Skip to content
Home » [NEW] มาดู 10 คำด่าภาษาอังกฤษ ถึงไม่ได้ใช้ก็ควรรู้เอาไว้ | ไม่รู้ สิ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] มาดู 10 คำด่าภาษาอังกฤษ ถึงไม่ได้ใช้ก็ควรรู้เอาไว้ | ไม่รู้ สิ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ไม่รู้ สิ ภาษา อังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

ออกตัวก่อนเลยว่าหัวข้อที่เราจะนำเสนอในวันนี้ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนให้เอาไปด่าฝรั่ง หรือพูดจาดูถูกใครๆเค้านะคะ แต่อย่างว่า การเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้ได้ดี มันไม่ใช่แค่เรื่องไวยากรณ์ถูกต้องแล้วจบ แต่เราต้องเรียนรู้เรื่องวัฒนธรรม และบริบททั่วไปด้วยเพื่อเข้าใจภาษาอังกฤษและใกล้ชิดกันมากขึ้น ซึ่ง “คำด่าภาษาอังกฤษ” ก็เป็นหนึ่งในนั้น

Table of Contents

หลายคนอาจจะถามว่า ทำไมคำด่าถึงมีส่วนช่วยในการเรียนและเข้าใจวัฒนธรรมของฝรั่งล่ะ?

ลองนึกถึงตอนเราดูหนังหรือซีรี่ย์ฝรั่งดูนะคะ ลองนึกตามว่าในหนังเรื่องนั้นตัวละครทุกตัวเค้าพูดจาไพเราะเพราะพริ้งกันตลอดเวลาเลยหรือเปล่า แล้วลองนึกถึงตัวเราเองว่าโดยปกติเราพูดใช้คำสุภาพตลอดเลยหรือเปล่าแม้แต่ตอนอยู่กับเพื่อน พอจะเข้าใจกันแล้วใช่มั้ยคะ บางครั้งในการพูดปกติของคนเราก็ต้องมีการด่า การสบถบ้างเป็นครั้งคราว เพื่อเพิ่มอรรถรสในบทสนทนา

งั้นไม่ต้องรอช้า มาเริ่มจากคำเนื้อหาเบาๆใสๆ ไม่มีอะไรมาก แล้วค่อยเพิ่มระดับกันขึ้นไปเรื่อยๆกันดีกว่านะคะ

swear words

คำด่าภาษาอังกฤษ

Damn (แดม) 

คำนี้ได้ยินบ่อยกันเลยใช่มั้ยคะ เอะอะก็ damn เอะอะก็ damn กันอยู่นั่นแหละ เจอหลายที่ด้วย ในพจนานุกรมจะบอกว่าคำนี้เทียบเท่าคำว่า “ให้ตายเถอะ” แต่ในหลายบริบทคำนี้ก็ให้ความหมายที่ต่างออกไป สรุปมันแปลว่าอะไรกันแน่นะ

1) คำสบถที่แสดงความเจ็บปวด ความเศร้า หรือความโกรธ

เช่น God dammit / damn / dammit  (ประมาณว่า โอ้ย! โธ่เว้ย! ให้ตายสิ! อันนี้พอพูดแล้วจะเหมือนเจ้าของภาษาเพิ่มขึ้นอีกนิด)

2) แสดงความผิดหวัง หรือหัวเสียกับการกระทำของคนอื่น

เช่น A: Hey man, I lost your phone. ( แกชั้นทำมือถือแกหายอ่ะ)
B: Damn you!  (โธ่ไอ้บ้าเอ๊ย! หรือ ให้ตายสิ)

3) ใช้แสดงความรู้สึกว่าบางสิ่งสุดยอด ตื่นตาตื่นใจ

เช่น A: Whoa, check out the sunrise! (ว้าว ดูพระอาทิตย์ขึ้นนั่นสิ)
B: Damn! (ถ้าเทียบกับภาษาไทยคงเหมือนคำว่า โอ้วจอร์ช มันยอดมากกก)

4) ใช้แสดงความผิดหวังหรือท้อใจ

เช่น A: I can’t find my key ( ฉันหากุญแจฉันไม่เจออ่ะแก)
B: Damn… (ความหมายในบริบทนี้จะประมาณว่า โธ่เอ้ย แล้วตามด้วยเสียงถอนหายใจพรืดอย่างหนักใจ เอาอีกแล้วแกทำหายอีกแล้ว!)

5) ใช้แสดงความรู้สึกว่าไม่ได้ใส่ใจเรื่องนั้นเท่าไหร่

เช่น A: Hey, what do you want for dinner? (นี่ เย็นนี้แกอยากกินอะไรอ่ะ)
B: I don’t give a damn. (ความหมายในที่นี้จะเหมือนคำว่า อะไรก็ได้ หามาเหอะ กินหมด)

6) ใช้เพื่อให้ความรู้สึกเชิงลบกับบางสิ่ง

เช่น That damn teacher gave us a ton of homework. (ไอ้ครูคนนั้นนี่สั่งการบ้านเยอะเกินไปแล้วนะ!)

Hell (เฮล)

ถ้าเปิดพจนานุกรมความหมายตรงตัวคำนี้คือ นรก แดนอเวจีที่ร้อนระอุ มีต้นงิ้ว มีคนทำผิดโดนลงโทษอยู่ แหม คำอะไรช่างเหมาะแก่การนำมาสาปแช่งซะเหลือเกิน ลองมาดูกันนะคะว่าคำนี้เค้าสามารถมีความหมายในเชิงไหนได้บ้า

1) ใช้สื่อความหมายว่าเหตุการณ์บางอย่างไม่น่าจะเกิดขึ้นได้

เช่น A: Hey man, do you think Yaya will go out with me?
(เฮ้ย แกว่าน้องญาญ่าเค้าจะยอมไปเที่ยวกับฉันป่ะวะ)
B: Yeah, when hell freezes over.
(แปลตรงตัวคือ น้องเค้าไปแน่ ตอนนรกจะกลายเป็นน้ำแข็งอะนะ หรือพูดง่ายๆคือ ฝันไปเหอะเอ็ง โอกาสเป็นศูนย์ถึงติดลบ)

2) ใช้แสดงความโกรธ

เช่น A: I want to break up with you. (ฉันเลิกกับเธอ)
B: Go to hell. (ค่ะ ตรงตัวเลยก็คือ ไปลงนรกซะ หรือไปตายซะนั่นเอง )

3) ใช้บอกว่าไม่ใช่สิ่งสำคัญ

เช่น A: I can’t find a condom. (ฉันหาถุงยางไม่เจอ)
B: To hell with it! (จากบริบทนี้ก็เหมือนกับคำว่า ช่างแ-่งเถอะน่า ในภาษาไทย เหตุการณ์คับขันแบบนี้ก็ช่างมันเหอะ)

4) ใช้ในการตอบคำถามพวก Yes/No question

เช่น A: Do you want to come to Yoga class on Sunday? (เธอๆ มาเรียนโยคะวันอาทิตย์ด้วยกันปะ)
B: Hell yeah! (จัดไป!) / Hell no! (ไม่อ๊าววว!)

Ass (แอสฺ)

ความหมายตรงตัวคือ ก้น พบเห็นบ่อยๆก็ asshole มักจะใช้อธิบายคนๆหนึ่งในทางไม่ดีเท่าไหร่ (แหงล่ะ)

1) ใช้ด่าคนว่าโง่

เช่น A: Did you see Johnny pick his nose on TV? (นายเห็นที่จอนนี่แคะขี้มูกตอนออกทีวีมั้ย)
B: Yeah, he made an ass out of himself. (เออสิ เขาทำให้ตัวเองให้ดูโง่ไปเลย)

2) ใช้บอกว่าคนๆหนึ่งมีนิสัยแย่ หรือเลวร้ายมาก

เช่น A: That dude just knocked my paper out of my hands and didn’t stop to help or even apologize. (ไอ้หมอนั่นชนฉันจนงานหล่นหมด และไม่ช่วยเก็บหรือขอโทษด้วยซ้ำ)
B: What an ass(hole).  (ประมาณว่า ไอ้บ้านี่! / โคตรเลว! หรืออาจหยาบกว่านั้นอีกหนึ่งสเต็ป)

3) ใช้บอกจำนวนที่มาก หรือเยอะ มีค่าเท่ากับคำว่า โคตรเยอะ

เช่น There was an ass load of parent there last night. (เมื่อคืนมีผู้ปกครองมาที่นั่นโคตรเยอะ)

4) อีกวิธีในการชมว่าเจ๋ง

เช่น That movie was bad ass. (หนังเรื่องนั้นโคตรเจ๋งเลย)

5) ใช้ตอบโต้คนที่อยากได้บางสิ่งจากเราแต่เราไม่อยากให้

เช่น A: Hey you! Get back here. (เฮ้ยแก! กลับมานี่นะ)
B: Kiss my ass (ไม่ได้แปลว่าให้ “มาจูบก้นฉันสิ” นะคะ แต่เป็นลักษณะของการท้าทายมากกว่า อารมณ์เหมือน “ไม่เว้ย” หรือ “ไม่มีวันซะหรอก”)

6) ใช้เพื่อขยายคำวิเศษณ์ (Adjective) ต่างๆ ให้ดูรุนแรงหรือให้ความรู้สึกมากขึ้น

เช่น Dude, check out those hot ass bitches!” (เฮ้พวก ดูสาวๆสุดฮอตพวกนั้นสิ)
Damn, look at those ugly ass teeth! (ให้ตายเถอะ ดูฟันมันสิ โคตรน่าเกลียดเลย)
Get ready for this hard ass test! (เตรียมพร้อมทำข้อสอบบรมโคตรยากนี้ซะ)

Piss (พิซฺ)

เป็นคำหยาบของคำว่า ฉี่ (Pee / Urine)

1) ใช้แสดงความโกรธ

เช่น I’m pissed off! (ฉันโกรธแล้วนะเว้ยยย)

2) ใช้แทนคำว่าเมา (drunk) แต่นิยมใช้กันในอังกฤษ อเมริกาไม่ใช้คำนี้

เช่น He was pissed last night. (เมื่อคืนเขาโคตรเมาเลย)

3) ใช้สำหรับการขับไล่ไสส่งเมื่ออยากอยู่คนเดียวอย่างหยาบ

เช่น A: Hey, you want some help? (เฮ้ยแก มีอะไรให้ช่วยมั้ย)
B: Piss off. (ไปไกลๆเลยปะ หรืออย่างหยาบก็คือไสหัวไปเลย)

4) เป็นอีกวิธีหนึ่งเพื่อบอกว่าฝนตกขนาดไหน

เช่น It’s pissing down rain. (ฝนตกหนักมาก)

Bitch (บิทชฺ)

คำนี้มักเป็นคำด่าที่ใช้กับเพศหญิงเป็นส่วนใหญ่ อาจบอกว่าเทียบเท่าคำว่า อี แบบ อีนั่น อีนี่ ความหยาบระดับสูงพอสมควรเลยค่ะ

1) ไว้ด่า

เช่น A: These pants are too big, mosquitoes keep biting me. I don’t like this place. (กางเกงตัวนี้ใหญ่ไป ยุงก็คอยแต่จะกัดฉัน ฉันไม่ชอบที่นี่เลย)
B: Hey, stop your bitching  (นี่ หยุดบ่นได้แล้วดีออก!)

2) อาจหมายถึงการบ่น

เช่น My wife just bitched me out over the phone. (เมียฉัยเพิ่งจะบ่นฉันผ่านโทรศัพท์เมื่อกี้นี้เอง)

3) ใช้บอกว่าเจ๋ง หรือ สนุก

เช่น Dude, the party was bitching last night! (งานปาร์ตี้เมื่อคืนโคตรมันส์เลย!)

4) เอาไว้ใช้ตอบกลับความเห็นโง่ๆ

เช่น A: Give me $20. (เอาเงินมาให้ฉัน 20 ดอลลาร์หน่อย)
B: Bitch please. (บริบทนี้ก็จะเป็นเชิงบอกว่า จะบ้าเหรอ ฝันไปเถอะแก)

5) หมายถึงที่นั่งตรงกลางของเบาะรถ

เช่น Hey Jim, you’ve got to ride bitch because you’re the smallest.  (จิม แกต้องนั่งตรงกลางนะเพราะแกตัวเล็กสุด)

6) หมายถึงการตบด้วยหลังมือ

เช่น Did you see that? She just got bitch slapped! (แกเห็นมั้ย ยัยนั่นเพิ่งโดนตบด้วยหลังมือไปน่ะ)

Cock (ค็อก) / Dick (ดิ้กคฺ) 

คำว่า cock มีอีกความหมายคือไก่ตัวผู้ แต่ที่แน่ๆส่วนใหญ่คนทั่วไปเค้าไม่ได้เข้าใจกันอย่างนั้นหรอกค่ะ เมื่อได้ยินสองคำนี้ ความหมายตรงๆคืออวัยวะเพศชายค่ะ คือถ้าโดนด่าคำนี้ก็คงไม่น่าอภิรมย์แน่ๆ แต่ที่เอามาใช้ก็มีในหลายบริบทเหมือนกัน

1) ใช้ในกรณีที่ผู้ชายถูกฝ่ายหญิงปฏิเสธหรือตัดโอกาสในการที่จะไปเที่ยวด้วยกัน

เช่น A: Dude, that girl just grabbed her friend and took her away. (เฮ้ยเพื่อน ผู้หญิงคนนั้นเพิ่งจะมาดึงมือเพื่อนเธอแล้วพาออกเอง)
B: What a cock block. (ในบริบทนี้จะหมายถึงว่า อดแอ้มแล้วล่ะแก)

2) ใช้อธิบายคนนิสัยเสีย หรือเห็นแก่ตัว

เช่น That dick took up two parking spots. (ไอ้บ้านั่นเอาที่จอดรถไปสองที่เลย ดูมันสิ อันนี้คือระดับความหยาบแบบน่ารัก ของจริงมันหยาบมากกว่านี้อีกนะคะ)

Moron (โมรอน)

คำนี้ถ้าแปลตรงตัวคือคนโง่หรือ stupid นั่นแหละ แต่เราจะเอาไว้ใช้ด่าพวกไม่รู้จักกาลเทศะ ชอบทำอะไรงี่เง่าในเวลาที่ไม่เหมาะสมก็ได้ค่ะ

เช่น A: Did you see that guy talking on the phone? This is a funeral for God’s sake! (เห็นไอ้หมอนั่นคุยโทรศัพท์เปล่า กลางงานศพนะเนี่ยให้ตายเถอะ)
B: Yeah…he’s a moron! (เออจริง โคตรงี่เง่าเลยว่ะ)

Shit (ชิทฺ)

ความหมายตรงตัวเลยก็คือ อุจจาระ หรือมูลเสียต่างๆ เป็นอีกหนึ่งคำที่ใช้กันบ่อยและมีความหมายที่หลากหลาย ประกอบกับคำหลายๆคำให้อารมณ์ได้ดี

1) อาจใช้อธิบายได้ทั้งแย่มาก และเยี่ยมมาก

เช่น That movie was shit. (หนังเรื่องนั้นโคตรห่วยเลย)
That movie was the shit (หนังเรื่องนั้นโคตรดี)

เพียงแค่เติม the ความหมายก็กลายเป็นคนละเรื่อง ชีวิตเปลี่ยนเลย

2) เป็นคำอุทานในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง หรือ ไม่อยากให้เกิดขึ้น

เช่น Holy shit! (เฮ้ยยย!)

3) หมายถึงการเมาหัวราน้ำ

เช่น A: You seemed pretty drunk last night… (แกดูเมามากเลยนะเมื่อคืนนี้)
B: Yeah, I was totally shit-faced. (ก็ใช่ เมื่อคืนฉันโคตรเมาเลย)

4) ใช้แทนคำว่า ไม่ ในแบบที่ค่อนข้างหยาบคาย

เช่น A: Excuse me sir, would you mind filling out a quick survey? (ขอโทษทีครับ คุณช่วยกรุณาตอบแบบสอบถามของเราหน่อยได้ไหมครับ)
B: Eat shit!  (อันนี้ไม่ได้ไล่ให้ไปทานอุจจาระใคร แต่เป็นลักษณะของการบอกว่าไม่เว้ย แบบหยาบสุดๆ)

5) ใช้พูดถึงความซวย

เช่น A: Oh no, my cell phone died! (โอไม่นะ มือถือฉันพัง)
B: Damn, you’re shit out of luck!  (ให้ตายสิ แกนี่โคตรซวยจริงๆ)

6) ใช้ด่าคนที่โง่

เช่น Hey dumb shit / Shit brains! (โดยรวมคือหมายถึงด่าว่าไอ้โง่ หรือไอ้หน้าโง่)

7) อาจหมายถึงการใจเย็นและพยายามมองข้ามปัญหาให้ได้

เช่น Stop crying, man. Get your shit together. (หยุดร้องไห้ได้แล้วเพื่อน ปล่อยๆมันไปเถอะ)

8) ใช้พูดแทนบางสิ่งบางอย่าง

เช่น I ain’t got time for this shit! (ฉันไม่มีเวลากับอะไรพวกนี้หรอกนะ)

9) ใช้แสดงออกว่าไม่น่าเชื่อถือ หรือไร้สาระ

เช่น A: I have three girlfriends. (ฉันมีแฟนสามคนเชียวนะ)
B:Bullshit! (ไร้สาระน่า อย่ามาโกหก)

10) ใช้แทนเรื่องทั่วๆไป หรือสิ่งที่ไม่ได้สำคัญอะไร

เช่น A: What were you guys talking about? (เมื่อกี้พวกนายพูดเรื่องอะไรกันน่ะ)
B: Oh, we were just shooting the shit. (อ๋อ เราก็พูดอะไรกันเรื่อยเปื่อยน่ะ)

11) หมายถึง ปัญหาใหญ่

เช่น A: The cops are coming! (เฮ้ย ตำรวจมา)
B: Damn, we’re in deep shit. (ให้ตายเหอะ เรากำลังจะเจอปัญหาใหญ่แล้ว ซวยแล้วอย่านี้ก็สามารถแปลได้)

12) มีความหมายว่าเลวร้ายมาก

เช่น A: Have you tried my cake? (เธอลองกินเค้กของฉันหรือยัง)
B: Yeah, it tastes like shit. (ลองแล้ว รสชาติแย่มากก)

13) ใช้เน้นคำว่า มากมาย

เช่น I got a shit ton of work done today. (วันนี้ฉันทำงานเสร็จไปเยอะมาก คำว่า ton นี่ก็มีความหมายว่าเยอะอยู่แล้ว พอเติมคำว่า shit เข้าไปก็จะดูมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเลยค่ะ)

Cunt (คันทฺ) / Pussy (พุซซี่)

สองคำนี้เป็นคำหยาบ มีความหมายเกี่ยวกับอวัยวะเพศหญิง และนอกจากนี้แล้วคำว่า pussy ยังแปลว่า คนปอดแหก หรือ คนขี้กลัวได้อีกด้วยนะ

เช่น He screamed like a girl when he saw that snake. What a pussy. (พอเห็นงูปุ๊บไอ้นี่ร้องเสียงหลงเลย โคตรขี้ป๊อดอะ)

แต่ใน Australia จะเป็นคนละเรื่องกัน เพราะคำนี้ก็สามารถเอามาอธิบายสิ่งที่มีขนฟูและอ่อนนุ่มได้
เช่น pussy cat ก็จะแปลว่าเจ้าแมวขนฟู

และแล้วก็มาถึงคำสุดท้าย…

Fuck (ฟัคฺ)

คำนี้ความหมายตามพจนานุกรมคือการมีเพศสัมพันธ์ แต่มักนำมาใช้ในคำอุทานทั่วไป  หรือเอามาขยาย หรืออธิบายแทบจะทุกสิ่ง มักจะเจอคำนี้เป็นทั้งคำขยาย หรือทำตัวมันเองให้เป็น adjective, adverb, adverb ที่ขยาย adjective, คำนาม, เป็นส่วนหนึ่งของคำๆหนึ่ง พูดง่ายๆคือเป็นได้ทุกอย่างที่เราต้องการในประโยค โห คำบ้าอะไรสารพัดนึกจริงๆ

เพียงเติมคำว่า fuck เข้าไปทุกอย่างจะดูมีอารมณ์ ความรู้สึกรุนแรง ทั้งในทางดีและเลวขึ้นมาทันที

เช่น I fucking hate you. (ฉันโคตรจะเกลียดเธอเลย)
I fucking love you. (ฉันโคตรจะรักเธอเลย)
I don’t give a fuck about your problem (ฉันไม่แยแสเกี่ยวกับปัญหาของแกทั้งสิ้น เรื่องของแกป่ะวะ)
What the fuck? (อะไรวะเนี่ย)
I guess I’m totally fucked now. (ฉันคิดว่าฉันเจอปัญหาใหญ่แล้วว่ะ)

ประโยคพวกนี้ความหมายต่างกันสุดขั้ว แต่ล้วนแล้วแต่เอาคำว่า fuck เข้ามาเป็นส่วนประกอบให้รูสึกถึงความรู้สึกสุดโต่งทั้งชอบ เกลียด เป็นปัญหา ห่วงใย กังวล หรืออะไรก็ตาม

การเรียน “คำด่าภาษาอังกฤษ” ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องว่าเรียนเพื่อนำไปใช้ด่าใคร แต่เพื่อทำให้การพูดของเราดูธรรมชาติหรือเหมือนเจ้าของภาษามากขึ้น เหมือนที่เราเห็นในซีรีย์ฝรั่งที่เค้ามักจะใช้คำเหล่านี้เสมอในการพูดคุยกัน และเรียนเพื่อรู้ไว้ว่าไอ้ที่เราได้ยินเนี่ย เค้าด่าเราจริงๆ หรือมันมีความหมายบางอย่างที่เราไม่รู้แฝงอยู่ อย่างที่บอก ทุกอย่างต้องดูบริบทโดยรวมด้วยนะคะ

การเรียนรู้คำเหล่า จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจและพูดภาษาอังกฤษให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่คำพวกนี้ไม่ใช่ว่าเอาไว้ใช้ได้ทั่วไป คงไม่มีใครพูดคำหยาบกับคนที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก หรือเวลานำเสนองานในที่ประชุมหรอก รู้ไว้เอาไปใช้ได้บ้างแต่ไม่แนะนำให้ใช้บ่อย เพราะใช้ไปนานๆก็จะพูดกันติดปาก สร้างบุคลิกที่ไม่ดีต่อสายตาคนอื่นที่มองเรานะคะ ทางที่ดีเก็บไว้พูดกับเพื่อนสนิทจริงๆก็พอเนาะ ^ ^

[NEW] 27 ประโยค บอกว่า “ไม่เข้าใจ ภาษาอังกฤษ” ที่พลาดมากถ้าไม่รู้ | ไม่รู้ สิ ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ถ้าคุณคิดว่า การบอกว่า ฉันไม่เข้าใจ เป็นภาษาอังกฤษ พูดได้แบบเดียวคือ I don’t understand คุณก็พลาดประโยคอื่น ๆ ที่มีความหมายเหมือนกันไปหลายประโยคเลยค่ะ

การพูดว่า ไม่เข้าใจ ในภาษาอังกฤษนั้น มีอยู่หลายประโยค หลายวลี และหลายสำนวนเลยค่ะ แต่มันแค่อาจจะไม่ได้แปลได้ตรงตัวขนาดนั้น เราก็เลยไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า

แต่วันนี้เบญได้รวบรวมมาให้ถึง 27 ประโยคเลยค่ะ ที่มีความหมายว่าฉันไม่เข้าใจ ภาษาอังกฤษ มาให้คุณเก็บไว้ไปฝึกพูด ใช้กับฝรั่งตอนที่คุยกัน เบญเชื่อเลยว่า เค้าจะต้องอึ้งแน่ ๆ ว่าคุณรู้ประโยคพวกนี้

และจริง ๆ แล้วประโยคพวกนี้ ก็เป็นประโยคที่เราได้ยินบ่อยค่ะ แต่เราอาจจะแค่ไม่เคยคิดว่า ในบริบทนี้ มันแปลว่าไม่เข้าใจนะ แต่หลังจากอ่านโพสต์ของวันนี้แล้ว รับรองว่าเราจะเข้าใจแน่นอนจ้า

ประโยคที่เบญเอามาฝากวันนี้ เป็นแค่ประโยคแค่เสี้ยวเล็ก ๆ ของประโยคภาษาอังกฤษทั้งหมดที่เราควรรู้ ถ้าอยากเก่งภาษาอังกฤษนะคะ

แต่ถ้าคุณสนใจประโยคภาษาอังกฤษหัวข้ออื่น ๆ ที่ใช้ได้จริงใจชีวิตประจำวันแบบนี้ เบญขอแนะนำคอร์สฝึกประโยคภาษาอังกฤษทั่วไป ให้คุณได้ไปฝึกเพิ่มกันด้วยค่ะ

คอร์สนี้มีชื่อว่า Glossika.com เป็นคอร์สที่เน้นประโยคภาษาอังกฤษจริง ๆเน้นให้เราฝึกพูดตาม และฝึกหูของเราให้ชินกับสำเนียงเข้าของภาษาค่ะ

ลองเรียนกับ Glossika ฟรีเลยแค่คลิกเดียว >>

หรืออ่านรีวิวเรียนกับคอร์ส Glossika เพิ่มเติมได้เลยนะคะ รับรองว่า Glossika จะช่วยให้การพูด-ฟังประโยคภาษาอังกฤษของคุณไปอีกเลเวลนึงแน่นอนค่ะ

แต่ถ้าคุณพร้อมที่จะเรียนประโยคภาษาอังกฤษ ฉันไม่เข้าใจ ที่เบญเอามาฝากกันแล้ววันนี้ ก็ไปเริ่มฝึกอ่าน และทำความเข้าใจพร้อม ๆ กันเลยจ้า…

1. I don’t understand it.

2. I can’t understand.

สองประโยคแรกนี้ เป็นประโยคที่เราคุ้นหูกันอยู่แล้ว ที่มีคำว่า understand ที่แปลว่าเข้าใจอยู่ด้วย แต่เราสามารถเพิ่มดีกรีความดราม่าเข้าไปได้นะคะ

โดยการใส่คำว่า at all ข้างหลังสุด เพื่อบอกว่า ฉันไม่เข้าใจเลยสักนิด เช่น

I don’t understand you at all. ฉันไม่เข้าใจคุณเลยสักนิด

I can’t understand this at all. ฉันไม่เข้าใจสิ่งนี้เลยสักนิด

อย่าลืมลองเอาคำว่า at all ไปในข้างหลังประโยค ไม่เข้าใจ ตามนี้ดูนะคะ ทำให้ประโยคดูมีสีสันขึ้นค่ะ อิอิ

ข้างล่างนี้จะเป็นประโยคที่ไม่ได้แปลตรงตัวว่า ไม่เข้าใจ ในภาษาอังกฤษนะคะ แต่หลายประโยค เป็นวลีภาษาอังกฤษที่แปลทีละคำไม่ได้ ต้องอยู่ด้วยกันเป็นประโยค แต่ก็มีความหมายว่า ไม่เข้าใจ ภาษาอังกฤษเหมือนกันค่ะ

ถ้าประโยคไหนที่มีความหมายเบื้องหลังน่าสนใจ เบญจะเขียนคำอธิบายความหมายไว้ให้ใต้ประโยคด้วยนะคะ คุณจะได้เข้าใจเวลาที่เอาไปใช้จริงว่า ความหมายลึก ๆ ของมันคืออะไร พร้อมแล้วไปดูด้วยกันเลยจ้า

3. I don’t get it.

get เป็นอีกคำที่มีแปลว่า เข้าใจค่ะ ซึ่งแปลตรงตัวว่า ได้รับ ซึ่งจริง ๆ แล้วในข้อนี้ สามารถแปลได้ทั้งสองอย่าง ที่พูดถึงสิ่งของ ถ้าฉันยังไม่ได้รับมันนะ หรือถ้าในบริบทที่พูดถึงความเข้าใจ จะแปลว่า ฉันไม่เข้าใจ ค่ะ

แต่เราก็เพิ่มความดราม่าเข้าไปในประโยคนี้ได้เหมือนกันค่ะ (เบญชอบดราม่า อิอิ) ก็คือการใส่คำว่า just เข้าไปหลังประธาน เช่น

I just don’t get it. ฉันนี่ไม่เข้าใจเลย

He just doesn’t get it. เขานี่ไม่เข้าใจเลยนะ

4. I still don’t get it.

ประโยคนี้จะเหมือนกับประโยคข้างบนเลยค่ะ แต่เราเพิ่มคำว่า still ซึ่งมีความหมายว่า อยู่เลย/ยัง…อยู่ ใช้ในการสนทนาที่เราอาจจะบอกเค้าไม่แล้วว่าไม่เข้าใจ และเค้าพยายามอธิบายให้ฟัง แต่เราก็ยังไม่เข้าใจค่ะ เช่น

I said it 3 times and he still doesn’t get it! ฉันพูดไปตั้ง 3 ครั้ง แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจ

5. I cant’ figure it out.

ถ้าแปลตรงตัวของประโยคนี้ จะเป็นประมาณว่า ฉันยังคิดมันไม่ออกเลย / ฉันยังหาคำตอบเรื่องนี้ไม่ได้เลย แบบว่าสิ่งที่เราพูดถึงเป็นเหมือนโจทย์หรือคำว่า แต่เราก็ยังไม่เข้าใจ และยังแก้ไม่ได้ค่ะ

6. I have no clue.

7. I have no idea.

ประโยคที่ 6 และ 7 นี้ จะเป็นประโยคที่มีความหมายคล้าย ๆ กับว่าฉันไม่รู้ แต่เราก็สามารถใช้ในบริบทที่พูดถึงว่าเราไม่เข้าใจได้ค่ะ โดยที่เราสามารถใส่สิ่งที่เราไม่เข้าใจไว้ข้างหลังประโยคนี้ได้ เช่น

I have no clue what he’s talking about. ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเขากำลังพูดถึงอะไร

He has no idea why I’m doing this to him. เขาไม่เข้าใจเลยว่า ฉันทำแบบนี้กับเขาทำไม

You have no idea what I just said. คุณไม่เข้าใจเลย ว่าฉันเพิ่งพูดอะไรไป

ป.ล. ถ้าประธานเป็น I, you, we, they หรือ พหูพจน์ ให้ใช้ have นะคะ แต่ถ้าประธานเป็น he, she, it หรือ เอกพจน์ ให้ใช้ has จ้า

ส่วนใหญ่เรื่องที่ไม่เข้าใจ ที่ต่อหลังประโยค จะขึ้นด้วย คำเริ่มคำถาม what, where, when, why, how จ้า

8. It makes no sense to me.

9. It doesn’t make any sense.

10. It’s a mystery to me!

ข้อนี้แปลรวม ๆ ประมาณว่า มันเป็นเหมือนปริศนาสำหรับฉัน ก็คือว่าเราไม่เข้าใจมันเลยนั่นเอง

11. What’s the point?

มาดูข้อนี้กันค่ะ คุณอ่านแล้วอาจจะบอกว่า แล้วมันเกี่ยวกับว่าไม่เข้าใจยังไง จริง ๆ แล้วมันเป็นประโยคที่พูดถึงว่า สรุปเธอหมายถึงอะไร ทำไปทำไม พูดไปทำไม

แต่ความหมายลึก ๆ ในบริบท ก็คือ ฉันไม่เข้าใจ ประมาณนั้นค่ะ เช่น

What’s the point of saying this? ฉันไม่เข้าใจ ว่าพูดไปทำไม

What’s the point of being nice to you? ฉันไม่เข้าใจ ว่าฉันจะทำดีกับเธอไปทำไม

ซึ่งมันก็จะไม่ได้แปลตรงตัวขนาดนั้น ไม่ต้องใช้ of และสิ่งที่พูดถึงข้างหลังก็ได้ ก็จะเป็นประโยคที่ประมาณว่า เวลามีคนทำอะไร หรือพูดอะไร แล้วเราไม่เข้าใจ ก็ใช้คำพูดนี้ได้

12. Can I ask why?

13. Could you explain it, please?

ประโยคข้อที่ 12, 13 เป็นประโยคคำถามในสิ่งที่เราไม่เข้าใจ และเราอยากจะขอให้เค้าอธิบายอีกรอบ ซึ่งก็เป็นการที่เราบอกเค้าแล้วค่ะ ว่าฉันไม่เข้าใจ เรื่องที่เกิดขึ้น หรือสิ่งที่คุณเพิ่งพูดไป

14. It’s over my head.

15. It’s completely beyond me!

ข้อ 12 และ 13 นี้แปลว่า มันลอยข้ามหัวฉันไปเลย / มันเกินความเข้าใจของฉัน แปลว่าเราไม่เข้าใจนั่นแหละค่ะ แบบมันไม่ได้เข้ามาในความเข้าใจในสมองหรือความคิดของฉันเลย มันอาจจะยาก หรือซับซ้อนเกินไป เช่น

Japanese is so hard and it’s completely beyond me! ภาษาญี่ปุ่นยากมากเลย และมันเกินความเข้าใจของฉันไปเลย

16. What are you on about?

นี่เป็นอีกประโยคนึงที่เป็นเหมือนคำถาม แต่มีความหมายว่า ฉันไม่เข้าใจว่าคุณพูดอะไรอยู่ สำหรับเบญแล้ว รู้สึกว่าประโยคนี้ค่อนข้างแรงค่ะ

เพราะฉะนั้นถ้าคุณเอาไปใช้ อาจจะต้องระวังโทนเสียง และดูสถานการณ์นิดนึง ว่าเหมาะสมหรือเปล่า

17. I can’t make head or tail of it.

18. I can’t get my head around it!

19. I can’t wrap my head around it!

20. I fail to understand

21. It beats me.

ข้อนี้พูดถึงเวลาที่เราไม่เข้าใจบางสถานการณ์ หรือการกระทำบางอย่าง เช่น

It beats me how Harry got this job. ฉันไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ว่าแฮร์รี่ได้งานนี้ได้ยังไง

What beats me is why she talks with Jenny. สิ่งที่ฉันไม่เข้าใจเลยจริง ๆ ก็คือทำไมเขาถึงคุยกับเจนนี่

นี่เป็นอีกหนึ่งประโยคที่จะมาพร้อมกับ why, how และ why ค่ะ ตามหลัง และพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

22. It’s all Greek to me.

Greek ในที่นี้ หมายถึงภาษากรีกค่ะ ในความหมายของประโยคนี้ก็คือว่า ฉันไม่เข้าใจเลย มันเหมือนภาษากรีกสำหรับฉัน ก็คือภาษาที่เราไม่รู้จักค่ะ (แต่ไม่แน่ใจว่าใช้ได้กับคนที่พูดภาษากรีกได้หรือเปล่านะคะ อิอิ)

23. None the wiser

ความหมายในข้อนี้ก็คือ ไม่ได้เข้าใจมากขึ้นกว่าก่อนเลย และถ้าเมื่อก่อนไม่เข้าใจ ตอนนี้ก็ไม่เข้าใจค่ะ เช่น

It’s been months, and he’s still none the wiser about the true cause of the accident. มันผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจเลยว่าอุบัติเหตุนั้นเกิดจากอะไร

เป็นประโยคที่พูดเดี่ยว ๆ เลยไม่ได้ค่ะ ต้องใส่เหตุการณ์ที่ไม่เข้าใจลงไปด้วย

24. What’s going on?

มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย! ประโยคนี้จะแปลเป็นไทยประมาณนี้ค่ะ พูดถึงการแสดงความไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งก็จะเป็นประโยคคำถามค่ะ

25. What’s so funny about it?

อันนี้เป็นอีกประโยคคำถามภาษาอักฤษ ที่พูดถึงว่าเราไม่เข้าใจกับสถานการณ์นี้ ในประโยคนั้นจะแปลว่า มันตลกตรงไหนหรอ และมันเป็นได้ทั้งคำถามที่จริงใจ แบบเราไม่เข้าใจจริง ๆ ว่ามันตลกตรงไหน

หรือมันก็สามารถเป็นประโยคที่พูดประชดได้ เมื่อเราไม่เห็นด้วยว่ามันตลกค่ะ และคุณก็เปลี่ยนคำว่า funny เป็นคำอื่นได้นะคะ เช่น

What’s so sad about it? มันน่าเศร้าตรงไหนหรอ

What’s so special about it? มันพิเศษตรงไหนหรอ

ซึ่งเราใส่จะกับประโยคอื่น ๆ ที่แปลว่าไม่เข้าใจไปข้างหน้าด้วยก็ได้ค่ะ แต่ถ้าไม่มีคนฟังก็เข้าใจอยู่แล้วค่ะว่า เราไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น

26. Why not?

ประโยคนี้จะแปลตรงตัวเลยค่ะว่า ทำไมล่ะ พูดถึงในสถานการณ์ที่คนที่คุยกับเราพูดประโยคปฏิเสธ และเราไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงเลือกแบบนั้น หรือคิดแบบนั้นค่ะ เช่น

Q: I’m not going to the party tonight. ฉันไม่ไปงานปาร์ตี้คืนนี้นะ

A: Why not? ทำไมล่ะ

และก็สามารถเปลี่ยนคำว่า not เป็นอย่างอื่นได้ด้วยค่ะ เช่น me, him, you, her เป็นต้น ก็จะหมายความว่า ฉันไม่เข้าใจ ทำไมต้องเป็นฉัน ตัวอย่างประโยคเช่น

Q: Boss said you’re going to Bangkok tomorrow. หัวหน้าบอกว่าเธอต้องไปกรุงเทพพรุ่งนี้

A: Why me? ทำไมต้องเป็นฉันด้วยล่ะ

หรือจะเป็นในแนวประโยคคำถามแบบปฏิเสธก็ได้ค่ะ โดยเป็นการรวมกันของทั้งสองประโยคข้างบน เช่น

Q: Shes’ going to pick up my husband from the airport. เขาจะไปรับสามีฉันที่สนามบิน

A: Really? Why not you? จริงหรอ ทำไมเธอไม่ไปล่ะ

เป็นอีกประโยคนึงที่ใช้แทนคำว่า ฉันไม่เข้าใจได้ แต่ก็ยังมีความหมายเหมือนเดิมค่ะ อย่าลืมของเอาไปใช้ดูนะคะ

27. This is as clear as mud to me.

ข้อนี้พูดถึง mud ที่แปลว่าโคลนค่ะ และก็พูดถึงคำว่า clear ที่แปลว่าชัดเจน หรือใส และในประโยคนี้แปลว่า มันใสเหมือนโคลนเลยแหละ

เบญชอบประโยคนี้มาก เพราะว่าฟังแล้วค่อนข้างตลก และก็ทำให้เราเห็นภาพเลย ว่าเวลาเราไม่เข้าใจเป็นยังไง บวกความประชดประชันนิดหน่อย

แต่โดยความหมายรวม ๆ และก็คือบอกว่าเราเข้าไม่เข้าใจค่ะ เราไม่เห็นภาพเลย เพราะว่าพยายามมองผ่านโคลนไรงี้ เป็นอีกประโยคที่น่ารัก และเปรียบเทียบได้กวนดีค่ะ อิอิ

ถ้าประโยคข้างบนนี้เป็นประโยชน์กับคุณ ก็อย่าลืมคอมเม้นบอกกันไว้บ้างนะคะ หรือว่ามีประโยคไหนอีกที่คุณเคยได้ยิน แล้วเบญไมไ่ด้เขียนไว้ในลิสต์นี้ ก็มาแบ่งปันกันได้เลยจ้า

อย่าลืมไปหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ไว้ฝึกคำศัพท์และประโยคภาษาอังกฤษเพิ่มเติมนะคะ จะได้พัฒนาภาษาอังกฤษของเราไปเรื่อย ๆ และไม่ย่ำอยู่กับที่ สู้ ๆ จ้า 🙂


สอนพูดภาษาอังกฤษ(ฟรี)จากเริ่มต้นจนพูดคล่อง Level 1: EP.1 Language Basics


อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h

กลุ่มเฟสบุค https://www.facebook.com/groups/unfoxenglishcommunity/

เรียนตอนต่อๆไป
https://www.youtube.com/playlist?list=PLDFirtKulNk9TP14p0TWjl7bs84Ow1aC
อยากพูดภาษาอังกฤษได้เราก็ต้องฝึกพูด เริ่มต้นฝึกเหมือนเด็กทารกที่ค่อยๆหัดพูดตามพ่อแม่ทีละคำสองคำ เป็นกลุ่มคำ เป็นประโยค จนพูดได้ตามที่ใจนึกอยากจะพูด วิธีการเรียนรู้แบบธรรมชาตินี้จะทำให้เราเรียนรู้ได้เร็ว เข้าใจง่าย ไม่ต้องท่องจำ และที่สำคัญไม่ต้องแปลเป็นภาษาไทย แค่ทำความเข้าใจผ่านภาพที่เห็นเชื่อมโยงกับเสียงที่ได้ยิน เราก็จะได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษไปโดยอัตโนมัติเหมือนกับที่เราเรียนรู้ภาษาแม่ได้อย่างธรรมชาติ
ภาษาอังกฤษเป็นเรื่องง่าย แต่เราอย่าไปทำให้มันยาก
ติดตามช่อง YouTube ส่วนตัว
ช่องยูทูปของแล็คต้า https://www.youtube.com/lactawarakorn
ช่องยูทูปของเบล https://www.youtube.com/bellvittawut
ติดตามช่องทางอื่นๆ และพูดคุยกันได้ที่
ชุมชนคนรักภาษาอังกฤษ https://www.unfoxenglish.com
FB: https://www.facebook.com/unfoxenglish
Twitter: https://www.twitter.com/unfoxenglish
Lacta’s IG: https://www.instagram.com/lactawarakorn
Bell’s IG: https://www.instagram.com/toshiroz
ติดต่องาน
Email: [email protected]
Line: http://nav.cx/oOH1Q6T
ภาษาอังกฤษ สอนภาษาอังกฤษ เรียนภาษาอังกฤษ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

สอนพูดภาษาอังกฤษ(ฟรี)จากเริ่มต้นจนพูดคล่อง Level 1: EP.1 Language Basics

เพลงของ Lesson 3: เสียงสัตว์เป็นภาษาอังกฤษ


วีดีโอช่องนี้สำหรับเด็ก 37 ขวบ ที่พ่อแม่ตั้งใจจะสอนลูกพูดภาษาอังกฤษได้แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นสอนแบบไหน
วีดีโอช่องนี้สำหรับพ่อแม่ดูกับลูกเพื่อจะเรียนภาษาอังกฤษด้วยกัน ถ้าอยากให้ลูกพูดภาษาอังกฤษได้พ่อแม่จะต้องฝึกพูดกับลูกทุกวันและเป็นแบบอย่างในการใช้ภาษาอังกฤษ
แต่ละบทมีวีดีโอ 3ชุด
1. บทเรียน
2. เฉพาะเพลง
3. กิจกรรม
วีดีโอการแนะนำวีธีใช้ช่องนี้ https://youtu.be/OnCx30ykyNc
Hello Song
Hello, hello, hello,
Hello and how are you?
I’m _____, I’m _____, I’m _____.
I’m _____ thank you.
Counting Song
one, two, three, four, five, six, seven, eight, nine, ten
Hallelu Song
Hallelu, Hallelu, Hallelu, Hallelujah, Praise ye the Lord. (x2)
Praise ye the Lord, Hallelujah (x3)
Praise ye the Lord
ฮาเลลู ฮาเลลู ฮาเลลู ฮาเลลูยา สรรเสริญพระเจ้า (x2)
สรรเสริญพระเจ้า ฮาเลลูยา (x3)
สรรเสริญพระเจ้า
PRAY Song
PRAY pray
PRAY pray
Let’s all pray now
Let’s all pray now
PRAY pray

เพลงของ Lesson 3: เสียงสัตว์เป็นภาษาอังกฤษ

คำศัพท์ สี ภาษาอังกฤษ colors


คำศัพท์ สี ภาษาอังกฤษ colors
ภาษาอังกฤษ คำศัพท์อังกฤษ สีอังกฤษ

คำศัพท์ สี ภาษาอังกฤษ colors

เรียนภาษาอังกฤษฟรี คอร์สภาษาอังกฤษพื้นฐาน ตั้งแต่เริ่มต้นใหม่ : Lesson 1


คอร์สเรียนภาษาอังกฤษพื้นฐาน เรียนฟรี ปูพื้นฐานใหม่ตั้งแต่เริ่มต้น เข้าใจง่าย สามารดูคอร์สเรียนอื่นๆที่ www.unfoxenglish.com แหล่งเรียนรู้ภาษาอังกฤษออนไลน์และชุมชนของคนรักภาษาอังกฤษ
อยากฝึกพูดภาษาอังกฤษตัวต่อตัว หรือเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์แบบบุฟเฟ่ต์
สมัครได้เลย ​https://www.unfoxenglish.com/
สอบถามแอดไลน์ ​https://lin.ee/5uEdKb7h
กลุ่มเฟสบุค https://www.facebook.com/groups/unfoxenglishcommunity/

เรียนภาษาอังกฤษฟรี คอร์สภาษาอังกฤษพื้นฐาน ตั้งแต่เริ่มต้นใหม่ : Lesson 1

สาริกา – KOH NIPHON [Official MV]


จากตัดพ้อ มาถึงเพลงสาริกากับ โก๊ะนิพนธ์ เพลงรักๆหลง และ MVสาว HOT วัวตายควายล้มอย่าง นินิว มาทำให้ดูฟินๆกันค่ะ ติดต่องาน \”โก๊ะ นิพนธ์\” 0833864499 (คุณเต้) เปิดว้าปสักหน่อยค่ะ
Actress นินิว Nichakarn
Facebook : https://www.facebook.com/nn.nungnew
Instagram : https://www.instagram.com/nn.nungnew/…
KOH NIPHON FB นิพนธ์ สนธิ
SINGLE : สาริกา
ARTIST : KOH NIPHON
LABEL : Mellow Me
Lyrics : ต้อง พริกไทย
Melody : ต้อง พริกไทย
Arrange : ต้อง พริกไทย
Producer : ต้อง พริกไทย
Mix \u0026 Mastering : Montree
Executive Produce : PHATTARAPORN HANPAIBOONWATTANA
Creative/director : คงสิริ เนินลพ
Social Media : เนตร ธนัทนรินทร์
Make up artist สุวรรณา อุเอดะ
Manage : ณัฐชยา ชลวิถี
Big mam : Pin
Photo Pin
Available on
iTunes Store \u0026 Apple Music : https://apple.co/3BL5o0x
Joox : https://bit.ly/3p7UEFZ
Spotify : https://spoti.fi/30pW7xb
Tidal : https://bit.ly/2XedeRk
สาริกา KOH NIPHON
หากบอกเธอว่ารักไปกลัวว่าใจเธอไม่ได้มี วอนให้เทวดาช่วยที สืบให้หน่อยเธอคิดยังไง
ภาวนาให้ผลบุญจากชาติก่อนหรือผีตนใด ขอเวทมนต์ได้ไหมเอาไปเพื่อดลใจเธอ
ให้เธอรักหัวปักหัวปำ ให้เธอหลงในคำทุกคำพูดจา นะโมพุทธา ขอให้สาริกา ช่วยมาทำให้เธอเอ็นดู
ให้เธอรักหัวปักหัวปำ ให้เจ้ากรรมช่วยทำให้เธอหันมา นะโมพุทธา ขอให้สาริกา ช่วยมาทำให้เธอเอ็นดู ให้ได้รักกัน
แอบมองเธออยู่เช้าเย็น จีบไม่เป็นได้เห็นก็พอ เธอคนนี้คนเดียวที่ขอ ถ้าได้เธอมาคบคงดี
ต่างกันราวกับฟ้าดิน ชินแล้วถ้าจะช้ำหัวใจ ขอเวทมนต์ได้ไหมเอาไปเพื่อดลใจเธอ
ขอฉันขอนะสาริกา (ขอให้ความรักจงมา) ขอฉันขอนะสาริกา (ขอให้เธอรับวาจา) ขอฉันขอนะสาริกา จะบูและชา ช่วยดลใจทำยังให้เธอหันมาสักที

ติดตามทุกความเคลื่อนไหวได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/mellowmegroub
Instagram : https://instagram.com/mellow.me_offic…
Tiktok : https://vt.tiktok.com/ZGJkaF5Un/
Line : https://lin.ee/mGrifQ0
Email : [email protected]
Tel : 0898827018 , 0626122122
สาริกา kohniphon mellowme

สาริกา - KOH NIPHON [Official MV]

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ไม่รู้ สิ ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *