Skip to content
Home » [NEW] 108 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานง่ายๆ ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจําวัน มีคำอ่าน แปล! | ประโยคขอร้องภาษาอังกฤษที่ใช้ในห้องเรียน – NATAVIGUIDES

[NEW] 108 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานง่ายๆ ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจําวัน มีคำอ่าน แปล! | ประโยคขอร้องภาษาอังกฤษที่ใช้ในห้องเรียน – NATAVIGUIDES

ประโยคขอร้องภาษาอังกฤษที่ใช้ในห้องเรียน: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

1721

SHARES

Facebook

Twitter

ประโยคภาษาอังกฤษ 108 ประโยคพื้นฐาน สำหรับผู้เริ่มฝึกพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวันกันนะครับ  เนื้อหาต่อไปนี้มีทั้งภาษาอังกฤษ คำอ่าน พร้อมทั้งคำแปลให้เรียบร้อย เผื่อบางคนที่ยังอ่านไม่คล่องนั่นเอง

ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจําวันสำรับเจ้าของภาษาอาจจะยาวๆ หรือว่ายากๆหน่อย ซึ่งเขาก็ใช้ในแบบฉบับของเขานั่นแหละครับ สำหรับพวกเราแล้ว ถ้ายังเพิ่งเริ่มเรียนใหม่ๆ ขอแนะนำให้ศึกษาประโยคภาษาอังกฤษง่ายๆ และเป็นประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยก่อนเป็นเบื้องต้น แล้วค่อยๆศึกษาอะไรที่มันยากขึ้นหลังจากที่เราพอมีพื้นฐานแล้ว

ประโยคภาษาอังกฤษ

Table of Contents

ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษที่จะได้เรียนรู้กันต่อไปนี้ เป็นแนวคําถามและคำตอบคู่กัน ซึ่งแต่งประโยคโดยใช้คำพูดง่ายๆ พร้อมคำแปล เพื่อทุกคนไม่ต้องพะวงกับการเปิดดิกชันนารี ถ้าสามารถเรียนรู้และจดจำได้ทั้ง 108 ประโยค รับรองว่าสามารถฟุดฟิดฟอไฟได้ในระดับหนึ่งเลยแหล่ะ

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับการทักทาย ถามตอบทุกข์สุข

ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย

ประโยคถามตอบทุกข์สุขก็จะเป็นการทักทาย การแนะนำตัว การกล่าวลา ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า Greetings นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 12 ประโยคด้วยกัน

1.Hello, my name is Sam.
เฮ็ลโล มายเนม อิส แซม
สวัสดี ชื่อ ของผม คือ แซม (ผมชื่อแซม)

2. Hey, I’m Jane.
เฮ้ ไอม เจน
หวัดี ฉัน คือ เจน (ฉันชื่อเจน)

3. Nice to meet you.
ไนซ ทุ มีท ยู
ยินดี ที่ได้ พบ คุณ (ยินดีที่ได้รู้จัก)

4. Nice to meet you, too.
ไนซ ทุ มีท ยู ทู
ยินดี ที่ได้ พบ คุณ เช่นกัน (ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน)

5. It was nice meeting you.
อิท เวิส ไนซ มี๊ททิง ยู
มัน ดี ที่ได้ รู้จัก คุณ (ยินดีที่ได้รู้จักกับคุณ)

6. It was nice meeting you, too. Bye.
อิท เวิส ไนซ มี๊ททิง ยู ทู บาย
มัน ดี ที่ได้ รู้จัก คุณ เช่นกัน ลาก่อน

7. Goodbye.
กุ๊ดบาย
ลาก่อน

8. Nice to see you again.
ไนซ ทู ซี ยู อะเกน
ยินดี ที่ได้ พบ คุณ อีกครั้ง

 9.You too.
ยูทู
เช่นกัน

10.How are you?
ฮาว อา ยู
คุณ สบายดี ไหม

11. Fine thanks, and you?
ไฟน แธงส แอน ยู๊
สบายดี ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ

12.I’m okay, thank you.
ไอม โอเค แธงคิว
ฉัน สบายดี ขอบคุณ

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับถามตอบข้อมูลส่วนบุคคล

ฝึกพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน

ประโยคถามตอบข้อมูลส่วนบุคคล ก็จะเป็นการถามข้อมูลส่วนบุคคลในด้านต่างๆ เช่น ถิ่นกำเนิด อาชีพ สถานศึกษาเป็นต้น ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า Personal Information นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 35 ประโยคด้วยกัน

13. Where are you from?
แว อา ยู ฟรอม
คุณ มา จาก ไหน

14. I’m from England.
ไอม ฟรอม อิ๊งเลินด
ฉัน มา จาก ประเทศอังกฤษ

15. Where do you come from?
แว ดู ยู คัม ฟรอม
คุณ มา จาก ไหน

16. I come from America.
ไอ คัม ฟรอม อเม๊ริเคอะ
ฉัน มา จาก ประเทศ อเมริกา

17. What do you do?
ว็อท ดู ยู ดู
คุณ ทำงาน อะไร

18. I’m a student.
ไอม อะ สตู๊เดินท
ผม เป็น นักศึกษา

19.What’s your job?
ว็อทส ยัว จอบ
คุณ ทำงาน อะไร

20. I work in a bank.
ไอ เวิค อิน อะ แบ็งค
ฉัน ทำงาน ใน ธนาคาร

21. Where do you work?
แว ดู ยู เวิค
คุณ ทำงาน ที่ไหน

22. I work for the Smile Bank.
ไอ เวิค ฟอ เดอะ สไมล แบ็งค
ฉัน ทำงาน ให้กับ ธนาคาร สไมล์

23. Do you like your job?
ดู ยู ไลค ยัว จอบ
คุณ ชอบ งาน ของคุณ ใช่ไหม

24. Yes. I like it very much.
เย็ส ไอ ไลค อิท เว๊ริ มัช
ใช่ค่ะ ฉัน ชอบ มัน มาก

25. Where do you go to school?
แว ดู ยู โก ทู สกูล
คุณ ไป โรงเรียน ที่ไหน (คุณเรียนอยู่ที่ไหน)

26. I go to King School.
ไอ โก ทู คิง สกูล
ผม ไป โรงเรียน คิง (ผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนคิง)

27. What subjects do you like?
ว็อท ซับเจ็คส ดู ยู ไลค
วิชา อะไร ที่คุณ ชอบ (คุณชอบวิชาอะไร)

28. I like math and English.
ไอ ไลค แม็ธ แอน อิ๊งลิช
ผม ชอบ คณิตศาสตร์ และ ภาษาอังกฤษ

29. How tall are you?
ฮาว ทอล อา ยู
คุณ สูง เท่าไหร่

30. I’m 165 centimetres tall.
ไอม วัน ฮั๊นเดริด แอนด ซิกสติ เซ็นทิมี๊เทอส ทอล
ฉัน สูง 165 เซ็นติเมตร

31. What is your weight?
ว็อท อิส ยัว เวท
น้ำหนัก ของคุณ คือ อะไร (คุณ หนัก เท่าไหร่)

32.I wiegh 42 kilograms.
ไอ เว ฟ๊อทิ ทู คิ๊ละแกรมส
ฉัน หนัก 42 กิโลกรัม

33. How old are you?
ฮาว โอลด อา ยู
คุณ อายุ เท่าไหร่

34. I’m twenty-three.
ไอม เทว็นทิ ธรี
ฉัน อายุ 23

35. How old are you?
ฮาว โอลด อา ยู
คุณ อายุ เท่าไหร่

36. I’m twenty years old.
ไอม เทว็นทิ เยียส โอลด
ฉัน อายุ ยี่สิบ ปี

37. When is your birthday?
เว็น อิส ยัว เบิ๊ธเด
เมื่อไหร่ คือ วันเกิด ของคุณ (วันเกิดของคุณวันไหน)

38. Fourth of July.
ฟอธ ออฟ จุล๊าย
วันที่ 4 ของ เดือนกรกฎาคม ( 4 กรกฎาคม)

39. When were you born?
เว็น เวอ ยู บอน
เมื่อไหร่ คุณ ถูกให้กำเนิด (คุณเกิดวันไหน)

40. December 6th, 1994.
ดิเซ็มเบอะ เดอะ ซิกส์ ไนนทีน ไนนทิฟอ
เดือนธันวาคม วันที่ 6 ปี 2537 (6 ธันวาคม 2537)

41. Do you have a mobile phone?
ดู ยู แฮฝ อะ โม๊ไบล โฟน
คุณ มี โทรศัพท์ มือถือ ใช่ไหม

42. Yes, I do.
เย็ส ไอ ดู
ใช่ ฉัน มี

43.What’s your phone number?
ว็อทส ยัว โฟน นั๊มเบอะ
เบอร์ โทรศัพท์ ของคุณ คือ อะไร

44. 086 123 3129
โอ เอท ซิกส วัน ทู ธรี ธรี ทู วัน ไนน
ศูนย์ แปด หก หนึ่ง สอง สาม สาม หนึ่ง สอง เก้า

45.What nationality are you?
ว็อท แน๊ชแน็ลเลอะทิ อา ยู
คุณ คือ สัญชาติ อะไร (คุณมีสัญชาติอะไร)

46. I’m American.
ไอม อะเม๊ริเคิน
ผม คือ สัญชาติอเมริกัน (ผมมีสัญชาติอเมริกัน)

47. What’s your nationality?
ว็อทส ยัว แน๊ชแนลเลอะทิ
สัญชาติ ของ คุณคือ อะไร

48. I’m English.
ไอม อิ๊งลิช
ฉัน คือ สัญชาติอังกฤษ (ฉันมีสัญชาติอังกฤษ)

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับถามตอบสิ่งที่ชื่นชอบ

ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน

ประโยคถามตอบสิ่งที่ชื่นชอบ ก็จะเป็นการถามเกี่ยวกับ บุคคล สิ่งของ กิจกรรมต่างๆที่ชื่นชอบ เช่น นักร้อง สี กีฬา ผลไม้ เป็นต้น  ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า Favourites นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 30 ประโยคด้วยกัน

49. Who is your favourite singer?
ฮู อิส ยัว เฟ็ฝเวอะริท ซิ๊งเงอะ
นักร้อง ที่ชื่นชอบ ของคุณ คือ ใคร (นักร้องคนโปรดของคุณคือใคร)

50. My favorite singer is Justin Bieber?
มาย เฟ็ฝเวอะริท ซิ๊งเงอะ อิส จั๊สติน บี๊เบอะ
นักร้อง คนโปรด ของฉัน คือ จัสติน บีเบอร์

51.I like Lady Gaga.
ไอ ไลค เล๊ดิ ก๊ากะ
ฉัน ชอบ เลดี้ กาก้า

52. Who is your favourite star?
ฮู อิส ยัว เฟ็ฝเวอะริท สตา
ดารา ที่ชื่นชอบ ของคุณ คือ ใคร (ดาราคนโปรดของคุณคือใคร)

53. I like Brad Pitt. And you?
ไอ ไลค แบรด พิท แอนด ยู๊
ฉัน ชอบ แบรด พิตต์ แล้ว คุณล่ะ

54. My favourite is David Beckham.
มาย เฟ็ฝเวอะริท อิส เด๊วิด เบ็คแฮม
คนที่โปรดปราน ของฉัน คือ เดวิด เบ็คแฮม

55. What kind of music do you like?
ว็อท ไคด ออฟ มิ๊วสิค ดู ยู ไลค
ดนตรี ชนิด อะไร ที่ คุณ ชอบ (คุณชอบดนตรีแนวไหน)

56. I like pop music.
ไอ ไลค พ็อพ มิ๊วสิค
ฉัน ชอบ ดนตรีแนวป็อป

57. I don’t like pop music. I like rock.
ไอ ด้นท ไลค พ็อพ มิ๊วสิค ไอ ไลค ร็อค
ฉัน ไม่ชอบ ดนตรี แนวป็อป ฉัน ชอบ แนวร็อก

58. What kind of food do you like?
ว็อท ไคด ออฟ ฟูด ดู ยู ไลค
อาหาร ชนิด อะไร ที่ คุณ ชอบ (คุณชอบอาหารชนิดไหน)

59. I like chicken.
ไอ ไลค ชิ๊คเคิน
ฉัน ชอบ ไก่

60. What’s your favorite food?
ว็อทส ยัว เฟ็ฝเวอะริท ฟูด
อาหาร ที่คุณ ชื่นชอบ คือ อะไร

61. My favorite food is steak.
มาย เฟ็ฝเวอะริท ฟูด อิส สเต๊ค
อาหาร ที่ชื่นชอบ ของฉัน คือ สเต็ก

62. What colour do you like?
ว็อท คั๊ลเลอะ ดู ยู ไลค
สี อะไร ที่ คุณ ชอบ (คุณชอบสีอะไร)

63. I like blue.
ไอ ไลค บลู
ฉัน ชอบ สีฟ้า

64. What’s your favorite color?
ว็อทส ยัว เฟ็ฝเวอะริท คั๊ลเลอะ
สี ที่คุณ ชื่นชอบ คือ อะไร

65.My favorite colour is white.
มาย เฟ็ฝเวอะริท คั๊ลเลอะ อิส ไวท
สี ที่ชื่นชอบ ของฉัน คือ สีขาว

66.What movie do you like?
ว็อท มู๊วิ ดู ยู ไลค
หนัง อะไร ที่ คุณ ชอบ (คุณชอบหนังเรื่องไหน)

67.  I like Harry Potter.
ไอ ไลค แฮ๊ริ พ็อทเทอะ
ฉัน ชอบ แฮรี่ พ็อตเตอร์

68. What’s your favorite movie?
ว็อทส ยัว เฟ็ฝเวอะริท มู๊วิ
หนัง ที่คุณ ชื่นชอบ คือ อะไร

69. Spider Man.
สไป๊เดอะ แมน
สไปเดอร์ แมน

70. What’s your favorite sport?
ว็อทส ยัว เฟ็ฝเวอะริท สปอท
กีฬา ที่ชื่นชอบ ของคุณ คือ อะไร

71. My favourite sport is football.
มาย เฟ็ฝเวอะริท สปอท อิส ฟุทบอล
กีฬา ที่ชื่นชอบ ของฉัน คือ ฟุตบอล

72. What sport do you like?
ว็อท สปอท ดู ยู ไลค
คุณ ชอบ กีฬา อะไร

73. I like golf.
ไอ ไลค กอฟ
ฉับ ชอบ กอล์ฟ

74. What animals do you like?
ว็อท แอ๊นเนอะเมิลส ดู ยู ไลค
สัตว์ อะไร ที่คุณ ชอบ (คุณชอบสัตว์ชนิดไหน)

75.  I like cats. Do you like cats?
ไอ ไลค แค็ทส ดู ยู ไลค แค็ทส
ผม ชอบ แมว คุณ ชอบ แมว ใช่ไหม

76.  Yes, I do.
เย็ส ไอ ดู
ใช่ค่ะ (ํฉัน ชอบ แมว)

77.  What kind of fruit do you like?
ว็อท ไคด ออฟ ฟรูท ดู ยู ไลค
ผลไม้ ชนิด อะไร ที่ คุณ ชอบ (คุณชอบผลไม้ชนิดไหน)

78. I like bananas.
ไอ ไลค บะน๊านัส
ฉัน ชอบ กล้วย

79. Do you like bananas?
ดู ยู ไลค บะนานั๊ส
คุณ ชอบ กล้วย ไหม

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับถามตอบความสามารถส่วนบุคคล

ประโยคภาษาอังกฤษง่ายๆ

ประโยคถามตอบความสามารถส่วนบุคคล ก็จะเป็นการถามว่าคุณมีความสามารถพิเศษอะไรบ้าง เช่น การพูดภาษาต่างประเทศ การร้องเพลง การเล่นดนตรี เป็นต้น ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า Special Ability นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 14 ประโยคด้วยกัน

80. Can you speak French?
แคน ยู สปีค เฟร็นช
คุณ สามารถ พูด ภาษาฝรั่งเศส ไหม (คุณพูดภาษาฝรั่งเศสเป็นไหม)

81. Yes, I can. I speak English and French.
เย็ส ไอ แคน ไอ สปีค อิ๊งลิช แอนด เฟร็นช
ใช่ ฉัน สามารถ (พูดได้) ฉัน พูด ภาษาอังกฤษ และ ภาษาฝรั่งเศส

82. How many languages can you speak?
ฮาว เม็นนิ แล๊งกวิจเจ็ส แคน ยู สปีค
คุณ สามารถ พูดได้ กี่ ภาษา

83. I can speak two languages; English and Chinese.
ไอ แคน สปีค ทู แล๊งกวิจเจ็ส อิ๊งลิช แอนด ไชนี๊ส
ฉัน สามารถ พูดได้ สอง ภาษา ภาษาอังกฤษ และ ภาษาจีน

84. Can you play the football?
แคน ยู เพล ฟุตบ๊อล
คุณ สามารถ เล่น ฟุตบอลล ไหม (คุณเล่นฟุตบอลเป็นไหม)

85. Yes, I can.
เย็ส ไอ แคน
ใช่ ฉัน สามารถ (เล่นเป็น)

86. Can you play football?
แคน ยู เพล ฟุตบ๊อล
คุณ สามารถ เล่น ฟุตบอล ไหม (เล่นฟุตบอลเป็นไหม)

87. No, I can’t play football. I can play golf.
โน ไอ แค๊นท ไอ แคน เพล กอฟ
ไม่ ฉัน ไม่สามารถ เล่น ฟุตบอล(เล่นฟุตบอลไม่เป็น) ฉัน สามารถ เล่น กอฟ (เล่นกอล์ฟเป็น)

88. Can you play the piano?
แคน ยู เพล เดะ พิแอโน๊
คุณ สามารถ เล่น เปียโน ไหม (คุณเล่นเปียโนเป็นไหม)

89. No, I can’t. I can play the violin.
โน ไอ แค้นท ไอ แคน เพล เดอะ ไว๊เออะลิน
ไม่ ฉัน ไม่สามารถ (เล่นไม่เป็น) ฉัน สามารถ เล่น ไวโอลิน (เล่นไวโอลินเป็น)

90. Can you play the guitar?
แคน ยู เพล เดอะ กิท๊า
คุณ สามารถ เล่น กีตาร์ ไหม (เล่นกีตาร์เป็นไหม)

91. Yes, I can play the guitar and the piano?
เย็ส ไอ แคน เพล เดอะ กิท๊า แอนด เดอะ พิแอ๊โน
ใช่ ฉัน สามารถ เล่น กีตาร์ และ เปียโน (เล่นกีตาร์และเปียโนได้)

92. Can you sing?
แคน ยู ซิง
คุณ สามารถ ร้องเพลง ไหม (คุณร้องเพลงเป็นไหม)

93. Yes, I can. And you?
เย็ส ไอ แคน แอนด ยู๊
ใช่ ฉัน สามารถ (ร้องเป็น) แล้ว คุณล่ะ

94. I can’t sing but I can dance.
ไอ ค้านท ซิง บัท ไอ แคน ด๊านซ
ฉัน ไม่สามารถ ร้องเพลง (ร้องไม่เป็น) แต่ ฉัน สามารถ เต้นรำ(เต้นรำเป็น)

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับถามตอบเกี่ยวกับครอบครัว

ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจําวัน

ประโยคถามตอบเกี่ยวกับครอบครัว ก็จะเป็นการถามข้อมูลเกี่ยบกับบุคคลในครอบรัว  เช่น ในครอบครัวมีกี่คน มีพี่น้องกี่คน เป็นต้น ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า Family นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ประโยคด้วยกัน

95. How many people are there in your family?
ฮาว เม็นนิ พี๊เพิล อา แด อิน ยัว แฟ๊มลิ
ใน ครอบครัว ของคุณ มี กี่ คน

96. There are five people. What about you?
แด อา ไฟฝ พี๊เพิล ว็อท อะเบ๊า ยู
มี ห้า คน แล้วคุณล่ะ

97. There are three people in my family.
แด อา ธรี พี๊เพิล อิน มาย แฟ๊มลิ
มี สาม คน ใน ครอบครัว ของฉัน

98. How many brothers and sisters do you have?
ฮาว เม็นนิ บรั๊ดเดอส แอนด ซิ๊สเตอส ดู ยู แฮฝ
คุณ มี พี่ชายน้องชาย และ พี่สาวน้องสาว กี่คน

99. I have one sister and two brothers.
ไอ แฮฝ วัน ซิสเตอะ แอนด ทู บรั๊ดเดอส
ฉัน มี พี่สาวน้องสาว หนึ่งคน และ พี่ชายน้องชาย สองคน

100. Do you have any brothers or sisters?
ดู ยู แฮฝ เอ็นนิ บรัดเดอส ออ ซิ๊สเตอส
คุณ มี พี่ชายน้องชาย หรือ พี่สาวน้องสาว บ้างไหม

101. Yes, I have one brother.
เย็ส ไอ แฮฝ วัน บรั๊ดเดอะ
ใช่ ผม มี พี่ชายน้องชาย หนึ่งคน

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับถามตอบทั่วไป

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

ประโยคถามตอบทั่วไป ก็จะเป็นการถามทั่วๆไปไม่จำกัด  ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า General Topics นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ประโยคด้วยกัน

102. What do you do after school?
ว็อท ดู ยู ดู อ๊าฟเทอะ สกูล
คุณ ทำ อะไร หลังจาก เลิกเรียน

103. I play football.
ไอ พเล ฟุทบอล
ผม เล่น ฟุตบอล

104. what do you do after work?
ว็อท ดู ยู ดู อ๊าฟเทอะ เวิค
คุณ ทำ อะไร หลังจาก เลิกงาน

105. I read books.
ไอ รีด บุคส
ฉัน อ่าน หนังสือ

106. How often do you play football?
ฮาว อ๊อฟึน ดู ยู เพล ฟุ๊ทบอล
คุณ เล่น ฟุตบอล บ่อยแค่ไหน

107. I play football twice a week. And you?
ไอ เพล ฟุ๊ทบอล ไทว๊ซ อะ วีค
ผม เล่น ฟุตบอล สองครั้ง ต่อ สัปดาห์

108. I don’t play football.
ไอ ด๊น เพล ฟุ๊ทบอล
ฉันไม่เล่นฟุตบอล

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับ ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน คิดว่าถ้าใครเรียนจนจบทั้ง 108 ประโยคแล้ว คิดว่าสามารถที่จะพูดภาษาอังกฤษได้ในระดับหนึ่งแน่นอน เพราะประโยคที่นำมาเสนอ เป็นประโยคง่ายที่ใช้กันในชีวิตประจำวัน

ขอ 5 ดาวให้บทเรียนด้วยครับผม…

คลิกดาวดวงที่ขวามือสุดเลยครับครับ…

Average rating 4.4 / 5. Vote count: 658

ยังไม่มีใครให้ดาว คุณคือคนแรก….

[Update] ประโยคภาษาอังกฤษเพื่อขออนุญาต และการตอบรับคำขอร้อง | ประโยคขอร้องภาษาอังกฤษที่ใช้ในห้องเรียน – NATAVIGUIDES

การขออนุญาตก็เช่นเดียวกับการขอร้อง คือมีหลายระดับ การขอ อนุญาตตรงกันข้ามกับการขอร้อง คือการขอร้องเป็นการให้ผู้อื่นทำให้ส่วนการขออนุญาตผู้พูดจะทำเอง การขออนุญาตใช้รูปประโยคหลายชนิดเช่นเดียวกับการขอร้อง ฉะนั้นประโยคต่างๆ ที่ใช้ในการขออนุญาตจำแนกได้ดังต่อไปนี้
1. ประโยคคำสั่ง (Command) ประโยคคำสั่งที่ใช้ในการขออนุญาต ได้แก่ Let me เป็นการขออนุญาตที่พูดขึ้นลอยๆ ไม่ต้องการคำตอบ แม้จะเป็นรูปคำสั่งก็ตาม แต่มีความหมายเป็นการขออนุญาตขั้นธรรมดา ดังนั้น โครงสร้างของประโยคจึงมีดังนี้
Let me….. (ฉันขอ……นะ)
ตัวอย่าง
Let me sit here.
ฉันขอนั่งนี่นะ
Let me sleep alone.
ปล่อยฉันนอนคนเดียวเถอะ
Let me see.
ฉันขอดูหน่อย
Let me see the red one.
ฉันขอดูอันสีแดงด้วย
Let me take this one.
ฉันขอถือเอาอันนี้นะ
2. ประโยคบอกเล่า (Statement) การใช้ประโยคบอกเล่าเพื่อเป็น การขออนุญาตนั้น เป็นการกล่าวขึ้นมาเพื่อแสดงความต้องการของตนเอง แต่เพื่อเน้นให้เห็นเป็นการขออนุญาตจริงๆ แล้วเติม Excuse me ข้างหน้าประโยคนั้น โดยมีรูปประโยคดังนี้
Excuse me, I want to……
(ขอโทษ, ฉันต้องการที่จะ…..)
I would like to………………..
(ขอโทษ, ฉันต้องการที่จะ……..)
ตัวอย่าง
Excuse me, I want to go out.
ขอโทษ ฉันอยากจะออกไปข้างนอก
Excuse me, I want to see that one.
ขออนุญาต, ฉันต้องการจะดูอันนั้น
Excuse me, I want to sleep alone.
ขออนุญาต, ฉันอยากจะนอนคนเดียว
Excuse me, I would like to speak to Vichai.
ขอโทษ, ฉันขอพูดกับวิชัยด้วย
Excuse me. I would like to borrow this book.
ขอโทษ, ฉันอยากจะขอยืมหนังสือเล่มนี้
3. ประโยคคำถาม (Question) เช่นเดียวกับการขอร้อง การขอ อนุญาตใช้รูปประโยคคำถามหลายชนิด และถือเป็นการขออนุญาตโดยอ้อม ซึ่งนิยมใช้มากและถือว่าสุภาพและเกรงใจกว่าชนิดอื่น ประโยคคำถามที่ใช้ในความหมายนี้มีชนิดต่างๆ ดังโครงสร้างต่อไปนี้
Yes/No Question:     May I………?
Can / Could I……..?
Could I possibly…….?
Would you let me……?
Do / Would you mind if I…..?
Is it all right if I…….?
Tag Question:         I can…….., can’t I?
I will……,won’t I?
Indirect Question :    I wonder if I could………….
ตัวอย่าง
May I sit here?
ฉันนั่งนี่ได้ไหม
Can I come in?
ฉันขอเข้าไปข้างในได้ไหม
Could I open the window?
ฉันขอเปิดหน้าต่างได้ไหม
Could I possibly borrow your calculator?
ฉันขอยืมเครื่องคิดเลขคุณได้ไหม
Would you let me take a seat?
คุณอนุญาตให้ฉันนั่งลงได้ไหม
Do you mind if I sleep in this room?
คุณจะรังเกียจไหมถ้าฉันจะนอนในห้องนี้
Would you mind if I turned the light off?
ฉันขออนุญาตปิดไฟได้ไหม (คุณจะรังเกียจไหมถ้าฉันจะปิดไฟ)
Is it all right if I close the window?
ฉันขอปิดหน้าต่างได้ไหม
I can come in, can’t I?
ฉันขอเข้าข้างในได้ไหม
I wonder if I could use your camera.
ไม่ทราบว่าฉันจะขอใช้กล้องคุณได้หรือเปล่า
I wonder whether I could play records in the room?
ไม่ทราบว่าฉันจะเล่นแผ่นเสียงในห้องได้หรือเปล่า
ที่นิยมใช้มากที่สุดคือ Yes/No Question และที่ถือเป็นธรรมดาที่สุดก็คือ May I…? ที่เป็นรูปคำถาม Tag Question แม้จะไม่นิยมใช้กันก็ตาม แต่ก็มีความหมายเป็นการขออนุญาตเช่นกัน มีความหมายอย่างเดียวกับคำถาม Yes/No Question.
ข้อสังเกต
-Would you mind if I นิยมตามด้วยกริยารูปอดีต แต่ความหมาย เป็นปัจจุบัน
-Do / Would you mind ที่ใช้สำหรับการขอร้องและขออนุญาต แตกต่างกัน คือ ในการขอร้องนั้น ตามด้วยกริยาเติม ing ส่วนการขออนุญาต ตามด้วย if I เช่น
Would you mind opening the window?
คุณจะรังเกียจไหมถ้าจะกรุณาเปิดหน้าต่างด้วย
Would you mind if I opened the window?
คุณจะรังเกียจไหม ถ้าฉันจะเปิดหน้าต่าง
-I wonder if ถ้าใช้ในการขอร้อง ตามด้วย you แต่ถ้าใช้ขออนุญาตตามด้วย I เช่น
I wonder if you could close the door
ฉันไม่ทราบว่า คุณจะกรุณาปิดประตูได้หรือเปล่า
I wonder if I could close the door
ฉันไม่ทราบว่า ฉันจะขออนุญาตปิดประตูได้หรือเปล่า
-การขออนุญาตในรูปของคำถามแตกต่างจากคำถามธรรมดา เช่นเดียวกับการขอร้อง คำถามธรรมดามีความหมายเป็นคำถามทั่วๆ ไป ต้องการคำตอบรับหรือปฏิเสธ (yes/no) เท่านั้น ส่วนการขออนุญาตเป็นการขอโอกาส หรือความยินยอมให้ตามที่ขอ ดังการเปรียบเทียบต่อไปนี้

คำถาม

ขออนุญาต

Can I speak Thai?

ฉันพูดภาษาไทยได้หรือเปล่า

Yes, you can.

ได้, คุณพูดได้

No, you can’t.

เปล่า, คุณพูดไม่ได้

 

Can I speak Thai with you?

ฉันขอพูดภาษาไทยกับคุณจะได้ไหม

All right.

ตกลง

I’m sorry, I can’t speak Thai.

ขอโทษ, ฉันพูดภาษาไทยไม่ได้

 

การตอบรับ (Accepting) การตอบรับการขออนุญาต ก็คือการ อนุญาตให้ตามที่ขอนั้นเอง ใช้คำอย่างเดียวกันกับการตอบรับการขอร้อง ซึ่งมีดังนี้
Yes, of course
ตกลง, แน่นอน
Certainly
ตกลง, ได้
All right ตกลง, ได้เลย
Go ahead
ได้เลย
O.K.
ตกลง
Not at all
ไม่เป็นไร
No, of course not / Certainly not
ไม่เป็นไร, ตกลง
ตอบปฏิเสธ (Refusing) ใช้คำเช่นเดียวกับการขอร้องคือ
Sorry, ….
ขอโทษ, ….
I’m afraid, ….
ขอโทษ,…….
แบบฝึกหัด
จงสร้างข้อความต่อไปนี้ให้เป็นประโยคขออนุญาต
1. Go out
2. Check something
3. Turn off the light
4. Play the recorder
5. Know her address
6. Tell the truth
7. Borrow something
8. Take a rest for a minute
9. Sleep in your room
10. Park a car for a few minutes
ตัวอย่าง
Let me go out
Excuse me, I want to go out
May I go out
Can I go out
Could I possibly go out?
Would you let me go out?
Would you mind if I went out?
Do you mind if I go out?
Is it all right if I go out?
I can go out, can’t I?
I wonder if I could go out.
โครงสร้างประโยคสำหรับการขออนุญาต มีดังนี้
Let me………
Excuse me,     I want to……………..
I would like to…………..
May/Can/Could I…………..?
Could I possibly……………?
Would/Could you let me ……………..?
Do/Would you mind if I……………….?
Is it all right if I…………….?
I can………………..can’t I?
I will…………………….won’t I?
I wonder if I could…………….
ที่มา:ดร.สวาสดิ์  พรรณา   

(Visited 32,901 times, 13 visits today)


ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษในห้องเรียน [English conversation in Classroom]


เพื่อนฝากลงนะครับ แชร์ต่อไปเยอะๆนะครับ เพราะเราเจอคำพวกนี้แทบทุกวัน
รู้ไว้ดีกว่าไม่รู้นะครับ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษในห้องเรียน [English conversation in Classroom]

คำศัพท์อังกฤษ สิ่งต่างๆในห้องเรียน Classroom


คำศัพท์อังกฤษ สิ่งต่างๆในห้องเรียน Classroom
คำศัพท์อังกฤษ เรียนอังกฤษ Classroom

คำศัพท์อังกฤษ สิ่งต่างๆในห้องเรียน Classroom

ประโยคภาษาอังกฤษ | ทั่วไปใช้ในห้องเรียน | classroom | @เรียนง่ายภาษาอังกฤษ


ประโยคภาษาอังกฤษ เรียนออนไลน์ classroom
ประโยคทั่วไปใช้สนทนาในห้องเรียนเพื่อเอาไว้ใช้ถ้าเราได้ไปเรียนในห้องเรียนที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารจ้

ประโยคภาษาอังกฤษ | ทั่วไปใช้ในห้องเรียน | classroom | @เรียนง่ายภาษาอังกฤษ

ฝึกพูด 33 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตจริง จากหนัง Emily in Paris


เรามาฝึกฟังและฝึกพูดภาษาอังกฤษจากหนัง/ซีรี่ย์กันค่ะ ซึ่งในคลิ๊ปนี้เป็นซีรี่ย์ชื่อว่า Emily in Paris มาลองอฝึกพูดประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตจริงจากหนังเรื่องนี้กันเลยค่ะ
learnenglishfrommovies เรียนภาษาอังกฤษจากหนัง

ฝึกพูด 33 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตจริง จากหนัง Emily in Paris

Classroom Requests (การขอร้อง) – สื่อการเรียนการสอน ภาษาอังกฤษ ป.4


สื่อการเรียนการสอน วิชา ภาษาอังกฤษ ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4
เรื่อง Classroom Requests (การขอร้อง)
วันนี้เราจะมาเรียน เกี่ยวกับ
เรียนรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ (Vocabulary) เกี่ยวกับ \”Classroom Requests (การขอร้อง) \”
ตัวอย่างคำศัพท์ภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปล และการออกเสียง และตัวอย่างประโยค \”Classroom Requests (การขอร้อง) \” เรามาดูซิ มีอะไรกันบ้าง\” เช่น open, close, lock, write, turn on, turn off, a window, a door, a CD player, a school bag, a light, key เป็นต้น พร้อมภาพการ์ตูนประกอบ น่ารักๆ เข้าใจง่าย
ตัวอย่างการแต่งประโยค จากคำศัพท์ภาษาอังกฤษ พร้อมการอ่านออกเสียง และรูปประโยค
ฝึกการฟังภาษาอังกฤษ กับตัวอย่าง และบทสนทนา
มีกิจกรรม ทบทวนคำศัพท์ จับคู่ภาพ และคำศัพท์ให้ถูกต้อง
ฝึกการฟัง การพูด การอ่านออกเสียงจาก ตัวอย่างบทสนทนา พร้อมภาพการ์ตูนน่ารักๆ ประกอบให้เข้าใจง่าย
เรียนประโยคจากบทสนทนา เกี่ยวกับไวยากรณ์ \”เมื่อเราต้องการขอให้ผู้อื่น ทำอะไรก็ตาม\”
เราจะใช้รูปแบบประโยคดังนี้ \”Would you …(คำกริยา และ กรรมของประโยค)….?\” ตัวอย่างเช่น \”Would you close the door?\”
เรียนประโยคจากบทสนทนา เกี่ยวกับไวยากรณ์ \”การตอบ เมื่อมีคนมาขอร้อง\”
เราจะใช้รูปแบบประโยคดังนี้ \”Yes, I would (ถ้าทำได้) และ No, I would not. (ถ้าเราไม่สามารถทำได้)\”
เรียนประโยคจากบทสนทนา เกี่ยวกับไวยากรณ์ \”ถ้าต้องการขออนุญาติ อย่างสุภาพ\”
เราจะใช้รูปแบบประโยคดังนี้ \”May I …(คำกริยา และ กรรมของประโยค)….?\” ตัวอย่างเช่น \”Teacher, may I go to the toilet?\” ส่วนการตอบ เราก็ตอบได้ 2 แบบ \”Yes, you may./No, you may not.\”
ท่านสามารถติดตาม สื่อการเรียนการสอน
\”ครูโอ๋ สื่อการเรียนการสอน\” ได้อีกหลายช่องทาง
webpage : http://www.kruao.com (ครูโอ๋)
fanpage : https://goo.gl/O22C3X
google+ : https://goo.gl/OBu7ia
youtube : https://goo.gl/bZlYwE
ฝากติดตามเพจ/channel/website ด้วยครับ
สื่อการเรียนรู้ การสอนชุดนี้ ถูกนำไปใช้ใน การเรียนการสอนให้กับนักเรียนทั่วประเทศ ท่านอาจเห็น สื่อที่ครูโอ๋ นำมาเผยแพร่นี้ ผ่านทาง การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อนำมาช่วยในการ สอนนักเรียนให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น ช่วยในการอธิบาย ทำให้ผู้สอน หรือครูง่ายในการจัดการเรียนการสอนมากขึ้น สื่อนี้อาจไม่ได้ดี 100% หรือดีที่สุด แต่หากมีผู้สนับสนุน นักเรียน ให้ลูกหลานท่าน ดูไปด้วย ท่านก็ช่วยเพิ่มเติมความรู้ไปด้วย จะเป็นประโยชน์ต่อตัวบุตรหลานของท่านอย่างมาก ท่านอาจไม่ต้องให้ดูเยอะ ให้ดูวันละ 1 คลิป 1 วีดีโอ ก็ยังดีกว่าไม่ได้ดู เพิ่มเติมเลย
ในมุมมองของครูนั้น หากบางจุด สอนยาก หรืออธิบายยาก ท่านลองมาหาใน ครูโอ๋ แชนแนล ดูว่ามีวีดีโอไหน ที่ช่วยให้ท่านนำไปใช้ สอนได้ง่ายขึ้น ท่านอาจไม่ต้องเปิดทั้งวีดีโอ แต่เลือกส่วนที่สำคัญ ที่จะสานต่อการสอนของท่านให้ตรงเป้าหมาย ตรงตามตัวชี้วัด ของท่าน ทำให้ท่านสอนนักเรียนได้ง่ายขึ้น นักเรียนเห็นภาพการ์ตูน ภาพตัวอย่าง ก็เข้าใจมากขึ้น
สื่อการสอนนี้นำมาจาก
โครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษาไทย
(OTPC : One Tablet Per Child)
จัดทำโดยสำนักงานเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
เรียนภาษาอังกฤษ สื่อการสอนอังกฤษ ครูโอ๋ สื่อการเรียนการสอน
เรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง ฝึกพูดอังกฤษ สื่อการสอนป4

Classroom Requests (การขอร้อง) - สื่อการเรียนการสอน ภาษาอังกฤษ ป.4

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ประโยคขอร้องภาษาอังกฤษที่ใช้ในห้องเรียน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *