Skip to content
Home » [NEW] 10 คำถามฮิต พิชิตสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ | ใน เวลา เดียวกัน ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] 10 คำถามฮิต พิชิตสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ | ใน เวลา เดียวกัน ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ใน เวลา เดียวกัน ภาษา อังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

สัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษ…หลายๆคนมักจะขาดความมั่นใจพอได้ยินว่าบริษัทที่ตัวเองสมัครไปต้องสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ แค่สัมภาษณ์ธรรมดาก็กังวลใจแล้ว นี่ยังเป็นภาษาอังกฤษอีก… โอยตายเลย ขืนเราไม่เตรียมพร้อมให้ดีมีหวังตกม้าตายเอาได้ง่ายๆ จริงๆแล้วการสอบสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษทั่วๆไป ย้ำว่าทั่วไปนะครับ บริษัทต้องการรู้ระดับทักษะภาษาอังกฤษของเรา ว่าสามารถใช้สื่อสารจริงได้ดีแค่ไหน

เรามาดูตัวอย่างคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษกันเลยครับ เรื่องแนะนำตัวนี่ขอข้ามไปก่อนเพราะเชื่อว่าหลายๆคนคงมีพื้นฐานอยู่แล้ว

คำถามแบบที่ 1: คุณสมบัติเฉพาะตัว (Personality)

เจอคำถามแบบนี้เข้าไปก็ต้องบรรยายถึงลักษณะเด่นของตัวเราที่จะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทครับ อาจใช้คำคุณศัพท์หลายๆแบบเข้ามาช่วย

  1. Tell me about yourself. 

    (ไหนลองพูดเกี่ยวกับตัวคุณให้ฟังซิ)

  2. How would you describe your attitude towards work? 

    (คุณจะอธิบายทัศนคติในการทำงานของคุณอย่างไร) 

  3. What would you say about your personality? 

    (คุณมีลักษณะนิสัยอย่างไร)

  4. What inspires you to work?

    (อะไรเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานของคุณ)

  1. I’d say I’m hardworking and honest.

    (ผมเป็นคนขยันขันแข็งและซื่อสัตย์ครับ)

  2. I am a results-oriented person.

    (ดิฉันเป็นคนให้ความสำคัญกับผลลัพธ์)

  3. I am very outgoing and have the people skills needed to get customers interested.

    (ผมเป็นคนเข้าสังคมง่าย และมีทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ที่จำเป็นในการทำให้ลูกค้าสนใจ)

  4. Challenging projects motivate me more than anything.

    (โครงการที่ท้าทายเป็นตัวกระตุ้นสำหรับผมมากกว่าสิ่งอื่นใด)

ตัวอย่างคำตอบยาว

I am an idealistic person. I want a job with a company that is making money, but also one that is helping people. I want to go home knowing that my work has helped others in their job or their personal life. I have to have a job where I believe in what I am doing.
ผมเป็นคนที่มีอุดมการณ์ ต้องการทำงานในบริษัทที่สร้างรายได้ แต่ก็ให้ความช่วยเหลือผู้อื่นด้วย ผมอยากกลับถึงบ้านด้วยความรู้สึกว่างานของผมได้ช่วยเหลือด้านการดำเนินชีวิตหรือการทำงานของผู้อื่น ผมต้องทำงานที่ผมศรัทธาว่ากำลังทำสิ่งนั้นอยู่

คำถามแบบที่ 2: เหตุผลการสมัครงาน (Reasons for Applying)

คำถามสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษแน่นอนต้องมีเหตุผลที่เราสมัครงานนี้ ก็บอกตามความเป็นจริงว่าเราอาจเรียนมาด้านนี้โดยตรง หรือบริษัทของเค้าโดดเด่นมากกว่าบริษัทอื่นๆก็ได้

  1. Why are you interested in this position?

    (ทำไมคุณถึงสนใจตำแหน่งนี้)

  2. Why do you think you are a good fit for this job?

    (ทำไมคุณถึงคิดว่าคุณเหมาะสมกับงานนี้)

  3. What do you know about our company?

    (คุณรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับบริษัทเรา)

  4. What do you hope to get out of a job?

    (คุณหวังว่าจะได้อะไรจากการทำงาน)

  1. This job is good fit for my background.

    (งานนี้เหมาะสมกับภูมิหลังของดิฉัน)

  2. With my negotiation skills, I feel I would be able to contribute a lot to the company.

    (ผมรู้สึกว่าจะมีส่วนช่วยบริษัทได้มากด้วยทักษะการเจรจาต่อรอง)

  3. I know this is the leading automobile company.

    (ผมรู้ว่าบริษัทนี้เป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์)

  4. I want a job where I can contribute, and also learn.

    (ดิฉันต้องการงานที่สามารถมีส่วนช่วย ขณะเดียวกันก็ได้เรียนรู้งานไปด้วย)

ตัวอย่างคำตอบยาว

The first thing I look for in a job is the opportunity to better myself. I like jobs where I am forced to learn, and where I can get better at things over time. If a job isn’t challenging, I can’t improve my skills.
สิ่งแรกที่ผมใฝ่หาในงานคือโอกาสที่จะพัฒนาตนเองเสมอ ผมชอบงานที่บังคับให้ตนเองเรียนรู้ และที่ทำให้เติบโตขึ้นตามกาลเวลา ถ้างานไม่มีความท้าทายผมก็คงไม่สามารถพัฒนาทักษะตนเองได้

คำถามแบบที่ 3: รายละเอียดการทำงาน (About the Job)

ก่อนอื่นต้องทำการบ้านมาให้ดีนะครับว่าตำแหน่งที่ไปสมัครเนี่ย เค้ามี Job description อย่างไร เราต้องทำอะไรบ้าง และเรามีคุณสมบัติเหมาะสมรึเปล่า สามารถหาข้อมูลได้ตามกระทู้ต่างๆหรือถามจากผู้รู้ ส่วนเรื่องเงินเดือนควรรอให้ผู้สัมภาษณ์เสนอมาก่อน

  1. What skills do you think are needed for this position?

    (คุณคิดว่าทักษะอะไรบ้างที่จำเป็นต่องานตำแหน่งนี้)

  2. Tell me what skills or experiences you have that would be useful for this job.

    (ช่วยบอกหน่อยว่าคุณมีทักษะหรือประสบการณ์อะไรที่เป็นประโยชน์สำหรับงานนี้)

  3. How much do you expect to earn at this position?


    (คุณคาดหวังเงินเดือนเท่าไหร่ในตำแหน่งนี้)

  1. A solid understanding of the market is most important.

    (ความเข้าใจด้านการตลาดอย่างลึกซึ้งนั้นสำคัญที่สุด)

  2. I have worked in advertising before, and I have a degree in design.

    (เมื่อก่อนดิฉันเคยทำงานด้านโฆษณา แล้วก็มีปริญญาด้านการออกแบบด้วย)

  3. With my background and degree work, I feel something around 25,000 Baht would be acceptable.

    (เมื่อดูตามประวัติและประสบการณ์ส่วนตัวแล้ว ผมคิดว่าจะยอมรับเงินเดือนที่ประมาณ 25,000 บาท)

คำถามแบบที่ 4: ประวัติการศึกษา (Educational Experience)

คำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษนี้จะย้อนเวลาไปสมัยที่เราเรียนอยู่ สำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์การทำงานควรเตรียมตัวด้านนี้เป็นพิเศษ

  1. What classes did you take that helped prepare you for this job?


    (คุณเรียนวิชาอะไรมาบ้างที่จะช่วยคุณเตรียมความพร้อมสำหรับงานนี้)

  2. Why did you choose business administration as your major?

    (ทำไมคุณเลือกบริหารธุรกิจเป็นวิชาเอก)

  3. Which subjects did you have the most trouble with? 


    (คุณมีปัญหากับวิชาไหนมากที่สุด)

  1. I took classes on marketing and consumer psychology that apply directly to this job.

    (ผมได้เข้าเรียนด้านการตลาดและจิตวิทยาผู้บริโภค ซึ่งนำมาประยุกต์ใช้กับงานนี้ได้โดยตรง)

  2. I feel that an understanding of all aspects of a company is essential.

    (ผมรู้สึกว่าการเข้าใจทุกแง่มุมของบริษัทเป็นสิ่งจำเป็น)

  3. I had a bit of trouble with my English classes, but I am trying to improve.


    (ผมมีปัญหาเล็กน้อยในวิชาภาษาอังกฤษ แต่ผมก็กำลังพยายามพัฒนาอยู่)

คำถามแบบที่ 5: ประสบการณ์การทำงาน (Working Experience)

ผู้สัมภาษณ์ต้องการทำความเข้าใจกับทัศนคติในการทำงานของเราและความสามารถในการแก้ปัญหา

  1. What have you had the most success with in your career?


    (สิ่งที่คุณประสบความสำเร็จสูงสุดในการทำงานคืออะไร)

  2. How did you manage difficulties on the job?

    (คุณจัดการกับอุปสรรคการทำงานอย่างไร)

  3. Why did you leave your last job?


    (ทำไมคุณถึงลาออกจากงานเก่าล่ะ)

  1. The most rewarding experience I had so far was being named Salesman of the Year.


    (ประสบการณ์ที่มีค่าที่สุดของดิฉันคือได้รับรางวัลพนักงานขายยอดเยี่ยมแห่งปี)

  2. I plan and arrange tasks according to priority, and dedicate my full attention to them.

    (ผมวางแผนงานว่าอะไรสำคัญที่สุด อะไรควรทำก่อน-หลัง และก็มุ่งมั่นลงมือทำเต็มที่)

  3. I want to further my career. I am looking for bigger challenges and new experiences.

    (ผมต้องการความก้าวหน้าในอาชีพ ผมจึงมองหาความท้าทายและประสบการณ์ใหม่ๆ)

คำถามแบบที่ 6: ความสามารถของผู้สมัคร (Candidate’s Abilities)

นี่เป็นคำถามสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษที่วัดความสามารถของเรา ว่าเราจะรู้จุดแข็งจุดอ่อนของตนหรือไม่ เราควรบอกจุดแข็งอย่างมั่นใจแต่ถ่อมตน และบอกจุดอ่อนอย่างตรงไปตรงมา จากนั้นแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะปรับปรุงส่วนที่ตนบกพร่อง

  1. What are your strengths/ weaknesses?


    (จุดแข็ง/จุดอ่อนของคุณคืออะไร)

  2. Do you mind having a number of tasks to do at once?

    (คุณทำงานหลายงานในเวลาเดียวกันได้ไหม)

  3. What do you do in your free time?

    (คุณทำอะไรในช่วงเวลาว่าง)

  4. Are you involved in any community groups or work?
    คุณเข้าร่วมกลุ่ม หรืองานเพื่อสังคมอะไรบ้างหรือเปล่า

  1. My strong point is being able to understand a customer’s needs, but I sometimes get nervous when I have to speak in public.


    (จุดแข็งที่สุดของผมคือการเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้า แต่บางครั้งจะตื่นเต้นเมื่อต้องพูดต่อหน้าฝูงชน)

  2. I’m good at multitasking, and used to working on several projects at once.

    (ดิฉันทำงานหลายงานพร้อมกันได้ดี และเคยจัดการโครงการหลายอย่างในเวลาเดียวกันมาแล้ว)

  3. I like reading novels. I also go outdoors to play basketball, swimming, and sometimes badminton.


    (ดิฉันชอบอ่านนวนิยาย แล้วก็ชอบไปเล่นบาสเก็ตบอล ไปว่ายน้ำ แล้วก็แบตมินตันเป็นบางครั้ง)

  4. I was president of the faculty’s debate club.
    (ผมเคยเป็นประธานชมรมโต้วาทีของคณะ)

คำถามแบบที่ 7: ด้านมนุษยสัมพันธ์ (Interpersonal Experiences)

ตรงส่วนนี้บริษัทจะดูว่าเราจะทำงานกับเพื่อนร่วมงานอย่างไร และจะผลักดันให้ทีมประสบความสำเร็จหรือไม่ งานปัจจุบันเน้นทำเป็นทีมทั้งนั้นครับ 

  1. Tell me about your work relationship with your colleagues.


    (ช่วยบอกความสัมพันธ์ในการทำงานระหว่างคุณกับเพื่อนร่วมงานหน่อย)

  2. How did you handle friction with your superiors?

    (คุณจัดการความไม่ลงรอยกับหัวหน้าคุณอย่งไร)

  3. What do you think is the most important thing in working with people?


    (คุณคิดว่าอะไรสำคัญที่สุดในการทำงานร่วมกับผู้อื่น)

  1. I always try to be a team player and work hard to get along with people at work.


    (ผมพยายามทำงานเป็นทีม และพยายามอย่างมากเพื่อทำความคุ้นเคยกับเพื่อนร่วมงาน)

  2. I did my best to compromise and explain my intentions clearly.

    (ผมพยายามประนีประนอม และอธิบายความต้องการให้ชัดเจนที่สุด)

  3. It is important to treat everyone with respect as much as listening to them.

    (การปฏิบัติกับทุกคนด้วยความเคารพเป็นสิ่งที่สำคัญมาก การรับฟังผู้อื่นก็สำคัญไม่แพ้กัน)

คำถามแบบที่ 8: แผนการในอนาคต (Future Plans)

ทางบริษัทอาจถามถึงสถานะส่วนตัว หรือครอบครัว ทั้งนี้เพราะมันมีผลต่อนโยบายของบริษัทในการโยกย้ายพนักงานไปที่อื่น

  1. Where do you see yourself in five years?

    (คุณหวังว่าอีก 5 ปีข้างหน้าคุณจะอยู่ตรงจุดไหน)

  2. What are some things you would like to do in your life?

    (คุณอยากทำอะไรบ้างในชีวิต)

  3. Have you ever considered studying abroad?

    (คุณเคยคิดจะไปเรียนต่อเมืองนอกไหม)

  1. My sights are set on management, so I want to be a department manager in the next few years.

    (ดิฉันมุ่งไปที่การบริหารจัดการ ดังนั้นจึงอยากเป็นผู้จัดการแผนกในอีก 2-3 ปีข้างหน้า)

  2. If I had the time, it would be nice to learn how to fly a plane.

    (ถ้ามีเวลา ผมคิดว่าถ้าได้ลองเรียนขับเครื่องบินก็คงจะดี)

  3. Learning in a classroom wasn’t very interesting to me, so no.

    (ผมไม่เคยสนใจการเรียนในห้องเรียนมากนัก ดังนั้นจะไม่เรียนต่อครับ)

คำถามแบบที่ 9: ความสำเร็จและความล้มเหลว (Successes and Failures)

การตอบคำถามสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษแนวๆนี้ อาจยกประสบการณ์ส่วนตัวขึ้นมา ทั้งช่วงที่ทำงานอยู่หรือตอนที่เรียนอยู่

  1. What has been your greatest success?

    (ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุณคืออะไร)

  2. Tell me about a time when a task or project did not go well for you.

    (ช่วยเล่าช่วงเวลาที่งานหรือโครงการไม่ราบรื่นให้ฟังหน่อย)

  3. How do you feel about setbacks and failures?

    (คุณรู้สึกอย่างไรกับความพ่ายแพ้แล้วความล้มเหลว)

  1. The advertising campaign I led at my last job was a huge success.

    (แคมเปญโฆษณาล่าสุดที่ผมเป็นผู้นำทีมประสบความสำเร็จอย่างมาก)

  2. I was late for a teleconference one morning. The client lost trust in my company and turned to our competitor.

    (เช้าวันหนึ่งผมมาประชุมทางไกลสาย ลูกค้าเสียความเชื่อมั่นในบริษัทเราและหันไปหาคู่แข่งของเราแทน)

  3. Failure is not a bad thing. We learn more from our mistakes than from our success.

    (ความล้มเหลวก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น เราเรียนรู้จากความผิดพลาดมากกว่าขากความสำเร็จ)

คำถามแบบที่ 10: ความสามารถในการบริหารจัดการ (Management Skills)

  1. How do you manage your time?

    (คุณบริหารจัดการเวลาอย่างไร)

  2. What do you think is the most important thing in managing projects?

    (คุณคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในการจัดการกับโครงการคืออะไร)

  3. How would you describe your managing skills for people?

    (คุณจะบรรยายทักษะการบริหารจัดการคนของคุณอย่างไร)

  1. I prepare daily and weekly goals and regularly check my progress.

    (ดิฉันตั้งเป้าหมายล่วงหน้าไว้ทุกวันและทุกสัปดาห์ รวมทั้งตรวจสอบความก้าวหน้าของตนเองด้วย)

  2. The hands-on approach works best for me.

    (การลงมือปฏิบัติเอง เหมาะกับผมที่สุด)

  3. I am a strict manager, but I make sure to reward people when they perform well.

    (ผมเป็นผู้จัดการที่เข้มงวด แต่ผมจะให้รางวัลกับคนที่ทำงานดีอย่างแน่นอน)

คำถามเบื้องต้นสำหรับการสอบสัมภาษณ์งานภาษาอังกฤษก็มีเท่านี้ครับ ถ้าเจอคำถามสัมภาษณ์งานที่ต้องอาศัยไหวพริบอย่างเช่น “ผู้ชายคนหนึ่งจอดรถของเค้าไว้ที่โรงแรม และต่อมามันก็หายไป …เกิดอะไรขึ้น?” หรือ “ช่วยดีไซน์แผนอพยพ สำหรับเมืองซานฟรานซิสโกให้หน่อย” แบบนี้ร้อยคนร้อยคำตอบครับ อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะนี่เป็นคำถามสัมภาษณ์งานของบริษัทระดับโลกอย่าง Google เชียวนะ บางทีเราอาจเจอคำถามจำพวกนี้ ถึงตอนนั้นก็ต้องใช้ประสบการณ์ส่วนตัวแล้วล่ะนะ

[Update] “บอกเวลาในภาษาอังกฤษ (Time in English) ” | ใน เวลา เดียวกัน ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

Hi guys! สวัสดีค่ะนักเรียนชั้น ป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูวิธีการ “บอกเวลาในภาษาอังกฤษ (Telling Time in English) ” กันค่ะ
ถ้าพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลย

 บทนำ

ในบทเรียนนี้ครูขอยกตัวอย่างการบอกเวลาที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปใน 2 รูปแบบ ตามที่มาของ Native English หรือ ภาษาอังกฤษของเจ้าของภาษา นะคะ  ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้

  • British English แบบบริติช
  • American English แบบอเมริกัน

โครงสร้างประโยคคำถาม

ประโยคคำถาม เพื่อถามถึงเวลา เช่น

  • ถามเวลาแบบ Direct question:

What time is it right now?

= ตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว

 

เรามักจะเจอคำถามในลักษณะนี้ในสถานการณ์แบบเป็นกันเอง ภาษาที่ใช้จะดูใกล้ชิดสนิทสนมมากกว่า ซึ่งอาจจะเป็นเพื่อนเราที่ถามทาง หรือ คนใกล้ตัว คุณพ่อ คุณแม่ เป็นต้น

 

  • ถามเวลาแบบ Indirect question: Can I know…= ขอทราบ/ถาม หน่อย…

Can you tell me what time it is?
= ขอถามหน่อยว่ากี่โมงแล้ว

Excuse me, can I know what time it is?
= ขอโทษนะ ขอทราบหน่อยว่าเป็นเวลากี่โมงแล้ว

***การถามเวลาในรูปแบบประโยคลักษณะ Indirect questions นี้ ประโยคของเราจะดูเป็น ทางการและสุภาพมากยิ่งข้น

 

บอกเวลาแบบ British English

 

 

ใน British English จะใช้ระบบเวลาแบบ 12 ชั่วโมง โดยจะใช้เลข 1 -12 ตามด้วยคำบอกเวลา a.m. และ p.m. ซึ่งเป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันโดยทั่วไปในภาษาอังกฤษนั่นเองค่า

 

  • การใช้ a.m. และ p.m.

a.m. = ante meridiem ใช้กับเวลา หลังเที่ยงคืน จนถึง ก่อนเที่ยงวัน
(00.01 a.m. – 11.59 a.m.)

p.m. = post meridiem ใช้กับเวลาหลังเที่ยงวัน จนถึง ก่อนเที่ยงคืน
(12.00 p.m. – 11.59 p.m.)

 

หากว่าต้องการบอกเวลาเต็มชั่วโมง ให้เติมคำว่า “o’clock” ท้ายเวลา หรือพูด a.m. และ p.m. ตามด้วยเวลาต่างๆ ก็ได้ เช่นกันค่ะ

 

11.00 a.m. = eleven o’clock in the morning

แปลว่า ตอนนี้เป็นเวลาสิบเอ็ดโมงเช้า

05.00 p.m. = five o’clock in the afternoon

แปลว่า ตอนนี้เป็นเวลาห้าโมงเย็น

 

 

การใช้ to กับเวลาที่กำลังจะมาถึง 

 

 

เวลาที่ผ่านชั่วโมง และเกิน 30 นาทีมาแล้ว ให้บอกนาทีที่เหลือก่อนจะถึงชั่วโมงถัดไป ตามด้วย “to”  และชั่วโมงถัดไป เช่น

 

08.40 p.m. = twenty to nine

แปลว่า อีกยี่สิบนาทีจะถึงเก้านาฬิกาแล้ว

 สำหรับ การบอกเวลาแบบ British English หากนาฬิกาเป็นเวลา 15 นาทีหรือ 45 นาที ให้ใช้คำว่า a quarter และหากเป็น 30 นาที ให้ใช้ half เช่น

 

06.15 a.m. = a quarter past six

07.30 a.m. = a half past thirty

 

การใช้ “past”

 

past เป็นคำคุณศัพท์ เมื่อใช้กับการบอกเวลา จะแปลว่า ผ่าน….มา……แล้ว โดยส่วนมากจะใช้กับเวลาที่ผ่านล่วงเลยมาไม่ถึง 30 นาที เช่น

 

10.20 a.m. = twenty past ten
แปลว่า  ผ่านสิบนาฬิกามามายี่สิบนาทีแล้ว

ถือว่าเป็นการบอกเวลาทางอ้อม เพราะว่าไม่บอกมาตรงๆ มักจะเจอรูปแบบประโยคนี้ในสถานการณ์ปกติ ที่ไม่เร่งรีบ ในชั้นเรียน แต่อาจจะไม่ใช่การถามเวลาก่อนเที่ยงที่น้องๆหิวข้าว เป็นต้น

 

บอกเวลาแบบ American English

 

 

การอ่านเวลาแบบชาวอเมริกันนั้นได้กำหนดวิธีการบอกเวลาในภาษาอังกฤษสไตล์ชิวๆ ไม่ซับซ้อนเท่ากับวิธีการของ
ชาวบริติช
ซึ่ง American English จะมีการใช้ระบบเวลาแบบ 24 ชั่วโมง โดยจะใช้ตั้งแต่ตัวเลข 0 ไปจนถึง ตัวเลข 24 และส่วนใหญ่จะไม่มี a.m. และ p.m.
ให้ยุ่งยาก ตามสไตล์
easy going ซึ่งเป็นลักษณะนิสัยของคนอเมริกันเลยทีเดียว ง่ายๆ ไม่ทำให้ยุ่งยาก

วิธีการบอกเวลาของชาวอเมริกันคือ ให้บอกเลขชั่วโมงก่อนตามด้วยเลขนาที โดยทั่วมักจะในกรณีที่เป็นทางการมากๆ  เช่น

 

เวลา 21.15 น. = twenty-one fifteen

เวลา 08.09* น. = eight O nine 

ขออธิบายเพิ่มเติม:

*ใช้เสียง O อ่านว่า โอ จะใช้ แทนเลข 0 ใน American English

 

นอกจากนี้ยังมีคำวิเศษณ์เพื่อประมาณเวลา อีกด้วย เช่น about หรือ nearly  ซึ่งแปลว่า ประมาณ หรือ เกือบๆ เช่น

 

เวลา 09.05 น. =It’s about nine o’clock (แม้ว่าจะผ่านมาแล้วตั้ง 5 นาทีก็ตาม)

เวลา 10.28 น.  = It’s nearly half past ten (แม้ว่าจะยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ตาม)

 

 

บอกเวลาตอนเที่ยง

 

 

ในเวลาเที่ยงคืนหรือเที่ยงวัน สามารถใช้คำว่า “midnight” หรือ “midday / noon” แทนเลข 12 ได้ เช่น  เวลา 00:00 น. แทนช่วงเวลานี้ ว่า midnight หรือ เวลา 12:00 น. แทนช่วงเวลานี้ว่า midday or noon

ส่วนในการพูดอย่างเป็นทางการ สามารถใช้ “a.m.” หรือ “p.m.” ประกอบได้อยู่เหมือนเดิม
เช่น  เวลา 05:15 น. บอกได้ว่า 

It is five fifteen a.m.

= เป็นเวลา ตีห้า  สิบห้านาที

แต่ถ้าไม่เป็นทางการมาก เช่นบอกเวลาเพื่อนที่อยู่ใกล้ๆกัน
ก็สามารถพูดได้ว่า It is ten fifteen.
(ไม่ต้องบอก a.m. ก็ได้ แต่หากช่วงเวลาที่คุยเป็นกลางวัน เพื่อนก็จะเข้าใจไปโดยปริยายว่า มันคือเวลา สิบโมง สิบนาที )

ในกรณีที่ลืมว่า ควรจะใช้ a.m. หรือ p.m. ดี ให้ใช้วลีบอกเวลา เพ่อให้ผู้ที่เราพูดด้วยรู้ว่าเรากำลังบอกเวลาช่วงไหน โดยใช้ in/at แล้วตามด้วยช่วงเวลา เช่น

in the morning = ช่วงเช้า
at midday = เที่ยงวัน
at midnight = เที่ยงคืน
in the afternoon = ตอนบ่าย
in the evening = ตอนเย็น
at night = ตอนกลางคืน

 

แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันอยู่ แต่คนที่เลือกใช้ก็คือตัวเราเอง ครูแนะนำให้ดูบริบทการใช้ให้มากนะคะ เช่นตัวอย่างประโยคด้านล่างนี้นะคะ

 

Situation I: At the train station (สถานการณ์เกิดที่ลานชาลาสถานีรถไฟ)

 

 

Romeo: Excuse me sir, what time is it now?
= ขอโทษนะครับ ตอนนี้เป็นเวลากี่โมงแล้ว

Tom: It’s a half past ten.
= ตอนนี้ผ่านสิบนาฬิกามาครึ่งชั่วโมงแล้วครับ

Rome: Thank you sir. When will the next train arrive?
= ขอบคุณครับ แล้วรถไฟเที่ยวถัดไปจะมากี่โมงครับ

Tom: It will arrive in a minute.
= เดี๋ยวก็มาแล้วครับ

 

Situation II: At NokAcademy School (สถานการณ์เกิดที่โรงเรียน นกอะคาเดมี)

 

Nestie: Jenny, what time is it now?
= เจนนี่ ตอนนี้กี่โมงแล้ว

Jenny: It’s 9 O’ clock. Why did you ask?
= ตอนนี้เก้าโมง ถามทำไม

Nestie: Oh my gosh, we need to go now.
= โอ้ มาย กอด เราต้องไปตอนนี้เลย

Jenny: Why?
= ทำไมล่ะ

Nestie: The class was already begun 10 minutes ago.
= ชั้นเรียนเริ่มเมื่อ 10 นาทีที่แล้ว (เราเข้าชั้นเรียนสาย 10 นาทีแล้ว)

น้องๆนักเรียนทุกคน อย่าลืมทบทวนบทเรียน  เรื่อง การบอกเวลาในภาษาอังกฤษ กับทีชเชอร์กรีซได้ที่วีดีโอด้านล่างนี้นะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่า
See you again next time.

+1


รักควรมีสองคน – DUOทีมเมีย(พร จันทพร) vs ทีมชู้(เนย ภัสวรรณ) [ MV VERSION ]


เพลง : รักควรมีสองคน
ศิลปิน : ทีมเมีย (พร จันทพร) VS ทีมชู้ (เนย ภัสวรรณ)
\rคำร้อง/ทำนอง : นิค สะเลอปี้
\rเรียบเรียง : นิค สะเลอปี้/ใบกะเพา/อาร์มโน๊ต ผีบอก
มาสเตอร์ : อ.อานนท์ เชื้อบุญมา
ติดต่องาน โทร.0887473659 พี่หนุ่ย พีอาร์พอดีม่วน
ติดต่องานโชว์ โทร.0837899325 พ่อเปิ้ล แมงปอมิเดีย
(พร)เธอ หรือเธอบ่ฮู้จัก ว่าเขาคือคนฮัก ของเฮา มาแต่ดน
เธอ คือจั่งหน้าด้าน หน้าทน แอบแชท แอบคอล ขอเบิ่งอีหยังกัน
(เนย)ตบมือข้างเดียวสิดังติ้ ถ้าแฟนเธอบ่มีใจ
ถ้าฉันเล่น เขาปฏิเสธไป กะจบส่ำนั้น
แต่นี่เขาบอกว่าเขา โสด
อยู่ในโหมดแฟนตาย ไปหลายวัน
แล้วเธอ สิให้ฉัน เฮ็ดจั่งได๋
(พร)แต่ถ้าเธอฮู้แล้ว เธอสิเลิกยุเบาะ
(เนย)บ่ เฮา เลิกบ่ได้ กะคนมีฮักหมดใจไปแล้ว
(พร)ความ ฮักมันควรสิมีสองคนท่อนั่น เธอกับเขาสิฮักกัน ฉันยอมบ่ได้
(เนย)แล้วสิให้เฮ็ดจังใด กะหัวใจ มันฮัก
(พร)ศีลข้อสาม เคยท่องยุเบาะ ละอายใจบ่ ที่เฮ็ดให้เขาแตกหัก
(เนย)กะอย่า ขอแค่ฉันได้ฮัก บ่แคร์อีหยังทั้งนั่น
(เนย)ตบมือข้างเดียวสิดังติ้ ถ้าแฟนเธอบ่มีใจ
ถ้าฉันเล่น เขาปฏิเสธไป กะจบส่ำนั้น
แต่นี่เขาบอกว่าเขา โสด
อยู่ในโหมดแฟนตาย ไปหลายวัน
แล้วเธอ สิให้ฉัน เฮ็ดจั่งได๋
(พร)แต่ถ้าเธอฮู้แล้ว เธอสิเลิกยุเบาะ
(เนย)บ่ เฮา เลิกบ่ได้ กะคนมีฮักหมดใจไปแล้ว
(พร)ความ ฮักมันควรสิมีสองคนท่อนั่น เธอกับเขาสิฮักกัน ฉันยอมบ่ได้
(เนย)แล้วสิให้เฮ็ดจังใด กะหัวใจ มันฮัก
(พร)ศีลข้อสาม เคยท่องยุเบาะ ละอายใจบ่ ที่เฮ็ดให้เขาแตกหัก
(เนย)กะอย่า ขอแค่ฉันได้ฮัก บ่แคร์อีหยังทั้งนั่น
(พร)ความ ฮักมันควรสิมีสองคนท่อนั่น เธอกับเขาสิฮักกัน ฉันยอมบ่ได้
(เนย)แล้วสิให้เฮ็ดจังใด กะหัวใจ มันฮัก
(พร)ศีลข้อสาม เคยท่องยุเบาะ ละอายใจบ่ ที่เฮ็ดให้เขาแตกหัก
(เนย)กะอย่า ขอแค่ฉันได้ฮัก บ่แคร์อีหยังทั้งนั่น
(พร) แต่ฉันบ่ให้ฮัก (เนย)แต่ฉันสิฮัก
ดาวน์โหลดเพลง \”รักควรมีสองคน พร จันทพร, เนย ภัสวรรณ\”
โทร 49228383 ได้ทั้งริงโทน เต็มเพลง และเสียงรอสาย
มีให้โหลดเป็นเสียงเรียกเข้า เสียงรอสาย ผ่านการโทรทางไลน์แล้ว ในไลน์เมโลดี้
► https://melody.line.me/melody/33544
🎧 รับฟังได้แล้วทาง Music Streaming
Youtube Music : https://music.youtube.com/watch?v=bj5NdxGAGls
Spotify : https://open.spotify.com/album/6YMCjigbJU79NmMpwrROU5?si=077d86fcdeb148e5
JOOX : https://www.joox.com/th/single/Qc22_vGQ4gvFZ1PWBpu+mw==
iTunes \u0026 Apple Music : https://music.apple.com/th/album/1580562630
iTunes Ringtone : https://itunes.apple.com/th/album/1581444273?app=itunes
TIDAL : https://tidal.com/browse/track/194124559
TikTok : https://vt.tiktok.com/ZGJDwUH8k
รักควรมีสองคน
พรจันทพร
เนยภัสวรรณ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

รักควรมีสองคน  - DUOทีมเมีย(พร จันทพร) vs ทีมชู้(เนย ภัสวรรณ) [ MV VERSION ]

ละครสั้น ตอน คุณแม่ทำกับข้าว ของเล่นเครื่องครัวไม้ คลิป 100 ล้านวิว Fairy Doll TV


สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ช่อง Fairy Doll TV (แฟรีดอล) นะคะ\r
ฝากกดติดตามช่องแฟรี่ดอล ทีวี ของพี่นุ้ยด้วยนะคะ\r
\r
❤ กดติดตามช่อง Fairy Doll : http://goo.gl/exBeXn\r
❤ Subscribe to the channel :http://goo.gl/exBeXn\r
❤Facebook : https://www.facebook.com/fairydolltv\r
\r
\r
Please feel free to subscribe to our channel for more Youtube exclusive children’s videos here. Fair use of content is intended

ละครสั้น ตอน คุณแม่ทำกับข้าว ของเล่นเครื่องครัวไม้ คลิป 100 ล้านวิว Fairy Doll TV

เพื่อนเล่น ไม่เล่นเพื่อน (Just Being Friendly) – Tilly Birds Feat. MILLI |Official MV|


ถ้าเธอให้ฉันเป็นเพื่อนเล่น อย่าเล่นเกินกว่านั้นได้ไหม?
เพลง : เพื่อนเล่น ไม่เล่นเพื่อน (Just Being Friendly)
ศิลปิน : Tilly Birds Feat. MILLI
หยุดคิดแบบนี้
หยุดคิดเลย
รู้สึกดีทั้งที่เป็นแค่เพื่อนกัน
หยุดไว้แค่นี้
หยุดไว้เลย
ได้โปรด เธออย่าเล่นเกินไปกว่านั้น
เล่นทักมาหาฉันเสมอแทบทุกคืนวัน
มากเกินกว่าเพื่อนควรจะเป็น
เล่นเป็นห่วงฉันแม้ในเรื่องที่ไม่สำคัญ
เธอชอบมาทำให้ฉัน เอ๊ะ ยังไง
ที่เล่นแบบนี้นั้นมันแปลว่าไง
ฉันยังสับสนและสงสัย
เป็นเพื่อนกัน ต้องเล่นแบบไหน
ได้แต่พยายามจะไม่คิดอะไร
ที่ไม่ควรคิด
เวลาที่เราใกล้ชิดมากไป
รู้ตัวอีกที ในใจมีแต่คำถาม
มากมายเกินจะทนไหว
บอกฉันทีจะได้ไหม
ถ้าเธอให้ฉันเป็นเพื่อนเล่น
อย่าเล่นเกินกว่านั้นได้ไหม
ถ้าฉันเล่นเกินเส้นไป เธอรับได้ไหม
ช่วยบอกฉันสักที ว่าที่ฉันยืน
เธอยืนที่เดียวกันไหม
หยุดเล่นเกินเพื่อนเล่น
เอ่อ คือตอนนี้เราเป็นแค่เพื่อนกัน
และฉันก็คิด
อยากมีสิทธิ์มากกว่านั้น
(อ๋อ ได้เลย)
งั้นเธอคือเพื่อนสนิทของฉัน
เพื่อนอะไรบอกฝันดีก่อนนอน
เพื่อนแบบไหนดมหัวแล้วบอกหอม
เริ่มไม่แน่ใจ เอาหน้ามาใกล้ตลอด
เวลาฉันต้องการใคร ก็เป็นเธอที่มากอด
ใจเธอคิดเหมือนกันหรือเปล่า
เจอแบบนี้ไป ฉันแอบเผลอใจให้ไปแม้มันไม่อาจเป็นจริง
ถ้าเธอให้ฉันเป็นเพื่อนเล่น
อย่าเล่นเกินกว่านั้นได้ไหม
ถ้าฉันเล่นเกินเส้นไป เธอรับได้ไหม
ช่วยบอกฉันสักที ว่าที่ฉันยืน
เธอยืนที่เดียวกันไหม
ถ้าเธอไม่เคยที่จะรู้สึกเหมือนที่ใจฉันรู้สึก
แค่เพื่อนเล่น ฉันก็เป็นให้เธอไม่ไหว
จะได้พร้อมทำใจ รอให้เธอบอก
ว่าเป็น เพื่อนกันเท่านั้น
หยุดเล่นเกินเพื่อนเล่น
ได้แต่พยายามจะไม่คิดอะไร
ที่ไม่ควรคิด
เวลาที่เราใกล้ชิดมากไป
รู้ตัวอีกที ในใจมีแต่คำถาม
มากมายเกินจะทนไหว
บอกฉันทีจะได้ไหม
ถ้าเธอให้ฉันเป็นเพื่อนเล่น
อย่าเล่นเกินกว่านั้นได้ไหม
ถ้าฉันเล่นเกินเส้นไป เธอรับได้ไหม
ช่วยบอกฉันสักที ว่าที่ฉันยืน
เธอยืนที่เดียวกันไหม
ถ้าเธอไม่เคยที่จะรู้สึกเหมือนที่ใจฉันรู้สึก
แค่เพื่อนเล่น ฉันก็เป็นให้เธอไม่ไหว
จะได้พร้อมทำใจ รอให้เธอบอก
ว่าเป็น เพื่อนกันเท่านั้น
หยุดเล่นเกินเพื่อนเล่น
Tilly Birds
อนุโรจน์ เกตุเลขา l Anuroth Ketlkekha ( IG : 2nd__4th )
ณัฐดนัย ชูชาติ l Nutdanai Chuchat ( IG : billbilly01 )
ธุวานนท์ ตันติวัฒนวรกุล l Thuwanon Tantiwattanaworakul ( IG : milotanti )
Produced by Nutdanai Chuchat (BILLbilly01)
Lyrics by Anuroth Ketlekha (3rd), Chamil Arin, BABEPOOM, MILLI
Composed by Thuwanon Tantiwattanaworakul (Milo Tanti), Anuroth Ketlekha (3rd)
Arranged by Thuwanon Tantiwattanaworakul (Milo Tanti)
Mixed and Mastered by Shane Edwards at Studio 28
Vocals Recorded at Studio 28
Instruments Recorded at Studio 28
Vocals Edited by Korn Mahadumrongkul
Engineered by Nutdanai Chuchat, Shane Edwards
ดาวน์โหลดเพลงนี้ได้ที่ 1230420
ติดต่องานจ้าง 0866696099
เพื่อนเล่นไม่เล่นเพื่อน TillyBirds GeneLab

เพื่อนเล่น ไม่เล่นเพื่อน (Just Being Friendly) - Tilly Birds Feat. MILLI |Official MV|

5 สาวใต้ รวมเพลงลูกทุ่ง เพื่อชีวิต ศิลปินสาวใต้ เพราะกินใจ


5 สาวใต้ รวมเพลงลูกทุ่ง เพื่อชีวิต ศิลปินสาวใต้ เพราะกินใจ.
5 สาวใต้ รวมเพลงลูกทุ่ง เพื่อชีวิต ศิลปินสาวใต้ บิว กัลยาณี, อันดา อาร์สยาม,ดาหลา สาวสตูล,เจี๊ยบ เบญจพร, แป้ง ศิริกานต์

ขอบคุณสำหรับการรับฟัง กดติดตามที่นี้เลยจ้า :https://goo.gl/m4s93J

++จัดทำเพื่อความบันเทิง ไม่มีเจตนาละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด !!

5 สาวใต้ รวมเพลงลูกทุ่ง เพื่อชีวิต ศิลปินสาวใต้  เพราะกินใจ

AM กับ PM ใช้ต่างกันยังไง และใช้ตอนไหน? – English Tips EP.1


หลายคนอาจจะงงว่า AM กับ PM คืออะไร? ใช้ยังไง? และต้องใช้ตอนไหน? หลายคนรู้แล้วแต่ก็ยังสับสนอยู่ว่าตอนไหนใช้ AM ตอนไหนใช้ PM English Tips ตอนแรกวันนี้จะมาไขข้อสงสัย และมีเทคนิคทำความเข้าใจวิธีใช้แบบง่ายๆ มาให้ทุกคนได้ใช้อย่างถูกต้องกัน รับรองว่าจำง่าย ใช้ได้ และไม่ลืมแน่นอน
EnglishTips
อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h
ติดตามช่อง YouTube ส่วนตัว
ช่องยูทูปของแล็คต้า https://www.youtube.com/lactawarakorn
ช่องยูทูปของเบล https://www.youtube.com/bellvittawut
ติดตามช่องทางอื่นๆ และพูดคุยกันได้ที่
ชุมชนคนรักภาษาอังกฤษ https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz
ติดต่องาน
Email: [email protected]
Line: http://nav.cx/oOH1Q6T

AM กับ PM ใช้ต่างกันยังไง และใช้ตอนไหน? - English Tips EP.1

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ใน เวลา เดียวกัน ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *