คุณรู้สึกว่าเปลือกตามันหนักขึ้น

สมาธิค่อยๆ ลดลง ลดลง…

ความสนใจใคร่รู้ในภาษาอังกฤษมัน มัน…มันไปแล้ว!

ทำไงดีเรียนก็ต้องเรียน เบื่อก็เบื่อ ง่วงก็ง่วง

ใจเย็นๆ …คุณก็แค่ต้องมีอะไรสนุกๆ ให้ได้เล่นในแล็ปท็อปแค่นั้นเอง

แต่ก็แน่ล่ะ อยากจะใช้ซอฟต์แวร์เรียนภาษาเจ๋งๆ มันก็ต้องใช้คอมที่เจ๋งพอๆ กัน

อะไรที่มันดีๆ ลูกเล่นเยอะๆ มันต้องใช้แมคบุ๊ค หรืออะไรที่ต้องลงทุนขนาดนั้นเสมอ–จริงมั้ย?

ไม่จริง!!

มีโปรแกรม PC ราคาเบาๆ เยอะแยะเลยล่ะ ที่แม้แต่คอมธรรมดาๆ ก็มีดีพอที่จะตอบสนองทุกความต้องการในการเรียนรู้ของคุณได้

ในบทความนี้ เราจะไปดูเว็บแอปและเดสก์ท็อปแอปบางตัวที่คุณจะต้องมีไว้เป็นออปชั่นเติมพลัง เพื่อให้ภาษาอังกฤษเป็นอะไรที่สดชื่น และเพิ่มลูกเล่นใหม่ๆ ในการฝึกฝนให้กับคุณ

Download: This blog post is available as a convenient and portable PDF that you
can take anywhere. Click here to get a copy. (Download)

ทำไมการใช้โปรแกรมเรียนภาษาอังกฤษบนพีซีถึงเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยม

โปรแกรมเรียนภาษากลายเป็นประเภทหนึ่งของซอฟต์แวร์ที่มีคุณลักษณะโดดเด่นมาก แถมโปรแกรมแต่ละตัวก็ยังเจ๋งกันไปคนละทางอีกต่างหาก บางตัวเน้นเรื่องการฝึกออกเสียง ในขณะที่บางตัวก็ให้น้ำหนักไปที่ไวยากรณ์มากกว่าตัวอื่นๆ แถมอีกหลายๆ ตัวยังใช้งานบนพีซีได้ดีอีกด้วย นั่นหมายความว่าถ้าคุณเป็นคนที่ชอบใช้พีซี มันก็ง่ายมากๆ ที่จะหาโปรแกรมดีๆ มาใช้พัฒนาทักษะของคุณให้ครบทุกด้านอย่างที่ต้องการ

คุณยังเรียนไม่จบใช่มั้ย? แล้วครูของคุณได้ใช้เทคโนโลยีในชั้นเรียนมากน้อยแค่ไหนล่ะ ไม่ว่าจะยังไงคุณสามารถใช้ซอฟต์แวร์เรียนภาษาอังกฤษให้เป็นประโยชน์กับการเรียนและการบ้านของคุณได้ คุณสามารถดึงความเครียดจากตำราทิ้งไป แล้วทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกไม่ต่างจากการเล่นกันเกมเลยทีเดียว มีโปรแกรมใหม่ๆ มากมายที่ออกแบบมาเพื่อให้คุณได้รับความบันเทิงจนลืมไปเลยว่าคุณกำลังเรียนอยู่ การบ้านของคุณจะเสร็จเรียบร้อยโดยที่คุณไม่ต้องเอาหัวไปจมอยู่กับตำราตลอดเวลา และนั่นเป็นเพราะว่าความสามารถในการเรียนรู้จะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อคุณใช้วิธีที่หลากหลายยังไงล่ะ

แม้ว่าคุณจะไม่สามารถออกเดินทางเพื่อฝึกภาษาได้ แต่ซอฟต์แวร์เรียนภาษาอังกฤษก็เป็นอีกทางหนึ่งให้คุณสัมผัสกับสิ่งเหล่านั้นได้ด้วยตัวคุณเอง บ่อยครั้งที่คุณจะได้พบกับบทเรียนเชิงโต้ตอบที่แม้จะไม่ใช่ผู้ช่วยตัวเป็นๆ แต่ก็ยังเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมสำหรับการฝึกฝนทั้งการพูดและการฟัง  หลายโปรแกรมยังสอนลึกไปถึงเรื่องของวัฒนธรรมทางภาษาอังกฤษด้วยซ้ำไป  ดังนั้นแม้ว่าคุณจะไม่สามารถเดินทางไปยังประเทศที่มีภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ได้ แต่คุณก็ยังสัมผัสกับผู้คนที่พูดภาษาอังกฤษอย่างใกล้ชิดได้ไม่แพ้กัน

ตื่น ตื่น! 10 พีซีซอฟต์แวร์เรียนภาษาอังกฤษที่จะทำให้คุณสดชื่นขึ้น

ทุกวันนี้มีคนอยู่ไม่น้อยเลยที่นิยมใช้แอปพลิเคชันออนไลน์มากกว่าการใช้โปรแกรมที่จะต้องติดตั้งลงในคอมพิวเตอร์ ดังนั้นในลิสต์นี้เราจึงได้รวบรวมแอปทั้งสองประเภทให้คุณได้เลือกใช้เป็นออปชั่นเติมพลังกัน บางตัวสามารถใช้ได้ทั้งบนพีซีและแมค และบางตัวยังสามารถใช้บนอุปกรณ์พกพาได้อีกด้วย แต่ไม่ว่าจะยังไงทั้งหมดใช้งานบนพีซีได้!

แม้โปรแกรมบางตัวจะมีราคาแต่มันก็ขึ้นอยู่กับฟีเจอร์ที่คุณต้องการ บางตัวก็ใช้งานได้ฟรีๆ แต่ที่ต้องไม่ลืมคือที่โรงเรียนหรือห้องสมุดของคุณอาจจะมีโปรแกรมที่ไม่ฟรีให้คุณได้ใช้ฟรีๆ ได้เหมือนกัน

ค่าใช้จ่าย: ฟรี

คำอธิยาย: Learn Speak English เป็นแอปจากค่ายไมโครซอฟท์ ซึ่งนอกจากจะใช้งานบนพีชีได้แล้วยังใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ของแอนดรอยด์ได้อีกด้วย Learn Speak English จะเป็นผู้ช่วยที่ดีในการฝึกออกเสียงภาษาอังกฤษให้กับคุณ

ความยอดเยี่ยม: แม้ Learn Speak English จะเน้นการใช้สำเนียงแบบอังกฤษ แต่แบบฝึกหัดของโปรแกรมนี้ก็เป็นเครื่องมือฝึกฝนที่ดีมากๆ ไม่ว่าคุณกำลังเรียนสำเนียงไหนอยู่ก็ตาม แอปตัวนี้จัดเต็มด้วยการใช้ระบบวิเคราะห์และจดจำคำพูดของไมโครซอฟต์ ใช้แบบบันทึกเสียงจากสำนักพิมพ์ของมหาวิทยาลัยแคมบริดจ์ และใช้วิดีโอคู่มือที่สร้างโดยสำนักข่าวบีบีซี

ด้วยแบบบันทึกเสียงและวิดีโอประกอบในแต่ละตัวอย่างที่ให้มา คุณจะได้เรียนรู้วิธีการออกเสียงที่ถูกต้องในทุกคำพูด โปรแกรมนี้เน้นไปที่คำศัพท์สำหรับผู้เริ่มต้นและใช้งานง่ายมากๆ  นี่คือซอฟต์แวร์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับการเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษด้วยโปรแกรมเลยก็ว่าได้!

ค่าใช้จ่าย: ฟรี

คำอธิบาย: Hello English เป็นอีกหนึ่งแอปที่ดาวน์โหลดได้จากไมโครซอฟท์ และใช้งานได้ทั้งบนแอนดรอยด์โมบายและบนพีซีเหมือนกับ Learn Speak English  แอปตัวนี้เป็นที่แพร่หลายมากทั้งในผู้เรียนภาษาอังกฤษเองหรือแม้แต่อาจารย์สอนภาษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่  นี่คืออีกหนึ่งแอปฟรีสำหรับเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษด้วยซอฟต์แวร์ที่ดีมากๆ

ความยอดเยี่ยม: เมื่อฝึกพูดด้วย Learn Speak English เราก็มาต่อยอดด้วย Hello English เพื่อฝึกไวยากรณ์และฝึกสร้างคำศัพท์เพิ่มเติมกัน บทเรียนของ Hello English มีมากถึง 475 บทเรียน และคุณสามารถดาวน์โหลดมาเรียนแบบออฟไลน์ได้ นอกจากนั้นยังมีดิกชันนารี เกมฝึกภาษา และยังสามารถแชทกับครูสอนภาษาตัวเป็นๆ ได้อีกด้วย

ค่าใช้จ่าย: ทดลองใช้ฟรี 15 วัน, 10-30 เหรียญต่อเดือน

คำอธิบาย: FluentU ให้คุณได้เรียนภาษาอังกฤษผ่านวิดีโอภาษามนุษย์ปุถุชนอย่างมิวสิควิดีโอและคลิปภาพยนตร์ ด้วยออปชั่นที่หลากหลายและแผนการใช้งานที่ยืดหยุ่น FluentU จึงมีออปชั่นที่เหมาะสำหรับคุณที่สุดเสมอ

คุณไม่ต้องรอดาวน์โหลดบทเรียนเหมือนซอฟต์แวร์เรียนภาษาแบบเดิมๆ อีกต่อไป  FluentU ให้คุณสามารถเรียนรู้ผ่านวิดีโอออนไลน์ได้เลย แม้มันจะเป็นอินเตอร์แอคทีฟวิดีโอก็ตาม  แต่ถ้าคุณต้องการใช้สื่อการเรียนรู้แบบออฟไลน์ คุณสามารถดาวน์โหลดบทเรียนภาษาเสียงของแต่ละวิดีโอได้จากเว็บไซต์

ความยอดเยี่ยม: FluentU ใช้วิดีโอที่มีภาษาเป็นธรรมชาติมากๆ ไม่ว่าจะเป็นมิวสิควิดีโอ ตัวอย่างภาพยนตร์ วิดีโอเจ๋งๆ ของ YouTube เหมือนกับที่คุณแชร์ให้เพื่อนๆ นั่นแหละ  ทุกวิดีโอมาพร้อมกับคำอธิบายและแบบทดสอบที่จะทำให้คุณได้สนุกไปกับบทเรียนในแบบฉบับของคุณเอง ไม่ว่าจะเป็นการฝึกไวยากรณ์ เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ และบทสนทนาพื้นฐานอย่างที่คนคุยกันในชีวิตประจำวัน  ด้วยความบันเทิงเต็มรูปแบบของ FluentU คุณจะไม่รู้สึกเลยว่ากำลังเรียนด้วยสาระที่เข้มข้นอยู่

ค่าใช้จ่าย: ประมาณ 7 ถึง 19 เหรียญต่อเดือนซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทและระยะเวลาของแต่ละหลักสูตร แต่ถ้าคุณเป็นนักศึกษาคุณสามารถใช้ลิงก์ด้านบนเพื่อรับส่วนลด 10% สำหรับการลงทะเบียนได้เลย

คำอธิบาย: Rosetta Stone เป็นโปรแกรมในดวงใจของผู้คนมานานหลายปี ท่ั้งจัดตารางเรียนของคุณเองได้ ทั้งอุปกรณ์รองรับที่หลากหลาย และถ้าเน้นไปที่การสร้างคำศัพท์ด้วยบทเรียนเชิงโต้ตอบคุณก็ยิ่งต้องไม่พลาดโปรแกรมนี้

ความยอดเยี่ยม: Rosetta Stone ภาคภูมิใจในเทคโนโลยีการพูดของตัวเองมาก เทคโนโลยีนี้ได้รับความเชื่อถือและถูกนำไปใช้ในหลายหน่วยงานของรัฐบาล เช่น องค์การนาซ่าและกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา  Rosetta Stone ให้คุณได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมสนุกๆ มากมาย โดยเฉพาะบทความดีๆ คุณจะต้องหาอ่านจากโปรแกรมนี้ อีกทั้งกระบวนการฝึกฝนในโปรแกรมยังใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสุดๆ อีกต่างหาก

Instant Immersion อีกหนึ่งในโปรแกรมสร้างทักษะทางภาษาด้วยแบบฝึกหัดเชิงโต้ตอบที่หลากหลายมาก  แม้แต่ดีวีดีการเรียนรู้เชิงโต้ตอบก็ยังมีให้คุณได้ใช้ด้วย หรือจะดาวน์โหลดบทเรียนลงในอูปกรณ์เคลื่อนที่ก็ยังได้  และแน่นอนคุณสามารถใช้งานบนคอมพิวเตอร์ได้

ส่วนที่ยอดเยี่ยม: Instant Immersion ใช้กระบวนการสร้างทักษะที่หลากหลายมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการฝึกสนทนาในสถานการณ์จำลอง การใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์เสียงเพื่อเปรียบเทียบสำเนียงของคุณกับสำเนียงเจ้าของภาษา การเล่นเกมเสริมทักษะอย่าง “Who Is Oscar Lake?,” เกมปริศนาทางสามแพร่งอันโด่งดังที่มาพร้อมกับคำศัพท์อีก 1,200 คำ แถมการสนทนากับโปรแกรมจำลองสถานการณ์ก็สนุกไม่แพ้เล่นเกมเลยล่ะ!

ค่าใช้จ่าย: แตกต่างกันไปตามรูปแบบของโปรแกรมที่คุณเลือก

คำอธิบาย: ใน Innovative Language คุณจะได้เรียนผ่านวิดีโอในระบบพอดแคสติงกันล่ะ แถมยังเรียนบนอุปกรณ์ต่างๆ ได้หลากหลายด้วย  โปรแกรมนี้มีฟีเจอร์เสริมเยอะมากไม่ว่าจะเป็น บทเรียนพิเศษ อุปกรณ์การเรียน ครูส่วนตัว และอื่นๆ

ความยอดเยี่ยม: Innovative Language เรียกได้ว่าพร้อมสรรพสำหรับคุณของจริง ทั้งรูปแบบโปรแกรมและเนื้อหาที่แตกต่างกันสำหรับผู้เรียนทุกระดับ คุณสามารถเลือกสิ่งที่ใช่และเหมาะกับสไตล์การเรียนรู้ของคุณได้อย่างแท้จริง ทั้งยังเรียนได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยการดาวน์โหลดบทเรียนลงในอุปกรณ์ของ Apple หรือ Android ประเภทใดก็ได้

ค่าใช้จ่าย: 39 เหรียญขึ้นไป

คำอธิบาย: Living Language จัดเต็มด้วยโปรแกรมการเรียนรู้สามระดับที่สามารถดาวน์โหลดหรือเลือกเป็นสมาชิกได้ ตั้งแต่ภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานตามความจำเป็นไปจนถึงหลักสูตรที่แอดวานซ์มาก ๆ ทั้งทางด้านธุรกิจ การท่องเที่ยว หรือแม้แต่วิชาชีพเฉพาะทางอย่างการบังคับใช้กฎหมาย สุขภาพ และการศึกษา

ความยอดเยี่ยม: โปรแกรมนี้จะปูพื้นฐานให้คุณตั้งแต่เริ่มต้นด้วยการเรียนประโยคธรรมดาทั่วๆ ไป ไล่ไปจนถึงการเพิ่มพูนทักษะทางภาษาขั้นสูง เช่น การสนทนาในเรื่องเทคโนโลยีหรือเหตุบ้านการเมืองในปัจจุบัน  Living Language ใช้ทั้งภาพและเสียงเป็นสื่อการเรียนรู้ไม่ว่าจะเป็นเกมส์ หรือแบบฝึกทบทวนความที่จะช่วยให้คุณจดจำสาระการเรียนรู้ได้ดีที่สุด  และด้วยหลักสูตรที่ความหลากหลายมากๆ คุณสามารถเลือกหลักสูตรที่ดีที่สุดสำหรับคุณได้จาก Living Language

ค่าใช้จ่าย: ประมาณ 40 เหรียญ

คำอธิบาย: Learn It Now English Premier คือการเรียนด้วยเกมและบทเรียนเชิงโต้ตอบที่การันตีว่าคุณจะมีความมั่นใจในทักษะการพูดภาษาอังกฤษของคุณภายใน 30 วัน

ความยอดเยี่ยม: โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับผู้เรียนทุกระดับ  มีบทเรียนให้คุณเรียนได้ทั้งบนพีซีและออกไปเรียนข้างนอกด้วยเวอร์ชั่น ออน-เดอะ-โก บนโทรศัพท์มือถือ  คุณจะได้เรียนรู้ตั้งแต่พื้นฐานขั้นต้นทั้งการทักทาย การแนะนำตัว และภาษาอังกฤษสำหรับการเดินทาง ไปจนถึงขั้นสูงสุดของการสนทนาในเรื่องต่างๆ และทั้งหมดคือการเรียนรู้ด้วยการเล่นเกม อีกทั้งยังมีระบบบัตรคำศัพท์และการวิเคราะห์คำพูดขั้นสูงเพื่อยกระดับการเรียนรู้ให้คุณอีกด้วย

ค่าใช้จ่าย: 15 เหรียญพร้อมออปชั่นเสริมรายเดือน (อาจจะเป็นส่วนลดหรือข้อเสนอพิเศษ)

คำอธิบาย: Rocket Languages เปิดตัวในปี 2004 ผลงานของสองเพื่อนสนิทที่ต้องการให้ผู้ใช้งานสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่เริ่มบทเรียนที่หนึ่ง โดยใช้เวลาเรียนน้อยที่สุด และสามารถเรียนได้ทุกที่บนอุปกรณ์ที่หลากหลาย

ความยอดเยี่ยม: Rocket English ประกอบไปด้วยบทเรียนเชิงโต้ตอบด้วยเสียง บัตรคำศัพท์ แบบฝึกออกเสียง และบทเรียนด้านวัฒนธรรม  และเพื่อช่วยให้คุณสามารถจดจำสาระการเรียนรู้ได้ดีขึ้น มันมีเครื่องมือทดสอบการขยายความทรงจำให้คุณได้ใช้ด้วย แถมยังแชทกับผู้เรียนคนอื่นๆ ในฟอรั่มของสมาชิกออนไลน์ได้อีกด้วย

ค่าใช้จ่าย: ฟรี และไม่มีโฆษณาเป็นตัวเลือกพิเศษ

คำอธิบาย: Duolingo รู้ดีว่าการเรียนภาษามีค่าใช้จ่ายสูง พวกเขาจึงสร้างโปรแกรมสอนภาษาด้วยสาระการเรียนรู้เดียวกันกับหลักสูตรสอนภาษาในมหาวิทยาลัย แต่เป็นบทเรียนเชิงโต้ตอบที่ไม่ใช่แค่การนั่งเลคเชอร์ และไม่มีค่าใช้จ่าย–เทพมาก!

ความยอดเยี่ยม: Duolingo เป็นวิธีที่ทรงประสิทธิภาพในการช่วยให้คุณเข้าใจพื้นฐานของภาษาอังกฤษ  บทเรียนของคุณจะได้รับการจัดระดับโดยอัตโนมัติเพื่อให้คุณได้รับรู้ถึงขีดความสามารถในแต่ละทักษะของคุณได้อย่างชัดเจน  และ Duolingo จะมอบทักษะทางภาษาทั้งหมดให้คุณด้วยการเล่นเกม คุณจะได้รับรางวัลเมื่อเรียน(เล่น)จบในแต่ละบทเพื่อเป็นแรงจูงให้คุณกลับมาเรียนในบทเรียนต่อๆ ไป

โปรแกรมการเรียนรู้ของ Duolingo เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากสำหรับผู้เริ่มต้นเพื่อยกระดับสู่การเรียนขั้นสูง เพราะมันมีแบบฝึกทบทวนเพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถจดจำเนื้อหาได้ไปทีละระดับอย่างต่อเนื่อง

 

อย่างที่คุณเห็นนั่นแหละ มีวิธีที่สนุกจังตังค์อยู่ครบ (หรือเกือบครบ) อยู่เยอะแยะไปสำหรับเรียนภาษาอังกฤษบนพีซีของคุณ

จัดไปหนึ่งออปชั่น–ตอนนี้เลย!

If you liked this post, something tells me that you’ll love FluentU, the best way to learn English with real-world videos.

Experience English immersion online!

ทักษะการฟัง เป็นอีกเรื่องสำคัญและเป็นปัญหาสำหรับคนเรียนภาษาอังกฤษ จริง ๆ ในชีวิตประจำวันทั่วไปเราควรจะเก็บสะสมความแข็งแรงในการฟังภาษาอังกฤษอยู่เสมอ ไม่จำเป็นจะต้องเพื่อการสอบเท่านั้น ดังนั้นเรามีวิธีฝึกฝนการฟังภาษาอังกฤษอย่างได้ผลมาแนะนำกัน

เทคนิคฝึกการฟังภาษาอังกฤษอย่างได้ผล (โดยเฉพาะคนเตรียมสอบ IELTS)

1) ฟังเพลงภาษาอังกฤษ โดยในรอบแรกที่ฟังอาจจะอ่านเนื้อเพลงไปด้วยให้พอจำได้ก่อน หลังจากนั้นจึงฟังโดยไม่ดูเนื้อเพลง พยายามฟังให้ออกทุกคำและเปรียบเทียบคำที่ได้ยินกับเนื้อเพลงที่อ่านไปแล้ว วิธีนี้จะช่วยฝึกทักษะการฟังและการออกเสียงของคำศัพท์แต่ละคำไปในตัว

2) ฟังข่าวภาษาอังกฤษจากวิทยุคลื่นภาษาอังกฤษหรือโทรทัศน์ช่องภาษาอังกฤษ วิธีนี้จะช่วยให้เรียนรู้ศัพท์เทคนิคยาก ๆ และเกี่ยวข้องกับวิชาการต่าง ๆ สำหรับผู้ที่กำลังเตรียมตัวสอบ IELTS ให้เน้นไปที่ช่องข่าวจากประเทศอังกฤษ (เช่น ช่องข่าว BBC World/ BBC Radio) และขณะที่ฟังอาจทำกิจกรรมอื่น ๆ ไปด้วย พยายามอย่ามองผู้ประกาศข่าว ถ้าเป็นไปได้อาจจับคู่กับเพื่อนหรือคนที่บ้านในการฟัง แล้วผลัดกันจดโน้ต เมื่อครบ 3-5 นาทีก็ให้แต่ละคนสรุปเนื้อหาหลัก ๆ ให้อีกฝ่ายฟังพร้อมทั้งผลัดกันตั้งคำถาม การฝึกลักษณะนี้จะช่วยให้สามารถสรุปเรื่องและจับประเด็นสำคัญออกมาได้ รวมทั้งยังได้ฝึกการฟังภาษาอังกฤษจากหลาย ๆ สำเนียงอีกด้วย 

สำหรับผู้ที่ต้องลงสู่สนามสอบวัดทักษะภาษาอังกฤษ โดยเฉพาะ IELTS การฟังจากวิทยุจะช่วยแก้ปัญหาได้ เนื่องจากผู้เข้าสอบส่วนใหญ่มักจะคุ้นเคยกับการฟังที่ได้เห็นหน้าคู่สนทนา ซึ่งการฟังลักษณะนี้ Body language ของผู้พูด/การอ่านปาก/สีหน้าท่าทาง จะช่วยให้เราฟังสิ่งที่ผู้พูดต้องการสื่อสารได้ง่ายขึ้น แต่ข้อสอบ IELTS ไม่ได้เป็นแบบนั้น! ผู้เข้าสอบจะต้องฟังจากเทปโดยที่ไม่สามารถเห็นหน้าตาของผู้พูดได้ ดังนั้น การฝึกฟังวิทยุจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก

Note: ทราบหรือไม่ว่า ช่องข่าว BBC ก็มีชื่อเล่นเหมือนกัน โดยชาวอังกฤษจะเรียกช่องข่าว BBC ว่า “BEEP

3) การดูสารคดี เช่น ช่อง Discovery จะช่วยให้ได้คำศัพท์เฉพาะทาง/วิชาการ ใหม่ ๆ ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการทำข้อสอบ Reading Part อีกด้วย

4) ดูภาพยนตร์โดยไม่เปิด English Subtitle หรืออาจจะเปิด English Subtitle ในรอบแรกเพื่อเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ แต่ไม่เปิด English Subtitle ในการดูรอบที่สอง โดยพยายามมีสมาธิอยู่กับบทพูดของนักแสดง และพยายามนึกเทียบกับ Subtitle ที่ได้ดูในรอบแรก

5) ดูซีรีส์ต่างประเทศที่เป็นภาษาอังกฤษ การดูซีรีส์จะช่วยได้มากในเรื่องการฟัง เพราะระดับภาษา (คำศัพท์ที่ใช้ในเรื่องหรือความเร็วในการพูด) ของนักแสดงจะตรงกับชีวิตประจำวันมากที่สุด อีกทั้งยังช่วยได้มากในเรื่องการฟังสำเนียงภาษาอังกฤษของคนชาติต่าง ๆ เช่น อังกฤษแท้/ออสซี่/อินเดีย/ไอริช/สก๊อต เพราะเราอาจจะได้ติดต่อพูดคุยกับคนหลายเชื้อชาติ หรือบางครั้งบทสนทนาที่จะได้ฟังจากการสอบอาจเป็นบทสนทนาของผู้พูดที่มีสำเนียงต่าง ๆ กัน (แม้ว่าโดยส่วนมากการสนทนาจะเป็นการพูดด้วยสำเนียงอังกฤษแท้ก็ตาม แต่ฝึกฟังไว้ก็ไม่เสียหลายค่ะ) จะได้ชินกับสำเนียงต่าง ๆ ด้วย 

ขณะที่ดูไม่ควรเปิด subtitle การทำเช่นนี้จะช่วยฝึกทักษะในการฟังได้มาก ถึงแม้ในบาง section ของข้อสอบ IELTS อาจจะไม่ได้มีจังหวะการพูดที่เร็วเท่ากับเวลาที่เราดูภาพยนตร์หรือดูซีรีส์ แต่เมื่อผู้เข้าสอบได้ไปศึกษาต่อยังต่างประเทศและใช้ชีวิตที่นั่นจริง ๆ เราจะสามารถปรับตัวในเรื่องของการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ส่งผลต่อการเรียนมากค่ะ

Note: Recommended Series
     ซีรีส์เรื่องที่แนะนำคือเรื่อง “Friends” ซึ่งถึงแม้จะลาจอไปนานแล้ว แต่ด้วยเนื้อหาที่สนุกสนานและเบาสมอง เน้นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อน 6 คน จึงอยากแนะนำให้ไปหาดูกันค่ะ ถือว่าเป็นการผ่อนคลายไปได้อีกทางหนึ่งด้วย 

อย่างไรก็ตามซีรีส์นี้เป็นของทางอเมริกัน แต่ในการสอบ IELTS ส่วนใหญ่ผู้พูดจะพูดตามสำเนียงอังกฤษแท้ แต่ก็สามารถช่วยฝึกฝนทักษะการฟังโดยรวมได้เหมือนกันค่ะ

นอกจากนี้ยังมีซีรีส์จากฝั่งอังกฤษ (British Series) ที่ขอแนะนำด้วย เช่น Sherlock, Downton Abbey, The Apprentice, The Office, My Mad Fat Diary