Skip to content
Home » [NEW] สำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้กันบ่อยๆ พร้อมคำแปล | something แปล ว่า อะไร – NATAVIGUIDES

[NEW] สำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้กันบ่อยๆ พร้อมคำแปล | something แปล ว่า อะไร – NATAVIGUIDES

something แปล ว่า อะไร: คุณกำลังดูกระทู้

สำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้กันบ่อยๆ พร้อมคำแปล เช่น Chill out : ใจเย็น., สงบสติอารมณ์หน่อย , Keep going : พยายามต่อไปเรื่อยๆ , เดินหน้าต่อ, Come on : ไม่เอาน่า , มานี่มา , เถอะน่า

สำหรับคนที่หัดพูด ฝึกฝนภาษาอังกฤษกันใหม่ๆ เพื่อไม่ให้น่าเบื่อเกินไป เรามีสำนวนภาษาอังกฤษเก๋ๆ แต่ใช้ในชีวิตประจำวันได้จริงๆ มาฝากค่ะ จะเอาไปตั้งสถานะในเฟซบุ๊ก เวิ่นเว้อในสถานะของ Line หรือจะเอาไปโพสต์ไว้ใน Instagram ก็ไม่ว่ากัน ลองมาดูกันเลยว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง

สำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้กันบ่อยๆ พร้อมคำแปล

บอกให้ใจเย็นๆ ภาษาอังกฤษ

Chill out : ใจเย็น, สงบสติอารมณ์หน่อย
Don’t get me wrong : อย่าเข้าใจผิด
Keep going : พยายามต่อไปเรื่อยๆ , เดินหน้าต่อ

To be honest, honestly : พูดตรงๆเลยนะ , บอกตรงๆ
Come to the point : พูดตรงๆ เลยดีกว่า , พูดให้ตรงประเด็น

I’m going either way : ชั้นจะทำทุกอย่าง , ยอมทำทุกทาง , ทำทุกทางไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง

be my guest : ตามสบาย , ตามใจ , ได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ
fall asleep : เผลอหลับ , ผลอยหลับ

Go ahead : ทำต่อไป , ต่อเลย , เชิญ.. (ตัวอย่าง A : I’ve got something to tell you (เอบอกชั้นมีอะไรจะบอก) B : Alright go ahead  (บีตอบ เอาสิพูดไปเลย))

9 สำนวนชวนเที่ยว

ดูเพิ่มเติม EnglishAfternoonz @TutorMe

Take ..

Take a chance : เสี่ยงดู , ลองซักครั้ง
Take your time : ไม่ต้องรีบร้อน
Take it easy : อย่าไปคิดมาก, ใจร่มๆ

I’m done : ชั้นพอแล้ว ( Enough )
Give up : เลิกแล้ว , ไม่ทำแล้ว, ถอยดีกว่า
Messed up : พลาด , เละเทะ , ทำพัง
Count me in : ขอแจมด้วย , ไปด้วยคน , ชั้นเอาด้วย

Hang in there : สู้ๆ , อย่ายอมแพ้
Get over it : ทำใจ , ลืมมันไปซะ
Never mind : ช่างมันเหอะ
No sweat , Not a big deal : ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต, อย่าไปสนใจ
Freak out : กลัวเว่อร์ๆ

ฉันเศร้า..

I’m so blue : ฉันเศร้าอยู่นะ , วันนี้โคตรมืดมนเลย
Why not? : ไหงงั้นอ่ะ ? ทำไมจะไม่ได้?
What going on  : อันนี้ใช้เหมือน What happened เกิดอะไรขึ้นเหรอ เป็นอะไรไปเหรอ

Have a blast : อันนี้ใช้อวยพรวันเกิดประมาณว่า สนุกให้มันระเบิดเถิดเทิงไปเลย

Hang on : รอแป๊บ (ใช้เหมือน Hold on)
Come on : ไม่เอาน่า , มานี่มา , เถอะน่า
It’s up to you : แล้วแต่คุณ

Whatever : อันนี้ใช้ตอบตอนเซ็งๆ แบบขี้เกียจจะเถียงจะคุยด้วยแล้ว ก็ whatever แปลว่า เออก็แล้วแต่ , ช่าง….

What a nice dress : ชุดสวยเริ่ด
What a good story : ช่างเป็นเรื่องราวที่ดีจริงๆ

What in the world : แปลห่ามๆ หน่อย ว่า “อะไรของมันวะ” , “มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย” , ใช้เหมือน WTF แล้วก็ what the hell.

Get spoiled : ของเสียหมด , เสียหาย , พัง
Eat up : กินๆ เข้าไป
Can’t imagine : นึกไม่ออกเลย
Got it : เข้าใจแล้ว

Don’t fool me : อย่ามาหลอกกัน
Better than nothing : ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
Catch you later : ไว้ค่อยคุยกันใหม่ , ไว้เจอกันคราวหน้า
Don’t cross the line : อย่าล้ำเส้น

Figure out : คิดออกแล้ว , คิดให้ออก , คิดได้ (ตัวอย่าง: He talked so much but still I can’t figure it out what was his point เขาพูดมากเหลือเกิน แต่ชั้นก็ยังคิดไม่ออก จับใจความไม่ได้เลยว่าเค้าต้องการสื่ออะไร)

I’m all in : ทุ่มสุดตัว , ทุ่มหมดตัว ประโยคนี้ใช้เวลาที่อยากบอกใคร ประมาณว่าความรัก ครั้งนี้เราทุ่มสุดตัวเลยนะ

ข้อคิดดีๆ บางสิ่งเกี่ยวกับชีวิตเรา : ) เหนือสิ่งอื่นใด จงเป็นตัวของตัวเอง

สำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้กันบ่อยๆ

Keep in touch , Be in touch : ติดต่อกันไว้ อย่าหายไปไหน

I’ll keep eyes on you : ฉันจะจับตาดูคุณไว้เลย (ตัวอย่าง Don’t flirt with another girls, I’ll keep eyes on you อย่าไปจีบคนอื่นนะ ชั้นจะจับตาดูคุณไว้เลย)

Keep in mind : จำใส่ใจไว้เลย

Behave! : ทำตัวให้มันดีๆหน่อย , เลิกทำตัวงี่เง่าซะที

You really piss me off : คุณทำให้ฉันโมโหสุดๆ เลย

I’m doing alright so far : จนถึงตอนนี้ฉันยังสุขสบายดีอยู่ (เอาไว้ตอบตอนที่คนถามทำนองว่า how have you been lately ? คุณเป็นยังไงบ้าง บางครั้งกับคนที่เพิ่งหักอกเราแล้วนานๆ จะส่งข้อความมาแนวถามไถ่ห่วงใย ว่าหลังจากที่ผมทิ้งคุณไปแล้ว คุณเป็นยังไงบ้าง )

Never better : ดีสุดๆ (เอาไว้ตอบเวลาคนถามว่า how you doing ? Are you alright ? ความหมายประมาณว่า ไม่เคยรู้สึกดีอย่างงี้มาก่อนเลย

Don’t be upset : อย่าหัวเสีย , อย่าอารมณ์เสีย

Fed up : สุดจะทนแล้ว , เบื่อ , เอือมระอา

Get the hell out of my life : ออกไปจากชีวิตชั้นเลย

As ever : เหมือนเคยๆ (เวลาคนถามว่าเป็นยังไงบ้าง how are u เราตอบได้ว่า as ever ก็เดิมๆ อ่ะแหล่ะ )

Of cause not : แน่นอนว่าไม่่ใช่อย่างงั้น ( A: Do you think I’m ugly? B: Of cause not! เอถาม คุณคิดว่าชั้นน่าเกลียดหรือเปล่า บี ก็ ตอบว่า เฮ้ย แน่นอนว่าผมไม่ได้คิดอย่างงั้นเลยจริงๆ )

Definitely : ใช้เหมือน yes , sure , แปลว่าใช่ , แน่นอน , จริงๆเชียว ใช้เมื่อเราเห็นด้วยกับคำพูดของอีกฝ่าย

Indeed : ใช้เล่ย, จริงแท้ , ( A : ​I think you are very beautiful B : Indeed !!!! เอบอกผมว่าคุณสวยมากๆ บีบอก อ่ะ แน่นอนชั้นสวยอยู่แล้ว )

Seriously ? : พูดจริงดิ่ , เอาจริงป่ะเนี่ย ?

Do you mind ? : รังเกียจไม๊ (ตัวอย่าง Do you mind telling me how old are you ? รังเกียจไม๊ถ้าจะถามว่าคุณอายุเท่าไหร่ ) และถ้าอีกคนอยากจะบอกอายุเค้าให้ตอบว่า no i do not mind , ถ้าไม่อยากบอกก็ตอบว่า yes I mind ประมาณว่าเอ่อชั้นไม่อยากบอกอ่ะ)

Age ago : นานมากๆแล้ว , เป็นชาติแล้ว (I’ve been waiting for you age ago ฉันรอคุณมาเป็นชาติแล้ว)

You are mean : คุณใจแคบจัง ใช้ได้ทั้งแนวหยอกล้อและด่าจริงจัง

I won’t let you down : ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่

Don’t let me down : อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ

Not much to talk : ไม่มีอะไรจะคุยมากนัก

Don’t be bothered : อย่าใส่ใจ , ไม่ต้องสนใจหรอก , ไม่ต้องคิดให้ยุ่งยากไป

Sorry to bother you : ขอโทษที่รบกวน

You never give me credit : คุณไม่เคยเชื่อใจฉันเลย

ช่างมันเหอะ

Let it be : ช่างมัน , ปล่อยมันไป
Deal with it : จัดการมันให้ได้, ทำใจซะแล้วอยู่กับมันให้ได้
Look ! : ฟังนะ , ฟังให้ดี

Watch your mouth, Mind your language : ระวังปากหน่อย , ระวังคำพูด

I have a crush on you : ฉันหลงรักคุณเข้าแล้ว
Do me a favor : ขอร้อง , ทำอะไรให้อย่างสิ
Sick of : เบื่่อเต็มทีแล้ว

Are we good now ? : เราดีกันแล้วนะ ? เราไม่มีปัญหาต่อกันใช่ไม๊?

Head over heels : หลงหัวปักหัวปำ
The night still young : ราตรีนี้ยังอีกยาว

Put yourself in other’s shoes : เอาใจเค้ามาใส่ใจเรา

Can’t believe it : เหลือเชื่อจริงๆ

Love takes time : ความรักต้องใช้เวลา
Get used to : ทำตัวให้ชินซะ
For good = Forever ตลอดกาล
Cut it out = Stop (ใช้เมื่อมีการโต้เถียงกัน เป็นการสั่งว่าให้พอได้แล้ว หรือ เลิกทำแบบนี้ซะที)

No wonder : อย่างไม่ต้องสงสัย , ไม่สงสัยเลย

Don’t wanna get involved : ไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย หรือ I don’t get involved ฉันไม่ขอยุ่งเกี่ยว, ไม่ยุ่ง

Blame on me : โทษฉันคนเดียว

There’s nothing to do with me : ชั้นไม่เกี่ยวด้วยเลย = I’m not a part of it ชั้นไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย

แชร์ไว้อ่านได้ใช้แน่นอน..

บทความแนะนำ

[Update] แปลไทยแบบกันเอง : The Chainsmokers & Coldplay | something แปล ว่า อะไร – NATAVIGUIDES

I’ve
been reading books of old

The
legends and the myths

Achilles
and his gold

Hercules
and his gifts

Spiderman’s
control

And
Batman with his fists

And
clearly I don’t see myself upon that list

ฉันเคยอ่านหนังสือเก่าๆ

ที่บอกเล่าตำนานและนิยายปรัมปรา

อคิลลีสกับทองของเขา

เฮอคิวลิสกับพรสวรรค์อันยิ่งใหญ่

ความสามารถของสไปเดอร์แมน

แล้วก็แบทแมนกับหมัด(กำปั้น)ของเขา

นั่นมันก็ชัดเจนเลยว่าฉันไม่ได้ใกล้เคียงกับอะไรที่ได้กล่าวมาเลย

But
she said, where d’you wanna go?

How
much you wanna risk?

I’m
not looking for somebody

With
some superhuman gifts

Some
superhero

Some
fairytale bliss

Just
something I can turn to

Somebody
I can kiss

แต่แล้วเธอก็พูดว่า
“เธอจะเอาพลังไปไหนล่ะ?

เธออยากจะเสี่ยงมากแค่ไหนกัน?

ฉันไม่ได้มองหาใครบางคน

ที่มีพลังเหนือมนุษย์หรอกนะ

ไม่ว่าจะเป็นยอดมนุษย์

หรือความสุขชั่วนิรันดร์แบบในเทพนิยาย

ก็แค่เปลี่ยนเป็นใครสักคน

ที่ฉันสามารถจุมพิตได้ก็พอ”

I
want something just like this

Doo-doo-doo,
doo-doo-doo

Doo-doo-doo,
doo-doo

Doo-doo-doo,
doo-doo-doo

“ฉันอยากได้อะไรแบบนั้นแหละ”

Oh,
I want something just like this

Doo-doo-doo,
doo-doo-doo

Doo-doo-doo,
doo-doo

Doo-doo-doo,
doo-doo-doo

“ฉันอยากได้อะไรแบบนั้นนั่นแหละ”

Oh,
I want something just like this

I
want something just like this

“ฉันอยากได้อะไรแค่นี้เองแหละ”

I’ve
been reading books of old

The
legends and the myths

The
testaments they told

The
moon and its eclipse

And
Superman unrolls

A
suit before he lifts

But
I’m not the kind of person that it fits

ฉันเคยอ่านหนังสือเก่าๆ

ที่เล่าถึงตำนานและเทพเทพปกรณัม

คัมภีร์พันธสัญญาที่เล่าขาน

เรื่องราวของพระจันทร์ที่เกิดจันทรคราส

และได้อ่านเรื่องของการปรากฏตัวของซุปเปอร์แมน

เรื่องราวก่อนที่เขาจะบินได้

แต่ว่าฉันก็ไม่ได้ใกล้กับบุคคลเหล่านั้นเลย

She
said, where d’you wanna go?

How
much you wanna risk?

I’m
not looking for somebody

With
some superhuman gifts

Some
superhero

Some
fairytale bliss

Just
something I can turn to

Somebody
I can miss

แต่แล้วเธอก็พูดว่า
“เธอจะเอาพลังไปไหนล่ะ?

เธออยากจะเสี่ยงมากแค่ไหนกัน?

ฉันไม่ได้มองหาใครบางคน

ที่มีพลังเหนือมนุษย์หรอกนะ

ไม่ว่าจะเป็นยอดมนุษย์

หรือความสุขชั่วนิรันดร์แบบในเทพนิยาย

ก็แค่เปลี่ยนเป็นใครสักคน

ที่ฉันสามารถคิดถึงได้ก็พอ”

I
want something just like this

I
want something just like this

“ฉันอยากได้อะไรแบบนั้นแหละ

ฉันอยากได้อะไรแค่นั้นแหละ”

Oh,
I want something just like this

Doo-doo-doo,
doo-doo-doo

Doo-doo-doo,
doo-doo

Doo-doo-doo,
doo-doo-doo

“ฉันอยากได้อะไรแบบนั้นแหละ”

Oh,
I want something just like this

Doo-doo-doo,
doo-doo-doo

Doo-doo-doo,
doo-doo

Doo-doo-doo,
doo-doo-doo

“ฉันอยากได้อะไรแบบนั้นแหละ”

Where
d’you wanna go?

How
much you wanna risk?

I’m
not looking for somebody

With
some superhuman gifts

Some
superhero

Some
fairytale bliss

Just
something I can turn to

Somebody
I can kiss

I
want something just like this

เธอจะเอาพลังไปไหนล่ะ?

เธออยากจะเสี่ยงมากแค่ไหนกัน?

ฉันไม่ได้มองหาใครบางคน

ที่มีพลังเหนือมนุษย์หรอกนะ

ไม่ว่าจะเป็นยอดมนุษย์

หรือความสุขชั่วนิรันดร์แบบในเทพนิยาย

ก็แค่เปลี่ยนเป็นใครสักคน

ที่ฉันสามารถจูบได้ก็พอ

ฉันอยากได้อะไรประมาณนี้แหละ

Oh,
I want something just like this

Oh,
I want something just like this

Oh,
I want something just like this

Oh,
I want something just like this

“ฉันอยากได้อะไรแค่นี้เองแหละ”

     ปล.คำแปลบางส่วนดัดแปลงเพื่ออรรถรส คือคำว่า

this

ซึ่งแปลว่า

นี้

แต่เราจะใส่ว่า

นั้น

ไปด้วยเพราะเรารู้สึกว่ามันได้อารมณ์คนคุยกันมากกว่า

     เป็นเพลงฟีลกู้ดที่ได้ฟังตอนทำงานเพลินๆแล้วสะดุดจนต้องมาตั้งใจฟังพร้อมกับดู

MV

แล้วก็พบว่าฉันเศร้า… (อีบ้า 5555) ไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมฟังเพลงของ Coldplay ทีไรมันต้องมีความเศร้า ความหม่นเจือมาในอารมณ์เพลงทุกที เพราะจริงๆเพลงนี้เป็นเพลงฟีลกู้ดมากๆๆๆๆๆๆๆๆ เลยนะคะ มันดีต่อความรู้สึกจนยอมหยุดงานที่กองไว้มาแปลเพลงนี้ลงบล็อกเลยอ่ะ 5555

     เพลงต้องการให้เราพอใจกับสิ่งที่เรามีอยู่ผ่านคุณแฟน (…อ่อ
รู้แล้วที่เศร้าเพราะไม่มีแฟนนี่เอง ถรุ๊ยย ไม่ใช่ค่ะ 555) จริงๆ

She

ในเพลงนี้ไม่ต้องเป็นแฟนก็ได้
เป็นใครก็ได้ที่เรารู้สึกดีด้วย จะญาติก็ได้ พ่อแม่ก็ดี เขารักเรา เรารักเขา
หรือเรารักกันได้ก็จะดีค่ะ (ส่วน

kiss

นี่ไม่ต้องกังวล
เพราะมันจูบได้หมดตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่จำเป็นต้องจูบปากหรอกเนอะ) เพราะฉะนั้นเพลงนี้ก็เป็นเพลงให้กำลังใจดีๆว่าเธอไม่ต้องเป็นอะไรยิ่งใหญ่มากหรอก
แค่เป็นคนที่จับต้องได้และมีตัวตนจริงๆอยู่ข้างๆกันก็พอ
ซึ่งถ้ามีใครมาพูดอย่างนี้คนส่วนใหญ่ก็คงต้องดีใจแน่ๆเลย โดยเฉพาะในเวลาที่เรากำลังเผชิญความยากลำบาก
อยากเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ทำได้ยาก หรืออยากจะได้-อยากจะเป็นบางอย่าง เราก็คงมีกำลังใจขึ้นมาบ้างว่า
เอาวะ! ถึงจะเฟลแต่ก็ยังมีคนโอเคกับเราแหละ หรือบางคนอาจจะเลิกฝืนทำ เลิกดูถูกตัวเองไปเลยก็ได้แล้วแต่เคส ซึ่งนั่นแหละค่ะเป็นเหตุผลที่เราฟังแล้วเศร้า
แต่เป็นเศร้าปนสุขนะ
เพราะมันฟังดูเหมือนฉากในนิยายหรือละครที่จะต้องมีใครสักคนตายหรือว่ามีจุดเปลี่ยนผ่านในชีวิตแน่ๆเลยล่ะ

     ส่วนเรื่องประเด็นว่าทำไมคนเราต้องขอใครสักคนที่จับต้องได้ กำลังชั่งใจว่าจะเขียนไว้ในนี้ดีหรือว่ายกยอด แยกไปเป็นอีกอันนึงดี เพราะถ้าเริ่มเขียนแบบจริงจังมันจะต้องยาวแล้วก็มีการวิเคราะห์ในเชิงวิชาการเยอะ แล้วก็มีอิงกับสภาพสังคม (เป็นfetishส่วนตัวในการพูดถึงเรื่องจิตวิทยาค่ะ คือมันชอบแล้วก็อยากทำให้ดีอ่ะ 555)….ซึ่งนั่นก็จะหนักไปทำหรับการแปลเนื้อหาแค่เพลง สรุปคือถ้าว่าง (ซึ่งก็น่าจะอีกนานแสนนาน) ก็จะทำเป็นอีกหมวดนึงเสริมนอกจากแปลเพลง eng กับ fr (ที่ดองไว้สามชาติกว่าแล้ว) เป็นบทความที่หนักไปในทางการวิเคราะห์อะไรจริงๆจังๆไปเลย

     กลับมาที่เพลง เพลงนี้ศัพท์ไม่ยากมาก
และส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องทั่วๆไปเราก็เข้าใจกันดีอยู่แล้ว มีที่เราถอดความใส่ไปในเนื้อเพลงแล้วนิดหน่อยคือ….

     Some fairytale bliss

:

เราแปลไปว่าความสุขชั่วนิรันดร์ เพราะเทพนิยาย (โดยเฉพาะพวกหลอกเด็ก เอ้ย
สำหรับเด็ก) จะลงท้ายในตอนจบว่า
แล้วพวกเขาก็มีความสุข(หรือครองรัก)กันตราบนานเท่านาน นั่นเอง

     *bliss

แปลว่าความสุขค่ะ
แต่ทำให้นึกถึงรูปวอลเปเปอร์สมัย

window 95 98 xp

เลยอ่ะที่เป็นรูปทุ่งหญ้าเขียวๆกับท้องฟ้าสดใส
(สถานที่นั้นมีอยู่จริงที่สหรัฐ แต่ตอนนี้เป็นทุ่งข้าวโพดน้ำตาลแห้งๆ เซ็งๆไปละ)
อีรูปนั้นก็ชื่อ

Bliss

ค่ะ

     อีกท่อนนึงคือ

And Superman unrolls

:

พอพูดถึงอันโรลให้นึกถึงการที่เรา

un

อะไรสักอย่างที่เป็น

roll

(ได้ตั้งแต่สลัดม้วน ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน
ยันซูชิ) ค่ะ มันแปลว่าคลี่คลาย แผ่ออก หรือเผยตัวออกมานั่นเอง
ก็เลยเลือกแปลอันสุดท้าย
เพราะซุปเปอร์แมนคงไม่คลี่ผ้าคลุมออกมาเพื่อเปิดท้ายขายของตามตลาดนัดแน่ๆ

     ส่วน

A suit before he lifts

:

ถ้าแปลตรงๆคือชุดก่อนที่เขาจะยก
ซึ่งมัน….อืม….นะ เอาเป็นว่าใครเคยดูซุปเปอร์แมน หรือเคยดู

trailer

มาบ้าง
หรือไม่เคยดูอย่างเราเลยนี่ก็ต้องรู้ลักษณะคร่าวๆของพ่อหนุ่มกางเกงในแดงคนนี้บ้างล่ะ
คือเขาก็เคยเป็นคนธรรมดามาก่อนที่จะลอย (

lifts

)

ได้
ซึ่งอีกตอนลอยได้ก็จะเป็นชุดน้ำเงินผ้าคุมแดง และกางเกงในใส่ข้างนอกสีแดง
เราก็เลยถอดความออกมาว่า บทบาทก่อนที่เขาจะเป็นซุปเปอร์แมนนั่นเอง
(ก็คือก่อนจะเป็นยอดคนมึงก็เคยเป็นคนธรรมดามาเหมือนๆกันนั่นแหละ
แม้ในเคสของพี่ซุปจะเป็นคนธรรมดาเพราะว่านางไม่รู้ว่าตัวเองมีพลังก็เหอะ)

     ส่วนเรื่องจันทรคราสในพันธสัญญา…ไปหาอ่านกันเองนะคะง่วงแล้ว
(ทิ้งกันดื้อๆเลย 5555)

     อีกอันที่โผล่มาอันแรกสุดเลยแต่เราดองไว้พูดถึงสุดท้ายคือ
อคีลลิสกับทอง
คือตอนแรกอ่านก็งงเพราะตำนานอคีลลิสคือคนที่มีจุดอ่อนที่ข้อเท้าในเรื่องสงครามเมืองทรอยอ่ะ
ซึ่งก็ไม่เห็นจะจำได้เลยว่าแม่งมีทองมาเกี่ยวตอนไหนวะ ตอนชุดตัวก็ชุบในแม่น้ำสติ๊ก
แม่น้ำแห่งความตายนี่หว่า ก็เลยไปหาอ่านได้ความมาสองอย่าง
อันแรกมาจากมหากาพย์อีเลียดของโฮเมอร์เล่มที่23 ได้ความว่า

Zeus places Hector’s and
Achilles’ respective fates on a golden scale


ซุสได้วางชะตาชีวิตของเฮ็คเตอร์และอคีลลิสตามลำดับ ลงบนตาชั่งทองคำ”

     คือเรื่องก่อนหน้านี้มันมีอยู่ว่าเฮ็คเตอร์มาดักรออคีลลิสที่เพิ่งกลับมาจากไล่ตามอะพอลโล
แล้วก็ไปมั่นหน้ามาจากไหนไม่รู้มาท้าสู้กันกับอคิลลิสไม่ยอมเจรจา…. ค่ะ
สุดท้ายคือเหนื่อยเพราะว่าวิ่งตามอคีลลิสรอบเมืองสามรอบแล้วก็ไม่มีปัญญาจะจับ
ซุสก็อยากจะช่วยแฮ็คเตอร์ไง แต่อาเทน่าบอกว่า อย่าเลยพ่อท่าน
ช่วงเวลาแห่งความตายของเขาได้มาถึงแล้ว (ซัพนรก

:

เดี๋ยวไอ้กร๊วกนี่แม่งก็ตายห่านแล้ว ไม่ต้องไปช่วยหรอก เสียชื่อ เสียมือเทพหมด วู้วว)
ซุสก็เลยเอาชะตาของทั้งสองคนไปชั่งบนตาชั่งทองคำโดยเรียงตามลำดับคือชั่งของแฮ็คเตอร์ก่อนแล้วตามด้วยอคิลลิส
(แหม่ ลำเอียงจริง คือเหมือนมีความหวังเล็กๆให้อ่ะ
อารมณ์แบบคนขึ้นลิฟท์ทีหลังมีโอกาสที่ลิฟท์จะดังโวยวายว่าน้ำหนักเกินมากกว่า แล้วคุณก็ต้องเดินออกจากลิฟท์ไปไง…)
ซึ่งแน่นอนว่าตาชั่งไม่ใช่เทพ ไม่ลำเอียง
ชะตากรรมของแฮ็คเตอร์ที่กำลังจะถึงฆาตก็หนักกว่าจนถ่วงจานลงมาตามระเบียบ
(ใครสนใจไปหาอ่านต่อกันเองนะ 555) ซึ่ง….แม่งก็ไม่ได้ตอบโจทย์ไงว่าทองมันเกี่ยวอะไรกับอคิลลิสวะ
ก็เลยไปเจออีกอันนึง

     Bk XXIV:1-76 The gods argue over the treatment of Hector

s body

หรือฉบับไทยคือ
อีเลียดเล่มที่24 หน้า1-76 ตอน
การตกลงของเทพเจ้าเกี่ยวกับการคงสภาพร่างกายของเฮ็คเตอร์เอาไว้… (จะทำมัมมี่หรอ?
5555) ได้ความว่า

Yet Apollo kept the flesh from
being spoiled, pitying the warrior even in death, and he covered the body with
his golden aegis so that Achilles could not damage the skin as he dragged the
corpse along.

“ขณะเดียวกัน อะพอลโลก็รักษาร่างกาย(ของแฮ็คเตอร์)ไม่ให้เน่าสลาย
นักรบผู้น่าสงสารแม้กระทั่งยามสิ้นชีพไปแล้ว
เขาอาบร่างนั้นด้วยลำแสงสีทองแห่งการคุ้มครอง (เชื่อว่าเป็นพลังจากพระอาทิตย์
ซัมติงๆ) เพื่อที่ว่าอคีลลิสจะได้ไม่ทำลายร่างของแฮ็คเตอร์ในตอนที่ลากศพไปรอบเมืองไปได้มากกว่านี้”

     เรื่องก่อนหน้านี้คือหลังจากฆ่าแฮ็คเตอร์ได้
อคีลลิสก็ล้างแค้นให้เพื่อนรักของตัวเองที่ถูกแฮ็คเตอร์ฆ่าตายด้วยการผูกศพโยงไว้กับรถม้า
แล้วลากไปรอบเมืองให้มันโดนนู่น กระแทกนี่ เอาหน้าจุ่มฝุ่นกันไป แล้วช่วงที่นางพักเหนื่อย อะพอลโลก็แอบมาแบ่งพลังเคลือบ/อาบร่างของแฮ็ตเตอร์ไว้ไม่ให้เป็นอันตรายไปมากกว่านี้ จากนั้นพออคิลลิสรู้เข้าก็โกรธว่าเฮ้ย นี่จะแก้แค้นก็ยังทำไม่ได้
ขนาดตายยังมีคนมาปกป้องอีก น่าหมั่นไส้จริมๆ….

     พอแค่นี้ ที่เหลือไปหาอ่านต่อเอง 5555

    สรุป
ก็หาไม่เจอว่าทองของอคิลลีสคืออะไรอยู่ดี
ใครเคยอ่านฉบับเต็มอย่างละเอียดหรือเข้าใจก็มาแชร์กันได้นะคะ

    ส่วนMV งานดี เข้าใจง่าย ไม่อธิบายอะไรแล้วกันค่ะ ^^


AM กับ PM ใช้ต่างกันยังไง และใช้ตอนไหน? – English Tips EP.1


หลายคนอาจจะงงว่า AM กับ PM คืออะไร? ใช้ยังไง? และต้องใช้ตอนไหน? หลายคนรู้แล้วแต่ก็ยังสับสนอยู่ว่าตอนไหนใช้ AM ตอนไหนใช้ PM English Tips ตอนแรกวันนี้จะมาไขข้อสงสัย และมีเทคนิคทำความเข้าใจวิธีใช้แบบง่ายๆ มาให้ทุกคนได้ใช้อย่างถูกต้องกัน รับรองว่าจำง่าย ใช้ได้ และไม่ลืมแน่นอน
EnglishTips
อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h
ติดตามช่อง YouTube ส่วนตัว
ช่องยูทูปของแล็คต้า https://www.youtube.com/lactawarakorn
ช่องยูทูปของเบล https://www.youtube.com/bellvittawut
ติดตามช่องทางอื่นๆ และพูดคุยกันได้ที่
ชุมชนคนรักภาษาอังกฤษ https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz
ติดต่องาน
Email: [email protected]
Line: http://nav.cx/oOH1Q6T

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

AM กับ PM ใช้ต่างกันยังไง และใช้ตอนไหน? - English Tips EP.1

Yet กับ Still แปลว่าอะไร ใช้อย่างไรให้ไม่ผิด ??? #Knowitall


สอบถามเรื่องคอร์สได้ที่ไลน์ @ajarnadam หรือโทร 02 612 9300
รายละเอียดคอร์ส http://www.ajarnadam.tv/
FB: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
IG: https://www.instagram.com/ajarnadam
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
ภาษาอังกฤษ อาจารย์อดัม AjarnAdam

Yet กับ Still แปลว่าอะไร ใช้อย่างไรให้ไม่ผิด ??? #Knowitall

죠지, 강혜인 (george \u0026 Gang Haein) – Something (내 아이디는 강남미인 OST)


싱어송라이터 죠지 \u0026 강혜인의 JTBC 새 금토드라마 \”내 아이디는 강남미인\” OST Part 4 \”썸씽 Something\” 발매.
▶ 듣기/다운로드: https://melon.do/y7LLf2kPP
▶ Apple Music: https://apple.co/2LpJ0Ps
▶ Spotify: https://spoti.fi/2waTflR
내아이디는강남미인 GangnamBeauty

죠지, 강혜인 (george \u0026 Gang Haein) - Something (내 아이디는 강남미인 OST)

Freak, Freaky, Freaking แปลว่าอะไรเหรอ และใช้ยังไงกันแน่


สอบถามเรื่องคอร์ส Line: Aj.Adam, Info.Hollywood, KhunBaiTuey
โทร 02 612 9300, 081 353 7810, 089 422 4546
รายละเอียดคอร์ส http://www.ajarnadam.tv/
เรียนกับอดัม: http://www.facebook.com/hollywoodlearning
สาขาเชียงใหม : http://www.facebook.com/hollywoodlearningcm
เรียนออนไลน์กับอดัม: http://www.ajarnadam.tv
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
YouTube ของซู่ชิง: http://www.youtube.com/user/jitsupachin
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching

Freak, Freaky, Freaking แปลว่าอะไรเหรอ และใช้ยังไงกันแน่

English วันละคำ : FOCUS ON แปลว่าอะไรกันนะ ?? FOCUS ON


เรียนภาษาอังกฤษวันละคำ แค่วันละ 12 นาที กับแชมป์อิงริช
เทคนิคการจำคำศัพท์ และการนำไปปรับใช้
คำศัพท์ง่ายๆที่ฝึกกันได้ในทุกวัน และสามารถนำไปใช้ได้จริง
มาฝึกพูดภาษาอังกฤษ ไปกับ แชมป์อิงริชกันนะค่ะ
\”อย่าลืมกดติดตามกันนะคะ\”
คลิกลิ้งค์ด้านล่างนี้เพื่อ รับส่วนลดส่วนสูงสุด 50%
พร้อมเทสวัดระดับภาษาฟรี!! จำนวนจำกัด
https://forms.gle/GBSRs1KBxyHeTKom6
ช่องทางการติดต่อ
www.champengrish.com
Line : @champengrish
Tel : 0990652555

English วันละคำ : FOCUS ON แปลว่าอะไรกันนะ ?? FOCUS ON

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ something แปล ว่า อะไร

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *