Skip to content
Home » [NEW] สาขายอดฮิตของนักเรียนไทย ที่ไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ออสเตรเลีย ก็คือ | เรียน ป ตรี ต่าง ประเทศ – NATAVIGUIDES

[NEW] สาขายอดฮิตของนักเรียนไทย ที่ไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ออสเตรเลีย ก็คือ | เรียน ป ตรี ต่าง ประเทศ – NATAVIGUIDES

เรียน ป ตรี ต่าง ประเทศ: คุณกำลังดูกระทู้

เรียนปริญญาตรีที่ออสเตรเลีย เรียน ป.ตรี ที่ออสเตรเลีย

Table of Contents

เรียนปริญญาตรีที่ออสเตรเลีย

ออสเตรเลีย เป็นอีกหนึ่งประเทศ ที่มีนักเรียนไทย ไปเรียนต่อในระดับ ป.ตรี กันมาก เป็นรองเพียงแค่ ประเทศสหรัฐอเมริกา และ ประเทศอังกฤษ โดยหลักสูตรการศึกษาที่คนไทยนิยมไปเรียนกันมากสุดคือ หลักสูตรภาษาอังกฤษ ลองลงมาจะเป็น ปริญญาตรี และ ปริญญาโท ตามลำดับ

สาขายอดฮิตของนักเรียนไทย ที่ไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ออสเตรเลีย ก็คือ

สาขาค่าเรียน Group of Eight ต่อปีค่าเรียน มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ต่อปี1. Business and ManagementAUD 38,000 – 42,000AUD 21,000 – 41,0002. EngineeringAUD 39,000 – 45,000AUD 26,000 – 40,0003. Mathematics and Computer SciencesAUD 38,000 – 43,000AUD 26,000 – 40,0004. Communication ArtsAUD 30,000 – 38,000AUD 23,000 – 33,0005. International RelationsAUD 30,000 – 40,000AUD 23,000 – 35,000

 

มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียมีเป็นจำนวนมาก เป็นของรัฐบาลถึง 37 แห่ง และ เอกชนอีก 2 แห่ง ป.ตรี ของออสเตรเลีย ส่วนใหญ่จะเรียนกันประมาณ 3 ปี แต่ถ้าเป็นพวก Specialist ยกตัวอย่างเช่น แพทย์ ทันตแพทย์ วิศวกรในบางสาขา ก็จะต้องเรียนมากขึ้น เช่น แพทย์เรียน 6 ปี วิศวเหมืองแร่ เรียน 4 ปี

ในจำนวนมหาวิทยาลัยรัฐบาล 37 แห่ง  มีมหาวิทยาลัยชั้นนำ 8 แห่ง หรือ Group of Eight (Go8) ที่มีความเป็นเลิศด้านวิจัยและวิชาการที่แข็งแกร่ง โดยอันดับโลกอยู่ไม่ต่ำกว่า 150 ในภาพรวม  สำหรับวิชาด้านกฎหมาย Go8 อยู่ในลำดับท็อป 100 ซึ่งมี 6 มหาวิทยาลัยอยู่ในลำดับท็อป 50 และ 4 แห่ง ลำดับท็อป 20 จากมหาวิทยาลัยทั่วโลก

Group of Eight (Go8) ประกอบด้วย

ชื่อมหาวิทยาลัยรัฐRanking ในออสเตรเลียWorld RankingAustralian National UniversityACT124University of MelbourneVIC239University of New South Wales (UNSW)NSW345University of Queensland (UQ)QLD448The University of SydneyNSW542Monash UniversityVIC659The University of Western AustraliaWA791The University of AdelaideSA8114

 

สัญลักษณ์แต่ละมหาวิทยาลัยของ Go8

การสมัครเข้าเรียนต่อในระดับ ป.ตรี ของออสเตรเลีย จะไม่เหมือนกับของประเทศไทย โดยที่การสมัครเรียน ป.ตรี ของออสเตรเลีย จะใช้วิธีการดูจาก วุฒิการศึกษาในระดับ ม.ปลาย และ ค่อยพิจรณา รับเข้าเรียนต่ออีกครั้ง

  1. ใช้เวลาเรียน ในสาขาวิชาทั่วไปเพียง 3 ปี
  2. สามารถทำงาน Part Time ได้ถึง 40 ชั่วโมงต่อ 2 สัปดาห์ ได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย
  3. คุณภาพของมหาวิทยาลัย มีมาตรฐานสูงมาก ติดอันดับ QS World University Rankings ทุกแห่ง
  4. ได้ประสบการณ์ ในการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ร่วมกับนักเรียนชาวต่างชาติ

 

lineokk

จะเห็นได้ว่า เส้นทางการศึกษาในระดับปริญญาตรี ของออสเตรเลีย ไม่เหมือนกับการเรียนในประเทศไทย การที่จะเข้าเรียน ป.ตรี ที่ออสเตรเลียนั้น มีหลายเส้นทางมาก

ตัวอย่างเช่น
นางสาว สมหญิง จบ ม.6 แล้ว พื้นฐานภาษาอังกฤษดี มีผลสอบ Ielts ผ่านเกณฑ์ ก็สามารถเข้าเรียน ป.ตรี ได้เลย

นางสาว สมทรง จบ ม.6 แล้ว แต่พื้นฐานภาษาอังกฤษไม่ดี ก็ต้องไปปรับพื้นฐานภาษาก่อน โดยจะเรียนปรับพื้นฐานภาษา ที่ศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัยโดยตรง หรือ เรียนที่โรงเรียนสอนภาษาอื่นก่อน พอมั่นใจแล้วค่อยไปสอบ Ielts ถ้าผ่าน แล้วค่อยกลับมาเรียน ป.ตรี ก็ยังได้ครับ

นาย สมชาย จบ ม.5 มีผลสอบ Ielts 5.5 แต่ไม่อยากเรียนเมืองไทยแล้ว ไปเรียนออสเตรเลียดีกว่า เรียนด้วยทำงานไปด้วย สนุกดี นายสมชาย สามารถไปเรียน Diploma -> Advance Diploma -> Bachelor Degree อย่างนี้ก็ได้นะครับ

ตามความเป็นจริงแล้ว เส้นทางการศึกษาจะมีอีกมากครับ ขึ้นอยู่กับว่า อยากไปเรียน ป.ตรี ที่ออสเตรเลีย สาขาอะไร พื้นฐานการศึกษาของนักเรียนเป็นอย่างไร ถ้าเป็นไปได้อยากให้ลองมาคุยกับ พี่อาร์ท ที่ Office นะครับ จะได้แนะนำเส้นทางที่เหมาะสมให้ครับ ติดต่อสอบถาม

ค่าเล่าเรียน ปริญญาตรีที่ออสเตรเลีย โดยประมาณ 

  • Business and Management ค่าเรียน ต่อปี A$ 22,890 ตลอดหลักสูตร 3 ปี A$ 68,670 (ยกตัวอย่างจาก University of Canberra)
  • Engineering ค่าเรียน ต่อปี A$ 32,300 ตลอดหลักสูตร 4 ปี A$ 129,200 (ยกตัวอย่างจาก UTS)
  • Computer Sciences ต่อปี A$ $23,993.60 ตลอดหลักสูตร 3 ปี A$ 71,980.80 (ยกตัวอย่างจาก Griffith University)

ค่าครองชีพ : A$ 250 – A$ 300 ต่อสัปดาห์ แล้วแต่ Lifestyle นะครับ ใครกินจุ Party เยอะ ก็อาจจะเกินครับ

รายได้จากการทำงาน Part Time : ค่าจ้างจะคำนวนเป็นรายชั่วโมงให้ครับ โดยเฉลี่ยประมาณ A$ 12 ต่อ ชั่วโมง ใน 1 สัปดาห์ นักเรียนส่วนใหญ่จะมีรายได้ A$ 200 ขึ้นไปครับ ถ้าใครได้ทำงาน Part Time ร้านอาหาร นอกจากค่าจ้างที่จะได้รับแล้ว ยังได้กินข้าวฟรีด้วยครับ

เริ่มทำงาน Part Time ได้เมื่อไหร่ : จะเริ่มทำงานได้ก็ต่อเมื่อเริ่มเรียน ในวันแรกของการลงทะเบียนเรียนที่สถาบันนั้นๆ นักเรียนสามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่ของสถาบันไว้ได้ว่า เรามีแผนที่จะทำงาน Part time ด้วยในอนาคต

จำนวนชั่วโมงที่สามารถทำงาน Part Time ได้: 40 ชั่วโมง ต่อ 2 สัปดาห์ ซึ่งนักเรียนสามารถกำหนดเองได้ว่า สัปดาห์นี้อาจจะทำได้แต่ 15 ชั่วโมงสัปดาห์ถัดไป อาจจะทำ 25 ชั่วโมง หรือบางคนก็ทำเป็น 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ได้ครับ แล้วแต่เราและนายจ้าง
โอกาสของงาน part time: ขึ้นอยู่กับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ประสบการณ์การทำงานที่จะสมัคร แต่โดยรวมถ้าไม่เลือกงานก็หาไม่ยากจนเกินไป

ตัวอย่าง

ตารางค่าใช้จ่าย Bachelor of Business Administration at University of Canberra 3 years

ประเภทค่าใช้จ่าย

(AUD)

(Baht)

 ◆ ค่าสมัคร (Free)

0

 ◆ ค่าเรียน *แบ่งชำระ 6 งวด

68,670

1,854,090

0

 ◆ Telegraphic Transfer Fee

30

810

0

 ◆ ค่าประกันสุขภาพ 38 เดือน (ประมาณ)

2,280

61,560

0

 ◆ ค่าธรรมเนียมขอ Visa

 

15,325

0

 ◆ ค่า บ. ตัวแทนรับเอกสาร (VFS)

 

895

0

 ◆ ค่าตรวจสุขภาพเพื่อขอ Visa (BNH/ Bangkok Hospital) ชำระที่รพ.

 

5,500

0

 ◆ ตั๋วเครื่องบิน ไปเที่ยวเดียว ประมาณ(สามารถหาซื้อได้เอง)

 

23,000

0

     รวม

1,961,180

0

ขั้นที่ 1 หาข้อมูลเลือกที่เรียน

โดยปกติแล้ว จะหาข้อมูลกัน 3 แบบ คือ

  1. หาเองจาก Web Site
  2. จากการแนะนำ
  3. จาก บริษัทแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วครับ บริษัทฯ แนะแนวของประเทศออสเตรเลีย มีจำนวนเยอะมาก เลือกใช้ที่เหมาะสมได้เลยครับ

ขึ้นที่ 2 เตรียมเอกสาร

ะต้องเตรียมเอกสารหลัก ๆ 4 ด้านด้วยกันคือ

1. ประวัติการศึกษา
Transcript ล่าสุดครับ เช่น ถ้าจบ ป.โท ก็เอา ป.โท มาครับ ประวัติการเรียนภาษาอังกฤษ เรียนมากี่นำมาใช้ได้หมดครับ รวมถึงประวัติการฝึกอบรมต่าง ๆ ด้วย

2. ประวัติการทำงาน (ถ้ายังไม่เคยทำก็ไม่ต้องครับ)
ถ้ามีจดหมายรับรองการทำงานจะดีมากครับ หรือ กรณีเป็น Freelance ก็ควรต้องหาเอกสารประกอบ เพื่อยืนยันว่าเราประกอบอาชีพอะไร

3. ประวัติการเงิน
ทางสถานฑูต จะดูบัญชีเงินฝากเราย้อนหลัง 6 เดือน เงินในบัญชีเงินฝาก ประมาณ 600,000 บาท เน้นนะครับว่า 6 เดือน ไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ ก่อนจะยื่น Visa 1 เดือน ก็เอาเงินใส่เข้ามา 300,000 บาท อย่างนี้ไม่ควรครับ

บัญชีเงินฝาก ไม่จำเป็นต้องเป็นของคนที่จะไปเรียน แต่เป็นของ พ่อ แม่ พี่ น้อง หรือญาติ ก็ได้ แต่ญาติ แท้ ๆ นะครับ ไม่ใช่ แฟนหรือ คนข้างบ้าน

นอกจากบัญชีเงินฝากแล้ว สลากออมสิน, เงินฝากสหกรณ์ ก็ใช้ได้ครับ คนที่ให้เอกสารด้านการเงินเรามาอ้างอิง จะเรียกว่า Sponsor นะครับ

4. Passport
ปัจจุบันมีที่รับทำหลายแห่งครับ เช่นที่ แจ้งวัฒนะ ,เซ็นทรัล บางนา, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เชียงใหม่, ขอนแก่น, สงขลา ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1,000 บาท ครับ

ขั้นที่ 3 ส่งเอกสารการเรียนให้บริษัทเพื่อตรวจสอบ

นำเอกสารที่เตรียมทั้งหมด scan ส่งให้บริษัทตรวจสอบในเบื้องต้น โดยจะพิจารณาความเป็นไปได้ในการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่นักเรียนสนใจ รวมทั้งบริษัทจะแนะนำมหาวิทยาลัยที่เหมาะสมทั้งด้านวิชาการและงบประมาณของนักเรียน หลังจากที่สรุปข้อมูลจากเอกสารที่นักเรียนส่งให้บริษัทพิจารณา ลำดับต่อไปคือการสมัครเรียน

ขั้นที่ 4 การสมัครเรียน

บริษัทจะเป็นตัวแทนดำเนินเรื่องยื่นสมัครให้กับมหาวิทยาลัยที่บริษัทเป็นตัวแทน ส่วนใหญ่แล้วมหาวิทยาลัยไม่คิดค่าสมัคร ยกเว้นมหาวิทยาลัยที่อยู่ในกลุ่ม Go8 จะมีค่าสมัครไม่เกิน AUD 200  หลังจากยื่นใบสมัครเข้าไปแล้ว มหาวิทยาลัยจะใช้เวลาการพิจารณาประมาณ 2-4 สัปดาห์ (อาจจะเร็วหรือช้ากว่านั้น แล้วแต่กรณี) ถ้าคุณสมบัติของนักเรียนผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนด มหาวิทยาลัยจะออกเอกสารตอบรับหรือ ที่เรียกว่า Letter of Offer

เมื่อเราได้รับใบ Letter of Offer ควรตรวจสอบความถูกต้อง และเงื่อนไขต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าน้องไปสมัครเรียน ป.ตรี วิศวะ กับทาง มหาวิทยาลัย ใน Letter of Offer จะระบุวันเริ่มเรียน, ชื่อ – นามสกุล, คณะและสาขาวิชาที่ลงทะเบียนเรียน รวมถึงค่าเรียน แต่กณีที่คุณสมบัติด้านวิชาการถึงและผลคะแนนภาษาอังกฤษยังไม่ถึงตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด นักเรียนจะได้รับเป็น Conditional Letter of Offer ก็คือพอนำผลคะแนนที่ได้ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด ก็จะถูกเปลี่ยนเป็น Letter of Offer

ขั้นที่ 5 การชำระค่าเรียน

ขั้นตอนนี้นักเรียนสามารถชำระเงินโดยการโอนค่าเรียนตรงไปที่ สถาบัน หรือ มหาวิทยาลัยที่ออสเตรเลีย ได้เลยครับ โดยนำ Offer Letter ไปแจ้งที่ธนาคาร จะมีค่าธรรมเนียมประมาณ 1,500 บาทครับ

ขั้นที่ 6 รับเอกสารยืนยันการลงทะเบียนเรียน

เอกสารยืนยันการลงทะเบียนเรียน หรือ Confirmation of Enrolment (COE) จะส่งมาที่บริษัทหลังจากที่นักเรียนชำระเงินภายใน ประมาณ 1-2 สัปดาห์ (อาจจะเร็วหรือช้ากว่านั้น แล้วแต่ช่วงเวลาที่ชำระ เช่นเป็นเวลาที่ใกล้เปิดเทอมอาจจะใช้เวลาสักหน่อย เพราะนักเรียนหลายคนก็เร่งชำระเงินให้ทันก่อนเปิดเทอม)  เอกสาร COE นี้จะเป็นใบรับรองว่า เราได้ชำระค่าเรียนไปแล้ว บอกถึงความตั้งใจว่าเราจะไปเรียนแน่นอน

ขั้นที่ 7 ยื่นวีซ่า

หลังจากที่ เตรียมเอกสารทั้งหมดแล้ว + COE ขั้นต่อไป ต้องกรอกฟอร์ม 157 A ครับ และยื่นในระบบ online ค่าธรรมเนียมวีซ่าประมาณ 14,xxx – 15,xxx บาท โดยปกติแล้วทาง บริษัทฯ แนะแนวจะดำเนินขั้นตอนนี้ให้ครับ

ขั้นที่ 8 ตรวจสุขภาพ

หลังจากที่ยื่นวีซ่าเข้าระบบแล้วบริษัทจะนัดนักเรียนเพื่อไป scan ลายนิ้วมือ (Biometrics) ที่ตัวแทนสถานทูตคือ VFS  พร้อมแนะนำให้น้องนัดโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพหลังจากเสร็จ scan ลายนิ้วมือ

ขั้นตอนก็เหมือนตรวจร่างกายทั่วไป มีตรวจปัสสาวะ ตรวจตา X-ray โรงพยาบาลที่จะตรวจได้ก็มีไม่กี่แห่งครับ ต้องอยู่ในรายชื่อของสถานฑูตเท่านั้น ขั้นตอนนี้ต้องกรอกฟอร์มเยอะแยะเลย ปวดหัว แต่มีบางโรงพยาบาลกรอกให้เราเลย แต่แพงกว่า โรงพยาบาลที่แนะนำจะมี BNH ราคาประมาณ 5,500 บาท บริการดีที่สุดเท่าที่ทราบมา  พอตรวจเสร็จก็ไปจ่ายตัง กลับบ้านได้เลยครับ ส่วนผลการตรวจจะไปถึงสถานฑูตเอง

ขั้นที่ 9 รอฟังผลวีซ่า

รอผลประมาณ 4 สัปดาห์  (อาจจะเร็วหรือช้ากว่านั้น แล้วแต่เจ้าหน้าที่สถานทูตเป็นผู้พิจารณา) ผลวีซ่าจะถูกส่งผ่านมาที่บริษัท เมื่อวีซ่าผ่านสามารถซื้อตั๋วเครื่องบิน  และเตรียมจัดหาที่พักใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ไปเรียน

 

รายการสิ่งของที่ควรนำไปออสเตรเลีย

รายละเอียดเพิ่มเติมของ : การเตรียมของไปต่างประเทศ จัดกระเป๋าไปต่างประเทศ รายการสิ่งของ Click !!!

เครื่องแต่งกาย

    ● เสื้อแจ็คเก็ตหนา

● กางเกงขายาว

    ● เสื้อแจ๊กเก็ตบาง

● กางเกงใน

    ● Overcoat

● ผ้าเช็ดตัว

    ● เสื้อยืดแขนยาว

● ผ้าอนามัย

    ● เสื้อยืดแขนสั้น

● แว่นสายตา

    ● Cardigan

● แว่นกันแดด

    ● เสื้อเชิ้ต

● เข็มขัด

    ● ชุดนอน

● รองเท้าผ้าใบ

    ●

Jean

● รองเท้าแตะ

    ● กางเกงขาสั้น

ของใช้ส่วนตัว

    ● เครื่องสำอาง

● โฟมล้างหน้า

    ● ยาสระผม

● มีดโกนหนวด

    ● ครีมนวดผม

● ครีมโกนหนวด

    ● สบู่

● ครีมกันแดด

    ● ยาสีฟัน

● ครีมทาผิว

    ● แปรงสีฟัน

● ทิชชู่

    ● ลิปมัน

● ทิชชู่เปียก

    ● ไม้จิ้มฟัน

● สำลี

Gadget

● โทรศัพท์มือถือ

● อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์

● กล้องถ่ายรูป

● ที่แปลงหัวปลั๊กไฟ

เอกสารสำคัญ

    ● Passport

● แผนการเดินทาง

    ● Passport copy

● แผนที่

    ● E-ticket

● สมุดบันทึก

    ● เบอร์ติดต่อฉุกเฉิน

● นามบัตร

    ● บัตรเครดิต

● เงินสด

    ● Hotel Reservation

 

    ● Travel insurance

 

 

ยาสามัญประจำบ้าน และยาโรคประจำตัว

 

● ยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาแก้ไข้

● ยาประจำตัว

● ยาดม

● ยาหม่อง

● พลาสเตอร์ยา

 

 

ของใช้อื่นๆ ที่จำเป็น

  ● ถุง (สำหรับใส่เสื้อผ้าใส่แล้ว)

  ● กาวตราช้าง

  ● บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

  ● กรรไกรตัดเล็บ

  ● กุญแจ ล๊อคกระเป๋า

  ● อุปกรณ์กันฝน เช่น เสื้อกันฝน ร่ม เป็นต้น

 

สามารถดูขั้นตอนโดยละเอียดได้ที่ link นี้ครับ >>> https://www.educatepark.com/เรียนต่อออสเตรเลีย/ขั้นตอนการเไปเรียนที่ออสเตรเลีย

[NEW] สาขายอดฮิตของนักเรียนไทย ที่ไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ออสเตรเลีย ก็คือ | เรียน ป ตรี ต่าง ประเทศ – NATAVIGUIDES

เรียนปริญญาตรีที่ออสเตรเลีย เรียน ป.ตรี ที่ออสเตรเลีย

เรียนปริญญาตรีที่ออสเตรเลีย

ออสเตรเลีย เป็นอีกหนึ่งประเทศ ที่มีนักเรียนไทย ไปเรียนต่อในระดับ ป.ตรี กันมาก เป็นรองเพียงแค่ ประเทศสหรัฐอเมริกา และ ประเทศอังกฤษ โดยหลักสูตรการศึกษาที่คนไทยนิยมไปเรียนกันมากสุดคือ หลักสูตรภาษาอังกฤษ ลองลงมาจะเป็น ปริญญาตรี และ ปริญญาโท ตามลำดับ

สาขายอดฮิตของนักเรียนไทย ที่ไปเรียนต่อปริญญาตรีที่ออสเตรเลีย ก็คือ

สาขาค่าเรียน Group of Eight ต่อปีค่าเรียน มหาวิทยาลัยอื่น ๆ ต่อปี1. Business and ManagementAUD 38,000 – 42,000AUD 21,000 – 41,0002. EngineeringAUD 39,000 – 45,000AUD 26,000 – 40,0003. Mathematics and Computer SciencesAUD 38,000 – 43,000AUD 26,000 – 40,0004. Communication ArtsAUD 30,000 – 38,000AUD 23,000 – 33,0005. International RelationsAUD 30,000 – 40,000AUD 23,000 – 35,000

 

มหาวิทยาลัยในออสเตรเลียมีเป็นจำนวนมาก เป็นของรัฐบาลถึง 37 แห่ง และ เอกชนอีก 2 แห่ง ป.ตรี ของออสเตรเลีย ส่วนใหญ่จะเรียนกันประมาณ 3 ปี แต่ถ้าเป็นพวก Specialist ยกตัวอย่างเช่น แพทย์ ทันตแพทย์ วิศวกรในบางสาขา ก็จะต้องเรียนมากขึ้น เช่น แพทย์เรียน 6 ปี วิศวเหมืองแร่ เรียน 4 ปี

ในจำนวนมหาวิทยาลัยรัฐบาล 37 แห่ง  มีมหาวิทยาลัยชั้นนำ 8 แห่ง หรือ Group of Eight (Go8) ที่มีความเป็นเลิศด้านวิจัยและวิชาการที่แข็งแกร่ง โดยอันดับโลกอยู่ไม่ต่ำกว่า 150 ในภาพรวม  สำหรับวิชาด้านกฎหมาย Go8 อยู่ในลำดับท็อป 100 ซึ่งมี 6 มหาวิทยาลัยอยู่ในลำดับท็อป 50 และ 4 แห่ง ลำดับท็อป 20 จากมหาวิทยาลัยทั่วโลก

Group of Eight (Go8) ประกอบด้วย

ชื่อมหาวิทยาลัยรัฐRanking ในออสเตรเลียWorld RankingAustralian National UniversityACT124University of MelbourneVIC239University of New South Wales (UNSW)NSW345University of Queensland (UQ)QLD448The University of SydneyNSW542Monash UniversityVIC659The University of Western AustraliaWA791The University of AdelaideSA8114

 

สัญลักษณ์แต่ละมหาวิทยาลัยของ Go8

การสมัครเข้าเรียนต่อในระดับ ป.ตรี ของออสเตรเลีย จะไม่เหมือนกับของประเทศไทย โดยที่การสมัครเรียน ป.ตรี ของออสเตรเลีย จะใช้วิธีการดูจาก วุฒิการศึกษาในระดับ ม.ปลาย และ ค่อยพิจรณา รับเข้าเรียนต่ออีกครั้ง

  1. ใช้เวลาเรียน ในสาขาวิชาทั่วไปเพียง 3 ปี
  2. สามารถทำงาน Part Time ได้ถึง 40 ชั่วโมงต่อ 2 สัปดาห์ ได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย
  3. คุณภาพของมหาวิทยาลัย มีมาตรฐานสูงมาก ติดอันดับ QS World University Rankings ทุกแห่ง
  4. ได้ประสบการณ์ ในการใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ร่วมกับนักเรียนชาวต่างชาติ

 

lineokk

จะเห็นได้ว่า เส้นทางการศึกษาในระดับปริญญาตรี ของออสเตรเลีย ไม่เหมือนกับการเรียนในประเทศไทย การที่จะเข้าเรียน ป.ตรี ที่ออสเตรเลียนั้น มีหลายเส้นทางมาก

ตัวอย่างเช่น
นางสาว สมหญิง จบ ม.6 แล้ว พื้นฐานภาษาอังกฤษดี มีผลสอบ Ielts ผ่านเกณฑ์ ก็สามารถเข้าเรียน ป.ตรี ได้เลย

นางสาว สมทรง จบ ม.6 แล้ว แต่พื้นฐานภาษาอังกฤษไม่ดี ก็ต้องไปปรับพื้นฐานภาษาก่อน โดยจะเรียนปรับพื้นฐานภาษา ที่ศูนย์ภาษาของมหาวิทยาลัยโดยตรง หรือ เรียนที่โรงเรียนสอนภาษาอื่นก่อน พอมั่นใจแล้วค่อยไปสอบ Ielts ถ้าผ่าน แล้วค่อยกลับมาเรียน ป.ตรี ก็ยังได้ครับ

นาย สมชาย จบ ม.5 มีผลสอบ Ielts 5.5 แต่ไม่อยากเรียนเมืองไทยแล้ว ไปเรียนออสเตรเลียดีกว่า เรียนด้วยทำงานไปด้วย สนุกดี นายสมชาย สามารถไปเรียน Diploma -> Advance Diploma -> Bachelor Degree อย่างนี้ก็ได้นะครับ

ตามความเป็นจริงแล้ว เส้นทางการศึกษาจะมีอีกมากครับ ขึ้นอยู่กับว่า อยากไปเรียน ป.ตรี ที่ออสเตรเลีย สาขาอะไร พื้นฐานการศึกษาของนักเรียนเป็นอย่างไร ถ้าเป็นไปได้อยากให้ลองมาคุยกับ พี่อาร์ท ที่ Office นะครับ จะได้แนะนำเส้นทางที่เหมาะสมให้ครับ ติดต่อสอบถาม

ค่าเล่าเรียน ปริญญาตรีที่ออสเตรเลีย โดยประมาณ 

  • Business and Management ค่าเรียน ต่อปี A$ 22,890 ตลอดหลักสูตร 3 ปี A$ 68,670 (ยกตัวอย่างจาก University of Canberra)
  • Engineering ค่าเรียน ต่อปี A$ 32,300 ตลอดหลักสูตร 4 ปี A$ 129,200 (ยกตัวอย่างจาก UTS)
  • Computer Sciences ต่อปี A$ $23,993.60 ตลอดหลักสูตร 3 ปี A$ 71,980.80 (ยกตัวอย่างจาก Griffith University)

ค่าครองชีพ : A$ 250 – A$ 300 ต่อสัปดาห์ แล้วแต่ Lifestyle นะครับ ใครกินจุ Party เยอะ ก็อาจจะเกินครับ

รายได้จากการทำงาน Part Time : ค่าจ้างจะคำนวนเป็นรายชั่วโมงให้ครับ โดยเฉลี่ยประมาณ A$ 12 ต่อ ชั่วโมง ใน 1 สัปดาห์ นักเรียนส่วนใหญ่จะมีรายได้ A$ 200 ขึ้นไปครับ ถ้าใครได้ทำงาน Part Time ร้านอาหาร นอกจากค่าจ้างที่จะได้รับแล้ว ยังได้กินข้าวฟรีด้วยครับ

เริ่มทำงาน Part Time ได้เมื่อไหร่ : จะเริ่มทำงานได้ก็ต่อเมื่อเริ่มเรียน ในวันแรกของการลงทะเบียนเรียนที่สถาบันนั้นๆ นักเรียนสามารถแจ้งกับเจ้าหน้าที่ของสถาบันไว้ได้ว่า เรามีแผนที่จะทำงาน Part time ด้วยในอนาคต

จำนวนชั่วโมงที่สามารถทำงาน Part Time ได้: 40 ชั่วโมง ต่อ 2 สัปดาห์ ซึ่งนักเรียนสามารถกำหนดเองได้ว่า สัปดาห์นี้อาจจะทำได้แต่ 15 ชั่วโมงสัปดาห์ถัดไป อาจจะทำ 25 ชั่วโมง หรือบางคนก็ทำเป็น 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ได้ครับ แล้วแต่เราและนายจ้าง
โอกาสของงาน part time: ขึ้นอยู่กับพื้นฐานภาษาอังกฤษ ประสบการณ์การทำงานที่จะสมัคร แต่โดยรวมถ้าไม่เลือกงานก็หาไม่ยากจนเกินไป

ตัวอย่าง

ตารางค่าใช้จ่าย Bachelor of Business Administration at University of Canberra 3 years

ประเภทค่าใช้จ่าย

(AUD)

(Baht)

 ◆ ค่าสมัคร (Free)

0

 ◆ ค่าเรียน *แบ่งชำระ 6 งวด

68,670

1,854,090

0

 ◆ Telegraphic Transfer Fee

30

810

0

 ◆ ค่าประกันสุขภาพ 38 เดือน (ประมาณ)

2,280

61,560

0

 ◆ ค่าธรรมเนียมขอ Visa

 

15,325

0

 ◆ ค่า บ. ตัวแทนรับเอกสาร (VFS)

 

895

0

 ◆ ค่าตรวจสุขภาพเพื่อขอ Visa (BNH/ Bangkok Hospital) ชำระที่รพ.

 

5,500

0

 ◆ ตั๋วเครื่องบิน ไปเที่ยวเดียว ประมาณ(สามารถหาซื้อได้เอง)

 

23,000

0

     รวม

1,961,180

0

ขั้นที่ 1 หาข้อมูลเลือกที่เรียน

โดยปกติแล้ว จะหาข้อมูลกัน 3 แบบ คือ

  1. หาเองจาก Web Site
  2. จากการแนะนำ
  3. จาก บริษัทแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วครับ บริษัทฯ แนะแนวของประเทศออสเตรเลีย มีจำนวนเยอะมาก เลือกใช้ที่เหมาะสมได้เลยครับ

ขึ้นที่ 2 เตรียมเอกสาร

ะต้องเตรียมเอกสารหลัก ๆ 4 ด้านด้วยกันคือ

1. ประวัติการศึกษา
Transcript ล่าสุดครับ เช่น ถ้าจบ ป.โท ก็เอา ป.โท มาครับ ประวัติการเรียนภาษาอังกฤษ เรียนมากี่นำมาใช้ได้หมดครับ รวมถึงประวัติการฝึกอบรมต่าง ๆ ด้วย

2. ประวัติการทำงาน (ถ้ายังไม่เคยทำก็ไม่ต้องครับ)
ถ้ามีจดหมายรับรองการทำงานจะดีมากครับ หรือ กรณีเป็น Freelance ก็ควรต้องหาเอกสารประกอบ เพื่อยืนยันว่าเราประกอบอาชีพอะไร

3. ประวัติการเงิน
ทางสถานฑูต จะดูบัญชีเงินฝากเราย้อนหลัง 6 เดือน เงินในบัญชีเงินฝาก ประมาณ 600,000 บาท เน้นนะครับว่า 6 เดือน ไม่ใช่ว่าอยู่ดี ๆ ก่อนจะยื่น Visa 1 เดือน ก็เอาเงินใส่เข้ามา 300,000 บาท อย่างนี้ไม่ควรครับ

บัญชีเงินฝาก ไม่จำเป็นต้องเป็นของคนที่จะไปเรียน แต่เป็นของ พ่อ แม่ พี่ น้อง หรือญาติ ก็ได้ แต่ญาติ แท้ ๆ นะครับ ไม่ใช่ แฟนหรือ คนข้างบ้าน

นอกจากบัญชีเงินฝากแล้ว สลากออมสิน, เงินฝากสหกรณ์ ก็ใช้ได้ครับ คนที่ให้เอกสารด้านการเงินเรามาอ้างอิง จะเรียกว่า Sponsor นะครับ

4. Passport
ปัจจุบันมีที่รับทำหลายแห่งครับ เช่นที่ แจ้งวัฒนะ ,เซ็นทรัล บางนา, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, เชียงใหม่, ขอนแก่น, สงขลา ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 1,000 บาท ครับ

ขั้นที่ 3 ส่งเอกสารการเรียนให้บริษัทเพื่อตรวจสอบ

นำเอกสารที่เตรียมทั้งหมด scan ส่งให้บริษัทตรวจสอบในเบื้องต้น โดยจะพิจารณาความเป็นไปได้ในการเข้าเรียนมหาวิทยาลัยที่นักเรียนสนใจ รวมทั้งบริษัทจะแนะนำมหาวิทยาลัยที่เหมาะสมทั้งด้านวิชาการและงบประมาณของนักเรียน หลังจากที่สรุปข้อมูลจากเอกสารที่นักเรียนส่งให้บริษัทพิจารณา ลำดับต่อไปคือการสมัครเรียน

ขั้นที่ 4 การสมัครเรียน

บริษัทจะเป็นตัวแทนดำเนินเรื่องยื่นสมัครให้กับมหาวิทยาลัยที่บริษัทเป็นตัวแทน ส่วนใหญ่แล้วมหาวิทยาลัยไม่คิดค่าสมัคร ยกเว้นมหาวิทยาลัยที่อยู่ในกลุ่ม Go8 จะมีค่าสมัครไม่เกิน AUD 200  หลังจากยื่นใบสมัครเข้าไปแล้ว มหาวิทยาลัยจะใช้เวลาการพิจารณาประมาณ 2-4 สัปดาห์ (อาจจะเร็วหรือช้ากว่านั้น แล้วแต่กรณี) ถ้าคุณสมบัติของนักเรียนผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนด มหาวิทยาลัยจะออกเอกสารตอบรับหรือ ที่เรียกว่า Letter of Offer

เมื่อเราได้รับใบ Letter of Offer ควรตรวจสอบความถูกต้อง และเงื่อนไขต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าน้องไปสมัครเรียน ป.ตรี วิศวะ กับทาง มหาวิทยาลัย ใน Letter of Offer จะระบุวันเริ่มเรียน, ชื่อ – นามสกุล, คณะและสาขาวิชาที่ลงทะเบียนเรียน รวมถึงค่าเรียน แต่กณีที่คุณสมบัติด้านวิชาการถึงและผลคะแนนภาษาอังกฤษยังไม่ถึงตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด นักเรียนจะได้รับเป็น Conditional Letter of Offer ก็คือพอนำผลคะแนนที่ได้ตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด ก็จะถูกเปลี่ยนเป็น Letter of Offer

ขั้นที่ 5 การชำระค่าเรียน

ขั้นตอนนี้นักเรียนสามารถชำระเงินโดยการโอนค่าเรียนตรงไปที่ สถาบัน หรือ มหาวิทยาลัยที่ออสเตรเลีย ได้เลยครับ โดยนำ Offer Letter ไปแจ้งที่ธนาคาร จะมีค่าธรรมเนียมประมาณ 1,500 บาทครับ

ขั้นที่ 6 รับเอกสารยืนยันการลงทะเบียนเรียน

เอกสารยืนยันการลงทะเบียนเรียน หรือ Confirmation of Enrolment (COE) จะส่งมาที่บริษัทหลังจากที่นักเรียนชำระเงินภายใน ประมาณ 1-2 สัปดาห์ (อาจจะเร็วหรือช้ากว่านั้น แล้วแต่ช่วงเวลาที่ชำระ เช่นเป็นเวลาที่ใกล้เปิดเทอมอาจจะใช้เวลาสักหน่อย เพราะนักเรียนหลายคนก็เร่งชำระเงินให้ทันก่อนเปิดเทอม)  เอกสาร COE นี้จะเป็นใบรับรองว่า เราได้ชำระค่าเรียนไปแล้ว บอกถึงความตั้งใจว่าเราจะไปเรียนแน่นอน

ขั้นที่ 7 ยื่นวีซ่า

หลังจากที่ เตรียมเอกสารทั้งหมดแล้ว + COE ขั้นต่อไป ต้องกรอกฟอร์ม 157 A ครับ และยื่นในระบบ online ค่าธรรมเนียมวีซ่าประมาณ 14,xxx – 15,xxx บาท โดยปกติแล้วทาง บริษัทฯ แนะแนวจะดำเนินขั้นตอนนี้ให้ครับ

ขั้นที่ 8 ตรวจสุขภาพ

หลังจากที่ยื่นวีซ่าเข้าระบบแล้วบริษัทจะนัดนักเรียนเพื่อไป scan ลายนิ้วมือ (Biometrics) ที่ตัวแทนสถานทูตคือ VFS  พร้อมแนะนำให้น้องนัดโรงพยาบาลเพื่อตรวจสุขภาพหลังจากเสร็จ scan ลายนิ้วมือ

ขั้นตอนก็เหมือนตรวจร่างกายทั่วไป มีตรวจปัสสาวะ ตรวจตา X-ray โรงพยาบาลที่จะตรวจได้ก็มีไม่กี่แห่งครับ ต้องอยู่ในรายชื่อของสถานฑูตเท่านั้น ขั้นตอนนี้ต้องกรอกฟอร์มเยอะแยะเลย ปวดหัว แต่มีบางโรงพยาบาลกรอกให้เราเลย แต่แพงกว่า โรงพยาบาลที่แนะนำจะมี BNH ราคาประมาณ 5,500 บาท บริการดีที่สุดเท่าที่ทราบมา  พอตรวจเสร็จก็ไปจ่ายตัง กลับบ้านได้เลยครับ ส่วนผลการตรวจจะไปถึงสถานฑูตเอง

ขั้นที่ 9 รอฟังผลวีซ่า

รอผลประมาณ 4 สัปดาห์  (อาจจะเร็วหรือช้ากว่านั้น แล้วแต่เจ้าหน้าที่สถานทูตเป็นผู้พิจารณา) ผลวีซ่าจะถูกส่งผ่านมาที่บริษัท เมื่อวีซ่าผ่านสามารถซื้อตั๋วเครื่องบิน  และเตรียมจัดหาที่พักใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ไปเรียน

 

รายการสิ่งของที่ควรนำไปออสเตรเลีย

รายละเอียดเพิ่มเติมของ : การเตรียมของไปต่างประเทศ จัดกระเป๋าไปต่างประเทศ รายการสิ่งของ Click !!!

เครื่องแต่งกาย

    ● เสื้อแจ็คเก็ตหนา

● กางเกงขายาว

    ● เสื้อแจ๊กเก็ตบาง

● กางเกงใน

    ● Overcoat

● ผ้าเช็ดตัว

    ● เสื้อยืดแขนยาว

● ผ้าอนามัย

    ● เสื้อยืดแขนสั้น

● แว่นสายตา

    ● Cardigan

● แว่นกันแดด

    ● เสื้อเชิ้ต

● เข็มขัด

    ● ชุดนอน

● รองเท้าผ้าใบ

    ●

Jean

● รองเท้าแตะ

    ● กางเกงขาสั้น

ของใช้ส่วนตัว

    ● เครื่องสำอาง

● โฟมล้างหน้า

    ● ยาสระผม

● มีดโกนหนวด

    ● ครีมนวดผม

● ครีมโกนหนวด

    ● สบู่

● ครีมกันแดด

    ● ยาสีฟัน

● ครีมทาผิว

    ● แปรงสีฟัน

● ทิชชู่

    ● ลิปมัน

● ทิชชู่เปียก

    ● ไม้จิ้มฟัน

● สำลี

Gadget

● โทรศัพท์มือถือ

● อุปกรณ์ชาร์จโทรศัพท์

● กล้องถ่ายรูป

● ที่แปลงหัวปลั๊กไฟ

เอกสารสำคัญ

    ● Passport

● แผนการเดินทาง

    ● Passport copy

● แผนที่

    ● E-ticket

● สมุดบันทึก

    ● เบอร์ติดต่อฉุกเฉิน

● นามบัตร

    ● บัตรเครดิต

● เงินสด

    ● Hotel Reservation

 

    ● Travel insurance

 

 

ยาสามัญประจำบ้าน และยาโรคประจำตัว

 

● ยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาแก้ไข้

● ยาประจำตัว

● ยาดม

● ยาหม่อง

● พลาสเตอร์ยา

 

 

ของใช้อื่นๆ ที่จำเป็น

  ● ถุง (สำหรับใส่เสื้อผ้าใส่แล้ว)

  ● กาวตราช้าง

  ● บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

  ● กรรไกรตัดเล็บ

  ● กุญแจ ล๊อคกระเป๋า

  ● อุปกรณ์กันฝน เช่น เสื้อกันฝน ร่ม เป็นต้น

 

สามารถดูขั้นตอนโดยละเอียดได้ที่ link นี้ครับ >>> https://www.educatepark.com/เรียนต่อออสเตรเลีย/ขั้นตอนการเไปเรียนที่ออสเตรเลีย


เรียนต่อ ป.ตรี ป.โท ที่ออสเตรเลีย ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน


พี่จอยเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยชั้นนำของออสเตรเลีย(ICMS) พร้อมให้คำปรึกษาน้องๆอย่างละเอียด

✅ แนะนำขั้นตอนการทำวีซ่าอย่างละเอียด
✅ แนะนำโรงเรียน,คอร์สเรียน
✅ สมัครเรียน
✅ จัดทำวีซ่า,แปลภาษา
✅ ใส่ใจดูแลทุกขั้นตอน
✅ จัดหาที่พัก และรถรับสนามบิน พร้อมผู้ดูแล
✴️✴️ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายแอบแฝง^^
☎️สอบถามข้อมูล☎️
LINE ID: @1step
089 449 5363 / 034 916 494
[email protected]
www.1stepedu.com
ICMS เรียนต่อต่างประเทศ ศึกษาต่อออสเตรเลีย ศึกษาต่อต่างประเทศ เรียนต่อออสเตรเลีย โรงเรียนสอนภาษาในซิดนีย์ เรียนภาษาที่ซีดนีย์ ราคาเรียนภาษาในซิดนีย์ วีซ่าออสเตรเลีย วีซ่านักเรียนออสเตรเลีย ศูนย์แนะแนวศึกษาต่อต่างประเทศ เอเจ้นท์เรียนต่อ โปรโมชั่นเรียนภาษาในออสเตรเลีย อยากไปเรียนออสเตรเลีย

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

เรียนต่อ ป.ตรี ป.โท ที่ออสเตรเลีย ไม่ใช่เรื่องไกลเกินฝัน

2 ปีจบตรีที่สิงคโปร์…มีจริง!


EP.15 เรียนมหาวิทยาลัยออสเตรเลีย ในสิงคโปร์ เรียน 2 ปีจบ ป.ตรี มีจริงในโลก
Im Education พาไปคุยกับน้องบิ๊ก นักเรียนจิตวิทยา Bachelor of Art (Psychological Studies), James Cook University หรือ JCU (มหาวิทยาลัยรัฐบาลออสเตรเลีย) แคมปัส Singapore
🤟🏻 บิ๊ก enjoy กับชีวิตการเรียนกับเพื่อนสิงคโปร์ ที่มีทัศนคติ จริงจัง เต็มที่ ทั้งเรื่องเล่น และเรื่องเรียน
หลักสูตรปริญญาตรีที่ JCU Singapore เรียนแค่ 2 ปีจบ
หลักสูตรเดียวกัน ถ้าเรียนที่ออสเตรเลีย ต้องใช้เวลา 3 ปีจบ
ระหว่างเรียนที่สิงคโปร์ สามารถเลือกไปเรียนที่แคมปัสออสเตรเลียได้ 2 เทอม เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่หลากหลายมากขึ้น
🇸🇬 คิดการไกลแบบสิงคโปร์เป็นอย่างไร?
เรียนเร็ว จบเร็ว ทำงานเร็ว พัฒนาไว ก้าวไกลกว่าใครในๆ ในเอเชีย
James Cook University (JCU) Singapore
💰ประหยัดค่าเรียน
💰 ประหยัดค่าใช้จ่าย
👨‍💼 อาจารย์จากออสเตรเลีย
🏆 คุณภาพเท่าเทียมออสเตรเลีย
📄 จบ ม.5 เข้าเรียน University Foundation แทน ม.6 ได้เลย
ต่อด้วย ป.ตรี 2 ปีจบ
📘 เปิดสอนหลักสูตร :
ภาษาอังกฤษสำหรับเข้ามหาวิทยาลัย (English Language Preparatory Program)
ปรับพื้นฐานมหาวิทยาลัย (University Foundation)
Business, IT, Education, Environmental Science, Games Design, Psychology, Hospitality
https://www.jcu.edu.sg/
สนใจเรียนต่อต่างประเทศติดต่อ :
Im Education ผู้เชี่ยวชาญการศึกษาต่อต่างประเทศ
ปรึกษาฟรี! 👇
https://line.me/R/ti/p/@imeducation
🌐 www.imeducation.net
☎️ Phone : 0864882446 (Hatyai) 0994814400 (BKK)
www.facebook.com/imeducation.net
Line : @imeducation
imeducation
เรียนต่อต่างประเทศ

2 ปีจบตรีที่สิงคโปร์...มีจริง!

ย้ายประเทศ เรียนต่อที่อเมริกาทำยังไง?🇺🇸 ไม่ขอทุนรัฐบาลไทย ไม่ต้องกลับมาใช้ทุน! | mow!


สวัสดีค่าา วันนี้มาแชร์ประสบการณ์การย้ายประเทศไปเรียนต่อป.ตรีที่มหาวิทยาลัยในอเมริกาค่ะ โดยข้อมูลทั้งหมดนี้เรากับเพื่อนต่างชาติที่ยื่นมาเรียนที่มหาลัยเดียวกันช่วยกันรวบรวมกันมา ก็จะเป็นความเห็นและประสบการณ์จากหลายๆคน ที่เรารวมมาเป็นคนพูด ถ้ามีอะไรผิดพลาดขอโทษมา ณ​ ที่นี้ด้วยนะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับใครที่สนใจจะไปเรียนเหมือนกันค่า 🇺🇸

⚠️สำหรับใครที่สงสัยว่า ยื่นที่ไหนดี มหาลัยไหนให้ทุนเด็กต่างชาติบ้าง มหาลัยไหนไม่ให้ มหาลัยในเมกามีแบบไหนบ้าง วิธีเลือกมหาลัย พาร์ทสองมาแล้วนะคะ ไปดูกันได้เลยค่า 👉🏻 https://www.youtube.com/watch?v=dGR9XsnZTFE\u0026t=738s

⏰Timestamp:
ระบบการยื่นมหาวิทยาลัยในอเมริกา: 1:19

Timeline การยื่นเข้ามหาวิทยาลัยในอเมริกา + ศัพท์เกี่ยวกับการยื่นเข้าที่ควรรู้ : 3:10
Platformที่ใช้ในการยื่น: 5:04
ของทุกอย่างที่ใช้ในการยื่น: 5:34
👉🏻เกรด: 5:39
👉🏻SAT+ACT: 6:34
👉🏻TOEFL / IELTS: 8:52
👉🏻Extracurricular: 9:36
👉🏻Essays เรียงความ: 10:50
👉🏻Letter of Recommendation: 11:51
👉🏻Portfolio: 12:42
คำแนะนำสำหรับคนที่สนใจขอทุนตรงจากมหาลัยในอเมริกา: 13:27

สิ่งที่เราพูดถึงในคลิป
เว็บไซต์​ Common Application: https://www.commonapp.org/

ย้ายประเทศ เรียนต่อที่อเมริกาทำยังไง?🇺🇸 ไม่ขอทุนรัฐบาลไทย ไม่ต้องกลับมาใช้ทุน! | mow!

ซาได้ทุนไต้หวันเรียนฟรี 4 ปี!! สมัครทุนยังไง? ทำยังไงให้ได้ทุน? ประสบการณ์การยื่นทุน moe l Sasa’s


สวัสดีค่าทุกคนน~~
คลิปนี้ซาจะมาเล่าประสบการณ์การยื่นทุน moe ว่าสมัครยังไง? มีขั้นตอนอะไรบ้าง? ทำยังไงให้ได้ทุนไต้หวันไปเรียนฟรีแถมมีเงินเดือนแบบซา ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยยย~~
00:00 Introduction
01:20 ไต้หวันทุนมีอะไรบ้าง
02:36 ทุน moe ให้อะไรเราบ้าง
03:44 ขั้นตอนการยื่นทุน
13:54 สรุปขั้นตอนการยื่นทุน
14:32 ปิดคลิป
•My social media
Instagram: Sa_tnp
Facebook: Sasa’s
•Contact me for work
Email: [email protected]

•หนังสือ TOEIC ครูดิว
หนังสือเก็งศัพท์สอบToeic และ หนังสือเก็งโจทย์สอบ Toeic
ราคา: 2 เล่มลดราคาเหลือ 490 จาก 980
Code ส่วนลด: OPENSS100 (ลดอีก 100 เหลือ 390 บาท)
แจ้งโค้ดกับแอดมินหรือใส่ตรงโค้ดส่วนลดร้านค้าได้เลยค่ะ
ช่องทางสั่งซื้อ: Facebook และ Shopee
Facebook Page Krodew TOEIC: https://bit.ly/3gLvHvE
Shopee ร้าน OpenDurian: https://bit.ly/3wPJneM
•คอร์สเรียน TOEIC ครูดิว
ทดลองเรียนฟรี: https://bit.ly/3gWgFCf
สนใจสอบถามเพิ่มเติมเกียวกับคอร์ส
: https://bit.ly/3d5v5Po
โค้ดพิเศษ KDSASA รับส่วนลดคอร์สเรียน 500 บาท เมื่อสมัครคอร์สราคา 3,500 บาทขึ้นไป
Thank you for watching guys!

ซาได้ทุนไต้หวันเรียนฟรี 4 ปี!! สมัครทุนยังไง? ทำยังไงให้ได้ทุน? ประสบการณ์การยื่นทุน moe l Sasa’s

A day at Private Boarding School | 1วันในโรงเรียนประจำที่ต่างประเทศ🇳🇿


instagram : kimswizzled
https://www.instagram.com/kimswizzled/
facebook : kim swizzled
https://www.facebook.com/kim.swizzled
tiktok : kimisboredd
https://vm.tiktok.com/ZMd1cfWCs/
my cover playlist
https://youtube.com/playlist?list=PLMKWOAJm6xfJGQssZPwk_wJlb6X5La3
my vlog playlist
https://youtube.com/playlist?list=PLMKWOAJm6xdkkSvYSuZbLPNdXKrfRKgR
music in this video
https://youtu.be/xvJoV9iR20

A day at Private Boarding School | 1วันในโรงเรียนประจำที่ต่างประเทศ🇳🇿

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ เรียน ป ตรี ต่าง ประเทศ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *