Skip to content
Home » [NEW] [6 เคล็ดลับ] ธุรกิจออนไลน์ ทำอย่างไรให้เติบโตแบบยั่งยืน | วิธี การ ทํา ธุรกิจ – NATAVIGUIDES

[NEW] [6 เคล็ดลับ] ธุรกิจออนไลน์ ทำอย่างไรให้เติบโตแบบยั่งยืน | วิธี การ ทํา ธุรกิจ – NATAVIGUIDES

วิธี การ ทํา ธุรกิจ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

คำว่า “ธุรกิจออนไลน์” นั้นมักจะถูกผูกติดอยู่กับคำว่า “เทคโนโลยี” ซึ่งสิ่งที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยคือ การเปลี่ยนแปลง และความรวดเร็ว

นั่นทำให้หลายคนอาจจะรู้สึกว่าเทคนิค วิธีการ และเครื่องมือ มันมาเร็ว ไปเร็วมาก อะไรที่ได้ผลในปีนี้ ปีหน้าอาจจะไม่ได้ผลแล้ว คำว่าการทำธุรกิจออนไลน์แบบยั่งยืน เลยฟังดูเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก

แต่ถึงแม้ว่ามันจะยาก ผมคิดว่ามันเป็นไปได้ครับ

บทความนี้จะแชร์แนวคิด และวิธีการทำธุรกิจออนไลน์ที่ยั่งยืน ซึ่งผมคิดว่าในช่วง 5-10 ปีนี้ แนวคิด และวิธีการต่างๆ ที่ผมกำลังจะเขียนถึงนี้เป็นวิธีที่ทำให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณ “ไปต่อได้” ไม่ว่าจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามายังไง หรือ Social Media / Search Engine จะเปลี่ยนอัลกอริทึ่มไปมากแค่ไหน

ป.ล. แนวคิด และวิธีการเหล่านี้เป็นสิ่งที่ได้จากประสบการณ์ และความรู้ของผม ซึ่งผมใช้สิ่งเหล่านี้ในการคาดเดาอนาคต แต่ว่าผมไม่มีทางหยั่งรู้อนาคตได้ เพราะฉะนั้นถ้าคุณอ่านจบแล้ว ผมไม่อยากให้คุณเชื่อทันที แต่อยากให้คุณเก็บเอาไปคิดค้นคว้าหาข้อมูลต่อนะครับ

Table of Contents

6 เคล็ดลับ ทำธุรกิจออนไลน์แบบยั่งยืน

1. ทำเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพ

ด้วยการเติบโตของ Social Media หรือแอพพลิเคชั่น Chat หลายๆ คนค่อยๆ ให้ความสำคัญกับ Website น้อยลงเรื่อยๆ

แต่ผมไม่คิดอย่างนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว กลับกัน Website จะยิ่งมีความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ

สำหรับแบรนด์เล็กๆ Website อาจจะเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญ แต่ถ้าแบรนด์ไหนอยากเติบโตอย่างยั่งยืน Website ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องมี สาเหตุนั้นก็เป็นเพราะ Website นั้นถือเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ (Asset) บนโลกออนไลน์เพียงแค่ไม่กี่อย่างของแบรนด์

คำว่าสินทรัพย์ในที่นี้คือแบรนด์มีความเป็นเจ้าของจริงๆ ไม่ได้ไปเช่าที่คนอื่นอยู่ เช่นไปอยู่บน Social Media หรือแอพ Chat ซึ่งส่งผลให้การสร้างแบรนด์ การปรับแต่ง Website ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า และการจัดเก็บข้อมูล (ข้อนี้ผมคิดว่าสำคัญมากๆ เพราะในอนาคตจะเป็นยุคของการใช้ประโยชน์จากข้อมูล) สามารถทำได้ตามใจต้องการ

ในอีกหลายๆ ปีข้างหน้า ผมเชื่อว่า Website จะยังไม่ตาย และถ้าแบรนด์ไหนสามารถใช้ประโยชน์จาก Website ได้ดี จะกลายเป็นผู้ได้เปรียบบนโลกออนไลน์

2. สร้างคุณค่าของแบรนด์มากกว่าการซื้อโฆษณา

การจ่ายเงินเพื่อซื้อโฆษณานั้นมีข้อดีคือคุณจะสามารถเข้าถึงคนได้เป็นจำนวนมากในระยะเวลาสั้นๆ ยิ่งเป็นโฆษณาบนโลกออนไลน์ (อย่างเช่นบน Facebook หรือ Google) จะยิ่งทำให้เม็ดเงินที่ลงไปนั้นตรงกลุ่มเป้าหมายมากๆ

แต่ข้อด้อยคือคุณจะไม่สามารถหยุดการง่ายเงินโฆษณาได้ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณหยุดจ่ายเงิน Traffic ที่เข้ามายังช่องทางของคุณก็จะหายไปด้วย นอกจากนั้นแล้วการแข่งขันทางด้านโฆษณาบนโลกออนไลน์นั้นจะยิ่งยาก และแพงขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าคนจะหันมาซื้อโฆษณาออนไลน์กันมากยิ่งขึ้น (เพราะว่ามันง่าย และได้ผล) และตัว Platform ต่างๆ ที่ทำตัวเป็นสื่อนั้นก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขายิ่งแข็งแกร่ง คุณจะยิ่งอ่อนแรง เพราะว่าพวกเขาจะมีอำนาจการต่อรองมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

ถ้ายอดขายบนโลกออนไลน์ของคุณนั้นขึ้นอยู่กับงบโฆษณาที่คุณลงไป สิ่งที่คุณทำอยู่นั้นไม่ยั่งยืนเลยครับ

บนโลกออนไลน์ วิธีที่แบรนด์ต่างๆ ควรทำเพื่อที่จะทำให้ธุรกิจยั่งยืนนั้นคือการทำให้คนที่จะกลายมาเป็นลูกค้าเห็นว่าคุณดียังไง ไม่ใช่แค่พูดว่าคุณดียังไง วิธีที่ว่านี้ทำได้โดยการสร้าง “สร้างคุณค่า” คุณค่าที่ว่านี้สามารถสร้างได้หลายวิธี ซึ่งวิธีที่ผมเชียร์มากเป็นพิเศษคือการทำคอนเทนต์ ไม่ว่าจะเป็นบทความ รูปภาพ หรือวีดีโอ เพื่อช่วยให้คนที่จะมาเป็นลูกค้าของคุณได้รับประโยชน์ หรือได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง

ถ้าคุณสามารถสร้างคุณค่าได้อย่างสม่ำเสมอแล้ว คนก็จะมองคุณในฐานะผู้เชี่ยวชาญ และเมื่อเวลาพวกเขาต้องการสินค้า หรือบริการอะไรก็แล้วแต่ที่คุณมี คุณจะถูกนึกถึงเป็นลำดับแรกๆ

โฆษณาก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่ เพียงแต่ว่าศูนย์กลางของการทำการตลาดออนไลน์ของคุณนั้นควรจะเน้นการสร้าง “คุณค่า” อย่างสม่ำเสมอมากกว่า

3. ใช้ Email List ให้เป็นประโยขน์

มีสุภาษิตนึงที่ฝรั่งชอบใช้กันก็คือ “The money is in the list” หรือแปลเป็นไทยง่ายๆ ว่า “เงินนั้นอยู่ในอีเมลลิสต์ที่คุณมี” จริงๆ มันมีเหตุผลอยู่ครับ ซึ่งเหตุผลที่ผมคิดว่ามันสำคัญมากๆ มีอยู่ 3 อย่างครับ

1. เป็นเจ้าของช่องทางติดต่อ

การที่คุณมีอีเมลของคนที่สนใจในสินค้า/บริการของคุณนั้น จะทำให้คุณเป็นเจ้าของช่องทางในการติดต่อกับคนคนนั้น โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางอย่าง Facebook, Instagram, Google หรือว่า LINE เพราะฉะนั้น ไม่ว่าอัลกอริทึ่มของแพล็ตฟอร์มเหล่านี้จะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม คุณก็ยังคงสามารถติดต่อคนที่สนใจในสินค้า/บริการของคุณได้โดยตรงอยู่

2. สามารถส่งข้อความไปคุยแบบ 1 ต่อ 1 ได้

การทำการตลาดผ่านอีเมลเป็นการตลาดวิธีเดียวที่คุณจะสามารถส่งข้อความ (Personalized Message) ไปหาลูกค้าของคุณแบบคนต่อคนได้ในปริมาณมากๆ แบบอัตโนมัติได้ด้วยระบบที่เรียกว่า Email Marketing Automation (ถ้าอยากอ่านเกี่ยวกับ Marketing Automation เพิ่มเติม ผมแนะนำให้เข้าไปโหลด eBook เล่มนี้อ่านครับ)

ป.ล. ในอนาคตอาจจะมีอีกอย่างที่ทำได้แบบเดียวกับอีเมล แต่สามารถโต้ตอบกับลูกค้าของคุณได้ดีกว่า ซึ่งก็คือ Chatbot ในปัจจุบัน Chatbot อาจจะยังไม่ฉลาดพอ แต่ในอนาคตถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากๆ เลยครับ

3. เป็นช่องทางที่คนไทยมองข้าม (เก็บยาก ตั้งค่ายาก)

ปัจจุบันธุรกิจหลายๆ ธุรกิจในประเทศไทยเน้นเรื่อง Social Media กันมากๆ เพราะว่าคนไทยเป็นชนชาติที่นิยมเล่น Social Media ส่วนเรื่องการทำการตลาดผ่านอีเมลนั้น เป็นช่องทางที่หลายๆ ธุรกิจเมิน ซึ่งอาจจะเป็นเพราะการเก็บอีเมลนั้นทำได้ยาก อีกทั้งการทำการตลาดผ่านอีเมลนั้นยังทำไม่ง่ายอีกด้วย

ผมคิดว่าการทำการตลาดผ่านอีเมลในประเทศไทยนั้นยังมีช่องให้เล่นอีกเยอะมาก โดยเฉพาะธุรกิจแบบ Business to business สาเหตุก็เป็นเพราะคนทำธุรกิจนั้นต้องเช็คอีเมลอยู่แทบทุกวัน นอกจากนั้นแล้ว การที่คนเมินการทำการตลาดผ่านอีเมล แสดงว่าถ้าคุณเข้าไปเล่น คู่แข่งคุณจะน้อยมาก

จากการสำรวจของ McKinsey บริษัทที่ปรึกษาชั้นนำของโลก พบว่าในสหรัฐนั้นการทำการตลาดผ่านอีเมลให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการทำการตลาดผ่าน Facebook และ Twitter ประมาณ 40 เท่า

4. เก็บข้อมูลลูกค้า

นอกเหนือจากอีเมลแล้ว สิ่งที่คุณควรเก็บเพิ่มก็คือ “ข้อมูลของลูกค้า” ซึ่งข้อมูลของลูกค้านั้นแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ

แบบที่ 1 คือข้อมูลที่ลูกค้าให้มา เช่นชื่อบริษัท ตำแหน่ง อายุ เพศ งบประมาณ เป็นต้น

แบบที่ 2 คือข้อมูลจากพฤติกรรมของลูกค้า เช่นลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับ Website ของคุณยังไง หรือลูกค้าเปิดอีเมลคุณบ่อยแค่ไหน เป็นต้น

ถ้านึกไม่ออก ผมอยากจะให้นึกถึง Website ใกล้ตัวที่ทั้งคุณ และผมเล่นกันเกือบทุกวันอย่าง Facebook ซึ่ง Facebook นั้นเก็บข้อมูลของคนใช้บริการทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเพจที่ Like, Message ที่ส่งหาเพื่อน หรือรูปแบบของคอนเทนต์ที่สนใจ

ในอนาคต โลกของเราจะเป็นยุคของการทำ Big Data ซึ่งมี Artificial Intelligence (AI) มาเกี่ยวข้อง แบรนด์ไหนก็ตามที่มีข้อมูลของลูกค้ามากกว่า และสามารถเอามาประมวลผลได้ดีกว่า จะทำให้แบรนด์นั้นๆ มีข้อได้เปรียบเหนือคู่แข่ง เพราะแบรนด์นั้นๆ จะสามารถเสนอคอนเทนต์ และเสนอการขายได้ถูกที่ ถูกเวลามากกว่านั่นเอง

ซึ่งการเก็บข้อมูลของลูกค้านั้น คุณสามารถทำได้ผ่านการทำ Lead Generation ผ่าน Form, ปุ่ม Call to action และ Landing Page ครับ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่สามารถรู้ข้อมูลเท่า Facebook, Google หรือยักษ์ใหญ่บนโลกออนไลน์เจ้าอื่นๆ แต่ข้อมูลที่คุณได้มา จะเป็นของคุณเอง ซึ่งจะทำให้คุณนำหน้าคู่แข่งไปไกลแน่นอน

5. เรียนรู้เรื่องการเขียนโปรแกรม

ในอนาคต ความรู้เรื่องการเขียนโปรแกรมจะเป็นความรู้ขั้นพื้นฐานที่คนทุกคนควรจะรู้ (เหมือนกับการคิดเลข หรือการเข้าใจภาษาอังกฤษ) ในต่างประเทศมีแหล่งให้เรียนรู้มากมายอย่างเช่น Udemy, Code Academy หรือ Khan Academy

การเริ่มเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เป็นสิ่งที่ยาก ผมเข้าใจ เพราะว่าผมเองก็รู้สึกว่าถ้าจะให้ไปเรียนเขียนโปรแกรมใหม่มันเป็นเรื่องยากเช่นเดียวกัน แต่ผมแนะนำว่าคุณควรที่จะลองหามุมที่สามารถเรียนรู้ได้ เช่นถ้าคุณไม่อยากเขียนโปรแกรม หรือรู้สึกว่ามันยากเกินไป คุณก็เรียนรู้วิธีการใช้งานผลลัพธ์ที่ได้จากโปรแกรมเหล่านั้นแทน (ผมเองอยู่ในขั้นนี้) เช่นคุณไม่จำเป็นต้องเขียนโปรแกรมเพื่อสร้าง Website จากศูนย์ แต่คุณสามารถใช้เครื่องมืออย่าง WordPress หรือ Wix ในการสร้าง Website ขึ้นมา

หรือถ้าคุณไม่อยากเรียนรู้วิธีการใช้งานผลลัพธ์ที่ได้จากโปรแกรมเหล่านั้น ผมคิดว่าอย่างน้อยๆ ที่สุด คุณควรที่จะเรียนรู้ว่าโปรแกรมเหล่านั้นมันทำอะไรได้บ้าง เช่นคุณไม่จำเป็นต้องรู้เรื่องการเขียน Website หรือการใช้ WordPress แต่อย่างน้อยคุณควรจะรู้ว่าการมี Website นั้นจะทำให้คุณมีบ้านบนโลก Online เป็นของตัวเอง และทำให้คนค้นหาคุณเจอผ่าน Search Engine เป็นต้น

ในอนาคตเทคโนโลยีจะมีความสามารถ และมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้บริหารระดับสูง ผู้จัดการ หรือเด็กจบใหม่ ถ้าคุณไม่พยายามเรียนรู้ตั้งแต่วันนี้ คุณจะพลาดโอกาสอันยิ่งใหญ่ไปหลายอย่างเลยล่ะ

6. ให้ความสำคัญกับธุรกิจแบบออฟไลน์ด้วย 

ถึงแม้ว่าใน 5 ข้อก่อนหน้านี้ผมจะเน้นหนักไปทางเทคโนโลยี แต่ผมเชื่อว่าโลก Offline นั้นยังเป็นส่วนที่สำคัญมากๆ ในการทำธุรกิจออนไลน์อยู่ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์สังคม และมนุษย์ต้องการที่จะปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ด้วยกัน

สิ่งที่ผมคิดว่าสิ่งที่จะยิ่งสำคัญขึ้นเรื่อยๆ ก็คือการเชื่อมต่อระหว่างโลก Online และโลก Offline เข้าด้วยกัน

การผสานเทคโนโลยีเข้ากับการปฏิสัมพันธ์แบบคนต่อคนจะทำให้ธุรกิจ “ก้าวล้ำ (เพราะเทคโนโลยี) กว่าใคร และเข้าใกล้ (กับลูกค้า) กว่าเคย”

สรุป

และนี่ก็คือ 6 วิธีการทำธุรกิจออนไลน์แบบยั่งยืนในความคิดของผมนะครับ

โลกออนไลน์เป็นโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เทคนิค วิธีการ และเครื่องมือต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาอยู่ทุกๆ วัน แต่ผมเชื่อว่าถ้าคุณเรียนรู้ เข้าใจ และเอาวิธีการทั้ง 6 วิธีนี้ไปปรับใช้กับธุรกิจออนไลน์ของคุณ ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ นั้นจะไม่มาฉุดรั้งคุณ กลับกัน ความเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นจะคอยส่งเสริมให้ธุรกิจของคุณก้าวไปข้างหน้าเรื่อยๆ แน่นอนครับ

คุณเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยยังไง หรือมีวิธีอื่นๆ ที่อยากจะเสริมผมอีกบ้างรึเปล่า? มาคุยกันต่อได้ในคอมเมนต์เลยครับ
New call-to-action

[Update] 7 วิธีหาไอเดียธุรกิจ อยากเริ่มทำธุรกิจต้องอ่าน! | วิธี การ ทํา ธุรกิจ – NATAVIGUIDES

ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว มีไอเดียธุรกิจและอาชีพเกิดใหม่ (ที่ไม่เคยมีมาก่อนเมื่อ 10-20 ปีที่แล้ว) มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขายของออนไลน์ การเป็น YouTuber หรือแม้กระทั่งการปล่อยห้องของตัวเองให้คนอื่นเช่า

ใครที่มองเห็นโอกาสและคว้าโอกาสไว้ได้ก็จะไปได้ไกลกว่าคนอื่น

บทความนี้ไม่ได้เป็นบทความที่ชี้เป้าบอกไอเดียธุรกิจให้กับคุณ แต่จะชี้แนะแนวทางในการค้นหาไอเดียธุรกิจเฉพาะตัวสำหรับคุณ

ถ้าคุณอ่านบทความนี้จบแล้วเอาไปคิด ผมคิดว่าคุณจะมีไอเดียธุรกิจดีๆ ให้ไปทำต่อแน่ๆ ครับ

7 วิธีการหาไอเดียธุรกิจที่เหมาะกับคุณ

1. หาสิ่งที่คุณหมกมุ่นหรือทำได้ดี

ถ้าจะให้ปลาไปปีนต้นไม้ก็คงจะยาก หรือจะให้ลิงไปว่ายน้ำก็คงจะทำได้ไม่ดี

เช่นเดียวกันกับคนอย่างเราๆ ถ้าต้องทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ถนัดหรือไม่ชอบ เราอาจจะทำได้ไม่ดีหรืออาจจะไม่มีแรงผลักดันเท่าที่ควร

คำแนะนำข้อแรกของผมคือให้ลองค้นหาสิ่งที่คุณเก่ง ทำได้ดี หรือมี Passion เกี่ยวกับมัน ซึ่งไม่จำเป็นต้องอิงกับสิ่งที่มีสาระมากก็ได้

ตัวอย่างเช่น Gabe Newell and Mike Harrington ที่ชอบเล่นเกมส์เลยก่อตั้ง Valve บริษัทที่สร้างเกมส์อันแสนโด่งดังอย่าง Half-life, Counter-Strike, Dota และอื่นๆ อีกมากมาย

หรือถ้าเป็นของไทย ตัวอย่างที่ผมชอบคือเฮียมั่นและเฮียเบียสที่หลงใหลในเรื่องเสียงมากจนก่อตั้ง Munkong Gadget บริษัทขายเครื่องเสียงที่ถ้าใครอยากได้หูฟังดีๆ ต้องรู้จัก

ผมเคยสัมภาษณ์เฮียมั่นและเฮียเบียสลง Podcast ของ FounderCast สามารถเข้าไปติดตามฟังได้ที่นี่ครับ

ลองกลับไปนั่งไล่นึกถึงสิ่งที่คุณหมกมุ่นหรือทำได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการวาดรูป ทำอาหาร การพูด หรืออะไรก็แล้วแต่ จริงๆ แล้วถ้าของที่คุณมีเป็นของที่คนต้องการ คุณสามารถเอามาสร้างธุรกิจได้หมดครับ

2. หาปัญหาที่คุณเจอ/หาสิ่งที่คุณอยากให้มี

มีปัญหาอะไรบ้างที่คุณมักจะเจออยู่เป็นประจำ? หรือมีอะไรบ้างที่คุณอยากให้มีแต่ไม่ยักจะมีคนทำขาย?

ณ ตอนที่อ่านอยู่นี้ ถ้าคุณนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ในหัว บางทีคุณอาจจะกำลังเจอไอเดียธุรกิจของคุณแล้วก็ได้นะครับ 🙂

ตัวอย่างของคนที่คิดไอเดียธุรกิจได้จากปัญหาที่พวกเขาเจอหรือจากสิ่งที่เขาอยากให้มีเช่น

Marc Randolph และ Reed Hastings ผู้ร่วมก่อตั้งของ Netflix เบื่อและเห็นว่ามันไม่เข้าท่าที่จะต้องจ่ายค่าปรับในการส่งหนังคืนช้าให้กับร้านเช่าหนัง

Kristo Käärmann and Taavet Hinrikus ผู้ร่วมก่อตั้ง TransferWise ซึ่งเป็นบริการโอนเงินข้ามประเทศ เกิดปิ๊งไอเดียนี้ข้ึนมาเพราะพวกเขาต้องเปลี่ยนสกุลเงินจากปอนด์และยูโรไปมา (Kristo ทำงานที่ Deloitte อาศัยอยู่ใน London ได้รับค่าจ้างเป็นปอนด์ แต่ซื้อที่อยู่ไว้ที่ Estonia ซึ่งต้องจ่ายเป็นยูโร ส่วน Taavet ทำงานที่ Skype อาศัยอยู่ใน London เหมือนกัน แต่ดันได้รับค่าจ้างเป็นยูโร)

หรือแม้แต่ผมเองตอนที่เริ่มทำเว็บไซต์ที่ชื่อว่า Content Shifu ผมพบว่ามีเว็บข่าวเกี่ยวกับ Digital Marketing ดีๆ หลายสำนัก แต่ยังไม่มีเว็บที่เน้นเรื่องการให้ความรู้ Digital Marketing ดีๆ สักเท่าไหร่

บางทีปัญหาที่คุณมี คนอื่นๆ อีกมากมายก็อาจจะเจอปัญหาแบบเดียวกัน หรือบางทีของที่คุณอยากได้แต่หาซื้อไม่ได้ คนอื่นๆ อีกมากมายก็อาจจะกำลังบ่นเหมือนที่คุณบ่นอยู่ก็เป็นได้

3. หาสิ่งที่คนอยากได้

ในอดีต การที่คุณจะรู้ว่าคนอยากจะได้สินค้าหรือบริการอะไร ของแบบไหนคนสนใจมากหรือสนใจน้อย การแข่งขันสูงหรือต่ำยังไง มันอาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่ปัจจุบันการจะเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้มีความเป็นไปได้อยู่ คุณเพียงแค่ต้องรู้วิธีการ

วิธีการง่ายๆ ในการหาว่าคนสนใจหรืออยากได้อะไร ทำได้โดยการใช้เครื่องมืออย่าง Google Trend หรือ Google Keyword Planner ครับ

ตัวอย่างเช่นผมลองเข้าที่ Google Trend แล้วลองค้นหาคำว่า Delivery (โดยที่เลือกเฉพาะประเทศไทย) ดู จะพบว่าในช่วงที่ผ่านมาคนสนใจเรื่องนี้กันเยอะขึ้นมา แสดงว่าธุรกิจอะไรที่เกี่ยวข้องกับ Delivery ก็อาจจะเป็นสิ่งคนต้องการ

เวลาคนมีปัญหาหรืออยากรู้อะไรบางอย่าง ที่แรกๆ ที่คนจะเข้าไปถามคือ Google เพราะฉะนั้น Google จะมีข้อมูลสิ่งที่คนอยากรู้ทั่วทั้งโลกและเขาเปิดข้อมูลบางส่วนของเขาให้คนทั่วๆ ไปอย่างเราเข้าถึงได้ คุณเองก็สามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้ครับ

นอกเหนือจากเครื่องมือของ Google แล้ว ถ้าคุณอยากจะเห็นสิ่งที่คนสนใจในช่วงระยะเวลาสั้นๆ คุณสามารถไปใช้เครื่องมืออย่าง trend.wisesight.com/ หรือ Social.gg ได้ครับ

โดยเครื่องมือเหล่านี้จะทำการกวาดข้อมูลสาธารณะที่คนพูดถึงบน Social Media ต่างๆ (ของ Social.gg กวาดมาเฉพาะ Facebook) แล้วเอามาแสดงผลให้คุณได้ดูครับ

มนุษย์เป็นสัตว์สังคม เวลามีอะไรที่เป็นกระแสหรือเป็นที่สนใจของคนหมู่มาก สิ่งที่คนจะทำคือการเข้าไปแสดงความเห็นของตัวเองและปฏิสัมพันธ์บน Social Media เพราะฉะนั้น Social Media จะมีข้อมูลสิ่งที่เป็นกระแสหรือคนกำลังให้ความสนใจทั่วทั้งโลกและเขาเปิดข้อมูลบางส่วนของเขาให้คนทั่วๆ ไปอย่างเราเข้าถึงได้ คุณเองก็สามารถใช้ประโยชน์จากจุดนี้ได้ครับ

4. ไปงานอีเวนต์

งานอีเวนต์เป็นอีกหนึ่งที่ที่รวบรวมไอเดียธุรกิจต่างๆ จากทั่วทุกสารทิศมาไว้ในที่เดียว งานอีเวนต์ที่ผมแนะนำให้คุณไปลองเดินดูคืองานที่ใหญ่ระดับชาติหรือระดับโลก

ตัวอย่างงานลักษณะนี้ที่จัดในไทยเช่น THAIFEX (งานแสดงสินค้าอาหาร) งานสถาปนิก (งานแสดงงานสถาปัตยกรรมต่างๆ) งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ และอื่นๆ อีกมากมาย (คุณสามารถเข้าไปดูตารางงานต่างๆ ได้ผ่านเว็บไซต์รวมอีเวนต์เช่น Thailandexibition และ Zipevent)

ทุกครั้งที่คุณไปเดินงานแบบนี้ คุณจะได้ไอเดียใหม่ๆ มาเติบเก็บไว้ในหัวของคุณครับ และบางไอเดียอาจจะเอามาต่อยอดเป็นธุรกิจได้

นอกจากงานอีเวนต์ที่เป็นรูปแบบของ Expo แล้ว งานอีเวนต์แบบ Networking ก็อาจจะช่วยคุณได้ไอเดียใหม่ๆ ในการทำธุรกิจเช่นเดียวกันครับ เพราะงานอีเวนต์แบบ Networking จะเป็นการรวมตัวกันของคนกลุ่มไม่ใหญ่มากแต่มีความสนใจที่คล้ายกัน คุณอาจะได้ไอเดียจากการที่คุยกับคนที่ไปงาน Networking เหมือนๆ กันได้

ถ้าคุณสนใจงานในรูปแบบนี้ ผมแนะนำให้ลองเข้าไปดูในเว็บไซต์ Zipevent หรือ Eventpop ที่ผู้จัดงานมักจะเปิดให้คนมาลงทะเบียนหรือบัตรเข้างานผ่าน Platform เหล่านี้ครับ

เมื่อไอเดียไม่วิ่งเข้าในหัวคุณ สิ่งที่คุณควรทำคือเอาตัวเองวิ่งไปหาไอเดียครับ

Note: ในช่วง COVID-19 Platform เหล่านี้เองก็ปรับตัว เปลี่ยนจากการโปรโมตอีเวนต์ที่จัดในรูปแบบ Offline มาเป็นช่วยให้ธุรกิจอีเวนต์สามารถจัดงานแบบออนไลน์ได้ครับ

5. อ่าน

การอ่านคือหนึ่งในวิธีการเปิดโลกและหาไอเดียธุรกิจที่มีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดครับ

คุณสามารถเริ่มต้นอ่านได้โดยการติดตามเว็บไซต์ข่าวสารหรือบล็อกต่างๆ ซึ่งถ้าเป็นไปได้ ผมแนะนำให้คุณอ่านคอนเทนต์ที่เป็นภาษาอังกฤษครับ เพราะภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้กันสากล องค์ความรู้ แนวคิด และไอเดียต่างๆ ย่อมมีมากกว่าเนื้อหาที่อยู่ในรูปแบบภาษาไทย (คิดง่ายๆ ว่าภาษาไทยมีคนใช้ 60-70 ล้านคน แต่ภาษาอังกฤษมีคนใช้มากกว่า 1,500 ล้านคน)

นอกเหนือจากบทความสายธุรกิจจาก Forbes, Entrepreneur และ Inc แล้ว การลองหาคอนเทนต์จากเว็บไซต์อื่นในอุตสาหกรรมที่คุณสนใจก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน

วิธีการง่ายๆ คือลองใช้คำค้นหาหัวข้อที่เกี่ยวข้องใน Google ดู เช่นสมมุติว่าคุณสนใจธุรกิจในอุตสาหกรรมแม่และเด็ก คุณอาจจะลองค้นหาคำว่า Best mom products ดู แล้วคุณก็จะพบเว็บไซต์ที่ให้ไอเดียที่น่าสนใจต่างๆ อยู่หลายอัน

ลองอ่าน ลองศึกษาเพิ่มเติมจากคอนเทนต์บนโลกออนไลน์ที่เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ดูนะครับ ยิ่งคุณอ่าน ศึกษา และติดตามความเป็นไปของโลกมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะได้ไอเดียธุรกิจที่เอาไปคิดและทำต่อก็จะยิ่งมากขึ้นครับ

6. ระดมความคิด (Brainstorming)

ถ้าคุณมีเพื่อนที่จะทำธุรกิจด้วยกัน วิธีการระดมความคิด (Brainstorming) เป็นหนึ่งในวิธีที่น่าสนใจครับ

วิธีการคือกำหนดโจทย์ให้ทุกคนต้องเขียนไอเดียธุรกิจออกมาบน Post-it ให้ได้มากที่สุดภายในระยะเวลาจำกัด เช่นสัก 10-15 นาที โดยไม่ต้องห่วงหรือไม่ต้องแคร์ว่าไอเดียนั้นจะดูเป็นไปได้รึเปล่าหรือไอเดียนั้นจะดูงี่เง่าขนาดไหน

จากนั้นเอาไอเดียที่คิดได้มาระดมสมอง จับวางไอเดียต่างๆ ลงไปในรูปทางด้านล่าง

รูปจาก Twitter

รูปทางด้านบนเป็นรูปที่มีแกน Y เป็น Payoff (หรืออธิบายง่ายๆ ว่าถ้าไอเดียนี้ไปได้ดี ผลตอบแทนจะมากน้อยแค่ไหน) ส่วนแกน X เป็น Difficulty (หรืออธิบายง่ายๆ ว่าไอเดียนี้ทำให้เกิดขึ้นได้จริงยากง่ายแค่ไหน)

ถ้าไอเดียที่คุณคิดมาอยู่ในรูปซ้ายบน ให้เอาไปทดลองทำจริงๆ (Implement)

แต่ถ้าคุณไม่มีไอเดียในรูปซ้ายบนเลย ให้ไปดูไอเดียขวาบนหรือซ้ายล่างที่เป็นไอเดียที่ดูน่าสนใจรองลงมา

ถ้าไอเดียที่คุณคิดมาอยู่ในรูปขวาบน ให้เก็บมาคิดดีๆ อีกที เพราะว่ามันท้าทาย (Challenge)

ถ้าไอเดียที่คุณคิดมาอยู่ในรูปซ้ายล่าง ให้เก็บไว้ เพราะมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นไอเดียธุรกิจที่ไปได้ดี (Possible)

ถ้าไอเดียที่คุณคิดมาอยู่ในรูปขวาล่าง… ให้กลับไปลองลิสต์ใหม่ เพราะบางทีคุณอาจจะลิสต์ไอเดียออกมาในจำนวนที่ไม่มากพอ

ในขั้นของการระดมไอเดีย ไม่ต้องแคร์เรื่องความเป็นไปได้หรือคุณภาพมากนัก ให้โฟกัสที่ปริมาณเป็นหลัก พอมีไอเดียเยอะเพียงพอแล้วค่อยไปคัดเลือกอีกที

7. ออกเดินทาง

ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณเป็นคนที่ไม่มีไอเดียและยังไม่ค่อยรู้ความเป็นไปของโลกมากนัก วิธีการสุดท้ายที่ผมอยากจะแนะนำคือการออกเดินทาง

คำว่า “ออกเดินทาง” คือการเดินทางไปในสถานที่ที่คุณไม่รู้จักหรือไม่เคยไปมาก่อน

ถ้าเป็นไปได้ ผมแนะนำให้ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยการ Backpack เพราะ 1. ประเทศแต่ละประเทศมีแนวคิดและวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน การไปเรียนสิ่งเหล่านี้จากประเทศอื่น อาจจะทำให้เกิดไอเดียใหม่ๆ ได้ 2. การ Backpack คือการที่คุณจะได้พบเจอคนใหม่ๆ และจะได้จำกัดสิ่งอำนวยความสะดวกและความช่วยเหลือเท่าที่จำเป็นซึ่งจะช่วยให้คุณได้ลิ้มรสประสบการณ์ของประเทศหรือเมืองนั้นๆ ได้อย่างเต็มที่

สรุป

และนี่คือไอเดียในการหาไอเดียธุรกิจทั้ง 7 ข้อที่ผมนำมาฝากนะครับ

สุดท้ายสิ่งที่อยากจะฝากไว้คือไม่ว่าไอเดียที่คุณคิดหรือค้นพบมันจะน่าอัศจรรย์ใจแค่ไหน ถ้าขาดการลงมือทำ ไม่ว่าจะไอเดียนั้นจะมีมูลค่ากี่พันล้าน มันก็จะไม่เกิดประโยชน์อะไรนะครับ

Ideas are cheap. Execution is everything!


อย่า ! เพิ่งเริ่มธุรกิจถ้าคุณยังไม่ได้ดูคลิปนี้


เพจรู้รอบตอบโจทย์ธุรกิจ\r
โทร: 0989248558
ติดต่อ Line: @banksupakit
ประวัติโค้ชแบงค์และแหล่งข้อมูลอ้างอิง: https://www.banksupakit.com/aboutus/

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

อย่า ! เพิ่งเริ่มธุรกิจถ้าคุณยังไม่ได้ดูคลิปนี้

อายุ 20 ปี อยากทำธุรกิจส่วนตัว ควรเริ่มอย่างไร | วิธีเริ่มต้นธุรกิจ สำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่


แจกหนังสือฟรี! เงินมาง่าย ๆ ด้วยวิธีการขายของออนไลน์สูตรลับ WARKETING™️ กดลิงก์ตอนนี้เพื่อรับหนังสือ 👉 https://get.moneyeasybook.com/?ref=FBA20210804
แน่นอนว่าอายุ 20ปี หลายคนยังอยู่ในวัยเรียนกันนะครับ และแน่นอนอีกว่าการเป็นนักศึกษาก็ต้องมีหน้าที่ศึกษาเล่าเรียนเป็นหลัก แต่ผมเห็นคนประสบความสำเร็จในธุรกิจ การงานการเงิน ตั้งแต่สมัยเรียนกันมาไม่น้อย
หากคุณยังอยู่ในวัยเรียน และอยากทำธุรกิจส่วนตัวไปด้วย ผมมีวิธีเริ่มต้นให้ง่าย ๆ โดยไม่กระทบการเรียนกันครับ
🔴 พบกับวิดีโอใหม่ทุกวัน 🔴 ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จและรวย \”เร็วขึ้น\”
จากประสบการณ์การทำธุรกิจไทยจีน มาแล้ว 14 ธุรกิจของผม
👇 คลิกลิงก์แล้วกด “SUBSCRIBE ติดตาม และกดกระดิ่งแจ้งเตือน ตอนนี้เลย!! 👇
https://www.youtube.com/channel/UC6GkGouzOitA6vUzOEBEqwA?sub_confirmation=1

// ดูวิดีโอของ \”วรัทภพ\” ตามเพลย์ลิสต์
📌 คลิปใหม่ล่าสุด (มีคลิปใหม่ทุกวัน) https://bit.ly/2OCDdvb
========================
🔥ลงทุนอะไรดี https://bit.ly/2kH0Lm0
🔥วิธีขายของ LAZADA https://bit.ly/2TUxuRn
🔥วิธีขายของ SHOPEE https://bit.ly/2lJ5LHe
🔥วิธีสั่งสินค้าจากจีน https://bit.ly/2IERdmE
🔥วิธีสร้างรายได้บน YOUTUBE https://bit.ly/2NT8l8L
🔥การทำตลาดจีน และส่งออกจีน https://bit.ly/2GWdITq
🔥วิธีขายสินค้าแบบ ดรอปชิป https://bit.ly/2x2sOPf
🔥WARATTAPOB PODCAST https://bit.ly/2SBlrHR
🔥วิธีทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ https://bit.ly/2lRZuZn
🔥วิธีปลดหนี้ https://bit.ly/2PKNplE
========================
🇨🇳VLOG IN CHINA ชีวิตในจีนของผม https://bit.ly/2AqaFNB
🇹🇭VLOG IN THAILAND ชีวิตในไทยของผม https://bit.ly/2AUvnWf
========================
🌈แกะคำคม ข้อคิด นักปราชญ์ และนักธุรกิจ https://bit.ly/2SDzHjh
🌈5 นาที หาเงินแบบมหาเศรษฐี https://bit.ly/2k9oyuu
🌈รีวิวหนังสือที่ผมชอบ http://bit.ly/2lRZJnf
🌈วิธีเริ่มต้นธุรกิจ ในปัจจุบัน https://bit.ly/2ChCNT7
🌈ความรู้ หาเงิน เพิ่มรายได้ ที่จะทำให้คุณรวยเร็วขึ้น https://bit.ly/2CR2Jqc
🌈เคล็ดลับ การตลาดและการขาย https://bit.ly/2M8P7cV
🌈ไอเดียธุรกิจเงินล้าน https://bit.ly/2TrY2IT
🌈พัฒนาตัวเอง เพื่อความสำเร็จในด้านที่ต้องการ https://bit.ly/2LTPms2
🌈แรงบันดาลใจและกำลังใจ ในการใช้ชีวิต https://bit.ly/2TKQAbW
🌈รีวิว ธุรกิจจีนและเศรษฐกิจจีน https://bit.ly/2M8Phkx
🌈ความรู้ไทยจีน อื่นๆ http://bit.ly/2kIZaMn

// วรัทภพ รชตนามวงษ์ คือ ใคร?
ผม \”วรัทภพ รชตนามวงษ์\” เป็นคนไทย เกิดที่จังหวัดเชียงใหม่
เป็นผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจมาแล้ว 14 ธุรกิจ
ทั้งในประเทศไทย และ จีน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 จนถึงปัจจุบัน
ผมตั้งใจทำสื่อเพื่อแบ่งปันความรู้และประสบการณ์
ให้คนรุ่นใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จในชีวิตและรวย “เร็วขึ้น”
📍คุณสามารถดูคลิปจากลิงก์ล่างนี้ ว่าผมมีประสบการณ์ธุรกิจอะไรบ้าง📍
http://bit.ly/2kHDgt4

// ติดตาม วรัทภพ รชตนามวงษ์ เพิ่มเติมได้ที่
Website : https://www.warattapob.com
👥SOCIAL
Instagram : https://www.instagram.com/warattapob_rachatanamwong
Facebook : https://fb.me/WarattapobRachatanamwong
YouTube: https://www.youtube.com/warattapob?sub_confirmation=1
Line official : http://line.me/ti/p/~@warattapob
Twitter : https://twitter.com/warattapob
Tiktok : https://www.tiktok.com/@warattapob
LinkedIn : http://linkedin.com/in/warattapobrachatanamwong
🎧PODCAST
สำหรับ Android
Soundcloud : https://bit.ly/2QjfVYm
Spotify : https://spoti.fi/2Jcwh6Y
สำหรับ iOS
Apple Podcast : https://apple.co/2QjW5fM

WARATTAPOB อยากเริ่มธุรกิจ เริ่มต้นธุรกิจ
วิดีโอนี้เกี่ยวกับ อายุ 20 ปี อยากทำธุรกิจส่วนตัว ควรเริ่มอย่างไร | วิธีเริ่มต้นธุรกิจ สำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ EP
LINK https://youtu.be/DEpHTqatP0
LINK https://youtu.be/DEpHTqatP0

อายุ 20 ปี อยากทำธุรกิจส่วนตัว ควรเริ่มอย่างไร | วิธีเริ่มต้นธุรกิจ สำหรับผู้ประกอบการรุ่นใหม่

6 ธุรกิจเสือนอนกินปี 64 รวยง่าย รวยเร็ว ไม่ต้องเหนื่อย


อาชีพที่รวยเร็ว และเจ้าของกิจการมีเวลาว่างเยอะ ส่วนใหญ่เป็นอาชีพประเภทเสือนอนกิน เป็นธุรกิจที่ไม่ต้องใช้เวลาเยอะ วันนี้เราจะพาไปส่องเทรนด์ธุรกิจเสือนอนกินในปี 64 คลิก! https://bit.ly/3bhWwVa
0:00 intro
0:50 1.ธุรกิจร้านสะดวกซัก
2:49 2.ตู้กดน้ำหยอดเหรียญ
3:17 3.ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ
4:07 4.ลงทุนในตลาดหุ้น
4:32 5.ขายของออนไลน์
4:58 6.ธุรกิจบริการสินเชื่อ
แฟรนไชส์​ ไทยแฟรนไชส์​ ​แฟรนไชส์เซ็นเตอร์​ ธุรกิจเสือนอนกิน
อาชีพ เทรนด์ธุรกิจ สร้างรายได้
ติดต่องานสปอนเซอร์ ธุรกิจ SMEs ธุรกิจแฟรนไชส์ ผลิตวีดีโอโฆษณา อีเว้นท์
[email protected]
0898955665 (คุณเก๋)
อัพเดทและติดตามข่าวสารได้ที่
Line : @thaifranchise
Twitter : @thaifranchise
Website : https://www.thaifranchisecenter.com/
Instagram : https://www.instagram.com/thaifranchise/
tiktok : https://www.tiktok.com/@thaifranchisecenter
YouTube : https://www.youtube.com/user/ThaiFranchise
Blockdit : https://www.blockdit.com/thaifranchisecenter
Podcast : https://soundcloud.com/thaifranchisecenter

6 ธุรกิจเสือนอนกินปี 64 รวยง่าย รวยเร็ว ไม่ต้องเหนื่อย

4 วิธีหาไอเดีย ขายอะไรดีในช่วงนี้


ทำธุรกิจอะไร
จะขายอะไรดีในช่วงนี้ ?
ที่จริงแล้ว
ยังมีโอกาส
และความเป็นไปได้ อีกเยอะมาก
ของการเริ่มต้นทำธุรกิจ
หรือการหา ไอเดียทำสินค้าใหม่ๆ
ใน Video นี้
ผมไม่ใช่บอกว่า คุณต้องทำธุรกิจอะไร
แต่ผมบอก ถึง \”แก่น\” วิธีคิด
หาไอเดียธุรกิจ
ไม่ได้ใช้ได้เฉพาะแค่ช่วงนี้
แต่ว่า เป็นหลัก ที่ใช้ได้ ตลอดไป
ห้ามพลาดครับ
ลุย
10x
Big Leap 202x
A10 (เอเท็น)
ขายอะไรดี ขายออนไลน์
ทำธุรกิจออนไลน์ OnlineTakeOver
Atenarnon iClass
สังคมแห่งความเป็นไปได้

4 วิธีหาไอเดีย ขายอะไรดีในช่วงนี้

มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก แนะวิธีเริ่มธุรกิจง่ายๆ หากมีรายได้น้อย(จน)!!


มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก แนะวิธีเริ่มธุรกิจง่ายๆ หากมีรายได้น้อย(จน)!!

มหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก แนะวิธีเริ่มธุรกิจง่ายๆ หากมีรายได้น้อย(จน)!!

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN TO MAKE A WEBSITE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ วิธี การ ทํา ธุรกิจ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *