Skip to content
Home » [NEW] รูปแบบการใช้ Past Simple ในภาษาอังกฤษ | กริยา 3 ช่อง ของ work – NATAVIGUIDES

[NEW] รูปแบบการใช้ Past Simple ในภาษาอังกฤษ | กริยา 3 ช่อง ของ work – NATAVIGUIDES

กริยา 3 ช่อง ของ work: คุณกำลังดูกระทู้

Past simple (พาสทฺ ซิมเพิล) หมายถึง “อดีตกาล” ใช้เพื่อกล่าวถึง เหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่จำเพาะเจาะจง (definite time) เช่น เมื่อวานนี้ (yesterday เยสเทอะเดย์), ปีที่แล้ว (last year ลาสทฺ เยียร์), เมื่อคืนที่แล้ว (last night ลาสทฺ ไน้ทฺ), ในปี 1990 (in 1990) เป็นต้น

ในเรื่อง Past simple นี้เกี่ยวข้องกับคำกริยาช่องที่ 2 กล่าวคือถ้าเป็น คำกริยาปกติ (regular verbs เรกิวเลอะ เวิบสฺ) สามารถเปลี่ยนเป็นช่อง 2 ด้วยการเติม -ed ข้างท้าย แต่ถ้าเป็นกริยาอปกติ (irregular verbs เออเรกิวเลอะเวิบสฺ) ก็จำเป็นต้องท่องจำหรือใช้ให้บ่อยครั้ง เช่น
กริยาปกติ                                 กริยาอปกติ
work worked (เวคทฺ)                     go went (เว้นทฺ)
live lived (ลิฟดฺ)                              build built (บิ้ลทฺ)
play played (เพลดฺ)                        see saw (ซอ)
ตัวอย่าง
Tony lives in London now. He lived in Manchester last year. ตอนนี้โทนี่อาศัยอยู่ในกรุงลอนดอน ปีที่แล้วเขาอาศัยอยู่ใน-
แมนเซสเตอร์
Tony stayed at home last night. He didn’t go out with his friend. เมื่อคืนที่แล้วโทนี่อยู่บ้าน เขาไม่ได้ออกไปข้างนอกกับเพื่อนของเขา

สังเกตได้ว่า รูปของคำกริยาในตัวอย่างที่เป็นการกระทำในอดีต จะเป็นช่อง 2 ฉะนั้นจึงควรจะทราบถึงรูปแบบ (forms) ของ Past simple ดังนี้

รูปของ Past simple
(1) Statement form (สเตทเม้นทฺฟอม) หรือในภาษาไทยเรียกว่า “รูป บอกเล่า” ประกอบด้วย
ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 2 +ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กับ
ภาคประธาน + was/were + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
อธิบาย กริยาแท้ช่อง 2 มีอยู่สองแบบที่นักเรียนต้องเรียนรู้ นั่นคือ
ก. กริยาแท้ปกติ หรือภาษาอังกฤษเรียก regular verbs (เรทิวเลอะ เวิบสฺ) คำกริยาแท้ประเภทนี้เมื่อเปลี่ยนให้เป็นช่องที่ 2 กระทำได้โดย

1. เติม -ed ข้างท้าย เช่น
work – worked            walk – walked
wash – washed             watch – watched

2. หากคำกริยาแท้ปกติใดลงท้ายด้วย e อยู่แล้ว ให้เติม d ต่อไปข้าง
ท้าย เช่น
type – typed                   operate – operated
change – changed         smoke – smoked

3. ส่วนคำกริยาแท้ใดลงท้ายด้วย y และมีอักษรพยัญชนะอยู่หน้าอักษร y ให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วจึงเติม -ed เช่น
play – played            spray – sprayed
employ – employed        delay – delayed

ข. กริยาแท้อปกติ หรือภาษาอังกฤษเรียก irregulat verbs (อิเรกิวเลอะ เวิบสฺ) คำกริยาแท้ประเภทนี้ต้องอาศัยการจดจำ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงแตกต่างไปจากคำกริยาแท้ปกติเมื่อเป็นช่อง 2 เช่น
go – went        set – set
ring – rang    break – broke

หมายเหตุ สามารกหาซื้อหนังสือ กริยา 3 ช่อง ซึ่งได้รวบรวมคำกริยาแท้ปกติทั้ง 3 ช่องได้ตามร้านจำหน่ายหนังสือ หนังสือเล่มดังกล่าวจัดพิมพ์ โดยสำนักพิมพ์พัฒนาศึกษา กรุงเททมหานคร
ตัวอย่าง
I bought a new car three days ago.
ผมซื้อรถยนต์คันใหม่มาเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา
When I dropped my cup, the coffee spilled on my lap.
เมื่อผมทำถ้วยหล่น กาแฟได้หกราดบนหน้าตักของผม
Last night I went to the cinema.
เมื่อคืนดิฉัน ได้ไปชมภาพยนตร์

(2) Negative form (เนเกอทิฟวฺ ฟอม) หรือในภาษาไทยเรียกว่า “รูป ปฏิเสธ” ประกอบด้วย
ภาคประธาน + did not + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กับ
ภาคประธาน + was/were not + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กับ
ภาคประธาน + กริยาช่วยช่อง 2 + not + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรม หรือส่วนขยาย
อธิบาย รูปย่อของ     did not = didn’t
was not = wasn’t
were not = weren’t
กริยาแท้ช่อง 1 หมายถึง กริยาแท้ที่ไม่มีการเติม -s, -es, -ed, -ing
ไม่ใช่กริยาแท้ช่อง 1     ใช่กริยาแท้ช่อง 1
works                work
broke                break
cleaning           clean
watches           watch

กริยาช่วยช่อง 2 หมายถึง กริยาช่วยอื่น นอกเหนือจาก did, was, were ได้แก่ could, might
รูปย่อของ could not = couldn’t ; might not = mightn’t
ตัวอย่าง
He wasn’t busy yesterday.
เขาไม่ได้มีธุระยุ่งเมื่อวานนี้
I didn’t sleep for eight hours last night.
ผมไม่ได้นอนหลับเป็นเวลาถึง 8 ชั่วโมงเมื่อคืนที่แล้ว
This year John can play badminton, but last year he couldn’t
(play it).
ปีนี้จอห์นเล่นแบดมินตันได้ แต่ปีที่แล้วเขาเล่นไม่ได้

(3) Yes-No question (เยส โน เควสเชิ่น) หรือในภาษาไทยคือ “คำถาม ที่ผู้ตอบจะตอบว่า Yes/No” ประกอบด้วย
กรณีที่ไม่มีกริยาช่วยอยู่ภายในประโยค
Did + ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กรณีมีกริยาช่วยที่ไม่ใช่ was/were อยู่ภายในประโยค
กริยาช่วยช่อง 2 + ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กรณีมีกริยาช่วยที่เป็น was/were
Was/Were + ภาคประธาน + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
ตัวอย่าง
Did you go to Bangkok yesterday?
เมื่อวานนี้คุณไปกรุงเทพฯ ใช่ไหม
Were you a student two years ago?
คุณเป็นนักเรียนใช่ไหมเมื่อสองปีที่แล้ว
Could you swim when you were five years old?
คุณว่ายน้ำได้ใช่ไหม เมื่อตอนที่คุณอายุห้าขวบ

(4) Wh-word question (ดับเบิลยู เอช เวิด เควสเชิ่น) หรือในภาษา ไทยคือ “คำถามที่ขึ้นต้นประโยคด้วย Wh-words ได้แก่ What, When, Where, Why, How long, … ฯลฯ” ประกอบด้วย
กรณีที่ต้องใช้กริยาช่วย did เพราะไม่มีกริยาช่วยอื่นใด
Wh-word + did + ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
กรณีมีกริยาช่วยช่อง 2 อยู่แล้ว แต่ไม่ใช่ was/were
Wh-word + กริยาช่วยช่อง 2 + ภาคประธาน + กริยาแท้ช่อง 1 + ภาคกรรม/ส่วนขยาย
กรณีมีกริยาช่วย was/were

Wh-word + was/were + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
ตัวอย่าง
How long was the film?
ภาพยนตร์มีความยาวเท่าไร
What did you do last night ?
เมื่อคืนที่แล้วคุณทำอะไร?
Where were you yesterday?
เมื่อวานนี้คุณอยู่ที่ไหน

การใช้ Past simple
1. ใช้แสดงเหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นและจบสิ้นสมบูรณ์ในอดีต โดยปกติมักมีข้อความที่บ่งบอกเวลาที่เหตุการณ์นั้นๆ ได้เกิดขึ้นมาในอดีต อาทิ yesterday, last night, two days ago, in 1990, … ฯลฯ
ตัวอย่าง
I walked to school yesterday.
เมื่อวานนี้ผมเดินไปโรงเรียน
He bought a new car three days ago.
เขาซื้อรถยนต์คันใหม่เมื่อสามวันที่ผ่านมา

2. ใช้แสดงเหตการณ์หรือสถานการณ์ที่ยาวนาน หรือเหตุการณ์ซ้ำๆ ที่เกิดขึ้นและจบไปเรียบร้อยตั้งนานแล้วในอดีต
ตัวอย่าง
I spent all my childhood in Scotland.
ดิฉันใช้ชีวิตตลอดวัยเด็กในประเทศสกอตแลนด์
Regularly every summer, Jenny fell in love.
ทุกๆ ฤดูร้อน เจนนีตกอยู่ในความรัก

3. ถ้าในประโยคมีคำว่า when และมีรูปกริยาเป็นอดิต (past simple form) ทั้งสอง clauses จะถือว่าการกระทำใน when clause เกิดขึ้นก่อน
ตัวอย่าง
I Stood under a tree when it began to rain.
ผมยืนอยู่ใต้ต้นไม้เมื่อตอนฝนตก
When she heard a strange noise, she got up to investigate.
เมื่อเธอได้ยินเสียงแปลกๆ เธอได้ลุกขึ้นจากที่นอนไปตรวจดู
When I dropped my cup, the coffee spilled on my lap.
เมื่อผมทำแก้วหล่น กาแฟได้ราดลงบนหน้าตักของผม

4. ใช้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เช่น เล่าเรื่องในอดีต
ตัวอย่าง
Once upon a time there was a beautiful princess who lived
with her father. One day the king decided
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้าหญิงผู้เลอโฉมองค์หนึ่งอาศัยอยู่กับพระ ราชบิดา วันหนึ่งกษัตริย์ได้ตัดสินใจ…

ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 35,742 times, 3 visits today)

[NEW] Eng Hero เรียนภาษาอังกฤษ ออนไลน์ ฟรี | กริยา 3 ช่อง ของ work – NATAVIGUIDES

Post on 16 / 02 / 20

by: English Hero

961 viewed

วันนี้เรามาเรียนรู้เรื่องที่ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายกันต่อเลยดีกว่า

 

            

ความหมายของ Phrase (วลี)

          Phrase คือ กลุ่มคำที่เกี่ยวพันธ์กัน มีความหมายชัดเจนในตัวเอง สามารถใช้แทนชนิด คำนาม คำคุณศัพท์ หรือคำกริยาวิเศษณ์ แต่ความหมายนั้นยังไม่สมบูรณ์ ไม่มีประธาน หรือกริยาแท้เป็นของตัวเอง ต้องอาศัยอยู่ในประโยค เนื้อความนั้นจึงจะสมบูรณ์  

                วลี ได้แก่ กลุ่มคำที่มีความหมาย แต่ไม่ใช่ประโยค (sentence) หรือ อนุประโยค (clause)

ในแง่ของไวยากรณ์ Phrase (วลี) คือ กลุ่มคำที่ไม่ใช่เพียงแค่มีความหมายเท่านั้น แต่มีสถานะในเชิงไวยากรณ์อีกด้วย วลีนั้นๆ อาจมีสถานะเป็นคำประเภทใดประเภทหนึ่ง หรือจัดอยู่ในส่วนต่างๆ

ของคำพูด (parts of speech) กล่าวคือ วลีดังกล่าวนั้น อาจจะมีหน้าที่เป็นคำนาม (noun), คำคุณศัพท์ (adjective), คำกริยาวิเศษณ์ (adverb), หรือ คำกริยา (verb) เป็นต้น อยู่ในประโยคนั้นๆ

 

 

ประเภทของวลี

วลีแบ่งออกเป็น 5 ประเภทใหญ่ ๆ คือ

  • นามวลี(noun phrase) จะมีคำนามเป็นหลัก เช่น  women with long hair
  • กริยาวลี(verb phrase) จะมีคำกริยาแท้เป็นหลัก เช่น must have been thinking
  • คุณศัพท์วลี(adjective phrase) จะมีคำคุณศัพท์เป็นหลัก เช่น very happy
  • กริยาวิเศษณ์วลี(adverb phrase) จะมีคำกริยาวิเศษณ์เป็นหลัก เช่น very thoroughly
  • บุพบทวลี(prepositional phrase) จะมีคำบุพบทเป็นหลัก เช่น in the warehouse

 

  1. นามวลี(noun phrase)

 

                1.1 โครงสร้างของ noun phrase 

คำหลักใน noun phrase คือ คำนามหรือคำสรรพนาม  โดยอาจมีโครงสร้างใดโครงสร้างหนึ่งต่อไปนี้

  • คำกำกับนามและคำนาม

เช่น  these houses

  • คำกำกับนาม ส่วนขยายหน้าคำนาม และคำนาม

เช่น  these big houses

  • คำนามและส่วนขยายหลังคำนาม

เช่น  houses made of wood

  • คำกำกับนาม คำนาม และส่วนขยายหลังคำนาม

เช่น  some houses made of wood

  • ส่วนขยายหน้าคำนามคำนาม และส่วนขยายหลังคำนาม

เช่น  big houses made of wood

  • คำกำกับนาม ส่วนขยายหน้าคำนามคำนาม และส่วนขยายหลังคำนาม

เช่น  some big houses made of wood

                ขอให้สังเกตว่า noun phrase มักมีคำกำกับนามและส่วนขยายเข้ามาเกี่ยวข้อง  โดยส่วนขยายส่วนมากจะเป็นคำคุณศัพท์   ในการใช้คำคุณศัพท์และคำนามขยายคำนามหลัก สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ ลำดับตำแหน่งของคำขยายเหล่านั้นเมื่อนำมาวางไว้ข้างหน้าคำนามหลัก  โดยทั่วไปคำคุณศัพท์ที่ใช้ขยายคำนามจะมีเพียงสองสามคำ  แต่บางครั้งอาจมีส่วนขยายได้หลากหลาย โดยมีลำดับของคำคุณศัพท์และคำนามขยายหน้าคำนามหลักดังนี้

คำกำกับนาม

(determiner)

ความรู้สึก หรือความคิดเห็น

(feeling/opinion)

ขนาด หรือ รูปร่าง

size/shape

อายุ

(age)

สี

(color)

ต้นกำเนิด  หรือที่มา

(origin)

วัสดุ

(material)

คำนามหลัก

(head noun)

a

practical

small

old

German

knife

that

big

new

brown

plastic

bag

this

beautiful

long

black

Japanese

nylon

umbrella

 

                อย่างไรก็ตาม การเรียงลำดับคำคุณศัพท์หน้าคำนามหลัก อาจผิดไปจากลำดับที่กล่าวไว้ในที่นี้ได้ โดยวางคำที่ต้องการเน้นไว้ใกล้คำนามหลักมากกว่า เช่น

                a sick young boy (เด็กน้อยที่มีอาการเจ็บป่วย)

                a young sick boy (เด็กคนป่วยที่ยังมีอายุน้อย)

 

                1.2 หน้าที่ของ noun phrase   นามวลีทำหน้าที่เช่นเดียวกับคำนาม เช่น

                                1.2.1 เป็นประธาน  เช่น

                                                All the passengers were safe.

                                1.2.2 เป็นกรรม  เช่น

                                                We really enjoyed the food at that restaurant.

                                1.2.3 เป็นกรรมตรงและกรรมรอง  เช่น

                                                The manager gave all of us (กรรมรอง)  a double raise. (กรรมตรง)

                                1.2.4 เป็นส่วนเสริมประธาน  เช่น

                                                The clock was a Christmas present from the ABC Company.

                                1.2.5 เป็นส่วนเสริมกรรม  เช่น

                                                We considered Mr. Johnson the best employee.

                                1.2.6 เป็นกรรมของบุพบท  เช่น

                                                The box of chocolates is intended for your children.

                                1.2.7 เป็นส่วนขยายคำนามอื่น  เช่น

                                                John suffers from back problems. 

                                1.2.8 เป็นกริยาวิเศษณ์  เช่น

                                                School starts next month.

 

 

  1. กริยาวลี(verb phrase)

 

verb phrase ประกอบด้วย main verb (กริยาแท้) และ auxiliary verb (กริยาช่วย) ใน verb phrase หนึ่ง ๆ อาจมีกริยาช่วยมากกว่า 1 คำ 

ตัวอย่าง

  • Jane will workon a night shift.

(will work เป็น verb phrase ซึ่งมี work เป็นกริยาแท้ และ will เป็นกริยาช่วย) 

  • Jane will be workingon a night shift next week.

(will be working เป็น verb phrase ซึ่งมี working เป็นกริยาแท้  ส่วน will และ be เป็นกริยาช่วย) 

verb phrase ทำหน้าที่เช่นเดียวกับคำกริยา คือ บอกให้ทราบว่าประธานของประโยคทำอะไร หรือเกิดอะไรขึ้นกับประธานของประโยค

 

  1. คุณศัพท์วลี(adjective phrase)

 

                3.1 โครงสร้างของ adjective phrase 

adjective phrase ประกอบด้วยคำคุณศัพท์กับส่วนขยายคำคุณศัพท์  ซึ่งมีทั้งประเภทที่อยู่หน้าคำคุณศัพท์ และประเภทที่อยู่หลังคำคุณศัพท์  โดยอาจมีโครงสร้างใดโครงสร้างหนึ่งต่อไปนี้

  • ส่วนขยายที่อยู่หน้าคำคุณศัพท์และคำคุณศัพท์

เช่น  very happy

  • คำคุณศัพท์และส่วนขยายที่อยู่หลังคำคุณศัพท์

เช่น happy to see you

  • ส่วนขยายที่อยู่หน้าคำคุณศัพท์ คุณศัพท์ และส่วนขยายที่อยู่หลังคำคุณศัพท์

เช่น  very happy to see you

                3.2 หน้าที่ของ adjective phrase   คุณศัพท์วลีทำหน้าที่เช่นเดียวกับคำคุณศัพท์ เช่น

                                3.2.1 ทำหน้าที่ขยายคำนาม เช่น

                                                Highly sensitive people are hard to deal with.

                                3.2.2 ทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมประธาน เช่น

                                                The children are very happy to see their parents.

                                3.2.3 ทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมกรรม เช่น

                                                The teachers made us aware of the importance of the entrance exams.

                                3.2.4 ทำหน้าที่ขยายคำสรรพนาม โดยอยู่ข้างหลังคำสรรพนามที่ถูกขยาย เช่น

                                                I want to eat something very spicy.

 

  1. กริยาวิเศษณ์วลี(adverb phrase)

 

                4.1 โครงสร้างของ adverb phrase 

adverb phrase ประกอบด้วยคำกริยาวิเศษณ์กับส่วนขยาย ซึ่งมีทั้งประเภทที่อยู่ข้างหน้าและประเภทที่อยู่ข้างหลังคำกริยาวิเศษณ์  โดยอาจมีโครงสร้างใดโครงสร้างหนึ่งต่อไปนี้

  • ส่วนขยายที่อยู่หน้าคำกริยาวิเศษณ์ และคำกริยาวิเศษณ์

เช่น  very quickly

  • คำกริยาวิเศษณ์ละส่วนขยายที่อยู่หลังคำกริยาวิเศษณ์ 

เช่น quickly indeed

  • ส่วนขยายที่อยู่หน้าคำกริยาวิเศษณ์คำกริยาวิเศษณ์  และส่วนขยายที่อยู่หลังคำกริยาวิเศษณ์ 

เช่น  very quickly indeed

                4.2 หน้าที่ของ adverb phrase  กริยาวิเศษณ์วลีทำหน้าที่เช่นเดียวกับคำกริยาวิเศษณ์  ดังนี้

                                4.2.1 ทำหน้าที่ขยายคำกริยา คำคุณศัพท์ และคำกริยาวิเศษณ์อื่น เช่น

                                                Henry walked extremely quickly.

                                                These umbrellas are very beautifully made.

                                4.2.2 ทำหน้าที่ขยายประโยค เช่น

                                                Surprisingly indeed, everybody survived in the car accident.

 

  1. บุพบทวลี(prepositional phrase)

 

                5.1 โครงสร้างของ prepositional phrase 

prepositional phrase ประกอบด้วยคำบุพบทและส่วนเสริม (complement) ซึ่งตำราบางเล่มจะเรียกว่า กรรมของบุพบท  ส่วนเสริมมี 3 ประเภทคือ

  • ส่วนเสริมที่เป็นnoun phrase

เช่น  through the back door

  • ส่วนเสริมที่เป็นnoun clause

เช่น  from what I have heard

  • ส่วนเสริมที่อยู่ในรูปกริยาเติม(v–ing)

เช่น  after speaking to you

                5.2 หน้าที่ของ prepositional phrase   บุพบทวลีทำหน้าที่ดังต่อไปนี้

                                5.2.1 ทำหน้าที่ขยายประธานของประโยค โดยอยู่ตามหลังกริยา BE หรือกริยาเชื่อม (linking verb) เช่น

                                                Mr. Johnson is in the meeting room.

                                5.2.2 ทำหน้าที่ขยาย noun phrase โดยอยู่ในตำแหน่งหลัง noun phrase ที่ถูกขยาย เช่น

                                                Jane took a course in advanced mathematics.

                                                Kate bought a house with a beautiful garden.

                                5.2.3 ทำหน้าที่ขยายคำคุณศัพท์ โดยอยู่ในตำแหน่งหลังคำคุณศัพท์ที่ถูกขยาย เช่น

They are aware of the danger of the AIDS virus.

I am happy with what I have.

                                5.2.4 ทำหน้าที่ขยายประโยค เช่น

In fact, the economy is improving.

In my opinion, people are basically good.

 

 

ที่มา: http://www.stou.ac.th/

 


ติว TOEIC ครูดิว : กริยา 3 ช่อง ท่องตั้งเเต่ประถม ไม่เคยจำได้!!


คะแนน TOEIC สร้างงาน สร้างเงิน ใครยังไม่รู้จะติวที่ไหนมาติวกับครูดิวได้นะคะ
✿ ถ้าพื้นฐานน้อย แนะนำหาคอร์สติวดีกว่าค่ะ! ✿
👉 ติว TOEIC กับครูดิวเลย (ทดลองติวฟรี!) ➡️ https://bit.ly/2wR4Gmu

Adverbs of Frequency คือ Adverb กลุ่มที่ใช้บอกความถี่ของการกระทำค่ะ เช่นพวก always, usually, often, sometimes, rarely เป็นต้น จะมีวิธีจำยังไงให้ง่ายๆ นะ? มาครูดิวไปดูกันค่ะ

✿ คอร์ส KruDew ติว TOEIC มีอะไรให้บ้าง? ✿
✅Grammar ที่ใช้สอบ TOEIC ให้ครบ เริ่มสอนจากพื้นฐาน เรียนได้ทุกคนแน่นอน
✅เทคนิคช่วยจำต่างๆ จำง่าย เอาไปใช้กับข้อสอบได้จริงๆ
✅เก็งศัพท์ TOEIC ออกข้อสอบบ่อยๆ ให้ครบ
✅ อัพเดทข้อสอบ New TOEIC ล่าสุด ครบ 200 ข้อ
✅สามารถสอบถามข้อหรือจุดที่สงสัยได้ตลอด
✅การันตี 750+ (ถ้าสอบแล้วไม่ถึง สามารถทวนคอร์สได้ฟรี)
📣 ถ้าไม่อยากพลาดคลิปดีๆแบบนี้ อย่าลืมกด ❤️ Subscribe ❤️กันนะคะ
ติวTOEIC สอบTOEIC

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

ติว TOEIC ครูดิว :  กริยา 3 ช่อง ท่องตั้งเเต่ประถม ไม่เคยจำได้!!

100 กริยา 3 ช่อง ท่องยังไง?? (ใช้บ่อยมาก)


100 กริยา 3 ช่อง ท่องยังไง จำได้แน่!!
3 verb forms
@EnglishThai Downunder เรียนภาษาอังกฤษฟรี แต่งประโยคภาษาอังกฤษ โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษฟรี
เรียนภาษาอังกฤษกับครูฟาง, ฝึกภาษาอังกฤษ, อยากเก่งภาษาอังกฤษ, ติวสอบภาษาอังกฤษ, ติวภาษาอังกฤษ, ภาษาอังกฤษพื้นฐาน, ประโยคภาษาอังกฤษ, ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน, อยากเก่งภาษาอังกฤษ, คำศัพท์อังกฤษ, English lesson, แกรมม่าภาษาอังกฤษ, บทเรียนภาษาอังกฤษ

100 กริยา 3 ช่อง ท่องยังไง?? (ใช้บ่อยมาก)

Irregular Verbs | Learn All Irregular Verbs in One Song


Irregular Verbs | Learn All Irregular Verbs in One Song
💥 CHECK OUT NEW SONG: Prepositions of Place 👉 https://youtu.be/HjCeMJKNRGY
Prepositions of Time 👉 https://youtu.be/2N0u_PL6RiQ
© 2019 All rights reserved by Lingportal Online School of English
Singing songs in English is a simple but effective way of learning the language.
This video will help you to make a difficult process, like learning Irregular Verbs become an enjoyable experience!
irregularverbs, englishgrammar
See more videos here https://www.youtube.com/playlist?list=PLxSMFOK97J0MdJ3KZt38UJZIo8ug0l1Tu
Visit our website for free english learning materials and check out our courses : https://lingportal.com/
Easy way of learning English words FREE: Lingwiser App! https://lingportal.com/lingwiser

Join Perfect English Pronunciation Online Course https://lingportal.com/onlinecourses/pronunciation/
The Lingportal Channel team thanks Adam Daffurn a writer and composer who creates unique musical compositions for learning English. And, we also express a deep appreciation to his talent, creativity and high professional qualities.
email:[email protected]
Best wishes,
Lingportal Online School of English

CONTACT Lingportal:
Lingportal Website: https://lingportal.com/
Find us on Facebook: https://www.facebook.com/lingportal/

Irregular Verbs | Learn All Irregular Verbs in One Song

เทคนิคการผันกริยา 3 ช่อง


จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้
ติดตาม Facebook และ Instagram : The Happy Time with Q
หากผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขออภัยมานะที่นี้ด้วยค่ะ 😀

เทคนิคการผันกริยา 3 ช่อง

SIRO VÀ MÈO SIMMY TRÀ TRỘN SẢNH LIÊN THÔNG CHƠI BEDWARS CÙNG FAN TRONG MINI WORLD


SIRO VÀ MÈO SIMMY TRÀ TRỘN SẢNH LIÊN THÔNG CHƠI BEDWARS CÙNG FAN TRONG MINI WORLD
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬\r
🔹 UID Mini world Siro: 11202405\r
🔹 Nick name Minecraft: Moc Nhan\r
🔹 Nimo TV: https://www.nimo.tv/siromw\r
👌 Cộng Đồng MiniWorld Việt Nam http://bit.ly/MiniWorldVN\r
➡️IP Sever của Hero nè: https://heromc.net/\r
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬\r
🎥 Đăng ký kênh Siro Official: http://bit.ly/2ZvvrFq\r
🔹 LIÊN HỆ QUẢNG CÁO : [email protected]\r
➡️ HERO TV: http://bit.ly/heroteamtv\r
👱 [Facebook cá nhân] : https://www.facebook.com/thientan24\r
💬 [Fanpage]: https://www.facebook.com/tanhuynh09/\r
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬\r
➖ ĐĂNG KÍ CHO HERO TEAM ➖\r
➡️ Mèo Simmy: https://goo.gl/3Vt539\r
➡️ Mister Vit: http://bit.ly/2wi7int\r
➡️ Timmy TV: http://bit.ly/2oU1TR9 \r
➡️ Phong Cận TV: https://bit.ly/2PzcVGQ\r
➡️ Kamui TV: http://bit.ly/kamuitv\r
➡️ Siro Official: http://bit.ly/2ZvvrFq\r
➡️ SammyTV: https://bit.ly/2HwhEqV\r
➡️ KaironTV: https://bit.ly/2ATgGjL\r
➡️ Khang Dừa: https://goo.gl/7CiN5W\r
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬\r
Theo dõi mạng xã hội của Siro\r
👱 Instagram : https://www.instagram.com/soihuynh97/\r
💬 Facebook Fanpage: https://www.facebook.com/tanhuynh09/\r
💬 Facebook cá nhân: https://www.facebook.com/thientan24\r
💬 Facebook Group: NHÓM SIÊU ANH HÙNG (HERO TEAM): http://bit.ly/heroteam\r
🌏 Cộng Đồng Minecraft Việt Nam: http://bit.ly/minecraftvietnam\r
\r
Nhạc sử dụng trong video được cấp phép bởi\r
Kevin Macleod: https://www.youtube.com/user/kmmusic\r
NCS: https://www.youtube.com/user/NoCopyri…\r
\r
Siro SiroOfficial SiroMiniWorld

SIRO VÀ MÈO SIMMY TRÀ TRỘN SẢNH LIÊN THÔNG CHƠI BEDWARS CÙNG FAN TRONG MINI WORLD

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ กริยา 3 ช่อง ของ work

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *