Skip to content
Home » [NEW] ประโยค Passive Voice | passive voice การใช้ – NATAVIGUIDES

[NEW] ประโยค Passive Voice | passive voice การใช้ – NATAVIGUIDES

passive voice การใช้: คุณกำลังดูกระทู้

 

หลักการใช้

ประโยค (Sentence) คือข้อความที่เอ่ยมาแล้วเข้าใจได้กระจ่างชัดว่า ประธาน แสดง กริยา อะไร เมื่อใด ถ้ากริยานั้นต้องมีกรรม (Transitive Verb) ก็ต้องมีกรรมระบุในประโยคด้วย เช่น

  • เขา เดิน
    He walked

เขา เป็นประธาน (Subject)

เดิน เป็นกริยาไม่ต้องการกรรม (Intransitive Verb) เป็นอดีตกาล (Past tense)

  • เรา กิน มันฝรั่ง
    We eat potatoes

เรา เป็นประธาน (Subject)

กิน เป็นกริยาต้องมีกรรม (Transitive Verb) เป็นปัจจุบันกาล (Present Tense)

ทั้ง 2 ประโยคข้างต้นนี้ มีประธานเป็นผู้กระทำทั้งสิ้น (แต่จะอยู่ในรูป tense อย่างใด ก็สุดแท้แต่เวลาที่ต้องการบ่งชี้) เราเรียกโครงสร้างของประโยคชนิดนี้ว่า กรรตุวาจก (Active Voice) ลองสังเกตประโยคต่อไปนี้ดูบ้าง

  • Mangoes are eaten
    มะม่วง ถูกกิน

มะม่วง เป็นประธาน (Subject)

ถูกกิน เป็นกริยา (Present Tense)
ประธานของประโยคคือ Apples ไม่ได้ทำกริยา กิน แต่ในทางตรงกันข้าม ประธานกลับเป็นฝ่ายถูกกระทำ

  • The letter was read yesterday
    จดหมาย ถูกอ่าน เมื่อวานนี้

จดหมาย เป็นประธาน (Subject)

ถูกอ่าน เป็นกริยา (Past Tense)

ในทำนองเดียวกันกับประโยคแรก จดหมายซึ่งเป็นประธานของประโยคไม่ได้ เป็นผู้อ่าน แต่กลับเป็นสิ่งที่ถูกอ่านโดยประธาน ทั้ง 2 ประโยคหลังนี้ มีประธานเป็นผู้ถูกกระทำ โครงสร้างเช่นนี้เรียกว่า กรรมวาจก (Passive Voice)

วิธีการแปลประโยค passive ให้เป็นภาษาไทย

สำหรับโครงสร้างแบบ Passive Voice จะแปลว่า ถูกกระทำ เป็นส่วนใหญ่ แต่บางครั้งแปลว่า ได้รับการกระทำนั้น ดูจะเหมาะกว่า เช่น

  • He was punished by his teacher a few days ago.
    เขาถูกลงโทษ โดยครูของเขาเมื่อ 2 – 3 วันก่อน
  • The articles were read by most students.
    บทความถูกอ่าน โดยนักเรียนส่วนใหญ่
  • The most valuable ring was stolen . (by someone)
    แหวนวงที่มีราคามากที่สุดถูกขโมย ไป (ไม่ต้องระบุผู้กระทำเพราะไม่รู้แน่ชัด)

แต่

  • He was loved by his friends.
    เขาได้รับความรักจากเพื่อน ๆ ของเขา (เราไม่พูดว่า เขาถูกรัก)
  • Mrs. Brown was promoted . (by someone)
    นางบราวน์ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง (ไม่ได้ระบุว่าโดยใคร แต่น่าจะสันนิษฐานได้เองว่าจากผู้มีตำแหน่งสูงกว่าตัวบางบราวน์เอง)
  • The man was named . The Greatest Inventor (by someone)
    ผู้ชายคนนั้นได้รับกาขนานนามว่าเป็น นักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ (น่าจะเป็นจากคนที่พิจารณาเรื่องนี้ หรืออาจจากคนทั่ว ๆ ไปก็ได้)

วิธีเปลี่ยนประโยค active ให้เป็นประโยค passive ใน tense และ กริยาช่วย Modalต่างๆ

ในลำดับต่อไปนี้ก็มาถึงจุดสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ไม่ว่าในประโยคหนึ่ง ๆ นั้น

  1. ประธานจะเป็นผู้กระทำ หรือถูกกระทำ
    2. จะระบุผู้กระทำ (by someone) หรือไม่ก็ตาม

โครงสร้างแบบ Passive Voice ก็ต้องระบุกาลเวลาของกริยา (tense) ด้วยเหมือนกับในประโยคภาษาอังกฤษทั่ว ๆ ไป

  • รูปของ Active Voice คือ S + V
  • รูปของ Passive Voice คือ S + V to be + V.3

โครงสร้าง Verb to be + V.3 (Past Participle) จะไม่เป็นปัญหาเลยถ้า

  1. นักเรียนสามารถท่องจำกริยาช่องที่ 3 ได้
    2. นักเรียนรู้หลักการกระจาย Verb to be ไปตาม Tense ต่างๆ

แต่ เหนืออื่นใด เวลาจะใช้ประโยคภาษาอังกฤษ ขอให้นักเรียนถามตนเองซ้ำหลายๆ ครั้งก่อนว่า ประธานในประโยคเป็นผู้กระทำ หรือเป็นผู้ถูกกระทำกันแน่ เมื่อยืนยันกับตนเองได้ว่าประธานเป็นผู้ถูกกระทำอย่างแน่นอน จึงค่อยผูกประโยคตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

1 วางประธานไว้หน้าประโยค เช่น
A boy
The desk

2 ปรับคำกริยาให้เป็น V.3 เช่น laughed , written , eaten , punished , done , caughtโดยใช้คำเหล่านี้อยู่หลัง V. to be

กระจายรูป Verb to be ไปตาม Tense ที่ควรจะเป็นและวางหน้ากริยา Past participle

ถ้ากริยาในประโยคเป็นกริยาช่วย (Auxliary Verbs) ต่าง ๆ ก็เพียงแต่นำ be และ Past participle มาวางต่อข้างท้าย ดังนี้คือ

เช่น

The office ought to be opened .
English can be spoken by any Singaporean.
The rules have to be observed .

ตารางการกระจายกริยาแบบ Passive Voice (กรรมวาจก)ใน Tense (กาล) ต่างๆ

 

Tenses
V. to be
Past Participles

Present Simple
is, am, are
Thai is spoken in Thailand.
spoken

Present Continuous
is, am, are + being
He is being punished now.
punished

Present Perfect
has, have + been
The new building has been planned.
planned

Present Perfect Continuous
had, have + been + V.ing
The game has been being played for 2 hours.
played

Past Simple
was, were
Our house was painted last year.
painted

Past Continuous
was, were + being
When I arrived, the last guest speaker was being introduced.
introduced

Past Perfect had been
The work had been done before we got up.
done

*Past Perfect Continuous had been + being
When I knew him, he had been being trained for 2 years.
trained

Future Simple
will + be
He will be caught be the police some day.
caught

Future Simple
is, am, are + going to + be
The news is going to be published soon.
published

*Future Continuous
will be + being
At 10 o’clock tomorrow, he will be being questioned.
questioned

Future Perfect
will have + been
By next June, the tests will have been completed.
completed

*Future Perfect Continuous
will have + been + being
By tomorrow, the experiment will have been being conducted for 5 hours.
conducted

ข้อสังเกต Tense ที่มีเครื่องหมาย * ทั้ง 4 tense ไม่เป็นที่นิยมใช้ เพราะยาวและเยิ่นเย้อมากเกินไป

ตารางการกระจายกริยาแบบ Passive Voice (กรรมวาจก) กับกริยาช่วย Modal ต่างๆ

 

Modal Verbs
V. to be
Past Participles

may,might
can, could
must, haveto
ought to
used to
etc.
+ be +
Past Participle
V3

ข้อควรระวังในการใช้รูปประโยคแบบ passive

  1. ถ้าต้องการใช้ Passive Voice ในรูปประโยคคำถามที่มี Question Words ก็วาง Question Words ไว้หน้าประโยคเหมือนในรูป Active Voice ยกเว้นคำว่า Who ให้เปลี่ยนเป็น By Whom เช่น

What will I be taught by you?
-> What will you teach me?

Where was the kitten seen ?
->Were did (someone) see the kitten?

By whom can it be done ?
-> Who can do it?

  1. ถ้าเป็นประโยคคำสั่งหรือประโยคคำถาม จะมีรูปเช่น

Let the bell be rung
มาจาก Ring the bell.

Let the boy not be blamed
มาจาก Don’t blame the boy.

 

ข้อควรระวังในการใช้รูปประโยคแบบ passive

  1. ถ้ารูปเดิมใน Active Voice มีกรรม 2 ตัว (double objects) ก็สามารถใช้เป็นรูป Passive Voiceได้ 2 แบบ เช่น

ตัวอย่างประโยคที่ 1
แบบที่ 1 
He was given some salt by the cook. (ใช้กรรมรองเป็นประธาน)
แบบที่ 2 
Some salt was given to him by the cook. (ใช้กรรมตรงเป็นประธาน)
Active Voice (ของ 2 ประโยคข้างต้น) คือ The cook gave

ตัวอย่างประโยคที่ 2
แบบที่ 1 

We were shown the museum . (by someone)
แบบที่ 2 
The museum was shown to us . (by someone)
Active Voice (ของ 2 ประโยคข้างต้น) คือ Someone showed

ข้อสังเกต ตามความนิยม จะใช้กรรมรอง (หมายถึงบุคคล) มาเป็นประธาน

  1. ถ้าในActive Voice มีรูปกริยาดังต่อไปนี้ think , consider , acknowledge , know , say , report , understand , claim , believe , fear , hope , feel , find เช่น

People think that we are flexible.
People know he is impulsive

ประโยคเช่นนี้สามารถใช้โครงสร้าง Passive ได้ 2 แบบ คือ

แบบที่ 1 ใช้ it เป็นประธาน เช่น

It is thought that we are flexible.
It i s known he is impulsive

แบบที่ 2 เอาข้อความข้างหลังย้ายมาข้างหน้า และตามด้วย to be + adjective เช่น

We are thought to be flexible .
He is known to be impulsive

หมายเหตุ ถ้าใน Active Voice มี Infinitive without to ต้องเปลี่ยนเป็น Infinitive (ที่มี to) ในPassive Voice เว้นคำว่า let เช่น

 

Active Voice
Passive Voice

I watched him leave.
He was watched to leave.

They made us work hard
We were made to work hard

แต่

He let me go
I was let go

การเติม by

เราจะเติม by เพื่อแสดงว่าใครเป็นผู้ทำกริยานั้น เช่น

  • I was bitten by his dog .
    (ถ้าไม่ใส่ by his dog ก็ไม่รู้ว่าถูกกัดโดยอะไร)
  • The report was written by Tom .
    ถ้าไม่ใส่ by Tom ก็ไม่รู้ว่าใครเขียน รายงาน

แต่บางครั้ง ถ้าไม่ต้องการเน้นผู้กระทำ หรือผู้กระทำไม่สำคัญ ก็ไม่จำเป็นต้องระบุลงไป เช่น

  • English is spoken all over the world.
    (ไม่จำเป็นต้องต่อท้ายประโยคว่า by people )
  • My ring has been stolen .
    (ไม่จำเป็นต้องเติม by someone เข้าข้างท้ายประโยค)
  • The laws must be obeyed .
    (ไม่ต้องเติม by everyone ข้างท้าย)
  • Dinner is cooked .
    (ถ้าผู้กระทำเป็นคำสรรพนาม เช่น by her / him ก็ไม่จำเป็นต้องใส่เช่นกัน)

นอกจากนั้นไม่ใช่ Passive Voice ทุกประโยคที่ต้องใส่คำว่า by เสมอไป อาจใช้ at, in, of, with ก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นกับลักษณะพิเศษของกริยานั้น เช่น

    • He was asked of a lot of questions by the police.
    • I am pleased at (with) your progress.
    • The workers were killed in the fire.
    • The hill is covered with snow.
    • การทำกริยาให้อยู่ในรูป Past Tense (กริยาช่อง 2)

ในหน้านี้สอนการทำกริยาให้อยู่ในรูป Past Tense ทั้งกริยาที่เป็นไปตามกฎ และกริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎซึ่งกริยาส่วนใหญ่ จะทำเป็นกริยาช่อง 2 ได้ด้วยการเติม -ED ไว้ท้ายคำกริยานั้น แต่อย่างไรก็ตาม คำกริยาบางคำต้องปรับคำกริยานั้นเสียก่อน

นี่คือตารางกฎการเติม -ED

    • กริยาที่ลงท้ายด้วย
      การทำกริยาให้เป็นรูปอดีต
      ตัวอย่าง

      e
      เติม -D
      live – lived
      date – dated

      พยัญชนะ + y
      เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม -ED
      try – tried
      cry – cried

      สระหนึ่งตัว + พยัญชนะหนึ่งตัว (แต่ต้องไม่ใช่ w หรือ y)
      เพิ่มพยัญชนะท้ายตัวนั้นเข้าไปอีกหนึ่งตัว แล้วเติม -ED
      tap – tapped
      commit – committed

      [อืนๆ]
      เติม -ED
      boil – boiled
      fill – filled
      hand – handed

แม้ว่ากริยาส่วนใหญ่จะทำเป็นรูปอดีตได้ด้วยการเติม -ED แต่กริยาบางตัวก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้น กริยาเหล่านั้นเรียกว่า กริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎ (Irregular Verbs) ครู จะอธิบายรูปแบบที่สำคัญในการทำกริยาประเภทนี้ให้เป็นรูปอดีต แต่ต้องจำไว้ว่านี่ไม่ใช่กฎ เป็นเพียงรูปแบบที่พบบ่อยๆเท่านั้น กล่าวคือในที่สุดแล้วการจำ หรือการใช้อยู่เป็นประจำจะช่วยให้ทำกริยาให้เป็นอดีตได้อย่างคล่องแคล่ว

ถ้า ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษอยู่เป็นประจำ ก็ให้ใช้วิธีการท่องจำคำกริยาเหล่านี้นะ ส่วนใครที่ได้ใช้ภาษาอังกฤษอยู่เป็นประจำ อาจไม่ต้องท่องจำ

คำกริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎที่สำคัญ 3 คำ

กริยาที่สำคัญเหล่านั้นได้แก่ กริยา BE, HAVE, DO กริยา BE เป็นกริยาที่ยากที่สุดเพื่อรูปกริยาจะเปลี่ยนไปตามประธาน

    • ประธาน
      คำกริยา

      I
      was

      You
      were

      He / she / it
      was

      We
      were

      They
      were

กริยา HAVE และ DO

    • คำกริยา
      คำกริยาในรูปอดีต

      have
      had

      do
      did

คำกริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎคำอื่นๆ

คำกริยาที่ไม่เป็นไปตามกฎอาจจะแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม

  • ประเภท
    ตัวอย่าง

    คำกริยาที่ไม่เปลี่ยนรูป
    cut – cut
    hit – hit
    fit – fit

    คำกริยาที่เปลี่ยนรูปสระ
    get – got
    sit – sat
    drink – drank

    คำกริยาที่เปลี่ยนรูปไปเลย
    catch – caught
    bring – brought
    teach – taught

[NEW] เก่ง Passive Voice ภายใน 5 นาที แบบไม่งงและไม่ต้องท่องจำ | passive voice การใช้ – NATAVIGUIDES

เก่ง Passive Voice ภายใน 5 นาที แบบไม่งงและไม่ต้องท่องจำ

 

เก่ง Passive Voice ภายใน 5 นาที 

แบบไม่งงและไม่ต้องท่องจำ

 

จะเปลี่ยนจากประโยค Active Voice เป็น Passive Voice ทำยังไงดี? เมื่อไหร่ควรใช้ประโยค Passive Voice? ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วยทริคจาก Globish ที่จะทำให้คุณไม่ต้องท่องจำ และใช้เวลาเพียง 5 นาที คุณก็สามารถใช้ Passive Voice ได้อย่างมือโปร

 

ในภาษาอังกฤษ มี Active และ Passive Voice เพื่อบอกว่าใครทำอะไร หรือใครที่กำลังถูกกระทำ แต่ถ้าอธิบายเพียงเท่านี้ อาจจะทำให้งง วันนี้ Globish เลยจะพามาดูวิธีใช้เจ้า Active และ Passive Voice อย่างละเอียด 

 

ใครที่กำลังมีปัญหาเรื่อง Active และ Passive Voice บอกเลยว่าช่วยได้มากค่ะ

 

ถ้าอยากเก่งอังกฤษยิ่งขึ้นไปอีก สามารถดูวิธีการพัฒนาภาษาได้ที่ คลิก

 

5 ข้อต้อง “ข้าม” เมื่อเริ่มฝึกภาษาอังกฤษ

ภาษาอังกฤษผิดไม่รู้ตัว 12 ข้อผิดพลาดที่คนมักใช้ผิด

ฝึกจับใจความภาษาอังกฤษ ด้วยทฤษฎี GTM

 

Active Voice คืออะไร?

คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้กระทำกริยาโดยตรง เช่น



My mother bought that car. (แม่ของฉันซื้อรถคันนั้น)


My mother เป็นประธาน ทำกริยา (bought) โดยตรง



Jane cooked dinner yesterday. (เจนทำอาหารเย็นเมื่อวานนี้)


Jane เป็นประธาน ทำกริยา (cooked) โดยตรง

 

Passive Voice คืออะไร?

คือ ประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำโดยกริยา เช่น



That car was bought by my mother. (รถคันนั้นถูกซื้อโดยแม่ของฉัน)


That car เป็นประธาน แต่ถูกทำด้วยกริยา (bought)



Dinner was cooked by Jane yesterday. (อาหารเย็นถูกทำโดยเจนเมื่อวานนี้)


Dinner เป็นประธาน แต่ถูกทำด้วยกริยา (cooked)

 

รูปแบบของ Passive Voice

Passive voice ในภาษาอังกฤษจะประกอบไปด้วย 2 ส่วน ได้แก่  


to be + กริยาช่อง 3 (Past Participle)

 

การเปลี่ยน Active Voice เป็น Passive Voice ตาม Tense

V. ย่อมาจาก Verb

 

 

ตัวอย่าง

 

Present Simple:

Jane feeds the dog. ➜ The dog is feeded by Jane.

 

Present Continuos:

Jane is feeding the dog. ➜ The dog is being feeded by Jane.

 

Present Perfect:

Jane has feeded  the dog. ➜ The dog has been feeded by Jane.

 

Present Perfect Continuous:

Jane has been feeding  the dog. ➜ The dog has been being feeded by Jane.

 

 

 

ตัวอย่าง

 

Past Simple:

Jane feeded the dog. ➜ The dog was feeded by Jane.

 

Past Continuos:

Jane was feeding the dog. ➜ The dog was being feeded by Jane.

 

Past Perfect:

Jane had feeded  the dog. ➜ The dog had been feeded by Jane.

 

Past Perfect Continuous:

Jane had been feeding  the dog. ➜ The dog had been being feeded by Jane.

 

 

 

ตัวอย่าง

 

Future Simple:

Jane will feed the dog. ➜ The dog will be feeded by Jane.

 

Future Continuos:

Jane will be feeding the dog. ➜ The dog will be being feeded by Jane.

 

Future Perfect:

Jane will have feeded  the dog. ➜ The dog will have been feeded by Jane.

 

Future Perfect Continuous:

Jane will have been feeding the dog. ➜ The dog will have been being feeded by Jane.

 

 

 

ตัวอย่าง

 

can, could สามารถ:

Jane can feed the dog. ➜ The dog can be feeded by Jane.

Jane could feed the dog. ➜ The dog could be feeded by Jane.

 

may, might อาจจะ:

Jane may feed the dog. ➜ The dog may be feeded by Jane.

Jane might feed the dog. ➜ The dog might be feeded by Jane.

 

must, ought to ควรจะ:

Jane must feed the dog. ➜ The dog must be feeded by Jane.

Jane ought to feed the dog. ➜ The dog ought to be feeded by Jane.

 

have to, has to ต้อง:

Jane has to feed the dog. ➜ The dog has to be feeded by Jane.

They have to feed the dogs. ➜ The dogs have to be feeded by them.

 

 

ไม่อยากท่องจำ Passive Voice ทำไงดี?

 

อันดับแรกเลย ต้องจำโครงสร้างแต่ละ Tense ให้ได้ก่อนค่ะ เพื่อนำโครงสร้าง Tense มาบวกกับโครงสร้างของ Passive Voice นั่นก็คือ to be + V.3 (Past Participle) โดยตัว be จะต้องบวกกับ Verb แท้ แล้วผันตามรูปของมัน นั่นก็คือ

 

Verb infinitive ของ be

be


Verb ช่อง 1 ของ be

is, am are


Verb ช่อง 2 ของ be

was, were


Verb ช่อง 3 ของ be

been

 

 และผลลัพธ์ที่ได้ออกมาก็คือโครงสร้างประโยค Passive Voice ที่ผันตาม Tense ต่าง ๆ นั่นเองค่ะ

 

ตัวอย่าง

 

 

 

กริยาที่ใช้กับ Passive Voice ไม่ได้

 

1) กริยาที่ไม่ต้องกรรมมารองรับ (Intransitive Verb) เช่น

act แสดง

explode ระเบิด

arrive มาถึง

go ไป

come มา 

laugh หัวเราะ

lie โกหก

continue ดำเนินการต่อ

cry ร้องไห้

run วิ่ง

die ตาย

swim ว่ายน้ำ

immigrate อพยพ

respond โต้ตอบ

sing ร้องเพลง

sit นั่ง

smile ยิ้ม

 

นอกจาก Intransitive Verb ยังมี Verb ประเภทอื่น ๆ อีกนะคะ อยากรู้ว่ามีอะไรบ้าง คลิกเลย

 

2) กริยาพิเศษ ได้แก่

has มี

fit พอดี

suit เหมาะสม

lack ขาดแคลน

 

3) กริยาที่มีความหมายว่า “เป็น, อยู่, คือ” ได้แก่

is, am, are เป็น, อยู่, คือ

smell ได้กลิ่น

become กลายเป็น

feel รู้สึก

appear ปรากฏ

get เอา, ได้รับ

look ดูเหมือนว่า

taste มีรสชาติ

 

 

3 สถานการณ์ที่ ประโยค Passive Voice ไม่ต้องการ By

 

ตัวอย่างที่ผ่านมา หลาย ๆ ท่านอาจจะสังเกตุเห็นว่าประโยค Passive Voice ต้องมี by 

เช่น The boy was bitten by the dog.

 

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประโยค Passive Voice ไม่จำเป็นต้อมี By เสมอไปค่ะ ถ้าหากอยู่ใน 3 สถานการณ์เหล่านี้

 

1) เมื่อต้องไม่ต้องการพูดถึงผู้กระทำ เพราะไม่สำคัญหรือรู้กันอยู่แล้ว เช่น

Champagne is used to commemorate joyous occasions.

แชมเปญถูกใช้เพื่อฉลองโอกาสสุดพิเศษ

 

2) ประโยคที่ขึ้นต้นด้วยคำเหล่านี้ ได้แก่

It is believed that เชื่อกันว่า

It is said that กล่าวกันว่า

It is expected that คาดกันว่า

It is hoped that หวังกันว่า

 

Tips: หลัง that ต้องตามด้วยประโยค เช่น

It is believed that drinking cold water makes a period stop.

เชื่อกันว่าการกินน้ำเย็นตอนมีประจำเดือนจะทำให้เลือดหยุดไหล

 

3) เมื่อไม่รู้ว่าใครเป็นผู้กระทำ เช่น

My cat was kidnapped on Monday morning.

แมวของฉันถุกขโมยไปเมื่อวันจันทร์ตอนเช้า

 

ขอบคุณข้อมูลจาก:

เว็ปไซต์ EF

หนังสือเก่ง Grammar ก่อนสอบ

 

เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มความโปร พูดโฟลว์ได้อย่างมั่นใจ ได้ที่ Globish คอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดสำหรับวัยทำงาน พิสูจน์แล้วจากผู้เรียนกว่า 10,000 คน

ว่าพูดได้จริง ไม่ใช่แค่ท่องจำ

 

วัดระดับภาษาอังกฤษ คลิก


Active versus Passive Voice


This short video provides a brief introduction into the differences between active and passive voice when writing sentences.
For other videos by Dr. Jodie Salter, visit https://www.youtube.com/c/DrJodieSalter.
Check out this great strategy for organizing and structuring your sentences: https://www.youtube.com/watch?v=JvEUJWB4zms\u0026t=4s

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Active versus Passive Voice

ความแตกต่างของ Active Voice และ Passive Voice | Eng ลั่น [by We Mahidol]


ใครที่ยังงงเรื่องของ Active Voice และ Passive Voice กันบ้าง
วันนี้พี่คะน้า รุ่นพี่วิทยาลัยนานาชาติ ม.มหิดล จะมาอธิบายความแตกต่างของ Active Voice และ Passive Voice ว่าทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันยังไง และเมื่ออยู่ในรูปประโยคของ Tense ต่าง ๆ แล้วจะเป็นรูปแบบไหนกันบ้าง รับรองว่าดู Eng ลั่นตอนนี้จบแล้วจะเข้าใจเรื่อง Active Voice และ Passive Voice และสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องแน่นอน

WeMahidol Mahidol Engลั่น ActiveVoice PassiveVoice
YouTube : We Mahidol
Facebook : http://www.facebook.com/wemahidol
Instagram : https://www.instagram.com/wemahidol/
Twitter : https://twitter.com/wemahidol
TikTok : https://www.tiktok.com/@wemahidol
มหาวิทยาลัย มหิดล Mahidol University : https://www.mahidol.ac.th/th/
Website : https://channel.mahidol.ac.th/

ความแตกต่างของ Active Voice และ Passive Voice | Eng ลั่น [by We Mahidol]

50 ประโยคที่เอาไปใช้พูดกับฝรั่งได้เลย #ภาษาอังกฤษ


เรามาเรียนรู้ประโยคทั้ง 50 ประโยคที่เอาไปใช้พูดกับฝรั่งได้เลยค่าา
ติดตามเฟสบุ๊ค+ไอจีและสอบถามคอร์สเรียนที่
Facebook: https://www.facebook.com/kruwhanenglishonair
Instagram: https://www.instagram.com/english_kruwhan

50 ประโยคที่เอาไปใช้พูดกับฝรั่งได้เลย #ภาษาอังกฤษ

ติว GAT HACK ENG กับครูวัน : รู้จักกับ Passive Voice และ เทคนิคเปลี่ยน Active เป็น Passive


ทดลองเรียนฟรีได้ที่ www.OpenDurian.com/gateng_kruwan

ติว GAT HACK ENG กับครูวัน : รู้จักกับ Passive Voice และ เทคนิคเปลี่ยน Active เป็น Passive

เทคนิคจำ 12 TENSES ใน 10 นาที


น้องบ่นกันว่า Tenses จำยาก เรียนเท่าไหรก็จำไม่ได้ซักที
พี่เลยจัดให้ \”เทคนิคจำ 12 Tenses ใน 10 นาที\”
อยากเรียนคอร์สเต็มๆ ทดลองเรียนฟรีคลิกที่นี่เลยครับ
http://www.mylearnville.com/course/intensivegrammar/

เทคนิคจำ 12 TENSES ใน 10 นาที

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ passive voice การใช้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *