Skip to content
Home » [NEW] การใช้ Signal words : First, Second, Firstly, Secondly, Finally, Then, Next etc. | another การใช้ – NATAVIGUIDES

[NEW] การใช้ Signal words : First, Second, Firstly, Secondly, Finally, Then, Next etc. | another การใช้ – NATAVIGUIDES

another การใช้: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Table of Contents

มารู้จักกับ Signal Words

หรือ อีกชื่อที่รู้จักกันคือ Connective Words: คำเชื่อมประโยค/วลี ในภาษาอังกฤษ

สวัสดีค่ะนักเรียน ม.3 ทุกคน วันนี้ครูมีเทคนิคที่จะทำให้ทุกคนนำไปปรับใช้กับงานเขียนด้วย  การใช้ตัวเชื่อม (connective words) ในภาษาอังกฤษกันค่ะ โดยปรกติแล้วงานเขียนแบ่งออกออกเป็นสองรูปแบบหลักๆคือ เรียงความ (Essay Writing) กับ พารากราฟ (Paragraph Writing) ขอสรุปสั้นๆง่ายๆ ให้ทุกคนเข้าใจว่า Essay คือเรียงความเพราะฉะนั้นจะยาวกว่า Paragraph ที่เป็นเพียงย่อหน้าหนึ่งเท่านั้นนั่นเองค่ะ  และที่สำคัญถ้าเกิดว่างานเขียนภาษอังกฤษเราดี เราสามารถใช้ยื่นขอทุนไปเรียนต่างประเทศได้ด้วยนะคะ

โครงสร้างของการเขียนในภาษาอังกฤษ

 

โครงสร้างของการเขียนในภาษาอังกฤษประกอบด้วย 3 ส่วนใหญ่ๆ คือ

1. Introduction หรือบทนำ หรือส่วนแรกเพื่อเกริ่นให้ผู้อ่านรู้ว่าเรากำลังจะเล่าถึงสิ่งใดบ้าง
2. Body หรือเนื้อความ เป็นส่วนที่รวมเนื้อหา ทั้งนี้ Body อาจจะแยกย่อยเป็นหลายย่อหน้าก็ได้ค่ะ หน้าที่ของ Body คือการให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยจะประกอบด้วย 3 ส่วนย่อยคือ

  •  Topic Sentence ซึ่งจะอยู่ส่วนแรกของของแต่ละ Body ซึ่งจะทำให้ผู้อ่านทราบว่าเนื้อความย่อหน้านี้จะกล่าวถึงเรื่องอะไร
  •  Supporting sentences ทำหน้าที่ให้ข้อมูลเพิ่มเติมหรือขยายความจาก Topic sentence รวมถึงการยกตัวอย่าง เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจมากขึ้น
  • Concluding sentences เป็น การสรุปย้ำใจความสำคัญ ของย่อหน้าให้ผู้อ่านทราบอีกครั้งนั่นค่ะ

3.Conclusion หรือบทสรุป เป็นการทบทวนและย้ำให้ผู้อ่านทราบว่าผู้เขียนต้องการสื่อสารอะไรให้ผู้อ่านรู้ โดยเนื้อหาเน้นรวบรวมใจความสำคัญจาก Introduction และ Body นั่นเองค่ะ

 

 ประเภทของการจัดระบบย่อหน้างานเขียน

 

 

มารู้จักกับประเภทและโครงสร้างงานเขียนในภาษาอังกฤษกันก่อนนะคะว่าเราควรจัดระบบย่อหน้ายังไงดี

  1. จัดตามลำดับเวลาที่เกิดขึ้น Chronological order
  2. เรียงลำดับตามความสำคัญ Spatial order เช่น การบรรยายลักษณะทางกายภาพ ความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ การเดินทาง เป็นต้น
  3. เรียงลำดับตามความสำคัญของบริบทในเนื้อเรื่อง Climactic order
  4. เรียงลำดับตามหัวข้อสำคัญ Topical order

การใช้ตัวเชื่อม (Connective words)

 

ในภาษาอังกฤษนั้น signal แปลว่า สัญญาณ words แปลว่าคำ เมื่อนำมารวมกันแล้วจะแปลได้ว่า “คำลำดับความสำคัญ” เราจะเจอคำเหล่านี้บ่อยมากเมื่ออ่านงานเขียนในภาษาอังกฤษที่มีการลำดับความสำคัญในเนื้อเรื่อง ทำให้ผู้อ่านสามารถตามเนื้อความที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อได้มากขึ้น
ปรกติจะเจอ Signal words ในสถานการณ์ดังต่อไปนี้

 

ตัวอย่างของการแต่งประโยคด้วย การใช้ตัวเชื่อม (Signal words)

 

 

  1. เมื่อเราต้องการที่จะเล่าเรื่องราวที่ มีลำดับขั้นตอน Chronological order สำหรับวิธีนั้นก็นับเป็นวิธีพื้นฐานที่ทุกๆ คนควรจะต้องรู้ทุกงานเขียนนั้นจะอ่านง่ายได้ก็ต่อเมื่อเรามีการเรียงลำดับเรื่องราวได้ชัดเจน เห็นภาพ และเรียงลำดับความสำคัญว่าอะไรมาก่อนมาหลังเพื่อที่จะทำให้ผู้อ่านสามารถจินตนาการถึงเรื่องราวที่เรากำลังถ่ายทอดได้อย่างเป็นลำดับขั้น ซึ่งเราสามารถใช้คำได้ดังนี้ค่ะ

 

Firstly  อย่างแรกเลย
The first one อันดับแรก
First and foremost สิ่งแรกและสำคัญที่สุด
To start with มาเริ่มกับ
Secondly อย่างที่สอง
The second one ประการที่สอง
Thirdly  อย่างที่สาม
The third one ประการที่สาม

 

 

ดังตัวอย่างต่อไปนี้ค่า

In this world, there are three things that  I love the most.
Firstly, I love my cat because he is my beloved friend.
Secondly, I love my parents because they have unconditional love for me since I was born.
Thirdly, I love studying as I can become smarter every day.

  1. เมื่อเราต้องการบรรยาย Spatial order วิธีนี้นั้นคล้ายๆ กับวิธีแรกนะคะ แต่เราจะไม่ใช้ตัวเลขเข้ามาเกี่ยวข้อง เปลี่ยนเป็นการบรรยายแทน และผู้อ่านจะเข้าใจทุกอย่างเอง เพราะบางครั้งนั้นการเล่าเรื่องโดยใช้ตัวเลขอาจจะทำให้ดูเป็นทางการเกินไปและไม่ลื่นไหลไปกับเนื้อเรื่อง เช่นถ้าเราอยากจะถ่ายทอดประสบการณ์ต่างๆ ที่เราเคยทำมา เราก็ควรจะเลือกใช้คำจำพวกนี้ค่ะ

Begin with (เริ่มต้นที่)

After (หลังจาก)

Before (ก่อนที่จะ)

By the time (ในขณะเดียวกัน)

Then (หลังจากนั้น)

Next (ต่อไป)

มาลองอ่านดูเรื่องเล่าตัวอย่างกันเลยค่ะ

Today, I am going to begin with telling you my personal experience travelling to Bangkok the first time. I took a taxi to the bus station. Then I called my friends to meet me. After that I took Grab from BTS to my apartment.
By the time I was in the car, I felt so tired. What a long day! Next, it would be a nice and comfortable bed to hit the hay. Let’s called it a day!

 

  1. การใช้คำเชื่อมประโยคขัดแย้ง 

    Contrast Words ซึ่งใน

    ประโยคความรวมที่มีลักษณะใจความประโยคที่นำมารวมกันมีลักษณะขัดแย้งกัน เนื้อความไม่คล้อยตามกันไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกันมักเจอคำเชื่อมเหล่านี้

However (อย่างไรก็ตาม) + Sentence
Even though (แม้ว่า) + Sentence
Although (ถึงแม้ว่า)+ Sentence
Despite (ถึงอย่างไรก็ตาม) +Noun
Inspite of+Noun

ตัวอย่างประโยคการใช้งานเวลาเขียน ด้านล่างนะคะ

I enjoyed studying English the last semester; however, in this semester I love Math.
Despite Math, I do enjoy learning Arts.
Although she is lazy, she is the smartest girl in the class.
Even though May loves Tim, he already has a girlfriend.

  1. การใช้ประโยคกล่าวถึงอย่างเป็นเหตุเป็นผลซึ่งกันและกัน

    “Cause (เหตุ) and Effect Connections (ผลที่ตามมา)”

    Because of (เพราะว่า + คำนาม)

    Because, Since (เพราะว่า)
    Accordingly (ดังนั้น)
    Consequently (ดังนั้น)
    According to (เนื่องจาก)
    for (เพราะว่า)
    As (เนื่องด้วย)
    Seeing that (เพราะว่า)
    Now that (เนื่องด้วยว่า)

 

เช่นตัวอย่างในประโยคด้านล่าง

Because of the climate change, we face the first snow in the North of Laos.
The higher temperature also has caused global warming.
Moreover, the increasing of water also affected the great flood last year.

 

  1. เมื่อต้องการที่จะ “สรุปใจความสำคัญของเรื่อง Conclusion” เพื่อที่จะหาที่ลงให้ได้ ในส่วนของการเขียนเรียงความ บทความ และพารากราฟนั้นจำเป็นที่จะต้องสรุปเนื้อหาทั้งหมดให้ผู้อ่านได้เข้าใจให้ได้ว่าที่อ่านมาทั้งหมดนั้น ท้ายสุดแล้ว เขาอ่านเรื่องอะไรอยู่ หรือ Main idea ของเนื้อเรื่องนั้น แท้จริงแล้วคืออะไรกันแน่ เรามักจะต้องเจอคำแหล่านี้

To sum up (โดยสรุป)
Finally (สุดท้ายนี้)
Last (สุดท้าย)
Lastly (อย่างสุดท้าย)
In conclusion (ในส่วนสรุป)
Last but not leat (สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด)

ลองดูตัวอย่างประโยคการใช้ด้านล่างได้เลยค่ะทุกคน

In conclusion, I am so thankful for my friends, parents, and teachers who always love and support me to accomplish great things in my life.

To sum up, there are three main ideas following which are having time to read, creating a good habit, eating on time.

Lastly, there are both pros and cons of working in the city. However,  people who want to diversify more income can do online work in order to avoid working in the city.

 

เป็นยังไงกันบ้างคะนักเรียนที่น่ารักทุกคน ครูหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะนำเทคนิคในการเขียนนี้ไปลองปรับใช้ดูนะคะ เจอกันใหม่กับบทเรียนต่อไป อย่าลืมทบทวนบทเรียนในวีดีโอด้านล่างเด้อ ” วิชาภาษาอังกฤษ ชั้น ม.3 เรื่อง การใช้ Signal words : First, Second, Finally, Then, Next etc. ด้วยนะคะ เลิฟๆ

 

 

 

+1

[NEW] ทบทวนอังกฤษม.ปลาย: การใช้ Other/Others/Another | another การใช้ – NATAVIGUIDES

     สวัสดีค่ะน้องๆ ชาว

Dek-D.com

ช่วงนี้มีคำถามเกี่ยวกับการใช้คำประเภท “อีกอันหนึ่ง, อีกคน, คนอื่น, อันที่เหลือ” เข้ามาเยอะมาก

พี่พิซซ่า

เห็นว่าน้องๆ งงกันเยอะ แถมหัวข้อนี้ยังอยู่ในหลักสูตรมัธยมปลายอีกต่างหาก วันนี้พี่ก็เลยจะมาช่วยอธิบายให้น้องๆ ได้เข้าใจมากขึ้นค่ะ ไปดูกันเลยดีกว่าว่าการใช้ Other, Another, The other และอื่นๆ มันต่างกันอย่างไร

กรณีที่ 1

     มีเพื่อน 3 คน ชื่อโทมัส วิลเลี่ยม และเอ็ดเวิร์ด

     I have 3 friends. One is Thomas. Another one is William. The other (one) is Edward.

     หลังจากแนะนำคนแรกแล้ว เมื่อจะแนะนำคนที่สอง จะเลือกคนไหนมาแนะนำก่อนก็ได้ระหว่าง William และ Edward เป็นการเลือกแบบไม่เฉพาะเจาะจง

     ดังนั้นพี่เลยเลือกใช้

Another

ค่ะ เพราะมันคือ

an + other

ซึ่ง a หรือ an ก็ใช้นำหน้าคำนามเอกพจน์แบบไม่เฉพาะเจาะจงใช่มั้ยคะ 

     

Another

จึงหมายถึง

“อีกคน”

ที่จะเป็นคนไหนก็ได้แบบไม่เฉพาะเจาะจง จะคนไหนหรืออันไหนก็ได้

     ส่วน

The other

หมายถึงคนที่เหลืออยู่ เพราะมาจาก

the + other

ซึ่ง the จะแสดงความชี้เฉพาะ ดังนั้นเมื่อเหลือคนเดียวแล้วก็แสดงว่าเจาะจงหมายถึงคน

นั้นค่ะ

The other

จึงหมายถึง

“คนที่เหลือ”

ค่ะ

     แล้วถ้ามีเพื่อนแค่ 2 คนล่ะ สมมติว่าเหลือแค่โทมัสกับวิลเลี่ยม

     หลังจากแนะนำคนแรกเสร็จแล้ว คนที่สองก็คือคนที่เหลืออยู่ ดังนั้นจึงเป็น

One is Thomas. The other (one) is William.

ได้เลยค่ะ

     แล้วถ้าเพื่อนเยอะกว่า 3 คนนั้นล่ะ จะพูดยังไง

     ตามทฤษฎีก็มีคนแรก คนกลางๆ และคนสุดท้าย ซึ่งก็เขียนได้เป็น

One is Thomas. Another one is William. Another one is Daniel. Another one is Chris. The other (one) is Edward.

ถือว่าถูกตามหลัก แต่ฟังแล้วน่ารำคาญมากค่ะ เหมือนเราพูดว่า อีกคนคือ… ส่วนอีกคน… และอีกคน… มันฟังซ้ำซ้อน จึงควร

พูดเป็น

     One is Thomas. Another one is William. The third one is Daniel. That is Chris. The other (one) is Edward. หรือ

     One is Thomas. Another one is William. The third one is Daniel. The other guys are Chris and Edward. หรือ

     One is Thomas. Another one is William. The third one is Daniel. The others are Chris and Edward.

(ประมาณนี้ หรือจะรวบกันแบบอื่นก็ได้)

     อย่าเพิ่งคิดว่า

The others

คือรูปพหูพจน์ของ

The other

นะคะ เพราะถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าพี่เขียน The other (one) แต่ The others ไม่มีวงเล็บต่อ นั่นคือ

     

The other

เป็นได้ทั้ง Adjective และ Pronoun ค่ะ จะใช้ร่วมกับคำนามอื่นอย่าง the other one, other guys หรือ other person หรือจะใช้เป็นสรรพนามไปเลย

ก็ได้ แต่เมื่อใช้เป็นสรรพนาม จะมีค่าเท่ากับนามเอกพจน์ค่ะ

     

The others

เป็น Pronoun อย่างเดียวค่ะ ตัวมันเองมีค่าเท่ากับคำนามพหูพจน์ ซึ่งพหูพจน์นี้ เราจะรู้จำนวนที่แน่นอน (เพราะมี The ที่ชี้เฉพาะ) แต่ถ้าเป็นสิ่งที่

เหลือแต่ไม่รู้จำนวนแน่นอนก็ใช้

Others เฉยๆ

ไม่ต้องมี The ค่ะ เช่น

     รถขนส้มมาเต็มคัน แต่ดันมีแอปเปิ้ลติดมาลูกนึง ก็เป็น

One is an apple. Others are oranges.

(เราไม่รู้ว่ามีส้มเท่าไหร่)

     สรุปคือ

Other

ในฐานะ Adjective จะตามด้วยคำถามเอกพจน์หรือพหูพจน์ก็ได้

     แต่ถ้า Other ในฐานะคำสรรพนามจะมีค่าเป็นนามเอกพจน์ ส่วน Others เทียบเท่านามพหูพจน์ค่ะ

กรณีที่ 2

     ขออีกอันได้มั้ย

     สมมติว่าไปทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่ง แล้วอาหารจานนี้อร่อยสุดยอด อยากสั่ง “เอาอันนี้อีกอัน” จะต้องใช้

Another

ค่ะ เช่น

     Can I have another …ชื่อสิ่งที่อยากได้…?

     Can I have another one?

     แต่ถ้า

มีของแค่ 2 ชิ้น

แล้วชิ้นที่เพื่อนให้เรามันไม่ถูกใจ จะขอเปลี่ยนเป็นอีกชิ้น คราวนี้เป็นการเฉพาะเจาะจงแล้ว (ก็มีแค่ชิ้นนี้กับชิ้นนั้นนี่นา) เราสามารถพูด

ได้ว่า

     Can I have your other …ชื่อของ…?

กรณีที่ 3

     ถ้ากลุ่มเรากำลังคุยกัน จะใช้อะไรดี

     ถ้ามีแค่เรา

2 คน

คุยกัน ให้ใช้

We talk to each other.

     แต่ถ้าเป็นกลุ่ม

มากกว่า 2 คน

และก็คุยรวมๆ กันทุกคน ไม่ได้ฟังใครพูดคนเดียว ก็ใช้ว่า

We talk to one another.

     ปัจจุบัน คนส่วนมากไม่ค่อยยึดตามหลักการนี้แล้ว แต่จะมองว่าทั้ง each other และ one another มีค่าเท่ากัน ซึ่ง one another เป็นภาษาทางการกว่า each 

other แต่ถ้าน้องๆ ต้องเขียนส่งคุณครู ก็แนะนำให้ใช้ตามหลักการเดิมนะคะ

กรณีที่ 4

     ถ้าเราสนิทกันมากจนแลกเสื้อผ้ากันใส่ได้

     We share each other’s clothes. 

     หลายๆ คนอาจจะไม่แน่ใจว่ามันต้องเป็น Each other’s หรือว่า Each others’ เพราะมันมีเรา 2 คน อย่างนี้ไม่เป็นพหูพจน์หรอ

     จริงๆ แล้ว Each other ก็คือ

each + other

ซึ่ง each หมายถึง “แต่ละ” แสดงว่าเราต้องนับทีละคน แยกกัน ไม่ได้มองรวมกันหลายคน 

   

 Each other จึงเป็นเอกพจน์

และเมื่อจะแสดงความเป็นเจ้าของให้เขียนว่า each other’s ค่ะ

     แม้

Another

จะต้องตามด้วยคำนามเอกพจน์ แต่บางกรณีก็ตามด้วยพหูพจน์ได้อย่างพวกคำบอกเวลา เช่น

     Another 2 days หรือ another few weeks ที่หมายความว่าแต่เดิมให้เวลา 2 วัน หรือ 2-3 สัปดาห์แล้ว แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำ

ให้ต้องเพิ่มหรือต้องเลื่อน

ไปอีก 2 วัน หรือ 2-3 สัปดาห์ค่ะ

     ถ้ายังไม่ค่อยเข้าใจ ลองทำแบบฝึกหัดข้างล่างดูนะคะ จะได้เข้าใจมากขึ้น (ดูเฉลยให้คลุมดำหลังตัวเลือกค่ะ)

     

1. There’s no ___ way to do it.

     other/the other/another

 

other

     

2. Some people like to rest in their free time. ___ like to travel.

     Other/The others/Others

 

Others

     

3. This pie is delicious! Can I have ___ slice, please?

     other/another/others

  

another

     

4.The mall is on ___ side of the street.

     other/another/the other

 

the other

     

5. There were three pens on my table. One is here. Where are ___ ?

     others/the others/the other

 

the others

     

6. Please give me ___ chance.

     other/the other/another

 

another

     

7. He was a wonderful singer. Everyone agreed it would be hard to find ___ like him.

     another/other/the other

 

another

     ถ้าดูเฉลยแล้วไม่เข้าใจว่าทำไมถึงตอบอันนี้ ไม่ใช่อันอื่น ถามได้เลยนะคะ นอกจากนี้พี่อยากให้น้องๆ ลองแต่งประโยคการใช้คำพวกนี้ด้วย จะได้รู้ว่าเข้าใจจริงๆ แล้วหรือไม่ แต่งมาให้พี่ช่วยตรวจก็ได้นะคะ ที่คอมเมนท์ด้านล่างเลย ไม่ต้องเขินค่ะ 555 แล้วเจอกับคอลัมน์ภาษาอังกฤษได้อีกในวันที่ 13 กรกฎาคมนะคะ


TWITTER: @PiZZaDekD

แบบฝึกหัดและภาพประกอบ
www.reuters.com, a4esl.org/q/h/vm/anothertheother.html

อ่านเรื่องราวภาษาอังกฤษดีๆ ย้อนหลังได้ที่นี่ค่ะ

ทบทวนอังกฤษ ม.ปลาย : กริยาตามด้วย -ing กับ to inf.

เคล็ดลับ : เขียนภาษาอังกฤษให้แจ่มเหมือนเจ้าของภาษา!!

8 คู่ศัพท์ที่มีความหมายเกือบเหมือนกัน (และคนใช้ผิดบ่อย)

รู้ไหม? ภาษาอังกฤษก็มีสระเสียงสั้นเสียงยาวนะ

“ภาษาอังกฤษ” สำเนียงออสเตรเลีย รู้มั้ยเป็นยังไง?

รวมศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่ยืมมาจากภาษาอื่น!!


another, other, the other, others, the others แตกต่างกันยังไง ใช้งานยังไง เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ESE


another, other, the other, others, the others แตกต่างกันยังไง ใช้งานยังไง เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ESE
ในคลิปภาษาอังกฤษนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการใช้ another, other, the other, others, the others ทั้งหมด 5 ตัวเลย ว่ามันใช้แตกต่างกันอย่างไร ความหมายในแต่ละสถานการณ์ต่างกันอย่างไร และ ทำยังไงถึงจะรู้ว่าต้องใช้ another, other, the other, others, the others เมื่อเราสนทนาหรือพยายามสื่อสาร และแต่งประโยคเป็นภาษาอังกฤษ พร้อมตัวอย่างประโยคการใช้งานในสถานการณ์จริง
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ครบทุกหลักการใช้งานในคลิปเดียวแบบเต็มสูบทั้งหมด
หากสนใจมาเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว กับทางESE สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ทางช่องทางเหล่านี้นะครับ
อย่าลืมกดติดตามเราทางช่องทางอื่นๆด้วยนะครับ
Follow us on Facebook: https://www.facebook.com/easyandsimpleenglish/
Follow us on Instagram: https://www.instagram.com/ese_stagram_th/
Visit our website: http://easysimpleenglish.com/
Contact: Tel: 0863537300

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

another, other, the other, others, the others แตกต่างกันยังไง ใช้งานยังไง เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ESE

ปวดเบา ปวดหนัก ท้องเสีย ภาษาอังกฤษ


สอบถามเรื่องคอร์ส Line: Aj.Adam, Info.Hollywood, KhunBaiTuey
โทร 02 612 9300, 081 353 7810, 089 422 4546
สนใน sponsor คลิปอาจารย์อดัมติดต่ออีเมล [email protected] หรือโทร 02 612 9300
เรียนกับอดัม: http://www.facebook.com/hollywoodlearning
สาขาเชียงใหม : http://www.facebook.com/hollywoodlearningcm
เรียนออนไลน์กับอดัม: http://www.ajarnadam.tv
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam
FBของซู่ชิง: http://www.facebook.com/jitsupachin
YouTube ของซู่ชิง: http://www.youtube.com/user/jitsupachin
Twitter ซูชิง: http://twitter.com/Sue_Ching

ปวดเบา ปวดหนัก ท้องเสีย ภาษาอังกฤษ

OTHER | ANOTHER | OTHERS | AN OTHER – English Vocabulary and Grammar


English grammar lesson | other | another | others
Hi Guys!
In today’s video, learn the difference between OTHER | ANOTHER | OTHERS | AN OTHER.
These words may look very similar, but they are used in different ways.
If you SUBSCRIBE to my channel and turn on those NOTIFICATIONS, you’ll never miss a lesson.
Would you like to SUPPORT my channel? https://kofi.com/arnel
INSTAGRAM: https://www.instagram.com/arnelseverydayenglish/
FACEBOOK: https://www.facebook.com/ArnelsEverydayEnglish/
I hope this lesson is helpful! Thank you very much for watching 😊
Arnel

OTHER | ANOTHER | OTHERS | AN OTHER - English Vocabulary and Grammar

another กับ other ใช้ต่างกันอย่างไร


เรียนกับอดัม: http://www.AjarnAdam.TV
FBของอดัม: http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
Twitter: http://twitter.com/AjarnAdam

another กับ other ใช้ต่างกันอย่างไร

ติว TOEIC: Correlative Conjunction (คำเชื่อมที่มาเป็นคู่ๆ) มีอะไรบ้าง? มาดูกันเลยค่ะ


Correlative Conjunctions ได้แก่พวก either or, neither nor, not only but also, both and ซึ่งมักจะมาเป็นคู่ๆ ดังนั้นในข้อสอบ TOEIC ถ้าเจอเรื่องนี้จะมีวิธีสังเกตยังไงบ้าง ตามครูดิวมาดูเลยค่ะ

✿ คอร์สครูดิว ติว TOEIC มีอะไรให้บ้าง? ✿
✅ติวเทคนิค TOEIC Grammar ที่ใช้สอบ ครบถ้วน สอนจากพื้นฐาน เรียนได้ทุกคนแน่นอน
✅เก็งศัพท์ TOEIC ออกข้อสอบบ่อยๆ ให้ครบ ไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งรวบรวมเอง
✅ ติวข้อสอบ New TOEIC ล่าสุด ทั้ง TOEIC Reading และ Listening
✅สามารถสอบถามข้อหรือจุดที่สงสัยได้ตลอด
✅การันตี 750+ (ถ้าสอบแล้วไม่ถึง สามารถทวนคอร์สได้ฟรี)
📣 ถ้าไม่อยากพลาดคลิปดีๆแบบนี้ อย่าลืมกด ❤️ Subscribe ❤️กันนะคะ

ติว TOEIC: Correlative Conjunction (คำเชื่อมที่มาเป็นคู่ๆ) มีอะไรบ้าง? มาดูกันเลยค่ะ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ another การใช้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *