Skip to content
Home » [NEW] คำนามเอกพจน์ (Singular Noun) และคำนามพหูพจน์ (Plural Noun) ภาษาอังกฤษ ม.ปลาย | คํานามเอกพจน์ – NATAVIGUIDES

[NEW] คำนามเอกพจน์ (Singular Noun) และคำนามพหูพจน์ (Plural Noun) ภาษาอังกฤษ ม.ปลาย | คํานามเอกพจน์ – NATAVIGUIDES

คํานามเอกพจน์: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

คำนามเอกพจน์ คือ คำนามที่แสดงถึงสิ่งของเพียงชิ้นเดียว คนๆเดียว หรือสัตว์ตัวเดียว เช่น กระเป๋า 1 ใบ (a bag) ผู้ชาย 1 คน (a man) พูดง่ายๆเลยก็คือ อะไรก็ตามที่มีเพียงหนึ่งหน่วย

คำนามพหูพจน์ คือ คำนามที่แสดงถึงสิ่งของที่มีมากกว่า 1 ชิ้น เช่น กระเป๋า 2 ใบ (2 bags) ผู้ชาย 4 คน (4 men) เป็นต้น

อย่างที่เรารู้กันดีว่า ในภาษาอังกฤษเวลาที่เราต้องการเปลี่ยน “คำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์” เพื่อบอกปริมาณสิ่งของที่เพิ่มขึ้นนั้นสามารถทำได้หลายวิธี มาดูกันว่ามีวิธีการใดบ้าง
วิธีการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์มีทั้งหมด 7 วิธีด้วยกัน

1. เติม –s ท้ายคำนามได้เลย

       ได้ยินกันบ่อยมากกก เรื่องของการ เติม –s เวลาที่เราต้องการพูดถึงคำนามที่มีมากกว่าหนึ่ง ส่วนมากเราสามารถเติม –s ไปหลังคำนามได้เลย เช่น ห้างสรรพสินค้า 3 แห่ง จากเดิมที่ใช้ Mall ก็ให้เติม –s ลงไป เป็น Malls แทน

ตัวอย่าง I heard that Central will renovate three of their shopping malls this year.

2. หากคำนามลงท้ายด้วย ch, s, ss, sh, x, และ z ต้องเติม -es ท้ายคำนั้นๆ

Singular
Plural
คำแปล

bush (บุช)
bushes (บุช-เชส)
พุ่มไม้

bus (บัส)
buses (บัส-เซส)
รถเมล์

dress (เดรส)
dresses (เดรส-เซส)
ชุดกระโปรง

church (เชิร์ช)
churches (เชอร์-เชส)
โบสถ์

3. คำนามที่ลงท้ายด้วย O แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ เติม –s หรือ เติม –es
– ส่วนมากแล้วคำนามที่ลงท้ายด้วย –o มักจะเติม –s ได้เลย เช่น Studio (สตูดิโอ) เปลี่ยนเป็น studios (สตูดิโอส) , Zoo (ซู) เปลี่ยนเป็น zoos (ซูส)
– บางคำที่ลงท้ายด้วย –o จะต้องเติม –es เช่น

Singular
Plural
คำแปล

buffalo (บัฟ-ฟา-โลว์)
buffaloes (บัฟ-ฟา-โลว์ส)
ควาย

domino (ดอ-มิ-โนว์)
dominoes (ดอ-มิ-โนว์ส)
โดมิโน่

hero (ฮี-โรว์)
heroes (ฮี-โรว์ส)
ฮีโร่

echo (เอ็ค-โคว์)
echoes (เอ็ค-โคว์ส)
เสียงก้อง

mosquito (มอส-กี-โทว์)
mosquitoes (มอส-กี-โทว์ส)
ยุง

potato (เพอะ-เท-โทว์)
potatoes (เพอะ-เท-โทว์ส)
มันฝรั่ง

tomato (โท-เม-โทว์)
tomatoes (โท-เม-โทว์ส)
มะเขือเทศ

 

4.

คำนามที่ลงท้ายด้วย –y แบ่งเป็น 2 ประเภท คือเติม-s หรือเติม –es

    ถ้าหน้า –y เป็นสระ –a, -e, -i, -o, -u คำนามตัวนั้นจะต้องเติม –s เช่น

Singular
Plural
คำแปล

monkey (มัง-คิ)
monkeys (มัง-คิส์)
ลิง

birthday (เบิร์ธ-เดย์)
birthdays (เบิร์ธ-เดย์ส)
วันเกิด

key (คีย์)
keys (คีย์ส)
กุญแจ

way (เวย์)
ways (เวย์ส)
เส้นทาง

chimney (ชิม-นีย์)
chimneys (ชิม-นีย์ส)
ปล่องไฟ

 สระในภาษาอังกฤษมีอยู่ 5 ตัว คือ a, e, i, o, u

    ถ้าหน้า –y เป็นพยัญชนะ เราต้องตัด y เป็น i แล้วเติม –es เช่น

Singular
Plural
คำแปล

enemy (เอเน-มิ่)
enemies (เอเนมิ่ส์)
ศัตรู

berry (เบร์-ริ่)
berries (เบร์ริ่ส์)
ลูกเบอร์รี่

duty (ดิว-ทิ่)
duties (ดิว-ทิ่ส์)
หน้าที่

spy (สปาย)
spies (สปายส์)
สายลับ

library (ไล-แบร-ริ่)
libraries (ไล-แบร-ริ่ส์)
ห้องสมุด

5. คำนามที่ลงท้ายด้วย –f หรือ –fe ให้เปลี่ยนตัว –f หรือ –fe เป็น –v แล้วเติม –es เช่น

Singular
Plural
คำแปล

 life (ไลฟ)
lives (ลายฟส์)
ชีวิต

 shelf (เชลฟ์)
shelves (เชลฟส์)
ชั้นวางของ

 loaf (โลฟ)
loaves (โลฟส์)
ก้อนขนมปัง

 thief (ธีฟ)
thieves (ธีฟส์)
โจร

 wife (ไวฟ)
wives (ไวฟส์)
ภรรยา

6. คำนามบางคำ เวลาทำให้เป็นพหูพจน์ เราต้องเปลี่ยนรูปคำนั้นทันที
อันนี้เรามักจะพบเห็นกันอยู่บ่อยๆ เช่น

Singular
Plural
คำแปล

child (ชายลด์)
children (ชิล-เดริน)
เด็ก

tooth (ทูธ)
teeth (ทีธ)
ฟัน

foot (ฟุท)
feet (ฟีท)
เท้า

mouse (เมาส์)
mice (ไมส์)
หนู

man (แมน)
men (เม็น)
ผู้ชาย

7. คำนามบางคำ สามารถใช้รูปเดิมได้ทั้งเวลาเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์

        อันนี้ไม่ต้องเปลี่ยนรูป หรือเติมอะไรเลย ส่วนมากก็จะเป็นคำที่เกี่ยวกับสัตว์ทั้งนั้น มาดูกันว่ามีคำไหนบ้าง เช่น

  • fish 

  • deer  

  • sheep  

8. คำนามบางคำเป็นพหูพจน์อยู่เสมอ
คือต้องมี –s หรือ –es ต่อท้ายตลอด ไม่มีไม่ได้ เช่น

  • scissors

  • pants    

  • clothes    

  • jeans    

  • glasses   

  • noodles    

  • goods    

หลักการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์

1. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย s, ss, x, sh, ch, zz, และ z ให้เติม es ง่ายเวลาออกเสียง

  • bus – buses (รถประจำทาง)

  • kiss – kisses (จูบ)

  • fox – foxes (สุนขจิ้งจอก)

  • brush – brushes (แปรง)

  • witch – witches (แม่มด)

  • buzz – buzzes (เสียงของผึ้ง)

2. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย  o และหน้า o เป็นพยัญชนะ ให้เติม es

  • buffalo – buffaloes (ควาย)

  • mango – mangoes (มะม่วง)

  • tomato – tomatoes (มะเขือเทศ)

  • potato – potatoes (มันฝรั่ง)

*Remark* …ยกเว้นบางคำที่ข้างหน้า o เป็นพยัญชนะสามารถเติม s ได้เลย นักเรียนจะต้องสังเกตและจดจำคำศัพท์และการใช้ s และ es จากตัวอย่างที่ให้

ตัวอย่าง การเติม s หลังคำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย  o และหน้า o เป็นพยัญชนะ ให้เติม s ได้เลย

  • piano – pianos (เปียโน)

  • memo – memos (บันทึกข้อความ)

  • solo – solos (การบันเลงเพลงเดี่ยว)

  • photo – photos (รูปถ่าย)

3. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย o และหน้า o เป็นสระ ให้เติม s ได้เลย

  • radio – radios (วิทยุ)

  • bamboo – bamboos (ไม้ไผ่)

4. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es

  • baby – babies (เด็กทารก)

  • copy – copies (สำเนา)

  • lady – ladies (สุภาพสตรี/คุณผู้หญิง)

  • candy – candies (ลูกกวาด/ลูกอม)

5. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นสระ ให้เติม s ได้เลย

  • toy – toys (ของเล่น)

  • boy – boys (เด็กผู้ชาย)

  • day – days (วัน)

  • monkey – monkeys (ลิง)

6. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe  ให้เปลี่ยน f หรือ fe เป็น v แล้วเติม es

  • knife – knives (มีด)

  • leaf – leaves (ใบไม้)

  • half – halves (ครึ่งหนึ่ง)

  • shelf – shelves (ชั้นวางของ)

  • wife – wives (ภรรยา)

  • thief – thieves (ขโมย)

*Remark* …ยกเว้นบางคำที่ข้างหน้า f เป็นพยัญชนะ ให้เติม s ได้เลย โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยน f หรือ ef เป็น v ก่อน

  • gulf – gulfs (อ่าว)

  • cliff – cliffs (หน้าผา)

  • scarf – scarfs หรือ scarves (ผ้าพันคอ) เมื่อเปลี่ยนเป็นพหูพจน์จะใช้ได้ทั้งสองแบบ

7. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe และหน้า f หรือ fe เป็นสระ ให้เติม s ได้เลย

  • roof – roofs (หลังคา)

  • belief – beliefs (ความเชื่อ)

  • chief – chiefs (หัวหน้า)

  • proof – proofs (หลักฐาน/พิสูจน์)

  • grief – griefs (ความเศร้าโศก)

  • fife – fifes (ขลุ่ย)

  • safe – safes (ตู้นิรภัย)

8. คำนามเอกพจน์เปลี่ยนรูปไปเลย เมื่อเป็นพหูพจน์

  • man – men (ผู้ชาย)

  • woman – women (ผู้หญิง)

  • tooth – teeth (ฝัน)

  • ox – oxen (วัวตัวผู้)

  • louse -lice (เหา/หมัด)

  • child – children (เด็ก)

  • mouse – mice (หนู)

  • person – people (คน/ประชาชน)

*Remark* …ยกเว้นบางคำที่มาจากภาษาลาตินหรือกรีก จะมีรูปเป็นพหูพจน์ตามภาษษเดิม

  • crisis – crises (เหตุฉุกเฉิน)

  • basis – bases (หลักสำคัญ/หลักเกณฑ์)

  • thesis – theses (ข้อสมมติ/วิทยานิพนธ์)

  • analysis – analyses (การวิเคราะห์)

9. คำนามมีรูปเหมือนกันทั้งคำนามเอกพจน์และคำนามพหูพจน์

  • dear – dear (กวาง)

  • fish* – fish (ปลา)

  • sheep – sheep (แกะ)

  • salmon – salmon (ปลาแซลมอน)

  • cod – cod (ปลาคอด)

  • trout -trout (ปลาเทราท์)

*Remark* …เราสามารถเติม es หลัง fish เมื่อต้องการจะสื่อ หรือบอกว่ามี ปลาหลายสายพันธุ์

10. คำนามต่อไปนี้เป็นรูปพหูพจน์ แต่ต้องใช้เป็นเอกพจน์เสมอ

  • tactics (กลวิธี)

  • news (ข่าว)

  • headquarters (กองบัญชาการ)

  • means (วิธี)

  • statistics (สถิติ)

  • alms (การให้ทาน)

  • folks (สมาชิกในครอบครัว)

  • United Nations (สหประชาชาติ)

[NEW] คำนามเอกพจน์ (Singular Noun) และคำนามพหูพจน์ (Plural Noun) ภาษาอังกฤษ ม.ปลาย | คํานามเอกพจน์ – NATAVIGUIDES

คำนามเอกพจน์ คือ คำนามที่แสดงถึงสิ่งของเพียงชิ้นเดียว คนๆเดียว หรือสัตว์ตัวเดียว เช่น กระเป๋า 1 ใบ (a bag) ผู้ชาย 1 คน (a man) พูดง่ายๆเลยก็คือ อะไรก็ตามที่มีเพียงหนึ่งหน่วย

คำนามพหูพจน์ คือ คำนามที่แสดงถึงสิ่งของที่มีมากกว่า 1 ชิ้น เช่น กระเป๋า 2 ใบ (2 bags) ผู้ชาย 4 คน (4 men) เป็นต้น

อย่างที่เรารู้กันดีว่า ในภาษาอังกฤษเวลาที่เราต้องการเปลี่ยน “คำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์” เพื่อบอกปริมาณสิ่งของที่เพิ่มขึ้นนั้นสามารถทำได้หลายวิธี มาดูกันว่ามีวิธีการใดบ้าง
วิธีการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์มีทั้งหมด 7 วิธีด้วยกัน

1. เติม –s ท้ายคำนามได้เลย

       ได้ยินกันบ่อยมากกก เรื่องของการ เติม –s เวลาที่เราต้องการพูดถึงคำนามที่มีมากกว่าหนึ่ง ส่วนมากเราสามารถเติม –s ไปหลังคำนามได้เลย เช่น ห้างสรรพสินค้า 3 แห่ง จากเดิมที่ใช้ Mall ก็ให้เติม –s ลงไป เป็น Malls แทน

ตัวอย่าง I heard that Central will renovate three of their shopping malls this year.

2. หากคำนามลงท้ายด้วย ch, s, ss, sh, x, และ z ต้องเติม -es ท้ายคำนั้นๆ

Singular
Plural
คำแปล

bush (บุช)
bushes (บุช-เชส)
พุ่มไม้

bus (บัส)
buses (บัส-เซส)
รถเมล์

dress (เดรส)
dresses (เดรส-เซส)
ชุดกระโปรง

church (เชิร์ช)
churches (เชอร์-เชส)
โบสถ์

3. คำนามที่ลงท้ายด้วย O แบ่งเป็น 2 ประเภทคือ เติม –s หรือ เติม –es
– ส่วนมากแล้วคำนามที่ลงท้ายด้วย –o มักจะเติม –s ได้เลย เช่น Studio (สตูดิโอ) เปลี่ยนเป็น studios (สตูดิโอส) , Zoo (ซู) เปลี่ยนเป็น zoos (ซูส)
– บางคำที่ลงท้ายด้วย –o จะต้องเติม –es เช่น

Singular
Plural
คำแปล

buffalo (บัฟ-ฟา-โลว์)
buffaloes (บัฟ-ฟา-โลว์ส)
ควาย

domino (ดอ-มิ-โนว์)
dominoes (ดอ-มิ-โนว์ส)
โดมิโน่

hero (ฮี-โรว์)
heroes (ฮี-โรว์ส)
ฮีโร่

echo (เอ็ค-โคว์)
echoes (เอ็ค-โคว์ส)
เสียงก้อง

mosquito (มอส-กี-โทว์)
mosquitoes (มอส-กี-โทว์ส)
ยุง

potato (เพอะ-เท-โทว์)
potatoes (เพอะ-เท-โทว์ส)
มันฝรั่ง

tomato (โท-เม-โทว์)
tomatoes (โท-เม-โทว์ส)
มะเขือเทศ

 

4.

คำนามที่ลงท้ายด้วย –y แบ่งเป็น 2 ประเภท คือเติม-s หรือเติม –es

    ถ้าหน้า –y เป็นสระ –a, -e, -i, -o, -u คำนามตัวนั้นจะต้องเติม –s เช่น

Singular
Plural
คำแปล

monkey (มัง-คิ)
monkeys (มัง-คิส์)
ลิง

birthday (เบิร์ธ-เดย์)
birthdays (เบิร์ธ-เดย์ส)
วันเกิด

key (คีย์)
keys (คีย์ส)
กุญแจ

way (เวย์)
ways (เวย์ส)
เส้นทาง

chimney (ชิม-นีย์)
chimneys (ชิม-นีย์ส)
ปล่องไฟ

 สระในภาษาอังกฤษมีอยู่ 5 ตัว คือ a, e, i, o, u

    ถ้าหน้า –y เป็นพยัญชนะ เราต้องตัด y เป็น i แล้วเติม –es เช่น

Singular
Plural
คำแปล

enemy (เอเน-มิ่)
enemies (เอเนมิ่ส์)
ศัตรู

berry (เบร์-ริ่)
berries (เบร์ริ่ส์)
ลูกเบอร์รี่

duty (ดิว-ทิ่)
duties (ดิว-ทิ่ส์)
หน้าที่

spy (สปาย)
spies (สปายส์)
สายลับ

library (ไล-แบร-ริ่)
libraries (ไล-แบร-ริ่ส์)
ห้องสมุด

5. คำนามที่ลงท้ายด้วย –f หรือ –fe ให้เปลี่ยนตัว –f หรือ –fe เป็น –v แล้วเติม –es เช่น

Singular
Plural
คำแปล

 life (ไลฟ)
lives (ลายฟส์)
ชีวิต

 shelf (เชลฟ์)
shelves (เชลฟส์)
ชั้นวางของ

 loaf (โลฟ)
loaves (โลฟส์)
ก้อนขนมปัง

 thief (ธีฟ)
thieves (ธีฟส์)
โจร

 wife (ไวฟ)
wives (ไวฟส์)
ภรรยา

6. คำนามบางคำ เวลาทำให้เป็นพหูพจน์ เราต้องเปลี่ยนรูปคำนั้นทันที
อันนี้เรามักจะพบเห็นกันอยู่บ่อยๆ เช่น

Singular
Plural
คำแปล

child (ชายลด์)
children (ชิล-เดริน)
เด็ก

tooth (ทูธ)
teeth (ทีธ)
ฟัน

foot (ฟุท)
feet (ฟีท)
เท้า

mouse (เมาส์)
mice (ไมส์)
หนู

man (แมน)
men (เม็น)
ผู้ชาย

7. คำนามบางคำ สามารถใช้รูปเดิมได้ทั้งเวลาเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์

        อันนี้ไม่ต้องเปลี่ยนรูป หรือเติมอะไรเลย ส่วนมากก็จะเป็นคำที่เกี่ยวกับสัตว์ทั้งนั้น มาดูกันว่ามีคำไหนบ้าง เช่น

  • fish 

  • deer  

  • sheep  

8. คำนามบางคำเป็นพหูพจน์อยู่เสมอ
คือต้องมี –s หรือ –es ต่อท้ายตลอด ไม่มีไม่ได้ เช่น

  • scissors

  • pants    

  • clothes    

  • jeans    

  • glasses   

  • noodles    

  • goods    

หลักการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์ให้เป็นพหูพจน์

1. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย s, ss, x, sh, ch, zz, และ z ให้เติม es ง่ายเวลาออกเสียง

  • bus – buses (รถประจำทาง)

  • kiss – kisses (จูบ)

  • fox – foxes (สุนขจิ้งจอก)

  • brush – brushes (แปรง)

  • witch – witches (แม่มด)

  • buzz – buzzes (เสียงของผึ้ง)

2. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย  o และหน้า o เป็นพยัญชนะ ให้เติม es

  • buffalo – buffaloes (ควาย)

  • mango – mangoes (มะม่วง)

  • tomato – tomatoes (มะเขือเทศ)

  • potato – potatoes (มันฝรั่ง)

*Remark* …ยกเว้นบางคำที่ข้างหน้า o เป็นพยัญชนะสามารถเติม s ได้เลย นักเรียนจะต้องสังเกตและจดจำคำศัพท์และการใช้ s และ es จากตัวอย่างที่ให้

ตัวอย่าง การเติม s หลังคำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย  o และหน้า o เป็นพยัญชนะ ให้เติม s ได้เลย

  • piano – pianos (เปียโน)

  • memo – memos (บันทึกข้อความ)

  • solo – solos (การบันเลงเพลงเดี่ยว)

  • photo – photos (รูปถ่าย)

3. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย o และหน้า o เป็นสระ ให้เติม s ได้เลย

  • radio – radios (วิทยุ)

  • bamboo – bamboos (ไม้ไผ่)

4. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นพยัญชนะให้เปลี่ยน y เป็น i แล้วเติม es

  • baby – babies (เด็กทารก)

  • copy – copies (สำเนา)

  • lady – ladies (สุภาพสตรี/คุณผู้หญิง)

  • candy – candies (ลูกกวาด/ลูกอม)

5. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย y และหน้า y เป็นสระ ให้เติม s ได้เลย

  • toy – toys (ของเล่น)

  • boy – boys (เด็กผู้ชาย)

  • day – days (วัน)

  • monkey – monkeys (ลิง)

6. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe  ให้เปลี่ยน f หรือ fe เป็น v แล้วเติม es

  • knife – knives (มีด)

  • leaf – leaves (ใบไม้)

  • half – halves (ครึ่งหนึ่ง)

  • shelf – shelves (ชั้นวางของ)

  • wife – wives (ภรรยา)

  • thief – thieves (ขโมย)

*Remark* …ยกเว้นบางคำที่ข้างหน้า f เป็นพยัญชนะ ให้เติม s ได้เลย โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยน f หรือ ef เป็น v ก่อน

  • gulf – gulfs (อ่าว)

  • cliff – cliffs (หน้าผา)

  • scarf – scarfs หรือ scarves (ผ้าพันคอ) เมื่อเปลี่ยนเป็นพหูพจน์จะใช้ได้ทั้งสองแบบ

7. คำนามเอกพจน์ที่ลงท้ายด้วย f หรือ fe และหน้า f หรือ fe เป็นสระ ให้เติม s ได้เลย

  • roof – roofs (หลังคา)

  • belief – beliefs (ความเชื่อ)

  • chief – chiefs (หัวหน้า)

  • proof – proofs (หลักฐาน/พิสูจน์)

  • grief – griefs (ความเศร้าโศก)

  • fife – fifes (ขลุ่ย)

  • safe – safes (ตู้นิรภัย)

8. คำนามเอกพจน์เปลี่ยนรูปไปเลย เมื่อเป็นพหูพจน์

  • man – men (ผู้ชาย)

  • woman – women (ผู้หญิง)

  • tooth – teeth (ฝัน)

  • ox – oxen (วัวตัวผู้)

  • louse -lice (เหา/หมัด)

  • child – children (เด็ก)

  • mouse – mice (หนู)

  • person – people (คน/ประชาชน)

*Remark* …ยกเว้นบางคำที่มาจากภาษาลาตินหรือกรีก จะมีรูปเป็นพหูพจน์ตามภาษษเดิม

  • crisis – crises (เหตุฉุกเฉิน)

  • basis – bases (หลักสำคัญ/หลักเกณฑ์)

  • thesis – theses (ข้อสมมติ/วิทยานิพนธ์)

  • analysis – analyses (การวิเคราะห์)

9. คำนามมีรูปเหมือนกันทั้งคำนามเอกพจน์และคำนามพหูพจน์

  • dear – dear (กวาง)

  • fish* – fish (ปลา)

  • sheep – sheep (แกะ)

  • salmon – salmon (ปลาแซลมอน)

  • cod – cod (ปลาคอด)

  • trout -trout (ปลาเทราท์)

*Remark* …เราสามารถเติม es หลัง fish เมื่อต้องการจะสื่อ หรือบอกว่ามี ปลาหลายสายพันธุ์

10. คำนามต่อไปนี้เป็นรูปพหูพจน์ แต่ต้องใช้เป็นเอกพจน์เสมอ

  • tactics (กลวิธี)

  • news (ข่าว)

  • headquarters (กองบัญชาการ)

  • means (วิธี)

  • statistics (สถิติ)

  • alms (การให้ทาน)

  • folks (สมาชิกในครอบครัว)

  • United Nations (สหประชาชาติ)


การเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นพหูพจน์


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

การเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นพหูพจน์

เอกพจน์ วงค์นาค*ทหารเกณฑ์คนจน- รวมฮิต{HD (เต็มอัลบั้ม) }


รวมฮิตทหารเกณฑ์คนจน เอกพจน์ วงค์นาค {HD (เต็มอัลบั้ม)}
01.ทหารเกณฑ์คนจน
02.ไอ้หนุ่ม ต.ช.ด.
03.ไอ้หนุ่มทางหลวง
04.ลาน้องสองปี
05.ทหารห่วงแฟน
06.ไอ้ทุยรอนาย
07.เห็นเขากอดกัน
08.ไม่รักอีกแล้ว
09.ประหารใจ
10.บ่อจำสัญญา
11.คืนวิปโยค
12.สิ้นเดือนสุะเทือนใจ

เอกพจน์ วงนาค,เอกพจน์,เอกพจน์ วงค์นาค,เอกพจน์ แอบฝัน,เอกพจน์ รักเพราะรอยยิ้ม,เอกพจน์ ทหาร,เอกพจน์ ตาย,เอกพจน์ เสียชีวิต,เอกพจน์ สุนารี

เอกพจน์ วงค์นาค*ทหารเกณฑ์คนจน- รวมฮิต{HD (เต็มอัลบั้ม) }

หลักการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นพหูพจน์ Singular and Plural


คำนามเอกพจน์ คำนามพหูพจน์ ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์singular plural

หลักการเปลี่ยนคำนามเอกพจน์เป็นพหูพจน์ Singular and Plural

P 2 3 4 คำนามเอกพจน์ พหูพจน์


P 2 3 4 คำนามเอกพจน์ พหูพจน์

กฎ 10 ข้อ เปลี่ยน คำนามเอกพจน์ เป็นพหูพจน์


จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้
ติดตาม Facebook และ Instagram : The Happy Time with Q
หากผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขออภัยมานะที่นี้ด้วยค่ะ 😀

กฎ 10 ข้อ เปลี่ยน คำนามเอกพจน์ เป็นพหูพจน์

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ คํานามเอกพจน์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *