Skip to content
Home » [NEW] 7 ที่เที่ยว ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี 2020 ถ่ายรูปลง IG ได้รัวๆ | โปรแกรม เกาหลี – NATAVIGUIDES

[NEW] 7 ที่เที่ยว ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี 2020 ถ่ายรูปลง IG ได้รัวๆ | โปรแกรม เกาหลี – NATAVIGUIDES

โปรแกรม เกาหลี: คุณกำลังดูกระทู้

Table of Contents

7 ที่เที่ยว ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี 2020 ยอดฮิต ถ่ายรูปลง IG ได้รัวๆ

เข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงทั้งที แพลนเที่ยวไปชม ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี 2020 ก็ต้องมาค่ะ บอกเลยว่าช่วงเวลาที่ต้นไม้จะผลัดใบเปลี่ยนเป็นโทนสีส้ม แดง เหลือง ดูสดใส เป็นช่วงเวลาที่โรแมนติกสุดๆ ให้เราได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศฟินๆ แบบที่มีแค่ปีละครั้งเท่านั้นเอง โดยตามปกติใบไม้เปลี่ยนสีที่เกาหลีจะอยู่ในช่วงประมาณเดือนตุลาคม – ต้นเดือนพฤศจิกายน แล้วแต่สภาพอากาศ ใครเตรียมลางานไปเที่ยวก็ต้องรีบจับจองที่นั่ง ทัวร์เกาหลี กันหน่อย เดี๋ยวจะพลาด! ซึ่งครั้งนี้ มัชรูมทราเวล มีพิกัดชมใบไม้เปลี่ยนสีและจุดถ่ายรูปยอดฮิตในเกาหลีมาฝาก รับรองว่าไปแล้วไม่ตกเทรนด์ ได้รูปมาลงไอจีสวยๆ ปังๆ พร้อมแล้วก็ไปกันเลย!

1. อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน

ถ้าพูดถึงจุดชม ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี สวยๆ หนึ่งในนั้นต้องมี อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน ในเมืองซกโช จังหวัดคังวอนโด ทางฝั่งตะวันออกของเกาหลี ที่นี่สวยงามด้วยวิวทิวทัศน์ที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาและธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ตามฉายาที่ได้รับว่า สวิตเซอร์แลนด์เกาหลี โดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ร่วง บรรดาต้นไม้และต้นเมเปิ้ลต่างๆ ที่อยู่รอบอุทยานก็จะเปลี่ยนเป็นสีส้ม แดง เหลือง แจกความสดใสและสวยงามสลับกันทั่วทั้งภูเขา

ส่วนใหญ่ชาวเกาหลีจะนิยมมาท่องเที่ยวและปีนเขากันค่ะ แต่สำหรับใครที่มีเวลาไม่มากก็สามารถโดยสารเคเบิ้ลคาร์ขึ้นไปชมวิวบนยอดเขาได้ ใครอยากไปรับลมเย็นๆ บนยอดเขา พร้อมชมทิวทัศน์ของขุนเขาแบบ 360 องศา เก็บภาพความประทับใจสวยๆ กับคนที่คุณรักไปด้วย ขอแนะนำเลยค่าา

ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 3,500 วอน / เด็ก (อายุ 14-19 ปี) 1,000 วอน / เด็ก (อายุ 8-13 ปี) 500 วอน
เคเบิ้ลคาร์: Round Trip ผู้ใหญ่ 10,000 วอน / เด็ก (อายุต่ำกว่า 14 ปี) 6,000 วอน
เวลาทำการ: 09.00 – 18.00 น.
การเดินทาง: ขึ้นรถบัสที่สถานี Dong Seoul Bus Terminal (รถไฟใต้ดินสาย 2 สีเขียว ลงสถานี Gangbyeon) ไปลงยังสถานี Sokcho Intercity Bus Terminal แล้วโดยสารรถเมล์สาย 7 หรือ 7-1 ลงที่ป้ายสุดท้าย Seoraksan Sogongwon
พิกัด:

2. อุทยานแห่งชาติบุคฮันซาน

อีกหนึ่งที่เที่ยวใกล้กรุงโซล ที่เราสามารถไปชมใบไม้เปลี่ยนสีท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามได้นั่นก็คือที่ อุทยานแห่งชาติบุคฮันซาน ภูเขาหินแกรนิตขนาดใหญ่ทางตอนเหนือของกรุงโซล ที่โอบล้อมด้วยพรรณไม้ต่างๆ กว่า 1,300 ชนิด และเป็นสถานที่เก่าแก่ที่เป็นที่ตั้งของวัดและป้อมปราการตั้งแต่สมัยอาณาจักรชิลลา

ที่นี่เป็นนิยมมากๆ ในหมู่นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการเดินป่า ปีนเขา ชมธรรมชาติ เนื่องจากมีหลากหลายเส้นทางและหลายยอดเขาให้เลือกท้าทายความสามารถกัน ซึ่งนอกจากจะได้ชมทิวทัศน์ภาพใบไม้เปลี่ยนสีสันสดใสปกคลุมภูเขาทั้งลูกแล้ว จากจุดชมวิวบนยอดเขายังสามารถมองเห็นกรุงโซลและแม่น้ำฮันได้อย่างชัดเจนอีกด้วย ใครชอบปีนเขา ชอบเที่ยวชมธรรมชาติสวยๆ จดไว้ในลิสต์ที่เที่ยวชม ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี เลยค่ะ!

เวลาทำการ: 09.00 – 15.00 น.
การเดินทาง:
Bukhansan National Park – นั่งรถไฟใต้ดินสาย 4 มาลงที่สถานี Gireum Station ทางออก 3 แล้วโดยสารรถเมล์สาย 110B หรือ 143 ลงที่ป้ายสุดท้าย
ป้อมปราการ Bukhansanseong Fortress – นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 มาลงที่สถานี Gupabal Station ทางออก 1 แล้วโดยสารรถเมล์สาย 704 (Bukhansanseong Fortress) แล้วลงที่ป้ายหน้าทางเข้า Bukhansan Mountain
พิกัด:

3. เกาะนามิ

มาถึงจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ใครมา ทัวร์เกาหลี ต้อง-ห้าม-พลาด!! นั่นก็คือ เกาะนามิ อันแสนโด่งดังจากซีรี่ย์เรื่อง Winter Love Song เป็นเกาะเล็กๆ รูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว อยู่ห่างจากกรุงโซลเพียง 60 นาที แต่สวยงามเลอค่าเหมาะแก่การมาแชะภาพเป็นที่สุด โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ต้นแปะก๊วยที่ตั้งเรียงรายอยู่ตามทางเดินก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด บรรดาต้นเมเปิ้ลต่างๆ ก็จะเริ่มเปลี่ยนเป็นสีส้มและแดง กระจายอยู่ทั่วทั้งเกาะ ไม่ว่าจะเดินเล่น ถ่ายรูป ขี่จักรยาน หรือแค่นั่งปิกนิกใต้ต้นไม้กับครอบครัวก็ฟินสุดๆ ไปเลยล่ะค่ะ

การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย Gyeongchun มาลงที่สถานี Gapyeong แล้วต่อรถบัสที่ด้านหน้าสถานีรถไฟ หรือแท็กซี่ไปท่าเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากตามตารางเวลาดังนี้
07.30 – 09.00 น. (ทุกๆ 30 นาที)
09.00 – 18.00 น. (ทุกๆ 10-20 นาที)
18.00 – 21.40 น. (ทุกๆ 30 นาที)
*ตารางเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลงช่วงเทศกาล
พิกัด:

4. สะพานแขวนมาจังโฮซู

ถ้าพูดถึงจุดชมวิวและถ่ายรูป ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี ที่ฮิตสุดๆ นั่นก็คือ สะพานแขวนมาจังโฮซู แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเมืองพาจู ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา นอกจากจะเป็น สะพานแขวนที่ยาวที่สุดในเกาหลี แล้ว ภายในพื้นที่กว่า 200,000 ตารางเมตรของทะเลสาบมาจัง ก็ยังทำการรีโนเวทเป็นสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติในรูปแบบ Outro Theme Park อันประกอบไปด้วยกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางปีนเขา พื้นที่แคมปิ้ง กิจกรรมทางน้ำต่างๆ หอดูดาว คาเฟ่และร้านอาหารมากมาย เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่ใครมา ทัวร์เกาหลี ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ เพราะบรรยากาศดีสุดๆ

พิกัด:

5. พระราชวังเคียงบกกุง

ใครอยากมีรูปสวยๆ สวมชุดฮันบกอยู่ท่ามกลางใบไม้แดง ในบรรยากาศสุดคลาสสิกประหนึ่งเป็นองค์หญิงในวังหลวง ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี 2020 นี้ ต้องมาที่ พระราชวังเคียงบกกุง นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์เกาหลีที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปีแล้ว ในช่วงนี้จะมีความงดงามมากเป็นพิเศษ เพราะมีสีสันของบรรดาต้นแปะก๊วย ต้นเมเปิ้ล มาช่วยแต่งแต้มให้พระราชวังหลวงแห่งนี้ดูมีเสน่ห์และน่าเยี่ยมชมมากขึ้น จะมาเดินเล่นชิลๆ หรือจะ เช่าชุดฮันบกในเกาหลี แวะถ่ายรูปตรงจุดไหนก็ฟิน

เวลาทำการ: 09.00 – 17.00 น. (ปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมเวลา 16.00 น.) / ปิดทำการทุกวันอังคาร
ค่าเข้าชม: ผู้ใหญ่ 3,000 วอน / เด็ก (7-18 ปี) 1,500 วอน / เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี เข้าชมฟรี
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 มาลงที่สถานี Gyeongbokgung ทางออก 5
พิกัด:

6. พระราชวังชางด็อกกุง

พระราชวังชางด็อกกุง อีกหนึ่งจุดถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตในโซลที่ใครมา ทัวร์เกาหลี ไม่ควรพลาด ที่นี่เคยเป็นพระราชวังหลวงแห่งที่สองที่ได้รับการดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมจาก UNESCO เมื่อปี ค.ศ. 1997 บรรยากาศรอบๆ มีความงดงาม คลาสสิก และค่อนข้างเงียบสงบ รายล้อมไปด้วยสีสันสดใสของต้นไม้ต่างๆ ที่กำลังผลัดใบเปลี่ยนสี โดยเฉพาะภายใน สวนฮูวอน หรือที่เรียกกันว่าสวนลับ ทางเดินอาจจะชันหน่อย แต่ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็ดีงาม แถมได้ฟีลเหมือนเข้าไปอยู่ในละครย้อนยุคอีกต่างหาก ถ้ายิ่งสวมชุดฮันบกสวยๆ เข้าไปเก็บภาพประทับใจกันด้วยนะ 10 10 10 ไปเลยจ้า!!

เวลาทำการ: 09.00 – 17.30 น. / ปิดทำการทุกวันจันทร์
ค่าเข้าชม: พระราชวัง 3,000 วอน / สวนฮูวอน 5,000 วอน
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย 3 มาลงที่สถานี Anguk ทางออก 3 แล้วเดินตรงมาอีกประมาณ 300 เมตร
พิกัด:

7. มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา

ปิดท้ายกันที่ มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา หนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอันดับต้นๆ ของเกาหลี และยังเป็นจุดถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตในกรุงโซลอีกด้วย ทั้งสถาปัตยกรรมอลังการล้อมด้วยทิวทัศน์สวยๆ ผสมกับสีสันสดใสของต้นแปะก๊วยและต้นเมเปิ้ลที่อยู่รอบๆ ยิ่งทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่ต้องลิสต์ไว้ในทริป ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี เลยค่ะ

เวลาทำการ: 10.00 – 17.00 น.
การเดินทาง: นั่งรถไฟใต้ดินสาย 2 มาลงที่สถานี Ewha Woman’s University ทางออก 2 หรือ 3
พิกัด:

ชอบ บทความ

มัชรูมทราเวล

ทำไงดี…?

1.

กด

แชร์

ต่อ

ให้เพื่อนอ่านบ้าง

คลิก

Like

และ

ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

2.Likeติดตามเราได้ที่ Facebook

—————

Mushroom Travel มีโปรแกรม

ทัวร์เกาหลี

ให้เลือกมากที่สุด

โทร.

02-105-6234 (30 คู่สาย)

[email protected]

Line id

: @mushroomtravel

7 ที่เที่ยว ใบไม้เปลี่ยนสี เกาหลี 2020 ยอดฮิต ถ่ายรูปลง IG ได้รัวๆ

was last modified: by

[NEW] 2018 แนะนำโปรแกรมตะลุยเกาหลีฉบับเที่ยวด้วยตนเอง! โปรแกรมสี่วันสามคืนตามเก็บครบทุกที่! | โปรแกรม เกาหลี – NATAVIGUIDES

คู่มือเตรียมตัวตะลุยกรุงโซล! แลกเงิน วีซ่า การเดินทาง โปรแกรมเที่ยว รวมไว้อยู่ที่นี่แล้ว

เคยไปเกาหลีไหม? มีหลายเหตุผลทำไมคนไทยถึงชอบไปเที่ยวเกาหลี โดยเฉพาะสำหรับสาว ๆ ไม่ว่าจะช้อปปิ้ง ตามติดดารา อาหารอร่อย ไปครั้งเดียวก็ติดใจอยากจะกลับไปทุกครั้ง บทความนี้เหมาะที่สุดสำหรับใครที่ไม่เคยไปเที่ยวเกาหลีได้เตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมเพราะเราจะรวบรวมสิ่งที่ควรรู้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นวีซ่า อัตราค่าแลกเปลี่ยนหรือแม้กระทั่งปลั๊กสายไฟ จัดมาให้อย่างละเอียดยิบ!

วีซ่า

ผู้เดินทางถือหนังสือพาสปอร์ตไทยไปเกาหลีไม่ต้องใช้วีซ่าและพำนักได้ไม่เกิน 90 วัน

อัตราค่าแลกเปลี่ยนเงิน

หากต้องการแลกเงินที่เกาหลี แนะนำว่าให้แลกที่จุดแลกเงินหรือธนาคารเพราะถ้าแลกที่โรงแรมหรือสนามบินเรทจะไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ ตอนเราไปเกาหลีก็ไปที่ 一品香 เขียนเป็นภาษาจีน (สถานี Seoul ทางออก 7) ส่วนมากจะเอาเงินดอลล่าสหรัฐไปแลกเป็นเงินวอนเพราะจะได้เรทไม่เลวเลยแต่ก็อย่าลืมดูเรทของแต่ละสกุลเงินด้วยนะคะ

ที่เกาหลีเงินวอนจะใช้ตัว W, 1000W= ประมาณ 29.452 บาท

ขอคืนภาษี

ร้านค้าปกติแล้วซื้อครบ 30000 วอนสามารถขอคืนภาษีได้ซึ่งสามารถทำได้ทั้งที่สนามบินและในตัวเมือง แต่มีบางร้านค้าที่สามารถช่วยดำเนินการขอคืนภาษีได้เลย บางร้านก็สามารถทำการขอคืนได้เฉพาะที่สนามบินเท่านั้น

เวลา

เวลาเกาหลีเร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง

ปลั๊กไฟ

แรงดันไฟฟ้าที่เกาหลีคือ 220v เหมือนกับประเทศไทย หัวปลั๊กเป็นสองขากลม

สนามบิน

สนามบินอินชอน

นักท่องเที่ยวส่วนมากจะรู้จักสนามบินอินชอนเป็นอย่างดีเนื่องจากสายการบินส่วนมากจะอยู่ที่นั่น จากไทยบินตรงไปเกาหลีใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง

สนามบินกิมโป

สนามบินนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเที่ยวบินในประเทศหรือระหว่างประเทศใกล้เคียง

การเดินทางสนามบิน

หากนั่งรถบัสจะใช้เวลาประมาณ 70 นาทีถึงกรุงโซล

เที่ยวโซลสี่วันสามคืนตามเก็บทุกที่

โปรแกรมด้านบนทั้งหมดนี้สำหรับมือใหม่เที่ยวเกาหลีโดยเฉพาะ! สถานที่ฮอตฮิตเหล่านี้เป็นที่ที่ใครมาเกาหลีครั้งแรกจะต้องมาให้ได้ เริ่มต้นแรก ๆ อาจจะจัดโปรแกรมไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ ยังไงก็ลองเอาโปรแกรมนี้ไปดูแล้วลองมาจัดหรือปรับเปลี่ยนตามที่ต้องการได้เลยนะคะ

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปในโซล

สถานที่ทั้งสามแห่งต่อไปนี้เราคิดว่าคนที่ไปโซลครั้งแรกจะต้องไปให้ได้และต้องมีในทริปนะ! ถ้าไปโซลแล้วไปแค่ช้อปปิ้งกับกินเท่านั้นถือว่าเที่ยวไม่คุ้มนะ! ควรที่จะต้องไปเดินเล่นที่หมู่บ้านฝรั่งเศส La petite France และเดินเล่นที่เกาะนามิ ในดาวน์ทาวน์โซลก็ต้องขึ้นไปหอคอย N Seoul ชมกรุงโซลทั้งเมือง

1. หมู่บ้านฝรั่งเศส La petite France

สถานที่ถ่ายทำซีรี่ย์เกาหลีเรื่อง You Who Came From the Stars ที่นี่จะให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศสไตล์ฝรั่งเศษด้วยอาคารทั้ง 16 หลัง การออกแบบของหมู่บ้านฝรั่งเศษจะเป็นธีม ดอกไม้, ดาว และเจ้าชาย ซึ่งเป็นธีมของเรื่องเจ้าชายน้อย The Little Prince อีกด้วยเพราะฉะนั้นผู้คนถึงเรียกที่นี่ว่าหมู่บ้านฝรั่งเศษนั่นเอง ที่นี่ยังมีร้านค้ามากมาย นอกว่าถ่ายรูปแล้วยังสามารถซื้อของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ ติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ด้วยนะ เราว่าที่นี่สวยสุดไปเลย!

2. เกาะนามิ

เพื่อนเกาหลีทุกคนต่างบอกเราว่า ฤดูใบไม้ร่วงต้องไปเกาะนามิชมใบเมเปิ้ลให้ได้นะ ครั้งแรกที่ไปเกาะนามิ ในใจนี่นึกถึงฉากในละครเรื่อง เพลงรักในสายลมหนาว Winter Love Song ความงดงามของที่นี่ทำให้ลืมไม่ลงเลยจริง ๆ ถึงแม้ว่าจะไปตอนที่ไม่ใช่ฤดูไม่ไม้ร่วงแต่ถ้าได้ไปฤดูหนาวเนี่ย ฟินสุด ๆ หากชื่นชอบธรรมชาติและสัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติกแล้วละก็ ต้องมาที่เกาะนามิให้ได้นะ!

3. หอคอย N Seoul Tower

ที่หอย N Seoul นั้นกลางวันและกลางคืนไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นไปได้แนะนำว่าให้คุณไปตอนกลางคืนชมเมืองโซลท่ามกลางแสงไฟ โรแมนติกไปเลยใช่ไหมล่ะ ใครที่ไปกับคนรักแล้วละก็อย่าลืมที่จะคล้องกุญแจคู่รักด้วยนะ

แนะนำร้านอาหารที่ต้องไปกินในโซล

สามร้านอาหารด้านล่างนี้เป็นร้านอาหารที่เราชื่นชอบเป็นส่วนตัวเลยล่ะ ทุกครั้งที่ได้ไปโซลจะต้องไปกินให้ได้ หากคุณไปโซลครั้งแรก อย่าลืมใส่ร้านอาหารพวกนี้ในโปรแกรมเที่ยวของคุณ เชื่อเราและคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

1. ไก่สุดต้นตำหรับ Jinokhwa Halmae Wonjo Dakhanmari

Jinokhwa Halmae Wonjo Dakhanmari เป็นชื่อที่ไม่มีใครไม่เคยได้ยิน ซุปไก่ที่ไม่มันเกินไป เมื่อกินเสร็จร่างกายจะรู้สึกผ่อนคลาย ไก่หนึ่งตัวกับเครื่องปรุงง่าย ๆ บอกเลยว่าทุกครั้งไปเที่ยวเกาหลีทีไร ไม่เคยพลาดร้านนี้

ที่อยู่: 265-22 Jonglo 5th street Jonglogu Seoul (สถานี Dongdaemun ทางออก 9)

เวลาทำการ:10:30AM-22:30PM

2. ร้านยืนกินเนื้อย่าง Yeonnam Seo Seo Galbi

ทุกครั้งกินเนื้อย่าง Yeonnam Seo Seo Galbi เสร็จ ถึงแม้ว่าตัวจะมีแต่กลิ่นเนื้อย่างแต่บอกเลยว่ายอม! โปรแกรมของเราปกติแล้วเมื่อกินที่ Yeonnam Seo Seo Galbi เสร็จก็จะไปต่อ

สปาที่ Dragon Hill Spa

อาบน้ำล้างกลิ่นเหม็น ๆ ซะหน่อยแถมยังได้สัมผัสประสบการณ์เกาหลีสุด ๆ

ที่อยู่:32 Baekbeom-ro 2-gil Mapo-gu Seoul(สถานี Sinchon ทางออก 7)

เวลาทำการ:11:30AM-20:30PM (ปิดร้านเร็วเมื่อขายหมด)

3. ไก่ทอด Kyochon

ตอนที่ยังไม่ได้ไปเที่ยวเกาหลีมักจะยินเพื่อน ๆ พูดถึง ไก่ทอด Kyochon ในใจก็คิดว่ามันก็แค่ไก่ทอดทั่วไปไม่ใช่หรอ? พอได้ไปกินแล้วถึงรู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิดเลย! รู้แล้วว่าทำไมทุกคนถึงได้พูดกันนักว่าไปเกาหลีต้องกินให้ได้แถมต้องสั่งเดริเวอรี่มาส่งที่โรงแรมกินด้วยนะ เกาหลีสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวไก่หรือซอสที่ชุบมาด้วยกับตัวไก่ ทำให้คนกินต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อะ-หร่อย-มาก (กอไก่ล้านตัว)

ที่อยู่:164-24 Donggyo-dong, Mapo-gu, Seoul

เวลาทำการ:24 ชั่วโมง

 


แชร์ 4 แอพฝึกภาษาฟรี! มีติดเครื่องไว้เล่นเพลินๆ ความรู้เพียบ! | LDA World


แชร์ 4 แอพฝึกภาษาฟรี! มีติดเครื่องไว้เล่นเพลินๆ ความรู้เพียบ🤩
.
มาฝึกภาษาเพิ่มโอกาสให้ตัวเรากัน! คลิปนี้ แพรว จาก The Next LDA มาแชร์ 4 แอพฟรี ตัวช่วยให้ทุกคนฝึกภาษาให้เน้นขึ้น เป็นมินิเกม เล่นเพลิน ๆ อัปสกิลได้ทุกวันไม่มีเบื่อ แถมมีให้เลือกหลายภาษามาก จะมีแอพอะไรบ้าง ตามมาดูคลิปนี้เลย~
LDASmartlife PraewLDA แอพฝึกภาษา Drops Duolingo LingoDeer LingoDeerPlus RedKiwi Jadoh

ABOUT US
Facebook: http://www.facebook.com/LDAworld
Tiktok: https://www.tiktok.com/@ldaworld?lang=en
Blog: http://www.ldaworld.com
Instagram: http://www.instagram.com/ldaworld
Twitter: http://twitter.com/ldaworlds
PODCAST
Spotify : https://spoti.fi/2v8nNY9
Apple Podcast : https://apple.co/35NteJc
Podbean : https://ldapodcast.podbean.com
ติดต่องาน/ลงโฆษณา : [email protected]
โทร : 0863636683

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

แชร์ 4 แอพฝึกภาษาฟรี! มีติดเครื่องไว้เล่นเพลินๆ ความรู้เพียบ! | LDA World

ออกกำลัง 20 นาที ตามคลิปนี้แค่วันละครั้ง!!


ออกกำลัง 20 นาที ตามคลิปนี้แค่วันละครั้ง!!

โปรแกรมเต้นเกาหลี


โปรแกรมเต้นเกาหลี

ตั้งค่าปุ่มสลับเปลี่ยนภาษา [ไทย-อังกฤษ] Windows 10 v1803


การตั้งค่าปุ่มสลับภาษา ใน Windows 10 ระหว่างภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาอื่นๆ ที่ผู้ใช้งานได้เพิ่มไว้ โดยในตัวอย่างนี้เป็น Windows 10 v1803 ที่มีการอัปเดตล่าสุด
ลิ้งค์บทความ: https://www.nongit.com/blog/changelanguagewindows10.html
Web Blog: https://www.nongit.com
ติดตาม Facebook ที่: https://fb.com/nongitcom

ตั้งค่าปุ่มสลับเปลี่ยนภาษา [ไทย-อังกฤษ] Windows 10 v1803

ฝึกพูดแนะนำตัวเองเป็นภาษาเกาหลีง่ายๆ – อ.มายด์ โรงเรียนสอนภาษาเกาหลีโกโกโคเรียอุดรธานี


안녕하세요? อันนยองฮาเซโย สวัสดีทุกคน วันนี้ โรงเรียนสอนภาษาเกาหลีโกโกโคเรีย มีคลิปวิดีโอดีๆมานำเสนอค่ะ เป็นคลิปตัวอย่าง การพูดแนะนำตัวเองเป็นภาษาเกาหลีง่ายๆ เหมาะสำหรับบุคคุลทั่วไปที่ต้องการนำไปใช้สื่อสารกับคนเกาหลี หรือสำหรับชาวไทยที่ต้องการสอบไปทำงานที่เกาหลีค่ะ รายละเอียดในคลิป การบอกชื่อ อายุ เกี่ยวกับครอบครัว โรงเรียนโกโกโคเรีย มี 3 สาขา (รังสิต ชลบุรี อุดรธานี) สนใจเรียนภาษาเกาหลีเพื่อไปทำงาน 042116551, 0930177518 ไปทำงานเกาหลีแบบถูกกฎหมาย เกาหลีใต้ เรียนภาษาเกาหลี แนะนำตัวเองเป็นภาษาเกาหลี

ฝึกพูดแนะนำตัวเองเป็นภาษาเกาหลีง่ายๆ - อ.มายด์ โรงเรียนสอนภาษาเกาหลีโกโกโคเรียอุดรธานี

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ โปรแกรม เกาหลี

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *