Skip to content
Home » [NEW] 50 แคปชั่นอังกฤษสั้น ๆ กำลังใจ ความหวัง ไฟฝัน | ความเป็นกันเอง ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] 50 แคปชั่นอังกฤษสั้น ๆ กำลังใจ ความหวัง ไฟฝัน | ความเป็นกันเอง ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

ความเป็นกันเอง ภาษาอังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

ลิงก์ผู้สนับสนุน

เคยมีคนกล่าวว่าคำพูดเพียงไม่กี่คำสามารถเปลี่ยนโลกได้ ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่เชื่อเช่นนั้น ด้วยความที่เติบโตมากับการอ่านและชมคลิปสุนทรพจน์หรือวาทะเด็ดของผู้นำและบุคคลสำคัญของโลก ทำให้เวลาที่ชีวิตต้องพานพบกับบททดสอบ ผมจะนึกถึงคำคมหรือคำพูดปลุกใจเหล่านั้นเสมอ มันทำให้ผมรู้สึกว่าชีวิตมีหนทางเสมอ ไม่ว่าเราจะตกอยู่ในสถานะไหนหรือผ่านพ้นเหตุการณ์อะไรมาบ้าง ในท้ายที่สุด เราจะฝ่าฟันมันไปได้ด้วยตัวของเราเอง วันนี้ผมจึงได้รวบรวมแคปชั่น คำคมภาษาอังกฤษสั้น ๆ ที่เคยได้พบเห็นตามหนังสือหรือเว็บไซต์ต่างมาไว้ในที่เดียวกัน โดยหวังว่าผู้ที่ผ่านเข้ามาจะได้กำลังใจ เติมพลังความหวัง และก้าวต่อไปพร้อมกัน ใครที่อยากขอคำปรึกษาหรือมีปัญหาในชีวิต หรือติดต่อโฆษณาก็อีเมล์มาคุยกันได้ที่ [email protected] ครับ

 

แคปชั่นอังกฤษสั้น ๆ กำลังใจ

 

What’s done is done.

อะไรที่จบไปแล้วก็ให้มันจบไป

 

No matter what people say, Never ever look down on yourself.

ไม่ว่าใครจะว่ายังไง อย่าได้ดูถูกตัวเองเป็นอันขาด

 

Life is only good as your mindset.

ทัศนคติดีอาจไม่ได้ทำให้โลกดีขึ้น แต่ทำให้เราเห็นด้านดีของชีวิตมากขึ้น

 

No matter what you do, no matter who you are, Be happy.

ไม่ว่าเธอทำอะไร ไม่ว่าเธอเป็นใคร จงมีความสุข

 

Ones who can weather any storm, survive.

ผู้ที่ยืนหยัดได้ในทุกมรสุมชีวิต ย่อมอยู่รอด

 

Never be afraid of who you are.

จงอย่ากลัวที่จะเป็นตัวของตัวเอง

 

Live the life you are proud of and never be afraid.

จงใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองภูมิใจ และอย่าเกรงกลัวสิ่งใด

 

Small positive thoughts can make big differences.

ความคิดเชิงบวกเล็ก ๆ อาจสร้างการเปลี่ยนแปลงใหญ่ ๆ ได้

 

Whatever you end up doing, learn to love it.

ไม่ว่าท้ายที่สุดแล้วจะต้องทำอะไร จงเรียนรู้ที่จะรักมัน.

 

Time would heal broken heart. Hope would heal broken day.

เวลาจะเยียวยาใจที่แหลกร้าว ความหวังจะเยียวคืนวันอันบอบช้ำ

 

Not all storms come to disrupt your life, some come to clear your path.

มรสุมไม่ได้มาเพื่อขวางทางชีวิตเสมอไป แต่บางครั้งก็มาเพื่อให้เราเห็นหนทางได้ชัดเจนขึ้น

 

 

Working hard can bring you happiness, working TOO hard can bring the opposite.

ทำงานหนักอาจทำให้มีความสุข แต่หนักเกินไปก็ใช่ว่าจะดี

 

Don’t judge yourself with failures, but actions.

อย่าตัดสินตนเองด้วยความล้มเหลว แต่ดูว่าในชีวิตนี้ เราได้ทำอะไรที่อยากทำไปแล้วบ้าง ถ้าทำเต็มที่แล้วก็อย่าเสียใจ

 

Always smile at people, you never know how much it mean for them.

ยิ้มให้ผู้อื่นเสมอ คุณไม่มีทางรู้หรอกว่ามันมีค่าสำหรับพวกเขามากแค่ไหน

 

Never try to be perfect, just be yourself.

อย่าพยายามไขว่คว้าความสมบูรณ์แบบ แค่เป็นตัวของเธอเองก็พอ

 

Breathe in. Breathe out. Move on.

สูดลมหายใจเข้า ผายลมหายใจออก แล้วก้าวต่อไป

 

You may be lonely. You may be suffered. But that’s not an excuse for having a life you dream of.

เธออาจจะโดดเดี่ยว เธออาจจะเจ็บปวด แต่นั่นไม่ใช่ข้อแก้ตัว สำหรับการมีชีวิตอย่างที่เธอฝันไว้

 

If it’s easy everyone would do it.

ถ้ามันง่าย ทุกคนก็คงทำมันได้หมดแหละ

 

Life ain’t a phone button, don’t push yourself too hard.

ชีวิตไม่ใช่ปุ่มมือถือ อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป

 

Storms make trees take deeper roots.

พายุมรสุม ทำให้ต้นไม้หยั่งรากลึกเข้มแข็งขึ้น ชีวิตก็เช่นกัน

 

I Need Vitamin U For a broken heart.

อยากได้วิตามิน ‘ยู’ มาเยียวยาหัวใจ

 

Chin up and move on.

เชิดหน้าใส่ความผิดหวัง แล้วก้าวต่อไป

 

แคปชั่นภาษาอังกฤษสั้น ๆ ความหวัง

 

Never lose faith in yourself, tomorrow might be the day you’re waiting for.

อย่าสูญเสียศรัทธาในตัวเอง พรุ่งนี้อาจจะเป็นวันที่เธอรอคอยมาตลอดก็ได้

 

You are allowed to cry, but never give up.

ร้องไห้ได้ แต่อย่ายอมแพ้เด็ดขาด

 

You are what you do. Not what you will do.

สิ่งที่ทำบ่งบอกตัวตนของเธอ ไม่ใช่สิ่งที่เธอบอกว่าจะทำ

 

Don’t Just dream. Do it.

อย่ามัวแต่ฝัน จงลงมือทำ

 

Don’t just existed. Live.

อย่าเพียงแค่มีตัวตน แต่จงใช้ชีวิต

 

Love is sometimes a novel with unforgettable plot twist.

ความรัก บางครั้งก็เหมือนนิยายที่มีจุดหักมุมอันยากจะลืมเลือน

 

Every next level of your life will demand the difference of you.

ทุกบททดสอบของชีวิตจะทำให้คุณเปลี่ยนแปลงไป

 

Lesson from the pain will never go waste.

บทเรียนจากความเจ็บปวดจะไม่มีวันสูญเปล่า

 

Love is sometimes you can’t forget someone who hurt your feeling.

รักคือบางครั้งคุณไม่สามารถลืมคนที่เคยทำร้ายความรู้สึกได้

 

Pain is real but so is love.

ความเจ็บปวดนั้นรู้สึกจริง แต่ความรักก็เช่นกัน

 

Chang your thoughts and you will change your world.

แค่เปลี่ยนความคิด โลกของคุณก็เปลี่ยน

 

Don’t lose your future to the past.

อย่าทำให้อนาคตสูญเสียไปเพราะความผิดพลาดในอดีต

 

แคปชั่นภาษาอังกฤษสั้น ๆ ความฝัน ความรัก

 

You always gain by giving love.

ยิ่งหว่านความรักในเพื่อนมนุษย์ ยิ่งได้ความสุข

 

No matter where you’re from, Your dream is important as everyone else.

ไม่ว่ามาจากไหน รวยหรือจน ความฝันของทุกคนสำคัญเท่ากันหมด

 

Stay hopeful. You never know what tomorrow would bring.

จงมีความหวังเสมอ เราไม่มีทางรู้ว่าพรุ่งนี้อาจจะมีอะไรดี ๆ เกิดขึ้นก็ได้

 

A little progress everyday adds up to big result.

ความคืบหน้าเล็กน้อยทุกวันนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่

 

Rest, darling, this is just a chapter, not your whole story.

พักเถอะ ยาใจ นี่เป็นแค่บท ๆ หนึ่งในนิยายชีวิตของเธอ ยังมีอีกหลายหน้าให้เขียนอีกเยอะ

 

“It’s not whether you get knocked down, it’s whether you get up.” – Vince Lombardi

ไม่ได้สำคัญที่การถูกน็อคล้มลง แต่อยู่ที่การลุกขึ้นสู้

 

A Million things can bring you down, find one reason to bring you up.

ล้านเหตุผลที่จะทำให้คุณเสียใจ หาเหตุผลแค่ข้อเดียวที่ทำให้คุณลุกขึ้นสู้ก็เพียงพอ

 

A Smooth Sea never made A Skilled Sailor.

ทะเลที่สงบไม่มีวันสร้างนักเดินเรือที่เก่งกาจ

 

You have to fight through the bad days to earn the best days of your life.

คุณอาจจะต้องผ่านพ้นวันแย่ ๆ เพื่อได้มาซึ่งวันที่ดีที่สุดในชีวิต

 

Don’t be afraid to fail, be afraid not to try.

อย่ากลัวที่จะล้มเหลว จงกลัวที่จะไม่ได้พยายาม

 

Be somebody that make everyone feel like somebody.

จงเป็นคนที่ทำให้คนอื่นรู้สึกว่าเป็นใครคนหนึ่งในสายตาของคุณ

 

Never be defined by your past, it was just a lesson.

อย่าตัดสินใจตัวเองด้วยความผิดพลาดในอดีต ใช้มันเป็นบทเรียน

 

Never stop dreaming.

อย่าหยุดฝัน

 

Life, sometime you win, sometime you learn.

ชีวิต บางครั้งเธออาจชนะ บางครั้งเธอก็อาจเรียนรู้

 

Stars can’t shine without darkness.

หากไร้ความมืด ย่อมไม่มีที่ให้ดวงดาวได้ฉายแสง

 

Storms don’t last forever.

ไม่มีมรสุมใดที่อยู่ตลอดไป

 

I know it has been tough, but I still cheering for you.

ฉันรู้ว่ามันยากลำบาก แต่ฉันยังเชียร์เธออยู่ตรงนี้นะ

 

It’s just darkness, just before sunrise.

อดทนไว้ ราตรีจะมืดมิดที่สุด ในยามใกล้อุษาสาง

 

I’m so proud of you. I just want to tell you in case no one has.

แค่อยากจะบอกเธอ หากว่ายังไม่มีใครเคยบอก ว่าฉันภูมิใจในตัวเธอ

 

Somethings are worse than coronavirus. Keep fighting.

ในโลกนี้ยังมีสิ่งที่แย่ยิ่งกว่าโคโรน่าไวรัส จงสู้ต่อไป

 

Today’s accomplishments were yesterday’s impossibilities.

ความสำเร็จในวันนี้เคยเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เมื่อวาน

 

You’re so much stronger than you think. Remember that.

จงจำไว้ว่าเธอแกร่งกว่าที่เธอคิด

 

Have fun and regret nothing.

จงใช้ชีวิตให้สนุกและอย่าเสียดายบางคนที่จากไป

 

Life is too short to worry about stupid things.

ชีวิตสั้นเกินกว่าจะนั่งกังวลในเรื่องไร้สาระ

 

Life is like a mirror. It’ll smile at you if you smile at it.

ชีวิตก็เหมือนกระจกเงา มันจะยิ้มให้เธอ เมื่อเธอยิ้มให้มัน

 

Stay patient and trust your journey.

จงอดทนและเชื่อมั่นในการเดินทางของเธอ

 

Doing what you like is freedom, liking what you do is happiness.

ทำในสิ่งที่ชอบคืออิสรภาพ ชอบในสิ่งที่ทำคือความสุข

 

Keep taking time for yourself until you’re you again.

จงให้เวลาเต็มที่ในการเยียวยาตัวเอง จนกว่าเธอจะกลับมาเป็นตัวเธออีกครั้ง

 

May Love be what you remember most.

ขอให้ความรักเป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การจดจำมากที่สุด

 

Sometimes it’s okay if the only thing you did today was breathe.

บางครั้งมันก็โอเคแล้ว ที่สิ่งเดียวที่เธอทำสำเร็จในวันนี้ คือการยังหายใจอยู่

 

Believe you can and you’ll be half way there.

แค่เชื่อว่าทำได้ก็พาเธอไปครึ่งทางแล้ว

 

When you know how to deal with lonesomeness, nothing can harm you.

ถ้าคุณรู้วิธีจัดการกับความโดดเดี่ยว ก็ไม่มีอะไรทำร้ายคุณได้

 

A Cheerful loser is a Winner.

คนแพ้ที่เริงร่าได้ คือ ผู้ชนะ

 

You’re never too old to set new goal.

คุณไม่ได้แก่เกินกว่าจะตั้งเป้าหมายใหม่

 

For what it worth, there is never too late to start it all over again.

เพื่อสิ่งที่มีคุณค่า มันไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเริ่มต้นใหม่

 

Dream doesn’t work unless you do.

ความฝันไม่มีทางเป็นจริง หากไม่ลงมือทำ

 

Every Great Dream begin with a little dreamer.

ฝันที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้นด้วยนักฝันตัวเล็ก ๆ เสมอ

 

Your dream doesn’t have an expiration date.

ความฝันไม่มีวันหมดอายุ

 

You change your life by changing your heart.

คุณเปลี่ยนชีวิตได้ด้วยการเปลี่ยนใจ

 

One of the most difficult tasks in life is removing someone from your heart.

หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดในชีวิต คือ การลบใครบางคนออกจากใจ

 

Stop planting flowers in people’s yards, who aren’t going to water them.

จงหยุดที่จะปลูกต้นไม้ในสวนของคนที่ไม่คิดจะใส่ใจดูแลมัน

 

Motivation is what get you started, habit is what get you keep going.

แรงบันดาลใจคือสิ่งที่ทำให้คุณเริ่มต้นทำความฝัน แต่กิจวัตรความสม่ำเสมอคือแรงผลักดันให้คุณทำมันจนสำเร็จ

 

 

Success is nothing but a few practices doing everyday.

ความสำเร็จไม่ใช่สิ่งใดนอกจากการฝึกซ้อมสิ่งเดิม ๆ อย่างหนักทุกวัน

 

Never wish life were easier, wish you were better.

อย่าคาดหวังว่าชีวิตจะง่ายขึ้น จงคาดหวังว่าตัวคุณเองจะดีขึ้นในทุกวัน

 

No one can go back to restart, but can make a brand-new ending.

ไม่มีใครย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น แต่สามารถสร้างตอนจบแบบใหม่ได้ด้วยตนเอง

 

Do not let what you cannot do interfere with what you can do.

อย่าปล่อยให้สิ่งที่คุณทำไม่ได้มาทำลายความมั่นใจเกี่ยวกับสิ่งที่คุณทำได้ดี

 

Don’t wait someone to tell you your story. Do it yourself.

อย่าปล่อยให้คนอื่นมาเล่าชีวิตให้คุณฟัง จงสร้างมันขึ้นมาเอง

 

True life is lived when tiny changes occurred.

ชีวิตแที่แท้คือการตั้งมั่นและหยัดยืนอยู่ได้เมื่อความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

 

Life is a tragedy when seen in close-up, but a comedy in a long shot.

ชีวิตคือโศกนาฏกรรมเมื่อดูใกล้ ๆ ในระยะสั้น แต่เป็นเรื่องตลกเมื่อเวลาผ่านไปในระยะยาว

 

Life isn’t matter of milestones, but moments.

ชีวิตไม่ได้อยู่ที่เดินทางมาไกลแค่ไหน แต่อยู่ที่ผ่านอะไรมาบ้างในระหว่างทาง

 

The Only Disability in Life is Bad attitude.

ความพิการที่แท้จริงคือการมีทัศนคติที่แย่

 

Life is Simple, but we insisted on making it complicated.

แท้จริงแล้วชีวิตนั้นเรียบง่าย แต่เรากลับพยายามทำให้มันซับซ้อนขึ้นทุกวัน

 

The Only Impossible Journey is the one you never begin.

การเดินทางอย่างเดียวที่เป็นไปไม่ได้ คือ การเดินทางที่คุณไม่เคยได้เริ่มต้นอย่างจริงจัง

 

 

 

[NEW] 17 คำทักทายภาษาอังกฤษ | ความเป็นกันเอง ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

แชร์บทความนี้

หากคำว่า “Hello” หรือ “How are you?” มันเรียบง่ายเกินไป และไม่ได้ฟังดูพิเศษอะไร แต่คุณอยากให้คนฟังรู้สึกประทับใจหรือจำคุณได้ในการพบกันเป็นครั้งที่สอง คุณอาจพิจารณาคำทักทายอื่นๆดูบ้าง คำทักทายภาษาอังกฤษมีมากกว่าแค่ “Hello” กับ “How are you?” แต่มีอะไรบ้างล่ะ และสามารถใช้ในสถานการณ์ไหนได้บ้างนะ?

การทักทายและแสดงอารมณ์ทั่วไป

คุณสามารถทักทายแบบเป็นกันเองนี้กับเพื่อนๆ ครอบครัว และผู้คนที่คุณพบเจอเป็นประจำได้

Hey, Hey man, หรือ Hi

คุณสามารถพูดว่า “hey” และ “hi” เพื่อทักทายใครสักคนแทนคำว่า “hello” ซึ่งทั้งสองคำนี้มักเป็นที่นิยมใช้ในกลุ่มวัยรุ่น ในขณะที่ “hi” เหมาะกับสถาณการณ์ที่เป็นกันเอง ส่วน “hey” จะใช้กับคนที่คุณได้รู้จักหรือพบเจอกันมาก่อน หากคุณพูด “hey” กับคนแปลกหน้า อาจจะทำให้เขาเข้าใจผิดและคิดหนักว่า จริงๆแล้วเขาเคยเจอคุณมาก่อนด้วยหรอ! คุณยังสามารถเพิ่มคำว่า “man” ต่อท้ายคำว่า “hey” เมื่อทักทายเพื่อนเพศชาย คนบางคนอาจจะพูดว่า “hey man” เพื่อทักทายรุ่นน้องผู้หญิงแต่คุณควรใช้ก็ต่อเมื่อคุณรู้จักรุ่นน้องคนนั้นดีแล้วเท่านั้นนะ ควรจำไว้เสมอว่า “hey” ไม่ได้มีความหมายเหมือนกับ “hello” เสมอไป “hey” ในบางครั้งสามารถใช้ในการเรียกร้องความสนใจได้เช่นเดียวกัน

How’s it going? หรือ How are you doing?

ประโยคเหล่านี้คือการถาม “how are you?” อย่างเป็นกันเอง ถ้าคุณอยากให้ฟังสุภาพ คุณสามารถใช้ “how are you?” เช่นเดิมได้ อย่างไรก็ตามคุณสามารถใช้ทั้งสองประโยคดังกล่าวทักทายคนได้เกือบทุกกลุ่มคนเลย คำว่า “going” มักจะถูกย่อให้เหลือเพียงเสียง “go-in” คุณสามารถตอบคำถามดังกล่าวด้วยประโยคว่า “it’s going well” หรือ “I’m doing well” ขึ้นอยู่กับคำถาม ถึงแม้อาจจะไม่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ แต่คนส่วนใหญ่อาจตอบกลับเพียงแค่ “good” เหมือนเวลาตอบกลับคำถาม “how are you?” คุณสามารถถามกลับสั้นๆว่า “and you?” ได้

What’s up?, What’s new?, หรือ What’s going on?

เป็นการทักทายแบบเป็นการเองอีกแบบที่ใช้แทนประโยค “how are you? ได้ ซึ่งมักจะใช้ในการทักทายคนที่คุณเคยพบเจอมาก่อน ส่วนมากคนมักตอบกลับว่า “nothing” หรือ “not much” หรือถ้าอยากจะเริ่มต้นการสนทนาเล็กๆน้อยๆก่อน คุณอาจเกริ่นถึงเรื่องราวที่น่าสนใจที่กำลังเกิดขึ้นในชีวิตคุณขณะนั้น ก่อนที่จะถามว่า “what about you?” เพื่อให้เกิดการสนทนาต่อไป

How’s everything ? How are things? หรือ How’s life?

เป็นการทักทายอีกแบบที่เป็นที่นิยมนอกเหนือจาก “how are you?” สามารถใช้ทักทายเป็นกันเองกับใครก็ได้ แต่มักจะใช้กับคนที่คุณรู้จักแล้ว ในการตอบกลับ สามารถตอบว่า “good” หรือ “not bad” คุณอาจจะเริ่มต้นทักทายด้วยการเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณขณะนั้น และถามคู่สนทนาของคุณว่า “what about you?” หรือคำทักทายอื่นๆ

How’s your day? หรือ How’s your day going?

คำถามนี้มีความหมายเดียวกับ “how are you?” ซึ่งไม่เจาะจงในเรื่องของเวลาขณะที่ถาม แต่เป็นช่วงเวลาที่ผ่านมาทั้งวันของคุณ คุณควรจะใช้คำทักท้ายนี้ในช่วงท้ายของวันกับคนที่คุณพบเจอเป็นประจำ

ตัวอย่างเช่น คุณอาจจะถามเพื่อนร่วมงานของคุณด้วยคำถามดังกล่าวในช่วงบ่ายของวัน หรือพนักงานแคชเชียร์ที่เจอที่ร้านขายของทุกช่วงเย็น

“It’s going well” นั้นเป็นการตอบที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ แต่หลายๆคนมักจะตอบสั้นๆว่า “fine” “good” หรือ “alright” อย่างไรก็ตาม จะสังเกตได้ว่า “good” “fine” หรือ “not bad” นั้นเป็นคำตอบกลับที่ใช้กับทุกการทักทาย

Good to see you หรือ Nice to see you

การทักทายเป็นกันเองแบบนี้มักใช้กับเพื่อนๆ เพื่อนร่วมงาน หรือสมาชิกในครอบครัว ที่คุณไม่เจอพวกเขามาสักพัก เพื่อนที่สนิทมักกอดกันเวลาที่ทักทาย โดยเฉพาะเวลาที่พวกเขาไม่ได้เจอกันมาเป็นช่วงระยะเวลาหนึ่ง คุณอาจจะกล่าวคำทักทายนี้ในขณะที่กอดหรือจับมือ ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของคุณกับคู่สนทนา

Long time no see หรือ It’s been a while

การทักทายแบบนี้ใช้ในเวลาที่คุณไม่ได้เจอคู่สนทนามาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะการเจอกันอย่างไม่คาดคิด นานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับคุณเจอคนๆนั้นบ่อยแค่ไหน ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถทักทายแบบนี้ต่อเมื่อเพื่อนที่เจอกันทุกๆสัปดาห์แต่แล้วอยู่ๆคุณกลับไม่เจอเขาเลยประมาณสองสามเดือนหรือนานกว่านั้น ปกติแล้ว วลีเหล่านี้มักจะตามด้วยคำถาม เช่น “how are you” “how have you been?” หรือ “what’s new?”

การทักทายในเชิงธุรกิจและการทักทายอย่างสุภาพ

การทักทายอย่างสุภาพนั้นถือว่าเป็นการเริ่มต้นการสนทนาที่ดีในสถาณการณ์เชิงธุรกิจ หลังจากนั้นค่อยสังเกตว่าเพื่อนร่วมงานหรือคู่ค้าทางธุรกิจทักทายคุณอย่างไร เป็นความคิดที่ดีที่จะรอให้คนอื่นๆเริ่มพูดอย่างเป็นกันเองกับคุณก่อนที่คุณจะเริ่มพูดอย่างเป็นกันเองในวงสนทนา คุณจะพบว่า เมื่อคุณเริ่มรู้จักพวกเขามากขึ้นสักพัก ผู้คนก็จะเริ่มทักทายเป็นกันเองกับคุณเมื่อเวลาผ่านไป การทักทายอย่างสุภาพควรใช้เมื่อคุณพบกับคนที่มีอายุมากกว่า

Good morning, Good afternoon, หรือ Good evening

วลีเหล่านี้ คือการพูด “hello” อย่างสุภาพในภาษาอังกฤษซึ่งจะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับเวลาของวัน จำไว้เสมอว่า “good night” คือ ราตรีสวัสดิ์ ใช้เมื่อต้องการบอกลา คุณจะใช้คำนี้ในการทักทายตอนกลางคืนไม่ได้ ถ้าคุณเจอใครในช่วงสายๆของวัน จำไว้ว่าควรทักทายพวกเขาด้วย “good evening” ไม่ใช่ “good night” สำหรับ good morning นั้นสามารถพูดให้เป็นกันเองได้ เพียงพูดว่า “morning” คุณยังสามารถใช้ “afternoon” หรือ “evening” เป็นการทักทายอย่างไม่เป็นทางการ แต่ว่าไม่ค่อยเป็นที่นิยมเท่าไรนัก

It’s nice to meet you หรือ Pleased to meet you

ถือว่าเป็นการทักทายที่สุภาพเหมาะสม คุณสามารถใช้คำทักทายนี้กับคนที่เจอกันครั้งแรกจะทำให้คุณดูเป็นคนสุภาพอัธยาศัยดี จำไว้ว่าจะใช้คำทักทายนี้ก็ต่อเมื่อเจอกันครั้งแรกเท่านั้น เมื่อเจอกันครั้งต่อไป เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณจำเขาหรือเธอได้ คุณสามารถพูดว่า “it’s nice to see you again”

How have you been?

การทักทายนี้ใช้เฉพาะกับคนที่คุณเคยเจอมาแล้ว ถ้าใครคนหนึ่งถามคุณว่า “how have you been?” แสดงว่าพวกเขาอยากรู้ว่าคุณเป็นไงบ้างตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่เจอกัน

How do you do?

คำถามนี้ถือว่าเป็นการทักทายที่สุภาพมากๆและถือว่าไม่ใช่ทำทักทายทั่วๆไป มักจะใช้โดยกลุ่มคนที่มีอายุ การตอบกลับที่เหมาะสมคือ “I’m doing well” อาจจะฟังดูแปลกๆ แต่คนบางคนก็ย้อนถามคำถามกลับไปว่า “how do you do?” เป็นการตอบรับการทักทาย

แสลงในการทักทายต่างๆ

แสลงที่ใช้ในการทักทายนั้นถือว่าเป็นการทักทายที่ไม่เป็นทางการมากๆ และควรใช้กับผู้คนที่คุณรู้จักดีจริงๆหรือรู้สึกสนิทสนม จำไว้เสมอว่า คำแสลงส่วนใหญ่นั้น เป็นคำศัพท์เฉพาะถิ่น สมมติว่า คุณใช้คำแสลงของชาวออสเตรเลียกับชาวอเมริกาอาจจะทำให้ชาวอเมริการู้สีกแปลกไม่แน่ใจว่าคุณสื่อถึงอะไรได้ อย่างไรก็ตามคุณควรจะเรียนรู้คำแสลงท้องถิ่นของประเทศที่คุณอยู่ แต่ตัวอย่างที่เรายกมานั้นจะเป็นคำแสลงที่รู้จักกันโดยทั่วไป

Yo!

เป็นการทักทายที่ไม่เป็นทางการ มักใช้ในประเทศอเมริกา มีจุดเริ่มต้นจากกลุ่มฮิบฮอปสมัย 1990 และนำมาใช้กันเล่นๆจนถึงปัจจุบัน การทักทายแบบนี้ควรใช้กับเพื่อนที่สนิทมากๆเท่านั้น ไม่ควรใช้ในทางธุรกิจ

Are you OK? You alright? หรือ Alright mate?

เป็นการทักทายกันเองที่ใช้แทนได้ทั้ง “hello” และ “how are you” เป็นที่นิยมในประเทศอังกฤษ คุณสามารถตอบกลับได้ว่า “yeah, fine” หรือ ง่ายๆ “alright”

Howdy!

เป็นตัวย่อของคำถาม “how do you do?” นั้นเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในแคนาดาบางส่วนและสหรัฐอเมริกา จำไว้เสมอว่า ถ้าคุณพูดว่า “howdy” นอกบริเวณดังกล่าว ผู้คนจะคิดว่าคุณพูดจาเหมือนคาวบอย และรู้สึกตลกก็เป็นได้

Sup? หรือ Whazzup?

การทักทายเหล่านี้ย่อมาจาก “what’s up?” ซึ่งถือว่าเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น เหมือนกับ “what’s up?” คุณสามารถตอบกับผู้ถามว่า “nothing” หรือ “not much” ได้

G’day mate!

เป็นการทักทายอย่างเป็นกันเองของชาวออสเตรเลียซึ่งย่อมาจาก “good day” จำไว้ว่าการทักทายของคนออสเตรเลียมักจะใช้คำว่า “ya” แทนคำว่า “you” ซึ่ง “how are ya?” ซึ่งจะมีความหมายเดียวกับ “how are you?” และ “how are ya going?” ก็จะหมายถึง “how’s it going?” หรือ “how are you doing?”

Hiya!

ย่อมาจาก “how are you?” ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในบางพื้นที่ของประเทศอังกฤษ อย่างไรก็ตาม คุณไม่จำเป็นต้องตอบกลับคำถามนี้ คุณอาจจะพูดเพียง “hey!” กลับไปก็ได้

เราหวังว่าคุณจะสนุกกับการลองใช้คำทักทายต่างๆเหล่านี้กับเพื่อนต่างชาติของคุณ แล้วคุณจะเห็นว่าการทักทายผู้คนด้วยคำทักทายที่หลากหลายจะช่วยให้คุณใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น และอาจจะทำให้การเรียนภาษาอังกฤษสนุกและน่าสนใจมากยิ่งขึ้นสำหรับคุณ

ติดตามเราเพื่อได้รับความรู้มากขึ้น

แชร์บทความนี้


สอนภาษาอังกฤษแบบเป็นกันเอง


สอนภาษาอังกฤษสำหรับผู้ที่สนใจ ทดลองเรียนได้ฟรี ติดต่อที่
http://www.thestructure.co.th
สอนภาษาอังกฤษกว่า 15 ปี มีนักเรียนกว่า 15,000 คน พบกับความสำเร็จที่มากกว่า และสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ในทันที
สอนภาษาอังกฤษที่นี้มีหลักสูตรของตัวเอง ทำให้มีเทคนิคที่จะทำให้คุณเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกเสียง เขียน และ พูด
หากคุณกำลังเป็นคนหนึ่งที่กำลังสนใจหาที่รับสอนภาษาอังกฤษเรายินดีต้อนรับคุณและให้คำปรึกษาคุณอย่างเต็มที่

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

สอนภาษาอังกฤษแบบเป็นกันเอง

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ อารมณ์และความรู้สึก l คำศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน l ศัพท์อังกฤษที่ใช้บ่อย


เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ อารมณ์และความรู้สึก พร้อมภาพประกอบเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น

สนใจเรียนไวยากรณ์และแกรมม่าภาษาอังกฤษพื้นฐานแบบฟรีๆ สามารถกดติดตามเราได้ที่:
Youtube:https://goo.gl/Svd65u
Twitter:http://bit.ly/2Yt2lqH
Blog:https://goo.gl/JthDFX
Facebook:http://bit.ly/2CIaLBa

คำศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย

คำศัพท์ภาษาอังกฤษ อารมณ์และความรู้สึก l คำศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน l ศัพท์อังกฤษที่ใช้บ่อย

ภาษาอังกฤษมาจากไหน


มารู้จักที่มาของภาษาอังกฤษกันว่า ภาษาอังกฤษมาจากไหน

มาพูดคุยกับบอนนี่ หรือรีเควสเรื่องที่อยากรู้ได้นะคะ
Facebook ►https://www.facebook.com/toeicstylebonnie

ภาษาอังกฤษมาจากไหน

เพลงเด็ก | เพลง อารมณ์ | Emotions Song | เรียน ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ | Nursery Rhymes by Little Rabbit


[ LITTLE RABBIT ] พี่วิกกี้ ชวนคุณหนูๆ มาฝึกร้องเพลง สำหรับเด็ก เพลงเด็ก เป็นเพลงสองภาษา (Bilingual Songs) ภาษาไทย และ ภาษาอังกฤษ และ บทเรียนด้วยภาพ การ์ตูน เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงเด็กอายุ 6 ปี เป็นการฝึกร้องเพลง เสริมสร้างจินตนาการ เรียนรู้ภาษาสองภาษา (Bilingual Learning) เรียนภาษาไทย และ เรียนภาษาอังกฤษ และทำให้น้องๆสนุกและเพลิดเพลินไปกับพี่วิกกี้ ด้วยเพลง
Emotions Song | เพลง อารมณ์ 1:34
โกรธเธอแล้วนะ
I’m so angry!
ฉันเสียใจนะ
I’m so sad..
มีความสุขเมื่อไร
I’m happy!
อารมณ์ทั้งหลายเราเรียก Emotions

We hope our videos can make your kids and family happy 🙂
Enjoy! Learn and have fun!
Subscribe Now! : https://goo.gl/uLoS5H
กดติดตาม : https://goo.gl/uLoS5H
Facebook :https://www.facebook.com/LittleRabbit…
================================================

เพลงเด็ก | เพลง อารมณ์ | Emotions Song | เรียน ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ | Nursery Rhymes by Little Rabbit

ภาษาอังกฤษ พูดอังกฤษ แนะนำตัวเองเบื้องต้น: Introducing Yourself in Thai: Learn Thai, Thai lesson,


ก ไก่ Thai Phonetic Alphabet ► shorturl.at/eCGIK
500 Words\u0026Phrases ► shorturl.at/lpNP8
500 วลี ประโยคสั้น ภาษาอังกฤษ ► shorturl.at/kBJTW
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
Please Subscribe ► shorturl.at/lrzMV
More Videos/Languages ► shorturl.at/arvKX
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
♥ ♥ ♥ Thank you! ♥ ♥ ♥
ภาษาอังกฤษ, คําศัพท์อังกฤษ, ไทย อังกฤษ, ศัพท์อังกฤษ, ภาษาอังกฤษ, ภาษา, เรียน ภาษา อังกฤษ, ภาษาไทย, ครูภาษาไทย, เรียน ภาษาอังกฤษเบื้องต้น, English, Thai Learn, Thai lesson, Basic Thai, learning english, english conversation, online english, learn english, listening english practice, conversation, english speaking, listening english, translate english to thai, Thai, Thai language,Thai speaking
พูดอังกฤษเป็นเร็วสำหรับทุกพื้นฐาน: 50 รูปประโยคสำเร็จรูป 150 ตัวอย่าง!
Thai Sentence Starters!
https://www.youtube.com/watch?v=3ssrNqPjJiY\u0026t=985s

ภาษาอังกฤษ พูดอังกฤษ แนะนำตัวเองเบื้องต้น: Introducing Yourself in Thai: Learn Thai, Thai lesson,

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ความเป็นกันเอง ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *