Skip to content
Home » [NEW] ประโยคสำหรับขอร้อง (Request) คำพูดสำคัญในภาษาอังกฤษ | ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] ประโยคสำหรับขอร้อง (Request) คำพูดสำคัญในภาษาอังกฤษ | ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ: คุณกำลังดูกระทู้

การขอร้องให้คนอื่นทำอะไรหรือช่วยอะไรนั้น ควรพูดให้สุภาพเข้าไว้ มิฉะนั้นแล้วอาจจะได้รับการปฏิเสธได้โดยง่าย อย่างไรก็ตามการขอร้องมีหลายระดับ คือ ระดับธรรมดา สุภาพและสุภาพที่สุด หรือในเรื่องที่ยากง่ายต่างกัน ฉะนั้น จะขอร้องให้ทำหรือช่วยอะไรนั้น ควรใช้คำให้เหมาะสมกับระดับเหตุการณ์นั้นๆ ในการขอร้องใช้คำได้หลายวิธี หลายประโยค ในที่นี่อาจจำแนกประโยคต่างๆ ที่ใช้ในการขอร้องได้ดังต่อไปนี้
1. ประโยคคำสั่ง (Command) ประโยคคำสั่งเป็นประโยคที่ขึ้นต้น ด้วยคำกริยาไม่มีประธาน เช่น Sit down. นั่งลง Open the window. เปิดหน้าต่างด้วย Don’t disturb her. อย่ารบกวนเธอ ประโยคชนิดนี้สร้างเป็นการขอร้องโดยการเติม Please (โปรด กรุณา) เข้าไป อาจจะวางต้นประโยค หรือท้ายประโยคก็ได้ การขอร้องด้วยประโยคชนิดนี้ ถือเป็นการขอร้องโดยตรง นิยมใช้โดยทั่วไป โดยมีรูปประโยคดังนี้
Please…………..         กรุณา / โปรด……………..
…………………….please.
ตัวอย่าง
Please sit down.
กรุณานั่งลง
Open the window, please.
กรุณาเปิดหน้าต่างด้วย
Please don’t disturb her.
กรุณาอย่ารบกวนเธอ
Please give me your name.
กรุณาบอกชื่อคุณด้วย
Don’t park in front of the office, please.
กรุณาอย่าจอดรถหน้าสำนักงาน
Please get me a chair.
กรุณาหาเก้าอี้ให้ฉันสักตัวด้วย
2. ประโยคบอกเล่า (Statement) การขอร้องอาจจะใช้เป็นรูปประโยคบอกเล่าธรรมดาก็ได้ แม้จะถือว่าเป็นการแสดงความต้องการของผู้พูดเองขึ้นมาลอยๆ โดยใช้กริยาที่แสดงออกถึงความต้องการ คือ want หรือ would like โดยการเติม Please เข้าท้ายประโยค ใช้ would like เป็นการสุภาพกว่า มีรูปประโยคดังนี้
I want …………, please.
ฉันต้องการ………………..
I would like …………….., please.
ฉันต้องการ……………………………
ตัวอย่าง
I want some water, please.
ฉันต้องการนํ้าบ้าง
I want a pen, please.
ฉันต้องการปากกาด้ามหนึ่ง
I want some drinks, please.
ฉันต้องการเครื่องดื่มสักอย่าง
I would like a cup of coffee, please.
ฉันต้องการกาแฟสักถ้วย
I would like the red one, please.
ฉันต้องการอันสีแดง
เพื่อให้มีความหมายเป็นการขอร้องโดยตรง ในรูปประโยคบอกเล่า ใช้กริยา ask หรือ request (ขอร้อง) ได้เลย หรือแสดงความต้องการจะขอร้อง โดยนำด้วย want หรือ would like และตามด้วย infinitive ดังโครงสร้างต่อไปนี้
I ask you to
ฉันขอร้องคุณให้ช่วย
I request you to
ฉันขอร้องคุณให้ช่วย
I want to ask you to
ฉันต้องการขอร้องคุณช่วย
I want to request you to
ฉันต้องการที่จะขอร้องคุณให้ช่วย
ตัวอย่าง
I ask you to open the window.
ฉันขอร้องให้คุณช่วยเปิดหน้าต่าง
I ask you to help me with this.
ฉันขอร้องคุณช่วยทำสิ่งนี้ด้วย
I request you to post these letters for me.
ฉันขอร้องคุณช่วยส่ง จ.ม.เหล่านี้ให้ด้วย
I would like to ask you to call him for me.
ฉันอยากขอร้องคุณช่วยโทรศัพท์ไปหาเขาให้ด้วย
I want to ask you to find his address.
ฉันต้องการให้คุณหาที่อยู่ของเขาให้ด้วย
I want you to sit down.
ฉันอยากจะให้คุณนั่งลง
I would like you to get me a pen.
ฉันอยากขอร้องให้คุณหาปากกาให้สักด้ามด้วย
3. ประโยคคำถาม (Question) การใช้รูปประโยคคำถามในการ ขอร้องนั้น ถือเป็นการขอร้องโดยอ้อมเป็นการถามกลายๆ ว่า จะทำอย่างนั้น ได้ไหม เป็นการแสดงความเกรงใจในการขอร้องนั้นๆ ซึ่งนิยมใช้กันมาก รูปคำถามที่ใช้มากคือ Yes/No Question แต่อย่างไรก็ตาม คำถามประเภทอื่นก็ใช้ในการขอร้องได้เช่นกัน ประโยคคำถามต่างๆ ที่ใช้ในการขอร้องมีโครงสร้างดังนี้
Yes/No Question :     Can / Will you…….., please?
Could / Would you please……., (please)?
Could / Would you kindly………..?
Would you be so kind as to……..?
Do / Would you mind………?
Tag Question :         ………,will you?
………,won’t you?
Wh- Question :         What……., please?
Who………, please?
(ect.)
Indirect Question :     I wonder if you……
I wonder if you’d mind…….
การใช้ประโยคคำถามชนิดต่างๆ ในการขอร้องนั้น มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
-ประโยค Yes/No Question ใช้มากที่สุด เป็นทั้งการถามและ ขอร้องในตัวเสร็จว่าจะทำได้หรือไม่ จากโครงสร้างข้างบนนั้น มีตัวอย่าง ดังต่อไปนี้
Can you sit down, please?
กรุณานั่งลงได้ไหม
Will you make me a cup of coffee, please?
ชงกาแฟให้ฉันสักถ้วยได้ไหม
Could you please tell me the way to the airport?
คุณจะกรุณาบอกหนทางไปสนามบินให้ฉันหน่อยได้ไหม
Would you kindly lend me the book for two days?
คุณจะกรุณาให้ฉันยืมหนังสือเล่มนี้สักสองวันจะได้ไหม
Would you be so kind as to post these letters for me?
คุณจะกรุณาส่งจดหมายเหล่านี้ให้ฉันด้วยได้ไหม
Do you mind washing this glass?
คุณล้างแก้วนี้ด้วยได้ไหม
Would you mind closing the door?
คุณจะกรุณาปิดประตูหน่อยได้ไหม
Would you please translate this sentence for them?
คุณจะกรุณาแปลประโยคนี้ให้พวกเขาหน่อยได้ไหม
Can you help me with this exercise?
คุณช่วยฉันทำแบบฝึกหัดนี้ได้ไหม
Will you find the meaning of the word for me?
คุณจะหาความหมายคำนี้ให้ฉันหน่อยได้ไหม
Would you mind giving me her name?
คุณจะบอกชื่อเธอให้ฉันหน่อยได้ไหม
-ประโยค Tag Question ตามปกติใช้เฉพาะชนิดที่ท่อนแรกเป็นรูปคำสั่งเท่านั้น บางครั้งอาจจะถือว่ายังเป็นคำสั่งอยู่นั้นเอง แต่ในที่นี่จัดเป็นการขอร้องอีกระดับหนึ่งไม่ค่อยนิยมใช้กันมากนัก จากโครงสร้างข้างบนนั้น มีตัวอย่างดังต่อไปนี้
Come in, will you?
เข้ามาข้างใน ได้ไหม
Close the window, won’t you?
ปิดหน้าต่างด้วย ได้ไหม
Sit down, won’t you?
นั่งลงได้ไหม
Speak slowly, will you?
พูดช้าๆ ได้ไหม
ประโยคเช่นนี้ถือว่าเป็นคำสั่งโดยอ้อม ซึ่งมีความหมายสุภาพกว่า คำสั่งโดยตรง
-ประโยค Wh-Question เป็นรูปคำถามธรรมดา แล้วเติม please เข้าท้ายประโยค ถือว่าเป็นการขอร้องโดยอ้อมอีกแบบหนึ่ง เป็นการขอร้องระดับธรรมดา ดังตัวอย่างต่อไปนี้
What’s your name, please?
คุณชื่ออะไรครับ
Where are you from, please?
คุณมาจากไหนครับ
When were you born, please?
คุณเกิดเมื่อไรครับ
How old are you, please?
คุณอายุเท่าไรครับ
การขอร้องวิธีนี นิยมใช้กับเหตุการณ์หรือสถานการณไม่มากนัก
-ประโยค Indirect Question นิยมใช้ในการขอร้องเช่นกัน เป็น การขอร้องโดยอ้อมเช่นเดียวกับ Yes/No Question ที่จริงแล้วประโยคชนิดนี้ก็คือประโยคบอกเล่านั้นเอง กริยาที่นิยมใช้สำหรับประโยคชนิดนี้ ก็คือกริยาที่แสดงถึงความสงสัย ไม่แน่ใจ ได้แก่ wonder (สงสัย) ดังตัวอย่างประโยคต่อไปนี้
I wonder if you’d lend me the typewriter.
ไม่ทราบว่า คุณจะให้ฉันยืมเครื่องพิมพ์ดีดได้ไหม
I wonder if you could help me with this?
ไม่ทราบว่า คุณจะช่วยฉันทำสิ่งนี้ได้ไหม
I wonder if you would mind checking this work.
ไม่ทราบว่า คุณจะกรุณาตรวจงานนี้หน่อยได้ไหม
I wonder if you would mind explaining this sentence.
ไม่ทราบว่า คุณจะกรุณาอธิบายประโยคนี้หน่อยได้ไหม
ตอบรับ (Accepting) การตอบรับการขอร้อง คือสามารถกระทำได้ตามที่ขอร้องนั้น ใช้คำพูดได้หลายอย่างหลายระดับเช่นเดียวกับการขอร้องดังนี้
Yes, of course
ตกลง, ได้เลย, แน่นอน
Certainly
ตกลง, ได้เลย, แน่นอน
All right ตกลง
Not at all
ได้เลย, ไม่เป็นไร
O.K.
ตกลง, ได้เลย
Sure ได้เลย
With pleasure
ยินดี, ด้วยความยินดี
I’d be glad to
ด้วยความยินดี
No, of course not
ไม่เป็นไร, ไม่รังเกียจ
Certainly not
ไม่เป็นไร ไม่รังเกียจ
ตอบปฏิเสธ (Refusing) อาจใช้ได้หลายคำเช่นกัน ควรปฏิเสธอย่างสุภาพ และให้เหตุผลที่ไม่อาจสนองความต้องการตามที่ขอร้องได้ ดังนี้
I’m sorry…..
ขอโทษ……..
I’m afraid….
ฉันเกรงว่า……
I wish I could but……
ฉันอยากจะทำให้ แต่ว่า….
ตัวอย่าง
I’m sorry I don’t know.
ขอโทษด้วย, ฉันไม่ทราบ
I’m afraid I am not free at that time.
ฉันเข้าใจว่า ฉันคงไม่ว่างในเวลานั้น
I wish I could but I have to hurry back home.
อยากจะทำให้เหมือนกัน แต่ว่าฉันต้องรีบกลับบ้าน
ข้อสังเกต
-การใช้กริยารูปอดีต (past) คือ could, would ไม่มีความหมาย เป็นอดีต แต่แสดงถึงความสุภาพหรือเกรงใจว่า can และ will และใช้ would like สุภาพกว่า want
-การขอร้องรูปคำถาม Yes/No นั้นแตกต่างจากคำถามธรรมดา โดยเติม Please เข้าไปเพื่อแสดงการขอร้อง และตอบแตกต่างกัน โดยคำถามธรรมดาตอบ Yes/No แต่การขอร้องตอบ Yes, of course หรือ I’m sorry … ดังตัวอย่างต่อไปนี้

คำถาม

ขอร้อง

Can you open the window?

Yes, I can. / No, I can’t.

คุณสามารถเปิดหน้าต่างได้ไหม

เปิดได้ / เปิดไม่ได้

Can you open the window, please?

Yes, of course. / I’m sorry …

คุณจะกรุณาเปิดหน้าต่างหน่อยได้ไหม      

ได้เลย / ขอโทษ เพราะว่า …

Can you speak Thai?

Yes, I can. / No, I can’t

คุณพูดภาษาไทยได้ไหม

ได้ พูดได้ / เปล่า พูดไม่ได้

Can you speak Thai, please?

All right. / Sorry, I don’t knowThai.

คุณกรุณาพูดภาษาไทยได้ไหม

ตกลง / ขอโทษ ฉันไม่รู้ภาษาไทย

Will you come tomorrow?

Yes, I will. / No, I won’t.

พรุ่งนี้ คุณจะมาใช่ไหม

ใช่, ฉันจะมา / เปล่า, ฉันจะไม่มา

Will you come tomorrow, please?

Sure. / I’m afraid I can’t.

พรุ่งนี้คุณมาได้ไหม

มาได้ / ฉันเกรงว่า คงมาไม่ได้

-การขอร้องที่ใช้ Do / Would you mind + v-ing เมื่อตอบรับ ใช้รูปเป็นปฏิเสธ คือ Of course not / Certainly not ซึ่งความหมายจริงๆ
ของการขอร้องชนิดนี้ ก็คือ คุณจะรังเกียจไหมที่จะ….คำตอบ ก็คือ เปล่า, ไม่รังเกียจ
ตัวอย่าง
Do you mind opening the window?    No, of courses not.
คุณจะรังเกียจไหมที่จะเปิดหน้าต่าง    ไม่เลย ไม่รังเกียจ
Would you mind helping me with this?    Certainly not.
คุณจะรังเกียจไหมที่จะกรุณาช่วยฉันทำสิ่งนี้   ไม่, ไม่รังเกียจ
แบบฝึกหัด
จงสร้างข้อความต่อไปนี้ให้เป็นประโยคขอร้อง
1. Take a seat
2. Turn off the fan
3. Show how to use it
4. Clean the room
5. Tell the way to somewhere
6. Type the letter
7. Not to be late
8. Pronounce this word
9. Send the letter by post
10. Not smoke in the room
ตัวอย่าง
Take a seat, please.
I want you to take a seat.
I would like you to take a seat.
Can you take a seat, please?
Could you please take a seat?
Do you mind taking a seat?
Take a seat, won’t you?
I wonder if you would take a seat.
โครงสร้างประโยคสำหรับขอร้อง มีดังนี้
Please…………….
………………., please.
I want …………., please.
I would like ……………, please.
Can/Could you ………….., please?
Will/Would
Could/Would you kindly ……………?
Would you be so kind as to …………?
Do/Would you mind ……………?
…………, will you?
…………, won’t you?
What/Who/etc…………, please?
I wonder if you…………….
I wonder if you would mind……………..
ที่มา:ดร.สวาสดิ์  พรรณา    

(Visited 257,880 times, 78 visits today)

Table of Contents

[Update] ตัวอย่างประโยค present continuous tense การเปลี่ยนประโยคบอกเล่าเป็นคำถาม และปฏิเสธ | ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

25

SHARES

Facebook

Twitter

หลักการเปลี่ยนประโยคบอกเล่าเป็นปฏิเสธ และคำถาม ก็คล้ายกับ Verb to be (is am are) เป๊ะเลย หากไดเรียนรู้เรื่องดังกล่าวมาแล้วก็จะเป็นเรื่องหมูๆเลยครับ

เปลี่ยนประโยค present continuous

ประโยคบอกเล่า

  • ประโยคบอกเล่าจะเป็นโครงสร้างธรรมดา คือ ประธาน + is, am, are + กริยา เติม ing

โครงสร้าง

I
am
singing
He, She, It, A cat
is
singing
You, We, They, Cats
are
singing

am singing. ผมกำลังร้องเพลง

He is swimming. เขากำลังว่ายน้ำ
She is riding a bike. หล่อนกำลังขี่จักรยาน
It is raining. มันกำลังฝนตก
A cat is eating a fish. แมวกำลังกินปลา

You are listening to the radio. คุณกำลังฟังวิทยุ
We are watching TV. พวกเรากำลังดูทีวี
They are cutting trees. พวกเขากำลังตัดต้นไม้
Cats are drinking water. แมวกำลังดื่มน้ำ

ประโยคบอกปฏิเสธ

  •  โครงสร้างปฏิเสธคล้ายประโยคบอกเล่า เพียงแค่เอาคำว่า not มาวางหลัง is, am, are
I
am
not
singing
He, She, It, A cat
is
not
singing
You, We, They, Cats
are
not
singing

I’m not singing. ผมไม่ได้กำลังร้องเพลง

He isn’t swimming. เขาไม่ได้กำลังว่ายน้ำ
She is not riding a bike. หล่อนไม่ได้กำลังขี่จักรยาน
It’s not raining. มันไม่ได้กำลังฝนตก
A cat is not eating a fish. แมวไม่ได้กำลังกินปลา

You are not listening to the radio. คุณไม่ได้กำลังฟังวิทยุ
We aren’t watching TV. พวกเราไม่ได้กำลังดูทีวี
They’re not cutting trees. พวกเขาไม่ได้กำลังตัดต้นไม้
Cats are not drinking water. แมวไม่ได้กำลังดื่มน้ำ

ประโยคคำถาม  Yes / No Question

การทำประโยคคำถามง่ายๆเอง เพียงแค่เอาคำว่า Is, Am, Are มาวางไว้หน้าประโยคแค่นั้นเองและอย่าลืมเติมเครื่องหมายคำถามท้ายประโยคด้วยนะครับ

ประโยคคำถามแบ่งออกเป็นสองประเด็นคือ ถามในรูปแบบบอกเล่า และถามรูปแบบปฏิเสธ

1. การถามในรูปแบบบอกเล่า

Am
I
singing
Is
he, she, it, a cat
singing
Are
you, we, they, cats
singing
  • Am I singing? ผมกำลังร้องเพลงใช่ไหม
    Yes, you are. /No, you aren’t. ใช่  / ไม่ใช่
  • Is he swimming? เขากำลังว่ายน้ำใช่ไหม
    Yes, he is. / No, he isn’t.  ใช่  / ไม่ใช่
  • Is she riding a bike? หล่อนกำลังขี่จักรยานใช่ไหม
    Yes, she is. / No, she isn’t. ใช่ / ไม่ใช่
  • Is it raining? มันกำลังฝนตกใช่ไหม
    Yes, it is. / No, it isn’t. ใช่  / ไม่ใช่
  • Is a cat eating a fish? แมวกำลังกินปลาใช่ไหม
    Yes, a cat is. / No, a cat isn’t. ใช่   / ไม่ใช่
    Yes, it is. / No, it isn’t. ใช่  / ไม่ใช่
  • Are you listening to the radio? คุณกำลังฟังวิทยุใช่ไหม
    Yes, I am. / No, I’m not. ใช่  / ไม่ใช่
  • Are we watching TV? พวกเรากำลังดูทีวีใช่ไหม
    Yes, we are. / No, we aren’t. ใช่   / ไม่ใช่
  • Are they cutting trees? พวกเขากำลังตัดต้นไม้ใช่ไหม
    Yes, they are. / No, we aren’t. ใช่  / ไมใช่
  • Are cats drinking water? แมวกำลังดื่มน้ำใช่ไหม
    Yes, cats are./ No, cats aren’t.  ใช่ / ไม่ใช่
    Yes, they are./ No, they aren’t. ใช่ / ไม่ใช่

2. การถามในรูปแบบปฏิเสธ

การถามในรูปปฏิเสธแบ่งออกอีกสองประเด็นคือ ในรูปแบบเต็ม และรูปแบบย่อ

  • รูปแบบเต็ม
Am
I
not
singing
Is
he, she, it, a cat
not
singing
Are
you, we, they, cats
not
singing
  • รูปแบบย่อ
Am
I
not
singing
Isn’t
he, she, it, a cat
singing
Aren’t
you, we, they, cats
singing
  • Am I not singing? ผมไม่ได้กำลังร้องเพลงใช่ไหม
    Yes, you are. /No, you aren’t. ใช่  / ไม่ใช่
  • Isn’t he swimming? เขาไม่ได้กำลังว่ายน้ำใช่ไหม
    Yes, he is. / No, he isn’t.  ใช่  / ไม่ใช่
  • Is she not riding a bike? หล่อนไม่ได้กำลังขี่จักรยานใช่ไหม
    Yes, she is. / No, she isn’t. ใช่ / ไม่ใช่
  • Isn’t  it raining? มันไม่ได้กำลังฝนตกใช่ไหม
    Yes, it is. / No, it isn’t. ใช่  / ไม่ใช่
  • Is a cat not eating a fish? แมวไม่ได้กำลังกินปลาใช่ไหม
    Yes, a cat is. / No, a cat isn’t. ใช่   / ไม่ใช่
    Yes, it is. / No, it isn’t. ใช่  / ไม่ใช่
  • Are you not listening to the radio? คุณไม่ได้กำลังฟังวิทยุใช่ไหม
    Yes, I am. / No, I’m not. ใช่  / ไม่ใช่
  • Aren’t we watching TV? พวกเราไม่ได้กำลังดูทีวีใช่ไหม
    Yes, we are. / No, we aren’t. ใช่   / ไม่ใช่
  • Are they not cutting trees? พวกเขาไม่ได้กำลังตัดต้นไม้ใช่ไหม
    Yes, they are. / No, we aren’t. ใช่  / ไมใช่
  • Aren’t cats drinking water? แมวไม่ได้กำลังดื่มน้ำใช่ไหม
    Yes, cats are./ No, cats aren’t.  ใช่ / ไม่ใช่
    Yes, they are./ No, they aren’t. ใช่ / ไม่ใช่

ประโยคคำถาม Wh- Question

ให้เอาคำเหล่านี้ (Who, What, Where, When, Why, How) นำหน้าประโยค ตามด้วย  is, am, are

Who is sitting on my chair? ใครกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ของฉัน

Jane is. เจน

What am I eating? ฉันกำลังกินอะไร
You is eating rice. คุณกำลังกินข้าว

Where is she sleeping? หล่อนกำลังนอนที่ไหน
She’s sleeping in the bedroom. หล่อนกำลังนอนในห้องนอน

When are they going to London. พวกเขากำลังจะไปลอนดอนเมื่อไหร่
They are going to London next month. พวกเขากำลังจะไปลอนดอนเดือนหน้า

Why is that boy crying? เด็กชายคนนั้นร้องไห้ทำไม
He wants a toy. เขาอยากได้ของเล่น

How fast are you running? คุณกำลังวิ่งเร็วแค่ไหน
About 30 miles per hour. ประมาณ 30 ไมล์ต่อชั่วโมง

ขอ 5 ดาวให้บทเรียนด้วยครับผม…

คลิกดาวดวงที่ขวามือสุดเลยครับครับ…

Average rating 4.6 / 5. Vote count: 214

ยังไม่มีใครให้ดาว คุณคือคนแรก….


Click [by Mahidol] Prepositions – Part 3 (for, from) – การใช้ และตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษมากมาย


ยังคงอยู่กับมหากาพย์ Prepositions กันต่อ คราวนี้เป็นคิวของ for กับ from อย่าเพิ่งเบื่อกันนะ เพราะถ้าเข้าใจเรื่อง Prepositions แล้ว เราจะสามารถแต่งประโยคภาษาอังกฤษได้อีกเพียบแบบเจ้าของภาษาเลย ในตอนนี้ รายการ Click โดยมหาวิทยาลัยมหิดล จัดมาให้เต็ม ๆ กับเรื่อง since และ for ที่หลายคนอาจจะยังงง ๆ กันอยู่ว่า มันใช้ต่างกันอย่างไร จากนั้น เปลี่ยนมาดูการใช้ from ในแบบต่าง ๆ พร้อมกับตัวอย่างประโยคสำเร็จรูปที่จำได้ง่าย บวกกับมุกขำๆ ตามแบบฉบับครูคริสที่ดูแล้วบางครั้งเราก็เพิ่งรู้ว่า เราเข้าใจผิดมาตลอดจริง ๆ และที่สำคัญ ดูรายการจบแล้ว อย่าลืมนำเอาไปใช้จริงกันเลยนะ มันจะช่วยให้เราจำได้ และมั่นใจกับภาษาอังกฤษของเรามากขึ้น
พบเคล็ดลับวิชาภาษาอังกฤษที่ไม่มีในตำราเรียน อยากได้ความรู้ ดูสนุก เข้าใจง่าย ติดตามได้ในรายการ Click ออกอากาศช่อง Mahidol Channel ทาง CTH ช่อง 118
Facebook : http://www.facebook.com/mahidolchannel
Website : http://channel.mahidol.ac.th

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Click  [by Mahidol] Prepositions - Part 3 (for, from) - การใช้ และตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษมากมาย

ฝึกพูด 33 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตจริง จากหนัง Emily in Paris


เรามาฝึกฟังและฝึกพูดภาษาอังกฤษจากหนัง/ซีรี่ย์กันค่ะ ซึ่งในคลิ๊ปนี้เป็นซีรี่ย์ชื่อว่า Emily in Paris มาลองอฝึกพูดประโยคภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตจริงจากหนังเรื่องนี้กันเลยค่ะ
learnenglishfrommovies เรียนภาษาอังกฤษจากหนัง

ฝึกพูด 33 ประโยคสนทนาภาษาอังกฤษที่ใช้ในชีวิตจริง จากหนัง Emily in Paris

100 ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ ง่าย ๆ ไม่เกิน 4 คำ เอาไปใช้วันนี้ได้เลย | ภาษาอังกฤษกับเคลี่


ภาษาอังกฤษกับเคลี่ เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง
FACEBOOK: WONDER ACADEMY เรียนภาษาอังกฤษกับครูหมอเคลี่
เรียนคอร์สพื้นฐาน (100 ชั่วโมง 1000 บาท) หรือคอร์สสนทนาแบบอเมริกัน (65 ชั่วโมง 2000 บาท) และซื้อหนังสืออีบุ๊ค American English Complete Grammar [เล่มเดียวจบ ครบสูตร] และ I Can Read [อ่านอังกฤษไม่ออก ขอบอกว่าเล่มนี้ช่วยได้] ได้ที่ Facebook ด้วยการติดต่อมาที่ https://m.me/englishwithkaylee

ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ ใช้ได้ในบทสนทนาชีวิตประจำวัน
1. I see 2. I quit 3. Let me go 4. Me, too 5. Oh my God 6. No way 7. Come on 8. Hold on 9. I agree 10. Not bad
11. Not yet 12. See ya 13. Shut up 14. Why not? 15. Allow me 16. Be quiet 17. Cheer up 18. Good job 19. Have fun 20. How much?
21. I’m full 22. I’m home 23. I’m lost 24. My treat 25. So do I 26. This way 27. After you 28. Bless you 29. Follow me 30. Forget it
31. Good luck 32. I can’t 33. I promise 34. Of course 35. Slow down 36. Take care 37. Try again 38. Watch out 39. What’s up? 40. Oh shit
41. Bottoms up 42. Don’t move 43. Guess what? 44. I doubt it 45. I think so 46. I’m single 47. No problem 48. Keep it up 49. Let me think 50. Never mind
51. That’s all 52. Time’s up 53. What’s new 54. Count me in 55. Don’t worry 56. Feel better 57. I love you 58. I miss you 59. That sucks 60. Is it yours?
61. That’s great 62. Are you sure? 63. Do I have to? 64. He’s my age 65. Here, take it 66. No one knows 67. Take it easy 68. What a pity 69. Anything else 70. Be careful
71. Do me a favor? 72. Help yourself 73. I’m on a diet 74. Keep in touch 75. Time is money 76. Who’s calling 77. You did it 78. You set me up 79. May I help you? 80. Have a good time
81. Excuse me 82. Please help me 83. How’s it going? 84. I have no idea 85. I made it 86. Let me see 87. I’m in a hurry 88. It’s up to you 89. It’s wonderful 90. Do you want it?
91. What about you? 92. You owe me one 93. You’re welcome 94. Any day is fine 95. Are you kidding me?! 96. Congratulations 97. I didn’t mean it 98. Let’s go 99. Are you hungry? 100. I’m exhausted

ถ้าอยากได้เป็นบทเรียนเพื่ออ่านและทบทวน กดลิ้งค์ข้างล่างได้เลยค่ะ https://www.facebook.com/englishwithkaylee/photos/pcb.2347800625510273/2347800222176980/?type=3\u0026theater
บางอันก็จะไม่ตรงนะคะ เพราะได้เปลี่ยนแปลงบทเรียนในคลิปนิดนึง

ครูชื่อเคลี่ค่ะ เกิดที่เมืองไทย เป็นคนอุดรค่ะ ครอบครัวย้ายไปอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่ปี 2001 เรียนจบมัธยมปลายที่รัฐฮาวาย ต่อตรีที่รัฐคอนเนคติคัท และจบเอกทันตแพทย์ที่ลาสเวกัส ตอนนี้ทำงานเป็นหมอฟันที่รัฐวอชิงตัน เริ่มสอนภาษาอังกฤษในเฟสบุ๊คปี 2016 ตอนที่เรียนทันต ปี 3 ค่ะ ตอนนี้ก็มีคนติดตามในเพจมากกว่า 1.2 ล้านคน อยากให้คนไทยได้พูดภาษาอังกฤษเป็น จะได้เจริญก้าวหน้า และตัวเองก็อยากฝึกภาษาไทยด้วย จะสังเกตุได้ว่าบางทีอาจจะพูดแข็งกระด้างเกินไป หรือว่าสะกดคำไทยผิด เพราะไม่ได้ใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวันเลยค่ะ พูดแต่อังกฤษ และคนที่บ้านก็พูดอิสานด้วย อันนั้นก็เริ่มไม่ถนัดแล้วเหมือนกันค่ะ ก็อย่าถือสากันเลยนะคะ แต่ภาษาอังกฤษเนี่ยครูสำเนียงอเมริกันเป๊ะค่ะ ครูจะพยายามมาลงคลิปบ่อยๆ นะคะ ขอบคุณที่มาดูคลิปและติดตามกันค่ะ
เรียนภาษาอังกฤษ, เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง, เทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษ, สำนวนภาษาอังกฤษ, ประโยคภาษาอังกฤษ, บทสนทนาภาษาอังกฤษ, เก่งภาษาอังกฤษ, ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน, ภาษาอังกฤษง่ายนิดเดียว, วลีภาษาอังกฤษ, เรียนต่อที่เมืองนอก, American English, English lesson for thai people, Learn English, English lesson, ภาษาอังกฤษแบบง่ายๆ, การออกเสียงภาษาอังกฤษที่ถูกต้อง, สำเนียงอังกฤษแบบอเมริกัน, คำศัพท์อังกฤษ, ศัพท์อังกฤษ, บทเรียนภาษาอังกฤษ, เรียนต่อที่อเมริกา, การฟังภาษาอังกฤษ, ฝึกการฟังภาษาอังกฤษ, เรื่องราวสั้นๆภาษาอังกฤษ, ภาษาอังกฤษพื้นฐาน

100 ประโยคภาษาอังกฤษสั้นๆ ง่าย ๆ ไม่เกิน 4 คำ เอาไปใช้วันนี้ได้เลย | ภาษาอังกฤษกับเคลี่

20 ประโยคขอโทษ ภาษาอังกฤษ เพื่อผู้เริ่มหัดสนทนา


💖 ถ้าอยากให้กำลังใจ มาสมัครสมาชิกกันนะครับ 💖
กดตรงนี้ 👉 https://www.youtube.com/channel/UCaiwEWHCdfCi23EYN1bWXBQ/join
ฝึกพูดภาษาอังกฤษ 20 ประโยค สำหรับขอโทษ ขออภัย บทนี้ประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ
Apologies Expression การกล่าวขอโทษ
To Accept an apology การตอบรับคำขอโทษ
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ฟรี! คลิก: https://www.tonamorn.com/
แจกศัพท์ภาษาอังกฤษพื้นฐาน 1,000 คลิก: https://www.tonamorn.com/vocabulary
สอน การแต่งประโยคภาษาอังกฤษ
https://www.tonamorn.com/learnenglish/writesentences/
เรียนภาษาอังกฤษ จากภาพสวยๆ บนอินสตาแกรม
https://instagram.com/ajtonamorn
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ, บทสนทนาภาษาอังกฤษ, ไวยากรณ์ แบบฝึกหัดพร้อมเฉลย และบทเรียนภาษาอังกฤษอีกมากมาย เรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่พื้นฐาน จนถึงระดับสูง ฟรี 100%

20 ประโยคขอโทษ ภาษาอังกฤษ เพื่อผู้เริ่มหัดสนทนา

50 ตัวอย่างประโยค Present Simple Tense


50 ตัวอย่างประโยค Present Simple Tense
คลิปนี้แยกออกมาจาก คลิป หลักการใช้ Present Simple Tense เพื่อให้สะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาและฝึกเฉพาะตัวอย่างประโยค โดยไม่ต้องดูคลิปเต็มยาวๆค่ะ

50 ตัวอย่างประโยค Present Simple Tense

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ ตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *