Skip to content
Home » [NEW] 108 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานง่ายๆ ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจําวัน มีคำอ่าน แปล! | แนะนําที่เรียนภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] 108 ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐานง่ายๆ ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจําวัน มีคำอ่าน แปล! | แนะนําที่เรียนภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

แนะนําที่เรียนภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

1721

SHARES

Facebook

Twitter

ประโยคภาษาอังกฤษ 108 ประโยคพื้นฐาน สำหรับผู้เริ่มฝึกพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวันกันนะครับ  เนื้อหาต่อไปนี้มีทั้งภาษาอังกฤษ คำอ่าน พร้อมทั้งคำแปลให้เรียบร้อย เผื่อบางคนที่ยังอ่านไม่คล่องนั่นเอง

ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจําวันสำรับเจ้าของภาษาอาจจะยาวๆ หรือว่ายากๆหน่อย ซึ่งเขาก็ใช้ในแบบฉบับของเขานั่นแหละครับ สำหรับพวกเราแล้ว ถ้ายังเพิ่งเริ่มเรียนใหม่ๆ ขอแนะนำให้ศึกษาประโยคภาษาอังกฤษง่ายๆ และเป็นประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยก่อนเป็นเบื้องต้น แล้วค่อยๆศึกษาอะไรที่มันยากขึ้นหลังจากที่เราพอมีพื้นฐานแล้ว

ประโยคภาษาอังกฤษ

Table of Contents

ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษที่จะได้เรียนรู้กันต่อไปนี้ เป็นแนวคําถามและคำตอบคู่กัน ซึ่งแต่งประโยคโดยใช้คำพูดง่ายๆ พร้อมคำแปล เพื่อทุกคนไม่ต้องพะวงกับการเปิดดิกชันนารี ถ้าสามารถเรียนรู้และจดจำได้ทั้ง 108 ประโยค รับรองว่าสามารถฟุดฟิดฟอไฟได้ในระดับหนึ่งเลยแหล่ะ

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับการทักทาย ถามตอบทุกข์สุข

ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย

ประโยคถามตอบทุกข์สุขก็จะเป็นการทักทาย การแนะนำตัว การกล่าวลา ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า Greetings นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 12 ประโยคด้วยกัน

1.Hello, my name is Sam.
เฮ็ลโล มายเนม อิส แซม
สวัสดี ชื่อ ของผม คือ แซม (ผมชื่อแซม)

2. Hey, I’m Jane.
เฮ้ ไอม เจน
หวัดี ฉัน คือ เจน (ฉันชื่อเจน)

3. Nice to meet you.
ไนซ ทุ มีท ยู
ยินดี ที่ได้ พบ คุณ (ยินดีที่ได้รู้จัก)

4. Nice to meet you, too.
ไนซ ทุ มีท ยู ทู
ยินดี ที่ได้ พบ คุณ เช่นกัน (ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน)

5. It was nice meeting you.
อิท เวิส ไนซ มี๊ททิง ยู
มัน ดี ที่ได้ รู้จัก คุณ (ยินดีที่ได้รู้จักกับคุณ)

6. It was nice meeting you, too. Bye.
อิท เวิส ไนซ มี๊ททิง ยู ทู บาย
มัน ดี ที่ได้ รู้จัก คุณ เช่นกัน ลาก่อน

7. Goodbye.
กุ๊ดบาย
ลาก่อน

8. Nice to see you again.
ไนซ ทู ซี ยู อะเกน
ยินดี ที่ได้ พบ คุณ อีกครั้ง

 9.You too.
ยูทู
เช่นกัน

10.How are you?
ฮาว อา ยู
คุณ สบายดี ไหม

11. Fine thanks, and you?
ไฟน แธงส แอน ยู๊
สบายดี ขอบคุณ แล้วคุณล่ะ

12.I’m okay, thank you.
ไอม โอเค แธงคิว
ฉัน สบายดี ขอบคุณ

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับถามตอบข้อมูลส่วนบุคคล

ฝึกพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน

ประโยคถามตอบข้อมูลส่วนบุคคล ก็จะเป็นการถามข้อมูลส่วนบุคคลในด้านต่างๆ เช่น ถิ่นกำเนิด อาชีพ สถานศึกษาเป็นต้น ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า Personal Information นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 35 ประโยคด้วยกัน

13. Where are you from?
แว อา ยู ฟรอม
คุณ มา จาก ไหน

14. I’m from England.
ไอม ฟรอม อิ๊งเลินด
ฉัน มา จาก ประเทศอังกฤษ

15. Where do you come from?
แว ดู ยู คัม ฟรอม
คุณ มา จาก ไหน

16. I come from America.
ไอ คัม ฟรอม อเม๊ริเคอะ
ฉัน มา จาก ประเทศ อเมริกา

17. What do you do?
ว็อท ดู ยู ดู
คุณ ทำงาน อะไร

18. I’m a student.
ไอม อะ สตู๊เดินท
ผม เป็น นักศึกษา

19.What’s your job?
ว็อทส ยัว จอบ
คุณ ทำงาน อะไร

20. I work in a bank.
ไอ เวิค อิน อะ แบ็งค
ฉัน ทำงาน ใน ธนาคาร

21. Where do you work?
แว ดู ยู เวิค
คุณ ทำงาน ที่ไหน

22. I work for the Smile Bank.
ไอ เวิค ฟอ เดอะ สไมล แบ็งค
ฉัน ทำงาน ให้กับ ธนาคาร สไมล์

23. Do you like your job?
ดู ยู ไลค ยัว จอบ
คุณ ชอบ งาน ของคุณ ใช่ไหม

24. Yes. I like it very much.
เย็ส ไอ ไลค อิท เว๊ริ มัช
ใช่ค่ะ ฉัน ชอบ มัน มาก

25. Where do you go to school?
แว ดู ยู โก ทู สกูล
คุณ ไป โรงเรียน ที่ไหน (คุณเรียนอยู่ที่ไหน)

26. I go to King School.
ไอ โก ทู คิง สกูล
ผม ไป โรงเรียน คิง (ผมเรียนอยู่ที่โรงเรียนคิง)

27. What subjects do you like?
ว็อท ซับเจ็คส ดู ยู ไลค
วิชา อะไร ที่คุณ ชอบ (คุณชอบวิชาอะไร)

28. I like math and English.
ไอ ไลค แม็ธ แอน อิ๊งลิช
ผม ชอบ คณิตศาสตร์ และ ภาษาอังกฤษ

29. How tall are you?
ฮาว ทอล อา ยู
คุณ สูง เท่าไหร่

30. I’m 165 centimetres tall.
ไอม วัน ฮั๊นเดริด แอนด ซิกสติ เซ็นทิมี๊เทอส ทอล
ฉัน สูง 165 เซ็นติเมตร

31. What is your weight?
ว็อท อิส ยัว เวท
น้ำหนัก ของคุณ คือ อะไร (คุณ หนัก เท่าไหร่)

32.I wiegh 42 kilograms.
ไอ เว ฟ๊อทิ ทู คิ๊ละแกรมส
ฉัน หนัก 42 กิโลกรัม

33. How old are you?
ฮาว โอลด อา ยู
คุณ อายุ เท่าไหร่

34. I’m twenty-three.
ไอม เทว็นทิ ธรี
ฉัน อายุ 23

35. How old are you?
ฮาว โอลด อา ยู
คุณ อายุ เท่าไหร่

36. I’m twenty years old.
ไอม เทว็นทิ เยียส โอลด
ฉัน อายุ ยี่สิบ ปี

37. When is your birthday?
เว็น อิส ยัว เบิ๊ธเด
เมื่อไหร่ คือ วันเกิด ของคุณ (วันเกิดของคุณวันไหน)

38. Fourth of July.
ฟอธ ออฟ จุล๊าย
วันที่ 4 ของ เดือนกรกฎาคม ( 4 กรกฎาคม)

39. When were you born?
เว็น เวอ ยู บอน
เมื่อไหร่ คุณ ถูกให้กำเนิด (คุณเกิดวันไหน)

40. December 6th, 1994.
ดิเซ็มเบอะ เดอะ ซิกส์ ไนนทีน ไนนทิฟอ
เดือนธันวาคม วันที่ 6 ปี 2537 (6 ธันวาคม 2537)

41. Do you have a mobile phone?
ดู ยู แฮฝ อะ โม๊ไบล โฟน
คุณ มี โทรศัพท์ มือถือ ใช่ไหม

42. Yes, I do.
เย็ส ไอ ดู
ใช่ ฉัน มี

43.What’s your phone number?
ว็อทส ยัว โฟน นั๊มเบอะ
เบอร์ โทรศัพท์ ของคุณ คือ อะไร

44. 086 123 3129
โอ เอท ซิกส วัน ทู ธรี ธรี ทู วัน ไนน
ศูนย์ แปด หก หนึ่ง สอง สาม สาม หนึ่ง สอง เก้า

45.What nationality are you?
ว็อท แน๊ชแน็ลเลอะทิ อา ยู
คุณ คือ สัญชาติ อะไร (คุณมีสัญชาติอะไร)

46. I’m American.
ไอม อะเม๊ริเคิน
ผม คือ สัญชาติอเมริกัน (ผมมีสัญชาติอเมริกัน)

47. What’s your nationality?
ว็อทส ยัว แน๊ชแนลเลอะทิ
สัญชาติ ของ คุณคือ อะไร

48. I’m English.
ไอม อิ๊งลิช
ฉัน คือ สัญชาติอังกฤษ (ฉันมีสัญชาติอังกฤษ)

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับถามตอบสิ่งที่ชื่นชอบ

ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจําวัน

ประโยคถามตอบสิ่งที่ชื่นชอบ ก็จะเป็นการถามเกี่ยวกับ บุคคล สิ่งของ กิจกรรมต่างๆที่ชื่นชอบ เช่น นักร้อง สี กีฬา ผลไม้ เป็นต้น  ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า Favourites นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 30 ประโยคด้วยกัน

49. Who is your favourite singer?
ฮู อิส ยัว เฟ็ฝเวอะริท ซิ๊งเงอะ
นักร้อง ที่ชื่นชอบ ของคุณ คือ ใคร (นักร้องคนโปรดของคุณคือใคร)

50. My favorite singer is Justin Bieber?
มาย เฟ็ฝเวอะริท ซิ๊งเงอะ อิส จั๊สติน บี๊เบอะ
นักร้อง คนโปรด ของฉัน คือ จัสติน บีเบอร์

51.I like Lady Gaga.
ไอ ไลค เล๊ดิ ก๊ากะ
ฉัน ชอบ เลดี้ กาก้า

52. Who is your favourite star?
ฮู อิส ยัว เฟ็ฝเวอะริท สตา
ดารา ที่ชื่นชอบ ของคุณ คือ ใคร (ดาราคนโปรดของคุณคือใคร)

53. I like Brad Pitt. And you?
ไอ ไลค แบรด พิท แอนด ยู๊
ฉัน ชอบ แบรด พิตต์ แล้ว คุณล่ะ

54. My favourite is David Beckham.
มาย เฟ็ฝเวอะริท อิส เด๊วิด เบ็คแฮม
คนที่โปรดปราน ของฉัน คือ เดวิด เบ็คแฮม

55. What kind of music do you like?
ว็อท ไคด ออฟ มิ๊วสิค ดู ยู ไลค
ดนตรี ชนิด อะไร ที่ คุณ ชอบ (คุณชอบดนตรีแนวไหน)

56. I like pop music.
ไอ ไลค พ็อพ มิ๊วสิค
ฉัน ชอบ ดนตรีแนวป็อป

57. I don’t like pop music. I like rock.
ไอ ด้นท ไลค พ็อพ มิ๊วสิค ไอ ไลค ร็อค
ฉัน ไม่ชอบ ดนตรี แนวป็อป ฉัน ชอบ แนวร็อก

58. What kind of food do you like?
ว็อท ไคด ออฟ ฟูด ดู ยู ไลค
อาหาร ชนิด อะไร ที่ คุณ ชอบ (คุณชอบอาหารชนิดไหน)

59. I like chicken.
ไอ ไลค ชิ๊คเคิน
ฉัน ชอบ ไก่

60. What’s your favorite food?
ว็อทส ยัว เฟ็ฝเวอะริท ฟูด
อาหาร ที่คุณ ชื่นชอบ คือ อะไร

61. My favorite food is steak.
มาย เฟ็ฝเวอะริท ฟูด อิส สเต๊ค
อาหาร ที่ชื่นชอบ ของฉัน คือ สเต็ก

62. What colour do you like?
ว็อท คั๊ลเลอะ ดู ยู ไลค
สี อะไร ที่ คุณ ชอบ (คุณชอบสีอะไร)

63. I like blue.
ไอ ไลค บลู
ฉัน ชอบ สีฟ้า

64. What’s your favorite color?
ว็อทส ยัว เฟ็ฝเวอะริท คั๊ลเลอะ
สี ที่คุณ ชื่นชอบ คือ อะไร

65.My favorite colour is white.
มาย เฟ็ฝเวอะริท คั๊ลเลอะ อิส ไวท
สี ที่ชื่นชอบ ของฉัน คือ สีขาว

66.What movie do you like?
ว็อท มู๊วิ ดู ยู ไลค
หนัง อะไร ที่ คุณ ชอบ (คุณชอบหนังเรื่องไหน)

67.  I like Harry Potter.
ไอ ไลค แฮ๊ริ พ็อทเทอะ
ฉัน ชอบ แฮรี่ พ็อตเตอร์

68. What’s your favorite movie?
ว็อทส ยัว เฟ็ฝเวอะริท มู๊วิ
หนัง ที่คุณ ชื่นชอบ คือ อะไร

69. Spider Man.
สไป๊เดอะ แมน
สไปเดอร์ แมน

70. What’s your favorite sport?
ว็อทส ยัว เฟ็ฝเวอะริท สปอท
กีฬา ที่ชื่นชอบ ของคุณ คือ อะไร

71. My favourite sport is football.
มาย เฟ็ฝเวอะริท สปอท อิส ฟุทบอล
กีฬา ที่ชื่นชอบ ของฉัน คือ ฟุตบอล

72. What sport do you like?
ว็อท สปอท ดู ยู ไลค
คุณ ชอบ กีฬา อะไร

73. I like golf.
ไอ ไลค กอฟ
ฉับ ชอบ กอล์ฟ

74. What animals do you like?
ว็อท แอ๊นเนอะเมิลส ดู ยู ไลค
สัตว์ อะไร ที่คุณ ชอบ (คุณชอบสัตว์ชนิดไหน)

75.  I like cats. Do you like cats?
ไอ ไลค แค็ทส ดู ยู ไลค แค็ทส
ผม ชอบ แมว คุณ ชอบ แมว ใช่ไหม

76.  Yes, I do.
เย็ส ไอ ดู
ใช่ค่ะ (ํฉัน ชอบ แมว)

77.  What kind of fruit do you like?
ว็อท ไคด ออฟ ฟรูท ดู ยู ไลค
ผลไม้ ชนิด อะไร ที่ คุณ ชอบ (คุณชอบผลไม้ชนิดไหน)

78. I like bananas.
ไอ ไลค บะน๊านัส
ฉัน ชอบ กล้วย

79. Do you like bananas?
ดู ยู ไลค บะนานั๊ส
คุณ ชอบ กล้วย ไหม

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับถามตอบความสามารถส่วนบุคคล

ประโยคภาษาอังกฤษง่ายๆ

ประโยคถามตอบความสามารถส่วนบุคคล ก็จะเป็นการถามว่าคุณมีความสามารถพิเศษอะไรบ้าง เช่น การพูดภาษาต่างประเทศ การร้องเพลง การเล่นดนตรี เป็นต้น ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า Special Ability นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 14 ประโยคด้วยกัน

80. Can you speak French?
แคน ยู สปีค เฟร็นช
คุณ สามารถ พูด ภาษาฝรั่งเศส ไหม (คุณพูดภาษาฝรั่งเศสเป็นไหม)

81. Yes, I can. I speak English and French.
เย็ส ไอ แคน ไอ สปีค อิ๊งลิช แอนด เฟร็นช
ใช่ ฉัน สามารถ (พูดได้) ฉัน พูด ภาษาอังกฤษ และ ภาษาฝรั่งเศส

82. How many languages can you speak?
ฮาว เม็นนิ แล๊งกวิจเจ็ส แคน ยู สปีค
คุณ สามารถ พูดได้ กี่ ภาษา

83. I can speak two languages; English and Chinese.
ไอ แคน สปีค ทู แล๊งกวิจเจ็ส อิ๊งลิช แอนด ไชนี๊ส
ฉัน สามารถ พูดได้ สอง ภาษา ภาษาอังกฤษ และ ภาษาจีน

84. Can you play the football?
แคน ยู เพล ฟุตบ๊อล
คุณ สามารถ เล่น ฟุตบอลล ไหม (คุณเล่นฟุตบอลเป็นไหม)

85. Yes, I can.
เย็ส ไอ แคน
ใช่ ฉัน สามารถ (เล่นเป็น)

86. Can you play football?
แคน ยู เพล ฟุตบ๊อล
คุณ สามารถ เล่น ฟุตบอล ไหม (เล่นฟุตบอลเป็นไหม)

87. No, I can’t play football. I can play golf.
โน ไอ แค๊นท ไอ แคน เพล กอฟ
ไม่ ฉัน ไม่สามารถ เล่น ฟุตบอล(เล่นฟุตบอลไม่เป็น) ฉัน สามารถ เล่น กอฟ (เล่นกอล์ฟเป็น)

88. Can you play the piano?
แคน ยู เพล เดะ พิแอโน๊
คุณ สามารถ เล่น เปียโน ไหม (คุณเล่นเปียโนเป็นไหม)

89. No, I can’t. I can play the violin.
โน ไอ แค้นท ไอ แคน เพล เดอะ ไว๊เออะลิน
ไม่ ฉัน ไม่สามารถ (เล่นไม่เป็น) ฉัน สามารถ เล่น ไวโอลิน (เล่นไวโอลินเป็น)

90. Can you play the guitar?
แคน ยู เพล เดอะ กิท๊า
คุณ สามารถ เล่น กีตาร์ ไหม (เล่นกีตาร์เป็นไหม)

91. Yes, I can play the guitar and the piano?
เย็ส ไอ แคน เพล เดอะ กิท๊า แอนด เดอะ พิแอ๊โน
ใช่ ฉัน สามารถ เล่น กีตาร์ และ เปียโน (เล่นกีตาร์และเปียโนได้)

92. Can you sing?
แคน ยู ซิง
คุณ สามารถ ร้องเพลง ไหม (คุณร้องเพลงเป็นไหม)

93. Yes, I can. And you?
เย็ส ไอ แคน แอนด ยู๊
ใช่ ฉัน สามารถ (ร้องเป็น) แล้ว คุณล่ะ

94. I can’t sing but I can dance.
ไอ ค้านท ซิง บัท ไอ แคน ด๊านซ
ฉัน ไม่สามารถ ร้องเพลง (ร้องไม่เป็น) แต่ ฉัน สามารถ เต้นรำ(เต้นรำเป็น)

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับถามตอบเกี่ยวกับครอบครัว

ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตประจําวัน

ประโยคถามตอบเกี่ยวกับครอบครัว ก็จะเป็นการถามข้อมูลเกี่ยบกับบุคคลในครอบรัว  เช่น ในครอบครัวมีกี่คน มีพี่น้องกี่คน เป็นต้น ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า Family นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ประโยคด้วยกัน

95. How many people are there in your family?
ฮาว เม็นนิ พี๊เพิล อา แด อิน ยัว แฟ๊มลิ
ใน ครอบครัว ของคุณ มี กี่ คน

96. There are five people. What about you?
แด อา ไฟฝ พี๊เพิล ว็อท อะเบ๊า ยู
มี ห้า คน แล้วคุณล่ะ

97. There are three people in my family.
แด อา ธรี พี๊เพิล อิน มาย แฟ๊มลิ
มี สาม คน ใน ครอบครัว ของฉัน

98. How many brothers and sisters do you have?
ฮาว เม็นนิ บรั๊ดเดอส แอนด ซิ๊สเตอส ดู ยู แฮฝ
คุณ มี พี่ชายน้องชาย และ พี่สาวน้องสาว กี่คน

99. I have one sister and two brothers.
ไอ แฮฝ วัน ซิสเตอะ แอนด ทู บรั๊ดเดอส
ฉัน มี พี่สาวน้องสาว หนึ่งคน และ พี่ชายน้องชาย สองคน

100. Do you have any brothers or sisters?
ดู ยู แฮฝ เอ็นนิ บรัดเดอส ออ ซิ๊สเตอส
คุณ มี พี่ชายน้องชาย หรือ พี่สาวน้องสาว บ้างไหม

101. Yes, I have one brother.
เย็ส ไอ แฮฝ วัน บรั๊ดเดอะ
ใช่ ผม มี พี่ชายน้องชาย หนึ่งคน

ประโยคภาษาอังกฤษสำหรับถามตอบทั่วไป

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

ประโยคถามตอบทั่วไป ก็จะเป็นการถามทั่วๆไปไม่จำกัด  ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า General Topics นั่นเอง มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 7 ประโยคด้วยกัน

102. What do you do after school?
ว็อท ดู ยู ดู อ๊าฟเทอะ สกูล
คุณ ทำ อะไร หลังจาก เลิกเรียน

103. I play football.
ไอ พเล ฟุทบอล
ผม เล่น ฟุตบอล

104. what do you do after work?
ว็อท ดู ยู ดู อ๊าฟเทอะ เวิค
คุณ ทำ อะไร หลังจาก เลิกงาน

105. I read books.
ไอ รีด บุคส
ฉัน อ่าน หนังสือ

106. How often do you play football?
ฮาว อ๊อฟึน ดู ยู เพล ฟุ๊ทบอล
คุณ เล่น ฟุตบอล บ่อยแค่ไหน

107. I play football twice a week. And you?
ไอ เพล ฟุ๊ทบอล ไทว๊ซ อะ วีค
ผม เล่น ฟุตบอล สองครั้ง ต่อ สัปดาห์

108. I don’t play football.
ไอ ด๊น เพล ฟุ๊ทบอล
ฉันไม่เล่นฟุตบอล

เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับ ประโยคภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน คิดว่าถ้าใครเรียนจนจบทั้ง 108 ประโยคแล้ว คิดว่าสามารถที่จะพูดภาษาอังกฤษได้ในระดับหนึ่งแน่นอน เพราะประโยคที่นำมาเสนอ เป็นประโยคง่ายที่ใช้กันในชีวิตประจำวัน

ขอ 5 ดาวให้บทเรียนด้วยครับผม…

คลิกดาวดวงที่ขวามือสุดเลยครับครับ…

Average rating 4.4 / 5. Vote count: 658

ยังไม่มีใครให้ดาว คุณคือคนแรก….

[Update] เทคนิคเขียนภาษาอังกฤษ ให้เป๊ะเหมือนฝรั่งเขียนเอง!(ไม่ยากอย่างที่คิด คุณก็ทำได้) | แนะนําที่เรียนภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

พูดถึงการเขียน แม้จะเป็นภาษาไทย ก็ยากแล้วสำหรับหลายๆ คน และถ้าอยู่ดันในสถานการณ์ที่ต้อง เขียนภาษาอังกฤษ ล่ะ เราจะทำยังไงดีนะ? 

ถ้าคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์นี้และรู้สึกไม่มั่นใจกับการเขียน วันนี้เรามีตัวช่วยดีๆ มาฝากกันค่ะ

ไม่ว่าคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เขียน Essay เขียนเรียงความ เขียนบทความ เขียนอีเมล เขียนจดหมาย เขียน Landing Page เขียนขายของ เรามี Tips ดีๆ มาฝากที่สามารถประยุกต์ได้หลากหลายค่ะ

ก่อนอื่นขอแนะนำตัวซักนิดนึงนะคะ ตัวเรานั้นเรียนโรงเรียนไทยมาทั้งชีวิต และยังไม่เคยมีโอกาสได้ไปเรียนหรือใช้ชีวิตในต่างประเทศนานๆ มาก่อน แต่เพราะมีสิ่งที่อยากทำหลายอย่าง ที่ผ่านมาเคยทำโปรเจกต์ร่วมกับชาวต่างชาติ เขียนข่าว เขียนบทความภาษาอังกฤษ และล่าสุดก็ได้ร่วมก่อตั้ง Justoneclub.com เป็นเว็บไซต์ที่ขายสินค้าสำหรับคนที่รักการพัฒนาตัวเอง และตั้งเป้าขยายกลุ่มลูกค้าในหลากหลายประเทศทั่วโลก

ที่สำคัญคือไม่ยากอย่างที่คิด เพราะสมัยนี้มีเครื่องมือและเทคโนโลยีมากมาย ส่วนใหญ่เริ่มต้นใช้งานได้ฟรีด้วยค่ะ บทความนี้จะเน้นแนะนำเครื่องมือสำคัญๆ ที่มีประโยชน์ น่าเชื่อถือ ใช้แล้วช่วยเราได้เยอะมากๆ

แนะนำเครื่องมือช่วยเขียนภาษาอังกฤษ

เครื่องมือช่วยตรวจเช็คแกรมม่าและการสะกดคำ

Grammar หรือ ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่คนไทยเรียนมากันเยอะที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะเขียนได้อย่าง Perfect หมดจดไม่มีที่ติ บางครั้งเราทราบแต่ก็อาจจะเผลอสะกดผิดบ้าง เช่น ลืมเติม s ต่อท้าย verb

Grammarly ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีเวอร์ชันใช้งานฟรี และรองรับการใช้งานบนหลากหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชัน..

  • Native app บนเครื่อง Mac

  • Add-in สำหรับโปรแกรม Microsoft Office บน Windows

  • Web application สามารถใช้งานได้เลยบนเว็บบราวเซอร์ ไม่จำกัด OS

หน้าตาของโปรแกรมจะเป็นดังภาพนี้

เขียนภาษาอังกฤษ เช็คแกรมมาร์ grammarly

Grammarly มันสามารถช่วยเช็คแกรมมาร์ให้เรา พร้อมแนะนำวิธีแก้ไขให้ เราสามารถเขียนเอกสารในโปรแกรม หรือจะ Import ไฟล์ Word (.docx) เข้าไปก็ได้ แล้วมันก็จะช่วยเช็คให้ว่าเราพลาดตรงไหนบ้าง พร้อมบอกเราว่าต้องปรับยังไง รูปด้านล่างคือตัวอย่างผลลัพธ์หลังจากที่เราอัปโหลดไฟล์ Press Release ที่เราเคยเขียนใน Microsoft Word เข้าไป

use-grammarly-for-techsauce-press-release

ตามรูปคือ มันช่วยบอกเราว่าเรามีจุดที่ลืมเติม s อยู่ และมีจุดที่ลืมเติมคำนำหน้า ในที่นี้โปรแกรมช่วยแนะนำให้ด้วยว่า ควรใช้คำว่า the

นอกจากการแปะข้อความ หรืออัปโหลดไฟล์แล้ว อีกเรื่องสำคัญที่อยากชี้คือ Grammarly ยังมีเวอร์ชัน Google Chrome Extension และ Firefox Add-on ด้วยนะ ซึ่งความหมายคือ มันจะช่วยเช็คแกรมมาร์ให้ทุกๆ การพิมพ์ของเราเวลาเราเล่นอินเทอร์เน็ตเลย!

ตัวอย่างนี้คือการติดตั้งบน Chrome และกำลังเปิดหน้าอีเมลเอาไว้อยู่ มันจะถามเราว่าอยากให้เช็คข้อความในอีเมลไหม? นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นเหมือน Dictionary อังกฤษ-อังกฤษ ช่วยแสดงผล Definition และ Synonym ในตัวได้อีกด้วย

grammarly-on-browser

 

Shifu แนะนำ

การติดตั้งบน Browser นั้นสะดวกมากๆ เพราะแปลว่าไม่ว่าจะเป็นอีเมล เขียนสเตตัสเฟซบุ๊ก

เขียนบล็อก

บน

WordPress

มันก็จะตามอ่านและให้คำแนะนำกับเรา แน่นอนว่ามันสะดวกมาก แต่ก็อาจจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวของข้อมูลไปบ้าง แม้ใน Policy จะระบุว่าเขาจะไม่แชร์ข้อมูลให้ปาร์ตี้ที่สามก็ตาม แต่ตัวโปรแกรมเอง ก็มีการเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ เพื่อการปรับปรุง Product อันนี้ก็แล้วแต่ทางผู้ใช้จะลองพิจารณาดูค่ะ

เครื่องมือช่วยเช็คความอ่านง่ายของการเขียน

บางทีเรื่องที่คนกังวลอาจจะไม่ใช่เรื่องของ Grammar แต่อาจจะเป็นเรื่องการสื่อสารให้ตรงประเด็น ถ้าคุณเขียนแล้วประโยคออกมางงๆ เช่น รูปประโยคซับซ้อนเกินไป เครื่องมืออีกตัวที่คุณใช้ช่วยได้คือ Hemingway สามารถใช้งานได้เลยในเว็บไซต์ หรือจะโหลด Desktop App ก็ได้

ภาพด้านล่างนี้สาธิตการใช้งาน Hemingway มันสามารถไฮไลท์บอกได้ว่าการเรียบเรียงให้ง่ายต่อการอ่าน (Readability) ของข้อความของเรานั้น ทำได้ดีแค่ไหน รวมถึงช่วยไฮไลท์จุดที่คุณควรลองดูเพื่อปรับให้มันง่ายขึ้น โดยเฉพาะประโยคที่ได้รับไฮไลต์สีเหลืองและสีแดง คือประโยคที่ค่อนข้างเป็นรูปประโยคที่ซับซ้อน 

เครื่องมือนี้จึงค่อนข้างเหมาะกับงานเขียนบทความออนไลน์ในภาษาอังกฤษทั่วๆ ไป ซึ่งความง่ายในการอ่านเป็นเรื่องสำคัญ มากกว่าความสวยหรูของประโยค แต่เราอยากบอกว่า ไม่ต้องถึงกับยึดตามคำแนะนำมากก็ได้ เพราะมันจะแนะนำให้เราไม่ใส่ Adverb หรือ Passive voice เยอะเกินไป (ซึ่งเขาถือว่ามันทำให้ประโยคซับซ้อน แต่จริงๆ แล้วสองอย่างนี้ก็มีประโยชน์มากในการแต่งประโยค) โดยส่วนตัวเรามองว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับใช้ช่วยเช็คคร่าวๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ

คิดชื่อเรื่องบทความภาษาอังกฤษดีๆ ไม่ออก

“ชื่อดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” พวกเราได้เคยเขียนแนะนำการตั้งชื่อบทความไปตั้งแต่บล็อกแรกๆ การตั้งชื่อสำคัญมากเพราะมันเป็นสิ่งแรกที่คนเห็น แต่ก็ยากไม่ใช่เล่นเลย แล้วทีนี้ถ้าเราต้องเขียนชื่อเป็นภาษาอังกฤษล่ะ ถามว่ามีอะไรที่พอเข้ามาช่วยเราได้บ้างไหม ข่าวดีคือมีค่ะ และลิงก์เหล่านี้คือเครื่องมือที่สามารถใช้ช่วยได้

Shifu แนะนำ

อันที่จริงแล้วเครื่องมือเหล่านี้ทำขึ้นเพื่อช่วยนักเขียนที่เริ่มคิดไม่ออกว่าจะเขียนอะไรดี ไว้ใช้หาไอเดียในการเขียนบล็อกได้ ซึ่งคุณผู้อ่านเองก็สามารถใช้ในการหาไอเดียได้เช่นกัน แถมเมื่อได้ไอเดียแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังช่วยให้ได้เห็นไกด์ไลน์ หรือสไตล์การตั้งชื่อบทความ ที่นักเขียนสากลนิยมใช้อีกด้วย

บทความภาษาอังกฤษ

ภาพด้านบนนี้แสดงตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จาก HubSpot‘s Blog Topic Generator เมื่อขอไอเดียในการเขียนเรื่อง Inbound Marketing หรือ Blogging ก็จะเห็นสไตล์การตั้งชื่อบทความภาษาอังกฤษ ว่านิยมเขียน Copywriting กันในรูปแบบไหน

ช่วยเขียน Rewrite หรือ Paraphrase เพื่อให้สละสลวยขึ้น

หลายๆ ครั้ง ความยากในการสื่อสารไม่ใช่เรื่องความถูกผิดของภาษา แต่เป็นเรื่องระดับภาษา ว่าที่เขียนมามันสละสลวยไหม ภาษาออกมาเป็นโทนที่เราต้องการสื่อสารหรือเปล่า โดยส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องยากยิ่งกว่า ถูก หรือ ผิด เยอะเลยค่ะ

โชคดีที่ในปัจจุบัน มีเทคโนโลยี AI ช่วยเขียนคอนเทนต์ภาษาอังกฤษ ออกมาเป็น Products ให้เราเลือกใช้ ซึ่งเจ้า AI เหล่านี้สามารถช่วยแนะนำการเขียนให้กับเราได้ค่ะโดยตัวที่อยากจะขอแนะนำ มีชื่อว่า Quillbot เป็นอีกตัวที่สามารถเริ่มต้นใช้ได้เลยฟรี

จากหน้าจอเมนู Paraphraser นี้ จะเห็นว่าเราสามารถเลือก Mode การเขียนได้แบบ เช่น โหมดแบบครีเอทีฟ โหมด Formal (เป็นทางการ) โหมดเขียนให้สั้นเอง (เดิมเขียนยาวไป อยากย่อ) โหมดเขียนยาวๆ (เดิมเขียนสั้นไป อยากขยาย) เป็นต้น

ช่วยแนะนำการเขียนตามวัตถุประสงค์

อีกหนึ่งความโหดของ AI Content Writer ในปัจจุบัน คือการพัฒนาให้ช่วยแนะนำการเขียนตามวัตถุประสงค์ได้ ซึ่งเดี๋ยวเราจะนำมารีวิวให้ดู พร้อมๆ กับแชร์เทคนิคการเขียนตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ในหัวข้อถัดไปให้ด้วยค่ะ

แชร์เทคนิคการเขียนภาษาอังกฤษ

เครื่องมือส่วนใหญ่ที่ได้แนะนำไป สามารถประยุกต์ใช้งานได้หลายรูปแบบ ในขณะเดียวกันก็มีเครื่องมือแบบเฉพาะกิจด้วย  และนอกจากเรื่องเครื่องมือแล้ว ความจริงการรู้จักและเข้าใจ “หลักการสื่อสาร” ที่เหมาะสมกับรูปแบบนั้นๆ คืออีกหัวใจที่สำคัญไม่แพ้เรื่องทักษะด้านภาษาโดยตรงค่ะ

เขียนเมลภาษาอังกฤษ

ปัจจุบัน Email provider ต่างๆ เริ่มมีฟังก์ชัน Quick reply หรือฟังก์ชันแนะนำการเขียนมาให้ใช้งาน ถ้าใครใช้ Gmail อยู่ จะพบว่าเมื่อเราเริ่มพิมพ์ลงไป มันจะสามารถแนะนำคำหรือประโยคที่เป็นที่นิยมเขียนมาให้ด้วย (เรียกว่า Smart compose feedback) หลังจากที่ลองใช้มาสักระยะ คิดว่า AI นี้ของ Gmail เก่งใช้ได้เลยค่ะ แนะนำภาษามาได้ตรงกับรูปแบบภาษาที่นิยมใช้เขียนในอีเมลกัน

อย่างเช่นช่วงที่ขึ้นต้นประโยคแรกๆ ในอีเมล คนนิยมเขียนเพื่อตอบรับอีกฝ่าย เช่น ในที่นี้เขาแนะนำมาเป็น It’s good to hear from you.

หรือช่วงปิดท้ายอีเมล เมื่อมีคำว่า Look ขึ้นประโยคมา Gmail ก็เดาทางต่อว่าเราน่าจะอยากเขียนประโยคนี้

โดยรวมแล้วจึงทำให้การเขียนอีเมลง่ายและเร็วขึ้นค่ะ โดยปกติจะเราเองก็จะเขียนใน Gmail ลงไปเลย และตรวจสอบเพิ่มเติมด้วย Grammarly ต่ออีกหน่อย

Shifu แนะนำ

ความจริง Gmail มีฟีเจอร์ Check spelling ด้วยค่ะ ถ้าเข้าบน Desktop จะอยู่ในเมนูสามจุดด้านซ้ายล่าง ได้ลองใช้แล้ว พบว่าสามารถตรวจสอบการเขียนผิดได้เบื้องต้น แต่ยังตรวจได้ละเอียดไม่เท่า Grammarly เช่น การเช็คว่าคำนามนี้ ต้องต่อท้ายด้วย s หรือไม่ต้อง ด้วย ed หรือไม่ต้อง

อีกเรื่องที่อยากแนะนำเพิ่มเติมคือ แม้โปรแกรมต่างๆ จะช่วยเช็คและแนะนำได้เบื้องต้น แต่การเขียน Effective email นั้น เป็นเรื่องที่ผู้เขียนจะต้องเรียนรู้ตัวอย่างดีๆ เพิ่มเติมกันต่อด้วยนะคะ โดยปกติแล้วอีเมลควรเขียนด้วยรูปประโยคที่อ่านเข้าใจง่าย ไม่ต้องใช้ Complex sentence (ซึ่งใช้ Hemingway ช่วยดูได้ค่ะว่า Complex เกินไปหรือเปล่า) อีเมลควรชัดเจนว่าอยากบอกอะไร Next step คืออะไร เป็นต้น

การเขียนบทความภาษาอังกฤษ

จริงอยู่ที่ AI Content Writer เหล่านี้รองรับความสามารถในการเขียนบทความแล้ว โดยสามารถนำเสนอได้ถึงระดับไอเดียหัวข้อบทความ รวมไปถึง Outline ก็ทำได้โอเคเลย อย่างในเคสนี้คือเราแค่ใส่ประเด็นลงไปว่า ‘English Writing’ โปรแกรมก็แนะนำชื่อบทความและ Outline มาเสร็จสรรพ

ทั้งนี้ เราไม่แนะนำวิธีนี้เท่าไรนะคะ เราคิดว่าดูเป็นไอเดียได้ แต่คนเขียนควรจะเป็น Leader ที่กำหนดทิศทางด้วยตัวเอง โดยปกติเราจะเขียนบทความขึ้นมาด้วยตัวเอง แล้วใช้โปรแกรมในการช่วยตรวจสอบ ช่วย Paraphrase บางประโยค

อีกเรื่องคือ บางคนชอบเขียนบทความเป็นภาษาไทยแล้วเอาไปแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วย Google Translate จากนั้นก็อาจจะใช้โปรแกรม Paraphrase ต่อ วิธีนี้ก็ทำได้ แต่โดยส่วนตัวยังเชียร์ให้คิดและเขียนด้วยตัวเองเป็นภาษาอังกฤษเลยแต่แรก จะดีที่สุดค่ะ

Shifu แนะนำ

ถ้าคุณยังเป็นมือใหม่ในเรื่องการเขียนบทความ อาจเริ่มต้นฝึกเขียนบทความในภาษาที่ตัวเองถนัดก่อน และถ้าอยากเรียนรู้วิธีการและเทคนิคการเขียนบทความตั้งแต่มือใหม่จนฝึกเป็นมืออาชีพ ขอแนะนำ คอร์สเรียน Content Writing for Beginners คอร์สนี้ และ คอร์ส Digital Copywriting สำหรับการเขียนก็อปปี้ค่ะ

การเขียน Essay หรือเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ

สำหรับการเขียน Essay หรือ เรียงความ คำแนะนำจะไม่ต่างกับการเขียนบทความมากนัก แต่ขอให้บริบทเพิ่มเติมคือ ในการเขียนบทความเพื่อลงในบล็อกต่างๆ ความง่ายในการอ่านจะมีความสำคัญ ในขณะที่เรียงความหรือ Essay มักจะใช้ในเชิงวิชาการ เช่น เพื่อการสมัครเรียนต่อ อาจต้องการรูปประโยคที่สละสลวยและโชว์ความ Advanced English มากกว่า

ในบริบทที่เราเคยเขียน Essay จริงจังเพื่อสอบชิงทุน เราจะไม่ได้ใช้เพียงแค่ตัวเอง+AI Tools แต่จะขอรับ Feedback จากเพื่อนๆ คนอ่านและผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมด้วย

เขียน Copywriting หรือข้อความเพื่อการตลาด

ในบรรดา Use Case ทั้งหมด โดยส่วนตัวคิดว่าอันนี้ยากที่สุดสำหรับคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา เพราะ Copywriting เป็นเรื่องของการกระตุ้นความสนใจ ซึ่งความถูกต้องของภาษาไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ประเด็นคือความน่าสนใจ เรายังคงใช้หลักการเดียวกันกับการเขียน Digital Copywriting ภาษาไทย ตามที่เราเองก็เคยทำคอร์สเรียนสอน แต่สิ่งที่ทำเพิ่มก็คือมีการใช้ AI Writer ช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยเฉพาะใน Use Case ที่ต้องการนำไปใช้งานจริง

Shifu แนะนำ

โปรแกรมที่ชื่อ Writesonic เป็นตัวที่เราพบว่ามีฟีเจอร์เพื่อการเขียนขายของและเขียนเพื่อการตลาดเยอะดีค่ะ เลือกได้ว่าต้องการเขียนสำหรับ Channel ไหน เลือกได้ทั้ง Facebook Ads, Google Ads, LinkedIn Ads, Ecommerce Copy, YouTube Copy เป็นต้น

นอกจากนี้ที่ขาดไม่ได้คือการศึกษาดูงานต่างๆ เพราะก็อปปี้เป็นเรื่องของความครีเอทีฟ เราไม่ได้เชื่อใจโปรแกรมอย่างเดียว 100% แต่ Research ดูคนอื่นๆ ที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกันว่าเขาเขียนกันประมาณไหน กลุ่มเป้าหมายของเราใกล้เคียงกันกับใคร เป็นต้น

เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติม

ใจเย็นๆ ค่อยๆ ฝึกที่ละสไตล์

แม้ว่าเราจะเคยมีประสบการณ์เขียนบทความสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษก่อนหน้ามาบ้างแล้ว แต่เราก็ยังคงใช้เวลาปรับตัวไม่น้อยตอนเราเริ่มต้นเขียนบทสัมภาษณ์สไตล์แบบไม่เป็นทางการ เรายังไม่ชินกับแนว Lifestyle (สำหรับภาษาอังกฤษ) เพราะเดิมทีที่ประสบการณ์จากรั้วมหาวิทยาลัย จะเน้นสาย Acedemic writing มากกว่า ตอนนั้นเราจึงต้องปรับตัวนิดนึง อ่านบล็อกแนวไลฟ์สไตล์มากขึ้น

ตอนที่ต้องเขียนแนว PR ก็เช่นกัน เราต้องเรียนรู้ใหม่เยอะมาก มันจะใช้เวลาหน่อย แต่ถ้าฝึกเรื่อยๆ คุณจะเก่งขึ้นจริงๆ นะ

ฝึกให้ครบ ฟัง พูด อ่าน เขียน ในชีวิตประจำวัน

ถึงแม้งานของเราจะเน้นที่การเขียนเป็นหลัก แต่เราก็ยังพบว่าการฝึกฟังและพูดนั้นมีส่วนช่วยด้วย หลักๆ แล้วมันช่วยให้เรา “คิดเป็นภาษาอังกฤษ” มากขึ้น นั่นเอง คอนเทนต์ที่ทำมาเพื่อการฟัง เพื่อการพูด การอ่าน การเขียน ก็มีความแตกต่างกันไป เพิ่มความหลากหลายของสไตล์เข้าไปในสมองมากยิ่งขึ้น

เริ่มต้นที่ไดอารี่สั้นๆ

จุดเริ่มต้นของการเป็นนักเขียนของเรา อันที่จริงแล้วมันคือสเตตัสบน Facebook นั่นเอง ซึ่งเราเขียนแบบกึ่งไดอารี่ เมื่อเราเปรียบเทียบสเตตัสเก่าๆ กับสเตตัสใหม่ๆ เราก็เห็นว่าตัวเองเขียนดีขึ้นจริงๆ  หากอยากฝึกภาษาอังกฤษก็สามารถลองเริ่มจากสเตตัสภาษาอังกฤษก็ได้นะ หรือจะเขียนเก็บไว้ดูเอง เป็นไดอารี่สั้นๆ ก็ได้ค่ะ Seth Godin ก็เป็นคนนึงที่เขียนบล็อกแล้วมีคนติดตามเยอะมาก แม้ว่าบล็อกของเขาจะเป็นสไตล์ไดอารี่สั้นๆ ก็ตาม

หาคนช่วยตรวจ

วิธีการจัดการกับความไม่มั่นใจที่ดีที่สุด คือการหาคนช่วยตรวจ ถ้าให้ดี ควรเป็นคนที่สามารถแลกเปลี่ยนกันและกันได้ คือ คุณขอเขาช่วยเล็กๆ น้อยๆ  และเขาก็ขอคุณช่วยบางอย่างเล็กๆ น้อยๆ เช่นกัน

แต่ก่อนจะหาคนตรวจ ให้อากู๋ Google ช่วยตรวจให้ด้วยก็ได้ แทบทุกครั้งที่เขียน เรามักจะมีคำที่ไม่แน่ใจเรื่องวิธีการใช้ ซึ่งเราก็สามารถศึกษาการใช้คำเหล่านี้ก่อน โดยการเซิร์จอ่านเอาได้ อย่างเรื่อง Preposition มักจะเป็นเรื่องที่คนไทยใช้ผิดบ่อย เช่น Interested ต้องใช้คู่กับ in; I am interested in marketing ไม่ใช่ I am interested about marketing เป็นต้น

ทดสอบภาษาอังกฤษ

สำคัญคือต้อง ‘รู้’ ว่าตัวเอง ‘ไม่รู้’ อะไร

สำคัญสุดคือตัวคอนเทนต์

ภาษา คือเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสาร และเครื่องมือน้ันมีไว้ให้ใช้งาน ไม่ได้มีไว้ให้กลัว

ภาษาเป็นเครื่องมือนึง แต่สาระจริงๆ คือตัวคอนเทนต์ ครั้งหนึ่งเราจะเขียนบทความเกี่ยวกับซอฟแวร์สัญชาติญี่ปุ่นตัวหนึ่ง เราหาข้อมูลภาษาอังกฤษไม่ได้เลย จึงตัดสินใจหาเป็นภาษาญี่ปุ่น แล้วใช้ Google Translate ช่วยแปลเอา ผลลัพธ์การแปลอาจจะยังไม่ใช่ภาษาอังกฤษที่สมบูรณ์เพอร์เฟกต์ แต่เมื่อเราได้อ่านแล้ว เราก็พึงพอใจกับเนื้อหา และพบว่าบทความนี้มีคุณค่ากับเรา ในการทำงานเองก็เหมือนกัน ถ้าเชื่อว่าตัวเองมีเนื้อหาที่ดี ก็ลงมือเลย ภาษาเดี๋ยวค่อยๆ พัฒนากันไปได้

สรุป

บทความนี้เราเขียนโดยแบ่งเป็นเคสการใช้งานหลักๆ ที่หลายๆ คนต้องเจอในการเขียนภาษาอังกฤษ โดยเน้นการแนะนำโปรแกรมต่างๆ รวมถึงแนะนำความคิดเห็นเพิ่มเติมจากประสบการณ์ส่วนตัว ยังไงก็ตาม การเรียนภาษาอังกฤษและฝึกเขียนฝึกใช้บ่อยๆ ยังคงเป็นพื้นฐานความรู้ที่สำคัญมากๆ ที่เราไม่อยากให้ละเลยกัน

หวังว่าบทความจะมีประโยชน์เพื่อให้คุณพร้อมลุยตลาด International ไปด้วยกันนะคะ 🙂

ตาคุณแล้ว

หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว ขอให้คุณลองเริ่มต้นเขียนภาษาอังกฤษ เริ่มจาก Caption สเตตัสต่างๆ ไล่ไปสู่ไดอารี่ จนกระทั่งเขียนบทความภาษาอังกฤษได้ และอย่าลืมเข้าไปดูเครื่องมือต่างๆ ที่เราแนะนำและลองใช้ดูนะคะ

ใครที่ได้ลองเล่น ลองใช้ ลองทำตามแล้ว เป็นยังไงกันบ้างคะ? นำสิ่งที่คุณได้เรียนรู้หรือได้ลอง มาแชร์ความรู้ด้วยกันได้ที่คอมเมนต์ใต้บทความนี้เลยค่ะ 🙂

New call-to-action


เรียนพิเศษภาษาอังกฤษที่ไหนดี AUA ENGFINITY ครูพี่แอน


สวัสดีค่า คลิปนี้เราจะมาเล่าประสอบการณ์การเรียนภาษาที่เคยเรียน ว่าเป็นยังไง ไปรับชมกันได้เลยค่า
ใครเคยเรียนที่ไหนแล้วดี แนะนำกันได้นะคะ วางแผนหาที่เรียนเหมือนกันจ้า หวังว่าจะช่วยให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ได้ที่เรียนที่ต้องการเลยนะค้าา

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

เรียนพิเศษภาษาอังกฤษที่ไหนดี  AUA ENGFINITY ครูพี่แอน

ฝึกพูด แนะนำตัวภาษาอังกฤษ ประโยคสำเร็จรูป ง่ายๆ


💖 ถ้าอยากให้กำลังใจ มาสมัครสมาชิกกันนะครับ 💖
กดตรงนี้ 👉 https://www.youtube.com/channel/UCaiwEWHCdfCi23EYN1bWXBQ/join
การแนะนำตัวเองเป็นภาษาอังกฤษ ถามตอบข้อมูลส่วนตัวทั่วไป พร้อมแนะนำคนอื่น โดยฝึกพูดประโยคภาษาอังกฤษง่ายๆ ที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน ฝึกออกเสียง ฝึกฟัง วลีพื้นฐานสำคัญ
ดูประโยคเพิ่มเติมได้ที่
https://www.tonamorn.com/english/conversation/introduceyourself/
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ฟรี! คลิก: https://www.tonamorn.com/
แจกศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1,000 คลิก: https://www.tonamorn.com/vocabulary
สอน การแต่งประโยคภาษาอังกฤษ
https://www.tonamorn.com/learnenglish/writesentences/
เรียนภาษาอังกฤษ จากภาพสวยๆ บนอินสตาแกรม
https://instagram.com/ajtonamorn
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ, บทสนทนาภาษาอังกฤษ, ไวยากรณ์ แบบฝึกหัดพร้อมเฉลย และบทเรียนภาษาอังกฤษอีกมากมาย เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่พื้นฐาน จนถึงระดับสูง ฟรี 100%

ฝึกพูด แนะนำตัวภาษาอังกฤษ ประโยคสำเร็จรูป ง่ายๆ

เรียนออนไลน์วิชาภาษาอังกฤษ เรื่อง Watching birds สอนโดยคุณครูภาวิณี


เรียนออนไลน์วิชาภาษาอังกฤษ เรื่อง Watching birds สอนโดยคุณครูภาวิณี

เรียนออนไลน์วิชาภาษาอังกฤษ เรื่อง Watching birds สอนโดยคุณครูภาวิณี

มหากาพย์รีวิวที่เรียนพิเศษ Part III: วิชาภาษาอังกฤษ by: พี่พลอย mdcu76


มาแล้วๆ กับวิชาที่ 4 วิชาภาษาอังกฤษที่ทุกคนรอคอยย หวังว่าทุกๆคนจะได้ประโยชน์ไม่่มากก็น้อยจากคลิปนี้นะคะะ ยังไงฝากแนะนำฝากติชมกันด้วยนะคะะ
ฝากกดไลค์ กด subscribe ให้กันด้วยนะคะะ

มหากาพย์รีวิวที่เรียนพิเศษ Part III: วิชาภาษาอังกฤษ by: พี่พลอย mdcu76

แชร์เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษ ไม่ได้เรียนอินเตอร์ก็เก่งได้!📒💒


มาตามรีเควสคั้บ! คลิปนี้พยายามรวบรวมประสบการณ์/ทริคต่างๆที่เราใช้ฝึกภาษามาหมดเลย หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ💖🌈

🧑🏻‍💻😊 Edsy English made Easy! 😊🧑🏻‍💻
เรียนพิเศษภาษาอังกฤษ ตัวต่อตัวออนไลน์กับติวเตอร์ Young Gen คนไทยรุ่นใหม่ จาก สถาบันชั้นนำทั่วโลก
📣 ทดลองเรียนได้ที่: https://bit.ly/2RcOLZy

💡 20 นาที ทดลองเรียนได้ที่บ้าน ตามเวลาที่สะดวก ไม่มีค่าใช้จ่ายและข้อผูกมัด
💡บทเรียนเสมือนคลาสจริงครอบคลุมทั้งพื้นฐาน และทักษะ หลักสูตรตามมาตรฐาน Cambridge English และ CEFR (Common European Framework)
💡พร้อมรับ Feedback และผลระดับภาษาหลังทดลอง
thanks for watching!
IG ; @kiwisarxh
contact for work : dm IG @kiwisarxh
🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍

แชร์เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษ ไม่ได้เรียนอินเตอร์ก็เก่งได้!📒💒

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ แนะนําที่เรียนภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *