Skip to content
Home » [NEW] สีจิ้นผิง : บุรุษผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนบนการเดินทางใหม่ | ประวัติ เซี่ยงไฮ้ – NATAVIGUIDES

[NEW] สีจิ้นผิง : บุรุษผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนบนการเดินทางใหม่ | ประวัติ เซี่ยงไฮ้ – NATAVIGUIDES

ประวัติ เซี่ยงไฮ้: คุณกำลังดูกระทู้

ปักกิ่ง, 6 พ.ย. (ซินหัว) – นับเป็นเวลา 72 ปีแล้ว ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ได้บริหารปกครองจีน ซึ่งถือเป็นพรรคการเมืองเพียงไม่กี่พรรคบนโลกที่มีประวัติศาสตร์ยืนยาวและระยะเวลาปกครองประเทศต่อเนื่องเช่นนี้ โดยปัจจุบันมี “สีจิ้นผิง” เป็นแกนหลักของการนำพรรคฯ

ขณะที่หลายทศวรรษก่อนหน้านี้ การนำแบบรวมศูนย์ของพรรคฯ มีเหมาเจ๋อตง เติ้งเสี่ยวผิง เจียงเจ๋อหมิน และหูจิ่นเทา เป็นแกนหลักของการนำหลายต่อหลายรุ่น

นับตั้งแต่สีจิ้นผิงได้รับเลือกตั้งเป็นเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2012 สีจิ้นผิงได้แสดงบทบาทของบุรุษผู้มีความมุ่งมั่นและพูดจริงทำจริง บุรุษผู้มีความคิดและความรู้สึกลึกซึ้ง บุรุษผู้สืบทอดมรดกและกล้าหาญสร้างสิ่งใหม่ และบุรุษผู้มีวิสัยทัศน์ก้าวไกลและตั้งใจทำงานอย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อย

แชนเนล นิวส์ เอเชีย ช่องข่าวภาษาอังกฤษในสิงคโปร์ ระบุว่าจีนกำลังกลายเป็นประเทศมหาอำนาจภายใต้การนำของสีจิ้นผิง และปัจจุบันจีนกำลังก้าวเข้าสู่ยุคสมัยแห่งความแข็งแกร่ง

ก้าวเดินกับประชาชน

ในวัย 15 ปี สีจิ้นผิงเดินทางสู่หมู่บ้านเหลียงเจียเหอของมณฑลส่านซีด้วยสถานะ “ยุวปัญญาชน” ในปี 1969 และเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่หมู่บ้านแห่งนี้ในปี 1974

ใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านเล็กๆ บนที่ราบสูงดินลมหอบแถบชนบทแห่งนี้นานเจ็ดปี ยามสิ้นสุดวันของการทำงานหนัก สีจิ้นผิงจะกลับเข้าบ้านถ้ำโบราณและหลับพักผ่อนบนเตียงดินเหนียวแสนธรรมดา

สีจิ้นผิงใช้เวลาเนิ่นนานถึง 38 ปี ดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามลำดับชั้นภายในพรรคฯ ก่อนจะย่างก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดเฉกเช่นทุกวันนี้

หลังจากเข้าร่วมพรรคฯ สีจิ้นผิงเริ่มต้นด้วยตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯ ประจำหมู่บ้านเหลียงเจียเหอ ซึ่งเหล่าเพื่อนร่วมงานในหมู่บ้านเผยว่า “สีจิ้นผิงทำงานอย่างซื่อตรง มีความคิดหลากหลาย สามารถรวมประชาชนและเจ้าหน้าที่เป็นหนึ่งเดียวกัน”

สีจิ้นผิงรำลึกถึงตอนอยู่หมู่บ้านเหลียงเจียเหออันยากไร้ว่าสิ่งที่ตนเองต้องการมากกว่าสิ่งใดคือทำให้ชาวบ้านมี “เนื้อสัตว์บนจานข้าว”

ปี 1975 สีจิ้นผิงได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชิงหัวในกรุงปักกิ่ง หลังจากสำเร็จการศึกษา สีจิ้นผิงทำงานแรกที่สำนักงานทั่วไปของคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง ก่อนย้ายไปอำเภอเจิ้งติ้งของมณฑลเหอเป่ยทางตอนเหนือในปี 1982

สีจิ้นผิงเล่าถึงการย้ายไปยังเจิ้งติ้งว่าตนเองอาสาทำงานระดับรากหญ้าท่ามกลางประชาชน และอยาก “รักประชาชนเหมือนที่รักพ่อแม่”

ต่อจากเจิ้งติ้ง เส้นทางอาชีพทางการเมืองของสีจิ้นผิงเบนสู่มณฑลชายฝั่งทะเลอย่างฝูเจี้ยนและเจ้อเจียง รวมถึงมหานครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน สายสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างสีจิ้นผิงกับประชาชนเป็นสิ่งที่เด่นชัดเสมอ

หลิวจิ้งเป่ย ศาสตราจารย์ประจำสถาบันภาวะผู้นำของผู้บริหารแห่งประเทศจีน (CELAP) ในเขตผู่ตงของเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่าปรัชญายึดประชาชนเป็นศูนย์กลางของสีจิ้นผิงได้อธิบายว่าทำไมสีจิ้นผิงจึงสั่งการรักษาชีวิตประชาชนอย่างสุดกำลังระหว่างการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

สีจิ้นผิงกลับสู่กรุงปักกิ่งในปี 2007 เพื่อดำรงตำแหน่งคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคฯ และตำแหน่งรองประธานาธิบดีจีนในเวลาต่อมา โดยกำกับดูแลงานด้านต่างๆ ครอบคลุมการสร้างพรรคฯ งานองค์กร กิจการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและมาเก๊า และการเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาปักกิ่ง โอลิมปิก 2008

สีจิ้นผิงในวัย 59 ปี ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งอาวุโสที่สุดของพรรคฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2012 และราวหนึ่งเดือนต่อมา สีจิ้นผิงฟันฝ่าอากาศเย็นของฤดูหนาวเยี่ยมชาวบ้านยากจนในมณฑลเหอเป่ย นั่งพูดคุยกับพวกเขาถึงรายได้ ซักถามว่ามีอาหาร ผ้าห่ม และถ่านหินเพียงพอจะผ่านพ้นฤดูหนาวหรือไม่ ซึ่งสีจิ้นผิงเผยว่าเศร้าใจที่ได้เห็นชาวบ้านบางส่วนยังคงมีชีวิตที่ยากลำบาก

เสริมความแข็งแกร่งของพรรคฯ

ปี 2021 นับเป็นปีที่ 9 ของโครงการปราบปรามการทุจริตของสีจิ้นผิง ซึ่งดำเนินการเป็นวงกว้างมากที่สุดในประวัติศาสตร์จีน และไม่มีสัญญาณของการโอนอ่อนผ่อนปรนแต่อย่างใด

ปีก่อนมีเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงในภาคการเงินถูกลงโทษหรือสอบสวนมากกว่า 20 คน ขณะช่วงสามสิบวันที่ผ่านมา มีอดีตเจ้าหน้าที่รัฐระดับกระทรวงในหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางถูกสอบสวน และเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งถูกลงโทษ

ช่วงเก้าปีที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่รัฐระดับกระทรวงและระดับกระทรวงขึ้นไปถูกลงโทษหรือสอบสวนมากกว่า 400 คน ซึ่งรวมถึงอดีตสมาชิกคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคฯ และอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลางสองคน

นอกจากนั้นมีผู้หลบหนีคดีความมากกว่า 8,300 คน ถูกนำตัวกลับมาสะสางความผิดจากกว่า 120 ประเทศและภูมิภาคระหว่างปี 2014-2020

“สีจิ้นผิงทวนกระแสในห้วงยามสำคัญ” บทบรรณาธิการของสื่อต่างประเทศระบุ

สีจิ้นผิงในฐานะเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคฯ พยายามบัญญัติและแก้ไขระเบียบข้อบังคับภายในพรรคฯ ราว 200 รายการ ทั้งยังดำเนินโครงการการศึกษาทั่วพรรคฯ ห้าโครงการ เพื่อกระชับอุดมการณ์และความเชื่อมั่นของสมาชิกพรรคฯ รวมถึงรักษาการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

ปัจจุบันจำนวนสมาชิกพรรคฯ ขยายตัวจนอยู่ที่ 95 ล้านคน เมื่อนับถึงเดือนมิถุนายนปีนี้ โดยคณะผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการจีนชี้ว่าพรรคฯ มีระเบียบวินัย โปร่งใส และทรงอำนาจยิ่งขึ้น

การประชุมเต็มคณะครั้งที่ 6 ของคณะกรรมการกลางพรรคฯ ชุดที่ 18 ในปี 2016 ได้กำหนดสถานะของสีจิ้นผิงเป็นแกนหลักของคณะกรรมการกลางพรรคฯ และพรรคฯ ทั้งมวล

การประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯ ครั้งที่ 19 ในเดือนตุลาคม 2017 ได้รับรองความคิดสีจิ้นผิงว่าด้วยสังคมนิยมอันมีอัตลักษณ์จีนสำหรับยุคใหม่ (Xi Jinping Thought on Socialism with Chinese Characteristics for a New Era) และบรรจุเข้าธรรมนูญพรรคฯ รวมถึงรัฐธรรมนูญของจีนด้วย

ซินหมิง ศาสตราจารย์ประจำโรงเรียนพรรคฯ แห่งคณะกรรมการกลางพรรคฯ (สถาบันธรรมาภิบาลแห่งชาติ) กล่าวว่าเฉกเช่นเดียวกับเหมาเจ๋อตงและเติ้งเสี่ยวผิง สีจิ้นผิงได้เดินหน้าการปรับใช้ลัทธิมาร์กซ์ให้เข้ากับบริบทของจีนและทำให้ลัทธิมาร์กซ์มีความทันสมัยอยู่เสมอ

สร้างจีนที่แข็งแรง

หลังจากสงครามฝิ่น ปี 1840 จีนถูกลดสถานะอย่างค่อยเป็นค่อยไปสู่การเป็นสังคมกึ่งอาณานิคมและกึ่งศักดินา ทั้งยังถูกกลั่นแกล้งและบอบช้ำจากความยากจนและความอ่อนแอ นำไปสู่การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี 1921 เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ดังกล่าว

สองสัปดาห์หลังจากการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในพรรคฯ สีจิ้นผิงผลักดัน “ความฝันจีน” ของการฟื้นฟูชาติ และเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ณ กิจกรรมรำลึกการปฏิวัติซินไฮ่ครบรอบ 110 ปี สีจิ้นผิงกล่าวถึง “การฟื้นฟู” จำนวน 25 ครั้ง ในการกล่าวสุนทรพจน์นาน 35 นาที ซึ่งทำให้คำนี้เป็นหนึ่งในสารที่ถูกเน้นย้ำมากที่สุด

สีจิ้นผิงเชื่อว่าการฟื้นฟูจำต้องมีการออกแบบกลยุทธ์และการทำงานหนัก สีจิ้นผิงเป็นผู้นำด้วยการพูดจริงทำจริง โดยนับเฉพาะปี 2019 สีจิ้นผิงเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญมากกว่า 500 รายการ กำหนดการเดินทางทำงานของสีจิ้นผิงครอบคลุมวันหยุดสุดสัปดาห์ราว 30 สัปดาห์ในปีนั้น และสีจิ้นผิงร่วมปรับแก้ร่างแผนการปฏิรูปสำคัญแต่ละร่าง

“ความสุขเกิดขึ้นระหว่างการทำงานหนัก” สีจิ้นผิงกล่าว โดยสีจิ้นผิงมักเยือนฟาร์ม หมู่บ้านชาวประมง บ้านเรือนเกษตรกร ร้านอาหารขนาดเล็ก ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงงาน ห้องปฏิบัติการ โรงพยาบาล โรงเรียน หรือแม้แต่ตรวจดูเล้าหมูและห้องน้ำในชนบท เพื่อเก็บข้อมูลด้วยตัวเอง

สีจิ้นผิงยืนหยัดเผชิญหน้ากับสารพัดอุปสรรคและวิกฤตตลอดเก้าปีที่ผ่านมา

ช่วงต้นปี 2015 เมื่อเยเมนถดถอยสู่ความสับสนวุ่นวาย สีจิ้นผิงสั่งการกองทัพเรืออพยพชาวจีนที่ติดค้างในเยเมนหลายร้อยคนทันที หรือเมื่อสหรัฐฯ ริเริ่มสงครามการค้ากับจีน สีจิ้นผิงวางกลยุทธ์ว่าจีนไม่ได้ต้องการทำสงครามการค้า แต่ก็มิหวั่นเกรงสงครามดังกล่าว และพร้อมจะต่อสู้สงครามนี้หากจำเป็น

อย่างไรก็ดี สีจิ้นผิงกล่าวว่าการสนทนาและความร่วมมือที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องเพียงหนึ่งเดียวของจีนและสหรัฐฯ พร้อมระบุว่า “มหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับสองประเทศใหญ่อย่างจีนและสหรัฐฯ”

นับจากการดำเนินการตรวจตราประจำในน่านน้ำหมู่เกาะเตี้ยวอวี๋ ปัดป้องสิ่งที่เรียกว่าอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้ แสวงหาวิธีแก้ไขข้อพิพาทพรมแดนจีน-อินเดีย จนถึงอำนวยความสะดวกแก่การกลับมาของชาวจีนที่ถูกจับกุมในต่างประเทศอย่างผิดกฎหมาย สีจิ้นผิงได้เป็นผู้นำการวางกลยุทธ์และยุทธวิธี ตลอดจนเข้าช่วยเหลือเป็นการส่วนตัวหากจำเป็น

เมื่อเกิดความไม่สงบทางสังคมในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงในปี 2019 สีจิ้นผิงสั่งการคุ้มครองหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” และปราบปรามความพยายามยุยงปลุกปั่น “การปฏิวัติสี”

ช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน ปี 2020 ขณะการระบาดของโรคโควิด-19 บดบังบรรยากาศแห่งเทศกาล สีจิ้นผิงจัดประชุมคณะผู้นำพรรคฯ เพื่อหารือแผนการรับมือ โดยสีจิ้นผิงตัดสินใจกระชับข้อจำกัดการเดินทางของประชาชน และการเข้าออกหูเป่ยและอู่ฮั่น ซึ่งกาลเวลาพิสูจน์แล้วว่าวิธีการอันเข้มงวดนี้เป็นเพียงตัวเลือกเดียวที่มีประสิทธิผล

“การปกครองประเทศขนาดใหญ่เช่นนี้ถือเป็นความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงและภาระงานอันยากยิ่ง” สีจิ้นผิงกล่าวตอบคำถามจากนักการเมืองต่างชาติ “ผมยินดีเสียสละและอุทิศตนเพื่อการพัฒนาของจีน ผมจะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง”

กรุยเส้นทางใหม่แห่งการปฏิรูป

สีจิ้นผิงออกแบบการสร้างความทันสมัยแบบจีนที่มีวิถีการพัฒนาที่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ สอดประสาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเปิดกว้างเพื่อทุกคน

เหล่านักสังเกตการณ์เผยว่าวิสัยทัศน์การพัฒนานี้มุ่งนำสังคมนิยมจีนออกจากกับดักการพัฒนาที่พึ่งพาการเติบโตอันไร้ประสิทธิภาพ ไร้ขอบเขต และทำลายระบบนิเวศ ขยับทิศทางของประเทศสู่การพัฒนาคุณภาพสูง และหลีกเลี่ยงสถานการณ์คนรวยยิ่งรวย คนจนยิ่งจน

การปฏิรูปที่นำโดยสีจิ้นผิงได้เข้าถึงแวดวงต่างๆ นโยบายการใช้ที่ดิน การสร้างพรรคฯ ในรัฐวิสาหกิจ กระบวนการยุติธรรม การวางแผนครอบครัว นโยบายการคลังและภาษี ตลาดอสังหาริมทรัพย์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการต่อต้านการผูกขาด

หนึ่งมาตรการปฏิรูปที่โดดเด่นคือการสร้างความทันสมัยขององค์กรต่างๆ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาและเสถียรภาพในระยะยาวของจีน โดยแก่นสำคัญของมาตรการปฏิรูปนี้คือการยึดมั่นและปรับปรุงสังคมนิยมอันมีอัตลักษณ์จีน และสร้างระบบและศักยภาพการบริหารปกครองที่ทันสมัย

บางครั้งที่การปฏิรูปเผชิญอุปสรรคใหญ่ บางคราวที่ต้องแก้ไขความขัดแย้งและขจัดสิ่งกีดขวาง สีจิ้นผิงจำเป็นต้องตัดสินใจชี้ขาดด้วยตัวเอง

การปฏิรูปช่วยเปิดประเทศจีนยิ่งขึ้น โดยปี 2013 จีนจัดตั้งเขตการค้าเสรีนำร่องแห่งแรกในเซี่ยงไฮ้ ขณะปัจจุบันจำนวนเขตการค้าเสรีดังกล่าวสูงถึง 21 แห่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นครอบคลุมทั้งเกาะไห่หนาน (ไหหลำ) ที่มีขนาดราวประเทศเล็กๆ ในยุโรป ส่วนรายการข้อจำกัดการลงทุนจากต่างชาติของจีนถูกลดทอนลงเช่นกัน

ยามที่บางประเทศเลือกตั้งกำแพงการค้า จีนเลือกจัดงานมหกรรมการค้าและการลงทุนระดับโลกมากมาย โดยสีจิ้นผิงได้ริเริ่มงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) เป็นการส่วนตัว ซึ่งเป็นหนึ่งในงานมหกรรมระดับชาติที่มีความหลากหลายของประเทศ

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนระหว่างปี 2013-2020 เติบโตเฉลี่ยกว่าร้อยละ 6.4 ต่อปี ซึ่งมีส่วนส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจโลกเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 30 ต่อปีเป็นเวลาติดต่อกันหลายปี โดยจีดีพีของจีนสูงเกินเกณฑ์หนึ่งร้อยล้านล้านหยวนในปี 2020 หรือคิดเป็นราว 7 ใน 10 ของจีดีพีสหรัฐฯ

หลิวหรงกาง นักวิจัยประจำสถาบันประวัติศาสตร์และวรรณกรรมพรรคแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวว่านับจนถึงปัจจุบัน ความสำเร็จอันน่าประทับใจมากที่สุดในยุคใหม่คือการบรรลุ “เป้าหมายแห่งศตวรรษแรก” อันหมายถึงการสร้างสังคมมั่งคั่งปานกลางในทุกด้าน

จีนนั้นมีระบบประกันสังคมครอบคลุมวงกว้างมากที่สุดในโลก และกลุ่มชนชั้นรายได้ปานกลางขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ขณะเดียวกันจีนสามารถยุติความยากจนขั้นรุนแรง (extreme poverty) ได้ในท้ายที่สุดด้วย

ช่วงเก้าปีที่ผ่านมา มีประชาชนจีนหลุดพ้นจากความยากจนขั้นรุนแรงราว 100 ล้านคน โดยสีจิ้นผิงสั่งสมาชิกพรรคฯ และเจ้าหน้าที่รัฐประจำการที่หมู่บ้านยากไร้เพื่อดำเนินมาตรการบรรเทาความยากจนแบบพุ่งเป้าที่หน้างานจริง

ตัวสีจิ้นผิงเองเดินทางเยือนพื้นที่ยากจนที่สุดที่อยู่ติดกันทั้ง 14 แห่งของประเทศ ขณะการขจัดความยากจนขั้นรุนแรงถูกยกเป็นการทำสงครามครั้งสำคัญ ซึ่งมีวีรบุรุษผู้เสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่มากกว่า 1,800 คน

ปี 2021 จีนครองอันดับ 12 ในดัชนีนวัตกรรมโลก (Global Innovation Index) สูงกว่าญี่ปุ่น อิสราเอล และแคนาดา รวมถึงเป็นผู้รับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศอันดับหนึ่ง และตลาดผู้บริโภคเบอร์หนึ่งของโลก

นอกจากนั้นสีจิ้นผิงยังปฏิรูปกองทัพอย่างรอบด้าน เน้นย้ำหลักการของเหมาเจ๋อตงที่ว่า “พรรคฯ ควบคุมปืน” ริเริ่มการปฏิรูปต่างๆ ในระบบการนำและบัญชาการ ขนาด โครงสร้าง และองค์ประกอบของกองทัพ ตลอดจนสั่งการกองทัพพร้อมสู้รบอยู่เสมอ

มีส่วนส่งเสริมประชาคมโลก

สีจิ้นผิงนั้นมุ่งมั่นนำพาจีนมีส่วนร่วมและส่วนส่งเสริมประชาคมโลก โดยก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 สีจิ้นผิงได้เยือน 69 ประเทศในการเดินทาง 41 ครั้ง และเป็นผู้นำจีนคนแรกที่เข้าร่วมการประชุมเศรษฐกิจโลกในเมืองดาวอสของสวิตเซอร์แลนด์

การเดินทางเยือนต่างประเทศของสีจิ้นผิงมักอัดแน่นด้วยกำหนดการต่างๆ และใช้เวลาจนถึงดึกดื่นเลยเที่ยงคืน โดยสีจิ้นผิงยังเคยใช้เวลาวันคล้ายวันเกิดของตัวเองกับการเดินทางเยือนต่างประเทศด้วย สีจิ้นผิงกล่าวว่าเวลาที่หมดไปกับการเยือนนานาประเทศอาจดู “ฟุ่มเฟือย” แต่ก็ “คุ้มค่า”

อัลไต แอตลิ นักวิชาการในนครอิสตันบูลของตุรกี ชี้ว่าภายใต้การนำของสีจิ้นผิง การมีส่วนร่วมของจีนในกิจการระหว่างประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการทูต เกิดการเปลี่ยนแปลง และโลกกำลังจับตาดูการผงาดของประเทศใหญ่ที่มีอิทธิพลระดับโลกแห่งนี้

ปี 2013 สีจิ้นผิงนำเสนอแนวคิด “การสร้างประชาคมมนุษยชาติที่มีอนาคตร่วมกัน” สีจิ้นผิงอธิบายว่าประชาคมระหว่างประเทศควรส่งเสริมการเป็นหุ้นส่วน ความมั่นคง การเติบโต การแลกเปลี่ยนระหว่างอารยธรรม และการสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง โดยอ้างอิงสุภาษิตที่ว่า “ผลประโยชน์ที่ดีควรเป็นผลประโยชน์ของทุกฝ่าย”

ด้วยแนวคิดข้างต้น สีจิ้นผิงนำเสนอวิถีทางใหม่ของการประสานสายสัมพันธ์ระหว่างประเทศบนพื้นฐานความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ร่วมกันและหลักการบรรลุการเติบโตร่วมกันผ่านการเจรจาหารือและการทำงานร่วมกันในธรรมาภิบาลโลก

“ระเบียบระหว่างประเทศและระบบธรรมาภิบาลใดที่เหมาะสมกับโลกและประชาชนของทุกประเทศมากที่สุด? สิ่งนี้ควรถูกตัดสินใจร่วมกันโดยทุกประเทศผ่านการปรึกษาหารือ มิใช่โดยประเทศใดประเทศหนึ่งหรือเพียงไม่กี่ประเทศ” สีจิ้นผิงกล่าว

สีจิ้นผิงยังสนับสนุนหลักการเดียวกันนี้ในกรอบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศขนาดใหญ่ ซึ่งมีเสถียรภาพโดยรวมและการพัฒนาสมดุล โดยสีจิ้นผิงเน้นย้ำในหลายโอกาสว่าหากประเทศต่างๆ รักษาการติดต่อสื่อสารและปฏิบัติต่อกันอย่างจริงใจ ย่อมสามารถหลีกเลี่ยง “กับดักธูซิดิดิส” (Thucydides trap) ได้

ในปีที่ชักชวนโลกร่วมสร้างประชาคมมนุษยชาติที่มีอนาคตร่วมกันครั้งแรก สีจิ้นผิงยังเสนอแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ซึ่งปัจจุบันมี 172 ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศลงนามเอกสารความร่วมมือกับจีนภายใต้กรอบแผนริเริ่มฯ มากกว่า 200 ฉบับ เมื่อนับถึงเดือนสิงหาคม 2021

รายงานจากธนาคารโลกระบุว่าโครงการต่างๆ ตามแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางสามารถช่วยเหลือประชาชนทั่วโลกหลุดพ้นจากความยากจนขั้นรุนแรง 7.6 ล้านคน และหลุดพ้นจากความยากจนขั้นปานกลาง 32 ล้านคน

อย่างไรก็ดี การพัฒนาระดับโลกมิควรส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ประเด็นนี้สีจิ้นผิงได้ส่งสัญญาณความตั้งใจอันแน่วแน่สู่ทั่วโลกในปี 2020 ว่าจีนจะปล่อยคาร์บอนแตะจุดสูงสุดก่อนปี 2030 และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนก่อนปี 2060

“โลกควรขอบคุณจีนที่มีส่วนส่งเสริมการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” เควิน รัดด์ อดีตนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าว

ขณะที่เมื่อเกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 สีจิ้นผิงเรียกร้องความสามัคคีและความร่วมมือระดับโลก โดยจีนได้จัดสรรอุปกรณ์ต้านเชื้อไวรัสให้กว่า 150 ประเทศและ 14 องค์กรระหว่างประเทศ รวมถึงจัดส่งทีมบุคลากรการแพทย์ 37 ทีม ไปยัง 34 ประเทศด้วย

สีจิ้นผิงเผยคำมั่นว่าจะทำให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจีนเป็นสินค้าสาธารณะของโลก และคำสัญญาว่าจีนจะจัดสรรวัคซีนแก่ทั่วโลก จำนวน 2 พันล้านโดส ภายในปีนี้

ช่วงหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา “จีน” ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ได้เดินทางมาไกลอย่างน่าเหลือเชื่อ จากประเทศที่ติดกับดักความยากจนสู่ประเทศที่สามารถตอบสนองความต้องการพื้นฐานของประชาชน จนถึงปัจจุบันเป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งปานกลาง ซึ่งสีจิ้นผิงถือว่าความสำเร็จนี้มีส่วนส่งเสริมมนุษยชาติ

มาเรีย เฟอร์นันดา เอสปิโนซา การ์เซส ประธานการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 73 ยกย่องสีจิ้นผิงเป็น “กัปตันผู้ช่ำชอง” ที่สร้างคุณูปการสำคัญอย่างการสนับสนุนลัทธิพหุภาคี แผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง และแนวคิดประชาคมมนุษยชาติที่มีอนาคตร่วมกัน

บรรลุภารกิจใหม่

พรรคคอมมิวนิสต์จีนวางแผนบรรลุการฟื้นฟูชาติผ่านเป้าหมายสองประการ หรือที่รู้จักกันว่า “เป้าหมายร้อยปีสองประการ”

ช่วงเก้าปีที่ผ่านมา สีจิ้นผิงในฐานะผู้นำอาวุโสสูงสุดของพรรคฯ ได้นำพาประเทศบรรลุขั้นแรกสำเร็จ และเป็นประธานการออกแบบขั้นที่สองของแผนการประวัติศาสตร์นี้

เป้าหมายแรก จีนควรบรรลุการสร้างสังคมนิยมอันทันสมัยขั้นพื้นฐานภายในปี 2035 ส่วนเป้าหมายที่สอง จีนควรเป็นประเทศสังคมนิยมอันทันสมัยที่มั่งคั่ง แข็งแกร่ง เป็นประชาธิปไตย ก้าวหน้าทางวัฒนธรรม สามัคคีปรองดอง และสวยงามภายในกลางศตวรรษที่ 21 ซึ่งจะตรงกับวาระสาธารณรัฐประชาชนจีนก่อตั้งครบร้อยปี

แนวทางเสริมได้สนับสนุนเป้าหมายอันครอบคลุมข้างต้น สีจิ้นผิงได้ชี้นำการร่างข้อเสนอของคณะผู้นำพรรคฯ สำหรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 (2021-2025) และเป้าหมายระยะยาวจนถึงปี 2035 (Long-Range Objectives Through the Year 2035) ซึ่งได้รับการรับรองในเดือนตุลาคม 2020

“การบรรลุความฝันอันยิ่งใหญ่นี้ต้องการความพยายามอันใหญ่ยิ่ง” สีจิ้นผิงกล่าว

ดังนั้น การประชุมเต็มคณะครั้งที่ 6 ของคณะกรรมการกลางพรรคฯ ชุดที่ 19 ในเดือนพฤศจิกายน จึงเกิดขึ้นในห้วงเวลาสำคัญ เพื่อหารือปณิธานแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ และประสบการณ์แห่งประวัติศาสตร์หนึ่งร้อยปีของพรรคฯ

“การดิ้นรนต่อสู้ตลอดหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา พรรคฯ ได้สั่งสมประสบการณ์มากมาย ทำความเข้าใจกฎเกณฑ์สำคัญ พัฒนาทฤษฎีการปกครอง และตักตวงปัญญาความรู้ สมบัติล้ำค่านี้ควรถูกสรุปรวมเพื่อเป็นแรงบันดาลใจสู่การปกครองที่ดียิ่งขึ้นของพรรคฯ” หานชิ่งเสียงกล่าว

คำว่าประวัติศาสตร์กลายเป็นคำนิยมของเหล่าสมาชิกพรรคฯ ในปีนี้ ขณะโครงการการศึกษาวงกว้างช่วยเจ้าหน้าที่พรรคฯ รับรู้ประวัติศาสตร์ของพรรคฯ และมีการเปิดพิพิธภัณฑ์พรรคฯ แห่งใหม่ ซึ่งสีและคณะผู้นำได้เดินทางเยือนและชมนิทรรศการที่อธิบายว่าพรรคฯ นำพาจีนอย่างไร เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.

ทั้งนี้ สีจิ้นผิงและคณะผู้นำได้กล่าวคำปฏิญาณต่อหน้าธงพรรคฯ หลังจากเสร็จสิ้นการเยี่ยมชมนิทรรศการ ซึ่งเป็นการรื้อฟื้นพิธีการที่ปฏิบัติโดยสมาชิกใหม่ของพรรคฯ ทุกคน

“ข้าพเจ้าจะต่อสู้เพื่อพรรคคอมมิวนิสต์ตลอดชีวิตที่เหลือ”

ปักกิ่ง, 6 พ.ย. (ซินหัว) – นับเป็นเวลา 72 ปีแล้ว ที่พรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ได้บริหารปกครองจีน ซึ่งถือเป็นพรรคการเมืองเพียงไม่กี่พรรคบนโลกที่มีประวัติศาสตร์ยืนยาวและระยะเวลาปกครองประเทศต่อเนื่องเช่นนี้ โดยปัจจุบันมีเป็นแกนหลักของการนำพรรคฯขณะที่หลายทศวรรษก่อนหน้านี้ การนำแบบรวมศูนย์ของพรรคฯ มีเหมาเจ๋อตง เติ้งเสี่ยวผิง เจียงเจ๋อหมิน และหูจิ่นเทา เป็นแกนหลักของการนำหลายต่อหลายรุ่นนับตั้งแต่สีจิ้นผิงได้รับเลือกตั้งเป็นเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2012 สีจิ้นผิงได้แสดงบทบาทของบุรุษผู้มีความมุ่งมั่นและพูดจริงทำจริง บุรุษผู้มีความคิดและความรู้สึกลึกซึ้ง บุรุษผู้สืบทอดมรดกและกล้าหาญสร้างสิ่งใหม่ และบุรุษผู้มีวิสัยทัศน์ก้าวไกลและตั้งใจทำงานอย่างมิรู้จักเหน็ดเหนื่อยแชนเนล นิวส์ เอเชีย ช่องข่าวภาษาอังกฤษในสิงคโปร์ ระบุว่าจีนกำลังกลายเป็นประเทศมหาอำนาจภายใต้การนำของสีจิ้นผิง และปัจจุบันจีนกำลังก้าวเข้าสู่ยุคสมัยแห่งความแข็งแกร่งในวัย 15 ปี สีจิ้นผิงเดินทางสู่หมู่บ้านเหลียงเจียเหอของมณฑลส่านซีด้วยสถานะในปี 1969 และเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่หมู่บ้านแห่งนี้ในปี 1974ใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านเล็กๆ บนที่ราบสูงดินลมหอบแถบชนบทแห่งนี้นานเจ็ดปี ยามสิ้นสุดวันของการทำงานหนัก สีจิ้นผิงจะกลับเข้าบ้านถ้ำโบราณและหลับพักผ่อนบนเตียงดินเหนียวแสนธรรมดาสีจิ้นผิงใช้เวลาเนิ่นนานถึง 38 ปี ดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามลำดับชั้นภายในพรรคฯ ก่อนจะย่างก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดเฉกเช่นทุกวันนี้หลังจากเข้าร่วมพรรคฯ สีจิ้นผิงเริ่มต้นด้วยตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯ ประจำหมู่บ้านเหลียงเจียเหอ ซึ่งเหล่าเพื่อนร่วมงานในหมู่บ้านเผยว่าสีจิ้นผิงรำลึกถึงตอนอยู่หมู่บ้านเหลียงเจียเหออันยากไร้ว่าสิ่งที่ตนเองต้องการมากกว่าสิ่งใดคือทำให้ชาวบ้านมีปี 1975 สีจิ้นผิงได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยชิงหัวในกรุงปักกิ่ง หลังจากสำเร็จการศึกษา สีจิ้นผิงทำงานแรกที่สำนักงานทั่วไปของคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลาง ก่อนย้ายไปอำเภอเจิ้งติ้งของมณฑลเหอเป่ยทางตอนเหนือในปี 1982สีจิ้นผิงเล่าถึงการย้ายไปยังเจิ้งติ้งว่าตนเองอาสาทำงานระดับรากหญ้าท่ามกลางประชาชน และอยากต่อจากเจิ้งติ้ง เส้นทางอาชีพทางการเมืองของสีจิ้นผิงเบนสู่มณฑลชายฝั่งทะเลอย่างฝูเจี้ยนและเจ้อเจียง รวมถึงมหานครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน สายสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างสีจิ้นผิงกับประชาชนเป็นสิ่งที่เด่นชัดเสมอหลิวจิ้งเป่ย ศาสตราจารย์ประจำสถาบันภาวะผู้นำของผู้บริหารแห่งประเทศจีน (CELAP) ในเขตผู่ตงของเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่าปรัชญายึดประชาชนเป็นศูนย์กลางของสีจิ้นผิงได้อธิบายว่าทำไมสีจิ้นผิงจึงสั่งการรักษาชีวิตประชาชนอย่างสุดกำลังระหว่างการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)สีจิ้นผิงกลับสู่กรุงปักกิ่งในปี 2007 เพื่อดำรงตำแหน่งคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคฯ และตำแหน่งรองประธานาธิบดีจีนในเวลาต่อมา โดยกำกับดูแลงานด้านต่างๆ ครอบคลุมการสร้างพรรคฯ งานองค์กร กิจการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและมาเก๊า และการเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาปักกิ่ง โอลิมปิก 2008สีจิ้นผิงในวัย 59 ปี ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งอาวุโสที่สุดของพรรคฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2012 และราวหนึ่งเดือนต่อมา สีจิ้นผิงฟันฝ่าอากาศเย็นของฤดูหนาวเยี่ยมชาวบ้านยากจนในมณฑลเหอเป่ย นั่งพูดคุยกับพวกเขาถึงรายได้ ซักถามว่ามีอาหาร ผ้าห่ม และถ่านหินเพียงพอจะผ่านพ้นฤดูหนาวหรือไม่ ซึ่งสีจิ้นผิงเผยว่าเศร้าใจที่ได้เห็นชาวบ้านบางส่วนยังคงมีชีวิตที่ยากลำบากปี 2021 นับเป็นปีที่ 9 ของโครงการปราบปรามการทุจริตของสีจิ้นผิง ซึ่งดำเนินการเป็นวงกว้างมากที่สุดในประวัติศาสตร์จีน และไม่มีสัญญาณของการโอนอ่อนผ่อนปรนแต่อย่างใดปีก่อนมีเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงในภาคการเงินถูกลงโทษหรือสอบสวนมากกว่า 20 คน ขณะช่วงสามสิบวันที่ผ่านมา มีอดีตเจ้าหน้าที่รัฐระดับกระทรวงในหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางถูกสอบสวน และเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งถูกลงโทษช่วงเก้าปีที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่รัฐระดับกระทรวงและระดับกระทรวงขึ้นไปถูกลงโทษหรือสอบสวนมากกว่า 400 คน ซึ่งรวมถึงอดีตสมาชิกคณะกรรมการถาวรประจำกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคฯ และอดีตรองประธานคณะกรรมาธิการการทหารส่วนกลางสองคนนอกจากนั้นมีผู้หลบหนีคดีความมากกว่า 8,300 คน ถูกนำตัวกลับมาสะสางความผิดจากกว่า 120 ประเทศและภูมิภาคระหว่างปี 2014-2020บทบรรณาธิการของสื่อต่างประเทศระบุสีจิ้นผิงในฐานะเลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคฯ พยายามบัญญัติและแก้ไขระเบียบข้อบังคับภายในพรรคฯ ราว 200 รายการ ทั้งยังดำเนินโครงการการศึกษาทั่วพรรคฯ ห้าโครงการ เพื่อกระชับอุดมการณ์และความเชื่อมั่นของสมาชิกพรรคฯ รวมถึงรักษาการปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันปัจจุบันจำนวนสมาชิกพรรคฯ ขยายตัวจนอยู่ที่ 95 ล้านคน เมื่อนับถึงเดือนมิถุนายนปีนี้ โดยคณะผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการจีนชี้ว่าพรรคฯ มีระเบียบวินัย โปร่งใส และทรงอำนาจยิ่งขึ้นการประชุมเต็มคณะครั้งที่ 6 ของคณะกรรมการกลางพรรคฯ ชุดที่ 18 ในปี 2016 ได้กำหนดสถานะของสีจิ้นผิงเป็นแกนหลักของคณะกรรมการกลางพรรคฯ และพรรคฯ ทั้งมวลการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯ ครั้งที่ 19 ในเดือนตุลาคม 2017 ได้รับรองความคิดสีจิ้นผิงว่าด้วยสังคมนิยมอันมีอัตลักษณ์จีนสำหรับยุคใหม่ (Xi Jinping Thought on Socialism with Chinese Characteristics for a New Era) และบรรจุเข้าธรรมนูญพรรคฯ รวมถึงรัฐธรรมนูญของจีนด้วยซินหมิง ศาสตราจารย์ประจำโรงเรียนพรรคฯ แห่งคณะกรรมการกลางพรรคฯ (สถาบันธรรมาภิบาลแห่งชาติ) กล่าวว่าเฉกเช่นเดียวกับเหมาเจ๋อตงและเติ้งเสี่ยวผิง สีจิ้นผิงได้เดินหน้าการปรับใช้ลัทธิมาร์กซ์ให้เข้ากับบริบทของจีนและทำให้ลัทธิมาร์กซ์มีความทันสมัยอยู่เสมอหลังจากสงครามฝิ่น ปี 1840 จีนถูกลดสถานะอย่างค่อยเป็นค่อยไปสู่การเป็นสังคมกึ่งอาณานิคมและกึ่งศักดินา ทั้งยังถูกกลั่นแกล้งและบอบช้ำจากความยากจนและความอ่อนแอ นำไปสู่การก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนในปี 1921 เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ดังกล่าวสองสัปดาห์หลังจากการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดในพรรคฯ สีจิ้นผิงผลักดัน “ความฝันจีน” ของการฟื้นฟูชาติ และเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ณ กิจกรรมรำลึกการปฏิวัติซินไฮ่ครบรอบ 110 ปี สีจิ้นผิงกล่าวถึง “การฟื้นฟู” จำนวน 25 ครั้ง ในการกล่าวสุนทรพจน์นาน 35 นาที ซึ่งทำให้คำนี้เป็นหนึ่งในสารที่ถูกเน้นย้ำมากที่สุดสีจิ้นผิงเชื่อว่าการฟื้นฟูจำต้องมีการออกแบบกลยุทธ์และการทำงานหนัก สีจิ้นผิงเป็นผู้นำด้วยการพูดจริงทำจริง โดยนับเฉพาะปี 2019 สีจิ้นผิงเข้าร่วมกิจกรรมสำคัญมากกว่า 500 รายการ กำหนดการเดินทางทำงานของสีจิ้นผิงครอบคลุมวันหยุดสุดสัปดาห์ราว 30 สัปดาห์ในปีนั้น และสีจิ้นผิงร่วมปรับแก้ร่างแผนการปฏิรูปสำคัญแต่ละร่างสีจิ้นผิงกล่าว โดยสีจิ้นผิงมักเยือนฟาร์ม หมู่บ้านชาวประมง บ้านเรือนเกษตรกร ร้านอาหารขนาดเล็ก ซูเปอร์มาร์เก็ต โรงงาน ห้องปฏิบัติการ โรงพยาบาล โรงเรียน หรือแม้แต่ตรวจดูเล้าหมูและห้องน้ำในชนบท เพื่อเก็บข้อมูลด้วยตัวเองช่วงต้นปี 2015 เมื่อเยเมนถดถอยสู่ความสับสนวุ่นวาย สีจิ้นผิงสั่งการกองทัพเรืออพยพชาวจีนที่ติดค้างในเยเมนหลายร้อยคนทันที หรือเมื่อสหรัฐฯ ริเริ่มสงครามการค้ากับจีน สีจิ้นผิงวางกลยุทธ์ว่าจีนไม่ได้ต้องการทำสงครามการค้า แต่ก็มิหวั่นเกรงสงครามดังกล่าว และพร้อมจะต่อสู้สงครามนี้หากจำเป็นอย่างไรก็ดี สีจิ้นผิงกล่าวว่าการสนทนาและความร่วมมือที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องเพียงหนึ่งเดียวของจีนและสหรัฐฯ พร้อมระบุว่านับจากการดำเนินการตรวจตราประจำในน่านน้ำหมู่เกาะเตี้ยวอวี๋ ปัดป้องสิ่งที่เรียกว่าอนุญาโตตุลาการทะเลจีนใต้ แสวงหาวิธีแก้ไขข้อพิพาทพรมแดนจีน-อินเดีย จนถึงอำนวยความสะดวกแก่การกลับมาของชาวจีนที่ถูกจับกุมในต่างประเทศอย่างผิดกฎหมาย สีจิ้นผิงได้เป็นผู้นำการวางกลยุทธ์และยุทธวิธี ตลอดจนเข้าช่วยเหลือเป็นการส่วนตัวหากจำเป็นเมื่อเกิดความไม่สงบทางสังคมในเขตบริหารพิเศษฮ่องกงในปี 2019 สีจิ้นผิงสั่งการคุ้มครองหลักการ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” และปราบปรามความพยายามยุยงปลุกปั่น “การปฏิวัติสี”ช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน ปี 2020 ขณะการระบาดของโรคโควิด-19 บดบังบรรยากาศแห่งเทศกาล สีจิ้นผิงจัดประชุมคณะผู้นำพรรคฯ เพื่อหารือแผนการรับมือ โดยสีจิ้นผิงตัดสินใจกระชับข้อจำกัดการเดินทางของประชาชน และการเข้าออกหูเป่ยและอู่ฮั่น ซึ่งกาลเวลาพิสูจน์แล้วว่าวิธีการอันเข้มงวดนี้เป็นเพียงตัวเลือกเดียวที่มีประสิทธิผลสีจิ้นผิงกล่าวตอบคำถามจากนักการเมืองต่างชาติสีจิ้นผิงออกแบบการสร้างความทันสมัยแบบจีนที่มีวิถีการพัฒนาที่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ สอดประสาน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และเปิดกว้างเพื่อทุกคนเหล่านักสังเกตการณ์เผยว่าวิสัยทัศน์การพัฒนานี้มุ่งนำสังคมนิยมจีนออกจากกับดักการพัฒนาที่พึ่งพาการเติบโตอันไร้ประสิทธิภาพ ไร้ขอบเขต และทำลายระบบนิเวศ ขยับทิศทางของประเทศสู่การพัฒนาคุณภาพสูง และหลีกเลี่ยงสถานการณ์คนรวยยิ่งรวย คนจนยิ่งจนการปฏิรูปที่นำโดยสีจิ้นผิงได้เข้าถึงแวดวงต่างๆ นโยบายการใช้ที่ดิน การสร้างพรรคฯ ในรัฐวิสาหกิจ กระบวนการยุติธรรม การวางแผนครอบครัว นโยบายการคลังและภาษี ตลาดอสังหาริมทรัพย์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการต่อต้านการผูกขาดหนึ่งมาตรการปฏิรูปที่โดดเด่นคือการสร้างความทันสมัยขององค์กรต่างๆ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาและเสถียรภาพในระยะยาวของจีน โดยแก่นสำคัญของมาตรการปฏิรูปนี้คือการยึดมั่นและปรับปรุงสังคมนิยมอันมีอัตลักษณ์จีน และสร้างระบบและศักยภาพการบริหารปกครองที่ทันสมัยบางครั้งที่การปฏิรูปเผชิญอุปสรรคใหญ่ บางคราวที่ต้องแก้ไขความขัดแย้งและขจัดสิ่งกีดขวาง สีจิ้นผิงจำเป็นต้องตัดสินใจชี้ขาดด้วยตัวเองการปฏิรูปช่วยเปิดประเทศจีนยิ่งขึ้น โดยปี 2013 จีนจัดตั้งเขตการค้าเสรีนำร่องแห่งแรกในเซี่ยงไฮ้ ขณะปัจจุบันจำนวนเขตการค้าเสรีดังกล่าวสูงถึง 21 แห่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นครอบคลุมทั้งเกาะไห่หนาน (ไหหลำ) ที่มีขนาดราวประเทศเล็กๆ ในยุโรป ส่วนรายการข้อจำกัดการลงทุนจากต่างชาติของจีนถูกลดทอนลงเช่นกันยามที่บางประเทศเลือกตั้งกำแพงการค้า จีนเลือกจัดงานมหกรรมการค้าและการลงทุนระดับโลกมากมาย โดยสีจิ้นผิงได้ริเริ่มงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน (CIIE) เป็นการส่วนตัว ซึ่งเป็นหนึ่งในงานมหกรรมระดับชาติที่มีความหลากหลายของประเทศผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนระหว่างปี 2013-2020 เติบโตเฉลี่ยกว่าร้อยละ 6.4 ต่อปี ซึ่งมีส่วนส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจโลกเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 30 ต่อปีเป็นเวลาติดต่อกันหลายปี โดยจีดีพีของจีนสูงเกินเกณฑ์หนึ่งร้อยล้านล้านหยวนในปี 2020 หรือคิดเป็นราว 7 ใน 10 ของจีดีพีสหรัฐฯหลิวหรงกาง นักวิจัยประจำสถาบันประวัติศาสตร์และวรรณกรรมพรรคแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวว่านับจนถึงปัจจุบัน ความสำเร็จอันน่าประทับใจมากที่สุดในยุคใหม่คือการบรรลุ “เป้าหมายแห่งศตวรรษแรก” อันหมายถึงการสร้างสังคมมั่งคั่งปานกลางในทุกด้านจีนนั้นมีระบบประกันสังคมครอบคลุมวงกว้างมากที่สุดในโลก และกลุ่มชนชั้นรายได้ปานกลางขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ขณะเดียวกันจีนสามารถยุติความยากจนขั้นรุนแรง (extreme poverty) ได้ในท้ายที่สุดด้วยช่วงเก้าปีที่ผ่านมา มีประชาชนจีนหลุดพ้นจากความยากจนขั้นรุนแรงราว 100 ล้านคน โดยสีจิ้นผิงสั่งสมาชิกพรรคฯ และเจ้าหน้าที่รัฐประจำการที่หมู่บ้านยากไร้เพื่อดำเนินมาตรการบรรเทาความยากจนแบบพุ่งเป้าที่หน้างานจริงตัวสีจิ้นผิงเองเดินทางเยือนพื้นที่ยากจนที่สุดที่อยู่ติดกันทั้ง 14 แห่งของประเทศ ขณะการขจัดความยากจนขั้นรุนแรงถูกยกเป็นการทำสงครามครั้งสำคัญ ซึ่งมีวีรบุรุษผู้เสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่มากกว่า 1,800 คนปี 2021 จีนครองอันดับ 12 ในดัชนีนวัตกรรมโลก (Global Innovation Index) สูงกว่าญี่ปุ่น อิสราเอล และแคนาดา รวมถึงเป็นผู้รับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศอันดับหนึ่ง และตลาดผู้บริโภคเบอร์หนึ่งของโลกนอกจากนั้นสีจิ้นผิงยังปฏิรูปกองทัพอย่างรอบด้าน เน้นย้ำหลักการของเหมาเจ๋อตงที่ว่า “พรรคฯ ควบคุมปืน” ริเริ่มการปฏิรูปต่างๆ ในระบบการนำและบัญชาการ ขนาด โครงสร้าง และองค์ประกอบของกองทัพ ตลอดจนสั่งการกองทัพพร้อมสู้รบอยู่เสมอสีจิ้นผิงนั้นมุ่งมั่นนำพาจีนมีส่วนร่วมและส่วนส่งเสริมประชาคมโลก โดยก่อนเกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 สีจิ้นผิงได้เยือน 69 ประเทศในการเดินทาง 41 ครั้ง และเป็นผู้นำจีนคนแรกที่เข้าร่วมการประชุมเศรษฐกิจโลกในเมืองดาวอสของสวิตเซอร์แลนด์การเดินทางเยือนต่างประเทศของสีจิ้นผิงมักอัดแน่นด้วยกำหนดการต่างๆ และใช้เวลาจนถึงดึกดื่นเลยเที่ยงคืน โดยสีจิ้นผิงยังเคยใช้เวลาวันคล้ายวันเกิดของตัวเองกับการเดินทางเยือนต่างประเทศด้วย สีจิ้นผิงกล่าวว่าเวลาที่หมดไปกับการเยือนนานาประเทศอาจดูแต่ก็อัลไต แอตลิ นักวิชาการในนครอิสตันบูลของตุรกี ชี้ว่าภายใต้การนำของสีจิ้นผิง การมีส่วนร่วมของจีนในกิจการระหว่างประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการทูต เกิดการเปลี่ยนแปลง และโลกกำลังจับตาดูการผงาดของประเทศใหญ่ที่มีอิทธิพลระดับโลกแห่งนี้ปี 2013 สีจิ้นผิงนำเสนอแนวคิดสีจิ้นผิงอธิบายว่าประชาคมระหว่างประเทศควรส่งเสริมการเป็นหุ้นส่วน ความมั่นคง การเติบโต การแลกเปลี่ยนระหว่างอารยธรรม และการสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่ง โดยอ้างอิงสุภาษิตที่ว่าด้วยแนวคิดข้างต้น สีจิ้นผิงนำเสนอวิถีทางใหม่ของการประสานสายสัมพันธ์ระหว่างประเทศบนพื้นฐานความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ร่วมกันและหลักการบรรลุการเติบโตร่วมกันผ่านการเจรจาหารือและการทำงานร่วมกันในธรรมาภิบาลโลกสีจิ้นผิงกล่าวสีจิ้นผิงยังสนับสนุนหลักการเดียวกันนี้ในกรอบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศขนาดใหญ่ ซึ่งมีเสถียรภาพโดยรวมและการพัฒนาสมดุล โดยสีจิ้นผิงเน้นย้ำในหลายโอกาสว่าหากประเทศต่างๆ รักษาการติดต่อสื่อสารและปฏิบัติต่อกันอย่างจริงใจ ย่อมสามารถหลีกเลี่ยงได้ในปีที่ชักชวนโลกร่วมสร้างประชาคมมนุษยชาติที่มีอนาคตร่วมกันครั้งแรก สีจิ้นผิงยังเสนอแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ซึ่งปัจจุบันมี 172 ประเทศและองค์กรระหว่างประเทศลงนามเอกสารความร่วมมือกับจีนภายใต้กรอบแผนริเริ่มฯ มากกว่า 200 ฉบับ เมื่อนับถึงเดือนสิงหาคม 2021รายงานจากธนาคารโลกระบุว่าโครงการต่างๆ ตามแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางสามารถช่วยเหลือประชาชนทั่วโลกหลุดพ้นจากความยากจนขั้นรุนแรง 7.6 ล้านคน และหลุดพ้นจากความยากจนขั้นปานกลาง 32 ล้านคนอย่างไรก็ดี การพัฒนาระดับโลกมิควรส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ประเด็นนี้สีจิ้นผิงได้ส่งสัญญาณความตั้งใจอันแน่วแน่สู่ทั่วโลกในปี 2020 ว่าจีนจะปล่อยคาร์บอนแตะจุดสูงสุดก่อนปี 2030 และบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนก่อนปี 2060เควิน รัดด์ อดีตนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวขณะที่เมื่อเกิดการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 สีจิ้นผิงเรียกร้องความสามัคคีและความร่วมมือระดับโลก โดยจีนได้จัดสรรอุปกรณ์ต้านเชื้อไวรัสให้กว่า 150 ประเทศและ 14 องค์กรระหว่างประเทศ รวมถึงจัดส่งทีมบุคลากรการแพทย์ 37 ทีม ไปยัง 34 ประเทศด้วยสีจิ้นผิงเผยคำมั่นว่าจะทำให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของจีนเป็นสินค้าสาธารณะของโลก และคำสัญญาว่าจีนจะจัดสรรวัคซีนแก่ทั่วโลก จำนวน 2 พันล้านโดส ภายในปีนี้ช่วงหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา “จีน” ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ได้เดินทางมาไกลอย่างน่าเหลือเชื่อ จากประเทศที่ติดกับดักความยากจนสู่ประเทศที่สามารถตอบสนองความต้องการพื้นฐานของประชาชน จนถึงปัจจุบันเป็นประเทศที่มีความมั่งคั่งปานกลาง ซึ่งสีจิ้นผิงถือว่าความสำเร็จนี้มีส่วนส่งเสริมมนุษยชาติมาเรีย เฟอร์นันดา เอสปิโนซา การ์เซส ประธานการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 73 ยกย่องสีจิ้นผิงเป็น “กัปตันผู้ช่ำชอง” ที่สร้างคุณูปการสำคัญอย่างการสนับสนุนลัทธิพหุภาคี แผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง และแนวคิดประชาคมมนุษยชาติที่มีอนาคตร่วมกันพรรคคอมมิวนิสต์จีนวางแผนบรรลุการฟื้นฟูชาติผ่านเป้าหมายสองประการ หรือที่รู้จักกันว่าช่วงเก้าปีที่ผ่านมา สีจิ้นผิงในฐานะผู้นำอาวุโสสูงสุดของพรรคฯ ได้นำพาประเทศบรรลุขั้นแรกสำเร็จ และเป็นประธานการออกแบบขั้นที่สองของแผนการประวัติศาสตร์นี้เป้าหมายแรก จีนควรบรรลุการสร้างสังคมนิยมอันทันสมัยขั้นพื้นฐานภายในปี 2035 ส่วนเป้าหมายที่สอง จีนควรเป็นประเทศสังคมนิยมอันทันสมัยที่มั่งคั่ง แข็งแกร่ง เป็นประชาธิปไตย ก้าวหน้าทางวัฒนธรรม สามัคคีปรองดอง และสวยงามภายในกลางศตวรรษที่ 21 ซึ่งจะตรงกับวาระสาธารณรัฐประชาชนจีนก่อตั้งครบร้อยปีแนวทางเสริมได้สนับสนุนเป้าหมายอันครอบคลุมข้างต้น สีจิ้นผิงได้ชี้นำการร่างข้อเสนอของคณะผู้นำพรรคฯ สำหรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 (2021-2025) และเป้าหมายระยะยาวจนถึงปี 2035 (Long-Range Objectives Through the Year 2035) ซึ่งได้รับการรับรองในเดือนตุลาคม 2020สีจิ้นผิงกล่าวดังนั้น การประชุมเต็มคณะครั้งที่ 6 ของคณะกรรมการกลางพรรคฯ ชุดที่ 19 ในเดือนพฤศจิกายน จึงเกิดขึ้นในห้วงเวลาสำคัญ เพื่อหารือปณิธานแห่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ และประสบการณ์แห่งประวัติศาสตร์หนึ่งร้อยปีของพรรคฯหานชิ่งเสียงกล่าวคำว่าประวัติศาสตร์กลายเป็นคำนิยมของเหล่าสมาชิกพรรคฯ ในปีนี้ ขณะโครงการการศึกษาวงกว้างช่วยเจ้าหน้าที่พรรคฯ รับรู้ประวัติศาสตร์ของพรรคฯ และมีการเปิดพิพิธภัณฑ์พรรคฯ แห่งใหม่ ซึ่งสีและคณะผู้นำได้เดินทางเยือนและชมนิทรรศการที่อธิบายว่าพรรคฯ นำพาจีนอย่างไร เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ทั้งนี้ สีจิ้นผิงและคณะผู้นำได้กล่าวคำปฏิญาณต่อหน้าธงพรรคฯ หลังจากเสร็จสิ้นการเยี่ยมชมนิทรรศการ ซึ่งเป็นการรื้อฟื้นพิธีการที่ปฏิบัติโดยสมาชิกใหม่ของพรรคฯ ทุกคน

[Update] “หยางหยาง” (Yang Yang) พระเอกเคมีสาธารณะ จากซีรีส์จีน “ดุจดวงดาวเกียรติยศ” (You Are My Glory) | ประวัติ เซี่ยงไฮ้ – NATAVIGUIDES

ใครที่กำลังจะดูผลงานล่าสุดของพระเอก หยางหยาง (Yang Yang) เรื่อง ดุจดวงดาวเกียรติยศ (You Are My Glory) ที่กำลังออกอากาศบน WeTV ต้องถือยาดมเอาไว้ให้มั่น เพราะเรื่องนี้เขามาในตำแหน่งหนุ่มหล่อดีต่อใจสายอบอุ่นที่ทำสาวๆ ต้องเขินทรงตัวไม่อยู่ สำหรับใครที่รู้จักพระเอกหนุ่มคนนี้อยู่แล้ว หรือเพิ่งโดนตกมาหมาดๆ มาทำความรู้จักเขากันอีกนิดจากผลงานดังที่ปังจนต้องตามไปดูกันดีกว่า!

ประวัติ หยาง หยาง (Yang Yang)ประวัติ หยาง หยาง (Yang Yang)

ประวัติ หยางหยาง

ชื่อ หยาง หยาง (杨洋) Yang Yang
สถานที่เกิด : เซี่ยงไฮ้
วันเกิด : 9 กันยายน พ.ศ. 2534 (ค.ศ.1991)
อายุ : 30 ปี
นักษัตร : ราศีกันย์
ความสูง : 180 cm
อาชีพ : นักแสดง นายแบบ นักร้อง
สำเร็จการศึกษา : วิทยาลัยศิลปะของกองทัพจีน (People’s Liberation Army Arts College)
Weibo: 杨洋
Instagram: yang_0099

หยางหยาง นักแสดงหนุ่มหล่อมากความสามารถวัย 30 ปี ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศจีน รวมทั้งแฟนๆ ทั่วทั้งเอเชียรวมทั้งแฟนคลับชาวไทย ของหนุ่มคนนี้ก็มีไม่น้อยเลย โดยหยางหยาง เริ่มเข้าวงการตั้งแต่ปี 2010 กับการรับบทนำเรื่องแรกจากซีรีส์พีเรียดเรื่อง ความฝันในหอแดง (The Dream of Red Mansions) ที่เป็นซีรีส์ต้นทุนสูงกว่า 17.55 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นซีรีส์ที่ลงทุนสูงที่สุด ทำให้เขาคว้ามรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยม เวที BQ Celebrity Score Awards ในปีนั้นไป

ในปี 2015 ถือเป็นปีที่หยางหยางมีผลงานการแสดงหลายเรื่องอย่าง สี่ยอดมือปราบ (The Four), บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน (The Lost Tomb), สาวน้อยสลาตัน (The Whirlwind Girl) ซึ่งเป็นปีที่เขาได้รับความนิยมอย่างมากบนแผ่นดินใหญ่

หยางหยาง – เวยเวย เธอยิ้มโลกละลาย (Just One Smile Is Very Alluring)

แต่เรื่องที่ทำให้เขาโด่งดังเป็นพลุแตก ก้าวขึ้นสูงตำแหน่งท็อปสตาร์ของวงการก็คือเรื่อง เวยเวย เธอยิ้มโลกละลาย (Just One Smile Is Very Alluring) ในปี 2016 ประกบคู่นักแสดงหญิง เจิ้งสวง ในซีรีส์แนวปัจจุบัน เรื่องราวของนักศึกษาหนุ่ม-สาวดาวเด่นของมหาวิทยาลัยพบรักกันจากเกมออนไลน์จนเกิดความรักกุ๊กกิ๊กวัยใสชวนใจละลาย ผ่านเสน่ห์ตัวละคร เซียวไน่ โดยเรื่องนี้ได้รับความนิยมถล่มทลายทั้งในจีนและเอเชีย จนทำให้หยางหยาง กลายเป็นที่รู้จักทั่วทั้งเอเชีย

ถึงแม้หยางหยางจะโด่งดังสุดขีดในช่วงเวลานั้น หยิบจับอะไรก็เป็นเงินเป็นทองไปหมด แต่เขาก็เป็นนักแสดงที่ค่อนข้างคัดกรองบทละครหรือภาพยนตร์ที่จะได้รับอย่างพิถีพิถัน ในช่วงเวลาหนึ่ง แฟนๆ จะได้เห็นผลงานของเขาผ่านจอเงินเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง สามชาติสามภพป่าท้อสิบหลี่ (Once Upon a Time) เวอร์ชั่นภาพยนตร์ประกบ หลิวอี้เฟย ในปี 2017 หรือ Vanguard (แวนการ์ด หน่วยพิทักษ์ฟัดข้ามโลก) ประกบนักแสดงชื่อดังระดับโลกอย่าง เฉินหลง ในปี 2020 เรียกว่าหยางหยางเป็นนักแสดงมากฝีมือที่เล่นได้แต่บทละครพีเรียดจนถึงบู๊แอ็คชั่นระเบิดภูเขาเผาตึกกันเลย

หยางหยาง – เทพยุทธ์เซียนกลอรี่ (The King’s Avatar)

และในช่วงไม่นานมานี้ หยางหยางเริ่มกลับมารับบทบาทนำในซีรีส์แนวปัจจุบันมากขึ้น โดยแต่ละเรื่องที่หนุ่มหยางหยางรับเล่นก็ดูจะเป็นซีรีส์ที่เป็นแนว E-Sport มีเรื่องเกมออนไลน์เข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างเรื่อง เทพยุทธ์เซียนกลอรี่ (The King’s Avatar) ในปี 2019 ซีรีส์ฟอร์มยักษ์แนว E-Sport ที่มีฉาก CG เกมสุดอลังการเรื่องราวความเข้มข้นของตัวละครในวงการลีกอาชีพที่น่าตื่นตาตื่นใจ

หยางหยาง – ดุจดวงดาวเกียรติยศ (You Are My Glory)

รวมทั้งผลงานซีรีส์เรื่องล่าสุด ดุจดวงดาวเกียรติยศ (You Are My Glory) ที่กำลังโกยยอดวิวและความนิยมถล่มทลายตั้งแต่เปิดตัว โดยเรื่องนี้ถือว่าเป็นที่จับตามองและแฟนซีรีส์ทั้งเอเชียเฝ้ารอ กับการโคจรมาเจอกันของสองซุปตาร์ตัวท็อปอย่าง หยางหยาง และ ตี๋ลี่เร่อปา สองนักแสดงมากฝีมือเคมีสาธารณะ ที่ตัวเรื่องสร้างจากนิยายของผู้เขียน กู้ม่าน ผู้เขียนเดียวกับ เวยเวย เธอยิ้มโลกละลาย ที่การันตีความสนุก กับเรื่องราวจากวัยมัธยมของดาวโรงเรียนคนสวยที่สารภาพรักกับเด็กเทพของโรงเรียนแต่ถูกปฏิเสธ 10 ปีให้หลัง เธอกลายเป็นดาราสาวตัวท็อป ส่วนเขากลายเป็นวิศวกรการบินอวกาศ ที่กำลังอยู่ในช่วงหักเหของชีวิต ได้เดินทางมาบรรจบกันด้วยภารกิจการแข่งขันเกมออนไลน์ จึงทำให้เรื่องราวความโรแมนติกก่อตัวขึ้น… ที่นอกจากจะได้เห็น CG เกมสวยๆ แล้ว บอกเลยว่าเรื่องนี้เคมีของพระ-นางทำคนดูเขินจนต้องกดหยุดเพื่อพักเขินก่อนจริงๆ แม่ ใครยังไม่ได้ดูติดตามได้ทาง WeTV ได้เลยจ้า

และทิ้งท้ายด้วยผลงานซีรีส์ของหยางหยางที่กำลังถ่ายทำอย่าง เทียบท้าปฐพี (Who Rules The World) ซีรีส์แนวเทพเซียน ประกบ จ้าวลู่ซือ ก็เป็นอีกเรื่องที่แฟนๆ เฝ้ารอติดตามตั้งแต่วางตัวนักแสดง รอดูกันได้เลยทาง WeTV 

 หยางหยาง – เทียบท้าปฐพี (Who Rules The World)


ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ( 我的女人他人休来惹 ) cover:Ning


เพลง ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ
Cover หนิง ปัทมา
ต้นฉบับ หยวนฟ่งหยิน
ฝากติดตามหนิงเพิ่มเติมทาง
Facebook : https://www.facebook.com/profile.php?id=100010372364243\u0026fref=search\u0026__tn__=%2Cd%3CR\u0026eid=ARB2QB11dldxs0Dt71cr24oFTkfu3RuavDfR2MxtQOmFtdj26ugo_xXagJpVGGWPPcNZadTGNi_ZWqM
หนิง ปัทมา แฟนเพจ
FB Fanpage : ป่วงศรีพาไปเบิ่ง
ig : ning_pathama
ติดต่อการแสดง : 0634516992
ฝากกดไลท์กดแชร์ด้วยนะคะ
หนิงปัทมา

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ ( 我的女人他人休来惹 ) cover:Ning

9 สถานที่เที่ยวในเมืองเซี่ยงไฮ้ที่น่าสนใจ


คลิปนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับ 9 สถานที่เที่ยวในเมืองเซี่ยงไฮ้ที่น่าสนใจ
ซึ่งจริงๆ แล้วเซี่ยงไฮ้ยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายเลย เพียงแต่สถานที่ที่ผมหยิบมาเล่าให้ฟังในครั้งนี้เป็นที่ที่ผมกับต๋งคิดว่าน่าจะเหมาะกับคนที่ได้มีโอกาสได้ไปเซี่ยงไฮ้ครั้งแรกครับ

โดยจากการที่ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวที่เมืองนี้ 6 วัน 5 คืนเต็มๆ ผมอยากจะบอกทุกคนเหลือเกินว่าเซี่ยงไฮ้เนี่ยเป็นเมืองที่น่าเที่ยวกว่าที่เราคิดไว้เยอะเลยครับ ใครที่ยังไม่เคยไปมาก่อน ลองดูคลิปนี้จนจบแล้วตัดสินใจดูนะครับว่าจะไปดีหรือเปล่า แต่เชื่อผมเถอะ \”เที่ยวเซี่ยงไฮ้ ไม่ไปไม่รู้ ดูดีกว่าที่คิด\” ครับ

สามารถติดตามอ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ www.amazingcouple.net
หรือสามารถติดตามเรื่องราวการกินและเที่ยวของผมอย่างใกล้ชิดได้ที่ Facebook Fanpage \”ภรรยาหา สามีใช้\”

Special thanks for Music from https://www.bensound.com/royaltyfreemusic

9 สถานที่เที่ยวในเมืองเซี่ยงไฮ้ที่น่าสนใจ

\”มากกว่ารัก\” เจนนิเฟอร์ คิ้ม ไม่เคยทําให้ผิดหวัง เพราะมาก Feat. มิ้น – มาสเตอร์คีย์ ยินดีต้อนรับ


ติดตามข้อมูลของรายการ Masterkey ยินดีต้อนรับได้ที่
เฟซบุ๊ค : https://www.facebook.com/masterkeytv3
อินสตาแกรม : TVThunderofficial
ออกอากาศทาง ช่อง 3HD
ทุกวันจันทร์ พุธ
มาสเตอร์คีย์ ยินดีต้อนรับ

กดติดตามช่อง TVThunder
Youtube: https://is.gd/HypuWt
Facebook: https://www.facebook.com/tvthunderofficial/
Instagram: https://www.instagram.com/tvthunderofficial

\

10 อันดับ โคตรเจ้าพ่อมาเฟียโหดระดับตำนาน


มาเฟีย (อังกฤษ: Mafia) เป็นกลุ่มคน หรือสมาชิกของกลุ่มคน ที่รวมตัวกันเพื่อประกอบมิจฉาชีพในการทำมาหากิน โดยดั้งเดิมแล้ว มาเฟีย คือ กลุ่มพันธมิตรในยุคกลางของอิตาลี ที่รวมตัวกันเพื่อต่อต้านชาวนอร์มันและชาวเติร์ก ต่อมาจึงกลายเป็นคำเรียกองค์กรลับต่างๆ ในอิตาลี
มาเฟีย เป็นชื่อเรียกของกลุ่มสังคมที่ผิดกฎหมายอย่างลับๆ เชื่อกันว่าเกิดขึ้นครั้งแรกในช่วงกลางของศตวรรษที่ 18 ในซิซิลีประเทศอิตาลี จากนั้นจึงเริ่มแผ่กระจายไปยังสหรัฐอเมริกาแคนาดา และออสเตรเลีย

Facebook : https://www.facebook.com/Laopairauy/
Google+ : https://goo.gl/wEqKz1
รับชมเพิ่มเติม : https://goo.gl/LF5ExB

เพลย์ลิสต์ เล่าไปเรื่อย
สาระรอบโลก : https://goo.gl/6JKf5C
เรื่องดังในอดีต : https://goo.gl/Rh29GV
ลึกลับ สยองขวัญ : https://goo.gl/ERvgD5

ถ้าชอบคลิปนี้ อย่าลืม กดไลค์ กดแชร์ กันด้วยนะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่รับชมครับ

10 อันดับ โคตรเจ้าพ่อมาเฟียโหดระดับตำนาน

ประวัติ : เจียงไคเช็ค ผู้ก่อตั้งไต้หวัน by CHERRYMAN


ประวัติ : เจียงไคเช็ค ผู้ก่อตั้งไต้หวัน by CHERRYMAN

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ประวัติ เซี่ยงไฮ้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *