[NEW] ทําอย่างไรให้เก่งอังกฤษ กับ 12 New Year’s Resolution สุดฮิตจากทั่วโลก | ทำ อย่างไร ให้ เก่ง ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

การเจอคนใหม่ๆทำให้เราได้เรียนรู้ความคิด ค่านิยมที่ต่างออกไป ซึ่งอาจเป็นการจุดประกายชีวิตของคุณอีกครั้ง

การเจอคนใหม่ๆ เป็นการได้แลกเปลี่ยน วัฒนธรรมและความเชื่อ เสมือนคุณได้เดินทางหรืออ่านหนังสือ บางครั้งคุณก็ได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆได้เช่นกัน

Meet พบ เจอ

Let’s meet at one o’clock.

meet จะเป็นลักษณะของการพบปะกับผู้คน เช่น I meet him at the bus stop. ผมพบกับเขาที่ป้ายรถเมล์ Meet คำนี้ถ้าเติม –ing เข้าไป จะกลายเป็น Meeting แปลว่า การประชุม นะครับ

meet up [PHRV] พบโดยบังเอิญ

I met up with him as I left the building.

meet halfway [PHRV] พบกันครึ่งทาง (ของการเดินทาง)/ยินยอม

Let’s meet halfway between your house and mine.

6. Become more active:จะตื่นตัวและคล่องตัวมากขึ้น

บางคนก็อาจชอบอยู่เฉย นั่ง หรือนอนมากเกินไป โดยเฉพาะอาจจะอยู่กับคอมพิวเตอร์ หรือจอแทบเล็ตจนอาจเกิดอาการป่วยประเภท Office syndrome ได้

A: I usually sit for few hours.

ฉันนั่งนานติดต่อกันหลายชั่วโมง

B: You might have an office syndrome symptoms.

คุณอาจมีอาการ ออฟฟิซ ซินโดรม ก็เป็นได้นะ

ยังไงปีนี้ก็พยายามรักษาสุขภาพกันให้ดีๆนะครับ

อโรคยา ปรมาลาภา : การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ

7. Become more confident and take some chances:

เป็นคนที่มั่นใจมากขึ้น และเสี่ยงโชคบ้างบางเวลา

เรายังใช้ confident ได้หลากหลายดังนี้

confident about: I was starting to feel more confident about the exam.

confident in/of your ability: He is confident in his ability to do the job well.

มีวิจัยบอกมาแล้วว่าคนที่มั่นใจมักเป็นคนที่ประสบความสำเร็จและมีความสุขในชีวิต ที่แน่ๆสำเร็จและมีความสุขกว่าคนไม่มั่นใจ เรามาเป็นคนมั่นใจกันเถอะ

8. Earn more money: รายได้ที่เพิ่มขึ้น

ขนาดโคตรเศรษฐีพันล้าน ยังมองหารายได้เพิ่ม นับประสาอะไรกับคนธรรมดาอย่างเราๆละครับ อีกอย่างสมัยนี้ค่าใช้จ่ายก็มีแต่เพิ่มขึ้น ค่าของเงินก็มีแต่ลดลง

ลองมาดูคำศัพท์ที่ทำให้เราเห็นภาพชั้นวรรณะคนทำงานกันหน่อย

billionaire คนที่รวยมากๆ มีทรัพย์สินพันล้านดอลล่าร์หรือปอนด์

Imagine yourself as a billionaire.

ลองมโนว่าตัวเองเป็นมหาเศรษฐีดู

owner เจ้าของกิจการ

Freelancer คนที่ทำงานอิสระ

white collar worker คนทำงานสำนักงาน

blue collar worker คนงาน, กรรมกร

9. Become more polite: เป็นคนสุภาพมากขึ้น

สำหรับการพูดภาษาอังกฤษให้สุภาพนั้นไม่ยาก ขอแค่เพิ่มคำที่ดูสุภาพเข้าไป แล้วใช้น้ำเสียงที่มันอ่อนโยน ก็แค่นั้นเอง

“Please”

Can I have a chicken burger and fries, please

เนื่องจากภาษาอังกฤษไม่มีคำว่าครับ คะ ดังนั้นการเติม please จะช่วยให้ภาษานุ่มนวลและสุภาพมากขึ้น

ขออภัย Excuse me ขอโทษ I’m sorry

ตรงนี้มีคนนั่งหรือยังคะ

Excuse me please, is this seat free?

I’m afraid I can’t.

บางครั้งก็เป็นเรื่องยากที่จะต้องตอบปฏิเสธคำเชิญชวนจากเพื่อน คราวหน้าถ้าคุณต้องปฏิเสธคำเชิญจากใคร ให้พูดว่า “I’m afraid I can’t.

การเป็นคนสุภาพมันดีต่อชีวิตคุณ เพราะไปไหนใครก็รัก น่าเอ็นดู จริงๆก็มีอีกหลายวิธีที่ทำให้เราสุภาพมากขึ้น เพื่อปีนี้ที่ดีขึ้นมาสุภาพกันเถอะครับ

10. Reduce stress: ลดความเครียด

ความเครียดคือเพชฌฆาต มันพรากความสุขและชีวิตของเราทุกคน

Stress เฉยๆจะใช้ในกรณีที่เป็นคำนาม แปลว่าความเครียด หรือคำกริยา ที่ให้ความหมายว่า ทำให้เครียด Stress ที่เติม -ed จะทำให้กลายเป็นคำคุณศัพท์ (Adjective) แปลว่า ที่มีความเครียด

Stressed out

I’m so stressed out แปลว่า ฉันรู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก บรรยายความรู้สึกนี้สิ

Anxious

เป็นคำคุณศัพท์แปลว่าวิตกหรือมีความเครียด จะใช้คำนี้บอกว่าเราเครียดหรือรู้สึกวิตกกังวลได้ง่ายๆ โดยพูดว่า I’m anxious

Frazzled

รู้สึกเครียดหน่อย ไม่ได้มากมายอะไร ลองพูดว่า I’m frazzled มันจะให้ความหมายว่า ชักจะวิตกละ ชักจะกังวลแล้ว

11. Learn to be happier with your life: เรียนรู้ที่จะมีความสุขมากขึ้นกับชีวิต

มันไม่ผิดที่จะมีความสุข มันสนุกที่จะมีชีวิต คุณจะใช้ชีวิตซังกะตายไปวันๆ หรือทำให้ทุกวันคือความฝันที่เป็นจริง สุดท้ายแล้วมันขึ้นอยู่กับตัวของคุณเอง

7 วลีบอก “มีความสุข”

I’m absolutely delighted. ปลาบปลื้มตื้นตัน

I’m over the moon. แบบว่าลอยไปไกลไรงี้

I couldn’t be happier. สุขกว่านี้มีที่ไหน

I’m very pleased. เปรมมเบบย

I’m on cloud nine. คล้ายๆ สวรรค์ชั้นเจ็ดเด้

I’m having the time of my life. นี่มันพีคสุข(สุดๆ)ชีวิตฉัน

Happiness is all around. ความสุขมันฟุ้งไปทั่ว

ขอให้มีความสุขกับปีนี้ปี 2017 ปีระกานะครับ

12. Get more quality sleep: นอนเต็มอิ่ม

คนไม่เคยนอนไม่หลับคงไม่รู้ว่าทรมานแค่ไหน ยิ่งในยุคที่มีทั้ง ทีวี คอมพิวเตอร์ มือถือ แทบเล็ต ที่พร้อมจะส่งแสงสีเสียงสัญญาณกวนใจ การได้พักผ่อนอย่างเต็มที่คือสิ่งที่คนรุ่นใหม่ปรารถนา

sleep tight หลับสนิท

sleep in นอนดึก

sleepy ง่วงนอน

sleeping pill ยานอนหลับ

แต่ระวังคำต่อไปหน่อยก็ดีนะครับ อิอิ

sleep together สู่สม, ร่วมรัก

ขอให้ได้หลับนอนด้วยกัน เอ้ย พักผ่อนด้วยกันอย่างเต็มที่นะครับ

เพิ่มเติม

ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ New Year’s Resolutions:

1. ประชากรวัยผู้ใหญ่มากกว่าครึ่งในอเมริกาเหนือตั้งคำปฏิภาณปีใหม่

2. คำปฏิภาณที่พบมากที่สุดคือ เลิกสูบบุหรี่หรือลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

3. 60% ของผู้ที่ตั้งคำปฏิภาณปีใหม่ล้มเลิกความตั้งใจภายใน 6 เดือน และ 81% ล้มเหลวหลังจากเวลาผ่านไปได้ 24 เดือน

ขอให้บทความ ทําอย่างไรให้เก่งอังกฤษ กับ 12 New Year’s Resolution สุดฮิตจากทั่วโลก จะช่วยให้เพื่อนเรียนรู้ภาษาอังกฤษและพัฒนาชีวิตไปให้ถึงความฝัน นะจ้ะ อย่าพึ่งละลดเลิกทิ้งปณิธานก่อนละ

หากคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ ช่วยแชร์กันเอยะๆนะจ้ะ

“วิธีการเรียนรู้ที่ดีที่สุดคือการพยายามอธิบายให้คนอื่นฟังให้เข้าใจให้ได้ อีกวิธีนึงที่จะทดสอบความเข้าใจของตัวคุณเองก็คือการพยายามสร้างโจทย์ของตัวเองขึ้นมา แล้วลองแก้โจทย์นั้นเอง”
– Elena Issoglio, อาจารย์ด้านคณิตศาสตร์การเงิน, University of Leeds

“อย่าแค่เรียนหรืออ่านให้เข้าหัว แต่ให้พยายามทำความเข้าใจ เพราะถ้าเราเข้าใจแล้ว เราจะไม่ต้องพยายามจดจำมันเลย แถมยังจะช่วยให้เราไม่ลืมอีกด้วย”
– Immanuel Halupczok, อาจารย์ด้านคณิตศาสตร์, University of Leeds

EXAM WEEK:

หลายคนชอบทำตัว One night miracle หรือว่าเอ้อระเหยแล้วมาอ่านเตรียมสอบตาลีตาเหลือกก่อนในคืนสุดท้าย จริงๆ แล้วช่วงสัปดาห์สอบจะต้องเป็นช่วงที่เราใจนิ่ง คีพคาล์ม ได้แล้ว จะได้ไม่ลืมอะไรในการสอบ ถึงเวลาที่ทบทวนเบาๆ ว่าเราเข้าใจจริงๆ ได้แล้ว

“ประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนสอบ ลองหาข้อสอบเก่ามาทำโดยมีการจับเวลาเหมือนสอบจริง จะได้ประเมินตัวเองถูกว่าเราทำได้แค่ไหน” 
– Stephen Griffiths , อาจารย์ด้านคณิตศาสตร์ประยุกต์, University of Leeds

“ตรวจสอบการเขียนของคุณว่าอ่านออกได้ง่ายและชัดเจน! ทำตัวให้สบายๆ และคิดว่าจะเขียนได้มากแค่ไหนในการสอบ เวลาสอบจะได้ไม่กดดันตัวเอง และรู้ตัวว่าเขียนมากเพียงพอหรือยัง”
– Valerie Rumbold, อาจารย์ด้านวรรณกรรมอังกฤษ, University of Birmingham

“ไปถึงห้องสอบให้ทันเวลา ให้เวลาตัวเอง 2-3 นาทีในการผ่อนคลายตัวเองก่อนเริ่มสอบ”
– Sebastian Mitchell, อาจารย์อาวุโสด้านวรรณกรรมอังกฤษ, University of Birmingham

DURING EXAM:

 

 

 

รู้ตัวอีกทีข้อสอบก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว… เอาล่ะ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาแพนิก สูดลมหายใจเข้าลึกๆ เรารู้แล้วว่ากำลังสอบอะไร ข้อสอบออกแนวไหน ลองอ่านโจทย์ดีๆ สำหรับข้อสอบมหาวิทยาลัยหลายๆ คณะที่เป็นการเขียนข้อเขียนแอสเสยาวๆ นี่บอกเลยว่าการมีโครงสร้างหรือ outline นี่ดีที่สุด เพราะทำให้เราเรียงลำดับความคิดได้

 

ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงเวลาเราทำรายงานจะต้องมีการเกริ่นคำนำ เนื้อเรื่อง สรุป การเขียนข้อสอบก็ต้องมีโครงสร้าง ไม่ใช่การเขียนวนไปวนมานึกอะไรออกก็เขียน และต้อง convince อาจารย์ที่ตรวจข้อสอบให้ได้ว่าเรารู้จริง

 

“เมื่อถึงที่นั่งสอบแล้ว สูดหายใจเข้าออกลึกๆ 10 ครั้ง และบอกตัวเองว่าการได้เขียนสิ่งที่เราคิดนี่มันช่างมีความสุขเสียนี่กระไร! แล้วก็เริ่มทำข้อสอบอย่างมั่นใจได้เลย”
– Valerie Rumbold, อาจารย์ด้านวรรณกรรมอังกฤษ, Birmingham

 

“กะจังหวะของตัวเองให้ดี อย่าลืมว่าคะแนน 50% แรกนั้นได้มาง่ายกว่า 10% สุดท้าย การเขียนข้อสอบเยอะๆ นั้นไม่มีค่าหากคุณไม่ได้สังเคราะห์แนวคิดและเพิ่มเติมข้อมูลที่เหนือกว่าคนอื่น”
– Phil Garnsworthy, หัวหน้าภาควิชาสัตวศาสตร์, University of Nottingham

 

“ข้อสอบส่วนใหญ่จะมีหลายข้อและให้เลือกทำเพียงข้อใดข้อหนึ่ง ดังนั้นต้องมั่นใจว่าคุณเลือกคำถามที่เหมาะสมที่คุณมีโอกาสตอบได้มากที่สุด ซึ่งอาจจะไม่ใช่คำถามที่ง่ายที่สุดเสมอไป อย่าเขียนข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้อง สิ่งที่อาจารย์ทั้งหลายมองหาคือการนำความรู้มาประยุกต์ใช้ตอบคำถามได้อย่างเฉพาะเจาะจง”
– Sebastian Mitchell, อาจารย์วิชาภาษาอังกฤษ, Birmingham

 

“เขียนให้น่าสนใจ เพราะเวลาตรวจข้อสอบนี่เป็นอะไรที่น่าเบื่อและน่าหงุดหงิดที่สุดเลย คำตอบที่น่าสนใจนี่ช่วยพวกเราได้มาก ทำให้พวกเราอยากจะให้คะแนนข้อสอบเหล่านี้เพิ่มขึ้นเลยแหละ ที่สำคัญคืออย่าอวดเก่งหรือใช้ภาษาที่โก้หรูเกินไป นักวิชาการอย่างเราๆ มักจะดูออกทันที เพราะคนที่เข้าใจแนวคิดจริงๆ จะใช้ภาษาง่ายๆ และตรงไปตรงมาในการอธิบายมากกว่า”
– Victor Tadros, อาจารย์ด้านกฎหมาย, Warwick

 

“ไม่ว่าจะทำบทคัดย่อทางวิทยาศาสตร์หรือข้อสอบวิชาเลข ต้องอธิบายคำตอบมากกว่าแค่เขียนสูตรอย่าง “y=mx+c” แล้วปล่อยให้คนตรวจคิดเอาเองว่าอะไรคืออะไร ลองตอบแบบนี้แทนดีกว่า ‘The height y is given by y=mx+c where m is …'”
– Mike Evans, อาจารย์ด้านคณิตศาสตร์ประยุกต์, Leeds

 

“การยกตัวอย่างอย่างถูกต้องและเหมาะสม ทำให้ได้คะแนน แต่การอ้างอิงนั้นได้คะแนนมากกว่า” 
– Phil Garnsworthy, อาจารย์ภาคสัตวศาสตร์, Nottingham

 

“ถึงแม้ปกติคุณจะไม่ใส่นาฬิกา แต่ช่วยใส่มันเข้าห้องสอบทีเถอะ!”
– Valerie Rumbold, อาจารย์ด้านวรรณกรรมอังกฤษ, Birmingham

 

“อย่ามองข้ามคำถามที่มีข้อมูลเยอะๆ เพราะคำตอบมักจะง่ายกว่าที่คุณคิด”
– Phil Garnsworthy, อาจารย์ภาคสัตวศาสตร์, Nottingham

 

“เวลาที่คุณโต้แย้งมุมมองบางอย่าง ควรจะโต้แย้งกับมุมมองที่เป็นไปได้ ไม่ใช่ข้อมูลที่ไร้หลักฐาน และควรจะเป็นมุมมองของคนที่มีชื่อเสียงและชาญฉลาด นอกจากนี้ต้องจัดโครงสร้างคำตอบของคุณให้ดีโดยใช้บริบทการโต้แย้งอย่างเหมาะสม ไม่ใช่มีแค่ คำนำ เนื้อเรื่อง สรุป”
– Victor Tadros, อาจารย์ด้านกฎหมาย, Warwick

 

“ถ้าทำข้อสอบเสร็จก่อนเวลา อย่าออกจากห้องสอบทันที คุณไม่ได้จ่ายเงินหลายพันปอนด์และตั้งใจเรียนหลายพันชั่วโมงเพื่อทำข้อสอบแบบส่งๆ ใช้โอกาสนี้ตรวจสอบคำตอบของคุณและพยายามเพิ่มประสิทธิภาพของคำตอบเหล่านี้ให้ดีที่สุด”
– Mike Evans, อาจารย์ด้านคณิตศาสตร์ประยุกต์, Leeds

 

มีคำถามเกี่ยวกับการเรียน-การสอบภาษาเพื่อเตรียมตัวไปเรียนนอก? ปรึกษา IDP ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย คลิกเล้ย 🙂