Skip to content
Home » [NEW] แปลภาษาไทย เป็น ภาษาอังกฤษ | ประเภทของ verb – NATAVIGUIDES

[NEW] แปลภาษาไทย เป็น ภาษาอังกฤษ | ประเภทของ verb – NATAVIGUIDES

ประเภทของ verb: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

บทสรุปประเภทของ Verb

Verb คือ กริยาแบ่งออกเป็นแบบต่างๆ

1. Verb Transitive (Vt) สกรรมกริยา คือ กริยาต้องการกรรมมารับเพื่อให้ความหมายสมบูรณ์

2. Verb Intransitive (Vi) อกรรมกริยา คือ กริยาไม่ต้องการกรรมมารับ มีความหมายสมบูรณ์ในตัวเอง

Verb Transitive

Verb Intransitive

See

เห็น, ดู

Go

ไป

Hear

ได้ยิน, ฟัง

Come

มา

Eat

กิน

Walk

เดิน

Drink

ดื่ม

Stand

ยืน

Learn

เรียน

Lie

นอน

Live

อาศัย

ตัวอย่างประโยคมีและไม่มีกรรมมารับ

ประธาน
(Subject)

กริยา
(Verb)

กรรม
(Object)

กริยาวิเศษณ์วลี
(Adverbial)

I

Wrote

The letter

In the classroom

She

Came

—————

Here

He

Phoned

Me

In the evening

They

Worked

————–

Last week

2. Verb แบ่งตามฟอร์มหรือแบบ

1. Regular Form กริยารูปปกติ เมื่อเป็นอดีตเติม –ed ตามปกติ

2. Irregular Form กริยามีรูปอปกติ เมื่อเป็นอดีตไม่เติม –ed แต่มีการเปลี่ยนรูปหรือคงรูปไว้อย่างเดิม

Regular Form เติม ed

Present

Past

Past Participle

Mean

Walk

Walked

Walked

เดิน

Like

Liked

Liked

ชอบ

Stop

Stopped

Stopped

หยุด

Cry

Cried

Cried

ร้องไห้

Laugh

Laughed

Laughed

หัวเราะ

Irregular Form ไม่เติม ed

Present

Past

Past Participle

Mean

Bring

Brought

Brought

นำมา

Take

Took

Taken

นำไป

Eat

Ate

Eaten

กิน

Drink

Drank

Drunk

ดื่ม

Hit

Hit

Hit

ตี, ต่อย

Let

Let

Let

อนุญาต

3. Verb แบ่งตามความเคลื่อนไหว

1. Dynamic Verb กริยาว่าด้วยการเคลื่อนไหว กริยาประเภทเติม –ing ได้

2. Stative Verb กริยาว่าด้วยการคงที่ กริยาประเภทนี้เติม –ing ไม่ได้

2.1 Dynamic Verb กริยาที่เติม –ing ได้ มี 5 ชนิด

2.1.1 Activity Verb กริยาว่าด้วยกิจกรรม เช่น

Ask

ถาม

Eat

กิน

Look at

มองดู

Beg

ขอ

Listen

ฟัง

Read

อ่าน

Call

เรียก

Rain

ฝนตก

Throw

ขว้าง

Drink

ดื่ม

Slice

ตัด

Write

เขียน

Work

ทำงาน

Help

ช่วยเหลือ

Play

เล่น

Say

พูด

Whisper

กระซิบ

Learn

เรียน

2.1.2 Process Verb กริยาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลง

Change

เปลี่ยนแปลง

Mature

ทำให้สุก

Deteriorate

ทำให้เสีย

Show down

ลดลง

Grow

เจริญเติบโต

Widen

ทำให้กว้าง

2.1.3 Verb of Bodily Sensation กริยาว่าด้วยความรู้สึกทางร่างกาย

อาจเติมหรือไม่เติม ing ก็ได้ เช่น

Ache

ปวด

Feel

รู้สึก

Hurt

บาดเจ็บ

Itch

คัน


       2.1.4 Transitional Event Verbs กริยาว่าด้วยเหตุการณ์หนึ่งเปลี่ยนไปสู่เหตุการณ์อื่น

Arrive

เดินทาง

Land

ลงสู่พื้นดิน

Die

ตาย

Leave

จากไป

Fall

ตก

Lose

สูญ, หาย


         2.1.5 Momentary Verb กริยาว่าด้วยการใช้เวลาเพียงชั่วขณะ

Hit

ตี

Nod

พยักหน้า

Jump

กระโดด

Top

สูงกว่า

Knock

เคาะ

Applaud

ปรบมือ

2. Stative Verb กริยาที่ไม่เติม –ing มีสองแบบ

2. Stative Verb กริยาที่ไม่เติม –ing มีสองแบบ

1. Verbs of Inner Perception กริยาว่าด้วยการรับความรู้สึกทางจิตใจ

Abhor

ขยะแขยง

Forgive

ยกโทษ

Adore

ยกย่องบูชา

Guess

เดา, ทาย

Astonish

ทำให้พิศวง

Hate

เกลียด, ชัง

Desire

ต้องการ

Intend

ตั้งใจ

Dislike

ไม่ชอบ

Know

รู้

Feel

รู้สึก

Like

ชอบ

Mean

ตั้งใจ

Love

รัก

Mind

รังเกียจ

Regard

พิจารณา, เอาใจใส่

Perceive

แลเห็น

Remember

ระลึก, จำ

Please

ยินดี

Satisfy

ประทับใจ

Prefer

ชอบมากกว่า

See

เห็น

Presuppose

คาดคะเนล่วงหน้า

Smell

ดมกลิ่น

Realize

ตระหนัก

Suppose

สมมุติ

Recall

เรียกกลับ

Taste

ชิมรส

Recognize

จำได้

Think

คิด

Want

ต้องการ


2. Relational Verbs กริยา

Apply to

ประยุกต์ใช้

Include

รวมทั้ง

Be

เป็น อยู่ คือ

Involve

พัวพัน

Belong to

เป็นของ

Lack

ขาด

Concern

เกี่ยวข้อง

Matter

มีความสำคัญ

Consist of

ประกอบด้วย

Need

ต้องการ

Contain

มี, บรรจุ

Owe

เป็นหนี้

Cost

มีค่า

Own

เป็นเจ้าของ

Depend on

อาศัย

Possess

เป็นเจ้าของ

Deserve

สมควร

Remain

คงเหลือ

Equal

เท่าเทียมกัน

Require

ต้องการ

Fit

พอเหมาะ

Seem

ดูเหมือน

Have

มี

Suffice

เพียงพอ

วิธีสังเกตง่ายๆ กริยาตัวใดเติม –ing ได้หรือไม่ จงตรวจดูในพจนานุกรมภาษาอังกฤษ กริยาตัวใดเติม –ing ไม่ได้ เมื่อต้องการจะผันกริยาให้เป็นนาม พจนานุกรมได้แสดงคำนามไว้ เช่น think “คิด” เป็นกริยา จะมีคำว่า thought “ความคิด” เป็นนาม แสดงว่า think เติม –ing ไม่ได้ ถ้ากริยาตัวใดเติม –ing ได้ พจนานุกรมไม่แสดงคำนามไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้เราสามารถเติม –ing ให้กับกริยา เพื่อนำไปใช้เป็นคุณศัพท์ หรือนำไปใช้ในประโยคที่กำลังกระทำอยู่ (Progressive Tense หรือ Continuous Tense) ได้เลย

วิธีสังเกตง่ายๆ กริยาตัวใดเติม –ing ได้หรือไม่ จงตรวจดูในพจนานุกรมภาษาอังกฤษ กริยาตัวใดเติม –ing ไม่ได้ เมื่อต้องการจะผันกริยาให้เป็นนาม พจนานุกรมได้แสดงคำนามไว้ เช่น think “คิด” เป็นกริยา จะมีคำว่า thought “ความคิด” เป็นนาม แสดงว่า think เติม –ing ไม่ได้ ถ้ากริยาตัวใดเติม –ing ได้ พจนานุกรมไม่แสดงคำนามไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้เราสามารถเติม –ing ให้กับกริยา เพื่อนำไปใช้เป็นคุณศัพท์ หรือนำไปใช้ในประโยคที่กำลังกระทำอยู่ (Progressive Tense หรือ Continuous Tense) ได้เลย

4. Verb แบ่งตามหน้าที่ (Function) มี 2 ชนิด

1. Auxiliary กริยาช่วย มี 2 ประเภท

1.1 Tense Auxiliary กริยาช่วยที่มีกาล ไม่มีความหมายในภาษาไทย มีดังนี้

กริยาช่วย be ประกอบด้วย is/am/are/was/were

ใช้กับกริยาที่เติม ing ในประโยค Continuous Tense เช่น

She is eating fruit.

เธอกำลังทานมะม่วง

ใช้กับประโยคกรรมวาจก (passive Voice)

This house is built by John.

บ้านหลังนี้สร้างขึ้นโดยจอห์น

กริยาช่วย have ประกอบด้วย have/has/had

ใช้กับประโยคที่มีกาลสมบูรณ์ (perfect Tense)

John has learnt Thai since 1990.

จอห์นเรียนภาษาไทย ตั้งแต่ ค.ศ. 1990

กริยาช่วย do ประกอบด้วย do/does/did ใช้กับประโยคปฏิเสธและคำถาม

ประโยคปฏิเสธปัจจุบัน

I don’t like your new car.
ฉันไม่ชอบรถคันใหม่ของคุณ

ประโยคคำถามปัจจุบัน

Do you have any money?
คุณมีเงินบ้างไหม

ประโยคคำถามอดีต

Did she go to see movies last night?
เมื่อคืนที่แล้วเธอไปดูหนังหรือ


1.2 Modal Auxiliaries กริยาว่าด้วยการแสดงอารมณ์ (Mood) หลากหลาย กริยาช่วยประเภทนี้ สามารถแปลความหมายได้ แม้จะมีรูปเป็นอดีตแต่ไม่นิยมใช้ในเรื่องที่เป็นอดีต มักใช้กับเรื่องที่เป็นปัจจุบันหรืออนาคต

Present

Past

Mean

Shall

Should

จะ, ควร

Will

Would

จะ, เคย

Can

Could

สามารถ

Must

Had to

ต้อง

Has to

ต้อง

Have to

ต้อง

May

Might

อาจ, เป็นไปได้

2. Main Vebs กริยาหลัก ถือว่าเป็นกริยาสำคัญในประโยค จะตามหลังกริยาช่วยเสมอ

โปรดสังเกตตัวอย่างการใช้ตามตาราง

Subject

Auxiliary
Tense

Auiliary
Modal

Main Verb

Preposition

Object

John

Is

Travelling

To

Japan.

The carpenter

Can

Build

The house.

She

Must

Wait

For

You.

He

May

Walk

Past

The station.

They

Are

Living

In

The city.

   อนึ่ง กริยา Verb to be อันประกอบด้วย is/am/are/was/were และกริยา Verb to have อันประกอบด้วย has/have/had สามรถเป็น กริยาหลังกได้

Subject

Auxiliary
Tense

Auxiliary
Modal

Main Verb

Complement

Mary

Will

Be

A clerk.

Brown

Is

Being

A nuisance.

Tom

May

Have

A car.

That man

Was

A former minister.

5. Verb แบ่งตามความเป็นจริง

1. Finite Verb กริยาแท้ คือ กริยาหลักในประโยคนั่นเอง อาจเปลี่ยนรูปไปตามประธาน และเปลี่ยนไปตามกาล (Tense)

2. Non-finite Verb กริยาไม่แท้ เป็นกริยาที่มีรูปไม่สมบูรณ์ มันทำหน้าที่อย่างอื่นมากกว่าที่หน้าที่เป็นกริยา

ตัวอย่างประโยค

1. I sit watching television every Sunday.

2. He sits watching television every Sunday.

3. She sat watching television last Sunday.

4. They will sit watching television next Sunday.

Sit เป็น Finite Verb หรือกริยาแท้ ต้องเปลี่ยนไปตามประธานและกาลดังนี้

1. sit ไม่เติม s เพราะประธานเป็นบุรุษที่หนึ่ง

2. sits เติม s เพราะประธานเป็นบุรุษที่สามเอกพจน์

3. sit เปลี่ยนเป็น sat เพราะประโยคเป็นอดีตกาล

4. sit คงรูปเดิมเพราะตามหลังกริยาช่วย

Watching เป็น Non-finite Verb หรือกริยาไม่แท้

2. Non-finite Verb มี 3 ประเภทดังนี้

1. Infinite กริยามี to นำหน้า เช่น to do, to have, to be, to go

2. Participle เติม –ing เช่น calling, doing, having, being

3. Participle เติม –ed หรือ Participle ช่องที่สาม เช่น Called, walked, liked, gone, broken

ข้อเปรียบเทียบระหว่างกริยาแท้และไม่แท้

Finite Verb (กริยาแท้)

Non-finite Verb (กริยาไม่แท้)

1. He drinks heavily.
เขาดื่มอย่างหนัก

To drink like that must be dangerous.
การดื่มอย่างนั้น ต้องมีอันตราย

2 John is working hard.
จอห์นกำลังทำงานอย่างขยัน

I found John working hard.
ฉันพบจอห์นกำลังทำงานอย่างขยัน

3. After she had finished her education, She got a job.

หลังจากที่เธอสำเร็จการศึกษา เธอได้งานทำ

After having finished her education, she got a job.
หลังจากที่เธอสำเร็จการศึกษาเธอได้งานทำ

1. ในประโยคแรก drinks ทำหน้าที่เป็นกริยาแท้ ในประโยคที่สอง to drink มาจาก infinitive กริยามี to นำหน้า ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค

2. ในประโยคแรก Working ทำหน้าที่เป็นกริยาหลัก ในประโยคที่สอง working มาจาก Participle กริยาเติม –ing ทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์ (Adjective) ขยาย John

3. ในประโยคแรก finished ทำหน้าที่เป็นกริยาหลัก ในประโยคที่สอง finished มาจาก Participle กริยาเติม ed หรือ กริยาช่องที่สาม ทำหน้าที่เป็นกริยาวิเศษณ์ขยายประโยคหลังทั้งประโยค

[NEW] แปลภาษาไทย เป็น ภาษาอังกฤษ | ประเภทของ verb – NATAVIGUIDES

บทสรุปประเภทของ Verb

Verb คือ กริยาแบ่งออกเป็นแบบต่างๆ

1. Verb Transitive (Vt) สกรรมกริยา คือ กริยาต้องการกรรมมารับเพื่อให้ความหมายสมบูรณ์

2. Verb Intransitive (Vi) อกรรมกริยา คือ กริยาไม่ต้องการกรรมมารับ มีความหมายสมบูรณ์ในตัวเอง

Verb Transitive

Verb Intransitive

See

เห็น, ดู

Go

ไป

Hear

ได้ยิน, ฟัง

Come

มา

Eat

กิน

Walk

เดิน

Drink

ดื่ม

Stand

ยืน

Learn

เรียน

Lie

นอน

Live

อาศัย

ตัวอย่างประโยคมีและไม่มีกรรมมารับ

ประธาน
(Subject)

กริยา
(Verb)

กรรม
(Object)

กริยาวิเศษณ์วลี
(Adverbial)

I

Wrote

The letter

In the classroom

She

Came

—————

Here

He

Phoned

Me

In the evening

They

Worked

————–

Last week

2. Verb แบ่งตามฟอร์มหรือแบบ

1. Regular Form กริยารูปปกติ เมื่อเป็นอดีตเติม –ed ตามปกติ

2. Irregular Form กริยามีรูปอปกติ เมื่อเป็นอดีตไม่เติม –ed แต่มีการเปลี่ยนรูปหรือคงรูปไว้อย่างเดิม

Regular Form เติม ed

Present

Past

Past Participle

Mean

Walk

Walked

Walked

เดิน

Like

Liked

Liked

ชอบ

Stop

Stopped

Stopped

หยุด

Cry

Cried

Cried

ร้องไห้

Laugh

Laughed

Laughed

หัวเราะ

Irregular Form ไม่เติม ed

Present

Past

Past Participle

Mean

Bring

Brought

Brought

นำมา

Take

Took

Taken

นำไป

Eat

Ate

Eaten

กิน

Drink

Drank

Drunk

ดื่ม

Hit

Hit

Hit

ตี, ต่อย

Let

Let

Let

อนุญาต

3. Verb แบ่งตามความเคลื่อนไหว

1. Dynamic Verb กริยาว่าด้วยการเคลื่อนไหว กริยาประเภทเติม –ing ได้

2. Stative Verb กริยาว่าด้วยการคงที่ กริยาประเภทนี้เติม –ing ไม่ได้

2.1 Dynamic Verb กริยาที่เติม –ing ได้ มี 5 ชนิด

2.1.1 Activity Verb กริยาว่าด้วยกิจกรรม เช่น

Ask

ถาม

Eat

กิน

Look at

มองดู

Beg

ขอ

Listen

ฟัง

Read

อ่าน

Call

เรียก

Rain

ฝนตก

Throw

ขว้าง

Drink

ดื่ม

Slice

ตัด

Write

เขียน

Work

ทำงาน

Help

ช่วยเหลือ

Play

เล่น

Say

พูด

Whisper

กระซิบ

Learn

เรียน

2.1.2 Process Verb กริยาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลง

Change

เปลี่ยนแปลง

Mature

ทำให้สุก

Deteriorate

ทำให้เสีย

Show down

ลดลง

Grow

เจริญเติบโต

Widen

ทำให้กว้าง

2.1.3 Verb of Bodily Sensation กริยาว่าด้วยความรู้สึกทางร่างกาย

อาจเติมหรือไม่เติม ing ก็ได้ เช่น

Ache

ปวด

Feel

รู้สึก

Hurt

บาดเจ็บ

Itch

คัน


       2.1.4 Transitional Event Verbs กริยาว่าด้วยเหตุการณ์หนึ่งเปลี่ยนไปสู่เหตุการณ์อื่น

Arrive

เดินทาง

Land

ลงสู่พื้นดิน

Die

ตาย

Leave

จากไป

Fall

ตก

Lose

สูญ, หาย


         2.1.5 Momentary Verb กริยาว่าด้วยการใช้เวลาเพียงชั่วขณะ

Hit

ตี

Nod

พยักหน้า

Jump

กระโดด

Top

สูงกว่า

Knock

เคาะ

Applaud

ปรบมือ

2. Stative Verb กริยาที่ไม่เติม –ing มีสองแบบ

2. Stative Verb กริยาที่ไม่เติม –ing มีสองแบบ

1. Verbs of Inner Perception กริยาว่าด้วยการรับความรู้สึกทางจิตใจ

Abhor

ขยะแขยง

Forgive

ยกโทษ

Adore

ยกย่องบูชา

Guess

เดา, ทาย

Astonish

ทำให้พิศวง

Hate

เกลียด, ชัง

Desire

ต้องการ

Intend

ตั้งใจ

Dislike

ไม่ชอบ

Know

รู้

Feel

รู้สึก

Like

ชอบ

Mean

ตั้งใจ

Love

รัก

Mind

รังเกียจ

Regard

พิจารณา, เอาใจใส่

Perceive

แลเห็น

Remember

ระลึก, จำ

Please

ยินดี

Satisfy

ประทับใจ

Prefer

ชอบมากกว่า

See

เห็น

Presuppose

คาดคะเนล่วงหน้า

Smell

ดมกลิ่น

Realize

ตระหนัก

Suppose

สมมุติ

Recall

เรียกกลับ

Taste

ชิมรส

Recognize

จำได้

Think

คิด

Want

ต้องการ


2. Relational Verbs กริยา

Apply to

ประยุกต์ใช้

Include

รวมทั้ง

Be

เป็น อยู่ คือ

Involve

พัวพัน

Belong to

เป็นของ

Lack

ขาด

Concern

เกี่ยวข้อง

Matter

มีความสำคัญ

Consist of

ประกอบด้วย

Need

ต้องการ

Contain

มี, บรรจุ

Owe

เป็นหนี้

Cost

มีค่า

Own

เป็นเจ้าของ

Depend on

อาศัย

Possess

เป็นเจ้าของ

Deserve

สมควร

Remain

คงเหลือ

Equal

เท่าเทียมกัน

Require

ต้องการ

Fit

พอเหมาะ

Seem

ดูเหมือน

Have

มี

Suffice

เพียงพอ

วิธีสังเกตง่ายๆ กริยาตัวใดเติม –ing ได้หรือไม่ จงตรวจดูในพจนานุกรมภาษาอังกฤษ กริยาตัวใดเติม –ing ไม่ได้ เมื่อต้องการจะผันกริยาให้เป็นนาม พจนานุกรมได้แสดงคำนามไว้ เช่น think “คิด” เป็นกริยา จะมีคำว่า thought “ความคิด” เป็นนาม แสดงว่า think เติม –ing ไม่ได้ ถ้ากริยาตัวใดเติม –ing ได้ พจนานุกรมไม่แสดงคำนามไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้เราสามารถเติม –ing ให้กับกริยา เพื่อนำไปใช้เป็นคุณศัพท์ หรือนำไปใช้ในประโยคที่กำลังกระทำอยู่ (Progressive Tense หรือ Continuous Tense) ได้เลย

วิธีสังเกตง่ายๆ กริยาตัวใดเติม –ing ได้หรือไม่ จงตรวจดูในพจนานุกรมภาษาอังกฤษ กริยาตัวใดเติม –ing ไม่ได้ เมื่อต้องการจะผันกริยาให้เป็นนาม พจนานุกรมได้แสดงคำนามไว้ เช่น think “คิด” เป็นกริยา จะมีคำว่า thought “ความคิด” เป็นนาม แสดงว่า think เติม –ing ไม่ได้ ถ้ากริยาตัวใดเติม –ing ได้ พจนานุกรมไม่แสดงคำนามไว้ เมื่อเป็นเช่นนี้เราสามารถเติม –ing ให้กับกริยา เพื่อนำไปใช้เป็นคุณศัพท์ หรือนำไปใช้ในประโยคที่กำลังกระทำอยู่ (Progressive Tense หรือ Continuous Tense) ได้เลย

4. Verb แบ่งตามหน้าที่ (Function) มี 2 ชนิด

1. Auxiliary กริยาช่วย มี 2 ประเภท

1.1 Tense Auxiliary กริยาช่วยที่มีกาล ไม่มีความหมายในภาษาไทย มีดังนี้

กริยาช่วย be ประกอบด้วย is/am/are/was/were

ใช้กับกริยาที่เติม ing ในประโยค Continuous Tense เช่น

She is eating fruit.

เธอกำลังทานมะม่วง

ใช้กับประโยคกรรมวาจก (passive Voice)

This house is built by John.

บ้านหลังนี้สร้างขึ้นโดยจอห์น

กริยาช่วย have ประกอบด้วย have/has/had

ใช้กับประโยคที่มีกาลสมบูรณ์ (perfect Tense)

John has learnt Thai since 1990.

จอห์นเรียนภาษาไทย ตั้งแต่ ค.ศ. 1990

กริยาช่วย do ประกอบด้วย do/does/did ใช้กับประโยคปฏิเสธและคำถาม

ประโยคปฏิเสธปัจจุบัน

I don’t like your new car.
ฉันไม่ชอบรถคันใหม่ของคุณ

ประโยคคำถามปัจจุบัน

Do you have any money?
คุณมีเงินบ้างไหม

ประโยคคำถามอดีต

Did she go to see movies last night?
เมื่อคืนที่แล้วเธอไปดูหนังหรือ


1.2 Modal Auxiliaries กริยาว่าด้วยการแสดงอารมณ์ (Mood) หลากหลาย กริยาช่วยประเภทนี้ สามารถแปลความหมายได้ แม้จะมีรูปเป็นอดีตแต่ไม่นิยมใช้ในเรื่องที่เป็นอดีต มักใช้กับเรื่องที่เป็นปัจจุบันหรืออนาคต

Present

Past

Mean

Shall

Should

จะ, ควร

Will

Would

จะ, เคย

Can

Could

สามารถ

Must

Had to

ต้อง

Has to

ต้อง

Have to

ต้อง

May

Might

อาจ, เป็นไปได้

2. Main Vebs กริยาหลัก ถือว่าเป็นกริยาสำคัญในประโยค จะตามหลังกริยาช่วยเสมอ

โปรดสังเกตตัวอย่างการใช้ตามตาราง

Subject

Auxiliary
Tense

Auiliary
Modal

Main Verb

Preposition

Object

John

Is

Travelling

To

Japan.

The carpenter

Can

Build

The house.

She

Must

Wait

For

You.

He

May

Walk

Past

The station.

They

Are

Living

In

The city.

   อนึ่ง กริยา Verb to be อันประกอบด้วย is/am/are/was/were และกริยา Verb to have อันประกอบด้วย has/have/had สามรถเป็น กริยาหลังกได้

Subject

Auxiliary
Tense

Auxiliary
Modal

Main Verb

Complement

Mary

Will

Be

A clerk.

Brown

Is

Being

A nuisance.

Tom

May

Have

A car.

That man

Was

A former minister.

5. Verb แบ่งตามความเป็นจริง

1. Finite Verb กริยาแท้ คือ กริยาหลักในประโยคนั่นเอง อาจเปลี่ยนรูปไปตามประธาน และเปลี่ยนไปตามกาล (Tense)

2. Non-finite Verb กริยาไม่แท้ เป็นกริยาที่มีรูปไม่สมบูรณ์ มันทำหน้าที่อย่างอื่นมากกว่าที่หน้าที่เป็นกริยา

ตัวอย่างประโยค

1. I sit watching television every Sunday.

2. He sits watching television every Sunday.

3. She sat watching television last Sunday.

4. They will sit watching television next Sunday.

Sit เป็น Finite Verb หรือกริยาแท้ ต้องเปลี่ยนไปตามประธานและกาลดังนี้

1. sit ไม่เติม s เพราะประธานเป็นบุรุษที่หนึ่ง

2. sits เติม s เพราะประธานเป็นบุรุษที่สามเอกพจน์

3. sit เปลี่ยนเป็น sat เพราะประโยคเป็นอดีตกาล

4. sit คงรูปเดิมเพราะตามหลังกริยาช่วย

Watching เป็น Non-finite Verb หรือกริยาไม่แท้

2. Non-finite Verb มี 3 ประเภทดังนี้

1. Infinite กริยามี to นำหน้า เช่น to do, to have, to be, to go

2. Participle เติม –ing เช่น calling, doing, having, being

3. Participle เติม –ed หรือ Participle ช่องที่สาม เช่น Called, walked, liked, gone, broken

ข้อเปรียบเทียบระหว่างกริยาแท้และไม่แท้

Finite Verb (กริยาแท้)

Non-finite Verb (กริยาไม่แท้)

1. He drinks heavily.
เขาดื่มอย่างหนัก

To drink like that must be dangerous.
การดื่มอย่างนั้น ต้องมีอันตราย

2 John is working hard.
จอห์นกำลังทำงานอย่างขยัน

I found John working hard.
ฉันพบจอห์นกำลังทำงานอย่างขยัน

3. After she had finished her education, She got a job.

หลังจากที่เธอสำเร็จการศึกษา เธอได้งานทำ

After having finished her education, she got a job.
หลังจากที่เธอสำเร็จการศึกษาเธอได้งานทำ

1. ในประโยคแรก drinks ทำหน้าที่เป็นกริยาแท้ ในประโยคที่สอง to drink มาจาก infinitive กริยามี to นำหน้า ทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค

2. ในประโยคแรก Working ทำหน้าที่เป็นกริยาหลัก ในประโยคที่สอง working มาจาก Participle กริยาเติม –ing ทำหน้าที่เป็นคุณศัพท์ (Adjective) ขยาย John

3. ในประโยคแรก finished ทำหน้าที่เป็นกริยาหลัก ในประโยคที่สอง finished มาจาก Participle กริยาเติม ed หรือ กริยาช่องที่สาม ทำหน้าที่เป็นกริยาวิเศษณ์ขยายประโยคหลังทั้งประโยค


ประเภทของคำกริยา (verbs)


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ประเภทของคำกริยา (verbs)

Modal Verbs คืออะไร มีลักษณะอย่างไร


จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้
ติดตาม Facebook และ Instagram : The Happy Time with Q
หากผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขออภัยมานะที่นี้ด้วยค่ะ 😀

Modal Verbs คืออะไร มีลักษณะอย่างไร

Verb vs Adj แยกยังไงให้ออก II แอดLine: @englishfitandfirm


📌 เป็นเพจที่ไม่ค่อยพูดเรื่องแกรมม่า แต่วันนี้
📌 มีเทคนิคดี อยากแจกฟรี❗️เทคนิคแยก Verb กับ Adj.
📌ง่ายแบบนี้ ใครจะท่องให้เสียเวลา
.
.💡
คอร์สOnline เพิ่มชั่วโมงใช้ภาษา
ปูพื้นฐานเทนส์ + ฝึกสร้างประโยคแบบSpeaking
สอบถามคลิก m.me/englishfitandfirm
II แอดLine: @englishfitandfirm

.
Thanks for following
IG: chutamas_sommy
FB: English Fit and Firm

1.Verb:__กริยา ผันing ได้//ผันช่อง123 ได้ เช่น
dance dancing เต้น
report __reporting รายงาน/แจ้งให้ทราบ
talk __talking คุย
invite __inviting เชิญ
demonstrate __demonstrating สาธิต/ประท้วง
2.Adjective: __คุณศัพท์
ผันเป็นขั้นกว่าขั้นสุดได้ เช่น
handsome
__หล่อกว่า หล่อที่สุด
__more handsome than the most handsome
rich
__รวยกว่า รวยที่สุด
__richer than the richest
expensive
__แพงกว่า แพงที่สุด
__more expensive thanthe most expensive than
TEST
1. Travel __verb หรือ adj.?
🔺ตอบ: เป็น v. เพราะผันเป็น traveling ได้
2. Respond
verb หรือ adj.?
🔺ตอบ: เป็น v. เพราะผันเป็น responding
3. Delicious __verb หรือ adj.
🔺ตอบ: เป็น adj.
ผันเป็น deliciousing ไม่ได้ ไม่มี
ผันเป็น more delicious than, the most delicious .. อร่อยกว่า, อร่อยที่สุด

Verb vs   Adj   แยกยังไงให้ออก II แอดLine: @englishfitandfirm

[อังกฤษ] กริยาช่วย Modals Verb สำหรับเตรียมสอบ


ใหม่!! WINNER SHORTNOTE คอร์สเรียนออนไลน์ ติวเข้มหนังสือจากหนังสือ WINNER SHORTNOTE ให้น้องๆเตรียมพร้อมทุกสนามสอบ
⭐เนื้อหา WINNER SHORTNOTE วันนี้มาเพิ่มความรู้ เรื่อง Modals Verb
Can could
Will would
Shall should
May might
Must
Ought to
⭐ดูจบแล้วกดกระดิ่ง เพื่อตั้งเตือน จะได้ไม่พลาด EP ถัดไป รับรองว่าจะจัดให้ทุกวิชาเลย!
TCAS 9วิชาสามัญ ONET Gat Eng phrasalverb
____________________________________________________________________
ฝากหนังสือจาก WINNER STUDY นะคะ ทุกเล่มตั้งใจเขียนโดยทีม นิสิตจุฬา
เพื่อสำหรับเตรียมสอบเข้าคณะที่ใช่มหาลัย ที่ชอบ
สั่งซื้อได้ตลอด 24 ชม.ทาง LINE @winnerstudy
🍒WINNER SHORTNOTE
ครบ8วิชา ม.46(ไทย อังกฤษ สังคม วิทย์ คณิต ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ)
ใช้ได้ทุกสนามสอบ ทั้งใน โรงเรียน GAT PAT ONET 9 วิชาสามัญ
🍒WINNER 1000Q พันคิว วิทย์
รวม1000ข้อสอบ วิทย์ 4 วิชาม.46 (ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ดาราศาสตร์)
คล้ายข้อสอบจริงสุด โจทย์มี 3 ระดับ (ง่ายกลางยาก) ใช้สอบ ONET, PAT, 9 วิชาสามัญได้
เฉลยเข้าใจสุด และละเอียดมาก เหมือนได้ติวเตอร์ดีกรีจุฬาส่วนตัวตลอด 24 ชม.
🍒หนังสือ WINNER 1000Q พันคิว คณิต
รวม1000ข้อสอบ ตะลุยโจทย์คณิต ม.46​
คล้ายข้อสอบจริงสุด ทั้งโจทย์ และระดับความยาก อ้างอิงจากข้อสอบ PAT1 ONET 9วิชาสามัญ
เฉลยละเอียดมาก เหมือนติวเตอร์ดีกรีจุฬา กว่า 40 คนนั่งอธิบายอยู่ข้างๆ
ทำครบ ทำจบเล่ม สอบติดแน่!⭐️
.
.
📙WINNER SHORTNOTE ม.ต้น
ครบ5วิชา ม.13(ไทย อังกฤษ สังคม วิทย์ คณิต) ใช้ได้ทุกสนามสอบทั้งสอบเข้าโรงเรียนดังและ ONET
มีแบบฝึกหัดท้ายบท ให้ประลองปัญญาก่อนเจอของจริง
ราคา 520 บาท
ดูเพิ่มเติมได้ที่
YOUTUBE: https://www.youtube.com/channel/UCtSbwlAIU54zTlRco9q3u8A?view_as=subscriber
IG: https://www.instagram.com/winnerstudyth/

[อังกฤษ] กริยาช่วย Modals Verb สำหรับเตรียมสอบ

Verb คำกริยา คืออะไร ใช้อย่างไร


ติวไวยากรณ์เรียนภาษาอังกฤษฟรีคำกริยาVerb

Verb คำกริยา คืออะไร ใช้อย่างไร

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN TO MAKE A WEBSITE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ประเภทของ verb

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *