Skip to content
Home » [NEW] | การ พูด พ รี เซ้ น ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] | การ พูด พ รี เซ้ น ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

การ พูด พ รี เซ้ น ภาษา อังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

อาหารไทย ผลไม้ไทย และขนมไทย มีความอร่อย และหลากหลายน่ารับประทาน เป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติ วันนี้เรามีประโยคสนทนาภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับการสอบถามถึงความชอบ หรืออยากจะลองกินดูบ้างหรือเปล่า เป็นประโยคภาษาอังกฤษแบบง่าย ๆ ที่เพื่อน ๆ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวัน

อยากกินมั้ย ภาษาอังกฤษ

Thai Fruit and Desserts
ไท้ ฟรุ้ท แอ่นด์ ดิเซิ้ร์ทส์
ผลไม้และขนมไทย
A. CONVERSATION (บทสนทนา)
A: Would you care for some fruit and desserts after dinner?
วูล์ด ยู แค้ร์ ฟอร์ ซัม ฟรุ้ท แอ่นด์ ดิเซิ้ร์ทส์-อั้ฟเทอร์ ดินเหนอร์?
คุณสนใจผลไม้และขนมหลังอาหารบ้างไหมครับ?
B: No, thank you. They’re not for me. I’d like to go on with my beer. Thai beer is very good indeed.
โน้, แธ้งคิว. เดย์เออร์ น้อท ฟอร์ มี้. ไอด์ ไล้ค์ ถุ โก๊ ออน วิธ มาย เบี๊ยร์. ไท้ เบียร์ อิซ ฟ์เว้รี กู๊ด อินดี๊ด
ไม่ ขอบคุณมาก สำหรับผมไม่ ผมจะดื่มเบียร์ต่อ เบียร์ไทย อร่อยจริงๆ
A: Are you sure you won’t try some? Don’t you care for Thai fruit? Could you eat some that goes along well with your beer?
อาร์ ยู ชั้วร์ ยู โว้นท์ ทร้าย สัม? โด๊นท์ ยู แค้ร์ ฟอร์ ไท้ ฝรุท? คูล์ด ยู อีท ซั้ม แดท โก๊ซ์ อะลอง เว้ล วิธ ยัวร์ เบี้ยร์?
คุณแน่ใจหรือว่าจะไม่ลองบ้าง? คุณไม่สนใจผลไม้ไทยหรือ? คุณกินที่มันไปกับเบียร์บ้างได้ไหม?
B: Do you think so? What kind of fruit is it?
ดู ยู ธิ้ง โส? ว้อท ไค้น์ด์-ออฟ ฟรุ้ท อี๊ซ อิท?
คุณคิดอย่างนั้นหรือ? ผลไม้ชนิดไหนล่ะ?
A: Normally, there’s a variety of fruit during this season. We can have a plate of mixed fruit like papaya, pineapple and water melon.
น้อร์มอลลี, แดร์ซ์ อะ ฟ์วะไร้เอะที อ่อฟ ฟรุ้ท ดิ๊วริง ดิซ ซี้ซัน. วี แคน แฮ้ฟว์ อะ เพล้ท อ่อฟ มิกซ์ด์ ฟรุ้ท ไล้ค ผะพ้าหยา ไพ้น์แนพเพิล แอ่นด์ ว้อเทอร์เม้ลอน
ตามปกติมีผลไม้หลายชนิดระหว่างฤดูนี้ เราอาจขอผลไม้รวมสักจาน เช่น มะละกอ สับปะรด และแตงโม
B: And would you please order another bottle of beer? Look! What are the spiny fruits near the cashier counter?
แอนด์ วูล์ด ยู พลี้ซ อ๊อเดอร์ อะนั้ธเธอร์ บ๊อทเทิล อ่อฟ เบี๋ยร์? ลุ้ค! ว้อท อะร์ เดอะ สไป๊นี ฟรุ้ทส์ เนียร์ เดอะ แค้ชเชียร์ เค้าน์เทอร์?
และคุณกรุณาสั่งเบียร์อีกขวดได้ไหมครับ? ดูนั้นซิ ผลไม้เป็นหนามใกล้เค้าน์เตอร์เก็บเงินนั้นคืออะไร?
A: Those are durians. They’re of the most expensive kind of fruit in Thailand. One durian may cost over a hundred baht.
โด๊ซ-อาร์ ดู๊เรียนซ์. เดย์เออร์ อ่อฟ เดอะ โม้ซท์ เอกซ์- เพ้นสิฟว์ ไค้น์ด์ อ่อฟ ฟรุ้ท อิน ไท้แลนด์. วัน ดู๊เรียน เมย์ ค้อช-โอ๊ฟ์เวอร์ อะ ฮั้นด์เรด บ๊าท
เหล่านั้นคือทุเรียน มันเป็นผลไม้ชนิดที่แพงที่สุดในประเทศ ไทย ทุเรียนผลหนึ่งอาจมีราคามากกว่าหนึ่งร้อยบาท
B: It smells so awful. I can’t bear this smell. I don’t like it at all.
อิท สเม้ลซ์ โซ อ๊อฟุล. ไอ ค้านท์ แบ้ร์ ดิ๊ซ สเม้ล. ไอ โด๊นท์ ไล้ค์ อิท แอท-อ๊อล
มันมีกลิ่นแย่เหลือเกิน ผมทนกลิ่นนี้ไม่ได้ ผมไม่ชอบมันเลย
A: But if you taste the meat, you will like it.
บัท อิฟ ยู เท้สท์ เดอะ มี้ท, ยู วิล ไล้ค์-อิท
แต่ถ้าคุณชิมเนื้อ คุณจะชอบมัน
B: And what is beside durians? It’s a kind of spiny fruit too.
แอ่นด์ ว้อท อิซ บีไซ้ด์ ดู๊เรียนซ์? อิทส์ อะ ไคน์ด์ ออฟ สไป๊นี ฟรุ้ท ทู้
และอะไรอยู่ข้างทุเรียน มันเป็นผลไม้มีหนามเหมือนกัน
A: That’s jackfruit. I don’t think you’ve ever tried it before. The yellow meat inside is very sweet and delicious.
แดทส์ แจ๊คฟรุท. ไอ โด๊นท์ ธิ้งค์ ยูฟว์ เอ๊ฟเวอร์ ไทรด์ อิท บีฟ้อร์ เดอะ เย้ลโล มี้ท อิ๊นไซด์ อิซ ฟ์เว้รี สวี้ท แอ่นด์ ดิลี้ชเชียซ
นั้นคือขนุน ผมไม่คิดว่าคุณเคยลองมาก่อน เนื้อสีเหลืองข้างในหวานและอร่อยมาก
B: Let’s try something else, but not durian. Maybe a few pieces of jackfruit too. I’d like to try it.
เล้ทส์ ทร้าย ซั้มธิง เอ๊ลซ์, บัท น้อท ดู๊เรียน. เม้บี อะ ฟิ้ว พี้ซเซซ อ่อฟ แจ๊คฟรุท ทู้. ไอด์ ไล้ค์ ทู ทราย อิท
ขอสั่งอย่างอื่นเถอะ แต่ไม่ไข่ทุเรียน อาจเป็นขนุนสักส์ห้าชิ้นด้วย ผมอยากจะขอลองดู
B: VOCABULARY (คำศัพท์)
fruit (n)    ฟรุ้ท    ผลไม้
desserts (n)    ดิเซิร์ทส์    ของหวาน
care for (v)    แค้ร์ ฟอร์    สนใจ
go on (v)    โก๊ ออน    ทำต่อไป ดำเนินต่อไป
indeed (adv) อินดี๊ด    จริงๆ
go along with (v) โก๊ อะล้อง วิธ เข้ากันได้กับ, ไปกันได้กับ
What kind of…? ว้อท ไคน์ด์ อ่อฟ    ชนิดไหน…?
normally (adv) น้อร์มอลลี    ตามปกติ
a variety of (adj) อะ ฟ์วะไร้เอะที ออฟ     หลายชนิด, นานาชนิด
plate (n) เพล้ท    จาน
mixed (adj) มิกซ์ด์    ปนกัน, ผสมกัน
papaya (n) ผะพ้ายา    มะละกอ
pineapple (n) ไพ้น์แอพเพิล    สับปะรด
water melon (n) ว้อเทอร์ เม้ลอน     แตงโม
counter (n) เค้าน์เทอร์ เค้าน์เตอร์, โต๊ะเก็บเงิน
cashier (n) แค้ชเชียร์    คนเก็บเงิน
spiny (adj) สไป๊นิ    มีหนาม, เป็นหนาม
durian (n) ดู๊เรียน    ทุเรียน
jackfruit (n) แจ๊คฟรุท    ขนุน
expensive (adj) เอกเพ้นสิฟ    แพง
over (adv) โอ๊ฟ์เวอร์    เกิน, เลย, มากกว่า
kind (n) ไคน์ด์    ชนิด
awful (adj) อ๊อฟุล    แย่, ไม่ดี
can’t bear (v)    ค้านท์ แบ๊ร์     ทนไม่ได้ ทนไม่ไหว
beside (prep)    บีไซ้ด์    ข้าง ข้างๆ
sweet (adj)    สวี้ท    หวาน
delicious (adj)    ดิลี้ชเชียซ    อร่อย มีรสดี
order (v)    อ๊อเดอร์    สั่ง
else (pron)    เอ๊ลซ์    อย่างอื่น
try (v)    ทร้าย     ลอง
C. EXPRESSIONS TO REMEMBER (ประโยคที่ควรจำ)
1. Would you care for some fruit and desserts?
วูล์ด ยู แค้ร ฟอร์ ซัม ฟรุ้ท แอ่นด์ ดิเสิร์ทส์?
คุณสนใจผลไม้และขนมไหมครับ?
2. No, thank you.
โน้, แธ้งคิว
ไม่ ขอบคุณมาก
3. They’re not for me.
เดย์เออร์ น้อท ฟอร์ มี้
สำหรับผมไม่
4. I’d like to go on with my beer.
ไอด์ ไล้ค์ ถุ โก๊ ออน วิธ มาย เบี๊ยร์
ผมขอดื่มเบียร์ต่อ
5. Are you sure you won’t try some?
อาร์ ยู ชั้วร์ ยู โว้นท์ ทร้าย สัม?
คุณแน่ใจหรือว่าจะไม่ลองบ้าง?
6. Don’t you care for Thai fruit?
โดนท์ ยู แค้ร์ ฟอร์ ไท้ ฝรุท?
คุณไม่สนใจผลไม้ไทยหรือ?
7. Do you think so?
ดู ยู ธิ้ง โส?
คุณคิดอย่างนั้นหรอ?
8. What kind of fruit is it?
ว้อท ไค้น์ด์-ออฟ ฟรุ้ท อิซ อิท?
ผลไม้ชนิดไหนล่ะ?
9. Normally, there’s a variety of fruit during this season.
น้อร์มอลลี, แดร์ซ์ อะ ฟ์วะไร้เอะที อ่อฟ ฟรุ้ท ดิ๊วริง ดิส ซี้ซัน
ตามปกติมีผลไม้หลายชนิดระหว่างฤดูนี้
10. They’re of the most expensive kind of fruit.
เดย์เออร์ อ่อฟ เดอะ โม้ซท์ เอกช์เพ้นสิฟว์ ไค้น์ด์ อ่อฟ ฟรุ้ท
มันเป็นผลไม้ชนิดที่แพงที่สุด
11. It smells so awful.
อิท สเม้ลช์ โซ อ๊อฟุล
มันมีกลิ่นแย่เหลือเกิน
12. I can’t bear this smell.
ไอ ค้านท์ แบ๊ร์ ดิ๊ช สเม้ล
ผมทนกลิ่นนี้ไม่ได้
13. I don’t like it at all.
ไอ โด้นท์ ไล้ค์ อิท แอท-อ๊อล
ผมไม่ชอบมันเลย
14. I don’t think you’ve ever tried it before.
ไอ โด้นท์ ธิ้ง ยูฟ์ว์ เอ๊ฟเวอร์ ทร้าย อิท บีฟ้อร์
ผมไม่คิดว่าคุณเคยลองมาก่อน
15. Let’s try something else.
เล้ทส์ ทร้าย ซั้มธิง เอ๊ลซ์
ขอสั่งอย่างอื่นเถอะ
16. I’d like to try it.
ไอด์ ไล้ค์ ทุ ทร้าย อิท
ผมอยากจะขอลองดู
D. POINTS OF ATTENTION
(ประเด็นที่ควรสนใจ)
1. การออกเสียง -s, -z, -ez คำกริยาเมื่อใช้กับเอกพจน์บุรุษที่ 3 และคำนามบางคำเมื่อเป็นพหูพจน์ จะต้องเติม -S แค่การออกเสียง ตัว -S อาจออกเป็น -s, -z, -ez แล้วแต่พยัญชนะลงท้ายของคำกริยา หรือคำนาม ในการออกเสียงมีหลักต้องจำดังต่อไปนี้
1.1 -S เมื่ออยู่หลังพยัญชนะไม่มีเสียงลงในลำคอ หรือเรียกว่า พยัญชนะไม่มีเสียง เช่น เสียง k, p, t เป็นต้น ดังปรากฎในคำต่อไปนี้
speaks    สปี๊คส์
walks    ว้อล์คส์
parks    พาร์คส์
works    เวร์คส์
1.2 -Z เมื่ออยู่หลังพยัญชนะมีเสียงลงในลำคอ หรือเรียกว่า พยัญชนะมีเสียง เช่นเสียง b, d, g, l, m, n, r และสระ a, e, i, o, u เป็นต้น เช่นในเสียงต่อไปนี้
robs        ร้อบซ์
plays    เพล้ย์ซ
rubs        รับซ์
sells        เซ้ลซ์
1.3 -ez เมื่ออยู่หลังพยัญชนะที่มีเสียงเสียดสี เช่นที่ลงท้ายด้วยเสียงต่อไปนี้ s, ch, sh, se, tch, ch, dge, ge, ss จะต้องออกเสียงอีกพยางค์หนึ่งเพิ่มขึ้น เช่น
teaches    ที้ชเชซ    สอน
rushes    รัชเชซ    เร่งรีบ
pushes    พุ้ชเชซ    ผลัก
glasses    กล๊าสเซซ    แก้ว
dresses    เดร๊สเซซ    ชุดเสื้อกระโปรง
bridges    บริ๊ดเจซ    สะพาน
2. การใช้คำ too, also, either, as well ซึ่งแปลว่า ด้วยเหมือนกัน ก็ แต่มีวิธีใช้ต่างกันดังนี้
2.1 too ใช้ไนประโยค บอกเล่า หรือ คำถาม แต่ต้อง อยู่ท้ายประโยค เท่านั้น
I like it too.
ไอ ไล้ค์ อิท ทู้
ผมชอบมันเหมือนกัน
They will come too.
เดย์ วิล คั้ม ทู้
พวกเขาจะมาเหมือนกัน
2.2 also ใช้ไนประโยคบอกเล่า หรือคำถาม แต่ต้องอยู่หน้ากริยาแท้ หรือหลังกริยาช่วย เช่น
We also study in this university.
วี อ๊อลโซ สตั๊ดดี อิน ดิซ ยูนิฟเวิ้ร์ซซิที
พวกเราศึกษาอยู่มทาวิทยาลัยนี้ด้วย
I can also speak Spanish.
ไอ แคน อ๊อลโซ สปี๊ค สแป๊นนิช
ผมพูดภาษาสเปนได้ด้วย
2.3 either ใช้ในประโยคปฏเสธเท่านั้น แปลว่า ไม่ด้วย หรือ ไม่เหมือนกัน เช่นในประโยคต่อไปนี้
1. I don’t like durian either.
ไอ โด๊นฑ์ ไล้ค์ ดุ๊เรียน ไอ๊เธอร์
ผมไม่ชอบทุเรียนเหมือนกัน
2. She doesn’t know either.
ชu ด๊าซ:7น โน้ว์ ไอ๊เธอร์
เธอไม่รู้เหมือนกัน
2.4 as well ใช้ในประโยคบอกเล่า แต่จะอยู่ท้ายประโยค หรืออยู่หน้ากริยาแท้ หรือ หลังกริยาช่วยก็ได้ เช่นในประโยคต่อไปนี้
1. You can try it as well.
ยู แคน ทร้าย อิท แอซ เว้ล
คุณลองมันได้เหมือนกัน
2. She may as well want to tell you.
ชี เมย์ แอซ เว้ล ว้อนท์ ทู เท้ล ยู
เธอก็อยากจะบอกคุณ
3. การออกเสียงสูงต่ำในประโยคคำถาม ตอบรับ/ปฏิเสธ การออกเสียงในประโยคคำถาม ตอบรับหรือปฏิเสธ จะออกเสียงสูงในตอนท้ายเช่นเดียวกับภาษาไทย เช่น คุณไปไหม? คุณไปมั้ย? คุณชอบไหม? คุณชอบมั้ย? ภาษาอังกฤษออกเสียงเช่นเดียวกัน ดังประโยคตัวอย่างต่อไปนี้
1. Do you live in Sydney?
ดู ยู ลิ้ฟว์ อิน ซิดหนี?/ดู ยู ลิ้ฟ อิน ซิดนี้ย์?
คุณอยู่ในซิดนีย์มั้ย?
2. Don’t you care for Thai fruit?
โดนท์ ยู แค้ร์ ฟอร์ ไท้ ฝรุท?
คุณไม่สนใจผลไม้ไทยบ้างหรือ?
E. EXERCISES (แบบฝึกหัด)
1. จงอ่านคำต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
speaks    สปี๊คส์    พูด
walks    ว้อล์คส์    เดิน
parks    พ้าร์คส์    จอดรถ
works    เวิ้ร์คส์    ทำงาน
talks        ท้อล์คส์    คุย
keeps    คี้พส์        รักษา
drops    ดร๊อพส์    ทำหล่น
hops        ฮ้อพส์    กระโดด
hopes    โฮ้พส์        หวัง
weeps    วี้พส์        ร้องไห้
hits        ฮิทส์        ตี
beats    บี๊ทส์        เฆี่ยนตี
eats        อี๊ทส์        กิน
sits        ซิ้ทส์        นั่ง
write        ไร้ท์ส์        เขียน
books    บุ๊คส์        หนังสือ
cups        คั้พส์        ถ้วย
hooks    ฮุ้คส์        ขอเกี่ยว
weeks    วี้คส์        สัปดาห์
shops    ช้อพส์    ร้าน
shirts    เชิ้ร์ทส์    เสื้อ
seats    ซี้ทส์        ที่นั่ง
nuts        นัทส์        ถั่ว
huts        ฮัทส์        กระท่อม
notes    โน้ทส์    บันทึก
streets    สตรี๊ทส์    ถนน
banks    แบ๊งค์ส์    ธนาคาร
students    สติ๊วเด้นท์ส์    นักศึกษา
remarks    รีม้าร์คส์    หมายเหตุ
pests    เพ้ซท์ส์    สัตว์ที่เป็นอันตราย
reports    รี้พอร์ทส์    รายงาน
exports    เอ๊กซ์พอร์ทส์    สินค้าออก
months    มันธ์ส์    เดือน
2. จงอ่านคำต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
robs          ร้อบช์    ปล้น
plays     เพล้ย์ซ์    เล่น
rubs        รั้บซ์        ถู
sells        เซ้ลซ์        ขาย
needs    นี้ดช์        ต้องการ
does        ด๊าซ        ทำ
hugs        ฮั้กซ์        กอด
runs        รั้นซ์        วิ่ง
digs        ดิ๊กซ์        ขุด
is        อิซ        เป็น
kills        คิ้ลซ์        ฆ่า
reads    รี้ดซ์        อ่าน
stands    สแต๊นด์ซ์    ยืน
bends    เบ๊นด์ซ์    ก้ม ทำให้งอ
has        แฮ้ซ        มี
leams    เลิร์นซ์    เรียน
sees        ซี้ซ์        เห็น
studies    สตั้ดดีซ์    ดูหนังสือ
stays    สเต๊ย์ซ์    พัก
hands    แฮ้นด์ซ์    มือ
seas        ซี้ซ        ทะเล
fathers    ฟ้าเธอร์ซ์    พ่อ
teachers    ที้ชเชอร์ซ์    ครู
bottles    บ้อทเทิลซ์    ขวด
temples    เท้มเพลซ์    วัด
ladies    เล้ดีซ์        สุภาพสตรี
rooms    รู้มซ์        ห้อง
bees            บี๊ซ์        ผง
tomatoes    โทเม้โทซ์    มะเขือเทศ
yours    ยั้วร์ซ์        ของคุณ
birds        เบิร์ดซ์    นก
schools    สคู้ลซ์    โรงเรียน
pupils    พิ้วพิลซ์    นักเรียน
buildings    บิ้ลดิงซ์    ตึก
theirs    แดร์ซื        ของเขา
doors    ดอร์ซ์        ประตู
nations    เน้ชั่นซ์    ชาติ
countries    คั้นทรีซ์    ประเทศ
chairs    แช้ร์ซ์        เก้าอี้
3. จงอ่านคำต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
teaches    ที้ชเชซ    สอน
rushes    รั้ชเชซ    รีบเร่ง
pushes    พุ้ชเชซ    ผลัก
brushes    บรั้ชเชซ    แปรง
crashes    แคร้ซเขซ    ชน
crushes    ครั้ชเชซ    คั้น
presses    เพร้ซเซซ    กด
dresses    เดร๊ซเซซ    แต่งตัว
addresses  แอดเดร๊ซเซซ    ทักทาย
hatches    แฮ้ทเชซ    ฟักไข่
matches    แม้ทเชซ    จับคู่
dashes    แด๊ชเชซ    พุ่งไป
charges    ช้าร์จเจซ    คิดเงิน
passes    พ้าซเซซ    ผ่าน
branches    บร๊านช์เชซ    สาขา
basis    เบ๊ซิซ     พื้นฐาน
bases    เบ๊เซซ    พื้นฐาน
thesis    เธ้ซิซ    ปริญญานิพนธ์
theses    เธ้เซซ    ปริญญานิพนธ์
analysis    แอนน้าไลซิซ    วิเคราะห์
analyses    แอนน้าไลเซซ    วิเคราะห์
classes    คล้าซเซซ    ชั้น
courses    ค้อรซเซซ    รายวิชา
judges    จั้ดเจซ    ผู้พิพากษา
waitresses    เว้ทเทรซเซซ    คนเสิร์ฟ
buses    บั๊ซเซซ    รถประจำทาง
passages    พ้าซเซซเจซ    ทางเดิน
crisis    ไคร้ซิซ    วิกฤตการณ์
crises    ไคร้เซซ    วิกฤตการณ์
cages    เค้จเจซ    กรง
bridges    บริ๊ดเจซ    สะพาน
messages    แม้ซเซจเจซ    ข่าวสาร
boxes    บ๊อกเชซ    กล่อง
languages    แล้งเกวจเจซ    ภาษา
purposes    เพ้อโพซเซซ    เป้าหมาย
increases     อิ๊นครีซเซซ    การเพิ่ม
4. จงฝึกสนทนาประโยคต่อไปนี้ และใช้คำที่ให้ไว้ในตอนท้ายแทนคำในประโยคที่ขีดเส้นใต้
1. A: I like papaya.
ไอ ไล้ค์ ผะพ้ายา
B: I like papaya too.
ไอ ไล้ค์ ผะพ้ายา ทู้
2. A: She likes pomelo.
ชี ไล้ค์ โพ้ม เมโล
B: We also like pomelo.
วี อ๊อลโซ ไล้ค์ โพ้มเมโล
3. A: They like coffee.
เดย์ ไล้ค์ ค้อฟฟี
B: we like coffee as well.
วี ไล้ค์ ค้อฟฟี แอซ เว้ล
4. A: We don’t like durian.
วี โด๊นท์ ไลค์ ดู๊เรียน
B: I don’t like durian either.
ไอ โด๊นท์ ไล้ค์ ดู๊เรียน ไอ๊เธอร์
coffee        ค้อฟฟี        กาแฟ
tea            ที้            ชา
chocolate        ช้อคโคแลท    ช้อคโคแลต
ovaltine        โอ๊ฟ์วัลทีน        โอวัลติน
milk            มิ้ลค์            นม
durian        ดู๊เรียน        ทุเรียน
pineapple        ไพ้นแนพเพิล    สับปะรด
guava        กว๊าฟ์วา        ฝรั่ง
pomelo        โพ้มเมโล        ส้มโอ
lychee        ลี้ชชี            ลิ้นจี่
coke            โค้ค            โค้ก
pepsi        เพ้พซี        เป๊พซี่
5. ฝึกประโยคสนทนาต่อไปนี้ และใช้คำที่ให้ไว้แทนคำขีดเส้นใต้ดังต่อไปนี้
1. A: Would you care for fruit?
B: No, thank you. I’d like to have icecream, please.
(A)                            (B)
coffee ค้อฟฟี/ค้อฟฝี?            icecream    ไอ๊ซครีม
cake  เค้ค/เขค?                tea    ที้
icecream ไอ๊ซ์ครีม\ไอ๊ซขรีม?     coffee    ค้อฟฟี
milk มิ้ลค์/หมิลค์?            ovaltine    โอ๊ฟ์วัลทีน
coke โค้ค/โขค?                water    ว้อเทอร์
whisky วิซคี/วิซขี?            beer     เบี๊ยร์
brandy แบร๊นด/แบร๊นดี๋?        wine    ไว้น์
gin    ยิ้น/หยิน?                brandy    แบร๊นดี
champagne แชมเพ้นจ์/แชมเผนจ์?
orange juice อ๊อเรนจ์ จู๊ซ
tomato juice โทเม้โท จู๊ซ/โทเม้โท จู๋ซ?
seven-up    เซ้ฟเวนอั้พ
pepsi เพ้พซี่/เพ้พสี?            sprite    สไปร๊ท์
6. จงฝึกประโยคสนทนาต่อไปนี้ และใช้คำที่ให้ไว้แทนคำขีดเส้นใต้ดังต่อไปนี้ (ระวังเสียงเมื่อเป็นคำถามตอบรับ/ปฏิเสธ และเสียงประโยคบอกเล่า)
1. A: Would you please order another bottle of beer?
B: Yes, I’ll order another bottle of beer.
another cup of coffee
อะนัธเธอร์ คั้พ อ่อฟ ค้อฟฝี/ค้อฟฟี
กาแฟอีกหนึ่งถ้วย
three bottles of coke
ธรี้ บ๊อทเทิล อ่อฟ โขค/โค้ค
โคล่าสามขวด
two glasses of milk
ทู้ กล๊าซเซซ อ่อฟ หมิลค์/มิ้ลค์
นมสองแก้ว
three cups of Chinese tea
ธรี้ คั้พ อ่อฟ ไช้นีซ ถี/ที้
ชาจีนสามถ้วย
two bowls of noodle soup
ทู้ โบ๊ลช์ อ่อฟ นู้ดเดิล สุพ/ซุ้พ
ก๋วยเตี๋ยวน้ำสองชาม
two icecream
ทู้ ไอ๊ซ์ขรีม/ไอ๊ซ์ครีม
ไอศกรีมสองถ้วย
two pieces of cake
ทู้ พี้ซเซซ อ่อฟ เขค/เค้ค
ขนมเค้กสองชิ้น
four glasses of water
โฟ้ร์ กล๊าซเซซ อ่อฟ ว้อเถอร์/ว้อเทอร์
นํ้าเย็นสี่แก้ว
a plate of mixed fruit
อะ เพล้ท อ่อฟ มิกซ์ด์ ฝรุท/ฟรุ้ท
ผลไม้รวมหนึ่งจาน
one pitcher of beer
วัน พิทเชอร์ อ่อฟ เบี๋ยร์/เบี๊ยร์
เบียร์หนึ่งเหยือก
two glasses of orange juice
ทู้ กล๊าชเซซ อ่อฟ อ๊อเรนจ์ จู๋ซ/จุ๊ซ
น้ำส้มคั้นสองแก้ว
7. จงอ่านประโยคต่อไปนี้ให้ถูกต้องตามเสียงสูงต่ำ
1. Can you drink?
แคน ยู ดริ๋งค์?
2. Is this yours?
อิส ดิส หยัวร์?
3. Do you feel happy?
ดุ หยุ ฟีล แฮ้พผี?
4. Does this coffee taste bitter?
ด่าส ดิส ค้อฟฟี เทสท์ บิทเถอร์?
5. Did they buy a new car?
ดิด เด่ย์ บ๊าย อะ นิ้ว ขาร์?
6. Did you enjoy the party last night?
ดิด หยุ เอนจ๊อย เดอะ พ้าร์ที ล้าสท์ ไหนท์?
7. Isn’t it good?
อิซซึนท์ อิท กู๋ด?
8. Would you like coffee?
หวูล์ด หยุ ไล้ค์ ค้อฬฝี?
9. Would your care for a piece of cake?
หวูล์ด หยุ แค้ร์ ฟอร์ อะ ฝีซ อ่อฟ เขค?
10. Can we have one more beer?
แคน วี แฮ้ฟว์ วัน มอร์ เบี๋ยร์?
ที่มา:ดร.สุนทร  โคตรบรรเทา

(Visited 6,802 times, 5 visits today)

[Update] months – ครบเครื่องเรื่องเดือนภาษาอังกฤษ รวมทั้งจักรราศรีและอื่นๆที่เกี่ยวกับเดือน | การ พูด พ รี เซ้ น ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

months - เดือนภาษาอังกฤษ
months – เดือนภาษาอังกฤษ

source: thumbs.dreamstime.com

วันนี้ผมอยากจะขอเสนอ คำศัพท์ง่ายๆในภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับเรื่อง เดือนในภาษาอังกฤษ (month in English/month name in English – month อ่านว่า มันธฺ ต้องให้มีเสียง th ด้วยแน่นอนเดือนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่เราทุกคนน่าจะได้เรียนกันมาแล้ว และเป็นคำที่เราใช้บ่อยไม่น้อย เช่นในเวลาที่เรา มีนัด (appointment ) หรือทำ project plan ก็ต้องระบุ วันเดือนและปีที่ project จะเริ่มและจะเสร็จ ดังนั้น เดือนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรมาทบทวนกันหน่อย

เดือนในภาษาอังกฤษทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่า มี 12 เดือน ใน 1 ปี (there are 12 months in a year – แธร์ อาร์ ทเวลฟ์ มั้นธฺซ์ อิน อะ เยียร์) ซึ่งเดือนทั้ง 12 พร้อมกับ ตัวย่อเดือนภาษาอังกฤษ นั้นได้แก่

MonthMonth (ย่อ)คำอ่านเดือน
JanuaryJanแจ๊นยุอะริมกราคม
FebruaryFebเฟ๊บบรุอะริกุมภาพันธ์
MarchMarมาร์ชมีนาคม
AprilAprเอพรึลเมษายน
MayMayเมพฤษภาคม
JuneJunจูนมิถุนายน
JulyJulจุลายกรกฎาคม
AugustAugออ-กัสท์สิงหาคม
SeptemberSepเซพเท็มเบอะร์กันยายน
OctoberOctออคโท๊เบอะร์ตุลาคม
NovemberNovโนเว๊มเบอะร์พฤศจิกายน
DecemberDecดิเซ๊มเบอะร์ธันวาคม

คำที่เรามักใช้กับเดือนในภาษาอังกฤษ
preposition เมื่อพูดเกี่ยวกับเดือนในภาษาอังกฤษ เราก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้คู่กับ preposition ซึ่งเราใช้คำกับคำว่า in, on, during, by

In
ถ้าใช้กับเดือนอย่างเดียวเราใช้ in เช่น

(- ผมเกิดในเดือนกันยายน)

( – เธอต้องไปที่ออสเตรเลียในเดือนมกราคม)

On
แต่ถ้าเมื่อใหร่มีวันเข้ามาด้วย (พร้อมกับเดือน) เราจะใช้ on แทน เช่น

Rosie’s born on January 6th.
(- โรซี่สเกิดวันที่ 6 เดือน มกราคม)

The competition will begin on the 20th of June.
( – การแข่งขันจะเริ่มวันที่ 20 เดือนมิถุนายน)

The project need to finish on March 3, 2015.
(

 

– โครงการต้องเสร็จวันที่ 3 เดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 2015)

During (-ช่วงระหว่าง

During January the average sunshine hours are around eight hours, which is the same as December and February
(- ช่วงระหว่างเดือนมกราคม ระยะเวลาที่มีแสงอาทิตย์โดยประมาณคือ แปดชม. ซึ่งคล้ายๆกับเดือนธันวาคมและเดือนกุมภาพันธ์)

Within (-ภายใน

จุลายเราจำเป็นที่จะต้องทำโครงงานให้เสร็จภายในเดือนกรกฎาคม

By (ภายใน

จุลายเราจำเป็นที่จะต้องทำโครงงานให้เสร็จภายในเดือนกรกฎาคมหน้า/ที่จะถึงนี้

employee of the month
employee of the month

Source:s3.amazonaws.com

Collocation – คำที่เรามักจะใช้กับเดือน

  • early – in early January ( – ต้นเดือนมกราคม)
  • late – in late January (-  ปลายเดือนมกราคม)
  • beginning – at the beginning of January/the month (- ต้นเดือนมกราคม/ต้นเดือน)
  • end – at the end of January/the month (แอท ดิ เอ็น อัฟ แจ๊นยุอะริ/เดอะมันธฺ – ปลายเดือนมกราคม/ปลายเดือน) (เราไม่ใช in the end เพราะ in the end = finally ซึ่งตรงข้ามกับ at first)  นอกจากนี้ยังมีคำว่า month end มันธ์เอนด์ – สิ้นเดือน
  • mid/middle – in mid January (อิน มิด แจ๊นยุอะริ – กลางเดือน) We will arrive on site in mid-January.
  • coming – in the coming January/month (อิน เดอะ คัมมิง แจ๊นยุอะริ/มันธฺ – ในเดือนมกราคม/เดือน ที่กำลังจะมาถึง)
  • last – (แลสทฺ/ลาสทฺ) last January/last Month – เดือนมกราคมที่ผ่านมา/เดือนที่ผ่านมา
  • next – (เนคซฺทฺ) ​next January/next month – เดือนมกราคมหน้า/เดือนหน้า
  • this – (ธีส) ​this January/this month – เดือนมกราคมนี้/เดือนนี้
  • holiday – (ฮาละเดย์)  January/February/… holidays วันหยุดในเดือนมกราคม/กุมพาพันธ์/….
  • first – (เฟิร์สทฺ – อันแรก สิ่งแรก) March was originally the first month of the year in the old Roman calendar  เดิมทีนั้น เดือนมีนาคมเป็นเดือนแรกของปีในปฏิทินดั้งเดิมแบบโรมัน.
  • last – (แลสทฺ/ลาสทฺ – สุดท้าย) December is the last month of the year.
  • following – (ฟาละวิง) in the following month ในเดือนถัดมา
  • before – (บิฟอร์ – ก่อน) in the month before
  • after – (แอฟเทอร์/อาฟเทอร์ – หลัง) in the month after
  • late – (เลทฺ) late this month ปลายเดือนนี้
  • later – (เล’เทอะ) later this month หลังจาก(วัน)นี้ในเดือนนี้
  • of – (อัฟ) the month of June เดือนมิถุนายน The zodiac signs for the month of July are Cancer. (เดอะ โซ’ดิแอค ซายน์ ฟอร์ เดอะ มันธ์ อัฟฺ จุลาย อาร์ แคนเซอร์ – ราศีในเดือนกรกฎาคม คือราศีกรกฎ)

เราพูดถึง เดือนภาษาอังกฤษ เพื่อที่จะให้ข้อมูลสมบูรณ์เราก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่พูดถึง  ชื่อของวันทั้ง 7 วันในหนึ่งสัปดาห์ในภาษาอังกฤษ  (when we talk about name of the months and to have complete information, it is inevitable to talk about the name of 7 days in a week in English)

DayDay (ย่อ)คำอ่านวัน
MondayMonมันดิย์วันจันทร์
TuesdayTueทยูส-ดิย์วันอังคาร
WednesdayWedเวนส-ดิย์วันพุธ
ThursdayThuเธอซ’ดิย์วันพฤหัสบดี
FridayFriไฟร’ดิย์วันศุกร์
SaturdaySatแซท’เทอดิย์วันเสาร์
SundaySunซัน’ดิย์วันอาทิตย์

เมื่อพูดถึงวัน คำ preposition ที่ใช้ ก็ต้อง  เป็น on เช่น on Monday,  on Friday

คำอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับชื่อเดือนในภาษาอังกฤษ

คำเหล่านี้เป็นหน่วยวัดที่ใช้กับเวลา โดยไล่จากหน่วยที่เล็กที่สุดไปหาหน่วยเวลาที่ใหญ่ที่สุด
millisecond (1/1000 seconds) ->  second -> minute -> hour -> day -> week -> month ->  year -> decade (10 years) -> century (100 years) -> millennium (1,000 years) -> era (ยุค)

คำคำย่อคำอ่านคำแปล
millisecond/millisec msec. มิล’ลิเซคเคินดฺ/มิล’ลิเซค 1/1000 วินาที
secondsec.เซคเคินดฺ/มิล’ลิเซควินาที
minutemin.มิน’นิทนาที
hourhr.เอา’เออะชั่มโมง
dayเดย์วัน
weekwk.วีคฺสัปดาห์
monthmo.มันธฺเดือน
yearเยียร์ปี
decadeเดค’เคดทศวรรษ
centuryเซน’ชิวรีศตวรรษ
eraเอีย’ระยุค สมัย


Source:www.offthemark.com

calendar –  แคล’เลนเดอร์ – ปฏิธิน
calendar year – ระยะเวลาหนึ่งปีตามปฏิทิน
calendar month – ระยะเวลาหนึ่งเดือนตามปฏิทิน
leap year –  ลีพ์ เยียร์ – ปีอธิกสุรทิน ปีที่เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน ซึ่งเกิดขึ้นทุก 4 ปี
schedule – เชด’ดูล, สเคด’ดูล – หมายกำหนดการ, ตารางเวลา

Note – หมายเหตุ
นอกจาก in จะใช้กับเดือนแล้ว เรายังใช้กับ
ปี (year -เยียร์) เช่น in 1992, in 2006
ทศวรรษ (decade – เดค’เคด) เช่น in the sixties, in the 1790s
ศตวรรษ (century -เซน’ชิวรี): in the 19th century
ฤดู (season – ซีซั่น) in winter (วิน’เทอะ – ในฤดุหนาว), in summer (ซัม’เมอะ – ในฤดูร้อน), in autumn (ออ’ทัมน์ – ในฤดูใบไม้ร่วง), in spring (อิน สปริง – ในฤดูใบไม้ผลิ), in dry season (อิน ดราย ซีซัน – ฤดูแล้ง)
ช่วงระหว่างวัน (part of the day – พาร์ท ออฟ เดอะ เดย์) in the morning, in the afternoon, in the evening

last January อาจจะทำให้สับสนไม่แน่ใจได้ว่าเป็น last January ของปีนี้หรือของปีที่แล้ว ซึ่งอาจจะต้องถามให้แน่ใจว่า
ถ้าจะลดความสับสนลงโดยอ้างถึงปีนี้เราควรจะใช้ this January/February… หรือ  this past January/Febuary

day-end closing, month-end closing, year-end closing หรือบางที่ก็เรียกว่า daily close/monthly close/yearly close.
สามกลุ่มคำนี้หมายถึงช่วงเวลาในการตรวจสอบหรือปิดงบทางบัญชี (close out the current posting period)
ซึ่งจะเป็นเมื่อใหร่ก็ขึ้นอยู่กับรอบ day-end closing ก็เป็นการปิดบัญชีช่วงสิ้นวัน month-end closing ก็ก็เป็นการปิดบัญชีช่วงสิ้นเดือน year-end close  ก็เป็นการปิดบัญชีช่วงสิ้นปี

lunar month ลู’นะ มันธฺ – เดือนตามจันทรคติ
lunar calendar ลู’นะ แคล’เลนเดอร์ – ปฏิทินจันทรคติ
zodiac โซ’ดิแอค – จักรราศรี The Zodiac is the twelve constellations in the form animals or humans. จักรราศรีคือกลุ่มดาวทั้ง 12  ซึ่งอยู่ในรูปของสัตว์หรือคน
constellation ค้านสเตเลชั่น – กลุ่มดาว
horoscope ฮอร’ระสโคพ – ดวงชะตาราศี

Zodiac – จักรราศรี
เมื่อพูดถึงเดือนในภาษาอังกฤษก็อยากจะพูดถึงราศีในภาษาอังกฤษ ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับเดือนเกิดของแต่ละคน

zodiac – จักรราศี
Source: astrodecision.com

ภาษาละตินคำอ่านภาษาไทยสัญลักษ์Sign
AriesราศีเมษแกะThe Ram
TaurusราศีพฤษภวัวThe Bull
Geminiราศีเมถุนคนคู่The Twins
CancerราศีกรกฎปูThe Crab
Leoราศีสิงห์สิงโตThe Lion
Virgoราศีกันย์หญิงสาวThe Virgin
Libraราศีตุลย์คันชั่งThe Scales
Scorpioราศีพิจิกแมงป่องThe Scorpion
SagittariusราศีธนูคนยิงธนูThe Archer
CapricornราศีมังกรแพะทะเลThe Sea-goat
Aquariusราศีกุมภ์คนแบกหม้อน้ำThe Water Carrier
PiscesราศีมีนปลาThe Fish

เวลาที่จะบอกว่าเราราศีอะไร ก็จะพูดว่า
I am a Virgo ( – ผมอยู่ราศีหญิงสาว)
You were born on January 1st so you are a Pisces. (ยู เวอร์ – คุณเกิดวันที่ 1 เดือนมกราคม ดังนั้นคุณจัดเป็นคนราศีมีน)

Chinese Zodiac – ราศีตามปีเกิดในภาษาอังกฤษ
ทางจีนเขาก็มีราศี แต่ต่างจากทางตะวันตก ราศีของจีนจะไม่ได้แบ่งตามเดือนเกิด แต่แบ่งตามปีเกิดแทน ซึ่งเราเรียกว่า 12 นักษัตร แต่ระรอบก็จะมี 12 ปี ซึ่งมีชื่อดังต่อไปนี้

ปีชวดYear of the rat
ปีฉลูYear of the ox
ปีขาลYear of the tiger
ปีเถาะYear of the rabit
ปีมะโรงYear of the dragon
ปีมะเส็งYear of the snake
ปีมะเมียYear of the horse
ปีมะแมYear of the goat
ปีวอกYear of the monkey
ปีระกาYear of the rooster
ปีจอYear of the dog
ปีกุลYear of the pig

Source: hawaii.hawaii.edu

Put them in sentences

What month were you born in? I was born in May. (what = identify)
คุณเกิดในเดือนใหน? ผมเกิด(ใน)เดือนพฤษภาคม

Which month do you want to go? (which = selection)
คุณอยากไปเดือนใหน?

How many days are there in February? Depends, in a leap year there are 29 days and in a non leap year there are 28 days.
เดือนกุมภาพันธ์มีกี่วัน ขึ้นอยู่กับว่า ถ้าเป็นปีอธิกสุรทิน จะมี 29 วัน และถ้าไม่ใช่ก็จะมี 28 วัน

My friend was born in the year of the snake.
เพื่อนผมเกิดปีมะโรง

I love to sit in the sun in spring.
ผมชอบนั่งตากแดดในฤดูใบไม้ร่วง

In accounting the monthly close is the processing of transactions, journal entries and financial statements at the end of each month
ในทางบัญชี การปิดบัญชีประจำเดือนคือการทำธุรกรรม รายการบันทึก และงบการเงิน ณ วันสิ้นเดือนของแต่ละเดือน

สุดท้ายนี้หวังว่า เกร็ดความรู้ภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับเดือนภาษาอังกฤษ และเกร็ดความรู้อื่นจะมีประโยชน์กับท่านไม่มากก็น้อยนะครับ


Read more at:

วันนี้ผมอยากจะขอเสนอ คำศัพท์ง่ายๆในภาษาอังกฤษที่เกี่ยวกับเรื่องmonth in English/month name in English – month อ่านว่า มันธฺ ต้องให้มีเสียง th ด้วยแน่นอนเดือนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องที่เราทุกคนน่าจะได้เรียนกันมาแล้ว และเป็นคำที่เราใช้บ่อยไม่น้อย เช่นในเวลาที่เรา มีนัด (appointment) หรือทำ project plan ก็ต้องระบุ วันเดือนและปีที่ project จะเริ่มและจะเสร็จ ดังนั้น เดือนภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสำคัญที่เราควรมาทบทวนกันหน่อยเดือนในภาษาอังกฤษทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่า มี 12 เดือน ใน 1 ปี (there are 12 months in a year – แธร์ อาร์ ทเวลฟ์ มั้นธฺซ์ อิน อะ เยียร์) ซึ่งเดือนทั้ง 12 พร้อมกับ ตัวย่อเดือนภาษาอังกฤษ นั้นได้แก่เมื่อพูดเกี่ยวกับเดือนในภาษาอังกฤษ เราก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้คู่กับ preposition ซึ่งเราใช้คำกับคำว่า in, on, during, byถ้าใช้กับเดือนอย่างเดียวเราใช้เช่น- ผมเกิดในเดือนกันยายน)- เธอต้องไปที่ออสเตรเลียในเดือนมกราคม)แต่ถ้าเมื่อใหร่มีวันเข้ามาด้วย (พร้อมกับเดือน) เราจะใช้แทน เช่นRosie’s born on January 6th.- โรซี่สเกิดวันที่ 6 เดือน มกราคม)The competition will begin on the 20th of June.- การแข่งขันจะเริ่มวันที่ 20 เดือนมิถุนายน)The project need to finish on March 3, 2015.- โครงการต้องเสร็จวันที่ 3 เดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 2015)ช่วงระหว่างDuring January the average sunshine hours are around eight hours, which is the same as December and February- ช่วงระหว่างเดือนมกราคม ระยะเวลาที่มีแสงอาทิตย์โดยประมาณคือ แปดชม. ซึ่งคล้ายๆกับเดือนธันวาคมและเดือนกุมภาพันธ์)ภายในจุลายเราจำเป็นที่จะต้องทำโครงงานให้เสร็จภายในเดือนกรกฎาคมภายในจุลายเราจำเป็นที่จะต้องทำโครงงานให้เสร็จภายในเดือนกรกฎาคมหน้า/ที่จะถึงนี้เราพูดถึง เดือนภาษาอังกฤษ เพื่อที่จะให้ข้อมูลสมบูรณ์เราก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่พูดถึง ชื่อของวันทั้ง 7 วันในหนึ่งสัปดาห์ในภาษาอังกฤษ (when we talk about name of the months and to have complete information, it is inevitable to talk about the name of 7 days in a week in English)เมื่อพูดถึงวัน คำ preposition ที่ใช้ ก็ต้อง เป็น on เช่น on Monday, on Fridayคำเหล่านี้เป็นหน่วยวัดที่ใช้กับเวลา โดยไล่จากหน่วยที่เล็กที่สุดไปหาหน่วยเวลาที่ใหญ่ที่สุด(1/1000 seconds) ->->->->->->->->(10 years) ->(100 years) ->(1,000 years) ->(ยุค)- แคล’เลนเดอร์ – ปฏิธิน- ระยะเวลาหนึ่งปีตามปฏิทิน- ระยะเวลาหนึ่งเดือนตามปฏิทิน- ลีพ์ เยียร์ – ปีอธิกสุรทิน ปีที่เดือนกุมภาพันธ์มี 29 วัน ซึ่งเกิดขึ้นทุก 4 ปี- เชด’ดูล, สเคด’ดูล – หมายกำหนดการ, ตารางเวลานอกจากจะใช้กับเดือนแล้ว เรายังใช้กับ-เยียร์) เช่น in 1992, in 2006- เดค’เคด) เช่น in the sixties, in the 1790s-เซน’ชิวรี): in the 19th century- ซีซั่น) in winter (วิน’เทอะ – ในฤดุหนาว), in summer (ซัม’เมอะ – ในฤดูร้อน), in autumn (ออ’ทัมน์ – ในฤดูใบไม้ร่วง), in spring (อิน สปริง – ในฤดูใบไม้ผลิ), in dry season (อิน ดราย ซีซัน – ฤดูแล้ง)- พาร์ท ออฟ เดอะ เดย์) in the morning, in the afternoon, in the eveningอาจจะทำให้สับสนไม่แน่ใจได้ว่าเป็น last January ของปีนี้หรือของปีที่แล้ว ซึ่งอาจจะต้องถามให้แน่ใจว่าถ้าจะลดความสับสนลงโดยอ้างถึงปีนี้เราควรจะใช้ this January/February… หรือ this past January/Febuaryหรือบางที่ก็เรียกว่า daily close/monthly close/yearly close.สามกลุ่มคำนี้หมายถึงช่วงเวลาในการตรวจสอบหรือปิดงบทางบัญชี (close out the current posting period)ซึ่งจะเป็นเมื่อใหร่ก็ขึ้นอยู่กับรอบ day-end closing ก็เป็นการปิดบัญชีช่วงสิ้นวัน month-end closing ก็ก็เป็นการปิดบัญชีช่วงสิ้นเดือน year-end close ก็เป็นการปิดบัญชีช่วงสิ้นปีลู’นะ มันธฺ – เดือนตามจันทรคติลู’นะ แคล’เลนเดอร์ – ปฏิทินจันทรคติโซ’ดิแอค – จักรราศรี The Zodiac is the twelve constellations in the form animals or humans. จักรราศรีคือกลุ่มดาวทั้ง 12 ซึ่งอยู่ในรูปของสัตว์หรือคนค้านสเตเลชั่น – กลุ่มดาวฮอร’ระสโคพ – ดวงชะตาราศีเมื่อพูดถึงเดือนในภาษาอังกฤษก็อยากจะพูดถึงราศีในภาษาอังกฤษ ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับเดือนเกิดของแต่ละคนเวลาที่จะบอกว่าเราราศีอะไร ก็จะพูดว่าI am a Virgo (- ผมอยู่ราศีหญิงสาว)You were born on January 1st so you are a Pisces. (ยู เวอร์- คุณเกิดวันที่ 1 เดือนมกราคม ดังนั้นคุณจัดเป็นคนราศีมีน)ทางจีนเขาก็มีราศี แต่ต่างจากทางตะวันตก ราศีของจีนจะไม่ได้แบ่งตามเดือนเกิด แต่แบ่งตามปีเกิดแทน ซึ่งเราเรียกว่า 12 นักษัตร แต่ระรอบก็จะมี 12 ปี ซึ่งมีชื่อดังต่อไปนี้Whatwere you born? I was born. (what = identify)คุณเกิดในใหน? ผมเกิด(ใน)เดือนพฤษภาคมWhichdo you want to go? (which = selection)คุณอยากไปใหน?How many days are there? Depends, in athere are 29 days and in a non leap year there are 28 days.เดือนกุมภาพันธ์มีกี่วัน ขึ้นอยู่กับว่า ถ้าเป็นปีอธิกสุรทิน จะมี 29 วัน และถ้าไม่ใช่ก็จะมี 28 วันMy friend was born in the year of the snake.เพื่อนผมเกิดปีมะโรงI love to sit in the sunspring.ผมชอบนั่งตากแดดในฤดูใบไม้ร่วงIn accounting theis the processing of transactions, journal entries and financial statements at the end of each monthในทางบัญชี การปิดบัญชีประจำเดือนคือการทำธุรกรรม รายการบันทึก และงบการเงิน ณ วันสิ้นเดือนของแต่ละเดือนสุดท้ายนี้หวังว่าเกี่ยวกับและเกร็ดความรู้อื่นจะมีประโยชน์กับท่านไม่มากก็น้อยนะครับ


การพรีเซนวิจัย (เป็นภาษาอังกฤษ)


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

การพรีเซนวิจัย (เป็นภาษาอังกฤษ)

ภาษาอังกฤษ พูดอังกฤษ แนะนำตัวเองเบื้องต้น: Introducing Yourself in Thai: Learn Thai, Thai lesson,


ก ไก่ Thai Phonetic Alphabet ► shorturl.at/eCGIK
500 Words\u0026Phrases ► shorturl.at/lpNP8
500 วลี ประโยคสั้น ภาษาอังกฤษ ► shorturl.at/kBJTW
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
Please Subscribe ► shorturl.at/lrzMV
More Videos/Languages ► shorturl.at/arvKX
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
♥ ♥ ♥ Thank you! ♥ ♥ ♥
ภาษาอังกฤษ, คําศัพท์อังกฤษ, ไทย อังกฤษ, ศัพท์อังกฤษ, ภาษาอังกฤษ, ภาษา, เรียน ภาษา อังกฤษ, ภาษาไทย, ครูภาษาไทย, เรียน ภาษาอังกฤษเบื้องต้น, English, Thai Learn, Thai lesson, Basic Thai, learning english, english conversation, online english, learn english, listening english practice, conversation, english speaking, listening english, translate english to thai, Thai, Thai language,Thai speaking
พูดอังกฤษเป็นเร็วสำหรับทุกพื้นฐาน: 50 รูปประโยคสำเร็จรูป 150 ตัวอย่าง!
Thai Sentence Starters!
https://www.youtube.com/watch?v=3ssrNqPjJiY\u0026t=985s

ภาษาอังกฤษ พูดอังกฤษ แนะนำตัวเองเบื้องต้น: Introducing Yourself in Thai: Learn Thai, Thai lesson,

12 สำนวนควรใช้ในการพรีเซนต์งาน #KNDVocabClass | คำนี้ดี EP.409


ให้พรีเซนต์เป็นภาษาไทยก็จะตายแล้ว นี่จะให้พรีเซนต์เป็นภาษาอังกฤษเหรอ! ไม่ต้องห่วง เรามีตัวช่วย แต่ที่เหลือก็ต้องดูแลตัวเองโดยการซ้อมไปเยอะๆ จนมั่นใจด้วยล่ะ เพราะต่อให้ศัพท์สำนวนสตรองแค่ไหน แต่ถ้าถึงเวลาจริงตื่นเต้นจนควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ที่ท่องๆ ซ้อมๆ ไว้ก็หายหมดอยู่ดีเด้อ Feat.Get KNDinternGen3
———————————————
THE STANDARD PODCAST : EYEOPENING FOR YOUR EARS
พอดแคสต์จากสำนักข่าว THE STANDARD
Website : https://www.thestandard.co/podcast
SoundCloud: https://soundcloud.com/thestandardpodcast
Spotify : https://open.spotify.com/show/7o7TF3zfPyoydhWxtGSzLC?si=Nb_LuV8NS3C9mJ6ePdXLA
Twitter : https://twitter.com/TheStandardPod
Facebook : https://www.facebook.com/thestandardth/
KNDVocabClass คำนี้ดี TheStandardPodcast TheStandardco TheStandardth

12 สำนวนควรใช้ในการพรีเซนต์งาน #KNDVocabClass | คำนี้ดี EP.409

LET’S LEARN! ออกเสียงสำเนียงออสซี่ 🇦🇺 | AUSTRALIAN Pronunciation 101


Let’s learn Aussie English! 🇦🇺
ภาษาอังกฤษแบบออสเตรเลียมีความแตกต่างจากทั้งอังกฤษและอเมริกา เนื่องจากภาษาได้พัฒนาผสมผสานสำเนียงที่หลากหลายเข้าด้วยกัน เอกลักษณ์เหล่านี้อาจทำให้ผู้ที่ไม่คุ้นเคยพบเจอประสบกับความลำบากในการเข้าใจ แต่ก็เหมือนกับทุกๆ เรื่อง เราสามารถเรียนรู้ทำความคุ้นเคยกับมันและเก่งขึ้นได้ค่ะ! 💪🏻
คลิปนี้มาแบบ informative หน่อยน้า พลอยตั้งใจทำมากๆ เลย กลัวพูดแล้วฟังไม่เข้าใจ 5555 พอได้มั้ยคะ😂 เป็นเบื้องต้น 101 ที่ทุกคนควรรู้เกี่ยวกับสำเนียงนี้ค่ะ มีข้อสงสัยอะไรถามได้เลยน้า💗

LET’S LEARN! ออกเสียงสำเนียงออสซี่ 🇦🇺 | AUSTRALIAN Pronunciation 101

เทคนิคการพูดเปิด Presentation เป็นภาษาอังกฤษให้คนอยากฟังเรา


ไม่เก่งอังกฤษ? ไม่เป็นไร! เพียงแค่เปิด Presentation ด้วยเทคนิค WISE นี้ ก็ทำให้คนฟังอยากฟังเราและมีส่วนร่วมใน Presentation ของเรามากขึ้นทันที

เทคนิคการพูดเปิด Presentation เป็นภาษาอังกฤษให้คนอยากฟังเรา

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN TO MAKE A WEBSITE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ การ พูด พ รี เซ้ น ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *