Skip to content
Home » [NEW] ใครอยากเก่งภาษาอังกฤษ เชิญทางนี้ เรียนง่ายง่ายด้วยตัวเองกับการดูซีรีย์ฝรั่ง | อยาก ไป เรียน ต่าง ประเทศ แต่ ไม่ เก่ง ภาษา – NATAVIGUIDES

[NEW] ใครอยากเก่งภาษาอังกฤษ เชิญทางนี้ เรียนง่ายง่ายด้วยตัวเองกับการดูซีรีย์ฝรั่ง | อยาก ไป เรียน ต่าง ประเทศ แต่ ไม่ เก่ง ภาษา – NATAVIGUIDES

อยาก ไป เรียน ต่าง ประเทศ แต่ ไม่ เก่ง ภาษา: คุณกำลังดูกระทู้

ใครอยากเก่งภาษาอังฤษเชิญทางนี้ค่ะ


แม่ ค้าได้ไปเจอกระทู้ที่น่าสนใจและคิดว่ามีประโยชน์สำหรับคนที่อยากเรียนภาษา อังฤษด้วยตัวเองนะคะ หลังจากที่ได้อ่านจบ และลองไปเชิร์จหาแนวทางอื่นๆก็พบว่าการดูซีรีย์ฝรั่งทำให้ภาษาอังกฤษดีขึ้น จริงๆ ยืนยันมาจากหลายกระทู้แล้ว เลยอยากเอามาแบ่งปันให้เืพื่อนๆได้ทราบวิธีกันนะคะ

เครดิตจากคุณ คุณหลอกดาว @ http://www.pantip
ลิงค์ต้นฉบับ http://pantip.com/topic/31114028
จากภาษาอังกฤษเกรด 1 กัดฟันสู้…จนสอบได้ไปต่างประเทศ

มีเพื่อนเขาอยากจะเก่งภาษาอังกฤษ เลยมาปรึกษาว่าจะลงเรียนที่นั้นดีไหม ที่นี้ดีไหม ซึ้งราคาแต่ละที่แพงมากครับ หลายหมื่นเลย ผมเลยให้คำแนะนำเขาไป ซึ่งเพื่อนก็ชอบมากและจะปฎิบัติตาม เขาเองก็บอกว่าอยากให้ผมแชร์ประสบการณ์ฝึกษาภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง กับคนอื่นๆบ้าง  เลยมาขอมาแชร์ในพันทิป

พื้นฐานผมเป็นคนภาษาอังกฤษอ่อนมาก เรียนได้เกรดไม่ 1 ก็ 2 มาตลอด และเป็นวิชาที่เกลียดสุดๆ Verb to be, Verb to do, Tense อะไรพวกนี้ไม่เข้าใจเลยครับ คือคนส่วนใหญ่อาจจะมีปัญหาที่ไม่สามารถเอาไปใช้ได้ แต่เข้าใจและทำข้อสอบได้ แต่ผมมีปัญหาคือ ไม่สามารถทำข้อสอบได้เพราะไม่เข้าใจและไม่สามารถเอาไปใช้งานได้เลย

1.สร้างแรงบันดาลใจ
ผมก็เคยคิดจะพัฒนาภาษาอังกฤษ โดยการไปลงเรียนครอสภาษาภาษาอังกฤษ AUA level 1 เลยครับ 555 เรียนๆไปไม่จริงจังอะไร จนวันนึง มีโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนต่างประเทศ ผมสนใจโครงการนี้ และอยากไปประเทศสหรัฐอเมริกา  จากการไปหาข้อมูลพบว่าคนที่จะไปแลกเปลี่ยนที่อเมริกาได้ ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเก่งๆ พื้นฐานภาษาอังกฤษดีมาก เพราะอเมริกาเป็นประเทศแรกในกลุ่มเด็กนักเรียนแลกเปลี่ยนที่จะเลือกไปการ แข่งขันสูง
กลับมามองตัวเอง เอิ่มมมม กรูเนี้ยะนะจะไปสู้กับเขา มันยากนะครับที่จะไปแข่งกับเทพเจ้าพวกนั้น ขนาด I don’t know ผมยังพูดว่า I am don’t know เลย แย่ขนาดนี้จะไปสู้อะไร
แต่อีกใจนึง มันก็อยากไปนะ สหรัฐอเมริกาเชียวนะ นิวยอร์ก,ไนแองการ่า,ซานฟราน,แกรนด์ แคนยอน,ลาสเวกัส, บอสตัน ฯลฯ นั่งเปิดเน็ตดูรูปประเทศอเมริกา จนผมตัดใจ เอาวะ!!! ลองดู! เริ่มใหม่ ! อเมริกา! ต้องไปให้ได้! อเมริกา!

2.ค้นหาปัญหา
ปัญหาของผมคือ
1.เบื่อการเรียนภาษาอังกฤษ
2.เกลียดภาษาอังกฤษ
3.ฟัง พูด อ่าน เขียน ไม่ได้ ไม่ออก ไม่เป็น ทำไรไม่ได้เลย
4.ไม่อดทน
เราเบื่อ เบื่อเพราะอะไร เพราะเรานั่งเรียนให้ห้อง พูดประโยคตามที่อจ.สอน แล้วก็สลับกันพูดกับเพื่อนข้างๆ (ที่อ่อนภาษาเหมือนกัน 555) เบื่อ อจ.ที่มาถึงแจกชีท สอนแกรมม่า   เกลียดอังกฤษ….เกลียดทำไม เพราะมันยากงัย มันเบื่อมันก็เลยเกลียด พอมันเกลียดก็ไม่อยากเรียน ทักษาฟังพูดอ่านเขียน เลยง่อยไปตามๆกัน สุดท้ายก็ไม่อยากจะทนที่จะเรียน ผมจะทนไปทำไมก็มันไม่ชอบนิหว่า

3.เริ่มแก้ที่ละจุด
เบื่อรูปแบบการเรียนภาษาในห้อง งั้นผมเริ่มใหม่ ผมเริ่มจากการฟังครับ ผมไปเช่าหนังที่ร้าน DVD เรื่องนึงซึ้งตอนนั้นไม่รู้ว่ามันคือเรื่องไร หยิบมั่วๆมาครับ จากนั้นก็เปิดดูตามขั้นตอนดังนี้
1. sound ภาษาอังกฤษ
2. no subtitle
3. นั่งดู ไปเรื่อยๆ
จะพบว่า…มันก็เบื่อเหมือนเดิมนั้นละ ดูไม่รู้เรื่อง 5555 และจะทำไปทำไมเนี้ยะ !!! นึกถึงอเมริกาครับ นึกถึงวันที่เราสอบได้ วันที่เราได้ไปอเมริกา
ถ้าเราเบื่อแบบนี้เราจะไม่ได้ไปอเมริกา คิดแบบนั้นผมก็เลยดูต่อไป ดูๆไปมันก็สนุกดีนะครับ ถึงจะไม่รู้เรื่องสักเท่าไหร่
รอบสอง ผมก็ดูเรื่องเดิม แต่คราวนี้เลือกฉากที่ชอบสัก 10 นาที(ต้องเป็นฉากที่บทพูดเยอะๆนะ)ที่แล้วมานั่งฟัง ฟังแบบตั้งใจ จับความอะไรได้ไหม ตอบเลยว่า ไม่ได้!! แล้วจะทำไปเนี้ยะ เลิกแล้วไปเล่นเกมส์ดีกว่า  นึกถึงอเมริกาครับ นึกถึงวันที่เราสอบได้และได้ไปอเมริกา
ผมทำแบบนี้ทุกวัน เดิมๆครับ ดูหนังไปเรื่อยๆเอามันส์ไม่รู้เรื่อง จากนั้นก็เลือกฉากที่ชอบมา 10 นาที มา replay นั่งฟังซ้ำๆสัก 2-3 รอบ ทำแบบนี้ เกือบเดือน เริ่มเห็นผลแล้ว!!!!  ขอบคุณหนังฝรั่งเรื่องแรก ที่ผมทนดูจนจบได้ เพราะเรื่องของคุณสนุกมากครับ และที่สำคัญเนื้อเรื่องหนังเรื่องนี้สร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนหลายๆคนเลย หนังเก่าพอตัวเลยเรื่อง Legally blonde

3.ความสำเร็จขั้นแรก
หลังจากทำแบบนี้ไปได้สัก 3 อาทิตย์ หมดเงินค่าเช่าหนังไป ประมาณ 400 บาท

ความสำเร็จที่ผมรู้สึกได้คือวันนึงผมก็ดูหนังปกติ ตอนนั้นยอมรับว่าเบื่อจริงๆละ มันจะได้ผลไหมนะ ฟังแบบนี้ทุกวัน หลายๆครั้งผมอยากจะปิดหนังแล้วไปทำอย่างอื่นให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ก็นึกถึงอเมริกาครับ นึกถึงวันที่เราสอบได้และได้ไปอเมริกา มันก็จะเกิดความฮึกเหิมให้กลับมาทำ    ผมดูหนังไปเรื่อยๆเริ่มรู้สึกว่าทำไมหนังมันพูดช้าจังเลย ใครที่ดูหนังก็จะรู้ฝรั่งมันพูดเร็วยังกับจรวด ทำไมเรื่องนี้มันพูดช้าลงแฮะ  มาลองตรองดูพบว่า จริงๆแล้วฝรั่งเขาไม่ได้พูดช้าเลยครับ แต่เราชินกับความเร็วในการพูดของฝรั่งแล้ว ผมสามารถจับความในการฟังได้ประมาณ 30 % จากตอนแรก 0 %
เลยลองเปลี่ยนไปฟังวิทยุออนไลน์ สถานีของอเมริกาปรากฎว่าเขาพูดช้ากว่าในหนังเยอะเลย ผมสามารถจับความที่ DJ ฝรั่งพูดได้มากกว่า 50% ดีใจมากครับ แสดงว่ามันเริ่มเห็นผลแล้ว!!!!  มีกำลังใจแล้ว ฝึกต่อ นึกถึงอเมริกา นึกถึงวันที่เราสอบได้และได้ไปอเมริกา

4.ดัดจริต
ขั้นต่อมา ผมก็เริ่ม Advance ขึ้น ฟังอย่างเดียวกลัวเบื่อ คราวนี้เราพูดบ้างดีกว่า พูดของผมในที่นี้คือพูดตามดาราในหนังนั้นละครับ พูดผิดถูกไม่รู้ แต่จะพูด  ออกเสียง s เสียง z เสียง Stress เลียนแบบเขาไปครับ ซึ่งแน่นอนฟังแล้วรู้สึกดัดจริต แต่ทำคนเดียวในห้องไม่มีใครเห็นครับ 555 ดูหนังไปก็พูดตามไปเลียนแบบเขาไป บางทีเขาหัวเราะ เราก็หัวเราะ อย่าได้แคร์เราอยู่คนเดียว นึกถึงอเมริกา นึกถึงวันที่เราสอบได้และได้ไปอเมริกา

5.แกรมม่าใครว่าไม่สำคัญ

หลังจากฟังได้ 20 วัน ฟัง+พูดได้อีกสัก 20 วัน คราวนี้ผมก็เจอปัญหาใหญ่คือ ผมไม่สามารถเรียบเรียงคำพูดออกมาได้ คือผมสามารถพูดตามฝรั่งในหนังด้วยสำเนียงที่เหมือนเพราะเลียนแบบเขา แต่ผมไม่สามารถพูดตามที่อยากจะพูด เอาละสิ…ทำอย่างไรดี
คราวนี้ผมไปเลือกดูหนังสือแกรมม่าครับ ผมคิดว่าการที่เราจะพูดได้อย่างน้อย เราน่าจะรู้โครงสร้างของประโยคที่ถูกต้องเสียก่อน หนังสือแกรมม่ามีหลากหลายมาก ผมเลือกหนังสือแกรมม่าสำหรับใช้งาน เจ้าหนังสือแกรมม่ามันมีทั้งแบบแกรมม่าไว้สอบ คือมันจะซับซ้อน ยากไป!! ผมก็เอาแกรมม่าสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวัน ไปนั่งเลือกเอาที่ถูกใจเลยครับ ใช้เวลาไปเกือบวัน ได้มา 2-3 เล่ม
จากนั้นผมก็ค่อยๆอ่าน ค่อยๆศึกษามันทีละหัวข้อและพยายามเอามาประยุกต์ใช้    หัวข้อ tense ทั้ง 12  tense ผมจำได้หมด (ณ ตอนนั้น) ว่าโครงสร้างเป็นอย่างไร แต่เอาใช้ในชีวิตประจำวันจริงๆแล้ว ใช้ไม่กี่ tense เอง
สรุปคือทุกเช่น ผมจะต้องดูหนังฝรั่งวันละ 1-1.30 ชม พร้อมเลียนแบบเสียง จากนั้นก็นั่งศึกษาแกรมม่าประมาณ ครึ่ง- 1 ชม. จากนั้นก็ฝึกพูดคนเดียวหน้ากระจก  เหมือนคนบ้าฮะ แต่นึกถึงอเมริกา นึกถึงวันที่เราสอบได้ และได้ไปอเมริกา

6.เริ่มฝึกอ่าน
สำหรับการอ่าน ก็เริ่มจากอ่านในเนตครับ เวปข่าวต่างประเทศ แน่นอนครับว่ามันยากกกกก…..ใครมันจะไปอ่านได้ ผมก็เลยเปลี่ยนมาอ่านหนังสือพวก nation junior (ไม่ทราบว่าตอนนี้มีขายอยู่ไหม)  ยากมาหน่อยก็พวก reader’s digest ศัพย์ไม่รู้เปิด dictionary เลยครับ พยายามอ่านที่เป็นหนังสือนะครับ อย่าอ่านออนไลน์ เพราะอ่านในหนังสือศัพย์ตัวไหนเราไม่ทราบเราก็สามารถเปิดหาและจดมันลงไป ช่วยให้เราจำศัพย์ได้ดียิ่งขึ้น
เนื่องจากผมศึกษา grammar มาระดับนึงแล้ว การอ่านมันเลยง่ายขึ้นเยอะครับ ประโยคยาวๆๆๆ แยกได้ ส่วนไหนประธาน กริยา กรรม ส่วนไหนขยาย ส่วนไหนคือคำหลัก ผมคิดว่าถ้าเราเข้าใจ grammar สามารถใช้มันอย่างได้ถูกต้อง มันจะช่วยเราได้ดีเลยครับในเรื่องการอ่าน ฝึกอ่านไปเรื่อยๆ วันละ 1-2 หน้า จนนานเข้าเราก็สามารถอ่าน Bangkok post ได้ สำหรับการอ่านนี้อาจจะต้องใช้เวลานานหน่อย

7.การเขียน
อันนี้เป็นจุดสำคัญเลยครับ เป็นทักษะที่ผมคิดว่าค่อยข้างยาก และผมอาจจะต้องสอบเขียนเรียงความด้วย  ซึ่งเหนื่อยเลยไม่รู้จะทำอย่างไรดี อีกไม่นานก็จะต้องสอบแล้ว ผมก็เลยดูรูปแบบเรียงความหาได้ใน internet จำๆรูปแบบไปครับ 5555 ไม่ดีเลยนะครับ ผมอยากจะแนะนำว่า ถ้าอยากจะเขียนได้ดีๆ ควรจะมีคนคอยตรวจ คอยแก้ไขให้นะครับ ทักษะนี้ควรจะมีผู้ชี้แนะ ควรจะไปลงเรียนนะครับ ซึ่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสลงเรียน Academic writing ที่ มหาวิทยาลัยจัดอบรม มันช่วยให้ผมเข้าใจการเขียนได้ดีมากยิ่งขึ้น

โอเค….ย้อนกลับมา    หลังจากฝึก ฟัง พูด อ่านได้สัก 3 เดือน ผมอยากจะหาใครสักคนสนทนาภาษาอังกฤษด้วย พูดกับตัวเองนานแล้ว ผมเลยไปลงเรียนภาษาอังกฤษ AUA  ตอนแรกผมเรียนที่นั้น level 1 กับ 2 สามารถไปต่อ 3 ได้เลยแต่ผมขอสอบใหม่ อยากลองวัดระดับตัวเองด้วย ปรากฎว่าสอบได้ Level 13 จาก 15 level  แต่สุดท้ายผมก็ไม่ได้ลงเรียนหรอกครับ เพราะเสียดายเงิน มาฝึกหน้ากระจกต่อ

ในที่สุด ก็ถึงวันสอบไปอเมริกา ความตั้งใจก็เป็นจริงครับ ผมสอบผ่านด้วยคะแนนที่สูงพอสมควร ดีใจมากๆ วันสัมภาษณ์ผมฟังคนสัมภาษณ์ออกหมดเลยครับว่าเขาพูดอะไร  เขาบอกว่าภาษาอังกฤษผมดีอยู่แล้วทำไมอยากไปอเมริกา ไม่ไปประเทศอื่นที่ใช้ภาษาที่ สามเหรอ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี  ผมบอกว่าไม่ครับ ที่ผมตั้งใจฝึกภาษาอังกฤษเพราะตั้งใจจะไปอเมริกาครับ ดังนั้นผมไม่คิดจะเปลี่ยนใจแน่นอน

เนื่องจากฝึกด้วยตัวเองจนพื้นฐานเราดีพอสมควร ไปถึงอเมริกา ผมสามารถต่อยอดได้สบาย แรกๆมีติดๆขัดๆบ้าง เพราะเราอยู่แต่เมืองไทย สังคมที่พูดภาษาไทย ก็เลยเจอรับน้องตั้งแต่สนามบิน คือผมฟังเจ้าหน้าที่สนามบินที่นั้นไม่ออกครับ  ความมั่นใจหายแวบบไปเลย แต่พออยู่ๆไปก็สามารถปรับตัวได้ครับ
นี้ละครับประสบการณ์ ฝึกภาษาอังกฤษของผม สรุปคือ ผมเริ่มจากการฟังโดยดูหนังฝรั่งเลียนแบบเสียง ฝึกพูดกับตัวเอง ฝึกแกรมม่า จากนั้นก็อ่าน ส่วนเขียนมาเรียนเพิ่มเติมทีหลัง ถ้าคุณสังเกตุจะเห็นว่าผมใช้ประโยคซ้ำๆประโยคนึงคือ นึกถึงอเมริกา ผมจะสื่อว่า แรงบันดาลใจอันแรงกล้า คือสิ่งที่สำคัญมาก ควรสร้างแรงบันดาลใจอันแรงกล้าให้ตัวเอง ฉันอยากเก่งภาษาอังกฤษเพื่ออะไร  ถ้าแค่เพื่อได้งานดีๆอันนี้มันไม่แรงพอ
แต่ถ้าเป็นฉันจะเก่งภาษาเพื่อจะเป็นแอร์โฮมเตทอันนี้แรงพอ มีแรงบันดาลใจแล้วก็นึกภาพตัวเองเป็นแอร์ ทำงานบนเครื่องบิน พูดภาษาอังกฤษกับผู้โดยสาร สร้างภาพในหัว และลงมือทำ….เชื่อไหมว่ามันจะทำได้ดีมาก  ลองหาหนังเรื่อง View from the top มาดูนะครับ หนังเรื่องนี้ก็สร้างแรงบันดาลใจได้ดีเลยทีเดียว

————————————————————————————————————–
มีคอมเม้นท์นึที่น่าสนใจนะคะ แจ้งไว้ว่า

” ยืนยันอีกเสียงค่ะ ว่าการดูหนังช่วยได้มาก ส่วนตัวชอบดู Series ของ US อยู่แล้ว
เลือกเลยค่ะ อยากจะพูดแนวไหน
ด่าเก่งๆ ดู Series ตำรวจ CSI, Dexter, Breaking bad
แสลงเก๋ๆ ดูวัยรุ่น Glee, Gossip Girl, The OC, One tree hill, True blood
ศัพท์หมอ เลือก Grey’s anatomy, Bones
ศัพท์โบราณ ดู Game of thrones, Once upon a time
ดูมา 6 ปีต่อเนื่อง พูดกับฝรั่งๆ มักจะถามว่าไปอยู่อเมริกามาเหรอ สำเนียง The state

ปล.แนะนำให้ดู Gossip girl ค่ะ ได้สำเนียง NY แบบเจนนี่ 555 ”

แนะนำเรื่อง Friends อีกเรื่องค่ะ เป็นซีรีย์ที่สนุกและสำเนียงชัด

Table of Contents

Rate this:

แบ่งปันสิ่งนี้:

Like this:

ถูกใจ

กำลังโหลด…

ติดป้ายกำกับ:, , , ,

[NEW] เคล็ดลับง่าย ช่วยให้คุณเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ครบทั้ง 4 ทักษะ | อยาก ไป เรียน ต่าง ประเทศ แต่ ไม่ เก่ง ภาษา – NATAVIGUIDES

เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะอยากพูดให้ได้  ฟังให้เป็น อ่านให้คล่อง หรือจะเขียนให้ถูก ฝึกเป็นแล้วไม่ต้องกลัวเมื่อคุยกับชาวต่างชาติ  รับประกันว่าสามารถสื่อสารขั้นพื้นฐานได้อย่างแน่นอน สามารถนำไป
ต่อยอดสร้างโอกาสได้อย่างง่ายดาย ทั้งหมดนี้เป็นไปได้จากการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้อย่างถูกทาง

ข้อดีของการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง?

  • การเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง สามารถเลือกเวลาเรียนได้ตามสะดวกผู้เรียน โดยผู้เรียนจะเลือกได้ว่าจะเรียนเวลาไหน จะเรียนอะไร แบบไหน ก็จัดสรรได้ด้วยตัวเอง ไม่กระทบต่อกิจกรรมประจำ
  • เมื่อสามารถจัดสรรเวลาได้ก็จะประหยัดเวลาได้มากขึ้น ลดเวลาการเดินทางไปเรียนตามสถาบันต่าง ๆ มีเวลาไปทำอย่างอื่นได้อีกเพียบ
  • สามารถเรียนไปพร้อมกับการทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ เช่นทำอาหาร ออกกำลังกาย หรือกิจวัตรปประจำวันต่าง ๆ ที่ทำเป็นประจำ
  • การเรียนรู้ด้วยตัวเองทำให้สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้ไวขึ้น มีเวลาได้ค้นคว้าและทบทวนว่าชอบอะไร แบบไหน เมื่อค้นพบก็ช่วยเสริมสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนได้มากขึ้นด้วย
  • เรียนภาษาอังกฤษฟรีนี่คืออีกหนึ่งข้อดีที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพง เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ตก็สามารถค้นคว้าหาแหล่งการศึกษาที่ดี ๆ ได้เพียบในโลกออนไลน์

ยังมีข้อดีของการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองอีกมากมาย เพียงจัดสรรเวลา วางแผนวิธีการเรียนให้เหมาะสม ก็สามารถรับความรู้ได้ครบทุกทักษะ และหากคุณเองกำลังตัดสินใจว่าจะเรียนได้ไหม ? จะเรียนอย่างไรให้ได้ผลจริง เรามีเคล็ดลับการเรียนภาษาอังกฤษฟรี แต่ได้ผลจริงมาฝาก

 “How to” เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ได้เก่งทั้ง สี่ ทักษะ?!

บางคนอาจจะ มีความกังวลเมื่อเริ่มต้นเรียนภาษาอังกฤษ เพราะกลัวไปเองว่าจะเจอปัญหาและทำให้ท้อแท้ได้ง่าย ๆ แต่ถ้าคุณรู้หลักการ “How to” เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ก็จะสามารถเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้อย่างง่าย และครบในทุกทักษะ ก็จะเห็นว่าภาษาอังกฤษก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

วิธีการพัฒนาทักษะการฟัง

  1. ฝึกด้วยการดูภาพยนตร์และซีรีส์ต่างประเทศแบบไม่มีซับไตเติ้ล โดยวิธีนี้จะเป็นการฝึกทักษะการฟังที่ได้ผลจริง โดยการฝึกด้วยการดูนั้นมีเรื่องของการดูด้วยภาพที่จะช่วยให้เข้าใจต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ในระหว่างการรับชมเมื่อเจอคำศัพท์ทีน่าสนใจ ให้ทำการจดบันทึกเอาไว้เพื่อนำไปหาความหมายจะเป็นการฝึกทักษะไปด้วยอีกทาง
  2. การฝึกด้วยการฟังเพลงสากล เลือกฟังตามแนวเพลงที่ชอบเมื่อเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง ในบทเพลงจะช่วยในเรื่องของการฝึกสำเนียง คำศัพท์ และรูปประโยคด้วย ที่สำคัญการฝึกแบบนี้จะให้ความผ่อนคลายและไม่เบื่อที่จะเรียน
  3. การเรียนผ่านเว็บไซต์ โดยในปัจจุบันมีแหล่งข้อมูลออนไลน์ที่น่าเชื่อถือมากมายที่ให้ผู้ใช้ได้เข้าถึง และเรียนฟรีแบบไม่ต้องเสียเงิน มีรูปแบบการเรียนที่หลากหลาย และครอบคลุมให้เลือก ที่จะช่วยพัฒนาทักษะของผู้เรียนได้ครบในทุกด้าน โดยการเรียนแบบออนไลน์ให้ความสะดวกมาก เพราะจะเลือกเรียนเมื่อไหร่ เวลาไหน รูปแบบใดก็ได้ตามแต่ผู้เรียนต้องการ
  4. การฝึกจับใจความด้วย Keyword เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยสร้างการจดจำได้ดี เพราะเราไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ในทุกความหมายของประโยค เพียงแค่รู้ศัพท์สำคัญ และบริบทของเนื้อหาเรื่องที่รับฟัง ก็จะช่วยสร้างความเข้าใจและลดระยะเวลาในการตีความหมายได้ดีขึ้น ดังนั้นคำศัพท์พื้นฐานจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองลองทำแบบทดสอบ สามารถหาได้ตามอินเทอร์เน็ต ฝึกลองทำทุกวัน เริ่มจากวิธีการง่าย ๆ เช่นการฟังบทพูด แล้วลองเติมคำในช่องว่างที่หายไปเพื่อให้ประโยคสมบูรณ์ หรือลองหาคำตอบว่าในเรื่องราวที่ฟังนั้นมีบทสรุปว่าอย่างไร การฝึกทำแบบทดสอบจะช่วยทบทวนความจำ และเน้นย้ำคำศัพท์ เป็นวิธีที่ได้ผลมากสำหรับการเรียน ภาษา อังกฤษ

วิธีการพัฒนาทักษะการพูด

  1. ฝึกพูดภาษาอังกฤษตามบทภาพยนตร์ ข่าว หรือตัวอย่างบทสนทนาต่าง ๆ ฝึกออกเสียคำศัพท์ให้ถูกต้อง และลองใช้สำเนียงให้เป็น อาจจะลองฝึกกับตัวเองหน้ากระจกหรือกับเพื่อที่เรียนด้วยกัน หมั่นทำให้เป็นนิสัย ใช้เวลาวันละประมาณ 20-30 นาทีต่อวันก็เพียงพอแล้ว
  2. จดคำศัพท์เอาไว้ที่โน้ตเตือน เมื่อหันมาเจอก็จะผ่านตาและสร้างการจดจำได้ดี และศัพท์ต่าง ๆ เรานี้จะช่วยคุณได้เมื่อได้เมื่อเกิดการสื่อสาร นำศัพท์ในคลังที่จดจำไว้มาประยุกต์ใช้ในการสนทนาเพื่อช่วยพัฒนาทักษะการพูดของคุณ เเละเป็น เคล็ดลับง่าย ๆ เมื่อคุณเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
  3. ฝึกการพูดให้บ่อย ลองหัดสนทนากับคนใกล้ตัว หรือลองหาเพื่อนที่เป็นชาวต่างชาติ หาโอกาสในการสื่อสาร โดยเริ่มจากการพูดถึงเรื่องทั่ว ๆ ไป หยิบยกเรื่องใกล้ตัวมาพูดและค่อย ๆ พัฒนาไปทีละระดับด้วยการเปิดหัวข้อสนทนาที่กว้างขวางมากขึ้น เป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองต่อกัน สร้างการเรียนรู้รอบตัวให้กว้างขึ้นไปอีกระดับ
  4. มีความมั่นใจ และอย่าอายว่าจะพูดผิด ข้อนี้สำคัญมาก ผู้เรียนต้องเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองก่อน อย่าได้กังวลว่าสิ่งที่ทำลงไปจะสร้างความขบขันและบั่นทอนความมั่นใจอะไร แค่คุณกล้าก็เท่ากับว่าได้ก้าวเข้าไปอีกขั้น และอย่าอายหากไม่รู้ศัพท์หรือพูดไม่ถูกต้องเมื่อได้ลองสื่อสารแล้ว จงกล้าที่จะถามหาคำตอบที่ถูกจากผู้อื่น และฝึกการจดจำเพื่อนำไปพัฒนาต่อไป

อย่าอายถ้าคุณโชคไม่ดีที่ใช้ไวยากรณ์ผิดหรือออกเสียงคำผิด

วิธีการพัฒนาทักษะการอ่าน

  1. เริ่มต้นอ่านจากแบบการฝึกการอ่านง่าย ๆ เช่น นิทาน บทความ เรื่องสั้น หรือคอลัมน์เล็ก ๆ ในหน้านิตยสารต่าง ๆ แรกเริ่มลองฝึกอ่านออกเสียงก่อน แล้วค่อย ๆ พัฒนาไปเป็นการฝึกอ่านในใจ ช่วงเริ่มต้นลองฝึกการอ่านควบคู่ไปกับการฟังเสียงด้วยก็ได้ มีแบบฝึกอ่านมากมายในเว็บไซต์ที่ให้คุณอ่านตามพร้อมกับฟังบทพูดไปด้วย เมื่อพบคำไหนที่ไม่เข้าใจความหมายให้โน้ตเอาไว้หรือลองฝึกทายคำดู เพื่อช่วยสร้างการจดจำและช่วยให้เข้าใจเรื่องราวที่อ่านได้ดีขึ้น
  2. มีเว็บไซต์มากมายที่จะเป็นตัวช่วยในการพัฒนาทักษะการอ่าน ซึ่งผู้เรียนสามารถเลือกเนื้อหาที่สนใจได้เพื่อให้การอ่านดูสนุกและไม่น่าเบื่อ ไม่ว่าจะเป็น
    • Listopia

       (Goodreads) พบกับหนังสือน่าอ่านมากมาย ที่ผู้เรียนคนอื่นได้ร่วมแบ่งปันเอาไว้ที่นี่

    • Your Next Read หากไม่รู้ว่าจะอ่านอะไรต่อ เว็บนี้จะจดจำประวัติการอ่านคุณจากเว็บไซต์ก่อนหน้า และนำมาสร้างรายการการอ่านที่เหมาะสำหรับคุณให้เอง
    • Jellybooks ก่อนจะเลือกซื้อหนังสือใหม่ ๆ ที่น่าสนใจสักเล่ม เว็บนี้จะให้คุณได้ทดลองอ่านหนังสือเหล่านั้น เพื่อช่วยประกอบในการตัดสินใจซื้อของคุณ
    • Whichbook เว็บไซต์ที่ครอบคลุมในทุกเนื้อหาที่น่าสนใจให้คุณได้เลือกได้อย่างไม่จำกัด มีครบทุกรูปแบบ ทั้งสุข เศร้า ดราม่า สยองขวัญ ตื่นเต้น จรรโลงใจ เลือกดูได้ที่เว็บนี้

3.ฝึกการอ่านด้วยความใจเย็น ไม่เร่งรีบ ซึมซับเนื้อหาของเรื่องราวที่อ่านเพื่อสร้างความเข้าในใจในคำศัพท์ต่าง ๆ ออกเสียงให้ถูกต้อง เว้นวรรคให้เป็น อ่านเสร็จก็ลองมาเขียนสรุปย่อ หรืออ่านทวนซ้ำอีกครั้งเพื่อทบทวนเนื้อหา หรือหาคำตอบในจุดที่ไม่คลี่คลาย และลองทำบททดสอบดูควบคู่ไปด้วย ที่หลายเว็บจะมีเตรียมไว้ให้เพื่อสรุปว่าผู้เรียนสามารถเข้าใจเรื่องที่อ่านได้ดีหรือไม่ และเข้าใจอยู่ที่กี่เปอร์เซ็นต์ และเมื่อเรารู้ระดับความสามารถของตัวเองแล้วก็จะช่วยให้เราได้รู้ว่าจากนี้ไปจะเริ่มพัฒนาอย่างไรต่อไปได้ถูกต้องและได้ผลดีสำหรับเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง

วิธีการพัฒนาทักษะการเขียน

1. ฝึกการเขียนจากการจดบันทึกในรูปแบบไดอารี่สั้น ๆ พยายามหมั่นใช้หลักแกรมม่าพื้นฐานและเลือกใช้ศัพท์ที่จดจำได้มากที่สุด เพราะว่ามันจะมีประโยชน์อะไรหากคุณรู้ศัพท์มากมายแต่นำมาใช้สร้างประโยคและเรื่องราวไม่เป็น หัดเขียนให้อยู่ที่ประมาณ 300-400 คำต่อ 1 บทหรือ 1 เรื่องราว โดยหยิบยกเรื่องที่เจอมาในแต่ละวันมาถ่ายทอดเป็นบทความสั้น ๆ ตัวอย่างเช่น

“Everyday morning, I get up at 6:30. After brushing my teeth and washing my face, I usually have breakfast at 7:00 a.m. I go to work by bus and arrive at about 7:30 a.m. Usually, I start my work at 7:35 a.m. I stop at 11:45 a.m for lunch in my office.
In the afternoon, I finish my work at 5:30 p.m, then I go home. I always spend my time cooking dinner for my small family and we usually have dinner at 7:30 p.m. After dinner, we often watch TV and play with our son and go to bed at 11:00 pm. On weekends, I usually go out with my family or friends.”

คำแปล
“ในทุก ๆ เช้าของแต่ละวัน ฉันตื่นนอนเวลา 6:30 น. หลังจากล้างหน้าแปรงฟัน ฉันก็มาทานอาหารเช้าต่อในเวลา 7:00 นาฬิกา ฉันไปทำงานโดยรถบัส ถึงออฟฟิศประมาณ 7:30 น. เริ่มงานในเวลา 7.35 น. หยุดพักอีกทีตอน 11:45 สำหรับมื้อเที่ยงในที่ทำงาน 
ในช่วงเวลาบ่ายฉันเลิกงาน 17:30 และกลับบ้าน ฉันมักจะใช้เวลาทำอาหารเย็นให้ครอบครัวเล็ก ๆ ของฉัน พวกเราทานอาหารด้วยกันในเวลา 19:30 น. หลักอาหารเย็นพวกเรามานั่งดูทีวี และเล่นด้วยกันกับลูกชายเป็นประจำ และเข้านอนในเวลา 23:00 โดยในวันหยุดสุดสัปดาห์ ฉันจะได้ออกไปเที่ยวข้างนอกกับครอบครัวหรือเพื่อน ๆ ”
ฝึกการเขียนเรื่องราวด้วยหัวข้อที่หลากหลายในชีวิตประจำวัน ที่ไม่ใช่เพียงการเขียนบันทึกเรื่องราวที่พบเจอ อาจจะเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของตัวเอง พูดถึงงานอดิเรก ผู้คนที่เกี่ยวข้อง เรื่องราวประทับใจในอดีต หรือเป้าหมายในอนาคต ลองถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านี้ออกมาอย่างน้อยวันละ 1 บทความ เพราะนี่คือวิธีการฝึกทักษะการเขียนที่ได้ผลจริง เเละก็เป็นวิธีที่ดีถ้าคุณอยากเก่ง เเละบรรลุเป้าหมายของ เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง

2.อีกหนึ่งไอเดียที่ดี คือการฝึกเขียนโต้ตอบในโลกออนไลน์ เป็นวิธีการปฏิบัติที่ง่าย ๆ ในพื้นที่โซเชียลของตัวเอง แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในโพสต์ที่น่าสนใจ หรือลงเรื่องราวสั้น ๆ ด้วยภาษาอังกฤษสำหรับโพสต์ของตัวเอง หรือการลงรูปภาพสวย ๆ พร้อมเขียนคำอธิบายที่เรียกว่า Caption ด้วยถ้อยคำข้อความเท่ ๆ ซึ่งอยู่ที่ไหนก็สามารถใช้วิธีนี้ได้ตามสะดวกเรา
3. เรียนรู้คำศัพท์ใหม่อย่างน้อยวันละ 5-10 คำด้วยการจดบันทึกและลองสร้างประโยค ช่วยสร้างการจดจำที่ได้ผล
4. แลกเปลี่ยนความรู้ และขอคำแนะนำจากคนรู้จักคนสนิทที่มีความรู้ความเข้าใจในภาษาอังกฤษที่ดี ให้ช่วยตรวจทานและคอมเม้นต์หากพบประโยคหรือคำที่ผิด หากอยากเก่งภาษาอังกฤษ จงอย่าอายเมื่อเขียนผิดและอย่ากลัวที่จะถามคำที่ถูก
5. มีเกมในมากมายที่เกี่ยวกับคำศัพท์ภาษาอังกฤษที่ให้คุณได้โหลดมาเล่นฟรี ๆ ที่จะช่วยให้คุณสนุกไปกับการใช้ภาษาอังกฤษ เช่น เกมทายความหมายคำศัพท์ เกมทดสอบความจำ เกมหาคำที่ซ่อน เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น

  • Draw Something Free เกมที่จะให้ผู้เข้าเล่นได้วาดภาพและให้ผู้เล่นคนอื่นทายว่าภาพนั้นคืออะไร
  • Word Ninja เกมฝีมือคนไทย นำเสนอในรูปแบบโปรแกรมสอนภาษาอังกฤษบนสมาร์ทโฟนและแท็ปแล็ต
  • Wordament เกมค้นหาศัพท์ภาษาอังกฤษที่ช่วยให้คุณได้เจอศัพท์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจในทุกวัน

คุณรู้ไหมว่า การเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ก็เหมือนการฝึกขี่จักรยานคือการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงเราต้องกล้าทำ เราถึงจะเก่งได้ แตกต่างจากแพ็กเกจเรียนทั่วไป สำหรับการเรียนกับ Eng Breaking ผู้เรียนจะมีโอกาสสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างไหลลื่น หลังจากการเรียนด้วยตัวเองเพียง 3 เดือน
เรามีมากกว่า 167,300 นักเรียนทั่วไทยที่สำเร็จเเล้ว ถ้าคุณอยากเป็นผู้เรียนที่สำเร็จต่อไปอย่าพลาดกับการเรียนกับ Eng Breaking วันนี้.

ความคิดเห็น 635 รายการ

 


ขันหมากมาแล้ว งานแต่งเช้าเจนนี่ยิว ยินดีด้วยจ้าา🥰


เจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น
งานแต่งเจนนี่ได้หมดถ้าสดชื่น
ยิวเจนchanel
เจนนี่แต่งงาน
งานแต่งเจนนี่
เจนนี่ลิลลี่
เจนนี่
ลิลลี่
เจนนี่ยิว
ลิลลี่เจนนี่
ลิลลี่ได้หมดถ้าสดชื่น
เจนยิว
ยิวเจนนี่
ยิวเจน
ยิวเจนchanel
เจนนี่รัชนก
ยิวฉัตรมงคล
ค่าเพลงได้หมดถ้าสดชื่น
เลิกคุยทั้งอำเภอ
ได้หมดถ้าสดชื่น
ข่าวบันเทิง
เจนนี่ท้อง
ฝากครรภ์
ฝากท้อง
ฝากกดติดตาม
ฝากกดไลค์
หนูแพรวได้หทดถ้าสดชื่น
ถ่ายพรีเวดดิ้ง
พรีเวดดิ้ง
เจนนี่แต่งงาน
งานแต่งงาน

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ขันหมากมาแล้ว งานแต่งเช้าเจนนี่ยิว ยินดีด้วยจ้าา🥰

อย่าพึ่งมาเรียนภาษาที่ต่างประเทศถ้ายังไม่รู้สิ่งนี้ !


หากใครตั้งคำถามกับตัวเองอยู่ว่า มาเรียนภาษาต่างประเทศดีไหม ? เริ่มต้นอย่างไร ? ฉันจะมาได้หรือเปล่า, อยากจะให้ได้เริ่มตั้งคำตามแรกกับตัวเองก่อนว่า \”อะไรที่ทำอยู่ตอนนี้จะ(ไม่)ทำให้ฉันได้ไปอยู่ต่างประเทศ, หรือสำเร็จสิ่งใดที่ตั้งไว้\” แล้วให้หลีกเลี่ยงสิ่งนั้น ๆ ก่อนครับ
เรียนภาษา เรียนต่อต่างประเทศ ทำงานต่างประเทศ
★ Subscribe: https://www.youtube.com/mrost/?sub_confirmation=1\r
★ Instagram: https://instagram.com/mymrost/\r
★ Facebook: https://www.facebook.com/MYMROST\r
★ Twitter: https://twitter.com/OkaySalt\r
★ Youtube: https://www.youtube.com/c/mrost

อย่าพึ่งมาเรียนภาษาที่ต่างประเทศถ้ายังไม่รู้สิ่งนี้ !

น่าอาย คนสวนพูดภาษาอังกฤษได้ l Lw Film


หนังสั้น เรื่องราวสะท้อนสังคม เตือนภัยต่างๆ
หนังสั้น ละครสั้น

น่าอาย คนสวนพูดภาษาอังกฤษได้ l Lw Film

ไม่เก่งภาษา แต่อยากไปเรียนต่างประเทศต้องทำยังไง? New Zealand Ep.1


ไม่เก่งภาษา แต่อยากไปเรียนต่างประเทศต้องทำยังไง? New Zealand Ep.1

เป็ด ณ อเมริกา EP.1 | ไปเรียนที่อเมริกาแบบพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย


อยากจะแชร์ประสบการณ์ ตอนที่ผม ไปเรียนภาษาที่ต่างประเทศแบบไม่รู้อะไรเลยกับทุกคนครับ ถ้าผิดพลาดอะไรขออภัยด้วยเด้อ ananped อเมริกา เรียนภาษา

ถ้าชอบก็ฝาก LIKE 👍🏻 SUBSCRIBE 👆🏻 SHARE 👇🏻 และกดกระดิ่ง 🔔
ที่ลิ้งด้านล่าง เพื่อเป็นกำลังใจ ❤️ ให้ผมด้วยนะครับ 😀
👉🏻 http://bit.ly/2NLjgOY

Facebook ส่วนตัว
👉🏻 https://www.facebook.com/an4ns

เป็ด ณ อเมริกา EP.1 | ไปเรียนที่อเมริกาแบบพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ อยาก ไป เรียน ต่าง ประเทศ แต่ ไม่ เก่ง ภาษา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *