Skip to content
Home » [NEW] พื้นฐานภาษาอังกฤษ-Pronoun   (คำสรรพนาม) | คํานําหน้านาม – NATAVIGUIDES

[NEW] พื้นฐานภาษาอังกฤษ-Pronoun   (คำสรรพนาม) | คํานําหน้านาม – NATAVIGUIDES

คํานําหน้านาม: คุณกำลังดูกระทู้

Pronoun   (คำสรรพนาม)    คือคำที่มีไว้สำหรับ(พูด,เขียน)แทนชื่อของคน,สัตว์,สิ่งของ,และสถานที่เพื่อป้องกันมิให้กล่าวชื่อนั้นซ้ำๆซากๆ ซึ่งเป็นการฟังไม่ไพเราะ

Pronoun   มีอยู่ 8 ชนิดด้วยกันคือ

  1. Personal Pronoun บุรุษสรรพนาม
  2. Possessive  Pronoun  สามีสรรพนาม
  3. Definite   Pronoun  นิยมสรรพนาม
  4. Indefinite  Pronoun  อนิยมสรรพนาม
  5. Interrogative  Pronoun   ปฤจฉาสรรพนาม
  6. Relative  Pronoun  ประพันธ์สรรพนาม
  7. Reflexive  Pronoun  สรรพนามสะท้อนหรือเน้น
  8. Distributive Pronoun  วิภาคสรรพนาม
  9. 1. Personal Pronounบุรุษสรรพนาม คือสรรพนามที่ใช้แทนชื่อของผู้พูด, ผู้ฟัง, และผู้ที่ถูกกล่าวถึง  ซึ่งมีอยู่ 2  พจน์  3  บุรุษ คือ

 

 

เอกพจน์

พหูพจน์

บุรุษที่     1

I

we

บุรุษที่     2

you

you

บุรุษที่     3

he,   she,    it

the

 

 

Personal   Pronoun   แบ่งได้  5  รูป คือ

รูปที่  1

รูปที่ 2

รูปที่ 3

รูปที่  4

รูปที่ 5

I

Me

My

mine

myself

We

us

Our

ours

ourselves

You

you

Your

yours

yourself

He

him

his

his

himself

she

her

Her

hers

herself

It

It

its

its

itself

they

them

there

theirs

themselves

 

  1. Possessive Pronoun สามีสรรพนาม   คือสรรพนามที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งก็คือบุรุษสรรพนามรูปที่  4  นั่นเอง  เวลาใช้ไม่ต้องมีนามตามหลัง  มีหน้าที่ 3 อย่างคือ

2.1     เป็นประธานของกิริยาในประโยค  เช่น Your   book  is green,  mine is red.

2.2     เป็นส่วนสมบูรณ์ของกิริยา   เช่น  this  pencil is mine, that one is your.

2.3     ใช้เรียงตามหลังบุรพบท(คำเชื่อมคำ) เพื่อเน้นความเป็นเจ้าของให้ชัดเจนขึ้นได้เช่น  A   friend  of  yours  was  killed  last  night.    

  1. 3.  Definite Pronounนิยมสรรพนาม  คือสรรพนามที่ชี้เฉพาะและใช้แทนนามได้ ที่นิยมใช้แพร่หลายมีอยู่ 6 ตัวคือ  (รวมทั้ง which ด้วย)

                    this,   that,   one      3   ตัวนี้ใช้แทนนามที่เป็นเอกพจน์.

                   These,    those,  ones   3    ตัวนี้ใช้แทนนามที่เป็นพหูพจน์.

*นิยมสรรพนามนี้ ทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมของกิริยาในประโยคได้ตามแต่ จะ ใช้งาน.

  1. 4.   Indefinite pronounอนิยมสรรพนาม คือสรรพนามที่ใช้แทนนามได้ทั่วไป ไม่เฉพาะเจาะจงว่าแทนคนนั้นคนนี้โดยตรง  (ตรงข้ามกับ Definite Pronoun)  ได้แก่คำว่า  some,  any,  all,  someone,  somebody,  anybody,  few,  everyone,  many,  nobody,   everybody,  other……etc.

*ข้อสังเกต ทั้งนิยมสรรพนามและอนิยมสรรพนาม  ถ้าใช้โดยมีคำนามอื่นตามหลังจะกลายเป็นคำคุณศัพท์ไป  แต่ถ้าใช้โดยไม่มีคำนามอื่นตามหลังจึงจะเป็นนิยมสรรพนามหรืออนิยมสรรพนาม.

  1.  5. Interrogative pronounปฤจฉาสรรพนาม  คือสรรพนามที่ใช้เป็นคำถาม  และต้องไม่มีนามตามหลังด้วยจึงจะเรียกว่าเป็นปฤจฉาสรรพนาม  ได้แก่    Who  ,  whom,  whose  ,  what,  which     ซึ่งมีวิธีใช้ดังนี้.
  • Who   (ใคร)   ใช้ถามถึงบุคคลและเป็นประธานของกิริยาในประโยคได้ บางครั้งก็เป็นกรรมได้ เช่น.   Who   is  standing   there  ? ใครกำลังยืนอยู่ที่นั่น?.
  • Whom (ใคร)  ใช้ถามถึงบุคคลและเป็นกรรมของกิริยาหรือบุรพบท  (บางครั้งใช้ Who แทน).เช่น Whom  do  you  love ?  คุณรักใคร ?.
  • Whose (ของใคร)  ใช้ถามถึงเจ้าของ  และต้องเป็นบุคคลเท่านั้น เช่น.  Whose  is  the  car ?  รถคันนี้เป็นของใคร
  • What (อะไร)   ใช้ถามถึงสิ่งของเป็นได้ทั้งประธานและกรรม  เช่น:-

                       –  ถ้าเป็นประธานต้องไม่ใช้กริยาอะไรมาช่วยทั้งสิ้น เช่น What  delayed  you ?  

                          อะไรทำให้คุณล่าช้า.

–  ถ้าเป็นกรรมต้องมีกริยาช่วยตัวอื่นมาร่วมด้วย และวางไว้หลัง What เช่น What  

    do you want ?

  • Which  (สิ่งไหน อันไหน)  ใช้ถามถึงสัตว์, สิ่งของ, เป็นได้ทั้งประธานและกรรม เช่น  ถ้าเป็นประธานไม่ต้องใช้กริยาอื่นมาช่วย  Which  is  the  best?  อันไหนดีที่สุด ?.(อนึ่งปฤจฉาสรรพนาม Whose ,which,  what นี้  ถ้าใช้โดยมีนามอื่นตามหลังก็เป็นคุณศัพท์ไป   ถ้าไม่มีนามอื่นตามหลังจึงจะเป็นปฤจฉาสรรพนาม)   
  1. 6. Relative  Pronounประพันธ์สรรพนาม  คือสรรพนามที่ใช้แทนที่อยู่ข้างหน้า และในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เชื่อมประโยค ซึ่งอาจเป็นประธานของประโยคหลังได้ด้วย  ได้แก่ Who,  Whom,   Whose, Which,  Where,  what,  when, why,  that .
  • Who  (ผู้ซึ่ง)  ใช้แทนนามที่เป็นบุคคลและบุคคลนั้นจะต้องเป็นผู้กระทำด้วย เช่น The  man  who  came  here  last  week  is  my  cousin.  ชายผู้ซึ่งมาที่นี่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน.
  • Whom (ผู้ซึ่ง)  ใช้แทนนามที่เป็นบุคคลและบุคคลนั้นต้องเป็นผู้ถูกกระทำด้วย เช่น The  boy  whom  you  saw  yesterday  is  my  brother. เด็กชายผู้ซึ่งคุณพบเมื่อวานนี้เป็นน้องชายของผม.
  • Whose(ผู้ซึ่ง…..ของเขา)   ใช้แทนนามที่เป็นบุคคลเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของนามที่ตามหลัง ดังนั้นเมื่อมี Whose ก็ต้องมีนามตามหลัง Whose เสมอ  เช่น  The  girl  whose  father  is  a  teacher  goes  to  school  every  day.   เด็กหญิงผู้ซึ่งพ่อของเขาเป็นครูนั้นไปโรงเรียนทุกวัน.(เป็นคำแสดง ความ เป็นเจ้าของ Father).
  • Which  (ที่,ซึ่ง)  ใช้แทนนามที่เป็นสัตว์ สิ่งของ เป็นได้ทั้งประธานและกรรม   The  animal            which  has  wing  is  a  bird.  สัตว์ที่มีปีกนั้นคือนก(เป็นประธานของอนุประโยค  has  wings) The  kitten  which  I  gave  to  my  aunt  is  very  naughty.  ลูกแมวซึ่งฉันให้แก่คุณป้าของฉันไปนั้นซุกซนมาก.(เป็นกรรมของกริยา  gave  ในอนุประโยค  I gave  to  my  aunt).
  • Where (อันเป็นที่)  ใช้แทนนามที่เป็นสถานที่ เป็นได้ทั้งประธานและกรรม เช่น  The  night  club is  the  place  where  is  not  suitable  for children. ไนท์คลับเป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ(เป็นประธานของอนุประโยค is  not  suitable  for  children )  The  hotel  is  the  place  where  I  like  best .  โรงแรมเป็นสถานที่ที่ผมชอบมากที่สุด.(เป็นกรรมของ like).
  • What (อะไร,สิ่งที่)  ใช้แทนนามที่เป็นสิ่งของ นามที่ What ไปแทนทำหน้าที่เป็นประพันธ์สรรพนามนั้นไม่ต้องปรากฏให้เห็นอยู่ข่างหน้าเหมือนประพันธ์สรรพนามตัวอื่น ทั้งนี้เพราะถูกละไว้ในฐานะที่เข้าใจแล้ว เช่น I  know  what  is  in  the  box.  ฉันรู้ว่าอะไรอยู่ในกล่องใบนี้.
  • When (เมื่อ,ที่)  ใช้แทนนามที่เกี่ยวกับเวลา ,วัน,  เดือน,ปี  เช่น  Sunday  is  the  day  when  we  don’t  work.  วันอาทิตย์คือวันที่เราไม่ทำงาน.
  • Why (ทำไม)   ใช้แทนนามที่เป็นเหตุผล  (ส่วนมากใช้แทน reason ) เช่น This  is  the  reason  why  I  go  to  Hong  Kong. นี้คือเหตุผลที่ว่า ทำไมผมจึงไปฮ่องกง. 
  • That  (ที่,ซึ่ง)   ใช้แทนคน, สัตว์, สิ่งของ, และสถานที่ได้ แต่ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ 4  ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง  อันได้แก่  :-
  1.  เป็นนามที่มีคุณสมบัติสูงสุดมาขยายอยู่ข้างหลัง เช่น  He is the tallest  man  that  I   have  ever seen. เขาเป็นคนสูงที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา.   
  2. เป็นนามที่มีเลขจำนวนนับที่มาขยายอยู่ข้างหน้า  เช่น China  is  the  first  country  that  I am  going  to  visit. จีนเป็นประเทศแรกที่ข้าพเจ้าจะไปเที่ยว.
  3. เป็นนามที่มีคุณศัพท์บอกปริมาณมาขยายอยู่ข้างหน้า เช่น She has much money  that  she  give  me.  หล่อนมีเงินอยู่มากที่หล่อนจะให้ผม. 
  4.  เป็นสรรพนามผสมต่อไปนี้ตัวใดตัวหนึ่งปรากฏอยู่แล้ว คือsomeone,  somebody,  something,  anyone,  anything,  anybody,  anyone,  everything,  no  one,  nothing,  etc.  เช่น    There  is  nothing that  I can  do  for  you.   ไม่มีอะไรที่ผมจะช่วยคุณได้.
  5. 7.  Reflexive   Pronounสรรพนามสะท้อนหรือเน้น  ได้แก่บุรุษสรรพนามที่ 5  นั่นเอง  อันได้แก่   myself,  yourself,  ……. Themselves.   เวลาใช้มีวิธีใช้  4  อย่างคือ  :-
  6. เรียงไว้หลังประธาน  เมื่อต้องการเน้นว่าประธานเป็นผู้กระทำกิจนั้นด้วยตนเอง เช่น  I   myself  study  English.   ผมเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง.
  7. เรียงไว้หลังกริยา เมื่อบอกว่าผลการกระทำนั้นเกิดจากผู้กระทำเองเช่น   I  will  punish  myself  if  I do  mistakes  ผมจะลงโทษตัวเอง  หากผมทำผิด. 
  8. เรียงไว้หลังกรรม  เมื่อต้องการเน้นกรรมนั้นเช่น   I   spoke   to  the  President   himself .  ผมได้พูดกับตัวท่านประธานาธิบดีเอง.
  9. เรียงไว้หลังบุรพบท by วางไว้สุดประโยคทุกครั้งไป เมื่อต้องการแสดงว่าประธานผู้นั้นกระทำกิจนั้นโดยลำพังคนเดียว เช่น   Pranee makes her dress by herself.
  10. 8.  Distributive   Pronounวิภาคสรรพนาม   คือสรรพนามที่ใช้แทนคำนามในการแบ่งหรือจำแนกออกเป็นครึ่งหนึ่ง, สิ่งหนึ่ง, หรือตัวหนึ่ง  วิภาคสรรพนามที่นิยมใช้กันมากคือ

each   แต่ละ,  either   คนใดคนหนึ่ง,   neither  ไม่ใช่ทั้งสอง  หรือไม่ใช่ทั้งสอง  เช่น

  There  are  ten  boy each   has  one  hundred  bath.   มีเด็กอยู่ 10  คน  แต่ละคนมีเงินอยู่คนละ  100  บาท.

*   ข้อสังเกต   วิภาคสรรพนามถ้าใช้ลอยๆเป็นสรรพนาม  แต่ถ้าใช้โดยมีนามอื่นตามหลังจะเป็นคุณศัพท์     

                      

Article

                 Article   คือ คำที่ใช้นำหน้านาม    คือคำนามในภาษาอังกฤษทุกตัว เวลาพูด-เขียนจะต้องมี Article นำหน้าทั้งสิ้น(ยกเว้นบางตัวที่จะกล่าวต่อไป) 

                   Article  มีอยู่ 2 ชนิดคือ

  1. Indefinite Article คือคำนำหน้านามแล้วมีความหมายทั่วไป  อันได้แก่  A  , An.
  2. Definite Article คือคำนำหน้านามแล้วมีความหมายชี้เฉพาะ  ได้แก่  The .

                                 

หลักทั่วไปของการใช้   A

                  คือเมื่อ  A  นำหน้านามใดนามนั้นต้องมีลักษณะครบ  4  ประการ อันได้แก่

  1. เป็นนามเอกพจน์
  2. เป็นนามนับได้
  3. เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ
  4. เป็นนามที่มีความหมายทั่วไป เช่นa book, a man, a bus, a pen

*  ข้อยกเว้น  ห้ามใช้  A นำหน้า  คือนามบางตัวที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ  แต่อ่านออกเสียงสระที่อยู่ถัดไป  นามตัวนั้นให้ใช้  AN  นำหน้าแทน  (มี   H  เท่านั้น)

หลักทั่วไปของการใช้  AN

     คือเมื่อ  AN  นำหน้านามใด  นามนั้นจะต้องมีลักษณะครบ 4  ประการ คือ

  1. เป็นนามเอกพจน์
  2. เป็นนามนับได้
  3. เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยสระ คือ   A ,  E ,  I ,  O ,  U.
  4. เป็นนามที่มีความหมายทั่วไป

               *  ข้อยกเว้น   ห้ามใช้   AN  นำหน้าคือ  นามบางตัวที่ขึ้นต้นด้วยสระ  แต่อ่านออกเสียงเป็นพยัญชนะ”ย”  นามตัวนั้นให้ใช้  A  นำหน้าแทน  (มี   U  และ  E  เท่านั้น).

           นามต่อไปนี้ห้ามใช้ทั้ง A  และ AN  นำหน้าเด็ดขาด

  1. นามที่นับไม่ได้ทุกชนิด
  2. นามพหูพจน์ทุกชนิด

                      

หลักทั่วไปของการใช้  THE

          คำว่า The แปลว่า นั้น,นี้ คือเป็นการชี้เฉพาะถึงสิ่งที่รู้กันอยู่แล้ว   ซึ่ง The ใช้นำหน้านามได้ทุกชนิด ทุกประเภท  นั่นคือ

  1. เป็นนามเอกพจน์   ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  2. เป็นนามพหูพจน์   ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  3. เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยพยัญชนะ  ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  4. เป็นนามที่ขึ้นต้นด้วยสระ    ก็ใช้  The  นำหน้าได้ (แต่ให้อ่านว่า ดิ )
  5. เป็นนามที่นับได้  ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  6. เป็นนามที่นับไม่ได้  ก็ใช้  The  นำหน้าได้
  7. แต่นามที่กล่าวมาทั้งหมดนี้จะต้องมีความหมายชี้เฉพาะเจาะจงเท่านั้น เช่น.

            The water in the bottle is very poor. น้ำที่อยู่ในขวดนี้เย็นมาก.

            นามต่อไปนี้ห้ามใช้ the  นำหน้า

  1. นามที่กล่าวขึ้นมาลอยๆ
  2. นามที่ระบุไว้ในหัวข้อว่าห้ามใช้  the  นำหน้า (ซึ่งมีข้อห้ามมากมายแต่จะไม่กล่าวถึง เช่น อาการนาม,ชื่อเฉพาะของคน,ชื่อถนน ,ชื่อวัน, เดือน, ปี, ลัทธิ,ศาสนา เป็นต้นซึ่ง ห้ามใช้ ทั้ง a, an,และthe นำหน้า)

     * อนึ่งแม้ลักษณะของประโยคจะไม่มีคำบ่งชี้เฉพาะเอาไว้  แต่ถ้านามนั้นเป็นที่รู้จักกันดีระหว่างผู้พูดและผู้ฟัง  ก็ให้ใช้ the  นำหน้าได้ เช่น

When you go out, don’t forget to close a door. เมื่อคุณออกไปข้างนอก อย่าลืมปิดประตู(บานไหนก็ได้)นะ.

When you go out, don’t forget to close the door. เมื่อคุณไปข้างนอก อย่าลืมปิดประตู(บานนั้น)นะ.

การใช้  a, an, the แบบระคน

–       ถ้านามนั้นไม่มีบุรพบทวลีหรืออนุประโยคมาขยายอยู่ข้างหลังให้ใช้    a,  an   ทันที เช่น

A boy like to see monkey. เด็กชอบดูลิง.

–       ถ้านามนั้นมีบุรพบทวลีหรืออนุประโยคมา ขยายอยู่ข้างหลัง ให้ใช้    the   ทันที เช่น

The man in this room is our teacher. ผู้ชายที่อยู่ในห้องนี้เป็นครูของเรา.

           * มีหลักพิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ  นามใดก็ตามที่เป็นเอกพจน์นับได้  ที่กล่าวขึ้นมาลอยๆ ให้เติม a  , an  ทันที  แต่ถ้านามนั้นถูกยกขึ้นมากล่าวอีกเป็นครั้งที่   2  ให้เติม   the   ทันทีเช่น

   A black cat, the cat is fat. แมวตัวหนึ่งสีดำ แมวตัวนั้นอ้วน

*   อนึ่งยังมีรายละเอียดมากมายเกี่ยวกับคำนามบางตัวว่านามตัวใดใช้เฉพาะ a, an และนามตัวใดใช้เฉพาะ the   ซึ่งเป็นคำนามพิเศษ แต่ในที่นี้จะไม่กล่าวถึง

 

[Update] คำนามนับได้ คำนามนับไม่ได้ คืออะไร และใช้ได้ยังไงบ้าง มาดูพร้อมกันเลย | คํานําหน้านาม – NATAVIGUIDES

Nouns หรือคำนาม แปลว่า คำศัพท์ที่เรียกคน สัตว์ สิ่งของ ซึ่งคำนามก็แยกไปได้อีกหลายประเภทเลยค่ะ แต่วันนี้เราจะไม่ได้มาพูดถึงคำนามทุกประเภท แต่เราจะเน้นไปที่ คำนามนับได้ภาษาอังกฤษ และคำนามนับไม่ได้ภาษาอังกฤษ

เพราะคำนามเองก็เป็นส่วนสำคัญหลัก ๆ ในการแต่งประโยคภาษาอังกฤษเลย ถ้าเพื่อน ๆ อยากเรียนเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้างประโยคภาษาอังกฤษ สามารถเข้าไปหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่เพื่อน ๆ ชอบได้เลยค่ะ

แต่หลายครั้งเบญสังเกตุว่าคนไทยก็ยังมีปัญหากับการสร้างประโยคภาษาอังกฤษในขั้นตอนที่ใส่คำนำหน้าคำนามค่ะ เพราะในภาษาไทยเราได้ใช้กัน เช่น

ฉันอยากกินน้ำ – I want to drink some water.

จะเห็นได้เลย ว่าในภาษาไทย เราจะไม่ได้มีคำว่า some ลงไปในประโยค ซึ่งเบญรู้สึกว่าเวลาเราพูดภาษาไทย เราไม่ค่อยได้นึกถึงคำนำหน้าคำนามค่ะ หรือว่าเราอาจจะเปลี่ยนให้มันเป็นคำนามนับได้ โดยใช่แก้วไปให้ เช่น

I want a glass of water. เป็นต้นค่ะ

แต่สำหรับการพูดภาษาอังกฤษแล้ว การมีการระบุคำหน้าคำนาม เป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยค่ะ

ซึ่งนอกจากการนั่งจำคำนามนับได้ภาษาอังกฤษ หรือคำนามนับไม่ได้ภาษาอังกฤษแล้ว การได้ใช้ภาษาอังกฤษทุกวัน ก็ยังช่วยให้เราจำได้ มากกว่าการนั่งจำค่ะ

ถ้าเพื่อน ๆ สนใจเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม หรือฝึกการพูดภาษาอังกฤษของตัวเอง เบญได้รวบรวมคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดไว้ให้เพื่อน ๆ ได้เลือกเรียน และเก่งภาษาอังกฤษก่อนใครแล้วค่ะ ถ้าสนใจคลิกปุ่มข้างล่างนี้ได้เลยจ้า!

คำนามนับได้ภาษาอังกฤษ คืออะไร?

Countable nouns คำนามนับได้ คือ คำนามที่เราสามารถนับได้เป็น 1 2 3… อย่าง

ตัวอย่าง เช่น a cat / cats; a woman / women; a country / countries ซึ่งเราสามารถสังเกตุได้ที่การเติม s หรือ es ข้างหลังค่ะ ถ้าเติมได้ ก็ถือว่าเป็นคำนามนับได้

ตัวอย่างคำนามนับได้ภาษาอังกฤษ

คำนามนับได้ (1อย่าง)คำนามนับได้ (มากกว่า 1 อย่าง)a dogtwo dogsa horsetwo horsesa mantwo menan ideatwo ideasa shoptwo shops

และคำนามนับได้ภาษาอังกฤษอื่น ๆ อีก เช่น

  • dog, cat, animal, man, person
  • bottle, box
  • coin, note, dollar
  • cup, plate, fork
  • table, chair, suitcase, bag

ประโยคคำนามนับได้ภาษาอังกฤษ

ถ้าเราสังเกตุการแต่งประโยคภาษาอังกฤษนั้น เค้าจะมีคำนำหน้าคำนามเสมอ ไม่ว่าจะเป็นนามนับได้หรือนามนับไม่ได้ ประโยคภาษาอังกฤษจะไม่มีทางใช้คำนามเฉย ๆ โดยที่ไม่ระบุคำนำหน้า

คำที่ใช้บอกแทนจำนวนตัวเลข ขอคำนามนับได้ภาษาอังกฤษนั้นก็มีอยู่หลายตัวค่ะ เช่น ถ้าระบุว่าเป็นแค่หนึ่งอย่าง ก็จะเป็น a หรือ an (สำหรับคำที่ขึ้นต้นด้วย a, e, i, o, u) เช่น

  • There’s a man at the door.
  • Is there an email address to write to?
  • I don’t see an elephant.

และก็ยังสามารถใช้คำว่า some และ any ได้ด้วยค่ะ โดยคำนามจะเติม s หรือ es ข้างหลัง

  • I have some friends in New York.
  • There aren’t any seats.
  • Are there any chairs?

และอีกหนึ่งคำนำหน้าคำนามนับได้ภาษาอังกฤษ ที่เรามักจะได้ยินกันบ่อย ๆ ก็คือ many

  • How many chairs are there?
  • Wow! you have so many friends than I thought.

ถ้าเพื่อน ๆ ไม่อยากพลาดเรื่องใช้คำไหนนำหน้า คำนามคำไหนดีน๊า

เบญรู้จักตัวช่วยดี ๆ ที่ชื่อว่า โปรแกรมตรวจภาษาอังกฤษ Grammarly ที่จะมาช่วยให้การพิมพ์ สะกด และแก้ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษของเพื่อน ๆ ให้ดีขึ้นได้ค่ะ แค่ติดตั้งโปรแกรมนี้ง่าย ๆ ไว้บนโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ของเพื่อน ๆ เลยจ้า

คำนาบนับไม่ได้ภาษาอังกฤษ คือะไร?

uncountable nouns คำนามนับไม่ได้ คือ คำนามที่เราไม่สามารถนับได้ เนื่องจากมันมีขนาดเล็กมาก หรือไม่ได้เป็นรูปที่จะทำให้เราสามารถนับได้

ตัวอย่าง เช่น rain, flour, earth, wine, หรือ wood. ซึ่งเราไม่ต้องใส่ a, an ข้างน้า หรือเติม s และ es ค่ะ

ตัวอย่างคำนามนับไม่ได้ภาษาอังกฤษ

คำนามนับไม่ได้ทำให้เป็นคำนามนับได้tea
coffee
hot chocolatea cup / bottle of ______milk
water
beer
juicea bottle / glass of ______sugar
salta spoonful / pinch / table spoon of ______rice
floura bag / cup / bowl of ______honey
jam
peanut buttera jar of ______bread
meat
cheese a slice of _______cake
paper
art
piea piece of ______glue
toothpastea tube of ______

และคำนามนับไม่ได้ภาษาอังกฤษอื่น ๆ อีก เช่น

  • music, art, love, happiness
  • advice, information, news
  • furniture, luggage
  • butter
  • electricity, gas, power
  • money, currency

ตัวอย่างประโยคคำนามนับไม่ได้

ประโยคในภาษาอังกฤษ แม้ว่าเราจะใช้คำนามที่นับไม่ได้ภาษาอังกฤษ ก็ไม่ได้แปลว่าเราไม่ต้องการคำนำหน้าคำนามนะคะ

เบญยังจะขอย้ำว่า คำนำหน้าคำนาม สำคัญมาก ๆ สำหรับการแต่งประโยคภาษาอังกฤษค่ะ

และคำนำหน้าที่เราจะใช้ได้ในประโยคภาษาอังกฤษเกี่ยวกับคำนามนับไม่ได้นั้นก็มีอยู่หลายอย่างเลยค่ะ เช่น

ใส่กลุ่ม หรือใส่การวัด การตวง ให้กับคำนามนับไม่ได้ภาษาอังกฤษ เช่น a bag of ____ เป็นต้น เหมือนกับที่เบญได้ให้ตัวอย่างไว้บ้างข้างบนนะคะ

ก็จะใช้จำนวนของสิ่งที่บรรจุสิ่งนั้นได้ เช่น แก้ว ถุง กระป๋อง ช้อนชา ตามด้วย of และตามด้วยคำนามที่นับไม่ได้ค่ะ อย่างเช่น

  • Don’t forget to buy a bag of rice when you go shopping.
  • Can I have one cup of coffee and two cups of tea?
  • Measure 1 cup of water, 300g of flour, and 1 teaspoon of salt.
  • There has been a lot of research into the causes of this disease.

ซึ่งถ้าคนชอบทำอาหาร ก็จะเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดีเลยค่ะ 🙂

ต่อไปเป็นคำว่า some, any, much ซึ่งใช้คำพวกนี้นำหน้า และเติมคำนามที่นับไม่ได้ตามหลังได้เลยค่ะ ตัวอย่างเช่น

  • Can you give me some information about uncountable nouns?
  • He did not have much sugar left.
  • How much rice do you want?
  • I’ve got some money.
  • Have you got any rice?
  • I haven’t got much rice.

แต่คำนามที่อยู่ในหมวดนับไม่ได้นั้น บางครั้งเองก็สามารถใส่ a หรือ an หรือคำอธิบายเป้นกลุ่มไว้ข้างหน้าและทำให้เป็นคำนามนับได้ค่ะ อันนี้ขึ้นอยู่กับประโยคที่เราจะสื่อ เช่น กาแฟ เบียร์ และอื่น ๆ เช่น

Would you like some coffee?นามนับไม่ได้ เพราะพูดถึงกาแฟทั่ว ๆ ไป ซึ่งหมายถึงขอเหลว เลยนับไม่ได้ He ordered a coffee.นามนับได้ เพราะพูดถึง a cup of coffee หมายถึงกาแฟ 1 แก้ว

เดี๋ยวเบญจะขอใส่ตารางสรุปไว้ข้างล่างนะคะ สำหรับคำที่ใช้ได้และใช้ไม่ได้กับคำนามนับได้ภาษาอังกฤษ และคำที่ใช้ได้และไม่ได้กับคำนามนับไม่ได้ภาษาอังกฤษ

คำนำหน้าได้ไม่ได้ตัวอย่างfew, fewer✓✗fewer students; few carslittle, less, least✗✓less food; little timemany, several✓✗several books; many changesmuch✗✓much pleasure; much sleep

ถ้าเพื่อน ๆ มีคำถามในการใช้คำนามนับได้ และนับไม่ได้ในภาษาอังกฤษตรงไหน สามารถเขียนคอมเม้นข้างล่างถามไว้ได้เลยนะคะ

หรือว่าเพื่อน ๆ คนไหนมีคำนามแปลก ๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า เป็นคำนามนับได้ หรือนับไม่ได้ หรือต่างกับภาษาไทย มาแบ่งปันให้เบญและเพื่อน ๆ คนอื่นทราบกันด้วยนะค๊า 😀


Grammar 5 นาที : Article ( a,an,the) : คำนำหน้านาม


เนื่องในโอกาสวันพ่อในปี 2557 นี้ จึงอยากทำดีเพื่อพ่อโดยจัดทำวีดีโอให้ความรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ โดยจัดทำเป็นเนื้อหาสั้นๆ ตอนละประมาณ 5 นาที โดยใช้ชื่อว่า \”Grammar 5 นาที\” หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ชมนะคะ สามารถติดตามได้ที่ Facebook : Miss Noon
On the 5th of December is Father’s day in Thailand, since 2014 I would like to make the goodness for our father of Thailand so I make the videos about grammar for Thais who interested in English which the topic is \”Grammar 5 mins\” contact on Facebook : Miss Noon

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Grammar 5 นาที : Article ( a,an,the) : คำนำหน้านาม

สูตรแยกคํานําหน้าชื่อ Excel แม้เขียนติดกันก็ใช้ได้


ผมเชื่อว่าเวลาที่เพื่อนๆ เจอข้อมูลที่มีทั้งคำนำหน้าชื่อและชื่อรวมอยู่ในช่องเดียวกัน แล้วต้องการแยกคํานําหน้าชื่อเป็นคนละช่องด้วย Excel
จะจเอปัญหาถ้าคำนำหน้านั้นเขียนติดกับชื่อโดยไม่มีเว้นวรรคเลย!!
แต่ไม่ต้องห่วง คลิปนี้จะสอนคุณเขียนสูตรเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวเอง มาดูกันเลยว่าทำยังไง
ถ้าชอบคลิปนี้ ช่วย Subscribe ช่อง YouTube เป็นกำลังใจให้ผมไปถึง 100K sub ด้วยนะ ^^
===================================================
ติดตาม พูดคุย สอบถามปัญหา Excel กันได้ที่ : https://www.facebook.com/thepexcel/
อ่านบทความ Excel ดีๆ ได้ที่ : https://www.thepexcel.com/
คอร์สออนไลน์จากเทพเอ็กเซล
=======================
คอร์ส Excel Level Up (พื้นฐานกลาง) : https://bit.ly/ExcelLevelUpOnlineUpdate2020
คอร์ส Excel Power Up 2021 : https://bit.ly/thepexcelpowerquery2021
คอร์ส Powerful Data with power BI : https://bit.ly/powerfulpowerbionline
คอร์ส Power BI DAX Advance : https://bit.ly/ThepExcelDAXAdvance
สร้างสูตรมหัศจรรย์ขั้นเทพ ด้วย Array Formula : https://bit.ly/ThepExcelArrayFormula
ดูคอร์สทั้งหมดได้ที่่นี่ : https://www.thepexcel.com/trainingpersonal/

สูตรแยกคํานําหน้าชื่อ Excel แม้เขียนติดกันก็ใช้ได้

ถ้าอ้ายหน้าใหม่ – เต้ย อภิวัฒน์ [ Official MV ]


เพลง ถ้าอ้ายหน้าใหม่
ศิลปิน: เต้ย อภิวัฒน์
เนื้อร้อง: อภิวัฒน์ บุญเอนก
ทำนอง: อภิวัฒน์ บุญเอนก
เรียบเรียง: อภิวัฒน์ บุญเอนก
โปรดิวเซอร์: อภิวัฒน์ บุญเอนก, เอ็ม นาโนน, ONUTZ
Mix \u0026 Mastering: ต่าย กีตาร์, เอ็ม นาโนน
สังกัด: คืนถิ่น สตูดิโอ
ติดต่องานการแสดง 081 6480904 (ผจก)
ติดตามผลงานได้ที่
Page : Kuentin Studio คืนถิ่น สตูดิโอ
Facebook : Toey Apiwat Boonanak (ครูเต้ย) https://www.facebook.com/toey.apiwatb…
ฝากกด Subscribe ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
แนวเพลงในรูปแบบใหม่ Rแอนด์Bสตริงอีสาน
เป็นการผสมผสานกันระหว่างดนตรีอีสานบวกกับเสียงร้องที่เป็นสตริง

ถ้าอ้ายหน้าใหม่ - เต้ย อภิวัฒน์ [ Official MV ]

\”A and An Song\” – English Lesson for \”A and An\” – Rockin’ English


Beginner level education English song teaching when to use the articles \”a\” and \”an.\” Learn English and rock!
Lyrics:
A and an, a and an
when to use a and an.
A ball, a cat, a dog, a hat.
A and an, a and an
when to use a and an.
A lion, a zebra, a box, a teacher.
With a, e, i, o, u use an.
An apple, an orange, an umbrella, an egg,
an octopus, an igloo, an elephant, an island.
with a, e, i, o, u use an!

\

คำน้ำเน่า : Mono | Official Audio


เนื้อเพลง : คำน้ำเน่า
ศิลปิน : Mono
อัลบั้ม : Mono
ก็ให้เธอไปหมดใจ กับคำว่ารักที่เธอให้มา ฉันก็เลยมั่นใจ ให้เธอไปหมดแล้ว
คิดว่าเธอแน่นอน คงไม่ย้อนมาหลอกกัน แต่คำว่ารักของเธอนั้น ก็ไม่เป็นความจริง
เธอไม่พอ กับความรักที่ฉันให้ไป ไม่เคยเข้าใจ รักและความรู้สึก
ฉันเองที่โง่งมงาย ให้เธอหลอก หลอกให้หลง กับคำว่ารักของเธอ
คำว่ารักของเธอ มันเหมือนคำน้ำเน่า ที่เอาไว้ใช้บอก ใครต่อใคร มากมาย
ไม่ต้องบอกฉันเลยว่าเธอยังรัก ในเมื่อเธอมอบใจให้ใครมากมาย
เธอไม่เคยไหวหวั่น ว่าฉันจะเป็นอย่างไร เดินจากไป ไม่หันมามอง
ใจทีได้เจ็บ วันนี้ฉันได้รู้ ว่าตัวฉันรักเธอมากไป
( , , )

LINE MUSIC : http://bit.ly/1NWk25j
iTunes : https://itun.es/i6Ym9bZ
Download mp3 : http://bit.ly/1TfPeOC
ติดตามข่าว ภาพประทับใจ จากศิลปิน RS ที่คุณชื่นชอบ
Fanpage : https://www.facebook.com/rsfriendspage
http://www.rsfriends.com
สมัครรับวิดีโอใหม่จาก youtube : RSFRIENDS คลิ๊ก : http://bit.ly/subrsfriends
โตมากับอาร์เอส Mono คำน้ำเน่า

คำน้ำเน่า : Mono | Official Audio

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ คํานําหน้านาม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *