Skip to content
Home » [NEW] แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป5 หน่วยที่4-Flip eBook Pages 1 – 50 | เลข จํา น วน นับ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] แผนการจัดการเรียนรู้ ภาษาอังกฤษ ป5 หน่วยที่4-Flip eBook Pages 1 – 50 | เลข จํา น วน นับ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

เลข จํา น วน นับ ภาษา อังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรื่อง All Year Long เวลา 10 ชั่วโมง

เร่ือง Ordinal Number เวลา 1 ช่ัวโมง

ใช้สอนวันท่.ี …………………เดือน…………………………………พ.ศ. ………………

1. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด
การเรียนร้เู รือ่ งวนั สำคัญของตนเองและของประเทศชาติ ความแตกต่างของเทศกาล ฤดกู าล ท้ังของ

ไทยและตา่ งประเทศ เปน็ ภาษาองั กฤษ เป็นสงิ่ จำเปน็ สำหรับการนำภาษาไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน
2. มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั /จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

2.1 มาตรฐาน
ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟงั และอา่ นจากสื่อประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็นอย่างมี
เหตุผล
ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเห็นในเรอื่ งตา่ งๆ โดยการพูดและการ
เขียน
2.2 ตวั ชวี้ ัด
ต 1.1 ป.5/2 อ่านออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสน้ั ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน
ต 1.1 ป.5/3 ระบุ/วาดภาพสญั ลักษณห์ รือเคร่อื งหมายตรงตามความหมายของประโยคและ
ข้อความสน้ั ๆ ทีฟ่ ังหรอื อ่าน
ต 1.3 ป.5/1 พดู /เขียนเพอ่ื ให้ข้อมูลเกยี่ วกับตนเองและเรื่องใกล้ตวั
2.3 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ความรู้ (K)
การพดู ให้ขอ้ มลู เก่ียวกบั ลำดับที่
ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
การอ่านออกเสียงคำและประโยคเกยี่ วกับ ordinal number
เจตคติ (A)
มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรแู้ ละมุ่งม่ันในการทำงาน
3. สาระการเรียนรู้
Function : Counting ordinal number 1st to 31st
Vocabulary : คำศัพทใ์ หม่

first, second, third, fourth, fifth, sixth, seventh, eighth, ninth,
tenth, eleventh, twelfth, thirteenth, fourteenth, fifteenth, sixteenth, seventeenth,eighteenth,
nineteenth, twentieth, twenty-first, twenty-second, twenty-third, twenty-fourth, twenty-fifth,
twenty-sixth, twenty-seventh, twenty-eighth, twenty-ninth, thirtieth, thirty-first, forty, fifty,
sixty
4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รียน

 ความสามารถในการส่อื สาร
 ความสามารถในการคิด
 ความสามารถในการแก้ปัญหา

 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

 รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  อย่อู ย่างพอเพียง

 ซอ่ื สัตย์สุจริต  มงุ่ มั่นในการทำงาน

 มีวนิ ยั  รักความเป็นไทย

 ใฝเ่ รยี นรู้  มีจติ สาธารณะ

6. จุดเน้นสกู่ ารพัฒนาผู้เรียน

ความสามารถและทกั ษะของผ้เู รยี นศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)
 R1– Reading (อ่านออก)  R2– (W)Riting (เขียนได้)  R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเป็น)
 C1 – Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะดา้ นการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ

และทกั ษะในการแก้ปัญหา)
 C2 – Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรค์และนวตั กรรม)
 C3 – Cross-cultural Understanding (ทกั ษะดา้ นความเข้าใจตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทศั น์)
 C4 – Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การทำงานเป็น

ทมี และภาวะผนู้ ำ)

 C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร

สารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทันสอ่ื )
 C6 – Computing and ICT Literacy (ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ

และการส่ือสาร)
 C7 – Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้)
 C8 – Compassion (ความมีเมตตากรุณา วนิ ัย คุณธรรม จริยธรรม)

 L1 – Learning (ทักษะการเรียนรู้)  L2 – Leadership (ทกั ษะความเป็นผู้นำ)

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. Warm up
ครูให้นกั เรยี นนบั จำนวนนับ 1-50 โดยให้นับเรยี งทลี ะคน ถ้านักเรยี นมีไมถ่ งึ จำนวน 50 คน

ใหน้ ับวนไปทค่ี นเริ่มตน้ อีกครั้ง ครเู ปิดปฏทิ ินทต่ี ิดอย่ใู นห้องเรยี นทลี ะแผ่น ใหน้ ักเรยี นอ่านช่อื เดอื นจนครบ 12
เดอื น

2. Presentation
2.1 ครูสอนคำศัพทใ์ หม่ ครูอ่านออกเสียง นักเรียนออกเสียงตาม 2-3 ครง้ั

the first, the second, the third, the fourth, the fifth, the sixth, the seventh, the eighth,
the ninth, the tenth, the eleventh, the twelfth, the thirteenth, the fourteenth, the fifteenth,
the sixteenth, the seventeenth, the eighteenth, the nineteenth, the twentieth, the twenty-first,
the twenty-second, the twenty-third, the twenty-fourth, the twenty-fifth, the twenty-sixth, the
twenty-seventh, the twenty-eighth, the twenty-ninth, the thirtieth, the thirty-first

2.2 ครูใหน้ กั เรยี นสังเกตการเขยี นสะกดคำของเลขลำดบั ที่ ทตี่ ิดบนกระดานดำ ใหน้ ักเรยี นคน
เลขที่ 1 ยนื ขึน้ ครใู หน้ ักเรยี นทุกคนสงั เกตคำถามและคำตอบ ครูถาม What is your student number? ครู
ให้นกั เรยี นคนเลขท่ี 1 พดู ตามครู I am the first. ครถู ามนักเรยี นคนต่อไป What is your student
number? นักเรยี นตอบ ครูถามคนต่อไปอกี ประมาณ 5-6 คน เมื่อสังเกตว่านกั เรยี นเข้าใจและพดู ถกู ต้องแล้ว

3. Practice
ฝกึ ออกเสยี ง ฝึกพูดบอกลำดับท่ี 1-31 จากปฏทิ ิน

4. Production
4.1 นักเรียนทำแบบฝึกหัด Listen and circle. ใน WB หนา้ 32 ครูอ่านคำตาม Script

ต่อไปนี้ข้อละ 2 ครงั้ ใหน้ ักเรียนฟงั ครูพดู แล้ววงกลมล้อมรอบคำท่ีครูอ่าน

1. the tenth 2. the fourth 3. the sixth
4. the nineteenth 5. the eighth 6. the twelfth
7. the twenty-first 8. the fifteenth 9. the thirtieth
10. the seventeenth

4.2 ครเู ฉลยคำตอบ
5. Wrap up

นกั เรียนเขียนลำดับท่ี 1-31 ลงในสมดุ แบบฝกึ หัด

8. การวัดและประเมนิ ผล

สง่ิ ที่วัด วิธีวดั ผล เครือ่ งมอื วดั ผล เกณฑ์การประเมินผล
แบบประเมนิ การพดู 60% ข้นึ ไป ผ่าน
ดา้ นความรู้ (K)

การพูดให้ข้อมลู เก่ียวกบั ประเมนิ การพดู

ลำดบั ที่

ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)

การอ่านออกเสยี งคำและ ประเมินการอ่าน แบบประเมนิ การอ่าน 60% ขึน้ ไป ผา่ น

ประโยคเก่ียวกบั ordinal

number

ดา้ นคุณลักษณะ

อันพงึ ประสงค์ (A)

มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่น การสังเกตการร่วม แบบประเมนิ คุณลักษณะอัน 60% ขน้ึ ไป ผ่าน
พงึ ประสงค์
ในการทำงาน กิจกรรมในช้นั เรยี น

9. ส่ือ/แหล่งเรยี นรู้

9.1 สื่อการเรียนรู้

9.1.1 Student’s Book 5

9.1.2 Workbook 5

9.1.3 บัตรคำศัพทล์ ำดบั ท่ี

9.1.4 ปฏิทิน

9.1.5 สมุดแบบฝกึ หดั

9.2 แหล่งเรียนรู้

หอ้ งสมุด

ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้ที่ได้รบั มอบหมาย (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง)
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่
(นายมาโนช ด้วงชู)

ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยพลูหนงั
วนั ท…ี่ ……..เดอื น………………..….พ.ศ. …………..

ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษาหรือผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย

ความเห็นของหวั หน้ากลุ่มบริหารวชิ าการ ความเหน็ ของผบู้ รหิ าร/ผูท้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้แลว้ มคี วามคดิ เหน็ ดงั น้ี ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรแู้ ลว้ มีความคดิ เหน็ ดงั นี้

1. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่

 ดีมาก  ดีมาก

 ดี  ดี

 พอใช้  พอใช้

 ควรปรับปรุง  ควรปรบั ปรงุ

2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2. การจดั กจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้

 เน้นผเู้ รียนเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่าง  เนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง

เหมาะสม เหมาะสม

 ยังไมเ่ น้นผูเ้ รยี นเป็นสำคัญควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป  ยังไมเ่ น้นผ้เู รยี นเป็นสำคัญควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป

3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3. เปน็ แผนการจดั การเรียนรู้ที่

 นำไปใช้ไดจ้ ริง  นำไปใชไ้ ด้จรงิ

 ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้  ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้

4. ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ 4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………..

(ลงชอ่ื ) (ลงชอื่ )

(นายอดศิ ักดิ์ ณรินทร์) (นายมาโนช ดว้ งชู)

หัวหนา้ กลมุ่ บริหารวชิ าการ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยพลูหนัง

บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้

1. สรปุ ผลการจดั การเรยี นรู้

นักเรียนจำนวน………………………….คน

ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนร.ู้ ……………คน คดิ เป็นรอ้ ยละ………………………..

ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู.้ …………คน คิดเป็นรอ้ ยละ………………………..

ได้แก่

1…………………………………………………………………………………………

2……………………………………………………………………………………………

นกั เรยี นที่มีความสามารถพเิ ศษ/นักเรียนเด็กพเิ ศษ ไดแ้ ก่

1……………………………………………………………………………………………

2……………………………………………………………………………………………

นักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมินจดุ ประสงค์ดา้ นความรู้ (K) จำนวน……………………….คน ไดแ้ ก่

……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………….

นักเรียนทไี่ ม่ผา่ นการประเมินจดุ ประสงค์ดา้ นทักษะ (P) จำนวน………………………..คน ไดแ้ ก่

……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………….

นักเรียนทไี่ มผ่ ่านการประเมินจดุ ประสงค์ด้านเจตคติ (A) จำนวน……………………….คน ไดแ้ ก่

……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………….

2. ปัญหา /อุปสรรค /ข้อคน้ พบ
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………

3. แนวทางการแกไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………

ลงช่ือ ผสู้ อน
(นางสาวรูฮานา ฮะเด้)

ครโู รงเรยี นบา้ นห้วยพลหู นงั
วันท่ี……..…เดอื น……………….…….……. พ.ศ. ……………….

แบบบันทึกการประเมนิ การพูด

เลขที่ ช่ือ ความถูกตอ้ ง ความคลอ่ งแคล่ว การแสดงท่าทาง รวมคะแนน
8 8 20
1 เดช็ก่อื ช–ายสเกตุลชินท์ ทงุ่ แซะ น้ำเสียงปร4ะกอบการ
2 เด็กชายธารวิน หลานน้อย พูด
3 เดก็ ชายปติ ิ วนั ทา
4 เดก็ ชายภาณวุ ัฒน์ นวนศรี
5 เด็กชายอนวุ ฒั น์ ใจแน่
6 เด็กชายกฤตภาส ชูรกั ษ์
7 เด็กชายพริ พรร จารัตน์
8 เดก็ ชายอัฟฎอล ศรีสอาด
9 เด็กหญงิ ณิชนันทน์ แตงโม
10 เดก็ หญิงอรั วา เขยี วสด
11 เด็กหญิงฮาซานะ มาศชาย
12 เดก็ หญิงอุสนา หม่ืนท่อง
13 เดก็ หญิงซรี นี ตาเต็ง

ลงช่อื ผู้สอน
(นางสาวรูฮานา ฮะเด้)

ครโู รงเรียนบ้านห้วยพลหู นัง
วันท…่ี …..…เดือน……………….…….……. พ.ศ. ……………….

ระดบั คะแนน เกณฑ์การให้คะแนนการพดู นำ้ หนกั / คะแนน
ประเดน็ ความสำคญั รวม
เกณฑก์ ารให้คะแนน 1
การประเมนิ 8
ความถกู ตอ้ ง 432
8
ความคล่องแคล่ว ออกเสียง ออกเสยี ง ออกเสยี ง ออกเสียง
ตวั อักษร ตัวอักษร
การแสดงท่าทางและ คำศัพท์และ คำศัพท์และ ตัวอกั ษรคำศพั ท์ ตัวอักษร/ คำ/
น้ำเสียงประกอบ ประโยคได้ ประโยคได้
การพูด ถูกต้องตามหลกั ถูกต้องตามหลกั และประโยคได้ ประโยคผดิ
การออกเสยี ง การออกเสียง
ออกเสยี งเน้น ออกเสยี งเนน้ ถกู ตอ้ งเป็น หลกั การออก
หนัก-เบาในคำ หนกั -เบาในคำ
และเสียงสูง-ต่ำ และเสียงสงู -ต่ำ สว่ นใหญ่ ขาด เสียง 2
ในประโยคอยา่ ง ในประโยคเป็น 2
สมบรู ณ์ สว่ นใหญ่ การออกเสียง ทำให้สอ่ื สาร

พูดต่อเน่อื ง พดู ตะกุก เน้นหนกั -เบาใน ไม่ได้
ไม่ติดขดั ตะกกั บ้าง แต่
พูดชดั เจน ยงั พอสือ่ สารได้ คำและเสียงสูง-
ทำใหส้ อ่ื สารได้
ตำ่ ในประโยค

พดู เป็นคำๆ พดู ไดบ้ างคำ
หยุดเป็นชว่ งๆ ทำให้ส่อื
ทำให้ส่อื สาร ความหมาย
ได้ไมช่ ดั เจน ไม่ได้

แสดงทา่ ทาง แสดงทา่ ทางและ แสดงท่าทางไม่ ไม่แสดงทา่ ทาง
ประกอบการพูด
และพูดดว้ ย พูดดว้ ยนำ้ เสียง เป็นธรรมชาติ พูดได้นอ้ ยมาก

นำ้ เสียง เหมาะสมกบั พดู เหมือนอา่ น 1 4

เหมาะสมกับบท บทพดู เปน็ ส่วน

พูดอยา่ งสมบรู ณ์ ใหญ่

รวม 5 20

การกำหนดระดับคุณภาพโดยรวมทง้ั หนว่ ย 17-20
13-16
– ระดับดีมาก คะแนนระหวา่ ง 9-12
– ระดบั ดี คะแนนระหว่าง 0-8
– ระดบั พอใช้ คะแนนระหวา่ ง
– ระดบั ปรบั ปรงุ คะแนนระหว่าง

แบบบนั ทกึ การประเมินการอ่าน

ประเด็น/คะแนน ความเขา้ ใจ การจบั ใจความ การรคู้ วามหมาย รวมคะแนน
8 สำคญั 20
เลขท่ี ชื่อ – สกุล
84
1 เดก็ ชายเตชนิ ท์ ทุ่งแซะ
2 เด็กชายธารวนิ หลานนอ้ ย
3 เดก็ ชายปติ ิ วนั ทา
4 เดก็ ชายภาณุวัฒน์ นวนศรี
5 เด็กชายอนุวัฒน์ ใจแน่
6 เดก็ ชายกฤตภาส ชูรักษ์
7 เด็กชายพิรพรร จารัตน์
8 เด็กชายอัฟฎอล ศรีสอาด
9 เดก็ หญงิ ณชิ นันทน์ แตงโม
10 เดก็ หญงิ อรั วา เขียวสด
11 เด็กหญิงฮาซานะ มาศชาย
12 เดก็ หญงิ อสุ นา หม่นื ท่อง
13 เด็กหญงิ ซรี ีน ตาเต็ง

ลงช่อื ผสู้ อน
(นางสาวรูฮานา ฮะเด้)

ครูโรงเรยี นบ้านหว้ ยพลหู นงั
วันท่ี……..…เดือน……………….…….……. พ.ศ. ……………….

ระดบั เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนการอ่าน นำ้ หนกั / คะแนน
คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ความสำคญั รวม
8
ประเด็น 4 321 8
การประเมิน
ตอบคำถาม ตอบคำถาม ตอบคำถาม ตอบคำถาม 4
ความเขา้ ใจ หลังจากที่ หลังจากท่ี หลังจากท่ี หลังจากที่ 20
อา่ นได้ อ่านไดเ้ กือบ อ่านได้ อา่ นไดน้ ้อย
ทั้งหมด ท้ังหมด เล็กน้อย มาก 2
2
การจับใจความสำคัญ จับใจความ จบั ใจความ จับใจความ จบั ใจความ
สำคญั ของ สำคัญของ สำคัญของ สำคัญของ 1
เนอ้ื หาได้ เน้ื อ ห า ไ ด้ เน้ือหาได้ เน้ือหาได้ 5
ทง้ั หมด เกอื บ เลก็ น้อย น้อยมาก
ทั้งหมด
เมอ่ื อ่านพบ
การรู้ความหมาย เมอื่ อ่านพบ เมอ่ื อา่ นพบ เมอ่ื อา่ นพบ คำศัพท์ใหม่
คำศัพท์ คำศัพทใ์ หม่ คำศัพทใ์ หม่ คำศัพทใ์ หม่ สามารถเดา
สามารถเดา สามารถเดา สามารถเดา ความหมาย
ความหมาย ความหมาย ความหมาย คำศัพท์จาก
คำศัพท์จาก คำศัพท์จาก คำศัพทจ์ าก บริบทได้น้อย
บริบทได้ บริบทได้ บรบิ ทได้ มาก
ท้งั หมด เกือบ เล็กน้อย
ท้งั หมด

รวม

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ (A)

ที่ ช่ือ-สกุล มวี นิ ัย รายการประเมนิ มุง่ มั่นในการทำงาน คะแนนรวม ระดับ
321 ใฝเ่ รยี นรู้ 3 21 (9) คุณภาพ

321

1 เด็กชายเตชนิ ท์ ทงุ่ แซะ

2 เด็กชายธารวิน หลานน้อย

3 เด็กชายปติ ิ วนั ทา

4 เด็กชายภาณวุ ฒั น์ นวนศรี

5 เด็กชายอนุวัฒน์ ใจแน่

6 เด็กชายกฤตภาส ชูรกั ษ์

7 เด็กชายพริ พรร จารัตน์

8 เด็กชายอัฟฎอล ศรสี อาด

9 เด็กหญิงณิชนันทน์ แตงโม

10 เด็กหญิงอัรวา เขียวสด

11 เด็กหญงิ ฮาซานะ มาศชาย

12 เดก็ หญงิ อุสนา หมน่ื ท่อง

13 เด็กหญงิ ซรี นี ตาเต็ง

ลงช่อื ผ้สู อน
(นางสาวรฮู านา ฮะเด้)

ครโู รงเรยี นบา้ นหว้ ยพลหู นัง
วันที่……..…เดือน……………….…….……. พ.ศ. ……………….

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ต่ำกว่า 4 คะแนน
ระดบั คณุ ภาพ
คะแนนรวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ : มีวินัย

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คณุ ลักษณะทป่ี รากฏให้เหน็

3 : ดี ผลงานสะอาดเรยี บรอ้ ย

ปฏบิ ตั ิตนอย่ใู นข้อตกลงท่ีกำหนดใหร้ ว่ มกนั ทกุ คร้งั

2 : พอใช้ ผลงานสว่ นใหญส่ ะอาดเรยี บร้อย

ปฏิบตั ติ นอย่ใู นขอ้ ตกลงท่ีกำหนดใหร้ ว่ มกนั เป็นส่วนใหญ่

1 : ปรับปรุง ผลงานไม่คอ่ ยเรยี บร้อย

ปฏบิ ตั ิตนอยู่ในขอ้ ตกลงท่กี ำหนดใหร้ ่วมกัน บางครั้ง ตอ้ งอาศัยการแนะนำ

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ : ใฝเ่ รยี นรู้ คุณลักษณะท่ีปรากฏใหเ้ ห็น
คะแนน : ระดบั คุณภาพ มคี วามสนใจ /ความต้งั ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้
3 : ดี มคี วามสนใจ /ความตง้ั ใจเปน็ บางครัง้
2 : พอใช้ มีความสนใจ /ความต้ังใจในระยะเวลาสนั้ ๆ ชอบเล่นในเวลาเรียน
1 : ปรบั ปรุง

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ : มุ่งมั่นในการทำงาน

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คณุ ลักษณะทป่ี รากฏให้เห็น

3 : ดี ส่งงานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานดั หมาย

รับผดิ ชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหายและปฏิบตั ิตนจนเปน็ นิสยั

เป็นตวั อยา่ งแก่ผู้อน่ื และแนะนำชกั ชวน

2 : พอใช้ ส่งงานชา้ กว่ากำหนด

รบั ผิดชอบในงานที่ไดร้ ับมอบหายและปฏบิ ตั ติ นจนเป็นนิสยั

1 : ปรับปรุง สง่ งานชา้ กว่ากำหนด

รับผดิ ชอบในงานท่ไี ดร้ บั มอบหายและปฏบิ ตั ิตนจนเปน็ นิสยั

ปฏิบตั งิ านโดยอาศยั การชี้แนะ แนะนำ ตกั เตือน

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2

กลุม่ สาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 เร่ือง All Year Long เวลา 10 ชวั่ โมง

เรอื่ ง Ordinal Number เวลา 1 ช่ัวโมง

ใช้สอนวันที.่ …………………เดอื น…………………………………พ.ศ. ………………

1. สาระสำคญั / ความคิดรวบยอด
การเรียนรู้เรือ่ งวนั สำคัญของตนเองและของประเทศชาติ ความแตกต่างของเทศกาล ฤดูกาล ทง้ั ของ

ไทยและต่างประเทศ เปน็ ภาษาองั กฤษ เปน็ สิ่งจำเป็นสำหรับการนำภาษาไปใชใ้ นชวี ิตประจำวัน
2. มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั /จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

2.1 มาตรฐาน
ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ีฟังและอ่านจากส่อื ประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เหน็ อย่างมี
เหตผุ ล
ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูดและการ
เขียน
ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทั้งในสถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม
2.2 ตัวช้ีวัด
ต 1.1 ป.5/3 ระบุ/วาดภาพสญั ลกั ษณห์ รือเคร่อื งหมายตรงตามความหมายของประโยคและ
ขอ้ ความสัน้ ๆ ท่ฟี ังหรืออา่ น
ต 1.3 ป.5/1 พูด/เขยี นให้ขอ้ มูลเก่ียวกับตนเองและเรื่องใกลต้ วั
ต 4.1 ป.5/1 ฟงั พดู และอ่าน/เขยี นในสถานการณ์ต่างๆ ที่เกดิ ขนึ้ ในหอ้ งเรยี นและสถานศึกษา
2.3 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

ความรู้ (K)
การถาม-ตอบเก่ียวกบั วนั ทแ่ี ละเดอื น
ทักษะ/กระบวนการ (P)
การอ่านออกเสยี งคำและประโยคเกีย่ วกับ ordinal number
เจตคติ (A)
มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้และม่งุ มนั่ ในการทำงาน
3. สาระการเรียนรู้
Function : Asking and answering about ordinal number of days and months
Structure : What is the (first) day of the week?

(Sunday).
What is (the tenth) month of the year?

(October).
Vocabulary : คำศัพทใ์ หม่

last
คำศัพทท์ บทวน


4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน

 ความสามารถในการสอื่ สาร

 ความสามารถในการคดิ

 ความสามารถในการแก้ปัญหา

 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

 รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์  อย่อู ย่างพอเพียง

 ซื่อสตั ย์สุจริต  มงุ่ มั่นในการทำงาน

 มวี นิ ยั  รกั ความเป็นไทย

 ใฝ่เรยี นรู้  มีจิตสาธารณะ

6. จุดเนน้ ส่กู ารพัฒนาผ้เู รียน

ความสามารถและทักษะของผู้เรียนศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)
 R1– Reading (อา่ นออก)  R2– (W)Riting (เขยี นได้)  R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเป็น)
 C1 – Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ

และทกั ษะในการแกป้ ัญหา)
 C2 – Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์และนวตั กรรม)
 C3 – Cross-cultural Understanding (ทกั ษะด้านความเขา้ ใจตา่ งวฒั นธรรม ต่างกระบวนทัศน์)
 C4 – Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเปน็

ทมี และภาวะผู้นำ)

 C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการส่ือสาร

สารสนเทศ และรู้เท่าทันสอื่ )
 C6 – Computing and ICT Literacy (ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ

และการส่ือสาร)
 C7 – Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรยี นรู้)
 C8 – Compassion (ความมีเมตตากรุณา วินยั คณุ ธรรม จรยิ ธรรม)

 L1 – Learning (ทกั ษะการเรยี นรู้)  L2 – Leadership (ทักษะความเป็นผ้นู ำ)

7. กิจกรรมการเรยี นรู้
1. Warm up
ครใู ชป้ ฏิทนิ เพื่อทบทวนคำศัพท์ลำดับที่ 1-31 จากนน้ั ทบทวนวันในสัปดาห์ โดยให้นักเรยี น

ออกมาเติมตวั อักษรที่หายไปบนกระดาน และชว่ ยกนั แปลความหมาย
2. Presentation
2.1 นักเรยี นดเู รื่องของ Manop และ Chan ใน SB หนา้ 34 ครูใหน้ กั เรยี นดูภาพผชู้ นะ

การแข่งขันทย่ี ืนในตำแหนง่ ต่างๆ และจับคู่อา่ นเรื่องราวการแขง่ ขัน และฝกึ พดู ตาม Manop และ Chan แลว้
พดู ตอบคำถามจากเร่ืองท่อี า่ น แล้วเขยี นลงในสมดุ แบบฝกึ หัด

2.2 ครูสอนคำศพั ท์ใหม่ last ครูชีว้ ันท่ี 28, 30 หรือ 31 ของแต่ละเดอื นในปฏทิ ินแล้ว
เปดิ ไปเดือนธนั วาคม และพดู December is the last month of the year. แลว้ ใหน้ กั เรียนบอกความหมาย
ของคำศัพท์ สะกดคำ และออกเสยี งตามครู โดยเฉพาะเสยี ง /st/ ทา้ ยคำ

2.3 นกั เรยี นเขา้ แถวเปน็ แถวตอนส้นั ๆ เพอื่ ฝกึ การใชค้ ำศัพท์ last และ first

(Prasong) is the first of the row.
(Malee) is the last of the row.
2.4 นกั เรียนบอกความหมายของ last อีกครง้ั แล้วอ่านเนอื้ หา Listen and repeat. ข้อ
C. Ask and answer. ใน SB หน้า 35 และสรุปตามความเข้าใจ ครูอธิบายเพิ่มเติม
3. Practice
3.1 ฝกึ อ่านออกเสียงบทสนทนาใน SB หนา้ 35
3.2 นกั เรยี นจับค่ทู ำแบบฝึกหัด Look at the calendar. Answer the questions. ใน
WB หน้า 32-33
4. Production
แบ่งนกั เรยี นเปน็ 5 กลุ่ม แต่ละกลุ่มเลือกปฏทิ นิ 1 เดือน แล้วต้งั คำถาม
What is this month?
What is the first/last day of this month?
What is the date?
ถามเพือ่ นกลุม่ อ่ืน กลุ่มใดถามคำถามได้มากและตอบคำถามไดถ้ ูกต้องมากทีส่ ดุ ใหเ้ ปน็
Champion of the day
5. Wrap up
5.1 นกั เรยี นบอกช่ือและเลขท่ีของเพือ่ นจากลำดบั ที่ 1-30
5.2 คัดคำบอกลำดับท่ี 11-30 เปรยี บเทยี บกบั จำนวนนบั ทลี ะคู่ เชน่ eleven- the
eleventh

8. การวัดและประเมินผล

สง่ิ ท่ีวดั วธิ ีวดั ผล เครื่องมอื วัดผล เกณฑ์การประเมินผล
แบบฝกึ หัด 60% ขึน้ ไป ผ่าน
ด้านความรู้ (K)

การเขียนประโยคคำตอบ ตรวจแบบฝึกหดั

เร่ืองวนั ที่

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)

การถาม-ตอบเกี่ยวกบั วันท่ี ประเมนิ การพูด แบบประเมินการพดู 60% ขน้ึ ไป ผ่าน

และเดือน

ดา้ นคุณลักษณะ

อนั พงึ ประสงค์ (A)

มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่น การสังเกตการรว่ ม แบบประเมนิ คุณลักษณะอัน 60% ขน้ึ ไป ผา่ น
พึงประสงค์
ในการทำงาน กจิ กรรมในชนั้ เรียน

9. ส่อื /แหล่งเรยี นรู้

9.1 สื่อการเรียนรู้

9.1.1 Workbook 5

9.1.2 ปฏทิ ิน

9.2 แหล่งเรยี นรู้

ห้องสมุด

ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้ที่ได้รบั มอบหมาย (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง)
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่
(นายมาโนช ด้วงชู)

ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยพลูหนงั
วนั ท…ี่ ……..เดอื น………………..….พ.ศ. …………..

ความเหน็ ของหัวหนา้ สถานศกึ ษาหรือผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย

ความเห็นของหัวหน้ากลุ่มบริหารวชิ าการ ความเหน็ ของผบู้ รหิ าร/ผูท้ ่ไี ด้รบั มอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรยี นรู้แลว้ มคี วามคดิ เหน็ ดังนี้ ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรยี นร้แู ลว้ มีความคดิ เหน็ ดงั นี้

1. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่

 ดีมาก  ดีมาก

 ดี  ดี

 พอใช้  พอใช้

 ควรปรับปรุง  ควรปรบั ปรงุ

2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้ 2. การจดั กจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้

 เน้นผเู้ รียนเป็นสำคัญมาใชใ้ นการสอนไดอ้ ย่าง  เนน้ ผเู้ รียนเป็นสำคญั มาใชใ้ นการสอนไดอ้ ยา่ ง

เหมาะสม เหมาะสม

 ยังไมเ่ น้นผูเ้ รยี นเป็นสำคัญควรปรบั ปรุงพฒั นาต่อไป  ยังไมเ่ น้นผ้เู รยี นเป็นสำคัญควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป

3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี

 นำไปใช้ไดจ้ ริง  นำไปใชไ้ ด้จรงิ

 ควรปรบั ปรงุ ก่อนนำไปใช้  ควรปรับปรงุ ก่อนนำไปใช้

4. ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ 4. ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ

………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………..

(ลงชอ่ื ) (ลงชอื่ )

(นายอดศิ ักดิ์ ณรินทร์) (นายมาโนช ดว้ งชู)

หัวหนา้ กลมุ่ บริหารวชิ าการ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยพลูหนัง

บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้

1. สรปุ ผลการจดั การเรยี นรู้

นักเรียนจำนวน………………………….คน

ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนร.ู้ ……………คน คดิ เป็นรอ้ ยละ………………………..

ไมผ่ ่านจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู.้ …………คน คิดเป็นรอ้ ยละ………………………..

ได้แก่

1…………………………………………………………………………………………

2……………………………………………………………………………………………

นกั เรยี นที่มีความสามารถพเิ ศษ/นักเรียนเด็กพเิ ศษ ไดแ้ ก่

1……………………………………………………………………………………………

2……………………………………………………………………………………………

นักเรียนทไ่ี มผ่ า่ นการประเมินจดุ ประสงค์ดา้ นความรู้ (K) จำนวน……………………….คน ไดแ้ ก่

……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………….

นักเรียนทไี่ ม่ผา่ นการประเมินจดุ ประสงค์ดา้ นทักษะ (P) จำนวน………………………..คน ไดแ้ ก่

……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………….

นักเรียนทไี่ มผ่ ่านการประเมินจดุ ประสงค์ด้านเจตคติ (A) จำนวน……………………….คน ไดแ้ ก่

……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………….

2. ปัญหา /อุปสรรค /ข้อคน้ พบ
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………

3. แนวทางการแกไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………

ลงช่ือ ผสู้ อน
(นางสาวรูฮานา ฮะเด้)

ครโู รงเรยี นบา้ นห้วยพลหู นงั
วันท่ี……..…เดอื น……………….…….……. พ.ศ. ……………….

เลขที่ ช่ือ แบบบันทึกการประเมนิ การพูด การแสดงท่าทาง รวมคะแนน
20
1 เดช็ก่อื ช–ายสเกตุลชินท์ ทงุ่ แซะ ความถูกตอ้ ง ความคลอ่ งแคล่ว น้ำเสียงปร4ะกอบการ
2 เด็กชายธารวิน หลานน้อย พูด
3 เดก็ ชายปติ ิ วนั ทา 88
4 เดก็ ชายภาณวุ ัฒน์ นวนศรี
5 เด็กชายอนวุ ฒั น์ ใจแน่
6 เด็กชายกฤตภาส ชูรกั ษ์
7 เด็กชายพริ พรร จารัตน์
8 เดก็ ชายอัฟฎอล ศรีสอาด
9 เด็กหญงิ ณิชนันทน์ แตงโม
10 เดก็ หญิงอรั วา เขยี วสด
11 เด็กหญิงฮาซานะ มาศชาย
12 เดก็ หญิงอุสนา หม่ืนท่อง
13 เดก็ หญิงซรี นี ตาเต็ง

ลงช่อื ผู้สอน
(นางสาวรูฮานา ฮะเด้)

ครโู รงเรียนบ้านห้วยพลหู นัง
วันท…่ี …..…เดือน……………….…….……. พ.ศ. ……………….

ระดบั คะแนน เกณฑ์การให้คะแนนการพดู นำ้ หนกั / คะแนน
ประเดน็ ความสำคญั รวม
เกณฑก์ ารให้คะแนน
การประเมนิ 2 8
ความถกู ตอ้ ง 4321
2 8
ความคล่องแคล่ว ออกเสียง ออกเสยี ง ออกเสยี ง ออกเสียง
ตวั อักษร ตัวอักษร
การแสดงท่าทางและ คำศัพท์และ คำศัพทแ์ ละ ตัวอกั ษรคำศพั ท์ ตัวอักษร/ คำ/
น้ำเสียงประกอบ ประโยคได้ ประโยคได้
การพูด ถูกต้องตามหลกั ถูกต้องตามหลกั และประโยคได้ ประโยคผดิ
การออกเสยี ง การออกเสียง
ออกเสยี งเน้น ออกเสยี งเนน้ ถกู ตอ้ งเป็น หลกั การออก
หนัก-เบาในคำ หนกั -เบาในคำ
และเสียงสูง-ต่ำ และเสียงสงู -ต่ำ สว่ นใหญ่ ขาด เสียง
ในประโยคอยา่ ง ในประโยคเป็น
สมบรู ณ์ สว่ นใหญ่ การออกเสียง ทำให้สอ่ื สาร

พูดต่อเน่อื ง พดู ตะกุก เน้นหนกั -เบาใน ไม่ได้
ไม่ติดขดั ตะกกั บ้าง แต่
พูดชดั เจน ยงั พอสือ่ สารได้ คำและเสียงสูง-
ทำใหส้ อ่ื สารได้
ตำ่ ในประโยค

พดู เป็นคำๆ พดู ไดบ้ างคำ
หยุดเป็นชว่ งๆ ทำให้ส่อื
ทำให้ส่อื สาร ความหมาย
ได้ไมช่ ดั เจน ไม่ได้

แสดงทา่ ทาง แสดงทา่ ทางและ แสดงท่าทางไม่ ไม่แสดงทา่ ทาง
ประกอบการพูด
และพูดดว้ ย พูดดว้ ยนำ้ เสียง เป็นธรรมชาติ พูดได้นอ้ ยมาก

นำ้ เสียง เหมาะสมกบั พดู เหมือนอา่ น 1 4

เหมาะสมกับบท บทพดู เปน็ ส่วน

พูดอยา่ งสมบรู ณ์ ใหญ่

รวม 5 20

การกำหนดระดับคุณภาพโดยรวมทง้ั หนว่ ย 17-20
13-16
– ระดับดีมาก คะแนนระหวา่ ง 9-12
– ระดบั ดี คะแนนระหว่าง 0-8
– ระดบั พอใช้ คะแนนระหวา่ ง
– ระดบั ปรบั ปรงุ คะแนนระหว่าง

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ (A)

ที่ ชือ่ -สกุล มวี นิ ัย รายการประเมนิ มุง่ มั่นในการทำงาน คะแนนรวม ระดับ
321 ใฝเ่ รยี นรู้ 3 21 (9) คุณภาพ

321

1 เด็กชายเตชนิ ท์ ทงุ่ แซะ

2 เดก็ ชายธารวิน หลานน้อย

3 เดก็ ชายปิติ วนั ทา

4 เดก็ ชายภาณวุ ัฒน์ นวนศรี

5 เด็กชายอนุวฒั น์ ใจแน่

6 เด็กชายกฤตภาส ชูรกั ษ์

7 เด็กชายพิรพรร จารัตน์

8 เด็กชายอัฟฎอล ศรสี อาด

9 เดก็ หญิงณิชนันทน์ แตงโม

10 เด็กหญิงอรั วา เขียวสด

11 เด็กหญงิ ฮาซานะ มาศชาย

12 เดก็ หญิงอสุ นา หมน่ื ท่อง

13 เดก็ หญิงซรี ีน ตาเต็ง

ลงช่อื ผ้สู อน
(นางสาวรฮู านา ฮะเด้)

ครโู รงเรยี นบา้ นหว้ ยพลหู นัง
วันที่……..…เดือน……………….…….……. พ.ศ. ……………….

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ต่ำกว่า 4 คะแนน
ระดบั คณุ ภาพ
คะแนนรวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ : มีวินัย

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คณุ ลักษณะทป่ี รากฏให้เหน็

3 : ดี ผลงานสะอาดเรยี บรอ้ ย

ปฏบิ ตั ิตนอย่ใู นข้อตกลงท่ีกำหนดใหร้ ว่ มกนั ทกุ คร้งั

2 : พอใช้ ผลงานสว่ นใหญส่ ะอาดเรยี บร้อย

ปฏิบตั ติ นอย่ใู นข้อตกลงท่ีกำหนดใหร้ ว่ มกนั เป็นส่วนใหญ่

1 : ปรับปรุง ผลงานไม่คอ่ ยเรยี บร้อย

ปฏบิ ตั ิตนอยู่ในขอ้ ตกลงท่กี ำหนดใหร้ ่วมกัน บางครั้ง ตอ้ งอาศัยการแนะนำ

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ : ใฝเ่ รยี นรู้ คุณลักษณะท่ีปรากฏใหเ้ หน็
คะแนน : ระดบั คุณภาพ มคี วามสนใจ /ความต้งั ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้
3 : ดี มคี วามสนใจ /ความตง้ั ใจเปน็ บางครัง้
2 : พอใช้ มีความสนใจ /ความต้ังใจในระยะเวลาสนั้ ๆ ชอบเล่นในเวลาเรียน
1 : ปรบั ปรุง

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ : มุ่งมั่นในการทำงาน

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คณุ ลักษณะทป่ี รากฏให้เห็น

3 : ดี ส่งงานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานดั หมาย

รับผดิ ชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหายและปฏิบตั ิตนจนเปน็ นิสยั

เป็นตวั อยา่ งแก่ผู้อน่ื และแนะนำชกั ชวน

2 : พอใช้ ส่งงานชา้ กว่ากำหนด

รบั ผิดชอบในงานที่ไดร้ ับมอบหายและปฏบิ ตั ิตนจนเป็นนิสยั

1 : ปรับปรุง สง่ งานชา้ กว่ากำหนด

รับผดิ ชอบในงานท่ไี ดร้ บั มอบหายและปฏบิ ตั ิตนจนเปน็ นิสยั

ปฏิบตั งิ านโดยอาศยั การชี้แนะ แนะนำ ตกั เตือน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 เร่ือง All Year Long เวลา 10 ชว่ั โมง

เร่ือง What is the date today? เวลา 1 ช่ัวโมง

ใช้สอนวันท.ี่ …………………เดอื น…………………………………พ.ศ. ………………

1. สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด
การเรียนรู้เรอ่ื งวนั สำคัญของตนเองและของประเทศชาติ ความแตกตา่ งของเทศกาล ฤดูกาล ทงั้ ของ

ไทยและตา่ งประเทศ เป็นภาษาอังกฤษ เป็นส่ิงจำเป็นสำหรับการนำภาษาไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวัน
2. มาตรฐาน/ตัวชี้วดั /จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

2.1 มาตรฐาน
ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ีฟังและอ่านจากส่อื ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมี
เหตผุ ล
ต 1.2 มีทกั ษะการสอ่ื สารทางภาษาในการแลกเปล่ยี นข้อมูลขา่ วสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเหน็
อย่างมีประสทิ ธิภาพ
2.2 ตัวชี้วัด
ต 1.1 ป.5/4 บอกใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟังและอ่านบทสนทนา และนทิ านง่ายๆ
หรือเรื่องส้ันๆ
ต 1.2 ป.5/4 พดู /เขียนเพอ่ื ขอและให้ข้อมลู เก่ียวกบั ตนเอง เพ่ือน ครอบครัว และเรื่องใกล้ตวั
2.3 จุดประสงค์การเรยี นรู้

ความรู้ (K)
การเลือกคำตอบที่ถูกต้อง
ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
การพดู ถาม-ตอบวัน เดอื น และปี
เจตคติ (A)
มีวนิ ยั ใฝ่เรียนร้แู ละมงุ่ ม่นั ในการทำงาน
3. สาระการเรยี นรู้
Function : Asking and answering about the date
Structure : What is the date today?

It’s (June 14th).
Vocabulary : คำศัพทใ์ หม่

born

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน

 ความสามารถในการสอื่ สาร
 ความสามารถในการคดิ
 ความสามารถในการแก้ปัญหา
 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์  อยู่อย่างพอเพียง
 รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
 ซอ่ื สตั ย์สุจรติ  มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
 รกั ความเปน็ ไทย
 มีวินัย  มีจิตสาธารณะ

 ใฝเ่ รยี นรู้
6. จุดเน้นส่กู ารพฒั นาผเู้ รยี น

ความสามารถและทักษะของผเู้ รยี นศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)

 R1– Reading (อา่ นออก)  R2– (W)Riting (เขยี นได้)  R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเป็น)

 C1 – Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะด้านการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ

และทักษะในการแก้ปัญหา)

 C2 – Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์และนวตั กรรม)

 C3 – Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรม ต่างกระบวนทศั น์)

 C4 – Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การทำงานเป็น

ทมี และภาวะผู้นำ)

 C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการส่ือสาร

สารสนเทศ และรเู้ ทา่ ทนั สอื่ )

 C6 – Computing and ICT Literacy (ทกั ษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ

และการสื่อสาร)

 C7 – Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้)

 C8 – Compassion (ความมเี มตตากรณุ า วินัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม)

 L1 – Learning (ทักษะการเรียนรู)้  L2 – Leadership (ทักษะความเป็นผนู้ ำ)

7. กิจกรรมการเรียนรู้

1. Warm up

ทบทวนการนบั ลำดับท่ี 1 ถึงลำดับที่ 31 นกั เรยี นเขา้ แถวเปน็ วงกลม นักเรียนส่งลูกบอลตอ่ ๆ

นกั เรียนทีม่ ีลูกบอลในมือนบั the first คนถัดไปนับ the second เมือ่ ถึงท่ี 31 นบั the thirty-first คนต่อไป

ขน้ึ ต้นด้วย the first นับเชน่ น้จี นครบทุกคน

2. Presentation

2.1 ครูช้ีวันที่ เดือน พ.ศ. ท่เี ขยี นบนกระดานประจำวันแลว้ ถาม What day is today?

ครชู ีเ้ ฉพาะวนั ที่ เพ่ือใหน้ ักเรยี นตอบวนั It’s ………..… . (หรอื ตามจรงิ ) ครถู าม What’s this month? ครูช้ี

เฉพาะเดือนเพื่อใหต้ อบเดือน It’s ……… . (หรือตามจรงิ )

2.2 ครชู ี้วนั ที่จนถงึ พ.ศ. และถาม What’s the date today? แนะนำใหน้ ักเรยี นฟัง

คำตอบ It’s (May) the (sixth), twenty fifteenth ใหน้ ักเรยี นพดู ตาม

2.3 ครสู อนอ่านและเขียนวันที่ท้ังแบบเปน็ ตัวเลข และตวั หนังสือ แนะนำให้นักเรยี น

สงั เกตวธิ กี ารเขียนทั้งแบบ British English และ American English ทีค่ รูเขียนให้ดบู นกระดานดำ และบอก

ความแตกตา่ งทั้งการอ่านและการเขียน

เปรยี บเทียบการอ่านวันทแ่ี บบองั กฤษกบั การอา่ นแบบอเมริกนั

British English American English

การเขยี น 10th May 2013 การเขียน May 10th, 2013

การอา่ น the tenth of May twenty fifteenth การอ่าน May the tenth, two thousand fifteen

2.4 ครใู ชป้ ฏิทินขนาดใหญ่ที่นักเรียนสามารถมองเหน็ ไดท้ งั้ ห้อง เพ่อื สอนการถาม-ตอบ
วนั ที่

2.5 นักเรยี นดูบทสนทนา Listen and read. ข้อ A. Listen, ask and answer. ใน SB
หนา้ 36 ครูอา่ นออกกเสียงให้นกั เรยี นฟงั แล้วอ่านตาม

A. Listen, ask and answer.
B1: What’s the date today?
G1: It’s June the fourteenth. I was born today, ten years ago.
B1: Oh! It’s your birthday. Happy birthday to you!
W: When is your birthday?
G2: My birthday is on March the tenth.
M: When were you born?
G3: I was born on September the second.

2.6 ครอู ธิบายความเขา้ ใจของบทสนทนา และสอบถามความเข้าใจของนกั เรยี นโดยใช้

ประโยคคำถามตามบทสนทนา

3. Practice

3.1 นักเรียนดกู ิจกรรม Look! ใน SB หนา้ 36 อา่ นตามครู จากน้นั ให้นักเรยี นจับคู่ฝึก

ถาม-ตอบเก่ยี วกบั วันที่จากปฏิทิน

3.2 นกั เรียนทำแบบฝึกหดั Listen. Read and check (✓) True or False. ใน WB

หนา้ 37 ครอู า่ นข้อความตาม Script ข้อละ 2 ครง้ั นักเรยี นฟงั แลว้ เขยี นเครื่องหมาย ✓หรือ  ในกลอ่ ง

ส่เี หลี่ยมเลก็ True และ False ท้ายประโยค

4. Production

เขยี นวนั ทต่ี ามที่ฝึกพูดในข้อ 3.1 ลงในสมดุ แบบฝกึ หัด

5. Wrap up

อา่ นประโยคที่เขยี นในสมดุ แบบฝึกหดั

8. การวัดและประเมนิ ผล

สิง่ ที่วัด วธิ ีวัดผล เครื่องมือวัดผล เกณฑ์การประเมินผล

ด้านความรู้ (K)

การเลอื กคำตอบที่ถกู ต้อง ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหดั 60% ข้นึ ไป ผ่าน

ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)

การพูดถาม-ตอบวัน เดอื น ประเมินการพูด แบบประเมินการพดู 60% ข้ึนไป ผา่ น

และปี

ดา้ นคณุ ลกั ษณะ

อันพึงประสงค์ (A)

มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่น การสังเกตการร่วม แบบประเมินคุณลักษณะอนั 60% ขน้ึ ไป ผา่ น

ในการทำงาน กจิ กรรมในชน้ั เรียน พงึ ประสงค์

9. ส่อื /แหล่งเรียนรู้
9.1 ส่ือการเรียนรู้
9.1.1 Student’s Book 5
9.1.2 Workbook 5
9.1.3 ปฏิทนิ ขนาดใหญ่
9.1.4 ลูกบอล
9.1.5 สมุดแบบฝึกหดั
9.2 แหล่งเรียนรู้

ห้องสมุด

บนั ทึกผลหลงั การจัดการเรียนรู้

1. สรุปผลการจดั การเรียนรู้

นกั เรยี นจำนวน………………………….คน

ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู.้ ……………คน คิดเป็นรอ้ ยละ………………………..

ไมผ่ า่ นจุดประสงคก์ ารเรียนร้.ู …………คน คดิ เป็นรอ้ ยละ………………………..

ไดแ้ ก่

1…………………………………………………………………………………………

2……………………………………………………………………………………………

นกั เรยี นท่ีมีความสามารถพเิ ศษ/นกั เรียนเด็กพเิ ศษ ไดแ้ ก่

1……………………………………………………………………………………………

2……………………………………………………………………………………………

นกั เรียนทไ่ี ม่ผ่านการประเมินจดุ ประสงคด์ า้ นความรู้ (K) จำนวน……………………….คน ไดแ้ ก่

……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………….

นกั เรยี นทีไ่ มผ่ า่ นการประเมินจดุ ประสงค์ดา้ นทักษะ (P) จำนวน………………………..คน ไดแ้ ก่

……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………….

นักเรยี นทไ่ี ม่ผ่านการประเมินจดุ ประสงคด์ า้ นเจตคติ (A) จำนวน……………………….คน ไดแ้ ก่

……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………….

2. ปญั หา /อปุ สรรค /ข้อค้นพบ
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………

3. แนวทางการแกไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ผสู้ อน
(นางสาวรูฮานา ฮะเด้)

ครโู รงเรยี นบา้ นห้วยพลหู นงั
วันที่……..…เดอื น……………….…….……. พ.ศ. ……………….

เลขที่ ช่ือ แบบบันทึกการประเมนิ การพูด การแสดงท่าทาง รวมคะแนน
20
1 เดช็ก่อื ช–ายสเกตุลชินท์ ทงุ่ แซะ ความถูกตอ้ ง ความคลอ่ งแคล่ว น้ำเสียงปร4ะกอบการ
2 เด็กชายธารวิน หลานน้อย พูด
3 เดก็ ชายปติ ิ วนั ทา 88
4 เดก็ ชายภาณวุ ัฒน์ นวนศรี
5 เด็กชายอนวุ ฒั น์ ใจแน่
6 เด็กชายกฤตภาส ชูรกั ษ์
7 เด็กชายพริ พรร จารัตน์
8 เดก็ ชายอัฟฎอล ศรีสอาด
9 เด็กหญิงณิชนันทน์ แตงโม
10 เดก็ หญงิ อรั วา เขยี วสด
11 เด็กหญิงฮาซานะ มาศชาย
12 เดก็ หญิงอุสนา หม่ืนท่อง
13 เดก็ หญงิ ซรี นี ตาเต็ง

ลงช่อื ผู้สอน
(นางสาวรูฮานา ฮะเด้)

ครโู รงเรียนบ้านห้วยพลหู นัง
วันท…่ี …..…เดือน……………….…….……. พ.ศ. ……………….

ระดบั คะแนน เกณฑ์การให้คะแนนการพดู นำ้ หนกั / คะแนน
ประเดน็ ความสำคญั รวม
เกณฑก์ ารให้คะแนน 1
การประเมนิ 8
ความถกู ตอ้ ง 432
8
ความคล่องแคล่ว ออกเสียง ออกเสยี ง ออกเสียง ออกเสียง
ตวั อักษร ตัวอักษร
การแสดงท่าทางและ คำศัพท์และ คำศัพทแ์ ละ ตัวอกั ษรคำศพั ท์ ตัวอักษร/ คำ/
น้ำเสียงประกอบ ประโยคได้ ประโยคได้
การพูด ถกู ต้องตามหลกั ถูกต้องตามหลกั และประโยคได้ ประโยคผดิ
การออกเสยี ง การออกเสียง
ออกเสียงเน้น ออกเสยี งเนน้ ถกู ต้องเป็น หลกั การออก
หนัก-เบาในคำ หนกั -เบาในคำ
และเสยี งสูง-ต่ำ และเสียงสงู -ต่ำ สว่ นใหญ่ ขาด เสียง 2
ในประโยคอยา่ ง ในประโยคเป็น 2
สมบรู ณ์ สว่ นใหญ่ การออกเสียง ทำให้สอ่ื สาร

พูดต่อเนอื่ ง พดู ตะกุก เน้นหนกั -เบาใน ไม่ได้
ไม่ติดขดั ตะกกั บ้าง แต่
พูดชดั เจน ยงั พอสือ่ สารได้ คำและเสียงสูง-
ทำใหส้ อ่ื สารได้
ตำ่ ในประโยค

พดู เป็นคำๆ พดู ไดบ้ างคำ
หยดุ เป็นชว่ งๆ ทำให้ส่อื
ทำใหส้ อ่ื สาร ความหมาย
ได้ไม่ชดั เจน ไม่ได้

แสดงทา่ ทาง แสดงทา่ ทางและ แสดงท่าทางไม่ ไม่แสดงทา่ ทาง
ประกอบการพูด
และพูดดว้ ย พูดดว้ ยนำ้ เสียง เป็นธรรมชาติ พูดได้นอ้ ยมาก

นำ้ เสียง เหมาะสมกบั พดู เหมือนอา่ น 1 4

เหมาะสมกับบท บทพดู เปน็ ส่วน

พูดอยา่ งสมบรู ณ์ ใหญ่

รวม 5 20

การกำหนดระดบั คุณภาพโดยรวมทง้ั หนว่ ย 17-20
13-16
– ระดบั ดีมาก คะแนนระหวา่ ง 9-12
– ระดับดี คะแนนระหว่าง 0-8
– ระดบั พอใช้ คะแนนระหวา่ ง
– ระดบั ปรบั ปรงุ คะแนนระหว่าง

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ (A)

ที่ ชอ่ื -สกุล มวี นิ ัย รายการประเมนิ มุง่ มั่นในการทำงาน คะแนนรวม ระดับ
321 ใฝเ่ รยี นรู้ 3 21 (9) คุณภาพ

321

1 เด็กชายเตชนิ ท์ ทุง่ แซะ

2 เด็กชายธารวนิ หลานน้อย

3 เด็กชายปติ ิ วนั ทา

4 เด็กชายภาณวุ ัฒน์ นวนศรี

5 เด็กชายอนุวฒั น์ ใจแน่

6 เด็กชายกฤตภาส ชูรกั ษ์

7 เด็กชายพริ พรร จารัตน์

8 เด็กชายอัฟฎอล ศรสี อาด

9 เด็กหญิงณิชนันทน์ แตงโม

10 เด็กหญิงอัรวา เขยี วสด

11 เด็กหญงิ ฮาซานะ มาศชาย

12 เดก็ หญงิ อุสนา หมนื่ ท่อง

13 เด็กหญงิ ซรี นี ตาเต็ง

ลงช่อื ผ้สู อน
(นางสาวรฮู านา ฮะเด้)

ครโู รงเรยี นบา้ นหว้ ยพลหู นัง
วันที่……..…เดือน……………….…….……. พ.ศ. ……………….

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ต่ำกว่า 4 คะแนน
ระดบั คณุ ภาพ
คะแนนรวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ : มีวินัย

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คณุ ลักษณะทป่ี รากฏให้เหน็

3 : ดี ผลงานสะอาดเรยี บรอ้ ย

ปฏบิ ตั ิตนอย่ใู นข้อตกลงท่ีกำหนดใหร้ ่วมกนั ทกุ คร้งั

2 : พอใช้ ผลงานสว่ นใหญส่ ะอาดเรยี บร้อย

ปฏิบตั ติ นอย่ใู นขอ้ ตกลงท่ีกำหนดให้ร่วมกนั เป็นส่วนใหญ่

1 : ปรับปรุง ผลงานไม่คอ่ ยเรยี บร้อย

ปฏบิ ตั ิตนอยู่ในขอ้ ตกลงท่กี ำหนดให้ร่วมกัน บางครั้ง ตอ้ งอาศัยการแนะนำ

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ : ใฝ่เรยี นรู้ คุณลักษณะท่ีปรากฏใหเ้ ห็น
คะแนน : ระดบั คุณภาพ มคี วามสนใจ /ความต้งั ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้
3 : ดี มคี วามสนใจ /ความตง้ั ใจเปน็ บางครง้ั
2 : พอใช้ มีความสนใจ /ความต้ังใจในระยะเวลาสนั้ ๆ ชอบเล่นในเวลาเรียน
1 : ปรบั ปรุง

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ : มุ่งมั่นในการทำงาน

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คณุ ลักษณะทป่ี รากฏให้เห็น

3 : ดี ส่งงานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานดั หมาย

รับผดิ ชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหายและปฏิบตั ิตนจนเปน็ นิสยั

เป็นตวั อยา่ งแก่ผู้อน่ื และแนะนำชกั ชวน

2 : พอใช้ ส่งงานชา้ กว่ากำหนด

รบั ผิดชอบในงานที่ไดร้ ับมอบหายและปฏบิ ตั ิตนจนเป็นนิสยั

1 : ปรับปรุง สง่ งานชา้ กว่ากำหนด

รับผดิ ชอบในงานท่ไี ดร้ บั มอบหายและปฏบิ ตั ิตนจนเปน็ นิสยั

ปฏิบตั งิ านโดยอาศยั การชี้แนะ แนะนำ ตกั เตือน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 4

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาต่างประเทศ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 เรอื่ ง All Year Long เวลา 10 ชั่วโมง

เรอ่ื ง Pong’s birthday เวลา 1 ช่ัวโมง

ใช้สอนวันที.่ …………………เดอื น…………………………………พ.ศ. ………………

1. สาระสำคญั / ความคิดรวบยอด
การเรียนร้เู ร่อื งวนั สำคัญของตนเองและของประเทศชาติ ความแตกต่างของเทศกาล ฤดูกาล ทง้ั ของ

ไทยและต่างประเทศ เป็นภาษาอังกฤษ เป็นสิง่ จำเป็นสำหรับการนำภาษาไปใชใ้ นชีวิตประจำวัน
2. มาตรฐาน/ตัวช้ีวัด/จุดประสงค์การเรียนรู้

2.1 มาตรฐาน
ต 1.1 เขา้ ใจและตีความเรื่องที่ฟังและอา่ นจากสือ่ ประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เห็นอย่างมี
เหตผุ ล
ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ขา่ วสาร ความคดิ รวบยอด และความคิดเหน็ ในเร่อื งตา่ งๆ โดยการพูดและการ
เขยี น
ต 4.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ทง้ั ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม
2.2 ตวั ช้ีวัด
ต 1.1 ป.5/4 บอกใจความสำคัญและตอบคำถามจากการฟงั และอ่านบทสนทนา และนิทานง่ายๆ
หรือเร่ืองส้นั ๆ
ต 1.3 ป.5/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มลู เก่ยี วกับตนเองและเร่ืองใกลต้ ัว
ต 4.1 ป.5/1 ฟงั พดู และอ่าน/เขียนในสถานการณ์ตา่ งๆ ท่ีเกิดข้ึนในห้องเรยี นและสถานศึกษา
2.3 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

ความรู้ (K)
การตอบคำถามจากภาพ
ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
การเขียนรายงานสัมภาษณเ์ พ่ือนเร่อื งวันเกิด
เจตคติ (A)
มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้และม่งุ มน่ั ในการทำงาน
3. สาระการเรียนรู้
Function : Asking for and giving information about one’s birthday
Structure : When is (Pong)’s birthday?

It’s on (January the first).

4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

 ความสามารถในการสอ่ื สาร
 ความสามารถในการคิด
 ความสามารถในการแก้ปัญหา
 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

 รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  อยู่อยา่ งพอเพียง

 ซ่ือสัตย์สุจริต  มงุ่ ม่ันในการทำงาน

 มีวนิ ยั  รกั ความเป็นไทย

 ใฝ่เรยี นรู้  มจี ิตสาธารณะ

6. จุดเนน้ สกู่ ารพัฒนาผเู้ รียน

ความสามารถและทักษะของผูเ้ รยี นศตวรรษท่ี 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)
 R1– Reading (อา่ นออก)  R2– (W)Riting (เขียนได้)  R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเป็น)
 C1 – Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะดา้ นการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ

และทกั ษะในการแก้ปัญหา)
 C2 – Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรคแ์ ละนวตั กรรม)
 C3 – Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจตา่ งวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์)
 C4 – Collaboration, Teamwork and Leadership (ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การทำงานเป็น

ทีม และภาวะผู้นำ)

 C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการสื่อสาร

สารสนเทศ และรู้เท่าทันสอ่ื )
 C6 – Computing and ICT Literacy (ทักษะดา้ นคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ

และการส่ือสาร)

 C7 – Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทักษะการเรียนรู้)
 C8 – Compassion (ความมเี มตตากรณุ า วนิ ัย คุณธรรม จริยธรรม)
 L1 – Learning (ทักษะการเรียนร้)ู  L2 – Leadership (ทกั ษะความเป็นผนู้ ำ)

7. กิจกรรมการเรียนรู้
1. Warm up
ครูทบทวนการบอกวนั เดือนปีเกดิ ครูถาม (Boon), how old are you? When is your

birthday? ครูบอกทกุ คนฟังและเตรียมคำตอบ ถา้ บังเอิญวนั นต้ี รงกับวันเกิดนักเรียนคนใดคนหนงึ่ ทุกคนร้อง
เพลง Happy Birthday ถ้าไม่มีใครเกิดในวันนี้ ครสู มมุตเิ ป็นวนั เกดิ ตนเอง บอกนักเรียนว่า My birthday is
(June 21st). ครูชท้ี ี่วันท่ีบนกระดานดำ นกั เรียนร้องเพลง Happy Birthday ใหค้ รู

2. Presentation
2.1 นักเรียนดปู ฏิทนิ วนั ที่ 26 มิถุนายน, 12 สงิ หาคม และ 5 ธันวาคม แล้วบอกครูวา่ วนั

เหล่าน้ีเปน็ วนั อะไร มคี วามสำคญั อยา่ งไร ครูเขยี นคำตอบเป็นภาษาอังกฤษ ให้นกั เรียนอ่านคำตอบทค่ี รูเขียน
แล้วฟงั ครูถาม Who was born on june the twenty-sixth? นกั เรียนเลอื กคำตอบ Soonthorn Phu’s
birthday, the King’s birthday, the Queen’s birthday ครูถามข้อต่อไปจนครบ 3 ขอ้ นักเรียนตอบ

คำถามทกุ ขอ้ แลว้ ครเู ขยี นคำตอบบนกระดาน June the twenty-sixth is Soonthorn Phu’s birthday.
August the twelfth is the Queen’s birthday. December the fifth is the King’s birthday.

2.2 ครูเขยี นคำถามเปน็ When was he/she born? บนกระดานดำ และถามโดยใชพ้ ระ

บรมฉายาลกั ษณ์ในการถาม เมือ่ นกั เรียนตอบ ครูเขียนคำตอบบนกระดานดำใหส้ มบูรณ์ แลว้ ให้นักเรยี นพูด
ตามอีกครั้งท้ังคำถามและคำตอบ

2.3 ครถู ามถึงวันเกิดของเพ่ือนในห้องให้นกั เรียนทที่ ราบเปน็ คนตอบแล้วให้คนอื่นๆพูดตาม

3. Practice

3.1 นักเรยี นทำแบบฝึกหดั Answer these questions. ใน WB หน้า 35-37 นักเรียน

สังเกตตัวอย่างการสมั ภาษณเ์ พ่ือนเกย่ี วกับวนั เดือน ปเี กดิ ครใู หน้ กั เรยี นสังเกตการใช้คำบพุ บท (preposition)

in, on ว่าใช้อยา่ งไร

3.2 จับคตู่ รวจสอบความถูกต้อง

4. Production

นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด Interview your friends and write a report. ใน WB หน้า 39-40

นกั เรยี นสัมภาษณเ์ พ่ือนแลว้ บนั ทกึ ลงในตาราง แล้วเขียนรายงานดงั ตัวอย่าง

5. Wrap up

5.1 ครแู ละนกั เรียนทบทวนและสรปุ ความรู้ที่เรยี นในชวั่ โมงนี้ โดยการสนทนาแลว้

ซกั ถาม

5.2 นกั เรียนบนั ทกึ คำศัพท์ที่ควรรู้ลงในสมดุ

8. การวดั และประเมนิ ผล

สิ่งท่ีวดั วธิ ีวดั ผล เครือ่ งมอื วดั ผล เกณฑ์การประเมนิ ผล

ดา้ นความรู้ (K)

การตอบคำถามจากภาพ ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝกึ หัด 60% ขน้ึ ไป ผ่าน

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)

การเขยี นรายงานสัมภาษณ์ ประเมินภาระงาน แบบประเมินภาระงาน 60% ขนึ้ ไป ผ่าน

เพอื่ นเร่ืองวนั เกดิ

ด้านคณุ ลักษณะ

อนั พงึ ประสงค์ (A)

มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่น การสงั เกตการร่วม แบบประเมินคณุ ลักษณะอัน 60% ขึน้ ไป ผา่ น

ในการทำงาน กจิ กรรมในช้ันเรียน พึงประสงค์

9. สือ่ /แหล่งเรียนรู้

9.1 สื่อการเรยี นรู้

9.1.1 Workbook 5

9.1.2 ปฏิทนิ

9.2 แหล่งเรยี นรู้

ห้องสมุด

ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้ที่ได้รบั มอบหมาย (ตรวจสอบ/นิเทศ/รบั รอง)
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่
(นายมาโนช ด้วงชู)

ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นหว้ ยพลูหนัง
วนั ท…่ี ……..เดือน………………..….พ.ศ. …………..

ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ที่ไดร้ บั มอบหมาย

ความเหน็ ของหัวหนา้ กลุม่ บริหารวชิ าการ ความเหน็ ของผู้บริหาร/ผูท้ ีไ่ ด้รับมอบหมาย

ได้ทำการตรวจแผนการจดั การเรียนร้แู ล้วมคี วามคิดเห็นดังนี้ ไดท้ ำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้แล้วมคี วามคดิ เหน็ ดงั นี้

1. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1. เปน็ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี

 ดีมาก  ดีมาก

 ดี  ดี

 พอใช้  พอใช้

 ควรปรับปรุง  ควรปรบั ปรงุ

2. การจัดกจิ กรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ 2. การจดั กจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรียนรู้

 เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนไดอ้ ยา่ ง  เน้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ ง

เหมาะสม เหมาะสม

 ยังไม่เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สำคญั ควรปรบั ปรงุ พฒั นาตอ่ ไป  ยังไม่เนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคัญควรปรับปรุงพฒั นาต่อไป

3. เป็นแผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3. เป็นแผนการจดั การเรยี นรู้ที่

 นำไปใช้ไดจ้ รงิ  นำไปใชไ้ ดจ้ รงิ

 ควรปรบั ปรงุ กอ่ นนำไปใช้  ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้

4. ขอ้ เสนอแนะอ่นื ๆ 4. ข้อเสนอแนะอน่ื ๆ

………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………..

………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………..

(ลงช่ือ) (ลงชือ่ )

(นายอดิศักด์ิ ณรนิ ทร์) (นายมาโนช ด้วงชู)

หัวหนา้ กลมุ่ บรหิ ารวชิ าการ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบ้านหว้ ยพลูหนัง

บนั ทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้

1. สรุปผลการจัดการเรียนรู้

นักเรียนจำนวน………………………….คน

ผา่ นจุดประสงคก์ ารเรียนร.ู้ ……………คน คิดเปน็ รอ้ ยละ………………………..

ไม่ผา่ นจดุ ประสงค์การเรยี นรู้………….คน คิดเป็นร้อยละ………………………..

ได้แก่

1…………………………………………………………………………………………

2……………………………………………………………………………………………

นกั เรยี นที่มีความสามารถพิเศษ/นักเรียนเด็กพเิ ศษ ไดแ้ ก่

1……………………………………………………………………………………………

2……………………………………………………………………………………………

นักเรยี นที่ไม่ผ่านการประเมินจุดประสงค์ดา้ นความรู้ (K) จำนวน……………………….คน ได้แก่

……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………….

นักเรียนท่ไี มผ่ ่านการประเมินจดุ ประสงค์ดา้ นทักษะ (P) จำนวน………………………..คน ไดแ้ ก่

……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………….

นักเรยี นทีไ่ มผ่ า่ นการประเมนิ จดุ ประสงค์ด้านเจตคติ (A) จำนวน……………………….คน ไดแ้ ก่

……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………….

2. ปัญหา /อุปสรรค /ข้อค้นพบ
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………

3. แนวทางการแก้ไข/พฒั นา
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………

ลงช่อื ผู้สอน
(นางสาวรฮู านา ฮะเด้)

ครูโรงเรียนบา้ นหว้ ยพลูหนัง
วนั ที่……..…เดอื น……………….…….……. พ.ศ. ……………….

แบบบันทกึ การประเมนิ คณุ ภาพช้ินงาน / ภาระงาน

ประเด็น/คะแนน ความสมบรู ณ์ ความคดิ สร้างสรรค์ รวมคะแนน
ของช้นิ งาน 8 20
เลขที่
ชอื่ – สกลุ 12

1 เดก็ ชายเตชนิ ท์ ทุ่งแซะ
2 เด็กชายธารวิน หลานน้อย
3 เด็กชายปติ ิ วนั ทา
4 เดก็ ชายภาณุวฒั น์ นวนศรี
5 เด็กชายอนวุ ัฒน์ ใจแน่
6 เดก็ ชายกฤตภาส ชรู ักษ์
7 เดก็ ชายพิรพรร จารัตน์
8 เด็กชายอัฟฎอล ศรีสอาด
9 เดก็ หญิงณิชนันทน์ แตงโม
10 เดก็ หญงิ อัรวา เขยี วสด
11 เดก็ หญงิ ฮาซานะ มาศชาย
12 เด็กหญิงอุสนา หมน่ื ท่อง
13 เดก็ หญงิ ซรี นี ตาเต็ง

ลงช่ือ ผู้สอน
(นางสาวรฮู านา ฮะเด้)

ครูโรงเรียนบ้านหว้ ยพลหู นัง
วนั ท่ี……..…เดอื น……………….…….……. พ.ศ. ……………….

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนคณุ ภาพช้ินงาน / ภาระงาน

คะรแะนดับน เกณฑ์การใหค้ ะแนน น้ำหนกั / คะแนน
32 1 ความสำคญั รวม
ประเดน็ 4
การประเมิน

ความสมบรู ณ์ของ ชิน้ งานมีราย ชน้ิ งานมีราย ชน้ิ งานมีราย ชิ้นงานมรี าย 3 12
ชนิ้ งาน ละเอียด ละเอยี ด ละเอียด ละเอยี ด
ครอบ ครอบ ครอบ ครอบ 2 8
ความคิดสรา้ งสรรค์ คลุมวง คลุมวง คลุมวง คลมุ วง 5 20
คำศัพท์ คำศัพท์ คำศัพท์ คำศัพท์
ที่เรียน ทเี่ รียนเป็น ทเ่ี รียนพอ ทีเ่ รยี นน้อย
สมบรู ณ์ ส่วนใหญ่ สมควร

เป็นช้ินงาน เป็นช้นิ งาน เป็นชน้ิ งาน เป็นชิ้นงานท่ี
ท่ีแปลกใหม่ ที่แปลกใหม่ ที่ ป รั บ ป รุ ง เหมือนกบั
คิดขน้ึ เอง แต่มบี างส่วน ดั ด แ ป ล ง ตัวอย่าง
ไม่เหมอื น คลา้ ยกบั เล็กน้อยจาก
ตัวอย่าง ตวั อย่าง ตัวอย่าง

รวม

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ (A)

ที่ ช่ือ-สกุล มวี นิ ัย รายการประเมนิ มุง่ มั่นในการทำงาน คะแนนรวม ระดับ
321 ใฝเ่ รยี นรู้ 3 21 (9) คุณภาพ

321

1 เด็กชายเตชนิ ท์ ทุ่งแซะ

2 เด็กชายธารวิน หลานน้อย

3 เด็กชายปิติ วันทา

4 เด็กชายภาณุวฒั น์ นวนศรี

5 เด็กชายอนวุ ฒั น์ ใจแน่

6 เด็กชายกฤตภาส ชูรกั ษ์

7 เด็กชายพริ พรร จารัตน์

8 เด็กชายอัฟฎอล ศรสี อาด

9 เด็กหญิงณิชนันทน์ แตงโม

10 เด็กหญิงอัรวา เขียวสด

11 เด็กหญงิ ฮาซานะ มาศชาย

12 เดก็ หญงิ อุสนา หม่ืนท่อง

13 เด็กหญิงซรี นี ตาเต็ง

ลงช่อื ผ้สู อน
(นางสาวรฮู านา ฮะเด้)

ครโู รงเรยี นบา้ นหว้ ยพลหู นัง
วันที่……..…เดือน……………….…….……. พ.ศ. ……………….

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ต่ำกว่า 4 คะแนน
ระดบั คณุ ภาพ
คะแนนรวม

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ : มีวนิ ัย

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คณุ ลกั ษณะทป่ี รากฏให้เห็น

3 : ดี ผลงานสะอาดเรียบรอ้ ย

ปฏิบตั ติ นอยใู่ นขอ้ ตกลงท่ีกำหนดใหร้ ว่ มกนั ทกุ ครงั้

2 : พอใช้ ผลงานส่วนใหญส่ ะอาดเรียบรอ้ ย

ปฏิบัตติ นอยู่ในข้อตกลงที่กำหนดให้รว่ มกันเป็นส่วนใหญ่

1 : ปรับปรุง ผลงานไมค่ ่อยเรยี บร้อย

ปฏบิ ตั ิตนอยใู่ นขอ้ ตกลงทกี่ ำหนดให้ร่วมกัน บางครัง้ ตอ้ งอาศัยการแนะนำ

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ : ใฝเ่ รยี นรู้ คุณลักษณะทปี่ รากฏใหเ้ หน็
คะแนน : ระดับคุณภาพ มีความสนใจ /ความตง้ั ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้
3 : ดี มีความสนใจ /ความตัง้ ใจเป็นบางครั้ง
2 : พอใช้ มคี วามสนใจ /ความตงั้ ใจในระยะเวลาสนั้ ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรียน
1 : ปรับปรุง

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ : มุ่งมน่ั ในการทำงาน

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คณุ ลักษณะทป่ี รากฏใหเ้ หน็

3 : ดี ส่งงานกอ่ นหรือตรงกำหนดเวลานดั หมาย

รบั ผดิ ชอบในงานทีไ่ ดร้ บั มอบหายและปฏบิ ตั ติ นจนเปน็ นิสยั

เปน็ ตัวอยา่ งแกผ่ ู้อ่นื และแนะนำชกั ชวน

2 : พอใช้ ส่งงานชา้ กว่ากำหนด

รบั ผิดชอบในงานทีไ่ ดร้ ับมอบหายและปฏิบตั ิตนจนเป็นนิสยั

1 : ปรบั ปรุง สง่ งานชา้ กว่ากำหนด

รับผิดชอบในงานทไี่ ดร้ ับมอบหายและปฏบิ ตั ิตนจนเปน็ นสิ ยั

ปฏบิ ัติงานโดยอาศัยการชแ้ี นะ แนะนำ ตกั เตือน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 5

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เร่อื ง All Year Long เวลา 10 ชวั่ โมง

เรื่อง Holidays เวลา 1 ชั่วโมง

ใชส้ อนวันท.ี่ …………………เดือน…………………………………พ.ศ. ………………

1. สาระสำคัญ / ความคดิ รวบยอด
การเรียนรูเ้ รื่องวนั สำคัญของตนเองและของประเทศชาติ ความแตกตา่ งของเทศกาล ฤดูกาล ท้งั ของ

ไทยและต่างประเทศ เปน็ ภาษาองั กฤษ เป็นส่ิงจำเปน็ สำหรับการนำภาษาไปใช้ในชวี ิตประจำวัน
2. มาตรฐาน/ตัวชว้ี ัด/จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

2.1 มาตรฐาน
ต 1.1 เข้าใจและตคี วามเรื่องท่ีฟงั และอา่ นจากสอื่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคิดเหน็ อย่างมี
เหตผุ ล
ต 1.3 นำเสนอข้อมูลขา่ วสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเหน็ ในเรือ่ งตา่ งๆ โดยการพูดและการ
เขียน
ต 3.1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่ และเปน็ พื้นฐานในการ
พัฒนา แสวงหาความรู้ และเปดิ โลกทัศน์ของตน
ต4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมอื พนื้ ฐานในการศึกษาตอ่ การประกอบอาชีพ และการ
แลกเปลีย่ นเรียนรกู้ ับสงั คมโลก
2.2 ตวั ชีว้ ดั
ต 1.1 ป.5/4 บอกใจความสำคญั และตอบคำถามจากการฟังและอา่ นบทสนทนา และนทิ านงา่ ยๆ
หรอื เรอื่ งสนั้ ๆ
ต 1.3 ป.5/1 พดู /เขยี นให้ขอ้ มูลเกี่ยวกับตนเองและเรอ่ื งใกล้ตัว
ต 3.1 ป.5/1 ค้นคว้า รวบรวมคำศัพท์ท่เี ก่ียวขอ้ งกับกลมุ่ สาระการเรียนรอู้ ่นื และนำเสนอด้วยการ
พูด/การเขียน
ต 4.2 ป.5/1 ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสืบค้นและรวบรวมข้อมูลตา่ งๆ
2.3 จุดประสงค์การเรียนรู้

ความรู้ (K)
การอา่ นประโยคแลว้ ระบวุ นั ท่ี
ทักษะ/กระบวนการ (P)
การทำปฏทิ นิ สว่ นตัว
เจตคติ (A)
มีวินยั ใฝเ่ รยี นรแู้ ละมุ่งมนั่ ในการทำงาน
3. สาระการเรียนรู้
Function : Talking about public holidays in Thailand
Structure : (New Year’s Day) is a public holiday.
Vocabulary : คำศัพทใ์ หม่

weekday, weekend, holiday, public holiday, Coronation Day
4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน

 ความสามารถในการสือ่ สาร

 ความสามารถในการคิด

 ความสามารถในการแก้ปัญหา

 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

 รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์  อย่อู ยา่ งพอเพียง

 ซอื่ สัตย์สุจริต  มุ่งมน่ั ในการทำงาน

 มีวินัย  รกั ความเป็นไทย

 ใฝ่เรยี นรู้  มีจิตสาธารณะ

6. จุดเนน้ สู่การพัฒนาผู้เรียน

ความสามารถและทกั ษะของผู้เรียนศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)
 R1– Reading (อา่ นออก)  R2– (W)Riting (เขียนได้)  R3 – (A)Rithmetics (คดิ เลขเปน็ )
 C1 – Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะดา้ นการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ

และทกั ษะในการแกป้ ญั หา)
 C2 – Creativity and Innovation (ทกั ษะด้านการสร้างสรรค์และนวัตกรรม)
 C3 – Cross-cultural Understanding (ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทัศน์)
 C4 – Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเปน็

ทมี และภาวะผู้นำ)

 C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการส่ือสาร

สารสนเทศ และรู้เทา่ ทนั ส่ือ)
 C6 – Computing and ICT Literacy (ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ

และการส่ือสาร)
 C7 – Career and Learning Skills (ทักษะอาชพี และทกั ษะการเรยี นรู้)
 C8 – Compassion (ความมีเมตตากรุณา วนิ ัย คุณธรรม จริยธรรม)

 L1 – Learning (ทกั ษะการเรียนร)ู้  L2 – Leadership (ทกั ษะความเป็นผู้นำ)

7. กจิ กรรมการเรียนรู้
1. Warm up
ทบทวนกจิ กรรม interview you friends ในชว่ั โมงที่แลว้ และสมุ่ นกั เรยี นออกมารายงาน

หน้าชัน้ พอสมควรกับเวลา
2. Presentation
2.1 สอนคำศัพท์ weekday, weekend, holiday, public holiday จากปฏิทิน

นักเรียนบอกความหมาย สะกดคำและออกเสียงคำศัพทต์ ามครู ครูช้ีวันตามคำศัพทใ์ หม่ไปพร้อมกนั ด้วย ให้
นักเรียนตอบทลี ะแถวหรือกลุ่ม กลุม่ ละประมาณ 5-6 คน

2.2 ครูใหน้ ักเรยี นบอกวนั หยดุ ตา่ งๆ เชน่ วนั เฉลมิ พระชนมพรรษา วนั ปิยมหาราช เป็น
ตน้ ใหน้ ักเรียนคิดต่อไปวา่ เดือนอะไรท่ีไม่มวี ันหยุดเลย

2.3 นกั เรยี นทำกิจกรรม Listen and read. ข้อ B. Look and read. ใน SB หนา้ 37
นักเรียนอ่านออกเสียงข้อความของเด็กแต่ละคน

2.4 ครทู ดสอบความเข้าใจโดยให้นักเรียนตอบคำถาม

What days are weekdays?
What days are weekends?

3. Practice
3.1 นกั เรียนทำแบบฝึก Fill in the blanks. ใน WB หนา้ 38
3.2 นักเรยี นทำแบบฝกึ Look and write. ใน WB หนา้ 39 ให้อา่ นประโยคแต่ละขอ้

แลว้ เขยี นชอ่ื วันลงในปฏิทิน
4. Production
นกั เรียนสร้างปฏทิ ินจำลองเดือนใดก็ไดต้ ามใจชอบ 1 เดือน แล้วเขียนกจิ กรรมสำคัญท่ี

นักเรียนทำลงในปฏทิ นิ นัน้
5. Wrap up
5.1 ทบทวนและสรปุ ความรู้ที่เรยี นในชว่ั โมงน้ี โดยการสนทนาแลว้ ซักถาม
5.2 นักเรียนบนั ทกึ คำศัพท์ที่ควรรู้ลงในสมุดบันทึกคำศัพท์
5.3 ใหน้ กั เรียนสบื คน้ ข้อมูลจาก Internet ห้องสมุด หรอื แหลง่ เรียนรอู้ ืน่ เกี่ยวกับวนั สำคญั

หรือเทศกาลของประเทศอ่ืนๆ แลว้ นำเสนอในห้องเรียนในคร้งั ตอ่ ไป

8. การวดั และประเมนิ ผล

สิง่ ที่วดั วธิ ีวัดผล เครอื่ งมอื วดั ผล เกณฑ์การประเมนิ ผล
แบบฝึกหัด 60% ขึ้นไป ผ่าน
ด้านความรู้ (K)

การอา่ นประโยคแลว้ ระบุ ตรวจแบบฝึกหัด

วนั ที่

ด้านทักษะกระบวนการ (P)

การทำปฏทิ ินสว่ นตวั ประเมนิ ภาระงาน แบบประเมินภาระงาน 60% ขนึ้ ไป ผ่าน

ดา้ นคุณลักษณะ

อันพึงประสงค์ (A)

มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่น การสงั เกตการร่วม แบบประเมินคณุ ลักษณะอัน 60% ขน้ึ ไป ผา่ น
พงึ ประสงค์
ในการทำงาน กิจกรรมในชั้นเรยี น

9. สื่อ/แหล่งเรียนรู้

9.1 ส่ือการเรียนรู้

9.1.1 Student’s Book 5

9.1.2 Workbook 5

9.1.3 บตั รตัวเลข

9.1.4 ปฏทิ ิน

9.1.5 สมุดบนั ทึกคำศัพท์

9.1.6 Internet

9.2 แหล่งเรียนรู้

ห้องสมดุ

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรยี นรู้

1. สรุปผลการจดั การเรยี นรู้

นกั เรยี นจำนวน………………………….คน

ผ่านจุดประสงคก์ ารเรียนรู้…………….คน คิดเป็นรอ้ ยละ………………………..

ไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรียนร.ู้ …………คน คิดเป็นรอ้ ยละ………………………..

ไดแ้ ก่

1…………………………………………………………………………………………

2……………………………………………………………………………………………

นักเรยี นท่ีมีความสามารถพเิ ศษ/นกั เรียนเด็กพิเศษ ไดแ้ ก่

1……………………………………………………………………………………………

2……………………………………………………………………………………………

นกั เรียนทไ่ี มผ่ ่านการประเมินจดุ ประสงคด์ ้านความรู้ (K) จำนวน……………………….คน ไดแ้ ก่

……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………….

นกั เรยี นท่ไี มผ่ ่านการประเมินจุดประสงค์ด้านทักษะ (P) จำนวน………………………..คน ไดแ้ ก่

……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………….

นกั เรยี นทไี่ ม่ผ่านการประเมนิ จดุ ประสงค์ด้านเจตคติ (A) จำนวน……………………….คน ได้แก่

……………………………………………………………………………………………………………………………………

……………………………………………………………………………………….

2. ปัญหา /อปุ สรรค /ข้อค้นพบ
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………

3. แนวทางการแกไ้ ข/พฒั นา
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………
…………………………………………………….…………………..…………………………………………………………………………

ลงชอ่ื ผสู้ อน
(นางสาวรฮู านา ฮะเด้)

ครโู รงเรียนบา้ นห้วยพลหู นัง
วนั ที่……..…เดอื น……………….…….……. พ.ศ. ……………….

แบบบันทกึ การประเมนิ คณุ ภาพช้ินงาน / ภาระงาน

ประเด็น/คะแนน ความสมบรู ณ์ ความคดิ สร้างสรรค์ รวมคะแนน
ของช้นิ งาน 8 20
เลขที่
ชอื่ – สกลุ 12

1 เดก็ ชายเตชนิ ท์ ทุ่งแซะ
2 เด็กชายธารวิน หลานน้อย
3 เด็กชายปติ ิ วนั ทา
4 เดก็ ชายภาณุวฒั น์ นวนศรี
5 เด็กชายอนวุ ัฒน์ ใจแน่
6 เดก็ ชายกฤตภาส ชรู ักษ์
7 เดก็ ชายพิรพรร จารัตน์
8 เด็กชายอัฟฎอล ศรีสอาด
9 เดก็ หญิงณชิ นันทน์ แตงโม
10 เดก็ หญงิ อัรวา เขยี วสด
11 เดก็ หญงิ ฮาซานะ มาศชาย
12 เด็กหญิงอุสนา หมน่ื ท่อง
13 เดก็ หญงิ ซรี ีน ตาเต็ง

ลงช่ือ ผู้สอน
(นางสาวรฮู านา ฮะเด้)

ครูโรงเรียนบา้ นหว้ ยพลูหนัง
วนั ท่ี……..…เดอื น……………….…….……. พ.ศ. ……………….

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนคณุ ภาพช้ินงาน / ภาระงาน

คะรแะนดับน เกณฑ์การใหค้ ะแนน น้ำหนกั / คะแนน
32 1 ความสำคญั รวม
ประเดน็ 4
การประเมิน

ความสมบรู ณ์ของ ชนิ้ งานมีราย ชน้ิ งานมีราย ชน้ิ งานมีราย ชิ้นงานมรี าย 3 12
ชนิ้ งาน ละเอียด ละเอยี ด ละเอียด ละเอยี ด
ครอบ ครอบ ครอบ ครอบ 2 8
ความคิดสรา้ งสรรค์ คลุมวง คลุมวง คลุมวง คลมุ วง 5 20
คำศัพท์ คำศัพท์ คำศัพท์ คำศัพท์
ที่เรียน ท่เี รียนเป็น ทเ่ี รียนพอ ทีเ่ รยี นน้อย
สมบรู ณ์ ส่วนใหญ่ สมควร

เป็นช้ินงาน เปน็ ช้นิ งาน เป็นชน้ิ งาน เป็นชิ้นงานท่ี
ท่ีแปลกใหม่ ท่แี ปลกใหม่ ที่ ป รั บ ป รุ ง เหมือนกบั
คิดขน้ึ เอง แต่มบี างส่วน ดั ด แ ป ล ง ตัวอย่าง
ไม่เหมอื น คลา้ ยกบั เล็กน้อยจาก
ตวั อย่าง ตวั อย่าง ตัวอย่าง

รวม

แบบประเมนิ คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ (A)

ที่ ช่ือ-สกลุ มวี นิ ัย รายการประเมนิ มุง่ มั่นในการทำงาน คะแนนรวม ระดับ
321 ใฝเ่ รยี นรู้ 3 21 (9) คุณภาพ

321

1 เด็กชายเตชนิ ท์ ทุ่งแซะ

2 เด็กชายธารวิน หลานน้อย

3 เด็กชายปิติ วันทา

4 เด็กชายภาณุวฒั น์ นวนศรี

5 เด็กชายอนวุ ฒั น์ ใจแน่

6 เด็กชายกฤตภาส ชูรกั ษ์

7 เด็กชายพริ พรร จารัตน์

8 เด็กชายอัฟฎอล ศรสี อาด

9 เด็กหญิงณิชนันทน์ แตงโม

10 เด็กหญิงอัรวา เขียวสด

11 เด็กหญงิ ฮาซานะ มาศชาย

12 เดก็ หญงิ อุสนา หม่ืนท่อง

13 เด็กหญิงซรี นี ตาเต็ง

ลงช่อื ผ้สู อน
(นางสาวรฮู านา ฮะเด้)

ครโู รงเรยี นบา้ นหว้ ยพลหู นัง
วันที่……..…เดือน……………….…….……. พ.ศ. ……………….

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
7-9 คะแนน 4-6 คะแนน ต่ำกว่า 4 คะแนน
ระดบั คณุ ภาพ
คะแนนรวม

เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ : มีวินัย

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คุณลกั ษณะทป่ี รากฏให้เห็น

3 : ดี ผลงานสะอาดเรยี บรอ้ ย

ปฏิบตั ิตนอยู่ในข้อตกลงทก่ี ำหนดใหร้ ว่ มกนั ทกุ ครงั้

2 : พอใช้ ผลงานส่วนใหญ่สะอาดเรียบรอ้ ย

ปฏิบตั ติ นอยู่ในข้อตกลงท่ีกำหนดใหร้ ว่ มกันเป็นส่วนใหญ่

1 : ปรับปรุง ผลงานไม่คอ่ ยเรียบร้อย

ปฏบิ ัติตนอยู่ในข้อตกลงท่กี ำหนดใหร้ ่วมกัน บางครัง้ ต้องอาศัยการแนะนำ

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ : ใฝเ่ รยี นรู้ คณุ ลักษณะท่ปี รากฏใหเ้ ห็น
คะแนน : ระดับคุณภาพ มีความสนใจ /ความต้งั ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้
3 : ดี มคี วามสนใจ /ความตั้งใจเป็นบางครัง้
2 : พอใช้ มีความสนใจ /ความตงั้ ใจในระยะเวลาสนั้ ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรียน
1 : ปรับปรุง

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ : มุ่งมน่ั ในการทำงาน

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คณุ ลักษณะที่ปรากฏใหเ้ ห็น

3 : ดี สง่ งานกอ่ นหรือตรงกำหนดเวลานดั หมาย

รบั ผิดชอบในงานทไ่ี ดร้ บั มอบหายและปฏบิ ตั ิตนจนเป็นนิสยั

เป็นตวั อยา่ งแก่ผู้อ่ืน และแนะนำชกั ชวน

2 : พอใช้ สง่ งานช้ากวา่ กำหนด

รบั ผิดชอบในงานทีไ่ ดร้ ับมอบหายและปฏบิ ตั ิตนจนเป็นนิสยั

1 : ปรบั ปรุง สง่ งานชา้ กวา่ กำหนด

รบั ผิดชอบในงานทีไ่ ดร้ ับมอบหายและปฏบิ ตั ิตนจนเป็นนสิ ยั

ปฏิบัติงานโดยอาศัยการช้แี นะ แนะนำ ตกั เตือน

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 6

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภาษาต่างประเทศ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 เรอ่ื ง All Year Long เวลา 10 ช่ัวโมง

เรื่อง Holidays เวลา 1 ช่ัวโมง

ใชส้ อนวันที.่ …………………เดือน…………………………………พ.ศ. ………………

1. สาระสำคัญ / ความคิดรวบยอด

การเรยี นรเู้ รือ่ งวนั สำคัญของตนเองและของประเทศชาติ ความแตกต่างของเทศกาล ฤดูกาล ทงั้ ของ

ไทยและต่างประเทศ เปน็ ภาษาองั กฤษ เป็นส่ิงจำเป็นสำหรบั การนำภาษาไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั

2. มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั /จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

2.1 มาตรฐาน

ต 1.1 เขา้ ใจและตคี วามเรื่องท่ีฟังและอา่ นจากสอื่ ประเภทต่างๆ และแสดงความคดิ เห็นอยา่ งมี

เหตุผล

ต 2.1 เข้าใจความสมั พันธร์ ะหวา่ งภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง

เหมาะสมกับกาลเทศะ

2.2 ตัวช้วี ัด

ต 1.1 ป.5/2 อา่ นออกเสียงประโยค ข้อความ และบทกลอนสน้ั ๆ ถูกต้องตามหลักการอ่าน

ต 2.1 ป.5/3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรมตามความสนใจ

2.3 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

ความรู้ (K)

การอ่านขอ้ ความ

ทักษะ/กระบวนการ (P)

การทำปฏทิ นิ เปน็ งานกลุ่ม

เจตคติ (A)

มีวินัย ใฝ่เรยี นร้แู ละมุ่งมั่นในการทำงาน

3. สาระการเรยี นรู้

Function : Specify months of public holidays in Thailand

Structure : (New Year’s Day) is in (January).

4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน

 ความสามารถในการสือ่ สาร

 ความสามารถในการคดิ

 ความสามารถในการแก้ปัญหา

 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

 รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์  อยู่อยา่ งพอเพยี ง

 ซือ่ สตั ย์สจุ รติ  มุ่งมนั่ ในการทำงาน

 มีวินัย  รักความเปน็ ไทย

 ใฝเ่ รยี นรู้  มีจติ สาธารณะ

6. จุดเนน้ สกู่ ารพัฒนาผ้เู รยี น
ความสามารถและทกั ษะของผูเ้ รยี นศตวรรษที่ 21 (3Rs x 8Cs x 2Ls)
 R1– Reading (อา่ นออก)  R2– (W)Riting (เขยี นได้)  R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเปน็ )
 C1 – Critical Thinking and Problem Solving ( ทักษะดา้ นการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ
และทกั ษะในการแก้ปญั หา)
 C2 – Creativity and Innovation (ทักษะด้านการสร้างสรรคแ์ ละนวตั กรรม)
 C3 – Cross-cultural Understanding (ทักษะด้านความเข้าใจตา่ งวฒั นธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์)
 C4 – Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็น
ทีม และภาวะผู้นำ)
 C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทักษะด้านการส่ือสาร
สารสนเทศ และรเู้ ท่าทันสื่อ)
 C6 – Computing and ICT Literacy (ทักษะดา้ นคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ
และการสื่อสาร)
 C7 – Career and Learning Skills (ทักษะอาชีพและทกั ษะการเรยี นรู้)
 C8 – Compassion (ความมีเมตตากรุณา วินัย คณุ ธรรม จริยธรรม)
 L1 – Learning (ทกั ษะการเรยี นร)ู้  L2 – Leadership (ทักษะความเป็นผนู้ ำ)

7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. Warm up
ครูสนทนาเกยี่ วกบั วนั สำคัญที่เป็นวันหยุดของไทย และวนั สำคญั ของประเทศต่างๆ (ทีค่ รใู ห้

ทำเป็นการบา้ น) โดยครูเขยี น Mind Mapping ใหน้ ักเรียนบอกชือ่ วนั หยดุ เป็นภาษาไทย ครเู ขียนเป็น
ภาษาอังกฤษบนกระดานดำ

New Year’s Day

Public holidays

2. Presentation
2.1 นกั เรียนอ่านขอ้ ความครู Read and talk with your friends. ใน SB หน้า 38 และให้

นักเรียนฝกึ อา่ นเองเป็นกลุ่ม แลว้ หาความหมายของเรื่อง ครเู ขยี นช่ือเดือนบนกระดานดำ ใหน้ กั เรยี นบอกช่ือ
วนั หยดุ

New Year’s Day = January
= February
= April
= May
= July
= August
= December

2.2 นกั เรยี นดภู าพดา้ นล่างใน SB หนา้ 38 และบอกว่าเกย่ี วกบั วนั หยุดใด

1. New Year’s Day
2. The Queen’s Birthday (Mother’s Day)
3. Royal Ploughing Ceremony Day

3. Practice

3.1 นกั เรียนจับค่อู ่าน Public Holidays in Thailand ใน SB หน้า 38

3.2 ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มอ่านคำแต่ละข้อ ใน SB หน้า 39 แล้วหาวลีท่ีแตกต่างกับวลีอ่ืนในด้าน

ประเภท กลุ่มคำ หรือชนิด พร้อมกับบอกความแตกต่างในด้านใด โดยส่งตัวแทนออกมานำเสนอหน้าช้ันเรียน

พูดบอกแล้วเขยี นคำตอบลงในสมุดแบบฝกึ หดั

4. Production
แบง่ กลุ่มนักเรยี นกล่มุ ละ 6 คน ทำปฏิทนิ บอกวันหยดุ ราชการตลอดปี และวันเกดิ ของเพ่ือน

ในกล่มุ นกั เรยี นสามารถสรา้ งสรรค์ปฏิทนิ ของกลมุ่ ใหน้ ่าสนใจ
5. Wrap up
นักเรยี นตัวแทนกลุ่มนำเสนอและพูดบอกวนั เกดิ ของเพ่ือนๆ ในกลมุ่ เป็นภาษาองั กฤษ

8. การวัดและประเมินผล

สิง่ ที่วัด วิธีวัดผล เคร่ืองมอื วดั ผล เกณฑ์การประเมินผล

ดา้ นความรู้ (K)

การอ่านข้อความ ประเมินการอ่าน แบบประเมินการอา่ น 60% ข้นึ ไป ผ่าน

ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)

การทำปฏิทนิ เปน็ งานกล่มุ ประเมนิ การทำงานกลุ่ม แบบประเมนิ การทำงานกลุม่ 60% ขน้ึ ไป ผา่ น

ด้านคณุ ลกั ษณะ

อันพงึ ประสงค์ (A)

มีวินัย ใฝ่เรียนรู้และมุ่งม่ัน การสงั เกตการรว่ ม แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั 60% ขึ้นไป ผ่าน

ในการทำงาน กจิ กรรมในชัน้ เรียน พึงประสงค์

9. ส่ือ/แหล่งเรียนรู้

9.1 สื่อการเรยี นรู้

9.1.1 Student’s Book 5

9.1.2 สมุดแบบฝึกหดั

9.1.3 ปฏทิ นิ

9.2 แหล่งเรยี นรู้

หอ้ งสมุด

[Update] รายวิชา ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ระดับประถมศึกษา (พต11001) Pages 51 – 100 – Flip PDF Download | เลข จํา น วน นับ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

No Text Content!

4214. Miss Cathy : Well, Thanks for the information. Mr. Dan : ____________________. Good bye. a. I call you later b. You’re welcome c. Thanks for the information15. Miss Kate : I look forward to hearing from you. Mr. Danael : ___________________________. a. I’m much obliged to you. b. I’ll speak to you tomorrow. c. I look forward to hearing from you too.16. Mr. Ken : What a nice party! Miss Suda : _________________________. a. Thanks for coming b. I’m glad you liked it c. Thank you for inviting me17. Mr. Ken : Thanks for the meal. Miss Suda : _________________________. a. That’s all right b. I’m glad you liked it c. It’s nice of you to say so

4318. Miss Suda : I must be going. ___________________. Mr.Tom : You’re welcome. a. I’m glad you liked it b. It’s nice of you to say so c. Thank you for this lovely meal19. Miss Anna : Sleep well. _________________. Mr. Bill : Good night. a. Good bye b. Good night c. See you again20. Miss Sue : ________________. Good night. Mr. Jack : Thank you, Good night. a. Good bye b. See you again c. Have a good dreamExercise 2 Complete the following dialogue about leave taking. (เติมบทสนทนาเกย่ี วกับการกลา วลาใหส มบรู ณ)1. Miss Suda : See you later. Mr. Tom : Yes, ___________________.2. Miss Cathy : Give my regards to Mr. A.J. Miss Suda : Yes, ___________________.3. Miss Carolyn: ___________________, bye. Mr. Dan : Yes, I hope so.

444. Miss Aliz : I wish you luck. Mr. Bob : ___________________. Good bye.5. Miss Suda : Good bye. Mr. Tom : ___________________.6. Miss Sue : Have a nice trip. Mr. Jack : ___________________, Bye. Miss Sue : Bye.7. Miss Laura : Have a good time, Joe. Mr. Joe : ___________________ Good bye. Miss Laura : Good bye.8. Mr. Tom : Thank you for inviting me. Mr. Dan : ___________________.9. Mr. Tom : Good night. Mr. Dan : ___________________.10. Miss Anna : Sleep well. Good night. Mr. Bill : ___________________.

45 บทที่ 4การเขยี น การอานพยัญชนะ สระ และการประสมคาํสาระสาํ คญั การเขียน การอาน พยัญชนะ สระ และประสมคํา เปน ทกั ษะพนื้ ฐานในการเรียนรูเกีย่ วกับการใชภาษาอังกฤษและการสือ่ สารผลการเรียนรูทค่ี าดหวัง ผเู รียนสามารถ เขียน อาน พยญั ชนะ สระ และประสมคําไดอยา งถกู ตอ งขอบขายเน้ือหา เร่อื งที่ 1 การเขยี นพยัญชนะ 1.1 ตวั พมิ พใหญและตวั พิมพเ ลก็ 1.2 ตัวเขียนใหญ ตัวเขยี นเลก็ เรื่องท่ี 2 การออกเสยี งสระแทแ ละสระประสม เรอื่ งที่ 3 วิธกี ารประสมคาํ 3.1 คําประกอบดวยพยัญชนะและสระแท 3.2 คาํ ประกอบดว ยพยัญชนะ สระแท และตัวสะกด 3.3 คาํ ประกอบดวยอักษรนาํ 2 ตัว 3.4 คําประกอบดว ยตัวสะกด 2 ตวั 3.5 คําประกอบดวยสระประสม 3.6 คาํ ขน้ึ ตน ดวยสระ 3.7 คําที่ขึ้นตนดวย ch และ sh

46เรอื่ งที่ 1 การเขียนพยญั ชนะ 1.1 ตัวพมิ พใหญและตวั พมิ พเลก็Aa Bb Cc Dd Ee Ff เอ บี ซี ดี อี เอฟGg Hh Ii Jj Kk Ll จี เอช ไอ เจ เค แอลMm Nn Oo Pp Qq Rrเอ็ม เอ็น โอ พี คิว อารSs Tt Uu Vv Ww Xx เอส ที ยู วี ดบั เบิลยู เอก็ ซYy Zzวาย ซี

471.2 ตัวเขียนใหญ ตวั เขยี นเลก็Aa Bb Ce Dd Ee Ff เอ บี ซี ดี อี เอฟGg Hh Ii Jj Kk Ll จี เอช ไอ เจ เค แอลMm N n Oo P p Qq Rr เอม็ เอ็น โอ พี คิว อารSs Tt Uu Vv Ww Xx เอส ที ยู วี ดบั เบิลยู เอก็ ซYy Zz วาย ซี

48เรอ่ื งที่ 2 การออกเสยี งสระแทแ ละสระประสม u ยู สระแทใ นภาษาองั กฤษ ประกอบไปดวย ตัวอักษร ดงั นี้ a เอ e อี i ไอ o โอ สระประสม มีการใชด ังตอ ไปน้ี ee เสยี ง อี เชน meet มที a_e เสียง เอ เชน fade เฟด oo เสียงสระอู เชน boot บทู ull เสยี งทอ่ี ยูระหวา ง สระ อุ กับสระอู เชน bull o_e เสียง โอ เชน bone โบน i_e เสียง ไอ เชน fine ไฟน oi เสียง ออย เชน coin คอยน ou เสยี ง อาว เชน round ราวนเรอื่ งท่ี 3 วิธกี ารประสมคํา 3.1 คาํ ประกอบดวยพยัญชนะและสระแท ในการประสมคํา สามารถนําพยัญชนะในภาษาอังกฤษ มาประสมกับสระแท a e i o u ดงั ตวั อยาง d+ a = da m+e = me h+i = hi g+o = go r+u = ru

49 3.2 คาํ ประกอบดว ยพยัญชนะ สระแท และตัวสะกด ในการประสมคํา สามารถนําพยัญชนะในภาษาอังกฤษ มาประสมกับสระแท a e i o u และตวั สะกด ดังตวั อยาง c+a+t = cat m+a+p = map v+a+n = van r+e+d = red b+e+d = bed p+e+n = pen h+i+t = hit d+o+g = dog s+o+n = son h+o+p = hop g+u+n = gun j+u+g = jug s+u+n = sun 3.3 คําประกอบดว ยอักษรนํา 2 ตวั การประสมคําในภาษาองั กฤษ สามารถใชพ ยญั ชนะ/ ตวั อักษรนํา 2 ตวัมาประสมกับสระ เชน gr+a+y = gray th+e+m = them th+i+n = thin st+o+p = stop pl+u+m = plum

503.4 คําประกอบดว ยตัวสะกด 2 ตวัคําในภาษาองั กฤษ ประกอบตัวสะกด 2 ตวั เชน d+a+r+k = dark l+a+s+t = last l+a+m+p = lamp f+i+s+h = fish d+i+s+h = dish p+i+n+k = pink c+o+l+d = cold m+o+n+k = monk3.5 คาํ ประกอบดวยสระประสมการสรางคาํ ในภาษาอังกฤษ สามารถใชสระประสม ดงั ตัวอยา ง g+o+o+d = good k+e+e+p = keep m+e+e+t = meet r+o+o+f = roof m+o+o+n = moon t+o+o+l = tool t+e+a+m = team p+a+i+n = pain g+o+a+t = goat r+o+a+d = road

51 3.6 คาํ ขน้ึ ตนดว ยสระ คาํ ในภาษาอังกฤษที่ขึ้นตนดวยสระ เชน o+n = on a+n = an a+s = as a+t = at i+t = it i+n = in u+s = us3.7 คาํ ทขี่ ้ึนตนดวย ch และ sh คาํ ในภาษาอังกฤษทีข่ ึ้นตน ดวย ch และ sh เชน c+h+a+t = chat s+h+o+p = shop s+h+o+t = shot s+h+o+w = show s+h+u+t = shut

52Exercise 1 จงเขยี นตัวพมิ พใหญ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………Exercise 2 จงเขียนตัวพมิ พเลก็………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………Exercise 3 จงเขยี นตัวเขียนใหญ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………Exercise 4 จงเขียนตวั เขียนเล็ก………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

53Exercise 5 จงเขียนสระแทในภาษาองั กฤษ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..………Exercise 6 จงสรางคําโดยใชส ระประสมตอ ไปนี้ 1. ee ……………………………………………. 2. a_e ……………………………………………. 3. oo ……………………………………………. 4. ull ……………………………………………. 5. o_e ……………………………………………. 6. i_e ……………………………………………. 7. oi ……………………………………………. 8. ou …………………………………………….Exercise 7 จงนําพยัญชนะในภาษาองั กฤษ มาประสมกบั สระแท 1. a : …………………………………………………………………… 2. e : …………………………………………………………………… 3. i : …………………………………………………………………… 4. o : …………………………………………………………………… 5. u : ……………………………………………………………………

54Exercise 8 จงนาํ พยัญชนะในภาษาอังกฤษ มาประสมกบั สระแท และตัวสะกด 1. …………………………………………………. 2. …………………………………………………. 3. …………………………………………………. 4. …………………………………………………. 5. ………………………………………………….Exercise 9 จงนําพยัญชนะในภาษาอังกฤษ/ ตัวอกั ษรนํา 2 ตวั มาประสมกบั สระ 6. …………………………………………………. 7. …………………………………………………. 8. …………………………………………………. 9. …………………………………………………. 10. ………………………………………………….Exercise 10 จงเขียนคําในภาษาอังกฤษท่ีมตี วั สะกด 2 ตวั 11. …………………………………………………. 12. …………………………………………………. 13. …………………………………………………. 14. …………………………………………………. 15. ………………………………………………….

55Exercise 11 จงเขียนคาํ ในภาษาอังกฤษโดยใชส ระประสม 16. …………………………………………………. 17. …………………………………………………. 18. …………………………………………………. 19. …………………………………………………. 20. ………………………………………………….Exercise 12 จงเขียนคาํ ในภาษาอังกฤษท่ีขนึ้ ตน ดวยสระ 21. …………………………………………………. 22. …………………………………………………. 23. …………………………………………………. 24. …………………………………………………. 25. ………………………………………………….Exercise 13 จงเขยี นคําในภาษาองั กฤษทข่ี ึ้นตนดว ย ch และ sh 26. …………………………………………………. 27. …………………………………………………. 28. …………………………………………………. 29. …………………………………………………. 30. ………………………………………………….

56 บทท่ี 5 จาํ นวนนับและลําดับที่ Cardinal numbers and Ordinal numbersสาระสําคญั จาํ นวนนับและลาํ ดับท่ี เปน สง่ิ จําเปน ในการเรียนรูเก่ยี วกบัการใชภ าษาองั กฤษและการสื่อสารในชีวิตประจาํ วนัผลการเรียนรูท ่ีคาดหวัง ผูเ รียนสามารถใชจ ํานวนนบั และลาํ ดับทีไ่ ดอ ยางถูกตองขอบขายเนอ้ื หา เร่อื งที่ 1 การอานและเขียนจาํ นวนนับ เรอื่ งที่ 2 การอานและเขยี นลาํ ดับที่ เรือ่ งที่ 3 การเขียนประโยคทีม่ ีจาํ นวนนบั หรือลําดับที่ เรอ่ื งท่ี 4 การพูดประโยคทมี่ ีจาํ นวนนบั หรอื ลาํ ดับท่ี

57เร่ืองที่ 1 การอานและการเขียนจํานวนนบั (Cardinal numbers) เลขจํานวนนบั Cardinal numbers คอื ตวั เลขทีน่ ับจากหลกั หนว ยเปนตนไป เชน จงอา นตัวเลขทีน่ บั จากหลักหนว ย 1-9 1 = one (วนั ) 2 = two (ทู) 3 = three (ทรี) 4 = four (โฟร) 5 = five (ไฟว) 6 = six (ซกิ ส) 7 = seven(เซเวน ) 8 = eight (เอ็ท) 9 = nine (ไนน)จงอานตวั เลขท่ีนบั จากหลักสบิ 10-9910= ten (เท็น)11= eleven (อิเลเวน)12= twelve (ทเวลฟ)13= thirteen (เทอรทีน)14= fourteen (โฟรทีน)19= nineteen (ไนนท ีน)20= twenty (ทะเวนทิ)21= twenty-one (ทะเวนทิ-วัน)

58ตวั เลขทน่ี บั จาก 21-99 จะนาํ คาํ one ถงึ nine มาตอ ทา ยหลังเครื่องหมาย – (hyphen) ดังน้ี21 = twenty-one22 = twenty-two29 = twenty-nine30-39 = thirty – thirty-nine40-49 = forty – forty-nine50-59 = fifty – fifty-nine60-69 = sixty – sixty-nine70-79 = seventy – seventy-nine80-89 = eighty – eighty-nine90-99 = ninety – ninety-nine100 = one hundred (a hundred)การนับเลขจากหลักรอย จะใชหลักการแบบหลักหนวย หลักสิบ เหมือนกันแตจะใชand ดวย เชน 101 = one hundred and one 111 = one hundred and eleven 199 = one hundred and ninety-nine 200 = two hundred 300 = three hundred 1,000 = one thousand (a thousand) 1,001 = one thousand and one 2,000 = two thousand 1,000,000 = one million (a million) 2,000,000 = two million

59ขอสังเกต เลข 0 อานวา Zero (ซโี ร) หรือ o /oh (โอ) เลขจํานวนนับของภาษาองั กฤษไมม ีหลักหมื่น แสน หรือลาน ดงั นน้ั จํานวนนับทเ่ี กินพนั จึงตอ งอานจํานวนหนวยพันหรือรอยดว ย เชน 1,010 one (a) thousand and ten หรอื ten hundred and ten. 3,450 three thousand four hundred and fifty. 52,560 fifty-two thousand five hundred and sixty.เรื่องท่ี 2 การอา นและเขยี นลําดบั ที่ (Ordinal numbers) Ordinal numbers คอื ตัวเลขท่ีบอกลาํ ดับที่ จาก 1 เปน ตน ไป การบอกลาํ ดบั ทีจ่ ะใชคาํ เหมือนกับเลขจาํ นวนนับ ยกเวน บางลําดบั เชน ลาํ ดับที่ 1 First ลําดับที่ 2 Second ลาํ ดับท่ี 3 Third ลาํ ดับท่ี 4 Fourth ลําดบั ที่ 5 Fifth ลาํ ดบั ที่ 6 Sixth ลําดับที่ 7 Seventh ลําดบั ท่ี 8 Eighth ลาํ ดบั ที่ 9 Ninth ลาํ ดับที่ 10 Tenth ลาํ ดบั ท่ี 11 Eleventh ลําดับท่ี 12 Twelfth ลําดับที่ 13 Thirteenth ลาํ ดับที่ 19 Nineteenth

60ขอ สังเกต การใชลําดับที่น้ันจะใชคําเหมือนกับเลขจํานวนนับ แตจะเติม “th” ไปขางหลัง ยกเวน 1-3 ที่เปลี่ยนรูป และ 5, 9, 12 จะ แตกตา งกบั เลขจาํ นวนนับเล็กนอ ย ท่ี 1 ใช first ที่ 2 ใช second ที่ 3 ใช third ที่ 5, 15 และลําดับอน่ื ๆ ทล่ี งทา ยดวย 5 เปล่ยี น five เปน fifth แลวเตมิ th สว น 9 ตดั e ออกจาก nine เปน nin แลวจึงเตมิ th สาํ หรบั ตัวท่ลี งทา ยดวยหลกั สิบใหเปลยี่ น ty เปน tie แลวจึงเติม thการบอกลําดับที่ 20-29 ทล่ี งทายดวยเลข 0 ลาํ ดบั ที่ 20 Twentieth ลาํ ดบั ท่ี 30 Thirtieth ลาํ ดับที่ 40 Fortieth ลําดับที่ 50 Fiftieth ลําดับที่ 90 Ninetieth

61การบอกลาํ ดบั ที่ ทีเ่ ปนหลักสิบจะใชคําเหมอื นกบั เลขจาํ นวนนับ แตจะเปลีย่ นเฉพาะตัวหลงั ใหเปนลําดับที่หลังเคร่อื งหมาย – (hyphen) เชน ลาํ ดบั ท่ี 21 Twenty-first ลําดับที่ 22 Twenty-second ลาํ ดบั ท่ี 23 Twenty-third ลําดับท่ี 29 Twenty-ninthรูปยอ ของเลขลําดบั ท่ี1 st the first 12 th the twelfth2 nd the second 13 th the thirteenth3 rd the third 14 th the fourteenth4 th the fourth 19 th the nineteenth5 th the fifth 20 th the twentieth6 th the sixth 21 st the twenty-first7 th the seventh 22 nd the twenty-second8 th the eighth 23 rd the twenty-third9 th the ninth 24 th the twenty-fourth10 th the tenth 30 th the thirtieth11 th the eleventh 31 st the thirty-firstขอ สงั เกต 1. การเขยี นเลขบอกลําดับที่ สว นใหญจะเติม th ไวข างทา ย ยกเวน ลําดบั ท่ี หนึง่ สองและสาม 2. ตวั เลขท่ีลงทา ยดวย y เชน twenty, thirty เม่ือเขยี นเปน ลาํ ดับท่ี จะเปลี่ยน y เปน ie กอนแลวจึงเติม th เชน twentieth , thirtieth 3. คําบอกลําดบั ที่จะตองมี คําวา the นําหนา เสมอ

62เร่ืองท่ี 3 การเขียนประโยคทม่ี ีจาํ นวนนบั หรอื ลาํ ดบั ท่ี ใชโครงสรา งประโยค Present Simple Tense : Subject + Verb 1 + Objectประธาน + กริยาชองที่ 1 ( s ) ถาประธานเปนเอกพจนบุรษุ ท่ี 3 หลงั คํากริยาจะตองเติม s ตัวอยางประธาน กรยิ าชอ งท่ี กรรม (Object) ความหมาย(Subject) 1 I She (Verb 1) He We have four pens. ฉันมีปากกาสี่ดา ม It They buys two shirts. เธอซอ้ื เสอื้ เช้ติ สองตัว Please Somsri is the third person. เขาเปน คนที่สามWichai are the first group. พวกเราเปน กลุม แรกThe third is on Rama the 5th road. มนั อยทู ่ถี นนพระรามหา bus are twenty baht. มนั ราคายสี่ ิบบาท wait at the second building. กรุณารอทตี่ กึ ทส่ี อง is the first girl in this line. สมศรีเปน เดก็ หญงิ คนแรกใน แถวน้ี lives in the fifth house. วชิ ัยอาศัยอยใู นบานหลังทีห่ า has many students. รถบัสคนั ทสี่ ามมีนักเรยี น มาก

63เรอื่ งที่ 4 การพูดประโยคท่มี ีจํานวนนบั หรอื ลําดับที่ในการพูดประโยคที่มีจํานวนนับหรือลําดับท่ีน้ัน จะใชโครงสรางประโยคในการพูดเชนเดยี วกบั การเขยี น ดังน้ีประธาน กรยิ าชอ งที่ 1 กรรม (Objective) ความหมาย(Subject) (Verb 1) (s )She washes four skirts. เธอซักกระโปรงสต่ี ัวThey live on the second floor. พวกเขาพักอยทู ่ชี ้นั สองHe eats two oranges เขากินสม สองผลI am the first child. ฉนั เปน เดก็ คนแรกWe have one million baht. เรามีเงนิ หน่ึงลา นบาทใหผ ูเรยี นฝก อา นออกเสียงประโยคจํานวนนบั และลาํ ดบั ท่ี ดังตอ ไปน้ี 1. I have four pens. 2. She buys two shirts. 3. He is the third person. 4. We are the first group. 5. It is on Rama the 5th road. 6. They are twenty baht. 7. Please wait at the second building. 8. Somsri is the first girl in this line. 9. Wichai lives in the fifth house. 10.The third bus has many students. 11.She washes four skirts. 12.They live on the second floor. 13.He eats two orange.

64 14.I am the first child. 15.We have one million baht.Exercise 1 จับคูตวั เลข 1-9 ใหตรงกับความหมายในภาษาองั กฤษ 9 one 4 two 2 three 5 four 1 five 7 six 8 seven 6 eight 3 nineExercise 2 จับคตู ัวเลขตอไปนีใ้ หตรงกบั ความหมายในภาษาอังกฤษ 12 ten 14 eleven 20 twelve 21 thirteen 79 fourteen 100 nineteen 10 twenty 19 twenty-one 13 seventy-nine 11 one hundred

65Exercise 3 จงเขยี นตวั เลขเหลา นเ้ี ปนภาษาอังกฤษและฝก อานออกเสียงกับเพ่อื น 25 = ______________________________________ 30 = _______________________________________ 44 = _______________________________________ 101 = _______________________________________ 155 = _______________________________________ 157 = _______________________________________ 178 = _______________________________________ 198 = _______________________________________ 200 = _______________________________________ 256 = _______________________________________ 300 = _______________________________________ 303 = ______________________________________ 418 = ______________________________________

66Exercise 4 จบั คูเลขลําดบั ที่ตอไปนใ้ี หตรงกับภาษาองั กฤษ 1 st the twelfth 2 nd the twentieth 3 rd the fourteenth 4 th the twenty-third 5 th the twenty-first 6 th the nineteenth 7 th the first 8 th the twenty-second 9 th the third 10 th the second 11 th the seventh 12 th the thirty-first 13 th the twenty-fourth 14 th the sixth 19 th the thirteenth 20 th the fifth 21 st the fourth 22 nd the thirtieth 23 rd the eleventh 24 th the ninth 30 th the eighth 31 st the tenth

67Exercise 5 เขียนเลขลาํ ดบั ท่ตี อ ไปน้เี ปนภาษาอังกฤษลําดบั ท่ี เขียนเปนภาษาองั กฤษลาํ ดบั ท่ี 1ลําดับท่ี 2ลําดับที่ 3ลาํ ดบั ท่ี 4ลําดบั ที่ 5ลาํ ดบั ที่ 6ลําดบั ที่ 7ลําดับท่ี 8ลาํ ดบั ท่ี 9ลาํ ดับที่ 10

68Exercise 6 เขียนประโยคตอ ไปนเี้ ปนภาษาอังกฤษ1. ฉนั เปน คนท่ีหนึง่——————————————————————2. สมชายมีเสอ้ื เชิ้ตสองตวั——————————————————————-3. กระโปรงตัวน้ีราคาหนึ่งรอยบาท——————————————————————-4. ฉนั อยูท ่ชี ัน้ สอง——————————————————————5. บานของเขามีสามหอง——————————————————————6. เขาอยหู องท่สี าม——————————————————————-7. แมวตัวท่ีสเ่ี ปนของฉนั—————————————————————-8. ฉันมีนอ งสองคน————————————————————-9. บา นของฉันอยทู ่ีถนนพระรามสาม————————————————————–10. สมศรีมหี นงั สือหา เลม—————————————————————–

69Exercise 7 Complete the sentences.1. I have____________ dogs. ฉนั มีหมาหา ตัว2. She buys__________ skirts. เธอซอ้ื กระโปรงสามตวั3. They are ____________ baht. มันราคาหน่งึ รอยบาท4. Please wait at the __________ building. กรุณารอท่ีตกึ แรก5. Somsri is the ________ girl in this line. สมศรเี ปน คนทห่ี กในแถวนี้6. Wichai lives in the __________ room. วิชยั อาศัยอยใู นหอ งท่หี า7. The _____________ bus is full. รถบัสคันทสี่ องเตม็ แลว8. She washes _________ dishes. เธอลา งจานสใ่ี บ9. My room is on the__________ floor. หองของฉันอยบู นช้ันที่สอง10. We have __________________ baht. เรามเี งินสามพนั บาท

70 บทที่ 6คาํ นาม (Noun)และคาํ ศัพทหมวดตา ง ๆสาระสําคัญ คํานามและคําศัพทหมวดตาง ๆ เปนภาษาอังกฤษเปนเรื่องท่ีผูเรียนควรเรียนรูเพอ่ื นาํ ไปใชใ นชีวิตประจาํ วันผลการเรียนรูที่คาดหวัง ผูเรียนรูจักคํานามและคําศัพทเกี่ยวกับวัน เดือน ป สี เครือญาติ เคร่ืองใชในชวี ิตประจําวนั และสภาพดนิ ฟาอากาศอยางงายขอบขา ยเน้อื หา เรื่องที่ 1 คํานาม เร่ืองที่ 2 คําศัพทเ กย่ี วกับ วัน เดอื น ป เร่ืองท่ี 3 คําศัพทเกย่ี วกบั สี เร่อื งท่ี 4 คาํ ศพั ทเ กี่ยวกบั เครอื ญาติ เรอื่ งที่ 5 คาํ ศพั ทเกย่ี วกับเคร่อื งใชในชวี ิตประจําวัน เรื่องท่ี 6 คําศพั ทเก่ยี วกับสภาพดินฟา อากาศ

71เร่ืองท่ี 1 คํานาม คํานามคือ คําที่ใชเรียกชื่อคน สัตว สิ่งของ หรือสถานที่ เชน Tomas dog pencilorange table คํานามมี 2 ลกั ษณะ คอื คาํ นามนบั ได (Countable Nouns) และคาํ นามนับไมได (Uncountable Nouns) 1.1 คํานามนับได (Countable Nouns) คือ นามที่นับจาํ นวนได ไดแก นามท่ีมีรปู รางนบั เปน ชน้ิ เปน อันได และจะใชค ํานาํ หนา นาม a, an เมอื่ ไมเ ฉพาะเจาะจง และใชค าํนําหนา นาม the เม่อื ตองการเฉพาะเจาะจง และสามารถทําเปนพหูพจนไ ด เชน dogs, tables,catsa cat two cats http://www.aromdee.net/pic_upload/ Jan09/p6026_1.jpga dog three dogs http://fwmail.teenee.com/cute/img6/2986.jpga girl four girls

72 http://talk.mthai.com/uploads/2009/10/06/18088-2.jpg a star six starshttp://www.oknation.net/blog/home/blog_data/6 http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/663/216663/21663/images/c6_1_b.jpg 3/images/c6_1_b.jpga rose twelve roses http://www.zheza.com/uploads/userimages/20080213/18 5557_248007.jpg 1.2 คํานามนบั ไมไ ด (Uncountable Nouns)เปนคํานามท่ีไมส ามารถแยกนับจํานวนเปน หน่ึง สอง สาม ส่ีได มักเปนคาํ นามที่มีรูปรางไมแนนอน หรือไมมีรูปราง เชนwater, tea, milk, butterคํานามท่เี ปน ของเหลว milk (นม) http://www.boxanddice.com.au/projects/prototyping/milk_c up/milk_cup_lg.jpg water (นํา้ ) http://watersecretsblog.com/archives/water- glass.gif


คำศัพท์ภาษาอังกฤษเด็กๆ Number 1-10 ตัวเลข 1-10


คำศัพท์ภาษาอังกฤษเด็กๆ Number 110 ตัวเลข 110 เรียนรู้ไปพร้อมๆกัน
เล่นเกมทดสอบคำศัพท์ 110 http://goo.gl/OUpSox

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเด็กๆ Number 1-10  ตัวเลข 1-10

ฝึกท่อง ABC อนุบาล แบบช้าๆ | Learn and song


ท่องabc ภาษาอังกฤษอนุบาล @Learn and song
เรียนรู้ ABC สำหรับเด็กๆ มาเรียนรู้และฝึกอ่าน AZ กันเถอะ
ท่องabc อนุบาล ฝึกอ่าน abc az สำหรับเด็ก English Alphabets Alphabets ABC
สอนอ่านเอบีซี ABC พยัญชนะภาษาอังกฤษ AZ
ภาษาอังกฤษมีทั้งหมด 26 ตัว
A B C D E F G H I J K L M N O P Q R S T U V W X Y Z

ฝึกท่อง ABC อนุบาล แบบช้าๆ | Learn and song

การนับเลขเป็นภาษาอังกฤษ


สอบถามเรื่องคอร์ส Line: Aj.Adam, Info.Hollywood, KhunBaiTuey
โทร 02 612 9300, 081 353 7810, 089 422 4546
สนใน sponsor คลิปอาจารย์อดัมติดต่ออีเมล [email protected] หรือโทร 02 612 9300
เรียนกับอดัม: http://www.facebook.com/hollywoodlearning
สาขาเชียงใหม : http://www.facebook.com/hollywoodlearningcm
เรียนออนไลน์กับอดัม: http://www.ajarnadam.tv
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
YouTube ของซู่ชิง: http://www.youtube.com/user/jitsupachin
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching

การนับเลขเป็นภาษาอังกฤษ

How to count 0-100 in English? นับเลข 0-100 ในภาษาอังกฤษ


คลิปนี้ครูโบว์เอาเทคนิคที่ตัวเองใช้ในการฝึก
อ่าน และพูดตัวเลข ในภาษาอังกฤษมาฝากกันนะคะ
คนไทยพูดอังกฤษไม่ค่อยถนัดอยู่แล้ว เจอตัวเลขหน่อย
จอดกันเป็นแถว
ลองใช้วิธีนี้ฝึกกันดู แล้วบอกกันมาบ้างนะคะเป็นอย่างไรบ้าง
With love,
Xoxo
KruBow Sunida
KRUBOWSunida
อังกฤษจริตสร้างสรรค์
CreativeEnglishAcademy
SpeakEnglishwithKRUBOW
……………………………….
ติดตามการพัฒนาภาษาอังกฤษ
การสื่อสาร การพูด สอบโทอิค
การพูดเพื่อIELTS ภาษาอังกฤษ
เพื่อการสมัครงาน ภาษาอังกฤษใน
สาขาอาชีพต่างๆ ภาษาอังกฤษสำหรับ
นักเรียนและนักศึกษาและทุกเรื่องที่
เกี่ยวกับภาษาอังกฤษกับครูโบว์กันค่ะ ^^
LINE: @krubowsunida (มี @ ข้างหน้า)
หรือคลิกไปที่ http://line.me/ti/p/%40ymr2741q
FB: www.facebook.com/krubowsunida

How to count 0-100 in English? นับเลข 0-100 ในภาษาอังกฤษ

นัมเบอร์สสง | เพลงนับเลข 1-20 | เพลงเด็กอนุบาล | Number Song 1-20 | Learn to Count Numbers


เพลงนับเลข 120 สำหรับเด็กและเด็กก่อนวัยเรียนที่จะเรียนรู้และความรู้ในการนับตัวเลขในไทย

นัมเบอร์สสง | เพลงนับเลข 1-20 | เพลงเด็กอนุบาล | Number Song 1-20 | Learn to Count Numbers

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ เลข จํา น วน นับ ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *