Skip to content
Home » [NEW] รู้จัก วีซ่า Work and Holiday ออสเตรเลีย ละเอียดครบทุกขั้นตอน พร้อมยื่น! | ไป ทำงาน ออสเตรเลีย – NATAVIGUIDES

[NEW] รู้จัก วีซ่า Work and Holiday ออสเตรเลีย ละเอียดครบทุกขั้นตอน พร้อมยื่น! | ไป ทำงาน ออสเตรเลีย – NATAVIGUIDES

ไป ทำงาน ออสเตรเลีย: คุณกำลังดูกระทู้

เชื่อว่าใครหลาย ๆ คน คงมีความฝันที่อยากจะเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปเที่ยว เรียน หรือทำงาน ออกไปหาประสบการณ์ การใช้ชีวิตในต่างแดนดูบ้างว่าจะเป็นอย่างไร วันนี้พี่เห็ด มัชรูมทราเวล มีอีกหนึ่งโครงการดี ๆ มาแนะนำ นั่นก็คือ Work and Holiday ของประเทศออสเตรเลีย หรือ ที่เรียกกันว่า WAH นั่นเอง ซึ่งเป็นวีซ่าที่ให้เราได้ทั้งเรียน เที่ยว และทำงาน ได้อย่างถูกต้อง ภายในระยะเวลา 1 ปี ใครอยากรู้ว่าจะมีกฎเกณฑ์ ขั้นตอน กำหนดการสมัคร และเอกสารที่ต้องใช้ยังไงบ้าง พี่เห็ดรวบรวมมาให้ที่นี่แล้วจ้าาา

Table of Contents

วีซ่า Work and Holiday ประเทศออสเตรเลีย คืออะไร?

ก่อนอื่นอยากให้เพื่อน ๆ ได้ทำความรู้จักกับที่มาที่ไปของ วีซ่า Work and Holiday ออสเตรเลียกันค่ะ โครงการนี้ถูกจัดตั้งขึ้น โดยความร่วมมือของรัฐบาลไทย และรัฐบาลออสเตรเลีย เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนไทย ที่มีอายุระหว่าง 18-30 ปี สามารถเดินทางไปศึกษา ท่องเที่ยว พร้อมทำงานในประเทศออสเตรเลีย ได้อย่างถูกกฎหมาย ซึ่งข้อตกลงนี้ มีขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2005 ซึ่งโดยปกติจะมีโควตาประเภทนี้อยู่ที่ 500 คนต่อปีงบประมาณ แต่เมื่อปี 2020 ก็ให้โควตาที่ ปีละ 2,000 คน เลยทีเดียว

Tips : ผู้สมัคร วีซ่าออสเตรเลีย ประเภทนี้ สามารถทำงานกับนายจ้างแต่ละแห่งได้นานสุดไม่เกิน 6 เดือน ถ้าทำงานถึง 6 เดือนแล้วจะต้องเปลี่ยนที่ทำงานใหม่ นอกจากนี้ผู้สมัครจะต้องมีหลักฐานว่า มีเงินเพียงพอในกรณีไม่มีงานทำ ก็ยังสามารถใช้ชีวิตอยู่ในออสเตรเลียได้โดยไม่ลำบากอะไร

คุณสมบัติของผู้สมัคร

1. มีสัญชาติไทย
2. มีอายุระหว่าง 18 ถึง 30 ปี (ไม่เกิน 31 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ยื่นวีซ่ากับทางสถานทูตฯ)
3. สำเร็จการศึกษา ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไป
4. มีหลักฐานแสดงทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามรายการดังนี้
   – ผลการสอบ IELTS (ประเภทใดก็ได้) เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 4.5 ในทุกทักษะ มีอายุไม่เกิน 1 ปี
   – ผลการสอบ TOEFL iBT ระดับคะแนน 32 ขึ้นไป ทุกทักษะ มีอายุไม่เกิน 1 ปี หรือ
   – ใบรับรองหรือประกาศนียบัตรที่แสดงว่า ได้สำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่มีระยะเวลา 2 ปี จากสถาบันการศึกษาที่มีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน
   – หลักฐานการจบระดับประถมศึกษา (Primary) และมัธยมศึกษาตอนต้น (3 years of secondary education) จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน
   – หลักฐานที่แสดงว่าได้ศึกษาระดับมัธยมศึกษา 5 ปี (5 years of secondary education) จากสถาบันการศึกษาที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อการเรียนการสอน
   – สำเร็จการศึกษาจากประเทศออสเตรเลียหลักสูตร 1 ปี ในระดับปริญญาบัตรหรือประกาศนียบัตร
5. ต้องเดินทางคนเดียว (ไม่มีผู้ติดตาม)
6. มีหลักฐานการเงินเป็นบัญชีออมทรัพย์ (ของผู้สมัครเอง)
เป็นจำนวน 5,000 AUD หรือประมาณ 120,000 บาทไทย
7. มีความประพฤติและสุขภาพดี
8. มีหนังสือรับรองคุณสมบัติ ซึ่งออกให้โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทั้งนี้ การสมัครขอรับหนังสือรับรองคุณสมบัติดังกล่าว ผู้สมัครจะต้องยื่นเอกสารสำคัญ ดังนี้
   – ใบสมัคร (พิมพ์มาจากการสมัครผ่านทางระบบออนไลน์)
   – ปริญญาบัตรหรือหนังสือรับรองการสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด โดยเอกสารต้องออกก่อนวันที่เปิดรับสมัครออนไลน์
   – ใบรายงานผลการศึกษา (Transcript) ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
   – หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
   – บัตรประจำตัวประชาชน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
   – ทะเบียนบ้าน ฉบับจริง พร้อมสำเนา 1 ชุด
   – หลักฐานเกี่ยวกับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษดังกล่าวข้างต้น*
   – หลักฐานการเงินเป็นบัญชีออมทรัพย์ (ของผู้สมัครเอง) จำนวน 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เป็น Bank Statement หรือใบรับรองทางการเงินของบัญชีเงินฝากจากธนาคาร โดยชื่อบัญชีจะต้องเป็นชื่อของผู้เดินทางเท่านั้น
   – แผนการเดินทางโดยคร่าว ๆ และประเภทงานที่สนใจจะทำระหว่างอยู่ออสเตรเลีย (เขียนสรุปไม่เกิน 1 หน้า เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ)
   – บันทึกข้อตกลงที่ผู้ปกครองลงนามเรียบร้อยแล้ว
   – สำเนาทะเบียนบ้านและสำเนาบัตรประชาชนผู้ปกครอง

ข้อควรทราบเพิ่มเติมจากทาง ดย.

– ห้ามทำการสมัครเข้าร่วมโครงการผ่านบริษัทนายหน้าที่รับเป็นตัวกลางทำการสมัคร และ / หรือจัดหาที่อยู่ให้เด็ดขาด เนื่องจากผิดวัตถุประสงค์ของโครงการ และอาจทำให้ไม่ได้รับวีซ่า รวมทั้งอาจตกเป็นเหยื่อของกลุ่มมิจฉาชีพได้
– วีซ่าประเภทนี้ ไม่ใช่วีซ่าทำงาน ดังนั้น หากพบว่าทำงานประจำ ณ ที่ใดเกินกว่า 6 เดือน จะถือว่าได้ทำผิดกฎหมาย อาจถูกถอนวีซ่าและถูกส่งกลับประเทศได้
– หากตรวจสอบพบว่าผู้สมัครมีเจตนากรอกข้อมูลเท็จ ดย. จะตัดสิทธิ์ผู้สมัครทันที
– การมีใบรับรองคุณสมบัติไม่ได้หมายความว่าวีซ่าจะผ่าน แต่การยื่นขอวีซ่าได้จะต้องมีใบรับรองจากทาง ดย.ก่อน
– การพิจารณาวีซ่าขึ้นอยู่กับทางสถานทูตออสเตรเลียเท่านั้น

เอกสารที่ต้องใช้ยื่นประกอบ วีซ่า Work and Holiday

เอกสารส่วนตัว

– พาสปอร์ตตัวจริง (รวมถึงพาสปอร์ตเล่มเก่าๆ ถ้ามี รวมถึงประวัติการเดินทาง) อายุพาสปอร์ตต้องเหลือมากกว่า 6 เดือน (สแกนหน้าแรกและหน้าที่มีตราประทับเดินทางทุกหน้า)
– รูปถ่ายหน้าตรง ใบหน้าชัดเจน พื้นหลังสีขาว ขนาด 4.5 x 3.5 cm ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน
– สำเนาบัตรประชาชน / สำเนาทะเบียนบ้าน (พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ)
– หลักฐานทางราชการต่างๆ เช่น สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ – นามสกุล / สำเนาทะเบียนสมรส – หย่า (พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ)
– หลักฐานผ่านการเกณฑ์ทหาร หรือเรียน รด. (สำหรับผู้ชายพร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ)
– หลักฐานการศึกษา Transcript และใบรับรองจบปริญญาบัตร (หากเป็นภาษาไทยต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ)
– หลักฐานการผ่านงาน ในกรณีที่ผ่านการทำงานมาแล้ว (หากเป็นภาษาไทยต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษ)
– หลักฐานเกี่ยวกับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ เช่น ผลการสอบ IELTS / TOEFL หรือใบรับรองผลการศึกษาหลักสูตรภาษาอังกฤษ
– หนังสือรับรองคุณสมบัติจาก กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.)

Tips : ในการยื่นขอวีซ่าออสเตรเลีย ควรแนบ หลักฐานการทำงาน ไปด้วย เพราะจะแสดงให้เห็นถึงประวัติของเราว่าทำงานอะไรมาบ้างค่ะ

ในกรณี Sponsor ตัวเอง

– หลักฐานการเงิน ในการยื่นเอกสารกับทางสถานฑูตออสเตรเลีย (เอกสารที่แนะนำให้แนบไปด้วยเลยคือ Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือนของผู้เดินทางหรือของสปอนเซอร์ไม่น้อยกว่า 5,000 AUD)
– จดหมายชี้แจงเรื่องหลักฐานการเงิน ในกรณีที่มียอดเงินเข้ามาไม่นาน หรือไม่ถึง 6 เดือน

ในกรณี Sponsor โดยบุคคลอื่น

– จดหมายรับรองค่าใช้จ่าย (เขียนเป็นภาษาอังกฤษพร้อมเซ็นรับรอง)
– เอกสารส่วนตัวของ Sponsor เช่น สำเนาบัตรประชาชน / สำเนาหน้าพาสปอร์ต
– หลักฐานแสดงความสัมพันธ์ เช่น สำเนาทะเบียนบ้าน / สำเนาทะเบียนสมรส / สำเนาสูติบัตร พร้อมฉบับแปลภาษาอังกฤษ
– หลักฐานการเงิน (Bank Statement ย้อนหลัง 6 เดือน ของผู้เดินทางหรือของสปอนเซอร์ไม่น้อยกว่า 5,000 AUD)
– จดหมายชี้แจงเรื่องหลักฐานการเงิน ในกรณีที่มียอดเงินเข้ามาไม่นาน หรือไม่ถึง 6 เดือน

Tips : ทางสถานทูต จะขอดู ที่มาของเงิน ในช่วง 6 เดือนก่อนยื่นวีซ่า หากมีเงินก้อนใหญ่เข้ามาทีเดียว เราต้องสามารถอธิบายแหล่งที่มาของเงินนั้นให้ได้ พร้อมแนบหลักฐานด้วย เช่น จดหมายจากบุคคลที่โอนเงินเข้ามาให้เราว่าโอนให้เพราะอะไร อย่างไร แสดงที่มาของเงินเข้า-ออก และมีความสัมพันธ์อะไรกับเรา เป็นต้น

กำหนดการรับสมัคร 2021

ในส่วนของกำหนดการรับสมัคร Work and Holiday ในปี 2021 นี้ เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ทางกรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.) ประกาศระงับการดำเนินงาน เพื่อเปิดรับสมัครในการออกหนังสือรับรองคุณสมบัติ ประกอบการของตรวจลงตรา โครงการ Working Holiday Scheme ประเทศนิวซีแลนด์ และโครงการ Work and Holiday Visa ประเทศออสเตรเลีย ประจำปี 2564

ข้อมูลข่าวล่าสุดวันที่ : 20 พ.ค. 2564
ที่มา : กรมกิจการเด็กเเละเยาวชน

รายละเอียดและขั้นตอนในการยื่นขอวีซ่า Work and Holiday

ก่อนสมัครขอใบรับรองได้จะต้องลงทะเบียนรับ Username และ Password ก่อน โดยผู้ลงทะเบียนจะต้องเตรียมข้อมูลเพื่อกรอกในขั้นตอนลงทะเบียน ดังนี้

  1. ไฟล์รูปถ่ายหน้าตรง (แนะนำให้ใช้รูปแบบเดียวกับที่จะใช้สมัครวีซ่า)

  2. เลขบัตรประจำตัวประชาชน

  3. ชื่อ-นามสกุล (ภาษาไทยและอังกฤษ)

  4. อีเมล 

**ต้องเช็กข้อมูลให้ถูกต้องก่อนคอนเฟิร์มทุกครั้ง**

ข้อมูลประกอบการสมัครผ่านระบบออนไลน์ (กดโควต้า)

– หลังจากได้รับ Username และ Password แล้วต้องนำมาล็อคอินสำหรับสมัครขอใบรับรองในเว็บไซต์ www.dcy.go.th ตามวันและเวลาที่ระบุไว้
– เมื่อล็อคอินเข้ามาจะขึ้นรูปถ่ายพร้อมข้อมูลตามที่เคยลงทะเบียนไว้ ซึ่งจะไม่สามารถแก้ไขข้อมูลในส่วนนี้ได้แล้ว
– จากนั้นให้นำข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้ กรอกในใบสมัครออนไลน์ให้ครบทุกช่อง (ถ้ากรอกไม่ครบจะไม่สามารถกด Submit ได้) และเช็กความถูกต้องให้เรียบร้อยก่อนกดส่ง

  • เลขประจำตัวประชาชน

  • ชื่อ-สกุล (ภาษาไทยและอังกฤษ)

  • วัน เดือน ปีเกิด

  • ที่อยู่ตามบัตรประชาชน

  • ที่อยู่ที่ติดต่อได้สะดวก พร้อมเบอร์โทรศัพท์มือถือ และอีเมลแอดเดรส

  • ข้อมูลเกี่ยวกับหลักฐานแสดงทักษะการใช้ภาษาอังกฤษ (IELTS)

  • ข้อมูลบุคคลติดต่อในกรณีฉุกเฉิน

* หลักฐานและข้อมูลที่ต้องเตรียมในการขอใบรับรองคุณสมบัติจาก ดย. จะคล้าย ๆ กับเอกสารที่เราต้องไปยื่นตอนขอวีซ่านะคะ

สำหรับ วีซ่า Work and Holiday ประเทศออสเตรเลีย สามารถขอได้เลยหลังจากที่ได้รับใบรับรอง เพราะทางสถานทูตออสเตรเลียเริ่มนับโควต้าใหม่ทุกวันที่ 1 ก.ค. ของทุกปี แต่ใบรับรองของดย. จะหมดอายุภายใน 3 เดือนหลังจากได้รับมา จึงควรต้องรีบขอวีซ่า (ค่าวีซ่าประมาณ 495 AUD) โดยเราสามารถไปกรอก วีซ่าออสเตรเลีย ออนไลน์ได้ที่ https://immi.homeaffairs.gov.au/ เมื่อกรอกพร้อมชำระค่าวีซ่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ต้องไปเก็บลายนิ้วมือที่ VFS (ค่าบริการของ VFS ประมาณ 734 บาท) จากนั้นก็รอผลวีซ่าได้เลย และต้องขอย้ำว่า **การได้รับใบรับรองไม่ได้แปลว่าได้วีซ่านะคะ**

ค่าใช้จ่าย ในการทำวีซ่า Work and Holiday

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการเข้าร่วมโครงการ Work and holiday พี่เห็ดจะแยกออกเป็น 2 ส่วนนะคะ

ค่าใช้จ่ายในการเตรียมตัว :

– ค่าวีซ่าโดยประมาณ 12,000 บาท (อาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรเช็ก ณ วันที่ยื่นวีซ่า Work and Holiday อีกครั้ง)
– ค่าสอบ IELTS 6,900-7,500 (ยกเว้นคนที่จบอินเตอร์)
– ค่าตรวจสุขภาพ 3,000-5,000 บาท (ตามที่โรงพยาบาลกำหนด)

ค่าใช้จ่ายส่วนตัว :

– ค่าตั๋วเครื่องบิน 12,000-35,000 บาท (ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาบิน และสายการบินนั้นๆ)
– ค่าประกันการเดินทาง 9,000-30,000 บาท (ขึ้นอยู่กับกรมธรรม์และแผนที่เลือกทำ)
– Pocket money 25,000-45,000 บาท (สำหรับที่พักและค่าเดินทางในช่วงแรก)

เห็นแบบนี้แล้วมีเพื่อน ๆ คนไหนสนใจเดินทางไปหาประสบการณ์ดี ๆ กับ โครงการ Work and Holiday นี้บ้างไหมคะ พี่เห็ดชักอยากไปบ้างแล้วสิ อย่างไรก็ตาม ในการยื่นเอกสารเกี่ยวกับวีซ่า ไม่ว่าจะเป็น วีซ่าออสเตรเลีย หรือวีซ่าประเทศอื่น ๆ ควรศึกษาและอัปเดตข้อมูลก่อนการยื่นทุกครั้ง เพื่อจะได้เตรียมให้ครบและถูกต้อง ตามกระบวนการที่แต่ละสถานทูตได้กำหนดมา

และนี่ก็เป็นข้อมูลที่น่าสนใจ ที่พี่เห็ดนำมาฝากทุกคน เกี่ยวกับวีซ่าที่สามารถให้ได้ทั้งการท่องเที่ยว และทำงานในต่างประเทศ เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการดี ๆ สำหรับใครที่อยากไปทำงานในต่างประเทศในระยะสั้น เพื่อหาประสบการณ์ใหม่ ถ้าใครสนใจก็รอติดตามการอัปเดตในปีต่อ ๆ ไป พร้อมเมื่อไหร่ก็สมัครกันได้เลย

ชอบ บทความ

มัชรูมทราเวล

ทำไงดี…?

1.กด

แชร์

ต่อ

ให้เพื่อนอ่านบ้าง

2. คลิก

Like

และ

ติดตามเราได้ที่ Facebook www.facebook.com/mushroomtravel/

Likeติดตามเราได้ที่ Facebook

—————

Mushroom Travel บริการยื่นวีซ่า ท่องเที่ยว และ วีซ่าธุรกิจ ขอวีซ่า เชงเก้น

ติดต่อ แผนกวีซ่า

โทร 02 105 6234 กด 3

Line id :

@mushroomtravel

รู้จัก วีซ่า Work and Holiday ออสเตรเลีย ละเอียดครบทุกขั้นตอน พร้อมยื่น!

was last modified: by

[NEW] สิ่งที่ต้องรู้ก่อนไปสมัครงานในออสเตรเลีย, ข้อควรทราบก่อนไปทำงานออสเตรเลีย | ไป ทำงาน ออสเตรเลีย – NATAVIGUIDES

share image

ประเภทของงาน : 

คำถามแรกที่เรามักจะถามตัวเองเมื่อจะไปทำงานต่างประเทศ คือ “เราจะทำไปทำงานอะไรดี” และคำถามที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือ “มีงานอะไรให้เราทำบ้าง” 
จริงๆแล้วงานก็มีอยู่เกือบทุกประเภทที่เราทำได้ในไทย (แต่เรามักจะไม่ได้ทำในไทยและมองข้ามไป) Fair Work แบ่งประเภทของงานในที่นี้จะแบ่งออกตาม Award ( Award จะเป็นตัวแบ่งตามประเภทของงานตามกฎหมายว่าเราถูก cover โดย award ใด เช่น Fast Food Award ก็จะบอกประเภท และระดับของการจ้างงาน และเงินเดือน ของร้าน Fast Food เป็นต้น) แต่ในที่นี้ผมขอเล่าถึงลักษณะของงานประเภทต่างๆแบบคร่าวๆให้ฟังครับ ( Fair Work แบ่งประเภทงานออกเป็น 9 ประเภท ผมขออธิบายเฉพาะประเภทหลักๆที่เห็นทั้งเด็ก WAH และนักเรียนทำอยู่บ่อยๆนะครับ)

Hospitality
เป็นงานสุดฮิตประเภทหนึ่ง หมายรวมถึงงานบริการ ซึ่งฟังดูกว้างมาก ขอแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคร่าวๆดังนี้ครับ
: ร้านอาหารต่างๆ และร้านกาแฟ

ผมขออธิบายคร่าวๆในส่วนงานร้านอาหาร เพราะงานร้านกาแฟ คุณดาวเค้าเขียนแชร์ประสบการณ์การทำงานและประเภทของงานต่างๆไว้ในเวป Beyond Study Center แล้วในบทความ งานร้านกาแฟในออสเตรเลีย ครับ

สำหรับร้านอาหารทั่วไป จะแบ่งตำแหน่งออกเป็น สองประเภทหลักๆ คือ Kitchen Staff กับ Front Staff
Kitchen Staff ผมขออธิบายตำแหน่งคร่าวๆของ Kitchen staff ในร้านอาหารไทยซึ่งมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ เวลาไปทำร้านฝรั่งจะได้พอเห็นภาพเช่นกันครับ 

หมายถึงตำแหน่งล้างจาน เป็นตำแหน่งที่ดูเหมือนจะง่ายที่สุด แต่ถ้าไม่เคยทำมาจะได้รู้ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่จะล้างให้ทัน เร็ว และสะอาด เป็นตำแหน่งที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรที่ซับซ้อนมาก ล้างให้ทัน เตรียมของ หรืออาจจะหุงข้าวให้ทันตามที่ได้รับมอบหมายก็ถือว่าโอเคแล้ว หลายๆครั้งมักจะต้องรับผิดชอบการทิ้งขยะ และงานจิปาถะอื่นๆที่อาจจะเลอะเทอะหน่อยแถมมาด้วยตามสมควรครับ

: เป็นตำแหน่งผู้ช่วยในครัว โดยปกติทำหน้าที่หั่นผัก หั่นเนื้อ เตรียมของให้กับ Chef ร้านไทยบางร้านบางทีก็ใช้ตำแหน่งนี้ปนๆกันไปกับ Dish Washer ในร้าน

 หรือเรียกกันว่ามือ entrée (ออง-เทร) คำว่า Entrée ก็จะเหมือนกับ Appetizer ใน America ซึ่งหมายถึงของว่างก่อนมื้ออาหาร
ในร้านอาหารไทยจะมีเมนู Entrée ที่ฮิตๆได้แก่ ปอเปี๊ยะ (Spring rolls) , ทอดมัน (Fish cake) , สะเต๊ะ (Satay) 

บางร้านที่ยุ่งๆ คนที่ทอดหรือทำ Entrée ก็จะทอดจะทำอยู่อย่างนั้นแหละ จัดอาหารให้ทันกับความต้องการของลูกค้าและควบคุมให้คุณภาพอาหารออกมาโอเค ไม่ไหม้เกินไป ไม่ทอดออกมาแล้วไม่สุก และจัดหน้าตาให้โอเค
 

 หรือเรียกกันว่ามือแกง ทำหน้าที่ทำอาหารประเภทแกง ต่างๆ เช่น แกงเขียวหวาน ต้มยำ ต้มแซ่บ แกงแดง แกงเหลืองว่ากันไป โดยทั่วไปตามร้านต่างๆจะมีสูตรแกงให้เราปรุงอยู่ด้วยครับ 
 

 อาหารไทยในต่างแดนที่ฮิตๆกันคือ อาหารจำพวก Stir-fry ได้แก่ ผัดต่างๆ เช่น ผัดไท ผัดซีอิ๊ว ผัดกะเพรา เป็นต้น เชฟหรือที่บางที่ก็มีตำแหน่งมือผัด ไว้สำหรับทำอาหารจานฮิตพวกนี้ครับ ในร้านอาหารเชฟจะเปรียบได้เหมือนกับกัปตันบนเครื่องบินที่ต้องรับผิดชอบเยอะกว่าคนอื่นพอสมควร ดังนั้นรายได้ก็จะสูงไปด้วยครับ

หลังจากดูฝ่ายในครัวกันไปแล้ว ไปดู Front staff กันบ้าง

 หรือพนักงานเสริฟ โดยหลักๆแล้วจะทำหน้าที่ต้อนรับลูกค้า รับออเดอร์ คอยบริการลูกค้า ซึ่งจะต้องบริการมากแค่ไหนขึ้นอยู่กับลักษณะของร้านว่าเป็นร้านแบบทำนองอาหารตามสั่ง หรือว่าเป็นร้าน fine-dining 
Wait staff ควรจะต้องมีภาษาอังกฤษที่โอเคประมาณนึง อาจจะมีลุคที่ดูสะอาดสะอ้าน รู้จักประเภทของอาหาร และส่วนประกอบของแต่ละรายการ เป็นตำแหน่งที่ต้องติดต่อพูดคุยกับลูกค้า และต้องแก้ปัญหาเยอะพอสมควร 

แคชเชียร์ก็จะทำหน้าที่คิดเงินเป็นหลัก บางร้านที่ไม่วุ่นมามากก็จะให้ Cashier รับโทรศัพท์ไปด้วย งานรับโทรศัพท์เป็นงานที่อาศัยสกิลการฟังค่อนข้างมาก เพราะว่านอกจากต้องฟังรายละเอียดที่ลูกค้าค้องการแล้ว บางร้านที่มีบริการ Home delivery service ก็จะต้องจดที่อยู่ จดรายการอาหาร ชื่อให้ถูกต้องทั้งหมดด้วย (เพราะถ้าผิดกันทีก็จะวุ่นติ้วเลย)

 ในร้านที่ยุ่งจัดๆ Runner จะเป็นคนรันอาหารอย่างเดียว รับอาหารจากในครัวไปลงโต๊ะนั้นโต๊ะนี้ runner เองก็ต้องอาศัยความจำที่ดี ไม่ลงอาหารให้ผิดโต๊ะเหมือนกันครับ ไม่งั้นถ้าคิวออเดอร์รวมมาทีก็จะวุ่นเหมือนกัน และอาจจะโดนโวยกันได้

งานในผับบาร์ คาสิโน เป็นงานที่หลายๆคนอยากทำ เพราะว่าได้ค่าตอบแทนค่อนข้างสูง โดนงานทั้งสองประเภทก่อนที่จะไปทำได้เราจะต้องมี License คือ RSA สำหรับ Bars หรือร้านอาหารที่เสริฟแอลกอฮอล์ และ RCG สำหรับทำงานเกี่ยวกับตู้พนันหรือ Gaming Machine

*อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ RSA และ RCG ได้ใน มารู้จัก RSA & RCG กันดีกว่า
การมีใบพวกนี้ไม่ได้แปลว่าเราจะต้องทำงานเป็น Bartender ได้ หรือเป็น dealer ในคาสิโนที่เก่งแต่อย่างใด เพราะใบพวกนี้ถ้าเปรียบกันก็เหมือนใบขับขี่ที่อนุญาตให้เราขับรถได้ แต่เราจะขับรถแต่ละคันเก่งแค่ไหนยังไงก็อยู่ที่การฝึกฝนและขวนขวายของเราเองด้วย
งานในผับเองก็มีหลายแบบตั้งแต่ Securiy (ไม่ค่อยเห็น Asian ทำ เห็นแต่คนตัวใหญ่ๆ) Bartender หรือ Glassie ที่ทำหน้าที่เก็บแก้วที่แขกดื่มหมดแล้วเป็นหลัก (แต่เงินดี) 
 

 สำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ ทำงานโรงแรมมาแล้วโดยเฉพาะโรงแรมที่มีเครืออยู่ในต่างประเทศจะค่อนข้างได้เปรียบสำหรับการหางานประเภทนี้ครับ เด็ก WAH หลายๆคนก็ได้ไปทำงานโรงแรมกันเยอะอยู่ ทั้งในช่วงปกติ และในช่วง seasonal อย่างหน้าหนาว (ทำ ski-resort) งานมีหลากหลายฟังค์ชันตามที่รร.พึงจะมีเช่น front , เด็กยกกระเป๋า , housekeeping เป็นต้น

Cleaning 
หรือที่เรียกกันติดปากคนไทยว่างานคลีน ซึ่งก็แปลได้ตามชื่อเลย งานนี้ก็คืองานทำความสะอาดในรูปแบบต่างๆครับ
งานคลีนจะมีหลายแบบตั้งแต่ คลีนออฟฟิศ คลีนตามบ้าน คลีนร้านอาหาร ซึ่งงานคลีนแต่ละอย่างก็ใช้ทักษะที่แตกต่างและมีลักษณะงานต่างๆ กันไป 
เช่น งานคลีนออฟฟิศ โดยทั่วไปเราก็จะได้รับมอบหมายให้ทำการเก็บขยะตามโต๊ะ ปัดฝุ่น และเช็ดโต๊ะเล็กๆน้อยๆ ตลอดจนดูดฝุ่นด้วยเครื่องดูดฝุ่น เป็นต้น (นึกภาพออฟฟิศใหญ่ๆ โต๊ะทำงานเยอะๆมากๆ ทำคนเดียวทั้ง floor ก็มี)

 

งานคลีนมีค่อนข้างหลากหลาย ผมเห็นหลายๆคนก็ไปคลีน stadium กันดึกๆก็มีครับ
ที่สำคัญสำหรับงานนี้คือต้องทำให้เร็วและสะอาด สิ่งที่คนที่ทำงานคลีนส่วนใหญ่ชอบงานนี้กันเพราะได้เงินโอเค และไม่เหนื่อยมาก หมายถึงแรกๆอาจจะเหนื่อยแต่พอชินแล้วจะถือว่าค่อนข้างสบายและอาจจะทำเสร็จเร็วได้ก่อนเวลาครับ

Clerical
หรือเสมียน/งานออฟฟิศ อาจเป็นงานที่เด็ก Work and Holiday และนักเรียนอาจจะไม่ได้เน้นว่าอยากทำกันมากเหมือนงานอื่น อาจจะเพราะเบื่องานออฟฟิศที่ไทย และอาจจะเป็นเรืองของภาษาหรือคอนดิชันของวีซ่า แต่เป็นงานที่ได้ฝึกภาษาและได้เพื่อนเยอะเหมือนกัน

งานแนวๆนี้จะจ่ายค่อนข้างดี และถือว่าทำงานสบาย (ไม่เหนื่อยกาย) โดยงานประเภทที่ฮิตๆกันได้แก่ data entry หรืองานคีย์ข้อมูล 
งานที่ผมเคยทำตอนไปอยู่ใหม่ๆแถวๆ Chatswood (Sydney) ให้ทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึง 5 โมงเย็น จ่ายชม.ละประมาณ 18 AUD ก็ถือว่าทำไม่หนักและได้เงินเยอะอยู่ครับ (เพราะเป็น casual ด้วยแหละ)
งานอีกประเภทที่น่าสนใจคือ Reception แต่งานประเภทนี้จะต้องมีทักษะการพูดและการฟังค่อนข้างดีมากเพราะต้องติดต่อกับคนเยอะทางโทรศัพท์ครับ 

Fast Food
ในที่นี้หมายรวมถึงร้าน Fast food แบบ Mcdonald / KFC และร้านอาหาร take away ต่างๆ ไม่ว่าจะขายข้าว / ขนม / ice cream

สำหรับงานพวก Mc โดยทั่วไปที่เห็นคือเค้านิยมจ้างเด็ก high school มาทำมากกว่า เพราะภาษาเค้าจะได้กันอยู่แล้ว และไม่ต้องจ่ายเยอะมากเท่ากับคนที่อายุ 21 ปีขึ้นไปเพราะกม.กำหนดไว้ (แต่ตามเมืองที่ไม่ใหญ่มากก็เห็นเด็ก Work and Holiday ได้งาน Mc กันหลายคนอยู่นะครับ)

งานในประเภทนี้อีกงานนึงที่น่าสนใจและอาจจะถูกใจคนชอบกินหลายๆคนได้แก่ งานตักไอศครีม คือทำหน้ารับออเดอร์ และตักไอศครีมใส่ และคิดเงิน ทอนเงินตลอดจนเปิดร้าน ปิดร้าน
สำหรับร้านอาหารไทย และร้านอาหารประเภทอื่นๆตาม food court / food centre บางร้านก็จะมีขายแบบข้าวแกงบ้านเรา เป็นอาหารตักๆ ก็เลยจะมีตำแหน่งตักอาหารด้วยครับ 
ทักษะที่สำคัญสำหรับงานประเภทนี้คือ เราต้องฟังลูกค้าให้รู้เรื่อง เพราะเวลาทำผิดไปเวลาร้านวุ่นๆจะเสียเวลามาก และจะโดนเจ้านายและเพื่อนร่วมงานดุเอาได้ครับ

Hair & Beauty
งานร้านทำผม สปา และงานที่เกี่ยวกับความสวยงามต่างๆ : สำหรับคนที่มีทักษะด้าน ทำผม ทำเล็บ สปา อยู่แล้วก็จะได้เปรียบทางด้านนี้ครับ ในที่นี้ขอรวมถึงร้านนวดไปด้วยเลยแล้วกัน :>

สำหรับร้านทำผมเองคงค่อนข้างยากที่จะรับคนไม่มีประสบการณ์เลย แต่ก็มีบ้างที่เค้ารับผุ้ชายตาม salon ของทั้งไทยและต่างชาตินะครับ (แบบมาลองทำดูก่อน)
พูดถึงงานนวดเป็นอีกงานที่ฮิตสำหรับเด็ก Work and Holiday และนักเรียน โดยเฉพาะงานนวดในร้านนวดไทย 
ไม่เจาะจงว่าเป็นชาติไหน แต่สำหรับงานประเภทนี้สิ่งนึงที่ต้องระวังกันหน่อยก็คือร้านนวดแอบแฝงครับ

โดยทั่วไปร้านดีๆ เค้าก็จะมีการป้องกันพนักงานเค้า และยินดีให้พนักงานไม่ต้องนวดได้หากมีการพูดจาเชิงที่จะชวนให้ทำบริการแปลกๆ และให้ลูกค้าคนนั้นออกไปครับ
งานตัดผมมีทั้งทำตามร้าน และช่างผมไทยบางคนก็รับตัดผมให้ที่บ้านตัวเอง หรือตามบ้านลูกค้าด้วยบ้างเหมือนกันครับ

Horticulture 
หรือที่เรียกกันติดปากว่างานฟาร์มนั่นเอง งานนี้เป็นงานที่ฮิตเสมอสำหรับเด็ก Work and Holiday เพราะมีงานอยู่เรื่อยๆตลอดปี 
ข้อดีคือถ้าทำกับ backpacker ที่เค้าหางานให้ก็จะได้เรทดี และได้เพื่อนต่างชาติเยอะ

Working holiday makers ต่างชาติจะนิยมทำงานฟาร์มกันเพราะเค้าจะสามารถขอ 2nd visa ได้หลังจากทำงานฟาร์มใน regional area ครบ 3 เดือน แต่ของเราต่อไม่ได้นะครับไม่ว่าจะทำหรือไม่ทำก็ตาม
ส่วนงานฟาร์มที่อาจจะหาง่ายกว่าแต่ได้รับเงินน้อยกว่ามักจะเป็นงานฟาร์มที่ทำกับ Contractor ครับ โดยมากแล้ว Contractor เหล่านี้มักจะเป็นคน South East Asia ด้วยกัน เช่น กัมพูชา ไทย เวียดนาม และอาจมีอินเดียบ้างประปราย 
โดยเค้าจะหางาน หาที่พักให้ แต่ก็จะหักค่าชม.เราไปตาม(ที่เค้าเห็นว่า)สมควรครับ

งานมีตั้งแต่ไร่องุ่น สวนส้ม เชอร์รี่ สตอร์เบอร์รี่ และพืชพันธุ์อื่นๆตามแต่จะนึกออกซึ่ง ซึ่งต้องการแรงงานตั้งแต่ขุดดิน หว่านพืช ปลูกต้นกล้า ตัดกิ่ง และอื่นๆ 
เป็นงานที่ถือว่าหนักพอสมควรเพราะต้องสู้แดดสู้ฝนตลอดครับ นึกภาพชาวสวนบ้านเรานี่แหละ 
งานฟาร์มโดยทั่วไปจะเป็นงานฟาร์มที่เกี่ยวกับพืชซะมากกว่า น้อยคนที่จะไปทำงานฟาร์มสัตว์ครับ (คงมีบ้างแต่ผมไม่ค่อยได้ยิน)

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานฟาร์ม
การเตรียมตัวไปทำงานฟาร์ม
เล่าเรื่องการทำงานฟาร์ม by Closer
The girl in the capital city of kiwi fruit

Retail
ในที่นี้หมายถึงงานในร้านขายปลีกทั่วไป มีประเภทของงานหลากหลายตั้งแต่ งานร้านขายของที่ระลึก งานร้านสะดวกซื้อ งานร้านขายของชำ งานร้านเสื้อผ้า เครื่องประดับ งานขายของในห้างสรรพสินค้า งานร้านขายวิตามิน และ Supermarket
งานพวกนี้ถ้าตามเมืองใหญ่ๆก็จะมีร้านที่เจ้าของเป็นคนไทย และเน้นขายคนไทยไปเลยครับ ดังนั้นภาษาอังกฤษก็อาจจะไม่ต้องเด่นมากก็ได้ แต่ก็ต้องเป็นคนที่คล่องพอสมควร พูดจาชวนคุยเก่ง เป็นต้น 
งานขายของในห้างสรรพสินค้า เช่น Myer จะเป็นงานที่หลายๆคนอยากทำ ซึ่งมีนักเรียนและ PR ทำอยู่ แต่สำหรับผู้ถือ WAH แล้วอาจจะโดนจำกัดด้วยประเภทของวีซ่าเหมือนกันครับ

งานประเภทนี้เป็นงานนึงที่หลายๆคนอยากทำ เพราะดูแล้วค่อนข้างสบาย ได้ฝึกภาษา 
สรุปกันคร่าวๆว่างานประเภทนี้ควรจะต้องคล่อง ภาษาอังกฤษค่อนข้างดี ทำงานเป็นระบบ พูดและแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่งพอสมควรครับ ที่สำคัญก็คือต้องมีความรู้เรื่อง products ที่จะขายอย่างดี และสามารถอธิบายได้เป็นภาษาอังกฤษ

Others
นอกจากประเภทที่กล่าวมาแล้วก็ยังมีงานที่เราอาจจะยังไม่ได้กล่าวถึง ยังนึกไม่ถึง หรือไม่คุ้นอื่นๆอีกมาก เช่น สำหรับคนไทยเองก็จะมีงานนวดแผนไทย งานดรอปเมนู (เอาเมนูร้านอาหารไปเดินหย่อนตาม mailbox ตามบ้าน จ่ายค่าแรงตามจำนวน เช่น 1000 ใบได้ 50 AUD เป็นต้น) ส่ง Home (ขับรถส่งอาหาร – Home delivery)

หรือสำหรับนักเรียน อาจจะรับสอนพิเศษในสาขาที่เราเรียนอยู่ หรืออาจจะสอนภาษาไทยให้กับชาวต่างชาติที่สนใจก็ได้ครับ

 

วิธีหางานและการเตรียมพร้อม

นอกจากประเภทของการจ้างงาน และชนิดของงานที่ได้กล่าวมาแล้ว ผมแนะนำให้อ่านอีกสองบทความนี้ด้วยครับ

 การหางานในออสเตรเลีย

เป็นการแนะนำว่าเราควรจะมีการเตรียมพร้อมอย่างไร และมีเวปไซต์อะไรบ้างที่ใช้บ่อยๆในการหางานในออสเตรเลีย

การสมัคร TFN online เมื่อไปถึงออสเตรเลีย

TFN หรือ Tax File Number เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับใช้ในการทำงานในออสเตรเลีย เพราะก็คือเลขประจำตัวผู้เสียภาษี

สุดท้ายเป็นกระทู้ที่เป็นตัวอย่าง Resume format ที่ใช้กันในออสเตรเลีย ที่ผมทำเป็นตัวอย่างไว้ให้ครับ 🙂

ตัวอย่าง Resume สำหรับหางานในออสเตรเลีย

 

 

ที่มา : www.thaiwahclub.com   

ติดต่อ : www.facebook.com/thaiwahclub หรือ [email protected]

 


แนะนำวีซ่าทำงานออสเตรเลีย working holiday เรียนต่อออสเตรเลีย แบบละเอียดยิบ ไม่หมกเม็ด | Nanainsydney


เรามาดูกันว่ามีวีซ่าประเภทไหนบ้างที่เราสามารถทำงานได้ในออสเตรเลีย
1.วีซ่า นักเรียน
สามารถทำงานได้20ชม ต่อ สัปดาห์
ไม่จำกัดอายุ แต่คอร์สที่เรียนต้องสอดคล้องกับเหตุผลที่ขอวีซ่านะคะ
สเตเม้นท์ 400000700000บาท (สำหรับ6เดือน) ถ้ามากกว่า6เดือน สามารถเช็คได้โดยตรงกับเอเจนซี่ที่มีความน่าเชื่อถือนะคะ
2.working holiday visa
อายุ1830ปี
มีผลiels : overall4.5 ,up หรือเทียบเท่า
ทำงานfull time ได้ ลงเรียนได้จำกัด ชม.
สเตเม้นท์ 200,000บาท ประมาณนี้นะคะ
ต้องรอกดโควต้าของแต่ละปีให้ได้ เพราะแต่ละปีจะมีโควต้าให้ เช่นล่าสุดเริ่ม 2019 มีโควต้าให้คนไทย2000คน
3. วีซ่าท่องเที่ยว
ไม่สามาถทำงานได้
ถ้าสนใจอยากเรียนสามารถยื่นวีซ่าได้ในภายหลังได้ค่ะ อยู่ที่condition ในวีซ่าของแต่ละคนนะคะ
4.working visa
ต้องผลภาษา Iels :
อายุ ไม่เกิน45 ปี
5. Aupair ใช้วีซ่า working holiday visa นะคะ
ต้องมีผลiels 4.5 overall up
ไม่มีประวัติ อาชญากรรม
สามารถว่ายน้ำได้
โสด
6.partner visa
วีซ่าแต่งงาน หรือวีซ่าคู่รัก
ไม่จำกัดอายุ
..
..
ข้อมูลที่เราได้แนะนำเพื่อนๆไปแล้วขอย้ำ..
ว่าเป็นข้อมูลเบื้องต้นนะคะ… การยื่นวีซ่าต้องปรึกษาผู้เขี่ยวชาญด้านการยื่นวีซ่าและเอเจนซี่ที่มีความน่าเชื่อถือได้นะคะ …หากเพื่อนๆมีคำถามอะไรคอมเม้นมาได้เลยนะคะ..จะรีบมาตอบคำถามแน่นอนค่ะ…
เราเข้าใจถึงคนที่อยากมาใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศมากค่ะ .. เพราะเราก็เป็นอีกคนนึงที่ชอบหาข้อมูลเบื้องต้นก่อนเดินทางเหมือนกัน….ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ😘😘🌼🌟
ข้อมูลคร่าวๆ ลองอ่านบทความเกี่ยวกับวีซ่านักเรียนจากลิ้งค์นี้ได้นะคะ พี่เค้าเขียนละเอียดพอสมควร.. https://ateducation.co.th/studyinsydney/
ติดตามทางfacebook page: https://www.facebook.com/SydneyAustraliaมีดีกว่าที่คุณคิด164282530330796/
🌼🌼
Ig:https://www.instagram.com/nanainsydney/
อยากไปทำงานออสเตรเลีย ย้ายประเทศกันเถอะ วีซ่าทำงานออสเตรเลีย วีซ่า นักเรียนออสเตรเลีย Wah aus

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

แนะนำวีซ่าทำงานออสเตรเลีย working holiday เรียนต่อออสเตรเลีย แบบละเอียดยิบ ไม่หมกเม็ด | Nanainsydney

ยื่น Statement เท่าไหร่? Pocket money💸 การหาที่พัก/การเดินทางในออสเตรเลีย🇦🇺 Ep.2 | Juneissaree


สวัสดีค่ะ เราจะมาอธิบายในเรื่อง Statement ที่เรายื่น , วิธีการหาที่พัก , การเดินทางในออส และ เทคนิคการวางแผนเก็บเงินเพื่อจ่ายค่าเรียนของเรา
ย้ำนะคะว่า ประสบการณ์(ของเรา)ในตอนที่เราไปนะคะ😊
หวังว่าคลิปนี้จะมีประโยชน์กับคนที่กำลังหาข้อมูลไปประเทศออสเตรเลียนะค้าา💘
เราไปเรียนภาษาที่ Australia | Melbourne 🇦🇺
ใครที่ยังไม่ได้ดู Ep.1 จิ้ม https://youtu.be/YPDrV3g7JV0
Instagram : https://instagram.com/juneniissum?utm…
Facebook : https://www.facebook.com/jissaree/
Contact me
[email protected]
LINE : juneniissum (for work)
Facebook page : June Issaree
ออสเตรเลีย เรียนต่อออสเตรเลีย เรียนต่อต่างประเทศ Melbourne Australia
เรียนภาษา

ยื่น Statement เท่าไหร่? Pocket money💸 การหาที่พัก/การเดินทางในออสเตรเลีย🇦🇺 Ep.2 | Juneissaree

รายได้เดือนละแสน จากการทำงานฟาร์มในออสเตรเลีย |เสพติดชีวิตเร่ร่อน| #ออสเตรเลีย


ออสเตรเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่ค่าแรงสูงติดอันดับโลก คลิปนี้จะพาไปดูบรรยากาศการทำงานฟาร์มองุ่นในออสเตรเลีย
เป็นอีกงานที่ฮิตสำหรับคนไทยที่ต้องการมาทำงานเก็บเงิน

รายได้เดือนละแสน จากการทำงานฟาร์มในออสเตรเลีย |เสพติดชีวิตเร่ร่อน| #ออสเตรเลีย

เปิดเผยรายได้\u0026รายจ่าย การทำงานฟาร์มที่ออสเตรเลีย#ที่นี่ออสเตรเลีย


รายได้ที่ได้ของแต่ละคนไม่เท่ากันนะคะ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละคน และรายจ่ายก็แล้วแต่จะประหยัดแค่ไหน วันนี้นำรายได้ 3 เดือนมาให้ดูกันค่ะ

เปิดเผยรายได้\u0026รายจ่าย การทำงานฟาร์มที่ออสเตรเลีย#ที่นี่ออสเตรเลีย

ต้นทุนน้อย ก็สามารถมาเรียนและทำงานออสเตรเลียได้


➤อย่าลืมกดติดตามที่ช่องด้วยนะคะ
▲Youtube : https://goo.gl/SwC0Xh
▲Facebook page : https://goo.gl/F0PNmz
▲Instragram : https://www.instagram.com/maryy_pt/

ต้นทุนน้อย ก็สามารถมาเรียนและทำงานออสเตรเลียได้

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ไป ทำงาน ออสเตรเลีย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *