Skip to content
Home » [NEW] ขอโทษที่รบกวน พูดเป็นภาษาอังกฤษยังไงดีนะ? — รวม 10 ประโยคภาษาอังกฤษ ในที่ทำงาน | OpenDurian เตรียมสอบ | แต่ ยัง มี หนึ่ง คํา ถาม ที่ ฉัน ไม่ เข้าใจ – NATAVIGUIDES

[NEW] ขอโทษที่รบกวน พูดเป็นภาษาอังกฤษยังไงดีนะ? — รวม 10 ประโยคภาษาอังกฤษ ในที่ทำงาน | OpenDurian เตรียมสอบ | แต่ ยัง มี หนึ่ง คํา ถาม ที่ ฉัน ไม่ เข้าใจ – NATAVIGUIDES

แต่ ยัง มี หนึ่ง คํา ถาม ที่ ฉัน ไม่ เข้าใจ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

เวลาต้องทำงานกับคนต่างชาติ ไม่ว่าจะพูด หรือเขียนอีเมล หลายคนมีปัญหาว่าไม่รู้จะใช้ประโยคแบบไหนดี อย่างเช่นถ้าอยากพูดว่า “รบกวน” เป็นภาษาอังกฤษ ต้องเริ่มยังไงดี? — บทความนี้คัดมา 10 ประโยคภาษาอังกฤษในที่ทำงาน ให้ทุกคนจำโครงสร้าง ไปใช้กันได้เลยค่า

1. Sorry to bother (disturb) you, but + ประโยคคำถาม

คำแปล: ขอโทษที่รบกวนนะ แต่… 

เวลาอยากจะรบกวนใคร บางทีเขาอาจจะทำงานอยู่ เราควรจะออกตัวขอโทษที่ไปรบกวนเขาก่อน แล้วค่อยเข้าเรื่อง ไม่งั้นอยู่ดีๆ ไปถามเลย เราอาจจะโดนเหวี่ยงได้ (ประมาณว่าไม่เห็นเหรอ ฉันทำงานอยู่นะ!) ลองดูตัวอย่างกันค่ะ
 

  • Sorry to bother you, but could you check this report for me?
    ขอโทษที่รบกวนนะ แต่คุณช่วยตรวจสอบรายงานนี้ให้ฉันหน่อยได้มั้ย
     
  • Sorry to disturb you, but can I borrow the stapler?
    ขอโทษที่รบกวนนะ แต่ฉันขอยืมที่เย็บกระดาษหน่อยได้มั้ย
     

จำประโยคขึ้นต้นไปเลยค่ะ Sorry to bother (disturb) you, but… แล้วก็ตามด้วยคำถามที่เราอยากจะถามต่อได้เลย 

ถ้าเราเป็นผ่ายถูกถามด้วยประโยคนี้ เราก็ตอบได้ว่า

  • Yes, I’ll do it for you.
    ได้เลย เดี๋ยวฉันทำให้คุณนะ
     
  • Sorry, I can’t do it now.
    โทษทีนะ แต่ฉันทำตอนนี้ไม่ได้น่ะ

2. Do you have a minute?

คำแปล: ว่างคุยซักนิดมั้ย/มีเวลาซักเดี๋ยวมั้ย

แปลตรงๆ จะแปลว่า มีเวลาซักนาทีมั้ย แต่จริงๆ ก็หมายถึงพอมีเวลาสั้นๆ มั้ยนั่นเอง ใช้เวลาเราอยากกวนเวลาใครสั้นๆ นอกจากประโยคนี้แล้ว จะใช้ประโยคด้านล่างแทนก็ได้ค่ะ แปลโดยรวมเหมือนกันเลยค่ะ

  • Are you free to talk?
  • Can I have a word with you?
  • Can I talk to you for a minute/a second?

ถ้าเราว่าง คุยได้ ก็ตอบไปว่า Yes./Sure./Of course.  และถามกลับไปได้ว่า What is it?/What’s the matter? (คุยเรื่องอะไรล่ะ, มีเรื่องอะไรรึเปล่า)

3. Would you mind helping me with + N.?

คำแปล: รังเกียจมั้ยถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับ…

  • Would you mind helping me with this document?
    รังเกียจมั้ยถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับเอกสารนี้
     
  • Would you mind helping me with the project?
    รังเกียจมั้ยถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับโปรเจคนี้
     
  • Would you mind helping me with the contract?
    รังเกียจมั้ยถ้าจะช่วยฉันเกี่ยวกับสัญญาฉบับนี้

ใช้เวลาต้องการขอความช่วยเหลือได้เลยค่ะ เป็นประโยคแบบสุภาพมากๆ แต่สังเกตว่ารูปประโยคนี้ จะตามด้วยคำนาม คือไม่ได้บอกว่าให้ช่วย “ทำอะไร” แต่แค่ขอให้ช่วยเรื่องอะไร หรือเกี่ยวกับอะไร เหมือนถามรวมๆ ว่าช่วยฉันเรื่องนี้ได้มั้ย

ดังนั้นจำรูปประโยค Would you mind helping me with ไปเลยค่ะ แล้วอยากจะขอความช่วยเหลือเรื่องอะไรก็เอาศัพท์มาต่อท้ายได้เลย

*ถ้าอยากจะลดระดับความสุภาพลง หรือคุยกับเพื่อนร่วมงานที่ค่อนข้างสนิท ก็ใช้ Can you help me with + N.? ได้เหมือนกันค่ะ จะดูเป็นกันเองมากกว่า แต่ถ้าไม่แน่ใจ ใช้ Would you mind ไปเลย สุภาพสุดแล้วจ้า

4. Would you mind + V.ing?

คำแปล: รังเกียจมั้ยที่จะทำ…

  • Would you mind sending the presentation to me?
    รังเกียจมั้ยที่จะส่งสื่อนำเสนองานให้ฉันหน่อย
     
  • Would you mind photocopying this bill for me?
    รังเกียจมั้ยที่จะถ่ายเอกสารบิลนี้ให้ฉันหน่อย

ประโยคนี้เอาไปใช้เวลาอยากให้คนอื่นช่วยเรา “ทำอะไร” คือระบุเลยว่าคุณช่วยทำนั่นนี่ให้ฉันหน่อยได้มั้ย ซึ่งโครงสร้างจะต้องตามด้วย V.ing (หรือที่รู้จักกันอีกชื่อคือ Gerund) ค่ะ มีหลักง่ายๆ ว่า อยากให้ช่วยทำอะไร เอา V. ตัวนั้นไปเติม -ing แล้วต่อท้ายประโยคได้เลย เช่น

  • ตัดกระดาษ cut > cutting the papers
     
  • หาข้อมูล find > finding the information
     
  • ร่างจดหมาย draft > drafting the letter

 

5. Would you mind if + ประโยค?

คำแปล: จะเป็นอะไรมั้ยถ้า…

  • Would you mind if I skip the meeting?
    จะเป็นอะไรมั้ยถ้าฉันจะขอไม่เข้าประชุม
     
  • Would you mind if I postpone the deadline?
    จะเป็นอะไรมั้ยถ้าฉันจะขอเลื่อนกำหนดส่งงาน

นอกจากแปลว่า รังเกียจมั้ย” แล้ว Would you mind ยังสามารถหมายถึง “จะเป็นอะไรมั้ย” ได้ด้วย คือใช้โยนหินถามทางก่อนได้ว่า ถ้าเราจะทำแบบเนี้ย จะเป็นไรป่าว เช่นอยากอยากโดดประชุม ก็ไปถามนายก่อนว่า Would you mind if I skip the meeting? (แต่อย่าลืมเตรียมเหตุผลที่ฟังขึ้นไปบอกนายด้วยนะ)

 

✿ อัพคะแนน TOEIC พร้อมสมัครทุกงาน! เริ่มติวกับครูดิวเลย! 

ติว TOEIC ครูดิว พร้อมลองทำข้อสอบเหมือนจริง

 

6. Can you join the meeting on + วันที่ + at + เวลา?

คำแปล: คุณเข้าร่วมประชุมวันที่…เวลา…ได้มั้ย

  • Can you join the meeting on Friday at 10 a.m.?
    คุณสามารถเข้าร่วมประชุมวันศุกร์ เวลา 10 โมงเช้าได้มั้ย
     

    หรือใช้ประโยคนี้ก็ได้ค่ะ
     

  • Are you available for the meeting on Friday at 10 a.m.?
    คุณว่างสำหรับการประชุมวันศุกร์ เวลา 10 โมงเช้ามั้ย

ได้ใช้แน่นอนเวลาจะถามคนอื่นๆ ว่าเข้าประชุมได้มั้ย ซึ่งจุดที่ต้องระวังก็คือการใช้ on กับ at แค่นั้นเองค่ะ

จำว่า “on ใช้กับวัน ส่วน at นั้นกับเวลา”

ซึ่งอาจจะไม่มาพร้อมกันทั้งสองอย่างก็ได้ เช่นถ้าวันนี้มีประชุมช่วงบ่าย เราก็อาจจะถามว่า Can you join the meeting at 1 p.m.? คนฟังก็จะเข้าใจค่ะว่าหมายถึงวันนี้ หรือถ้าเขาไม่มั่นใจก็จะถามเองว่า Today? (วันนี้เหรอ)

แล้วถ้าอยากบอกว่าพุธนี้, อาทิตย์หน้า, เดือนหน้า ล่ะ? >> ให้ตัด on ออกค่ะ กลายเป็น

  • Can you join the meeting + this Wednesday/next week/next month?

เป็นการถามแบบกว้างๆ ก่อน ยังไม่ได้เจาะจงรายละเอียดเวลาแน่นอน ซึ่งถ้าเขาถามต่อ เราก็ตอบไปได้ค่ะ
 

  • on (วันอะไร) at (เวลาไหน) เช่น on Monday at 1.30 p.m.

7. Sorry, I’m quite busy right now.

คำแปล: ขอโทษนะตอนนี้ฉันยุ่งอยู่

ประโยคนี้ต้องรู้ไว้เลย ไม่งั้นปฏิเสธไม่เป็น รับงานมาทำหัวฟูแน่นอน ส่วนถ้าอยากให้ดูซอฟท์ๆ สวยๆ หน่อย ใช้ประโยคนี้ได้ค่ะ

  • I wish I could help, but I’m busy right now.
    ฉันก็อยากจะช่วยนะ แต่ตอนนี้ยุ่งอยู่น่ะ

ถ้าเราเป็นฝ่ายไปขอความช่วยเหลือคนอื่น ก็อาจจะได้ยินประโยคนี้ได้นะคะ เพราะคงไม่มีใคร say yes กับคำขอของเราทุกรอบแน่ๆ ค่า

8. Can I speak to + ชื่อคน/ชื่อตำแหน่ง?

คำแปล: ขอสายคุณ…หน่อยได้มั้ยคะ/ครับ

  • Can I speak to Mr. Smith?
    ขอสายคุณสมิธหน่อยได้มั้ยคะ/ครับ
     
  • Can I speak to the sales department head?
    ขอสายหัวหน้าฝ่ายขายหน่อยได้มั้ยคะ/ครับ

ใช้เวลาโทรไปขอคุยกับใคร หรือจะใช้คุยต่อหน้าก็ได้ค่ะ เช่นไปถึงโต๊ะเลขาหน้าห้อง แล้วอยากขอคุยกับเจ้านายหน่อย ซึ่งคำตอบที่เราอาจจะได้รับ เช่น

  • Who’s calling, please?
    ไม่ทราบว่าใครโทรมาคะ
     
  • I’m sorry. He’s not available at the moment.
    ขอโทษนะคะ แต่ตอนนี้เขายังไม่ว่างเลยค่ะ
     
  • He’s on the other line.
    เขาติดสายอื่นอยู่ค่ะ
     
  • Just a moment./Hold the line please./Could you hold on, please?
    ถือสายรอซักครู่นะคะ

คำตอบพวกนี้เราสามารถเอาไปใช้ได้เหมือนกันนะคะ ถ้าหากเราเปนคนรับโทรศัพท์เอง ใครเป็นเลขาฯ หรือต้องติดต่อลูกค้า เพื่อนร่วมงานทางโทรศัพท์บ่อยๆ ได้ใช้แน่นอนค่ะ

9. When (What time) can I call you back?

คำแปล: ฉันโทรกลับหาคุณได้เมื่อไร

ประโยคนี้ใช้เวลาเราโทรหาใคร แต่เขายังไม่ว่างคุย ณ ตอนนั้น เราก็ถามกลับไปได้ว่างั้นสะดวกให้เราโทรกลับไปอีกครั้งเมือไรดี คำตอบส่วนมากเขาก็จะบอกช่วงเวลา หรือระยะเวลากลับมาเช่น

  • Can you call me again at 2 p.m.?
    โทรหาฉันอีกทีตอนบ่ายสองได้มั้ย
     
  • Can you call me in 15 minutes?
    อีก 15 นาทีค่อยโทรหาฉันได้มั้ย

หรือถ้าเขาจะเป็นคนโทรกลับมาหาเราเองเมื่อสะดวก ก็จะบอกได้ว่า

  • I’ll call you back when I’m free.
    ฉันจะโทรกลับหาคุณเองเมื่อฉันว่าง
     
  • I’ll call you back in 30 minutes.
    อีก 30 นาทีฉันจะโทรกลับหาคุณนะ

10. Can I take + วัน/อาทิตย์นี้/เดือนหน้า off?

คำแปล: ฉันขอลาในวัน…ได้มั้ย

  • Can I take Monday off?
    ฉันขอลาวันจันทร์ได้มั้ย
     
  • Can I take this Friday off?
    ฉันขอลาวันศุกร์นี้ได้มั้ย

หรือถ้าอยากถามก่อนว่าขอลาซักวันนึงได้มั้ย (ยังไม่รู้ว่าวันไหน) ก็ใช้ประโยคว่า

  • Can I take a day off?
    ฉันขอลาซักวันได้มั้ย

จดให้ไวเลยประโยคนี้ โดยเฉพาะใครที่มีนายต่างชาติ ถึงเวลาจะไปอ้อนนายขอลางานจะได้พูดคล่องๆ นะคะ ^^

 

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับ 10 ประโยคใช้บ่อยในที่ทำงาน จริงๆ แล้วไม่ยากเลย เพียงแต่เราต้องขยันเอามาใช้บ่อยๆ เท่านั้นเอง เวลาจะพูดจะได้นึกประโยคออกทันที ไม่ต้องมานั่งเรียง S. V. ให้ปวดหัว จำเป็นประโยคไปใช้กันได้เลยค่ะ 

 

 

✿ อัพคะแนน TOEIC พร้อมสมัครทุกงาน! เริ่มติวกับครูดิวเลย! 

ติว TOEIC ครูดิว พร้อมลองทำข้อสอบเหมือนจริง

ติว TOEIC กับครูดิว ดียังไง?

  • คอร์สติว TOEIC ของครูดิวนั้น เรียน Online
  • แบ่งบทเรียนชัดเจน เรียนง่ายไม่งง คลิ๊กเลือกบทเรียนที่ต้องการได้ทันที
  • สามารถหยุด, เล่นซ้ำบทเรียนที่ต้องการได้แบบไม่อั้น! (ตลอดระยะเวลาคอร์ส)
  • อัพเดทข้อสอบ New TOEIC ใหม่ล่าสุด! ครบชุด!
  • มีไฟล์ E-Book (PDF) ประกอบการเรียนให้ดาวน์โหลด (และมีหนังสือเรียนเป็นเล่มส่งให้ถึงบ้าน)
  • เรียนเวลาไหนก็ได้ อยู่ที่ไหนก็เรียนได้ แค่มี Internet
  • หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับบทเรียน สามารถส่งคำถามหาทีมงานได้
  • การันตีคะแนน 750+ (หากสอบแล้วไม่ถึง สามารถแจ้งทวนคอร์สได้ฟรี!)

 

ทดลองติว TOEIC ฟรีได้ที่ >>> คอร์ส KruDew TOEIC 

[NEW] การให้เกียรติก็เหมือนอากาศ มองไม่เห็นด้วยตา แต่ขาดไม่ได้ถ้าอยากซื้อใจคนทำงาน – THE STANDARD | แต่ ยัง มี หนึ่ง คํา ถาม ที่ ฉัน ไม่ เข้าใจ – NATAVIGUIDES

เรื่องนี้ผมอยากเขียนไว้เตือนตัวเองมากครับ เพราะรู้ตัวว่ายังทำได้แย่มาก แต่ก็พยายามปรับปรุงตัวอยู่ คิดว่าตอนนี้น่าจะดีขึ้นประมาณ 10-15% แล้วครับ

 

เรื่องที่ว่าคือ บางทีเวลาอารมณ์ไม่ดีจะเหวี่ยงมาก คำพูดคำจา หน้าตา และอาการจะไม่น่าดู

 

ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ดีมากครับ

 

จุดประสงค์ของการเขียนบทความนี้คือ อยากเตือนคนที่เป็นแบบผมครับว่า เรื่องนี้ค่อนข้างซีเรียส และถ้าคุณเป็นเหมือนผม ต้องรีบปรับปรุง

 

สาเหตุที่ต้องปรับปรุง นอกจากจะทำให้คนอื่นอยากทำงานกับคุณมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ผลงานของเขาดีขึ้นด้วย

 

เรื่องมันเป็นแบบนี้ครับ

 

วันนี้ผมได้อ่านหนังสือ ซึ่งเขียนโดย ริชาร์ด รีด หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Innocent เครื่องดื่มที่โด่งดังมากๆ ในยุโรปที่เป็น Case Study เวลาเรานึกถึง David and Goliath เสมอครับ เขาได้ไปคุยกับบุคคลที่ประสบความสำเร็จมากมายและถามคำถามที่ว่า ถ้าต้องสอนสิ่งที่สำคัญที่สุดกับคนอื่นคุณอยากสอนอะไร

 

เขาเล่าถึงอดีตประธานาธิบดี บิล คลินตัน ในทริปที่เดินทางไปแอฟริกาใต้กับ Clinton Foundation ซึ่งตารางการเดินทางมหาโหดมาก เพราะเวลาของคนระดับนี้ต้องใช้ให้คุ้มค่าที่สุด กล่าวคือไปแอฟริกา 8 วัน ก็เยี่ยมมันไปเลย 8 ประเทศ

 

แต่ละวันกิจกรรมก็จะเริ่มตั้งแต่เช้ามืด ด้วยการนั่งรถผ่านถนนลูกรังเป็นชั่วโมงๆ ไปในท้องที่ที่ทุรกันดารเข้าเยี่ยมโครงการต่างๆ เช่น คลินิก HIV สถานรักษาโรคระบาดอย่างมาเลเรีย หรือศูนย์พักพิงสตรี ฯลฯ อย่างน้อยๆ วันหนึ่งก็ต้องไป 4 ที่ และแต่ละที่ก็ไม่ได้ใกล้ๆ กันเลย

 

ในทุกที่ที่ไป บิล คลินตัน ไม่มีทีท่าของอาการเหนื่อยอ่อนแม้แต่น้อย ทันทีที่ลงจากรถ เขาสวมกอดบรรดานางพยาบาลชุมชน พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลศูนย์ต่างๆ ถามไถ่อาการของคนในพื้นที่ เขายังเล่นกับเด็กๆ เต้นรำกับชนเผ่าพื้นเมือง ถ่ายรูป และถ้าหาก บิล คลินตัน เห็นใครที่เหมือนจะขี้อายและไม่อยากพูด เขาจะพยายามให้เวลากับคนนั้นเป็นพิเศษ สร้างความรู้สึกที่ดีๆ แม้กับคนที่อาจจะไม่ค่อยกล้าแสดงออกก็ตาม

 

ท่ามกลางความร้อนระอุของแอฟริกา บิล คลินตัน ในวัยเกษียณ ยังคงรักษาระดับพลังงานไว้ได้ตลอด 8 วันเต็ม ในทุกอีเวนต์ที่ไปเขาดูเหมือนจะไม่แสดงอาการเหนื่อยล้าออกมาให้เห็นเลย

 

เมื่อกลับถึงโรงแรมจากวันที่สุดแสนจะร้อน กิจกรรมแน่นเอี๊ยด และนั่งรถทั้งวัน ถ้าเป็นคนปกติอย่างเราๆ สิ่งที่เราอยากทำคงจะเป็นการอาบน้ำนานๆ และสั่งรูมเซอร์วิสมากิน

 

แต่ บิล คลินตัน ไม่ทำแบบนั้น

 

เขาเดินไปที่ห้องอาหาร พูดคุยหยอกล้อกับพนักงานเสิร์ฟ เล่าเรื่องตลกให้คนในห้องอาหารหัวเราะท้องแข็ง และเมื่อมีคนชวนไปร่วมทานอาหารด้วย เขาก็ไป เพราะเขารู้ว่าสำหรับคนเหล่านั้น มันมีความหมายแค่ไหนที่จะได้ใช้เวลากับอดีตประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

 

เขาให้ความสำคัญกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม

 

เมื่อผู้เขียนถามเขาว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เขาได้เรียนรู้ในชีวิต

 

บิล คลินตัน ใช้เวลาคิดเล็กน้อยก่อนตอบว่า

 

“I’ve come to believe that one of the most important things is to see people. The person who opens the door for you, the person who pours your coffee. Acknowledge them. Show them respect. The traditional greeting of the Zulu people of South Africa is ‘Sawubona’. It means ‘I see you’. I try and do that”

 

“ผมเชื่อว่าหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดคือการได้พบผู้คน คนที่เปิดประตูต้อนรับคุณ รินกาแฟให้คุณ (จง) ยอมรับพวกเขาและเคารพพวกเขา คำกล่าวทักทายตามประเพณีของชาวซูลูในแอฟริกาใต้ก็คือ Sawubona ซึ่งหมายความว่า ‘ฉันมองเห็นคุณ’ ผมพยายามจะทำแบบนั้น”

 

ผมอ่านเรื่องนี้แล้วผมสัญญากับตัวเองว่าจะทำเรื่องนี้ให้ดีขึ้นทุกวัน วันละนิดก็ยังดี

 

ซึ่งถ้าพูดถึงบริบทของการทำงานก็ต้องบอกว่าเรื่องนี้มันตรงกับงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Harvard Business Review ซึ่งเรียบเรียงโดย Krestie Rogers

 

มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ เคยทำการสำรวจคนที่ทำงานกว่า 20,000 คน จากหลายสาขาอาชีพทั่วโลก แล้วพบว่าการได้รับการให้เกียรติ (โดยเฉพาะจากหัวหน้า) คือปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้คนคนหนึ่งรู้สึกดีหรือแย่กับงาน

 

ก่อนที่เราจะพูดถึงว่าการให้เกียรติในบริบทของการทำงานนั้นควรจะทำอย่างไร เราลองมาดูนิยามของคำนี้นิดหนึ่งครับ

 

คำว่าให้เกียรติหรือ Respect ในภาษาอังกฤษนั้นมีด้วยกันสองประเภท อันได้แก่

 

1. Owed Respect:  คือการส่งสัญญาณว่าสมาชิกทุกคนในกลุ่มนั้นเท่าเทียมกัน และทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม ถ้าหากองค์กรหรือกลุ่มใดขาดความให้เกียรติหมวดนี้ สิ่งที่เราจะพบบ่อยๆ คือ การใช้อำนาจในทางที่ผิดของหัวหน้า และการที่ทีมงานรู้สึกขาดความมั่นคงในหน้าที่การงาน

 

2. Earned Respect: คือการส่งสัญญาณว่าคนที่ทำงานได้ดี มีผลงาน หรือพฤติกรรมที่ดีจะได้รับการยอมรับ ซึ่งเป็นลักษณะของการให้เกียรติแก่คนที่สามารถทำผลงานได้ดี และเป็นการส่งสัญญาณว่าองค์กรให้ความสำคัญกับผลงานนั้น

 

แน่นอนว่าในองค์กรหนึ่งๆ ต้องประกอบไปด้วยการให้เกียรติทั้งสองแบบ แต่สิ่งที่ยากสำหรับผู้กำหนดนโยบายหรือวัฒนธรรมองค์กรคือการหาสมดุลระหว่าง Owed Respect และ Earned Respect

 

เพราะถ้ามี Owed Respect มากเกินไป ผลงานหรือความสามารถส่วนบุคคลก็จะไม่ได้รับการให้ความสำคัญเท่าที่ควร สิ่งที่อันตรายคือ คนจะไม่อยากทำงานที่โดดเด่น เพราะทำงานโดดเด่นไปก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร

 

ในขณะที่ถ้าองค์กรไหนเน้น Earned Respect มากเกินไป สิ่งที่อันตรายคือ จะเกิดบรรยากาศของการแข่งขันและชิงดีชิงเด่นกันมากเกินไป บรรยากาศการทำงานอาจจะเป็นแบบเชือดเฉือนกัน ซึ่งก็ไม่ดีต่อกำลังใจของทีมงานโดยรวมอีกเช่นกัน

 

การหาจุดเหมาะสมระหว่างน้ำหนักของ Owed Respect และ Earned Respect จึงเป็นงานอาร์ตมาก แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำเพราะการให้เกียรตินี้จะส่งผลโดยตรงต่อการพัฒนาและมองเห็น ‘ตัวตน’ ของแต่ละคน

 

ซึ่งส่งผลต่อ Career Path รวมไปถึงความกระหายในการเติบโตในหน้าที่การงานด้วย

 

งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าทีมงานที่ได้รับการยอมรับและให้เกียรตินั้นสามารถทำงานได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้รับการให้เกียรติอย่างมาก ไม่ใช่แค่ทำงานดีแต่ยังมีความคิดสร้างสรรค์ ความซื่อสัตย์ และความอดทนมากกว่าอีกด้วย

 

นอกจากนั้น คนที่ได้รับการให้เกียรติยังส่งต่อเรื่องนี้ไปยังคนอื่นรวมถึงในทางกลับกันก็เช่นกัน

 

80% ของพนักงานที่บอกว่าไม่ได้รับการให้เกียรติมีแนวโน้มจะใส่ความพยายามในการทำงานน้อยลง

 

ดังนั้น จึงเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ใกล้ชิดอย่างเดียวไม่พอยังต้องสม่ำเสมอด้วย

 

ข่าวดีคือ ถ้าองค์กรของคุณไม่ได้เป็นองค์กรที่เลวร้ายแบบสุดๆ แล้วล่ะก็ การสร้างวัฒนธรรมแห่งการ ‘ให้เกียรติ’ กันนั้นอยู่ในวิสัยที่ทำได้ โดยการเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบใหญ่โต แต่เป็นการอาศัยความพยายามอย่างต่อเนื่องโดยต้องมีความแนบเนียนและเป็นธรรมชาติด้วย

 

โดยมีแนวทาง 7 ข้อดังต่อไปนี้

 

1. วางเกณฑ์ของการให้เกียรติ

ทีมงานทุกคนต้องได้รับการให้เกียรติอย่างเหมาะสมกับการที่อยู่ในองค์กรเดียวกัน พวกเขาต้องรับการ ‘มองเห็น’ จากผู้บริหารทุกระดับ เรื่องนี้สำคัญมากโดยเฉพาะกับคนที่อยู่ไกลจากระดับบริหาร ยิ่งไกลยิ่งสำคัญ

สิ่งที่หลายคนมักเข้าใจผิดคือ จะเอาเรื่องนี้ไปผูกกับผลตอบแทน ซึ่งต้องบอกว่าไม่เกี่ยวเลย จากงานวิจัยของ Jane Dutton จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน, Gelaye Debebe จากมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน และ Amy Wrzesniewski จากมหาวิทยาลัยเยล ซึ่งทำการวิจัยคนที่ทำงานทำความสะอาดในโรงพยาบาลหลายแห่ง พบว่าบางแห่งคนที่ทำงานทำความสะอาดเหล่านี้ไม่ได้รับการสนใจจากพนักงานส่วนอื่นของโรงพยาบาล และทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน ในกรณีแบบนี้พวกเขาก็จะรู้สึกว่าแค่มาทำงานให้เสร็จๆ แล้วก็กลับไป

 

แต่กับบางทีที่มีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้น เช่น คุณหมอเปิดประตูให้เวลาพวกเขาถือของหนักๆ ความรู้สึกเป็น ‘พวกเดียวกัน’ ของคนเหล่านี้เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย

 

Owed Respect ในบริษัทใหญ่โตอย่างแอปเปิ้ลก็เป็นเรื่องสำคัญระดับต้นๆ เลยเช่นกัน มีกรณีที่พนักงานขายของแอปเปิ้ลเคยเล่าว่าเขาได้มีโอกาสเจอทิม คุก ตอนมาทำงานใหม่ๆ และเขาได้ถามอะไรบางอย่างกับทิม คุก

 

ทิม คุก ตอบเขาราวกับว่าเขาเป็นคนที่สำคัญที่สุดในโลก จะว่าไป ทิม คุก ตอบเขาราวกับว่าเขาเป็น สตีฟ จ็อบส์ วิธีการทำสีหน้า น้ำเสียงของเขาบอกได้ถึงความตั้งใจในการตอบคำถามอย่างมาก

 

วันนั้นเองที่เขารู้สึกว่าเขาไม่ใช่แค่พนักงานธรรมดาๆ แต่เขาเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งในส่วนสำคัญหมื่นๆ ส่วนที่ขับเคลื่อนแอปเปิ้ลอยู่

 

2. เข้าใจวิธีการให้เกียรติที่เป็นปกติขององค์กรคุณ

ต้องเข้าใจว่าทีมงานต้องการอะไร ในบางสถานที่ทำงานการพูดคุยกันเล็กน้อยตอนมาถึงที่ทำงานเป็นการให้เกียรติกัน แต่ในบางสถานที่ทำงานการมาพูดคุยทักทายกันในตอนเช้าอาจจะเป็นการไม่ให้เกียรติกันก็ได้ เพราะทำให้อีกฝ่ายเสียเวลา

 

ดังนั้น ก่อนจะทำอะไรต้องเข้าใจ Context ของสถานที่ทำงานซะก่อน

.

3. เข้าใจว่าการให้เกียรติมีผลต่อเนื่อง

ถ้าคุณให้เกียรติทีมงาน มันมีโอกาสสูงมากที่ทีมงานก็จะไปให้เกียรติลูกค้าด้วยเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าบริษัทที่ติดอยู่ในลิสต์ ‘บริษัทที่น่าทำงานที่สุด’ มักจะอยู่ในลิสต์ของ ‘บริษัทที่มีการบริการลูกค้าดีที่สุด’ ด้วยเช่นกัน

 

4. ใช้ Earned Respect อย่างเหมาะสม

ในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถสร้างองค์กรที่มีทั้ง Owed Respect และ Earned Respect สูงทั้งสองอย่างได้ สำหรับ Owed Respect ซึ่งเป็นพื้นฐานนั้นค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่สำหรับ Earned Respect จะขึ้นอยู่กับสามปัจจัยคือ คำชมจากหัวหน้าโดยตรง การได้รับความใส่ใจจากผู้นำองค์กร และโอกาสในการได้ทำโปรเจกต์ที่จะส่งผลต่อบริษัทมากๆ จากข้อมูลงานวิจัยของแมคคินซีย์ สิ่งต่างๆ ที่กล่าวมาเหล่านี้สร้าง Earned Respect ได้มากกว่าการตอบแทนเป็นตัวเงินเสียด้วยซ้ำ

 

5. Respect ใช้ได้ไม่จำกัดและไม่มีวันหมด

การให้เกียรติไม่เหมือนกับการให้โบนัสตรงที่โบนัสคุณมีจำกัด ถ้าอยากให้คนหนึ่งเยอะ นั่นหมายความว่าจะเหลือให้คนอื่นน้อยลงไปด้วย แต่การให้เกียรติมีไม่จำกัด สามารถให้ได้มากเท่าที่เราอยากให้

 

6. การพยายามให้เกียรติคนอื่น ไม่เสียเวลา แต่จะช่วยประหยัดเวลา

ในความเป็นจริงคือการทำงานมีเรื่องที่เราต้องทำอยู่แล้ว แต่การทำงานแบบให้เกียรติกันนั้นก็เพียงแค่เปลี่ยนวิธีการเท่านั้นเอง

 

7. ต้องจริงใจและตรงไปตรงมา

การชมปลอมๆ การพยายามให้เกียรติคนแบบขอไปที แบบนี้อย่าทำดีกว่าครับ เพราะมีผลเสียมากกว่าผลดี การให้เกียรติคนไม่ใช่โปรเจกต์ แต่เป็นนิสัย ถ้าอยากเปลี่ยนตัวเองต้องทำให้ได้ตลอดรอดฝั่ง และสม่ำเสมอ ทุกอย่างที่ทำต้องออกมาจากข้างใน ไม่อย่างนั้นทีมงานรู้สึกได้แน่นอน

 

ส่วนตัวผมคิดว่าเรื่องนี้สำคัญต่อการเจริญเติบโตขององค์กรแบบสุดๆ เลยนะครับ เหมือนที่ในหนังสือ เคยเขียนไว้ว่า

 

“Respect is like air. As long as its present, nobody thinks about it.  But if you take it away, it’s all that people can think about”

 

“การให้เกียรติก็เหมือนอากาศ ตราบใดที่มันยังมีอยู่ คนจะไม่คิดถึงมัน แต่ถ้าคุณไม่มีมันแล้ว มันจะเป็นสิ่งที่คนนึกถึง”

 

ภาพประกอบ: Pichamon Wannasan


เพื่อนเล่น ไม่เล่นเพื่อน (Just Being Friendly) – Tilly Birds Feat. MILLI |Official MV|


ถ้าเธอให้ฉันเป็นเพื่อนเล่น อย่าเล่นเกินกว่านั้นได้ไหม?
เพลง : เพื่อนเล่น ไม่เล่นเพื่อน (Just Being Friendly)
ศิลปิน : Tilly Birds Feat. MILLI
หยุดคิดแบบนี้
หยุดคิดเลย
รู้สึกดีทั้งที่เป็นแค่เพื่อนกัน
หยุดไว้แค่นี้
หยุดไว้เลย
ได้โปรด เธออย่าเล่นเกินไปกว่านั้น
เล่นทักมาหาฉันเสมอแทบทุกคืนวัน
มากเกินกว่าเพื่อนควรจะเป็น
เล่นเป็นห่วงฉันแม้ในเรื่องที่ไม่สำคัญ
เธอชอบมาทำให้ฉัน เอ๊ะ ยังไง
ที่เล่นแบบนี้นั้นมันแปลว่าไง
ฉันยังสับสนและสงสัย
เป็นเพื่อนกัน ต้องเล่นแบบไหน
ได้แต่พยายามจะไม่คิดอะไร
ที่ไม่ควรคิด
เวลาที่เราใกล้ชิดมากไป
รู้ตัวอีกที ในใจมีแต่คำถาม
มากมายเกินจะทนไหว
บอกฉันทีจะได้ไหม
ถ้าเธอให้ฉันเป็นเพื่อนเล่น
อย่าเล่นเกินกว่านั้นได้ไหม
ถ้าฉันเล่นเกินเส้นไป เธอรับได้ไหม
ช่วยบอกฉันสักที ว่าที่ฉันยืน
เธอยืนที่เดียวกันไหม
หยุดเล่นเกินเพื่อนเล่น
เอ่อ คือตอนนี้เราเป็นแค่เพื่อนกัน
และฉันก็คิด
อยากมีสิทธิ์มากกว่านั้น
(อ๋อ ได้เลย)
งั้นเธอคือเพื่อนสนิทของฉัน
เพื่อนอะไรบอกฝันดีก่อนนอน
เพื่อนแบบไหนดมหัวแล้วบอกหอม
เริ่มไม่แน่ใจ เอาหน้ามาใกล้ตลอด
เวลาฉันต้องการใคร ก็เป็นเธอที่มากอด
ใจเธอคิดเหมือนกันหรือเปล่า
เจอแบบนี้ไป ฉันแอบเผลอใจให้ไปแม้มันไม่อาจเป็นจริง
ถ้าเธอให้ฉันเป็นเพื่อนเล่น
อย่าเล่นเกินกว่านั้นได้ไหม
ถ้าฉันเล่นเกินเส้นไป เธอรับได้ไหม
ช่วยบอกฉันสักที ว่าที่ฉันยืน
เธอยืนที่เดียวกันไหม
ถ้าเธอไม่เคยที่จะรู้สึกเหมือนที่ใจฉันรู้สึก
แค่เพื่อนเล่น ฉันก็เป็นให้เธอไม่ไหว
จะได้พร้อมทำใจ รอให้เธอบอก
ว่าเป็น เพื่อนกันเท่านั้น
หยุดเล่นเกินเพื่อนเล่น
ได้แต่พยายามจะไม่คิดอะไร
ที่ไม่ควรคิด
เวลาที่เราใกล้ชิดมากไป
รู้ตัวอีกที ในใจมีแต่คำถาม
มากมายเกินจะทนไหว
บอกฉันทีจะได้ไหม
ถ้าเธอให้ฉันเป็นเพื่อนเล่น
อย่าเล่นเกินกว่านั้นได้ไหม
ถ้าฉันเล่นเกินเส้นไป เธอรับได้ไหม
ช่วยบอกฉันสักที ว่าที่ฉันยืน
เธอยืนที่เดียวกันไหม
ถ้าเธอไม่เคยที่จะรู้สึกเหมือนที่ใจฉันรู้สึก
แค่เพื่อนเล่น ฉันก็เป็นให้เธอไม่ไหว
จะได้พร้อมทำใจ รอให้เธอบอก
ว่าเป็น เพื่อนกันเท่านั้น
หยุดเล่นเกินเพื่อนเล่น
Tilly Birds
อนุโรจน์ เกตุเลขา l Anuroth Ketlkekha ( IG : 2nd__4th )
ณัฐดนัย ชูชาติ l Nutdanai Chuchat ( IG : billbilly01 )
ธุวานนท์ ตันติวัฒนวรกุล l Thuwanon Tantiwattanaworakul ( IG : milotanti )
Produced by Nutdanai Chuchat (BILLbilly01)
Lyrics by Anuroth Ketlekha (3rd), Chamil Arin, BABEPOOM, MILLI
Composed by Thuwanon Tantiwattanaworakul (Milo Tanti), Anuroth Ketlekha (3rd)
Arranged by Thuwanon Tantiwattanaworakul (Milo Tanti)
Mixed and Mastered by Shane Edwards at Studio 28
Vocals Recorded at Studio 28
Instruments Recorded at Studio 28
Vocals Edited by Korn Mahadumrongkul
Engineered by Nutdanai Chuchat, Shane Edwards
ดาวน์โหลดเพลงนี้ได้ที่ 1230420
ติดต่องานจ้าง 0866696099
เพื่อนเล่นไม่เล่นเพื่อน TillyBirds GeneLab

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

เพื่อนเล่น ไม่เล่นเพื่อน (Just Being Friendly) - Tilly Birds Feat. MILLI |Official MV|

เกิดมาเพื่อฮักอ้าย – ก้านตอง ทุ่งเงิน【OFFICIAL MV】


เพลง : เกิดมาเพื่อฮักอ้าย
ศิลปิน : ก้านตอง ทุ่งเงิน
อัลบั้ม : มัน ม่วน แซบ ชุด 2
Digital Download : 123 1037919 3
KKBOX : http://kkbox.fm/Dc3sQD
iTunes : https://goo.gl/yVIhEK
คุณจะไม่พลาดการติดตาม Music Video ใหม่ๆ และกิจกรรมความเคลื่อนไหวจาก แกรมมี่ โกลด์ ได้ก่อนใคร ที่ YouTube Channel ของ GMM GRAMMY GOLD กดเลย!!!
วันนี้คุณสามารถติดตามชมมิวสิควีดีโอและคว­­ามเคลื่อนไหวทุกศิลปินจาก แกรมมี่ โกลด์ ที่คุณชอบได้อย่างจุใจก่อนใครที่ช่อง แฟนทีวี ทางกล่อง GMM Z เคเบิลทีวีไทยทั่วประเทศหรือดาวน์โหลดแอพล­­ิเคชั่น GMM CHANNEL เพื่อรับชมได้ทุกที่ทุกเวลาที่คุณต้องการ
ได้ฟรีผ่าน iTunes และ Google Play
ติดต่องานแสดงศิลปิน แกรมมี่ โกลด์ โทร.026699159
ติดตามอัพเดทผลงานศิลปินค่ายแกรมมี่ โกลด์ ได้ที่
https://www.facebook.com/prgrammy.gold
https://www.facebook.com/GrammyGoldFAN

ก้านตอง ทุ่งเงิน เกิดมาเพื่อฮักอ้าย
คำร้อง/ ทำนอง งัวน้อย
เรียบเรียง สวัสดิ์ สารคาม

อยากสิถามหัวใจเจ้าของ
เป็นหยังต้องทนเสียใจ
ในเมื่อคนไว้ใจมีใครอื่น
กอดน้ำตาแทนหมอน
นอนเจ็บช้ำกล้ำกลืน
พอสะดุ้งตื่น กะคึดฮอดเขา
คงเป็นเวรหรือกรรมอีหยัง
ที่นางนั้นเฮ็ดเอาไว้
สิหนีไปทางใด๋กะบ่ม้มเจ้า
ได้แต่หายใจคอยอ้ายหวนคืนมาเว้า
ถ้อยคำเก่าเก่ามาเว้าใส่หู
น้องเกิดมาชาตินี้เพื่อฮักอ้าย
คั่นสิตาย กะให้ตายคาอกพี่
เขาให้น้องเกิดมาฮัก
คนหลายใจจั่งพี่ คั่นบ่ตายจากนี้คงบ่ลืมอ้าย
อยากสิถามหัวใจเจ้าของ
เป็นหยังต้องยอมเขาหลอก
น้ำตาไหลป๊อกป๊อกกะเฮ็ดใจได้
ย้อนว่าฮักอ้ายแฮง จึงแข็งใจรออ้าย
อิ่มแล้วเห็นใจคนคอยคนนี้
น้องเกิดมาชาตินี้เพื่อฮักอ้าย
น้องเกิดมาชาตินี้เพื่อฮักอ้าย
คั่นสิตาย กะให้ตายคาอกพี่
เขาให้น้องเกิดมาฮัก คนหลายใจจั่งพี่
คั่นบ่ตายจากนี้คงบ่ลืมอ้าย
อยากสิถามหัวใจเจ้าของ
เป็นหยังต้องยอมเขาหลอก
น้ำตาไหลป๊อกป๊อกกะเฮ็ดใจได้
ย้อนว่าฮักอ้ายแฮง จึงแข็งใจรออ้าย
อิ่มแล้วเห็นใจคนคอยคนนี้
น้องเกิดมาชาตินี้เพื่อฮักอ้าย
น้องเกิดมาชาตินี้เพื่อ…ฮักอ้าย

เกิดมาเพื่อฮักอ้าย - ก้านตอง ทุ่งเงิน【OFFICIAL MV】

สั่งน้ำตาไม่ได้ – เอิ้นขวัญ วรัญญา 【Lyric Version】


เพลง : สั่งน้ำตาไม่ได้
ศิลปิน : เอิ้นขวัญ วรัญญา
อัลบั้ม : New Single
Digital Download : 123 1042330 3
KKBOX : http://kkbox.fm/ac5qzk
iTunes : https://goo.gl/6oBHeU
คุณจะไม่พลาดการติดตาม Music Video ใหม่ๆ และกิจกรรมความเคลื่อนไหวจาก แกรมมี่ โกลด์ ได้ก่อนใคร ที่ YouTube Channel ของ GMM GRAMMY GOLD กดเลย!!!
วันนี้คุณสามารถติดตามชมมิวสิควีดีโอและคว­­­ามเคลื่อนไหวทุกศิลปินจาก แกรมมี่ โกลด์ ที่คุณชอบได้อย่างจุใจก่อนใครที่ช่อง แฟนทีวี ทางกล่อง GMM Z เคเบิลทีวีไทยทั่วประเทศหรือดาวน์โหลดแอพล­­­ิเคชั่น GMM CHANNEL เพื่อรับชมได้ทุกที่ทุกเวลาที่คุณต้องการ
ได้ฟรีผ่าน iTunes และ Google Play
ติดต่องานแสดงศิลปิน แกรมมี่ โกลด์ โทร.026699159

เอิ้นขวัญ วรัญญา สั่งน้ำตาไม่ได้
คำร้อง/ทำนอง ตุ๋ย ด๊ะดาด
เรียบเรียง ธีระพงษ์ ศักดิ์แก้ว

เป็นแค่คน ที่เคยสำคัญ
เป็นความฝัน ที่เกือบจะเป็นจริง
สำหรับฉันเธอคือทุกสิ่ง
แต่ความจริงคือต้องทำใจ
เอ่ยคำลาจากกันด้วยดี
ยังเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกันได้
ไม่เป็นไรหรอกไม่เป็นไร
บอกกับใจเรื่อยมา
ฝืนยิ้มให้เธอเวลาที่เจอกัน
เหงาทุกทีก็มีเธอในความฝัน
อยู่คนเดียวได้ไม่นาน มันก็ร้องไห้
ฉันสั่งน้ำตาไม่ได้ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
ทั้งที่จบไปแล้วตั้งนาน วันนี้เธอนั้นก็มีใคร
ฉันบอกหัวใจเสมอ ว่าอย่าคิดถึงเธอ
แต่ยังทำไม่ได้ ไม่รู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร
ที่จะไม่ให้น้ำตามันไหลมา
เป็นแค่คนอ่อนไหวคนหนึ่ง
สักวันหนึ่งจะลืมเธอให้ได้
ขอสัญญาไว้กับหัวใจ อย่างน้อยฉันก็พยายาม
บอกตามตรงว่ายังเสียดาย
เธอจากไปใจยังมีคำถาม
เลยต้องเจ็บเวลาที่จำ แกล้งทำใจเข้มแข็ง
ฝืนยิ้มให้เธอเวลาที่เจอกัน
เหงาทุกทีก็มีเธอในความฝัน
อยู่คนเดียวได้ไม่นาน มันก็ร้องไห้
ฉันสั่งน้ำตาไม่ได้ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน
ทั้งที่จบไปแล้วตั้งนาน วันนี้เธอนั้นก็มีใคร
ฉันบอกหัวใจเสมอ ว่าอย่าคิดถึงเธอ
แต่ยังทำไม่ได้ ไม่รู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร
ที่จะไม่ให้น้ำตามันไหลมา
ฉันไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร…
ที่จะไม่ให้น้ำตามันไหลมา

สั่งน้ำตาไม่ได้ - เอิ้นขวัญ วรัญญา 【Lyric Version】

ฝากคำถามไว้กับดาว – รัชนก [Official MV]


เพลง : ฝากคำถามไว้กับดาว / รัชนก ศรีโลพันธุ์\r
อัลบั้ม : ชุดที่ 3 ฝากคำถามไว้กับดาว \r
ดาวน์โหลดเพลงรอสาย เพลงเต็ม ริงโทน และ MV 123 1032490 3 \r
iTunes download :: https://itunes.apple.com/th/album/fakkhathamwikabdaw/id568603263\r
\r
รัชนก ศรีโลพันธุ์ ฝากคำถามไว้กับดาว\r
คำร้อง/ทำนอง พงษ์ศักดิ์ ถนอมใจ\r
เรียบเรียง ปาริวัฒน์ สุวรรณชัย\r
\r
\r
ค่ำคืนนี้ดาวยังสวย ยังส่องแสงประดับฟ้า\r
แต่คืนนี้ใจดวงล้า กลับอ่อนไหวและมืดมน\r
จะเอาความเข้มแข็งมาจากไหน มาใช้ในการอดทน\r
เมื่อบางคน เขามาทิ้งไป\r
\r
หากไม่รัก ไม่ทุ่มเท คงไม่เสียใจอย่างนี้\r
เกลียดความจริง ทุกนาที ที่ชีวิตไม่เหลือใคร\r
ผ่านไปจากคืนนี้ ก็อีกเช้า อีกเช้าที่ไร้ความหมาย\r
ถูกขังไว้ ในโลกที่ว่างเปล่า\r
\r
อยากจะถามดาวนั้นเคยรักใครบ้างไหม อยู่ยังไงเมื่อต้องผิดหวัง\r
หลบตรงไหน เมื่อทุกเส้นทาง มีแต่ความปวดร้าว\r
ดาวนั้นเป็นเหมือนฉันบ้างไหม เจ็บแค่ไหนก็ไม่ลืมเขา\r
ช่วยตอบคำถามฉันได้ไหมดาว ฉันต้องทำยังไง\r
\r
หนักแค่ไหน ใจก็รู้ ที่แบกรักไปอย่างนี้\r
ทำไมใจ ไร้ศักดิ์ศรี ยังคิดถึงคนใจร้าย\r
ได้แต่ฝากคำถาม ไว้กับดาว จากนี้จะเป็นอย่างไร\r
เหนื่อยเกินไป อยากลืมทุกเรื่องราว\r
\r
อยากจะถามดาวนั้นเคยรักใครบ้างไหม อยู่ยังไงเมื่อต้องผิดหวัง\r
หลบตรงไหน เมื่อทุกเส้นทาง มีแต่ความปวดร้าว\r
ดาวนั้นเป็นเหมือนฉันบ้างไหม เจ็บแค่ไหนก็ไม่ลืมเขา\r
ช่วยตอบคำถามฉันได้ไหมดาว ฉันต้องทำยังไง\r
\r
อยากจะถามดาวนั้นเคยรักใครบ้างไหม อยู่ยังไงเมื่อต้องผิดหวัง\r
หลบตรงไหน เมื่อทุกเส้นทาง มีแต่ความปวดร้าว\r
ดาวนั้นเป็นเหมือนฉันบ้างไหม เจ็บแค่ไหนก็ไม่ลืมเขา\r
ช่วยตอบคำถามฉันได้ไหมดาว ฉันต้องทำยังไง

ฝากคำถามไว้กับดาว - รัชนก [Official MV]

ไม่เคยถาม -PEACEMAKER 【OFFICIAL MV】


Digital Download :
iTunes Download : http://goo.gl/fGqdpX
KKBOX : http://kkbox.fm/3e0BtE

เพลง : ไม่เคยถาม
ศิลปิน : PEACEMAKER
คำร้อง : อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี (บอย)
ทำนอง : อนุวัฒน์ สงวนศักดิ์ภักดี (บอย)
เรียบเรียง : จรส ฟูพร้อมวงศ์

อัพเดทผลงานศิลปินที่คุณชื่นชอบได้ที่
http://www.facebook.com/gmmgrammyoffi…
http://www.youtube.com/user/gmmgrammy…
https://plus.google.com/+Gmmgrammyoff…
http://www.gmmgrammyofficial.blogspot…

ไม่เคยถาม -PEACEMAKER 【OFFICIAL MV】

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆMAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ แต่ ยัง มี หนึ่ง คํา ถาม ที่ ฉัน ไม่ เข้าใจ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *