Skip to content
Home » [NEW] รวมประโยค เขียนอีเมลภาษาอังกฤษ ให้เหมือนมืออาชีพ (พื้นฐาน-ระดับสูง) | เวลา ภาษา อังกฤษ เขียน ยัง ไง – NATAVIGUIDES

[NEW] รวมประโยค เขียนอีเมลภาษาอังกฤษ ให้เหมือนมืออาชีพ (พื้นฐาน-ระดับสูง) | เวลา ภาษา อังกฤษ เขียน ยัง ไง – NATAVIGUIDES

เวลา ภาษา อังกฤษ เขียน ยัง ไง: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Table of Contents

การเขียนจดหมาย เขียนอีเมลภาษาอังกฤษ รวมประโยคจำเป็น

รวม เขียนอีเมลภาษาอังกฤษ วิธีเขียน ตัวอย่าง ประโยค

การเกริ่นนำจดหมาย หรืออีเมล เพื่อแจ้งให้ทราบ

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

– I’m writing to tell you that …
– I’m writing to inform you that …
– This is to make you aware that …
– I want to fill you in on …
– Please be advised that …

คำศัพท์ที่น่าสนใจ

inform (อินฟอร์ม’) = บอก,แจ้ง
aware (อะแว-) = ทราบ
advise (แอ็ดไฝส-) = แจ้งให้ทราบ, แนะนำ

โครงสร้างไวยากรณ์ (grammar) ที่น่าสนใจ

With + noun, subject + verb …

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

With the next product release, we will change our advertising strategy.
= (เนื่องด้วย)การปล่อยผลิตภัณฑ์ตัวถัดไป เราจะเปลี่ยนกลยุทธ์การโฆษณา

การเกริ่นนำ เรื่องที่รู้อยู่แล้ว

– As you know, …
– As you may have noticed, …
– As you might have guessed, …
– You might already be aware that, …

การเขียนแจ้งเรื่องความรับผิดชอบ

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

– … (Name) … will be responsible for …
– … (Name) … will be in charge of …
– … (Name) … will be taking care of …
แปลว่า …(ชื่อ)… จะรับผิดชอบด้าน …

– … (Name) … will assume the role of (position)
แปลว่า …(ชื่อ)… จะรับหน้าที่ในตำแหน่ง …

– … (Name) … has assumed a number of responsibilities in …
แปลว่า …(ชื่อ)… จะดูแลรับผิดชอบงานเกี่ยวกับด้าน …

การตักเตือน เป็นภาษาอังกฤษ

ตัวอย่างการเขียนขึ้นต้นประโยค

– Be mindful of …
– Try not to forget …
– Please try to heed …
– Remember that … is essential.
– Please keep in mind that …

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

– Remember that being punctual is essential.
= จำไว้ว่าการตรงต่อเวลาเป็นสิ่งสำคัญ

– Please keep in mind that we start work at eight o’clock sharp.
= โปรดจำใส่ใจว่าเราเริ่มงาน 8 โมงตรง

การแสดงความเสียใจ ภาษาอังกฤษ

ตัวอย่างการเขียนขึ้นต้นประโยค

– I am sorry that …
– I feel sorry that …
– I am regretful that …
– I feel regretful that …
แปลว่า ฉันเสียใจ/เศร้า กับเรื่อง …

– It is unfortunate that …
– It is regrettable that …
แปลว่า ช่างโชคร้าย/น่าเสียดาย ที่ …

– There is nothing I can say about … except that …
แปลว่า ฉันไม่มีอะไรจะพูดเกี่ยวกับ … นอกเสียจากว่า …

การแสดงความขอบคุณ

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

– I would like to take this opportunity to express my most heartfelt appreciation to you for yourassistance.
= ฉันขออาศัยโอกาสนี้แสดงความซาบซึ้งใจของฉันที่มีต่อความช่วยเหลือของคุณ

คำศัพท์ที่น่าสนใจ

heartfelt (ฮาร์ท’เฟ็ลท) adjective = จริงใจ, โดยตั้งใจ, ไม่เสแสร้ง, อย่างน้ำใสใจจริง
appreciation (อะพรี’ชีเอ’เชิน) noun = ความรู้คุณค่า, ชอบ, ชมเชย
assistance (อะซิส’เทินซฺ) noun = ความช่วยเหลือ, การสนับสนุน

การแนบไฟล์ แนบข้อมูล

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

– For your review, enclosed is …
– For your review, attached is …
– For your consideration, enclosed is …
– For your consideration, attached is …
– I have included …
– I have attached …
– I have added …
– Please find enclosed …
– Please find affixed …

คำศัพท์ที่น่าสนใจ

enclose (เอนโคลซ’) = แนบมา
affix (อะฟิคซฺ’) = สิ่งเพิ่มเติม, ภาคผนวก, คำต่อท้าย

การบอกความคืบหน้าของงาน

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

– I am planning to …(+ verb)…
แปลว่า ฉันวางแผนที่จะ
– I am attempting to …(+ verb)…
แปลว่า ฉันพยายามที่จะ
– I am preparing to …(+ verb)…
แปลว่า ฉันเตรียมที่จะ

We are in the process of + v. ing …
แปลว่า เรากำลังอยู่ในระหว่าง
(=to have started doing something)

สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ เช่น
– We’re still in the process of decorating the house.
แปลว่า เรายังคงอยู่ระหว่างการตกแต่งบ้าน

– Meanwhile, subject + verb …
– At the same time, subject + verb …
– Concurrently, subject + verb …
แปลว่า ในขณะที่ …

การขอบคุณ เป็นประโยคภาษาอังกฤษ

– Words cannot convey my gratitude.
– Words cannot convey my gratefulness.
– Words cannot convey my appreciation.
แปลว่า คำพูดมากมายก็ไม่อาจแสดงความรู้สึกซาบซึ้งของฉันได้

– I want to thank you on behalf of (Name) for …
แปลว่า ฉันขอขอบคุณแทน …(ชื่อ)… สำหรับ …

การตอบแทนในโอกาสถัดไป

– We look forward to returning the favor.
– We hope to repay your kindness in full.
– Next time, everything is on us.

ประโยคแสดงการเห็นด้วย

– I couldn’t agree more.
– I agree with you completely.
– I’m on your side 100%.
– I see things the same way.

การชมเชยเมื่องานสำเร็จด้วยดี

– Your direction and vision made the project successful.
– This project would not have been accomplished without your suggestions and
cooperation.

การร้องเรียน บ่น ตำหนิ

– I don’t think this is appropriate because …
– I don’t think this is suitable because …
แปลว่า ฉันคิดว่าแบบนี้ไม่เหมาะสม เพราะ …

– I would appreciate it if you could …
– I would be thankful if you could …
– I would be grateful if you could …
– I would be obliged if you could …
แปลว่า ฉันจะซาบซึ้ง/ขอบคุณเป็นอย่างมาก ถ้าคุณสามารถ …

– I believe you and I discussed this before and agreed that it wouldn’t and shouldn’t
take place.
แปลว่า ฉันเชื่อว่าก่อนหน้านี้เราได้คุยกันไปแล้ว และเห็นด้วยกันแล้วว่ามันไม่ควรจะเกิดขึ้น

การขอโทษ ภาษาอังกฤษ แบบต่างๆ

– I sincerely apologize for …
– I deeply apologize for …
– I truly apologize for …
แปลว่า ฉันต้องขออภัยอย่างยิ่ง สำหรับ …

– I am very sorry for …
– I am very sorry about …
แปลว่า ฉันรู้สึกเสียใจมากเกี่ยวกับ

การตั้งตารอ บางสิ่ง บางอย่าง

ไวยากรณ์ (grammar) น่ารู้

– I am looking forward to + v.ing
– I’m anxiously anticipating + v.ing
– I can’t wait to + v.

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

– I can’t wait to start working here.
= ฉันรอที่จะเริ่มงานที่นี่ไม่ไหวแล้ว

เป็นไงครับตัวอย่างการ “เขียนอีเมลภาษาอังกฤษ” อันนี้เป็นเพียงตัวอย่างคร่าวๆ ไว้วันหลังจะหาข้อมูลเพิ่มเติมมาให้

(บทความนี้เป็นบทความที่ได้รับการเผยแพร่ซ้ำ ด้วยความน่าสนใจของบทความ มีจุดประสงค์เพื่อทางการศึกษา ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อการค้าหรือธุรกิจใดๆเกี่ยวข้องกับบทความนี้)

 

Credit: บทความเผยแพร่ซ้ำและขอขอบคุณเนื้อหาจาก  tonamorn.com

Pic – freelabel.net / google image(reusable labels)/  rights to use authorized)

 

Labels

toeic, บทความการเรียนภาษา, เทคนิคเรียนภาษา, เรียนภาษาอังกฤษ,

เรียนต่อ, เรียนต่อต่างประเทศ, วีซ่า

[NEW] เทคนิคเขียนภาษาอังกฤษ ให้เป๊ะเหมือนฝรั่งเขียนเอง!(ไม่ยากอย่างที่คิด คุณก็ทำได้) | เวลา ภาษา อังกฤษ เขียน ยัง ไง – NATAVIGUIDES

พูดถึงการเขียน แม้จะเป็นภาษาไทย ก็ยากแล้วสำหรับหลายๆ คน และถ้าอยู่ดันในสถานการณ์ที่ต้อง เขียนภาษาอังกฤษ ล่ะ เราจะทำยังไงดีนะ? 

ถ้าคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์นี้และรู้สึกไม่มั่นใจกับการเขียน วันนี้เรามีตัวช่วยดีๆ มาฝากกันค่ะ

ไม่ว่าคุณกำลังอยู่ในสถานการณ์แบบไหน เขียน Essay เขียนเรียงความ เขียนบทความ เขียนอีเมล เขียนจดหมาย เขียน Landing Page เขียนขายของ เรามี Tips ดีๆ มาฝากที่สามารถประยุกต์ได้หลากหลายค่ะ

ก่อนอื่นขอแนะนำตัวซักนิดนึงนะคะ ตัวเรานั้นเรียนโรงเรียนไทยมาทั้งชีวิต และยังไม่เคยมีโอกาสได้ไปเรียนหรือใช้ชีวิตในต่างประเทศนานๆ มาก่อน แต่เพราะมีสิ่งที่อยากทำหลายอย่าง ที่ผ่านมาเคยทำโปรเจกต์ร่วมกับชาวต่างชาติ เขียนข่าว เขียนบทความภาษาอังกฤษ และล่าสุดก็ได้ร่วมก่อตั้ง Justoneclub.com เป็นเว็บไซต์ที่ขายสินค้าสำหรับคนที่รักการพัฒนาตัวเอง และตั้งเป้าขยายกลุ่มลูกค้าในหลากหลายประเทศทั่วโลก

ที่สำคัญคือไม่ยากอย่างที่คิด เพราะสมัยนี้มีเครื่องมือและเทคโนโลยีมากมาย ส่วนใหญ่เริ่มต้นใช้งานได้ฟรีด้วยค่ะ บทความนี้จะเน้นแนะนำเครื่องมือสำคัญๆ ที่มีประโยชน์ น่าเชื่อถือ ใช้แล้วช่วยเราได้เยอะมากๆ

แนะนำเครื่องมือช่วยเขียนภาษาอังกฤษ

เครื่องมือช่วยตรวจเช็คแกรมม่าและการสะกดคำ

Grammar หรือ ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่คนไทยเรียนมากันเยอะที่สุดแล้ว แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะเขียนได้อย่าง Perfect หมดจดไม่มีที่ติ บางครั้งเราทราบแต่ก็อาจจะเผลอสะกดผิดบ้าง เช่น ลืมเติม s ต่อท้าย verb

Grammarly ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีเวอร์ชันใช้งานฟรี และรองรับการใช้งานบนหลากหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นเวอร์ชัน..

  • Native app บนเครื่อง Mac

  • Add-in สำหรับโปรแกรม Microsoft Office บน Windows

  • Web application สามารถใช้งานได้เลยบนเว็บบราวเซอร์ ไม่จำกัด OS

หน้าตาของโปรแกรมจะเป็นดังภาพนี้

เขียนภาษาอังกฤษ เช็คแกรมมาร์ grammarly

Grammarly มันสามารถช่วยเช็คแกรมมาร์ให้เรา พร้อมแนะนำวิธีแก้ไขให้ เราสามารถเขียนเอกสารในโปรแกรม หรือจะ Import ไฟล์ Word (.docx) เข้าไปก็ได้ แล้วมันก็จะช่วยเช็คให้ว่าเราพลาดตรงไหนบ้าง พร้อมบอกเราว่าต้องปรับยังไง รูปด้านล่างคือตัวอย่างผลลัพธ์หลังจากที่เราอัปโหลดไฟล์ Press Release ที่เราเคยเขียนใน Microsoft Word เข้าไป

use-grammarly-for-techsauce-press-release

ตามรูปคือ มันช่วยบอกเราว่าเรามีจุดที่ลืมเติม s อยู่ และมีจุดที่ลืมเติมคำนำหน้า ในที่นี้โปรแกรมช่วยแนะนำให้ด้วยว่า ควรใช้คำว่า the

นอกจากการแปะข้อความ หรืออัปโหลดไฟล์แล้ว อีกเรื่องสำคัญที่อยากชี้คือ Grammarly ยังมีเวอร์ชัน Google Chrome Extension และ Firefox Add-on ด้วยนะ ซึ่งความหมายคือ มันจะช่วยเช็คแกรมมาร์ให้ทุกๆ การพิมพ์ของเราเวลาเราเล่นอินเทอร์เน็ตเลย!

ตัวอย่างนี้คือการติดตั้งบน Chrome และกำลังเปิดหน้าอีเมลเอาไว้อยู่ มันจะถามเราว่าอยากให้เช็คข้อความในอีเมลไหม? นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นเหมือน Dictionary อังกฤษ-อังกฤษ ช่วยแสดงผล Definition และ Synonym ในตัวได้อีกด้วย

grammarly-on-browser

 

Shifu แนะนำ

การติดตั้งบน Browser นั้นสะดวกมากๆ เพราะแปลว่าไม่ว่าจะเป็นอีเมล เขียนสเตตัสเฟซบุ๊ก

เขียนบล็อก

บน

WordPress

มันก็จะตามอ่านและให้คำแนะนำกับเรา แน่นอนว่ามันสะดวกมาก แต่ก็อาจจะสูญเสียความเป็นส่วนตัวของข้อมูลไปบ้าง แม้ใน Policy จะระบุว่าเขาจะไม่แชร์ข้อมูลให้ปาร์ตี้ที่สามก็ตาม แต่ตัวโปรแกรมเอง ก็มีการเก็บข้อมูลการใช้งานของผู้ใช้ เพื่อการปรับปรุง Product อันนี้ก็แล้วแต่ทางผู้ใช้จะลองพิจารณาดูค่ะ

เครื่องมือช่วยเช็คความอ่านง่ายของการเขียน

บางทีเรื่องที่คนกังวลอาจจะไม่ใช่เรื่องของ Grammar แต่อาจจะเป็นเรื่องการสื่อสารให้ตรงประเด็น ถ้าคุณเขียนแล้วประโยคออกมางงๆ เช่น รูปประโยคซับซ้อนเกินไป เครื่องมืออีกตัวที่คุณใช้ช่วยได้คือ Hemingway สามารถใช้งานได้เลยในเว็บไซต์ หรือจะโหลด Desktop App ก็ได้

ภาพด้านล่างนี้สาธิตการใช้งาน Hemingway มันสามารถไฮไลท์บอกได้ว่าการเรียบเรียงให้ง่ายต่อการอ่าน (Readability) ของข้อความของเรานั้น ทำได้ดีแค่ไหน รวมถึงช่วยไฮไลท์จุดที่คุณควรลองดูเพื่อปรับให้มันง่ายขึ้น โดยเฉพาะประโยคที่ได้รับไฮไลต์สีเหลืองและสีแดง คือประโยคที่ค่อนข้างเป็นรูปประโยคที่ซับซ้อน 

เครื่องมือนี้จึงค่อนข้างเหมาะกับงานเขียนบทความออนไลน์ในภาษาอังกฤษทั่วๆ ไป ซึ่งความง่ายในการอ่านเป็นเรื่องสำคัญ มากกว่าความสวยหรูของประโยค แต่เราอยากบอกว่า ไม่ต้องถึงกับยึดตามคำแนะนำมากก็ได้ เพราะมันจะแนะนำให้เราไม่ใส่ Adverb หรือ Passive voice เยอะเกินไป (ซึ่งเขาถือว่ามันทำให้ประโยคซับซ้อน แต่จริงๆ แล้วสองอย่างนี้ก็มีประโยชน์มากในการแต่งประโยค) โดยส่วนตัวเรามองว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับใช้ช่วยเช็คคร่าวๆ เพื่อเพิ่มความมั่นใจ

คิดชื่อเรื่องบทความภาษาอังกฤษดีๆ ไม่ออก

“ชื่อดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” พวกเราได้เคยเขียนแนะนำการตั้งชื่อบทความไปตั้งแต่บล็อกแรกๆ การตั้งชื่อสำคัญมากเพราะมันเป็นสิ่งแรกที่คนเห็น แต่ก็ยากไม่ใช่เล่นเลย แล้วทีนี้ถ้าเราต้องเขียนชื่อเป็นภาษาอังกฤษล่ะ ถามว่ามีอะไรที่พอเข้ามาช่วยเราได้บ้างไหม ข่าวดีคือมีค่ะ และลิงก์เหล่านี้คือเครื่องมือที่สามารถใช้ช่วยได้

Shifu แนะนำ

อันที่จริงแล้วเครื่องมือเหล่านี้ทำขึ้นเพื่อช่วยนักเขียนที่เริ่มคิดไม่ออกว่าจะเขียนอะไรดี ไว้ใช้หาไอเดียในการเขียนบล็อกได้ ซึ่งคุณผู้อ่านเองก็สามารถใช้ในการหาไอเดียได้เช่นกัน แถมเมื่อได้ไอเดียแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็ยังช่วยให้ได้เห็นไกด์ไลน์ หรือสไตล์การตั้งชื่อบทความ ที่นักเขียนสากลนิยมใช้อีกด้วย

บทความภาษาอังกฤษ

ภาพด้านบนนี้แสดงตัวอย่างผลลัพธ์ที่ได้จาก HubSpot‘s Blog Topic Generator เมื่อขอไอเดียในการเขียนเรื่อง Inbound Marketing หรือ Blogging ก็จะเห็นสไตล์การตั้งชื่อบทความภาษาอังกฤษ ว่านิยมเขียน Copywriting กันในรูปแบบไหน

ช่วยเขียน Rewrite หรือ Paraphrase เพื่อให้สละสลวยขึ้น

หลายๆ ครั้ง ความยากในการสื่อสารไม่ใช่เรื่องความถูกผิดของภาษา แต่เป็นเรื่องระดับภาษา ว่าที่เขียนมามันสละสลวยไหม ภาษาออกมาเป็นโทนที่เราต้องการสื่อสารหรือเปล่า โดยส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องยากยิ่งกว่า ถูก หรือ ผิด เยอะเลยค่ะ

โชคดีที่ในปัจจุบัน มีเทคโนโลยี AI ช่วยเขียนคอนเทนต์ภาษาอังกฤษ ออกมาเป็น Products ให้เราเลือกใช้ ซึ่งเจ้า AI เหล่านี้สามารถช่วยแนะนำการเขียนให้กับเราได้ค่ะโดยตัวที่อยากจะขอแนะนำ มีชื่อว่า Quillbot เป็นอีกตัวที่สามารถเริ่มต้นใช้ได้เลยฟรี

จากหน้าจอเมนู Paraphraser นี้ จะเห็นว่าเราสามารถเลือก Mode การเขียนได้แบบ เช่น โหมดแบบครีเอทีฟ โหมด Formal (เป็นทางการ) โหมดเขียนให้สั้นเอง (เดิมเขียนยาวไป อยากย่อ) โหมดเขียนยาวๆ (เดิมเขียนสั้นไป อยากขยาย) เป็นต้น

ช่วยแนะนำการเขียนตามวัตถุประสงค์

อีกหนึ่งความโหดของ AI Content Writer ในปัจจุบัน คือการพัฒนาให้ช่วยแนะนำการเขียนตามวัตถุประสงค์ได้ ซึ่งเดี๋ยวเราจะนำมารีวิวให้ดู พร้อมๆ กับแชร์เทคนิคการเขียนตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ในหัวข้อถัดไปให้ด้วยค่ะ

แชร์เทคนิคการเขียนภาษาอังกฤษ

เครื่องมือส่วนใหญ่ที่ได้แนะนำไป สามารถประยุกต์ใช้งานได้หลายรูปแบบ ในขณะเดียวกันก็มีเครื่องมือแบบเฉพาะกิจด้วย  และนอกจากเรื่องเครื่องมือแล้ว ความจริงการรู้จักและเข้าใจ “หลักการสื่อสาร” ที่เหมาะสมกับรูปแบบนั้นๆ คืออีกหัวใจที่สำคัญไม่แพ้เรื่องทักษะด้านภาษาโดยตรงค่ะ

เขียนเมลภาษาอังกฤษ

ปัจจุบัน Email provider ต่างๆ เริ่มมีฟังก์ชัน Quick reply หรือฟังก์ชันแนะนำการเขียนมาให้ใช้งาน ถ้าใครใช้ Gmail อยู่ จะพบว่าเมื่อเราเริ่มพิมพ์ลงไป มันจะสามารถแนะนำคำหรือประโยคที่เป็นที่นิยมเขียนมาให้ด้วย (เรียกว่า Smart compose feedback) หลังจากที่ลองใช้มาสักระยะ คิดว่า AI นี้ของ Gmail เก่งใช้ได้เลยค่ะ แนะนำภาษามาได้ตรงกับรูปแบบภาษาที่นิยมใช้เขียนในอีเมลกัน

อย่างเช่นช่วงที่ขึ้นต้นประโยคแรกๆ ในอีเมล คนนิยมเขียนเพื่อตอบรับอีกฝ่าย เช่น ในที่นี้เขาแนะนำมาเป็น It’s good to hear from you.

หรือช่วงปิดท้ายอีเมล เมื่อมีคำว่า Look ขึ้นประโยคมา Gmail ก็เดาทางต่อว่าเราน่าจะอยากเขียนประโยคนี้

โดยรวมแล้วจึงทำให้การเขียนอีเมลง่ายและเร็วขึ้นค่ะ โดยปกติจะเราเองก็จะเขียนใน Gmail ลงไปเลย และตรวจสอบเพิ่มเติมด้วย Grammarly ต่ออีกหน่อย

Shifu แนะนำ

ความจริง Gmail มีฟีเจอร์ Check spelling ด้วยค่ะ ถ้าเข้าบน Desktop จะอยู่ในเมนูสามจุดด้านซ้ายล่าง ได้ลองใช้แล้ว พบว่าสามารถตรวจสอบการเขียนผิดได้เบื้องต้น แต่ยังตรวจได้ละเอียดไม่เท่า Grammarly เช่น การเช็คว่าคำนามนี้ ต้องต่อท้ายด้วย s หรือไม่ต้อง ด้วย ed หรือไม่ต้อง

อีกเรื่องที่อยากแนะนำเพิ่มเติมคือ แม้โปรแกรมต่างๆ จะช่วยเช็คและแนะนำได้เบื้องต้น แต่การเขียน Effective email นั้น เป็นเรื่องที่ผู้เขียนจะต้องเรียนรู้ตัวอย่างดีๆ เพิ่มเติมกันต่อด้วยนะคะ โดยปกติแล้วอีเมลควรเขียนด้วยรูปประโยคที่อ่านเข้าใจง่าย ไม่ต้องใช้ Complex sentence (ซึ่งใช้ Hemingway ช่วยดูได้ค่ะว่า Complex เกินไปหรือเปล่า) อีเมลควรชัดเจนว่าอยากบอกอะไร Next step คืออะไร เป็นต้น

การเขียนบทความภาษาอังกฤษ

จริงอยู่ที่ AI Content Writer เหล่านี้รองรับความสามารถในการเขียนบทความแล้ว โดยสามารถนำเสนอได้ถึงระดับไอเดียหัวข้อบทความ รวมไปถึง Outline ก็ทำได้โอเคเลย อย่างในเคสนี้คือเราแค่ใส่ประเด็นลงไปว่า ‘English Writing’ โปรแกรมก็แนะนำชื่อบทความและ Outline มาเสร็จสรรพ

ทั้งนี้ เราไม่แนะนำวิธีนี้เท่าไรนะคะ เราคิดว่าดูเป็นไอเดียได้ แต่คนเขียนควรจะเป็น Leader ที่กำหนดทิศทางด้วยตัวเอง โดยปกติเราจะเขียนบทความขึ้นมาด้วยตัวเอง แล้วใช้โปรแกรมในการช่วยตรวจสอบ ช่วย Paraphrase บางประโยค

อีกเรื่องคือ บางคนชอบเขียนบทความเป็นภาษาไทยแล้วเอาไปแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วย Google Translate จากนั้นก็อาจจะใช้โปรแกรม Paraphrase ต่อ วิธีนี้ก็ทำได้ แต่โดยส่วนตัวยังเชียร์ให้คิดและเขียนด้วยตัวเองเป็นภาษาอังกฤษเลยแต่แรก จะดีที่สุดค่ะ

Shifu แนะนำ

ถ้าคุณยังเป็นมือใหม่ในเรื่องการเขียนบทความ อาจเริ่มต้นฝึกเขียนบทความในภาษาที่ตัวเองถนัดก่อน และถ้าอยากเรียนรู้วิธีการและเทคนิคการเขียนบทความตั้งแต่มือใหม่จนฝึกเป็นมืออาชีพ ขอแนะนำ คอร์สเรียน Content Writing for Beginners คอร์สนี้ และ คอร์ส Digital Copywriting สำหรับการเขียนก็อปปี้ค่ะ

การเขียน Essay หรือเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ

สำหรับการเขียน Essay หรือ เรียงความ คำแนะนำจะไม่ต่างกับการเขียนบทความมากนัก แต่ขอให้บริบทเพิ่มเติมคือ ในการเขียนบทความเพื่อลงในบล็อกต่างๆ ความง่ายในการอ่านจะมีความสำคัญ ในขณะที่เรียงความหรือ Essay มักจะใช้ในเชิงวิชาการ เช่น เพื่อการสมัครเรียนต่อ อาจต้องการรูปประโยคที่สละสลวยและโชว์ความ Advanced English มากกว่า

ในบริบทที่เราเคยเขียน Essay จริงจังเพื่อสอบชิงทุน เราจะไม่ได้ใช้เพียงแค่ตัวเอง+AI Tools แต่จะขอรับ Feedback จากเพื่อนๆ คนอ่านและผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมด้วย

เขียน Copywriting หรือข้อความเพื่อการตลาด

ในบรรดา Use Case ทั้งหมด โดยส่วนตัวคิดว่าอันนี้ยากที่สุดสำหรับคนที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา เพราะ Copywriting เป็นเรื่องของการกระตุ้นความสนใจ ซึ่งความถูกต้องของภาษาไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ประเด็นคือความน่าสนใจ เรายังคงใช้หลักการเดียวกันกับการเขียน Digital Copywriting ภาษาไทย ตามที่เราเองก็เคยทำคอร์สเรียนสอน แต่สิ่งที่ทำเพิ่มก็คือมีการใช้ AI Writer ช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยเฉพาะใน Use Case ที่ต้องการนำไปใช้งานจริง

Shifu แนะนำ

โปรแกรมที่ชื่อ Writesonic เป็นตัวที่เราพบว่ามีฟีเจอร์เพื่อการเขียนขายของและเขียนเพื่อการตลาดเยอะดีค่ะ เลือกได้ว่าต้องการเขียนสำหรับ Channel ไหน เลือกได้ทั้ง Facebook Ads, Google Ads, LinkedIn Ads, Ecommerce Copy, YouTube Copy เป็นต้น

นอกจากนี้ที่ขาดไม่ได้คือการศึกษาดูงานต่างๆ เพราะก็อปปี้เป็นเรื่องของความครีเอทีฟ เราไม่ได้เชื่อใจโปรแกรมอย่างเดียว 100% แต่ Research ดูคนอื่นๆ ที่ทำธุรกิจใกล้เคียงกันว่าเขาเขียนกันประมาณไหน กลุ่มเป้าหมายของเราใกล้เคียงกันกับใคร เป็นต้น

เกร็ดน่ารู้เพิ่มเติม

ใจเย็นๆ ค่อยๆ ฝึกที่ละสไตล์

แม้ว่าเราจะเคยมีประสบการณ์เขียนบทความสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษก่อนหน้ามาบ้างแล้ว แต่เราก็ยังคงใช้เวลาปรับตัวไม่น้อยตอนเราเริ่มต้นเขียนบทสัมภาษณ์สไตล์แบบไม่เป็นทางการ เรายังไม่ชินกับแนว Lifestyle (สำหรับภาษาอังกฤษ) เพราะเดิมทีที่ประสบการณ์จากรั้วมหาวิทยาลัย จะเน้นสาย Acedemic writing มากกว่า ตอนนั้นเราจึงต้องปรับตัวนิดนึง อ่านบล็อกแนวไลฟ์สไตล์มากขึ้น

ตอนที่ต้องเขียนแนว PR ก็เช่นกัน เราต้องเรียนรู้ใหม่เยอะมาก มันจะใช้เวลาหน่อย แต่ถ้าฝึกเรื่อยๆ คุณจะเก่งขึ้นจริงๆ นะ

ฝึกให้ครบ ฟัง พูด อ่าน เขียน ในชีวิตประจำวัน

ถึงแม้งานของเราจะเน้นที่การเขียนเป็นหลัก แต่เราก็ยังพบว่าการฝึกฟังและพูดนั้นมีส่วนช่วยด้วย หลักๆ แล้วมันช่วยให้เรา “คิดเป็นภาษาอังกฤษ” มากขึ้น นั่นเอง คอนเทนต์ที่ทำมาเพื่อการฟัง เพื่อการพูด การอ่าน การเขียน ก็มีความแตกต่างกันไป เพิ่มความหลากหลายของสไตล์เข้าไปในสมองมากยิ่งขึ้น

เริ่มต้นที่ไดอารี่สั้นๆ

จุดเริ่มต้นของการเป็นนักเขียนของเรา อันที่จริงแล้วมันคือสเตตัสบน Facebook นั่นเอง ซึ่งเราเขียนแบบกึ่งไดอารี่ เมื่อเราเปรียบเทียบสเตตัสเก่าๆ กับสเตตัสใหม่ๆ เราก็เห็นว่าตัวเองเขียนดีขึ้นจริงๆ  หากอยากฝึกภาษาอังกฤษก็สามารถลองเริ่มจากสเตตัสภาษาอังกฤษก็ได้นะ หรือจะเขียนเก็บไว้ดูเอง เป็นไดอารี่สั้นๆ ก็ได้ค่ะ Seth Godin ก็เป็นคนนึงที่เขียนบล็อกแล้วมีคนติดตามเยอะมาก แม้ว่าบล็อกของเขาจะเป็นสไตล์ไดอารี่สั้นๆ ก็ตาม

หาคนช่วยตรวจ

วิธีการจัดการกับความไม่มั่นใจที่ดีที่สุด คือการหาคนช่วยตรวจ ถ้าให้ดี ควรเป็นคนที่สามารถแลกเปลี่ยนกันและกันได้ คือ คุณขอเขาช่วยเล็กๆ น้อยๆ  และเขาก็ขอคุณช่วยบางอย่างเล็กๆ น้อยๆ เช่นกัน

แต่ก่อนจะหาคนตรวจ ให้อากู๋ Google ช่วยตรวจให้ด้วยก็ได้ แทบทุกครั้งที่เขียน เรามักจะมีคำที่ไม่แน่ใจเรื่องวิธีการใช้ ซึ่งเราก็สามารถศึกษาการใช้คำเหล่านี้ก่อน โดยการเซิร์จอ่านเอาได้ อย่างเรื่อง Preposition มักจะเป็นเรื่องที่คนไทยใช้ผิดบ่อย เช่น Interested ต้องใช้คู่กับ in; I am interested in marketing ไม่ใช่ I am interested about marketing เป็นต้น

ทดสอบภาษาอังกฤษ

สำคัญคือต้อง ‘รู้’ ว่าตัวเอง ‘ไม่รู้’ อะไร

สำคัญสุดคือตัวคอนเทนต์

ภาษา คือเครื่องมือที่ใช้ในการสื่อสาร และเครื่องมือน้ันมีไว้ให้ใช้งาน ไม่ได้มีไว้ให้กลัว

ภาษาเป็นเครื่องมือนึง แต่สาระจริงๆ คือตัวคอนเทนต์ ครั้งหนึ่งเราจะเขียนบทความเกี่ยวกับซอฟแวร์สัญชาติญี่ปุ่นตัวหนึ่ง เราหาข้อมูลภาษาอังกฤษไม่ได้เลย จึงตัดสินใจหาเป็นภาษาญี่ปุ่น แล้วใช้ Google Translate ช่วยแปลเอา ผลลัพธ์การแปลอาจจะยังไม่ใช่ภาษาอังกฤษที่สมบูรณ์เพอร์เฟกต์ แต่เมื่อเราได้อ่านแล้ว เราก็พึงพอใจกับเนื้อหา และพบว่าบทความนี้มีคุณค่ากับเรา ในการทำงานเองก็เหมือนกัน ถ้าเชื่อว่าตัวเองมีเนื้อหาที่ดี ก็ลงมือเลย ภาษาเดี๋ยวค่อยๆ พัฒนากันไปได้

สรุป

บทความนี้เราเขียนโดยแบ่งเป็นเคสการใช้งานหลักๆ ที่หลายๆ คนต้องเจอในการเขียนภาษาอังกฤษ โดยเน้นการแนะนำโปรแกรมต่างๆ รวมถึงแนะนำความคิดเห็นเพิ่มเติมจากประสบการณ์ส่วนตัว ยังไงก็ตาม การเรียนภาษาอังกฤษและฝึกเขียนฝึกใช้บ่อยๆ ยังคงเป็นพื้นฐานความรู้ที่สำคัญมากๆ ที่เราไม่อยากให้ละเลยกัน

หวังว่าบทความจะมีประโยชน์เพื่อให้คุณพร้อมลุยตลาด International ไปด้วยกันนะคะ 🙂

ตาคุณแล้ว

หลังจากอ่านบทความนี้แล้ว ขอให้คุณลองเริ่มต้นเขียนภาษาอังกฤษ เริ่มจาก Caption สเตตัสต่างๆ ไล่ไปสู่ไดอารี่ จนกระทั่งเขียนบทความภาษาอังกฤษได้ และอย่าลืมเข้าไปดูเครื่องมือต่างๆ ที่เราแนะนำและลองใช้ดูนะคะ

ใครที่ได้ลองเล่น ลองใช้ ลองทำตามแล้ว เป็นยังไงกันบ้างคะ? นำสิ่งที่คุณได้เรียนรู้หรือได้ลอง มาแชร์ความรู้ด้วยกันได้ที่คอมเมนต์ใต้บทความนี้เลยค่ะ 🙂

New call-to-action


Telling the Time in English


A simple ESL video about telling the time in English.
We have a clock which shows a time and we ask the question \”What is the time?\”
It is without the answer for a moment to give students time to try and answer themselves.
After around 5 seconds the time appears as numbers and as words (e.g. 2:10 It’s ten past two) next to the clock.
The following time intervals (vocabulary) appear:
five past, ten past, quarter past, twenty past, twentyfive past, half past, twentyfive to, twenty to, quarter to, ten to , five to and o’clock.
At the end of the video there is a SUMMARY CHART of these time intervals and they are repeated (orally/pronunciation) again.
The main idea of this video is to learn the expression \”What is the time?\” and to see the difference between PAST and TO when telling the time.
See our complete lesson about Telling the Time in English: https://www.vocabulary.cl/Basic/Telling_Time.htm
Try this exercise to practice telling the time in English:
https://www.youtube.com/watch?v=NfQ37VMYsig
TellingTheTime TimeEnglish ClockTime
💚💚💚 How to support WOODWARD ENGLISH 💚💚💚
📗 ENGLISH LANGUAGE RESOURCES 📗
🌿 https://www.woodwardenglish.com/shop/
English Resources for Teachers and Parents. (PDF and PPT Ideal for ESOL students or homeschool). These PDFs are also great for those studying English alone.
⭐ LIVE 1ON1 ENGLISH LESSONS ⭐
🌿 https://go.italki.com/woodward (affiliate)
Get $10 USD in italki credits after booking your first language lesson.
The most EFFICIENT way to reach English fluency!
Customized 1on1 lessons with professionally qualified teachers that cater to students’ learning needs and interests.
Speaking with humans is the best way to learn English.
🎥 JOIN Woodward English on YouTube 🎥
🌿 https://www.youtube.com/user/WoodwardEnglish/join
Exclusive videos only for members.
Exclusive members only posts in our YT community tab
Exclusive Discord channel.
Loyalty badges next to your name in comments and live chat
Custom emoji to use in live chat
📗 BOOKS I RECOMMEND 📗
🌿 Practical English Usage – Michael Swan https://amzn.to/3lG2AMU
🌿 English Grammar in Use – Raymond Murphy https://amzn.to/2YOrjoX
🌿 Official Cambridge Guide to IELTS https://amzn.to/3lG489i
🌿 The Practice of English Language Teaching – Jeremy Harmer https://amzn.to/2YSsYub
🌿 Oxford Advanced Learner’s Dictionary https://amzn.to/3mOKN5f
As an Amazon Associate I earn from qualifying purchases at no extra cost to you.
Each purchase of the above helps me to continue creating more free English language resources on YouTube and the Woodward English websites.

💚💚💚 Do you like WOODWARD ENGLISH and want to learn more? 💚💚💚
Here are the next steps to improving your English:
1) SUBSCRIBE to the WOODWARD ENGLISH channel so you know when I create new videos to help you improve your English.
🌿 https://www.youtube.com/subscription_center?add_user=WoodwardEnglish
Make sure you click the notification bell so you know immediately when I upload a new English lesson.
2) See our FREE ENGLISH LESSONS and language learning articles:
🌿 https://www.grammar.cl (Grammar lessons)
🌿 https://www.vocabulary.cl (Vocabulary lessons)
🌿 https://www.woodwardenglish.com (Free English courses)
3) LET’S CONNECT!
🌿 https://twitter.com/WoodwardEnglish
🌿 https://www.facebook.com/WoodwardEnglish/
🌿 https://www.instagram.com/woodwardenglish/
🌿 https://www.pinterest.com/woodwardenglish/
✉️ Send us a postcard from your country ✉️
Rob Woodward
P.O. Box 38438
Howick
Auckland 2145
New Zealand
NOTE: Our English lessons and English language resources are for people over the age of 13.
Have an awesome day!
Rob Woodward

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Telling the Time in English

การบอกเวลาภาษาอังกฤษแบบเข้าใจง่าย I Telling the time in English


สวัสดีค่ะ กลับมาแล้วนะคะ หลังจาก long break เลย clip การบอกเวลาเป็นภาษาอังกฤษนี้มาตามคำขอนะคะ เจน่าห์พยายามอธิบายให้เข้าใจง่าย ยังไงก็ฝากเพื่อนๆติดตาม clip ต่อๆไป และถ้าชอบก็กด Like และชอบมากๆก็ช่วย share และ subscribe ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ cheers!
สำหรับการ Subscribe
เพื่อนๆจะต้อง sign up หรือสมัครอีเมล์ของ Gmail ก่อนค่ะ แล้วเข้าไปที่หน้าหลักของ YouTube พิมพ์ “Learn English with TextAndTalk” ที่ช่องค้นหา และเมื่อเข้า page ของเจน่าห์แล้ว ตรงข้างบนทางขวามือจะเห็นปุ่ม Subscribe หรือเมนูภาษาไทยเรียกว่า ‘สมัครสมาชิก’ FREE! ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
ทำไมต้อง Subscribe ก็เพื่อความสะดวกของเพื่อนๆค่ะ เพราะเมื่อสมัครแล้ว ทุกๆครั้งที่เจน่าห์ up clip ใหม่ๆ Clip ของเจน่าห์จะขึ้นที่ page ของเพื่อนๆค่ะ จะได้ไม่ต้องมา Search หากันทุกครั้ง และจะได้ไม่ลืมกันนะอิอิ ^^
ตามหาเจน่าห์ที่อื่นๆได้ที่ Follow me:
Instagram: learn_english_textandtalk
Facebook: Learn English with TextAndTalk
Facebook: English Training Thailand (รับเป็นวิทยากรและจัดเทรนนิ่งให้หน่วยงานและองค์กร)
Website: www.textandtalk.com
Music:
YouTube Audio Library Hold On a Minute by Silent Partner

การบอกเวลาภาษาอังกฤษแบบเข้าใจง่าย I Telling the time in English

อ่านเวลา ในภาษาอังกฤษ | How to tell time


จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้ การเทียบเสียงสระ ภาษาอังกฤษ ไทย
หากผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขออภัยมานะที่นี้ด้วยค่ะ 😀

อ่านเวลา ในภาษาอังกฤษ | How to tell time

การบอกเวลาในภาษาอังกฤษแบบใช้ past และ to ในประโยค Telling the time in English


การบอกเวลาในภาษาอังกฤษแบบใช้ past และ to ในประโยค Telling the time in English
tellingthetime อ่านเวลา อ่านนาฬิกา BKindStory

การบอกเวลาในภาษาอังกฤษแบบใช้ past และ to ในประโยค Telling the time in English

Click [by Mahidol] Everything About English : Dates \u0026 The Time (2/2)


คริสโตเฟอร์ ไรท์ เสนอ \”เคล็ดลับ\” วิธีการบอกวันที่ และเวลาทุกรูปแบบที่เราต้องเจอในวิชาภาษาอังกฤษ ทั้งระบบ วัน/เดือน/ปี อย่างที่ใช้กันในหลายประเทศ และระบบ เดือน/วัน/ปี ที่ชาวอเมริกันนิยมใช้ รวมถึงการบอก \”เวลา\” ที่เราเรียนกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ยังสับสน อาจารย์คริสจึงนำเสนอเคล็ดลับวิธีการบอกเวลา ทั้ง \”แบบง่าย\” และ \”แบบ (ไม่) ยาก (จนเกินไป)\” ติดตามได้ในรายการ Click
เคล็ดลับวิชา 10 หัวข้อในตำราเรียนที่ต้องรู้แต่เข้าใจยาก มาทำเป็นรายการสั้น ดูสนุก เข้าใจง่าย ในรายการ Click : ภาษาอังกฤษ ออกอากาศทาง Mahidol Channel
Facebook : https://www.facebook.com/mahidolchannel
Website : https://channel.mahidol.ac.th/

Click [by Mahidol] Everything About English : Dates \u0026 The Time (2/2)

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ เวลา ภาษา อังกฤษ เขียน ยัง ไง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *