already อ่านว่า: คุณกำลังดูกระทู้
พิษจากวิกฤตโควิด-19 ระลอกสาม ทำให้งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติในปีนี้ต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีก จากกำหนดการเดิมวันที่ 17-25 เมษายน 2564 ต้องปรับรูปแบบครั้งที่ 1 ผ่านออนไลน์ในวันที่ 17 เมษายน ถึง 5 พฤษภาคม 2564 และออฟไลน์อีกครั้งกลางเดือนนี้ในวันที่ 15-23 พฤษภาคม 2564 ซึ่งล่าสุดก็ได้ประกาศเลื่อนอย่างไม่มีกำหนด
แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนรักหนังสือแต่อย่างใด ไฮไลต์ของงานหนังสือไม่ใช่แค่เรื่องลดราคา แต่ยังหมายถึงการเปิดตัวหนังสือใหม่หลายต่อหลายเล่มของสำนักพิมพ์ต่างๆ ทั่วฟ้าเมืองไทย ซึ่งหนึ่งในกลุ่มคนที่เฝ้ารองานหนังสือทุกครั้งไปคงหนีไม่พ้น Bookstagrammers มาจากคำว่า Book + Instagrammer รวมกัน อธิบายง่ายๆ ก็คือ เป็นแอ็กเคานต์อินสตาแกรมที่มีหนังสือเป็นศูนย์กลาง รีวิวหนังสือบ้าง ชวนกันอ่านหนังสือบ้าง อัปเดตข่าวสารวงการหนังสือบ้าง
เราขอสวมหมวก Bookstagrammers (@bookbuchbook) พาคุณไปรู้จักกับเหล่าคนรักหนังสืออีก 9 แอ็กเคานต์ ที่จะมาแนะนำหนังสือออกใหม่น่าอ่านจากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ‘อ่านเท่’ ในปีนี้
@booksinthetearoom
“ชอบอ่าน Fiction มากกว่า Non-Fiction เพราะรู้สึกว่าโลกปัจจุบันมันน่าเหนื่อยใจอยู่แล้ว เลยหาอะไรจรรโลงใจอ่าน ส่วนธีมของนิยายที่ชอบอ่านก็หลากหลายค่ะ บางช่วงหลงใหลแฟนตาซี บางทีก็อยากไปแนวสืบสวนสอบสวน แต่รักโรแมนติกไม่ค่อยใช่แนว แต่ก็อ่านได้ถ้านึกอยากชุ่มชื่นหัวใจหน่อย”
@booksinthetearoom’s pick
เด็กหญิงน้ำตาล
Sugar Child
ผู้เขียน: Olga Gromova
ผู้แปล: ช้องนาง ปรีชาเจริญศิลป์
สำนักพิมพ์: Library Terrace
โดยส่วนตัวสนใจเรื่องผลกระทบของสงครามที่มีต่อประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะกับเด็กและสตรีอยู่แล้ว และหนังสือนิยายที่เขียนอิงประวัติศาสตร์ก็มีออกมาหลายเล่ม แต่ที่เกี่ยวกับเด็กดูเหมือนจะมีไม่เยอะ พอเห็นมี เล่มนี้ออกมา ก็รู้สึกว่าน่าสนใจมากเลยที่มีหนังสือที่จะบอกเล่าถึงผลกระทบของสงครามที่มีต่อเด็ก
ที่ดีไปกว่านั้นคือเนื้อหาเป็นการบอกเล่าเรื่องราวอย่างกล้าหาญ โดยแสดงให้เห็นว่าทุกปัญหามีทางออก และการมองโลกในแง่ดีไม่ใช่การหลอกตัวเอง แต่เราแสดงความกล้าที่จะไม่แสดงความอ่อนแอออกมา และให้เห็นว่าถึงแม้ชีวิตจะไม่มีทางเลือกมากนัก แต่เราก็กล้าที่จะต่อกรด้วยการเลือกสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต และให้ผู้คนที่ทำสิ่งไม่ดีเห็นว่า สิ่งที่พวกคุณทำมันไร้ค่า ไม่ควรกับการจดจำเสียด้วยซ้ำ
@onemorechapter.th
ส่วนใหญ่จะเป็นหนังสือ Non-Fiction ในหมวดธุรกิจ จิตวิทยา และการพัฒนาตนเองค่ะ แต่ช่วงหลังๆ ก็เริ่มหันมาอ่าน Fiction ที่เป็นนิยายแปลของฝั่งญี่ปุ่นและเกาหลีมากขึ้นค่ะ
@onemorechapter.th’s pick
ยินดีที่ (ไม่) ได้รู้
The Joy of Missing Out: Live More by Doing Less
ผู้เขียน: Tanya Dalton
ผู้แปล: ณพศรี รอดเจริญ
สำนักพิมพ์: Cactus Publishing
เราอยู่ในโลกยุคอินเทอร์เน็ตที่ทุกคนสามารถติดต่อสื่อสารและรับข้อมูลต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว จนมาถึงจุดที่เร็วและมากเกินไปจนเรากลัวจะพลาดอะไรบางอย่างในชีวิตไปเสียหมด แต่ในขณะเดียวกันเราเชื่อว่าหลายๆ คนก็คงมองหาวิธีรับมือและจัดการกับความรู้สึกเหล่านี้เช่นกัน
เราอยากเลือก เล่มนี้ เพราะคิดว่าคงช่วยให้เข้าใจถึงมุมมองของ ‘ความสุขที่ได้พลาดบางสิ่งบางอย่าง’ มากขึ้น แล้วหันกลับมาโฟกัสกับชีวิตที่อยู่ตรงหน้าของเราจริงๆ ซึ่งอาจจะเป็นความสุขแบบง่ายๆ ก็ได้ เช่น การอ่านหนังสือ ออกกำลังกาย หรือเล่นกับสัตว์เลี้ยง คิดว่าตัวเองคงได้ประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้ไม่มากก็น้อยเลยค่ะ
@nosyruplatte
ปกติชอบอ่านนิยายแปลและ Memoir ชอบเรื่องที่อ่านแล้วเห็นชีวิตความเป็นอยู่และความคิดของคนในประเทศอื่นและยุคสมัยต่างๆ
@nosyruplatte’s pick
24 แก้วตา
ผู้เขียน: สึโบะอิ ซาคาเอะ
ผู้แปล: ภัทร์อร พิพัฒนกุล
สำนักพิมพ์: JLittle (เจ ลิตเติ้ล)
เลือกเพราะเป็นนิยายที่สะท้อนความเป็นอยู่และความคิดของคนในช่วงสงครามได้เรียบง่ายและจริงใจ ในนิยายพูดเรื่องสงครามและผลพวงจากความรุนแรงค่อนข้างเยอะ ทำให้เราเห็นว่าชีวิตของเด็กคนหนึ่งที่เกิดในยุคนั้นต้องเจออะไรบ้าง โดยเล่าผ่านสายตาของผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องไปเป็นครูในโรงเรียนบนเกาะห่างไกล และต้องดูแลเด็กนักเรียน 12 คน เป็นที่มาของชื่อเรื่อง ซึ่งหมายถึงแก้วตา 24 ดวง ของเด็กๆ ที่มองดูชีวิตของตัวเอง เหตุการณ์ในเรื่องกินเวลายาวนานกว่า 20 ปี เราจะเห็นการเติบโตของพวกเขาไปพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงในสังคม
ในเรื่องนี้พูดถึงความรู้สึกและความคิดของตัวละครเด็กในช่วงวัยต่างๆ ตลอดทั้งเล่ม ทั้งที่เราเองก็เคยผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาก่อนเหมือนกัน แต่พอโตมากลับลืมไปหมดว่าเคยคิดหรือรู้สึกอย่างไรบ้าง อ่านเล่มนี้แล้วจะเข้าใจมุมของเด็กๆ มากขึ้น และได้ Re-Connect กับตัวเองตอนเป็นเด็กอีกครั้งด้วย
@bookbeforebed_
ส่วนใหญ่จะอ่านแนวสืบสวน ฆาตกรรมค่ะ โดยจะเน้นที่ฝั่งเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น หรือเกาหลี เพราะรู้สึกว่าสภาพสังคมใกล้เคียงกับเรามากกว่าฝั่งตะวันตก ทำให้อินได้ง่ายกว่า
@bookbeforebed_’s pick
ประตูฆาตกร
ผู้เขียน: ฮิงาชิโนะ เคโงะ
ผู้แปล: Kantie JK Takasashi
สำนักพิมพ์: Daifuku
“ตัวแปรอะไรทำให้คนคนหนึ่งกลายเป็นฆาตกร” นอกเหนือจากชื่อเสียงของเคโงะแล้ว สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกสนใจในหนังสือเล่มนี้ก็คือประโยคนี้จากปกหลังค่ะ หนังสือเล่มนี้จะเล่าถึงมุมมองตัวละครหนึ่งว่าต้องเจออะไรบ้าง ก่อนที่เขาจะตัดสินใจลงมือเปิดประตูฆาตกรในตัวเองออกมา
ปัจจุบันเมื่อมีข่าวฆาตกรรมเกิดขึ้น เรามักจะรับรู้ความรู้สึกจากมุมมองของเหยื่อมากกว่า แต่น้อยครั้งที่เราจะได้เจาะลึกไปถึงสภาพจิตใจของผู้กระทำ ว่ามีแรงจูงใจอะไรมากน้อยขนาดไหน ถึงผลักดันให้เขาสามารถลงมือฆ่าคนคนหนึ่งได้ มันน่าจะดีถ้าเราได้รู้ถึงสาเหตุของปัญหาที่แท้จริง และแก้ไขได้ถูกจุด มากกว่าที่จะไปโฟกัสแค่การกระทำสุดท้ายของเขาที่ตัดสินใจปลิดชีวิตคนอื่น
@myandmybook
ชอบอ่านนิยายแปลญี่ปุ่นค่ะ โดยเฉพาะแนวฆาตกรรม (ทำไมนะ) แต่ตอนนี้กำลัง Explore ตัวเองให้อ่านหนังสือฟิสิกส์อย่างของ Stephen Hawking เพิ่มอยู่ค่ะ
@myandmybook’s pick
ฟรีดริช ฮาเย็ก: ต้นธารความคิดเสรีภาพนิยมยุคใหม่
Friedrich Hayek: The Ideas and Influence of the Libertarian Economist
ผู้เขียน: Eamonn Butler
ผู้แปล: พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
สำนักพิมพ์: Bookscape
เลือกเล่มนี้เพราะบอกตามตรงว่า เราหาหนังสือเศรษฐศาสตร์สายออสเตรียนแบบภาษาไทยยากมากๆ (และการจะอ่านแบบอังกฤษและเศรษฐศาสตร์เนี่ยนะ ถามจริง?) แต่ในที่สุดก็มีภาษาไทยออกมาในจังหวะที่เหมาะเจาะ ที่ทำให้เราเข้าใจเรื่องราวของเศรษฐศาสตร์ ที่อาจจะกล่าวได้ว่าเป็นต้นธารความคิดของบิตคอยน์ได้
การที่จะเข้าใจการเงิน การเมือง ปัจจุบัน สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่รู้ปัจจุบัน แต่เข้าใจอีกหลายแนวคิดที่หลอมรวมเป็นเราด้วยเช่นกันค่ะ จึงเป็นหนังสือที่เราอยากอ่านเป็นอันดับต้นๆ ในตอนนี้เลยทีเดียว
@i_abook10
ปกติชอบอ่านวรรณกรรมคลาสสิกค่ะ อยากรู้ว่าทำไมถึงกลายมาเป็นวรรณกรรมคลาสสิกที่อยู่มาถึงปัจจุบันนี้ (ต้องมีอะไรดีสักอย่างในเรื่องแน่ๆ) และอีกแนวที่ชอบคือวรรณกรรมแปลญี่ปุ่นค่ะ แนวฟีลกู้ดๆ ของญี่ปุ่นอ่านแล้วจะรู้สึกสงบใจมากๆ
@i_abook10’s pick
ว่าด้วยความรักและบรรดาปิศาจ
Of Love and Other Demons
ผู้เขียน: Gabriel García Márquez
ผู้แปล: ชัยณรงค์ สมิงชัยโรจน์ และ ชนฤดี ปลื้มปวารณ์
สำนักพิมพ์: บทจร
(ฉบับพิมพ์ที่สอง ตรวจทานใหม่ทั้งหมดกับต้นฉบับภาษาสเปน)
ได้ยินชื่อ Gabriel García Márquez มานานแล้วจากเล่ม ซึ่งยังไม่เคยอ่านเพราะเล่าถึงหลายเจนมากๆ และมันอาจจะยากสำหรับคนเพิ่งเริ่มอย่างเราๆ เลยรู้สึกว่าถ้าจะลองอ่านงานเขียนของ Márquez สักเล่มก็จะเลือก มาลองก่อนเป็นเล่มแรก อาจจะทำให้เรารู้จักวิธีการเขียนของเขาค่ะ
จากคำโปรย “เพื่อเธอฉันจึงได้เกิดมา เพื่อเธอฉันจึงมีชีวิต เพื่อเธอฉันจะยอมตาย และเพื่อเธอฉันกำลังตายอยู่ทั้งเป็น” แค่ประโยคเดียวก็สร้างความสั่นสะเทือนในใจแล้วค่ะ ตัวละครเอกเป็นเด็กสาวจากตระกูลขุนนาง มาพบกับบาทหลวงหนุ่มที่มาขับไล่ปิศาจออกจากร่างเธอ แต่แล้วมันกลับเกิดเป็นความรักระหว่างทั้งคู่ได้อย่างไร แล้วสุดท้ายจะเกิดอะไรขึ้น
@babeandherbooks
ปกติเป็นคนที่ชอบอ่านแนว Fiction อยู่แล้ว แต่ช่วงนี้สนใจอ่านไปทาง Literary Fiction และหนังสือคลาสสิกค่ะ
@babeandherbooks’s pick
ขุมทรัพย์สุดปลายฝัน (ฉบับปรับปรุง)
The Alchemist
ผู้เขียน: Paulo Coelho
ผู้แปล: กอบชลี และ กันเกรา
สำนักพิมพ์: นานมีบุ๊คส์
เรื่องราวของเด็กหนุ่มที่ชื่อว่า ‘ซานติอาโก’ เด็กเลี้ยงแกะที่ตัดสินใจเดินทางตามหาขุมทรัพย์ที่เขาเห็นในความฝันของตน เขาพบคนมากมาย และได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่างในระหว่างการเดินทาง ซึ่งในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน มีแต่ความสิ้นหวังแบบนี้ ทำให้การออกเดินทางตามหาความฝันเป็นเรื่องที่ทำได้ยากหรือเป็นไปได้ยาก สำหรับเราในยามที่ต้องการความหวังและกำลังใจ หนังสือ คือสิ่งนั้นของเราค่ะ
เหตุผลที่อ่านแล้วชื่นชอบมากๆ เป็นเพราะว่าอ่านแล้วได้สังเกตเห็นถึงความคล้ายคลึงกันของชีวิตของเรากับการเดินทางของเขา และทำให้เกิดมีแรงบันดาลใจให้ออกตามหาความฝันของเราเช่นกันค่ะ ภาษาเป็นภาษาที่ค่อนข้างเข้าถึงได้ง่าย คล้ายกับนิทานหรือเรื่องเล่าที่คุณตาสักคนเล่าให้เราฟัง มันมีเสน่ห์มากๆ เลยค่ะ
@chaaimreads
ชอบอ่านแนวสืบสวน แฟนตาซี Contemporary ค่ะ
@chaaimreads’s pick
กลเกลียวสุดห้วงกาล
Turtles All the Way Down
ผู้เขียน: John Green
ผู้แปล: ปณต ไชยมงคล
สำนักพิมพ์: Classact Publishing
เรามี Depression บางครั้งก็มี Anxiety ร่วมด้วย เล่มนี้เท่าที่อ่านรีวิวมาก็เกี่ยวกับ Mental Issue แต่มีเรื่องสืบสวนเป็นเรื่องรองค่ะ ที่จริงแล้วยังไม่เคยอ่านงานของ John Green แต่มีดองไว้เพียบค่ะ แล้วก็คิดว่าเล่มนี้น่าจะใกล้ตัวเราที่สุด
@worldschool.student
ชอบอ่านวรรณกรรมดาร์กๆ ดิสโทเปีย คนชายขอบ วรรณกรรมหัวขบถ ความรัก ความสัมพันธ์ อีโรติก ส่วน Non-Fiction จะชอบอ่านพวกบันทึกประสบการณ์ต่างๆ ธุรกิจ กับจิตวิทยาค่ะ
@worldschool.student’s pick
Something In Between
บางอย่าง ระหว่าง ระยะห่าง
ผู้เขียน: วรวรรณ
สำนักพิมพ์: P.S.
งานเขียน งานประพันธ์ ประเภทบทกวี หรือกลอนเปล่า มันทำให้เรากลับมาอยู่กับตัวเอง เชื่อมต่อกับห้วงอารมณ์ หรือความรู้สึกนึกคิดภายในได้ค่อนข้างมาก บรรจุไปด้วยหลากหลายอารมณ์ ทั้งความถวิลหา โหยอยาก ซาบซ่าน ความใคร่ ความรัก คลั่งรัก ความผิดหวัง อารมณ์เศร้าๆ เหงาๆ หม่นๆ
โดยรวมแล้วรู้สึกว่าเป็นเล่มที่โอเค ภาษาก็สวยดี ไม่ได้หวือหวาอะไรมาก ใช้คำธรรมดาสามัญแต่อัดแน่นไปด้วยอารมณ์ ความรู้สึก และเรื่องราว บางเรื่องที่เรามีประสบการณ์ร่วมหรืออารมณ์ความรู้สึกร่วมก็จะอินเป็นพิเศษ บางเรื่องที่ไม่เคยประสบมาก่อนก็เพลินดีที่ได้อ่าน ได้ดื่มด่ำไปกับแต่ละตัวอักษร ละเลียดไปแต่ละบท
@bookbuchbook
ค้นพบว่าตัวเองสมาธิสั้น เลยชอบอ่านรวมเรื่องสั้นเป็นพิเศษ ทั้ง Fiction และ Non-Fiction เพราะมันจบไปเป็นเรื่องๆ ตอนๆ ไม่ค้างคา แต่ถ้าเป็นเรื่องยาวก็จะเลือกอ่าน Historical Fiction ไปเลย โดยเฉพาะเรื่องราวในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ค่ะ
@bookbuchbook’s pick
บินสักที
Fly Already
ผู้เขียน: Etgar Keret
ผู้แปล: ธนรรถวร จตุรงควาณิช
สำนักพิมพ์: กำมะหยี่
ก่อนหน้านี้สำนักพิมพ์กำมะหยี่หยิบผลงานของ Etgar Keret มาแปลไทยแล้ว 2 เล่ม ได้แก่ และ เราอ่านและมีความรู้สึกกลางๆ ไม่ดี-ไม่แย่กับทั้งสองเล่ม แต่มันมีอะไรบางอย่างจากปลายปากกาของ Etgar Keret ที่ดึงดูดให้เรารออ่าน รอดูว่า จะ Mind-f*cked ขนาดไหน เพราะถ้าจะมีนักเขียนสักคนที่สามารถพาเราออกจากโลกแห่งนิยายน้ำเน่า—สัก 200 หน้าก็ยังดี—ก็คงจะมีแค่ Etgar Keret นี่แหละที่ทำได้
เล่มนี้คือความ Mature สุดแสนกลมกล่อม แต่ก็ยังอัดแน่นไปด้วยความแสบสัน ความร้ายกาจ ความฉลาดเจ้าเล่ห์ในแบบฉบับของ Etgar Keret เรื่องสั้นบ้างยาวบ้างในเล่มมีความเสียดสีจิกกัดที่เป็นเหตุเป็นผล บ้างก็ผสมความ Magical Realism กำลังดีที่อ่านแล้วไม่จั๊กจี้ มีมุมมองผู้ใหญ่ มุมมองพ่อที่ไม่เคยได้อ่านในเล่มก่อนๆ อีกด้วย
# # #
นักอ่านหน้าเก่าและหน้าใหม่ ระหว่างที่รอสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ชวนไปช้อปหนังสือออนไลน์พร้อมส่วนลดสุดพิเศษมากมายบนเว็บไซต์ ThaiBookFair.com
ส่วนแฟนหนังสือที่อยากมาเก็บตก พบปะนักเขียน หรือชมนิทรรศการต่างๆ ภายในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 49 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 19 อดใจรออีกนิด สถานการณ์คลี่คลายเมื่อไร ได้เจอกันอีกครั้งแน่นอน! ติดตามกำหนดการต่างๆ ได้จากเพจ Thai Book Fair
นอกจากนี้หากคุณเป็นคนรักหนังสือ และชอบพูดคุยเรื่องหนังสือ สามารถติดตาม Bookstagrammers ทั้ง 10 คนได้เลย เพราะพวกเขาอัปเดตหนังสือใหม่ๆ ให้ได้ตามกันอย่างสม่ำเสมอ
ภาพประกอบ: พุทธิพงศ์ โรจน์ศตพงค์
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
Table of Contents
[Update] ฝึกร้องเพลงสากล คำอ่านเพลง Gone – ROSÉ คำแปลเพลงภาษาอังกฤษพร้อมคำอ่านไทย | already อ่านว่า – NATAVIGUIDES
เนื้อเพลง : Gone + คำแปล คำอ่านไทย
ศิลปิน :
ROSÉ
#ควรเปิดเพลงฟังและฝึกร้องเพื่อการออกเสียงที่ถูกต้อง
I thought that you’d remember, but it seems that you forgot
อาย ต็อท แต็ท ยูด รีเมมเบอร์, บัท อิท ซีมซ์ แด้ท ยู ฟอร์เก็ท
ฉันคิดว่าคุณจะจำ แต่เหมือนว่าคุณลืมไปหมดแล้ว
It’s hard for me to blame you when you were already lost
อิทส์ ฮาร์ท ฟอร์ มี ทู เบลม ยู เวน ยู เวอร์ ออเรดี ลอสท์
มันยากนะ ที่จะโทษคุณ เมื่อวันนี้คุณจากไปแล้ว
Oh, yeah
โอ เยีย
I’m tired of always waiting
อายม์ ทายเอิ่ด ออฟ ออเวส์ เวททิง
ฉันเหนื่อยที่จะรอแล้วล่ะ
Oh, yeah, yeah
โอ เยีย เยีย
I see you changed your number, that’s why you don’t get my calls
อาย ซี ยู เชนจ์ ยอร์ นัมเบอร์, แด็ทส์ วาย ยู โดนท์ เก็ท มาย คอลซ์
ฉันรู้ว่าคุณเปลี่ยนเบอร์โทรแล้ว ถึงว่าคุณไม่เคยรับสายเลย
I gave you all of me, now you don’t wanna be involved
อาย เกฟ ยู ออล ออฟ มี, นาว ยู โดนท์ วอนนา บี อินโวฟด์
ฉันให้ทั้งหมดที่ฉันมี แต่วันนี้คุณไม่อยากยุ่งเกี่ยวกัน
Oh, yeah, yeah
โอ เยีย เยีย
I really gotta face it
อาย เรียลี ก็อททา เฟส สิท
ฉันต้องยอมรับมันสินะ
Oh, yeah, yeah
โอ เยีย เยีย
I just wanna be the one
อาย จัสท์ วอนนา บี เดอะ วัน
ฉันอยากเป็นคนนั้นของคุณ
But to you we’re already done
บัท ทู ยู วีร์ ออเรดี ดัน
แต่สำหรับคุณนั้นเรื่องระหว่างเรานั้นจบไปแล้ว
Tell me, why’d you have to hit and run me?
เทล มี, วายด์ ยู แฮฟ ทู ฮิท แอนด์ รัน มี?
บอกหน่อยว่าทำไมคุณต้องมาทำให้รักและจากไป
Now I’m all alone, cryin’ ugly
นาว อายม์ ออล อะโลน, ครายอิน อักลี
ตอนนี้ฉันร้องไห้คนเดียวจนตาบวม
You broke my heart just for fun
ยู โบรค มาย ฮาร์ท จัสท์ ฟอร์ ฟัน
คุณมาหักอกฉัน เพื่อความสนุกขำๆ
Took my love and just left me numb
ทุค มาย ลัฟ แอนด์ จัสท์ เลฟท์ มี นัม
เอาความรักของฉันไป แล้วทิ้งฉันจนชาไปทั้งตัว
Now it’s eight in the morning
นาว อิทส์ เอ้ท อิน เดอะ มอร์นิง
ตอนนี้ก็แปดโมงเช้าแล้ว
Hate in the morning (All because of you)
เฮท อิน เดอะ มอร์นิง (ออล บีคอส ออฟ ยู)
ฉันเกลียดตอนเช้า (ก็เพราะเธอนั่นแหละ)
Another story that’s sad and true
อะนอเตอร์ สตอรี แด็ทส์ แซด แอนด์ ทรู
อีกเรื่องราวเศร้าๆที่เกิดขึ้นจริง
I can feel the pain, can you?
อาย แคน ฟีล เดอะ เพน, แคน ยู?
ฉันรู้สึกถึงความเจ็บปวด แล้วคุณรู้สึกไหม
You had to be the one to let me down to color me blue
ยู แฮด ทุ บี เดอะ วัน ทู เล็ท มี ดาวน์ ทู คัลเลอร์ มี บลู
คุณคทอคนที่ทำให้ฉันผิดหวัง และมอบความเสียใจให้กับฉัน
Hate to see you with someone new
เฮท ทู ซี ยู วิธ ซัมวัน นู
เกลียดที่เห็นคุณอยู่กับคนใหม่
I’ll put a curse on her and you
อายล์ พุท อะ เคิร์ส ออน เฮอร์ แอนด์ ยู
ฉันขอสาปแช่งเธอกับเขาแล้วกันนะ
Ain’t no looking back, now you’re dead and gone
เอนท์ โน ลุคกิง แบ็ค, นาว ยอร์ เดด แอนด์ กอน
จะไม่มองย้อนกลับไป เพราะตอนนี้เธอได้ตายจากฉันไปแล้ว
My love is gone too
มาย ลัฟ อิส กอน ทู
ความรักของฉันได้ตายไปด้วยเช่นกัน
All my love is go-o-o-o-o-o-o-ne
ออล มาย ลัฟ อิส กอน
ความรักของฉันนั้นตายไปแล้ว
All my love is go-o-o-o-o-o-o-ne
ออล มาย ลัฟ อิส กอน
ความรักของฉันนั้นตายไปแล้ว
All my love is go-o-o-o-o-o-o-ne
ออล มาย ลัฟ อิส กอน
ความรักของฉันนั้นตายไปแล้ว
All my love is gone
ออล มาย ลัฟ อิส กอน
ความรักของฉันนั้นตายไปแล้ว
Now you’re dead and gone
นาว ยอร์ เกด แอนด์ กอน
ตอนนี้คุณได้ตายจากฉันไปแล้ว
All my love is gone and the hate has grown
ออล มาย ลัฟ อิส กอน แอนด์ เดอะ เฮท แฮส โกรน
ออล มาย ลัฟ อิส กอน
ความรักของฉันนั้นตายไปแล้ว
Standing all alone
สแตนดิง ออล อะโลน
ยืนอยู่ตัวคนเดียว
And I’m searching for something
แอนด์ อายม์ เซิร์ทชิง ฟอร์ ซัมติง
และฉันกำลังมองหาบางสิ่ง
But I can’t feel nothing
บัท อาย แค็นท์ ฟีล นอธติง
แต่ฉันกลับไม่รู้สึกถึงอะไรเลย
I pack my bags and go on
อาย แพ็ค มาย แบก แอนด์ โก ออน
ฉันแพ็คกระเป๋าแล้วเดินหน้าต่อไป
This don’t feel like home
ดิส โดนท์ ฟีล ไลค์ โฮม
ที่นี่ไม่รู้สึกเหมือนบ้านอีกแล้ว
Too much darkness for a rainbow
ทู มัช ดาร์กเนส ฟอร์ อะ เรนโบ
นี่มันแย่เกินไปสำหรับฉัน
I feel so used
อาย ฟีล โซ ยูสท์
ฉันเคยชินกับมันไปแล้ว
How am I supposed to live without you? I refuse (Yeah)
ฮาว แอม อาย ซัพโพสท์ ทู ลิฟ วิธเตาท์ ยู? อาย รีฟิวส์
จะอยู่ได้ยังไงถ้าไม่มีคุณ ฉันกำลังสับสน
I just wanna be the one
อาย จัสท์ วอนนา บี เดอะ วัน
ฉันอยากเป็นคนนั้นของคุณ
But to you we’re already done
บัท ทู ยู วีร์ ออเรดี ดัน
แต่สำหรับคุณนั้นเรื่องระหว่างเรานั้นจบไปแล้ว
Tell me, why’d you have to hit and run me?
เทล มี, วายด์ ยู แฮฟ ทู ฮิท แอนด์ รัน มี?
บอกหน่อยว่าทำไมคุณต้องมาทำให้รักและจากไป
Now I’m all alone, cryin’ ugly
นาว อายม์ ออล อะโลน, ครายอิน อักลี
ตอนนี้ฉันร้องไห้คนเดียวจนตาบวม
You broke my heart just for fun
ยู โบรค มาย ฮาร์ท จัสท์ ฟอร์ ฟัน
คุณมาหักอกฉัน เพื่อความสนุกขำๆ
Took my love and just left me numb
ทุค มาย ลัฟ แอนด์ จัสท์ เลฟท์ มี นัม
เอาความรักของฉันไป แล้วทิ้งฉันจนชาไปทั้งตัว
Now it’s eight in the morning
นาว อิทส์ เอ้ท อิน เดอะ มอร์นิง
ตอนนี้ก็แปดโมงเช้าแล้ว
Hate in the morning (All because of you)
เฮท อิน เดอะ มอร์นิง (ออล บีคอส ออฟ ยู)
ฉันเกลียดตอนเช้า (ก็เพราะเธอนั่นแหละ)
Another story that’s sad and true
อะนอเตอร์ สตอรี แด็ทส์ แซด แอนด์ ทรู
อีกเรื่องราวเศร้าๆที่เกิดขึ้นจริง
I can feel the pain, can you?
อาย แคน ฟีล เดอะ เพน, แคน ยู?
ฉันรู้สึกถึงความเจ็บปวด แล้วคุณรู้สึกไหม
You had to be the one to let me down to color me blue
ยู แฮด ทุ บี เดอะ วัน ทู เล็ท มี ดาวน์ ทู คัลเลอร์ มี บลู
คุณคทอคนที่ทำให้ฉันผิดหวัง และมอบความเสียใจให้กับฉัน
Hate to see you with someone new
เฮท ทู ซี ยู วิธ ซัมวัน นู
เกลียดที่เห็นคุณอยู่กับคนใหม่
I’ll put a curse on her and you
อายล์ พุท อะ เคิร์ส ออน เฮอร์ แอนด์ ยู
ฉันขอสาปแช่งเธอกับเขาแล้วกันนะ
Ain’t no looking back, now you’re dead and gone
เอนท์ โน ลุคกิง แบ็ค, นาว ยอร์ เดด แอนด์ กอน
จะไม่มองย้อนกลับไป เพราะตอนนี้เธอได้ตายจากฉันไปแล้ว
My love is gone too
มาย ลัฟ อิส กอน ทู
ความรักของฉันได้ตายไปด้วยเช่นกัน
All my love is gone (Go-o-o-o-o-o-one)
All my love is gone, gone, gone, gone (Go-o-o-o-o-o-one)
All my love is gone (Go-o-o-o-o-o-one)
All my love is gone
Now you’re dead and gone
แกรมม่าภาษาอังกฤษ ฉบับเข้าใจง่าย Ep.3 Just/Already/Yet (Present Perfect) | เรียนภาษาอังกฤษกับครูใหม่
Just/Already/Yet (Present Perfect Tense) นำไปใช้ต่างกันยังไงนะ?
แกรมม่าภาษาอังกฤษ ฉบับเข้าใจง่าย Ep.3
.
.
“Become New You who can Speak English | เป็นคุณคนใหม่ที่พูดภาษาอังกฤษได้(ซะที)”
อยากพูดเก่งจริงๆ..ก็ต้องฝึกฝนจริงจังค่ะ เรียนภาษาอังกฤษด้วยวิธีธรรมชาติกับครูใหม่
1. ฟื้นฟูภาษาอังกฤษทุกทักษะ เน้นฟังและพูดเยอะ
https://www.goodenoughenglish.com/onlinecourse
2. Ebook \u0026 iAudio ฝึกเขียนฝึกพูดภาษาอังกฤษ วันละหน้า 365 วัน
https://www.goodenoughenglish.com/ebookiaudio
พูดคุยกับครูใหม่ได้ที่ Line ID: @geemaismile (https://lin.ee/t69ufjJ)
เว็บไซต์/บล๊อกสอนภาษาฟรี : https://www.goodenoughenglish.com
วีดีโอทั้งหมดใน YouTube : https://www.youtube.com/krumaienglishyouniverse
Facebook Page: http://Facebook.com/krumaienglishyouniverse
Instagram : https://www.instagram.com/krumaienglishyouniverse
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
อย่าพูดว่า I eat already. และ I don’t eat yet.
ใครพูดว่า I eat already. และ I don’t eat yet.
อย่าเพิ่งเลื่อนไป ดูคลิปนี้ก่อนค่าาา
ใครดูชอบ คอมเม้น 😊😊 ข้างล่างให้หน่อยน้า
Facebook Page: https://www.facebook.com/KruFyi.EasyEnglish/
LINE@ : @krufyi.easyenglish
การใช้ Already, Still, Yet | Tina Academy Ep.29
การใช้ Already, Still, Yet
อ่านเรื่อง Already, Just, Yet เพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/ib8SV3
รายละเอียดคอร์สสอนภาษา https://goo.gl/ZJVvgr
Subscribe จะได้ไม่พลาดคลิปทุกๆสัปดาห์
https://www.youtube.com/tinathanchannel/
Instagram: https://www.instagram.com/tinathanchannel
Facebook: https://www.facebook.com/tinathanchannel
Line ID: https://line.me/R/ti/p/%40hxr4999x
@hxr4999x
กล้องที่ใช้: https://goo.gl/xxAi9H
ไฟที่ใช้: https://goo.gl/SFguUQ
Hawk Nelson – Sold Out (Official Lyric Video)
From the album \”Diamonds.\” Download your copy at the links below:
iTunes: http://smarturl.it/HNDiamonds
Amazon Music: http://smarturl.it/HNDiamondsAmazon
Connect with Hawk Nelson:
Website: www.smarturl.it/HawkNelsonWebsite http://www.smarturl.it/HawkNelsonWebsite
Facebook: www.smarturl.it/HawkNelsonFacebook http://www.smarturl.it/HawkNelsonFacebook
Twitter: www.smarturl.it/HawkNelsonTwitter http://www.smarturl.it/HawkNelsonTwitter
Instagram: www.smarturl.it/HawkNelsonInstagram http://www.smarturl.it/HawkNelsonInstagram
AM กับ PM ใช้ต่างกันยังไง และใช้ตอนไหน? – English Tips EP.1
หลายคนอาจจะงงว่า AM กับ PM คืออะไร? ใช้ยังไง? และต้องใช้ตอนไหน? หลายคนรู้แล้วแต่ก็ยังสับสนอยู่ว่าตอนไหนใช้ AM ตอนไหนใช้ PM English Tips ตอนแรกวันนี้จะมาไขข้อสงสัย และมีเทคนิคทำความเข้าใจวิธีใช้แบบง่ายๆ มาให้ทุกคนได้ใช้อย่างถูกต้องกัน รับรองว่าจำง่าย ใช้ได้ และไม่ลืมแน่นอน
EnglishTips
อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ https://lin.ee/5uEdKb7h
ติดตามช่อง YouTube ส่วนตัว
ช่องยูทูปของแล็คต้า https://www.youtube.com/lactawarakorn
ช่องยูทูปของเบล https://www.youtube.com/bellvittawut
ติดตามช่องทางอื่นๆ และพูดคุยกันได้ที่
ชุมชนคนรักภาษาอังกฤษ https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz
ติดต่องาน
Email: [email protected]
Line: http://nav.cx/oOH1Q6T
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ already อ่านว่า