Skip to content
Home » [NEW] เปรียบเทียบคำคุณศัพท์ขั้นปกติ กว่า ที่สุด Comparative | กริยา ปกติ – NATAVIGUIDES

[NEW] เปรียบเทียบคำคุณศัพท์ขั้นปกติ กว่า ที่สุด Comparative | กริยา ปกติ – NATAVIGUIDES

กริยา ปกติ: คุณกำลังดูกระทู้

301

SHARES

Facebook

Twitter

การเปรียบเทียบ (comparison) ภาษาอังกฤษจะยากกว่าภาษาไทยตรงที่มีหลักการเติม er กับ est ที่ท้ายคำ ซึ่งภาษาไทยจะใช้คำว่ากว่า กับที่สุดทุกคำไม่ว่าจะเป็นคำคุณศัพท์ตัวไหนก็ตาม วันนี้เราจะมาดูการเปรียบเทียบขั้นกว่า (comparative) และขั้นที่สุด (superlative) ในหลักภาษาอังกฤษกัน

การเปรียบเทียบคุณศัพท์

♦ การเปรียบเทียบ comparative and superlative

◊ Comparative หรือ comparison คืออะไร มีกี่ระดับ

  1. คุณศัพท์ขั้นเท่ากัน  (Positive adjective)
  2. คุณศัพท์ขั้นกว่า (Comparative Adjective)
  3. คำคุณศัพท์ขั้นที่สุด (Superlative adjective)

Comparative หรือ comparison คือ การเปรียบเทียบ  การเปรียบเทียบก็มี 3 ระดับนะครับ ในระดับ Positive  ถือว่าง่ายสุดแล้ว เพราะไม่ต้องเปลี่ยนแปลงคำคุณศัพท์เลย แค่เอา as…as มาประกอบแค่นั้นเอง แต่ก็ถือว่าเป็นฐานสำคัญสำหรับเรียนรู้เรื่องการเปรียบเทียบขั้นกว่าและขั้นที่สุด (comparative and superlative)

คุณศัพท์คืออะไร ก็ได้เรียนรู้ไปแล้วในหัวข้อ Parts of Speech นะครับ

◊ คุณศัพท์ขั้นเท่ากัน (Positive adjective) คืออะไร 

โดยปกติการใช้คำคุณศัพท์บรรยายสิ่งใดสิ่งหนึ่งโดยไม่เปรียบเทียบกับใครที่ไหนจะเป็นการพูดถึงสิ่งๆเดียว เช่น

→ A cat is big. แมวตัวหนึ่ง ใหญ่

→ A man is tall. ชายคนหนึ่ง ตัวสูง

→ This car is expensive. รถยนต์คันนี้ ราคาแพง

→ The water in this pot is hot. น้ำในหม้อใบนี้ ร้อน

แต่ในขั้น Positive การเปรียบเทียบในขั้นเท่ากัน บ้างก็เรียกขั้นปกติ จะเปรียบเทียบสองสิ่งที่มีอะไรๆเหมือนกันทุกประการ โดยการเอา as…as มาคั่น เช่น

→ A cat is as big as a dog. แมว ใหญ่ เท่ากับ หมา

→ A man is as tall as a woman. ผู้ชาย ตัวสูงเท่ากับ ผู้หญิง

→ This car is as expensive as that car. รถยนต์คันนี้ ราคาแพงเท่ากับ รถคันนั้น

เป็นไงครับ ง่ายเลยใช่ไหมครับ แค่เอา as…as มาคร่อมคำคุณศัพท์แค่นั้นเอง

◊ คุณศัพท์ขั้นกว่า (Comparative Adjective) คืออะไร

ขั้นกว่าคือ การเปรียบเทียบสิ่งสองสิ่ง ว่าสิ่งไหน สูง ต่ำ สั้น ยาว เล็ก ใหญ่…..กว่ากัน เช่น

→ A cat is bigger than a mouse. แมว ใหญ่กว่า หนู

→ A man is taller than a woman. ผู้ชาย สูงกว่า ผู้หญิง

→ This car is more expensive than that car.  รถยนต์คันนี้ แพงกว่า คันนั้น

→ The water in this pot is hotter than water in that pot.  น้ำในหม้อใบนี้ ร้อนกว่า น้ำในหม้อใบนั้น

สังเกตได้ว่า คำว่า กว่า ในภาษาอังกฤษคือการเติม -er than หรือบางที ใช้ more – than เอ๊ะยังไงกัน เดี๋ยวอธิบายให้ฟังด้านล่างนะครับ

◊ คำคุณศัพท์ขั้นที่สุด (Superlative adjective) คืออะไร

ขั้นที่สุด หรือสูงสุด คือ การเปรียบเทียบตั้งแต่สามขึ้นไป แล้วปรากฏว่า มีสิ่งหนึ่งที่ สูง ต่ำ สั้น ยาว เล็ก ใหญ่….กว่าเพื่อนเลย เช่น

→ A cat is the biggest animal in this room. แมวเป็นสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดในห้องนี้ (ออกจากห้องนี้แล้วคงไม่ใช่)

→ Somchai is the tallest man in class. สมชายตัวสูงที่สุดให้ห้อง (เฉพาะห้องนี้นะครับ)

→ This is the most expensive car in Thailand.  นี่คือรถยนต์ ที่แพงที่สุดในไทย

สังเกตได้ว่า คำว่า ที่สุด เป็นการเติม -est หรือ the most – ทำไมเป็นเช่นนั้น มันมีกฎเกณฑ์การใช้อยู่ครับ

◊ การทำคำคุณศัพท์ให้เป็นขั้นกว่า และขั้นที่สุด

ให้จำง่ายๆข้อแรกก่อนเลยคือ เติม -er ในขั้นกว่า และ  the  – est สำหรับขั้นที่สุด เช่น

ขั้นปกติ
ขั้นกว่า
ขั้นที่สุด

tall สูง
taller สูงกว่า
the tallest สูงที่สุด

small เล็ก
smaller เล็กกว่า
the smallest เล็กที่สุด

short สั้น
shorter สั้นกว่า
the shortest สั้นที่สุด

long ยาว
longer ยาวกว่า
the longest ยาวที่สุด

old แก่
older แก่กว่า
the oldest แก่ที่สุด

cheap ถูก
cheaper ถูกกว่า
the cheapest ถูกที่สุด

ง่ายจัง เติมเอาอย่างนี้ทุกตัวหรือเปล่า ….ไม่ได้ต้องมีกฎกติกานิดหนึง

♥ กฎการเติม  -er และ -est

  • คำที่มีสระเสียงสั้นตัวเดียว และตัวสะกดตัวเดียว  ถ้าคุณสมบัติครบสองข้อนี้ ให้เติมตัวสะกดอีกตัวเข้าไป แล้วเติม -er -est เช่น

ขั้นปกติ
ขั้นกว่า
ขั้นที่สุด

big  ใหญ่
bigger ใหญ่กว่า
the biggest ใหญ่ที่สุด

hot ร้อน
hotter ร้อนกว่า
 the hottest ร้อนที่สุด

thin ผอม
thinner ผอมกว่า
 the thinnest ผอมที่สุด

fat อ้วน
fatter อ้วยกว่า
 the fattest อ้วนที่สุด

sad เศร้า
sadder เศร้ากว่า
 the saddest เศร้าที่สุด

  • คำลงท้ายด้วย y  ให้ตัด y ออก แล้วเติม -ier -iest เช่น

ขั้นปกติ
ขั้นกว่า
ขั้นที่สุด

dirty สกปรก
dirtier สกปรกกว่า
the dirtiest สกปรกที่สุด

dry แห้ง
drier แห้งกว่า
the driest แห้งที่สุด

funny ตลก
funnier ตลกกว่า
the funniest ตลกที่สุด

lucky โชคดี
luckier โชคดีกว่า
the luckiest โชคดีที่สุด

noisy เสียงดัง
noisier เสียงดังกว่า
the noisiest เสียงดังที่สุด

  • คำสองพยางค์ที่ลงท้ายด้วย -ed, -ful, -ing, -less, -ous ให้ใช้ more..than  และ the most ข้างหน้า เช่น

ขั้นปกติ
ขั้นกว่า
ขั้นที่สุด

 worried เป็นกังวล
more worried กังวลกว่า
the most worried กังวลที่สุด

 helpful ชอบช่วยเหลือ
more helpful ชอบช่วยเหลือกว่า
the most helpful ชอบช่วยเหลือที่สุด

 boring น่าเบื่อ
more boring น่าเบื่อกว่า
the most boring น่าเบื่อที่สุด

 useless ไร้ประโยชน์
more useless ไร้ประโยชน์กว่า
the most useless ไร้ประโยชน์ที่สุด

famous มีชื่อเสียง
more famous มีชื่อเสียงกว่า
the most famous มีชื่อเสียงที่สุด

  • คำที่มีสามพยางค์ขึ้นไป ให้ใช้ more..than และ the most ข้างหน้า เช่น

ขั้นปกติ
ขั้นกว่า
ขั้นที่สุด

important สำคัญ
more important สำคัญกว่า
the most important  สำคัญที่สุด

expensive แพง
more expensive แพงกว่า
the most expensive แพงที่สุด

dangerous อันตราย
more dangerous อันตรายกว่า
the most dangerous อันตรายที่สุด

difficult ยาก
more difficult ยากกว่า
the most difficult ยากที่สุด

  • คำเหล่านี้เป็นข้อยกเว้นพิเศษ ไม่อยู่ในกฎเกณฑ์

ขั้นปกติ
ขั้นกว่า
ขั้นที่สุด

good ดี
better ดีกว่า
the best ดีที่สุด

bad เลว
worse เลวกว่า
the worst เลวที่สุด

far ไกล
farther ไกลกว่า
the farthest ไกลที่สุด

little น้อย
less น้อยกว่า
the least น้อยที่สุด

many มาก
more มากกว่า
the most มากที่สุด

คำคุณศัพท์บางตัวจะไม่มีการเปรียบเทียบ เช่น สีต่างๆ จะไม่มีการพูดสีดำกว่า หรือดำที่สุด และคำอื่นๆ บางตัว คอยสังเกตเอาแล้วกัน

◊ คำคุณศัพท์ที่ใช้บ่อยมีอะไรบ้าง ดังนี้

absent
แอ๊บเซินท
ขาด (เรียน, งาน)

afraid
อะเฟรด
กลัว

bad
แบด
เลว

beautiful
บิ๊วทิฟุล
สวย

better
เบ็ทเทอะ
ดีกว่า

big
บิก
ใหญ่

black
แบล็ค
ดำ

boring
บ๊อริง
น่าเบื่อ

bright
ไบร๊ท
สว่าง, ฉลาด

broad
บรอด
กว้าง

broken
โบร๊เคิน
แตก

cloudy
คล๊าวดิ
มีเมฆมาก

cold
โคลด
หนาว

cool
คูล
เย็น

crazy
เคร๊สิ
บ้าคลั่ง

curly
เค๊อลิ
หยิก

daily
เด๊ลิ
รายวัน

deep
ดีพ
ลึก

difficult
ดิ๊ฟฟิเคิลท
ยาก

dirty
เด๊อทิ
สกปรก

dry
ดราย
แห้ง

dull
ดัล
โง่

easy
อี๊สิ
ง่าย

empty
เอ็มทิ
ว่างเปล่า

excellent
เอ็กซะเลินท
ยอดเยี่ยม

excited
อิกไซ๊เท็ด
ตื่นเต้น

expensive
อิกซเป็นซิฝ
แพง

fast
ฟาสท
เร็ว

fat
แฟ็ท
อ้วน

fault
ฟ๊อลท
เท็จ

friendly
เฟร็นลิ
เป็นมิตร

funny
ฟั๊นนิ
ตลก

gentle
เจ็นเทิล
อ่อนโยน

good
กุด
ดี

great
เกรท
เยี่ยม

greedy
กรี๊ดิ
ตะกละ

green
กรีน
เขียว

half
ฮาฟ
ครึ่ง

handsome
แฮ๊นเซิม
หล่อ

happy
แฮ๊พพิ
มีความสุข

healthy
เฮ็ลธิ
มีสุขภาพดี

high
ไฮ
สูง

hot
ฮ็อท
ร้อน

hungry
ฮั๊งกริ
หิว

kind
ไคด
ใจดี

large
ลาจ
กว้าง

late
เลท
สาย

lazy
เล๊สิ
ขี้เกียจ

left
เล็ฟท
ซ้าย

light
ไลท
สว่าง

little
ลิ๊ทเทิล
เล็ก

long
ลอง
ยาว

loose
ลูส
หลวม

loud
ลาด
เสียงดัง

low
โล
ต่ำ

lucky
ลัคคิ
โชคดี

many
เม็นนิ
มาก

narrow
แน๊โร
แคบ

new
นิว
ใหม่

nice
ไนซ
ดี

noisy
น๊อยสิ
มีเสียงดัง

old
โอลด
แก่

perfect
เพ๊อเฟ็คท
สมบูรณ์แบบ

pretty
พริททิ
สวย

quick
ควิก
เร็ว

quiet
ไคว๊เยิท
เงียบ

rainy
เร๊นนิ
มีฝนตกชุก

red
เรด
แดง

right
ไรท
ถูก,ขวา

round
ราวด
กลม

sad
แซด
เศร้า

short
ชอท
สั้น

slow
สโล
ช้า

small
สมอล
เล็ก

snowy
สโน๊วิ
มีหิมะตก

sunny
ซั๊นนิ
มีแดดออก

tall
ทอล
สูง

tight
ไทท
แน่น

tiny
ไท๊นิ
เล็ก

tough
ทัฟ
เหนียว

true
ทรู
จริง

ugly
อั๊กลิ
น่าเกลียด

warm
วอม
อุ่น

weak
วีค
อ่อนแอ

well
เว็ล
ดี

wet
เว็ท
เปียก

white
ไวท
ขาว

wide
ไวด
กว้าง

windy
วิ๊นดิ
มีลมพัด

wise
ไวส
ฉลาด

wrong
รอง
ผิด

yellow
เย็ลโล
เหลือง

young
ยัง
เป็นเด็ก

your
ยัว
ของคุณ

ขอ 5 ดาวให้บทเรียนด้วยครับผม…

คลิกดาวดวงที่ขวามือสุดเลยครับครับ…

Average rating 4.7 / 5. Vote count: 594

ยังไม่มีใครให้ดาว คุณคือคนแรก….

[NEW] รูปแบบการใช้ Past Simple ในภาษาอังกฤษ | กริยา ปกติ – NATAVIGUIDES

Past simple (พาสทฺ ซิมเพิล) หมายถึง “อดีตกาล” ใช้เพื่อกล่าวถึง เหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่จำเพาะเจาะจง (definite time) เช่น เมื่อวานนี้ (yesterday เยสเทอะเดย์), ปีที่แล้ว (last year ลาสทฺ เยียร์), เมื่อคืนที่แล้ว (last night ลาสทฺ ไน้ทฺ), ในปี 1990 (in 1990) เป็นต้น

ในเรื่อง Past simple นี้เกี่ยวข้องกับคำกริยาช่องที่ 2 กล่าวคือถ้าเป็น คำกริยาปกติ (regular verbs เรกิวเลอะ เวิบสฺ) สามารถเปลี่ยนเป็นช่อง 2 ด้วยการเติม -ed ข้างท้าย แต่ถ้าเป็นกริยาอปกติ (irregular verbs เออเรกิวเลอะเวิบสฺ) ก็จำเป็นต้องท่องจำหรือใช้ให้บ่อยครั้ง เช่น
กริยาปกติ                                 กริยาอปกติ
work worked (เวคทฺ)                     go went (เว้นทฺ)
live lived (ลิฟดฺ)                              build built (บิ้ลทฺ)
play played (เพลดฺ)                        see saw (ซอ)
ตัวอย่าง
Tony lives in London now. He lived in Manchester last year. ตอนนี้โทนี่อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ปีที่แล้วเขาอาศัยอยู่ใน-
แมนเซสเตอร์
Tony stayed at home last night. He didn’t go out with his friend. เมื่อคืนที่แล้วโทนี่อยู่บ้าน เขาไม่ได้ออกไปข้างนอกกับเพื่อนของเขา

สังเกตได้ว่า รูปของคำกริยาในตัวอย่างที่เป็นการกระทำในอดีต จะเป็นช่อง 2 ฉะนั้นจึงควรจะทราบถึงรูปแบบ (forms) ของ Past simple ดังนี้

รูปของ Past simple
(1) Statement form (สเตทเม้นทฺฟอม) หรือในภาษาไทยเรียกว่า “รูป บอกเล่า” ประกอบด้วย
ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 2 +ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กับ
ภาคประธาน + was/were + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
อธิบาย กริยาแท้ช่อง 2 มีอยู่สองแบบที่นักเรียนต้องเรียนรู้ นั่นคือ
ก. กริยาแท้ปกติ หรือภาษาอังกฤษเรียก regular verbs (เรทิวเลอะ เวิบสฺ) คำกริยาแท้ประเภทนี้เมื่อเปลี่ยนให้เป็นช่องที่ 2 กระทำได้โดย

1. เติม -ed ข้างท้าย เช่น
work – worked            walk – walked
wash – washed             watch – watched

2. หากคำกริยาแท้ปกติใดลงท้ายด้วย e อยู่แล้ว ให้เติม d ต่อไปข้าง
ท้าย เช่น
type – typed                   operate – operated
change – changed         smoke – smoked

3. ส่วนคำกริยาแท้ใดลงท้ายด้วย y และมีอักษรพยัญชนะอยู่หน้าอักษร y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วจึงเติม -ed เช่น
play – played            spray – sprayed
employ – employed        delay – delayed

ข. กริยาแท้อปกติ หรือภาษาอังกฤษเรียก irregulat verbs (อิเรกิวเลอะ เวิบสฺ) คำกริยาแท้ประเภทนี้ต้องอาศัยการจดจำ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างไปจากคำกริยาแท้ปกติเมื่อเป็นช่อง 2 เช่น
go – went        set – set
ring – rang    break – broke

หมายเหตุ สามารกหาซื้อหนังสือ กริยา 3 ช่อง ซึ่งได้รวบรวมคำกริยาแท้ปกติทั้ง 3 ช่องได้ตามร้านจำหน่ายหนังสือ หนังสือเล่มดังกล่าวจัดพิมพ์ โดยสำนักพิมพ์พัฒนาศึกษา กรุงเททมหานคร
ตัวอย่าง
I bought a new car three days ago.
ผมซื้อรถยนต์คันใหม่มาเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา
When I dropped my cup, the coffee spilled on my lap.
เมื่อผมทำถ้วยหล่น กาแฟได้หกราดบนหน้าตักของผม
Last night I went to the cinema.
เมื่อคืนดิฉัน ได้ไปชมภาพยนตร์

(2) Negative form (เนเกอทิฟวฺ ฟอม) หรือในภาษาไทยเรียกว่า “รูป ปฏิเสธ” ประกอบด้วย
ภาคประธาน + did not + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กับ
ภาคประธาน + was/were not + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กับ
ภาคประธาน + กริยาช่วยช่อง 2 + not + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรม หรือส่วนขยาย
อธิบาย รูปย่อของ     did not = didn’t
was not = wasn’t
were not = weren’t
กริยาแท้ช่อง 1 หมายถึง กริยาแท้ที่ไม่มีการเติม -s, -es, -ed, -ing
ไม่ใช่กริยาแท้ช่อง 1     ใช่กริยาแท้ช่อง 1
works                work
broke                break
cleaning           clean
watches           watch

กริยาช่วยช่อง 2 หมายถึง กริยาช่วยอื่น นอกเหนือจาก did, was, were ได้แก่ could, might
รูปย่อของ could not = couldn’t ; might not = mightn’t
ตัวอย่าง
He wasn’t busy yesterday.
เขาไม่ได้มีธุระยุ่งเมื่อวานนี้
I didn’t sleep for eight hours last night.
ผมไม่ได้นอนหลับเป็นเวลาถึง 8 ชั่วโมงเมื่อคืนที่แล้ว
This year John can play badminton, but last year he couldn’t
(play it).
ปีนี้จอห์นเล่นแบดมินตันได้ แต่ปีที่แล้วเขาเล่นไม่ได้

(3) Yes-No question (เยส โน เควสเชิ่น) หรือในภาษาไทยคือ “คำถาม ที่ผู้ตอบจะตอบว่า Yes/No” ประกอบด้วย
กรณีที่ไม่มีกริยาช่วยอยู่ภายในประโยค
Did + ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กรณีมีกริยาช่วยที่ไม่ใช่ was/were อยู่ภายในประโยค
กริยาช่วยช่อง 2 + ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กรณีมีกริยาช่วยที่เป็น was/were
Was/Were + ภาคประธาน + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
ตัวอย่าง
Did you go to Bangkok yesterday?
เมื่อวานนี้คุณไปกรุงเทพฯ ใช่ไหม
Were you a student two years ago?
คุณเป็นนักเรียนใช่ไหมเมื่อสองปีที่แล้ว
Could you swim when you were five years old?
คุณว่ายน้ำได้ใช่ไหม เมื่อตอนที่คุณอายุห้าขวบ

(4) Wh-word question (ดับเบิลยู เอช เวิด เควสเชิ่น) หรือในภาษา ไทยคือ “คำถามที่ขึ้นต้นประโยคด้วย Wh-words ได้แก่ What, When, Where, Why, How long, … ฯลฯ” ประกอบด้วย
กรณีที่ต้องใช้กริยาช่วย did เพราะไม่มีกริยาช่วยอื่นใด
Wh-word + did + ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กรณีมีกริยาช่วยช่อง 2 อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ was/were
Wh-word + กริยาช่วยช่อง 2 + ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรม/ส่วนขยาย
กรณีมีกริยาช่วย was/were

Wh-word + was/were + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
ตัวอย่าง
How long was the film?
ภาพยนตร์มีความยาวเท่าไร
What did you do last night ?
เมื่อคืนที่แล้วคุณทำอะไร?
Where were you yesterday?
เมื่อวานนี้คุณอยู่ที่ไหน

การใช้ Past simple
1. ใช้แสดงเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นและจบสิ้นสมบูรณ์ในอดีต โดยปกติมักมีข้อความที่บ่งบอกเวลาที่เหตุการณ์นั้นๆ ได้เกิดขึ้นมาในอดีต อาทิ yesterday, last night, two days ago, in 1990, … ฯลฯ
ตัวอย่าง
I walked to school yesterday.
เมื่อวานนี้ผมเดินไปโรงเรียน
He bought a new car three days ago.
เขาซื้อรถยนต์คันใหม่เมื่อสามวันที่ผ่านมา

2. ใช้แสดงเหตการณ์หรือสถานการณ์ที่ยาวนาน หรือเหตุการณ์ซ้ำๆ ที่เกิดขึ้นและจบไปเรียบร้อยตั้งนานแล้วในอดีต
ตัวอย่าง
I spent all my childhood in Scotland.
ดิฉันใช้ชีวิตตลอดวัยเด็กในประเทศสกอตแลนด์
Regularly every summer, Jenny fell in love.
ทุกๆ ฤดูร้อน เจนนีตกอยู่ในความรัก

3. ถ้าในประโยคมีคำว่า when และมีรูปกริยาเป็นอดิต (past simple form) ทั้งสอง clauses จะถือว่าการกระทำใน when clause เกิดขึ้นก่อน
ตัวอย่าง
I Stood under a tree when it began to rain.
ผมยืนอยู่ใต้ต้นไม้เมื่อตอนฝนตก
When she heard a strange noise, she got up to investigate.
เมื่อเธอได้ยินเสียงแปลกๆ เธอได้ลุกขึ้นจากที่นอนไปตรวจดู
When I dropped my cup, the coffee spilled on my lap.
เมื่อผมทำแก้วหล่น กาแฟได้ราดลงบนหน้าตักของผม

4. ใช้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เช่น เล่าเรื่องในอดีต
ตัวอย่าง
Once upon a time there was a beautiful princess who lived
with her father. One day the king decided
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าหญิงผู้เลอโฉมองค์หนึ่งอาศัยอยู่กับพระ ราชบิดา วันหนึ่งกษัตริย์ได้ตัดสินใจ…

ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 35,744 times, 1 visits today)


#MeijiEnglish Regular verbs คำกริยาปกติ เข้าใจได้ภายใน 3 นาที


อย่าลืมติดตามช่อง meiji english ด้วยนะครับลิงค์อยู่ที่นี้ https://www.youtube.com/channel/UCwJsAnmJHTaH38bt86sBgQ?view_as=subscriber
สามารถติดตามเพจ facebook ได้ที่นี้ https://web.facebook.com/MeijiEnglish114776836950494/?modal=admin_todo_tour
facebook: kochakorn Na narong
ดูให้จบนะครับ 👏
👏👏👏😃😃😃💕💕💕💖💖💖👍👍👍😎😎😎
…………………………………………………………………………………………………………………
สำหรับวันนี้อย่าลืม กดไลค์ กดเเชร์ กดติดตาม ให้ด้วยนะค่ะ เเละอย่าลืมกดกระดิ่งเพื่อไม่ให้พลาดคลิปใหม่ กดเลยๆ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

#MeijiEnglish  Regular verbs คำกริยาปกติ เข้าใจได้ภายใน 3 นาที

Regular \u0026 Irregular Verb (กริยาปกติ \u0026 อปกติ) EP.1


Regular \u0026 Irregular Verb (กริยาปกติ \u0026 อปกติ) EP.1

Past Simple Tense (กริยาปกติ) EP.3


Past Simple Tense (กริยาปกติ) EP.3

กริยา 3 ช่อง Regular verbs เติม ed (กริยาปกติ)


กริยา 3 ช่อง Regular verbs ( กริยาปกติ) เปลี่ยนรูปจาก V.1 เป็น V.2 และ V.3 โดยการเติม ed แล้วจะอ่านออกเสียงอย่างไร มาฝึกกันครับ
วีดิโอการสอนนี้ขอบคุณ เพลงเมาคลี จาก คณะลูกเสือคุณครูโสภณ ด้วยครับ

กริยา 3 ช่อง Regular verbs เติม ed (กริยาปกติ)

กริยาสามช่องท่องง่ายมากๆ Irregular verb


How to remember Irregular verb กริยาสามช่องท่องง่ายๆ

กริยาสามช่องท่องง่ายมากๆ  Irregular verb

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ กริยา ปกติ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *