Skip to content
Home » [NEW] | บอกตัวเองให้จําไว้ – NATAVIGUIDES

[NEW] | บอกตัวเองให้จําไว้ – NATAVIGUIDES

บอกตัวเองให้จําไว้: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

เจอบทความหนึ่งเขียนโดย Thomas Oppong ผู้ก่อตั้ง AllTopStartups (Featured at Business Insider, Forbes, etc.) เขาได้พูดถึงเทคนิค 4 ข้อที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำของสมองให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ที่เขาอ้างถึงล้วนแล้วแต่มีงานวิจัย และกรณีศึกษารองรับทั้งสิ้น

หลายครั้งความสำเร็จมักขึ้นอยู่กับความรู้ที่เรามี ทุกอย่างที่เราเคยรู้มา รวมถึงทางเลือกที่เราจะเลือกทำมันต่อไป และเหตุผลที่เราเลือกในแต่ละครั้ง มันก็ควรเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายในชีวิตมากเข้าไปอีกก้าว

คนจำนวนมากอยากเรียนรู้ได้รวดเร็ว จดจำอะไรต่างๆ ได้ดี และยังอยากนำสิ่งที่รู้เหล่านั้นมาใช้ได้ถูกที่ถูกเวลา แต่ในความเป็นจริงเรามักลืมอะไรหลายๆ อย่างที่เราเรียนรู้มาไปในเวลาไม่นานนัก

เคยมีงานวิจัย ที่แสดงให้เห็นว่าภายใน 1 ชั่วโมง ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรสักอย่างกับสิ่งที่เรารู้มา คนส่วนใหญ่จะลืมเรื่องที่รู้มาไปกว่า 50% ของเรื่องที่รู้มา และหลังจาก 24 ชั่วโมง จะลืมเพิ่มเป็น 70% และภายใน 1 สัปดาห์หากไม่ได้ใช้สิ่งที่รู้มาเลย เราก็อาจลืมมันไปได้มากถึง 90% เลยทีเดียว เรียกได้ว่า อ่านมาแทบตายสุดท้ายลืมเกือบหมด

ดร. Elizabeth Bjork โปรเฟสเซอร์ด้าน cognitive psychology ที่ UCLA ที่มีผลงานเกี่ยวกับทฤษฏีแห่งการลืม บอกว่าความทรงจำระยะยาวนั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนของการดึงกลับมา (retrieval strength) และส่วนของการจัดเก็บ (storage strength)

ส่วนของการดึงกลับมา เป็นส่วนที่เอาไว้ดึงความทรงจำขึ้นมาใช้ ณ ตอนนั้นๆ ยิ่งมีมาก ยิ่งนึกออกได้เร็ว และส่วนของการจัดเก็บยิ่งดีมากก็ยิ่งจำเรื่องราวต่างๆ ได้นาน

ถ้าเราต้องการให้ความรู้ต่างๆ ที่รู้มานั้นอยู่ติดตัวกับเราเราต้องทำมากกว่าการตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือ (passive read) หรือฟัง podcast ไปเรื่อยๆ (passive listen) จากเดิมถ้าเรารู้สึกว่าจะจำมันไม่ได้ แทนที่จะต้องกลับมาอ่านหรือฟังทบทวนอีกรอบ ก็ให้เปลี่ยนเป็นการเขียนหรือฝึกฝนสิ่งที่เราเรียนรู้มาแทน ก่อนที่จะเริ่มต้นกับเรื่องใหม่

ในงานวิจัยนี้ยังบอกอีกว่า ความทรงจำเมื่อถูกจำลงไปในสมองแล้วมันจะยังกระจัดกระจายอยู่ และง่ายที่จะถูกลืม

สมองของเรามักจะจำสิ่งต่างๆ อยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เราได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง ได้พูดในชีวิตประจำวัน แต่จะจำไว้ในหน่วยความจำแบบชั่วคราว ซึ่งทำให้เราลืมได้ง่าย หากเราต้องการจดจำได้ดีขึ้น เราจำเป็นต้องนำสิ่งที่เรารู้ไปเก็บไว้ในหน่วยความจำระยะยาว

ขั้นตอนนี้เรียกว่า encoding หรือพูดง่ายๆ ก็คือการทำให้มันฝังตัวติดไว้ในสมองของเรานั่นเอง

ในปลายศตวรรตที่ 19, Herman Ebbinghaus เป็นนักจิตวิทยาคนแรกๆ ที่พยายามทำความเข้าใจเรื่องความจำ ผลงานของเขา อธิบายเกี่ยวกับการจดจำและลืมของสมอง ครั้งหนึ่งเขาเคยบอกว่า

“With any considerable number of repetitions, a suitable distribution of them over a space of time is decidedly more advantageous than the massing of them at a single time.”

แปลเป็นภาษาพูดว่า การทำอะไรสม่ำเสมอมากพอในช่วงเวลาหนึ่งๆ นั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าการจัดเต็มไปทีเดียวเน้นๆ — หรือก็คือการอ่านหนังสือทีเดียวแบบจัดเต็มนั้นมีประสิทธิภาพน้อยกว่าการค่อยๆ ทยอยทบทวนไปเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลาเรียน

งานวิจัยอีกอันหนึ่งที่ University of Waterloo บอกว่าเมื่อเราพยายามนึกถึงสิ่งที่เราเคยเรียนหรือเคยเห็นมาเมื่อไม่นานมานี้ เราจะส่งสัญญาณไปยังสมองให้เก็บความรู้อันนั้นไว้ให้ดีๆ เขาเทียบไว้ว่า เมื่อสิ่งใดเกิดขึ้นซ้ำๆ สมองเราก็จะพูดว่า โอ้ นี่ไง นึกถึงข้อมูลนี้อีกแล้ว งั้นฉันเก็บมันไว้แล้วกัน และเมื่อเราพยายามที่จะนึกถึงเรื่องนั้นๆ ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก แต่ละครั้งก็จะใช้เวลาในการดึงความจำนั้นขึ้นมาน้อยลง น้อยลงเรื่อย ทำให้เราสามารถที่จะนึกถึงสิ่งต่างๆ ในความจำระยะยาวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อใดก็ตามที่เราต้องการมัน (retrieval strength ถูกพัฒนา)

กลุ่มคนที่มีนิสัย life long learning ส่วนใหญ่ก็มักจะชอบฟัง และอ่านเยอะๆ กันอยู่แล้ว แต่ด้วยเทคนิคที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ จะยิ่งทำให้จำได้ดีขึ้นไปอีก … มาเริ่มกันเลย

ผลการสำรวจของ Stackoverflow Developer Survey Results 2019 บอกว่า Software Developer กว่า 90% (จากทั้งหมด ~90,000 คน) เป็นพวก lifelong learner

ด้วยวิธี Spaced Repetition ที่กล่าวถึงในงานตีพิมพ์นี้ อธิบายไว้ว่า การคิด หรือทำซ้ำๆ เป็นช่วง เว้นช่วง เป็นจุดเริ่มต้นของอะไรก็ตามที่เราพยายามจะเก็บรักษามันไว้ในความทรงจำ เช่น การอ่านหนังสือ แทนที่เราจะอ่านมันจบแล้ววางทิ้งไว้อย่างนั้น ก็ให้นำกลับมาอ่านใหม่อีกรอบในอีก 1 เดือนต่อมา หลังจากนั้นก็วนนำมันกลับมาอ่นอีกรอบในอีก 3 เดือน, 6 เดือน, 1 ปี อ่านวนไปเรื่อยๆ การเว้นช่วงทำอะไรซ้ำๆ แบบนี้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ Spacing Effect ปรากฏการที่อธิบายว่าสมองเราเรียนรู้ได้ดีขึ้นเมื่อเรารับรู้ข้อมูลใดๆ เป็นระยะๆ

แบ่งเวลา 50% ของการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มาใช้แบ่งปันหรืออธิบายสิ่งที่เราเรียนรู้มาให้คนอื่นบ้าง

งานวิจัยนี้บอกว่าการได้อธิบายแนวคิดหรือสิ่งที่เราได้เรียนรู้มาให้ใครสักคนฟังคือหนทางที่ทำให้เราเรียนรู้ได้ดีที่สุด

ยกตัวอย่างเช่น แทนที่เราจะอ่านหนังสือรวดเดียวจนจบเล่ม ก็ให้ตั้งเป้าว่าจะอ่านแค่ครึ่งเดียวก่อน จากนั้นทบทวนแล้วเอาไปเล่าให้คนอื่นฟัง หรือ เขียนสรุปเรื่องที่เราได้เรียนลงไปก่อนที่จะทำความเข้าใจโดยการเล่าให้ตัวเองฟังอีกทีก่อนก็ได้

หรือถ้าหนังสือแบ่งเป็นบทๆ อยู่แล้ว แทนที่เราจะอ่านหนังสือทั้งเล่มรวดเดียวจบ เราก็ค่อยๆ อ่านไปทีละบท จบบทหนึ่งก็ทบทวนว่าเราได้เรียนอะไรไปทีหนึ่ง วนไปแบบนี้เรื่อยๆ จนจบเล่ม แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การทดสอบหนึ่งว่าเราเข้าใจมันดีแค่ไหน ก็คือดูว่าเราสามารถเรียนรู้แล้วเอาไปถ่ายทอดให้คนอื่นได้ดีแค่ไหน ดังนั้นหาโอกาสเล่าสิ่งที่ตัวเองอ่านมาให้คนอื่นฟังอยู่เรื่อยๆ จะดีกว่าการจดเก็บไว้อ่านเองคนเดียว

ประโยคเด็ดที่เรามักได้ยินอยู่เสมอก็คือ “ทางที่ดีที่สุดในการเรียนรู้ก็คือการนำไปสอน” — การสอนมันไม่ใช่แค่ช่วยให้เราได้ทำความเข้าใจมัน แต่มันยังช่วยให้เราจดจำมันได้ดีขึ้นอีกด้วย — ลองดูเรื่อง Learning Pyramid

อีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลดีก็คือการดูคนอื่นสาธิตให้ดูเพื่อให้เห็นว่าจริงๆ แล้วมันเป็นอย่างไรนอกเหนือจากที่อ่านหรือฟังมา การได้เห็นหรือการทำให้ดูช่วยทำให้เราเข้าใจว่ามันจริงๆ แล้วมันทำงานยังไง ช่วยทำให้เราเห็นภาพได้ชัดมากขึ้น ซึ่งสื่อสมัยนี้ดีกว่าแต่ก่อนมาก เพราะมีคนมากมายพยายาม demo ให้เราเห็นภาพและเข้าใจได้ง่ายอยู่เรื่อยๆ ใน YouTube ถ้าเป็นในวงการ programming ก็คือการดูโค้ดที่คนอื่นเขียน หรือแม้แต่ลองเขียนโค้ดให้เห็นกับตาตัวเองยังไงล่ะ!

นอนให้พอหลังจากเรียนรู้คือส่วนสำคัญของขั้นตอนการสร้างความทรงจำ และการนอนก่อนการเรียนรู้จะทำให้เราเรียนรู้ได้ดีมากขึ้น

หลักฐานจาก งานนี้ บอกว่าการงีบหลับสักงีบช่วยทำให้เรียนรู้ได้ดีขึ้น ผลการศึกษาพบว่าการนอนที่เพียงพอช่วยให้เราจำสิ่งที่เราเรียนรู้ได้ดีขึ้น การงีบที่นานขึ้น (60 นาทีขึ้นไป) ก็จะยิ่งดีขึ้นสำหรับการจัดเก็บข้อมูลลงไปในความทรงจำระยะยาว อีกทั้งการมีค่ำคืนแห่งการนอนที่ดีเยี่ยมก็จะดียิ่งขึ้นไปอีกสำหรับการสร้างความจำและเคลียร์สมอง

The more the mind is used, the more robust memory can become. Taking control of information storage will not only help you retain new bits of information but also reinforce and refine the knowledge you already have.

[NEW] | บอกตัวเองให้จําไว้ – NATAVIGUIDES

เจอบทความหนึ่งเขียนโดย Thomas Oppong ผู้ก่อตั้ง AllTopStartups (Featured at Business Insider, Forbes, etc.) เขาได้พูดถึงเทคนิค 4 ข้อที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจดจำของสมองให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเนื้อหาส่วนใหญ่ที่เขาอ้างถึงล้วนแล้วแต่มีงานวิจัย และกรณีศึกษารองรับทั้งสิ้น

หลายครั้งความสำเร็จมักขึ้นอยู่กับความรู้ที่เรามี ทุกอย่างที่เราเคยรู้มา รวมถึงทางเลือกที่เราจะเลือกทำมันต่อไป และเหตุผลที่เราเลือกในแต่ละครั้ง มันก็ควรเป็นเหตุผลที่ทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายในชีวิตมากเข้าไปอีกก้าว

คนจำนวนมากอยากเรียนรู้ได้รวดเร็ว จดจำอะไรต่างๆ ได้ดี และยังอยากนำสิ่งที่รู้เหล่านั้นมาใช้ได้ถูกที่ถูกเวลา แต่ในความเป็นจริงเรามักลืมอะไรหลายๆ อย่างที่เราเรียนรู้มาไปในเวลาไม่นานนัก

เคยมีงานวิจัย ที่แสดงให้เห็นว่าภายใน 1 ชั่วโมง ถ้าเราไม่ได้ทำอะไรสักอย่างกับสิ่งที่เรารู้มา คนส่วนใหญ่จะลืมเรื่องที่รู้มาไปกว่า 50% ของเรื่องที่รู้มา และหลังจาก 24 ชั่วโมง จะลืมเพิ่มเป็น 70% และภายใน 1 สัปดาห์หากไม่ได้ใช้สิ่งที่รู้มาเลย เราก็อาจลืมมันไปได้มากถึง 90% เลยทีเดียว เรียกได้ว่า อ่านมาแทบตายสุดท้ายลืมเกือบหมด

ดร. Elizabeth Bjork โปรเฟสเซอร์ด้าน cognitive psychology ที่ UCLA ที่มีผลงานเกี่ยวกับทฤษฏีแห่งการลืม บอกว่าความทรงจำระยะยาวนั้นแบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนของการดึงกลับมา (retrieval strength) และส่วนของการจัดเก็บ (storage strength)

ส่วนของการดึงกลับมา เป็นส่วนที่เอาไว้ดึงความทรงจำขึ้นมาใช้ ณ ตอนนั้นๆ ยิ่งมีมาก ยิ่งนึกออกได้เร็ว และส่วนของการจัดเก็บยิ่งดีมากก็ยิ่งจำเรื่องราวต่างๆ ได้นาน

ถ้าเราต้องการให้ความรู้ต่างๆ ที่รู้มานั้นอยู่ติดตัวกับเราเราต้องทำมากกว่าการตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือ (passive read) หรือฟัง podcast ไปเรื่อยๆ (passive listen) จากเดิมถ้าเรารู้สึกว่าจะจำมันไม่ได้ แทนที่จะต้องกลับมาอ่านหรือฟังทบทวนอีกรอบ ก็ให้เปลี่ยนเป็นการเขียนหรือฝึกฝนสิ่งที่เราเรียนรู้มาแทน ก่อนที่จะเริ่มต้นกับเรื่องใหม่

ในงานวิจัยนี้ยังบอกอีกว่า ความทรงจำเมื่อถูกจำลงไปในสมองแล้วมันจะยังกระจัดกระจายอยู่ และง่ายที่จะถูกลืม

สมองของเรามักจะจำสิ่งต่างๆ อยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่เราได้เห็น ได้ยิน ได้ฟัง ได้พูดในชีวิตประจำวัน แต่จะจำไว้ในหน่วยความจำแบบชั่วคราว ซึ่งทำให้เราลืมได้ง่าย หากเราต้องการจดจำได้ดีขึ้น เราจำเป็นต้องนำสิ่งที่เรารู้ไปเก็บไว้ในหน่วยความจำระยะยาว

ขั้นตอนนี้เรียกว่า encoding หรือพูดง่ายๆ ก็คือการทำให้มันฝังตัวติดไว้ในสมองของเรานั่นเอง

ในปลายศตวรรตที่ 19, Herman Ebbinghaus เป็นนักจิตวิทยาคนแรกๆ ที่พยายามทำความเข้าใจเรื่องความจำ ผลงานของเขา อธิบายเกี่ยวกับการจดจำและลืมของสมอง ครั้งหนึ่งเขาเคยบอกว่า

“With any considerable number of repetitions, a suitable distribution of them over a space of time is decidedly more advantageous than the massing of them at a single time.”

แปลเป็นภาษาพูดว่า การทำอะไรสม่ำเสมอมากพอในช่วงเวลาหนึ่งๆ นั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าการจัดเต็มไปทีเดียวเน้นๆ — หรือก็คือการอ่านหนังสือทีเดียวแบบจัดเต็มนั้นมีประสิทธิภาพน้อยกว่าการค่อยๆ ทยอยทบทวนไปเรื่อยๆ อย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลาเรียน

งานวิจัยอีกอันหนึ่งที่ University of Waterloo บอกว่าเมื่อเราพยายามนึกถึงสิ่งที่เราเคยเรียนหรือเคยเห็นมาเมื่อไม่นานมานี้ เราจะส่งสัญญาณไปยังสมองให้เก็บความรู้อันนั้นไว้ให้ดีๆ เขาเทียบไว้ว่า เมื่อสิ่งใดเกิดขึ้นซ้ำๆ สมองเราก็จะพูดว่า โอ้ นี่ไง นึกถึงข้อมูลนี้อีกแล้ว งั้นฉันเก็บมันไว้แล้วกัน และเมื่อเราพยายามที่จะนึกถึงเรื่องนั้นๆ ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก แต่ละครั้งก็จะใช้เวลาในการดึงความจำนั้นขึ้นมาน้อยลง น้อยลงเรื่อย ทำให้เราสามารถที่จะนึกถึงสิ่งต่างๆ ในความจำระยะยาวได้อย่างรวดเร็ว เมื่อใดก็ตามที่เราต้องการมัน (retrieval strength ถูกพัฒนา)

กลุ่มคนที่มีนิสัย life long learning ส่วนใหญ่ก็มักจะชอบฟัง และอ่านเยอะๆ กันอยู่แล้ว แต่ด้วยเทคนิคที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ จะยิ่งทำให้จำได้ดีขึ้นไปอีก … มาเริ่มกันเลย

ผลการสำรวจของ Stackoverflow Developer Survey Results 2019 บอกว่า Software Developer กว่า 90% (จากทั้งหมด ~90,000 คน) เป็นพวก lifelong learner

ด้วยวิธี Spaced Repetition ที่กล่าวถึงในงานตีพิมพ์นี้ อธิบายไว้ว่า การคิด หรือทำซ้ำๆ เป็นช่วง เว้นช่วง เป็นจุดเริ่มต้นของอะไรก็ตามที่เราพยายามจะเก็บรักษามันไว้ในความทรงจำ เช่น การอ่านหนังสือ แทนที่เราจะอ่านมันจบแล้ววางทิ้งไว้อย่างนั้น ก็ให้นำกลับมาอ่านใหม่อีกรอบในอีก 1 เดือนต่อมา หลังจากนั้นก็วนนำมันกลับมาอ่นอีกรอบในอีก 3 เดือน, 6 เดือน, 1 ปี อ่านวนไปเรื่อยๆ การเว้นช่วงทำอะไรซ้ำๆ แบบนี้ทำให้เกิดปรากฏการณ์ Spacing Effect ปรากฏการที่อธิบายว่าสมองเราเรียนรู้ได้ดีขึ้นเมื่อเรารับรู้ข้อมูลใดๆ เป็นระยะๆ

แบ่งเวลา 50% ของการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มาใช้แบ่งปันหรืออธิบายสิ่งที่เราเรียนรู้มาให้คนอื่นบ้าง

งานวิจัยนี้บอกว่าการได้อธิบายแนวคิดหรือสิ่งที่เราได้เรียนรู้มาให้ใครสักคนฟังคือหนทางที่ทำให้เราเรียนรู้ได้ดีที่สุด

ยกตัวอย่างเช่น แทนที่เราจะอ่านหนังสือรวดเดียวจนจบเล่ม ก็ให้ตั้งเป้าว่าจะอ่านแค่ครึ่งเดียวก่อน จากนั้นทบทวนแล้วเอาไปเล่าให้คนอื่นฟัง หรือ เขียนสรุปเรื่องที่เราได้เรียนลงไปก่อนที่จะทำความเข้าใจโดยการเล่าให้ตัวเองฟังอีกทีก่อนก็ได้

หรือถ้าหนังสือแบ่งเป็นบทๆ อยู่แล้ว แทนที่เราจะอ่านหนังสือทั้งเล่มรวดเดียวจบ เราก็ค่อยๆ อ่านไปทีละบท จบบทหนึ่งก็ทบทวนว่าเราได้เรียนอะไรไปทีหนึ่ง วนไปแบบนี้เรื่อยๆ จนจบเล่ม แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การทดสอบหนึ่งว่าเราเข้าใจมันดีแค่ไหน ก็คือดูว่าเราสามารถเรียนรู้แล้วเอาไปถ่ายทอดให้คนอื่นได้ดีแค่ไหน ดังนั้นหาโอกาสเล่าสิ่งที่ตัวเองอ่านมาให้คนอื่นฟังอยู่เรื่อยๆ จะดีกว่าการจดเก็บไว้อ่านเองคนเดียว

ประโยคเด็ดที่เรามักได้ยินอยู่เสมอก็คือ “ทางที่ดีที่สุดในการเรียนรู้ก็คือการนำไปสอน” — การสอนมันไม่ใช่แค่ช่วยให้เราได้ทำความเข้าใจมัน แต่มันยังช่วยให้เราจดจำมันได้ดีขึ้นอีกด้วย — ลองดูเรื่อง Learning Pyramid

อีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลดีก็คือการดูคนอื่นสาธิตให้ดูเพื่อให้เห็นว่าจริงๆ แล้วมันเป็นอย่างไรนอกเหนือจากที่อ่านหรือฟังมา การได้เห็นหรือการทำให้ดูช่วยทำให้เราเข้าใจว่ามันจริงๆ แล้วมันทำงานยังไง ช่วยทำให้เราเห็นภาพได้ชัดมากขึ้น ซึ่งสื่อสมัยนี้ดีกว่าแต่ก่อนมาก เพราะมีคนมากมายพยายาม demo ให้เราเห็นภาพและเข้าใจได้ง่ายอยู่เรื่อยๆ ใน YouTube ถ้าเป็นในวงการ programming ก็คือการดูโค้ดที่คนอื่นเขียน หรือแม้แต่ลองเขียนโค้ดให้เห็นกับตาตัวเองยังไงล่ะ!

นอนให้พอหลังจากเรียนรู้คือส่วนสำคัญของขั้นตอนการสร้างความทรงจำ และการนอนก่อนการเรียนรู้จะทำให้เราเรียนรู้ได้ดีมากขึ้น

หลักฐานจาก งานนี้ บอกว่าการงีบหลับสักงีบช่วยทำให้เรียนรู้ได้ดีขึ้น ผลการศึกษาพบว่าการนอนที่เพียงพอช่วยให้เราจำสิ่งที่เราเรียนรู้ได้ดีขึ้น การงีบที่นานขึ้น (60 นาทีขึ้นไป) ก็จะยิ่งดีขึ้นสำหรับการจัดเก็บข้อมูลลงไปในความทรงจำระยะยาว อีกทั้งการมีค่ำคืนแห่งการนอนที่ดีเยี่ยมก็จะดียิ่งขึ้นไปอีกสำหรับการสร้างความจำและเคลียร์สมอง

The more the mind is used, the more robust memory can become. Taking control of information storage will not only help you retain new bits of information but also reinforce and refine the knowledge you already have.


ไม่ไหวบอกไหว : BOY PEACEMAKER [MUSIC VIDEO]


\”เธอรู้ไหมว่ามันไม่ง่ายเลยที่ฉันต้องยอมรับ
กับชีวิตในโลกที่มันไม่มีเธอ\”
ไม่ไหวบอกไหว เพลงใหม่จาก BOY PEACEMAKER
ติดตามความเคลื่อนไหวก่อนใครได้ที่ https://www.facebook.com/GRANDMUSIK
ไม่ไหวบอกไหว BOY PEACEMAKER
คำร้อง ​​: กฤษติกร พรสาธิต
ทำนอง​​: กฤษติกร พรสาธิต
เรียบเรียง​​: เรืองกิจ ยงปิยะกุล
โปรดิวเซอร์ ​: เรืองกิจ ยงปิยะกุล

ใจของฉันมันชา เมื่อเธอยืนยันออกมาว่าต้องไป
แม้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน
ภาพวันนั้นที่เราเคยฝันมันคงไม่มีต่อไป
วันนี้เธอขอให้ฉันตัดใจ

เธอรู้มั๊ยว่ามันไม่ง่ายเลยที่ฉันต้องยอมรับ
กับชีวิตในโลกที่มันไม่มีเธอ
แต่ถึงแม้ยากเย็นเท่าไร ฉันก็จะยอมรับมันเอาไว้

เจ็บแค่ไหน ฉันก็จะฝืนแกล้งทำว่าไม่เป็นไร
บอกใจที่มันอ่อนแอตอนนี้ช่วยทนให้ไหว
แม้น้ำตาไหล ฝืนยิ้มมองเธอจากไป
เธอเลือกแล้ว ฉันก็ต้องยอมเข้าใจ
ไม่ไหวแคไหนต้องทนให้ไหว
END เจ็บแค่ไหน ทนให้ไหว ต้องทนฝืน ปล่อยเธอเดินไป ไม่มีเธอเหมือนเดิม ต้องทนไหว

ฉันก็พร้อมยินดี เมื่อเธอไปเจอกับทางที่ดีกว่า
แม้ว่าตรงนั้นจะไม่มีฉัน
ขอบใจนะที่ครั้งหนึ่งเธอเคยอยู่ตรงนี้กับฉัน
ให้ฉันรู้ว่าเคยโชคดีแค่ไหน

ในวันนี้มันคงไม่ง่ายเลยที่ฉันต้องยอมรับ
กับชีวิตในโลกที่มันไม่มีเธอ
และถึงแม้อยากรั้งเธอไว้
ฉันก็คงพูดได้เพียงในใจ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

ไม่ไหวบอกไหว : BOY PEACEMAKER [MUSIC VIDEO]

รวมเพลงอกหัก 2021 ฟังเพลงเศร้า ซึ้ง บอกเลิก เจ็บๆ


รวมเพลงอกหัก 2021 ฟังเพลงเศร้า ซึ้ง บอกเลิก เจ็บๆ

รวมเพลงอกหัก 2021 ฟังเพลงเศร้า ซึ้ง บอกเลิก เจ็บๆ

ROOM39 Feat.โป่ง ปฐมพงศ์ (โป่ง หินเหล็กไฟ) – บอกตัวเอง | Remind [Official MV]


Title : บอกตัวเอง | Remind
Artist : Room39 Feat.โป่ง ปฐมพงศ์ (โป่ง หินเหล็กไฟ)
Release Date : 21 MAY 2018
­­
ดาวโหลดเพลงนี้ได้ทาง
itunes / Apple Music : https://goo.gl/RBRQsm
Joox : https://goo.gl/hzZU2y
Spotify : https://goo.gl/fCh3Tn
True Music : https://goo.gl/ZrFBNL
­­
Executive Producer : สุธี แสงเสรีชน
Executive Director : บอย โกสิยพงษ์, เทพอาจ กวินอนันต์
Produced : ติณณ์ นภาลัย, แว่นใหญ่, Monik
เนื้อร้อง/ทำนอง : แว่นใหญ่
Vocal Director : สุธี แสงเสรีชน
Lead Vocal : แว่นใหญ่
Additional Vocal : โป่ง ปฐมพงศ์ (โป่ง หินเหล็กไฟ)
Drums : พีระ วรวิทยาธร
Bass : อนุชิต ธนัญชัย
Keyboard : ภูดินันท์ ดีสวัสดิ์มงคล
strings : ภูดินันท์ ดีสวัสดิ์มงคล
Acoustic Guitar : แว่นใหญ่
Electric Guitar : แว่นใหญ่ /ติณณ์ นภาลัย
Synth : ติณณ์ นภาลัย
Sound Engineer : วรัชญ์ แสงมั่ง
Mixed and Mastered : พีท ตันสกุล
­­
ขอขอบคุณ เครื่องดื่มอีเดนแอปเปิ้ล สปาร์คลิ่ง
สดชื่นมีคุณประโยชน์จากน้ำแอปเปิ้ลแท้ สดชื่นบอกต่อ
­­
เป็นเพลงที่แว่นใหญ่เขียนจากการได้พูดคุยกับแม่ ในวันที่อ่อนแอสิ่งที่แม่ได้สอนจากประสบการณ์ชีวิตของแม่เองคือ
“เราต้องบอกตัวเองอยู่เสมอว่าเราต้องเข้มแข็งและใช้ชีวิตต่อไปให้ได้ ถึงแม้ว่าในทุกๆวันที่เราตื่นขึ้นมา จะไม่มีวันไหนเลยที่เราไม่คิดถึงคนๆนั้นก็ตาม”
หวังว่าเพลงนี้จะมีประโยชน์กับใครบางคนที่ต้องรวบรวมความเข้มแข็ง เพื่อบอกตัวเองในทุกๆวัน ว่าเราจะต้องอยู่ต่อไปเพื่อคนที่รักเราและเพื่อตัวเราเอง
เพลงนี้ถือเป็นความภูมิใจของพวกเรา ที่พี่โป่ง หินเหล็กไฟ ได้ให้เกียรติมาร่วม Featuring กับพวกเราด้วย พวกเรากราบขอบคุณพี่โป่งที่ทำให้เพลงนี้มีความหมายกับพวกเรายิ่งขึ้นครับ
­­
รู้ว่าไม่มีหวัง ที่จะรั้งให้เธอกลับมา
แต่ส่วนลึกในใจไม่รู้ทำไม
เธอยังอยู่ข้างในนั้น
แม้ว่าจบไปแล้วเนิ่นนานเท่าไร
บอกตัวเองว่าเราต้องลืมเรื่องราวที่ผ่าน
แม้ความจริงทรมานและไม่มีวันไหนไม่คิดถึงเธอ
บอกตัวเองต้องมีสักวันรักคงจะเลือนไป
แม้ความจริงในหัวใจ
ยังไม่รู้ว่าจะลืมเธอได้อย่างไร
เหลือแค่เพียงความหลัง กับฝันที่พังทลาย
แต่ส่วนลึกในใจไม่รู้ทำไม
เธอยังอยู่ในความคิด
แม้ไม่มีสิทธ์จะคิดถึงเธอต่อไป
บอกตัวเองว่าเราต้องลืมเรื่องราวที่ผ่าน
แม้ความจริงทรมานและไม่มีวันไหนไม่คิดถึงเธอ
บอกตัวเองต้องมีสักวันรักคงจะเลือนไป
แม้ความจริงในหัวใจ
ยังไม่รู้ว่าจะลืมเธอได้อย่างไร
ทุกคืนและวันที่ผ่าน
แม้จะเนิ่นนานเท่าไหร่
เรื่องราวของเธอและฉัน
ยังไม่มีวันที่มันจะลบเลือนหมดไป
ซ้ำ ,
­­
สมัครสมาชิก LOVEiSCHANNEL ได้ที่
http://goo.gl/aTyk17
ติดตามข่าวสารของ LOVEiS ได้ที่
Facebook : LoveisFanPage
Instagram: @loveis_news
­­
©LOVEiS Co, Ltd. All rights reserved.

ROOM39 Feat.โป่ง ปฐมพงศ์ (โป่ง หินเหล็กไฟ) - บอกตัวเอง | Remind [Official MV]

ไม่นานก็ชิน – fin [Live in studio]


แผลในใจ จะลึกเพียงใด เจ็บแต่ไม่ถึงตาย อีกไม่นานก็ชิน…
ติดต่องานแสดง : 090 176 0579
Facebook วงฟิน : https://bit.ly/3vf1SYx
เพลง : ไม่นานก็ชิน
ศิลปิน : FIN
คำร้อง / ทำนอง : เอฟ วงFIN
เรียบเรียง/ดนตรี : เป้ วงFIN , ปาล์ม วงFIN

เนื้อเพลง : ไม่นานก็ชิน
บอกตัวเองไม่ต้องเสียใจ
กับคนที่มันไม่เคยจะห่วงใย
ว่าเราจะเป็นจะตายไม่เคยสน
เก็บอาการเอาไว้ข้างใน
ไม่ให้ใครรู้ว่าใจมันร้อนรน
เหมือนคนไม่มีวิญญาณ
แม้ว่าความเจ็บช้ำ จะกัดกินฉัน ความเจ็บเหล่านั้น ไม่เคยจาง
ฉันต้องอยู่ให้ไหว ต้องเดินต่อไป แม้ไม่มีเธอ

แผลในใจ จะลึกเพียงใด เจ็บแต่ไม่ถึงตาย อีกไม่นานก็ชิน
น้ำในตา หยุดไหลวันใด บอกตัวเองให้จำ
อย่าไปรักกับใคร ถ้าใจของเราไม่เข้มแข็งพอ
บอกตัวเองต้องอยู่ให้ไหว แม้ต้องเดินคนเดียวตลอดไป
ไม่เป็นไร ก็แค่รักตัวเอง
(, )
solo
(, , )
FIN ไม่นานก็ชิน

ไม่นานก็ชิน - fin [Live in studio]

เกิดมาเพื่ออกหัก – แจ็ค แฟนฉัน


เพลง : เกิดมาเพื่ออกหัก
ศิลปิน : แจ็ค แฟนฉัน
เนื้อเพลง
ทำไมเธอถึงใจร้ายกับฉัน
ฉันไปทำอะไรให้เธอปวดใจ
ได้โปรดอย่าทิ้งฉันไปหาใคร
ห้ามเท่าไหร่ตัวเธอยิ่งไปจากฉัน
บอกตัวเองให้จำว่าเธอทิ้งไปมีคนใหม่
ที่ผ่านมาฉันคงไม่มีค่ามากพอ
มันเจ็บตรงที่เธอเอาหัวใจฉันไปย่ำยี
นี่หรือคือคนที่เรียกว่าที่รัก
ฉันคือรักแท้ที่แพ้ที่แพ้คนใจร้าย
ที่โดนเธอหลอกจนแทบเจียนตาย
สุดท้ายรักแท้ก็แพ้คนหลายใจ
แววตาเธอนั้นดูเธอสุขสม
ต่างจากฉันที่มีแต่ความเสียใจ
คงเป็นเพราะฉันไม่น่าสนใจ
ได้แต่ทําใจก็เกิดมาเพื่ออกหัก
บอกตัวเองให้จำว่าเธอทิ้งไปมีคนใหม่
ที่ผ่านมาฉันคงไม่มีค่ามากพอ
มันเจ็บตรงที่เธอเอาหัวใจฉันไปย่ำยี
นี่หรือคือคนที่เรียกว่าที่รัก
ฉันคือรักแท้ที่แพ้ที่แพ้คนใจร้าย
ที่โดนเธอหลอกจนแทบเจียนตาย
สุดท้ายรักแท้ก็แพ้คนหลายใจ
มันเจ็บตรงที่เธอเอาหัวใจฉันไปย่ำยี
นี่หรือคือคนที่เรียกว่าที่รัก
ฉันคือรักแท้ที่แพ้ที่แพ้คนใจร้าย
ที่โดนเธอหลอกจนแทบเจียนตาย
มันเจ็บตรงที่เธอเอาหัวใจฉันไปย่ำยี
นี่หรือคือคนที่เรียกว่าที่รัก
ฉันคือรักแท้ที่แพ้ที่แพ้คนใจร้าย
ที่โดนเธอหลอกจนแทบเจียนตาย
สุดท้ายรักแท้ก็แพ้คนหลายใจ

เกิดมาเพื่ออกหัก - แจ็ค แฟนฉัน

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN TO MAKE A WEBSITE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ บอกตัวเองให้จําไว้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *