Skip to content
Home » [NEW] 49 ความจริงของคนไทยที่ไปเรียนต่อในอเมริกา | ไป เรียน ภาษา ที่ อเมริกา – NATAVIGUIDES

[NEW] 49 ความจริงของคนไทยที่ไปเรียนต่อในอเมริกา | ไป เรียน ภาษา ที่ อเมริกา – NATAVIGUIDES

ไป เรียน ภาษา ที่ อเมริกา: คุณกำลังดูกระทู้

49 ความจริงของคนไทยที่ไปเรียนต่อในอเมริกา

49 ความจริงของคนไทยที่ไปเรียนต่อในอเมริกา   

 

1. คุณไม่จำเป็นต้องสอบ TOEFL, GRE, GMET ให้ถึงเกณฑ์ก็ได้  ยังมีมหาวิทยาลัยอีกมากให้คุณเรียนภาษาที่นั่นก่อน  แล้วสอบให้ผ่านในระดับที่เขาพอใจ  ซึ่งเป็นการสอบของมหาวิทยาลัยเอง
            ดังนั้นคุณอาจคิดว่าไปแล้วน่าจะสอบไม่ได้หรือเปล่า  แต่ในความจริงแล้ว  เมื่อเราไปอยู่เราก็จะซึมซับมันไปเองตลอด  ภาษาเราจะแกร่งขึ้นเอง  ดีกว่าอยู่เมืองไทย  แล้วเรียนภาษาอังกฤษ  ออกจากห้องไม่มีภาษาอังกฤษเลย ไทยล้วนๆ แล้วมันจะซึมได้ไง
   
            2. การหาที่พักล่วงหน้าใช่ว่าจะดีเสมอไป  เพราะต้องยอมรับว่า  เราไม่เคยไปที่นั่นมาก่อน  ดังนั้นไม่แน่ว่าเมื่อไปถึงที่อยู่แถบนั้น  ถูกกว่า  ดีกว่า  อาจรออยู่ตรึม  ที่เราจองไว้เป็นแบบห่วยๆ ก็ได้
            ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดน่าจะยังไม่ต้องจอง  แต่เข้าไปแล้วหาที่พักชั่วคราวราคาไม่แพง  อย่างเช่น Dorm ของมหาวิทยาลัย  หรือโรงแรมถูกๆ ก่อน  ค่อยหาที่พักจริง
   
            3. อย่าแปลกใจถ้าคุณไปถึงที่นั่นแล้วพบว่ามีแต่คนเอเชีย  อย่าลืมว่าคนเอเชียที่ไปเรียนต่ออเมริกามีจำนวนมาก (เผลอๆ มากกว่า คนอเมริกาที่มหาวิทยาลัยอีก!!)
   
            4. การทำงานแบบลักลอบทำ เช่น ทำร้านอาหารไทย  อาจให้ค่าตอบแทนที่พอจ่ายค่าห้องพัก  แต่ต้องแลกมาด้วยการพบกับปัญหามากมาย  เช่น  ปัญหาจากเจ้าของร้านขี้บ่น  ปากจัด หรือจากลูกค้างี่เง่า
   

5. การทำงานแบบลักลอบทำบางอย่าง  ถ้าคุณรู้จักคนที่เคยทำอยู่ก่อนหน้า  คุณอาจจะได้ค่าเล่าเรียนแถมมาด้วย  เช่น  การทำงานในปั๊มน้ำมันมีทุนการศึกษาให้ด้วย (ค่าเทอม ค่าหนังสือ จ่ายให้หมดเลย)
   
          6. อาหารจีนแบบซื้อกลับบ้าน  จะใส่กล่องกระดาษ  และมีหูหิ้วเป็นลวด
   
            7. อย่าแปลกใจ? คนไปเรียนอเมริกาแล้วอ้วนกลับมา  เพราะอาหารในอเมริกาให้เยอะมาก  ถ้าคุณเป็นคนกินง่าย  กินเก่ง  อ้วนชัวร์!
   
          8. ถึงแม้อาหารของอเมริกาจะทำให้อ้วนได้ง่าย  แต่ก็ผ่านการควบคุมคุณภาพสูง  ดังนั้นจึงปลอดภัย  สะอาด  แม้แต่เรื่องสารพิษในผัก  หรือผลไม้ก็มีมาตรการเข้มงวด
           

10. ถ้าคุณได้มีโอกาสไปนิวยอร์ก  คุณจะได้เห็น Starbuck เยอะ  และถี่เหมือนเห็น Seven11 บ้านเราเลย
   
            11. ถ้าเมืองที่คุณอยู่หิมะตก  คุณอาจเห็นวันที่รถจอดอยู่เต็มถนน  หิมะสูงจนเปิดประตูรถไม่ได้!!!
   
            12. ถ้าเมืองที่คุณอยู่ติดทะเล  คุณอาจจะได้กินกุ้งลอปเสตอร์ตัวโต  ราคาไม่แพงมากเท่าเมืองไทย  แต่น้ำจิ้มเป็นเนยเหลว!!

            13. การตัดผมในอเมริกาคิดค่าตัดแพง  บางคนที่ไปอยู่จึงมักไม่ตัดผม  ปล่อยให้ยาว หรือให้เพื่อนตัดให้  หรือแม้กระทั่งตัดเอง  เบี้ยวๆ ไปบ้าง  ตามแต่ละคน

14. เน็ตไฮสปีดของอเมริกา  เร็วมาก!

            15. ถ้าคุณติด Cable TV แล้วคุณอยากดูช่องได้เยอะๆ คุณสามารถหาซื้อตัว Box ที่ถอดสัญญาณช่องที่กันไว้ได้ตามเวบไซต์
   
          16. ร้านอาหารจีนส่วนใหญ่ในอเมริกา  จะคล้ายๆ โรงจำนำเมืองไทย  คือมีกระจกปิดเข้าไปสั่ง  มีช่องส่งอาหาร  คนซื้อกับคนขายมีกำแพงกั้น (เพื่อความปลอดภัย)

            17. รถมือสองที่อเมริการาคาถูกมาก  ควรหาซื้อตามที่ประกาศในหนังสือพิมพ์ แล้วไปลองขับเองก่อนการตัดสินใจ
   
            18. การสอบใบขับขี่ที่อเมริกา  ถ้าเจอสี่แยกแล้วไม่มี Stop Sign อย่าหยุด  หรือแม้แต่ชะลอ  เพราะจะทำให้คุณสอบตก  เพราะเขาถือว่าไม่มี  ไม่ต้องหยุด  แต่คนไทยขืนไม่หยุดโดนชนได้ง่ายๆ
   
            19. การขับรถที่อเมริกา  เมื่อเป็นป้าย Stop ให้หยุด  แม้ถนนจะโล่งมากก็ตาม

   
            20. เมื่อมีคนเดินสวนแล้วแบมือให้แสดงว่ามันมาขอตังค์  สังเกตแววตา  ถ้าตาแข็งกร้าวก็ระวังตัวหน่อย  เพราะถ้าไม่ให้อาจเกิดอันตรายถึงชีวิต
   
            21. การไปอยู่ต่างถิ่น  ทำให้มีโอกาสพบประสบการณ์แปลกๆ มากมาย  ดังนั้นถ้ามีแฟนอยู่แล้ว  และไม่อยากเลิกกัน  ก็ต้องหมั่นโทรกลับไทยบ่อยๆ ค่าโทรถูกกว่าไทยโทรไปอเมริกา (ยิ่งตอนนี้น่าจะยิ่งโคตรถูก)
   
            22. อย่ากิเลสเยอะ  เช่น  เวลาไปพกโน้ตบุ้คไป 1 เครื่องเนี่ย  รู้ไหม? ทำได้ทุกอย่างเลย โน้ตบุ้คต่อเข้า Port แปลงสัญญาณทีวีเอาไว้ดูทีวีก็ได้  ทำงานก็ได้  เล่นเกมส์ก็ได้  เล่นเน็ตก็ได้ (ยกเว้นจะทำหลายอย่างพร้อมๆ กันก็ต้องซื้อเพิ่ม)

            23. สวรรค์ของคนกินเก่งคือบุฟเฟต์อาหารจีน  ราคาไม่แพงมาก ในแต่ละเมืองมักมี
   
            24. ระวังคนไต้หวันยืมเงิน  เพราะคุณอาจไม่ได้คืน

25. ระวังคนอินเดียตีสนิท  เพราะเขาอาจหวังพึ่งคุณขับรถไป Mall ต่างๆ (เพราะคุณมีรถ)
   
            26. ควรหมั่นเข้าห้องสมุด  เพราะบรรยากาศดี  เงียบ  และมักเปิดจนดึกดื่น (บางที่อาจเปิด 24 ชั่วโมง)
   
            27. การไปเที่ยวเมื่อมีโอกาสเป็นสิ่งสำคัญ  คนเราไม่ได้มีสิทธิ์ไปอยู่ต่างประเทศบ่อยๆ ถ้าได้ไป  ก็อย่าได้เสียดายเงินมาก  ไปเที่ยวบ้าง (เลือกประหยัดได้)
      
            28. ถ้าคุณได้มีโอกาสทำงานแคชเชียร์ปั๊มน้ำมัน  คุณจะได้มีโอกาสฝึกการพูด “Hello”, “Have a nice day”, “Over there” บ่อยๆ -*-
   
            29. ถ้าคุณได้มีโอกาสกวาดหิมะ  คุณจะรู้ว่าการใส่เสื้อหนาวหนาๆ ถือพลั่ว  สวมบู้ต เพื่อออกไปกวาดหิมะเปิดถนนนั้นเหนื่อยมากกกก  แต่เหงื่อไม่ออกซักหยด!
   
            30. ถ้าคุณได้มีโอกาสไปเดินตาม Outlet ต่างๆ ที่มีอยู่ชานเมืองมากมาย  คุณจะได้ของมียี่ห้อ  แต่ตกรุ่น  และขายราคาถูกกว่าปกติ  และมักใหญ่มากๆ
   
            31. ถ้าคุณชอบซื้อของแบบประมูล  หรือของจากบ้าน  เมื่ออยู่อเมริกา  จงใช้ ebay เหมือนเป็นห้างส่วนตัว
   
            32. ถ้าที่ที่คุณเรียนมีโรงยิม  ควรไปใช้บริการบ่อยๆ เพราะจะได้ออกกำลัง  แลกกับอาหารที่ทำให้คุณอ้วนมากมาย
   
            33. ถ้าคุณอยากทานสเต็กส์ทำเอง  คุณไปหาซื้อเนื้อดีๆ มาปิ้งกินด้วยเครื่องปิ้ง ยี่ห้อ George Foreman ได้
   
            34. ถ้าคุณชอบเล่นดนตรี  เมื่อคุณได้ที่พักแล้ว  คุณสามารถออกไปหาซื้อพวกกีตาร์ หรืออะไร  มาไว้ใช้ผ่อนคลายความเครียดต่างแดนได้  พวกมือสองมีวางขาย
   
            35. ถ้าคุณชอบดูหนัง  คุณซื้อตั๋วสำหรับดูเรื่องเดียว  ตั๋วที่อเมริกาไม่มีที่นั่งกำหนด  คุณนั่งตรงไหนก็ได้  ไม่มีคนตรวจข้างในด้วย  ดูจบคุณก็เดินออกแล้วเข้าอีกโรงนึงก็ได้  ไม่มีคนคอยว่า (โกงนั่นเอง)
   
            36. ถ้าคุณชอบเดินร้านหนังสือ  ขอบอกว่าร้านหนังสือที่อเมริกา  อย่าง Barns and Nobel ใหญ่มากๆ
   
            37. การเดินทางไปอเมริกา นั่งเครื่องบินนานมาก

            38. Redbull (กระทิงแดงของไทย) หาซื้อได้ทั่วไปในอเมริกา!!!  แต่ว่าแก้ง่วงได้แรงกว่าของไทยนะ
 
            39. คุณไปนั่งริมทะเลที่อเมริกา  เอาอะไรไปทำบาร์บีคิวได้  แต่ห้ามเอาเหล้าไปกิน ผิดกฎหมาย  โดนจับได้
           
            40. เวลาที่คนอเมริกาเปลี่ยนของใหญ่ๆ เช่น เตียง เก้าอี้โยก โซฟา  เขาจะเอาวางไว้หน้าบ้านเลย  เพื่อรอให้คนมาเก็บ  เราคนไทยก็ขับรถตระเวนเก็บมา (ใช้ต่อ) ฮาๆ

            41. บางครั้ง  ถ้าไม่อยากทิ้งของเก่าๆ คนอเมริกาจะเอามาขาย  เรียก Garage Sales หรือ Flee Market เหมือนเปิดท้ายขายของบ้านเรา
   
            42. ร้านอาหารไทยในอเมริการาคามักแพง  และหารสเผ็ดไม่ค่อยได้

            43. ถ้าคุณมีเพื่อนมาช่วยแชร์ค่าเช่าห้องจะดีมาก (ควรเป็นเพศเดียวกันนะ)
      
            44. ไม่ผิดปรกติ  ถ้าพบว่าคนบางคนที่เช่าห้องอยู่ในอเมริกา  แล้วไม่เคยทำความสะอาดห้องเลยเป็นปี
   
            45. คนอเมริกันโดยมากมักอ้วน

          46. การใช้รถอย่าลืมไปเปลี่ยนน้ำมันเครื่องด้วย  เดี๋ยวเครื่องพัง  แต่น้ำกลั่นไม่ค่อยเติม  เพราะแบตเตอรี่ที่อเมริกาเป็นแบบแห้ง  ไม่ต้องเติมน้ำ

            47. รถคุณต้องเติมน้ำยา Coolant ด้วย  เพราะจะช่วยรักษาอุณหภูมิของเหลว  เนื่องจากอากาศในอเมริกา มีหนาวมาก ร้อนมาก

            48. อเมริกามีบริการขนของเช่ารถ  เช่น  บริษัทยูฮอ  คนนิยมทำอะไรเอง  เพราะค่าแรงแพงมากๆ ค่าครองชีพสูง

            49. ถ้าคุณมีโอกาสได้มาเรียนที่อเมริกา … จงมา! มันคือประสบการณ์ที่ดีของชีวิตแน่นอน

————————————————————–

 

PS.   หากมีรัก..ย่อมมีหวัง

[Update] เรียนต่อปริญญาตรีที่อเมริกา เรียนต่อประเทศสหรัฐอเมริกา | ไป เรียน ภาษา ที่ อเมริกา – NATAVIGUIDES

ประเทศสหรัฐอเมริกาถือเป็นอีกประเทศหนึ่งที่นักเรียนไทยมักนิยมไปเรียนต่อไม่ว่าจะเป็นในระดับปริญญาตรี หรือปริญญาโท ในสมัยก่อนอาจมีนักเรียนไทยจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นนักเรียนทุนส่วนตัว ทุนรัฐบาล หรือทุนบริษัท ที่เลือกเดินทางไปเรียนต่อปริญญาโทและเอกในประเทศสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามในปัจจุบัน ผลจากโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมหรือ J-1 ทำให้นักเรียนไทยเลือกเรียนต่อระดับมัธยมที่อเมริกากันมากขึ้น และเลือกที่จะเรียนต่อปริญญาตรีที่อเมริกาหลังจบการศึกษา อีกทั้งมหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกายังมีจำนวนมาก และมีมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงไม่น้อยเลย ไม่ว่าจะเป็นมหาวิทยาลัยในกลุ่ม IVY League อาทิ Harvard, Browns, UPenn, Princeton หรือ Columbia เป็นต้น หรือแม้แต่ University ของรัฐต่างๆ ที่มีชื่อเสียงอาทิ University of California at Berkeley, University of California at Los Angles (UCLA), University of Texas at Austin, University of Washington, University of Colorado at Boulder อีกทั้งยังมีมหาวิทยาลัยเอกชนที่มีชื่อเสียงอีกมากมาย อาทิ Georgetown University, George Washington University, etc.  ด้วยเหตุนี้ประเทศสหรัฐอเมริกาจึงเป็นประเทศที่นักเรียนไทยให้ความสนใจในการไปเรียนต่อ ไม่ว่าจะเป็นทั้งในระดับปริญญาตรี โทและเอก ในปัจจุบัน

สำหรับทางเลือกของการเรียนต่อปริญญาตรีในประเทศสหรัฐอเมริกาของนักเรียนต่างชาตินั้น มีหลากหลายทางเลือก ไม่ว่าจะเป็น

  • มหาวิทยาลัย 4 ปี (4 Year University/ College) ซึ่งส่วนใหญ่ นักเรียนจะต้องมีคะแนนสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ (TOEFL/ IELTS), คะแนนวัดความรู้มาตรฐาน (SAT/ ACT), คะแนน GPA ที่ดี รวมถึง Recommendation Letters และ Statement of Purpose และที่สำคัญที่การสอบเข้าประเทศสหรัฐอเมริกานั้นแตกต่างจากประเทศอังกฤษคือนักเรียนจะต้องสมัครโดยตรงไปที่มหาวิทยาลัยเอง ไม่มีระบบส่วนกลาง และจะเลือกสมัครกี่มหาวิทยาลัยก็ได้ ซึ่งโดยปรกติแล้วจะแนะนำให้เลือกสมัครไม่เกิน 5 – 6 มหาวิทยาลัย เนื่องจากนักเรียนจะต้องเขียน Essays จำนวน 1 – 3 Essays เพิ่มเติมในแต่ละมหาวิทยาลัยซึ่งมีคำถามที่แตกต่างออกไปอีกด้วย
  • วิทยาลัยชุมชน (Community College) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้นมีการเปิดกว้างและให้โอกาสทางการศึกษากับคนทุกระดับ ดังนั้นการเข้าไปเรียนวิทยาลัยชุมชนนั้นจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่มีงบประมาณในการเรียนที่จำกัด หรืออาจจะไม่ได้มีโอกาสการศึกษาในรูปแบบปรกติทั่วไป สำหรับนักเรียนต่างชาติ Community College ในประเทศสหรัฐอเมริกาก็สามารถเปิดรับได้เช่นเดียวกัน ซึ่งโดยเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายของการเรียนต่อปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยแล้ว ค่าใช้จ่ายจะถูกกว่าประมาณ 50% และที่สำคัญ ไม่ได้มีความยุ่งยากในการสอบเข้าเรียนต่ออีกด้วย แม้ว่าจะต้องมีคะแนนสอบวัดระดับภาษาอังกฤษ (TOEFL/ IELTS) และ GPA ก็ตาม แต่ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักเรียนที่มีคะแนน GPA ไม่สูงมากนักและมีงบประมาณที่จำกัดทั้งนี้การเรียน Community College นั้น นักเรียนต่างชาติมักจะเรียนที่ Community College 2 ปีแรก หลังจากนั้นนักเรียนต่างชาติจะทำการ Transfer เพื่อเข้ามหาวิทยาลัย (University/ College) เพื่อไปสำเร็จการศึกษาที่แต่ละมหาวิทยาลัยนั้นๆ ดังนั้นการเรียน Community College นอกจากจะเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในสองปีแรกแล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียนต่างชาติเข้าเรียนในชั้นปีที่ 3 และ 4 และจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอีกด้วย
  • Undergraduate University Pathway สำหรับนักเรียนต่างชาติบางคน อาจจะไม่ชอบในการเข้าไปเรียนใน Community College หรือการ Transfer แต่อาจจะมีความต้องการที่จะเรียนในมหาวิยาลัยที่ต้องการเข้าเรียนเลย อีกทั้งอาจจะมีคะแนน GPA หรือระดับภาษาอังกฤษที่ยังไม่เพียงพอต่อการสมัครตรงเข้ามหาวิทยาลัย อีกทั้งในบางหลักสูตรและบางมหาวิทยาลัยอาจจะมีการ Waive ไม่ต้องสอบ SAT ดังนั้นการเรียน Undergraduate University Pathway จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ตัวหลักสูตรถูกพัฒนาขึ้นสำหรับการปูพื้นฐานให้กับนักเรียนต่างชาติโดยเฉพาะทั้งนี้สำหรับตัวหลักสูตรนั้นจะมีการเรียนในสาขาวิชาที่นักเรียนได้เลือกไม่ว่าจะเป็น Business, Engineering, Architecture, Science และอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิชาเรียนภาษาอังกฤษที่มุ่งเน้นให้นักเรียนได้มีระดับภาษาอังกฤษที่เพียงพอก่อนจะเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ในขณะที่เรียนหลักสูตร Undergraduate University Pathway นักเรียนก็สามารถที่จะเก็บหน่วยกิตของบางวิชาเพื่อไปใช้ในการจบการศึกษาในมหาวิทยาลัยอีกด้วย  โดยจำนวนระยะเวลาการเรียนนั้นขึ้นอยู่กับระดับภาษาอังกฤษเมื่อตอนเข้าสมัครเรียน

หากน้องๆ ต้องการขอรับข้อมูลเพิ่มเติมในการวางแผนการเรียนต่อปริญญาตรีที่อเมริกา รวมถึงต้องการปรึกษาเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญวางแผนการศึกษาให้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย สามารถติดต่อกับพี่เบสท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท GENT ได้โดยตรงที่เบอร์ 062-656-5996 


School vlog, meet my friends!🍂 | ไปโรงเรียนกัน,แนะนำเพื่อนๆ🇳🇿


instagram : kimswizzled
https://www.instagram.com/kimswizzled/
facebook : kim swizzled
https://www.facebook.com/kim.swizzled
tiktok : kimisboredd
https://vm.tiktok.com/ZMd1cfWCs/
my cover playlist
https://youtube.com/playlist?list=PLMKWOAJm6xfJGQssZPwk_wJlb6X5La3
my vlog playlist
https://youtube.com/playlist?list=PLMKWOAJm6xdkkSvYSuZbLPNdXKrfRKgR

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

School vlog, meet my friends!🍂 | ไปโรงเรียนกัน,แนะนำเพื่อนๆ🇳🇿

เรียนภาษาที่อเมริกา วันแรก ที่ CCSU l FONMAXIM


มาดูวันแรกของเด็กไทยกับมหาลัยที่อเมริกา CCSU เพื่อเรียนภาษาคอร์ส IELP ต้องเจอกับอะไรบ้าง ต่างจากที่ไทยยังไงบ้าง ไปดูกันเล้ย

Music Julius Dreisig \u0026 Zeus X Crona Invisible [NCS Release]

เรียนภาษาที่อเมริกา วันแรก ที่ CCSU l FONMAXIM

EP5 เรียนภาษาที่เมกา 6 เดือนต้องใช้เงินกี่บาท แพงมั้ย | Maayisme


วิดิโอนี้เมแจกแจงรายละเอียดค่าใช้จ่ายที่เมใช้ในการเรียนภาษาทั้งหมดให้ดูกันนะคะ

EP5 เรียนภาษาที่เมกา 6 เดือนต้องใช้เงินกี่บาท แพงมั้ย | Maayisme

ย้ายประเทศ เรียนต่อที่อเมริกาทำยังไง?🇺🇸 ไม่ขอทุนรัฐบาลไทย ไม่ต้องกลับมาใช้ทุน! | mow!


สวัสดีค่าา วันนี้มาแชร์ประสบการณ์การย้ายประเทศไปเรียนต่อป.ตรีที่มหาวิทยาลัยในอเมริกาค่ะ โดยข้อมูลทั้งหมดนี้เรากับเพื่อนต่างชาติที่ยื่นมาเรียนที่มหาลัยเดียวกันช่วยกันรวบรวมกันมา ก็จะเป็นความเห็นและประสบการณ์จากหลายๆคน ที่เรารวมมาเป็นคนพูด ถ้ามีอะไรผิดพลาดขอโทษมา ณ​ ที่นี้ด้วยนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับใครที่สนใจจะไปเรียนเหมือนกันค่า 🇺🇸

⚠️สำหรับใครที่สงสัยว่า ยื่นที่ไหนดี มหาลัยไหนให้ทุนเด็กต่างชาติบ้าง มหาลัยไหนไม่ให้ มหาลัยในเมกามีแบบไหนบ้าง วิธีเลือกมหาลัย พาร์ทสองมาแล้วนะคะ ไปดูกันได้เลยค่า 👉🏻 https://www.youtube.com/watch?v=dGR9XsnZTFE\u0026t=738s

⏰Timestamp:
ระบบการยื่นมหาวิทยาลัยในอเมริกา: 1:19

Timeline การยื่นเข้ามหาวิทยาลัยในอเมริกา + ศัพท์เกี่ยวกับการยื่นเข้าที่ควรรู้ : 3:10
Platformที่ใช้ในการยื่น: 5:04
ของทุกอย่างที่ใช้ในการยื่น: 5:34
👉🏻เกรด: 5:39
👉🏻SAT+ACT: 6:34
👉🏻TOEFL / IELTS: 8:52
👉🏻Extracurricular: 9:36
👉🏻Essays เรียงความ: 10:50
👉🏻Letter of Recommendation: 11:51
👉🏻Portfolio: 12:42
คำแนะนำสำหรับคนที่สนใจขอทุนตรงจากมหาลัยในอเมริกา: 13:27

สิ่งที่เราพูดถึงในคลิป
เว็บไซต์​ Common Application: https://www.commonapp.org/

ย้ายประเทศ เรียนต่อที่อเมริกาทำยังไง?🇺🇸 ไม่ขอทุนรัฐบาลไทย ไม่ต้องกลับมาใช้ทุน! | mow!

ไปเรียนภาษาวันแรกในอเมริกา(LCI Houston)


ไปเรียนภาษาวันแรกในอเมริกา(LCI Houston)

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ไป เรียน ภาษา ที่ อเมริกา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *