Skip to content
Home » [NEW] ที่เที่ยวมาเก๊า เก็บครบทุกมุมสวย ใช้วันหยุดน้อย ไม่ต้องคอยวีซ่า | parisian คือ – NATAVIGUIDES

[NEW] ที่เที่ยวมาเก๊า เก็บครบทุกมุมสวย ใช้วันหยุดน้อย ไม่ต้องคอยวีซ่า | parisian คือ – NATAVIGUIDES

parisian คือ: คุณกำลังดูกระทู้

          รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวมาเก๊า ฉบับอัปเดต เที่ยวเกาะเล็ก ๆ ที่ได้ชื่อว่า ลาสเวกัสแห่งเอเชีย กับแหล่งท่องเที่ยวทั้งด้านวัฒนธรรม ศิลปะ และธรรมชาติ

          มาเก๊ามีอะไรน่าเที่ยว ? หลายคนอาจจะนึกภาพไม่ออก เพราะเคยได้ยินกันว่ามาที่นี่มีแค่กาสิโนเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วมาเก๊าเป็นนเมืองที่น่าเที่ยวมาก มีอะไรดี ๆ ซ่อนอยู่เพียบ โดยเฉพาะตึกรามบ้านช่องสวย ๆ อาคารเก่าแก่สีสันน่ารัก ๆ เอาเป็นว่าใครที่ชอบถ่ายรูปจะต้องตกหลุมรักมาเก๊าแน่นอน และเพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้กับคนที่กำลังจะไปเที่ยวมาเก๊า เราก็ขอเปิดวาร์ปที่เที่ยวมาเก๊ากันสักหน่อย บอกเลยว่าแต่ละแห่งกดรูปสวย ๆ ได้เพียบ 🙂

Table of Contents

1. The Venetian Macao

ภาพจาก Benny Marty / Shutterstock.com

          ตั้งอยู่บนถนน Estr. do Istmo เป็นคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ที่มีความบันเทิงครบครัน เป็นศูนย์รวมทั้งโรงแรม ร้านอาหาร กาสิโน ร้านค้าแบรนด์ดัง และการแสดงโชว์ต่าง ๆ มีลักษณะคล้ายกับลาสเวกัสย่อม ๆ เลยทีเดียว เพียงแค่การเดินเข้าไปยังล็อบบี้ของที่นี่ก็จะเห็นถึงความอลังการของการตกแต่งในสไตล์อิตาเลียนสุดหรูหรา
 

          ไฮไลต์ของที่นี่ที่น่าสนใจอยู่ตรงที่ The Grand Canal Shoppes เป็นโซนช้อปปิ้งที่รวมร้านค้าไว้เกือบ 100 ร้านค้า ส่วนใหญ่เป็นแบรนด์ดังระดับโลก และยังมีร้านอาหารดัง ๆ หลายแห่งของมาเก๊ารวมอยู่ด้วย ที่สำคัญการตกแต่งยังสวยงามแปลกตา เนรมิตเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี มาไว้ที่นี่ นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือในคลองได้ด้วย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินที่ควรมาเที่ยวชมของมาเก๊าเลยทีเดียว เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-23.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ venetianmacao.com

2. Eiffel Tower at The Parisian Macao

ภาพจาก Hatchapong Palurtchaivong / Shutterstock.com

อีกหนึ่งจุดเช็กอินที่น่าสนใจของมาเก๊า ตั้งอยู่ด้านหน้าโรงแรม The Parisian Macao โดยจำลองหอไอเฟล จากเมืองปารีสมาไว้ใจกลางมาเก๊า ยามค่ำคืนจะมีการแสดงแสงสีสวยอลังการ เป็นสีสันอีกอย่างหนึ่งของที่นี่ ด้านบนของหอไอเฟลจำลองมีจุดชมวิวอยู่ 2 ชั้น คือ ชั้น 7 และชั้น 37 ซึ่งสามารถเห็นวิวมุมสูงของเมืองทั้งเมืองได้แบบไกลสุดลูกหูลูกตา เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-23.00 น. ส่วนการแสดงแสงสีจะเปิดทุกวัน ทุก ๆ 15 นาที ตั้งแต่เวลา 18.15-24.00 น. ดูรายละเอียดราคาบัตรเข้าชมและอื่น ๆ ได้ที่ parisianmacao.com

3. A-Ma Temple

ภาพจาก  Darrick Leom / Shutterstock.com

         เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของมาเก๊า สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ. 1488 ช่วงราว ๆ สมัยราชวงศ์หมิง ตั้งอยู่บริเวณถนน R. do Alm. Sergio ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของคาบสมุทรมาเก๊า มีความเชื่อกันว่าวัดแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อใช้เป็นสถานที่เฉลิมฉลองเจ้าแม่มาจู่หรือเทพธิดาแห่งท้องทะเล ตัววัดตั้งอยู่ริมเชิงเขา มีการตกแต่งแบบจีน และยังโดดเด่นด้วยธูปวนทรงเจดีย์ที่ห้อยระย้าเรียงรายกันอย่างสวยงาม ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกร่วมกับโบราณสถานอื่น ๆ ของมาเก๊า เมื่อปี 2005 ด้วย

4. Kun Iam Statue

ภาพจาก Photchara7 / Shutterstock.com

ตั้งอย่างโดดเด่นอยู่ริมทะเล Outer Harbour บริเวณใกล้กับ Dr. Carlos d’Assumpcao Park มีลักษณะเป็นรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่ สูงกว่า 20 เมตร สร้างจากสำริดสีเหลืองทองอร่าม ยามค่ำคืนจะมีการเปิดไฟส่องสว่าง ทั้งงดงามและน่าศรัทธา ที่ฐานด้านล่างเป็นรูปดอกบัวสีขาว มีทั้งห้องสมุดและศูนย์การเรียนรู้ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินเข้าไปเที่ยวชมหรือแวะนั่งพักได้ ที่ด้านนอกนักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมได้ทุกวัน แต่บริเวณด้านในศูนย์การเรียนรู้ใต้ฐานของเจ้าแม่กวนอิมจะเปิดให้เข้าชมวันเสาร์-พฤหัสบดี (ปิดวันศุกร์) ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ macaotourism.gov.mo

5. Ruins of St. Paul’s

ภาพจาก Makhh / Shutterstock.com

          ซากอาสนวิหารนักบุญเปาโล เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของมาเก๊า ตั้งอยู่ใจกลางคาบสมุทรมาเก๊า มีลักษณะเป็นซากโบสถ์คาทอลิกที่สวยงาม สร้างครั้งแรกใน ค.ศ. 1580 แต่ก็โดนไฟไหม้อยู่หลายครั้ง มีการบูรณะเรื่อยมา จนครั้งล่าสุดสร้างใน ค.ศ. 1637 เป็นโบสถ์คาทอลิกขนาดใหญ่ สไตล์โปรตุเกส แต่แล้วก็ถูกไฟไหม้ลงอีกครั้งจนเหลือเพียงซากกำแพงด้านหน้าและบันไดเท่านั้น แต่ก็ยังคงมีกลิ่นอายของความงดงาม มีมุมให้ถ่ายรูปเพียบ เมื่อขึ้นไปยืนด้านหน้าโบสถ์ก็จะสามารถมองเห็นตึกรามบ้านช่องในย่านนั้นได้อย่างสวยงามด้วย

6. Macau Fisherman’s Wharf

ภาพจาก NavinTar / Shutterstock.com

          แหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นด้วยอาคารจำลองสวยงามแปลกตา ตั้งอยู่ใกล้กับ Outer Harbour Ferry Terminal ด้านในจะมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสวนสนุก, ร้านอาหาร, ร้านค้า, กาสิโน, โรงแรม, ห้องประชุม ฯลฯ โดยจะโดดเด่นด้วยการออกแบบและการจำลองสถานที่ต่าง ๆ อาทิ ลานการแสดงจำลองโคลอสเซียม จากกรุงโรม ประเทศอิตาลี, กลุ่มอาคารสไตล์โรมัน, หมู่บ้านช้อปปิ้งสไตล์ยุโรป, วัดโบราณสไตล์ทิเบต และปราสาทแบบราชวงศ์ถังสุดยิ่งใหญ่ เปิดให้เข้าเที่ยวชมฟรี สถานที่ภายนอกต่าง ๆ เข้าเที่ยวชมได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง แต่ร้านค้าต่าง ๆ จะเปิดให้บริการช่วงสาย ๆ ของทุกวัน

7. Senado Square

ภาพจาก Sean Pavone / Shutterstock.com

          เป็นแหล่งท่องเที่ยวอันโด่งดังของมาเก๊า อยู่ไม่ไกลจากซากอาสนวิหารนักบุญเปาโล มีลักษณะเป็นชุมชนที่มีอาคารบ้านเรือนสไตล์โคโรเนียลหลากหลายสีสัน บรรยากาศสวยงามโรแมนติก ทางเดินปูด้วยอิฐเรียบหรู ให้ความรู้สึกเหมือนย่านย่านหนึ่งในยุโรป ตามอาคารต่าง ๆ ก็จะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร และร้านกาแฟ มีสินค้าแบรนด์ดังจากทั่วโลกให้เดินช้อปปิ้งกันอย่างสนุกสนาน อีกทั้งยังมีมุมสวย ๆ ให้ถ่ายรูปไม่รู้เบื่อ จุดสำคัญ ๆ ของที่นี่ อาทิ Holy House of Mercy, Leal Senado Building, Macau General Post Office, St. Dominic’s Church, Lou Kau Mansion เป็นต้น

8. St. Dominic’s Church

          โบสถ์คาทอลิกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของมาเก๊า ตั้งอยู่ใกล้กับจัตุรัสเซนาโด้ มีลักษณะเป็นโบสถ์สไตล์บารอคสีเหลืองสดใส ตัดขอบและตกแต่งด้วยปูนปั้นสีขาว บานหน้าต่างและประตูเป็นสีเขียวโดดเด่น ด้านในก็ตกแต่งอย่างสวยงามไม่แพ้กัน มีเพดานสูง กำแพงและเสาเป็นสีเหลืองอ่อน ดูโปร่งโล่ง เงียบสงบ และน่าศรัทธา เปิดให้เข้าเที่ยวชมด้านในทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.

9. Lou Kau Mansion

ภาพจาก JoeyPhoto / Shutterstock.com

          บ้านโบราณอายุมากกว่า 130 ปี ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับจัตุรัสเซนาโด้ มีลักษณะเป็นบ้านสไตล์จีน สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1889 โดย Lou Kau พ่อค้าชาวจีนที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่มาเก๊า ตัวบ้านออกแบบผสมผสานระหว่างสไตล์บ้านโบราณจีนที่เป็นอิฐสีเทาและบ้านดั้งเดิมของชาว Xiguan ด้านในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้เก่าแก่ เปิดให้เข้าเที่ยวชมวันอังคาร-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.

10. Macau Tower

หอคอยสูงลิบลิ่วริมทะเล Outer Harbour มีความสูงมากถึง 338 เมตร เปิดให้เข้าเที่ยวชมครั้งแรกเมื่อปี 2001 โดยชั้นชมวิวจะอยู่ที่ชั้น 58 สูงราว ๆ 223 เมตร สามารถชมวิวได้ 360 องศา มองเห็นทั้งทะเล คาบสมุทรมาเก๊า และเกาะไทปา ไฮไลต์เด็ดของที่นี่จะอยู่ที่ชั้น 61 ซึ่งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสายผจญภัยสามารถเดินไต่เวหานอกอาคาร รวมทั้งเล่นบันจี้จั๊มพ์ได้ด้วย ใครอยากท้าทายความสูง ก็ต้องลองกันสักครั้งในชีวิต ที่นี่เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-22.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ macautower.com.mo

11. Long Chao Kok Coastal Trail

          เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติริมทะเลที่มีวิวทิวทัศน์งดงาม ตั้งอยู่ทางด้านตอนใต้ของเกาะโคโลอาน (Coloane) มีลักษณะเป็นทางเดินปูนลัดเลาะริมชายฝั่ง มีความยาวทั้งหมดราว ๆ 1,200 เมตร มีจุดแวะพักเป็นสะพานสไตล์จีนทอดยาวไปในทะเล มีศาลาอยู่ที่ปลายสะพาน ลักษณะคล้ายกับเก๋งจีน เหมาะแก่การมาชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกดิน เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติที่ไม่ควรพลาดของมาเก๊า

12. Rua da Felicidade

ภาพจาก Jo Panuwat D / Shutterstock.com

          ตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านจัตุรัสเซนาโด้ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Happiness Street ด้วยที่นี่เคยเป็นย่านโคมแดงของมาเก๊า แต่ปัจจุบันได้กลายเป็นถนนวัฒนธรรมที่น่าไปเดินเที่ยวถ่ายรูป เพราะบ้านเรือนทุกหลังมีสถาปัตยกรรมแบบจีนโบราณ ประตูและหน้าต่างทาด้วยสีแดงสดสวยงาม ปัจจุบันได้กลายเป็นร้านค้า ร้านอาหารมากมาย โดยร้านค้าต่าง ๆ จะเปิดเยอะช่วงเทศกาล

13. Fortaleza do Monte

          เป็นป้อมปราการเก่าแก่ของมาเก๊า ตั้งอยู่ใกล้กับซากอาสนวิหารนักบุญเปาโล สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1616 มีลักษณะเป็นเนินเขาเตี้ย ๆ สูงประมาณ 52 เมตร สร้างขึ้นเพื่อป้องกันอาสนวิหารนักบุญเปาโลจากโจรสลัด จะเห็นว่าด้านบนมีจุดตั้งปืนใหญ่หลายจุด พร้อมด้วยสวนสวย ๆ สามารถมองเห็นวิวได้ไกลถึงแถว ๆ ย่านกาสิโน ใกล้กับ Nam Van Lake เลยทีเดียว เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-19.00 น.

14. ย่าน Grand Lisboa

ภาพจาก Nattee Chalermtiragool / Shutterstock.com

          ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Nam Van Lake เป็นย่านกาสิโนที่ใหญ่ที่สุดอีกย่านของมาเก๊า มีกาสิโนและโรงแรมชื่อดังตั้งอยู่ที่นี่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Grand Lisboa, Hotel Lisboa, Wynn Macau, MGM Macau, Star World Hotel, Kampek Paradise Casino, Ferreira do Amaral Plaza ฯลฯ ซึ่งยามค่ำคืนบรรยากาศจะคึกคัก เต็มไปด้วยสีสันและความบันเทิง น่ามาเดินเที่ยวถ่ายรูปชิล ๆ ยามเย็นก็ไปเดินเที่ยวตรงริมทะเลสาบ Nam Van Lake บรรยากาศเงียบสงบ เห็นแสงไฟจากตึกต่าง ๆ ส่องสะท้อนลงน้ำสวยงามมาก ๆ

15. ย่าน Rua da Barra

ภาพจาก psgxxx / Shutterstock.com

ภาพจาก Matt Leung / Shutterstock.com

          เป็นย่านเก่าแก่ที่น่าสนใจของมาเก๊า ตั้งอยู่ใกล้กับวัดอาม่า มีอาคารบ้านเรือนที่สวยงามแปลกตา ผสมผสานระหว่างกลิ่นอายแบบยุโรปและจีน มีสีสันคลาสสิก พร้อมด้วยจุดเช็กอินสวย ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น Mandarin’s House, The Fountainside Macau, Lilau Square เป็นต้น

16. Guia Fortress

          ตั้งอยู่บนเนินเขาใจกลางคาบสมุทรมาเก๊า เป็นป้อมปราการเก่าแก่ที่มีทั้งโบสถ์ อุโมงค์ และประภาคาร สร้างขึ้นตั้งแต่ช่วงระหว่างปี 1622-1638 โดยสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ด้านบนนี้จะมีสไตล์ตะวันตก บริเวณประภาคารจะสามารถชมวิวได้ทั้งเมือง มองเห็นได้ไกลราว ๆ 20 ไมล์เลยทีเดียว การขึ้นไปเที่ยวชมด้านบน นักท่องเที่ยวจะเดินขึ้นไปก็ได้ หรือจะนั่งเคเบิลคาร์บริเวณ Flora Garden ขึ้นไปก็ได้เช่นกัน

17. A Ma Cultural Village

          ตั้งอยู่บนภูเขาในเกาะโกโลอานี (Coloane) มีลักษณะเป็นหมู่บ้านวัฒนธรรมจีน มีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 7,000 ตารงเมตร โดยมีวัดทินหัวและรูปปั้นเทพอาม่าเป็นไฮไลต์หลัก นักท่องเที่ยวจะได้เพลิดเพลินไปกับการเดินเที่ยวชมสถาปัตยกรรมจีนที่มีความละเมียดละไม สวยงามอลังการ พร้อมกับได้ไหว้ขอพรเทพอาม่า ซึ่งมีความสูงมากถึง 19.99 เมตร ที่นี่เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.

18. Our Lady of Penha Chapel

ภาพจาก Matt Leung / Shutterstock.com

           โบสถ์ที่สำคัญอีกแห่งของมาเก๊า ตั้งอยู่บนเขา Penha Hill ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี 1622 สร้างในสไตล์ยุโรปลักษณะเรียบง่าย แต่ให้ความรู้สึกที่สงบ อบอุ่น มีบันไดทางขึ้นที่งดงามเป็นเอกลักษณ์ ด้านหน้าของโบสถ์หันหน้าออกไปทาง Sai Van Lake จึงสามารถมองเห็นวิวทะเลสาบ ท้องทะเล มาเก๊าทาวเวอร์ และตึกสูงต่าง ๆ ที่อยู่โดยรอบได้อย่างสวยงาม

19. Hac sa Beach

          ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะโคโลอาน (Coloane) เป็นชายหาดที่ใหญ่ที่สุดของมาเก๊า ซึ่งมีลักษณะที่สวยงามแปลกตา เป็นชายหาดที่มีทรายสีดำสนิท คล้าย ๆ กับหาดทรายบนเกาะฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา สามารถลงเล่นน้ำได้ ในวันหยุดจึงมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวเป็นจำนวนมาก

20. Dom Pedro V Theatre

ภาพจาก Francesco Bonino / Shutterstock.com

โรงละครเก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1860 โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตก ด้านนอกทาสีเขียวพาสเทลสวยงาม มีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ หลากหลายมุม ด้านในเป็นโถงกว้าง มีที่นั่งทั้งหมดราว ๆ 276 ที่นั่ง บรรยากาศคลาสสิก ได้กลิ่นอายทั้งแบบยุโรปและจีน มักมีการแสดงจัดอยู่ตลอดทั้งปี ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ wh.mo

21. ย่านโคไท (Cotai)

ภาพจาก Kit Leong / Shutterstock.com

          เป็นอีกย่านกาสิโนและโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดของมาเก๊า เป็นศูนย์รวมความบันเทิงหลากหลายรูปแบบ ทั้งศูนย์ช้อปปิ้ง สวนน้ำ จุดชมวิว ร้านค้า ร้านอาหาร กาสิโน และโรงแรม เป็นต้น โดยจุดที่น่าสนใจ อาทิ The Parisian, The Venetian Macao, City of Dreams, Sheraton Grand Macao Hotel, Grand Hyatt Macau, Studio City Macau, Galaxy Macau, Four Seasons Hotel Macao เป็นต้น

22. Taipa Village

ภาพจาก Larcsky / Shutterstock.com

เป็นย่านหมู่บ้านวัฒนธรรม ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะไทปา โดดเด่นด้วยแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ ทั้งถนนคนเดิน, พิพิธภัณฑ์, วัดจีนโบราณ, โบสถ์สไตล์ยุโรป, สวนสาธารณะ ฯลฯ จุดเช็กอินที่น่าสนใจ อาทิ Vila da Taipa, Cunha Street, I Leng Temple, Carmo Garden, Taipa Village Art Space, Our Lady of Carmo Church, Carmo Hall, Taipa Houses Museum, Museum of Taipa and Coloane History, Sam Po Temple, Tin Hau Temple, Lord Stow’s Bakery และ Pak Tai Temple เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ taipavillagemacau.com

23. Coloane Village

ภาพจาก psgxxx / Shutterstock.com

          เป็นพื้นที่ทางด้านใต้สุดของมาเก๊า ซึ่งเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรม แต่จุดที่เป็นไฮไลต์จะอยู่บริเวณหมู่บ้านริมทะเลบนถนน Av. de Cinco de Outubro ด้วยบ้านเรือนต่าง ๆ จะเป็นสไตล์โคโรเนียล สีพาสเทลแสนหวาน บรรยากาศเงียบสงบ มีมุมนั่งเล่นชมวิวริมทะเลและมุมถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย มีโบสถ์คาทอลิกสีเหลืองสดใสสะดุดตา หลายคู่รักก็มักจะมาแต่งงานกันที่นี่ เพราะมีบรรยากาศโรแมนติก ใครที่ชอบกินทาร์ตไข่มาเก๊า ต้องไปลิ้มลองร้านทาร์ตไข่ชื่อดังอย่าง Lord Stow’s Cafe สาขาแรกของมาเก๊ากันด้วย

24. Albergue SCM

ภาพจาก  Kit Leong / Shutterstock.com

          ตั้งอยู่ไม่ไกลจาก Fortaleza do Monte และซากอาสนวิหารนักบุญเปาโล เป็นอาคารสไตล์ยุโรปสีเหลืองมัสตาร์ดสดใส 2 อาคาร อายุมากกว่า 200 ปี โดยปัจจุบันได้เปิดเป็นทั้งห้องแสดงงานศิลปะ และร้านขายของที่ระลึก บางวันก็มีการจัดงานอีเวนต์วัฒนธรรม ตรงกลางลานจะมีต้นการบูรยักษ์แผ่กิ่งก้านให้ความร่มรื่น บรรยากาศชิลสุด ๆ

25. ย่านถนน Adro de Sao Lazaro

          เป็นถนนเส้นเล็ก ๆ ที่มีอาคารสไตล์โคโลเนียลสวย ๆ ตั้งตระหง่านอยู่ทั้งสองฝั่ง บนถนนจะปูด้วยหินสีสันสวยงามเป็นระเบียบ สะอาดสะอ้าน เดินเที่ยวชมง่าย ตึกที่น่าสนใจ อาทิ Edf. Comercial Holland Jardim, Macau Conservatory Music School, St. Lazarus’ Church, Colegio Diocesano de Sao Jose, Fundo de Seguranca Social, Albergue SCM เป็นต้น
 

          เห็นแล้วใช่ไหมคะ ว่ามาเก๊าถึงจะเล็กและเก่าแต่ก็เก๋าไม่แพ้เมืองไหน ๆ ในเอเชียเลยทีเดียว มีมุมให้ไปเที่ยวชิล ๆ ถ่ายรูปชิค ๆ เพียบ ยิ่งถ้าใครชอบสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างตะวันตกและตะวันออก บอกเลยว่าคุณจะตกหลุมรักมาเก๊าแบบถอนตัวไม่ขึ้นเลยล่ะ 🙂
 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
parisianmacao.com, venetianmacao.com, china-macau.com, fishermanswharf.com.mo, macaotourism.gov.mo, travelchinaguide.com, macautower.com.mo, nature.iam.gov.mo, wh.mo, taipavillagemacau.com

ประเด็นที่เกี่ยวข้อง

บุคคลที่เกี่ยวข้อง

สถานที่ที่เกี่ยวข้อง

ประเด็นที่เกี่ยวข้อง

[NEW] รู้จัก Daniel Roseberry ดีไซเนอร์ชาวอเมริกัน ผู้ชุบชีวิตให้ Schiaparelli แบรนด์แฟชั่นและจิวเวลรีอายุเกือบร้อยปี – THE STANDARD | parisian คือ – NATAVIGUIDES

ในระยะเวลาปีถึงสองปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะในงานสำคัญครั้งไหนเราเชื่อว่าคุณจะต้องได้เห็นภาพของคนดังสวมชุดกูตูร์อลังการ พร้อมเครื่องประดับสุดเซอร์เรียลที่เป็นเอกลักษณ์ จนในที่สุดชื่อของ Schiaparelli (สเกียปาเรลลี) ก็ได้ถูกพูดถึงอย่างล้นหลามอีกครั้งนับตั้งแต่แบรนด์ถือกำเนิดขึ้นมาโดย Elsa Schiaparelli ในปี 1927 ก่อนจะปิดตัวลงในปี 1954 พร้อมการชุบชีวิตขึ้นมาอีกครั้งนับร่วม 60 ปี (ถึงแม้ว่าจะกลับมาทำในปี 2014 แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรก็ตาม) โดย Daniel Roseberry ดีไซเนอร์ ชาวอเมริกัน ผู้พลิกชะตาทั้งตัวเขาเองจากดีไซเนอร์ว่างงาน สู่หนึ่งในดีไซเนอร์ที่น่าจับตามองที่สุดในโลกในช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือน

 

An American in Paris

ภาพของอเมริกันชนที่จับพลัดจับผลูไปอยู่ในมหานครแห่งความฝันอย่างปารีส มักจะถูกถ่ายทอดผ่านตัวละครที่ได้ไปสัมผัสความยิ่งใหญ่ ชวนฝัน ราวกับความฝันที่กลายเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็นมิวสิคัลเรื่องคลาสสิก เมื่อปี 1951 หรืออย่าง Carrie Bradshaw ที่แค่หันไปเจอหอไอเฟลจากระเบียงห้องพักของโรงแรม Hôtel Plaza Athénée ในตอน ของซีซันไฟนอล ซีรีส์ ก็เผลอกรี๊ดออกมาพลางกระโดดโลดเต้น และล่าสุดก็คงหนีไม่พ้น Emily จาก ที่จิกกัดมุมมองความแฟนตาซีในสายตาของอเมริกันชนในปารีสได้อย่างแสบสัน

 

 

ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงตัวอย่างให้พอเห็นภาพว่าเมื่อเราพูดถึงคำว่า ‘American in Paris’ เราจะนึกถึงอะไร แต่นั่นก็ยังไม่ชัดเจนเมื่อเทียบกับวันที่ 1 กรกฎาคม 2019 เมื่อเหล่านางแบบเดินออกมาบนรันเวย์ในคอลเล็กชัน Haute Couture Fall Winter 2019/2020 พร้อมกับจิตวิญญาณของห้องเสื้อโอต์กูตูร์สัญชาติฝรั่งเศส Schiaparelli ที่กลับมามีชีวิตอีกครั้ง พร้อมกับสปอตไลต์ที่สาดส่องไปที่ดาวดวงใหม่ของวงการ Daniel Roseberry ผู้เดบิวต์ด้วยการนั่งสเกตช์ภาพพร้อมหูฟังอยู่กลางรันเวย์ เป็นจุดศูนย์กลางของความคิดสร้างสรรค์และเรื่องราวของตัวเขา

 

Daniel Roseberry เดินทางจากการเป็นดีไซเนอร์ว่างงานอยู่นานหลายเดือน ทำได้เพียงนั่งสเกตช์แบบชุดในสตูดิโอเล็กๆ ในย่านไชน่าทาวน์ นิวยอร์ก สู่ดีไซเนอร์ชาวอเมริกันผู้ปฏิวัติและสร้างสีสันให้แก่วงการกูตูร์แห่งฝรั่งเศส ที่ไม่เคยผ่านงานกูตูร์หรือแม้กระทั่งพูดภาษาฝรั่งเศสได้ เขามีเวลาเพียง 63 วัน ในการเนรมิตทุกอย่างให้เกิดขึ้นหลังจากเข้ามานั่งเก้าอี้ตำแหน่ง Artistic Director ให้ห้องเสื้อในตำนานแห่งนี้

 

 

Daniel เกิดและโตในครอบครัวเคร่งศาสนาจากเท็กซัส ทั้งพ่อและพี่ชายของเขาเป็นบาทหลวง ทำให้วัยเด็กของเขาเกี่ยวพันกับศาสนาและมักจะใช้เวลาอยู่ในโบสถ์เป็นส่วนใหญ่ ขณะเดียวกันเขาผู้ชื่นชอบการวาดภาพมาโดยตลอดก็รู้ดีว่าการจะไปถึงความฝัน นิวยอร์กคือตัวเลือกเดียวเท่านั้น

 

เขาย้ายมานิวยอร์กและเข้าศึกษาที่ Fashion Institute of Technology ก่อนที่ในปี 2008 จะได้ร่วมงานกับแบรนด์สัญชาติอเมริกันอย่าง Thom Browne พร้อมกับตำแหน่ง Design Director ของเสื้อผ้าทั้งผู้หญิงและผู้ชายในช่วงห้าปีสุดท้ายก่อนที่เขาจะตัดสินใจลาออกชนิดที่ว่ายังไม่มีแพลนจะทำอะไรต่อในปี 2019

 

เขาได้กล่าวในพอดแคสต์ ว่าสมัยที่เขายังอยู่ที่ Thom Browne เส้นทางการทำงานของเขาขับเคลื่อนและถูกผลักดันโดยบทวิจารณ์ ถึงขั้นว่าเขาลงมือเขียนบทวิจารณ์คอลเล็กชันในแบบที่เขาอยากจะให้เป็น เพื่อเป็นการกระตุ้นเป้าหมายในการทำงานรวมไปถึงเส้นทางชีวิตของเขา ที่ในเพียงไม่กี่ปีต่อมา เขาไม่ได้กลายเป็นเพียงดีไซเนอร์ที่คนแฟชั่นพูดถึง แต่ยังรวมไปถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งล้วนแต่มุ่งความสนใจมายังสิ่งที่เขาทำ ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนที่ ‘บ้าในแฟชั่นหรือหลงใหลในเสื้อผ้า’ เลยแม้แต่น้อย ตามคำบอกเล่าของเขาในพอดแคสต์ แต่สิ่งที่เขาชอบคือการสร้างจินตนาการให้ออกมาเป็นรูปเป็นร่าง

 

 

“คุณไม่จำเป็นต้องมีความแตกต่างถึงขนาดว่าเป็นเหมือนนกหายากใกล้สูญพันธุ์เลยก็ได้ สิ่งที่คุณต้องทำคือหาสิ่งที่คุณชอบ สิ่งที่ทำให้คุณเกิดอารมณ์ แล้วก็แค่พยายามทำให้สิ่งเหล่านั้นกลมกลืนหรือแม้แต่ก๊อบปี้ไปกับชีวิตของคุณ” เขากล่าว “ช่วงอายุยี่สิบกว่าๆ ตอนที่ยังทำงานกับ Thom Browne ผมคิดว่าตอนนั้นผมพอมองเห็นภาพและจินตนาการได้ว่าการเป็นหัวหน้าห้องเสื้อเป็นอย่างไร การเป็นคนที่ออกไปโค้งคำนับหลังจบโชว์ การเผชิญหน้ากับสื่อ หลายครั้งที่ผมเห็น Thom ออกไปหลังจบโชว์ ตอนนั้นผมก็คิดว่าผมน่าจะพอเข้าใจได้บ้างว่าความรู้สึกเหล่านั้นจะเป็นอย่างไร แต่ความเป็นจริงแล้วผมไม่รู้อะไรเลย”

 

จากดีไซเนอร์ที่ประสบการณ์การทำเสื้อผ้าโอต์กูตูร์เป็นศูนย์ การย้ายประเทศ ย้ายทีม พร้อมกับประวัติศาสตร์ร่วมหลายสิบปีของแบรนด์ และแน่นอนกับความคาดหวังจากผู้คน ที่สุดท้ายแล้วผลงานเดบิวต์คอลเล็กชันกลับได้รับคำชมอย่างท่วมท้น รวมไปถึงจาก Tim Banks ซึ่งเป็น Editor-at-Large แห่ง Business of Fashion หนึ่งในนักวิจารณ์แฟชั่นในดวงใจของเขาที่กล่าวว่าผลงานเดบิวต์ของเขาคือ

 

“ก่อนที่โชว์แรกของผมจะเริ่ม เพื่อนสนิทผม Hanya Yanagihara (ผู้เขียนหนังสือ และบรรณาธิการแห่งนิตยสาร ) บอกผมว่า ‘อย่าอ่านคำวิจารณ์เด็ดขาด เพราะบทวิจารณ์ที่ดีจะไม่ดีพอสำหรับคุณ และบทวิจารณ์ที่แย่ก็จะหลอกหลอนคุณไปตลอด’ แต่สุดท้ายแล้วทุกบทวิจารณ์ทุกผลตอบรับผมอ่านหมด และกลับกลายเป็นเหมือนสิ่งที่ทำให้ผมรับรู้ถึงความรู้สึกและความเข้าใจของคนอื่นที่มีต่องานของผม ถ้าเป็นบทวิจารณ์ที่ออกมาแย่ ผมจะพยายามวิเคราะห์ว่ามาจากความผิดพลาดทางการสื่อสารของผมเอง หรือว่าคนเขียนบทวิจารณ์นั้นไม่ได้อยากที่จะเข้าใจงานของผม”

 

 

1927-2021: 94 Years In Between

นับตั้งแต่ Elsa Schiaparelli ดีไซเนอร์ชาวเยอรมนี ได้เปิดตัวแบรนด์ Schiaparelli ในปี 1927 พร้อมสเวตเตอร์ไหมพรมถักลายโบสีขาวจนกลายเป็นไอเท็มเด็ดและจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์วงการแฟชั่นและการสร้างชื่อของเธอ ซึ่งแม้ว่าตัวเธอจะจากไปตั้งแต่ปี 1973 แต่ตำนานสิ่งที่เธอสร้างสรรค์ไว้ยังคงอยู่มาถึงปัจจุบัน Daniel ได้กล่าวกับ Hamish Bowles แห่ง ว่า เขาไม่ได้ต้องการทำสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วอีกครั้งให้เป็นความรู้สึกแบบ Nostalgic กับขุมทรัพย์ทางความคิดสร้างสรรค์เกือบร้อยปีที่แล้ว แต่เขาต้องการพาสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วก้าวไปข้างหน้าพร้อมกัน โดยเฉพาะกับความหลงใหลใน Surrealism ที่เห็นได้ทันทีตั้งแต่การหยิบคู่สีที่ตรงกันข้ามกับ Shocking Pink เอกลักษณ์ของแบรนด์ และชุดเดรสผ้าไหมสีขาวพองสูงเหนือหัวราวกับว่านางแบบเพิ่งลุกขึ้นมาจากเตียงหรือไม่ก็กำลังลอยอยู่บนก้อนเมฆ

 

ความหลงใหลใน Surrealism จนกลายเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เริ่มต้นขึ้นในปี 1934 ช่วงเดียวกับที่แบรนด์ประสบความสำเร็จอย่างสูง จนได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘Ultra-Modern Haute Couture’ ตั้งแต่ในยุคมัยนั้น พร้อมการร่วมงานกับศิลปินแนว Surrealism อย่าง Salvador Dali และ Jean Cocteau ที่เชื่อมต่อ Elsa กับศิลปะลัทธิเหนือจริง และทำให้แฟชั่นที่เป็นของชั่วคราวมาไวไปไวก้าวขึ้นไปอีกขั้น เป็นงานศิลปะชิ้นคลาสสิกให้เราได้ศึกษา รวมถึงตัวของ Daniel เองที่เปิดโอกาสให้เขาได้ใช้สิ่งที่ Elsa สร้างขึ้นมาเป็นพื้นฐานต่อยอดขึ้นไป ที่นับตั้งแต่เดบิวต์คอลเล็กชันของเขาสู่คอลเล็กชัน Spring/Summer 2022 ล่าสุดที่ “โลกของ Schiaparelli ยิ่งชัดเจนมากยิ่งขึ้น” เขากล่าวกับ “การตอบรับจากผู้คนทำให้เราเหมือนเป็นจุดตรงกลางของความป๊อปคัลเจอร์และปารีเซียงคราฟต์”

 

 

Pop Culture and Parisian Craft

สิ่งที่ทำให้เห็นการตอบรับได้ดีที่สุดคือเหล่าคนดังที่ปรากฏตัวพร้อมกับผลงานของเขา ไม่ว่าจะเป็น Beyoncé, Kim Kardashian, Michelle Obama, Cardi B, Adele, Tilda Swinton, Lizzo, Hailey Bieber, Zendaya และอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลุคในชีวิตประจำวันหรือพรมแดงของพวกเธอก็ตาม

 

 

รวมถึงการอยู่ร่วมหน้าประวัติศาสตร์เดียวกับเหตุการณ์สำคัญของโลกยุคปัจจุบันอย่าง Inauguration Day พิธีสาบานตนเพื่อเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาคนที่ 46 ของ Joe Biden เมื่อต้นปี ที่ Lady Gaga ปรากฏตัวพร้อมกับชุดเดรสแขนยาวทรงแจ็กเก็ตสีกรมท่า ตกแต่งด้วยชายกระโปรงบานทำจากผ้าไหมสีแดงสด พร้อมกับเข็มกลัดนกพิราบสีทองประดับบนอก ซึ่งตัวเขาเองมีเวลาไม่ถึง 10 วัน หลังจากได้รับสายตรงจากทีมงานของ Lady Gaga ว่าต้องการให้เขาดีไซน์ชุดสำหรับเธอโดยเฉพาะ

 

“เป็นช่วงเวลาที่คุณไม่รู้เลยว่าสิ่งที่ทำจะส่งผลอย่างไรกับอาชีพของคุณ รวมทั้งกับแบรนด์ด้วย จนกระทั่งผ่านไปแล้วคุณถึงได้เริ่มเข้าใจ” เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ “ถือว่าเป็นเกียรติสูงสุดในช่วงชีวิตเลยก็ว่าได้”

 

แน่นอนว่าเมื่อพิธีดังกล่าวถูกถ่ายทอดสดไปทั่วโลก สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนแต่สะท้อนความหวังใหม่ของโลกใบนี้ และที่สำคัญกับความสามารถของเขาที่ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์อะไรอีกแล้ว “การที่จะให้ผู้คนเข้าใจโลกของ Schiaparelli และงานของผมได้ดีที่สุดคือพรมแดง เพราะผู้หญิงทุกคนล้วนแต่เป็นผู้หญิงที่เซ็ตค่ามาตรฐานใหม่ของคัลเจอร์ในตอนนี้ ผมรู้ว่าอาจจะไม่ใช่การร่วมงานกับศิลปินอย่าง Dali แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือการมีส่วนร่วมกับการเปลี่ยนแปลงในคัลเจอร์ สำหรับผมเองคิดว่าใกล้เคียงกับสิ่งที่ Elsa ทำในช่วงเวลาของเธอ” เขากล่าวในรายการ “คุณไม่ต้องมีอีโก้ที่มากมายอะไร เพียงแต่คุณต้องมีอีโก้ที่แข็งแกร่งมากพอ คุณต้องรู้ให้แน่ชัดว่าสิ่งที่คุณทำอยู่คืออะไร และคุณเป็นใคร”

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคำถามและการเปรียบเทียบผลงานยุครุ่งเรืองของแบรนด์โดย Elsa และเขาในปัจจุบัน มักจะถูกพูดถึงอยู่เสมอ ซึ่งเขาเองก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงคำถามนี้ได้แน่นอน พร้อมกับให้สัมภาษณ์กับรายการ ว่า “ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ต้องใช้สัญชาตญาณสูง ถ้าคุณพยายามคิดหรือวิเคราะห์มากเกินไปว่าอะไรคือ Elsa อะไรคือผม เพราะสำหรับผมแล้วมีแค่สัญชาตญาณที่ทำให้ผมรู้สึกคอนเน็กต์กับแบรนด์ ผมคิดว่าตัวผมคือผู้ที่มาร่วมคอลลาบอเรชันกับ Elsa”

 

 

คำตอบของ Daniel สะท้อนให้เห็นถึงกระบวนการความคิดสร้างสรรค์ผลงานของเขา ที่ชัดเจนตั้งแต่เริ่มว่าทุกสิ่งจะต้องสวยสะกด ทุกลุคสามารถขึ้นปกนิตยสารได้ จิวเวลรีทุกชิ้นจะต้องใหญ่และตะโกนให้คุณสนใจจนไม่สามารถละสายตาได้ อย่างเช่นคอลเล็กชัน ทั้งสร้อยคอทรงปอดประดับด้วยไรน์สโตนที่ Bella Hadid ใส่เดินบนพรมแดงเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์

 

 

หรือช่อดอกไม้ที่ทำจากทองเหลืองเป็นทรงคล้ายชุดเกาะอกที่ปรากฏพร้อมกับ Lorde บนหน้าปกนิตยสาร Vogue US ยิ่งตอกย้ำความชัดเจนของ Surrealism ที่เป็นดีเอ็นเอของแบรนด์อย่างแท้จริง เพราะแม้กระทั่งเครื่องประดับตั้งแต่ต่างหู สร้อยคอ แหวน กำไล ถุงมือ รวมไปถึงกระเป๋า ในคอลเล็กชัน Ready to Wear สรีระและอวัยวะของร่างกายมักจะถูกหยิบมาใช้อยู่เสมอ ทั้งดวงตา จมูก ฟัน หรือแม้แต่หัวนม ที่ล้วนแต่ถ่ายทอดมาจากความหลงใหลในสรีระของผู้หญิงในแบบสิ่งสวยงามปราศจากเรื่องเพศ เป็นอีกจุดเชื่อมต่อระหว่าง Elsa และ Daniel แน่นอนว่าผลตอบรับนั้นดีเกินคาด ทำให้ Schiaparelli ได้กลับไปเปิดบูติกที่ห้างสรรพสินค้า Bergdorf Goodman อีกครั้งนับตั้งแต่ช่วงปี 1930s และในปี 2012 นับตั้งแต่ที่ Diego Della Valle นักธุรกิจชาวอิตาเลียนหันมาลงทุนชุบชีวิตแบรนด์ในตำนานนี้

 

 

Alternative Couture / Future of Fashion

หากคุณเห็นงานของ Schiaparelli ตอนนี้ คงสงสัยว่านอกจากเหล่าคนดังแล้วใครจะซื้อชุดของเขา คนแบบไหนจะซื้อต่างหูทรงจมูกมาใส่ในชีวิตประจำวัน เสื้อเบลเซอร์พร้อมเข็มขัดทรงซิกซ์แพ็ก การบาลานซ์ความคิดสร้างสรรค์กับการทำสิ่งที่ขายได้ สำหรับ Daniel แล้วไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องสุดโต่งด้านใดด้านหนึ่ง เมื่อคุณสามารถผสานสองสิ่งนี้ได้ด้วยเป้าหมายเดียวที่จะกระตุ้นต่อมจินตนาการของผู้คนที่เห็น เล่นกับจิตวิญญาณความเชื่อของวงการแฟชั่นกับรูปแบบของโอต์กูตูร์ สิ่งที่เขาทำไม่ได้เพื่อความแมส สำหรับเขาคือการหาคัลท์ระหว่างสิ่งที่คนต้องการและสิ่งที่เขาต้องการ ดีไซเนอร์บางคนอาจจะเดินเข้าสตูดิโอพร้อมกับการยึดมั่นในความคิดของตัวเอง และไม่เสียเวลารอให้ใครมาบอกว่าอะไรสวยไม่สวย อะไรขายได้ไม่ได้ สำหรับ Daniel การเชื่อมต่อกับผู้คน การกระตุ้นต่อมจินตนาการให้เริ่มทำงาน คือสิ่งที่เขานึกถึงตลอดเวลา

 

Daniel กล่าวกับ Tim Blanks ในรายการ ถึงอนาคตของวงการแฟชั่นในช่วงการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นว่า จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างไรบ้าง สิ่งที่เขาว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุดคือการที่วงการแฟชั่นต้องยอมรับว่าบางสิ่งที่พวกเขานำเสนอออกมานั้นมันช่างดูปิดหูปิดตาจากโลกภายนอกเสียเหลือเกิน สาเหตุที่วงการแฟชั่นนั้นหมกหมุ่นกับการคาดเดาอนาคตของตัวเองด้วยการตั้งคำถามว่าอนาคตของแฟชั่นจะเป็นเช่นไร ก็เพราะลึกลงไปในจิตใต้สำนึกของทุกคนรู้ดีว่าสิ่งที่เราทำอยู่นั้นมันเป็นสิ่งที่ไร้ซึ่งความจำเป็น “คำถามเดียวที่ผมสนใจคือจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อความฝันของคุณเป็นจริงแล้ว เพราะสิ่งเดียวที่ผมรู้ก็คือคุณก็แค่ต้องหาความฝันใหม่ต่อไป นี่เป็นแค่เพียงจุดเริ่มต้นของเราเท่านั้น”

 

อ้างอิง:


Novak Djokovic \”History is my biggest motivation\” – Paris 2021 (HD)


Subscribe for more videos of NOVAK DJOKOVIC !!!
Novak Djokovic Press Conference After Match vs Daniil Medvedev Paris 2021 (HD)
NovakDjokovic​ Djokovic​ DjokerNole

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Novak Djokovic \

Easy Spring Makeup with Secret Tips | Charlotte Lemay \u0026 Margot Priolet | Parisian Vibe


Spring has just arrived, we have met with Charlotte Lemay and French makeup artist Margot Priolet to learn an easy spring makeup with secret tips. The talented makeup artist and beautiful Charlotte show us how to do a quick, natural and fresh makeup and share their favorite products by explaining how to apply them. We hope that you will get inspired and make a fresh start in spring.
_______
Follow Margot on instagram ►► https://www.instagram.com/margot_prl/
Follow Charlotte on instagram ►►https://www.instagram.com/chamellow/
Special thanks to Hôtel Henriette ►►https://www.instagram.com/hotelhenriette/
✉ For business inquiries : [email protected]
Still haven’t subscribed to Parisian Vibe on YouTube? ►► http://bit.ly/3dtrZWr
_______
FOR MORE INSPIRATION:
Morning Beauty Routine with Charlotte Lemay:
https://youtu.be/1GJlIHoa6Uw​
Easy Skincare Routine with Priscilla Rossi:
https://youtu.be/TVlfpDvkWbY​
Parisian Spring Looks with Camille Yolaine:
https://youtu.be/BGuB0vRyXx8
French hairstyle tutorial with Mara Lafontan:
https://youtu.be/yOxSGtgchg​
_______
00:00 Intro
00:49 Meet the makeup artist
01:13 Step 1: Sunscreen
01:46 Step 2: Lip Balm
01:58 Step 3: Foundation
02:52 Step 4: Concealer
04:00 Step 5: Powder
05:33 Step 6: Lipstick
07:10 Step 7: Highlighter
08:09 Step 8: Mascara
09:04 Final
Disclaimer: This is not a sponsored video and we all always mention sponsored videos.
parisianvibe makeuptips makeuptutorial

Easy Spring Makeup with Secret Tips | Charlotte Lemay \u0026 Margot Priolet | Parisian Vibe

French CAFE Music – Romantic Accordion Music – Relaxing JAZZ – Paris Cafe Music


Please Subscribe!
https://www.youtube.com/user/cafemusicbgmchannel
📝 Music For Business「Cafe Music BGM Station」
English: https://bgmstation.com/en/
JAPANESE: https://bgmstation.com
繁體中文: https://bgmstation.com/tc/
Español: https://bgmstation.com/es/
한국어: https://bgmstation.com/ko/
You can use this music at your restaurants, shops, hospitals, offices, part­ies, etc..
Try free for 14 days.
💿 New Release 〜 Streaming Service \u0026 Buy Music 〜
If you listen to this music on Streaming Services, please use Shazam to find out if the music has been released.
If you can’t find the music, even if you use Shazam, the music is not released at the store. Sorry.
▼ Cafe Music BGM channel
Apple Music: https://itunes.apple.com/jp/artist/cafemusicbgmchannel/1028904635
Spotify: https://open.spotify.com/artist/3yKoHgjtyenCOIRaD2Gghu
Amazon Music: https://music.amazon.co.jp/artists/B013O0GB9G
▼ BGM channel
Apple Music: https://itunes.apple.com/jp/artist/bgmchannel/904345180
Spotify: https://open.spotify.com/artist/0ykZILVRZgnmdTi0opgb2f
Amazon Music: https://music.amazon.co.jp/artists/B00M7ZFE7U
▼ Green Music BGM channel
Apple Music: https://itunes.apple.com/jp/artist/greenmusicbgmchannel/1468838705
Spotify: https://open.spotify.com/artist/0J2ynuj2JzNSiXtp4g9xyW
Amazon Music: https://music.amazon.co.jp/artists/B07T73KY86
☕ About Cafe Music BGM channel
We are making Cafe music for relaxation, for work, for study, etc.
All music in this video \u0026 in this channel is original music by us.
We are playing all the songs.
📜 What is BGMC?
Morning.
Gentle light that shines through the blinds
One glass of water after waking up
The tender breeze from the window that we feel with all our body
These things are too ordinary in everyday life to be conscious.
But we can’t live even if one of them is missing.
\”BGMC BGM channel\” has been providing music, hoping to be like them.
Though it is colorless and transparent, we want to make the listener’s daily life as colorful as possible.
That is the essence of the music we deliver.
Light, water, wind, and BGMC
A new value for music.
🎬 Other channels produced by BGMC
▼ BGM channel
https://www.youtube.com/user/bgmchannelbgm
▼ Green Music BGM channel
https://www.youtube.com/user/japanrelaxingmusic
▼ JPOP Music BGM channel
https://www.youtube.com/user/jpopcoverchannel
📩 Contact
For business inquiries (live music \u0026 creating music for your business), contact us via the contact form on the website.
Official web site: https://www.bgmchannel.com/
🔗 Follow us on Social Media.
Instagram: https://www.instagram.com/bgmc_bgmchannel/
Facebook: https://www.facebook.com/bgmc.bgmchannel/
Twitter: https://twitter.com/bgmc_bgmchannel

© Music is Copyrighted.
AccordionMusic FrenchCafeMusic ParisCafeMusic

French CAFE Music - Romantic Accordion Music - Relaxing JAZZ - Paris Cafe Music

Eunhye \”I can’t eat durian because of the smell..\” [Battle Trip/2018.07.29]


Click the \”Caption\” button to activate subtitle!
▶ Battle Trip | 배틀트립 – Ep.99
Showtime: Sun 16:40 (Seoul, UTC+9)
Guests: An Mina, Park Eunhye
▶Subscribe KBS World Official Pages
Youtube Subscribe:https://www.youtube.com/kbsworld
Homepage: http://www.kbsworld.co.kr
Facebook: http://www.facebook.com/kbsworld
Twitter: http://twitter.com/kbsworldtv
Instagram: https://www.instagram.com/kbsworldtv/
Line: https://goo.gl/g5iRQV
Android Download : http://bit.ly/1NOZFKr
IOS Download : http://apple.co/1NktctW

Eunhye \

$1.60 rice noodle on the boat [Battle Trip / 2017.02.05]


Click the \”Caption\” button to activate subtitle!

Subscribe KBS World Official YouTube: http://www.youtube.com/kbsworld

KBS World is a TV channel for international audiences provided by KBS, the flagship public service broadcaster in Korea. Enjoy Korea’s latest and the most popular KDrama, KPop, KEntertainment \u0026 KDocumentary with multilingual subtitles by subscribing KBS World official YouTube.

대한민국 대표 해외채널 KBS World를 유튜브에서 만나세요. KBS World는 전세계 시청자에게 재미있고 유익한 한류 콘텐츠를 영어 자막과 함께 제공하는 No.1 한류 채널입니다. KBS World 유튜브 채널을 구독하고 최신 드라마, KPop, 예능, 다큐멘터리 정보를 받아보세요.

[Visit KBS World Official Pages]
Homepage: http://www.kbsworld.co.kr
Facebook: http://www.facebook.com/kbsworld
Twitter: http://twitter.com/kbsworldtv
Instagram: @kbsworldtv
Line: @kbsworld_asia
KakaoTalk: @kbs_world (http://plus.kakao.com/friend/@kbs_world)
Google+: http://plus.google.com/+kbsworldtv
[Download KBS World Application]
■ IOS Download : http://apple.co/1NktctW
■ Android Download : http://bit.ly/1NOZFKr

$1.60 rice noodle on the boat [Battle Trip / 2017.02.05]

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ parisian คือ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *