วัฒนธรรมอเมริกัน: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

คำบรรยายภาพ
- ครูใหญ่จูเลีย แฮทช์ และคณะครูจากโรงเรียนสตรีอเมริกัน (โรงเรียนดาราวิทยาลัยในปัจจุบัน) ทศวรรษ 1920 (พ.ศ. 2463-2472) (ภาพถ่ายจากหนังสือ เส้นด้ายอเมริกันในผืนผ้าล้านนา)
- กงสุลใหญ่สหรัฐฯ ฌอน โอนีลล์ ทักทายเยาวชนที่ร่วมชมขบวนพาเหรดในงานลอยกระทงปี 2562 (อนุเคราะห์ภาพถ่ายโดยพนักงานสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ)
- กงสุลใหญ่สหรัฐฯ เจนนิเฟอร์ ฮาร์ไฮ (พ.ศ. 2559-2562) ถ่ายภาพกับนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่เข้าร่วมกิจกรรมสังเกตการณ์การเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ปี 2561 (อนุเคราะห์ภาพถ่ายโดยพนักงานสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ)
- วงดนตรีประจำหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ III Marine Expeditionary Force จัดเวิร์กชอปด้านดนตรีให้กับนักเรียนโรงเรียนดาราวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ ปี 2562 (อนุเคราะห์ภาพถ่ายโดยพนักงานสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ)
- ทีมวีลแชร์แดนซ์จากโรงเรียนศรีสังวาลย์ จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ชนะรายการ Thailand’s Got Talent ปี 2557 แสดงในพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมกีฬาเพื่อผู้พิการ ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์ National Ability Center ของสหรัฐฯ ปี 2558 (อนุเคราะห์ภาพถ่ายโดยพนักงานสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ)
- เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย เคนเนธ ทอดด์ ยัง (พ.ศ. 2504-2506) ลองเป่าแคนที่พิพิธภัณฑ์ส่วนตัวของคุณไกรศรี นิมมานเหมินทร์ เมื่อครั้งเยือนเชียงใหม่ ทศวรรษ 1960 (พ.ศ. 2503-2512) (อนุเคราะห์ภาพถ่ายโดยคุณวิมล สิทธิประณีต)
หนึ่งในคุณูปการที่สำคัญที่สุดที่ชาวอเมริกันได้สร้างให้แก่ภาคเหนือของประเทศไทยคือเรื่องการศึกษา
นับตั้งแต่มีการก่อตั้งโรงเรียนแบบตะวันตกขึ้นเป็นครั้งแรกที่เชียงใหม่ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 มาจนถึงความร่วมมือด้านการศึกษาที่กว้างขวางในปัจจุบัน ชาวอเมริกันมีบทบาทที่สำคัญในการพัฒนาการศึกษาในภาคเหนือของไทยมาโดยตลอด สถาบันการศึกษาที่ประสบความสำเร็จที่เห็นในปัจจุบันเป็นหนึ่งในสิ่งที่ตกทอดมาจากบทบาทของชาวอเมริกันรุ่นแรกในภาคเหนือของไทย
ก่อนถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 ในภาคเหนือของไทย เฉพาะเด็กชายเท่านั้นที่ได้เรียนหนังสือ และต้องเรียนในวัดเท่านั้น พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวมีพระบรมราชานุญาตให้ครูสอนภาษาชาวอเมริกันได้เข้าไปถวายพระอักษรในพระบรมมหาราชวังในช่วงกลางทศวรรษ 1800 (พ.ศ. 2343-2352) เนื่องจากทรงเห็นว่าอเมริกา เป็นประเทศที่ไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างอาณาจักรของตนขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พระองค์ทรงมีพระราชดำริว่า ชาวอเมริกันเป็นอำนาจ “ที่เป็นกลาง” ระหว่างฝรั่งเศสทางทิศตะวันออกและอังกฤษทางทิศตะวันตก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชาวอเมริกันก็ได้ทำงานร่วมกับชาวไทยอย่างกว้างขวางในการสร้างโรงเรียนสมัยใหม่และผสมผสานวิธีการสอนรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อพัฒนาการศึกษาทั่วทั้งภาคเหนือของไทย
โรงเรียนมัธยมศึกษา
โรงเรียนแบบตะวันตกแห่งแรกในภาคเหนือของไทยมุ่งให้การศึกษาแก่เด็กผู้หญิง โรงเรียนดาราวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบันเป็นโรงเรียนสหศึกษา มีประวัติย้อนไปถึงเมื่อครั้งโซเฟีย แมคกิลวารี มิชชันนารีชาวอเมริกัน ตัดสินใจเปิดบ้านของเธอที่เชียงใหม่เป็นโรงเรียนสำหรับเด็กหญิงในปี 2418 เมื่อมีนักเรียนมากขึ้น แหม่มแมคกิลวารีก็เสาะหาที่ดินเพื่อสร้างโรงเรียนสำหรับเด็กผู้หญิงโดยเฉพาะ เมื่อถึงปี 2422 เอ็ดนา เอส.โคล และแมรี แคมป์เบลล์ ได้ร่วมกันก่อตั้งและเป็นผู้อำนวยการคนแรกของโรงเรียนสตรีอเมริกัน (American Girls’ School) ในเชียงใหม่ ซึ่งต่อมาในปี 2466 โรงเรียนนี้ได้เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนดาราวิทยาลัย เพื่อรำลึกถึงผู้อุปถัมภ์รุ่นแรกคือ เจ้าดารารัศมี พระราชชายาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5)
สำหรับโรงเรียนชายวังสิงห์คำ (Chiengmai Boys’ School) ซึ่งต่อมาคือโรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย ได้รับการก่อตั้งขึ้นในลักษณะคล้าย ๆ กันในปี 2430 โดยศาสนาจารย์ ดี.จี. คอลลินส์ ชาวอเมริกันนิกายเพรสไบทีเรียนได้ย้ายจากกรุงเทพฯ ไปยังเชียงใหม่เพื่อก่อตั้งโรงเรียนขึ้นในบริเวณฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง โรงเรียนเริ่มเปิดสอนด้วยเงินทุนเพียง 2,000 บาทและมีนักเรียนประมาณ 30 คน ศาสนาจารย์คอลลินส์ซึ่งเป็นครูใหญ่คนแรกไม่เพียงดูแลด้านการบริหารโรงเรียนเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้วางรากฐานการศึกษาแบบตะวันตกในภาคเหนือของไทย ตลอดจนเรียนภาษาล้านนา ขอการสนับสนุนจากชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งระดมเงินบริจาคจากชาวอเมริกัน และก่อตั้งโรงพิมพ์แห่งแรกขึ้นในภาคเหนือของไทย
เมื่อถึงปี 2499 โรงเรียนชายวังสิงห์คำก็ย้ายไปอยู่ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง และได้รับพระราชทานชื่อจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ในขณะนั้น) ว่า “โรงเรียนปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย” เมื่อปี 2549 โรงเรียนได้ฉลองวาระครบรอบ 100 ปีที่ได้รับพระราชทานนามและจัดพิธีรำลึกถึงคุณูปการต่าง ๆ ของชาวอเมริกันที่มีส่วนช่วยพัฒนาโรงเรียนในยุคแรก ๆ
ชาวอเมริกันยังได้เผยแพร่การศึกษาแบบตะวันตกในจังหวัดอื่น ๆ ของภาคเหนือ ในปี 2428 ศาสนาจารย์นายแพทย์แซมมวล ซี. พีเพิลส์ และภรรยาได้ก่อตั้งโรงเรียนเคนเน็ตแม็คเคนซีขึ้นที่จังหวัดลำปาง โดยเป็นโรงเรียนแบบตะวันตกแห่งแรกที่ไม่ได้ตั้งอยู่ที่เชียงใหม่ ศาสนาจารย์พีเพิลส์และภรรยายังได้ก่อตั้งโรงเรียนลินกัล์น อะแคเดมีขึ้นที่จังหวัดน่านในปี 2447 ก่อนหน้าปี 2440 ศาสนาจารย์แดเนียล แมกกิลวารี และนายแพทย์วิลเลียม บริกส์ ได้สร้างโรงเรียนขนาดเล็กแห่งหนึ่งขึ้นที่เชียงราย ในปัจจุบัน มีโรงเรียนที่ก่อตั้งโดยชาวอเมริกันทั้งหมด 11 แห่งใน 6 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย แพร่ น่าน และพิษณุโลก
การศึกษาระดับอุดมศึกษา
ความสำเร็จของโรงเรียนมัธยมปลายเหล่านี้ได้สร้างกำลังใจให้แก่เหล่ามิชชันนารีชาวอเมริกัน พวกเขาจึงได้เริ่มวางแผนก่อสร้างมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งขึ้นในภาคเหนือ ความคิดเกี่ยวกับการสร้างสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในภาคเหนือเริ่มต้นขึ้นในชุมชนชาวเชียงใหม่ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 เมื่อชาวอเมริกันนิกายเพรสไบทีเรียนกลุ่มหนึ่งร่างแผนการก่อตั้ง “มหาวิทยาลัยคริสเตียนลาว” ขึ้น โดยคอนราด คิงส์ฮิลล์ มิชชันนารีหนุ่มนิกายเพรสไบทีเรียนเดินทางถึงเชียงใหม่ในปี 2490 เพื่อวางรากฐานสำหรับกิจการอย่างหนึ่งซึ่งได้พัฒนากลายมาเป็นวิทยาลัยพายัพในเกือบ 30 ปีต่อมา
ในปี 2517 หลังจากที่รัฐบาลไทยอนุมัติแผนการก่อตั้งวิทยาลัยเอกชน มูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทยได้เปิดวิทยาลัยพายัพ ซึ่งเป็นวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกนอกกรุงเทพฯ วิทยาลัยพายัพได้รวมเอาสถาบันหลายแห่งที่ก่อตั้งโดยชาวอเมริกันเข้าไว้ด้วยกัน ที่สำคัญ ๆ ได้แก่ วิทยาลัยพระคริสต์ธรรมแมคกิลวารี และโรงเรียนฝึกหัดนางพยาบาลแห่งโรงพยาบาลแมคคอร์มิค วิทยาลัยพายัพยังได้เปิดคณะมนุษยศาสตร์เพิ่มอีกคณะหนึ่งและผนวกรวมแผนกดนตรีคริสตจักรของวิทยาลัยพระคริสต์ธรรมแมคกิลวารีเข้ามาไว้ด้วย ทำให้วิทยาลัยพายัพเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกในประเทศไทยที่เปิดสอนวิชาดนตรี ในปี 2527 วิทยาลัยพายัพได้รับสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัย
อาคารของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ และหอพักนักศึกษานานาชาติ ซึ่งมีพิธีเปิดในเดือนมิถุนายน 2550 ได้รับการสนับสนุนทุนในการก่อสร้างส่วนหนึ่งจากโครงการโรงเรียนและโรงพยาบาลอเมริกันในต่างประเทศ (American Schools and Hospitals Abroad: ASHA) ขององค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (U.S. Agency for International Development: USAID) นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังสนับสนุนทุนกว่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อก่อสร้างศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้สิรินธร (สำนักหอสมุด) ซึ่งเปิดใช้งานปี 2548 ภายใต้โครงการ ASHA นี้ มหาวิทยาลัยพายัพได้รับทุนสนับสนุนไปแล้วกว่า 8 ล้านเหรียญสหรัฐ นับตั้งแต่ปี 2521 เป็นต้นมา
พลเมืองอเมริกันยังมีบทบาทสำคัญในการก่อตั้งและพัฒนามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ถือกำเนิดขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรีในปี 2497 ที่กำหนดให้มีการก่อตั้งโรงเรียนแพทย์ขึ้นในภาคเหนือของไทย โครงการนี้ได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินและการพัฒนาจากหน่วยงานบริหารความช่วยเหลือของสหรัฐฯ (U.S. Operations Mission: USOM) ในปี 2499 และนำไปสู่ความร่วมมือระยะยาวกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ในการก่อสร้างโรงเรียนแพทย์ ได้แก่ การร่วมร่างแผนแม่บท การให้คำปรึกษาจากช่างเทคนิค ที่ปรึกษา และนักบริหารชาวอเมริกัน รวมทั้งคำสัญญาในการจัดหาอาจารย์ชาวอเมริกันให้แก่มหาวิทยาลัยจนกว่าอาจารย์ชาวไทยจะสามารถสอนนักเรียนแพทย์ได้เองด้วย นอกจากนี้ ยังมีโครงการทุนการศึกษาที่ส่งนักศึกษาไทยไปยังสหรัฐฯ เพื่อศึกษาต่อระดับบัณฑิตศึกษาขึ้นไปในด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐานและวิทยาศาสตร์คลินิก โดยรวมแล้วรัฐบาลสหรัฐฯ ได้มอบทุนประมาณ 3.8 ล้านเหรียญสหรัฐผ่านทาง USOM และองค์กรหลักคือ USAID เพื่อก่อสร้างและสนับสนุนโรงเรียนแพทย์
ในปี 2507 โรงเรียนแพทย์แห่งนี้กลายเป็นแกนหลักของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สถาบันระดับอุดมศึกษาแห่งแรกนอกกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ยังคงความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ โดยมีการแลกเปลี่ยนทางการศึกษากับมหาวิทยาลัยประมาณ 40 แห่งในสหรัฐฯ นอกจากนี้ ยังมีคณาจารย์ในมหาวิทยาลัยที่ได้ศึกษาต่อในสหรัฐฯ ภายใต้โครงการฟุลไบรท์และโครงการแลกเปลี่ยนอื่น ๆ
โครงการแลกเปลี่ยน
ในปัจจุบัน สหรัฐฯ มีส่วนร่วมในการศึกษาของไทยในภาคเหนือผ่านโครงการแลกเปลี่ยนที่หลากหลายสำหรับนักเรียนนักศึกษา และคณาจารย์ วิธีการหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการศึกษาระดับมัธยมปลายในต่างประเทศคือการเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนผ่านองค์กรต่าง ๆ เช่น โครงการเยาวชนเอเอฟเอสเพื่อการศึกษาและแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมนานาชาติ (AFS Intercultural Programs) (เดิมชื่อโครงการ American Field Service) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้โครงการนี้ นักเรียนไทยหลายพันคนและนักเรียนอเมริกันหลายร้อยคนได้ใช้ชีวิตและศึกษาในสหรัฐฯ และไทย นอกจากนี้ ยังมีสำนักงานแลกเปลี่ยนทางการศึกษาที่ไม่แสวงผลกำไรอีกหลายแห่งของสหรัฐฯ ที่ร่วมดำเนินโครงการในประเทศไทยเพื่อส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาและการทำงานในสหรัฐฯ ด้วย เช่น Council on International Educational Exchange (CCI), Institute for the International Education of Students (IES) และ School for International Training (SIT) นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยในอเมริกาและไทยหลายแห่งก็ยังได้จัดทำโครงการแลกเปลี่ยนกันเองเพื่อให้นักศึกษาชาวอเมริกันและชาวไทยได้เรียนรู้วัฒนธรรมของกันและกัน
ทุนฟุลไบรท์เป็นทุนที่มอบให้ทั้งชาวอเมริกันและชาวไทยเพื่อการค้นคว้าวิจัย ศึกษาและสอนในไทยและสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2492-2560 มีชาวไทยกว่า 1,786 คนและชาวอเมริกันกว่า 1,146 คนที่ได้รับทุนฟุลไบร์ทเพื่อค้นคว้าวิจัย ศึกษา และสอนในทั้งสองประเทศ ภาคเหนือของไทยเป็นจุดหมายปลายทางหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากผู้รับทุนฟุลไบรท์ชาวอเมริกัน โดยเชียงใหม่เพียงจังหวัดเดียวมีผู้รับทุนที่ใช้ชีวิตและทำงานอยู่กว่า 120 คน
เป็นเวลาหลายทศวรรษที่นักศึกษาไทยให้ความสนใจประเทศสหรัฐฯ จากรายงานของ Open Doors ระบุว่ามีนักศึกษาไทยกว่า 6,636 คน ลงทะเบียนในสถาบันอุดมศึกษาของสหรัฐฯในปี 2561 ตั้งแต่ปี 2467 เป็นต้นมา ศิษย์เก่าชาวไทยที่เคยศึกษาในสหรัฐฯ ได้ก่อตั้งสมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาขึ้น ต่อมาในปี 2495 สถานเอกอัครราชทูตทูตสหรัฐฯ ได้ร่วมกับสมาคมนักเรียนเก่าฯ จัดตั้งโรงเรียนสถานสอนภาษาอังกฤษขึ้นในกรุงเทพฯ โดยใช้ชื่อว่า “เอยูเอ” โรงเรียนดังกล่าวได้ขยายไปยังจังหวัดอื่น ๆ โดยสหรัฐฯ สนับสนุนทุน คณาจารย์ และให้ความช่วยเหลือด้านการบริหารจัดการจนถึงช่วงกลางทศวรรษ 1990 (พ.ศ. 2533-2542) ทุกวันนี้ มีสถานสอนภาษา 20 แห่งที่เกิดขึ้นจากความเป็นหุ้นส่วนดังกล่าว รวมถึงสถานสอนภาษาเอยูเอ ที่เชียงใหม่ ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2500 และสถานสอนภาษาเอยูเอ ที่เชียงราย ซึ่งก่อตั้งในปี 2540 ตั้งแต่ปี 2561 สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ และสถานกงสุลใหญ่ ร่วมกับสถานสอนภาษาเอยูเอ ดำเนินโครงการ English Access Microscholarship Program (Access) ซึ่งสร้างพื้นฐานด้านภาษาอังกฤษให้แก่นักเรียนอายุ 13-20 ปีที่มีศักยภาพแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ โดยโครงการ Access ช่วยให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีทักษะภาษาอังกฤษที่อาจนำไปสู่โอกาสในการทำงานหรือการศึกษาต่อที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการยังได้ฝึกฝนความสามารถในการแข่งขันและเข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยนและการศึกษาต่อในประเทศสหรัฐฯ ในอนาคตอีกด้วย
ในปี 2523 USAID ได้สนับสนุนทุนโครงการการศึกษาสำหรับชาวเขาของกรมการศึกษานอกโรงเรียนเพื่อส่งเสริมการรู้หนังสือไทย โครงการดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านในเขตจังหวัดเหนือสุดของประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อสอนในสิ่งที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ เช่น การขอสัญชาติไทยหรือการป้องกันการใช้ยาเสพติด เป็นต้น ผู้เข้าร่วมโครงการจำนวนมากมีส่วนร่วมในโครงการพัฒนาเขตที่ราบสูงขององค์การสหประชาชาติ องค์กรนอกภาครัฐฯ หรือโครงการใหม่ ๆ ของรัฐบาลในยุคหลัง ๆ
โครงการของรัฐบาลสหรัฐฯ
ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 (พ.ศ. 2533-2542) กระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงศึกษาธิการของสหรัฐฯ ได้สนับสนุนทุนเพื่อก่อตั้งวิทยาลัยชุมชน 2 แห่งในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งนับเป็นสถาบันการศึกษาระดับสูงกว่าชั้นมัธยมศึกษาแห่งแรกในจังหวัดที่มีชายแดนติดประเทศเมียนมา
อีกหนึ่งสถาบันของสหรัฐฯ ที่มีความสัมพันธ์อันยาวนานกับประเทศไทยและภาคเหนือคือหน่วยอาสาสมัครสันติภาพสหรัฐฯ (Peace Corps) ตั้งแต่ปี 2505 เป็นต้นมา อาสาสมัครหน่วยสันติภาพสหรัฐฯ ราว 5,507 คนได้ปฏิบัติหน้าที่ในประเทศไทยในบทบาทต่าง ๆ โดยเฉพาะในโครงการด้านการพัฒนาการศึกษาและเยาวชน
เมื่อเรามองสถาบันการศึกษาไทยในปัจจุบัน เราจะเห็นอิทธิพลของสหรัฐฯ ที่มีต่อระบบการศึกษาของไทยเป็นอย่างมาก ความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และไทยในการสร้างโอกาสทางการศึกษาในภาคเหนือของไทยเริ่มต้นจากการสอนหนังสือในบ้านของมิชชันนารี ก่อนที่จะเปิดห้องเรียนให้แก่เด็กหญิง ก่อตั้งโรงเรียนแพทย์ และจัดตั้งโครงการแลกเปลี่ยนต่าง ๆ ชาวอเมริกันยุคแรก ๆ ในภาคเหนือของไทย ซึ่งให้ความสำคัญกับการก่อตั้งสถาบันการศึกษาเป็นอันดับแรก ตลอดจนโครงการต่าง ๆ ที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุนในเวลาต่อมา ได้ส่งผลต่อการศึกษาไทยสืบมาจนถึงปัจจุบัน
[Update] อิทธิพลอเมริกันในเมืองไทย โดย นิธิ เอียวศรีวงศ์ | วัฒนธรรมอเมริกัน – NATAVIGUIDES
Write CSS OR LESS and hit save. CTRL + SPACE for auto-complete.
เกร็ดความรู้วันขอบคุณพระเจ้า Thanksgiving
เกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับวันขอบคุณพระเจ้า Thanksgiving
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
MY AMERICAN HOST FAMILY VISITS ME IN GERMANY! ♥ SURPRISE
2015/16 I spent one year in South Carolina as an exchange student. Now, it is time for them to come and visit me in Germany! 🙂
Endlich ist es soweit! Meine amerikanische Gastfamilie kommt nach Deutschland, um mich und meine Familie zu besuchen!:)
Instagram: lindaawagner
คนไทยนิยมวัฒนธรรมอเมริกัน? -HL ฃอคิดด้วยฅน วัฒนธรรมไทย ทำไมต้องรณรงค์
ในโอกาสที่รัฐบาลกำหนดให้ปี 25372540 เป็นช่วงเวลาของการรณรงค์วัฒนธรรมไทย เหตุใดคนไทยนิยมวัฒนธรรมอเมริกัน มาร่วมคิดกับ
อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ ปัญญาชนสยาม นักวิพากษ์สังคม
ดร.เอกวิทย์ ณ ถลาง อดีตเลขาธิการ คณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ / ประธานมูลนิธิภูมิปัญญา
Mr.William J. Klausner ศาตราจารย์พิเศษ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย / Consultant, The Ford Foundation
ดร.วิโรฒ ศรีสุโร คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ดำเนินรายการโดย ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง
ฃอคิดด้วยฅน ตอน วัฒนธรรมไทย…ทำไมต้องรณรงค์ ออกอากาศตุลาคม 2537
1.5 HOUR English Conversation Lesson
Join Dan and I (both American English speakers) in this 1.5 hour English conversation lesson!
Download my free ebook: \”5 Steps To Becoming A Confident English Speaker\” http://www.speakenglishwithvanessa.com/freeebook
Become my student by joining a course: http://www.speakenglishwithvanessa.com/fluency
Click on the timestamps below to jump to different categories:
0:39 Family
5:29 Childhood
10:31 Jobs
18:01 Travel
26:27 Food
33:36 Housing
40:53 Nature
50:51 Holidays
56:30 Relaxation
1:03:55 Sports/Exercise
1:09:07 Electronics
1:14:07 Money
English book recommendations: https://www.amazon.com/shop/speakenglishwithvanessa
Subscribe and follow on social media! I’d love to meet you!
YouTube: https://www.youtube.com/user/theteachervanessa
Instagram: http://www.instagram.com/englishwithvanessa/
Facebook: http://www.facebook.com/speakenglishwithvanessa
Send us a postcard from your country:
Speak English With Vanessa
825 C Merrimon Ave PMB 278
Asheville, NC 28804
USA
Speak English With Vanessa helps English learners to speak American English fluently, naturally, and confidently. To become a fluent English speaker and have English conversations with a native English speaker, go to http://www.speakenglishwithvanessa.com
ชมชัดๆซูมใกล้ๆๆแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของท่านเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี
วันอาทิตย์ที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี เป็นผู้แทนพระองค์ไปถวายผ้าพระกฐิน ณ พระอุโบสถวัดพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE
ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ วัฒนธรรมอเมริกัน