Skip to content
Home » [NEW] รวมวิธีพูดภาษาอังกฤษแบบมืออาชีพในสถานการณ์ต่าง ๆ สำหรับคนทำงาน ตอนที่ 2 | ต่าง คน ต่าง อยู่ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] รวมวิธีพูดภาษาอังกฤษแบบมืออาชีพในสถานการณ์ต่าง ๆ สำหรับคนทำงาน ตอนที่ 2 | ต่าง คน ต่าง อยู่ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ต่าง คน ต่าง อยู่ ภาษา อังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

เราเคยแนะนำวิธีการพูดภาษาอังกฤษแบบมืออาชีพในสถานการณ์ต่าง ๆ ไปบ้างแล้วในบทความตอนที่ 1 แต่อย่างที่เรารู้กันดีว่าในโลกของการทำงานนั้นยังมีสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เราต้องเผชิญอีกมากมาย วันนี้ JobThai เลยมีวิธีการพูดภาษาอังกฤษในอีกหลาย ๆ สถานการณ์ที่คนทำงานอย่างเราต้องเจอมาฝาก

 

ดาวน์โหลด JADOH Learning Application ได้ที่นี่

iOS

Android

 

เคยไหมที่เรากำลังรองานบางอย่างจากเจ้านาย แต่เขาก็ยังไม่ทำงานนั้นให้เราสักที? ถ้าเจอสถานการณ์แบบนี้ เราสามารถบอกเจ้านายให้เขาทำงานแบบสุภาพ ๆ ได้ด้วยการใช้ประโยคที่แสดงออกว่าเรารู้ว่าเจ้านายก็มีงานยุ่งมาก และคงจะไม่มีเวลามากนัก เช่น “Have you had a chance to review…?” หรือ “Have you had the opportunity to look at…?” ซึ่งแปลว่า “ได้มีโอกาสดู…รึยังคะ?”

 

หลายครั้งที่เราต้องพูดคุยกันเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ อย่างเช่นเรื่องงบประมาณในการทำงานหรือโปรเจกต์ต่าง ๆ ซึ่งขั้นตอนที่จะทำให้รู้สึกลำบากใจที่สุดก็คงหนีไม่พ้นตอนที่เราต้องการถามว่าเขาจะจ่ายเงินให้เราเท่าไหร่ จะให้ถามโต้ง ๆ ออกไปว่า “How much do you want to pay?” “คุณอยากจะจ่ายเท่าไหร่” ก็ดูจะตรงเกินไป ซึ่งถ้าเราอยากจะถามให้ฟังดูสุภาพมากขึ้น ก็สามารถพูดได้ 2 แบบ คือ

1. “Do you have a ballpark budget?”

2. “What is your price point for something like this?”

 

โดยทั้งสองประโยคเราสามารถใช้ได้ในกรณีที่ต้องการถามลูกค้าถึงจำนวนเงินที่เขาต้องการจ่ายให้เราแบบสุภาพ ๆ ว่าเขามีงบประมาณเท่าไหร่สำหรับงานที่กำลังพูดคุยกันอยู่

 

หลาย ๆ ครั้งที่คนทำงานอย่างเราต้องทำงานที่มีกระบวนการต่าง ๆ มากมายและต้องมีคนหลายคนเข้ามามีส่วนร่วมในงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นเพื่อร่วมงาน เจ้านาย หรือแม้แต่ลูกค้า แต่ปัญหาที่คนจำนวนไม่น้อยเจอกันก็คือ คนเหล่านั้นยังไม่ทำงานในส่วนที่พวกเขาต้องรับผิดชอบให้เสร็จสักที ซึ่งถ้าเราอยากจะตามงานขึ้นมา ก็มี 3 วิธีที่เราสามารถใช้ได้โดยไม่ฟังดูหยาบคายเกินไป

 

1. เตือนเขาอย่างสุภาพผ่านข้อความหรืออีเมล

ในกรณีนี้เราจะใช้วลีว่า “A gentle reminder…” “ขออนุญาตแจ้งเตือน…” ซึ่งจริง ๆ แล้วเราอาจจะกำลังสื่อให้เขารับรู้ว่า ‘อย่าลืมเรื่องนี้นะ’ เช่น “A gentle reminder on the 18 puppies we need for our shoot next week!” “ขออนุญาตเตือนค่ะ อย่าลืมเรื่องลูกสุนัข 18 ตัวที่เราจะใช้สำหรับการถ่ายทำสัปดาห์หน้านะคะ”

 

2. ถามถึงแผนการดำเนินงาน

ใช้ประโยคคำถามถามถึงแผนการดำเนินงานและระยะเวลาที่งานจะเสร็จ แบบไม่กดดันเขาเกินไป โดยถามว่า “What’s your timeline on…?” “แผนการดำเนินงานมีอะไรบ้าง?” เช่น “What’s your timeline on getting in touch with our pancake supplier?” “แผนการดำเนินงานเพื่อติดต่อผู้จัดหาแพนเค้กมีอะไรบ้าง?” การถามแบบนี้ เมื่อผู้ตอบตอบแผนงานของเขามา เราก็เห็นถึงระยะเวลาที่คาดว่างานจะเสร็จได้

 

3. ถามว่าเขาต้องการความช่วยเหลืออะไรไหม

แทนที่จะถามว่างานไปถึงไหนแล้ว เราอาจจะถามเขาว่ามีอะไรให้เราช่วยเกี่ยวกับงานนี้ไหมแทน โดยใช้ประโยคว่า “Would you like any help on…?” “คุณต้องการความช่วยเหลือตรงไหนไหม?” เช่น “Would you like any help on that travel article?” “มีอะไรให้ช่วยเกี่ยวกับบทความท่องเที่ยวไหม?”

 

 

หลายคนมักจะติดใช้คำว่า Um, Uh, Just หรือ Really เพียงแค่เพราะว่าอยากจะถ่วงเวลาให้มีเวลาคิดนานขึ้นก่อนจะพูดอะไรออกมา ซึ่งการใช้คำพวกนี้โดยไม่ได้มีความหมายอะไรเป็นพิเศษมันทำให้ดูเหมือนเราขาดความมั่นใจ ดังนั้นถ้าอยากมีเวลาคิดเพิ่มขึ้น ลองเปลี่ยนมาใช้ 3 วิธีนี้แทน

 

1. ชมว่าเป็นคำถามที่ดีมาก

หลังจากฟังคำถามจบ ให้พูดออกไปก่อนว่า “That’s a great question.” “คำถามนี้ดีมากเลยค่ะ” เพื่อให้เรามีเวลาคิดสักแป๊บนึง แล้วค่อยตอบคำถาม ซึ่งนี่อาจจะเป็นโอกาสให้เราชมคนที่ถามคำถามได้ด้วย

 

2. ทวนคำถามที่เขาถาม

ใช้วิธีการทวนคำถามที่เขาถามมาอีกครั้ง ด้วยการพูดว่า “So what you’re asking is…” “สิ่งที่คุณกำลังถามคือ…” นอกจากจะถ่วงเวลาได้แล้ว ยังเป็นการทวนให้มั่นใจอีกครั้งด้วยว่าเราฟังคำถามถูกและเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการถามจริง ๆ

 

3. ตั้งสติและหยุดคิด

ไม่ต้องพูดอะไร แต่ให้หายใจเข้าลึก ๆ พยักหน้า หยุดสักนิด เพื่อตั้งสติและคิดสิ่งที่เราอยากจะพูด แล้วค่อยพูดออกมา

 

การจะตอบคำถามให้ออกมาดีนั้นเราควรจะมีการวางโครงสร้างการตอบคำถามด้วย เพื่อเรียงลำดับเหตุการณ์หรือความสำคัญของสิ่งที่เราต้องการจะสื่อ ซึ่งเราอาจจะใช้วิธีเรียบเรียงคำตอบแบ่งให้ใจความที่ต้องการจะสื่อสารออกมาเป็น 3 ส่วน โดยใช้คำเชื่อมที่ทำให้ฟังดู Professional มากขึ้น โดยเริ่มต้นด้วยคำว่า “Firstly” ที่แปลว่า “อย่างแรก” เพื่อเป็นการเริ่มต้นบทสนทนา จากนั้นเราค่อยอธิบายเพิ่มเติมโดยใช้คำว่า “Secondly” “อย่างที่สอง” มาเชื่อมเนื้อหาที่เราจะพูด และก่อนที่เราจะจบสิ่งที่ต้องการพูด ก็อาจใช้คำว่า “Above all” “เหนือสิ่งอื่นใด” เป็นขั้นสุดท้าย

เมื่อเราถูกถามคำถามที่ไม่ใช่แค่อธิบายคำตอบเท่านั้น แต่ต้องมีการยกตัวอย่างเหตุการณ์หรือสถานการณ์ประกอบด้วย แทนที่เราจะพูดตัวอย่างเหล่านั้นเลย เราควรจะเริ่มต้นด้วยประโยคว่า “A great example that comes to mind is…” “ตัวอย่างที่นึกออกคือ…” เพื่อไม่ให้คำตอบหรือตัวอย่างที่เรายกมานั้นฟังดูห้วนเกินไป เช่น ถ้าเรากำลังสัมภาษณ์งานอยู่ และถูกถามถึงประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาเราก็สามารถใช้ประโยคดังกล่าว ก่อนจะอธิบายงานที่เราเคยทำ ด้วยการพูดว่า “A great example that comes to mind is when I worked in jewellery company as a marketing officer.”

 

ในการขอความช่วยเหลือจากคนอื่น เราสามารถพูดให้น่าฟังและสุภาพมากขึ้นได้ ด้วยการใช้คำว่า Would และ Could ซึ่งสามารถใช้ขึ้นต้นประโยคต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ตัวอย่างเช่น

1. “Would you be able to print out the last meeting report?” “รบกวนช่วยปริ้นต์รายงานการประชุมครั้งก่อนให้หน่อยได้ไหมคะ?”

2. “Could you possibly help me with the new program?” “รบกวนช่วยดูโปรแกรมใหม่หน่อยได้ไหมคะ?”

 

ถ้าเราเห็นว่าเพื่อนร่วมงานกำลังยุ่งกับการทำงาน หรือกำลังดูเหมือนมีปัญหาอะไรบางอย่างที่เราน่าจะเข้าไปช่วยได้ เราสามารถพูดเพื่อเสนอตัวให้ความช่วยเหลือเขาได้ง่าย ๆ ด้วย 3 ประโยค ดังนี้

1. “Is there anything I can help?” “มีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้ไหม?”

2. “Can I give you a hand?” “ให้ฉันช่วยอะไรไหม?”

3. ถ้าถามแล้วแต่เขาตอบว่ายังไม่มีอะไรให้ช่วย เราก็ยังสามารถพูดได้อีกว่า “Give me a shout if you need anything.” “ถ้าเธอต้องการอะไรก็บอกฉันได้เลยนะ” เพื่อให้เขารู้ว่าเรายังคงพร้อมจะช่วยเขาอยู่

 

หลายครั้งที่เกิดปัญหาในการทำงานเนื่องจากการสื่อสารที่ผิดพลาด และไม่มีการคอนเฟิร์มข้อมูลต่าง ๆ ให้ชัดเจน และให้แน่ใจว่าทุกฝ่ายเข้าใจและได้รับข้อมูลที่ตรงกัน ซึ่งการพูดเพื่อคอนเฟิร์มนั้น มี 2 ประโยคที่สามารถนำไปใช้ได้ คือ

1. “I just want to make sure that…”

2. “I just want to be absolutely clear that…”

 

โดยทั้ง 2 ประโยคนี้มีความหมายว่า “ฉันต้องการคอนเฟิร์มว่า…” ซึ่งหลังจากพูดแล้วเราสามารถพูดรายละเอียดเรื่องที่เราต้องการคอนเฟิร์มต่อได้เลย

 

คนทำงานแทบทุกคนต้องเคยผ่านการนำเสนอมาแล้วทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นงานหรือโปรเจกต์ต่าง ๆ และการเริ่มต้นการนำเสนอที่ดีจะช่วยดึงดูดความสนใจจากคนที่กำลังฟังเราได้ โดยเฉพาะการบอกให้คนฟังรู้ตั้งแต่เริ่มว่าในการนำเสนอครั้งนี้ เรากำลังจะพูดถึงเรื่องอะไรบ้าง ซึ่งเราสามารถพูดตามสเต็ปได้ดังนี้

1. แนะนำตัวเองและพูดถึงหัวข้อที่เราจะนำเสนอด้วยประโยคที่ว่า “Today, I’m going to present…”

2. จากนั้นให้บอกผู้ฟังถึงประเด็นคร่าว ๆ ที่เราจะพูด ว่าเราจะเริ่มที่เรื่องอะไร ด้วยประโยค “I’ll start by…” และจะต่อด้วยเรื่องอะไร ด้วยประโยค “And then I’m going to move on to explain…”

3. อย่าลืมจบประเด็นสุดท้ายที่เราจะนำเสนอด้วยคำว่า “Finally”

 

ตัวอย่าง

Hello, my name is Lita from Cargo Express. I am very happy to be here. Today, I’m going to present our brand new tracking system. I’ll start by telling you a bit about Cargo Express and some services we provide at our company. And then I’m going to move on to explain how this new tracking system works. Finally, you will have a chance to try this system and ask questions.

 

เป็นยังไงบ้างกับการพูดภาษาอังกฤษในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เราเอามาฝากกัน แต่นอกจากทั้งหมดในบทความนี้แล้ว เรายังมีภาษาอังกฤษสำหรับคนทำงานอีกหลายบทความรอคุณอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการพูดตามสถานการณ์ต่าง ๆ หรือการใช้คำศัพท์ที่จะทำให้ดู Professional มากขึ้น คลิกที่บทความที่สนใจได้เลย

 

 

หางาน สมัครงานง่าย ๆ ด้วย JobThai Mobile Application

iOS

Android

Huawei AppGallery

 

 

JobThai Official Group เพื่อการหางาน หาคน และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำงาน

Public group · 200,000 members

Join Group

 

[Update] 10 ประโยคภาษาอังกฤษเวลาไปร้านขายยาในต่างประเทศ มีประโยคและคำศัพท์อะไรที่จำเป็นบ้าง วันนี้เลยจัดมาให้อ่านเป็นความรู้กันจ้า | ต่าง คน ต่าง อยู่ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES


บทความในเว็ปบล็อกวันนี้ ขอแนะนำ ประโยคภาษาอังกฤษเวลาไปร้านขายยาในต่างประเทศ มีประโยคและคำศัพท์อะไรที่จำเป็นบ้าง

ก็ขอสวีดัด สวัสดี๊ดีเพื่อนๆชาวโลกออนไลน์ที่น่ารักสุดขั้วระรัวถึงใจ งามวิไลกันทุกๆคนนะค่ะ ดิฉันคุณนายเว่อร์ เธอก็ขอมาเป็นคนบ้าทักทายและลั๊ลลา ต้อนรับผู้อ่านทุกๆคนเข้าสู่เว็ปบล็อกของคนบ้าเขียนบล็อกแนวๆโกโรโกโส สับปะรังเค ท่านใด้เปิดอ่านกันจนปวดหัวปวดสมอง ประลองปัญญา ช่ะช่ะช่าหัวใจกันอีกเหมือมเดิมค๊า

เพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไป บทความวันนี้ ขอมาแบ่งปันสรรหาสาระดีๆเกี่ยวกับภาษาอังกฤษเล็กๆน้อยมาฝากเพื่อนอีกครั้งจ้า โดยวันนี้ขอนำเสนอบทความเกี่ยวกับประโยคภาษาอังกฤษเวลาไปร้านขายยาในต่างประเทศ แน่นอนเลยว่า หากใครที่เกิดเจ็บป่วยระหว่างทางขึ้นมาแบบอาการไม่หนักมาก และต้องแวะไปตามร้านขายยา จะต้องพะว้าพะวงกับภาษาอังกฤษแน่ๆค่ะ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องใช้คำว่าอะไร และประโยคที่จะใช้ถามตามร้านขายยา มีประโยคอะไรบ้างนะ

เพราะตัวอิชั้นเองตอนแบกเป้ไปเที่ยวยุโรปมานั้น เล่าจากประสบการณ์จริงๆเลยนะค่ะ ได้แวะไปตามร้านขายยา แล้วสื่อสารกับเภสัชกรตามร้านขายยาไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลยค่ะ เพราะนึกคำศัพท์และประโยคที่จำถามไม่ออก ไม่รู้ว่าจะใช้คำอะไรบ้าง อีกอย่างตอนไปเที่ยว โทรศัพท์มือถือก็เกิดป่วย แอ๊กซิเด้นท์ สัญญาณเน็ตหลุดใ ช่ไม่ได้อีก เอาล่ะสิ จะพึ่งโทรศัพท์มือถือก็ใช่ไม่ได้แล้ว กลายเป็นว่า ยิ่งสื่อสารไม่เข้าใจไปกันใหญ่เลยจ้า แต่ยังดีที่ยังมีตัวอย่างยาอยู่ในกระเป๋า แสดงให้เภสัชกรดู ก็พอช่วยให้เค้าพอเข้าใจตัวอย่างได้บ้าง แต่ก็มานึกเสียดาย เราน่าจะเตรียมตัวและรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการไปร้านขายยามากกว่านี้นะ เพื่อจะได้สื่อสารกันเข้าใจได้มากขึ้น

เพื่อไม่ให้สาเวเลียและเสียเวลาไปกว่านี้ วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเลยขอเลิกจากงานประจำ มาแนะนำประโยคภาษาอังกฤษแบบง่ายๆถือว่าเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน พอๆถูๆไถ เป็นประโยชน์บ้าง เพราะส่วนใหญ่เราก็ไม่ค่อยจะทราบกันนะค่ะ จริงๆแล้วสำคัญมากนะ เพราะพอเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ต้องใช้ในยามเจ็บป่วย และต้องแวะร้านยา ก็จะทำให้เรารู้ประโยคที่จำถาม และคำศัพท์ที่พอเข้าใจได้พอ (แต่ก็อย่าลืมพกมือถือใส่สัญญาณเน็ตไปด้วย ก็จะช่วยได้เยอะเลย แม้จะเสียเวลาก็ตาม)

มาอ่านกันดูสิว่าประโยคภาษาอังกฤษเวลาไปร้านขายมีประโยคอะไรบ้าง เผื่อนำไปใช้ประโยชน์แบบถูๆไถๆไปค่ะ

1.Excuse me Mam,I have a stomachache.
(เอ๊กคิวมี แหม่ม,ไอ แฮฟ อะ สตอมมัชเอค)
ขอประทานนะค่ะ คุณผู้หญิง(คนขายยา) ฉันมีอาการปวดท้อง

Do you have some medicines for stomachache? 
(ดู ยู แฮฟ ซัม เมดิซิน ฟอร์ สตอมมัชเอค) 
คุณมียาสำหรับรักษาอาการปวดท้องใหม๊ค่ะ?

2.Could I speak with pharmacist, please. หรือ Are you pharmacist?
(คูด ไอ สปีค วิท ฟาร์มาซีท พลีส) หรือ ( อาร์ ยู ฟาร์มาซีท) ?
ผมขอพูดกับเภสัชกรประจำร้านได้ใหม๊ หรือ คุณเป็นเภชสัชกรใช่ใหม๊
(กรณีที่บางร้านไม่ได้มีเภสัชกรประจำ ต้องสอบถามเพื่อความแน่ใจ เนื่องจากอาการที่เราเป็น อาจต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านยา ตอบและจัดยาให้)

3.Do you have a medicine similar to this one? 
(ดู ยู แฮฟ อะ เมดิซีน ซิมิลาร์ ทู ดิช วัน)
คุณมียาเหมือนแบบนี้ไหม(ใช้กรณีนำตัวอย่างยามาให้ร้านดู)


4. ร้านขายยา : What are you allergic to?
(วอท อาร์ ยู แอลเลอะจิค ทู)
คุณแพ้อะไรยาบ้างไหม๊?

ผู้ซื้อ : No.ไม่ (ถ้าไม่มีอาการแพ้ก็ตอบ…ไม่)
Yes. I have allergic with penicillin
(เยส ไอ แฮฟ )
(แต่ถ้ามีอาการแพ้ต้องระบุอาการไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น ใช่…ฉันแพ้ยาเพนนิซลิน)

5.How should I take the drug?
(ฮาว ฟรีเควินทลี ชูด ไอ เทค เธอะ ดรัก
ผมต้องทานยาอย่างไร

ยกตัวอย่างทางร้านอาจตอบมาว่า
You should take 1 pills for 3 time before meal 30 minute
คุณสามารถทานยา 1 เม็ด 3 ครั้ง หลังอาหาร 30 นาที

6.Does it have any side-effects?
(ดาส อิท แฮฟว เอนนี ไซด เอฟเฟคทซ)
มันจะมีผลข้างเคียงอะไรไหม


7.if it doesn’t clear up after a week, you should see your doctor.
(อีฟ อิท ดาทซึน เคลียร์ อัพ อัฟเตอร์ อะ วีค ยู ชูท ซี  ยัว ดอกซ์เตอร์ )
ถ้ามันไม่หายภายใน 1 อาทิตย์, คุณควรจะไปหาหมอ

8.Can you recommend anything for…?
ยกตัวอย่างอย่าง Can you recommend anything for stomachache
(แคน ยู เรคคะเมนด เอนนีธิง ฟอร์ สตอมมัชเอช?)
คุณช่วยแนะนำอะไรสักอย่างสำหรับยารักษาอากาปวดท้องหน่อยได้ใหม๊

9.Can it make my feel drowsy?
(แคทอิท เมค มาย ฟีล ดรานซี?)
ยาตัวนี้มันจะทำให้ฉันรู้สึกง่วงใหม๊

10.I’m allergic with penicillin.Do you have any other drugs?
(ไอแอม แอลเลอะจิค วิท เพนนิชซะลิน, ดู ยู แฮฟ เอนนี่ ออเตอร์ ดรักซ์)
ฉันแพ้ยาเพนนิซซะลิน คุณยาประเภทอื่นใหม๊
————————————-
คำศัพท์อื่นๆเกี่ยวกับอาการป่วย I’m sick (ไอแอมซิค)= ฉันไม่สบาย
I have heartburn (ไอแอมฮาทเบิร์น)= ฉันรู้สึกจุก
I feel travel sickness (ไอฟีลแทรเวลซิคเนส) = ฉันมีอาการเมารถ/เมาเรือจากการเดินทางIndigestion (อินไดเจสชัน) = อาหารไม่ย่อย
chapped lips (แชพท ลิพส)= ปากแห้งแตก/ปากลอก
athlete’s foot แอธลีทส ฟุท = น้ำกัดเท้า/เชื้อราที่เท้า
hay fever (เฮย์ ฟีเวอะ) แพ้ละออง/เกสรดอกไม้
cold sores (โคลด ซอร์ส)=โรคปากนกกระจอก/ปากเปื่อย
stomachache (สตอมมัคเอค)=อาการปวดท้อง
eyestrain  (อายสเตรน) =อาการเพลียตา
toothache  (ทูธเอค) =อาการปวดฟัน
sore throat   (ซอรฺ โธรท)  =อาการเจ็บคอ
stuffy nose  (สตัฟฟี โนส) = อาการคัดจมูก
nose bleed   (โนส บลีด)  =อาการเลือดกำเดาไหล
insomnia   (อินซอมเนีย)  =อาการนอนไม่หลับ
nauseous   (นอเซียส)=คลื่นไส้
vomit   (วอมิท) = อาเจียน
bruise  (บรูซ) = แผลฟกช้ำ
cough   (ค๊อคซ) =ไอ
inflamed  (อินเฟลม) = อักเสบ
runny nose (รันนี โนส) = น้ำมูกไหล
phlegm (เฟลม) = เสมหะ
swollen  (สวอลเลิน) = อาการบวม
pus  (พัส) = เป็นหนอง
gastritis   (แกซไทรซิส) = โรคกระเพาะอาหารอักเสบ
food poisoning (ฟูด พอยเซินนิง) =อาหารเป็นพิษ
diarrhea   (ไดเออะเรีย) = ท้องร่วง
———————————-
คำศัพท์เกี่ยวกับเวชภัณฑ์ที่ร้านขายยา
antiseptic =ยาระงับเชื้อ
aspirin = ยาแอสไพริน
travel sickness tablets = ยาแก้เมารถเมาเรือ
bandages =ผ้าพันแผล
cough mixture= ยาน้ำแก้ไอ
Diarrhea tablets = ยาเม็ดแก้ท้องร่วง
painkillers = ยาแก้ปวด
paracetamol =ยาพาราเซตามอล
eye drops = ยาหยอดตา
first aid kit = ชุดปฐมพยาบาลเบื่องต้น
indigestion tablets = ยาแก้อาหารไม่ย่อย
laxatives =  ยาระบาย
lip balm / lip salve = ลิปทาริมฝีปาก
thermometer =ปรอทวัดความร้อน
nicotine patches =แผ่นนิโคติน
plasters = ผ้าพันแผล
prescription = ใบสั่งยา
sleeping tablets  = ยานอนหลับ
throat lozenges  =  ยาอมแก้เจ็บคอ
vitamin pills = เม็ดวิตามิน

เป็นยังไงบ้างค่ะสำหรับประโยคภาษาอังกฤษเล็กน้อยๆเกี่ยวกับการไปซื้อยาที่ร้านขายยาในต่างประเทศ น่าจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะค่ะ หากมีข้อผิดพลาด ประการใด ดิฉันเองต้องขออภัยคุณผู้อ่านทุกๆท่านมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านที่เสียสละเวลาคลิ๊กเข้ามาลั๊ลลาอ่านกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะค่ะ….จากคุณนายเว่อร์ เทอร์เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน
———————————————————————–

บทความบล็อกอื่นๆ และรีวิวท่องเที่ยวตามเมืองต่างๆ มีดังนี้ค่ะ

เรื่องน่ารู้กับประโยคภาษาอังกฤษถามทุกข์สุข นอกจากคำว่า How are you? แล้ว มีคำว่าอะไรอีกบ้าง

นอกจากคำว่า How are you? แล้ว มีคำว่าอะไรอีกบ้าง คลิ๊กดูรายละเอียดบทความ>>

พารีวิวชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร

กรุงเทพ เสพความรู้แบบไทยๆ เดินชมในนิทรรศการจิ๋นซีฮ่องเต้

อายุนานกว่า 2,000 ปี

ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :

หรือดูเนื้อหาบทความได้ที่เว็ปไซต์

ดูภาพรีวิวได้ที่เว็ปไซต์ :

ก็ขอสวีดัด สวัสดี๊ดีเพื่อนๆชาวโลกออนไลน์ที่น่ารักสุดขั้วระรัวถึงใจ งามวิไลกันทุกๆคนนะค่ะ ดิฉันคุณนายเว่อร์ เธอก็ขอมาเป็นคนบ้าทักทายและลั๊ลลา ต้อนรับผู้อ่านทุกๆคนเข้าสู่เว็ปบล็อกของคนบ้าเขียนบล็อกแนวๆโกโรโกโส สับปะรังเค ท่านใด้เปิดอ่านกันจนปวดหัวปวดสมอง ประลองปัญญา ช่ะช่ะช่าหัวใจกันอีกเหมือมเดิมค๊าเพื่อไม่ให้เว็ปบล็อกร้างไป บทความวันนี้ ขอมาแบ่งปันสรรหาสาระดีๆเกี่ยวกับภาษาอังกฤษเล็กๆน้อยมาฝากเพื่อนอีกครั้งจ้า โดยวันนี้ขอนำเสนอบทความเกี่ยวกับประโยคภาษาอังกฤษเวลาไปร้านขายยาในต่างประเทศ แน่นอนเลยว่า หากใครที่เกิดเจ็บป่วยระหว่างทางขึ้นมาแบบอาการไม่หนักมาก และต้องแวะไปตามร้านขายยา จะต้องพะว้าพะวงกับภาษาอังกฤษแน่ๆค่ะ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องใช้คำว่าอะไร และประโยคที่จะใช้ถามตามร้านขายยา มีประโยคอะไรบ้างนะเพราะตัวอิชั้นเองตอนแบกเป้ไปเที่ยวยุโรปมานั้น เล่าจากประสบการณ์จริงๆเลยนะค่ะ ได้แวะไปตามร้านขายยา แล้วสื่อสารกับเภสัชกรตามร้านขายยาไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลยค่ะ เพราะนึกคำศัพท์และประโยคที่จำถามไม่ออก ไม่รู้ว่าจะใช้คำอะไรบ้าง อีกอย่างตอนไปเที่ยว โทรศัพท์มือถือก็เกิดป่วย แอ๊กซิเด้นท์ สัญญาณเน็ตหลุดใ ช่ไม่ได้อีก เอาล่ะสิ จะพึ่งโทรศัพท์มือถือก็ใช่ไม่ได้แล้ว กลายเป็นว่า ยิ่งสื่อสารไม่เข้าใจไปกันใหญ่เลยจ้า แต่ยังดีที่ยังมีตัวอย่างยาอยู่ในกระเป๋า แสดงให้เภสัชกรดู ก็พอช่วยให้เค้าพอเข้าใจตัวอย่างได้บ้าง แต่ก็มานึกเสียดาย เราน่าจะเตรียมตัวและรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการไปร้านขายยามากกว่านี้นะ เพื่อจะได้สื่อสารกันเข้าใจได้มากขึ้นเพื่อไม่ให้สาเวเลียและเสียเวลาไปกว่านี้ วันนี้คุณนายเว่อร์ เธอเลยขอเลิกจากงานประจำ มาแนะนำประโยคภาษาอังกฤษแบบง่ายๆถือว่าเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน พอๆถูๆไถ เป็นประโยชน์บ้าง เพราะส่วนใหญ่เราก็ไม่ค่อยจะทราบกันนะค่ะ จริงๆแล้วสำคัญมากนะ เพราะพอเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินที่ต้องใช้ในยามเจ็บป่วย และต้องแวะร้านยา ก็จะทำให้เรารู้ประโยคที่จำถาม และคำศัพท์ที่พอเข้าใจได้พอ (แต่ก็อย่าลืมพกมือถือใส่สัญญาณเน็ตไปด้วย ก็จะช่วยได้เยอะเลย แม้จะเสียเวลาก็ตาม)(เอ๊กคิวมี แหม่ม,ไอ แฮฟ อะ สตอมมัชเอค)ขอประทานนะค่ะ คุณผู้หญิง(คนขายยา) ฉันมีอาการปวดท้อง(ดู ยู แฮฟ ซัม เมดิซิน ฟอร์ สตอมมัชเอค)คุณมียาสำหรับรักษาอาการปวดท้องใหม๊ค่ะ?(คูด ไอ สปีค วิท ฟาร์มาซีท พลีส) หรือ ( อาร์ ยู ฟาร์มาซีท) ?ผมขอพูดกับเภสัชกรประจำร้านได้ใหม๊ หรือ คุณเป็นเภชสัชกรใช่ใหม๊(กรณีที่บางร้านไม่ได้มีเภสัชกรประจำ ต้องสอบถามเพื่อความแน่ใจ เนื่องจากอาการที่เราเป็น อาจต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านยา ตอบและจัดยาให้)(ดู ยู แฮฟ อะ เมดิซีน ซิมิลาร์ ทู ดิช วัน)คุณมียาเหมือนแบบนี้ไหม(ใช้กรณีนำตัวอย่างยามาให้ร้านดู)(วอท อาร์ ยู แอลเลอะจิค ทู)คุณแพ้อะไรยาบ้างไหม๊?No.ไม่ (ถ้าไม่มีอาการแพ้ก็ตอบ…ไม่)Yes. I have allergic with penicillin(เยส ไอ แฮฟ )(แต่ถ้ามีอาการแพ้ต้องระบุอาการไปด้วย ยกตัวอย่างเช่น ใช่…ฉันแพ้ยาเพนนิซลิน)(ฮาว ฟรีเควินทลี ชูด ไอ เทค เธอะ ดรักผมต้องทานยาอย่างไรYou should take 1 pills for 3 time before meal 30 minuteคุณสามารถทานยา 1 เม็ด 3 ครั้ง หลังอาหาร 30 นาที(ดาส อิท แฮฟว เอนนี ไซด เอฟเฟคทซ)มันจะมีผลข้างเคียงอะไรไหม(อีฟ อิท ดาทซึน เคลียร์ อัพ อัฟเตอร์ อะ วีค ยู ชูท ซี ยัว ดอกซ์เตอร์ )ถ้ามันไม่หายภายใน 1 อาทิตย์, คุณควรจะไปหาหมอยกตัวอย่างอย่าง Can you recommend anything for stomachache(แคน ยู เรคคะเมนด เอนนีธิง ฟอร์ สตอมมัชเอช?)คุณช่วยแนะนำอะไรสักอย่างสำหรับยารักษาอากาปวดท้องหน่อยได้ใหม๊(แคทอิท เมค มาย ฟีล ดรานซี?)ยาตัวนี้มันจะทำให้ฉันรู้สึกง่วงใหม๊(ไอแอม แอลเลอะจิค วิท เพนนิชซะลิน, ดู ยู แฮฟ เอนนี่ ออเตอร์ ดรักซ์)ฉันแพ้ยาเพนนิซซะลิน คุณยาประเภทอื่นใหม๊————————————-I’m sick (ไอแอมซิค)= ฉันไม่สบายI have heartburn (ไอแอมฮาทเบิร์น)= ฉันรู้สึกจุกI feel travel sickness (ไอฟีลแทรเวลซิคเนส) = ฉันมีอาการเมารถ/เมาเรือจากการเดินทางIndigestion (อินไดเจสชัน) = อาหารไม่ย่อยchapped lips (แชพท ลิพส)= ปากแห้งแตก/ปากลอกathlete’s foot แอธลีทส ฟุท = น้ำกัดเท้า/เชื้อราที่เท้าhay fever (เฮย์ ฟีเวอะ) แพ้ละออง/เกสรดอกไม้cold sores (โคลด ซอร์ส)=โรคปากนกกระจอก/ปากเปื่อยstomachache (สตอมมัคเอค)=อาการปวดท้องeyestrain (อายสเตรน) =อาการเพลียตาtoothache (ทูธเอค) =อาการปวดฟันsore throat (ซอรฺ โธรท) =อาการเจ็บคอstuffy nose (สตัฟฟี โนส) = อาการคัดจมูกnose bleed (โนส บลีด) =อาการเลือดกำเดาไหลinsomnia (อินซอมเนีย) =อาการนอนไม่หลับnauseous (นอเซียส)=คลื่นไส้vomit (วอมิท) = อาเจียนbruise (บรูซ) = แผลฟกช้ำcough (ค๊อคซ) =ไอinflamed (อินเฟลม) = อักเสบrunny nose (รันนี โนส) = น้ำมูกไหลphlegm (เฟลม) = เสมหะswollen (สวอลเลิน) = อาการบวมpus (พัส) = เป็นหนองgastritis (แกซไทรซิส) = โรคกระเพาะอาหารอักเสบfood poisoning (ฟูด พอยเซินนิง) =อาหารเป็นพิษdiarrhea (ไดเออะเรีย) = ท้องร่วง———————————-คำศัพท์เกี่ยวกับเวชภัณฑ์ที่ร้านขายยาantiseptic =ยาระงับเชื้อaspirin = ยาแอสไพรินtravel sickness tablets = ยาแก้เมารถเมาเรือbandages =ผ้าพันแผลcough mixture= ยาน้ำแก้ไอDiarrhea tablets = ยาเม็ดแก้ท้องร่วงpainkillers = ยาแก้ปวดparacetamol =ยาพาราเซตามอลeye drops = ยาหยอดตาfirst aid kit = ชุดปฐมพยาบาลเบื่องต้นindigestion tablets = ยาแก้อาหารไม่ย่อยlaxatives = ยาระบายlip balm / lip salve = ลิปทาริมฝีปากthermometer =ปรอทวัดความร้อนnicotine patches =แผ่นนิโคตินplasters = ผ้าพันแผลprescription = ใบสั่งยาsleeping tablets = ยานอนหลับthroat lozenges = ยาอมแก้เจ็บคอvitamin pills = เม็ดวิตามินเป็นยังไงบ้างค่ะสำหรับประโยคภาษาอังกฤษเล็กน้อยๆเกี่ยวกับการไปซื้อยาที่ร้านขายยาในต่างประเทศ น่าจะมีประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะค่ะ หากมีข้อผิดพลาด ประการใด ดิฉันเองต้องขออภัยคุณผู้อ่านทุกๆท่านมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ขอบพระคุณผู้อ่านทุกท่านที่เสียสละเวลาคลิ๊กเข้ามาลั๊ลลาอ่านกัน หวังว่าจะได้พบกันอีกในเว็ปบล็อกถัดไปนะค่ะ….จากคุณนายเว่อร์ เทอร์เทอร์ชอบเที่ยวกินนอน———————————————————————–


ต่างคนต่างคิด เอาแต่ใจ ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร


รายละเอียดคอร์ส : http://www.ajarnadam.tv/
สอบถามเรื่องคอร์สทางไลน์ Aj.Adam, Info.Hollywood, KhunBaiTuey หรือโทร 02 612 9300, 081 353 7810, 089 422 4546
FBของอดัม : http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
IG : https://www.instagram.com/ajarnadam
Twitter : http://twitter.com/AjarnAdam
FB โรงเรียน : http://www.facebook.com/hollywoodlearning

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

ต่างคนต่างคิด เอาแต่ใจ ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร

Connie Talbot – Count On Me (HQ)


Connie’s video of Count On Me from the album Beautiful World
Subscribe to Connie Talbot VEVO channel: https://www.youtube.com/ConnieTalbotVEVO
Buy CD: http://www.evo88.com/en/music?page=shop.browse\u0026keyword=connie+talbot
Download / Stream: https://smarturl.it/ConnieTalbot
connect with Connie:
http://connietalbot.com
http://connietalbot.asia
https://www.facebook.com/ConnieTalbotOfficialPage/
https://twitter.com/ConnieTalbot
https://instagram.com/officialconnietalbot/
http://www.weibo.com/2815038854/profile?topnav=1\u0026wvr=5
connect with evosound:
https://youtube.com/evosoundVEVO
http://evosound.com/
https://www.facebook.com/pages/Evosound/113905148685817?ref=br_tf
https://twitter.com/evosoundlabel
connietalbot beautifulworld evosound
© 2012 Evolution Media Ltd. under exclusive license to Evolution Ltd.

Connie Talbot - Count On Me (HQ)

CATHERINE – ต่าง [Official Lyrics]


ไม่ใช่ไม่รัก แต่เพราะว่าเราเข้ากันไม่ได้จริงจริง ความทรมานที่ยังติดอยู่ในหัวใจของเราสองคน เมื่อคนทั้งสองต่างก็มีความแตกต่าง แต่ในเมื่อต่างคนต่างที่จะเอาแต่ใจของตัวเองและไม่ยอมรับ ไม่เคยให้อภัยซึ่งกันและกัน คำว่ารักมันคงหมดความหมาย หากยื้อต่อไปก็คงไม่ดี สุดท้ายความรักในครั้งนี้มันต้องจบลง !!!
CATHERINE ต่าง ไม่ใช่ไม่รักแต่เพราะว่าเราเข้ากันไม่ได้จริงๆ
iTunes : https://itunes.apple.com/th/album/%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%87single/1346603770
JOOX : https://goo.gl/zxZYVG
Spotify : https://open.spotify.com/track/1EXNxhQx5Foil72bGo4Thy?si=IJ4N3VIxSXOR9gEAvY24Zg
Amazon Music : https://music.amazon.com/albums/B079P6JXQ6?ref=dm_sh_e1be3bc9dmcp78a047c9d\u0026musicTerritory=US\u0026marketplaceId=ATVPDKIKX0DER
MEMBERS :
สุทธิชาติ แสนอาจ (ไตเติ้ล) vocal
ภาณุพงศ์ บุญกนิษฐ (ก็อต) guitar
ธนาวัฒน์ วังกานนท์ (เป้) bass
วิชัย จงสถิตชาคร (หมิง) drums
SOCIAL :
Facebook Fanpage : Catherine
IG : Catherineband_official
CREDITS :
Mixed \u0026 Mastered ดนัย ธงสินธุศักดิ์, ตุลธร จิระวัฒน์พงศา
Sound Design ณัฐพร พิชัยรัตน์
PRODUCER : ภาณุพงศ์ บุญกนิษฐ
LYRICS PRODUCER : ธนาวัฒน์ วังกานนท์
LYRICS :
คำร้อง : ธนาวัฒน์ วังกานนท์
ทำนอง : ภาณุพงศ์ บุญกนิษฐ, สุทธิชาติ แสนอาจ
เรียบเรียง : CATHERINE
ไม่ใช่ไม่รัก แต่เพราะว่าเรา เข้ากันไม่ได้จริงๆ ความทรมานที่ยังติด
อยู่ในหัวใจ ของเราสองคน จะเจ็บแค่ไหนก็ต้องยอม
แค่อยากให้เธอได้รู้ ที่ความรักของเราวันนี้ ต้องพังลงไป
มันผิดที่ตัวเรา ที่ไม่เคยเข้าใจ ว่าต้องใช้ชีวิตอย่างไร บนทางเดินร่วมกัน
ถ้าต่างคนยังมี มีแต่ความ เอาแต่ใจ ไม่อภัย แล้วจะอยู่ เพื่ออะไร ให้เธอลองคิด
อยู่ๆกันไป คงไม่ดี มีแต่เสีย มีแต่ช้ำ แล้วก็เจ็บ ย้ำลงไป ในจิตใจ เป็นสิ่งที่ฉันยังต้องทน ทรมาน
มันปวดร้าว เกินจะทาน มันไม่ไหว ต้องทำไง เดินต่อไป ก็คงไม่ดีเท่าไหร่ มันจำเป็นที่ต้องไป
จบตรงนี้ก็ คงจะดีกว่า ยื้อไว้ให้เหนื่อย หัวใจ สุดท้ายก็ต้องจากกัน
เมื่อทางเดิน เรานั้นมันต่างกัน เหมือนเส้นขนาน เธอคงเข้าใจกันสักวัน
ทุกสิ่งที่เคยมี ทุกอย่างที่แล้วมา ให้มันแล้วก็แล้วไปนะ ไม่ต้องแคร์เรื่องใด
ไม่อยากให้ต้องจำ ให้ปล่อยมันทิ้งไป และชีวิตของเราจากนี้ คงเป็นเพียงเพื่อนกัน
ถ้าต่างคนยังมี มีแต่ความ เอาแต่ใจ ไม่อภัย แล้วจะอยู่ เพื่ออะไร ให้เธอลองคิด
อยู่ๆกันไป คงไม่ดี มีแต่เสีย มีแต่ช้ำ แล้วก็เจ็บ ย้ำลงไป ในจิตใจ เป็นสิ่งที่ฉันยังต้องทน ทรมาน
มันปวดร้าว เกินจะทาน มันไม่ไหว ต้องทำไง เดินต่อไป ก็คงไม่ดีเท่าไหร่ พอกันทีฉันขอลา (Say Goodbye)
จบตรงนี้ก็คงจะดีกว่า ยื้อไว้ให้เหนื่อย หัวใจ สุดท้ายก็ต้องจากกัน
เมื่อทางเดิน เรานั้นมันต่างกัน เหมือนเส้นขนาน เธอคงเข้าใจกันสักวัน
ขอโทษที่ทำให้เธอต้องเจ็บช้ำ และวินาทีต่อจากนี้ไป คงไม่มี วันได้พบกัน
จบตรงนี้ก็คงจะดีกว่า ยื้อไว้ให้เหนื่อย หัวใจ สุดท้ายก็ต้องจากกัน
เมื่อทางเดิน เรานั้นมันต่างกัน เหมือนเส้นขนาน เธอคงเข้าใจกันสักวัน

CATHERINE - ต่าง [Official Lyrics]

น่าอาย คนสวนพูดภาษาอังกฤษได้ l Lw Film


หนังสั้น เรื่องราวสะท้อนสังคม เตือนภัยต่างๆ
หนังสั้น ละครสั้น

น่าอาย คนสวนพูดภาษาอังกฤษได้ l Lw Film

Ep.2 ภาษาอังกฤษง่ายๆ is/am/are ในความหมาย \”อยู่\”


is/am/are ในคลิปนี้หมายถึงอยู่นะคะ แต่ว่ามันจะหมายถึงอยู่ก็ต่อเมื่อมันมาพร้อมกับ \”คำบอกสถานที่\” นั่นเองค่ะ จำง่ายๆนะคะ

Ep.2 ภาษาอังกฤษง่ายๆ is/am/are ในความหมาย \

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ต่าง คน ต่าง อยู่ ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *