Skip to content
Home » [NEW] ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ พต 32005 Pages 1 – 25 – Flip PDF Download | แตง กว่า ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] ภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ พต 32005 Pages 1 – 25 – Flip PDF Download | แตง กว่า ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

แตง กว่า ภาษา อังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

No Text Content!

คำอธิบายรายวชิ า พต32005 ภาษาองั กฤษเพื่อการศึกษาตอ่ จำนวน 3 หนว่ ยกิต สาระความรู้พื้นฐาน ระดับ มธั ยมศึกษาตอนปลาย มาตรฐานการเรียนรู้ มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะและเจตคติเกี่ยวกับ ภาษาท่าทาง การฟงั พูด อ่าน เขยี น ภาษาตา่ งประเทศ ดว้ ยประโยคทซ่ี ับซอ้ นมากขึน้ ในชีวติ ประจำวนั และงาน อาชีพของตน ถูกตอ้ งตามหลักภาษาวัฒนธรรม และกาลเทศะของเจา้ ของภาษา ศึกษาและฝึกทกั ษะเกี่ยวกับเร่อื งต่อไปนี้ 1. โครงสร้างทางภาษา (Structure) 2. หนา้ ทีท่ างภาษา (Function) 3. คำศพั ท์ (Vocabulary) 4. การอ่านเพ่ือจับใจความ (Reading comprehension) 5. การอา่ นกราฟ การต์ ูน ตาราง สญั ลกั ษณ์ สถิติ ดัชนี (Reading:Graph Cartoon/Table/Sign/Statistic/Index) 6. การทำขอ้ สอบแบบเว้นชอ่ งว่างอยา่ งมีระบบ (Cloze Test) ภูมหิ ลงั เจ้าของภาษาวัฒนธรรม (Cultural Background ขา่ ว (News) เพลงและโคลง (Song and Poetry) การใช้พจนานกุ รม (Using dictionary) การตรวจจบั ท่ีผิด (Error Detection) การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ฝึกฟัง พดู อ่าน เขยี น คำศัพท์ กราฟ การต์ ูน ตาราง สญั ลกั ษณ์ สถิติ ดัชนี สารบัญ และการทำขอ้ สอบแบบเวน้ ช่องวา่ งอยา่ งมรี ะบบ อ่านขา่ ว รอ้ งเพลงและอา่ น โคลง ตลอดจนการใชพ้ จนานุกรมในการตรวจสอบคำผิด การวดั และประเมินผล 1. ทักษะในการปฏิบัติ 2. การทดสอบ 3. การมีสว่ นร่วม

2 ใบความรูท้ ี่ 1 เรื่อง โครงสรา้ งทางภาษา (Structure) Tense คือแบบของคำกริยา (verb) ซึ่งบอกความสัมพันธ์ระหว่างการกระทำ (เหตุการณ์) กับเวลา หรือเงื่อนไขกับเวลา หรือความสัมพันธ์อื่นๆ ในทางหลัก ภาษา ในภาษาอังกฤษมี tense ใหญ่ 3 อย่าง ไดแ้ ก่ Present Tense, Past Tense และ Future Tense ซ่งึ แต่ละอย่างยังแบ่งหนา้ ทีไ่ ดอ้ กี 4 ชนิด ได้แก่ 1. Simple Tense หรือ Indefinite Tense 2. Progressive Tense หรือ Continuous Tense 3. Perfect Tense หรอื Perfect Simple Tense 4. Perfect Progressive Tense หรือ Perfect Continuous Tense ควรทำความเข้าใจเป็นเบื้องต้น ณ ที่นี้ว่า tense และ time มิใช่เป็นคำที่มีความหมายเหมือนกัน กริยาซึ่งมีรูปเป็น past tense อาจมีความหมายเป็น presense tense อาจมีความหมายเปน็ present time ได้ เชน่ I would like you to do this. ผมอยากจะให้คุณทำสิง่ นี้ Could you please open the window ? เปดิ หนา้ ตา่ งหนอ่ ยไดไ้ หมครับ กรยิ าทมี่ รี ูปเปน็ present tense อาจมคี วามหมายเป็น future time ได้ เชน่ They are to meet at the theatre. พวกเขากะจะพบกนั ที่โรงหนงั The ship is sailing tomorrow. เรือจะออกพรุ่งนี้ รปู กรยิ าใน tense ภาษาอังกฤษ ในท่ีน้ี กริยา ing หมายถึง กรยิ าท่เี ตมิ ing (รูป present participle) Is หมายความรวมถึง an และ are แล้วแตก่ รณี was หมายความรวมถึง were แลว้ แต่กรณี has หมายความรวมถึง have แลว้ แต่กรณี will หมายความรวมถึง shall แล้วแตก่ รณี

3 The Simple Tense 1. Present Simple รปู กริยา กรยิ าช่องท่ี 1 ถ้าเป็นเอกพจน์บรุ ษุ ทส่ี าม (คือประธานเอกพจน์ทัง้ หมด นอกจาก I, you) กริยาต้องมี S ประธานเอกพจน์ ประธานพหูพจน์ (รวม I, you) He comes. I come. (You come. They come.) The bird flies. Birds fly. กฎการเติม S ท่คี ำกรยิ า 1) เตมิ es เม่ือลงทา้ ยด้วย s, ss, sh, ch, x, o เชน่ pass-passes, brush-brushes, go-goes 2) เปลี่ยน y เป็น i ก่อนเติม es ถ้าหนา้ y เป็นพยัญชนะ เช่น cry-cries, fly-flies, (ถ้าหนา้ y เป็นสระเตมิ s ไดท้ นั ที เชน่ play-plays การใช้ อากาศหนาวในฤดหู นาว 1. ใช้ present simple tense กบั ความจรงิ ที่เป็นกฎตายตัว (general truth) โลกโคจรรอบดวงอาทติ ย์ 1) It´s cold in winter ดวงอาทติ ยข์ ึ้นทางทศิ ตะวันออก 2) The earth moves round the sun. นกบิน การกระทำดงั กวา่ คำพดู (= ทำดกี วา่ พูด) 3) The sun rises in the east. ในฤดรู อ้ นคนสวมเสอื้ บางๆ เม่ือลงบันไดผู้ชายลงก่อนหญงิ 4) Birds fly. ลัดดากนิ นำ้ ชาเวลา 8 นาฬกิ า 5) Action speak louder than word. เจ้าหมอคนน้นั พูดภาษาอังกฤษราวกบั ภาษาของตนเอง 6) Men wear thin clothes in summer. แมน่ ำ้ โขงก้ันประเทศไทยกับลาว 7) Men precede women when going downstairs. 8) Ladda has a glass of tea at eight. 9) That fellow speaks Enlish as well as he speaks his own language. 10) The Mekong separetes Thailand and Laos.

4 2. ใช้ present simple กบั การกระทำซ่ึงเปน็ ประจำในปัจจบุ ัน (repeated or habitual) 1) He says hello every time he sees me. เขาทกั ฉันทกุ ครัง้ ที่พบกนั 2) He gets up early every day. เขาตนื่ แต่เชา้ ทกุ วัน 3) He comes to her place several times a week. เขามาหาหล่อนทบี่ ้านสัปดาห์ละหลายครัง้ 4) Ladda usually goes shopping on Sunday. ลัดดามักจะไปซือ้ ของวันอาทติ ย์ 5) I sometimes go to the movies with her. บางครง้ั ผมกไ็ ปดูหนงั กับหล่อน 3. ใช้ present simple กับสิ่งทกี่ ำหนดแน่นอนแล้ววา่ จะกระทำในอนาตต 1) I leave by the 6.20 train this evening. ผม (ตกลงใจ) จะออกเดนิ ทางโดยขบวนรถไฟ 18.20 น. เย็นวันน้ี 2) He sets sail tomorrow and comes back next week. เขา (ตกลงใจ) จะออกเรอื พร่งุ น้ี และจะกลบั (แนน่ อน) ในสัปดาหห์ นา้ 3) We attack at dawn. เรา (ตดั สินใจ) จะเขา้ โจมตเี วลาเข้าตรู่ 4. อาจใช้ present simple ในการสรปุ เรอื่ งนิยาย หรือละคร Bassanio wants to go to Belmont to woo Portia. He asks Anotonio to lend him money. Antonio says that he hasn’t any at the moment’until his ships come to port. บสั สานิโอตอ้ งการจะไปเบลมอตเ์ พ่อื เก้ยี วพาราศีนาง ปอร์เซีย เขาขอยืมเงินอนั โตนิโอ อันโตนโิ อบอกว่าขณะนี้เขา้ ไม่มีเงินเลย จนกว่าเรือจะเขา้ เทียบท่าแลว้ (เขาจงึ จะม)ี 2. Past Simple รูปกริยา กรยิ าช่องที่ 2 (กับประธานทุกชนิด) I came, he came, she came, it came, they came (กริยาชอ่ งที่ 2 ส่วนใหญ่เกิดจากการเตมิ ed ทีก่ ริยาช่องท่ี 1) กฎการเตมิ ed ทคี่ ำกรยิ า 1) เตมิ เฉพาะ d เมือ่ กรยิ านั้นลงท้ายด้วย e อยู่แล้ว เช่น Love – loved, realize – realized, waste – wasted 2) เปลย่ี น y เปน็ i กอ่ นเติม ed ถา้ หนา้ y เป็นพยญั ชนะ เช่น Cry – cried, reply – reqlied, try – tried (ถ้าหน้า y เปน็ สระเติม ed ไดท้ นั ที เช่น play – played) 3) เติมตัวสะกดอีก 1 ตัว เป็นคำพยางคเ์ ดยี วมสี ระตวั เดยี วและพยัญชนะสะกดตวั เดยี ว เช่น Stop – stopped, plan – planned, zip – zipped

5 การออกเสียงพยางค์ที่เตมิ ed ออกเสยี ง อิด หรอื เอ็ด เมือ่ อยูห่ ลงั d หรอื t เช่น mended (เม็นดิด) ออกเสียง t เม่ืออยู่หลัง k, p, f, s, ss, sh, ch เข่น kissed (ดิสท) นอกจากนอี้ อกเสียง d เช่น played (พเลด), showed (โซด) การใช้ 1. ใช้ past simple กบั การกระทำซึ่งเกิดขึน้ และจบลงไปแลว้ ในอดีต ซง่ึ มกั จะมี คำแสดงอดีตรวมอยู่ดว้ ยเสมอ เช่น Yesterday ago in 1970 Last week during the war Last month once upon a time Last year 1) He arrived at four O’clock yesterday morning. เขามาถึงตอนตีส่ีเขา้ วานน้ี 2) I lived in Korat for three years. ผมอยูโ่ คราชเปน็ เวลา 3 ปี (เคยอยทู่ ีน่ ่ัน 3 ปี ปัจจบุ นั นีม้ ิไดอ้ ยู่ที่น้ัน) 3) She went to the movies last night. เมือ่ คนื นี้หลอ่ นไปดูหนงั เหตกุ ารณ์หลายเหตกุ ารณ์ที่เกิดติดตอ่ กันในอดตี ถา้ ประสงค์จะพดู ถึงเหตุการณ์เหล่านน้ั ดดยไมป่ ระสงค์จะแสดงความเก่ียวันกนั ก็ใช้ tense น้ีได้ตลอด เชน่ 4) She drove into the car-park, got out of the car, closed all the windows, locked the doors, and walked towards the cinema. หลอ่ นขับไปยงั ทจ่ี ดรถ, ลงจากรถ, ปดิ หน้าต่างทกุ บาน, ใส่กญุ แจประต,ู แลว้ ก็เดินยงั โรงหนงั 2. ใช้ past simple กับการกระทำซ่ึงเกิดขึ้นเปน็ ประจำในอดีต (ปัจจบุ นั ไมม่ กี ารกระทำนนั้ แลว้ ) ซงึ่ มักจะมี คำแสดงอดตี และ คำแสดงความบอ่ ยหรือความ เป็นประจำ รวมอยู่ด้วย เชน่ 1. He walked to school every day last year. ปกี ลายนเี้ ขาเดินไปโรงเรียนทกุ วัน (คำแสดงความบ่อย = every day, คำแสดงอดีต = last year) 2. He came to her place several times a week before he went to England. เขามาบ้านหล่อนสัปดาห์ละหลายครั้งก่อนที่เขาจะไปอังกฤษ (คำแสดงความบ่อย = several times a, week, คำแสดงอดตี = before ge went to England) 3. When I was young I used to get up early in the morning. เม่ือผมยงั เลก็ ผมเคยตืน่ แต่เขา้ 4. While her husband was in the Army, she wrote to him twice a week. ขณะที่สามีของหล่อนประจำการอยู่ในกองทัพ (บก) หล่อนเคย เขียนจดหมายถึงเขาสปั ดาหล์ ะ 2 ครั้ง

6 5. In olden times men were more chivalrous than they are now. สมัยกอ่ นผูช้ ายกลา้ หาญ. สุภาพและซ่อื สตั ยก์ ว่าสมยั นี้ (chivalrous=คณุ ลักษณะของพวกอัศวินสมยั โบราณ) 3. Future Simple รปู กริ ิยา Will (หรือ shall) + กริยาชอ่ งท่ี 1 ในแทบทกุ กรณี (โดยเฉพาะในภาษาองั กฤษแบบอเมริกนั ) * will ใชก้ ับประธานทกุ คำรวมท้งั I และ we ในประโยคสนทนาไมม่ ปี ญั หาในการใช้ shall หรอื will เนือ่ งจากทัง้ shall และ will ตา่ งกล็ ดเสยี งเป็น ‘ll เหมือนกนั We’ll be back. เดีย๋ วเราจะกลับมา ( = รออยนู่ ่ีแหละ) They’ll go home พวกเขาจะกลับบ้าน การใช้ ใชก้ บั การกระทำที่เจเกดิ มีข้ึนในอนาคต ซง่ึ โดยปกตจิ ะมี คำแสดงอนาคต กำกบั เช่น Soon tomorrow in a few minutes Shortly tonight a month from now next week on + (วนั ซึง่ เป็นอนาคต) next month in + (เดอื นหรือปซี ่งึ เป็นอนาคต) next year (คำเชือ่ ม) + (ประโยค present) Handout 1 : รายวชิ า ภาษาองั กฤษเพ่อื การศกึ ษาตอ่ พต32005 Topic : เรื่องโครงสร้างทางภาษา (Structure) Directions : Chooose the morst appropriate answer. Nane : ………………………………… Date : ………………….. Exercise 1 : ใชค้ ำในวงเลบ็ ทำประโยคต่อไปนีใ้ ห้ถกู ตอ้ งตามหลักของ Present Continuous Tense. 1. I am studying English now. (not) 2. They are taking five science classes this semester. (How many) 3. We are going to Phu kra dueng next Friday. (Where) 4. They are getting married next year. (Yes) 5. She is leaving tomorrow. (No)

7 6. The seagull is flying in the sky. (Where) 7. Mary is talking on the phone. (What) 8. David is majoring in English. (Yes) 9. Latdawan is doing well in her English class. (not) 10. My friends are driving their cars to work now. (Why)

8 Exercise 2 : Fill in the blanks with will or to be going to. 1. A : Why are you holding a piece of paper? B : I (write) ………. a letter to my friends back home in Texas. 2. A : I’m about to fall asleep. I need to wake up! B : I (get) ………. you a cup of coffee. That will wake you up. 3. A : I can’t hear the television! B : I (turn) ………. it up so that you can hear it. 4. We are so excited about our trip next month to France. We (visit) ………. Paris. 5. Sarah (come) ………. to the party. Oliver (be) ………. there as well. 6. Ted : It is so hot in here! Sarah : I (turn) ………. the air-conditioning on. 7. I think she (be) ………. the next President of the United States. 8. After I graduate, I (attend) ………. medical school and become a doctor. I have wanted to be a doctor all my life. 9. A : Excuse me. I need to talk to someone about our hotel room. I am afraid it is simply too small for four people. B : That man at the service counter (help) ………. you. 10. As soon as the weather clears up, we (walk) ………. down to the beach and go swimming.

9 ใบความร้ทู ่ี 1 เรอื่ ง หน้าท่ีทางภาษา (Function) การทกั ทาย (Greetings) ประโยคท่ใี ช้ในการทกั ทายภาษาอังกฤษ มดี ังนี้ 1. การทกั ทายอย่างเป็นทางการ (Formal Greetings) – Good morning (กดู๊ มอรน์ ิง่ ) ใช้ทักทายตัง้ แตต่ อนเชา้ ถงึ ก่อนเทย่ี ง – Good afternoon (กดู๊ อาฟเตอร์ นนู ) ใช้ทกั ทายในชว่ งบา่ ย – Good evening (ก๊ดู อีฟ นิ่ง) ใชท้ กั ทายในตอนเย็นจนถงึ กอ่ นเท่ียงคนื 2. การทกั ทายอยา่ งไมเ่ ปน็ ทางการ (Informal Greetings) คำว่า Hi และ Hello เป็นคำทักทายอย่างไม่เป็นทางการ มีความหมายว่า สวัสดี ใช้ทักทายบุคคลได้ทุกโอกาสโดยไม่จำกัดเวลา ถ้าเป็นคนสนิทหรือคนกันเอง มักจะตามดว้ ยชื่อคนทเ่ี ราทักทาย ไดเ้ ลย เช่น – Hello, John. (เฮลโล จอห์น) – Hello, Anong. (เฮลโล อนงค์) – Hi, Julia. (ไฮ จูเลีย) – Hi, Manus. (ไฮ มนสั ) นอกจากนีย้ งั มีคำที่ใช้ตามหลังคำทักทายท่ีควรรอู้ ยอู่ ีก 2 คำ ได้แก่ คำวา่ sir (เซ๊อะร)์ และคำว่า ma’am (แม็ม) ซงึ่ ยอ่ มาจากคำว่า madam นิยมใช้กับบุคคลท่ี เราเคารพนบั ถือ รวมถึงเปน็ คำที่บริกร หรือผูใ้ หบ้ ริการใชก้ ับลูกค้า เพื่อเป็นการให้เกียรติ ยกยอ่ ง โดยท่วั ไปไมน่ ิยมใชค้ ำสองคำนีก้ ับคนทเ่ี พิง่ รูจ้ กั ประโยคทีใ่ ชใ้ นการทักทายเพ่ือสอบถามทุกข์-สขุ ว่าสบายดหี รือ – How are you? (ฮาว อาร์ ย)ู สบายดหี รือเปลา่ คะ – How are you today? (ฮาว อาร์ ยู ทูเดย)์ วันนสี้ บายดไี หมครับ – How are you doing? (ฮาว อาร์ ยู ดู อ้ิง) สบายดีหรอื เปลา่ คะ *ถ้าสบายดใี ห้ตอบวา่ * Fine. (ไฟน์) แลว้ ตามดว้ ยคำขอบคุณ Thanks. (แธ้งค์ส) I’ m fine. (แอม ไฟน)์ Thank you. (แธ็งค์ ควิ ) I’ m good. (แอม กดู้ ) I am all right. (ไอ แอม ออล ไร้ท)์ Well / Very well. (เวลล์ / เว ริ เวลล)์ *ถ้าไม่ค่อยสบายให้ตอบวา่ * I am not so well today. (ไอ แอม น็อต โซ เวลล์ ทเู ดย)์ วันน้ดี ิฉนั ไม่ค่อยสบายคะ่ Not very well. I have a headache. (น็อต เวริ เวลล์ ไอ แฮฟ เอ เฮดเอค) วันนีผ้ มไมค่ อ่ ยสบาย ผมปวดหัว

10 Not so well. I have a cold. (น็อต โซ เวลล์ ไอ แฮฟ เอ โคลด)์ วนั นี้ผมไม่ค่อยสบาย ผมเป็นหวัด *เมอื่ ค่สู นทนาบอกว่าไม่สบาย เราควรพูด ดังนี้ That’s too bad. (แธ็ท ทู แบด) แย่จังเลย Take care of yourself. (เทค แคร์ ออฟ ยวั ร์เซลฟ์) ดแู ลตัวเองหนอ่ ยนะ Take care of your health. (เทค แคร์ ออฟ ยวั ร์ เฮล็ ท์) ดูแลสขุ ภาพด้วยนะ ตวั อย่างท่ี Suda:Good morning, Jack. How are you today? (กู๊ด มอรน์ ่งิ แจ๊ค ฮาว อาร์ ยู ทู เดย์) สดุ า : สวัสดี(ตอนเช้า)คะ่ คุณแจ็ค วนั น้สี บายดีหรือเปล่าคะ Jack:Good morning, Suda. I’m fine. Thank you, and how are you? (กดู๊ มอรน์ ่งิ สดุ า แอม ไฟน์ แธ็งค์ ควิ แอนด์ ฮาว อาร์ ย)ู แจค็ :สวัสดี(ตอนเช้า)ครับคณุ สุดา ผมสบายดี ขอบคุณ แลว้ คุณสบายดีไหมครับ Suda:I’m fine. Thanks. (แอม ไฟน์ แธง็ ค์ส) สุดา:ดิฉันสบายดี ขอบคุณคะ่ การแนะนำตวั เอง (Self – Introduction) – สำนวนทนี่ ยิ มใช้ แนะนำตัวเอง เรม่ิ จาก 1. May I introduce myself ? ผม/ดิฉันขอแนะนำตวั เองครบั /คะ่ (เมย์ ไอ อนิ โทร ดวิ๊ ซ มาย เซ็ลฟ์) 2. My name is …..(name – surname)… ผม/ดฉิ นั ชอ่ื -นามสกุล …ครับ/คะ่ [มาย เนม อิส ………(เนม – เซอร์ เนม)………] 3. I am …..…..(nationality)…….… ผม/ดฉิ นั เป็นชาว.…(เชือ้ ชาต)ิ … [ไอ แอม……(แนช ชั่น แนล ลิทิ)……] 4. I come from / I am from …. city / country)… ผมมาจาก.…(เมือง/ประเทศ).… [ไอ คมั ฟรอม/ไอ แอม ฟรอม…(ซิทิ/คัน ทร)ิ …] 5. I am a ………..(career)…….…. ผม/ดฉิ ันเป็น..…(อาชีพ)……[ไอ แอม เอ………(แค เรีย)………]

11 ประโยคท่ีใช้ในการกล่าวอำลา การกลา่ วลา (Parting) มคี ำกลา่ วลาท่ีนิยมใช้อยู่มากมาย หลายคำ อาทิ – Bye (บาย) เปน็ คำกลา่ วลาอย่างเปน็ กนั เอง มกั ใชร้ ะหว่างเพอ่ื นสนทิ (ย่อมาจากคำว่า Good – bye) – Good-bye (กดู๊ บาย) ใช้เปน็ คำกลา่ วลาโดยทวั่ ไปในโอกาสธรรมดา – See you (ซี ย)ู เปน็ คำกล่าวลาอยา่ งเป็นกนั เอง มกั ใช้ระหวา่ งเพอื่ นสนิท – See you again (ซี ยู อะเกน) เปน็ คำกล่าวลาอย่างเป็นกันเอง มักใชร้ ะหว่างเพอื่ นสนิท – See you later (ซี ยู เลเท่อะ) เปน็ คำกลา่ วลาอย่างเปน็ กนั เอง มกั ใช้ระหว่างเพื่อนสนทิ – Good night (กู๊ด ไนท้ ์) ใชส้ าหรบั กล่าวลาก่อนจะเขา้ นอน มกั ใช้ในเวลากลางคนื

12 แบบประเมินหลังการเรียนรู้ ครง้ั ท่ี 2 เรื่อง หน้าทีท่ างภาษา (Function) คำแนะนำ นักศึกษาสามารถเรียนรู้จากหนงั สือเรียน เอกสารประกอบการสอน ใบความรู้ สอ่ื เทคโนโลยสี ารสนเทศ แหลง่ เรยี นรู้ ผู้รู้ ภมู ิปญั ญาทอ้ งถิ่น ครูผ้สู อน หรอื สื่อ อนื่ ๆ ทีเ่ ก่ยี วข้องกบั เน้ือหา/สาระการเรียนรู้ และทำแบบประเมนิ หลงั การเรียนร้ตู ามตวั ช้วี ัด ดังนี้ 1. ใหน้ ักศึกษายกตวั อย่างประโยคคำถามและประโยคคำตอบ (Question & Answer Formats) พร้อมคำแปลภาษาไทย โดยใช้รปู ประโยคตามหัวข้อ ดงั น้ี – Are you และ Are you + verb เติม ing – Is it – is there, are there, do, does – can, would you like, should – is there, are there, do, does – will, going to, did, was, were ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. ช่ือ…………………………………………………………………………………………………. ระดบั ช้นั …………………………..วนั ท่ี ………………………………………………………

13 ใบความรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง การทำข้อสอบแบบเว้นชอ่ งว่างอย่างมรี ะบบ (Cloze Test) ในการทำขอ้ สอบ Reading และ Cloze Test ทแ่ี น่นอนทสี่ ุดนักเรยี นต้องรู้ศัพท์ในระดับหนึง่ ที่ นกั เรียนควรทราบ ทสี่ ำคัญ คนอ่านเกง่ – นกั คาดการณ์ : กล้าคิด กล้าเดาโดยใช้เหตุผล / ตรรกศาสตร์ โดยทวั่ ไปธรรมชาติของนกั เรียนหรอื นักพูดที่ชำนาญการจะใช้ประโยคแรกในการจงู ใจให้ผอู้ ่านหรือผู้ฟงั ติดตามฉะนนั้ Paragraph แรก และประโยคแรก จงึ มกั เปน็ ประโยคกุญแจเปิดสูเ่ นอื้ หาตอ่ ไป อย่าแปลเปน็ ตัวๆ ระหว่างแปล พยายามวงคำท่ีเราคดิ วา่ เปน็ Key Word โดยสงั เกตไดจ้ ากเนอ้ื เรอ่ื งทีอ่ า่ นจะสนบั สนนุ คำๆ น้นั วิเคราะห์แนวคำถามข้อสอบ Reading Passages ใน Reading Passages แตล่ ะเร่อื งแมว้ ่าจะมีคำถามหลายขอ้ แต่สามารถจดั หมวดหมู่ท่ผี อู้ อกขอ้ สอบตอ้ งการประเมนิ ความรู้เราได้กวา้ งๆ 5 หัวข้อ 1. Main Idea : คำถามที่ถามถึงความคิดหลักของประโยคหรือบางทีถามถงึ ชือ่ เร่ือง Title ทุกครั้งที่อ่านเนื้อเรื่องจึงต้อง หมั่นหา key word หรือ คำ วลี หรือ ประโยคซ้ำๆ กรุณาอย่าลมื ความสำคญั ของ paragraph แรกโดยเฉพาะประโยคแรกซง่ึ มักจะ สือ่ ความคิดหลักของเนอื้ เรือ่ งใหก้ ับผอู้ ่าน 2. Reference : การอ้างอิง ข้อสอบมักจะถามว่า \”he\”, \”she\”, \”it\” (line 1) refers to… อ้างถึงอะไร วิธีการตอบคำถาม นี้คือให้เราถาม ตัวเองว่า Pronoun (สรรพนาม) นัน้ เป็นเอกพจนห์ รือพหูพจน์ ถ้าเป็นเอกพจนใ์ ห้นักเรียนกวาดสายตาไปประโยคขา้ งหน้าและหานามเอกพจน์ ที่ใกล้ Pronoun มากที่สุด ถ้ามี 2 ตัวใกล้ๆ กัน ใหน้ ำมาพจิ ารณาแปลดูวา่ คำใหป้ ระโยคมคี วามหมาย ดีกวา่ กันให้เลอื กคำนั้น 3. Inference : การสรุป ในการอ่านขัน้ วิเคราะหห์ รอื สรุปความน้ัน นักเรียนทีแ่ ปลศัพท์เก่งอย่างเดียวใช่ว่าจะแปลข้อความ นั้นๆ รู้เรื่อง แต่เรา ต้อง ฝึกคิดใช้ สามัญสำนกึ หรอื common sense ในการคาดเดา หดั อา่ น หัดแปล หดั เดา โดยฝกึ จากบทอา่ น ภาษาไทย เม่อื ฟงั ผู้ใดพดู อะไรก็ หดั คาด เดาวา่ ประโยค ต่อไปจะเป็นอะไร เมอื่ ฝึกอ่านเองกฝ็ ึกคิดว่าย่อหน้าต่อไปผเู้ ขยี นตอ้ งการ พดู อะไร คาดเดา ถูกบ้างผิดบ้างไม่ต้องหมด กำลงั ใจ แตเ่ รา จะค่อยๆ เรมิ่ เรียนรู้ มใิ ช่ เพราะเราขาดทักษะหรือการ ฝึกฝน เปรยี บเหมือนมดี เน้ือดีแตไ่ มห่ มั่นลับ พอซอื้ หนังสอื รวมเฉลยข้อสอบเอนทรานซ์มาอ่าน ทำถกู ก็ดใี จ แต่ไม่ทราบว่าอาจตอบ ถกู โดยบังเอิญกไ็ ด้ เพราะเรากำลังอ่าน เพื่อไป check choice อย่างเดียว ฉะนั้นในการสรุปความเราควรฝึกสรุป ทุกย่อหน้า แม้ว่า ข้อสอบไม่ได้ถาม ก็ตาม เช่นเดียวกัน Pronoun นักเรียนควรฝึกหาว่า Pronoun น้นั ๆ หมายถงึ คำไหน เมอื่ เราฝกึ จนเคยชนิ เราจะ อา่ นบทความ เข้าใจอยา่ งรู้จริง 4. Detail : รายละเอียด ข้อสอบส่วนใหญ่จะวดั ความจำกบั ความเขา้ ใจเชิงวิเคราะห์ตามหลักการออกขอ้ สอบ ข้อสอบวัด รายละเอียดเป็นข้อ- สอบที่จัดว่าง่าย เช่น คำถามจะวัดความเข้าใจในเนือ้ เรือ่ งว่า อะไร ทไี่ หน อยา่ งไร ใคร ข้อสอบวดั รายละเอยี ดเป็น ข้อสอบทย่ี ากเมอ่ื ถกู จำกัดดว้ ยเวลา จึงจำเปน็ อยา่ งยง่ิ ท่ีเราจะต้องฝึกทำ ขอ้ สอบ มากๆ วิธีทช่ี ว่ ยให้ เราประหยดั เวลาและอา่ นอย่างมีจดุ หมายได้ดีท่สี ุด คอื การอา่ น คำถามพร้อมขดี เสน้ ใตค้ ำท่ีสำคัญๆ กอ่ นอา่ นเนอ้ื เรอ่ื ง ขอ้ สำคัญ คอื ในการฝึก

14 อา่ นเบอ้ื งต้น เราไม่ควรจำกดั เวลาตัวเอง ควรรจู้ รงิ โดย การหาประธานหากรยิ าแทใ้ หไ้ ด้ หา Pronoun ได้ รู้จกั ใชค้ ำเช่ือม หรอื คำสันธานเป็นตัวชี้แนะ รู้จักสรุปในแต่ละ ย่อหน้า รู้จัก เชื่อมโยง ข้อสรุปในแต่ละย่อหน้า ควรฝึกจนชำนาญ แล้วจึงเริ่มจับเวลาในการอ่าน อย่าลืมว่าทำข้อสอบเก่งอย่างเดียวไม่ พอต้อง เร็วด้วย เราจึง ควรใช้ ปากกาหรอื ดนิ สอขีดเขียนในเนอื้ เรื่องเพอ่ื ง่ายต่อการยอ้ น กลับมาอา่ นใหม่ และควรใสเ่ ลขหน้าขอ้ คำถามลงใน เน้ือเร่อื งเพอื่ เป็นการรักษาเวลา 5. Vocabulary in context : คำศัพท์ที่ปรากฏในบริบทหรือข้อความข้างเคียง คำศัพท์ที่อยู่ในข้อสอบ ผู้ออกข้อสอบ มิได้เจตนา วัดความสามารถในการจำ คำศัพทข์ องเรา หากแตต่ อ้ งการดคู วามสามารถในการอา่ นวา่ เราสามารถใช้ข้อความขา้ งเคียง มาตัดสนิ ความหมายของคำนน้ั ๆ ไดไ้ หม เพราะนับเป็นความจำเป็นอยา่ งยิง่ ท่ี นกั เรยี นตอ้ งมที ักษะในการตีความของคำศพั ท์เม่อื เรา อ่าน ตำราภาษาอังกฤษ (text) ฉะน้ันจงึ เหน็ ว่าคนที่อาจเรยี นอังกฤษไม่เก่งแต่เวลาอ่านกลบั เขา้ ใจได้มากกว่า คนที่ แม่นทงั้ ไวยากรณ์และคำศพั ท์ เพราะคนผู้นน้ั มคี วามรู้เกา่ หรือภมู ิหลัง (background) ในเรื่องที่อา่ นนัน้ ๆ จึงคาดการณห์ รือคาดเดาได้งา่ ยดายกว่า ฉะน้นั อย่ามองวา่ ขอ้ สอบยาก เพียงแตเ่ ราต้องเรียนให้ถูกวิธตี ้งั แต่แรก การเรียนภาษาองั กฤษตอ้ งค่อยๆ สะสม ฝึกปรอื มีความสนใจใฝ่รมู้ ิใชจ่ ะสอบทก่ี ็มาน่ังอ่านที ภาษาองั กฤษก็จะกลายเป็นเร่ืองซับซอ้ นและมีกฎเกณฑม์ ากมาย ท้ังๆ ทใี่ นความเปน็ จริงเวลาเรา เรียนภาษาไทย เรารูภ้ าษาไทยได้โดยไมต่ ้องเรยี นไวยากรณก์ ่อน การเรยี น แบบธรรมชาติเช่นนีเ้ รยี กวา่ การเรยี นแบบคอ่ ยๆ รับเขา้ มาโดยโยงเข้ากับประสบการณ์จริง (Acquisition) มใิ ชเ่ ป็นการเรียนแบบในหอ้ งเรียน (learning) ทขี่ าดแรงจงู ใจให้ อยากใฝ่เรยี นใฝร่ ทู้ ันทที อ่ี อกนอกห้อง

15 เทคนิคการอ่านเพ่อื ทำข้อสอบในเวลาทกี่ ำหนด 1. อา่ นหวั เรือ่ งทีผ่ ู้เขียนใหม้ า และจดจำไวว้ า่ หวั เรอ่ื งทท่ี ำให้เราทราบว่าเรากำลังจะอ่านเรื่องอะไร 2. อา่ นคำถามและ choice แรกพรอ้ มขีดเส้นใตค้ ำท่ีเราคดิ วา่ สำคัญ โดยคำนึงถึงการรกั ษาเวลา ย่ิงเราจำคำถามไดแ้ ม่นยำเทา่ ไร เมือ่ นักเรียนอา่ นในเน้ือเร่ือง เราก็ จะพบคำท่ีปรากฏอยู่ในคำถามซึ่งทำให้เราสามารถกลับมาตอบคำถามได้ทันที คำถามขอ้ แรกๆ จะอยใู่ นยอ่ หน้าแรกๆ คำถามกลางๆ จะอยู่ในย่อหน้ากลางๆ ส่วนคำถาม ท้ายๆ จะอยู่ในย่อหนา้ ท้ายๆ การอ่าน คำถามและ choice แรกจะทำให้เราสรุปความคดิ กวา้ งๆ ได้ว่าเร่ืองนี้เกีย่ วกบั อะไร 3. เขียนเลขขอ้ คำถามลงในเนอ้ื เร่อื ง หรือหนา้ ย่อหน้าท่ีคำถามนัน้ ถามถึงเพอื่ เปน็ การทำขอ้ สอบให้ไดท้ นั เวลา 4. จำไว้วา่ ภาษามีความฟุ่มเฟือย ซ้ำๆ เราจงึ ไม่จำเปน็ จะตอ้ งแปลใหไ้ ด้ทุกคำ ในระหวา่ งอ่านควรนำความรู้พื้นฐานทั่วไปมาใช้ในการ พยากรณเ์ นื้อเรอ่ื งหรือฝึกสวม บทบาทวา่ ถา้ เราเปน็ ผูเ้ ขียนเราต้องการส่อื อะไรใหผ้ ู้อา่ นรับทราบ 5. ยอ่ หน้าแรกและประโยคแรกสำคญั มากและมกั จะเปน็ main idea หรือความคิดหลกั ของเรื่อง (แตไ่ มแ่ นเ่ สมอไป) เม่ืออา่ นเสรจ็ ใหล้ องฝกึ สวมบทบาทดูว่าถ้า เราเป็นผู้เขียนเราจะเขยี นหรือส่ืออะไรให้ผอู้ ่าน เรอ่ื งบางเร่อื งสามารถใช้สามัญสำนกึ ( Common sense ) แตง่ เรอื่ งเองได้ แต่เราถูกฝึกให้แปลมากกว่าให้วิเคราะห์จะทำ ใหเ้ ราสะดดุ อยู่ในข้ันพยายามแปลโดยไม่นำความรพู้ ้นื ฐาน ของเรามาใช้ 6. สรุปแต่ละยอ่ หนา้ และเชื่อมโยงแต่ละย่อหน้าเข้าด้วยกันจะเหน็ วา่ คำถามเก่ียวกับ main idea ( ความคิดหลักของเรื่อง) และ purpose ( วัตถุประสงค์ในการ เขียนเรือ่ ง ) จะหาไดถ้ ้านักเรียนสามารถเช่อื มโยงความสมั พนั ธ์ของความคิดหลกั ในแตล่ ะยอ่ หนา้ เขา้ ด้วยกัน 7. ทุกครั้งทีพ่ บคำสรรพนาม ( pronoun ) ต้องฝึกนิสยั คอยถามตัวเองว่าคำสรรพนามนี้หมายถึง ( refer to ) อะไรโดยตอบคำถาม ก่อนวา่ คำสรรพนามนั้นเป็น เอกพจน์หรอื พหูพจน์ ถ้าคำสรรพนามนีเ้ ป็นเอกพจน์ ใหก้ วาดสายตาไปประโยคที่นำหน้ามาก่อนและหา คำเอกพจน์ท่ใี กลค้ ำสรรพนามนน้ั มากที่สุด ถา้ มตี ัวเดยี วก็นำมาตัว เดียว ถ้ามี 2 ตัวใหน้ ำมาพจิ ารณาด้วยการแปลดวู า่ ตวั ไหน เหมาะสมมากกว่ากัน 8. คำใดปรากฏซ้ำๆ มกั จะมีความสำคญั หรอื ไม่กเ็ ป็น main idea ของยอ่ หนา้ น้ันๆ หรือของเร่อื งนนั้ ๆ แหลง่ ทม่ี า : http://อังกฤษเรยี นภาษา.blogspot.com/2012/08/cloze-test.html

16 ตัวอยา่ งข้อสอบแบบ Cloze Test Seeds of Reform Thailand’s farmers are (….a.) a new era in their relationship with the market and the government, (…b…) decades of crop-pledging and price-support programmes give way to a new regime that is expected to be fairer to everyone and far less costly to tax payers. The new price (…c…) scheme represents income support paid (…d…) to farmers. Payments will be based on the (…e…) between insured prices and benchmark prices, regardless of the (…f…) prices farmers receive when they sell their crop. Farmers are being (…g…) to participate in the programme based on their historical production. They will manage their own sales (…h…) in terms of when to capitalize on the spread between the insured prices and the benchmark prices. (…i…) will be transferred directly to farmers by the Bank of Agriculture and Agricultural Cooperatives once crop prices (…j…) below benchmarks. The government has (…k…) about 43 billion baht from Thai Khem Kaeng (…l…) budget to support this programme for three key crops which are paddy, maize and cassava. (Excerpted and adapted from the article on Agriculture & Food, Economic Review, Year-End 2009, Bangkok Post) Answers: (b) as (c) insurance (d) directly (e) difference (f) market (h) decisions (l) stimulus (a) entering (i) Compensation (j) fall (k) allocated (g) registered แหลง่ ทมี่ า : http://www.plan.doae.go.th/frsdoae/inforbase/userfiles/writing%20practice_cloze%20test.pdf

17 Handout 3 : รายวชิ า ภาษาองั กฤษเพ่อื การศึกษาตอ่ พต32005 Topic : การทำข้อสอบแบบเวน้ ช่องวา่ งอย่างมรี ะบบ Cloze Test Nane : …………………….……………… Date : ………………….. Directions : Chooose the morst appropriate answer. Volcano Eruption A huge ash cloud (…a…) an Icelandic volcano caused the (…b…) of airspace across Europe, leaving hundreds of thousands of passengers (…c…) . Most of the flights of various airlines between Asia and Europe were cancelled. Volcanic ash (…d…) tiny particles of glass and pulverized rock that limits (…e…) and can damage aircraft engines. In addition to travel problems, (…f…) officials said the volcanic ash could also prove harmful to those with breathing difficulties. Other (…g…) modes of travel, like Eurostar trains and London taxi were fully booked by clients. Not only did the (…h…) from the volcanic ash eruption in Iceland cost airline industry, but it also affected the export of (…i…) agricultural produce because of the (…j…) shipment to the countries destination in Europe. (Excerpted and adapted from the article in Bangkok Post) 1. delayed 2. contains 3. closure 4. fresh 5. from 6. disruption 7. health (c) stranded 8. optional 9. visibility ชื่อ………………………………………………………………………………………………… ระดบั ช้ัน…………………………..วนั ท่ี ……………………………………………………….

18 Handout 4 : รายวิชา ภาษาอังกฤษเพอ่ื การศึกษาต่อ พต32005 Topic : การทำข้อสอบแบบเวน้ ช่องวา่ งอยา่ งมีระบบ Cloze Test Directions : Chooose the morst appropriate answer. Nane : …………………………………… Date : ……………….. Late afternoon is the best time to wander through the ruins of Ayutthaya, Thailand’s ancient capital. ……1….. an artificial island in the Chao Phraya River in the mid-fourteenth century, Ayutthaya …..2….. the center of Thai power …..3….. four hundred years. It became perhaps …..4….. magnificent city in all of Southeast Asia, larger than either London or Paris of the time, …..5….. city walls that extended for …..6…..twelve kilometres, more than ninety gates, and fifty-six kilometres of man mad waterways. Its wealth was …..7…..trade, and trade brought a …..8….. cosmopolitan population-Malays, Cambodians, Burmese, and Laos from neighbouring …..9….. Chinese, Japanese, and Indians from …..10….. in Asia ; eventually the first Europeans from Portugal, Holland, Britain, and France. 1) 1. To found 2. Found 3. Finding out 4. Founded on 2) 1. Is 2. Will be 3. Has been 4. Was 3) 1. For 2. In 3. After 4. Since 4) 1. More 2. The most 3. Very 4. The rather 5) 1. With 2. And 3. Even 4. So 6) 1. Quite 2. Further 3. Some 4. Mostly 7) 1. Based on 2. Basis of 3. Basically for 4. Basic in 8) 1. High 2. Heightened 3. Highly 4. Higher 9) 1. Countries , 2. Countries ; 3. Countries . 4. Countries : 10) 1. Anywhere 2. Wherever 3. Elsewhere 4. whereabouts

19 ภาคผนวก

20 Handout 1 : รายวชิ า ภาษาอังกฤษเพื่อการศกึ ษาตอ่ พต32005 Topic : THE CORRECT ANSWER เรอ่ื งโครงสร้างทางภาษา (Structure) Nane : ………………………………… Date : ………………….. Directions : Chooose the morst appropriate answer. Exercise : 1 1. I am not studying English now. 2. How many science classes are they are taking this semester? 3. Where are we going next Friday? 4. Are they getting married next year? Yes, they are. 5. Is she leaving tomorrow? No, she is not. 6. Where is the seagull flying? 7. What is Mary doing? 8. Is David majoring in English? Yes, he is. 9. Latdawan is not doing well in her English class. 10. Why are your friends driving their cars?

21 Handout 2 : รายวชิ า ภาษาองั กฤษเพือ่ การศกึ ษาต่อ พต32005 Topic : THE CORRECT ANSWER เร่อื งโครงสร้างทางภาษา (Structure) Nane : ………………………………… Date : ………………….. Directions : Chooose the morst appropriate answer. Exercise 2 1. A : Why are you holding a piece of paper? B : I am going to write a letter to my friends back home in Texas. 2. A : I’m about to fall asleep. I need to wake up! B : I will get you a cup of coffee. That will wake you up. 3. A : I can’t hear the television! B : I will turn it up so that you can hear it. 4. We are so excited about our trip next month to France. We are going to visit Paris. 5. Sarah is going to come to the party. Oliver is going to be there as well. 6. Ted : It is so hot in here! Sarah : I will turn the air-conditioning on. 7. I think she is going to be the next President of the United States. 8. After I graduate, I am going to attend medical school and become a doctor. I have wanted to be a doctor all my life. 9. A : Excuse me. I need to talk to someone about our hotel room. I am afraid it is simply too small for four people. B : That man at the service counter will help you. 10. As soon as the weather clears up, we are going to walk down to the beach and go swimming.

22 เฉลยแบบประเมนิ หลงั การเรียนรู้ท่ี 3 Handout 3 : รายวชิ า ภาษาอังกฤษเพื่อการศกึ ษาต่อ พต32005 Topic : การทำขอ้ สอบแบบเว้นชอ่ งวา่ งอยา่ งมรี ะบบ Cloze Test Nane : ……………………………… Date : …………………….. Directions : Chooose the morst appropriate answer. Volcano Eruption A huge ash cloud (…a…) an Icelandic volcano caused the (…b…) of airspace across Europe, leaving hundreds of thousands of passengers (…c…) . Most of the flights of various airlines between Asia and Europe were cancelled. Volcanic ash (…d…) tiny particles of glass and pulverized rock that limits (…e…) and can damage aircraft engines. In addition to travel problems, (…f…) officials said the volcanic ash could also prove harmful to those with breathing difficulties. Other (…g…) modes of travel, like Eurostar trains and London taxi were fully booked by clients. Not only did the (…h…) from the volcanic ash eruption in Iceland cost airline industry, but it also affected the export of (…i…) agricultural produce because of the (…j…) shipment to the countries destination in Europe. (Excerpted and adapted from the article in Bangkok Post) Answers: (b) closure (c) stranded (d) contains (e) visibility (a) from (f) health (g) optional (h) disruption (i) fresh (j) delayed

23 เฉลยแบบประเมินหลังการเรียนรทู้ ่ี 4 Handout 4 : รายวิชา ภาษาองั กฤษเพ่อื การศึกษาตอ่ พต32005 Topic : การทำข้อสอบแบบเว้นชอ่ งวา่ งอย่างมรี ะบบ Cloze Test Nane : ……………………..…………… Date : ………………….. Directions : Chooose the morst appropriate answer. 26. ข้อ 4 อธบิ าย : Ayutthaya (อยุธยา) เปน็ ชื่อเมอื งซึ่งเป็นสงิ่ ไม่มีชวี ิต จงึ ไม่สามารถก่อตง้ั ตวั เองได้ ตอ้ ง ถกู ก่อต้งั จงึ ใช้ Founded on ซงึ่ ลดรูปมาจาก which was founded on 27. ข้อ 4 อธิบาย : ขอ้ นี้ตอ้ งใช้ was ซ่งึ เป็นรปู อดีตกาล (past simple) เหตผุ ลกเ็ พราะมีข้อความที่แสดงอดีต คอื four hundred years และ mid-fourteenth century ระบอุ ยู่ 28. ขอ้ 1 อธิบาย : ขอ้ นตี้ อ้ งใช้ for เพราะเป็นการบอกระยะเวลาในช่วงทอี่ ยุธยาเรอื งอำนาจยาวนานถงึ 400 ปี (คำวา่ for + duration of time หรอื ความยาวของ เวลา) 29. ข้อ 2 อธิบาย : ข้อน้ีต้องใช้ superlative degree (ขั้นสดุ ) เพราะเปน็ การกล่าวถงึ ความเด่นสง่าของอยุธยา เทียบกบั เมืองใหญ่ ๆ ในแถบเอเชยี ตะวันออกเฉียงใต้ ลอนดอน หรือแม้แต่ปารสี ในยคุ สมัยนน้ั จึงเลอื ก the most magnificent city in all of Southeast Asia, … 30. ข้อ 1 อธบิ าย : เลือก with (พรอ้ มดว้ ย) เพราะมีการเอ่ยถึง กำแพงเมือง (city walls) ทที่ อดยาวเปน็ ระยะทางถงึ 12 กโิ ลเมตร 31. ข้อ 3 อธิบาย : ใช้ some twelve kilometres (ราว ๆ 12 กิโลเมตร) สำหรับตัวเลือกอาทิ quite และ mostly ไม่สามารถตามด้วยคำนามคือ twelve kilometres ได้ ส่วน further แปลว่า “ดำเนนิ ต่อไป” กไ็ ม่อาจนำมาใชใ้ นกรณีนีไ้ ด้เช่นกัน

24 เฉลยแบบประเมินหลงั การเรยี นรทู้ ่ี 4 (ต่อ) Handout 4 : รายวชิ า ภาษาองั กฤษเพ่อื การศึกษาตอ่ พต32005 Topic : การทำข้อสอบแบบเวน้ ชอ่ งว่างอย่างมีระบบ Cloze Test Nane : ………………………….………… Date : ………………….. Directions : Chooose the morst appropriate answer. 32. ข้อ 1 อธบิ าย : ขอ้ น้ใี นโจทย์ Its wealth was… ตอ้ งตามด้วยกริยาแท้ชอ่ ง 3 เพราะเปน็ สว่ นของ verb รปู passive voice (verb to be + v3) ดังน้ันตัวเลือก ขอ้ 2, 3, 4, จงึ ผดิ หมด กลา่ วคือตัวเลือกท่ี 2 basis เปน็ moun ตัวเลือกที่ 3 basically เป็น adverb และตัวเลือกท่ี 4 basic เปน็ adjective จงึ เหลือตวั เลือกท่ีถูกตอ้ งทเี่ ปน็ verb คือ based (v.) on นนั่ เอง 33. ขอ้ 3 อธิบาย : ไวยากรณข์ องโครงสรา้ งในโจทยข์ ้อน้ตี อ้ งเปน็ ดงั นี้คือ “Adverb + Adjective + noum” ดงั นัน้ คำท่เี ป็นตัวเลอื กท่ถี ูกต้อง คือ highly (adverb) เพราะขยาย cosmopolitan (adjective) และมคี ำนาม คือ population สำหรบั ตวั เลือกท่ี 1 high เป็น Adjective แสดงขัน้ กวา่ (comparative form) 34. ข้อ 4 อธิบาย : ข้อนี้ทดสอบการใช้เครื่องหมายหลังคำว่า countries กรณีนี้ต้องเลือกเครื่องหมาย colon (:) เพราะมีการยกตัวอย่างของ neighbouring countries : (ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ ชาวจีน ญป่ี นุ่ และอนิ เดยี ในแถบเอเชีย รวมถงึ ชาวยุโรป อาทจิ ากปอร์ตุเกส ฮอลแลนด์ อังกฤษ และฝรง่ั เศส 35. ข้อ 1 อธิบาย : ข้อนี้เลือก anywhere แปลว่า “ไม่ว่าจากแห่งหนใด” เพราะเนือ้ เรื่องกล่าวถึง ผู้คนไม่วา่ จากแห่งหนใด ต่างพากันเขา้ มาคา้ ขายในสมยั ที่อยธุ ยา กำลังเจริญรุ่งเรอื ง สำหรับ wherever = ไม่วา่ ท่ีใดก็ตาม, elsewhere = ทอี่ ื่นใด, whereabouts = สถานท่ซี ่งึ

25 เฉลยแบบประเมนิ หลังการเรียนรู้ที่ 4 (ต่อ) Handout 4 : รายวิชา ภาษาอังกฤษเพอื่ การศกึ ษาตอ่ พต32005 Topic : การทำขอ้ สอบแบบเวน้ ช่องวา่ งอย่างมรี ะบบ Cloze Test Nane : …………………….…………… Date : …………………….. Directions : Chooose the morst appropriate answer. ช่วงบ่ายเปน็ เวลาที่ดีที่สุดในการเตร็ดเตร่เที่ยวชมซากปรกั หักพังของอุทยาน เมืองหลวงโบราณของประเทศไทย เมืองท่ีถูกกอ่ ตัง้ (Founded on) อยู่บนเกาะที่ มนษุ ยส์ รา้ งขน้ึ มาในแม่น้ำเจา้ พระยาในช่วงกลาง ศตวรรษท่ี 14 อยุธยาเป็น (was) ศนู ย์กลางแห่งอำนาจของไทยนับเป็นเวลาถึง (for) 400 ปี อาจจะกลา่ วไดว้ า่ เปน็ เมอื ง ที่เด่นสง่าที่สุด ( the most magnificent city ) ในทุกเมืองในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นเมืองที่ใหญก่ ว่ากรุงลอนดอน หรือปารีสในช่วงนั้น พร้อมด้วย (with) กำแพงเมอื งทที่ อดยาวเปน็ แนวยาวขาว ๆ (some) 12 กโิ ลเมตร มปี ระตูมากกว่า 90 ประตู และมีร่องน้ำทม่ี นษุ ย์สรา้ งข้ึนเป็นระยะทางถึง 56 กโิ ลเมตร ความม่ังค่ังของ อยธุ ยามีรากฐานมาจาก (based on) การคา้ จากเหตผุ ลการค้าได้ชักนำประชากรหลายชาตหิ ลายภาษา (hight cosmopolitan population) ไดแ้ ก่ ชาวมาเลย์, ชาว กมั พชู า, ชาวพม่า, และชาวลาว จากประเทศเพ่อื นบา้ น (neighbouring countries) ได้แก่ ชาวจนี ญป่ี นุ่ และอนิ เดยี ไม่ว่าจากแห่งหนใด (anywhere) ในเอเชยี และใน ทา้ ยทสี่ ดุ ก็มีชาวยุโรปจากประเทศโปรตเุ กส ฮอลแลนด์ อังกฤษ และฝรัง่ เศส ก็พากนั เข้ามามากมาย

Table of Contents

[NEW] 50++ โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษรู้แล้วรอดเเน่ | แตง กว่า ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ปัญหาของผู้เรียนหลายคนคือเห็นว่าการเรียนไวยากรณ์เป็นเรื่องที่ยาก เพราะมีเยอะเเละจดจำยาก เเต่ถ้าเรามีเเนวทางการเรียนที่ถูกต้อง เรียนรู้ตามโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษที่มักจะใช้บ่อย รู้เเล้วรับรองรอดเเน่นอน ทั้งหมดมีในบทความเดียว อย่าพลาดนะจ๊ะ

เริ่มจากโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษที่ง่ายที่สุด

1. S +V
ยกตัวอย่างเช่น
– I stand here. ฉันยืนตรงนี้
– You sit there. คุณนั่งตรงนั้น
– He sleeps on the sofa. เขานอนบนโซฟา

2. S + V + O
ยกตัวอย่างเช่น
– He buys a car. เขาซื้อรถยนต์
– She likes cats. หล่อนชอบแมว
– They clean the room. พวกเขาทำความสะอาดห้อง

3. S + V + IO + DO
ยกตัวอย่างเช่น
– He buys me a coffee. หมายถึง เขาซื้อกาแฟให้ฉัน
– Mom gives me a present. แม่ให้ของขวัญแก่ฉัน
– Dad makes a dog a house. พ่อทำบ้านให้หมา

4. S + V + OC ( ประธาน + กริยา + ส่วนเติมเต็มประธาน )
ยกตัวอย่างเช่น
– He is a doctor. (เป็นใคร) เขาเป็นหมอ
– I am tall. (เป็นยังไง) ฉันตัวสูง
– She is a nice student. (เป็นใคร) หล่อนเป็นนักเรียนที่ดี

5. S + V + O + OC
ยกตัวอย่างเช่น
– They painted the car white. พวกเขาทาสีรถยนต์ให้เป็นสีขาว
– He made me happy. เขาทำให้ฉันมีความสุข
– We consider John silly พวกเราถือว่าจอห์นงี่เง่า

6. S + V+ too + adj/adv + (for someone) + to do something (มาก….เพื่อให้ใครทำอะไร…)
ตัวอย่างบางส่วนใช้โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษด้านบน:
– He ran too fast for me to follow.
– This exercise was too easy for me to do. แบบฝึกหัดนี้ง่ายเกินไปสำหรับฉันที่จะทำ

7. S + V + so + adj/ adv + that +S + V (มาก… ถึงขนาดที่…)
ยกตัวอย่างเช่น
– This box is so heavy that I cannot take it. กล่องนี้หนักมากจนฉันไม่สามารถเอามันไปได้
– He speaks so soft that we can’t hear anything.  เขาพูดเสียงเบาจนเราไม่ได้ยินอะไรเลย

8. It + V + such + (a/an) + N(s) + that + S +V (มาก… ถึงขนาดที่…)
ตัวอย่างบางส่วนใช้โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษด้านบน:
– It is such a heavy box that I cannot take it. มันเป็นกล่องที่หนักมากจนฉันไม่สามารถรับมันได้
– It is such interesting books that I cannot ignore them at all. เป็นหนังสือที่น่าสนใจมากจนไม่สามารถมองผ่านได้เลย

9. To be/get Used to + V-ing: (คุ้นเคยกับอะไร)
ยกตัวอย่างเช่น
– We are used to getting up early เราเคยชินกับการตื่นเช้า

10. Have/ get + something + done (Vpp.) (ฝากหรือจ้างใครทำอะไร…)
ตัวอย่างบางส่วนใช้โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษด้านบน:
– I had my hair cut yesterday. ฉันตัดผมเมื่อวานนี้
– I’d like to have my shoes repaired. ฉันต้องการซ่อมรองเท้า

โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษไม่ยากอย่างที่คิด

ด้านล่างนี้คือโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษทั่วไปอื่น ๆ

11. It + be + time + S + V / It’s +time +for someone +to do something (ถึงเวลาที่ใครต้องทำอะไรสักอย่าง…)
ตัวอย่างบางส่วนใช้โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษด้านบน:
– It is time you had a shower. ได้เวลาอาบน้ำแล้ว
– It’s time for me to ask all of you for this question. ถึงเวลาที่ฉันจะถามพวกคุณทุกคนคำถามนี้

12. It + takes/took + someone + amount of time + to do something (ทำอะไร… เสียเวลาเท่าไหร่…)
ยกตัวอย่างเช่น
– It takes me 5 minutes to get to school. ฉันใช้เวลา 5 นาทีในการไปโรงเรียน
– It took him 10 minutes to do this exercise yesterday.  เขาใช้เวลา 10 นาทีในการทำแบบฝึกหัดนี้เมื่อวานนี้

13. To prevent/stop + someone/something + From + V-ing (ป้องกันคน / อะไร … ไม่ทำอะไร .. )
ตัวอย่างบางส่วนใช้โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษด้านบน:
– I can’t stop her from tearing ฉันไม่สามารถทำให้เธอหยุดร้องให้

14. S + find + it + adj to do something (พบว่า … เพื่อทำอะไร…)
ยกตัวอย่างเช่น
– I find it very difficult to learn about Japanese ฉันพบว่ามันยากมากที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่น
– They found it easy to overcome that problem. พวกเขาพบว่ามันง่ายที่จะเอาชนะปัญหานั้น

15. To prefer + Noun/ V-ing + to + N/ V-ing. (ชอบทำอะไรมากกว่า/ ทำอะไร)
ยกตัวอย่างเช่น
– I prefer dog to cat. ฉันชอบสุนัขมากกว่าแมว
– I prefer reading books to watching TV. ฉันชอบอ่านหนังสือเพื่อดูทีวี

16. Would rather + V(infinitive) + than + V (infinitive) (ชอบอะไรมากกว่า)
ตัวอย่างบางส่วนใช้โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษด้านบน:
– She would rather play games than read books. เธอชอบเล่นเกมมากกว่าอ่านหนังสือ
– I’d rather learn English than learn Math. ฉันอยากเรียนภาษาอังกฤษมากกว่าเรียนคณิตศาสตร์

17. To be/get Used to + V-ing (คุ้นเคยกับอะไร)
ยกตัวอย่างเช่น
– I am used to eating with chopsticks.

18. Used to + V (infinitive) (มักจะทำอะไรเมื่อก่อนแต่ตอนนี้ไม่ทำอีกแล้ว)
ยกตัวอย่างเช่น
– I used to go fishing with my friend when I was young. ตอนเป็นเด็กๆ ฉันเคยไปตกปลากับเพื่อนของฉัน

19. by chance = by accident (adv): โดยบังเอิญ
ยกตัวอย่างเช่น
– I met her in Paris by chance last week.  ฉันพบเธอที่ปารีสโดยบังเอิญเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

20. to be/get tired of + N/V-ing (เหนื่อยเพราะ…)
ยกตัวอย่างเช่น
– My mother was tired of doing too much housework everyday.  แม่เหนื่อยกับการทำงานบ้านมากเกินไปทุกวัน

โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งของไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ

เมื่อใช้โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษคุณต้องใส่ใจกับกาลของกริยาหลักด้วย

21. to be keen on/ to be fond of + N/V-ing (ชอบทำอะไรสักอย่าง…)
ยกตัวอย่างเช่น
– I am fond of listening to music = I like listening to music. ฉันชอบฟังเพลง

22. to be interested in + N/V-ing (สนใจต่อ…)
ยกตัวอย่างเช่น
– We were interested in the movie we saw yesterday. เราสนใจภาพยนตร์ที่เราเห็นเมื่อวานนี้

23. to waste + time/ money + V-ing (เสียเงินและเวลาเกี่ยวกับ)
ยกตัวอย่างเช่น
– You have been wasted my time surfing the internet. คุณเสียเวลาไปกับการท่องอินเทอร์เน็ต

24. To spend + amount of time/ money + V-ing (ใช้เวลาเท่าไหร่เพื่อ…)
ตัวอย่างบางส่วนใช้โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษด้านบน:
– To spend + amount of time/ money + on + something (ใช้เวลาเพื่อทำอะไร…)
– I spend 2 hours reading books a day. ฉันใช้เวลาอ่านหนังสือ 2 ชั่วโมงต่อวัน

25.  feel like + V-ing (รู้สึกอยากทำอะไรบางอย่าง…)
ยกตัวอย่างเช่น
– I feel like going for a picnic ฉันรู้สึกอยากไปปิกนิก

26. would like/ want/wish + to do something (ชอบทำอะไร…)
ยกตัวอย่างเช่น
– I would like to go to the cinema with you tonight. ฉันอยากไปดูหนังกับคุณคืนนี้

27. have + (something) to + Verb (มีบางอย่างที่ต้องทำ)
ยกตัวอย่างเช่น
– I have many things to do this week. ฉันมีหลายสิ่งที่ต้องทำในสัปดาห์นี้

28. It + be + something/ someone + that/ who
ยกตัวอย่างเช่น
– It is Tom who got the best marks in my class. Tom เป็นคนที่ได้คะแนนดีที่สุดในชั้นเรียนของฉัน

29. Had better + V(infinitive) (ควรทำอะไร….)
ยกตัวอย่างเช่น
– He had better go to hospital. เขาควรไปโรงพยาบาลดีกว่า

โครงสร้างประโยคบางส่วนเกี่ยวข้องกับวลีกริยา

30. hate/ enjoy/ like/ dislike/ finish/ avoid/ mind/ practise/ postpone/ deny/ consider/ delay/ keep/ suggest/ fancy/ risk/ imagine + V-ing
ยกตัวอย่างเช่น
– I always practise speaking English everyday. ฉันมักจะฝึกพูดภาษาอังกฤษทุกวัน

31. To remember doing (จดจำว่าได้ทำอะไรบ้าง)
ตัวอย่างบางส่วนใช้โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษด้านบน:
– I remember reading this book ฉันจำได้ว่าอ่านหนังสือเล่มนี้
– I remember visiting this place ฉันจำได้ว่าเคยไปที่นี่

32.FAIL TO DO SOMETHING (ล้มเหลวในบางสิ่ง)
ยกตัวอย่างเช่น
– He failed to pass the police test. เขาสอบตำรวจไม่ผ่าน
– John failed to do exercises. Johnทำแบบฝึกหัดไม่สำเร็จ

33. SUCCEED IN DOING SOMETHING (ประสบความสำเร็จในบางสิ่ง)
ยกตัวอย่างเช่น
– She succeeded in finishing the race. เธอประสบความสำเร็จในการแข่งขัน
– Henry succeeded in the final exam. เฮนรี่ประสบความสำเร็จในการสอบปลายภาค

34. BORROW SOMETHING FROM SOMEBODY (ยืมสิ่งของของใคร)
ตัวอย่างบางส่วนใช้โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษด้านบน:
– I borrow those books from Mary. ฉันยืมหนังสือเหล่านั้นจากแมรี่
– Anna borrows that glass from her mother. แอนนายืมแก้วใบนั้นมาจากแม่

35. TRY DOING SOMETHING (ลองทำอะไร)
ยกตัวอย่างเช่น
– I try playing football.ผมลองเล่นฟุตบอล
– He tried playing piano. เขาลองเล่นเปียโน

36. NEED TO DO SOMETHING (ต้องทำอะไร)
ยกตัวอย่างเช่น
– I need to see him next morning. ฉันต้องเจอเขาในเช้าวันพรุ่งนี้
– We need to plan the trip first. เราจำเป็นต้องวางแผนการเดินทางก่อน

37. NEED DOING (ต้องการทำอะไร)
ยกตัวอย่างเช่น
– His shirt needs washing. เสื้อของเขาต้องซัก
– Our kids needs cleaning. เด็กๆ ต้องการการอาบน้ำ

38. REMEMBER DOING SOMETHING (จำว่าต้องทำอะไร)
ตัวอย่างบางส่วนใช้โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษด้านบน:
– We remembered turning the lights off before coming out.เราจำได้ว่าปิดไฟก่อนเดินทางไปข้างนออก
– You should remember to clean up before leaving.  คุณควรอย่าลืมทำความสะอาดก่อนออกเดินทาง

ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตามต้องใช้ความเพียรพยายาม

ทำงานหนักและคุณจะมีความสำเร็จที่ดี

39.To prefer + N/ V-ing + to + N/ V-ing ชอบอะไร ชอบทำอะไรมากกว่า
ตัวอย่างบางส่วนใช้โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษด้านบน:
– I prefer cat to dog ฉันชอบแมวมากกว่าสุนัข
– She Prefer watching TV to reading books เธอชอบดูทีวีมากกว่าอ่านหนังสือ
– My Mom prefers having dinner at home to going out.  แม่ของฉันชอบทานอาหารเย็นที่บ้านมากกว่าออกไปข้างนอก

40. HAVE SOMEBODY DO SOMETHING
ยกตัวอย่างเช่น
– My boss asked me to have Jerry come to his office before 5pm. เจ้านายของฉันขอให้เจอร์รี่มาที่ออฟฟิศก่อน 17.00 น.
– I had Jon fix my bike. ฉันฝากให้จอนซ่อมจักรยานของฉัน

41. BE ABLE TO DO SOMETHING (ความสามารถในการทำบางสิ่ง)
ยกตัวอย่างเช่น
– May is able to draw a picture. May สามารถวาดรูปได้

42. BE GOOD AT SOMETHING (ทำอะไรเก่ง)
ยกตัวอย่างเช่น
– He is very good at music. เขาเก่งโดนตรีมาก/ เขาถนัดดนตรีมาก
– She is good at playing games. เธอเล่นเกมเก่ง

43. BE BAD AT SOMETHING  (ทำอะไรไม่เก่ง)
ยกตัวอย่างเช่น
– Harry is bad at singing. Harry ร้องเพลงไม่เก่งเลย

44. Make progress (มีความก้าวหน้า)
ยกตัวอย่างเช่น
– Harriet is making progress with all her schoolwork. แฮเรียตกำลังก้าวหน้ากับ=การเรียน=ของเธอ

45. APOLOGIZE FOR DOING SOMETHING (ขอโทษที่ทำอะไรบางอย่าง)
ยกตัวอย่างเช่น
– He apologized for being late. เขาขอโทษที่มาช้า
– I apologized for not call him back. ฉันขอโทษที่ไม่โทรกลับเขา

46. HAD BETTER DO SOMETHING (ควรทำอะไรดีกว่า)
ยกตัวอย่างเช่น
– You had better hang out with them. คุณออกไปเที่ยวกับพวกเขาดีกว่า
– I had better go to sleep now.ไปนอนก่อนดีกว่า

47. BE BUSY DOING SOMETHING (ไม่ว่างจะทำอะไร)
ตัวอย่างบางส่วนใช้โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษด้านบน:
– I was busy finishing my reports. ฉันยุ่งกับการทำรายงานให้เสร็จ
– My family was busy cooking dinner at 7pm. ครอบครัวของฉันยุ่งอยู่กับการทำอาหารเย็นตอน 19.00 น

48. WOULD RATHER SOMEBODY DID SOMETHING (อยากให้ใครทำอะไร)
ยกตัวอย่างเช่น
– I would rather him went to school. ฉันอยากให้เขาไปโรงเรียน
– Henry would rather his brother went swimming. เฮนรี่อยากให้พี่ชายของเขาไปว่ายน้ำ

โครงสร้างภาษาอังกฤษที่สำคัญบางประการไม่ควรมองข้าม

49. SUGGEST SOMEBODY (SHOULD) DO SOMETHING (เเนะนำให้ใครทำอะไร)
ยกตัวอย่างเช่น
– The teacher suggested his students should learn that lesson hard.  ครูแนะนำนักเรียนของเขาควรเรียนรู้บทเรียนนั้นอย่างหนัก

50. TRY TO DO SOMETHING (ตั้งใจทำอะไร)
ยกตัวอย่างเช่น
– He tried to learn all lessons before the test on Monday. เขาพยายามเรียนรู้บทเรียนทั้งหมดก่อนการทดสอบวันจันทร์

51. GET/HAVE SOMETHING DONE (สำเร็จเรื่องอะไร)
ยกตัวอย่างเช่น
– I have my Mom’s car washed.ฉันล้างรถของแม่แล้ว
แล้วคุณเป็นอย่างไรบาง…

52. It + takes/took + someone + amount of time + to do something (ทำอะไร…เสียเวลาเท่าไหร่…)
ตัวอย่างบางส่วนใช้โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษด้านบน:
– It takes me 5 minutes to get to school. ฉันไปถึงโรงเรียนเสียเวลาห้านาที
– It took him 10 minutes to do this exercise yesterday.เขาใช้เวลา 10 นาทีในการทำแบบฝึกหัดนี้เมื่อวานนี้

53. want/ plan/ agree/ wish/ attempt/ decide/ demand/ expect/ mean/ offer/ prepare/ happen/ hesitate/ hope/ afford/ intend/ manage/ try/ learn/ pretend/ promise/ seem/ refuse + TO + V-infinitive
ยกตัวอย่างเช่น
– I decide to study English.  ฉันตัดสินใจเรียนภาษาอังกฤษ

54. LOOK FORWARD TO SOMETHING (รอคอยในอะไรสักอย่าง)
ยกตัวอย่างเช่น
– We are looking forward to go hiking next week.เรารอคอยที่จะไปปีนเขาในสัปดาห์หน้า
– I am looking forward to hear from you. ฉันกำลังรอคำตอบจากคุณ อันนี้ใช้บ่อยในการส่งเมล์นะคะ

55. PLAN TO DO SOMETHING (วางแผน / วางแผนที่จะทำบางสิ่ง)
ตัวอย่างบางส่วนใช้โครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษด้านบน:
– We plan to go camping next week. เราวางแผนจะไปตั้งแคมป์ในสัปดาห์หน้า
– He plans to check up tomorrow. เขาวางเเผนจะตรวจสอบสุขภาพวันพรุ่งนี้

56. to be interested in + N/V-ing: สนใจถึง….
ยกตัวอย่างเช่น
– Mrs Brown is interested in going shopping on Sundays. คุณบราวน์สนใจจะไปซื้อของในวันอาทิตย์

57. To be bored with : เบื่อที่ต้องทำอะไร
ยกตัวอย่างเช่น
– We are bored with doing the same things every day. เราเบื่อกับการทำอะไรเดิม ๆ ทุกวัน

แบ่งปันสิ่งดีๆแล้วคุณจะได้รับสิ่งดีๆตอบแทน

ถ้าคุณเห็นว่าบทความนี้มีผลประโยน์ต่อคุณอย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ ของคุณได้ทราบด้วยนะคะ เราจะได้แชร์กันความรู้ดีๆ ช่วยกันเรียนภาษาอังกฤษให้ดีขึ้นทุกวัน การเรียนรู้เป็นสิ่งที่ไม่มีวันหยุดนิ่งอยู่แล้ว เราต้องพยายามเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มาตลอด เรียนเพื่อกลายเป็นคนดี คนเก่งเพื่อจะได้งานและอนาตคที่สดใสนะคะ

และอย่าลืมไม่ว่าเราจะทำอะไรยากขนาดไหน ถ้าเราตั้งใจที่จะทำ มุ่งมันกับสิ่งที่ทำ มีแผนการเรียนอย่างชัดเจนว่าคสรเรามเรียนจากอะไรก่อนอะไรเป็นสิ่งสำคัญไม่ควรพลาด รับรองว่าอีกไม่กี่เดือนคุณก็จะเห็นความก้าวกระโดดในการเรียนรู้ของตัวเองในการเรียนภาษาอังกฤษแน่นอน

ความคิดเห็น 635 รายการ

 


แตงกวา กษมา รอบ KEYWORD ใน Miss Universe Thailand 2021


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

แตงกวา กษมา รอบ KEYWORD ใน Miss Universe Thailand 2021

ผักดองสามรส สไตล์เกาหลี กรอบอร่อยมากก ทานเป็นเครื่องเคียงได้กับทุกเมนู ทำง่ายมากๆ!!


สูตรนี้ทำได้ 3 โหลใหญ่ๆ ใครทำน้อยกว่านี้ก็หารสูตร ใครทำเยอะก็คูณสูตรได้เลยค่ะ รับรองอร่อยติดใจแน่นอนค่ะ😍
พูดคุยกันได้ที่แฟนเพจ https://www.facebook.com/maeceenongmoddy/
อัตราส่วนน้ำดอง
น้ำเปล่า 1650 กรัม
น้ำตาลทรายขาว 1120 กรัม
น้ำส้มสายชู 5% 1280 กรัม
อัตราส่วนผัก
หัวไชเท้า 2 หัวใหญ่ๆ (หัวละเกือบกิโล)
แครอท 5 หัวใหญ่
แตงกวาญี่ปุ่น 15 ลูก
เกลือป่น 3 ชช.(แบ่งใส่ผักชนิดละ 1 ชช.)
ใส่เกลือในผักชนิดละ 1 ชช. คลุกเคล้าให้ทั่ว พักไว้ 15 นาที หลังจากนั้นให้เทน้ำออกให้หมด (ไม่ต้องล้างน้ำ)
เคี่ยวน้ำดองด้วยไฟกลางจนส่วนผสมละลายดีแล้วปิดเตา รอให้เย็นสนิท
น้ำดองก่อนที่จะเทใส่ผักต้องรอให้เย็นสนิทไม่งั้นผักจะสุกเละ
แช่ผักดองไว้ในตู้เย็น 12 คืนก็สามารถทานได้เลย
ถ้าทานไม่หมดสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้เป็นเดือนค่ะ
ผักดองสามสี ผักดองสามรส

ผักดองสามรส สไตล์เกาหลี กรอบอร่อยมากก ทานเป็นเครื่องเคียงได้กับทุกเมนู ทำง่ายมากๆ!!

สวนแตงกวา


เนื้อหาที่ใช้ฝึกพูดภาษาอังกฤษได้จริง

สวนแตงกวา

แตงกวา กับฝรั่ง ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร?


แตงกวา กับฝรั่ง ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร?

คำศัพท์ ผัก ภาษาอังกฤษ Vegetables


คำศัพท์ ผัก ภาษาอังกฤษ Vegetables
เรียนภาษาอังกฤษ
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ
ผักภาษาอังกฤษ
ภาษาอังกฤษ ผักอังกฤษ คำศัพท์

คำศัพท์ ผัก ภาษาอังกฤษ Vegetables

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ แตง กว่า ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *