Skip to content
Home » [NEW] อ่านนิยาย บทที่ 1 กำเนิดประชาธิปไตย : ตอนที่ 9 เรารู้น้อยแค่ไหน (How little we know) – นิยายแปลไทย นิยาย Thai-novel | ต่อให้พยายามแค่ไหน ฉันก็เดินต่อไปไม่ได้ – NATAVIGUIDES

[NEW] อ่านนิยาย บทที่ 1 กำเนิดประชาธิปไตย : ตอนที่ 9 เรารู้น้อยแค่ไหน (How little we know) – นิยายแปลไทย นิยาย Thai-novel | ต่อให้พยายามแค่ไหน ฉันก็เดินต่อไปไม่ได้ – NATAVIGUIDES

ต่อให้พยายามแค่ไหน ฉันก็เดินต่อไปไม่ได้: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

เรารู้น้อยแค่ไหน

 (How little we know)

“ อย่าเสียงดังในร้านสิ ยัยสมองนก! ” ขุนนางหนุ่มนั้นกล่าวด้วยนํ้าเสียงตะคอกขู่สร้างความไม่พอใจแก่สาวครึ่งนกผู้ถูกต่อว่าอย่างมาก

   ฮึ่ม!  ลีอาสะบัดหน้าหนีพร้อมเค้นเสียงในลำคออย่างไม่หงุดหงิด เธอไม่คิดจะพูดขอโทษแต่อย่างไร กลับกันลีอานั้นแสดงท่าทีเหมือนเด็กสาวเอาแต่ใจ แต่ว่าชายหนุ่มผู้เป็นคนดุก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะง้อ ตัวเขาไม่ได้ผิดเสียหน่อย ทำไมต้องไปเอาใจใส่กับเรื่องแค่เนี่ยกัน?

“ ลีอา… เธอลืมฉันที่นั่งอยู่ตรงหน้าไปได้ยังไง มารยาทในที่สาธารณะนั้นสำคัญมากช่วยจำหน่อยจะได้ไหม… สงสัยฉันคงต้องอบรมพิเศษเธอเพิ่มนะ ” แอเรียลกล่าวด้วยสำเนียงอ่อนหวานนุ่มนวล แต่ใจความนั้นประชดประชันแผงด้วยความนํ้าเสียงที่เย็นเหมือนภูเขานํ้าแข็ง

“ อ่ะ! ลีอาขออภัยค่ะ คุณหญิงแอเรียล ” เธอชะงัก “ จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกแน่นอนค่ะ ” สิ้นเสียงเธอก็ก้มหัวเล็กน้อย ก่อนจะเดินคอตกเข้าไปร่วมโต๊ะกับทั้งสองคน แต่ขณะที่ลีอากำลังจะนั่งฝั่งตรงข้าม แอเรียลก็ยิ้มเบาๆพร้อมตบที่นั่งข้างๆของเธอเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าให้ลีอามานั่งตรงนี้แทน ลีอาไม่แม้แต่จะคิดว่าหญิงสาวต้องการอะไร ร่างกายของเธอก็รีบเข้าไปนั่งข้างๆหญิงผู้ที่เธอเคารพรัก

“ สมควรแล้วที่จะโดนดุ เอานี่ฉันสั่งเค้กไว้ให้ ” ไม่ทันได้ตั้งตัว จากเด็กสาวที่น่าสงสารก็กลายเป็นร่าเริงอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ

“ ระหว่างกินฉันอนุญาตให้พูดได้นะ ” แอเรียลลูบหัวลีอาด้วยความเอ็นดู

ส่วนสูงของสายพันธุ์ฮาร์พีนั้นไม่ได้มีความสูงมากนัก ถ้าจะให้ภาพในหัว ร่างกายของฮาร์พีส่วนมากนั้นเหมือนเด็กอย่างมาก เมื่อพวกเธออายุเต็มวัยจะเท่ากับวัยรุ่นแรกของมนุษย์ ไม่ก็มีส่วนสูงที่เท่ากับวัยทำงานของหญิงสาวทั่วไปซึ่งก็หาได้ยากอย่างมาก ส่วนลีอาที่อายุน้อยกว่าแอเรียลและชอมเบิร์ก ตัวเธออยู่วัยกำลังโตส่วนสูงของเธอเพียง 119 ซม. เท่านั้น เรียกได้ว่าเด็กสาวก็ยังได้

“ ขอบคุณค่ะ ” ลีอาเอ่ยขอคุณอย่างไร้เดียงสา

เธอพยายามใช้ปีกทั้งสองข้างหยิบจานขึ้นมาจนทำให้เค้กในจานนั้นเอียงจนเกือบตกลงบนโต๊ะ สุดท้ายลีอาก็วางเค้กลงก่อนจะเอาหน้าเข้าไปใกล้ๆเค้ก แต่ก็ถูกหญิงสาวข้างหลังดักเอาไว้เสียก่อน

ลีอาฉันรู้ว่าใช้ปีกจับสิ่งของมันลำบากจริง แต่ถ้ายังไม่ถนัดก็ควรให้ฉันป้อนนะ 

“ แฮะๆ ขอความกรุณาด้วยค่ะ ”

แอเรียลป้อนเค้กป้อนนกน้อยบนตักของเธออย่างช้าๆ เธอรอให้ลีอาที่กำลังกินเค้กอย่างมีความสุข ก่อนจะกล่าวถามนกน้อย “ แล้วเป็นไงบ้างกับเครื่องจักรใหม่จากสำนักพิมพ์แกรนด์เฮสซิเชอร์? ”

“ ลีอาไม่เคยเห็นแท่นพิมพ์เหล็กที่สามารถพิมพ์หนังสือได้รวดเร็วแบบนี้มากก่อนเลย! ” เธอชะงัก “ ต้องขอบคุณแกรนด์เฮสซิเชอร์จากแบร์นฮาร์ท ลีอาคาดว่าโครงการสำนักพิมพ์วิตอเรียสามารถขจัดขจายหนังสือพิมพ์ได้ทั่วลีโอแน่นอนค่ะ! ” ลีอากล่าวอย่างภูมิใจ

“ ฉันคิดว่าแกรนด์เฮสซิเชอร์จะไม่ยอมขายเครืองพิมพ์ให้เสียอีก? โครงการที่ลอกเลียนแบบชาวแบร์นฮาร์ทแบบนั้นใครๆก็ไม่อยากช่วยคู่แข่งใช่ไหมล่ะ ” ขุนนางหนุ่มกล่าวถามหญิงตรงหน้า หากเขาจำไม่ผิดไอเจ้าสำนักพิมพ์ที่ว่านั้น เขียนหนังสือและตีพิมพ์เผยแพร่ในราคาถูกจนเรียกว่าใครๆก็สามารถเข้าถึงได้ จู่ๆจะมีคนมาลอกเลียนแบบแล้วมาขอเครืองมือที่ตนใช้อยู่ ก็ต้องไม่มีใครอยากให้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ?

“ พวกเขายอมให้จริงๆนะ! ลีอารู้ว่ามันแปลก แต่ลีอาสืบค้นข้อมูลคร่าวๆมาแล้ว ” ลีอาหยุดชะงักเพราะท่านหญิงข้างหลังตักเค้กป้อนให้เธอเสียก่อน เมื่อกินหมดไปคำหนึ่งเธอก็กล่าวต่อ “ สำนักพิมพ์แกรนด์เฮสซิเชอร์ไม่ได้ขึ้นตรงกับกระทรวงใดๆ แต่เป็นเอก- ลีอาไม่แน่ใจว่าชาวแบร์นฮาร์ทเรียกกันว่าอะไร… แต่ว่ามันคล้ายๆกับที่พวกพ่อค้าเป็นคนก่อตั้ง! ”

ชายหญิงทั้งสองที่ได้ฟังคำพูดจากปากของฮาร์พีน้อย ต่างพากันแสดงสีหน้าแปลกใจกับเรื่องที่กล่าวมา ใครจะไปคิดว่าจักรวรรดิที่ป่าเถื่อนจะเปิดพื้นที่กว้างกว่าที่คิด ขนาดสำนักพิมพ์ที่ลอกเลียนแบบยังเป็นของราชการเลย ในครั้งแรกที่เคยได้ยินชื่อเสียงของสำนักพิมพ์ตอนอยู่ในสถาบันการศึกษาแห่งฟาโรร่า ทั้งสองก็คิดว่าแกรนด์เฮสซิเชอร์เป็นของราชวงศ์ด้วยสำ หรือว่าสำนักพิมพ์นั้นควรเป็นของพวกพ่อค้ากัน?

“ พวกเราพลาดเรื่องข้อมูลของเพื่อนบ้านบนทวีปนี้จริง ฉันน่าจะคุยกับวิลเลียมตั้งแต่จบการศึกษาจริงๆ ” แอเรียลกล่าวอย่างจนปัญญา ก่อนจะพูดรําลึกความหลัง แต่ก็ถูกขัดโดยชายตรงข้ามกับเธอ

!!ทุบ “ เจ้าบ้านั้นไม่รู้เรื่องอะไรหรอกครับ! ” ตามด้วยเสียงนํ้าเสียงคำรามสนับสนุน “ ใช่ๆ วิลเลียมชอบรังแกลีอา! ”

เฮ้อ… “ พวกเธอไม่เข้ากับวิลเลียมสักที อย่างน้อยเขาก็เป็นชายที่พึ่งพาได้ ยกเว้นเรื่องเรียนอ่ะนะ ”

ชอมเบิร์และลีอาต่างหัวเราะกับคำพูดนินทาของแอเรียล ยิ่งคิดก็ยิ่งเห็นภาพชายผู้ชื่อวิลเลียมหนีเรียนไปนอนกลางวันอยู่ที่ไหนสักแห่ง พอถึงเวลาทดสอบก็ก้มหน้าก้มตาขอร้องให้ช่วยเหลือเรื่องที่เรื่องไม่ทัน เป็นชายที่เรียกได้ว่าไม่สนใจเรื่องเรียนจนเป็นปัญหาก็ว่าได้ ท้ายที่สุดหัวข้อเรื่องงานก็กลายเป็นการคุยรำลึกความหลังในสถาบันการศึกษาแทน ทั้งสามต่างคุยกันจนลืมเรื่องอื่นไปจนหมด อย่างน้อยพวกเธอก็รู้สึกคลายเครียดกับการสนทนาบนโต๊ะแห่งนี้…

……

.

.

.

.

.

.

1 กุมภาพันธ์ ศักราชแห่งอองโทรานที่ 3925

กองเรือขนส่งจากอาริกาเซียหลังจากเติมเสบียงจากกองโจรใบเรือดำก็ได้เดินทางด้วยความเร็วคงตัว เข้าสู่น่านนํ้าของมหาอำนาจสหจักรวรรดิลีโอเนียที่ยิ่งใหญ่ เรือชั้นต่างๆจอดเข้าท่าเรืออย่างช้าๆ ท่าเรือแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของฐานทัพเรือเมืองเบอร์เกนหนึ่งในหัวเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในดินแดนลีโอ เรือธงของขบวนขนส่งเคลื่อนตัวเข้าท่าจอด เสียงหวูดเรือดังกึกก้อง เป็นการบอกกล่าวบัดนี้กองกำลังจากโลกใหม่หวนคืนสู่บ้านเกิดเป็นที่เรียบร้อย

ชายหนุ่มหน้าหวานผู้มีนามว่าดักลาสจับจองมองไปยังเมืองท่าที่เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายเผ่าพันธุ์ ต่างกับเมืองบอสตันที่สามารถนับเผ่าพันธุ์ได้ หากมองไปบนฟ้าก็จะพบสิ่งมีชีวิตที่คล้ายมนุษย์บินอยู่บนท้องฟ้าและเมื่อมองไปยังนํ้าทะเลก็พบเจอมนุษย์ครึ่งปลา หากเป็นโลกเดิมแล้วสิ่งที่ลาสเห็นนั้นคืออมนุษย์ตามความเชื่อนิยายปรัมปรา หากเขาเอาเรื่องที่เห็นกับตาไปเล่าแล้วคงจะถูกหาว่าเป็นบ้าแน่ๆ

‘ สมกับเป็นดินแดนแห่งแฟนตาซีจริงๆ ’ ชายหนุ่มคิดในใจ

ขณะที่ลาสกำลังหลงใหลเลอะเลือนอยู่ในห้วงความคิดส่วนตัวอยู่นั้น เฟลิเซีย สกาเล็ต คุณหนูแห่งตระกูลสกาเล็ตก็เดินมายื่นข้างๆของชายหนุ่ม ไม่มีใครเอ่ยกล่าวอะไรตั้งแต่ที่กองเรือเดินทางเข้าใกล้ทวีปอัลชลาฟไวส์ ทั้งสองต่างหมกมุ่นอยู่กับการสัมผัสบรรยากาศทีี่สวยงามของเมืองท่าแห่งนี้อยู่ มองไกลๆจากอีกฝั่งของมหาสมุทรก็สามารถเห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองได้ และยิ่งได้มาเห็นกับตาทั้งสองข้างในระยะใกล้ก็เป็นอันต้องตะลึงกับความสวยงาม ทั้งสองต่างยื่นมองสถาปัตยกรรมของเมืองท่าด้วยความตื่นเต้น ขนาดที่ว่าเมืองหลวงบอสตันไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้แม้แต่น้อย

“ ถ้าแค่เมืองท่ายังยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เมืองหลวงคงไม่เป็นสวรรค์บนดินเลยหรือ? ” ลาสเอ่ยอย่างติดตลกพร้อมยิ้มเบาๆ

“ ถ้าหากเราเป็นได้อิสรภาพแล้ว พวกเราเองก็สามารถสร้างสรวงสวรรค์ได้เช่นกัน!  ” เฟลิเซียกล่าวตอบด้วยเสียงทุ้มแฝงไปด้วยอุดมการณ์ของเธอ

“ ผมก็หวังว่าอิสรภาพที่คุณหนูโหยหาเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ” ลาสชะงัก “ หากเป็นไปได้ผมก็อยากได้อิสรภาพที่ได้โดยไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อผู้ใด ไม่ว่าจะชาวอาณานิคมหรือชาวลีโอ ” ประวัติศาสตร์ของการเรียกร้องอิสรภาพนั้นไม่น่าอภิรมย์มากนัก ไม่ว่าจะใช้กำลังต่อต้านหรือต่อให้เลือกไม่ใช้ความรุนแรงก็มีคนตายเพราะถูกปราบปรามอยู่ดี จะทางไหนก็ประชาชนก็รับเคราะห์อยู่ดี ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากจะปฏิรูปอย่างช้าๆตามหลังสหจักรวรรดิยังจะดีกว่า

“ การเจรจาระหว่างเจ้าอาณานิคมมันเป็นไปไม่ได้หรอก เจ้าเป็นคนบอกเองมิใช่หรือ? ”

“ ก็ไม่เชิงครับ ” ลาสตอบอย่างรวดเร็ว เขาไม่อยากจะพูดถึงเรื่องการให้เอกราช[1]สุดจะไร้ความรับผิดชอบในโลกเก่า ยิ่งคิดถึงความวุ่นวายหลังได้รับเอกราชของอดีพอาณานิคมในประวัติศาสตร์ก็ยิ่งปวดหัว

เมื่อเรือที่ทั้งสองอยู่ค่อยๆเคลื่อนตัวจอดเทียบท่า ลาสและเฟลิเซียต่างแยกย้ายเตรียมตัวเข้าตัวเมืองท่าทันที เหล่าเจ้าหน้าที่ข้าราชการและขุนนางต่างพากันรอนายทหารชั้นสูงและผู้แทนจากอาณานิคมเดินลงจากเรือเหล็กกล้า

เซอร์ กาย ดิ ดับลินท์และสุภาพสตรี เฟลิเซีย สกาเล็ต เดินคู่กัน โดยมีพันโทแดเนียลและผู้แทนอาณานิคมเดินตามหลังมา ขุนนางต่างๆพากันต้อนรับพันเอกกายอย่างรวดเร็วด้วยเหตุผลการเข้าหาเพื่อผลประโยชน์ของตน แต่พันเอกกายก็หันไปคุยกับผู้หญิง(?)อาณานิคมแทน ซึ่งมันทำให้ผู้ที่พยายามทักทายขายหน้ากันไปทั่ว

สายของเหล่าขุนนางชายหญิงต่างจับจ้องไปยังชาวอาณานิคมผู้ซึ่งเป็นตัวแทนของอาณานิคมเขตที่ 6 พวกเขารู้ว่าหญิงข้างๆเซอร์กายนั้นเป็นคู่หมั้น ฉะนั้นอีกคนก็น่าจะเป็นผู้แทนที่ถูกแต่งตั้งโดยสภาสูง หน้าต่างที่ดูยังไงก็เป็นหญิงสาว ส่วมหมวกไทรคอร์นติดขนนกสีขาว ส่วมชุดที่ทำจากฝ้ายแบบชาวอาณานิคม แม้ว่าสายตาของขุนนางบางกลุ่มนั้นจะมองด้วยความรังเกียจไม่พอใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าขุนนางที่ถูกพันเอกเมินเฉย อย่างไรก็ตามมีขุนนางหลายคนก็ต้องการที่จะเข้าไปพูดคุยกับตัวแทนอาณานิคมพอสมควร

พันเอกกายที่ยื่นเอกสารให้ลาส หันกลับมากล่าวกับเหล่ากลุ่มขุนนาง “ หากพวกคุณต้องการที่จะพูดคุยก็ให้ไปที่คฤหาสน์เจ้าเมืองแทน ไม่ใช่มาคุยเรื่องสำคัญในสาธารณะ ” เขาชะงัก “ ช่วยทำตัวให้เหมือนขุนนางแห่งลีโอนะครับ ”

“ เช่นนั้นผมขอตัวก่อน ” สิ้นเสียงพันเอกกายและกลุ่มของเขาพากันเดินผ่านขุนนางอย่างไร้เยื่อใย

ไม่นานนักเหล่านายทหารชั้นสูงต่างแยกตัวไปทำหน้าที่ของตน เหลือไว้เพียง พันเอกกาย เฟลิเซีย ดักลาส และ พันโทแดเนียล ซึ่งรอรถม้าเดินทางไปศาลากลางเมืองเบอร์เกน

ลาสใช้สายตาสาดส่องมองไปทั่วๆตัวเมือง ตึกที่ไม่สูงมากเรียงกันมากมาย แต่สิ่งที่ลาสสนใจยิ่งกว่าชาวเมืองหลากหลายเผ่าพันธุ์ก็คือ ควันสีขาวบ่นดำที่ลอยอยู่จากที่ห่างไกลตัวเมือง หากเป็นคนอื่นคงคิดว่าเป็นควันไฟบ้านเรือน แต่สำหรับลาสแล้วมันคือควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ใช่แล้วอุตสาหกรรม! ร่างกายของลาสรู้สึกตื่นเต้นอย่างช่วยไม่ได้ ดินแดนแห่งนี้ช่างต่างกับอาริกาเซียเหลือเกิน

ขณะที่กำลังเพลิดเพลินอยู่ในห้วงความคิด เสียงเรียกถามของผู้ชายคนหนึ่งก็ได้ดังขึ้น

“ คุณคือ พันเอก กาย ใช่ไหมครับ? ” ทั้งสี่คนต่างหันไปหาเสียงที่ว่าก็พบกับขุนนางชั้นสูงคนหนึ่งที่เดินเข้าหาพวกเขาอย่างไม่รีบร้อน

“ ใช่นั้นผมเอง แล้วคุณคือ? ”

“ เอิร์ล ชอมเบิร์ก แอเชอร์ แห่งริชาร์ดเบิก เรามีเรื่องที่จะอยากคุยเป- ” เขาหยุดชักงักเล็กน้อยมองไปยังเพื่อนร่วมทางของพันเอกกายสักครู่ก่อนจะกล่าวต่อ “ เป็นการส่วนตัวสักหน่อยครับ ”

“ ขออภัยท่านเอิร์ล แต่ผมจำเป็นต้องไปรายงานตัวกับท่านเจ้าเมืองที่ศาลากลาง หากเป็นไปได้หลังเสร็จงานแล้วจะได้ไหมครับ ” พันเอกกายเปลี่ยนนํ้าเสียงถ่อมตัวเมื่อรู้ว่าชายตรงหน้ามีบรรดาศักดิ์มากกว่าตน และน่าจะเป็นหนึ่งในสภาสูง

“ งั้นเป็นคุยระหว่างทางแทนดีไหม แต่คงต้องแยกกับคนของคุณ ” เอิร์ล ชอมเบิร์กชี้ไปยังรถม้าส่วนตัวของเขาก่อนจะกวักมือเรียกพันเอกแยกตัวออกจากทั้งสามคน

“ ท่านหญิงแอเรียลต้องการติดต่อกับคุณ… ไม่ต้องกังวลว่าทางกองทัพผมคุยกับขุนนางระดับสูงในสภาให้แล้ว ลาพักสักสัปดาห์ก็ยังได้ ” พันเอกกายได้แต่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เขาเคยคิดว่าพวกสภาสูงจะทำอะไรก็ได้ แต่พอมาเจอจริงๆแล้วก็ยังไม่ชินอยู่ดี เขาไม่ชอบพวกสภาสูงจริงๆ พันเอกคิดในใจ ท้ายที่สุดเขาก็พยักหน้าตกลงกับเอิร์ลชอมเบิร์ก แต่ก่อนที่ขุนนางหนุ่มจะเดินไปรอข้างในรถม้าของเขา

เขากระซิบถามออกมาเบาๆ

สถานการณ์ในเมืองหลวงถึงขั้นย่ำแย่สุดๆแล้วใช่ไหมครับ?

เอิร์ลชอมเบิร์กพยักหน้าก่อนจะแยกตัวไปรอพันเอกที่รถม้าส่วนตัว

เมื่อเสร็จธุระพันเอกกายก็กล่าวขอโทษคนรักของตน “ เอาไว้พรุ่งนี้ จะพาไปเยี่ยม- ไม่สิไปเที่ยวบ้านเกิดผมนะเฟลิเซีย วันนี้ก็ลองเดินดูเมืองเบอร์เกนไปก่อนอยากได้อะไรก็ซื้อได้ผมจะให้เงินเอาไว้ ”

สิ้นเสียงเขาก็ยื่นถุงเงินให้เฟลิเซียก่อนจะหันไปหาชายอีกสองคน

“ พันโทถ้าหากไม่มีงานอะไรฝากดูแลเฟลิเซียด้วย หรือไม่ก็หาคนคุมให้เธอ เข้าใจไหม ” แดเนียลส่ายหน้ากับความห่วงใยคู่หมั้นของหัวหน้าของเขาก่อนจะตอบรับทราบคำสั่ง

“ ส่วนนาย ลาส นายไปรอที่ศาลากลาง จะมีขุนนางจากกองทัพเธอชื่อโรซาลินด์ แคมเดน จากกองทหารรักษาการณ์ เธอจะแนะนำสถานที่ให้ ถ้าเสร็จแล้วนายจะไปไหนก็ได้ จะเยี่ยมเยียนทหารใต้อำนาจของนาย หรือจะเดินชมเมืองก็ไม่มีใครว่า ถ้าจะเที่ยวก็อย่างลืมไปกับเฟลิเซีย ฉันเชื่อว่านายเป็นเพื่อนที่ดีกับเธอได้แน่นอน ” เขาชะงัก “ เอาล่ะ ดักลาส แมรี่แลนด์… ” พันเอกกายทําความเคารพก่อนจะกล่าวด้วยนํ้าเสียงที่จริงจัง

“ ร้อยเอก ดักลาส ต่อไปนี้คุณไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจผมแล้ว แต่อย่าได้ลืมว่าตัวตนของตัวเองเป็นใครมาจากไหน จงรับใช้สหจักรวรรดิลีโอเนียต่อไปจนกว่าจะจบสงคราม และยินดีต้อนรับสู่อัลชลาฟไวส์ ”

—————————————————————————————————————————

[1] การให้เอกราช (Decolonization) คือการที่เหล่าเจ้าอาณานิคมเริ่มที่จะให้อิสรภาพในการตั้งรัฐบาลปกครองตัวเองของอาณานิคม และการล้มล้างลัทธิล่าอาณานิคม ผ่านการเมืองและข้อตกลงต่างๆ หรือผ่านการต่อสู้ ตัวอย่างเช่น ล่มสลายของจักรวรรดิอังกฤษและจักรวรรดิฝรั่งเศสหลังสงครามโลก หรือ การล่มสลายของจักรวรรดิสเปนในคริสต์ศตวรรษที่ 19

[NEW] อ่านนิยาย บทที่ 1 กำเนิดประชาธิปไตย : ตอนที่ 9 เรารู้น้อยแค่ไหน (How little we know) – นิยายแปลไทย นิยาย Thai-novel | ต่อให้พยายามแค่ไหน ฉันก็เดินต่อไปไม่ได้ – NATAVIGUIDES

เรารู้น้อยแค่ไหน

 (How little we know)

“ อย่าเสียงดังในร้านสิ ยัยสมองนก! ” ขุนนางหนุ่มนั้นกล่าวด้วยนํ้าเสียงตะคอกขู่สร้างความไม่พอใจแก่สาวครึ่งนกผู้ถูกต่อว่าอย่างมาก

   ฮึ่ม!  ลีอาสะบัดหน้าหนีพร้อมเค้นเสียงในลำคออย่างไม่หงุดหงิด เธอไม่คิดจะพูดขอโทษแต่อย่างไร กลับกันลีอานั้นแสดงท่าทีเหมือนเด็กสาวเอาแต่ใจ แต่ว่าชายหนุ่มผู้เป็นคนดุก็ไม่ได้มีท่าทีที่จะง้อ ตัวเขาไม่ได้ผิดเสียหน่อย ทำไมต้องไปเอาใจใส่กับเรื่องแค่เนี่ยกัน?

“ ลีอา… เธอลืมฉันที่นั่งอยู่ตรงหน้าไปได้ยังไง มารยาทในที่สาธารณะนั้นสำคัญมากช่วยจำหน่อยจะได้ไหม… สงสัยฉันคงต้องอบรมพิเศษเธอเพิ่มนะ ” แอเรียลกล่าวด้วยสำเนียงอ่อนหวานนุ่มนวล แต่ใจความนั้นประชดประชันแผงด้วยความนํ้าเสียงที่เย็นเหมือนภูเขานํ้าแข็ง

“ อ่ะ! ลีอาขออภัยค่ะ คุณหญิงแอเรียล ” เธอชะงัก “ จะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีกแน่นอนค่ะ ” สิ้นเสียงเธอก็ก้มหัวเล็กน้อย ก่อนจะเดินคอตกเข้าไปร่วมโต๊ะกับทั้งสองคน แต่ขณะที่ลีอากำลังจะนั่งฝั่งตรงข้าม แอเรียลก็ยิ้มเบาๆพร้อมตบที่นั่งข้างๆของเธอเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าให้ลีอามานั่งตรงนี้แทน ลีอาไม่แม้แต่จะคิดว่าหญิงสาวต้องการอะไร ร่างกายของเธอก็รีบเข้าไปนั่งข้างๆหญิงผู้ที่เธอเคารพรัก

“ สมควรแล้วที่จะโดนดุ เอานี่ฉันสั่งเค้กไว้ให้ ” ไม่ทันได้ตั้งตัว จากเด็กสาวที่น่าสงสารก็กลายเป็นร่าเริงอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ

“ ระหว่างกินฉันอนุญาตให้พูดได้นะ ” แอเรียลลูบหัวลีอาด้วยความเอ็นดู

ส่วนสูงของสายพันธุ์ฮาร์พีนั้นไม่ได้มีความสูงมากนัก ถ้าจะให้ภาพในหัว ร่างกายของฮาร์พีส่วนมากนั้นเหมือนเด็กอย่างมาก เมื่อพวกเธออายุเต็มวัยจะเท่ากับวัยรุ่นแรกของมนุษย์ ไม่ก็มีส่วนสูงที่เท่ากับวัยทำงานของหญิงสาวทั่วไปซึ่งก็หาได้ยากอย่างมาก ส่วนลีอาที่อายุน้อยกว่าแอเรียลและชอมเบิร์ก ตัวเธออยู่วัยกำลังโตส่วนสูงของเธอเพียง 119 ซม. เท่านั้น เรียกได้ว่าเด็กสาวก็ยังได้

“ ขอบคุณค่ะ ” ลีอาเอ่ยขอคุณอย่างไร้เดียงสา

เธอพยายามใช้ปีกทั้งสองข้างหยิบจานขึ้นมาจนทำให้เค้กในจานนั้นเอียงจนเกือบตกลงบนโต๊ะ สุดท้ายลีอาก็วางเค้กลงก่อนจะเอาหน้าเข้าไปใกล้ๆเค้ก แต่ก็ถูกหญิงสาวข้างหลังดักเอาไว้เสียก่อน

ลีอาฉันรู้ว่าใช้ปีกจับสิ่งของมันลำบากจริง แต่ถ้ายังไม่ถนัดก็ควรให้ฉันป้อนนะ 

“ แฮะๆ ขอความกรุณาด้วยค่ะ ”

แอเรียลป้อนเค้กป้อนนกน้อยบนตักของเธออย่างช้าๆ เธอรอให้ลีอาที่กำลังกินเค้กอย่างมีความสุข ก่อนจะกล่าวถามนกน้อย “ แล้วเป็นไงบ้างกับเครื่องจักรใหม่จากสำนักพิมพ์แกรนด์เฮสซิเชอร์? ”

“ ลีอาไม่เคยเห็นแท่นพิมพ์เหล็กที่สามารถพิมพ์หนังสือได้รวดเร็วแบบนี้มากก่อนเลย! ” เธอชะงัก “ ต้องขอบคุณแกรนด์เฮสซิเชอร์จากแบร์นฮาร์ท ลีอาคาดว่าโครงการสำนักพิมพ์วิตอเรียสามารถขจัดขจายหนังสือพิมพ์ได้ทั่วลีโอแน่นอนค่ะ! ” ลีอากล่าวอย่างภูมิใจ

“ ฉันคิดว่าแกรนด์เฮสซิเชอร์จะไม่ยอมขายเครืองพิมพ์ให้เสียอีก? โครงการที่ลอกเลียนแบบชาวแบร์นฮาร์ทแบบนั้นใครๆก็ไม่อยากช่วยคู่แข่งใช่ไหมล่ะ ” ขุนนางหนุ่มกล่าวถามหญิงตรงหน้า หากเขาจำไม่ผิดไอเจ้าสำนักพิมพ์ที่ว่านั้น เขียนหนังสือและตีพิมพ์เผยแพร่ในราคาถูกจนเรียกว่าใครๆก็สามารถเข้าถึงได้ จู่ๆจะมีคนมาลอกเลียนแบบแล้วมาขอเครืองมือที่ตนใช้อยู่ ก็ต้องไม่มีใครอยากให้อยู่แล้วไม่ใช่หรือ?

“ พวกเขายอมให้จริงๆนะ! ลีอารู้ว่ามันแปลก แต่ลีอาสืบค้นข้อมูลคร่าวๆมาแล้ว ” ลีอาหยุดชะงักเพราะท่านหญิงข้างหลังตักเค้กป้อนให้เธอเสียก่อน เมื่อกินหมดไปคำหนึ่งเธอก็กล่าวต่อ “ สำนักพิมพ์แกรนด์เฮสซิเชอร์ไม่ได้ขึ้นตรงกับกระทรวงใดๆ แต่เป็นเอก- ลีอาไม่แน่ใจว่าชาวแบร์นฮาร์ทเรียกกันว่าอะไร… แต่ว่ามันคล้ายๆกับที่พวกพ่อค้าเป็นคนก่อตั้ง! ”

ชายหญิงทั้งสองที่ได้ฟังคำพูดจากปากของฮาร์พีน้อย ต่างพากันแสดงสีหน้าแปลกใจกับเรื่องที่กล่าวมา ใครจะไปคิดว่าจักรวรรดิที่ป่าเถื่อนจะเปิดพื้นที่กว้างกว่าที่คิด ขนาดสำนักพิมพ์ที่ลอกเลียนแบบยังเป็นของราชการเลย ในครั้งแรกที่เคยได้ยินชื่อเสียงของสำนักพิมพ์ตอนอยู่ในสถาบันการศึกษาแห่งฟาโรร่า ทั้งสองก็คิดว่าแกรนด์เฮสซิเชอร์เป็นของราชวงศ์ด้วยสำ หรือว่าสำนักพิมพ์นั้นควรเป็นของพวกพ่อค้ากัน?

“ พวกเราพลาดเรื่องข้อมูลของเพื่อนบ้านบนทวีปนี้จริง ฉันน่าจะคุยกับวิลเลียมตั้งแต่จบการศึกษาจริงๆ ” แอเรียลกล่าวอย่างจนปัญญา ก่อนจะพูดรําลึกความหลัง แต่ก็ถูกขัดโดยชายตรงข้ามกับเธอ

!!ทุบ “ เจ้าบ้านั้นไม่รู้เรื่องอะไรหรอกครับ! ” ตามด้วยเสียงนํ้าเสียงคำรามสนับสนุน “ ใช่ๆ วิลเลียมชอบรังแกลีอา! ”

เฮ้อ… “ พวกเธอไม่เข้ากับวิลเลียมสักที อย่างน้อยเขาก็เป็นชายที่พึ่งพาได้ ยกเว้นเรื่องเรียนอ่ะนะ ”

ชอมเบิร์และลีอาต่างหัวเราะกับคำพูดนินทาของแอเรียล ยิ่งคิดก็ยิ่งเห็นภาพชายผู้ชื่อวิลเลียมหนีเรียนไปนอนกลางวันอยู่ที่ไหนสักแห่ง พอถึงเวลาทดสอบก็ก้มหน้าก้มตาขอร้องให้ช่วยเหลือเรื่องที่เรื่องไม่ทัน เป็นชายที่เรียกได้ว่าไม่สนใจเรื่องเรียนจนเป็นปัญหาก็ว่าได้ ท้ายที่สุดหัวข้อเรื่องงานก็กลายเป็นการคุยรำลึกความหลังในสถาบันการศึกษาแทน ทั้งสามต่างคุยกันจนลืมเรื่องอื่นไปจนหมด อย่างน้อยพวกเธอก็รู้สึกคลายเครียดกับการสนทนาบนโต๊ะแห่งนี้…

……

.

.

.

.

.

.

1 กุมภาพันธ์ ศักราชแห่งอองโทรานที่ 3925

กองเรือขนส่งจากอาริกาเซียหลังจากเติมเสบียงจากกองโจรใบเรือดำก็ได้เดินทางด้วยความเร็วคงตัว เข้าสู่น่านนํ้าของมหาอำนาจสหจักรวรรดิลีโอเนียที่ยิ่งใหญ่ เรือชั้นต่างๆจอดเข้าท่าเรืออย่างช้าๆ ท่าเรือแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของฐานทัพเรือเมืองเบอร์เกนหนึ่งในหัวเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในดินแดนลีโอ เรือธงของขบวนขนส่งเคลื่อนตัวเข้าท่าจอด เสียงหวูดเรือดังกึกก้อง เป็นการบอกกล่าวบัดนี้กองกำลังจากโลกใหม่หวนคืนสู่บ้านเกิดเป็นที่เรียบร้อย

ชายหนุ่มหน้าหวานผู้มีนามว่าดักลาสจับจองมองไปยังเมืองท่าที่เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายเผ่าพันธุ์ ต่างกับเมืองบอสตันที่สามารถนับเผ่าพันธุ์ได้ หากมองไปบนฟ้าก็จะพบสิ่งมีชีวิตที่คล้ายมนุษย์บินอยู่บนท้องฟ้าและเมื่อมองไปยังนํ้าทะเลก็พบเจอมนุษย์ครึ่งปลา หากเป็นโลกเดิมแล้วสิ่งที่ลาสเห็นนั้นคืออมนุษย์ตามความเชื่อนิยายปรัมปรา หากเขาเอาเรื่องที่เห็นกับตาไปเล่าแล้วคงจะถูกหาว่าเป็นบ้าแน่ๆ

‘ สมกับเป็นดินแดนแห่งแฟนตาซีจริงๆ ’ ชายหนุ่มคิดในใจ

ขณะที่ลาสกำลังหลงใหลเลอะเลือนอยู่ในห้วงความคิดส่วนตัวอยู่นั้น เฟลิเซีย สกาเล็ต คุณหนูแห่งตระกูลสกาเล็ตก็เดินมายื่นข้างๆของชายหนุ่ม ไม่มีใครเอ่ยกล่าวอะไรตั้งแต่ที่กองเรือเดินทางเข้าใกล้ทวีปอัลชลาฟไวส์ ทั้งสองต่างหมกมุ่นอยู่กับการสัมผัสบรรยากาศทีี่สวยงามของเมืองท่าแห่งนี้อยู่ มองไกลๆจากอีกฝั่งของมหาสมุทรก็สามารถเห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองได้ และยิ่งได้มาเห็นกับตาทั้งสองข้างในระยะใกล้ก็เป็นอันต้องตะลึงกับความสวยงาม ทั้งสองต่างยื่นมองสถาปัตยกรรมของเมืองท่าด้วยความตื่นเต้น ขนาดที่ว่าเมืองหลวงบอสตันไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้แม้แต่น้อย

“ ถ้าแค่เมืองท่ายังยิ่งใหญ่ขนาดนี้ เมืองหลวงคงไม่เป็นสวรรค์บนดินเลยหรือ? ” ลาสเอ่ยอย่างติดตลกพร้อมยิ้มเบาๆ

“ ถ้าหากเราเป็นได้อิสรภาพแล้ว พวกเราเองก็สามารถสร้างสรวงสวรรค์ได้เช่นกัน!  ” เฟลิเซียกล่าวตอบด้วยเสียงทุ้มแฝงไปด้วยอุดมการณ์ของเธอ

“ ผมก็หวังว่าอิสรภาพที่คุณหนูโหยหาเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ” ลาสชะงัก “ หากเป็นไปได้ผมก็อยากได้อิสรภาพที่ได้โดยไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อผู้ใด ไม่ว่าจะชาวอาณานิคมหรือชาวลีโอ ” ประวัติศาสตร์ของการเรียกร้องอิสรภาพนั้นไม่น่าอภิรมย์มากนัก ไม่ว่าจะใช้กำลังต่อต้านหรือต่อให้เลือกไม่ใช้ความรุนแรงก็มีคนตายเพราะถูกปราบปรามอยู่ดี จะทางไหนก็ประชาชนก็รับเคราะห์อยู่ดี ถ้าเป็นไปได้เขาก็อยากจะปฏิรูปอย่างช้าๆตามหลังสหจักรวรรดิยังจะดีกว่า

“ การเจรจาระหว่างเจ้าอาณานิคมมันเป็นไปไม่ได้หรอก เจ้าเป็นคนบอกเองมิใช่หรือ? ”

“ ก็ไม่เชิงครับ ” ลาสตอบอย่างรวดเร็ว เขาไม่อยากจะพูดถึงเรื่องการให้เอกราช[1]สุดจะไร้ความรับผิดชอบในโลกเก่า ยิ่งคิดถึงความวุ่นวายหลังได้รับเอกราชของอดีพอาณานิคมในประวัติศาสตร์ก็ยิ่งปวดหัว

เมื่อเรือที่ทั้งสองอยู่ค่อยๆเคลื่อนตัวจอดเทียบท่า ลาสและเฟลิเซียต่างแยกย้ายเตรียมตัวเข้าตัวเมืองท่าทันที เหล่าเจ้าหน้าที่ข้าราชการและขุนนางต่างพากันรอนายทหารชั้นสูงและผู้แทนจากอาณานิคมเดินลงจากเรือเหล็กกล้า

เซอร์ กาย ดิ ดับลินท์และสุภาพสตรี เฟลิเซีย สกาเล็ต เดินคู่กัน โดยมีพันโทแดเนียลและผู้แทนอาณานิคมเดินตามหลังมา ขุนนางต่างๆพากันต้อนรับพันเอกกายอย่างรวดเร็วด้วยเหตุผลการเข้าหาเพื่อผลประโยชน์ของตน แต่พันเอกกายก็หันไปคุยกับผู้หญิง(?)อาณานิคมแทน ซึ่งมันทำให้ผู้ที่พยายามทักทายขายหน้ากันไปทั่ว

สายของเหล่าขุนนางชายหญิงต่างจับจ้องไปยังชาวอาณานิคมผู้ซึ่งเป็นตัวแทนของอาณานิคมเขตที่ 6 พวกเขารู้ว่าหญิงข้างๆเซอร์กายนั้นเป็นคู่หมั้น ฉะนั้นอีกคนก็น่าจะเป็นผู้แทนที่ถูกแต่งตั้งโดยสภาสูง หน้าต่างที่ดูยังไงก็เป็นหญิงสาว ส่วมหมวกไทรคอร์นติดขนนกสีขาว ส่วมชุดที่ทำจากฝ้ายแบบชาวอาณานิคม แม้ว่าสายตาของขุนนางบางกลุ่มนั้นจะมองด้วยความรังเกียจไม่พอใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าขุนนางที่ถูกพันเอกเมินเฉย อย่างไรก็ตามมีขุนนางหลายคนก็ต้องการที่จะเข้าไปพูดคุยกับตัวแทนอาณานิคมพอสมควร

พันเอกกายที่ยื่นเอกสารให้ลาส หันกลับมากล่าวกับเหล่ากลุ่มขุนนาง “ หากพวกคุณต้องการที่จะพูดคุยก็ให้ไปที่คฤหาสน์เจ้าเมืองแทน ไม่ใช่มาคุยเรื่องสำคัญในสาธารณะ ” เขาชะงัก “ ช่วยทำตัวให้เหมือนขุนนางแห่งลีโอนะครับ ”

“ เช่นนั้นผมขอตัวก่อน ” สิ้นเสียงพันเอกกายและกลุ่มของเขาพากันเดินผ่านขุนนางอย่างไร้เยื่อใย

ไม่นานนักเหล่านายทหารชั้นสูงต่างแยกตัวไปทำหน้าที่ของตน เหลือไว้เพียง พันเอกกาย เฟลิเซีย ดักลาส และ พันโทแดเนียล ซึ่งรอรถม้าเดินทางไปศาลากลางเมืองเบอร์เกน

ลาสใช้สายตาสาดส่องมองไปทั่วๆตัวเมือง ตึกที่ไม่สูงมากเรียงกันมากมาย แต่สิ่งที่ลาสสนใจยิ่งกว่าชาวเมืองหลากหลายเผ่าพันธุ์ก็คือ ควันสีขาวบ่นดำที่ลอยอยู่จากที่ห่างไกลตัวเมือง หากเป็นคนอื่นคงคิดว่าเป็นควันไฟบ้านเรือน แต่สำหรับลาสแล้วมันคือควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ใช่แล้วอุตสาหกรรม! ร่างกายของลาสรู้สึกตื่นเต้นอย่างช่วยไม่ได้ ดินแดนแห่งนี้ช่างต่างกับอาริกาเซียเหลือเกิน

ขณะที่กำลังเพลิดเพลินอยู่ในห้วงความคิด เสียงเรียกถามของผู้ชายคนหนึ่งก็ได้ดังขึ้น

“ คุณคือ พันเอก กาย ใช่ไหมครับ? ” ทั้งสี่คนต่างหันไปหาเสียงที่ว่าก็พบกับขุนนางชั้นสูงคนหนึ่งที่เดินเข้าหาพวกเขาอย่างไม่รีบร้อน

“ ใช่นั้นผมเอง แล้วคุณคือ? ”

“ เอิร์ล ชอมเบิร์ก แอเชอร์ แห่งริชาร์ดเบิก เรามีเรื่องที่จะอยากคุยเป- ” เขาหยุดชักงักเล็กน้อยมองไปยังเพื่อนร่วมทางของพันเอกกายสักครู่ก่อนจะกล่าวต่อ “ เป็นการส่วนตัวสักหน่อยครับ ”

“ ขออภัยท่านเอิร์ล แต่ผมจำเป็นต้องไปรายงานตัวกับท่านเจ้าเมืองที่ศาลากลาง หากเป็นไปได้หลังเสร็จงานแล้วจะได้ไหมครับ ” พันเอกกายเปลี่ยนนํ้าเสียงถ่อมตัวเมื่อรู้ว่าชายตรงหน้ามีบรรดาศักดิ์มากกว่าตน และน่าจะเป็นหนึ่งในสภาสูง

“ งั้นเป็นคุยระหว่างทางแทนดีไหม แต่คงต้องแยกกับคนของคุณ ” เอิร์ล ชอมเบิร์กชี้ไปยังรถม้าส่วนตัวของเขาก่อนจะกวักมือเรียกพันเอกแยกตัวออกจากทั้งสามคน

“ ท่านหญิงแอเรียลต้องการติดต่อกับคุณ… ไม่ต้องกังวลว่าทางกองทัพผมคุยกับขุนนางระดับสูงในสภาให้แล้ว ลาพักสักสัปดาห์ก็ยังได้ ” พันเอกกายได้แต่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เขาเคยคิดว่าพวกสภาสูงจะทำอะไรก็ได้ แต่พอมาเจอจริงๆแล้วก็ยังไม่ชินอยู่ดี เขาไม่ชอบพวกสภาสูงจริงๆ พันเอกคิดในใจ ท้ายที่สุดเขาก็พยักหน้าตกลงกับเอิร์ลชอมเบิร์ก แต่ก่อนที่ขุนนางหนุ่มจะเดินไปรอข้างในรถม้าของเขา

เขากระซิบถามออกมาเบาๆ

สถานการณ์ในเมืองหลวงถึงขั้นย่ำแย่สุดๆแล้วใช่ไหมครับ?

เอิร์ลชอมเบิร์กพยักหน้าก่อนจะแยกตัวไปรอพันเอกที่รถม้าส่วนตัว

เมื่อเสร็จธุระพันเอกกายก็กล่าวขอโทษคนรักของตน “ เอาไว้พรุ่งนี้ จะพาไปเยี่ยม- ไม่สิไปเที่ยวบ้านเกิดผมนะเฟลิเซีย วันนี้ก็ลองเดินดูเมืองเบอร์เกนไปก่อนอยากได้อะไรก็ซื้อได้ผมจะให้เงินเอาไว้ ”

สิ้นเสียงเขาก็ยื่นถุงเงินให้เฟลิเซียก่อนจะหันไปหาชายอีกสองคน

“ พันโทถ้าหากไม่มีงานอะไรฝากดูแลเฟลิเซียด้วย หรือไม่ก็หาคนคุมให้เธอ เข้าใจไหม ” แดเนียลส่ายหน้ากับความห่วงใยคู่หมั้นของหัวหน้าของเขาก่อนจะตอบรับทราบคำสั่ง

“ ส่วนนาย ลาส นายไปรอที่ศาลากลาง จะมีขุนนางจากกองทัพเธอชื่อโรซาลินด์ แคมเดน จากกองทหารรักษาการณ์ เธอจะแนะนำสถานที่ให้ ถ้าเสร็จแล้วนายจะไปไหนก็ได้ จะเยี่ยมเยียนทหารใต้อำนาจของนาย หรือจะเดินชมเมืองก็ไม่มีใครว่า ถ้าจะเที่ยวก็อย่างลืมไปกับเฟลิเซีย ฉันเชื่อว่านายเป็นเพื่อนที่ดีกับเธอได้แน่นอน ” เขาชะงัก “ เอาล่ะ ดักลาส แมรี่แลนด์… ” พันเอกกายทําความเคารพก่อนจะกล่าวด้วยนํ้าเสียงที่จริงจัง

“ ร้อยเอก ดักลาส ต่อไปนี้คุณไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจผมแล้ว แต่อย่าได้ลืมว่าตัวตนของตัวเองเป็นใครมาจากไหน จงรับใช้สหจักรวรรดิลีโอเนียต่อไปจนกว่าจะจบสงคราม และยินดีต้อนรับสู่อัลชลาฟไวส์ ”

—————————————————————————————————————————

[1] การให้เอกราช (Decolonization) คือการที่เหล่าเจ้าอาณานิคมเริ่มที่จะให้อิสรภาพในการตั้งรัฐบาลปกครองตัวเองของอาณานิคม และการล้มล้างลัทธิล่าอาณานิคม ผ่านการเมืองและข้อตกลงต่างๆ หรือผ่านการต่อสู้ ตัวอย่างเช่น ล่มสลายของจักรวรรดิอังกฤษและจักรวรรดิฝรั่งเศสหลังสงครามโลก หรือ การล่มสลายของจักรวรรดิสเปนในคริสต์ศตวรรษที่ 19


ยังไกล – BOY PEACEMAKER【OFFICIAL MV】


เคยไหม ? พยายามเเค่ไหนก็ยังไม่พอสำหรับเธอ…
ยังไกล จาก Single ใหม่ล่าสุดของ Boy Peacemaker ค่าย GRANDMUSIK
ติดตาม UPDATE เพลงใหม่ของ Boy Peacemaker ได้ที่
https://www.facebook.com/GRANDMUSIK
Instagram : GRANDMUSIK
เพลง ยังไกล
ศิลปิน BOY PEACEMAKER
คำร้อง/ทำนอง BOY PEACEMAKER , เจน The Dey
เรียบเรียง ศุภวิญญ์ มุ่งมาตร
รู้แต่ว่าห้ามใจไม่ไหว
อยากจะหนีจะเดินออกไปให้ไกล
ให้พ้นหัวใจเธอ สมองมันก็แพ้หัวใจเสมอ
อยากจะลบความจำที่มันรักเธอ
แต่มันกลับจำได้ขึ้นใจ
พยายามทุ่มเทเพื่อเป็นคนที่ใช่
พยายามเท่าไร แต่มันก็ไม่พอ
ต่อให้รักแทบเป็นแทบตาย เจ็บช้ำทุรนทุราย
สุดท้ายเป็นฉันที่สุด เหงา เค้า คือ คน ที่ เธอ รอ
เธอให้เค้าหมดทั้งใจ ไม่เหลือ ไม่มีให้ใคร
และแม้ฉันใกล้สักแค่ไหน
ก็ยังไกลหัวใจของเธอ
ฉันคงทำได้เพียงเท่านี้ เป็นเพียงแค่คนหนึ่ง
ที่เธอมองว่าดี ที่พร้อมคอยดูแล
ช้ำโดยที่ไม่มีข้อแม้ เมื่อเป็นฉันที่มันผิดเองที่แคร์
ที่รักมากเกินไป
พยายามทุ่มเทเพื่อเป็นคนที่ใช่
พยายามเท่าไร แต่มันก็ไม่พอ
ต่อให้รักแทบเป็นแทบตาย เจ็บช้ำทุรนทุราย
สุดท้ายเป็นฉันที่สุด เหงา เค้า คือ คน ที่ เธอ รอ
เธอให้เค้าหมดทั้งใจ ไม่เหลือ ไม่มีให้ใคร
และแม้ฉันใกล้สักแค่ไหน
ก็ยังไกลหัวใจของเธอ
พยายามทุ่มเทเพื่อเป็นคนที่ใช่
พยายามเท่าไร มันก็ไม่พอ
ต่อให้รักแทบเป็นแทบตาย เจ็บช้ำทุรนทุราย
สุดท้ายเป็นฉันที่สุด เหงา เค้า คือ คน ที่ เธอ รอ
เธอให้เค้าหมดทั้งใจ ไม่เหลือ ไม่มีให้ใคร
และแม้ฉันใกล้สักแค่ไหน
ก็ยังไกลหัวใจของเธอ
(ต่อให้รักแทบเป็นแทบตาย เจ็บช้ำทุรนทุราย)
สุดท้ายเป็นฉันที่สุด เหงา เค้า คือ คน ที่ เธอ รอ
เธอให้เค้าหมดทั้งใจ ไม่เหลือ ไม่มีให้ใคร
และแม้ฉันใกล้สักแค่ไหน
ก็ยังไกลหัวใจของเธอ…
Recording engineer : เจ้าสำนักกิมเล้ง at kimleng studio
Mixed and mastering : จุมภฎ ธรรมธารทอง at stucool mastering studio
Guitar : pop วรวิทย์
Piano : หนุ่ม ศุภวิญญ์
Baas : วิโรจน์ สถาปนาวัตร
Drums : เมา เสือใหญ่

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ยังไกล - BOY PEACEMAKER【OFFICIAL MV】

คิด(แต่ไม่)ถึง [Same Page?] – Tilly Birds |Official MV|


บางทีการที่ยังอยู่ แต่ไม่มีอะไรเหมือนเดิมแล้ว
มันก็เจ็บปวดไม่ต่างกับการหายไปเลย…
เพลง : คิด(แต่ไม่)ถึง [Same Page?]
ศิลปิน : Tilly Birds
Lyrics :
คิดอยู่ทุกวัน คิดอยู่ทุกคืน
คิดว่าสักวัน ตัวฉันคงถูกลืม
น้อยลงทุกวัน ที่เราคุยกัน
เพราะว่าอะไร เธอถึงได้เปลี่ยนไป
คิด(แต่ไม่)ถึง
คิด คิด (แต่ไม่) ถึงเธอ
คิด(แต่ไม่)ถึง
คิด คิด (แต่ไม่) ถึงเธอ
เธอรู้บ้างไหม ว่ามีใครทนทุกข์ทรมาน
อยากรู้เพียง
ว่าความคิดถึงของเธอกับฉัน
มันเท่ากันหรือเปล่า
ถามจริง ๆ ว่าใจเธอเปลี่ยนไปหรือเปล่า
ฉันไม่คิดไปเองใช่ไหม
ความคิดถึงที่ฉันได้เคยส่งไป
ส่งไปไม่เคยถึงเธอเลย
ยังนึกถึงวันนั้น วันที่เราหัวเราะกัน
ไม่เคยลืมรอยยิ้มเธอสักครั้ง
จำได้ไหม วันที่เราทะเลาะกัน
เธอยังอภัยให้ฉันอยู่ทุกครั้ง
ทุกความทรงจำยังทำให้ฉัน
คิด(แต่ไม่)ถึง
คิด คิด (แต่ไม่) ถึงเธอ
คิด(แต่ไม่)ถึง
คิด คิด (แต่ไม่) ถึงเธอ
เธอรู้บ้างไหม ว่ามีใครทนทุกข์ทรมาน
อยากรู้เพียง
ว่าความคิดถึงของเธอกับฉัน
มันเท่ากันหรือเปล่า
ถามจริง ๆ ว่าใจเธอเปลี่ยนไป หรือเปล่า
ฉันไม่คิดไปเองใช่ไหม
ความคิดถึงที่ฉันได้เคยส่งไป
ส่งไปได้เพียงในความทรงจำ
ที่มีเราเรื่อยมา
แค่นึกภาพตอนนั้น ฉันก็มีน้ำตา
รู้บ้างไหมว่าเจ็บแค่ไหน
ความคิดถึงที่ฉันได้เคยส่งไป
ส่งไปไม่เคยถึงเธอเลย
(คิดแต่ไม่ถึง คิด คิด แต่ไม่ถึงเธอ)
ส่งไปไม่เคยถึงเธอเลย
ถ้าเธอนั้นจะไม่กลับมา
อยากให้รู้ว่าทุกๆช่วงเวลา
ไม่เคยไม่คิดถึงเธอเลย
Tilly Birds
Vocals : อนุโรจน์ เกตุเลขา l Anuroth Ketlkekha ( IG : 2nd__4th )
Guitar : ณัฐดนัย ชูชาติ l Nutdanai Chuchat ( IG : billbilly01 )
Drums : ธุวานนท์ ตันติวัฒนวรกุล l Thuwanon Tantiwattanaworakul ( IG : milomono )
Music : Tilly Birds
Lyrics : อนุโรจน์ เกตุเลขา (เติร์ด)
Arranged by : ธุวานนท์ ตันติวัฒนวรกุล (ไมโล)
Produced by : ณัฐดนัย ชูชาติ (บิลลี่)
Samples Recorded at : ทรยศสตูดิโอ
Additional Singers : อานาปาน ปิ่นประดับ, รวิสรารัตน์ พิบูลภานุวัธน, ณพรัตน์ มั่นสินธร
Studio Engineered by : ยศทร บุญญธนาภิวัฒน์
Asst. Engineered by : ภาคิน วัฒนรุกข์
Vocals Recorded at : Axis Studio
Engineered by : กร มหาดำรงค์กุล
Vocals Edited by : กร มหาดำรงค์กุล
Mixed and Mastered by : Henry Watkins (Karma Sound Studios)
MV Credits:
Director Anuroth Ketlekha, SADUST STAYGOLD
First Assistant Director Sirada Tritruengtassana, Kunatan Limdoo
Second Assistant Director Nitchakarn Pakpairin
Producer Nutdanai Chuchat, Wissuta Suksawat
DOP Chatpol Buawan
Art Director PERDCHAKDEAW
Editor SADUST STAYGOLD, Chatpol Buawan
Colorist Jirayu Jangwattanapong
Acting Coach Sarun Kaensap
Makeup Vimvipa Chayangkura
Catering Napatsawan Mongkolsomboon \u0026 Team
Cast Chayapat Wiratyosin, Supawan Poolcharoen
Extras Irin Poontavee, Phurin Kasikun, Johnparot Wongthes, Natachanun Netikornwiwach, Poomtharit Intharit, Araya Laoprachaiwan
ดาวน์โหลดเพลงนี้ได้ที่ 1230321
คิดแต่ไม่ถึง TillyBirds GeneLab

คิด(แต่ไม่)ถึง [Same Page?] - Tilly Birds |Official MV|

เริ่มต้นใหม่ไม่ไหว – MASKSENDER【OFFICIAL LYRICS VIDEO】


เริ่มต้นใหม่ไม่ไหว
MASKSENDER【แมสเซ็นเดอร์】
เนื้อร้อง / ทำนอง : เก๊กฮวยบูด , Pockbass Fusionboy
เรียบเรียง : MASKSENDER

ติดต่องาน 082 7584368 (เอ้)

ก็รู้ว่ารักของเรามันจบไปนานแล้ว แต่ฉันก็ยังทำเหมือนว่ามีเธออยู่
ยังคงเก็บรูปเธอเอาไว้ดู ยังอยู่กับฝันที่เคยวาดกันเอาไว้
ก็เคยพยายามจะตัดใจ แต่สุดท้ายฉันก็ทำไม่ได้
ยังเริ่มต้นใหม่ไม่ไหว ยังรักใครไม่ได้เลย
ทุกครั้งที่ฉันหลับตา ก็ยังคงเห็นภาพเธอวนเวียนในหัวใจ
เธอคงไม่รู้ว่ามันทรมานแค่ไหน ที่ยังเริ่มต้นใหม่กับใครไม่ได้สักที
วันนี้เธอนั้นก็คงมีความสุขกับเขา
ส่วนฉันก็ยังคงเหงาที่ต้องยืนอยู่อย่างเดียวดาย
ยังคงเจ็บตรงนี้ที่หัวใจ ที่เธอฝากรอยแผลคือคำว่าเราจบกัน
ก็เคยพยายามจะมีรักครั้งใหม่ แต่สุดท้ายฉันก็ทำไม่ได้
ยังเริ่มต้นใหม่ไม่ไหว ยังรักใครไม่ได้เลย
ทุกครั้งที่ฉันหลับตา ก็ยังคงเห็นภาพเธอวนเวียนในหัวใจ
เธอคงไม่รู้ว่ามันทรมานแค่ไหน ที่ยังเริ่มต้นใหม่กับใครไม่ได้สักที
ก็ไม่รู้จะจมอยู่ กับความทรงจำ ที่เคยมีเธออีกนานไหม
ก็ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ฉันจะยืนไหว จะได้เริ่มรักใครใหม่อีกครั้งนึง…
ยังเริ่มต้นใหม่ไม่ไหว ยังรักใครไม่ได้เลย
ทุกครั้งที่ฉันหลับตา ก็ยังคงเห็นภาพเธอวนเวียนในหัวใจ
เธอคงไม่รู้ว่ามันทรมานแค่ไหน ให้ฉันเริ่มต้นใหม่
หรือจะให้ฉันไปรักใคร คงทำไม่ไหวจริง ๆ

ติดตามผลงานพวกเรา MASKSENDER ได้ที่
https://www.fb.com/Masksender
| lnstagram : Masksender_official
| Youtube : Masksender official
Vocals by เกียรติภมูิ บุษบา
Guitars by ภูมินทร์ งามสูงเนิน
Bass by สงกรานต์ โพธิ์อ้น
Drums by วีระพงษ์ วีระน้อย
Lyric director: เก๊กฮวยบูด
Executive Producer : ยศพร ประสาทศิลป์ (แชมป์ NOS)
Music Video By ชาว Mask_Team
Recorded At Earth Walk Studio
Mixed \u0026 Mastered By วีระพงษ์ วีระน้อย

DIGITAL DOWNLOAD
iTunes Store : 19.00 ฿ Buy
Joox Music : http://music.sanook.com/album/4114316/
MASKSENDER

เริ่มต้นใหม่ไม่ไหว - MASKSENDER【OFFICIAL LYRICS VIDEO】

ไขปริศนานักพูด 8++ ภาษา


ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนนะครับ
แชนแนลนี้แหล่งรายได้ส่วนนึงมาจากการสนับสนุนของผู้ชมครับ

เลขบัญชี:
6900704492
ธนาคารกรุงไทย KTB
ธนพฤทธ์ ประยูรพรหม
Thanapruet Prayoonphrom

True​ Wallet:
0802298060
ธนพฤทธ์ ประยูรพรหม
หากอายุต่ำกว่า 18 ปี กรุณาปรึกษาผู้ปกครองก่อนสนับสนุน

Paypal:
https://www.paypal.me/nodarkness​​​​​…
ThaNAPRUET​ Prayoonphrom​
(เข้าใจผิดเลยพิมพ์ชื่อแบบตัวใหญ่ตัวเล็กแปลกๆ)​
Paypal​ คิดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ​ 10​ บาท
เคยมีคนโอนมา​ 10​ บาท​ ก็คือ​เข้า Paypal​ หมดเลย
แล้วมันเหมือนจะมีค่าธรรมเนียมอีก​ 4% มั้งครับ​ เผลอๆ​ มากกว่านั้น
คือผมอยากบอกว่าถ้าโอนผ่านธนาคารได้ก็ดีนะครับ
เห็นค่าธรรมเนียมไม่เข้ากระเป๋าเราแล้วมันเศร้า​ T_T

ref
https://www.youtube.com/watch?v=f1sAPTiAFFY
https://www.youtube.com/watch?v=PbQerKaxs9s
https://www.youtube.com/watch?v=SX_ViT4Ra7k
https://genius.com/Geniusromanizationskenshiyonezulemonromanizedlyrics
https://www.youtube.com/watch?v=J_SLN14wySI

ไขปริศนานักพูด 8++ ภาษา

PARATA – ยอมแพ้แล้ว【OFFICIAL MV】


MV PARATA ยอมแพ้แล้ว
ALBUM : PARATA 2019
PARATA MUSIC
ติดต่องานแสดง ► 0989131553 คุญญา
DOWNLOAD
Spotify : https://open.spotify.com/album/78clIMAJkn3sjnRqWfTTN5
iTunes : https://music.apple.com/th/album/1455319900
JOOX : https://www.joox.com/th/single/bap28oJGOAvMiLPXgWtIWw==
Download : 1238338
CREDITS
Lyrics ► วีรยุทธ ชูลีกร (HALEEM)
Melody ► วีรยุทธ ชูลีกร (HALEEM)
Arrange by ► PARATA
Produced by ► PARATA
Executive Produced by ► YA YA
Mixed \u0026 mastered by ► TATOON’STUDIO (TOON’S PARATA)
Recorded at ► TATOON’STUDIO
Music Video Production ► NATHA Project
Drummer Backup by ► https://www.facebook.com/Drummer.The….
SOCIAL
ติดตามพวกเราได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/paratarock
Twitter : https://twitter.com/parataband
Instagram : https://www.instagram.com/parataband
..PARATA BAND..
TOONS PARATA
Facebook : https://www.facebook.com/toonsparata
Instagram : https://www.instagram.com/toons_parata
WUT PARATA
Facebook : https://www.facebook.com/wutparata
Instagram : https://www.instagram.com/wut_parata
เนื้อเพลง
ต่อให้ฉันพยายามเท่าไร ต่อให้ฉันจะจริงใจแค่ไหน ก็ไปไม่ถึงใจเธอ
เธอคือคนเดียวที่ใจฉันฝัน ทุ่มเททุกทางให้เธอสำคัญ ก็ไม่ชนะใจเธอ

ก็รู้ ว่าคนที่ใช่ไม่ต้องพยายาม และรู้ ว่าคนไม่ใช่มันน่ารำคาญ
ผิดที่ฉันมันคิดไปเอง ผิดที่ฉันมันคิดไปไกล

ฉันยอมแพ้แล้ว ในเมื่อมองไม่เห็นวี่แววที่เธอจะมาสนใจ
ขอยอมแพ้แล้ว ยอมยกธงไม่ฝืนต่อไป
ต่อให้เธอคือคนที่ใช่ แต่ฉันคือคนไม่ใช่ (สำหรับเธอ)
Intru
ผิดเองที่ได้แต่พยายาม ลืมคิดว่าเธอไม่เคยต้องการ หลงสร้างเป็นภาพลวงตา
หมดแล้วความหวังที่ใจฉันมี หลีกทางให้เธอได้เดินสักที ไม่ควรเกะกะสายตา

( ซ้ำ , )
Solo
( ซ้ำ )

ฉันยอมแพ้แล้ว ในเมื่อมองไม่เห็นวี่แววที่เธอจะมาสนใจ
ยอมแพ้แล้ว รู้ตัวดีว่าฝืนไม่ไหว
ในเมื่อฉันคือคนไม่ใช่ ทำอย่างไรฉันก็ไม่ใช่สำหรับเธอ
ยอมแพ้แล้ว PARATA Newsingle

PARATA - ยอมแพ้แล้ว【OFFICIAL MV】

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ต่อให้พยายามแค่ไหน ฉันก็เดินต่อไปไม่ได้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *