Skip to content
Home » [NEW] สรุปการใช้ if clause พร้อมตัวอย่างประโยค | ฝน กํา ลัง จะ ตก ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] สรุปการใช้ if clause พร้อมตัวอย่างประโยค | ฝน กํา ลัง จะ ตก ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ฝน กํา ลัง จะ ตก ภาษา อังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

เรื่อง if clause ถือเป็นหัวข้อแกรมม่าภาษาอังกฤษที่มีรายละเอียดเยอะ หลายๆคนที่เรียนก็อาจจะยังรู้สึกสับสน จับหลักและวิธีการใช้ไม่ค่อยถูก

ถ้าเพื่อนๆเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น ก็ขอให้วางใจได้ เพราะในบทความนี้ ชิววี่ได้เรียบเรียงสรุปเนื้อหาการใช้ if clause โดยจะตอบทุกข้อสงสัย ทั้ง if clause คืออะไร มีกี่แบบ แต่ละแบบมีการใช้อย่างไร อีกทั้งยังมีตัวอย่างประโยค if clause พร้อมคำแปล มาให้เพื่อนๆได้เรียนรู้กันได้อย่างง่ายๆอีกด้วย

เอาล่ะ ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

Table of Contents

If clause คืออะไร

If clause (มีชื่อเรียกอื่นว่า conditional sentences หรือ conditional clauses) คือรูปแบบประโยคที่ใช้บอกว่า ถ้ามีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น (เงื่อนไข) อีกสิ่งก็จะเกิดขึ้นตาม (ผลลัพธ์)

การใช้ if clause เราจะต้องใช้คู่กับ main clause (ประโยคหลัก) โดยที่ if clause จะเป็นตัวบอกเงื่อนไข ซึ่งจะขึ้นต้นด้วย if ส่วน main clause จะเป็นตัวบอกผลลัพธ์ อย่างเช่น

If it rains, I will stay home.
ถ้าฝนตก ฉันจะอยู่บ้าน

จากตัวอย่างประโยคนี้
If clause ก็คือ If it rains (เงื่อนไข)
Main clause ก็คือ I will stay home. (ผลลัพธ์)

หลักการใช้ if clause

เรามาดูหลักการใช้ if clause ทั้งการใช้คอมม่า และการใช้ if clause ทั้ง 4 แบบกันเลย (บางที่อาจพูดถึงแค่ 3 แบบ โดยจะตัดแบบที่ 0 หรือที่เรียกว่า type 0 ออก)

ตำแหน่งกับการใช้คอมม่า

If clause และ main clause สามารถเขียนสลับที่กันได้ ซึ่งถ้าเราขึ้นต้นประโยคด้วย if clause เราจะต้องใช้คอมม่าคั่นระหว่าง if clause และ main clause

If you don’t hurry, you will be late for school.
ถ้าคุณไม่รีบ คุณจะไปโรงเรียนสาย

แต่ถ้าเราขึ้นต้นประโยคด้วย main clause เราจะไม่ต้องใช้คอมม่า

You will be late for school if you don’t hurry.
คุณจะไปโรงเรียนสายถ้าคุณไม่รีบ

การใช้ if clause แบบที่ 0

If clause แบบที่ 0 (เรียกอีกอย่างว่า the zero conditional หรือ type 0) เราจะใช้กับ

  • สิ่งที่เป็นจริงเสมอ (ถ้าน้ำแข็งละลาย มันจะกลายเป็นน้ำ – ความจริงตามธรรมชาติ)
  • สิ่งที่เราทำเป็นปกติ (ถ้าฉันไปชายหาด ฉันจะใช้ครีมกันแดด – ฉันใช้ครีมกันแดดเสมอ เมื่อฉันไปชายหาด)

โดยจะเป็นการพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นโดยทั่วไป ไม่ใช่เหตุการณ์เฉพาะ

If clause แบบที่ 0If clauseMain clauseTense ที่ใช้Present simplePresent simpleตัวอย่างประโยคIf ice melts,
ถ้าน้ำแข็งละลายit turns into water.
มันจะกลายเป็นน้ำIf I go to the beach,
ถ้าฉันไปชายหาดI use sunscreen.
ฉันจะใช้ครีมกันแดดIf you don’t exercise,
ถ้าคุณไม่ออกกำลังกายyour muscle mass decreases.
มวลกล้ามเนื้อของคุณก็ลดลง

การใช้ if clause แบบที่ 0 เราสามารถใช้ when แทน if ได้ โดยที่ความหมายไม่เปลี่ยน อย่างเช่น If ice melts, it turns into water. -> When ice melts, it turns into water.

การใช้ if clause แบบที่ 1

If clause แบบที่ 1 (the first conditional) เราจะใช้กับเหตุการณ์สมมติที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต

ตัวอย่างเช่น ถ้าฝนตก ฉันจะอยู่บ้าน – มีความเป็นไปได้สูงว่าอนาคตฝนจะตก ซึ่งถ้าฝนตก ฉันก็จะอยู่บ้าน

If clause แบบที่ 1If clauseMain clauseTense ที่ใช้Present simplewill/won’t + verbตัวอย่างประโยคIf it rains,
ถ้าฝนตกI will stay home.
ฉันจะอยู่บ้านIf you eat too much,
ถ้าคุณกินมากเกินไปyou will gain weight.
คุณจะน้ำหนักขึ้นIf the traffic is bad,
ถ้ารถติดI won’t be there in time.
ฉันจะไปถึงที่นู่นไม่ทันเวลา

การใช้ if clause แบบที่ 2

If clause แบบที่ 2 (the second conditional) เราจะใช้กับเหตุการณ์สมมติในปัจจุบันหรืออนาคตที่มีโอกาสเป็นไปได้น้อย

ตัวอย่างเช่น ถ้าฉันถูกหวย ฉันจะเที่ยวรอบโลก – ถ้าฉันถูกหวยเป็นเหตุการณ์สมมติที่มีโอกาสเป็นไปได้น้อย แต่ถ้าฉันถูกหวยตอนนี้หรือในอนาคต ฉันก็จะไปเที่ยวรอบโลก

If clause แบบที่ 2If clauseMain clauseTense ที่ใช้Past simplewould/wouldn’t + verbตัวอย่างประโยคIf I won the lottery,
ถ้าฉันถูกหวยI would travel around the world.
ฉันจะเที่ยวรอบโลกIf I owned a cat,
ถ้าฉันมีแมวI would name it Chewie.
ฉันจะตั้งชื่อมันว่าชิววี่If I had a car,
ถ้าฉันมีรถI wouldn’t take the bus.
ฉันจะไม่ขึ้นรถเมล์

การใช้ if clause แบบที่ 3

If clause แบบที่ 3 (the third conditional) เราจะใช้กับเหตุการณ์สมมติในอดีต ซึ่งไม่มีทางเป็นจริงได้ เพราะอดีตเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว

ตัวอย่างเช่น ถ้าตอนนั้นฉันตั้งใจเรียน ฉันก็คงสอบผ่าน – ถ้าในอดีตฉันตั้งใจเรียน ตอนนั้นฉันก็คงจะสอบผ่าน ซึ่งในความเป็นจริงนั้นฉันสอบไม่ผ่าน เพราะตอนนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจเรียน

If clause แบบที่ 3If clauseMain clauseTense ที่ใช้Past perfectwould have/wouldn’t have + verb ช่อง 3ตัวอย่างประโยคIf I had studied hard,
ถ้าตอนนั้นฉันตั้งใจเรียนI would have passed the exam.
ฉันก็คงสอบผ่านIf I hadn’t been sick,
ถ้าตอนนั้นฉันไม่ได้ป่วยI would have gone to the cinema.
ฉันก็คงจะไปโรงหนังIf he had left earlier,
ถ้าตอนนั้นเขาออกมาเร็วกว่านี้he would have arrived on time.
เขาก็คงมาถึงตรงเวลา

การใช้ if clause แบบ mixed type

นอกจากการใช้ if clause ทั้ง 4 แบบแล้ว เรายังสามารถใช้ if clause แบบผสมกันระหว่างแบบที่ 2 และ 3 ได้อีกด้วย ซึ่งก็คือการใช้กับเหตุการณ์สมมติในอดีตที่ไม่เป็นจริง ที่มีผลมายังปัจจุบัน (ต่างจากแบบที่ 3 ที่มีผลเฉพาะกับในอดีต)

ตัวอย่างเช่น ถ้าฉันได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ฉันก็คงจะมีหุ่นดี – การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอในตอนนั้น จะทำให้ฉันมีหุ่นดีในตอนนี้ แต่ในความเป็นจริงนั้นฉันไม่ได้ออก

If clause แบบ mixed typeIf clauseMain clauseTense ที่ใช้Past perfectwould/wouldn’t + verbตัวอย่างประโยคIf I had exercised regularly,
ถ้าฉันได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอI would have a great body.
ฉันก็คงจะมีหุ่นดีIf I hadn’t met John,
ถ้าตอนนั้นฉันไม่ได้พบจอห์นI wouldn’t be happy now.
ฉันก็คงจะไม่มีความสุขในตอนนี้If he had arrived on time,
ถ้าเขาได้มาถึงตรงเวลาhis boss wouldn’t be angry.
หัวหน้าเขาก็คงไม่โมโห

สรุปการใช้ if clause

  • If clause คือประโยคส่วนที่เป็นเงื่อนไข ซึ่งจะขึ้นต้นด้วย if (If it rains, …) ส่วน main clause คือประโยคส่วนที่เป็นผลลัพธ์ (…, I will stay home.)
  • การขึ้นต้นด้วย if clause เราจะต้องใช้คอมม่า (If it rains, I will stay home.) ส่วนการขึ้นต้นด้วย main clause เราจะไม่ต้องใช้คอมม่า (I will stay home if it rains.)
  • If clause แบ่งหลักๆได้เป็น 4 แบบ
    • If clause แบบที่ 0 จะใช้กับสิ่งที่เป็นจริงเสมอ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติ (If ice melts, it turns into water.)
    • If clause แบบที่ 1 จะใช้กับเหตุการณ์สมมติที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต (If it rains, I will stay home.)
    • If clause แบบที่ 2 จะใช้กับเหตุการณ์สมมติในปัจจุบันหรืออนาคตที่มีโอกาสเป็นไปได้น้อย (If I won the lottery, I would travel around the world.)
    • If clause แบบที่ 3 จะใช้กับเหตุการณ์สมมติในอดีต ซึ่งไม่มีทางเป็นจริงได้ (If I had studied hard, I would have passed the exam.)
    • นอกจาก if clause ทั้ง 4 แบบแล้ว เรายังสามารถใช้แบบผสม (mixed type) ซึ่งจะใช้กับเหตุการณ์สมมติในอดีตที่ไม่เป็นจริง ที่มีผลมายังปัจจุบัน (If I had exercised regularly, I would have a great body.)

เป็นยังไงบ้างครับกับสรุปวิธีการใช้ if clause ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะครับ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time

[NEW] สรุปการใช้ if clause พร้อมตัวอย่างประโยค | ฝน กํา ลัง จะ ตก ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

เรื่อง if clause ถือเป็นหัวข้อแกรมม่าภาษาอังกฤษที่มีรายละเอียดเยอะ หลายๆคนที่เรียนก็อาจจะยังรู้สึกสับสน จับหลักและวิธีการใช้ไม่ค่อยถูก

ถ้าเพื่อนๆเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้น ก็ขอให้วางใจได้ เพราะในบทความนี้ ชิววี่ได้เรียบเรียงสรุปเนื้อหาการใช้ if clause โดยจะตอบทุกข้อสงสัย ทั้ง if clause คืออะไร มีกี่แบบ แต่ละแบบมีการใช้อย่างไร อีกทั้งยังมีตัวอย่างประโยค if clause พร้อมคำแปล มาให้เพื่อนๆได้เรียนรู้กันได้อย่างง่ายๆอีกด้วย

เอาล่ะ ถ้าเพื่อนๆพร้อมแล้ว เราไปดูกันเลย

If clause คืออะไร

If clause (มีชื่อเรียกอื่นว่า conditional sentences หรือ conditional clauses) คือรูปแบบประโยคที่ใช้บอกว่า ถ้ามีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น (เงื่อนไข) อีกสิ่งก็จะเกิดขึ้นตาม (ผลลัพธ์)

การใช้ if clause เราจะต้องใช้คู่กับ main clause (ประโยคหลัก) โดยที่ if clause จะเป็นตัวบอกเงื่อนไข ซึ่งจะขึ้นต้นด้วย if ส่วน main clause จะเป็นตัวบอกผลลัพธ์ อย่างเช่น

If it rains, I will stay home.
ถ้าฝนตก ฉันจะอยู่บ้าน

จากตัวอย่างประโยคนี้
If clause ก็คือ If it rains (เงื่อนไข)
Main clause ก็คือ I will stay home. (ผลลัพธ์)

หลักการใช้ if clause

เรามาดูหลักการใช้ if clause ทั้งการใช้คอมม่า และการใช้ if clause ทั้ง 4 แบบกันเลย (บางที่อาจพูดถึงแค่ 3 แบบ โดยจะตัดแบบที่ 0 หรือที่เรียกว่า type 0 ออก)

ตำแหน่งกับการใช้คอมม่า

If clause และ main clause สามารถเขียนสลับที่กันได้ ซึ่งถ้าเราขึ้นต้นประโยคด้วย if clause เราจะต้องใช้คอมม่าคั่นระหว่าง if clause และ main clause

If you don’t hurry, you will be late for school.
ถ้าคุณไม่รีบ คุณจะไปโรงเรียนสาย

แต่ถ้าเราขึ้นต้นประโยคด้วย main clause เราจะไม่ต้องใช้คอมม่า

You will be late for school if you don’t hurry.
คุณจะไปโรงเรียนสายถ้าคุณไม่รีบ

การใช้ if clause แบบที่ 0

If clause แบบที่ 0 (เรียกอีกอย่างว่า the zero conditional หรือ type 0) เราจะใช้กับ

  • สิ่งที่เป็นจริงเสมอ (ถ้าน้ำแข็งละลาย มันจะกลายเป็นน้ำ – ความจริงตามธรรมชาติ)
  • สิ่งที่เราทำเป็นปกติ (ถ้าฉันไปชายหาด ฉันจะใช้ครีมกันแดด – ฉันใช้ครีมกันแดดเสมอ เมื่อฉันไปชายหาด)

โดยจะเป็นการพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นโดยทั่วไป ไม่ใช่เหตุการณ์เฉพาะ

If clause แบบที่ 0If clauseMain clauseTense ที่ใช้Present simplePresent simpleตัวอย่างประโยคIf ice melts,
ถ้าน้ำแข็งละลายit turns into water.
มันจะกลายเป็นน้ำIf I go to the beach,
ถ้าฉันไปชายหาดI use sunscreen.
ฉันจะใช้ครีมกันแดดIf you don’t exercise,
ถ้าคุณไม่ออกกำลังกายyour muscle mass decreases.
มวลกล้ามเนื้อของคุณก็ลดลง

การใช้ if clause แบบที่ 0 เราสามารถใช้ when แทน if ได้ โดยที่ความหมายไม่เปลี่ยน อย่างเช่น If ice melts, it turns into water. -> When ice melts, it turns into water.

การใช้ if clause แบบที่ 1

If clause แบบที่ 1 (the first conditional) เราจะใช้กับเหตุการณ์สมมติที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต

ตัวอย่างเช่น ถ้าฝนตก ฉันจะอยู่บ้าน – มีความเป็นไปได้สูงว่าอนาคตฝนจะตก ซึ่งถ้าฝนตก ฉันก็จะอยู่บ้าน

If clause แบบที่ 1If clauseMain clauseTense ที่ใช้Present simplewill/won’t + verbตัวอย่างประโยคIf it rains,
ถ้าฝนตกI will stay home.
ฉันจะอยู่บ้านIf you eat too much,
ถ้าคุณกินมากเกินไปyou will gain weight.
คุณจะน้ำหนักขึ้นIf the traffic is bad,
ถ้ารถติดI won’t be there in time.
ฉันจะไปถึงที่นู่นไม่ทันเวลา

การใช้ if clause แบบที่ 2

If clause แบบที่ 2 (the second conditional) เราจะใช้กับเหตุการณ์สมมติในปัจจุบันหรืออนาคตที่มีโอกาสเป็นไปได้น้อย

ตัวอย่างเช่น ถ้าฉันถูกหวย ฉันจะเที่ยวรอบโลก – ถ้าฉันถูกหวยเป็นเหตุการณ์สมมติที่มีโอกาสเป็นไปได้น้อย แต่ถ้าฉันถูกหวยตอนนี้หรือในอนาคต ฉันก็จะไปเที่ยวรอบโลก

If clause แบบที่ 2If clauseMain clauseTense ที่ใช้Past simplewould/wouldn’t + verbตัวอย่างประโยคIf I won the lottery,
ถ้าฉันถูกหวยI would travel around the world.
ฉันจะเที่ยวรอบโลกIf I owned a cat,
ถ้าฉันมีแมวI would name it Chewie.
ฉันจะตั้งชื่อมันว่าชิววี่If I had a car,
ถ้าฉันมีรถI wouldn’t take the bus.
ฉันจะไม่ขึ้นรถเมล์

การใช้ if clause แบบที่ 3

If clause แบบที่ 3 (the third conditional) เราจะใช้กับเหตุการณ์สมมติในอดีต ซึ่งไม่มีทางเป็นจริงได้ เพราะอดีตเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว

ตัวอย่างเช่น ถ้าตอนนั้นฉันตั้งใจเรียน ฉันก็คงสอบผ่าน – ถ้าในอดีตฉันตั้งใจเรียน ตอนนั้นฉันก็คงจะสอบผ่าน ซึ่งในความเป็นจริงนั้นฉันสอบไม่ผ่าน เพราะตอนนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจเรียน

If clause แบบที่ 3If clauseMain clauseTense ที่ใช้Past perfectwould have/wouldn’t have + verb ช่อง 3ตัวอย่างประโยคIf I had studied hard,
ถ้าตอนนั้นฉันตั้งใจเรียนI would have passed the exam.
ฉันก็คงสอบผ่านIf I hadn’t been sick,
ถ้าตอนนั้นฉันไม่ได้ป่วยI would have gone to the cinema.
ฉันก็คงจะไปโรงหนังIf he had left earlier,
ถ้าตอนนั้นเขาออกมาเร็วกว่านี้he would have arrived on time.
เขาก็คงมาถึงตรงเวลา

การใช้ if clause แบบ mixed type

นอกจากการใช้ if clause ทั้ง 4 แบบแล้ว เรายังสามารถใช้ if clause แบบผสมกันระหว่างแบบที่ 2 และ 3 ได้อีกด้วย ซึ่งก็คือการใช้กับเหตุการณ์สมมติในอดีตที่ไม่เป็นจริง ที่มีผลมายังปัจจุบัน (ต่างจากแบบที่ 3 ที่มีผลเฉพาะกับในอดีต)

ตัวอย่างเช่น ถ้าฉันได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ฉันก็คงจะมีหุ่นดี – การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอในตอนนั้น จะทำให้ฉันมีหุ่นดีในตอนนี้ แต่ในความเป็นจริงนั้นฉันไม่ได้ออก

If clause แบบ mixed typeIf clauseMain clauseTense ที่ใช้Past perfectwould/wouldn’t + verbตัวอย่างประโยคIf I had exercised regularly,
ถ้าฉันได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอI would have a great body.
ฉันก็คงจะมีหุ่นดีIf I hadn’t met John,
ถ้าตอนนั้นฉันไม่ได้พบจอห์นI wouldn’t be happy now.
ฉันก็คงจะไม่มีความสุขในตอนนี้If he had arrived on time,
ถ้าเขาได้มาถึงตรงเวลาhis boss wouldn’t be angry.
หัวหน้าเขาก็คงไม่โมโห

สรุปการใช้ if clause

  • If clause คือประโยคส่วนที่เป็นเงื่อนไข ซึ่งจะขึ้นต้นด้วย if (If it rains, …) ส่วน main clause คือประโยคส่วนที่เป็นผลลัพธ์ (…, I will stay home.)
  • การขึ้นต้นด้วย if clause เราจะต้องใช้คอมม่า (If it rains, I will stay home.) ส่วนการขึ้นต้นด้วย main clause เราจะไม่ต้องใช้คอมม่า (I will stay home if it rains.)
  • If clause แบ่งหลักๆได้เป็น 4 แบบ
    • If clause แบบที่ 0 จะใช้กับสิ่งที่เป็นจริงเสมอ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติ (If ice melts, it turns into water.)
    • If clause แบบที่ 1 จะใช้กับเหตุการณ์สมมติที่น่าจะเกิดขึ้นในอนาคต (If it rains, I will stay home.)
    • If clause แบบที่ 2 จะใช้กับเหตุการณ์สมมติในปัจจุบันหรืออนาคตที่มีโอกาสเป็นไปได้น้อย (If I won the lottery, I would travel around the world.)
    • If clause แบบที่ 3 จะใช้กับเหตุการณ์สมมติในอดีต ซึ่งไม่มีทางเป็นจริงได้ (If I had studied hard, I would have passed the exam.)
    • นอกจาก if clause ทั้ง 4 แบบแล้ว เรายังสามารถใช้แบบผสม (mixed type) ซึ่งจะใช้กับเหตุการณ์สมมติในอดีตที่ไม่เป็นจริง ที่มีผลมายังปัจจุบัน (If I had exercised regularly, I would have a great body.)

เป็นยังไงบ้างครับกับสรุปวิธีการใช้ if clause ทีนี้เพื่อนๆก็คงจะเข้าใจและสามารถนำไปใช้ได้ถูกต้องมากขึ้นแล้วนะครับ

อย่าลืมนะครับ ภาษาอังกฤษยิ่งเรียนรู้ ยิ่งฝึก ก็ยิ่งเก่ง สำหรับบทความนี้ ชิววี่ต้องขอตัวลาไปก่อน See you next time


Idioms for heavy rain ฝนตกหนัก ภาษาอังกฤษพูดว่าอะไร


rain idioms heavy rain idioms English idioms learn English with idioms free English practice English ฟรีภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง ภาษาอังกฤษก่อนนอน ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Idioms for heavy rain ฝนตกหนัก ภาษาอังกฤษพูดว่าอะไร

ท่วมแล้ว!! พายุลูกเล็กทำฝนตกหนัก อีสาน กลาง ตวอ. เตรียมรับมือฝนตกต่อ พยากรณ์อากาศวันนี้ 13-21 พ.ย.


พยากรณ์อากาศวันนี้ แมวสุขสันต์ทันข่าว กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศวันนี้ล่าสุด สภาพอากาศวันนี้ ฝนตกหนักพยากรณ์อากาศภาคอีสาน พยากรณ์อากาศภาคเหนือ พยากรณ์อากาศภาคกลาง พยากรณ์อากาศภาคใต้ พยากรณ์อากาศภาคตะวันออก ฤดูหนาว น้ำหลาก ฝนกลับมาตกอีกรอบ
แมวสุขสันต์ทันข่าว ขอขอบคุณแฟนข่าวทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจชมพยากรณ์อากาศวันนี้
ติดตามเพจได้ที่ https://www.facebook.com/weatherforecastnews
ติดตามยูทูป https://www.youtube.com/channel/UCQaZGYW25YSdWStLX6c0Ug

ท่วมแล้ว!! พายุลูกเล็กทำฝนตกหนัก อีสาน กลาง ตวอ. เตรียมรับมือฝนตกต่อ พยากรณ์อากาศวันนี้ 13-21 พ.ย.

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสภาพอากาศและฤดูกาล l ศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันที่ใช้บ่อยๆ


เรียนรู้วิธีตั้งคำถามว่า \”สภาพอากาศเป็นอย่างไร\” What’s the weather like? หรือ How’s the weather? คำศัพท์ภาษาอังกฤษที่เกี่ยวข้องกับสภาพดิน ฟ้า อากาศ ฤดูกาล

คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสภาพอากาศและฤดูกาล l ศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันที่ใช้บ่อยๆ

เหนือ อีสาน กลาง ออก ฝนตกวันไหน มีจังหวัดไหนบ้าง ใต้ยังมีฝนตกหนักต่อเนื่อง พยากรณ์อากาศ14-18 พ.ย.


พยากรณ์อากาศวันนี้ ฤดูหนาว พยากรณ์อากาศวันพรุ่งนี้ ฝนตกหนัก พายุลมแรง ลมกระโชกแรง พยากรณ์อากาศ อัพเดทอากาศ อัพเดทพายุ หอกระจายข่าวชาวบ้าน หอกระจายข่าว ฝนฟ้าอากาศตกหนักมากวันนี้พยากรณ์มรสุมกำลังแรงพายุโซนร้อนฝนฟ้าคะนองเตือนภัยพายุลมแรงพยากรณ์อากาศ7วันพายุไต้ฝุ่นฤดูฝน

เหนือ อีสาน กลาง ออก ฝนตกวันไหน มีจังหวัดไหนบ้าง ใต้ยังมีฝนตกหนักต่อเนื่อง พยากรณ์อากาศ14-18 พ.ย.

ถอย – Gliss | Kanomroo x ZaadOat Cover By | Powered by JOOX


ถอย Gliss | Kanomroo x ZaadOat Cover By | Powered by JOOX
ไปฟังกันได้บน https://joox.page.link/LNPBFd
Original by
ถอย Gliss
Lead Vocal : Kanomroo
IG : Kanomruu
facebook : Kananut Wattanakaruna
Producer : ZaadOat
Guitar : ZaadOat
Arrange : ZaadOat
Mix and Mastering : ZaadOat
Facebook : Thanakorn ZaadOat
IG : zaadoat.t
JOOX
JOOXKaraoke JOOXTH JOOXTheRemake

ถอย - Gliss | Kanomroo x ZaadOat Cover By | Powered by JOOX

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ฝน กํา ลัง จะ ตก ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *