Skip to content
Home » [NEW] 48 เพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ | เพลง อยู่ ด้วย กัน จน แก่ – NATAVIGUIDES

[NEW] 48 เพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ | เพลง อยู่ ด้วย กัน จน แก่ – NATAVIGUIDES

เพลง อยู่ ด้วย กัน จน แก่: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Quick Read Snacks

Table of Contents

48 เพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ

  • Writer: Montipa Virojpan

เพลงพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ทุกเพลงพระราชนิพนธ์นี้เป็นฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ที่ทรงประพันธ์ทำนองโดยยืนพื้นจากดนตรีแจ๊ส จากนั้นจึงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระวโรกาสให้พระสหายหรือนักแต่งเพลงคู่บุญหลายท่านได้ร่วมสร้างสรรค์คำร้องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ซึ่งมี เพลงพระราชนิพนธ์  จำนวนหนึ่งที่พระองค์ทรงประพันธ์ทั้งคำร้องและทำนองด้วยพระองค์เอง

1. แสงเทียน หรือ Candle Light Blue

“ทำบุญทำทานกันไว้เถิดเกิดเป็นคน ไว้เตรียมผจญชีวิตใหม่”

เพลงบลูส์พระราชนิพนธ์ เพลงแรกครั้งเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช ที่ได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทย แต่ยังไม่โปรดเกล้า ฯ พระราชทานให้เผยแพร่ในเวลานั้นเพราะจะทรงแก้ไขทำนอง และคอร์ดบางตอน จึงเผยแพร่ได้ในเวลาต่อมา โดยได้รองศาสตราจารย์ สดใส พันธุมโกมล ประพันธ์คำร้องภาษาอังกฤษ

2. ยามเย็น หรือ Love at Sundown

“แต่ก่อนเคยคลอเคลียกัน ทุกวันคืนชื่นอุรา ต้องอยู่เดียวเปลี่ยววิญญาณ์ เหมือนดังนภาไร้ทินกร”

แม้จะเป็น เพลงพระราชนิพนธ์ เพลงที่สอง แต่ก็เป็นเพลงแรกที่แผยแพร่สู่ประชาชน เพลงในจังหวะฟ็อกซ์ทร็อตที่ได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทย และท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา แต่งคำร้องภาษาอังกฤษ แล้วพระราชทานให้ครูเอื้อ สุนทรสนาน บรรเลงในงานของสมาคมปราบวัณโรค ที่ เวทีลีลาศ สวนอัมพร ในปี 2489

3. สายฝน หรือ Falling Rain

“เมื่อลมฝนบนฟ้ามาลิ่ว ต้นไม้พลิ้วลู่กิ่งใบ”

เพลงที่สามนี้ทรงทดลองในจังหวะวอลท์ซ นิพนธ์คำร้องไทยโดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ และยังทรงแต่งเนื้อภาษาอังกฤษร่วมกับท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีรับสั่งถึงความลับของเพลงนี้ว่า “…เมื่อแต่งเป็นเวลา 6 เดือน ม.จ.จักรพันธ์เพ็ญศิริ ได้เขียนจดหมายถึง บอกว่ามีความปลาบปลื้มอย่างหนึ่ง เพราะไปเชียงใหม่ เดินไปตามถนนได้ยินเสียงคนผิวปากเพลงสายฝน ก็เดินตามเสียงไปเข้าไปในตรอกซอยแห่งหนึ่ง ก็เห็นคนกำลังซักผ้าแล้วก็มีความร่าเริงใจ ผิวปากเพลงสายฝนและก็ซักผ้าไปด้วย ก็นับว่าสายฝนนี้มีประสิทธิภาพสูงซักผ้าได้สะอาด…ที่จริงความลับของเพลงมีอย่างหนึ่ง คือเขียนไป 4 ช่วง แล้วก็ช่วงที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 เสร็จแล้วเอาช่วงที่ 3 มาแลกช่วงที่ 2 กลับไป ทำให้เพลงมีลีลาต่างกันไป…เป็น 1 3 2 4…”

4. ใกล้รุ่ง หรือ Near Dawn

“ใกล้ยามเมื่อแสงทองส่อง ฉันคอยมองจ้องฟ้าเรืองรำไร”

เพลงที่สี่ที่ได้ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร มาประพันธ์คำร้องภาษาไทย และท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา ประพันธ์เนื้อร้องภาษาอังกฤษเช่นเคย โดยวงดนตรีสุนทราภรณ์ นำออกบรรเลงครั้งแรกในวิทยุกรมประชาสัมพันธ์ ในปี 2489

5. ชะตาชีวิต หรือ H.M.Blues

“We’ve got the Hungry Men’s Blues. You’ll be hungry too, if you’re in this band.”

เพลงแรกที่ทรงพระราชนิพนธ์หลังเสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติ และเสด็จพระราชดำเนินไปทรงศึกษาต่อที่สวิตเซอร์แลนด์ และได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงพระนิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ

สำหรับเพลงนี้มีคนพยายามจะทายว่า H.M. ในชื่อเพลง แปลว่าอะไร ส่วนใหญ่จะคิดว่าย่อมาจาก His Majesty ‘s Blues ที่แปลว่าเพลงบลูส์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แต่จริง ๆ แล้ว H.M.Blues คือ Hungry Men’s Blues คือเพลงบลูส์ของผู้หิวโหยต่างหาก

ส่วนคำร้องภาษาไทย ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ประพันธ์ต่างจากความหมายดั้งเดิมเพราะต้นฉบับอยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ และคำร้องภาษาฝรั่งเศส น.ส.เปรมิกา สุจริตกุล เป็นการแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาฝรั่งเศสอีกที โดยใช้ชื่อเพลงว่า Pauvre Destin

6. ดวงใจกับความรัก หรือ Never Mind The Hungry Men’s Blues

“เปรียบดวงดาวและดวงเดือน ก็เหมือนแม้แววมโนรมย์ เปล่งแววไปเปลี่ยนใจชม ด้วยจินตนาอารมณ์นานาประการ”

ได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โดยพระราชทานชื่อภาษาอังกฤษเป็นการตอบปริศนาคำทายที่ว่า H.M. แปลว่าอะไร ของเพลง H.M. Blues ส่วนคำร้องภาษาฝรั่งเศส ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาต ให้ น.ส.เปรมิกา สุจริตกุล แปลจากภาษาไทยเป็นภาษาฝรั่งเศส โดยใช้ชื่อเพลงว่า Soleil d’Amour

7. มาร์ชราชวัลลภ หรือ Royal Guards March 

“เราทหารราชวัลลภ รักษาองค์พระมหากษัตริย์สูงส่ง”

พระราชทานให้เป็นเพลงประจำกรมทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษาพระองค์ เพื่อไว้ใช้ในพิธีสวนสนาม โดยมีพันตรี ศรีโพธิ์ ทศนุต แต่งคำร้องภาษาไทย แต่ต้องขอพระราชทานทำนองเพิ่มเติมเพื่อให้เข้ากับคำร้องที่มีห้องเพลงยาวกว่าเดิม ซึ่งก็ได้พระเจนดุริยางค์มาช่วยตรวจทาน

8. อาทิตย์อับแสง หรือ Blue Day และ

“เคยชม ร่วมภิรมย์ใจ ด้วยความรักจริงยิ่งใหญ่ รักพันหัวใจเรามั่น”

9. เทวาพาคู่ฝัน หรือ Dream of Love Dream of You

“In Wonderland of love with you. The rainbow gleams and roses bloom.”

ทรงพระราชนิพนธ์ขณะประทับแรมบนภูเขาในเมืองดาโวส์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ต่อมาได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย

ในงานเลี้ยง ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2492 หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ทรงขับร้อง เพลงพระราชนิพนธ์ Blue Day และ Dream of Love Dream of You หลังพระกระยาหารค่ำ ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะพระราชทานพระธำมรงค์หมั้นในวันนั้น

10. คำหวาน หรือ Sweet Words

“ชื่นอารมณ์สมปอง แว่วเพลงร้องคมคำ พลอดความรักเพ้อพร่ำ ด้วยถ้อยคำงามสม”

เพลงที่ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นในระยะแรกที่เสด็จพระราชดำเนินนิวัติพระนครทีได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ มานิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย เป็นเพลงจังหวะเร็วกว่า เพลงพระราชนิพนธ์ ลำดับก่อน ๆ โดยมีความพิเศษในเวอร์ชันภาษาอังกฤษที่มี verse 20 ห้อง แล้วนำเข้าสู่ท่อน refrain ที่มีเฉพาะในเพลงนี้เท่านั้น

11. มหาจุฬาลงกรณ์

“นิสิตพร้อมหน้า สัญญาประคอง ความดีทุกอย่างต่างปอง ผยองพระเกียรติเกริกไกร”



เพลงประจำสถาบันของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ได้ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา และ สุภร ผลชีวิน เป็นผู้ประพันธ์เนื้อเพลง เป็นเพลงแรกที่ใช้ทำนองแบบ pentatonic scale ต่อมา นายเทวาประสิทธิ์ พาทยโกศล นำทำนองเพลง มหาจุฬาลงกรณ์ ซึ่งมีทำนองเพลงสากลมาปรับปรุงให้มีทำนองไทยเดิมเพื่อใช้สำหรับเป็นเพลงโหมโรงก่อนการบรรเลงดนตรีไทย และบรรเลงถวายด้วยวงปี่พาทย์สองครั้ง นับเป็นเพลงไทยเพลงแรกที่ประดิษฐ์ขึ้นมาจากเพลงไทยสากล ต่อมา เมื่อนายเทวาประสิทธิ์ไปสอนดนตรีไทยให้แก่ชมรมดนตรีของสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จึงได้นำ “เพลงโหมโรงมหาจุฬาลงกรณ์” มาสอนนิสิตชมรมดนตรีไทย และใช้เป็นเพลงโหมโรงในการบรรเลงดนตรีไทยของชมรม ฯ ตลอดมา

12. แก้วตาขวัญใจ

“If you love me as much as I love you, The whole world, dear, will be so fair”

เพลงนี้เป็นเพลงที่พระองค์ทรงนำเสียงหลายระดับในสเกลที่ต่างกันมาจัดวางได้อย่างไพเราะ และยังท้าทายผู้ร้องพอสมควร คือต้องเป็นคนหูไม่เพี้ยนเพราะมีการใช้ครึ่งเสียงอยู่หลายจุดในเพลงและต้องอาศัยความแม่นยำในการจำท่อนคำต่าง ๆ ด้วยโดยเพลงนี้ได้พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ ทรงนิพนธ์เนื้อร้องภาษาไทยและภาษาอังกฤษ

13. พรปีใหม่

“ให้บรรดาปวงท่านสุขสันต์ ทุกวันทุกคืนชื่นชมให้สมฤทัย”

ทรงพระราชนิพนธ์เมื่อเสด็จนิวัตพระนครและประทับ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน มีพระราชประสงค์ที่จะพระราชทานพรปีใหม่แก่พสกนิกรด้วยบทเพลง และได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องเป็นคำอวยพรปีใหม่ แล้วพระราชทานวงดนตรีนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำออกบรรเลง ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวงดนตรีสุนทราภรณ์ นำออกบรรเลง ณ ศาลาเฉลิมไทย ในวันปีใหม่ปี 2495

14. รักคืนเรือน หรือ Love Over Again

“สายลมแปรปรวนไปได้ ใฝ่พัดมาฝ่าพัดไป เปลี่ยนเหมือนใจคนเรา”

 

ประพันธ์คำร้องภาษาไทยและภาษาอังกฤษโดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ พระราชทานให้นำออกบรรเลงในงานของสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร เมื่อปี 2495

15. ยามค่ำ หรือ Twilights 

“When the day is blending with the night, life is so serene, a dusky screen covers the world.”

เพลง standard jazz นี้ยังคงได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า จักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แล้วได้พระราชทานให้นำออกบรรเลงในงานของสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ สโมสรสราญรมย์ ปี 2495 เป็นเพลงที่เปลี่ยนคอร์ดและไล่โน้ตได้อย่างสง่างาม และอบอุ่น

16. ยิ้มสู้ หรือ Smiles

“ตั้งหน้าชื่นเอาไว้ย้อมใจด้วยเพลง ไยนึกกลัวหวาดเกรงยิ้มสู้”

เพลงนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระประสงค์ที่จะให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาไทยเพื่อเป็นการปลอบขวัญและให้กำลังใจคนตาบอด โดยพระราชทานให้บรรเลงในงานสมาคมช่วยคนตาบอดในพระบรมชูปถัมภ์ ปี 2495 ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร ส่วนคำร้องภาษาอังกฤษ พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นำบทกลอนชื่อ Smiles ในหนังสือ Bed Time Stories มาแปล และเรียบเรียงใหม่

17. มาร์ชธงไชยเฉลิมพล หรือ The Colours March

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานแก่กองทัพไทย เพื่อใช้ในการเชิญธงไชยเฉลิมพลในพิธีการของกองทัพ

18. เมื่อโสมส่อง หรือ I Never Dream

“My life was like an endless journey night and day, like travelling through the night without the moon above”

เพลงนี้ได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ และได้บรรเลงในงานรื่นเริงประจำปี ของสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ สโมสรสวนสราญรมย์ เมื่อปี 2497 ต่อมาจึงได้ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา แต่งคำร้องภาษาไทย

19. ลมหนาว หรือ Love in Spring

“อันความรักมักจะพาใจฝัน เมื่อรักนั้นสุขสมจิตปอง”

 

พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ เป็นผู้นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ และได้บรรเลงครั้งแรกในงานประจำปีของสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศ สวนลุมพินี ในปี 2497 ต่อมา ท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยาแต่งคำร้องภาษาไทย

20. ศุกร์สัญลักษณ์ หรือ Friday Night Rag

“Friday night rag rag rag rag getty rag. One, two, three, four-miss a beat, One, two, three, four-play it neat”

ทรงพระราชนิพนธ์ใน 2497 เพื่อเป็นเพลงประจำวงลายคราม วงดนตรีแจ๊สส่วนพระองค์ ที่ทรงตั้งขึ้นหลังจากเสด็จนิวัตประเทศไทย บรรเลงครั้งแรกทางสถานีวิทยุ อ.ส. (อัมพรสถาน) โดยคำร้องทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษประพันธ์โดยหม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช

21. Oh I Say

“Oh let me say, Just to say, What I’ll say”

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ หม่อมราชวงศ์ เสนีย์ ปราโมช ประพันธ์คำร้องภาษาอังกฤษ บรรเลงครั้งแรกในงานของสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ สโมสรสวนสราญรมย์ ในปี 2498

22. Can’t You Ever See

“Life is meaningless. I’d never find my happiness, Without you I would die”

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ เป็นผู้นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ บรรเลงครั้งแรกในงานรื่นเริงประจำปีของสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศ สวนลุมพินี ในปี 2498

23. Lay Kram Goes Dixie

เพลงพระราชทานแก่ วงลายคราม ซึ่งเป็นวงดนตรีแจ๊สส่วนพระองค์ บรรเลงครั้งแรกทางสถานีวิทยุ อ.ส.

24. ค่ำแล้ว หรือ Lullaby

“Evening’s nigh, soon the moon will sail across the sky. Time goes by, tiny stars will glimmer up on high”

เพลงนี้เป็นเพลงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงอิเล็กโทนเพลง Lullaby ขณะที่อ้อมพระกรข้างหนึ่งอุ้มสมเด็จพระเทพ ฯ อยู่ จนสมเด็จพระเทพ ฯ ทรงหลับไป ซึ่งเพลงนี้ก็ได้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษร่วมกับ ท่านผู้หญิงนพคุณ ทองใหญ่ ณ อยุธยา โดยมีท่านผู้หญิงสมโรจน์ สวัสดิกุล ณ อยุธยา ประพันธ์คำร้องภาษาไทย

25. สายลม หรือ I Think Of You

“โอ้ลมหนอลมพัดคืนวัน โบกโบยเพียงไหนกันพัดจนไม่รู้วันสงบเอย”

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย บรรเลงครั้งแรกในงานของสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร ในปี 2500

26. ไกลกังวล หรือ When หรือ เกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย

“อยู่ไกลกังวลชนม์ชื่นฉ่ำ หาดทรายและน้ำนำไกลเศร้า”

 

เพลงนี้ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองขณะประทับอยู่ที่วังไกลกังวล เพื่อพระราชทานให้เป็นเพลงประจำวงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ได้ใช้บรรเลงเป็นเพลงสุดท้ายก่อนเลิกเล่นดนตรี บรรเลงครั้งแรกในงานสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร ในปี 2500 นายวิชัย โกกิลกนิษฐเป็นผู้ประพันธ์คำร้องภาษาไทย ต่อมาจึงให้ Rual Maglapus อดีตสมาชิกวุฒิสภาของฟิลิปปินส์ประพันธ์คำร้องภาษาอังกฤษ จนปี 2514 สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานให้ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค แต่งคำร้องภาษาไทยในเพลงชื่อ เกิดเป็นไทยตายเพื่อไทย เพื่อปลุกจิตสำนึกให้คนไทยรักและหวงแหนแผ่นดินไทยจากสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่น่าไว้วางใจ

27. แสงเดือน หรือ Magic Beams

“ชมแล้วชมเล่า เฝ้าชะแง้แลดู เพลินพิศเพลินอยู่ ไม่รู้ลืมเลือน”

 

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย และได้อัญเชิญไปประกอบการแสดงบัลเล่ต์ในงานสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร เมื่อปี 2501 ต่อมาได้นำออกบรรเลงในงานสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาในพระบรมราชูปถัมภ์ในปีเดียวกัน

28. ฝัน หรือ Somewhere Somehow หรือ เพลินภูพิงค์

“Somewhere within the lonely wide world. There must be a place that’s cozy, my little world.”

พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ และนายศรีศักดิ์ พิจิตรวรการ ประพันธ์คำร้องเพลง ฝัน บรรเลงครั้งแรกในงานสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาและสมาคมนักเรียนเก่าอังกฤษในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร เมื่อปี 2502 จนเมื่อปี 2509 เมื่อสมเด็จ พระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถเริ่มเสด็จแปรพระราชฐานไปประทับ ณ พระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ ทรงประทับพระราชหฤทัยในความงามของภูมิทัศน์ จึงได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานทำนองเพลงนี้ให้ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค แต่งคำร้อง เพลินภูพิงค์ ขึ้น

29. มาร์ชราชนาวิกโยธิน หรือ Royal Marines March

“รบรันฟันฟาดไม่ขลาดหวั่นไหว มีศึกมาใกล้ไม่หวั่นครั่นคร้ามริปู”

พล.ร.ต.สนอง นิสาลักษณ์ ผู้บัญชาการกรมนาวิกโยธินในขณะนั้น ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานเพลงประจำกรมนาวิกโยธิน ซึ่งได้โปรดเกล้า ฯ พระราชทาน ประพันธ์คำร้องโดย พลเรือโทจตุรงค์ พันธุ์คงชื่น และ พลเรือโทสุมิตร ชื่นมนุษย์ และบรรเลงครั้งแรกในปี 2502 โดยวงดนตรีประจำกองเรือที่ 7 ของสหรัฐอเมริกา ในโอกาสที่นาวิกโยธินอเมริกัน ประจำกองเรือที่ 7 ของสหรัฐอเมริกาเดินทางมาเยือนประเทศไทย

30. ภิรมย์รัก หรือ A Love Story

“With your love song, you taught me, dear. How to live, to feel, to see, to hear.”

เพลงนี้เป็นเพลงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงแยกและเรียบเรียงเสียงประสานด้วยพระองค์เอง โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ นิพนธ์คำร้องภาษาอังกฤษ A Love Story และพลเรือตรี ปรีชา ดิษยนันทน์ ประพันธ์คำร้อง ภาษาไทย ภิรมย์รัก โดย A Love Story เป็นส่วนหนึ่งของ เพลงพระราชนิพนธ์ ชุด กินรี หรือ Kinari Suite ที่ทรงพระราชนิพนธ์ใน พ.ศ. ๒๕๐๒ ประกอบการแสดงระบำบัลเล่ต์ชุด มโนห์รา มีวงดนตรีสุนทราภรณ์บรรเลงประกอบการแสดง ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร โดยทรงควบคุมการฝึกซ้อมด้วยพระองค์เอง

เพลงพระราชนิพนธ์ ชุดนี้ประกอบด้วย A Love Story, Nature Waltz, The Hunter และ Kinari Waltz

34. แผ่นดินของเรา หรือ Alexandra

“ถึงอยู่แคว้นใด ไม่สุขสำราญ เหมือนอยู่บ้านเรา ชื่นฉ่ำค่ำเช้าสุขทวี”

ทรงพระราชนิพนธ์โอกาสที่เจ้าหญิงอเล็กซานดราแห่งเคนท์ สหราชอาณาจักรเสด็จเยือนประเทศไทยในปี ๒๕๐๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จไปรับด้วยพระองค์เองที่สนามบินดอนเมือง พระองค์ทรงประพันธ์ทำนองเพลงระหว่างที่รอเครื่องบินลงจอดภายในเวลาไม่กี่นาที จากนั้นก็ทรงส่งโน้ตให้หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ประพันธ์เนื้อร้องให้ทันที และออกบรรเลงครั้งแรก ณ ศาลาผกาภิรมย์ สวนจิตรลดา ต่อมา สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถมีพระราชดำริว่าน่าจะใส่คำร้องภาษาไทยได้ จึงให้ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค ประพันธ์คำร้องภาษาไทย แผ่นดินของเรา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพิจารณาเห็นว่า เพลง Alexandra นี้มีเพียง 16 ห้องเพลง จึงทรงพระราชนิพนธ์เพิ่มเติมจนครบ 32 ห้องเพลง

35. พระมหามงคล

เพลงที่ผสมผสานสามจังหวะดนตรีทั้งฟอกซ์ทร็อต แท็งโก้ และแมมโบ้นี้ ทรงพระราชนิพนธ์ในปี 2502 พระราชทานแก่นายเอื้อ สุนทรสนาน ให้เป็นเพลงประจำวงสุนทราภรณ์เนื่องในวาระครบ 20 ปี นายเอื้อ จึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตตั้งชื่อเพลงว่า พระมหามงคล และได้อัญเชิญมาบรรเลงนำประจำวงสุนทราภรณ์มาจนทุกวันนี้

36. ยูงทอง

“ทรงธรรมปานดังตราชูเด่น ทรงเป็นดวงธรรมนำทางให้”

เพลงประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่แต่เดิมเป็นเพลงทำนองมอญดูดาว ที่ประพันธ์โดยขุนวิจิตรมาตรา จนปี 2504 นักศึกษากลุ่มหนึ่งเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระองค์รับสั่งว่าจะทรงพระราชนิพนธ์เพลงประจำมหาวิทยาลัยพระราชทานให้แก่นักศึกษาธรรมศาสตร์ และทรงบรรเลงทำนองเพลงที่จะพระราชทานให้เป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัย โดยนายจำนงราชกิจประพันธ์เนื้อร้องขึ้นตามที่หม่อมราชวงศ์เสนีย์ ปราโมช ร่างไว้ ซึ่งชื่อ ยูงทอง มาจากหางนกยูงฝรั่งที่พระองค์ทรงปลูกไว้ห้าต้นที่หน้าหอประชุมใหญ่ ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

37. ในดวงใจนิรันดร์ หรือ Still on My Mind

“When night’s curtain starts to fall and light fades away, my thoughts fly back to that day, you were so near.”

เพลงนี้เป็นเพลงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ทำนองและคำร้องภาษาอังกฤษด้วยพระองค์เองเป็นเพลงแรก ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ประพันธ์คำร้องภาษาไทย

38. เตือนใจ หรือ Old-Fashioned Melody

“Now there’s no word that can say, I can’t tell you in anyway. Let me tell you with this Old-fashioned melody.”

ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองและคำร้องภาษาอังกฤษในปี 2508 แล้วจึงให้ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค และหม่อมหลวงประพันธ์ สนิทวงศ์ ประพันธ์คำร้องภาษาไทย

39. ไร้เดือน หรือ ไร้จันทร์ หรือ No Moon

“What do I care’ bout moonlight, I have your smile, love, that’s shining just as bright.”

อีกเพลงที่ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองและคำร้องภาษาอังกฤษ ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายอาจินต์ ปัญจพรรค์ ประพันธ์คำร้องภาษาไทย ไร้จันทร์ ส่วน ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค และหม่อมหลวงประพันธ์ สนิทวงศ์ ประพันธ์คำร้องภาษาไทยชื่อ ไร้เดือน

40. เกาะในฝัน หรือ Dream Island

“Like old time, we’d listen to the sea which is like music leading to ecstasy.”

ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองและคำร้องภาษาอังกฤษ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค และหม่อมหลวงประพันธ์ สนิทวงศ์ ประพันธ์คำร้องภาษาไทย

41. แว่ว หรือ Echo

“Soft lights – Gliding through empty space ‘yond cloudy skies, remind me of your dear face and lovelight in your eyes.”

ทรงพระราชนิพนธ์ทำนองและคำร้องภาษาอังกฤษ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร ประพันธ์คำร้องภาษาไทย บรรเลงเป็นครั้งแรกโดยวงสุนทราภรณ์ในงานสังคีตมงคล ครั้งที่ 1 ณ บริเวณพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ในปี 2509

42. เกษตรศาสตร์

“เขียวนาป่าไพร แผ่นดินถิ่นไทย ไพบูลย์หนักหนา”

เพลงประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยมีศาสตราจารย์ ดร.ประเสริฐ ณ นคร เป็นผู้ประพันธ์คำร้องกล่าวไว้ว่า ท่านใช้เวลาแต่งเพลง ใกล้รุ่ง เพียงชั่วโมงครึ่ง แต่เพลงเกษตรศาสตร์นั้น เวลาผ่านไปเกือบปีหนึ่งยังไม่สามารถขึ้นต้นได้ เพราะเป็น เพลงพระราชนิพนธ์, เป็นเพลงประจำมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเนื้อเพลงมหาจุฬาลงกรณ์ดีเยี่ยม ผู้เขียนกลัวว่าจะไม่สามารถประพันธ์ได้ไพเราะใกล้เคียงกับเพลงดังกล่าว จนมีพระราชดำรัสถามถึง ทำให้ผู้เขียนต้องรีบประพันธ์ขึ้นมาให้ได้ เพลงนี้บรรเลงครั้งแรกในวันทรงดนตรีร่วมกับ KU Band เมื่อปี 2509 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

43. ความฝันอันสูงสุด หรือ The Impossible Dream

“จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง”

ท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค ได้รับพระราชเสาวนีย์จาก สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ ให้เขียนบทกลอนแสดงความนิยมส่งเสริมคนดีให้มีกำลังใจทำงาน เพื่ออุดมคติ เพื่อประเทศชาติ พระราชทานกลอนที่พิมพ์ใส่การ์ดใบเล็กแก่ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พลเรือน เตือนสติมิให้ท้อถอยในการทำความดี และกราบบังคมทูลพระกรุณาขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใส่ทำนองเพลงในคำกลอน ความฝันอันสูงสุด

44. เราสู้

“บรรพบุรุษของไทยแต่โบราณ ปกบ้านป้องเมืองคุ้มเหย้า”

นายสมภพ จันทรประภา ได้ประพันธ์กลอนสุภาพ 4 บท จากพระราชดำรัสที่พระราชทานแก่สมาชิกสภานิติบัญญัติที่เข้าเฝ้า ฯ ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน มาเขียนเป็นคำกลอนถวาย เมื่อทรงเกิดแรงบันดาลพระราชหฤทัยที่จะทรงพระราชนิพนธ์เพลง เราสู้ พระราชทานให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ทหาร อาสาสมัครและตำรวจชายแดน ทรงหยิบซองจดหมายใกล้พระหัตถ์มาตีบรรทัด 5 เส้น เพื่อทรงพระราชนิพนธ์ทำนอง เสร็จแล้วพระราชทานให้ วง อ.ส.วันศุกร์ ซึ่งกำลังบรรเลงอยู่ในงานวันขึ้นปีใหม่ ปี 2517 นำออกบรรเลง ณ พระราชวังบางปะอิน และทรงแก้ไขอีกสองครั้งจนพอพระราชหฤทัย

45. เรา-เหล่าราบ 21 หรือ We-Infantry Regiment 21

“หลั่งเลือดโลมพสุธาปฏิญาณ แม้นภัยพาลรุกถิ่นแผ่นดินไทย”

สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถ มีพระราชเสาวนีย์ให้ร้อยตำรวจโทวัลลภ จันทร์แสงศรี แต่งเนื้อเพลงให้แก่กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ทหารเสือพระราชินี) แล้วนำขึ้นทูลเกล้า ฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงพระราชนิพนธ์ทำนองเพลงพระราชทาน

46. Blues for Uthit

ทรงพระราชนิพนธ์เพลงนี้เพื่อเป็นอนุสรณ์แก่นายอุทิตต์ ทินกร ณ อยุธยา นักดนตรี วง อ.ส.วันศุกร์ ที่ถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2522 และได้พระราชทานให้วงดนตรี อ.ส.วันศุกร์ บรรเลงครั้งแรกทางสถานีวิทยุ อ.ส. ในสี่วันให้หลัง

47. รัก

“รักดาราส่องแสงสุกสว่าง รักน้ำค้างอย่างมณี มีโภคผล รักทั้งหมดทั้งสิ้นที่ได้ยล รักนวลนางรักจนหมดสิ้นใจ”

สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีนาถกราบบังคมทูลพระกรุณาขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ทำนองเพลงสำหรับกลอนสุภาพ 3 บท ที่สมเด็จพระเทพ ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระราชนิพนธ์ไว้เมื่อพระชนมายุ 12 พรรษา และให้วง อ.ส. วันศุกร์ บรรเลงทุกวันศุกร์และวันอาทิตย์ตลอดเดือนธันวาคม 2537 ต่อมาให้นายแมนรัตน์ ศรีกรานนท์ นำไปเรียบเรียงเสียงประสานเพื่อทรงดนตรีร่วมกับวง อ.ส.วันศุกร์ในงานพระราชทานเลี้ยงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ปี 2538 ณ พระที่นั่งบรมพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง และแจกคำร้องเพลง รัก แก่แขกผู้ได้รับเชิญทุกโต๊ะไว้ล่วงหน้า และเชิญแขกชั้นผู้ใหญ่ขึ้นไปร้อง เพลงพระราชนิพนธ์ บนเวที โดยทรงบรรเลงดนตรีนำด้วยพระองค์เอง และออกอากาศทาง จ.ส.100 เมื่อต้นปี 2538

48. เมนูไข่

“เมนูไข่เมนูไข่ อร่อยแท้อยากกิน”

ทรงพระราชนิพนธ์เพื่อพระราชทานเป็นของขวัญวันพระราชสมภพครบ 72 พรรษา สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ ด้วยทรงรำลึกได้ว่า สมเด็จพระเชษฐภคินีโปรดเสวยพระกระยาหารที่ทำจากไข่ และทรงพบโคลงสี่ เมนูไข่ ที่สมเด็จพระเทพรัตน ฯ ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ ต่อมาพระราชทานให้พลเรือตรี หม่อมหลวงอัศนี ปราโมช นำไปเรียบเรียงเสียงประสาน เพื่อให้วง อ.ส.วันศุกร์นำออกบรรเลงและขับร้องในงานพระราชทานเลี้ยงฉลองสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ ฯ ณ ศาลาดุสิตาลัย เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2538

บทความอ้างอิง
https://web.ku.ac.th/king72/2530/
http://www.oknation.net/blog/coma/2011/07/15/entry-2

สามารถรับฟังเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชบนฟังใจได้แล้ววันนี้

[NEW] เจษฎา สุขทิศ ผู้ปั้น FINNOMENA สตาร์ทอัพฟินเทคด้วยหัวใจ จนทำยอดได้เกิน 32,000 ล้านบาท | เพลง อยู่ ด้วย กัน จน แก่ – NATAVIGUIDES

นอกจากต้นไม้และหม้อทอดไร้น้ำมัน ก็คงเป็นการลงทุนนี่แหละ ที่มีคนแห่กันเข้าสู่วงการเยอะเป็นประวัติการณ์ในช่วงโควิด-19 ซึ่งเราเห็นกันได้จากปรากฏการณ์จองหุ้น PTTOR และกระแสที่ใครๆ ก็ซื้อ Cryptocurrency (และใจหายใจคว่ำราวกับนั่งรถไฟเหาะ)

การลงทุนในกองทุนรวม เป็นอีกอย่างที่คนสนใจกันเยอะมาก สถานการณ์นี้ช่วยส่งให้ FINNOMENA แพลตฟอร์มซื้อขายกองทุนกลายเป็นที่พูดถึง และเป็นที่รักของนักลงทุนด้วยความรวดเร็ว

ทีแรกผมคิดว่า FINNOMENA คือสื่อที่ทำเนื้อหาด้านการลงทุน เพราะเขาเล่าเรื่องการลงทุนได้สนุกและมีเสน่ห์ ทั้งผ่านตัวหนังสือ เสียง และวิดีโอ ไลฟ์รายวันก็ทำให้เราเห็นว่า ผู้ชมของพวกเขาแน่นหนาและน่ารักมาก

แต่จริงๆ แล้ว FINNOMENA คือสตาร์ทอัพด้านฟินเทค ทีมงานเกือบทั้งหมดในจำนวนร่วม 200 คน เป็นคนสายเทค ไม่ใช่นักลงทุน

ถ้าไม่เคยรู้จัก ผมขอแนะนำ FINNOMENA ด้วยตัวเลขชุดนี้

ตอนนี้มีคนเปิดบัญชีซื้อกองทุนกับ FINNOMENA กว่า 100,000 คน

ถ้านับเป็นจำนวนเงิน รอบครึ่งปีที่ผ่านมา ยอดเงินลงทุนขยับจาก 14,000 ล้านบาท เป็น 32,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 90 เปอร์เซ็นต์

ช่วงโควิด-19 มีคนหลายสาขาอาชีพศึกษาเรื่องการลงทุนจนช่ำชอง แล้วมาทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการลงทุนให้กับลูกค้าของ FINNOMENA เกือบ 2,000 คน

รายการ Morning Brief รวมทุกข่าวสารเพื่อการลงทุน และให้คำแนะนำเรื่องกองทุน มียอดผู้ชมราว 20,000 คน เกินหน้ารายการวิเคราะห์การลงทุนของสื่อออนไลน์อื่น บางวันก็มากกว่ารายการข่าวช่องดังด้วยซ้ำ

เนื้อหาของ FINNOMENA ในทุกช่องทางเข้าถึงคนแบบออร์แกนิกเดือนละกว่า 60,000,000 Reach

ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนี้คือ เจษฎา สุขทิศ CEO แบงค์-ชยนนท์ รักกาญจนันท์ และ กิ๊ก-กสิณ สุธรรมนัส ผู้ร่วมก่อตั้ง

เจษฎารู้ตัวว่าชอบการลงทุนตั้งแต่ ม.ต้น หลังจากนั้นชีวิตเขาก็ไม่เคยวอกแวกไปทางอื่น

เขาเรียนจบปริญญาตรีจากคณะเศรษฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ แล้วเริ่มทำงานในสายการลงทุนตอนอายุ 20 ปี แล้วเติบโตแบบก้าวกระโดด เขารับตำแหน่งผู้จัดการกองทุนด้วยวัย 23 ปี แล้วก็นั่งเก้าอี้ CIO (Chief Investment Officer) ที่ CIMB-Principal ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของสายอาชีพนี้ตอนอายุ 30 ปี

เจษฎารักการสื่อสารเรื่องการลงทุนมาตั้งแต่วัยหนุ่ม เขาใช้นามปากกา FunTalk เขียนเรื่องการลงทุนผ่านคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ เปิดเว็บไซต์ Fundmanagertalk.com ของตัวเอง พอมีเฟซบุ๊กก็เปิดเพจ ซึ่งช่วงหนึ่งถือเป็นเพจการลงทุนที่มีคนติดตามมากที่สุดในประเทศ

เมื่อ 6 ปีก่อน ตอนอายุ 34 ปี เขาตัดสินใจลาออกมาทำสตาร์ทอัพของตัวเองที่ชื่อ FINNOMENA แปลว่า ปรากฏการณ์ทางการเงิน

วันนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้นจริงๆ

เจษฎา สุขทิศ ผู้ปั้น FINNOMENA สตาร์ทอัพฟินเทคด้วยหัวใจ จนทำยอดได้เกิน 32,000 ล้านบาท

ในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ตัวเลขคนซื้อกองทุนผ่าน FINNOMENA เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ตัวเลขนี้บอกอะไรเราบ้าง

ผมทำเรื่องการลงทุนมายี่สิบปีแล้ว ทำอยู่อย่างเดียว เมื่อก่อนคนลงทุนน้อยมาก คนไทยที่มีรายได้มีอยู่สามสิบสามล้านคน ซื้อสลากกินแบ่งฯ ประมาณสิบห้าล้านคน หรือครึ่งหนึ่ง ก่อนโควิดมีพอร์ตลงทุนในหุ้นที่ยังแอคทีฟไม่ถึงล้านคน ซื้อกองทุนรวมล้านกว่าคน คิดเป็นห้าเปอร์เซ็นต์ของผู้มีรายได้ แต่ถ้าอเมริกาคือตัวเลขจะสูงถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ส่วนมาเลเซียประมาณยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์

พอเกิดโควิดก็มีการเปลี่ยนผ่านสู่ New Normal สู่ Post-pandemic World ซึ่งเกิดขึ้นในโลกของการลงทุนด้วย Wealth Management กลายเป็นส้มหล่น คนอยู่บ้านเยอะ คนรู้สึกไม่มั่นคง ถ้าโลกเลวร้ายขนาดนี้ ฉันต้องหารายได้เพิ่ม แหล่งรายได้ที่สองก็สำคัญขึ้นมา คนเลยสนใจลงทุนจริงจัง

สุดท้าย แรงกระตุ้นที่อยู่ในยีนของมนุษย์หลักๆ มีสองอย่าง คือความรัก กับ เงิน สถิติอาชญากรรมทั่วโลกอันดับสองคือเรื่องชู้สาว สิ่งที่ทำให้คนฆ่ากันตายมากที่สุดในโลกคือเงิน เงินจึงเป็นสิ่งกระตุ้นที่รุนแรงที่สุดในใจมนุษย์อยู่แล้ว คนอยากรวยก็เสพเนื้อหาเกี่ยวกับการลงทุนเยอะขึ้นมากๆ ผมจัดไลฟ์เมื่อหกปีก่อน คนดูหลักร้อย เดี๋ยวนี้สองหมื่น ด้วยการเข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมของโควิด การ Disrupt ต่างๆ และแรงกระตุ้นจากข้างในของคน ทำให้ช่วงนี้คนสนใจลงทุนเยอะมาก

นักลงทุนหน้าใหม่กลุ่มไหนที่คุณสนใจเป็นพิเศษ

เข้ามากันทุกช่วงอายุเลย คนอายุเยอะๆ ก็เพราะกิจการถูกกระทบ เอาเงินมาลงทุนดีกว่า ช่วงสองสามปีที่ผ่านมาราคาหุ้นบริษัทเทคโนโลยีเติบโตมหาศาล ลงทุนแล้วก็ประสบความสำเร็จ พอสำเร็จก็บอกต่อ เลยไหลกันเข้า

กลุ่มที่น่าสนใจคือ น้องๆ รุ่นใหม่ Cryptocurrency ใช้เวลาสั้นมาก ปีสองปีมีนักลงทุนล้านกว่าคนแล้ว เท่ากับที่กองทุนใช้เวลายี่สิบปี เด็กปีสามปีสี่เดี๋ยวนี้มี Crypto Wallet กันหมดแล้ว นี่เป็นอีกกระแส แต่ก็มีกฎหมายน่ารักๆ เกี่ยวกับการลงทุนที่ผมไม่ค่อยเข้าใจ เขาบอกว่าจะซื้อกองทุนรวมได้ต้องอายุยี่สิบปีขึ้นไป เด็กเรียนเรื่องการเงินตั้งแต่มัธยม สุดท้ายก็ต้องเก็บเงินในบัญชีเงินฝาก ดอกเบี้ยศูนย์จุดกว่าๆ เปอร์เซ็นต์ ไปเรื่อยๆ จริงๆ ม.3 ม.4 ควรลงทุนพอร์ตง่ายๆ ได้แล้ว เก็บเงินค่าขนมร้อยบาท ก็ควรลงทุนได้

พอกระแส Cryptocurrency มา ก็ส่งผลบวกไปหาตัวอื่น ทำให้คนอยากลงทุนมากขึ้น ต้นปีที่ผ่านมา PTTOR เปิดให้จองหุ้น เกิดกระแสแบบที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในประเทศไทย คือมีจำนวนคนจอง ถ้าผมจำไม่ผิดแปดแสนคน แทบจะเท่าบัญชีหุ้นทั้งประเทศ หลายคนที่จองก็ไม่มีบัญชีหุ้น จองๆ ไปก่อน แล้วค่อยเปิดบัญชีหุ้น พอมีกองทุนอะไรใหม่ๆ คนก็สนใจตามๆ กัน ผมทำกองทุนก็ได้รับกระแสนี้ด้วย น้องๆ หลายคนลงคริปโตฯ แล้วรู้สึกว่ามันเสี่ยงเกินไป ถ้าจะหมดข้ามคืนก็หมดเลย พอกดดูเจอ FINNOMENA มีเนื้อหาลงทุนด้วย ยากดีเว้ย ศึกษากันเถอะ ก็เกิดเป็นกระแสแบบนี้ครับ

ตำแหน่งสุดท้ายของคุณก่อนลาออกมาทำ FINNOMENA คือ CIO ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของสายอาชีพนี้ และเป็นความฝันของคุณมาตลอด อะไรทำให้ยอมทิ้งมาทำสตาร์ทอัพ

ผมเคยคิดว่าจะเกษียณด้วยการเป็น Fund Manager จริงๆ นะ เพราะมันโอเคแล้ว มั่นคง ผมก็ทำมาสิบห้าปี จนเมื่อหกปีก่อน ผมเห็นความเปลี่ยนแปลง สาขาของธนาคารเริ่มปิดตัวลง อีกอย่างคนต่างประเทศถึงกับมาดูงานที่เมืองไทย ว่าทำไมผลิตภัณฑ์การลงทุนถึงขายผ่านสาขาธนาคาร แทนที่จะขายผ่านบริษัทแบบที่ปรึกษาการลงทุน ผมเห็น Mega Trend ที่กำลังเปลี่ยน ผมเชื่อว่าเทรนด์ของการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์การลงทุนจะเปลี่ยนจากสาขาธนาคารไปสู่บริษัทที่ปรึกษา แล้วก็เริ่มเป็นแบบนั้นจริงๆ ช่วงโควิดภาพรวมของอุตสาหกรรมบริหารเงินลงทุนติดลบนะ แต่ธุรกิจของ FINNOMENA โตประมาณหนึ่งเท่าตัว แสดงว่าสิ่งที่เราเชื่อมันเป็นแบบนั้นจริงๆ

คุณชอบอะไรในอาชีพผู้จัดการกองทุน

ข้อดีอย่างหนึ่งคือ เราต้องกำหนดมุมมองต่อธุรกิจตลอดเวลาว่า ธุรกิจไหนจะเป็นขาขึ้น หุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีเกือบพันบริษัท ถ้าผมอยากรู้ว่า ธุรกิจธนาคารเป็นยังไงก็นัด คุณกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ คุยในฐานะนักลงทุนสถาบันได้ อยากรู้ว่าธุรกิจค้าปลีกเป็นยังไง ผมก็นัด คุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ คุย ผมทำได้เพราะผมซื้อหุ้นบริษัทเขาทีละมากๆ เป็นหลักร้อยล้าน พันล้าน เวลาผมอยากเจอเขา เขาก็อยากให้เจอ ผมเลยได้คุยกับคนเก่งๆ ระดับประเทศ ได้ฟังความคิดเขา

ผู้บริหารในดวงใจของผมท่านหนึ่งคือ คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ เจ้าของปั๊ม PT โอ้โห ฟังทีไรขนลุกทุกที เราก็มีมุมมองว่า Mega Trend คืออะไร เราจะทำ FINNOMENA ด้วยความเชื่อในเทรนด์อะไร ในโอกาสนั้น อะไรคือจุดแข็งของเราที่คนอื่นไม่มี เราจะไปทำสิ่งนั้น ถ้าถามว่า ทำไมถึงกล้า ก็เพราะมั่นใจจากความรู้ จากมุมมองที่เราเชื่อว่าเป็นโมเดลธุรกิจที่แข็งแรง

เจษฎา สุขทิศ ผู้ปั้น FINNOMENA สตาร์ทอัพฟินเทคด้วยหัวใจ จนทำยอดได้เกิน 32,000 ล้านบาท

ขออนุมัติภรรยาลาออกยากไหม

ตอนนั้นอายุสามสิบสี่ ก็คุยกับแฟน ยากนะ ต้นทุนค่าเสียโอกาสมันเยอะไง กว่าจะพาตัวเองขึ้นมาถึงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ด้านการลงทุน เงินเดือนเยอะกว่าตอนนี้อีก มีห้องทำงานมองออกไปเห็นตึกสวยๆ มีคนขับรถ มีเลขาฯ ในขณะที่บ้านก็ต้องผ่อน ลูกอ่อนๆ สามคน ถ้าออกมาคือต้องใช้เงินเก็บตัวเอง โชคดีที่ผมซื้อกองทุนตั้งแต่ยังเด็ก เงินเก็บก็โตหลายเท่าตัวเหมือนกัน ตอนออกมาก็คิดว่าอยู่ได้สักสองสามปี ไม่ถึงกับทำให้ครอบครัวลำบาก ไปคุยกับผู้ใหญ่ในวงการธนาคาร เขาว่าถ้าอยากกลับมาเอางานดีๆ ของโลกมนุษย์เงินเดือน สักสองปียังกลับมาได้ เขายังไม่ลืมเธอหรอก แต่ถ้าเลยสองปีไม่ต้องกลับมาแล้ว ไม่มีคนรู้จักแล้ว

แฟนเห็นหน้าผมแบบอยากมาก เขารู้นิสัยผมไง เวลาผมเจอฉันทะ อิคิไก แพสชัน จะเรียกอะไรก็แล้วแต่ มันจะเป็นแบบนี้ทุกทีเลย จนช่วงหลังผมสงบลงเยอะ เพราะพาร์ตเนอร์ผมเขาสอนผมทำสมาธิ ผมเป็นคริสต์ แต่ไปบวชมาแล้วนะ ไปอยู่วัด หลวงพ่อปราโมทย์ (ปราโมทย์ ปาโมชฺโช) วิธีคิดก็เปลี่ยนไป เริ่มแก่แล้วด้วยมั้ง ตอนนั้นตื่นเต้นมากๆ แฟนก็เลยให้ทำ

จำวันสุดท้ายที่ทำงานได้ไหม

แรงกระตุ้นอย่างหนึ่งของผมคือหนังสือเรื่อง Dare to do ของ คุณกรณ์ จาติกวณิช เรื่องการเมืองผมไม่ได้อยู่ฝั่งไหนนะ ช่วงทวิตเตอร์มาปีแรก ผมก็ทวีตคุยกับคุณกรณ์ คุณสุทธิชัย หยุ่น ตลอด เราก็ปลื้มนะ รัฐมนตรีคลังมาตอบเราได้ไง ในหนังสือของคุณกรณ์เล่าเรื่องกบห้าตัวที่ตัดสินใจกระโดดลงน้ำเพื่อหาชีวิตแบบใหม่ พอตัดสินใจแล้ว สุดท้ายบนขอนไม้ก็ยังมีกบห้าตัวเหมือนเดิม เพราะไม่ลงมือทำสักที ผมอ่านแล้วก็ เฮ้ย ไม่ได้แล้ว อ่านประวัติของ เมย์ After You (กุลพัชร์ กนกวัฒนาวรรณ) บอย ท่าพระจันทร์ หมูทอดเจ๊จง ก็ยิ่งฮึกเหิม เอาวะ กูต้องลงมือทำแล้ว กระโดดแม่งเลย

ผมทำงานวันสุดท้าย 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2015 วันนั้นคุณกรณ์จัดงานเปิดตัวหนังสือที่โรงแรมดุสิตฯ พอดี พอผมเก็บของใส่กล่อง ถอดหัวโขนแล้ว ผมก็ไปงาน เจอคุณกรณ์ตัวเป็นๆ ครั้งแรก ผมแนะนำตัวว่า ผม FundTalk ที่ทวีตคุยกัน ผมอ่าน Dare to do แล้วลาออกเลย เขาถามว่า ก่อนหน้านี้ทำอะไร ผมบอกว่า เป็น CIO อยู่ที่ CIMB Principal เขาถามว่า แล้วลาออกมาทำไมเนี่ย ก็ผมอ่านหนังสือพี่ กบมันต้องกระโดดลงน้ำไม่ใช่เหรอ คุณกรณ์บอก ชิบหายแล้ว ถ้าไปแล้วไม่รุ่งไม่เกี่ยวกับพี่นะ (หัวเราะ) ผมคิดในใจว่า อ้าว กูลาออกมาแล้วนะเว้ย (หัวเราะ)

สรุปคือ แรงกระตุ้นที่ทำให้ผมทำ FINNOMENA คือ หนังสือเล่มหนึ่ง บวกมุมมอง และความเป็นมนุษย์ที่ขับเคลื่อนด้วยแพสชัน ก็จับพลัดจับผลูมาครับ

พอถอดหัวโขน ทิ้งเงินเดือนเยอะๆ แล้ว ชีวิตเป็นยังไงบ้าง

ผู้จัดการกองทุนดูเป็นอาชีพที่หรูหรา แต่ผมเชื่อว่า มันคือหัวโขนทั้งนั้น มนุษย์เราก็มีสองแขน สองขาเหมือนกันหมด ก่อนลาออก ผมดูแลเงินแสนล้าน ซึ่งไม่ใช่เงินผม เป็นเงินนักลงทุน เอาเงินคนโน้นคนนี้มารวมกัน เลยเป็นกองทุนรวม แล้วผมก็บริหาร พอดูแลเงินเยอะๆ ธนาคารต่างประเทศอย่างโกลด์แมนแซคส์ (Goldman Sachs) หรือเมอร์ริล ลินช์ (Merrill Lynch) ก็เข้ามาหาเรา ตอนผมเป็น CIO ผมเคยกินอาหารอย่างดี บิลออกมาทั้งโต๊ะมื้อละแสน ซึ่งผมไม่ได้จ่ายนะ

ตอนมาทำ FINNOMENA ใหม่ๆ ออฟฟิศอยู่ตรงข้ามสีลมคอมเพล็กซ์ จำได้เลยว่าเวลานั้นต้องประหยัด เงินเดือนตัวเองหมื่นห้า เราต้องเขียมไว้ ปกติเรากินข้าวแกงมื้อละสี่สิบบาท หรูสุดก็ฮะจิบังชามละร้อย มีวันหนึ่ง ตอนเย็นก่อนจัดไลฟ์ ผมข้ามถนนมากับพี่แบงค์ คู่หูของผม เหนื่อยจังเลยว่ะ หาอะไรดีๆ กินหน่อยไหม เรายืนดูโปรโมชันหน้าร้านหมูเกาหลี 359 บาท แล้วก็คุยกันนานมากว่าแพงไปไหมวะ เป็นภาพที่ผมจำได้แม่นเลย

ทำไมคุณถึงทำแต่กองทุน

ผมเปรียบแบบนี้ ถ้าเป็นคริปโตฯ คือน้ำเดือด หุ้นเป็นน้ำร้อน กองทุนเป็นน้ำอุ่น ฝากแบงค์เป็นน้ำเย็น ผมเคยอยู่มาหลายอุณหภูมิแล้ว ผมเลือกที่จะอยู่น้ำอุ่น ไม่อยากไปเล่นกับความโลภของคนมากเกินไป มันน่าเบื่อ ถ้าอยู่น้ำร้อน วิธีทำคอนเทนต์จะเป็นอีกแบบเลย ซื้อหุ้นตัวนี้เดี๋ยวจะขึ้น เดี๋ยวจะรวย ได้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ในสามเดือน มันมีวิธีพูดแบบนี้ ส่วนใหญ่วัยรุ่นชอบน้ำเดือดๆ แต่ก็ต้องมีที่สำหรับน้ำอุ่นแบบที่อยู่แล้วพอดีๆ

ตอนผมอายุยี่สิบกับสี่สิบก็มีวิธีคิดที่เปลี่ยนไปเยอะ ผมเลือกน้ำอุ่น ลงเงินไปแล้ว อยากตื่นเช้ามาไม่ต้องทนฟังคนด่าเยอะๆ (หัวเราะ) หวังผลตอบแทนปีละแปดเปอร์เซ็นต์ สิบเปอร์เซ็นต์ สิบปีเงินขึ้นเท่าตัว ไม่ใช่เดือนหนึ่งเงินขึ้นเท่าตัว มันคนละเกมกัน อย่าลืมว่าทำธุรกิจแบบนี้ต้องรับผิดชอบเงินของคนเยอะมากๆ แล้วยิ่งเขาเชื่อเรา มันอาจจะเป็นเงินเก็บทั้งหมดของเขา ผมเลือกที่จะไม่ให้ผลตอบแทนเยอะเกินไป ไม่เสี่ยงเกินไป กองทุนเป็นแบบนั้น กองทุนมีขนาดห้าหกล้านล้านบาท ถือว่าใหญ่ประมาณหนึ่งในสามของฐานเงินฝากของประเทศเลยนะ ใหญ่มาก

เจษฎา สุขทิศ ผู้ปั้น FINNOMENA สตาร์ทอัพฟินเทคด้วยหัวใจ จนทำยอดได้เกิน 32,000 ล้านบาท

อดีตนายกสมาคมฟินเทคประเทศไทยรุ่นแรกอย่างคุณ วางแผนการทำฟินเทคของตัวเองแบบไหน

ผมได้เจอผู้ประกอบการเยอะ ทั้งรุ่นผม รุ่นใหม่ หลายคนมีฝันแต่ไม่เคลียร์ คิดว่าเราจะทำอะไรก็ได้ แต่ชีวิตจริงไม่ได้สวยหรูแบบนั้น หลายคนมีไอดอลเป็น มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) เป็น สตีฟ จอบส์ (Steve Jobs) เป็น เจฟฟ์ เบโซส์ (Jeff Bezos) เลยมีแนวคิดแบบ Change The World เยอะมาก แต่ตอนนี้ซาลงแล้วนะ แนวคิดแบบนี้ถ้าจะทำให้สำเร็จต้องมีเส้นทางเดินที่ชัดเจน แล้วมีสิ่งที่เรียกว่า Unfair Advantage จริงๆ

ถ้าเป็นศัพท์ของ ไมเคิล พอร์เตอร์ (Michael Porter) โปรเฟสเซอร์ฮาร์วาร์ดที่รัฐบาลไทยเคยจ้างมาพูดชั่วโมงละล้าน เขาใช้คำว่า Durable Comparative Advantage ไม่ใช่ว่าทำอะไรก็ได้บนโลกใบนี้ ถ้ามีโอกาสสูงที่เราทำได้ดีกว่าคนอื่นค่อยทำ นี่เป็นสิ่งที่ต้องเติมเข้าไปในจิตวิญญาณของผู้ประกอบการรุ่นใหม่เลยครับ

อะไรทำให้บริษัทที่ไม่มีใครรู้จัก ขายสินค้าที่น่าเชื่อถืออย่างกองทุนแข่งกับธนาคารได้

พฤติกรรมการรับคุณค่า (Value) ของคนเปลี่ยนไป เมื่อก่อนเวลาคนจะใช้บริการ Wealth Managemnet เขาคาดหวังสิทธิพิเศษ ได้สมาชิกฟิตเนสฟรี ได้ส่วนลด แต่ตอนนี้เริ่มเห็นคุณค่าของสิ่งที่ผมขอเรียกว่า Value Creation Content มากขึ้น

ในช่วงโควิดนี้ผมพยายามปรับ Work-life Balance ของชีวิต สิ่งหนึ่งที่ผมทำคือ อยากมีเวลาเล่นกับลูกสามคน ผมเลยหัดเล่นเกม ปกติผมไม่เล่นเลยนะ พอเล่นแล้วก็ติด ก็ดูสตรีมเกม เมื่อก่อนผมคิดว่าเป็นเรื่องไร้สาระมาก ใครจะมานั่งดูเกมเมอร์สตรีมเกมวะ แต่พอผมเล่นเกมสแลมดังก์ต้องฝึกทำท่าโน้นท่านี้ มันต้องไปดูเกมเมอร์เก่งๆ ทำ พอดูไปเยอะๆ ผมก็เริ่มเติมตังค์ในเกม แบบไม่ไหวแล้ว ผมต้องเก่งกว่านี้จะได้ชนะลูกได้ การเติมตังค์เนี่ยเติมผ่านแอปฯ อะไรก็ได้ แต่ผมเลือกซื้อคูปองผ่าน Boysick Channel เพราะผมดูเขาไปสิบกว่าชั่วโมง จนเป็นแฟนคลับเขา ผมได้ Value Creation Content จาก Boysick ผมมีทางเลือกระหว่างจ่ายเงินเติมเกมให้ Google กับลำบากหน่อยไปซื้อโค้ดโอนเงินผ่านแอปฯ ธนาคาร แต่ผมยอมลำบากเพื่ออุดหนุน Boysick

FINNOMENA ทำแบบนั้น เราทำเนื้อหาด้วยวิธีคิดที่ต่าง ทำเนื้อหาที่ให้คุณค่ากับคน หวังว่าคุณค่าที่ให้ไปคนจะรู้สึกซาบซึ้ง ถ้าเขารู้ว่า FINNOMENA ทำอะไรที่เกี่ยวข้อง เขาจะมาอุดหนุนเราเอง

เจษฎา สุขทิศ ผู้ปั้น FINNOMENA สตาร์ทอัพฟินเทคด้วยหัวใจ จนทำยอดได้เกิน 32,000 ล้านบาท

อะไรทำให้ยอดชมรายการ Morning Brief ของคุณแซงหน้าทุกสื่อธุรกิจ บางวันแซงรายการข่าวดังๆ ด้วยซ้ำ

ต้องให้เครดิตพี่แบงค์ เป็นคนที่บ้าการทำเนื้อหามากๆ ผมว่าเหตุผลหนึ่งคือ ค่ายอื่นเขาอาจจะมีธนาคารหรือบริษัทหลักทรัพย์เป็นสปอนเซอร์ให้ทุกเดือน ก็มีเนื้อหาของธนาคารนั้นมาเต็มเลย ไปเชิญคนของธนาคารนั้นมาขายของ แต่ FINNOMENA ไม่ได้คิดกับเนื้อหาแบบนั้น เราคิดว่าจะทำเนื้อหายังไงให้คนชอบที่สุด เวลาไลฟ์ผมก็จะขำๆ ให้ลูกเตรียมมุกให้บ้าง เนื้อหาการเงินก็ฟังยากอยู่แล้ว ทำยังไงให้สนุก พอคนให้ค่ากับเนื้อหา ผสมกับ Mega Trend และช่องทางการจัดจำหน่ายที่เปลี่ยนไป บวกกับโมเดลการทำธุรกิจของเรา ก็เป็นโอกาสให้ FINNOMENA เติบโตขึ้นมาได้

อะไรทำให้คนเชื่อใจ FINNOMENA จนคนเอาเงินมาลงทุนด้วยสามหมื่นกว่าล้านบาท

หนึ่ง เราเป็นมิตรกับทุก บลจ. เพราะเราช่วยเอากองทุนเขามาขาย พอเรามีขนาดใหญ่ประมาณหนึ่งเขาก็แฮปปี้กับเรา แล้วเราก็ไม่ได้เป็น บลจ. หรือคู่แข่งเขาด้วย

สอง เราเป็นกลาง ตอนผมอยู่ บลจ. ที่มีบริษัทแม่เป็นแบงก์ ก็มีทำสื่อบ้าง เวลาเขียนก็ต้องเชียร์แบงก์ตัวเอง จะบอกว่ากองทุนของคู่แข่งดีก็ไม่ได้ แต่พออยู่ FINNOMENA ผมแนะนำได้ทุกที่

อีกเรื่อง เป็นเรื่องง่ายๆ ที่มีความหมายจริงๆ นะ ตอนอยู่ในโลกเก่าของผม ผมแนะนำให้คนขายออกไม่ค่อยได้ ถ้าคนขายกองทุนออกกันหมด เดี๋ยวกองทุนปิด พอเราเป็นกลาง หลักในการแนะนำการลงทุนของเรามีข้อเดียวคือ เลือกสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุน ไม่ต้องสนใจเป้า กล้าแนะนำให้ขาย ไม่กลัวกองทุนมีปัญหา นักลงทุนที่อยู่กับเรานานๆ จะรู้ว่า ที่นี่มันตั้งใจเลือกจริงเว้ย พอบอกให้ขาย มันก็เอาจริงเว้ย

ตอนประกาศให้นักลงทุนเทขาย ผู้จัดการกองทุนเขาไม่โทรมาด่าคุณเหรอ

เวลา FINNOMENA เข้าไปลงทุนในกองทุน ถ้ากองแม่เขามีหมื่นล้าน ผมจะเข้าไม่เกินสามพันล้าน เวลาแนะนำให้ขาย ผมให้ขายหมดนะ ขายจนซีอีโอ บลจ. โทรมาบอกว่าใจเย็นๆ นะ ผมก็บอกว่า พี่ ผมเช็กแล้ว ผมขายไม่กระทบพี่นะ ตอนนี้ลูกค้าผมกำไรเยอะแล้ว ขอเอาเงินออกก่อน เดี๋ยวผมกลับเข้ามาใหม่นะพี่ เขาก็โอเค พี่พวกนี้เจ้านายเก่าผมทั้งนั้นเลย

เวลาเจอคนที่อยากลงทุนแต่ไม่อยากหาข้อมูล ให้บอกมาเลยว่าให้ซื้ออะไร คุณจะตอบเขายังไง

การลงทุนเป็นความสัมพันธ์ของ ความรู้ กับ ผลตอบแทน ยิ่งคุณรู้ลึก รู้จริงมากเท่าไหร่ ก็จะให้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น เวลาคนถามว่าซื้ออะไรดี ผมก็บอกได้นะ แต่สุดท้ายคุณก็จะเฟล ถ้ายังลงทุนโดยการฟังว่าซื้ออะไรดี ผมอยากให้คุณลงทุนด้วยการเข้าไปรู้จริงๆ ว่ามันคืออะไร ผมลงทุนก็ไม่ใช่ว่า ไม่ขาดทุนนะ ขาดทุนเป็นปกติ แต่ผมรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่

กลไกในการประคับประคองต่อเงินลงทุนของเราจะเปลี่ยนแปลงไป เมื่อระดับความรู้ของเราเพิ่มขึ้น ผมถึงเคี่ยวเข็ญคนที่มาดูไลฟ์แบบเข้มมาก ใครดูวันจันทร์กับพฤหัสนี่มึนตึ้บแน่นอน เพราะมันยากมาก ผมยังบอกทีมงานเลยว่ายากไปไหมวะ เอาขนาดนี้เลยเหรอ พอถามคนดูว่ายากไปไหม คนก็พิมพ์มาว่า เดี๋ยวไปดูซ้ำ ขอสไลด์ด้วย จนกลายเป็นนักเรียนกันหมด มุมหนึ่งก็ภูมิใจนะ มนุษย์เราก็อยากมีประโยชน์ ใจเราจะฟูๆ เวลาทำสไลด์ยากๆ แล้วคนบ่น อยากให้อธิบายใหม่ ผมจะรู้สึกว่าเรามีประโยชน์

ชายหนุ่มผู้ทิ้งความมั่นคงไปทำสิ่งที่เขาเชื่อว่าจะเปลี่ยนโลกการลงทุน จนเกิด FINNOMENA แพลตฟอร์มการลงทุนที่มีคนใช้บริการกว่าแสนคน

เวลา FINNOMENA ส่งสัญญาณ Tactical Call ให้เข้าลงทุนในกองไหนสักกองเพื่อเก็งกำไร มีเงินเข้ามาสักเท่าไหร่

ประมาณพันล้านบาท

แค่เด้งข้อความกับเขียนบทความสั้นๆ ก็มีเงินเข้ามาพันล้านบาทภายในไม่กี่ชั่วโมง แสดงว่ามุมมองของ FINNOMENA มีอิทธิพลต่อนักลงทุนมากเลยนะ

ตอนตั้ง FINNOMENA ใหม่ๆ ผมคุยกับพี่แบงค์ ผมขอเล่าประวัติพี่แบงค์หน่อยนะ เราอยู่ในวงการเดียวกันมาสิบห้าปี เขาอายุมากกว่าผมหกเดือน แต่ผมเรียกเขาว่าพี่ด้วยความเคารพ เมื่อก่อนเขาใช้ชื่อ Mr.Messenger อยู่ในห้องสินธรที่ Pantip ผมเป็นแฟนคลับเขา ผมชอบเขียนมาตั้งแต่ยังไม่มีบล็อก ไม่มีเฟซบุ๊ก ผมเขียนลงหนังสือพิมพ์ ผู้จัดการ กรุงเทพธุรกิจ พี่แบงค์เขียน Pantip ผมสร้างเฟซบุ๊กเพจให้พี่แบงค์ เพราะเฮียแกโลว์เทคเหลือเกิน ผมบอกว่าสร้างเพจชื่อ Sinthorn ให้แล้ว ลองหัดใช้ แล้วเอาไปทำต่อ ทำทวิตเตอร์ให้เขาด้วยนะ แป๊บเดียวเอง ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊กของเขามีคนตามมากว่าผมประมาณห้าเท่า เขาเกิดมาเพื่อเป็นนักเขียน เมื่อกี้เราคุยถึงไหนนะ

Tactical Call

ผมเคยคุยกับพี่แบงค์เมื่อหกปีที่แล้วว่า ถ้าเรากำหนดมุมมองไปเรื่อยๆ ตั้งใจทำให้ดี แล้ววันหนึ่งไลฟ์เราคนสนใจทั้งวงการ คนแห่ลงทุนตามที่เราแนะนำ มันคงฟินพิลึกนะ ตอนนี้มันชักจะเริ่มมีผลแล้วนะ ผมได้ยินว่า พวก RM (Relationship Manager) ตามธนาคารที่มีกันเป็นร้อยๆ พันๆ คน เขาดู Morning Brief กันหมด ตามดูไลฟ์ของเราตลอด หน่วยวิเคราะห์ของธนาคารก็ดู

คุณพูดอยู่เสมอว่า รายได้ของ FINNOMENA ไม่ได้เก็บจากผู้ลงทุน แต่ได้เปอร์เซ็นต์จาก บลจ.

ใช่ครับ เป็นรายได้ทั้งหมดเลย เพระว่าผมไม่ได้ชาร์ตจากลูกค้า

ถามจริงๆ เนื้อหาที่คุณแนะนำกองทุนต่างๆ ทั้งบทความและในรายการ ไม่มี Advertorial ที่ บลจ. มาจ่ายเงินจ้างให้เชียร์เลยหรือ

ก่อนหน้านี้ไม่มีเลย เป็นศูนย์ครับ แต่หลังๆ เราลองทำแบบนี้ พฤติกรรมการเสพข้อมูลของคน เขาไม่ได้อยากฟัง FINNOMENA อย่างเดียว เขาอยากฟัง Branded Content ด้วย แล้วก็เริ่มมี บลจ. ติดต่อมาว่าอยากแนะนำกองทุนนี้ พร้อมจะจ่ายเงินให้ ก่อนหน้านี้ผมไม่รับเลย แต่ตอนหลังผมรับ แต่ต้องลงเนื้อหาในนามแบรนด์นะ เช่น ผู้เขียนคือ บลจ. A ไม่ใช่ FINNOMENA ผมเป็นสื่อให้ เป็นผู้ดำเนินรายการให้ คุณเอาผู้เชี่ยวชาญมาพูดในนาม บลจ. ซึ่งผมจะไม่เชียร์ ถ้ามีคนถามว่า กองที่เขียนถึงในเว็บ คุณชอบหรือเปล่า ผมก็จะพูดตรงๆ ว่า ผมไม่ได้ชอบหรือชอบ นี่คือข้อตกลงกับทุก บลจ. ผมขอมีอิสระในการคอมเมนต์

ชายหนุ่มผู้ทิ้งความมั่นคงไปทำสิ่งที่เขาเชื่อว่าจะเปลี่ยนโลกการลงทุน จนเกิด FINNOMENA แพลตฟอร์มการลงทุนที่มีคนใช้บริการกว่าแสนคน

ตอนนี้คุณทำงานในบทบาทไหนเยอะสุด ผู้บริหาร ผู้จัดการกองทุน หรือสื่อมวลชน

น่าจะเป็นเหมือนที่ปรึกษา เป็นโค้ชให้ทีมงานครับ ตอนนี้ขยายทีมกว่าสองร้อยคนแล้ว ตอนเป็นพนักงานประจำ ผมต้องบริหารคนสักสามสิบคน เป็นสายเดียวกันคือ ผู้จัดการกองทุน นักวิเคราะห์การลงทุน แต่ปัจจุบันค่อนข้างท้าทายกว่า หลักคิดของผมคือ ให้ความสำคัญกับทีมงานอันดับหนึ่ง ลูกค้าอันดับสอง แล้วค่อยผู้ถือหุ้นอันดับสาม ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงเป็นผู้ถือหุ้นอันดับหนึ่ง เพราะผู้ถือหุ้นปลดเราได้

ตอนนี้ทีมงานอันดับหนึ่ง เพราะถ้าทีมทำงานด้วยความรัก จะทุ่มเทร้อยเปอร์เซ็นต์ สุดท้ายคุณค่าก็จะไปถึงลูกค้าหรือนักลงทุน พอลูกค้าแฮปปี้ ก็ซื้อเราเยอะ บริษัทก็รายได้ดี กำไรดี ผู้ถือหุ้นก็แฮปปี้ เป็นทอดๆ เราทำงานกับคนหลายกลุ่ม ต้องจัดลำดับให้ดีๆ

แต่ส่วนตัวลึกๆ ผมก็ยังชอบทำงานแบบนักวิเคราะห์มากกว่า ผมเขียนบทความหรือจัดพอร์ตการลงทุนให้ลูกค้าได้ทั้งวัน สนุกกว่าเยอะ แต่โดยบทบาทตอนนี้ต้องทำงานบริหารเป็นโค้ช เป็นที่ปรึกษา คงต้องเป็นแบบนี้อีกพักใหญ่

ดูแลลูกทีมที่เป็นคนสายเทคยากไหม

คนรุ่นใหม่ซึ่งเก่งกว่าเรามากๆ เขาต้องการความเป็นเจ้าของ ต้องการเป้าหมาย แต่ไม่ต้องการให้บอกว่าทำยังไง วิธีการเขาจะไปโซโล่เอง คนรุ่นใหม่ไม่ชอบกลไกการ Approve ผมไม่มีการ Approve แต่ตกลงกันว่า แต่ละส่วน แต่ละทีม แต่ละโปรเจกต์ กติกาคืออะไร เป้าหมายคืออะไร กรอบที่เขาไปได้สุดแค่นี้นะ ถ้ายังอยู่ใน Sandbox นี้ลุยไปเลย แต่ถ้าเลยจุดนี้ไป ต้องมาคุยกัน มันจะไม่ได้อย่างที่เราถูกใจทั้งหมด แต่ถ้าจัดการดีๆ มันจะอะเมซิ่งมาก หลายอย่างที่เกิดที่ FINNOMENA วันนี้ ไม่ได้มาจากไอเดียผม บางอย่างผมก็ไม่เห็นด้วย แต่ถ้าเราเลือกทางนี้แล้ว ก็ต้องปล่อยให้เป็นไป แรกๆ ก็ทุกข์หน่อย ดูไม่ได้ดั่งใจเลย สักพักก็ดีเหมือนกันนะ

คุณเคยให้สัมภาษณ์ว่าดูข้อมูลบริษัทต่างๆ ดูราคาหุ้นได้ทั้งวันทั้งคืน มันสนุกตรงไหน

ผมชอบอ่านข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทว่า เจ็ดร้อยบริษัทตอนนี้เขาทำอะไรอยู่ ขยายธุรกิจยังไง เหมือนคนโรคจิตนิดๆ คือ เวลาดูบริษัทประกาศงบการเงิน เหมือนลุ้นหวย ผมมีในใจว่าบริษัทนี้ต้องกำไรดีแน่ๆ เพราะกำลังทำสิ่งนี้อยู่ มั่นใจว่าต้องดีกว่าที่ตลาดคาด พอออกมาดีกว่าจริงๆ ฟินว่ะ อะไรแบบนี้

ทำไมคุณถึงชอบเล่าเรื่องการลงทุน

มันเป็นการเติมเต็มตัวเอง เขียนแล้วรู้สึกมีประโยชน์ รู้สึกได้รับการยอมรับตามทฤษฎี Maslow ผมอินกับอาชีพผู้จัดการกองทุนมาก FundTalk มาจาก Fund Manager Talk ผมมีเว็บไซต์ fundmanagertalk.com วันนี้ก็ยังอยู่นะ เป็นเว็บไซต์ยุคแรกๆ เลย ช่วงหนึ่งเฟซบุ๊กเพจของผมมียอดคนตามและ Engagement สูงที่สุดในหมวดการเงินการลงทุน แต่พอมีคนทำเยอะๆ ก็แซงผมไปกันหมดแล้ว (หัวเราะ) 

ยุคหนึ่ง Fund Manager เป็นอาชีพที่หลายคนใฝ่ฝันอยากเป็น พื้นฐานมาจากตรงนั้น Fund Manager ก็เลยมา Talk ผมว่าตัวเองมีทักษะเล่าเรื่องยากๆ ให้เข้าใจง่าย เขียนเรื่องยากๆ ให้อ่านรู้เรื่อง พอทำแล้วก็ได้โปรโมตอาชีพตัวเอง ได้เติมเต็ม ง่ายๆ ก็คือ อยากให้คนรู้จัก แต่พอมองย้อนกลับไป การเขียนของผมมีผลต่ออาชีพ ต่ออะไรหลายๆ อย่างของเรา พาเราไปเจอคนเยอะมากๆ

ชายหนุ่มผู้ทิ้งความมั่นคงไปทำสิ่งที่เขาเชื่อว่าจะเปลี่ยนโลกการลงทุน จนเกิด FINNOMENA แพลตฟอร์มการลงทุนที่มีคนใช้บริการกว่าแสนคน
ชายหนุ่มผู้ทิ้งความมั่นคงไปทำสิ่งที่เขาเชื่อว่าจะเปลี่ยนโลกการลงทุน จนเกิด FINNOMENA แพลตฟอร์มการลงทุนที่มีคนใช้บริการกว่าแสนคน

คุณเติบโตในเส้นทางสายอาชีพเร็วมาก เคยได้รางวัลนักเศรษฐศาสตร์ดาวรุ่งจากธรรมศาสตร์ แล้วก็ขึ้นถึงตำแหน่งสูงสุดของสายผู้จัดการกองทุนตอนอายุ 30 นิดๆ อะไรทำให้คุณโตเร็วขนาดนี้

ผมชอบงาน Fund Manager มาก พอชอบเราก็เปลี่ยนความชอบเป็นความเชี่ยวชาญ เพราะเราทำไปได้เรื่อยๆ ผมอ่านข้อมูลการลงทุนเหมือนอ่านนิยาย ผมอยู่กับมันได้ทั้งวัน แล้วแรงเราก็เยอะเลยทำงานที่ถีบตัวเองได้ไว ผมเริ่มทำงานตอนอายุยี่สิบ ทำงานถึงสี่ทุ่มทุกวัน แล้วก็เรียนปริญญาโทไปด้วย สอบ CFA (Chartered Financial Analyst) ไปด้วย หนึ่งเลเวลต้องอ่านหนังสือแปดเล่ม ผมทำทุกอย่างพร้อมกัน ถ้าถามว่าอะไรทำให้โตเร็ว ก็เพราะผมมีเป้าหมายที่ชัดมาก นั่นคือความโชคดีอันดับหนึ่ง แล้วก็น่าจะเป็นคนที่กิเลสหนามาก อยากได้ อยากมี อยากเป็น ทะเยอทะยานสูง ก็เลยทำทุกอย่างเหมือนกินเอ็มร้อยห้าสิบตลอดเวลา ผมไม่ใช่คนเรียนเก่งนะ จบปริญญาตรีเกรด 2.9 พอเป้าหมายชัด มีแรงฮึด อึดดี ก็เลยพุ่งๆๆ ชนเป้าหมายอย่างเดียว

การไปถึงเป้าหมายเร็ว มีข้อเสียไหม

นั่นคือจุดที่ผมเสียใจ ผมทำงานมาครบยี่สิบปีพอดี พอมองย้อนกลับไป ผมคงย้อนกลับไปเรียน ม.ปลาย สักสามปี ไม่ต้องรีบไขว่คว้าอะไรเร็วขนาดนี้ ตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมาผมแลกอะไรไปเยอะเหมือนกัน ไม่มีอะไรที่เราได้มาฟรีๆ ตอนยี่สิบลุยแหลก จนถึงวันนี้ผมยังไม่เคยหยุดเลยนะ ถ้าผมลาออกจากงานทีนึงวันศุกร์ ผมเริ่มที่ใหม่วันจันทร์เลย ไม่เคยหยุด ไม่เคยปิดเทอม

ถ้าโทรหาตัวเองสมัยเรียนมหาวิทยาลัยได้นาทีนึงอยากบอกอะไร

กินเหล้าให้น้อยๆ หน่อย เดี๋ยวแก่แล้วไม่มีแรง ตอนเด็กๆ ผมเที่ยวหนักมาก ออกไปเที่ยวสองทุ่ม กลับถึงหอที่ธรรมศาสตร์รังสิตตีห้า หลับในห้องเรียนทุกวัน แล้วก็อยากจะบอกตัวเองตอนทำงานใหม่ๆ ว่า การที่เรามีแรงขับแบบนั้น ทำงานหักโหมแบบนั้น มันต้องแลกด้วยอะไรหลายๆ ในชีวิตนะ ช่วงที่ผมถีบตัวเองจัดๆ เพื่อนที่คบกันมาสมัยเด็กๆ ผมไม่คุยเลยนะ เหมือนเราไปเจออะไรบางอย่างที่อยากทำ เราก็สลัดทุกอย่างออกหมด ไม่มีเวลาให้ใครเลย เราอินของเราอยู่คนเดียว เพื่อนๆ เรียกผมว่า เจ็ทเดี๋ยวโทรกลับ ซึ่งผมก็ไม่เคยโทรกลับเลยด้วย ใครชวนไปไหนก็เดี๋ยวโทรกลับ แล้วหายไปเลย เพื่อนๆ ก็ค่อยๆ เลิกคบไปเยอะเหมือนกัน

มาถึงวันนี้ก็เสียดายนะ เรียน ม.ปลาย ก็เรียนแค่สองปีจบ มันไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้ อายุยี่สิบก็เริ่มทำงานแล้ว รีบจังเลย ปกติเขาเป็น Fund Manager กันตอนอายุสามสิบ ผมยี่สิบสามก็เป็นแล้ว การได้เป็นเร็วมันตอบสนองความทะเยอทะยานของตัวเอง แต่บางครั้งการได้เป็น ได้มี ในสิ่งที่อยาก ก็ไม่ได้สนุกขนาดนั้น


วันจันทร์ STS 73 [ เนื้อเพลง ] วันที่13เดือน2 ที่เฮาสองคนได้เจอกัน


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

วันจันทร์ STS 73 [ เนื้อเพลง ] วันที่13เดือน2 ที่เฮาสองคนได้เจอกัน

PETCHARA – ไอ้โบ้ Ft.PTRP , ZEEMON


Title : PETCHARA ไอ้โบ้ ft.PTRP , ZEEMON
Lyrics : ZEEMON , PTRP
Mix\u0026Mastering : ZEEMON
Prod by : Prod.Matthew May
Video Directed : ZEEMON
Edited Video : ZEEMON
💖💖💖
ช่องทางการติดต่อ
FB : Petchara Intarachat
IG : petchara_1047
FB : Phattharaphon Sueabunmi
IG : ptrp_.s
FB : Mon Niti
IG : zeemonnn

PETCHARA - ไอ้โบ้ Ft.PTRP , ZEEMON

Liltan – ในวันที่ฝนพรำ [Official MV]


Title : ในวันที่ฝนพรำ
Artist : Lil tan
Beat : Prod. Emon74
Mixed \u0026 Mastered : By Lil tan
Beat Cover : https://drive.google.com/file/d/1jJfmrofpnQInqV07h_SYR6XUen8YZT73/view?usp=drivesdk
ช่องทางการติดต่อ
instagram : Tan_tvn
https://www.instagram.com/lil_tvn/
Facebook : ลิล ตาล
https://www.facebook.com/Liltan.TH
ในวันที่ฝนพรำ ในวันที่ฝนพรำเธอคิดถึงกันบ้างไหม

Liltan - ในวันที่ฝนพรำ [Official MV]

รักกันไปจนแก่ – iNice [OFFICIAL GUIDE]


เพลงที่ 1 : รักกันไปจนแก่
คำร้อง/ทำนอง : iNice
เรียบเรียง : iNice
ร้องไกด์ : iNice
IG : inice.cw
TikTok : inice.cw
Facebook : iNice
lyrics
อยากให้เรารักกันนานๆไปจนแก่
ฉันเป็นพ่อและเธอเป็นแม่ มีลูกกัน
อยากให้เราสองคนมีกันอยู่อย่างนั้น
อยากมีเธออยู่กับฉันตลอดไป
เธอกับฉันเราสองคนเจอกันได้ยังไง
บังเอิญใช่ไหมหรือโชคชะตานำพามาพบกัน
วันเวลาผ่านพ้นเรื่องราวทั้งร้ายดี แต่ใจเรานี้ยังรักกัน
อยากให้รักแบบนี้ไปทุกคืนวัน และอยู่ด้วยกันจากนี้
อยากให้เรารักกันนานๆไปจนแก่
ฉันเป็นพ่อและเธอเป็นแม่ มีลูกกัน
อยากให้เราสองคนมีกันอยู่อย่างนั้น
อยากมีเธออยู่กับฉันตลอดไป
วันเวลาผ่านพ้นเรื่องราวทั้งร้ายดี แต่ใจเรานี้ยังรักกัน
อยากให้รักแบบนี้ไปทุกคืนวัน และอยู่ด้วยกันจากนี้
อยากให้เรารักกันนานๆไปจนแก่
ฉันเป็นพ่อและเธอเป็นแม่ มีลูกกัน
อยากให้เราสองคนมีกันอยู่อย่างนั้น
อยากมีเธออยู่กับฉันตลอดไป

อยากให้เรารักกันนานๆไปจนแก่
ฉันกับเธอได้เป็นพ่อแม่เลี้ยงลูกกัน
อยากให้เราสองคนมีกันอยู่อย่างนั้น
อยากมีเธออยู่กับฉันตลอดไป
อยากมีเธออยู่กับฉันไม่ไปไหน
อยากมีเธออยู่กับฉันไม่ห่างไกล
อยากมีเธออยู่กับฉันตลอดไป
เพลงใหม่
แต่งเพลง
ขายคำร้องทำนอง
iNice

รักกันไปจนแก่ - iNice [OFFICIAL GUIDE]

ตราบธุรีดิน – PMC ปู่จ๋าน ลองไมค์ + เนื้อเพลง คอร์ดกีต้าร์


เนื้อเพลง: ตราบธุรีดิน
ศิลปิน: PMC (ปู่จ๋าน ลองไมค์)
อัลบั้ม: Single
คอร์ดกีต้าร์เพลง : http://www.chordzaa.com/chord/song_chord/1417521554.gif?v=09
มีให้แค่เท่านี้ มีเพียงแค่เท่านี้
ไม่มีมากมายดังใครเขามี
มีให้เพียงนิดน้อย แต่ให้ไปเกินร้อย
ไม่มีเงินตรา มงกุฏชฎาแม่เนื้อกลอย
ไม่มีรถเก๋ง แอร์เย็นอย่างใครเขา
มีไมตี้เอ็กซ์ท่อดังและคันเก่า
พี่ไร้หน้าตาในสังคมไฮโซ
และจะเจอพี่ได้ ก็แค่วงไฮโล
อยู่กับฉันได้ไหม ให้แก่เฒ่าเป็นตายาย
ในบั้นปลายสุดท้ายของดวงชีวัน
อยู่เคียงคู่กันแบบนี้ ให้ร่วงโรยเป็นธุลี
กลับสู่ธรณี ฝังร่างนี้ไปพร้อมกัน
ฝังร่างไปพร้อมกัน ฝังร่างไปพร้อมกัน
มีเธออยู่กับฉัน สู้งานในทุกวัน
ถึงไร้ยศถาศักดินาใด ถึงชนชั้นล่างแค่ประชาไท
คนเรารักกันอยู่ที่ใจ เงินทองหาได้มันก็สูญไป
เราจะรักกันจนแก่เฒ่า ไม่ใช่รักกันไว้แค่เด้า
บางคู่รักกันไว้แค่เอา บางคนรักกันหวังอั่งเปา
บางทีรักกันเพราะว่ารอสวย บางคู่รักกันเพราะว่าตี๋หมวย
ผู้หญิงบางคนรักผัวรวย กระเทยรักผู้ชายเพราะหัว…
ขอบคุณเธอที่รัก ถึงแม้ไม่มีอะไร
ถึงมีแต่ตัวกับหัวใจ จะอยู่ไปจนวันตาย
อยู่กับฉันได้ไหม ให้แก่เฒ่าเป็นตายาย
ในบั้นปลายสุดท้ายของดวงชีวัน
อยู่เคียงคู่กันแบบนี้ ให้ร่วงโรยเป็นธุลี
กลับสู่ธรณี ฝังร่างนี้ไปพร้อมกัน
ฝังร่างไปพร้อมกัน ฝังร่างไปพร้อมกัน
มีเธออยู่กับฉัน สู้งานในทุกวัน
[Rap]
เริ่มจากเราสอง มันเริ่มจากคนสองคน
มีกามเทพสองตน ละแผลงศรอยู่สองคม
ชะตาฟ้าลิขิตหรือจะสู้วะนะ คนเราอยู่กะฉัน
และร่วมฝันละให้ชนะความจน
อดทนอีกนิด รับพินิจไปติดจ๋าน
ปู่จ๋านคนนี้ไม่ใช่ข้าราชการ
ถึงพี่จะจน แต่พี่ก็ทนไม่เคยอาย
จะรักแม่ยอดหญิง ไม่ทอดทิ้งจนวันตาย
อยู่กับฉันได้ไหม ให้แก่เฒ่าเป็นตายาย
ในบั้นปลายสุดท้ายของดวงชีวัน
อยู่เคียงคู่กันแบบนี้ ให้ร่วงโรยเป็นธุลี
กลับสู่ธรณี ฝังร่างนี้ไปพร้อมกัน
ฝังร่างไปพร้อมกัน ฝังร่างไปพร้อมกัน
ฝังร่างไปพร้อมกัน ฝังร่างไปพร้อมกัน
ฟังเพลงเสร็จอย่าลืมกด LIKE กด SHARE และกด Subscribe ช่องให้ด้วยนะคะ
กดติดตามเพื่อฟังเพลง : https://goo.gl/EqQW64

ตราบธุรีดิน - PMC ปู่จ๋าน ลองไมค์ + เนื้อเพลง คอร์ดกีต้าร์

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ เพลง อยู่ ด้วย กัน จน แก่

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *