Skip to content
Home » [NEW] | ประโยชน์ของการเรียนภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] | ประโยชน์ของการเรียนภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

ประโยชน์ของการเรียนภาษาอังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

วันนี้ Eng Breaking มาพร้อมกับคู่มือประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน ที่มีทั้งหมด 12 หัวข้อที่น่าสนใจรับรองว่าถ้าคุณใช้ประโยคเหล่านี้เป็นคุณสามารถโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษ สร้างการสื่อสารที่ดีได้อย่างแน่นอน

Table of Contents

1. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย Greetings- การแนะนำและคำทักทาย

Hello/ HiสวัสดีHow’s your day going?เป็นอย่างไรบ้าง?Hello, my name is….สวัสดีฉันชื่อ…  How are you?เป็นอย่างไรบ้าง?Hey man, Nice to meet you. เฮ้ เพื่อนยินดีที่ได้รู้จัก  Good to see you!ดีใจที่ได้เจอHi, how’s tricks?เป็นอย่างไรบ้าง?What’s your name?คุณชื่ออะไร?How do you do? สวัสดี (ไม่ได้แปลตรงตัวตามตัวอักษรว่า คุณทำอย่างไร)  Whazzup?ทำอะไรอยู่How’s life?ชีวิตเป็นไงบ้าง?What’s up? What’s new?, or What’s going on? มีอะไร? มีอะไรใหม่? หรือเกิดอะไรขึ้น?How’s it going?เป็นไงบ้าง?Where are you from?คุณมาจากไหนHow long will you stay here?คุณจะอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหน?Where do you live now?ตอนนี้คุณอาศัยอยู่ที่ไหนHave a nice day for you!ขอให้วันนี้เป็นวันที่ดีของคุณนะAre you here on vacation?คุณมาที่นี่เพื่อพักร้อนใช่ไหม?Haven’t seen you for ages.นานมาแล้วไม่เห็นคุณ(สำนวน “in ages” หรือ “for ages” แปลว่า เป็นเวลานาน)  This is my name cardนี่คือนามบัตรของฉันHave a good one ขอให้มีวันที่ดีSee you soon!แล้วพบกันเร็ว ๆ นี้

2. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Sentences about Family – ประโยคเกี่ยวกับครอบครัว

Do you want to see pictures of my family?คุณอยากดูรูปภาพครอบครัวของฉันไหม?How’s the family? How’s everybody doing?         ครอบครัวเป็นอย่างไรบ้าง ทุกคนเป็นอย่างไรบ้างHave you got a big family?คุณมีครอบครัวใหญ่ใช่ไหม?Have you got any brothers or sisters?คุณมีพี่ชายหรือพี่สาว?How many people are there in your family?ครอบครัวคุณมีสมาชิกกี่คน?There are six people in my familyครอบครัวของฉันมีหกคน

3. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Sentences about Jobs – ประโยคเกี่ยวกับงาน

Are you available for the meeting on …?คุณว่างสำหรับการประชุมวันศุกร์ เวลา…มั้ยI wish I could help, but I’m busy right now.ฉันก็อยากจะช่วยนะ แต่ตอนนี้ยุ่งอยู่น่ะCan / Could I remind you to…?ขอฉันเตือนเธอสักนิดนะว่า…Hope you don’t forget to do it.ฉันหวังว่าเธอจะไม่ลืมทำมันนะCould I have your advice on this?ฉันขอคำแนะนำจากคุณได้ไหม?That sounds like a great plan!ฟังดูแผนนี้ยอดเยี่ยมจังCan you join the meeting on..?คุณสามารถเข้าร่วมประชุมวันศุกร์ เวลา…ได้มั้ยWhat time does the meeting start?  ประชุมเริ่มกี่โมงCan I take a day off? ฉันขอลาซักวันได้มั้ย  Which room is the meeting in?ห้องที่กำลังมีประชุมอยู่ไหน?Don’t forget to do it.อย่าลืมทำเรื่องนี้Would you mind photocopying this bill for me?จะเป็นไรไหมถ้าฉันจะรบกวนคุณถ่ายเอกสารบิลนี้ให้ที  Do you have a minute?ว่างคุยซักนิดมั้ย/มีเวลาซักเดี๋ยวมั้ย                 Would you mind sending the presentation to me?  รังเกียจมั้ยที่จะส่งสื่อนำเสนองานให้ฉันหน่อยI want to remind you about …ฉันอยากจะเตือนเธอเรื่อง…  Please don’t forget to do this.อย่าลืมทำมันนะI’d like to remind you about…ฉันต้องการเตือนคุณเกี่ยวกับ …You will remember to finish it, won’t you?เธอจำได้ว่าต้องทำมันให้เสร็จใช่ไหมI’m looking forward to working together.ฉันรอคอยที่จะทำงานร่วมกันกับคุณStick on the plan that…ตามแผนที่วางไว้คือ…                                     

Eng Breaking แนะนำประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน

4. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Things Are Good – ชื่นชม

Good job!ทำได้ดีมาก!You’re a genius.คุณเป็นอัจฉริยะGood for you!ดีสำหรับคุณ!You’re doing fine.คุณทำได้ดีGreat!ดีมากYou are really pretty.คุณน่ารักจริงๆGood thinking.เป็นความคิดที่ดีYou look great today.วันนี้คุณดูดีมากThat’s it!นั่นแหล่ะ! (ต้องเป็นอย่างนั้น)You’re on the right track now!คุณอยู่ในเส้นทางที่ถูกต้องแล้ว!That’s the best ever.นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดYou’re looking so beautiful today.วันนี้คุณดูสวยงามมากThat’s not bad! นั่นไม่เลวเลย!I love your new dress.ฉันชอบชุดใหม่ของคุณThat’s really nice มันดีจริงๆHow thoughtful ช่างคิด,ครุ่นคิด,รอบคอบ

5. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Ways To Say Sorry – วิธีการพูดคำขอโทษ

Whoops. Sorryอ๊ะ ขอโทษSorry to butt in ….ขอโทษที่พูดขัดจังหวะ….I’m (so / very / terribly) sorry หรือ I’m terribly sorryฉันขอโทษจริงๆSorry to interrupt, but…..ขออภัยที่จะขัดจังหวะ แต่…I’m sorry I’m lateฉันขอโทษที่มาสายPardon (me).ยกโทษให้ฉันSorry to bother youขอโทษที่รบกวนคุณThat’s my fault.นั่นเป็นความผิดของฉันSorry. I didn’t mean to do that ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำอย่างนั้นMy bad/My fault.ฉันไม่ดี / ความผิดของฉันSorry for keeping you waitingขออภัยที่ทำให้คุณต้องรอPlease excuse my (ignorance).กรุณาให้อภัยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของฉัน

คุณสามารถใช้ประโยคต่อไปนี้เพื่อตอบกลับเมื่อคนอื่นพูดคำขอโทษกับคุณ เป็นประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยเช่น
Don’t worry about it. – อย่าไปกังวล, อย่าไปคิดมาก
Please don’t blame yourself. –อย่าโทษตัวเอง
It’s not your fault. – ไม่ใช่ความผิดของคุณ
That’s all right – ไม่เป็นไร หรือ ทุกอย่างยังโอเค
Think nothing of it. – ไม่ต้องคิดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนั้นอีกนะ
No problem – ไม่เป็นไร
Never mind. It doesn’t really matter. – ไม่ต้องคิดมากไม่เป็นไร

6. Ways To Say Thank You for someone – การพูดขอบคุณใครสักคน

Thank you very much.ขอบคุณมากๆThanks a million for…!ขอบคุณล้านครั้งสำหรับ … !How thoughtful.คุณรอบคอบจังThere are no words to show my appreciation!ไม่มีคำพูดใดที่แสดงความขอบคุณของฉัน!That’s so kind of you.คุณดีกับฉันจังI am most grateful ฉันรู้สึกขอบคุณมากที่สุดThank you, without your supportขอบคุณที่ช่วยเหลือฉันI really appreciate itฉันซาบซึ้งกับเรื่องนี้จริงๆ

อย่าพลาดวิดีโอนี้นะ >> จะอธิบายบางอย่างในการสนทนาภาษาอังกฤษได้อย่างไร

7. Giving An Opinion – ให้ความคิดเห็น

As far as I’m concerned…ตามความเห็นของฉัน / เท่าที่ฉันรู้…..What I’m trying to say is….สิ่งที่ฉันพยายามจะพูดคือWhat are your views on…?คุณมีความคิดเห็นยังไงบ้างกับเรื่องนี้What is your opinion about that?เรื่องนั้นคุณมีความเห็นว่าอย่างไรWhat are your ideas ?คุณรู้สึกยังไงกับสิ่งนั้นTo my mind…ฉันคิดว่า….What’s your opinion?คุณมีความคิดเห็นอย่างไรI think we should…ฉันคิดว่า เราควร…

8. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย  Sentences about Hobby – ประโยคเกี่ยวกับงานอดิเรก

What is your hobby? งานอดิเรกของคุณคืออะไรI’m really into it.ฉันหลงใหลในสิ่งนั้นมากๆI relax by…ฉันผ่อนคลายด้วยI’m addicted to itฉันติดสิ่งนั้นมากๆIf I’m not working, I…ถ้าฉันไม่ทำงานฉัน …Why did you start your hobby?ทำไมคุณถึงเริ่มงานอดิเรกของคุณMy hobbies are…งานอดิเรกของฉันคือ…How many hours a week do you spend on your hobby?คุณใช้เวลากับงานอดิเรกของคุณกี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์?I wouldn’t mind a…ฉันจะไม่รังเกียจ …I’m crazy about it. ฉันคลั่งไคล้มันI could use a…ฉันต้องการI’d really like / I’d love a day off.ฉันชอบมาก / ฉันชอบวันหยุด

ผู้เรียนภาษาอังกฤษจะไม่ควรพลาดกับประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย

9. Asking For Help and Suggest Giving Help – การขอความช่วยเหลือและแนะนำการให้ความช่วยเหลือ

Can I help you?ฉันช่วยอะไรคุณได้บ้างGive me a hand with this, will you?คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม?Could you help me for a second? คุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม

Help! / Help me!ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วยI need some help, please.ฉันต้องการความช่วยเหลือโปรด ช่วยฉันหน่อยThanks for your help. ขอบคุณที่ช่วยเหลือฉันI can’t manage. Can you help?ฉันจัดการไม่ได้ คุณช่วยได้ไหมIt’s my pleasure.ด้วยความยินดี

10. Sentences about Shopping – ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย
เกี่ยวกับการช็อปปิ้ง

Are you open on…?
ร้านเปิดตอน…ใช่ไหม?What is the total?
ทั้งหมดเท่าไหร่?Buy one get one free
ซื้อหนึ่งแถมหนึ่งWhat is the price after the discount?
ราคาหลังลดแล้วคือเท่าไห่รCan you give me any off?
คุณลงราคาหน่อยได้ไหม?Would you like anything else?
คุณต้องการอย่างอื่นอีกไหมDo you sell any…? or Do you have any…?
คุณมีขาย….ไหม?That’s cheap!
ถูกมากเลย!That’s good value
นั่นมีมูลค่าที่ดีThat’s too expensive!
มันแพงเกินไป!

11. ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อย On The Phone

Can I speak to + ชื่อคน/ชื่อตำแหน่ง? ขอสายคุณ…หน่อยได้มั้ยคะ/ครับ?
Can I speak to … please?ขอสายคุณ…หน่อยได้มั้ย
Could I ask who’s calling, please? ฉันขอถามได้ไหมว่าใครโทรมา
Can I leave a message for him/her? – ฉันสามารถฝากข้อความถึงเขา ได้หรือไม่?
Could you please take a message? Please tell her/him that…คุณช่วยส่งข้อความได้ไหม กรุณาบอกเธอว่า…

Sure, one moment please. –แน่นอนอยู่แล้ว รอฉันสักครู่
Thanks for getting back to me. ขอบคุณที่ติดต่อกลับ
Leave a message after the beep. ฝากข้อความหลังจากเสียงสัญญาณ
Leave a message.ฝากข้อความไว้
I’ll call you later. ฉันจะโทรกลับทีหลัง
I’ll call you back when I’m free. ฉันจะโทรกลับหาคุณเองเมื่อฉันว่าง

I’m sorry, she/he’s not here today. Can I take a message? ขอโทษนะคะ เขาไม่อยู่ที่นี่วันนี้ กรุณาฝากข้อความเอาไว้ได้ไหม
I’m sorry, we have a bad connection.  Could you speak a little louder, please? ขอโทษนะคะ เหมือนสัญญาณจะไม่ดี กรุณาพูดให้ดังหน่อยได้ไหม
Good morning/afternoon/evening.  This is (your name) at/ calling from (company name).  Could I speak to ….? – สวัสดี.ฉันชื่อ … โทรจาก… ฉันสามารถคุยกับ…. ได้ไหม?
Is there anything else I can help you with?……Okay, thanks for calling.  –มีอะไรให้ฉันช่วยอีกไหม? … ขอบคุณมากที่โทรหา

ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยช่วยคุณมั่นใจมากขึ่้นในการสื่อสาร

ยกตัวอย่างบทสนทนามีใช้ประโยคที่ใช้บ่อย

บทสนมนาในการเจอกันครั้งแรกกับ การใช้ประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยบทสนมนาถามตอบเกี่ยวกับงานอดิเรก กับประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยMike: Good morning, nice to see you, I’m Mike What’s yours?
สวัสดีตอนเช้า ยินดีที่ได้รู้จัก ผมชื่อ Mike แล้วคุณละครับ
Ning: You can call me Ning. — เรียกผมว่า Ning ได้นะครับ
Mike: You speak English very well. — คุณพูดภาษาอังกฤษดีมากเลยนะครับ
Ning: Oh, a little — อ่ะ ได้นิดหน่อยครับ
Mike: Where are you from Ning? — คุณมากจากไหนครับ Ning?
Ning: I’m from Japan — ผมมาจากญี่ปุ่นครับ 
Mike:  Are you here on vacation? — คุณมาเที่ยวหรอครับ
Ning: No, I’m not. I’m here working — ไม่ครับ ผมมาทำงานที่นี่ครับ
Mike: what are you doing? — คุณทำงานอะไรครับ
Ning: I’m a journalist — ผมเป็นนักข่าวครับ
Mike: How long will you stay here? — คุณจะอยู่ที่นี่นานไหมครับ
Ning: A week, nice to meet you Mike — หนึ่งสัปดาห์ครับ ยินดีที่ได้รู้จักครับไมค็
Mike:  Me too , This is my name card — เช่นกันครับ นี่คือนามบัตรของผม
Ning: Thank you — ขอบคุณครับNing: Tell me, what do you enjoy doing in your spare time Mike? 
บอกผมได้ไหมครับว่าคุณชอบทำอะไรในเวลาว่างครับไมค์? 
Mike: Well, I like painting and I also collected a lot of other things. What
about you? — อ่ะ ผมชอบวาดรูป และสะสมบางอย่างครับ แล้วคุณละครับ ?
Ning: I like painting too and playing piano. — ผมชอบวาดรูปและเล่นเปียโน
Mike: You know how to playing piano? — คุณเล่นเปียโนเป็นด้วยหรอ
Ning: Yes, I do. — ครับ ผมเล่นได้
Mike: How interesting! When did you learn how to do that?
ดีจังเลย คุณเรียนเปียโนเป็นตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ
Ning:  I learned by myself when I was 15 years old
ผมเรียนเองนะครับ ตั้งแต่ตอนอายุ 15 ปี
Mike: It’s so amazing. –มันช่างยอดเยี่ยมมาก

เยี่ยมเลยครับ 

ทั้งหมดดังกล่าวคือประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้บ่อยที่ Eng Breaking ฝากไว้ให้ผู้เรียนทุกท่าน หวังว่าคุณจะใช้ได้มีประโยชต์ต่อการทำงาน การเรียน อย่าลืมติดตามเว็บไซน์การเรียนการสอนภาษาอังกฤษของ EngBreaking.co.th เพื่อได้รับข้อมูล และสารดีๆ ทางภาษาอังกฤษทุกวัน

ความคิดเห็น 635 รายการ

 

[Update] สรุปการใช้ tense ทั้ง 12 tenses อย่างละเอียด ครอบคลุม เข้าใจง่าย | ประโยชน์ของการเรียนภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

Posted on

763

SHARES

Facebook

Twitter

สรุป Tense ทั้ง 12 อย่างละเอียดทุกแง่มุมครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด ได้แก่ ความหมาย, โครงสร้าง tense ต่างๆ นะครับ

ในบทเรียนนี้่จะสรุปหลักการใช้ tense ทั้งหมด และตัวอย่างประโยคที่นำมาใช้งานจริงๆ เพื่อให้ผู้เรียนเห็นได้เห็นภาพว่า จริงๆแล้ว 12 tense นี่มันใช้แตกต่างกันอย่างไร

Table of Content

♦ Tense คืออะไร

♦ โครงสร้าง tense ทั้ง 12 เป็นอย่างไร แตกต่างกันอย่างไร

♦ หลักการใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ใช้ต่างกันอย่างไร

♦ ตัวอย่างประโยคของเทนส์ทั้งหมด เพิ่มเติมเสริมความเข้าใจ

♦ บทเรียนเรื่อง tense 12  ฉบับจัดเต็ม

Tense คืออะไร

ความหมายของ Tense คือ รูปแบบของประโยคที่มีคำกริยา แสดงระบุเวลากำกับการกระทำในขณะที่พูด

นี่คือความหมายคร่าวๆนะครับ ถ้าย่นย่อกันจริงๆในการเรียนหลักภาษาแล้ว Tense คือ กาล (เวลา)

tense 12

โครงสร้างของ 12 Tense และหลักการใช้

ว่ากันไปแล้ว Tense ใหญ่ๆแค่ 3 เท่านั้นเอง แต่แยกย่อยออกอีก 4 จึงรวมกันได้ 12 tense

1.  Present Tense (ปัจจุบันกาล) กล่าวถึงเรื่องราวในปัจจุบัน

2.  Past Tense (อดีตกาล) กล่าวถึงเรื่องราวในอดีต

3.  Future Tense (อนาคตกาล) กล่าวถึงเรื่องราวในอนาคต

PRESENT TENSE

บอกเล่าเรื่องราวในปัจจุบัน

present simple tense

Present Simple Tense

โครงสร้าง: S. + V.1(s/es)

หลักการใช้:

  • บอกเล่าข้อเท็จจริงทั่วไป ของคน สัตว์ สิ่งของ สถานที่ …

ตัวอย่างประโยค:

  • I eat rice every day. ฉันกินข้าวทุกวัน
  • A dog has four legs. สุนัขมีสี่ขา
  • Bangkok is the capital city of Thailand.  กรุงเทพเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย
  • My class starts at 9.00 ชั่วโมงเรียนของฉันเริ่มเวลา 9 นาฬิกา

present continuous tense

Present Continuous Tense

Tense นี้อีกชื่อหนึ่งคือ Present Progressive Tense

โครงสร้าง: S. + is, am, are + Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้
  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดในอนาคตแน่ๆ

ตัวอย่างประโยค:

  • I am eating rice now.  ฉันกำลังกินข้าวอยู่ตอนนี้
  • A dog is walking. สุนัขกำลังเดิน
  • I’m going to London next week. ฉันกำลังจะไปลอนดอนสัปดาห์หน้า
  • We are visiting our granddad tomorrow. พวกเรากำลังจะไปเยี่ยมปู่พรุ่งนี้

present perfect tense

Present Perfect Tense

โครงสร้าง: S. + has, have + V3

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินเสร็จแล้ว
  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินมาได้ในระยะเวลาหนึ่งจนถึงปัจจุบัน

ตัวอย่างประโยค:

  • I have eaten rice. ผมกินข้าวแล้ว (กินเสร็จแล้ว)
  • She has finished her homework. หล่อนทำการบ้านเสร็จแล้ว
  • I have eaten rice for 20 minutes. ผมกินข้าวมาแล้ว 20 นาที
  • He has lived here since 2000. เขาอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2000

present-perfect-continuous--tense

Present Perfect Continuous Tense

โครงสร้าง: S. + has, have +been+ Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนินมาได้ในระยะเวลาหนึ่งจนถึงปัจจุบันคล้าย present perfect tense แต่เป็นการเน้นย้ำว่าทำอย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่างประโยค:

  • I have been playing football since 8 o’clock. ฉันเล่นฟุตบอล (อย่างต่อเนื่อง) ตั้งแต่ 8 โมง
  • She has been walking for 30 minutes. หล่อนเดิน (อย่างต่อเนื่อง) เป็นเวลา 30 นาที
  • Toon has been running for 4 hours. ตูนวิ่ง (อย่างต่อเนื่อง) เป็นเวลา 4 ชั่วโมง)
  • He has been working here since 1999. เขาทำงานที่นี่ (อย่างต่อเนื่อง)ตั้งแต่ปี 1999 (ไม่เคยย้ายไปไหน)

PAST TENSE

บอกเล่าเรื่องราวในอดีต

Past Simple Tense

Past Simple Tense

โครงสร้าง: S. + V2

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ในอดีต ที่เกิดขึ้น ณ จุดเวลาใดเวลาหนึ่ง

ตัวอย่างประโยค:

  • I went to school yesterday. ฉันไปโรงเรียนเมื่อวานนี้
  • I ate bananas last week. ฉันกินกล้วยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
  • My dad washed his car last Sunday. พ่อของผมล้างรถของเขาเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว
  • She watched this movie last year. หล่อนดูหนังเรื่องนี้ปีที่แล้ว
  • Sam visited his parents five years ago. แซมไปเยี่ยมพ่อแม่ของเขาเมื่อห้าปีที่แล้ว

Past Continuous Tense

Past Continuous Tense

โครงสร้าง: S. + was, were + Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอดีต แล้วมีอีกเหตุการณ์หนึ่งแทรกขึ้นมา

ตัวอย่างประโยค:

  • I saw a big elephant while I was walking to school. ฉันเห็นช้างตัวหนึ่งขณะที่ฉันกำลังเดินไปโรงเรียน
  • We were eating dinner when dad came home. พวกเรากำลังกินข้าวเย็นอยู่ ตอนที่พ่อมาถึงบ้าน
  • The light went out when they were watching TV. ไฟดับตอนที่พวกเขากำลังดูทีวีอยู่
  • She was taking a bath when I called her. หล่อนกำลังอาบน้ำอยู่ ตอนที่ผมโทรหาหล่อน
  • Sam was driving home when it started to rain. แซมกำลังขับรถกลับบ้าน ตอนที่ฝนเริ่มตก

Past Perfect Tense

Past Perfect Tense

โครงสร้าง: S. + had + V3

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่สิ้นสุดแล้วในอดีต ก่อนจะมีอีกเหตุการณ์ตามมา

ตัวอย่างประโยค:

  • I had eaten a pizza before I went to bed.ฉันได้กินพิซซ่า ก่อนที่ฉันเข้านอน (กินก่อน )
  • John called me after I had left. จอห์นโทรหาฉัน หลังจากที่ฉันได้ออกจากบ้านแล้ว
  • All people had gone home when we reached the cinema. คนได้กลับบ้านหมดแล้ว เมือเราไปถึงโรงหนัง
  • They had had dinner before they did homework. พวกเขาได้เขากินข้าว ก่อนพวกเขาทำการบ้าน
  • The train had left when we got to the station. รถไฟออกไปแล้ว ตอนที่เราไปถึงสถานี

Past Perfect Continuous Tense

Past Perfect Tense

โครงสร้าง: S. + had + been + ฺฺ Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินมาเป็นระยะเวลาหนึ่ง เน้นการบอกเวลามากกว่าการกระทำ

ตัวอย่างประโยค:

  • had been waiting for the train for three hours before it arrived. ฉันได้รอคอยรถไฟเป็นเวลา(ตั้ง) 3 ชั่วโมง (นะ) ก่อนที่มันจะมาถึง
  • We had been walking for one hour when we saw that bird.
    พวกเราได้เดิน (ตั้ง) 1 ชั่วโมง (แน่ะ) ตอนที่พวกเราเห็นนกตัวนั้น
  • They had been playing football for four hours when it started to rain.
    พวกเขาได้เล่นฟุตบอล (ตั้ง) 4 ชั่วโมง ก่อนที่ฝนเริ่มตก (วันนี้เล่นได้นาน ปกติไม่เกินชั่วโมงก็ตกแล้ว)

FUTURE TENSE

บอกเล่าเรื่องราวในอนาคต

Future simple tense

Future Simple Tense

โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ V1

หลักการใช้:

  • บอกเล่า คาดการณ์เหตุการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ตัวอย่างประโยค:

  • I will go to school tomorrow. ฉันจะไปโรงเรียนพรุ่งนี้ (คิดว่าต้องไป เดี๋ยวหมดสิทธิ์สอบ)
  • I will watch Chin Jang this evening. ฉันจะดูชินจังเย็นนี้ (เพื่อนบอกว่าสนุก จะลองดูหน่อย)
  • You will eat papaya salad tonight. คุณจะกินส้มตำคืนนี้ (คุณเคยบอกไว้ ว่าจะกินคืนนี้)
  • He will clean the car next week. เขาจะล้างรถสัปดาห์หน้า (เขาบอกมา ว่าจะล้าง)
  • She will buy a bike next month. หล่อนจะซื้อจักรยานเดือนหน้า (หล่อนว่าเดินไปเรียนแล้วเหนี่อย)

future continuous tense

Future Continuous Tense

โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ be + Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในอนาคต

ตัวอย่างประโยค:

  • I will be reading books at 8 o’clock tomorrow. ฉันจะกำลังอ่านหนังสือเวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
  • At nine o’clock tomorrow, we will be working on the farm.พรุ่งนี้เวลา 9 นาฬิกา พวกเราจะกำลังทำงานในฟาร์ม
  • At six o’clock, we will be eating dinner with our granddad. เวลา 6 นาฬิกา พวกเราจะกำลังกินข้าวกับปู่ของพวกเรา
  • She will be waiting when you arrive. หล่อนจะกำลังรอคอย เมื่อคุณมาถึง

Future Perfect Tense

Future Perfect Tense

โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ have + V3

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่สิ้นสุดแล้วในอนาคต

ตัวอย่างประโยค:

  • I will have eaten breakfast at 8 o’clock tomorrow. ฉันจะกินข้าวเช้าเรียบร้อยแล้ว เวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
  • Tomorrow morning, we will have finished our project. พรุ่งนี้เช้า พวกเราจะดำเนินโครงการของพวกเราเสร็จแล้ว
  • She will have gone when you arrive. หล่อน(คง)จะไปแล้ว เมื่อคุณมาถึง
  • I will have cleaned the floor when my mom gets home. ฉัน(คง)จะทำความสะอาดพื้นเรียบร้อยแล้ว ตอนที่แม่มาถึง

Future Perfect Continuous Tense

โครงสร้าง: S. + will + ฺฺ have + been + Ving

หลักการใช้:

  • บอกเล่าเหตุการณ์ที่ดำเนิมมาได้ระยะเวลาหนึ่งในอนาคต ก่อนมีอีกเหตุการณ์หนึ่งแทรกเข้ามา

ตัวอย่างประโยค

  • I will have been eating breakfast for 30 minutes at 8 o’clock tomorrow.
    ฉันจะได้กำลังกินข้าวเช้าเป็นเวลา 30 นาทีแล้ว ณ เวลา 8 นาฬิกา วันพรุ่งนี้
  • At 10 o’clock tomorrow, we will have been working on the farm for two hours.
    เวลา 10 นาฬิกาพรุ่งนี้ พวกเราจะได้กำลังทำงานในฟาร์ม เป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว
  • You will have been waiting for two hours when the plane arrives.
    คุณจะได้กำลังรอ เป็นเวลาสองชั่วโมง เมื่อเครื่องบินมาถึง

ถึงแม้ว่า Tense ทั้งหมดจะมี 12 Tense ก็จริง แต่สรุปว่าจริงๆใช้บ่อยก็มีดังต่อไปนี้

  • Present Continuous
  • Present Simple
  • Present Perfect
  • Past simple
  • Future Simple

นอกนั้นไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่หรอกครับ

ขอ 5 ดาวให้บทเรียนด้วยครับผม…

คลิกดาวดวงที่ขวามือสุดเลยครับครับ…

Average rating 4.7 / 5. Vote count: 1415

ยังไม่มีใครให้ดาว คุณคือคนแรก….


10 เหตุผลที่ทำไมจึงควรเรียนภาษาอังกฤษ


\”ภาษาอังกฤษ\”เป็นหนึ่งในภาษาที่คนนิยมใช้มากที่สุดในโลก หลายๆ คนได้เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ตอนเด็กๆ แต่อยากรู้ไหมว่าทำไมภาษาอังกฤษจึงสำคัญ? CP International พาเพื่อนๆ มารู้จักเหตุผลดีๆ ที่จะทำให้คนหลงรักภาษาอังกฤษ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

10 เหตุผลที่ทำไมจึงควรเรียนภาษาอังกฤษ

เริ่มพูดภาษาอังกฤษ | ประโยคสั้นๆ | ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน พร้อมคำอ่านคำแปล


ฝึกพูดภาษาอังกฤษ | ประโยคพื้นฐาน | สำหรับผู้เริ่มเรียน | สามารถจำนำไปใช้ได้เลย
เรียนภาษาอังกฤษฟรี
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ถามตอบ ประโยคพื้นฐานใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=IHuK…
📌ฝึกพูดภาษาอังกฤษ สำหรับผู้เริ่มต้น ในชีวิตประจำวัน ฝึกแบบนี้ได้แน่นอน
👉https://www.youtube.com/watch?v=kxZAU…
📌 ฝึกพูดภาษาอังกฤษ ถามตอบ ประโยคพื้นฐานใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน
👉 https://www.youtube.com/watch?v=IHuK…
📌ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน วลีต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันบ่อยๆ
👉https://www.youtube.com/watch?v=AT2p…
📌 ฝึกพูด ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน พร้อมคำอ่าน EP.2
👉 https://www.youtube.com/watch?v=cZqpc…
📌 ฝึกพูด ประโยคภาษาอังกฤษพื้นฐาน ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน พร้อมคำอ่าน EP.3
👉 https://www.youtube.com/watch?v=uQ3k…
📌 เรียนภาษาอังกฤษง่ายๆ การใช้ This, That, These, Those พร้อมประโยคตัวอย่าง
👉https://www.youtube.com/watch?v=qS1MH…
📌 คำศัพท์ ที่เราคิดว่าเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ได้เรียกว่าแบบนี้หรอ
👉 https://www.youtube.com/watch?v=cAa9v…
📌สรุปการใช้ Verb to be ( is , am , are, was ,were) เข้าใจง่าย | ภาษาอังกฤษพื้นฐาน
👉https://www.youtube.com/watch?v=b9M76…
📌 50 คำย่อภาษาอังกฤษ ที่ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน มีอะไรบ้าง
👉https://www.youtube.com/watch?v=19Two…

เริ่มพูดภาษาอังกฤษ | ประโยคสั้นๆ | ใช้บ่อยในชีวิตประจำวัน พร้อมคำอ่านคำแปล

แชร์เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษ ไม่ได้เรียนอินเตอร์ก็เก่งได้!📒💒


มาตามรีเควสคั้บ! คลิปนี้พยายามรวบรวมประสบการณ์/ทริคต่างๆที่เราใช้ฝึกภาษามาหมดเลย หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ💖🌈

🧑🏻‍💻😊 Edsy English made Easy! 😊🧑🏻‍💻
เรียนพิเศษภาษาอังกฤษ ตัวต่อตัวออนไลน์กับติวเตอร์ Young Gen คนไทยรุ่นใหม่ จาก สถาบันชั้นนำทั่วโลก
📣 ทดลองเรียนได้ที่: https://bit.ly/2RcOLZy

💡 20 นาที ทดลองเรียนได้ที่บ้าน ตามเวลาที่สะดวก ไม่มีค่าใช้จ่ายและข้อผูกมัด
💡บทเรียนเสมือนคลาสจริงครอบคลุมทั้งพื้นฐาน และทักษะ หลักสูตรตามมาตรฐาน Cambridge English และ CEFR (Common European Framework)
💡พร้อมรับ Feedback และผลระดับภาษาหลังทดลอง
thanks for watching!
IG ; @kiwisarxh
contact for work : dm IG @kiwisarxh
🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍🤍

แชร์เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษ ไม่ได้เรียนอินเตอร์ก็เก่งได้!📒💒

💟 รวมเพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก |เพลงสำหรับอนุบาล🤸‍♂️


เพลงสำหรับเด็ก เพลงเด็ก เพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก kidsongs

💟 รวมเพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก |เพลงสำหรับอนุบาล🤸‍♂️

คำศัพท์ ร่างกาย ภาษาอังกฤษ Body parts


คำศัพท์ ร่างกาย ภาษาอังกฤษ Body parts
คำศัพท์ร่างกาย ภาษาอังกฤษ ศัพท์อังกฤษ

คำศัพท์ ร่างกาย ภาษาอังกฤษ Body parts

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ประโยชน์ของการเรียนภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *