Skip to content
Home » [NEW] สมัครงานยังไงให้ได้งาน (เวอร์ชั่นเด็กนักเรียนไทยในออสเตรเลีย) | หา งาน ใน ออสเตรเลีย – NATAVIGUIDES

[NEW] สมัครงานยังไงให้ได้งาน (เวอร์ชั่นเด็กนักเรียนไทยในออสเตรเลีย) | หา งาน ใน ออสเตรเลีย – NATAVIGUIDES

หา งาน ใน ออสเตรเลีย: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Table of Contents

สมัครงานยังไงให้ได้งาน (versionเด็กไทยในออสเตรเลีย)

 

เอ้าขอเสียงคนที่เคยไปสัมภาษณ์งานมาแล้วแต่ที่ทำงานไม่ติดต่อกลับก็ขอให้ยกมือขึ้น หรือหนักกว่าเลย คือไปสมัครงานแล้วที่ทำงานไม่ติดต่อกลับมาจ้า เราเชื่อว่าหลายๆ คนคงต้องเคยตกอยู่ในสถานการณ์แบบเราอยู่บ้าง วันนี้เราจะมาให้ทิปง่ายๆ ที่อยากให้เพื่อนๆ เอาไปลองใช้ดูนะคะ

 

ก่อนอื่นเลยสโคปของบทความนี้เหมาะสำหรับเด็กไทยในต่างแดนที่กำลังหางาน Part-Time หรือ Casual อยู่ เนื่องจากจขกท.เองยังเรียนไม่จบเลยไม่สามารถให้คำแนะนำในส่วนของงาน full time ได้ แล้วอีกปัจจัยสำคัญเลยคือลีมิตชั่วโมงทำงานเนืองมาจากวีซ่านักเรียนที่พวกเราถือกันอยู่นี้เอง ตอนนี้จขกท.เองกำลังทำงานเป็น receptionist อยู่ที่โรงแรมแล้วก็กำลังศึกษาต่อไปด้วย ก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ แคชเชียร์ และkitchen hand ให้กับร้านอาหารไทย แล้วก็ร้านอาหารญีปุ่นมาก่อน ทิปที่จะมาแนะนำนั้นมาจากประสบการณ์และความรู้ของจขกท.เอง ถ้าผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัยณที่นี้ด้วยค่า

 

ขอแบ่งทิปเป็นสองสเต็ป สเต็ปแรกคือก่อนสมัครงาน และสเต็ปที่สองจะเป็นหลังสมัครงาน

มาเริ่มกันที่สเต็ปแรกกันก่อนเลยค่ะ

อย่างแรกเลยก่อนที่จะไปสมัครงาน เพื่อนๆ ต้องทำความเข้าใจกับตัวเองก่อนว่าเราอยากที่จะทำงานไปเพื่ออะไร ย้กตัวอย่างเช่น

 

  • บางคนอยากทำงานเพราะอยากได้รายได้เสริม
  • บางคนอยากหาประสบการณ์ในต่างแดนเพื่อย้กระดับเรซูเม่
  • บางคนอยากค้นหาตัวเอง อยากลองทำงานในสายงานที่กำลังเรียนอยู่

 

ถ้าเราวาดภาพในหัวไว้อย่างชัดเจน การหางานของเราก็จะง่ายขึ้น เพราะเราสามรถเสิร์ชงานโดยเจาะจงตำแหน่งหรือแผนกของงานที่เราอยากจะทำได้ เชื่อจขกท.เถอะค่ะว่ามันช่วยเซฟเวลาของเราได้เยอะเลย ขอย้กตัวอย่างคลาสิคเลยสำหรับคนที่อยากได้งานเด็กเสิร์ฟในสายhospitality ให้ใส่คำเสิร์ชลงไปว่า “waiter” หรือ “F&B (food and beverage) attendant” และอีกอย่างคือเราสามารถเขียน Objective ในเรซูเม่เราให้ตรงทาร์เกตสายงานได้ เพราะฉะนั้นเวลาบริษัทหรือนายจ้างอ่านเขาก็จะรู้ว่าความต้องการของเรามันตรงกับของเขาไหม

 

อีกอันหนึงเลยคือสำหรับคนที่ walk in เข้าไปสมัครงาน ส่วนใหญ่ผู้จัดการหรือในใบสมัครจะถามเราว่า “what position are you looking for (คุณกำลังemployerหางานในตำแหน่งอะไร)” ถ้าเราสามารถตอบแบบเจาะจงตำแหน่งหรือแผนกงานที่เราอยากได้ แล้วตำแหน่งนั้นกำลังว่างพอดี มันก็จะเพิ่มโอกาศในการโดนเรียกไปสัมภาษณ์ได้มากขึ้น แต่ถ้าเราตอบแบบกว้างๆ แบบอะไรก็ได้ค่ะที่ว่างอยู่ บางทีมันก็จะดูเหมือนว่าเราไม่มี passionพอที่จะทำในสายๆ งานนั้น

 

อย่างที่สองคือพอหางานที่กำลังเปิดรับสมัครอยู่ได้แล้ว เราก็จะมาดู description หรือคำอธิบายของงาน แล้วก็เอามาปรับเรซูเม่ของเราให้ตรงกับคุณสมบัติที่เขาวางไว้ ในกรณีที่เขาไม่ให้ descriptionมา เราก็ใช้เพื่อนซี้อย่างอากู๋กูเกิลของเราเลยค่ะ ฮ่าๆๆ

 

อย่างที่สามคือหลังจากที่เราส่งใบสมัครออนไลน์ไปแล้ว ถ้ามันไม่เหลือบ่าไปกว่าแรง จขกท.แนะนำให้เพื่อนๆ เดิน walk in เข้าไปยื่นเรซูเม่อีกรอบ เพราะบางทีพอเวลาเราสมัครออนไลน์บางบริษัทจะใช้โปรแกรมค้นหาคำที่ตรงกับคุณสมบัติที่เขาตั้งไว้ ถ้าบังเอิญเรซูเม่เราดันมีคำที่ตรงกับคุณสมบัติน้อยกว่าผู้สมัครคนอื่นๆ เราก็เสียโอกาศที่จะติด short listได้ แหละอีกอย่างคือข้อเสียของการสัครงานออนไลน์ เราจะไม่มีโอกาศที่จะสร้างความประทับใจครั้งแรกได้ ซึ่งความประทับใจครั้งแรกสามารถทำให้คุณโดนเรียกไปสัมภาษณ์งานได้ จากประสบการณ์ตรงของจขกท. 90%ที่จขกท. โดนเรียกไปสัมภาษณ์งานได้มาจากการwalk inทั้งนั้น เพราะฉนั้นเชื่อเถอะค่ะว่า first impressionนั้นสัมคัญมากๆ

 

อย่างที่สี่ ทิปของการwalk inคือ:

 

1. การแต่งกายของคุณจะต้องดี เพราะอีกนั้นแหละ first impressionมันสำคัญ มั้นดูเป็นข้อที่ใช้คอมม่อนเซ้นซ์มากที่สุด แต่หลายคนก็มองข้ามไปเช่นกัน เชื่อเถอะค่ะว่าที่ทำงานใหม่ของคุณเขาจะให้คะแนนคุณตั้งแต่วินาทีที่คุณเดินเข้าไปสมัครงาน ไม่ใช่แค่ตอนที่คุณไปสัมภาษณ์งานเท่านั้น อย่างของจขกท. ผู้จัดการบอกเสมอว่าถ้ามีคนมาสมัครงาน ถ้าเขาแต่งตัวไม่ดี หรือเธออ่านเรซูเม่เขาแล้วมันไม่ผ่านให้เอาทิ้งไปได้เลย ไม่ต้องเอามาให้เขา ซึ่งมันดูโหดร้ายมากค่ะ

แต่มันมีอยู่จริงคนที่มาสมัครงานแล้วใส่กางเกงขาสั้นมา หรือใส่กางเกงยีนมา ซึ่งขอบอกก่อนว่าบางที่เขาไม่ถือถ้าคุณใส่กางเกงยีนขายาวมาสมัคร แต่ห้ามขาดเด็ดขาดนะคะ!! เพราะยังอยู่ในคอนเซ็ป smart casual แต่ถ้าคุณอยากสมัครงานบริษัท หรือร้านอาหารที่มันไม่ใช่ casual dinning ขอแนะนำว่าอย่าใส่กางเกงยีนไปเลยค่ะ รองเท้าก็เช่นกัน ควรใส่รองเท้าหัวปิดที่ไม่ใช่รองเท้าผ้าใบ

 

2. ต้องพกความมั่นใจไปเกินร้อย ไม่ต้องรอให้ผนักงานเข้ามาทัก เราเดินเข้าไปทักเขาก่อนเลย ให้ใช้ประโยคง่ายๆอย่าง “Good Morning/Afternoon, how are you today?” แล้วก็แถมไปด้วยรอยยิ้มสยามของเรา ฮ่าๆๆ หลังจากที่เค้าตอบแล้วก็ถามเรากลับ ให้ยิงคำถามกลับไปว่า “I’m looking for a ____ (ให้ใส่ชื่อตำแหน่งงานเข้าไป) position, is there any position available at the moment” หรือ “I’m looking for a ____ (ให้ใส่ชื่อตำแหน่งงานเข้าไป) position, are you looking for someone at the moment” ถึงเราจะเห็นมาจากออนไลน์ว่าเค้ารับสมัครงาน แต่พอเราไปถึงที่นั้นก็ต้องถามไปแบบนี้อีกอยู่ดี

บางที่ก็จะตอบกลับมาว่าเรารับสมัครจากทางเว็ปเซ็ตเท่านั้น เราก็ถามกลับเป็นมารายาทว่าเว็ปไซต์อะไร แล้วจดลงไปต่อหน้าเขา เขาจะได้เห็นถึงความกระตือรือร้นของเรา หรือถ้ามันไม่ยุ่งมาก ให้ลองถามหาผู้จัดการดู ให้พูดไปว่า “Is your manager available? I would like to discuss about any available job opportunity” แต่ถ้าจะใช้ข้อหลัง ขอให้คุณเตรียมตัวและทำการบ้านไปอย่างดี เพราะบางทีผู้จัดการอาจจะสัมภาษณ์ตรงนั้นเลยก็ได้ พอเสร็จทุกอย่างแล้ว ให้ตบท้ายด้วยประโยคนี้ “Have a nice day” สั้นๆง่ายๆ

 

3. ต้องเตรียมตัวไปอย่างดี จขกท.โดนเทรนมาให้ถามคำถามง่ายๆ จากคนที่มาสมัครงานในโรงแรมว่า “What position are you looking for? (คุณสนใจที่จะทำงานตำแหน่งอะไร?)” หรือ “What’s your availability? (คุณว่างช่วงไหนบ้าง)” แหละอีกอย่างคือในกรณีที่เขาให้เราสัมภาษณ์งานณตอนนั้น ให้เราทำการบ้านไปจากบ้านก่อน

ถ้าเป็นร้านอาหาร ก็ลองเข้าไปดูเว็ปไซต์หรือเมนูดูว่าเปิดกี่โมง มีกี่ช่วง (Breakfast/Lunch/Dinner) หรือเค้าอนุญาติ BYO (bring you own)ไหม เราก็จะสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ลงไปตอนสัมภาษณ์งานได้ มันก็จะทำให้เราดูน่าสนใจและแลดูว่าเราอยากที่จะทำงานที่ๆนี้จริงๆ

 

มาต่อกันที่สเต็ปที่สอง เราควรจะทำยังไงหลังจากที่เราไปสมัครงานแล้ว

อย่างแรกเลยหลังจากที่เราสมัครงานแล้ว ถ้าเค้าไม่ติดต่อกลับมาภายใน1-2อาทิต หรือถ้ามันเลย deadline มาแล้วแต่ไม่ได้ยินคำตอบ ให้คุณ follow up โดยการส่งอีเมล์หรือโทรไปถามประมานว่า ดิฉันเพิ่งสมัครงานไปเมื่อ1-2อาทิตก่อน ไม่ทราบว่าตำแหน่งนี้ยังว่างอยู่ไหม เพราะว่าดิฉันสนใจและเชื่อว่าดิฉันเหมาะสมกับตำแหน่งนี้มาก แล้วก็เติมไปว่า “I’m looking forward to discuss this further with you” การที่เราติดตามผลสมัครงานมันทำให้เราดูกระตือรือร้นและตั้งใจที่จะได้ตำแหน่งนี้มากจริงๆ

 

อย่างที่สองคือในกรณีที่ไปสัมภาษณ์งาน แต่เขายังไม่ติดต่อกลับมา ให้ใช้เทคนิคเดี่ยวกับข้างบนคือ follow upค่ะ แต่คราวนี้ให้เพิ่มเข้าไปว่า ถ้าเรามีข้อควรปรับปรุงขอให้เขาบอกเรา เพื่อที่เราจะเอาไปพัฒนาและปรับปรุงตัวเอง ในส่วนของจขกท.นั้น ได้งานเพราะไป follow up หลังจากที่โดนเรียกไปสัมภาษณ์ ผู้จัดการมาบอกที่หลังว่าถึงเราจะไม่มีประสบการณ์ในด้านการโรงแรม แต่เพราะเราแสดงความสนใจและกระตือรือร้นเค้าเลยเลือกเรา

อย่างที่สามคือพอเวลาโดนเรียกให้ไปสัมภาษณ์ให้เตรียมตัวไปอย่างดี ให้ปริ้นเอาเรซูเม่ไปอีกใบ และเตรียมเบอร์ติดต่อกับอีเมล์ของreferenceไปให้พร้อม ที่ทำอย่างนี้เพื่อที่จะให้เขาเห็นถึงความตั้งใจและเตรียมพร้อมของเรา

ในที่สุดทิปการหางานก็หมดลงแล้ว สุดท้ายนี้ขอให้เพื่อนๆ โชคดีในการหางานกันนะคะ

[NEW] 10 อาชีพที่ได้เงินเดือนสูงสุดในออสเตรเลียตอนนี้ | หา งาน ใน ออสเตรเลีย – NATAVIGUIDES

10 อาชีพที่ได้เงินเดือนสูงสุดในออสเตรเลียตอนนี้

หากคุณกำลังมองหาอาชีพในออสเตรเลียนี่คือ 10 อันดับแรกของงานที่เสนอเงินเดือนสูงที่สุด

ถ้าคุณเป็นนักศึกษาต่างชาติ คุณกำลังคิดถึงหลักสูตรของมหาวิทยาลัยที่จะให้ผลตอบแทนการลงทุนที่ดี ทั้งในแง่ของเงินเดือนและความก้าวหน้า คุณคงจะต้องการดูงานที่มีรายได้สูงสุด 10 อันดับแรกในออสเตรเลียตอนนี้

เปิดเผยและรวบรวมโดยเว็บไซต์หาอาชีพ careeraddict.com โดยที่เรามองลึกลงไปในงานที่ได้รับค่าตอบแทนสูงที่สุดในตลาดออสเตรเลียในขณะนี้ และยังค้นหาหลักสูตรที่คุณสามารถเรียนเพื่อช่วยให้คุณต่อยอดไปสู่เส้นทางอาชีพเหล่านั้นด้วย

10. นักวิทยาศาสตร์ข้อมูล

เงินเดือนเฉลี่ย: A $ 99,510

โดยทั่วไป วิทยาศาสตร์ข้อมูลเกี่ยวข้องกับการค้นหาความหมายภายในปริมาณข้อมูลจำนวนมาก ในการเป็นนักวิทยาศาสตร์ด้านข้อมูลนั้น จำเป็นที่จะต้องเรียนหลักสูตรปริญญาตรีเฉพาะทาง เช่น ภายในสายงาน IT (ลิงค์การค้นหาหลักสูตรภายในเพื่อค้นหาหลักสูตร IT, AU), วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ (ลิงค์ค้นหาหลักสูตรภายในเพื่อค้นหาหลักสูตร IT, AU), คณิตศาสตร์, ฟิสิกส์ หรือสาขาอื่น ๆ โดยพื้นฐานแล้วคุณจะต้องมีความรู้ในภาษาของโปรแกรมเป็นอย่างดี นอกเหนือจากการมีพื้นฐานในสายงาน STEM (วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรม และคณิตศาสตร์)

9. หมอ / แพทย์

เงินเดือนเฉลี่ย: A $ 103,400

โครงสร้างการดูแลสุขภาพของประเทศออสเตรเลียได้รับการพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในโครงสร้างที่ดีที่สุดในโลกและบ่อยครั้งที่นักศึกษาจะได้ลงลึกสู่การลงมือปฏิบัติที่เฉพาะเจาะจง เช่น การผ่าตัด การใช้ยาชาหรือยาสลบ และจิตเวชศาสตร์ ระบบการศึกษาในออสเตรเลียสำหรับนักศึกษาแพทย์นั้นมีชื่อเสียง ซึ่งมีตัวเลือกมากมายให้คุณได้เลือกศึกษา (ลิงค์การค้นหาหลักสูตรภายในเพื่อปริญญาทางการแพทย์, AU)

8. ผู้จัดการคุณภาพชีวิต

เงินเดือนเฉลี่ย: A $ 110,520

คุณอาจสงสัยว่าผู้จัดการคุณภาพชีวิตคืออะไร มันเป็นส่วนหนึ่งของแผนกทรัพยากรมนุษย์ของบริษัท ผู้จัดการคุณภาพชีวิตจะได้รับมอบหมายให้อำนวยความสะดวกและสนับสนุนคุณภาพชีวิตทางร่างกายและจิตใจของพนักงาน เพื่อเพิ่มความพึงพอใจในงานและรักษาระดับการทำงานของพนักงาน ด้วยทักษะคนที่ยอดเยี่ยมและความคิดสร้างสรรค์จำนวนมาก

7. ผู้จัดการงานก่อสร้าง

เงินเดือนเฉลี่ย: A $ 111,390

ผู้จัดการงานก่อสร้างมีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่าง ๆ ภายในโครงการก่อสร้าง ทั้งดูแลและควบคุมการปฏิบัติงานหลายอย่างภายในโครงการที่มีตั้งแต่การค้าขายไปจนถึงอุตสาหกรรม นักศึกษาที่สนใจเป็นผู้จัดการงานก่อสร้าง สามารถติดตามหลักสูตรที่เกี่ยวข้องได้ เช่น วิศวกรรมโยธา (ลิงค์ค้นหาหลักสูตรภายใน, AU) และการจัดการก่อสร้าง (ลิงค์ค้นหาหลักสูตรภายใน, AU)

6. วิศวกรระบบคลาวด์

เงินเดือนเฉลี่ย: A $ 111,590

วิศวกรระบบคลาวด์สามารถแบ่งออกเป็นบทบาทที่แตกต่างกัน ตั้งแต่วิศวกรซอฟต์แวร์ระบบคลาวด์และวิศวกรความปลอดภัยของคลาวด์ ไปจนถึงเครือข่ายคลาวด์และวิศวกรระบบคลาวด์ สำหรับผู้ที่สนใจในอาชีพเหล่านี้ สามารถเลือกที่จะเลือกเรียนหลักสูตรอย่างเช่น วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ (ลิงค์ค้นหาหลักสูตรภายใน, AU), วิศวกรรม หรือสาขาที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ

5. ผู้จัดการการวิเคราะห์

เงินเดือนเฉลี่ย: A $ 118,820

บทบาทของผู้จัดการการวิเคราะห์คือการช่วยแนะนำทีมนักวิเคราะห์และนักวิทยาศาสตร์ด้านข้อมูล เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายของพวกเขา ดังที่คุณได้เห็น งานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลหรือความสามารถในการจัดการและทำความเข้าใจข้อมูล เป็นทักษะที่เป็นที่ต้องการอย่างมากในขณะนี้ มีปริญญาที่เกี่ยวข้องกับวิทยาการคอมพิวเตอร์ แอปพลิเคชันด้านความปลอดภัย และการวิเคราะห์ระบบประยุกต์ (ลิงค์ค้นหาหลักสูตรภายใน, AU)

4. สถาปนิกความปลอดภัยด้านไอที

เงินเดือนเฉลี่ย: A $ 124,190

ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความพุ่งพล่านในด้านที่เกี่ยวกับข้อมูลและความเป็นส่วนตัว การรักษาความปลอดภัยและการปกป้องสิ่งที่ถูกขุดหรือเก็บรวบรวมนั้น มีความสำคัญอย่างยิ่ง สิ่งนี้อธิบายได้ว่าทำไมสถาปนิกความปลอดภัยด้านไอทีถึงได้รับค่าตอบแทนสูงและทำไมหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง เช่น การคำนวณและไอที ถึงกำลังได้รับความนิยม

3. ผู้จัดการฝ่าย IT

เงินเดือนเฉลี่ย: A $ 125,660

หมดยุคที่คนรับผิดชอบด้านไอทีเป็นเพียงคนที่พร้อมเสมอเมื่อคอมพิวเตอร์ของคุณล่ม ในความเป็นจริงแล้วบทบาทของผู้จัดการ IT ในสมัยนี้ คือผู้ที่รวมความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาธุรกิจและความรู้ทางเทคนิค ด้วยการมีปริญญาในการคำนวณหรือไอที รวมถึงใบรับรองที่ได้รับการยอมรับในการจัดการโครงการ (ลิงค์ค้นหาหลักสูตรภายใน, AU) เป็นผู้เริ่มต้นที่เหมาะสำหรับนักศึกษาไฟแรงในเส้นทางอาชีพนี้

2. ผู้จัดการฝ่ายวิศวกรรม

เงินเดือนเฉลี่ย: A $ 132,350

ในการเป็นผู้จัดการวิศวกรรม คุณจะต้องมีพื้นฐานด้านวิศวกรรมสามัญ เฉพาะเพื่อเพิ่มประสบการณ์ในสาขานั้น ไม่ว่าจะโดยการศึกษาต่อหรือรับคุณวุฒิการจัดการหรือการกำกับดูแล คุณจะสามารถสร้างเส้นทางสู่บทบาทของผู้จัดการวิศวกรรมได้

1. สถาปนิกระบบไอที

เงินเดือนเฉลี่ย: A $ 139,690

สถาปนิกระบบ มีหน้าที่รับผิดชอบอย่างหนักในการออกแบบ การสร้าง และทดสอบระบบคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อนซึ่งมักมีความอ่อนไหวสูง ไม่เพียงแต่สถาปนิกระบบจะต้องมีความรอบรู้ในศิลปะของระบบฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เท่านั้น เขาหรือเธอจะต้องคุ้นเคยกับประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ ต้องใช้หลักสูตรที่เกี่ยวข้อง อย่างเช่นวิศวกรรมซอฟต์แวร์ (ลิงค์ค้นหาหลักสูตรภายใน, AU) และวิทยาการคอมพิวเตอร์ ระหว่างนี้ทักษะการพูดและการเขียนที่แข็งแรงจะทำให้คุณอยู่ในอันดับที่ดีได้

สำหรับใครที่สนใจอยากเรียนต่อประเทศออสเตรเลีย สามารถปรึกษาพี่ๆ IDP ได้เลยทันที ฟรี!


8 เทคนิคการหางานง่ายๆใน \”ออสเตรเลีย\” ภายใน 5 นาที!!! – Australia – Daddy on Duty


8 เทคนิคการหางานง่ายๆใน \”ออสเตรเลีย\” ภายใน 5 นาที!!! Australia Daddy on Duty

FOLLOW ME
Facebook https://www.facebook.com/TOTODADDYONDUTY
Instagram https://www.instagram.com/kittiphob_jorn

10 เหตุผล ที่อยากให้คุณมา\”ออสเตรเลีย\”https://youtu.be/qgSRIi2xeOw
อยากมาออสเตรเลีย ทำยังไงดี??? https://youtu.be/1kHBrW4A4Q
พาเข้าถ้ำ River Caves Canyon https://youtu.be/fh6kvWR_Mc4
ตามล่าช้าง https://youtu.be/jtKkC4hDqDE
คลิปเที่ยว https://youtu.be/f6Q1VzmLvmc
อาชีพสอนเทนนิส https://youtu.be/2Yh84PHBcDc
อาชีพสัก https://youtu.be/_shV3TfyDlI
อาชีพทำขนม https://youtu.be/9OVnCrrBMoM
อาชีพเด็กเสริฟ https://youtu.be/HdXpWyZQ2w
อาชีพส่งอาหาร https://youtu.be/ZcjvIr50fTM
อาชีพส่งหนังสือพิมพ์ https://youtu.be/S4dDFKg0wU
คนไทยตกปลา https://youtu.be/TMvqpu6kXdc

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

8 เทคนิคการหางานง่ายๆใน \

ทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย รายได้เดือนละ100,000บาท จริงไหมมาดูกัน🇹🇭🇦🇺


ทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย รายได้เดือนละ100,000บาท จริงไหมมาดูกัน🇹🇭🇦🇺

EP. 1 หางานในออสเตรเลีย สาย professional สิ่งที่ควรทำก่อนสมัครงาน งานบริษัท งานรัฐบาล


พูดคุย ถามคำถามได้ที่ Facebook page: อยู่ออส
https://www.facebook.com/%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%AA102364685376662

หางานออสเตรเลีย ทีมออสเตรเลีย ออสเตรเลีย

EP. 1 หางานในออสเตรเลีย สาย professional สิ่งที่ควรทำก่อนสมัครงาน งานบริษัท งานรัฐบาล

อยากไปทำงาน “ออสเตรเลีย” เริ่มต้นยังไงดี? | Rainyday Station


รายอะเอียดของวีซ่าที่ฝนพูดมามีอีกหลายอย่างนะคะ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เวปไซต์ข้างล่างนี้คะ
https://immi.homeaffairs.gov.au/visas/gettingavisa/visalisting
อยากไปทำงานออสเตรเลีย วีซ่าทำงานออสเตรเลีย ย้ายประเทศกันเถอะ ทำยังไงอยากไปออสเตรเลีย หางานออสเตรเลีย ทำงานออสเตรเลีย อยากไปทำงานเมืองนอก

อยากไปทำงาน “ออสเตรเลีย” เริ่มต้นยังไงดี? | Rainyday Station

ทำเรซูเม่ (Resume) ไว้สมัครงานฟาร์มเกษตรในออสเตรเลีย


ทำเรซูเม่ (Resume) ไว้สมัครงานฟาร์มเกษตรในออสเตรเลีย

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ หา งาน ใน ออสเตรเลีย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *