Skip to content
Home » [NEW] เทคนิคการเรียน Programming ให้เร็วและมีประสิทธิภาพ | เวลาทําให้เรียนรู้ – NATAVIGUIDES

[NEW] เทคนิคการเรียน Programming ให้เร็วและมีประสิทธิภาพ | เวลาทําให้เรียนรู้ – NATAVIGUIDES

เวลาทําให้เรียนรู้: คุณกำลังดูกระทู้

สวัสดีครับ วันนี้มาคุยกันถึงหัวข้อเบาๆ กันบ้าง มันเป็นเรื่องของเทคนิคที่ผมใช้เวลาต้องการเรียนภาษาหรือเฟรมเวิร์คใหม่สำหรับการเขียนโปรแกรม การอยู่ในสายคอมพิวเตอร์นั้นมีความจำเป็นที่จะต้องติดตามเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้นเรายังต้องเดิมพันด้วยว่าควรจะเลือกจับเทคโนโลยีตัวไหนมาทำมาเป็นคู่ชีวิต เพราะถ้าเลือกผิดตัวศึกษาไปแล้วดันไม่เกิด ก็เหมือนเสียเวลาเรียนฟรี เอามาใช้ทำมาหากินไม่ได้ หรือไม่ก็สร้างทีมไม่ได้ อย่างไรก็ดี ยังไงเราก็ต้องศึกษาสิ่งที่ออกมาใหม่บ้างอยู่ดี คำถามคือแล้วทำอย่างไรเราถึงจะเป็นผู้รู้เทคโนโลยีหลายๆ ตัวให้ได้เร็วและมีประสิทธิภาพ วันนี้ผมจะขอเล่าถึงเทคนิคที่ผมใช้มาเป็นเวลานมนานเพื่อให้สามารถศึกษาทั้งแต่ ภาษา เฟรมเวิร์ค ไปจนถึงเครื่องมือต่างๆ ได้ในเวลาอันสั้น

ถ้าใครอยู่ในวงการ Software Development น่าจะจำช่วงปี 2012-2016 กันได้ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีเครื่องมือใหม่ๆ ออกมากันเพียบ ทั้ง Android, iOS ที่กำลังรุ่งเรือง แล้วที่ร้ายที่สุดวงการ Web Dev ที่มีทั้ง NodeJS, AngularJS, React, VueJS (ยังไม่นับฝั่ง CSS อีกนะ) ออกมากันให้พรึบ จากนั้นก็เป็นยุคของ Big Data ส่วนตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา วันๆ ได้ยินแต่ Hadoop กับ Spark มายุคนี้ก็ AI กับ Blockchain กันทั้งเมือง ซึ่งมันก็เป็นธรรมดาที่เวลามีเทคโนโลยีที่หวูหวาดูมีอนาคตออกมาในวงการ มีคนให้ความสนใจ ก็จะมีคนช่วยกันพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาต่อยอด ส่วนโปรแกรมเมอร์น้อยประสบการณ์อย่างเราก็ต้องเลือกเส้นทางละว่าจะเลือกเรียนอะไรดีเพื่ออนาคต ผมไม่แน่ใจว่าเพื่อนๆ เลือกกันยังไง แต่สำหรับผม ผมเลือกเรียนแบบพื้นๆ มันทุกตัว เพื่อที่ว่าอย่างน้อยเราจะได้พอรู้ข้อดีข้อด้อยของแต่ละตัว เวลาเจองานเข้ามาจะได้เลือกใช้งานได้เหมาะสม แต่พอจะเลือกทุกตัว ก็มีข้อจำกัดเรื่องเวลาและพลังงาน ซึ่งการเรียนเทคโนโลยีเพื่อให้รู้จักและใช้เป็นนั้น ไม่ได้จำเป็นต้องไปรู้ลึกซะจนเป็น Guru ตอบได้ทุกเรื่อง แต่เราเลือกเรียนเพื่อให้ตอบว่าควรจะเลือกใช้อะไรในสถาการณ์ไหน แล้วจะต่อยอดยังไงก็พอ แล้วนานๆ ีก็เลือกมาสักตัวที่ถูกใจเอามาใช้เป็นคู่ชีวิตไว้ทำมาหากิน

The S-shaped Learning Curve

โดยทั่วไปนั้น การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มักจะมีรูปแบบ Learning Curve ที่คล้ายกัน เราเรียกมันว่า S-shaped learning curve ซึ่งหน้าตาก็จะกราฟข้างล่างนี่

สิ่งที่กราฟนี้บอกมีดังนี้ แกนนอนบอกถึงปริมาณความพยายามที่ใช้ในการเรียนรู้ ส่วนแกนตั้งบอกถึงผลลัพธ์หรือประสิทธิภาพที่ได้จากการเรียนรู้ ในช่วงต้น การเรียนรู้ในช่วงต้นจะใช้เวลาลองผิดลองถูกค่อนข้างนาน แต่ดันไม่ได้ผลลัพธ์มากนัก แต่พอได้เรียนรู้ได้ทดลองจนเข้าใจพื้นฐานแล้ว ก็จะสามารถศึกษาต่อยอดไปได้อย่างรวดเร็ว จนถึงช่วงสุดท้ายที่รู้ค่อนข้างลึกแล้ว ความเร็วในการเรียนรู้ก็จะลดกลับลงมา

ดังนั้นถ้าสังเกตดูให้ดีก็จะเห็นว่า เราจะต้องทำยังไงก็ได้ให้เข้าสู่ช่วงของ Steep acceleration ให้เร็วที่สุด ซึ่งสำหรับผมมีเทคนิคการจัดการกับมันดังนี้

มองมุมกว้างให้ทั่วก่อนจึงตัดสินใจออกเดินทาง

การเริ่มทำอะไรโดยไม่ศึกษาภาพรวมให้ดีก่อน ก็เหมือนการสุ่มสี่สุ่มห้าเดินเข้าไปในวนกต กว่าจะจับทางได้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ก็ตามไม่ทันคนอื่นเขาเสียแล้ว

ก่อนจะเริ่มศึกษาอะไรทั้งปวง ผมจะเริ่มจากการศึกษาว่า เทคโนโลยีทุกวันนี้มีตัวไหนน่าสนใจบ้าง ซึ่งก็สามารถดูได้จากเว็บข่าว หรือ Community ของเหล่านักพัฒนาว่าเขากำลังพูดถึงอะไรกัน ติดตามอ่านข่าวสารให้เป็นเรื่องเป็นราว สำหรับเด็กๆ อย่างน้อยที่สุดก็ควรอ่าน https://www.blognone.com อย่างสม่ำเสมอ พอโตขึ้นมาหน่อยค่อยเข้าเว็บ Community ต่างชาติบ้าง พอเห็นเขาเริ่มพูดถึงอะไรกันระดับหนึ่ง ก็ควรเริ่มไปเปิดดูว่า มันคืออะไร ใช้ทำอะไร มีดีอะไรคนถึงหันมาใช้กัน อ่านรีวิว อ่านบทวิจารณ์ เปรียบเทียบกับเทคโนโลยีใกล้เคียงกันให้เยอะ ดูการเปรียบเทียบกับตัวอื่นๆ เพื่อให้เข้าใจพื้นฐานของเทคโนโลยีดังกล่าว ให้พอจินตนาการภาพของการเอามันไปประยุกต์ใช้งานได้ สำหรับขั้นตอนนี้ผมอยากให้ทุกคนทำให้ได้กับทุกอย่างที่ผ่านเข้ามา เห็นอะไรโผล่เข้ามาไม่รู้จัก เปิด Google เลย ค่อยๆ ศึกษาไปวันละเล็กวันละน้อย แล้วเราจะได้รู้ว่ามีสิ่งนี้ให้เลือกนะในเวลาที่จำเป็นต้องใช้

เริ่มเรียนรู้จากสื่อที่ถูกจริตกับเรา

การได้พบอาจารย์ที่ดีนั้นช่วยทุ่นเวลาไปได้มาก ดังนั้นควรหาและเลือกเรียนกับอาจารย์ที่ถูกจริตกับเราให้ได้

เมื่อได้เห็นว่าสิ่งใดกำลังจะมาแน่ๆ ต้องลงทุนแล้ว ก็ต้องลงมือศึกษาอย่างจริงจัง โชคดีที่ยุคนี้โลกของเราเชื่อมถึงกันหมด และมีคุณครูเก่งๆ อยู่บนโลกออนไลน์เยอะมาก สำหรับผม ผมชอบเรียนรู้ผ่านทาง Video มากกว่าอ่านหนังสือ ในช่วงนี้ที่ยังไม่รู้อะไรมาก ผมจะเปิด  YouTube นั่งฟังคนที่อธิบายเก่งเล่าให้ฟัง ซึ่งเป็นธรรมดาที่จะเห็นคนสอนเรื่องเดียวกันอยู่หลายคน ก็ต้องเลือกก่อนว่าจะเรียนรู้จากอาจารย์คนไหนดี โดยเข้าไปฟังสำเนียง เข้าไปฟังวิธีการอธิบายแบบข้ามๆ ก่อน เมื่อเจอคนที่ถูกใจ (พยายามเลือกคนที่ลง Code ให้เราเห็นด้วย) ก็เปิดนั่งดูไปเลยยาวๆ ในตอนนี้ยังไม่ต้อง Code ใดๆ ทั้งสิ้น เราจะได้เห็นภาพว่าเวลาเราจะใช้งานจริงมันจะออกมาเป็นแบบไหน นี่เป็นเทคนิคที่ย่นเวลาการเรียนรู้ในตอนต้นไปได้อย่างมหาศาล เพราะถ้าเจอคนที่สอนดี ก็เหมือนโดนเกาตรงจุดที่คัน เราจะเข้าใจ Concept พื้นฐานได้อย่างไว ไปจนถึงได้จินตนาการเห็นตัวเองกำลังนั่งเขียน Code แล้วบ้างในบางส่วน

ลงมือทำตามที่เพิ่งได้เรียนรู้มาตามอาจารย์

แค่ดูอย่างเดียวย่อมไม่พอ ต้องลงมือทำด้วย มันต้องเจ็บ ถึงจะจำได้

ขั้นต่อมาเป็นช่วงของการลงมือทำ หลังจากดู Video ไปจนถึงจุดที่คันไม้คันมือ ทนไม่ไหวอยากจะลงมือแล้ว ก็หยุด ไม่ต้องดูต่อแล้ว ให้เริ่มทำโปรเจกต์เดียวกับที่เขาสอน ทำโดยที่ไม่เปิด Video ไปทำไป แต่ให้ทำคู่ไปกับ Official Document จะได้ศึกษาการอ่าน Doc ไปในตัวด้วย ถ้าตั้งใจดู Video มาดี ควรจะพอจำได้ว่าเขาเริ่มต้นยังไง แล้วพอเห็น Doc ก็จะนึกออกว่า อ่อ เราจะต้องทำตรงนี้นะ ก็ค่อยๆ วางโครงแบบงูๆ ปลาๆ เท่าที่จำได้ไป ถ้าตรงไหนติดจริงๆ ก็ไป Seek ดู Video เอาเฉพาะตรงที่ติด แล้วระหว่างดูอย่าไป Code ตาม ให้จำให้ได้ว่าเขามีวิธีคิดยังไงในการทำตรงที่เราติดอยู่ จนเข้าใจแล้วก็กลับมาลงมือทำของตัวเอง จนกระทั่งเริ่มคุ้นมือกับสิ่งที่กำลังเรียนอยู่ สามารถขึ้นโปรเจกต์ใหม่ เขียนอะไรพื้นฐานขึ้นมาเองได้ ก็พอแล้วสำหรับเฟสนี้

สร้างชิ้นงานของตัวเองขึ้นมาใหม่จากศูนย์

การลงมือทำของจริง จะช่วยให้เราได้เจอปัญหาที่ไม่เคยเจอในตำรา ให้ได้คิด ได้แก้ เพื่อพัฒนาทักษะความรู้ที่ยั่งยืน

ต่อมาเป็นช่วงของการสร้างชิ้นงานชิ้นแรกของตัวเองตั้งแต่ต้น ผมมีความเชื่อว่า อย่าเพิ่งคุยว่าเราเขียนภาษาอะไร หรือใช้เฟรมเวิร์คตัวไหนเป็น จนกว่าจะได้เริ่มทำกับโปรเจกต์จริงๆ ให้สำเร็จสักชิ้นเสียก่อน ซึ่งแต่ละสิ่งที่เราเรียนนั้นก็ต้องทำโปรเจกต์ที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น ถ้าเรียนสิ่งที่เป็น Backend ก็อาจจะทำโปรเจกต์อะไรที่เกี่ยวกับฝั่งติดต่อ DB เช่น ทำ Webboard แต่ถ้ากำลังเรียนฝั่ง Frontend ก็อาจจะลองทำเครื่องคิดเลข หรือศึกษาอะไรที่มัน Real-time Interactive หน่อย เช่น Web socket ก็อาจจะลองทำห้องแชทง่อยๆ ดู ซึ่งก็ต้องลองเลือกดูครับว่าสิ่งที่เรียนนั้นเหมาะกับโปรเจกต์แนวไหน ผมมองว่าถ้าเกิดได้ศึกษามาดีตั้งแต่ขั้นตอนแรก จะเห็นภาพแน่นอนว่าควรทำโปรเจกต์อะไรดี จากนั้นก็ลงมือเลยครับ อาจารย์คนสำคัญสำหรับเฟสนี้ก็จะเป็น Google และ StackOverflow ซึ่งเราจำเป็นจะต้องเลือก Keyword ในการค้นหาสิ่งที่ติดอยู่ต่างๆ ให้ถูกต้อง เวลาที่เรากำลังทดลองทำโปรเจกต์กับเครื่องมือที่เพิ่งเรียนรู้ใหม่ครั้งแรกเนี่ย มันจะมีคำถามเยอะแยะไปหมดว่า จะทำอย่างนี้ บนเจ้านี่ จะต้องทำอย่างไร ไม่ว่าจะเป็น การ substring การหา index ของ element ที่ต้องการใน array การบันทึกการอ่านข้อมูลจาก DB ซึ่งก็จะได้คำตอบจากการไปค้นใน Google เนี่ยแหละ ก็ค่อยๆ ทำ ค่อยแคะกันไป จนกระทั้งสำเร็จได้โปรเจกต์เล็กๆ ออกมาพอใช้งานได้ชิ้นแรก ก็น่าจะพอมีความมั่นใจในการทำโปรเจกต์ต่อไปแล้วแหละ ถ้าให้เทียบกับกราฟแล้ว ตอนนี้ก็จะมาอยู่ประมาณช่วง Steep acceleration แล้ว ที่รู้แล้วว่า เครื่องมือที่ศึกษามานั้นมีอะไรให้ใช้งานบ้าง และยิ่งเปิดโปรเจกต์เพิ่ม ก็จะยิ่งได้เรียนรู้และมีความมั่นใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

โดยปรกติแล้วกระบวนการเริ่มลงมือดู Video ไปจนถึงสร้างโปรเจกต์แรกสำเร็จ ผมจะใช้เวลาอยู่ประมาณ 16 ชั่วโมง ซึ่งผมมักจะทำเรื่องพวกนี้ตอนวันหยุดยาวนั่นเอง เมืองไทยนี้วันหยุดเยอะ ทั้งสงกรานต์ ทั้งปีใหม่ เรียนแค่ปีละ 2 ตัว ผ่านไป 5 ปีก็ 10 ตัวแล้ว ยังไม่นับที่ได้เรียนระหว่างปีอีกเยอะแยะ ดังนั้นถ้าจับหลัก หาวิธีการเรียนรู้ไวๆ ได้ ก็จะเป็นคนที่มีความรู้กว้าง บวกกับที่ต้องเจอเทคโนโลยีในที่ทำงาน ก็รับรองได้เลยว่าจะรุ่งเรืองอยู่ในวงการได้อย่างแน่อน

อย่าเพิ่งหยุดเรียนจนกว่าจะพ้น Mt. Stupid

Dunning-kruger effect

การหยุดเรียนระหว่าง Steep Acceleration มักจะปล่อยเราไว้ที่ The peak of Mt. Stupid ทำให้ผู้เรียนรู้สึกฮึกเหิม เพราะก่อนหน้านี้ตอนต้นจะรู้สึกว่ายังทำอะไรไม่ค่อยได้เท่าไหร่ แต่พอเรียนไปเรื่อยๆ ทำโปรเจกต์แรกสำเร็จ ก็จะเริ่มมีความมั่นใจ ทำอันต่อๆ ไปได้อีก ก็จะยิ่งมั่นใจเข้าไปอีก ทำให้อยากออกไปคุยว่าฉันทำไอ้นี่เป็นแล้วนะ แต่มันจะเป็นไปได้ไงที่เราที่เพิ่งทำเสร็จมาไม่กี่โปรเจกต์ ชั่วโมงการทำงานแค่ไม่กี่สิบชั่วโมง มันจะไปรู้เท่าคนที่ใช้งานสิ่งนี้มาเป็นปีได้ สิ่งนี้เรียกว่า Dunning-kruger effect ที่อธิบายว่า คนที่เพิ่งเรียนรู้อะไรไปสักพักจนได้ผลอะไรบางอย่างแล้ว จะมีความรู้สึกว่าฉันรู้ฉันเข้าใจแล้วอย่างจริงจัง แต่ความจริงนั้นยังมีอีกหลายเรื่องที่ยังต้องศึกษาเพิ่มเติมอีก ดังนั้นถ้ารู้สึกตัวว่าอยู่บนยอดเขา (อารมณ์คือรู้สึกมีความมั่นใจว่าทำได้แล้วแหละในครั้งแรก) ก็จงรีบลงมาซะ มาดูว่าจะไปศึกษาให้ลึกลงไปอีกได้จากที่ไหนได้บ้าง ทางหนึ่งที่จะช่วยให้ลงจากเขาได้เร็วที่สุดคือการออกไปคุยกับผู้รู้จริง ให้เขายิง Jargon ใส่ หรือยิงคำถามยากๆ ใส่ หรือไม่ก็ไปอ่าน Code ของคนอื่น โดยเฉพาะตามโปรเจกต์ Open Source ที่ใหญ่ๆ ให้ได้เห็นว่าเทพเขาทำงานกันยังไง ทีเดียวได้ลงจากเขาสมใจอยาก แล้วหลังจากนั้นเราจะได้รู้ว่า จะต้องศึกษาอะไรต่อไปเพื่อให้เป็นผู้รู้จริงในเรื่องนั้นๆ แล้วเราก็จะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน

สรุปสั้นๆ คือเราต้องพยายามผ่านการเรียนรู้ช่วงพื้นฐานไปให้ไวที่สุด โดยอาศัยการเรียนรู้ที่เหมาะกับเรา แล้วต้องลงมือทำจริง เพื่อฝึกมือ ฝึกกล้ามเนื้อสมอง ทำแบบนี้บ่อยเข้าๆ ก็จะติดเป็นนิสัยแล้วจะกลายเป็นคนที่รู้จักและใช้เครื่องมือต่างๆ เป็นเยอะมาก

สุดท้ายอยากบอกว่า DO IT NOW OR NEVER (จำไม่ได้คำพูดจากใคร) ถ้ามีไอเดีย อยากทดลองอะไร อย่ามัวแต่คิด นับ 1 2 3 แล้วลงมือทำเลย ตั้งโปรเจกต์เปล่าๆ ขึ้นมาก่อนก็ยังดี ไม่อย่างนั้นไอเดียเหล่านั้นก็จะหายไปกับเวลา พลาดโอกาสได้พัฒนาฝีมือ

สำหรับวันนี้ก็ขอจบไว้แต่เพียงเท่านี้ละกันครับ ใครมีคำถามหรือต้องการพูดคุยอะไรก็เขียนกันไว้ที่ช่อง Comment ข้างล่างได้เลยครับ แล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ

[NEW] 50 สุดยอดคำคม ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ‘ด้านการเรียน’ | เวลาทําให้เรียนรู้ – NATAVIGUIDES

นักเรียน นักศึกษา หรือใครก็ตามที่กำลังมุ่งมั่นศึกษาบางสิ่ง ล้วนย่อมรู้ดีว่าไม่ใช่ทุกคนทีเกิดมาเพื่อสนุกกับการเรียน  บ่อยครั้งเราก็ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการเรียนได้อาจเพราะขี้เกียจ เหนื่อย ไม่มีแรงผลักดันหรือไร้แรงบันดาลใจ และถ้าหากว่าความกดดันจากการเรียนหรือการศึกษากำลังค่อย ๆ กัดกินความสุขและพลังบวกในตัวคุณ เราหวังว่าคำพูดสร้างแรงบันดาลทั้ง 50 คนนี้ จะช่วยให้คุณมีแรงฮึดเพื่อทุ่มเทให้กับการศึกษาเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากขึ้นได้นะ ไปชมกัน!

“ทางเดียวในการเรียนคณิตศาสตร์ก็คือ การฝึกทำโจทย์” — Paul Halmos

“การเดินทาง คือรางวัลอย่างหนึ่ง” — สุภาษิตจีน

“วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคตก็คือ การสร้างมันขึ้นมาเอง” — Abraham Lincoln

“ความสำเร็จคือการก้าวเดินจากความล้มเหลวหนึ่งสู่อีกความล้มเหลวหนึ่ง โดยไม่สูญสิ้นซึ่งแรงศรัทธา” — Winston Churchill

“ความสำเร็จไม่ได้มาจากความบังเอิญ แต่มาจาก ความเสียสละ ขยันหมั่นเพียร ศึกษาเรียนรู้อย่างหนัก และเหนือสิ่งอื่นใด มันมาจากความรักในสิ่งที่กำลังทำหรือเรียนรู้อยู่นั่นเอง” — Pele

“การเพิ่มพูนความรู้เป็นสิ่งที่มีมนต์ขลัง ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาเรียนรู้เรื่องชีวิตบนดาวอังคารหรือการกำเนิดจักรวาล การเรียนรู้แทบจะเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นมนุษย์เลยก็ว่าได้ และฉันก็เชื่อว่ามันจะยังคงดำเนินต่อไป” — Sally Ride

“อุปสรรคขวากหนามในชีวิตจริงย่อมมีหนทางเอาชนะ มีเพียงสิ่งที่อยู่ในจินตนาการเท่านั้นที่ไม่อาจเอาชนะได้” — Theodore N. Vail

“บรรดาผู้ประสบความสำเร็จมักจะมีแรงโมเมนตัมในตัว ยิ่งพวกเขาสำเร็จมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งอยากสำเร็จมากขึ้น แล้วก็จะหาหนทางไปสู่ความสำเร็จมากขึ้นด้วย เช่นเดียวกัน คนที่ล้มเหลว ก็มักหดหู่กับมันจนส่งผลให้ล้มเหลวต่อไปเรื่อยๆ” — Tony Robbins

“ผู้คนมักพูดว่าแรงผลักดันไม่ใช่สิ่งที่ยั่งยืน แต่มันเปรียบเหมือนกับการอาบน้ำนั่นแหละ เราถึงอยากให้คุณสร้างมันขึ้นใหม่ทุกวันไงล่ะ” — Zig Ziglar

“ความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคนเราไม่ควรมีต่อความล้มเหลว แต่ควรมีต่อความสำเร็จในเรื่องที่ไม่ได้สำคัญกับชีวิตจริงๆ” — Francis Chan

“จงผลัดวันประกันพรุ่งแต่ในเรื่องที่คุณจะไม่เสียดาย หากว่าตายไปโดยไม่ได้ทำมัน” — Pablo Picasso

“หากคุณมีความสุขกับสิ่งใดที่ทำ ผลกำไรจะตามมา หรือว่ากันง่าย ๆ คือ จงศึกษาสิ่งที่คุณชอบที่สุด” ― William Shakespeare, The Taming of the Shrew

“ไม่มีผลงานชั้นยอดชิ้นใด ที่ถูกสร้างโดยศิลปินผู้เกียจคร้าน” — Anonymous

“แรงผลักดัน คือจุดเริ่มต้น และการทำจนเป็นนิสัย คือสิ่งที่ทำให้คุณไม่หยุดก้าวไปข้างหน้า” — Jim Ryun

“การเรียนรู้เปรียบเหมือนการพายเรือทวนน้ำ การปล่อยใบพายราน้ำไม่อาจทำให้ก้าวหน้าได้” — สุภาษิตจีน

“เรียนรู้จากวันวาน ใช้ชีวิตเพื่อปัจจุบัน มีความหวังสำหรับวันพรุ่งนี้” — Albert Einstein

“การหาคำตอบเป็นหนทางที่ฉลาดกว่าการคาดเดา” — Mark Twain

“เป้าหมายหรือสิ่งที่คุณศึกษาไม่สำคัญเท่ากับว่าคุณได้แบ่งปันอะไรให้ตัวเองและโลกใบนี้บ้าง” — Santosh Kalwar

“นวัตกรรม คือ สิ่งที่แยกผู้นำและผู้ตามออกจากกัน” — Steve Jobs

“จากประสบการณ์ของฉัน แรงผลักดันหนึ่งเดียวในชีวิตเราคือ ความปรารถนา โดยที่ไม่มีเหตุผลหรือหลักการใด ๆ  ที่เป็นต้นตอหรือสามารถต่อกรกับความปรารถนาได้” — Jane Smiley

“หากคุณต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน อย่าไปโฟกัสที่ขนาดของปัญหา แต่ให้โฟกัสที่ศักยภาพของคุณเอง” — T. Harv Eker

“หากคุณมีความฝัน คุณจะมีเวลาอีกเหลือเฟือทั้งชีวิตเพื่อศึกษา วางแผน และเตรียมพร้อมเพื่อมัน ซึ่งสิ่งที่คุณควรทำตอนนี้คือ เริ่มลงมือทำ” — Drew Houston

“หากการศึกษาเป็นเพียงการรวบรวมข้อมูล สารานุกรมทั้งหลายคงกลายเป็นนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกไปแล้ว” — Abhijit Naskar

“ข้าพเจ้าพบว่า ยิ่งข้าพเจ้าทำงานหนักเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนว่าโชคจะเข้าข้างข้าพเจ้ามากขึ้นเท่านั้น” — Thomas Jefferson

“ประสบการณ์ คือครูที่โหดหินมากที่สุด แต่คุณก็ได้เรียนรู้จากมันจริงๆ” — C.S. Lewis

“ต่อให้คุณอยู่บนเส้นทางที่ใช่แล้ว คุณก็อาจโดนชนได้ ถ้ายังเอาแต่นั่งอยู่เฉยๆ” — Will Rogers

“การศึกษาคือสิ่งที่เหลือรอดเมื่อสิ่งที่เคยได้เรียนรู้ถูกหลงลืมจนหมดสิ้น” — B. F. Skinner

“การศึกษาเปิดโอกาสให้มนุษย์ได้ใช้ศักยภาพทางกายและใจอย่างเต็มที่ ทั้งกับชีวิตส่วนตัวและชีวิตในสังคม”— Abhijit Naskar

“จงทำสิ่งที่คุณกลัวหนึ่งอย่างในทุก ๆ วัน” — Anonymous

“อย่าเอาแต่รอคอยให้สิ่งต่าง ๆ พร้อมถึงจะลงมือทำ แต่จงลงมือทำตั้งแต่ยังที่ไม่พร้อม” — William Butler Yeats

“จะอยู่กับความทรมาน หรือจะผลักดันตัวเอง มันก็อยู่ที่ตัวคุณเองว่าจะเลือกทำอะไร” — Wayne Dyer

“จงทำตัวเป็นนักเรียนตราบเท่าที่ยังมีสิ่งให้ต้องเรียนรู้ ซึ่งนั่นหมายถึงทั้งชีวิตของคุณ” — Henry L. Doherty

“ความก้าวหน้าทั้งปวง ล้วนเริ่มต้นขึ้นเมื่อคุณได้ก้าวออกจาก Comfort Zone” — Michael John Bobak

“การหาความรู้ คือความพยายามที่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด” — Eraldo Banovac

“ในชีวิตจริง ไม่มีที่สองหรอก ถ้าคุณไม่ชนะก็แพ้เท่านั้นแหละ” — Anonymous

“จงตื่นขึ้นมาในทุกเช้าอย่างมีจุดหมาย หากว่าคุณอยากเข้านอนอย่างพึงพอใจ” — George Lorimer

“คุณอาจต้องต่อสู้ในสมรภูมิหนึ่งซ้ำแล้วซ้ำเล่ากว่าจะได้มาซึ่งชัยชนะ” — Margaret Thatcher

“หากไม่มีคณิตศาสตร์ คุณก็ทำอะไรไม่ได้ ทุกสิ่งรอบตัวคุณคือคณิตศาตร์ ทุกสิ่งรอบตัวคุณคือตัวเลข” — Shakuntala Devi

“ในช่วงไฟนอลที่คุณต้องอ่านหนังสือวันละกว่าห้าชั่วโมงติด ๆ มีสามสิ่งที่คุณต้องมีเพื่อจะผ่านพ้นไปได้ นั่นคือ สเลอร์ปี้โค้กแก้วที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะหาได้ ชุดนอนเก่าที่ซักแล้วซักอีกจนผ้าบางราวกับกระดาษทิชชู่ และสุดท้าย การพักเบรคเพื่อเต้นปลดปล่อยบ่อย ๆ ยังไงล่ะ” — Jenny Han

“ไม่ว่าท่านจะฝันอยากทำอะไร ให้ลงมือเสีย ความกล้าหาญนั้น มีความอัจฉริยะ พลัง และมนตราซ่อนอยู่ภายใน จงเริ่มเสียตั้งแต่บัดนี้”— Goethe

“บ่อยครั้ง สิ่งที่ดูเหมือนบททดสอบอันขมขื่น แท้จริงแล้วมักเป็นพรที่แฝงกายมา” — Oscar Wilde

“เราทำในสิ่งที่ต้องทำเพื่อจะได้ทำในสิ่งที่อยากทำ” — James Farmer

“อย่าพยายามเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ แต่จงพยายามเป็นคนที่เปี่ยมไปด้วยคุณค่า” — Albert Einstein

“จงเชื่อเพราะคุณเต็มใจที่จะรับความเสี่ยง ไม่ใช่เพราะมันปลอดภัยหรือแน่นอน” — Anonymous

“ผู้ใดต้องการหาความรู้ เขาจะต้องศึกษา แต่หากผู้ใดอยากมีปัญญา เขาผู้นั้นจะต้องคอยสังเกตการณ์” — Marilyn Vos Savant

“นักรบผู้กำชัยชนะ ก็คือคนธรรมดา ๆ ที่มีความมุ่งมั่นแน่วแน่อย่างไม่ธรรมดา” — Bruce Lee

“การศึกษาคณิตศาสตร์ก็เหมือนเส้นสายของแม่น้ำไนล์ ที่ก่อกำเนิดจากจุดเล็ก ๆ แต่ทอดยาวไปสุดสายอย่างสง่างาม” — Charles Caleb Colton

“เหตุผลที่คนส่วนใหญ่ไปไม่ถึงเป้าหมายก็เพราะพวกเขาไม่เคยมานั่งวิเคราะห์มันจริง ๆ จัง ๆ ว่ามีอะไรที่เป็นไปได้จริงบ้าง เหล่าผู้ชนะบอกได้เสมอว่าพวกเขากำลังจะมุ่งหน้าไปทิศใด จะทำอะไรบ้างระหว่างทาง และมีใครบ้างที่จะแบ่งปันหนทางการผจญภัยนี้ร่วมกันกับพวกเขา”
— Denis Watiley

“จุดประสงค์ของการเรียนรู้คือ การเติบโต และจิตใจคนเราก็สามารถเติบโตได้เสมอ ตราบเท่าที่เรายังมีชีวิต” — Mortimer Adler

“ประเด็นก็คือ การศึกษาแท้จริงแล้วเป็นพื้นฐานของความพยายามของมวลมนุษย์ เป็นสิ่งที่ทรงเกียรติที่สุดในอารยธรรมจากจิตสำนึกมนุษย์ การศึกษาทำให้มนุษย์ดึงศักยภาพสูงสุดของตนทั้งทางกายและใจออกมาใช้ได้ ทั้งในเรื่องส่วนตัวและสังคม ความสามารถในการเรียนรู้จึงเป็นสิ่งที่แบ่งแยกมนุษย์ออกจากสัตว์ ซึ่งคุณอาจสามารถสอนนกกระตั้วให้พูดคำศัพท์ได้มากมาย แต่คุณไม่อาจสอนให้มันสร้างยานอวกาศแล้วเดินทางไปดวงจันทร์ได้หรอก” — Abhijit Naskar

 

Source : Inspiringtips


Helmetheads – อันเฟรนด์ (Unfriend) | (OFFICIAL MV)


SINGLE : Unfriend (อันเฟรนด์)
ARTIST : HELMETHEADS
LABEL : SPICYDISC
Digital Download : โทร 491544 27
iTunes \u0026 Apple Music : https://apple.co/2RaRqPN
LINE MUSIC : https://lin.ee/d2WlOlp
KKBOX : http://bit.ly/1ikGcEy
Deezer : http://bit.ly/20bSykk
หลังจาก 4 หนุ่ม “Helmetheads” ได้สร้างกระแสผ่านบทเพลงแอพพลิเคชั่นแห่งปี อย่าง “INSTAGRAM” จนฮิตติดทุกชาร์ท! กันมาแล้ว
ครั้งนี้พวกเขาขอตอกย้ำทุกคนด้วยเพลงเศร้า เอาใจชาว Social อีกครั้ง !!! กับความสัมพันธ์ที่ได้ถูก “Unfriend” ลง
ทำให้สำนึกผิดกับการกระทำของตัวเอง และอยากขอโอกาส…เพื่อให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม
โดยพวกเขาต้องการสะท้อน อีกแง่มุมของสังคมสมัยนี้ ที่มักใช้อารมณ์แค่ชั่ววูบ บอกลาความสัมพันธ์กันอย่างง่ายดาย เหมือนแค่กดปุ่ม “Unfriend”
ในพาร์ทของของเนื้อร้องและทำนองยังได้ เป้ วง Mild มาช่วย รวมทั้งทางวงได้เพิ่มความเป็น Rock เข้าไป
บวกกับดีไซน์ไลน์กีต้าร์ เบส และกลองให้มีความแตกต่างไปจากเดิม
จุดเด่นคือการร้องประสาน เน้นถ่ายทอดอารมณ์ ทำให้ฟังแล้วเข้าถึงความเจ็บที่ทนไม่ไหว โหยหาความรักที่จากไป…..
CREDIT
Produce: Mild
Director : Nutt Helmetheads
Producer : Chanya Patumwat
DOP : Pakorn Saneewong Na Ayudhya
DOP : Marc Dimitrov
Stylish : Jink Sridumrongruk
Writer : Nutt Helmetheads
Co Writer : Chanya Patumwat
Editor : Nutt Helmetheads
เนื้อร้อง : Jink Sridumrongruk / MildVocaList
ทำนอง : Jink Sridumrongruk / MildVocaList
เรียบเรียง : Helmetheads / HoH Music Production
Music Video by LEGEND Enterprise (0868290007)
Association with Thamdee Production
LYRIC
เก็บรักที่เพิ่งพ้นไป เก็บใจที่เพิ่งพ้นมา บอกลาแล้ววันเก่า
เหลือแค่เพียงน้ำตา กับแผลที่เธอให้มา วันนี้ช่างเงียบเหงา
เพราะเมื่อฉันได้รู้ในวันนี้ อ่านข้อความสุดท้ายให้ฉันหยุดเสียที
พอเถอะนะมันทรมาณ อยากให้รักของเรา จบตรงนี้
ขอโทษ ขอโทษที่ทำเธอเสียใจ
ฉันทำผิดไปแล้วจริงจริง ฉันทำพลาดไป ก็ไม่รู้จะทำยังไงให้กลับมา
ความรู้สึกของเธอ เจ็บเกินจะเยียวยา
ฉันเองเป็นคนผิด ทำให้เสียน้ำตา
อาจจะเสียเวลา แต่หากมันย้อนคืนเธอกลับมา ฉันยอม
รักฉันยังอยู่ แต่ไม่รู้เธอต้องการไหม
ขอให้เธออยู่ แต่ไม่รู้เธอจะไปไหม
กลัวฉันกลัวเหลือเกิน กลัวว่าวันหนึ่งเธอจะทิ้งฉันไป
หัวใจ อยู่ไม่ไหวจริงจริง
ที่ทำร้ายใจเธอมานาน อยากจะชดใช้มัน จากวันนี้
()()()
FOLLOW US
IG : @SPICYDISC
@helmetheadsband
https://www.spicydisc.com
https://fb.com/Spicydiscrecord
https://www.facebook.com/helmetheadsband
ติดต่องานโชว์ศิลปิน
คุณแจ๋ว : 0949666262
คุณปอ : 0813716118
ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์
โทร : 0226450915 ต่อ 116 117

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Helmetheads - อันเฟรนด์ (Unfriend) | (OFFICIAL MV)

ไม่เคย – 25hours「Official MV」


MV ไม่เคย
25hours
available on iTunes: https://itun.es/i6Lw7sC
New Single 2015
genie records
http://www.fb.com/25hoursband
Instagram @25hoursband
http://www.genierecords.com
25hours
สมพล รุ่งพาณิชย์ (แหลม) – ร้องนำ
ประทีป สิริอิสสระนันท์ (โฟว์) – กีต้าร์
ปิยวัฒน์ มีเครือ (ปู๋ว) – กีต้าร์
เอกศิริ กำบังภัย (บัง) – เบส
กฤตพงศ์ สกุลนามอเนก (จ๊อบ) – กลอง

คำร้อง: ปิยวัฒน์ มีเครือ
ทำนอง: สมพล รุ่งพานิชย์
เรียบเรียง: 25hours
ฉันไม่เคยรู้ คนที่สำคัญ นั้นมีค่าแค่ไหน
ฉันไม่เคยรู้ วันที่สวยงาม นั้นมีค่าเท่าไร
ไม่เคยรู้เวลาที่เรามีกัน นั้นดีเท่าไร
ไม่เคยรู้ว่าความคิดถึงมันทรมานแค่ไหน
ไม่เคย ไม่เคย ไม่เคย
เราจะคิดถึง คนที่สำคัญ เมื่อต้องจากกันไป
เราจะคิดถึง วันที่สวยงาม เมื่อเวลาผ่านไป
จะคิดถึงเวลาที่เรามีกัน เมื่อเธอต้องไป
และตอนนี้รู้ไหม ว่าฉันคิดถึงเธอมากแค่ไหน
ไม่เคย ไม่เคย จะลืม

Produced by Montonn Jira \u0026 25hours
Recorded at Samutprakarn sound
happy hippo studio
Engineered ,Sound designed and Digital edited by Montonn Jira
Mixed by Alonzo vargas ,NYC
Mastered by Joe Laporta at Sterling Sound, NYC

♪ Download on iTunes : $0.69 Buy https://itun.es/i6Lw7sC
♪ KKBOX Music : http://kkbox.fm/Sd0HqO
♪ Digital download : กด 123 1042189 3 โทรออก
▶ genie|merch : http://www.geniemerch.com

ไม่เคย - 25hours「Official MV」

เจ็บที่ต้องรู้ – The Mousses「Official MV」


MV เจ็บที่ต้องรู้
The Mousses
available on iTunes: https://itun.es/th/Yn9w7
genie records
\”เจ็บที่ต้องรู้\” การกลับมาอีกครั้งของ The mousses กับเพลงช้าในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน
ห่างหายจากเพลงช้าไป The mousses กับ single ล่าสุด\”เจ็บที่ต้องรู้\” เพลงช้าเรียบง่ายได้แสดงถึงการเติบโตของวงได้เป็นอย่างดี เนื้อหาพูดถึงความรักที่ไม่สมหวัง กับความเจ็บปวด เมื่อต้องรับรู้ว่าคนรักของเรา ไม่ใช่คนของเราอีกต่อไป
ในด้านของภาคดนตรี ให้ความสำคัญในการเรียบเรียงและอารมณ์ของการถ่ายทอดมากเป็นพิเศษ ดนตรีให้น้ำหนักกับซาวน์ดีไซด์ของการจัดวางแต่ละเครื่องแต่ละชิ้น เพื่อให้ได้ความเหงาและล่องลอย แม้จะโดนทอนส่วนของไลน์ต่างๆออกไปมากกว่าผลงานที่ผ่านมา แต่ก็ยังให้ความรู้สึกครบถ้วนเช่นเดียวกัน แนวความคิดโดยรวมของเพลงคือทำน้อยให้รู้สึกได้มากที่สุดนั่นเอ
http://www.fb.com/TheMousses | http://www.genierecords.com
Instagram @The_Mousses

คำร้อง/ทำนอง : อธิศ อมรเวช / แอร์ ลิ่มสกุล / ปัณฑพล ประสารราชกิจ / โยธกานต์ ถาวงศ์
เรียบเรียง : The Mousses
The Mousses
แอร์ ลิ่มสกุล ( AiR ) Lead Vocal,Guitar
อธิศ อมรเวช ( Mrja ) Guitar
ศรัณย์ ยิ่งเจริญ ( Bazdude ) Bass
ศุภโชค เตือนจิตต์ ( Taro ) Drums
อริชญย์ ภาณุเวศย์ ( Guarin ) Piano,Synthesizers
Produced by ดนัย ธงสินธุศักดิ์ และ ปัณฑพล ประสารราชกิจ
CoProduced by แอร์ ลิ่มสกุล / อริชญย์ ภาณุเวศย์
Engineered by นันทกรณ์ มณีมาศ , ปริวรรษ บุญเสริม
Vocal Directed and Chorus by ทีฆทัศน์ ทวิอารยกุล
Mixed and Mastered by คมกริช พรตระกูล
Vocal by แอร์ ลิ่มสกุล
Guitars by อธิศ อมรเวช
Basses by ศรัณย์ ยิ่งเจริญ
Drums and Percussion by ศุภโชค เตือนจิตต์
Piano and Synthesizers by อริชญย์ ภาณุเวศย์

♪ Download on iTunes : $0.69 Buy https://itun.es/th/Yn9w7
♪ KKBOX Music : http://kkbox.fm/Rd0fSj
♪ Digital download : กด 123 1042116 3

เจ็บที่ต้องรู้ - The Mousses「Official MV」

[MV] COCKTAIL – เธอทำให้ฉันเสียใจ


MV เธอทำให้ฉันเสียใจ\r
Cocktail\r
genie records 2011\r
\r
http://www.facebook.com/cheerscocktail | http://www.cheerscocktail.com/\r
\r
วงดนตรีน้องใหม่ล่าสุดของค่าย genie records ถึงจะเป็นวงล่าสุดที่เข้ามาที่ genie records และเป็นค่ายแรกของวง COCKTAIL แต่การเดินทางของ COCKTAIL ใช้เวลาเดินทางมากว่า 8 ปี พกความมีสไตล์ด้วยดนตรี Classic Rock ที่ทำให้ภาคดนตรีสวยงาม เมื่อหลับตาฟังสามารถสัมผัสได้ถึงจินตนาการ ของภาพที่สอดคล้องกับบทเพลง …\r
\r
เพลง \”เธอทำให้ฉันเสียใจ\”\r
\r
เธอบอกกับฉันว่าตัวเธอจะรัก ไม่ว่านานเท่าไรรักของเราจะยังตรึงใจ ไม่ว่านานเท่าไร\r
ใจเอ๋ยใจ จะยังคงเป็นเหมือนเดิม\r
แต่เธอกลับมาทิ้งให้ตัวฉันต้องเหงา เธอลืมความรักเรา เมื่อตัวเธอมีเขาข้างกาย\r
รักของเราเธอหน่าย เธอลืมมันง่ายดาย\r
\r
เธอทำให้ฉันเสียใจ….\r
\r
เธอทำให้ฉันร้อนรน ทำให้ฉันทุกข์ระทม งมงาย\r
เธอทำให้ฉันร้องไห้ ทำชีวิตฉันพังทลาย ทำให้ความรักของฉันมันตาย จากใจ\r
\r
จำยังคงจำภาพเธอจนวันนี้ ผ่านไปนานนับปีรักของเรายิ่งจางลงไป\r
เธอลืมแล้วทุกสิ่ง เธอลืมหมดแล้วจริงๆ หรือเธอเพียงทิ้งให้ฉันเสียใจ\r
/\r
(รัก ฉันรักเธอมากเพียงไหน บอกรักเธอมากเท่าไร\r
ไม่อาจจะทำให้เธอคืนย้อนกลับมาเหมือนเคย เธอทำให้ฉันผิดหวัง ทำให้ฉันเจ็บช้ำ เธอทำฉันเสียใจ)\r
\r
\r
Produced and Mixed by ดนัย ธงสินธุศักดิ์\r
Music Produced by ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย และ อายุ จารุบูรณะ\r
Lyric Directed by ปัณฑพล ประสารราชกิจ\r
\r
Music and Lyrics by ปัณฑพล ประสารราชกิจ\r
Edited by ดนัย ธงสินธุศักดิ์\r
Arranged by ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย อายุ จารุบูรณะ ปัณฑพล ประสารราชกิจ\r
\r
Vocal by ปัณฑพล ประสารราชกิจ\r
Guitar , Synthesizer by ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย\r
Drums and Percussions by อายุ จารุบูรณะ\r
Strings arranged by ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย\r
Synthesizer by ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย , อายุ จารุบูรณะ\r
\r
Additional Musicians\r
Bass by เกริกเกียรติ สว่างวงษ์\r
Piano by กรพล ตัณฑนันทน์\r
Violin by สรีวันท์ วาทะวัฒนะ Cello by สมรรถยา วาทะวัฒนะ\r
Chorus by มิกข์ วรนิสรา (Mick Abuse The Youth)\r
\r
Recorded at Axis Studio except Vocal and Synthesizer at Dano Studio Engineered by กรณ์ มหาดำรงค์กุล ,ชวรัตน์ หรรษคุณาฒัย,วิวัฒน์ สว่างวรรณรัตน์,นพัตธร สมัครสโมสร,อายุ จารุบูรณะ

[MV] COCKTAIL - เธอทำให้ฉันเสียใจ

ถึงเวลาต้องเรียนรู้ – Zai [Official MV]


Download this Song on iTunes : http://goo.gl/s0ilz
Digital Download : 123 1033663 3
ชื่อเพลง : ถึงเวลาต้องเรียนรู้
ศิลปิน : Zai
คำร้อง : วรัชยา พรหมสถิต
ทำนอง/เรียบเรียง : เพิ่มศักดิ์ พิสิษฐ์สังฆการ
ถ้าฉันไม่ลืมตาขึ้นมา ก็ไม่ต้องรับรู้อะไร
ไม่คิดอะไรซ้ำซ้ำ ไม่เกิดคำถามมากมาย
มันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหม
มันเป็นแค่เพียงความฝันใช่ไหม
แล้วทำไมน้ำตายังไหล ทำไมน้ำตายังไหล
ฉันได้แต่หยิกแขนตัวเอง
เพื่อบอกตัวเองว่าเป็นเรื่องจริง
ฉันไม่มีเธอแล้วจริงจริง
แม้ฉันอยากจะย้อนเวลา
แค่อยากจะขอให้เธออยู่ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้
ถึงเวลาต้องเรียนรู้ การอยู่คนเดียวใช่ไหม
ไม่นานก็รู้จะผ่านมันไปยังไง
ถึงเวลาต้องเรียนรู้ การอยู่คนเดียวให้ได้
วิชาบังคับที่ใจของฉันต้องทำความเข้าใจ
ฉันว่าฉันก็ดีกับเธอ และคิดว่าเธอก็ดีกับฉัน
ถึงจะรักกันมากแค่ไหน ไม่อาจจะไปด้วยกัน
(ซ้ำ / )
ฉันต้องเริ่มนับหนึ่งอีกครั้ง
จะอยากทำหรือไม่อยาก แต่ฉันจะอยู่ให้ได้
(ซ้ำ )

ถึงเวลาต้องเรียนรู้ - Zai [Official MV]

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ เวลาทําให้เรียนรู้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *