Skip to content
Home » [NEW] แปลเนื้อเพลงสากล คำอ่านเพลง Stuck with You – Ariana Grande & Justin Bieber คำแปลพร้อมคำอ่านไทย | you re อ่าน ว่า – NATAVIGUIDES

[NEW] แปลเนื้อเพลงสากล คำอ่านเพลง Stuck with You – Ariana Grande & Justin Bieber คำแปลพร้อมคำอ่านไทย | you re อ่าน ว่า – NATAVIGUIDES

you re อ่าน ว่า: คุณกำลังดูกระทู้

เนื้อเพลง :  Stuck with You + คำแปล คำอ่านไทย

ศิลปิน : 

Ariana Grande & Justin Bieber

 

#ควรเปิดเพลงฟังและฝึกร้องเพื่อการออกเสียงที่ถูกต้อง


I’m not one to stick around

อายม์ น็อท วัน ทู สติค กะราวน์ด

ฉันไม่ใช่คนที่จะหยุดที่ใคร

One strike and you’re out, baby

วัน สไตรค์ แอนด์ ยัวร์ เอาท์ เบบี

ยิงหนึ่งสไตรค์ คุณก็ออกจากเกมแล้วที่รัก (พลาดหนึ่งครั้ง จะไม่มีโอกาสที่สอง)

Don’t care if I sound crazy

โดนท์ แค ริฟ ฟาย ซาวน์ด เครซี

ไม่สนหรอก ถ้าฉันฟังดูบ้าบอ

But you never let me down

บัท ยู เนเฝอ เล็ท มี ดาวน์

แต่คุณก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง

No, no

โน โน

ไม่เลย

That’s why when the sun’s up I’m stayin’

แต็ทส์ วาย เวน เดอะ ซัน ซัพ อายม์ สเตอิน

นั่นคือเหตุผลว่าทำไมในวันรุ่งขึ้นฉันยังอยู่

Still layin’ in your bed sayin’

สติล เลอิน อิน ยัวร์ เบด เซอิน

ยังนอนพูดบนเตียงของคุณว่า

Got all this time on my hands

ก็อท ออล ติส ไท มอน มาย แฮนด์ซ

มีเวลาทั้งหมดอยู่ในมือ

Might as well cancel our plans

ไมท์ แอส เวล แคนเซิล อาวร์ แพลนซ์

และก็จะยกเลิกแผนของเราที่วางไว้เช่นกัน

I could stay here for a lifetime

อาย คูด สเต เฮียร์ ฟอ ระ ไลฟ์ไทม์

ฉันสามารถอยู่ที่นี่ได้ทั้งชีวิต

So lock the door

โซ ล็อค เดอะ ดอร์

ล็อคประตูเลย

And throw out the key

แอนด์ โตร เอาท์ เดอะ คีย์

แล้วโยนกุญแจทิ้งไป

Can’t fight this no more

แค็นท์ ไฟท์ ติส โน มอร์

ฝืนมันไม่ได้แล้ว

It’s just you and me

อิทส์ จัสท์ ยู แอนด์ มี

เพราะตอนนี้มีแค่คุณกับฉัน

And there’s nothing I, nothing I, I can do

แอนด์ แต(th)ร์ซ นอธ

(th)ติง อาย, นอธ

(th)ติง อาย, อายแคน ดู

ทำอะไรไม่ได้

I’m stuck with you, stuck with you, stuck with you

อายม์ สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู

ฉันติดอยู่กับคุณ ติดอยู่กับคุณที่นี่

So go ahead and drive me insane

โซ โก อะเฮด แอนด์ ไดรฟ์ มี อินเซน

งั้นก็เอาเลย ทำให้ฉันคลั่งสิ

Baby, run your mouth

เบบี, รัน ยัวร์ เมาธ์

(th)

ที่รัก, พูดพร่ำออกมาเลย

I still wouldn’t change being

อาย สติล วูดดึนท์ เชนจ์ บีอิง

ฉันจะไม่เปลี่ยนอยู่แล้ว

Stuck with you, stuck with you, stuck with you

สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู

ฉันติดอยู่กับคุณ ติดอยู่กับคุณที่นี่
I’m stuck with you, stuck with you, stuck with you, baby

อายม์ สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู, 

เบบี

ที่รัก ฉันติดอยู่กับคุณ ติดอยู่กับคุณที่นี่

There’s nowhere we need to be

แต

(th)

ร์ซ โนแวร์ วี นีด ทู บี

ไม่มีที่ไหนที่ต้องไป

No, no, no

โน, โน, โน

ไม่มี


I’ma get to know you better

อายมา เก็ท ทู โน ยู เบ็ทเดอร์

ฉันจะทำความรู้จักคุณให้มากกว่านี้

Kinda hope we’re here forever

ไคน์ดา โฮพ วีเออร์ เฮียร์ ฟอเรเฝอร์

เหมือนหวังว่าเราจะอยู่ที่นี่ตลอดไป

There’s nobody on these streets

แต

(th)

ร์ซ โนบอดี ออน 

(th)

ตีซ สตรีทสื

ไม่มีใครเดินบนถนน

If you told me that the world’s ending

อิฟ ยู โทล์ด มี แต็ท เดอะ เวิร์ลด์ เซนดิง

ถ้าสมมุติ คุณบอกว่าโลกกำลังจะอวสาน

Ain’t no other way that I could spend it

เอนท์ โน อาเตอร์ เว แต็ท อาย คูด สเปน ดิท

ไม่มีวิธีอื่นที่จะใช้เวลาที่มีอีกแล้ว

Got all this time on my hands

ก็อท ออล ติส ไท มอน มาย แฮนด์ซ

มีเวลาทั้งหมดอยู่ในมือ

Might as well cancel our plans

ไมท์ แอส เวล แคนเซิล อาวร์ แพลนซ์

และก็จะยกเลิกแผนของเราที่วางไว้เช่นกัน
I could stay here forever

อาย คูด สเต เฮียร์ ฟอเรเฝอร์

ฉันสามารถอยู่ที่นี่ตลอดไป

So lock the door

โซ ล็อค เดอะ ดอร์

ล็อคประตูเลย

And throw out the key

แอนด์ โตร เอาท์ เดอะ คีย์

แล้วโยนกุญแจทิ้งไป

Can’t fight this no more

แค็นท์ ไฟท์ ติส โน มอร์

ฝืนมันไม่ได้แล้ว

It’s just you and me

อิทส์ จัสท์ ยู แอนด์ มี

เพราะตอนนี้มีแค่

คุณกับฉัน
And there’s nothing I, nothing I, I can do

แอนด์ แต(th)ร์ซ นอธ

(th)ติง อาย, นอธ

(th)ติง อาย, อายแคน ดู

ทำอะไรไม่ได้

I’m stuck with you, stuck with you, stuck with you

อายม์ สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู

ฉันติดอยู่กับคุณ ติดอยู่กับคุณที่นี่


So go ahead and drive me insane

โซ โก อะเฮด แอนด์ ไดรฟ์ มี อินเซน

งั้นก็เอาเลย ทำให้ฉันคลั่งสิ

Baby, run your mouth

เบบี, รัน ยัวร์ เมาธ์

(th)

ที่รัก, พูดพร่ำออกมาเลย

I still wouldn’t change being

อาย สติล วูดดึนท์ เชนจ์ บีอิง

ฉันจะไม่เปลี่ยนอยู่แล้ว

Stuck with you, stuck with you, stuck with you

สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู

ฉันติดอยู่กับคุณ ติดอยู่กับคุณที่นี่
I’m stuck with you, stuck with you, stuck with you

อายม์ สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู

ฉันติดอยู่กับคุณ ติดอยู่กับคุณที่นี่

Baby, come take all my time

เบบี, คัม เทค กอล มาย ไทม์

ที่รัก, มาเอาเวลาทั้งหมดของฉันไปเลย

Go on, make me lose my mind

โก ออน, เมค มี ลูซ มาย ไมน์ด

เอาเลย มาทำให้ฉันเสียสติ

We got all that we need here tonight

วี ก็อท ออล แต็ท วี นีด เฮียร์ ทูไนท์

คืนนี้เรามีทุกอย่างที่เราต้องการแล้ว

I lock the door (Lock the door)

อาย ล็อค เดอะ ดอร์

ล็อคประตูเลย

And throw out the key

แอนด์ โตร เอาท์ เดอะ คีย์

แล้วโยนกุญแจทิ้งไป

Can’t fight this no more

แค็นท์ ไฟท์ ติส โน มอร์

ฝืนมันไม่ได้แล้ว

It’s just you and me

อิทส์ จัสท์ ยู แอนด์ มี

เพราะตอนนี้มีแค่

คุณกับฉัน
And there’s nothing I’d, nothing I’d rather do

แอนด์ แตร์ซ นอธติง อายด์, นอธติง อายด์ แรเตอร์ ดู

และไม่มีอะไร ไม่มีอะไรที่ฉันอยากทำมากกว่านี้แล้ว

I’m stuck with you, stuck with you, stuck with you

อายม์ สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู

ฉันติดอยู่กับคุณ ติดอยู่กับคุณที่นี่

So go ahead and drive me insane

โซ โก อะเฮด แอนด์ ไดรฟ์ มี อินเซน

งั้นก็เอาเลย ทำให้ฉันคลั่งสิ

Baby, run your mouth

เบบี, รัน ยัวร์ เมาธ์

(th)

ที่รัก, พูดพร่ำออกมาเลย

I still wouldn’t change all this

อาย สติล วูดดึนท์ เชนจ์ ออล ติซ

ฉันจะไม่เปลี่ยนอยู่แล้ว

Lovin’ you, hatin’ you, wantin’ you

ลัฟวิน ยู, เฮทิน ยู, วอนทิน ยู

รักคุณ, เกลียดคุณ, ต้องการคุณ

I’m stuck with you, stuck with you, stuck with
You

อายม์ สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู

ฉันติดอยู่กับคุณ ติดอยู่กับคุณที่นี่
Stuck with you, stuck with you, stuck with you

สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู, 

สตัค วิธ

(th) ยู

ฉันติดอยู่กับคุณ ติดอยู่กับคุณ

So go ahead and drive me insaneBaby, run your mouthI still wouldn’t change beingStuck with you, stuck with you, stuck with youI’m stuck with you, stuck with you, stuck with youBaby, come take all my timeGo on, make me lose my mindWe got all that we need here tonightI lock the door (Lock the door)And throw out the keyCan’t fight this no moreIt’s just you and meAnd there’s nothing I’d, nothing I’d rather doI’m stuck with you, stuck with you, stuck with youSo go ahead and drive me insaneBaby, run your mouthI still wouldn’t change all thisLovin’ you, hatin’ you, wantin’ youI’m stuck with you, stuck with you, stuck withYouStuck with you, stuck with you, stuck with you

There’s nowhere we need to beNo, no, noI’ma get to know you betterKinda hope we’re here foreverThere’s nobody on these streetsIf you told me that the world’s endingAin’t no other way that I could spend itGot all this time on my handsMight as well cancel our plansI could stay here foreverSo lock the doorAnd throw out the keyCan’t fight this no moreIt’s just you and meAnd there’s nothing I, nothing I, I can doI’m stuck with you, stuck with you, stuck with you

I’m not one to stick aroundOne strike and you’re out, babyDon’t care if I sound crazyBut you never let me downNo, noThat’s why when the sun’s up I’m stayin’Still layin’ in your bed sayin’Got all this time on my handsMight as well cancel our plansI could stay here for a lifetimeSo lock the doorAnd throw out the keyCan’t fight this no moreIt’s just you and meAnd there’s nothing I, nothing I, I can doI’m stuck with you, stuck with you, stuck with youSo go ahead and drive me insaneBaby, run your mouthI still wouldn’t change beingStuck with you, stuck with you, stuck with youI’m stuck with you, stuck with you, stuck with you, baby

[NEW] อ่านระหว่างบรรทัด อ่านลายมือ อ่านใจ: ศัพท์ว่าด้วยการอ่าน | you re อ่าน ว่า – NATAVIGUIDES

เมื่อปี ค.ศ. 1969 นักสะสมหนังสือชาวออสเตรียคนหนึ่งนามว่า ฮานส์ พี เคราส์ (Hans P. Kraus) ได้บริจาคหนังสือเล่มเก่าแก่จากคริสต์ศตวรรษที่ 15 เล่มหนึ่งให้แก่หอสมุดของมหาวิทยาลัยเยล (Yale) หนังสือเล่มนี้มีชื่อว่า ข้อเขียนวอยนิช (Voynich Manuscript) ซึ่งตั้งชื่อตามพ่อค้าหนังสือ วิลฟริด เอ็ม วอยนิช (Wilfrid M. Voynich) ที่เป็นคนซื้อหนังสือเล่มนี้มาในปี ค.ศ. 1912

ความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้ก็คือ ทุกวันนี้ยังไม่มีใครอ่านออก เพราะเขียนด้วยตัวหนังสือที่ไม่มีใครรู้จัก แม้ผู้เชี่ยวชาญด้านการถอดรหัสและแกะภาษาหลายคนจะได้ลองพยายามศึกษาแต่ก็ยังไม่มีใครไขใจความในหนังสือเล่มนี้ได้ ทำให้ยังไม่มีใครเข้าถึงเนื้อความในหนังสือที่เขียนขึ้นเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว และตราบใดที่เรายังอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่ออก ความรู้นี้ก็จะอยู่เกินเอื้อมของมนุษยชาติต่อไป

ในโลกที่การอ่านเป็นเรื่องพื้นฐานมากจนคนส่วนใหญ่มองข้าม ข้อเขียนวอยนิชนี้เป็นเครื่องเตือนใจที่ดีว่าการอ่านมีความสำคัญยิ่งยวดเพียงไหน

ในโลกที่เราเห็นตัวหนังสือคุ้นตาดาษดื่นรอบตัว บางครั้งเราก็ลืมไปว่าตัวหนังสือเหล่านี้มีพลังมหัศจรรย์และเป็นพาหนะนำความคิดของอีกบุคคลหนึ่งจากอีกสถานที่และกาลเวลาหนึ่งมาสู่เรา

และคงไม่มีงานประจำปีในประเทศไทยงานไหนที่จะชวนให้เราหวนนึกถึงความมหัศจรรย์ของการอ่านได้เท่ากับงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ซึ่งกำลังจะเวียนมาบรรจบอีกรอบในสัปดาห์ที่จะถึงนี้

ดังนั้น หลังจากที่ได้เคยเขียนเกี่ยวกับที่มาของชื่อสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ และคำที่เกี่ยวกับกระดาษ ไปแล้ว ในสัปดาห์นี้ เราจะไปเจาะลึกคำง่ายๆ อย่างคำว่า read ที่แปลว่า อ่าน และสำรวจสำนวนในภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการอ่านกัน

ที่มาของคำว่า read

คำว่า read นี้มาจากคำว่า rædan ในภาษาอังกฤษเก่า มีความหมายว่า แนะนำ ชี้แนะ พิจารณา รวมไปถึงตีความสิ่งต่างๆ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ขีดเขียนเป็นตัวอักษรหรือสิ่งที่ไม่ใช่ตัวอักษร เช่น ปริศนา หรือ ความฝัน ก็ได้

คำว่า rædan นี้ไม่ได้กลายร่างมาเป็นคำว่า read คำเดียว แต่ยังมีลูกหลานคำอื่นที่แอบซ่อนอยู่ในภาษาอังกฤษอีกด้วย เช่น rede ซึ่งเป็นคำโบราณ หมายถึง คำแนะนำ คำปรึกษา รวมไปถึงชื่อคนอย่าง Conrad ซึ่งมาจาก koun แปลว่า อาจหาญ รวมกับ ræd หรือ rad แปลว่า วิจารณญาณ ความปราดเปรื่อง ที่มาจาก rædan มีความหมายรวมทำนองว่า ผู้มีความคิดความอ่านองอาจปราดเปรื่อง รวมไปถึงชื่อ Ralph ซึ่งมาจาก ræd หรือ rad รวมกับ wulf ที่แปลว่า หมาป่า อีกด้วย

คำว่า rædan ยังปรากฏในชื่อพระเจ้าแอเธลเรดที่ 2 แห่งอังกฤษ (Æthelred II) ในคริสต์ศตวรรษที่ 10-11 มาจาก æthel หมายถึง สูงส่ง รวมกับ ræd ได้ความหมายรวมว่า ผู้ที่มีความคิดสูงส่ง มีผู้แนะนำชี้ทางไปในทางที่ดี แต่เนื่องจากพระองค์ต้องขึ้นครองราชย์ตั้งแต่ยังเล็ก อีกทั้งยังป้องกันการรุกรานของทัพชาวเดนไม่ได้ ชาวบ้านร้านตลาดจึงตั้งสมญานามให้ Æþelræd Unræd หรือ Ethelred, the Unready ที่น่าสนใจก็คำว่า unready นี้ไม่ได้แปลว่า ไม่พร้อม แต่มาจาก un- ที่แปลว่า ไม่ รวมกับ ræd จึงมีความหมายว่า ขาดผู้ชี้นำ โง่เขลา ถือเป็นการตั้งสมญานามตรงข้ามกับพระนามจริงที่แสบสันมาก

Read ในปัจจุบัน

ในปัจจุบัน ความหมายหลักของคำว่า read ก็คือการอ่านสิ่งที่เขียนเป็นตัวหนังสือ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ หนังสือพิมพ์ หรือข้อความต่างๆ เช่น Don’t believe everything you read in the papers. ก็จะหมายถึง อ่านเจออะไรในหนังสือพิมพ์ก็อย่าไปเชื่อเสียหมด หรือ Make sure you read the instructions correctly. ก็คือคำเตือนให้อ่านคำสั่งให้ถี่ถ้วนถูกต้อง

แต่ทั้งนี้ สิ่งที่ไม่ได้เป็นตัวหนังสือ แต่ต้องอาศัยการตีความหรือพินิจพิเคราะห์ เราก็สามารถใช้คำว่า read ได้เช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่น สมมติเราไปชอบผู้ชายอยู่คนหนึ่ง แต่เราดูไม่ออกว่าเขาชอบเราหรือเปล่า เพราะท่าทีกำกวมเสียเหลือเกิน แบบนี้เราก็อาจจะพูดว่า I can’t read him. ก็คือ อ่านไม่ออกว่าเขาคิดหรือรู้สึกอย่างไร หรือถ้าเป็นเรื่องศาสตร์การพยากรณ์ เช่น การดูดวงเช่นดูลายมือหรือไพ่ทาโร่ต์ ก็สามารถเรียกว่า palm reading หรือ tarot card reading ได้ หรือแม้แต่เวลาที่ใครพูดหรือทำอะไรตรงใจเรามากๆ ราวกับอ่านใจเราออก ตอบแทนเราได้ตั้งแต่ก่อนที่เราจะเอ่ยปากพูด เราก็สามารถพูดว่า You read my mind. ก็คือ เหมือนกับอ่านใจฉันออกเลยนะเนี่ย ได้เช่นเดียวกัน

ที่น่าสนใจก็คือ เมื่อเวลาผ่านไป คำว่า read ก็เริ่มถูกนำไปใช้ในความหมายใหม่ๆ เช่นในแวดวงแดรกควีนที่ read หมายถึง การแซวหรือแซะกัน ส่วนในวงการคอมพิวเตอร์เองก็นำคำว่า read ไปใช้ในความหมายใหม่เช่นกัน คือหมายถึง ดึงข้อมูลจากวัสดุบันทึกข้อมูล เช่น My computer can’t read DVDs. ก็คือ คอมพิวเตอร์ของเราอ่านดีวีดีไม่ได้ หรือ This is a read-only file. ก็คือ เป็นไฟล์ประเภทที่เปิดดูได้อย่างเดียว แต่แก้ไขข้อมูลข้างในไม่ได้

สำนวนที่มีคำว่า read

สำนวนนี้หากแปลตรงตัวก็จะได้ความทำนองว่า อ่านระหว่างบรรทัด แต่ความหมายจริงๆ แล้วก็คือ พินิจความหมายที่แอบแฝงอยู่ มีที่มาจากการส่งสาส์นลับในอดีต ฝ่ายที่ส่งข้อความก็จะเขียนจดหมายที่ดูแล้วเหมือนเขียนด้วยน้ำหมึกธรรมดาทั่วไป แต่ในช่องว่างระหว่างบรรทัดนั้น ผู้ส่งสาส์นก็จะใช้หมึกล่องหนเขียนข้อความลับที่ต้องการส่งถึงผู้รับ เมื่อปลายทางได้รับจดหมายและต้องการอ่านข้อความลับที่อีกฝ่ายส่งถึง ก็จะต้องอ่านข้อความที่อยู่ระหว่างบรรทัดนั่นเอง ตัวอย่างการใช้สำนวนนี้ก็อย่างเช่น If you read between the lines, you can tell that their marriage is not a happy one. ก็คือ หากลองดูดีๆ แล้ว ก็จะบอกได้ว่าชีวิตสมรสของสองคนนี้ไม่ได้มีความสุขหรอก

สำนวนนี้หากแปลตรงตัวแล้วอาจจะงงหน่อย เพราะปกติแล้วห้องไม่ใช่สิ่งที่เขียนเป็นตัวหนังสือที่เราจะอ่านได้ อันที่จริงแล้ว สำนวนนี้หมายถึง ดูอารมณ์ของคนในห้องเพื่อที่จะได้ทำตัวได้ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น เราเพิ่งได้เลื่อนขั้น เลยดีใจลิงโลดมาก เที่ยวบอกเพื่อนในออฟฟิศโดยไม่ได้ดูตาม้าตาเรือว่าเพื่อนบางคนกำลังเศร้าเพราะโดนไล่ออก แบบนี้ก็อาจจะโดนคนพูดเตือนสติว่า Read the room.  ก็คือ ดูชาวบ้านชาวช่องบ้างว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหนกัน หรือหากลูกสาววางแผนบอกคนที่บ้านตัวเองเป็นเลสเบี้ยนวันนั้น แต่ไม่มั่นใจว่าคนในบ้านจะอยู่ในอารมณ์ที่พร้อมรับข่าวไหม ก็อาจจะพูดว่า I’ll read the room and see if they’re ready to hear it. เป็นต้น

แน่นอนว่าโดยปกติแล้ว เราไม่ได้อ่านคนออกง่ายอย่างหนังสือ ดังนั้น หากเราพูดว่าเราอ่านใครออกได้อย่างกับอ่านหนังสือ ก็จะหมายถึงว่า เราเข้าใจความรู้สึกนึกคิดของคนคนนั้นได้อย่างง่ายได้ มองเห็นทะลุปรุโปร่ง เช่น I can read you like a book, so there’s no use hiding things from me. ก็จะหมายถึง ฉันอ่านเธอออกอยู่แล้ว พยายามปิดบังอะไรก็ไม่มีประโยชน์หรอก

ในทำนองเดียวกัน ถ้าเราพูดว่าใครเป็น an open book ก็จะหมายถึงว่า คนคนนั้นไม่มีความลับหรือลับลมคมใน ทุกอย่างเปิดเผยชัดเจนทุกอย่าง เหมือนหนังสือที่เปิดอ้าอยู่พร้อมให้ทุกคนอ่าน เช่น I’m an open book. Ask me anything. ก็คือ ผมพร้อมบอกคุณทุกอย่าง ถามมาได้เลย

สำนวนนี้อาจจะแปลว่าให้อ่านปากจริงๆ เวลาที่ฝ่ายที่พูดเปิดปากแต่ไม่ได้ออกเสียง (คล้ายๆ เพลงของพี่โต๋ ศักดิ์สิทธิ์) แต่นอกจากนั้น ทางฝั่งอเมริกายังใช้สำนวนเพื่อเน้นย้ำสิ่งที่กำลังจะพูดด้วย ทำนองว่าให้ฝ่ายผู้ฟังตั้งใจฟังให้ดี คล้ายๆ ที่สมัยหนึ่งน้องณัชชาเชิญชวนให้คุณผู้ชมดูปาก ตัวอย่างเช่น หากเราบอกเพื่อนแล้วว่าเราจะไม่ไปงานปาร์ตี้ แต่เพื่อนก็ยังคะยั้นคะยอ เราก็อาจจะเน้นย้ำกับเพื่อนให้เด็ดขาดว่า Read my lips. I’m not going. ก็คือ อ่านปากอั๊วนะ อั๊วไม่ไป จบเนอะ

บางครั้งเราก็มีจินตนาการกว้างไกล ตีความบางอย่างไปไกลกว่าความเป็นจริงเพราะเอาความคิดหรืออคติของตัวเองเจือลงไป เช่น มารู้ทีหลังว่าเพื่อนที่ออฟฟิศไปกินข้าวกันมาแต่ไม่ได้ชวนเรา ก็คิดไปเป็นตุเป็นตะว่าเขาต้องแอบเกลียดเราแน่เลย ทั้งที่จริงๆ แล้วเพื่อนอาจแค่นึกว่าเราไม่ว่างเลยไม่ได้ชวน ในกรณีแบบนี้ เราก็อาจจะใช้สำนวน read into something ซึ่งหมายถึง คิดไปเองว่าเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ทั้งที่จริงๆ ไม่มีอะไร เช่น You’re reading too much into it. Maybe they just thought you weren’t free.

 

บรรณานุกรม

http://www.etymonline.com/

Ammer, Christine. 2nd ed. Houghton Mifflin Harcourt: Boston, 2013.

Atherton, Mark. . John Murray Learning: London, 2019.

Ayto, John. . OUP: Oxford, 2009.

Ayto, John. . 2nd ed. A&C Black: London, 2008.

Barnhart, Robert K. . H. W. Wilson: New York, 1995.

Dargie, Richard. . Arcturus: London, 2018.

Gulland, Daphne M., and Hinds-Howell, David. . Penguin Books: London, 2002.

Hanks, Patrick., Kate Hardcastle, and Flavia Hodges. . OUP: New York, 2006.

Jenkins, Simon. . Profile Books: London, 2018.

. Pearson: Essex, 2010.

. OUP: New York, 2006.

 

Tags: , , ,

Tags:


You’re และ Your ออกเสียงและใช้งานอย่างไร


สอบถามเรื่องคอร์ส Line: Aj.Adam, Info.Hollywood, KhunBaiTuey
โทร 02 612 9300, 081 353 7810, 089 422 4546
รายละเอียดคอร์ส http://www.ajarnadam.tv/
เรียนกับอดัม: http://www.facebook.com/hollywoodlearning
สาขาเชียงใหม : http://www.facebook.com/hollywoodlearningcm
เรียนออนไลน์กับอดัม: http://www.ajarnadam.tv
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
YouTube ของซู่ชิง: http://www.youtube.com/user/jitsupachin
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

You’re และ Your ออกเสียงและใช้งานอย่างไร

Lenka – Everything At Once ( Lyrics )


🎧Lenka Everything At Once ( Lyrics )
Stream : http://smarturl.it/LenkaSpotify?IQid=LenkaEAO
🔔 Trun on notifications to stay updated with new uploads !
📌🆂🆄🅱🅲🆁🅸🅱🅴 : http://bit.ly/367sGNz
🎶O͎R͎I͎G͎I͎N͎A͎L͎ S͎O͎N͎G͎ : http://bit.ly/3aK7KQi
👉 Follow Lenka:
Website: http://lenkamusic.com/
Facebook: https://www.facebook.com/lenka
Twitter: https://twitter.com/lenkamusic
Instagram: https://instagram.com/lenkamusic/
👉 Lyrics :
As sly as a fox, as strong as an ox
As fast as a hare, as brave as a bear
As free as a bird, as neat as a word
As quiet as a mouse, as big as a house
All I wanna be, all I wanna be, oh
All I wanna be is everything
As mean as a wolf, as sharp as a tooth
As deep as a bite, as dark as the night
As sweet as a song, as right as a wrong
As long as a road, as ugly as a toad
As pretty as a picture hanging from a fixture
Strong like a family, strong as I wanna be
Bright as day, as light as play
As hard as nails, as grand as a whale
All I wanna be, all I wanna be, oh
All I wanna be is everything
As warm as the, the sun, as silly as fun
As cool as a tree, as scary as the sea
As hot as fire, cold as ice
Sweet as sugar and everything nice
As old as time, as straight as a line
As royal as a queen, as buzzed as a bee
Stealth as a tiger, smooth as a glider
Pure as a melody, pure as I wanna be
All I wanna be, all I wanna be, oh
All I wanna be is everything at once
📌 Lyric video for Everything At Once by Lenka
❥一 🆃🅷🅰🅽🅺🆂 🅵🅾🆁 🆆🅰🆃🅲🅷🅸🅽🅶 ︵✿
Lenka
EverythingAtOnce
Lyrics

Lenka - Everything At Once ( Lyrics )

I’d I’ll I’ve I’m ออกเสียงต่างกันยังไง | Tina Academy Ep.143


♡ดูตัวอย่างหนังสือของติน่า https://www.tinaacademy.com/books
♡ติดต่อซื้อหนังสือ @linetina (มี @ ด้วย)
♡ Subscribe จะได้ไม่พลาดคลิปทุกๆสัปดาห์
https://www.youtube.com/tinathanchannel/
♡ Instagram: https://www.instagram.com/tinathanchannel
♡ Facebook: https://www.facebook.com/tinathanchannel
♡ Line ID: @linetina https://line.me/R/ti/p/%40hxr4999x

I'd I'll I've I'm ออกเสียงต่างกันยังไง | Tina Academy Ep.143

M2M – The day you went away (with Thai subtitles)


ดาวน์โหลดเพลงนี่ได้ตามลิงค์นี้เลยครับ
https://geo.itunes.apple.com/th/album/thedayyouwentaway/301644398?i=301644412\u0026app=itunes\u0026at=1000lPFh
วง M2M เพลง The day you went away พร้อมคำแปลภาษาไทยและคำร้องภาษาอังกฤษ
M2M นักร้องดูโอชาวโนเวย์ สังกัดค่าย Atlantic เคยโด่งดังมากในไทยช่วงปี 20002003 เพลงนี้มาจากอัมบั้มแรก Shades of Purple ออกจำหน่ายในปี 2000 หลังจาก M2M ออกอัมบั้มที่สองในปี 2002 แล้วไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรได้ไม่นาน Marion Raven และ Marit Larsen นักร้องสาวทั้งสองคนก็แยกตัวไปออกอัมบั้ม Solo ของตัวเอง

M2M - The day you went away (with Thai subtitles)

Take your time แปลว่า? สำนวนคำว่า Time ที่ใช้บ่อย | Tina Academy Ep.89


♡ดูรายละเอียดหนังสือภาษาอังกฤษ https://www.tinaacademy.com/books
♡ ติดต่อซื้อหนังสือ Line ID: @linetina (มี @ ด้วย)
♡ รายละเอียดคอร์สสอนภาษา https://www.tinaacademy.com
♡ Subscribe จะได้ไม่พลาดคลิปทุกๆสัปดาห์
https://www.youtube.com/tinathanchannel/
♡ Instagram: https://www.instagram.com/tinathanchannel
♡ Facebook: https://www.facebook.com/tinathanchannel
♡ Line ID: @linetina https://line.me/R/ti/p/%40hxr4999x

Take your time แปลว่า? สำนวนคำว่า Time ที่ใช้บ่อย | Tina Academy Ep.89

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ you re อ่าน ว่า

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *