองแร่มาก่อนได้ถูกละทิ้งอย่างสิ้นเชิง ถนนสายต่างๆ ปกคลุมไปด้วยฝุ่นและเงียบสงัด (จนน่ากลัว)

(น่าจะมาจากประโยคสมบูรณ์แบบว่า…………..its streets were gray and dead.)

(My bare hands on the table และ is streets gray and dead เป็นวลีอิสระ ซึ่งไม่มีรูปกริยาใดๆ ทำหน้าที่คล้าย Adverb ไปขยายกริยา stared at the deserted)


Live ติว TOEIC ฟรี ท่องกริยา 3 ช่อง ยังไงให้จำได้


ท่องมาทั้งชีวิต เรียนมาตั้งแต่เด็ก แต่จำไม่เคยได้
วันนี้ครูดิวมีเทคนิค กลอนดีๆมาให้ รับรองช่วยทุกคนอัพคะแนนได้แน่นอน
krudewtoeic krudewenglish toeic grammar

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Live ติว TOEIC ฟรี ท่องกริยา 3 ช่อง ยังไงให้จำได้

กริยา 3 ช่อง ประมาณ 200 คำ ที่จำเป็นต้องใช้_ครูบุ๋ม (irregular verbs)


วัดทุ่งธงไชย ต.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ 67120

กริยา 3 ช่อง ประมาณ 200 คำ ที่จำเป็นต้องใช้_ครูบุ๋ม (irregular verbs)

กริยา 3 ช่อง ที่ใช้บ่อย


กริยา 3 ช่อง ที่ใช้บ่อย

กริยา 3 ช่อง พร้อมตัวอย่างการใช้ | เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี


กริยาช่อง 3 คืออะไร และ ตัวอย่างกริยา 3 ช่องที่ใช้บ่อยมีอะไรบ้าง
กริยาช่องที่ 1 (รูปย่อคือ V.1) จะใช้กับเหตุการณ์ใน ปัจจบัน
กริยาช่องที่ 2 (รูปย่อคือ V.2) จะใช้กับเหตุการณ์ใน อดีต
กริยาช่องที่ 3 (รูปย่อคือ V.3) จะใช้กับเหตุการณ์ใน perfect tense ทุกชนิด
เรียนภาษาอังกฤษฟรี
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ถามตอบ ประโยคพื้นฐานใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=IHuK…
📌 ฝึกอ่านแปลภาษาอังกฤษ เข้าใจง่าย เรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=URCUv…
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ตั้งปณิธานเรื่องที่จะทำในปีใหม่ New Year’s Resolutions
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AWo2r…
📌 เรียนภาษาอังกฤษฟรี ดูโครงสร้างภาษาอังกฤษ ฝึกพูดพร้อมตัวอย่างประโยค
👉 https://www.youtube.com/watch?v=UgGf1…
📌 5 โครงสร้างประโยคพื้นฐานในภาษาอังกฤษ (English sentence structures)
👉 https://www.youtube.com/watch?v=iGS5s…
📌 ประโยคอวยพรปีใหม่ ภาษาอังกฤษ พร้อมคำอ่านและแปลภาษาไทย
👉 https://www.youtube.com/watch?v=BYqot…
📌วิธีใช้ Used to, Be used to และ Get used to (เคย และ เคยชิน)
👉https://www.youtube.com/watch?v=in1gK…
📌 Whenever, Whatever, Whoever, However, Whichever | ใช้ยังไง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnAT…
📌 How far/How much/How many/How long/ ใช้อย่างไร และแปลว่าอย่างไร ภาษาอังกฤษ
👉 https://www.youtube.com/watch?v=AnAT…
📌 เรียนภาษาอังกฤษ Do, Does, Did, Done | แปลว่าอย่างไร เข้าใจง่ายพร้อมตัวอย่าง
👉 https://www.youtube.com/watch?v=JrNKY…
📌 คำเชื่อมประโยคภาษาอังกฤษ พื้นฐาน FANBOYS คืออะไร
👉 https://www.youtube.com/watch?v=6g8MlhZhBcE

กริยา 3 ช่อง พร้อมตัวอย่างการใช้ | เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี

อ้าว x อยู่ต่อเลยได้ไหม — [ cover version กริยา3ช่อง ]


✨สมาชิกในกลุ่ม ม5/1
1)นายพิสิฐโชติ บุญชู เลขที่4
2)นายธนาวิชญ์ ปิดดวงแก้ว เลขที่10
3)นายเจตณรงค์ โลห์อธิกุล เลขที่15
4)นางสาวกมลทิพย์ พยุงตน เลขที่16
5)นางสาวธนภรณ์ สุทน เลขที่17
6)นางสาวนันท์นลิน สมบุญโภชน์ เลขที่20
✨เนื้อเพลง
บีบเข้าไป
บีบน้ำตาแล้วบีบมือฉันขอ go went gone ไป
เธอขอโทษเรื่องวันนั้น
do did done ทำกับฉัน
ให้ยกโทษให้เธอได้ไหม
น่าเห็นใจ เธอ become became become
กลายเป็นให้เห็นใจ
แต่ถ้า grow grew grown ปลูก
และถ้าเธอยังมีเขา เธอคง Leave left left จากไป
ก็ตอนนั้นเธอ say said said พูด
เธอบอกเธอ know knew known รู้ดีทำอะไร
teach taught taught สอนสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองไว้
แล้วเธอก็เลือกเขาไง ยังจำได้ไหมที่รัก
อ่าวเฮ้ย
ไม่เหมือนที่ bring brought brought นำมา
ความรู้สึก feel felt felt จะไม่มีวันกลับมา
อ่าวเฮ้ย
ฉัน win won won ชนะนี่หว่า
อย่ามัวเสียเวลาร้องขออะไรที่เธอไม่มีวันได้คืน
ไม่เข้าใจ
เธอนั่นแหละที่ think tought tought คิดว่าฉันนั้นไม่ใช่
แล้ววันนี้โลกจะแตกหรือว่าฟ้าจะถล่ม
เธอจึงมาขอให้ฉันกลับไป
is am are was were been คืออยู่
เธอบอกเธอรู้ตัวดี light lit lit จุดไฟ
give gave given ให้ดีที่สุดให้กับตัวเองไว้
แล้วเธอก็เลือกเขาไง ยังจำได้ไหมที่รัก
อ่าวเฮ้ย
cost cost cost แปลว่ามีราคา
understand understood understood เข้าใจไหม
อ่าวเห้ย
อย่ากลืนนำ้ลายตัวเองดีกว่าอย่า
มัวเสียเวลาร้องขออะไรที่เธอไม่มีวันได้คืน
มองไปก็มีแต่ฝนโปรยปราย
ในหัวใจก็มีแต่ความเหน็บหนาว
swar swore sworn สาบาน
คืนเหน็บหนาวยิ่งทำให้ใจเราหนาวสั่น
ให้ dream dreamed dreamed เธอฝันดี
แต่ใจก็รู้ดีคงหมดเวลาของฉัน
อยากจะอยู่กับเธอให้นานนานนาน
แต่ก็คงต้องลาพร้มอใจที่ไหวหวั่น
แต่ tell told told บอก
อยากอยู่กับเธอต่อแต่ฉันวิงวอนกับเธอได้เพียงสายตา
อยู่ต่อเลยได้ไหม อย่าปล่อยให้ตัวฉันไป
เธอก็ wear wore worn ใส่ใจอยู่ทุกวันแล้วนะตอนนี้
อยากจะ loved loved loved
ได้รักกับเธอเมฆฝนคงรู้ดี
ขอ lie lay lain ได้นอนใกล้ๆเธอ
ก็เพราะว่าคืนนี้
ฉันอยากที่จะ sing sang sung ร้องเพลงให้เธอฟังขอเธอจออยู่ข้างฉัน
นาฬิกาคงไม่บอกคืนและวันโลกของฉันที่ไม่มีเธอคงว่างเปล่า
take took taken พาไปไหนดี
แต่ใจก็รู้ดีคงหมดเวลาของฉัน
seek sought sought จะตามหาเธอน๊านนาน
แต่ก็คงต้องลาพร้อมใจที่ไหวหวั่น
แต่ read read read อ่าน
อยากอยู่กับเธอต่อแต่ฉันวิงวอนกับเธอได้เพียงสายตา
อยู่ต่อเลยได้ไหม อย่าปล่อยให้ตัวฉันไป
run ran run ก็วิ่งไปใจอยู่กับเธอหมดแล้วตอนนี้
อยากได้ยินคำว่ารักแทนคำบอกลาว่า blow blew blown พัดเป่าตี
คืนนี้ให้ฉันอยู่ใกล้ๆเธอ
อยู่ต่อเลยได้มั้ย อย่าปล่อยให้ cry cried cried
เธอนั้นทำฉันร้องไห้เพราะฉันคิดถึงเธอแล้วตอนนี้
อยากจะ call called called
หาโทรไปบอกว่าฉันรักเธอนะ oh baby
ตอนนี้ฉันอยากจะอยู่ใกล้ๆเธอ
คืนนี้ให้ฉันได้ใกล้ๆเธอ
คืนนี้ให้ฉันได้อยู่..กับเธอ
✨เพลงอ้าว [ต้นฉบับ]
: https://youtu.be/QyhrOruvT1c
✨คาราโอเกะเพลง อ้าว
: https://youtu.be/OwW5pckqMPQ
✨เพลงอยู่ต่อเลยได้ไหม [ต้นฉบับ]
: https://youtu.be/JWzsNZsimmw
✨คาราโอเกะเพลงอยู่ต่อเลยได้ไหม
: https://youtu.be/3Cp9Wu5WmPk

ขออนุญาตนำเพลงมาcover ver.กริยา3ช่อง และขอบคุณสำหรับการรับชม ฝากกดไลค์ด้วยนะค้าาา✨🌥

อ้าว x อยู่ต่อเลยได้ไหม — [ cover version กริยา3ช่อง ]

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ กริยา 3 ช่อง repair

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *