Skip to content
Home » [NEW] ไปเรียนปริญญาตรี-โท-เอก สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ที่เคมบริดจ์และแอลเอ, สหรัฐอเมริกา – THE STANDARD | เมือง เค ม บริดจ์ – NATAVIGUIDES

[NEW] ไปเรียนปริญญาตรี-โท-เอก สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ ที่เคมบริดจ์และแอลเอ, สหรัฐอเมริกา – THE STANDARD | เมือง เค ม บริดจ์ – NATAVIGUIDES

เมือง เค ม บริดจ์: คุณกำลังดูกระทู้

นอกจาก 12 ปีจะเป็นเวลาที่วนครบ 1 รอบนักษัตร จากปีชวดไปจบที่ปีกุนแล้ว 12 ปียังเป็นเวลาที่ ไปป์-รัฐภูมิ ตู้จินดา ได้รับทุนไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่มัธยมหกจนจบปริญญาเอก ในสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์หรือ ComSci ซึ่งเขาได้ทำธีสิสวิจัยนวัตกรรมทางคอมพิวเตอร์หลายชิ้นจนต่อยอดเป็นสตาร์ทอัพ และถูกบริษัทยักษ์ใหญ่ซื้อไปในราคาแสนแพง!

ทุกวันนี้ไปป์ทำงานเป็นหนึ่งในทีมที่ปรึกษาของรัฐบาล ได้นำความรู้และประสบการณ์ รวมทั้งแนวคิดที่ได้จากการใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศมาพัฒนาประเทศอย่างเต็มความสามารถ

 

 

02:00

“Hi, this is Rattapoom Tuchinda here for the นักเรียนนอก podcast. Back in the days I went to MIT for Undergrad and Master Degree and USC for PhD. MIT is in Cambridge and USC is in Los Angeles. Cambridge is about history, romantic Victorian buildings and cold weather while Los Angeles is about sea, sun, sand. Each has its own uniqueness and I wholly recommend you visit both places if you have a chance. I hope you enjoy my stories in both places in the podcast and feel free to connect to me via Facebook if you have any question, cheers.”

“สวัสดีครับ นี่คือรัฐภูมิ ตู้จินดา และนี่คือรายการ นักเรียนนอก พอดแคสต์ ก่อนนี้ผมได้ไปเรียนระดับปริญญาตรีกับโทที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมลรัฐแมสซาชูเซตต์ หรือ MIT และเรียนปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยเซาเธิร์นแคลิฟอร์เนีย หรือ USC มหาวิทยาลัย MIT อยู่ที่เมืองเคมบริดจ์ ส่วน USC อยู่ที่ลอสแองเจลิส เมืองเคมบริดจ์นั้นโดดเด่นด้านประวัติศาสตร์ อาคารสไตล์วิคตอเรียที่ดูโรแมนติก และอากาศอันหนาวเย็น ส่วนจุดเด่นของเมืองลอสแองเจลิสคือทะเล แสงอาทิตย์ และหาดทราย ทั้งสองแห่งต่างก็มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ผมแนะนำเป็นอย่างยิ่งให้คุณลองไปเที่ยวที่เมืองทั้งสองดูสักครั้งถ้ามีโอกาส หวังว่าคุณจะสนุกไปกับเรื่องราวของผมในพอดแคสต์รายการนี้ และถ้าใครมีคำถามก็ติดต่อผมมาได้ทางเฟซบุ๊กครับ”

 

02.30

“มันเหมือนต้องทิ้งชีวิต ทิ้งเพื่อนไปเลยนะ”

“ก็ไม่ขนาดนั้นครับ พี่สาวผมก็ได้ทุนเหมือนกัน”

  • เด็กอายุ 17 ก็ไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้งนัก ไปป์เห็นว่าพี่สาวได้ทุนไปเรียนต่อต่างประเทศก็แฮปปี้ดี จึงตัดสินใจไป เพราะคิดว่าน่าจะสนุกกว่าอยู่เมืองไทย

  • แต่ด้วยความที่มหาวิทยาลัยที่สหรัฐอเมริกาไม่เชื่อมั่นในระบบการศึกษาของไทย ทำให้ไปป์ต้องไปเรียนซ้ำชั้นที่นู่น 1 ปี เพื่อวัดระดับการศึกษา

  • MIT ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของโลกด้านวิศวกรรม

  • เป็นแหล่งรวมคนเก่งของโลกไว้ คนที่สอบเข้าไปต่างก็เป็นที่ 1 ของโรงเรียนมัธยมของตัวเอง

  • มีการจำกัดปริมาณนักเรียนของแต่ละทวีป

  • ด้วยความที่เด็กเก่งมาสอบเยอะ ทำให้ MIT ไม่ได้ดูแค่เกรด แต่ดูมิติอื่นๆ ของชีวิตนักเรียนประกอบการรับสมัครด้วย ว่ามีคุณสมบัติอื่นๆ นอกจากเรียนเก่งหรือเปล่า

  • รับนักเรียนจากศักยภาพที่จะเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในอนาคต

  • ทำให้มีธุรกิจเลี้ยงดูเด็กให้เข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกได้

  • ที่ MIT มีสาขาที่ฮอตฮิตมากคือ Course Six ที่ประกอบด้วย Computer Science และ Electrical Engineering

  • ไปป์เข้าไปเรียนสาขา Electrical Engineering ก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนไปเรียน Computer Science

 

05:45

“สาขา ComSci คือเรียนวิธีการทำให้คอมพิวเตอร์คิด หรือที่เรารู้จักกันในนาม AI ไม่ใช่เรียนประกอบคอม”

 

  • คนที่นั่นก็มีช่วยเหลือเรื่องการเรียนกันดี โดยเฉพาะกับผู้หญิง ที่จะมีผู้ชายไปช่วยทำงานเยอะ

  • แต่มันจะมีพวกเหนือมนุษย์ ก็ต้องปล่อยเค้าไป

 

06:42

“ตอนเรียนจบไปป์สอบได้คะแนนระดับท็อป 15”

  • ไม่ได้มองว่าตัวเองเป็นคนเก่ง อัจฉริยะ แต่เป็นคนขยันมากกว่า

  • เข้ามาเรียนที่นี่ต้องเลือก เรียน นอน หรือเพื่อน 2 จาก 3 อย่างนี้ ก็เลือกเรียนกับนอน เพราะต้องนอน 8 ชั่วโมงต่อวัน ไม่งั้นจะไม่ฟังก์ชั่น

  • แบ่งเวลาด้วยการเน้นนอนกับเรียน แต่ก็มีไปกินข้าวกับเพื่อนบ้าง แต่เรียนกับนอนเป็นหลัก

  • เป็นคนนิสัยการเรียนไม่ดี

  • ครูสอนไม่ดีก็ไม่ไปเรียน อ่านหนังสืออยู่หอแทน

  • ซึ่งก็ลำบาก เพราะสมัยนั้นข้อมูลหายาก ไม่มีอินเทอร์เน็ตแพร่หลายเหมือนปัจจุบัน

 

08:27

“แล้วบรรยากาศการเรียนการสอนที่ MIT เป็นยังไงบ้าง”

  • วิชานึงมี 12 หน่วยกิต แปลว่าต้องใช้เวลา 12 ชั่วโมง เป็นเล็กเชอร์ 4 ชั่วโมง ทำการบ้าน 8 ชั่วโมง

  • การบ้านเลยออกแบบให้ต้องทำตามเวลาที่กะเกณฑ์ไว้

 

09:00

“มีคนบอกว่าการเรียนการสอนที่นี่เหมือนเปิดวาล์วก๊อกดับเพลิงกรอกปากน่ะ มีปัญญาเอาไปเท่าไหร่ก็เท่านั้น”

 

  • มีเรียนๆ ไปแล้วสติแตกเหมือนกัน

  • ช่วงปี 2-3 จะซึมๆ เศร้าๆ เพราะสู้พวกเหนือมนุษย์ไม่ได้ แต่พอทำใจได้ ก็หาย

  • เป้าหมายในการเรียนคือต้องเรียนให้จบปริญญาเอก ตามทุนที่ได้มา ก็ต้องประคองเกรดให้ดีพอจะเข้าเรียน ป.เอก

  • พอเข้าปริญญาเอก ก็ย้ายมหาวิทยาลัยไปเรียนที่ USC (University of Southern California) เมืองลอสแองเจลิส

  • เรียน ComSci เหมือนเดิม

 

10:34

“การเรียนปริญญาเอกต่างกับการเรียนปริญญาตรีและโทยังไงบ้าง”

  • การเรียน ป.เอกคือการผลักดันมนุษยชาติไปข้างหน้า

  • ต้องล้มเหลวบ่อยมาก

  • เรียน ป.เอกมันคือการเรียนรู้การแก้ปัญหา ซึ่งถ้าเจอทางแก้ก็จบ ไม่เจอทางแก้ก็ไม่จบ

 

11:25

“ที่ไปทำคือโปรแกรมทำนายราคาตั๋วเครื่องบินที่อเมริกา ซึ่งต่อมากลายเป็นบริษัทสตาร์ทอัพ จน Microsoft ซื้อไปในราคาหลายล้านเหรียญ”

 

  • แต่ตัวที่ทำเป็นปริญญาเอกจริงๆ คือ การทำ Big data โดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมเพื่อเชื่อมข้อมูล

  • งานนี้ทำเสร็จก็มีคนมาซื้อไปอีกเหมือนกัน

  • จบปริญญาเอกก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรเหมือนกัน

  • แต่ต้องกลับไทย ด้วยเงื่อนไขทุน

  • ซึ่งก็เลือกเรียนอะไรที่ไม่ต้องพึ่งพาเครื่องมือ แต่พึ่งพาสมอง ทำให้ทำงานที่ไหนก็ได้ ไม่อิงเครื่องมือ

  • Big data ในไทยทำได้ยาก เพราะทั้งภาครัฐเอกชนต่างก็เก็บข้อมูลเงียบ ไม่แบ่งเป็นสาธารณะ

 

13:53

“มีคนบอกว่าจะจบเอกต้องเอาใจ advisor บอกเลยว่าไม่จริง”

 

  • Advisor มีทั้งดีและไม่ดี สิ่งที่เราควรทำคือสืบข้อมูล

  • พอรู้ว่าอาจารย์คนไหนโหดก็ไปบอกทางมหาวิทยาลัย ขอไม่เรียนกับคนนี้

  • แต่ละคนต้องมีกลยุทธในการเรียน เราก็ต้องหากลยุทธของเรา

 

16:07

“ประสบการณ์ชีวิตระหว่างการเรียนมีอะไรบ้างรึเปล่า”

  • ก็มีเรื่องความรัก

  • ก่อนไปเรียนมีแฟนอยู่แล้ว ตอนแรกก็คิดว่าน่าจะคบกันได้ สิบกว่าปี

  • ปรากฏว่า 4 ปีก็เลิก

  • จากนั้นคนที่คบกันก็ไปเจอในห้องแชตทุกคน

  • แฟนคนต่อมาเป็นลูกครึ่งไทย-เวียดนาม อาศัยอยู่ที่แอลเอ

  • เป็นเหตุผลที่ทำให้ย้ายมาเรียนแอลเอ

  • ความรักในระหว่างเรียนมันทั้งช่วยและทั้งฉุด

  • เรื่องบวกคือมันดีกับใจ

  • เรื่องลบคือมันอาจกระทบการเรียนได้

  • โดนอาจารย์ด่าว่าจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

  • แต่ตอนเรียนปริญญาเอกไม่ต้องเข้าเรียนอยู่แล้ว มันไม่ต้องเก่ง แต่ต้องอึด

  • มองย้อนกลับไปก็ยังอยากมีแฟนเหมือนเดิม มีก็ดีแล้ว จะได้ไม่ต้องเฉา

 

18:25

“ให้แนะนำคนที่ต้องจากแฟนไปเรียนต่างประเทศหน่อย – ‘เลิกเหอะ’ (หัวเราะ)”

 

  • คือถ้าช่วงสั้นแค่ 1-2 ปีก็พอคบกันได้

  • แต่ถ้าช่วงยาวเราต้องการคนแชร์ประสบการณ์ในปัจจุบันร่วมกันมากกว่า

 

19:40

“มันจะเป็นเรื่องวิเศษถ้าคนที่เราคบอยู่เค้ายังเป็นที่ต้องการของเราอยู่”

 

19:58

“ขอถามถึงเมืองที่ไปเรียนหน่อย”

  • เคมบริดจ์เป็นเมืองเก่า ดูเก๋า หนาว โรแมนติก เหมาะกับคนมีแฟน

  • ส่วนลอสแองเจลิสจะร้อนกว่า แต่ไม่เหนียวตัวเหมือนเมืองไทย

  • เป็นเมืองที่เหมาะจะมีครอบครัว เพราะอาหารอร่อย ใกล้ทะเล กิจกรรมเยอะ

  • เคยไปกระโดดร่ม ทั้งที่กลัวความสูง เพราะเครียดกลัวไม่จบ

  • ก็ช็อกตัวเองไป หายกลัวไปเลย

  • แต่แอลเอก็เป็นเมืองใหญ่ มหาวิทยาลัย USC ก็เป็นจุดตัดของสองแก๊ง มีคนตายทุกปี

  • จบเอกก็กลับบ้าน อยากกลับมาหาพ่อแม่

  • ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของเมืองไทยเป็นระยะ

  • คัลเจอร์ช็อกตอนไปเมืองนอกเนี่ยไม่เท่าไหร่ แต่ตอนกลับไทยเนี่ย ช็อก

  • เพราะคิดแบบคนอเมริกันไปเยอะ คือให้น้ำหนักความถูกต้องมากกว่าความเกรงใจ มองว่าทุกคนมีเกียรติเท่ากัน

 

24:55

“ถ้าย้อนกลับไปได้จะบอกน้องไปป์อายุ 17 ว่ายังไง”

  • ตอบเล่นๆ คืออยากให้ซื้อ Bitcoin

  • ตอบซีเรียสคือเราเปลี่ยนแปลงอดีตไม่ได้ เลยอยากบอกเด็ก 17 ทุกวันนี้มากกว่า

  • สมัยก่อนไม่มีข้อมูลอะไรเท่าทุกวันนี้ แต่กลับเป็นว่าทุกวันนี้เราไม่อาจรู้ได้ว่าข้อมูลที่เห็นเนี่ยจริงหรือเปล่า

  • ฉะนั้น เด็กทุกวันนี้ควรวางกลยุทธชีวิต ขอคำปรึกษาคนมีประสบการณ์

  • หลักคือต้องฟังคำปรึกษาจากคนที่เราอยากเป็น

  • คนไทยพัฒนาช้ากว่าโลก แต่ไม่ใช่ว่าไม่มีโอกาส คนเรามีศักยภาพพอกัน

  • วิธีนึงคือเอาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมอื่นๆ

  • เด็กไทยถ้าเห็นแต่ของเดิมๆ ก็จะคิดแต่อะไรเดิมๆ น่าเสียดาย

 

28:18

“ชีวิตคนมันมีอุปสรรค แต่เราต้องมีวิธีปลุกปลอบใจตัวเอง”

“แล้ววิธีของไปป์คืออะไร”

“ไม่บอก (หัวเราะ)”

 

 

Credits

 

The Host ธัชนนท์ จารุพัชนี

The Guest รัฐภูมิ ตู้จินดา

 

Show Creator ภูมิชาย บุญสินสุข

Episode Producers นทธัญ แสงไชย

อธิษฐาน กาญจนพงศ์

ปวริศา ตั้งตุลานนท์

Episode Editor นทธัญ แสงไชย

Sound Designer & Engineer ศุภณัฐ เดชะอำไพ

Coordinator & Admin อภิสิทธิ์​ หรรษาภิรมย์โชค

Art Director กริณ ลีราภิรมย์

Graphic Designer เทียนจรัส วงศ์พิเศษกุล

Photographer อธิษฐาน กาญจนพงศ์

Music Westonemusic.com

[NEW] 10 ดาราดังที่จบการศึกษาจาก “มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์” | เมือง เค ม บริดจ์ – NATAVIGUIDES

    สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว

Dek-D.com

น้องๆ เคยสงสัยมั้ยคะว่าคนที่จบมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกมีใครบ้าง แต่ละคนจะเป็นนักวิชาการผู้เคร่งขรึมหรือเป็นหนอนหนังสือตัวเอ้เลยรึเปล่า จริงๆ มีคนดังในแวดวงบันเทิงหลายคนเลยนะคะที่นอกจากจะมีความสามารถด้านการแสดงแล้ว ยังเรียนเก่งสุดยอด และจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์

พี่พิซซ่า

เลยรวบรวมมาให้รู้จักพอเป็นน้ำจิ้ม 10 คนค่ะ ไปดูกันค่ะว่ามีใครบ้าง

John Cleese

Photo Credit: Warner Bros.

     เห็นชื่อนี้แล้วน้องๆ อาจจะไม่คุ้นว่าเขาเป็นใคร

จอห์น คลีส

เป็นนักแสดงชื่อดังคนหนึ่งของประเทศอังกฤษค่ะ ผลงานดังที่น้องๆ น่าจะเคยผ่านตากันมาบ้างได้แก่ บทนิคหัวเกือบขาดจากภาพยนตร์

Harry Potter

สองภาคแรก บท Q จากภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ เรื่อง

Die Another Day

และมีผลงานภาคเสียงอีกมากมาย ทั้งเสียงพระราชาแฮโรลด์ พ่อของเจ้าหญิงฟีโอน่าจากเรื่องเชร็ค และเสียงราชากริสเซิลคนพ่อจากเรื่อง Trolls

     เห็นเป็นนักแสดงที่มีผลงานเป็นหนังตลกและหนังเด็กมากมายแบบนี้ จริงๆ แล้วเขาเป็นคนเรียนเก่งมากเลยค่ะ สอบผ่าน O-level ถึง 8 วิชา และ A-level อีก 3 วิชาในวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และเคมี แต่หลังเรียนจบเขาไม่สามารถสมัครเข้าเคมบริดจ์ได้ทันที เนื่องจากยุคนั้นเพิ่งจบสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ไม่นาน และอังกฤษก็มีนโยบายเรื่องบังคับผู้ชายให้ต้องเกณฑ์ทหาร

     ปีที่เขาควรจะได้เข้ามหาวิทยาลัยดันตรงกับปีท้ายๆ ของกฎหมายบังคับเกณฑ์ทหาร ทำให้มีจำนวนผู้สมัครเข้าเรียนมากเป็น 2 เท่าของปกติเพราะมีทหารเพิ่งปลดประจำการมาสมัครด้วย เขาจึงกลับไปเป็นครูพิเศษให้กับโรงเรียนมัธยมของตัวเอง สอนวิชาวิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และภาษาละตินให้กับรุ่นน้อง ก่อนที่ในที่สุดจะสมัครเข้าเรียนที่เคมบริดจ์ได้สำเร็จค่ะ โดยได้เรียน

เอกนิติศาสตร์ที่ Downing College

Stephen Fry

Photo Credit: New Line Cinema

     ไม่แน่ใจว่าน้องๆ จะคุ้นชื่อคนนี้มั้ยเพราะเป็นนักแสดงตลกรุ่นใหญ่เช่นกันค่ะ

สตีเฟ่น ฟราย

เป็นทั้งนักแสดงและคนเบื้องหลังรายการตลกมากมายในอังกฤษ ผลงานที่น่าจะเคยเห็นกันคือรับบทเป็นผู้ว่าการเมืองทะเลสาบในภาพยนตร์ชุด

The Hobbit

(ที่เลวๆ โลภๆ นั่นแหละ) รับบทเป็นไมครอฟต์ โฮล์มส์ พี่ชายของเชอร์ล็อกเวอร์ชั่นโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ และพากย์เสียงเป็นแมวเชสเชียร์ใน

Alice in Wonderland

และ Alice Through the Looking Glass ค่ะ

     แต่ตอนเด็กๆ สตีเฟ่นไม่ได้เป็นเด็กดีเท่าไหร่นะคะ เขาเป็นเด็กหัวดีแต่ค่อนข้างจะเกเร ทำให้ตอนอายุ 15 เขาโดนไล่ออกจากโรงเรียน และเมื่อย้ายมาเรียนอีกโรงเรียนหนึ่งก็มีเรื่องเข้าใจผิดบางอย่างทำให้สตีเฟ่นโดนจับในข้อหาขโมยบัตรเครดิต จนต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 3 เดือน หลังออกจากคุกสตีเฟ่นก็ตั้งใจว่าจะตั้งใจเรียนจริงจังเพื่อสอบเข้าเคมบริดจ์ให้ทุกคนภูมิใจ และเขาก็ทำได้ค่ะ สตีเฟ่นเข้าเรียนที่

Queens’ College

ในวิชาเอกวรรณกรรมอังกฤษ

และได้คะแนนดีมากจนได้ทุนเรียนดีจากเคมบริดจ์เลย

Sacha Baron Cohen

Photo Credit: Four By Two Productions

    

ซาช่า บารอน โคเฮน

เป็นนักแสดงตลกอีกคนที่จบการศึกษาจากเคมบริดจ์ค่ะ ผลงานที่น้องๆ น่าจะรู้จักก็คือตัวละครชื่อ

Borat

จากภาพยนตร์เรื่อง Borat ที่กลายมาเป็นภาพมีมหลายๆ ภาพ นอกจากนี้ก็เป็นผู้พากย์เสียงคิงจูเลี่ยนจากเรื่อง

Madagascar

ทั้ง 3 ภาค

     ซาช่าจบปริญญาตรีสาขา

ประวัติศาสตร์จาก Christ’s College

มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ แถมยังได้เกียรตินิยมอันดับ 2 ชั้นสูงด้วยนะ นอกจากนี้เข้ายังใช้ภาษาหลักได้ 2 ภาษาดีเยี่ยมเท่าๆ กันคือภาษาอังกฤษและภาษาฮิบรู

Tom Hiddleston

Photo Credit: Legendary

     เชื่อว่าน้องๆ ต้องรู้จักคนนี้แน่นอนค่ะ

ทอม ฮิดเดิลสตัน

นักแสดงชาวอังกฤษที่เป็นที่รู้จักจากบทโลกิ ในจักรวาลภาพยนตร์

มาร์เวล

และล่าสุดคือบทเจมส์ คอนราด จากภาพยนตร์เรื่อง

Kong: Skull Island

นอกจากนี้ยังเป็นทูตของ UNICEF ประจำสหราชอาณาจักรอีกด้วย

     ช่วงมัธยมทอมเข้าเรียนที่โรงเรียนชั้นนำ Eton College ก่อนจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเคมบริดจ์โดยได้เรียน

เอกคลาสสิกที่ Pembroke College

และจบการศึกษาพร้อมเกียรตินิยมอันดับ 1 สองชั้น (บางสาขาที่เคมบริดจ์แบ่งการสอบจบเป็น 2 ครั้ง ถ้าทำได้คะแนนสูงระดับเกียรตินิยมอันดับ 1 ทั้งสองการสอบจะได้เป็นเกียรตินิยมแบบ Double First)

Hugh Laurie

Photo Credit: MBC Universal

    

ฮิว ลอรี

เป็นที่รู้จักจากบทหมอเฮ้าส์ ในซีรี่ส์เรื่อง

House

นอกจากนี้ก็มีผลงานภาพยนตร์อีกหลายเรื่องเช่น

Tomorrowland

, Stuart Little, The Man in the Iron Mask และ 101 Dalmatians

     คุณพ่อของฮิวเป็นหมอและสนับสนุนลูกๆ ให้ได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด เขาจึงได้เข้าเรียนในโรงเรียนประถมชั้นนำ แต่ตอนนั้นเขาเป็นเด็กเกเรมากๆ ไม่ยอมเรียน ลอกข้อสอบ แถมยังแอบสูบบุหรี่ จนมัธยมได้เข้าเรียนที่ Eton College เขาจึงกลับมาตั้งใจเรียนใหม่ และสอบเข้ามหาวิทยาลัยเคมบริดจ์เพราะเป็นเหมือนธรรมเนียมของตระกูลที่แทบทุกคนจบจากเคมบริดจ์ เขาได้เข้าเรียนวิชา

เอกโบราณคดีและมนุษยวิทยาที่ Selwyn College

และได้เป็นนักกีฬาพายเรือของมหาวิทยาลัยตามรอยคุณพ่อ

Ian McKellen

Photo Credit: New Line Cinema

     คอหนังฝรั่งไม่น่ามีใครไม่รู้จัก

เอียน แมคเคลเลน

นักแสดงอาวุโสที่มีผลงานดังมากมายทั้งบทพ่อมดแกนดาล์ฟในภาพยนตร์ชุด

The Lord of the Rings

และ

The Hobbit

บทแม็กนีโตในภาพยนตร์ชุด

X-Men

และล่าสุดกับบทของค็อกสเวิร์ธ ผู้กลายเป็นนาฬิกาใน

Beauty and the Beast

     เขาเกิดก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่นานทำให้ตอนเด็กๆ ต้องย้ายบ้านบ่อยและประสบปัญหามากมาย แต่ในที่สุดตอนอายุ 18 ปีเขาก็สอบได้ทุนของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และได้เรียนที่

St Catharine’s College วิชาเอกวรรณคดีอังกฤษ

และในปี 2014 ที่ผ่านมาเขาก็ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์อีกด้วย

Eddie Redmayne

Photo Credit: Warner Bros.

    

เอ็ดดี้ เรดเมน

เป็นนักแสดงมากความสามารถอีกคนหนึ่งของอังกฤษ ผลงานการแสดงเป็นสตีเฟ่น ฮอว์คิง ในเรื่อง

The Theory of Everything

ทำให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงนำชายดีเด่นจากเวทีออสการ์, ลูกโลกทองคำ, BAFTA และ Screen Actors Guild Award นอกจากนี้เขายังเป็นที่รู้จักจากบทลิลี่ใน

The Danish Girl

และบทนิวท์ สคามันเดอร์ ใน

Fantastic Beasts and Where to Find Them

     เอ็ดดี้จบมัธยมจาก Eton College รุ่นเดียวกับเจ้าชายวิลเลี่ยม จากนั้นเขาศึกษาต่อที่ Trinity College มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์

วิชาเอกประวัติศาสตร์ศิลปะ

และจบการศึกษาด้วยเกียรตินิยมอันดับ 2 ชั้นสูง (แม้ว่าเขาจะตาบอดสีก็ตาม)

Dan Stevens

Photo Credit: Disney

    

แดน สตีเว่นส์

กำลังมีผลงานดังอยู่ในขณะนี้กับบทบาทของบีสต์ใน

Beauty and The Beast

และบทของเดวิด พระเอกจากซีรี่ส์เรื่อง

Legion

แดนเป็นเด็กกำพร้าแต่ได้พ่อแม่ที่เป็นครูทั้งคู่รับมาเลี้ยง แม้ช่วงเด็กๆ จะค่อนข้างหัวรั้นไม่ฟังใคร แต่ไม่นานเขาก็ได้ทุนเรียนโรงเรียนเอกชนชั้นนำของเมือง และเข้าเรียนต่อ

เอกวรรณคดีอังกฤษที่ Emmanuel College

มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์

Tilda Swinton

Photo Credit: Marvel

    

ทิลด้า สวินตัน

เป็นนักแสดงที่เรียกได้ว่าเป็นตัวแม่ของวงการเลย ไม่ว่าจะบทไหนเธอก็เล่นได้หมด (บทผู้ชายก็เล่นมาแล้ว) ผลงานที่น่าจะคุ้นตากันดีคือบทของ Ancient One ใน

Doctor Strange

บทแม่มดขาวจาก

The Chronicles of Narnia

และบทของเกเบรียลใน

Constantine

     ทิลด้าเกิดในตระกูลผู้ดีที่สืบเชื้อสายมาจากผู้มีอำนาจมากมายย้อนไปถึงสมัยก่อนยุคกลาง เธอได้เรียนในโรงเรียนประจำหญิงล้วนชื่อดังหลายแห่งของประเทศ รวมถึงที่โรงเรียน West Heath ที่เธอเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกับเจ้าหญิงไดอาน่า จากนั้นเธอได้เข้าเรียนต่อที่

Murray Edwards College

มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ใน

วิชาเอกสังคมศาสตร์และรัฐศาสตร์

Emma Thompson

Photo Credit: Warner Bros.

    

เอ็มม่า ทอมป์สัน

เป็นนักแสดงหญิงชั้นนำของวงการอีกคนเช่นกัน เธอมีผลงานเป็นที่รู้จักมากมายทั้งบทศาสตราจารย์ทรีลอว์นีย์ใน

Harry Potter

บทตัวเอกของเรื่อง

Nanny McPhee

บทแคเรนจาก

Love Actually

และล่าสุดคือบทมิสซิสพ็อตส์ ใน

Beauty and the Beast

     หลังจบการศึกษาจากโรงเรียนชั้นนำในลอนดอน เธอก็เรียนต่อ

วิชาเอกภาษาอังกฤษที่ Newnham College

มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ขณะเรียนเธอก็รวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ที่สนใจการแสดงเหมือนกัน และคบหากับฮิว ลอรี ในระหว่างเรียน

    

แต่ละคนเก่งโคตรๆ เลย ไหนจะฝีมือการแสดง ไหนจะทักษะด้านวิชาการ น่ายึดเป็นแบบอย่างมากๆ เลยค่ะ


เดินชมเมืองเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ


เดินชมในเมืองเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ ช่วงนี้เงียบเหงาเพราะ Covid19 ทำพิษ
CambridgeUK Cambridgeshire สวนหย่อมสวยๆ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

เดินชมเมืองเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ

แฮมไปรับปริญญาที่อังกฤษ! — ชีวิตหนึ่งปีเต็มที่ Cambridge, UK | Gogetlost


ย่อชีวิตหนึ่งปีเต็มของนักเรียน Cambridge มาไว้ใน 15 นาที
.
นี่คือหนึ่งปีที่มีค่ามากที่สุดในชีวิตของเรา
เหมือนได้ไปใช้ชีวิตใน ฮอกวอตส์
ได้ไปเป็นเพื่อนกับแฮรี่พอตเตอร์
และได้อยู่รายล้อมด้วยคนที่เก่งที่สุดจากทั่วทุกมุมโลก
.
ตอนนี้เราเรียนจบแล้ว และเพิ่งบินข้ามฟ้ากลับไปรับปริญญาที่ Cambridge
เลยอยากจะมาเล่าให้ฟังว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา มันดียังไง มันฟินยังไงบ้าง
.
ขอรวบรวมความทรงจำที่ดีที่สุดของตัวเอง แล้วเอามาแบ่งปันให้กับทุกๆ คน
หวังว่าทุกคนจะหลงรัก Cambridge เหมือนที่เรารัก : )
.
gogetlostCambridge
CambridgeMBA
•••
Ham: @ham_kongkrit
Nat: @natnathida

Gogetlost
FB: https://www.facebook.com/getlosttobefound
IG: https://www.instagram.com/go.getlost/
Email: [email protected]

แฮมไปรับปริญญาที่อังกฤษ! — ชีวิตหนึ่งปีเต็มที่ Cambridge, UK | Gogetlost

South City Cycling Club|| Listening Test 2 ||( IELTS 13 )


Book 13

South City Cycling Club||  Listening Test 2 ||( IELTS 13 )

GOUNI EP19 – รีวิวเรียนภาษาที่เมือง Cambridge คลาสสิคแบบอังกฤษสุด!! | Feat. Bell Cambridge


สนใจมาเรียนภาษาที่ประเทศอังกฤษ (และ อเมริกา ออสฯ นิวฯ) ติดต่อ:
http://www.gouni.co.uk/th/bellcambridge_th/ | FB: gouni.th | Line: gouni_info | โทร 0933230500

GOUNI EP19 - รีวิวเรียนภาษาที่เมือง Cambridge คลาสสิคแบบอังกฤษสุด!! | Feat. Bell Cambridge

หนีเที่ยวกัน | Cambridge : England | 24 พ.ค. 62


รายการ หนีเที่ยวกัน
ทุกวันเสาร์ เวลา 08.25 น.
ได้ทางช่อง เวิร์คพอยท์ กดหมายเลข 23
และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของรายการได้ที่
เว็บไซต์: https://www.workpointtv.com
เฟสบุ๊ค: https://www.facebook.com/workpoint

หนีเที่ยวกัน | Cambridge : England | 24 พ.ค. 62

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ เมือง เค ม บริดจ์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *