Skip to content
Home » [NEW] การใช้ Present simple vs Present continuous | present continuous ตัวอย่าง ประโยค – NATAVIGUIDES

[NEW] การใช้ Present simple vs Present continuous | present continuous ตัวอย่าง ประโยค – NATAVIGUIDES

present continuous ตัวอย่าง ประโยค: คุณกำลังดูกระทู้

Present continuous หรือบางคนเรียก Present progressive เป็นรูปที่ แสดงกิจกรรมหรือการกระทำที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ขณะที่กำลังพูด (an activity that is in progress right now) ซึ่งก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะจบสิ้นการกระทำนั้นเมื่อใด แต่ที่แน่ๆ คือจะจบในอนาคต ตอนไหนไม่รู้ โดยมากมักมีคำ หรือวลี ชี้แสดงว่ากำลังเกิดขึ้นในขณะที่พูดถึงการกระทำนั้นๆ เช่น right now, at the moment, now
ตัวอย่าง
John is repairing a car at the moment.
จอห์นกำลังซ่อมรถยนต์อยู่ตอนนี้
It’s noon. I am eating lunch at the cafeteria right now.
มันเป็นเวลาเที่ยงวัน ฉันกำลังทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารอยู่ขณะนี้ Ann can’t come to the phone now because she is taking a shower.
แอนไม่สามารถมารับโทรศัพท์ตอนนี้ได้ เพราะเธอกำลังอาบนํ้า

ส่วน Present simple ใช้เพื่อแสดงทั้งอุปนิสัยหรือการกระทำตามปกติในชีวิตประจำวัน (daily habits or usual activities) หรือเพื่อแสดงถึงความเป็นจริงเสมอ (general statements of fact) มักจะเป็นหลักความจริงทางวิทยาศาสตร์
ตัวอย่าง
Mark is a mechanic. He repairs cars.
มาร์คเป็นช่างเครื่องยนต์ เขาซ่อมรถยนต์
Ann takes a shower every day.
แอนอาบน้ำทุกวัน
The earth revolves around the sun.
โลกหมุนรอบดวงอาทิตย์
A square has four equal sides.
สี่เหลี่ยมจัตุรัสมีด้านเท่ากัน 4 ด้าน

ลองดูตัวอย่างที่มีทั้ง Present continuous และ Present simple ใน ข้อความต่อไปนี้แล้วลองหาเหตุผลดูว่าทำไมบางข้อความจึงใช้ Present continuous บางข้อความใช้ Present simple
John is a journalist. He writes for a newspaper. He isn’t at work at the moment. He’s at home. He’s repairing his car.
จอห์นเป็นนักข่าว เขาทำงานเขียนให้กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ขณะนี้เขาไม่ทำงาน เขาอยู่บ้าน เขากำลังซ่อมรถยนต์ของเขา

อธิบาย ในข้อความ He writes for a newspaper. ใช้กริยา writes ใน รูป Present simple ก็เพราะเป็นกิจกรรมปกติที่เขากระทำประจำเสมอ นั่นคือการเป็นนักข่าว ส่วนในข้อความ He’s repairing his car. ใช้กริยา ’s repairing (= is repairing) ในรูป Present continuous ก็เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเดี๋ยวนี้คือเขาไม่ได้ไปทำงาน อยู่บ้าน จึงใช้เวลาซ่อมรถของตนเอง
Michael is a mechanic. He repairs cars. He isn’t at work now. He’s at home. He’s writing a letter.
ไมเคิลเป็นช่างเครื่องยนต์ เขาซ่อมรถยนต์ ตอนนี้เขาไม่ทำงาน เขาอยู่บ้าน เขากำลังเขียนจดหมาย

อธิบาย ในข้อความ He repairs cars. ใช้กริยา repairs ในรูป Present simple ก็เพราะเป็นงานอาชีพที่เขากระทำอยู่เป็นประจำ นั่นคือ การเป็นช่างเครื่องยนต์ ส่วนในข้อความ He’s writing a letter. ใช้กริยา ’s writing (= is writing) ใน รูป Present continuous ก็เพราะเป็นเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ คือเขาไมได้ไปทำงาน อยู่บ้าน เขียนจดหมาย
Present
อธิบาย จากการสนทนาของบุคคล 2 คนในภาพซ้ายมือหญิงคนหนึ่งถามว่า “เคนอยู่ที่ไหน’’ หญิงอีกคนตอบว่า “เขากำลังชมโทรทัศน์’’ การที่หญิงคนนี้ตอบเช่นนี้ก็เพราะเธอรู้ว่าขณะนี้นายเคนกำลังชมโทรทัศน์อยู่ และภาพที่แลเห็นเมื่อมองผ่านประตูห้องเข้าไปก็พบว่า “นายเคนกำลังชมโทรทัศน์’’ อยู่ ในขณะที่หญิงคนแรกถาม จึงพอจะกล่าวได้ว่า เราใช้ Present continuous เพื่อบ่งบอกว่าเหตุการณ์หรือกิจกรรมนั้นๆ กำลังดำเนินอยู่ในขณะที่พูดถึงในขณะปัจจุบัน เป็นการกระทำชั่วคราว มิได้ทำเป็นนิจสิน

สำหรับภาพทางขวามือ หญิงคนที่หนึ่งรู้ว่านายเคนชมข่าวทางโทรทัศน์ทุกเย็นจนเป็นนิสัยที่ทำมาโดยตลอดไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในอุปนิสัยของนายเคนซึ่งเป็นสามีของเธอ จึงพอจะกล่าวได้ว่าเราใช้ Present simple เพื่อบ่งบอกถึงการกระทำที่ทำซ้ำๆ หรือทำเป็นนิสัย เป็นการถาวร ทำเป็นนิจสิน

ต่อไปนี้จะขอเปรียบเทียบการใช้ Present simple และ Present continuous โดยละเอียดทีละเรื่องๆ ดังนี้
1. การกระทำเป็นกิจวัตร (routine) กับการกระทำที่เกิดขึ้นขณะที่กำลังพูด (moment of speaking)
ตัวอย่าง
1. James works for an investment magazine. Every month he writes articles about investment opportunities.
เจมส์ทำงานกับนิตยสารการลงทุนทุกเดือนเขาเขียนบทความเกี่ยวกับ โอกาสการลงทุน
2. Take these figures to James. He needs them fot”an article he is writing.
จงเอาตัวเลขเหล่านี้ไปให้เจมส์ เขาต้องใช้มันเพราะเขากำลังเขียน บทความเรื่องหนึ่ง

อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 เป็นการกล่าวถึงสิ่งที่เจมส์ทำอยู่ประจำเป็นนิจสิน ถือเป็น routine จึงใช้รูป Present simple ส่วนในตัวอย่างที่ 2 เป็นการกล่าวถึงสิ่งที่นายเจมส์กำลังกระทำอยู่ในขณะที่กำลังกล่าวถึง จึงใช้รูป Present continuous
2. กิจกรรมทั่วไป (general activities) กับกิจกรรมที่เกิดขึ้นในขณะ ปัจจุบัน (current activities)
ตัวอย่าง
1. I work for ‘Teletraining’ We make training video.
ผมทำงานกับเทเลเทรนิ่ง เราทำวิดีโอเพื่อการฝึก

2. At the moment we’re making a training video for British Telecom.
ขณะนี้พวกเรากำลังทำวิดีโอเพื่อการฝึกให้กับบริษัทบริติชเทเลคอม
อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 เป็นการกล่าวถึงกิจกรรมปกติทั่วไปที่คนงานใน บริษัทเทเลเทรนิ่งทำ จึงใช้รูป Present simple ส่วนในตัวอย่างที่ 2 เป็นการกล่าวถึงกิจกรรมที่เกิดขึ้นในขณะปัจจุบันกำลังพูดถึง จึงใช้รูป Present continuous

3. สถานการณ์ถาวร (permanent situations) กับสถานการณ์ชั่วคราว (temporary situations)
ตัวอย่าง
1. Peter lives in London.
ปีเตอร์อาศัยอยู่ในลอนดอน
2. Peter is staying in a hotel.
ปีเตอร์พักอยู่ใน โรงแรม
อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 เป็นการกล่าวถึงสภาพการณ์ที่ถาวร นั่นคือปีเตอร์มีที่อยู่อาศัยในลอนดอน จึงใช้รูป Present simple ส่วนตัวอย่างที่ 2 เป็นการกล่าวถึงสถานการณ์ชั่วคราว ปีเตอร์มาพักที่โรงแรม จึงใช้รูป Present continuous

4. ความจริงตลอดกาล (facts) กับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างช้าๆ (slow changes) .
ตัวอย่าง
1. As a rule, cheap imports lead to greater competition.
ตามหลักเกณฑ์แล้ว สินค้านำเข้าราคาถูกทำให้เกิดการแข่งขันกันเพิ่มขึ้น
2. Cheap imports are leading to the closure of many factories.
สินค้านำเข้าราคาถูกกำลังทำให้โรงงานหลายแห่งปิดกิจการ
อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 เป็นการกล่าวถึงความเป็นจริงแน่นอน เพราะเมื่อสินค้านำเข้าราคาถูกก็จะเกิดการแข่งขันกันสูง จึงใช้รูป Present simple ส่วนตัวอย่างที่ 2 เป็นการกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอย่างช้าๆ ในขณะนี้ จึงใช้รูป Present continuous

5. ตารางเวลาหรือโปรแกรมที่กำหนดไว้แน่นอน (fixed timetable or program) กับแผนการที่ตระเตรียมไว้ว่าจะทำในอนาคต (arranged plans for the future)
ตัวอย่าง
1. The film starts at 7.30 and finishes at 9.00.
ภาพยนตร์เริ่มฉายเวลา 7.30 น. และสิ้นสุดเวลา 9.00 น.
2. I’m meeting Sarah at 9.00 p.m. on Saturday.
ผมจะพบปะกับซาร่า 9 โมงวันเสาร์
อธิบาย ในตัวอย่างที่ 1 เป็นการกล่าวถึงโปรแกรมที่กำหนดไว้ตายตัวแล้ว จึงใช้รูปคำกริยาเป็น Present simple ส่วนในตัวอย่างที่ 2 เป็นการกล่าวถึงแผนการที่ได้ตระเตรียมไว้ว่าจะทำในอนาคต จึงใช้รูปคำกริยาเป็น Present continuous

6. คำกริยาไร้การเคลื่อนไหว (stative verbs) เป็นคำกริยาที่บ่งบอก สภาพการณ์ (states) ไม่บ่งบอกการเคลื่อนไหว (actions) ดังนั้นคำกริยาประเภทนี้จึงมักจะไม่ใช้ในรูป continuous ได้แก่
6.1 คำกริยาที่เกี่ยวกับความคิด (verbs of thinking) ได้แก่ believe, doubt, imagine, know, realize, suppose, understand, think*
6.2 คำกริยาเกี่ยวกับประสาทสัมผัส (verbs of senses) ได้แก่ hear, smell, sound, taste
6.3 คำกริยาเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของ (verbs of possession) ได้แก่ belong to, have* (= possess), own, possess
6.4 คำกริยาเกี่ยวกับอารมณ์ (vebs of emotion) ได้แก่ dislike, hate, like, love, prefer, regret, want, wish
6.5 คำกริยาเกี่ยวกับรูปร่าง (verbs of appearance ) ได้แก่ appear, seem
6.6 คำกริยาอื่นๆ (other verbs) ได้แก่ contain, depend on, include, involve, mean
(คำที่มีเครื่องหมาย * ได้แก่ think และ have สามารถเป็นได้ทั้งรูป Simple และ Continuous)
ตัวอย่าง
ผิด     I’m sorry, I’m not understanding what you mean.
ถูก     I’m sorry, I don’t understand what you mean.
ผมเสียใจ ผมไม่เข้าใจว่าคุณหมายถึงอะไร
ผิด     I am hearing a bird.
ถูก     I hear a bird.
ดิฉันได้ยินเสียงนก
ผิด     Are you believing in flying saucers ?
ถูก     Do you believe in flying saucers ?
คุณเชื่อในเรื่องจานบินหรือเปล่า
ผิด     I’m thinking that grammar is difficult.
ถูก     I think that grammar is difficult.
ผมคิดว่าไวยากรณ์เป็นเรื่องยาก
ผิด     I think about grammar right now.
ถูก     I am thinking about grammar right now.
ผมกำลังคิดถึงเรื่องไวยากรณ์อยู่ตอนนี้

ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 57,801 times, 3 visits today)

[NEW] ตัวอย่างการใช้ Present Perfect Continuous | present continuous ตัวอย่าง ประโยค – NATAVIGUIDES

Present perfect continuous (เพรเซ่นทฺ เพอเฟ็กทฺ คอนทินิวเอิส) หรือ บางคนเรียก Present perfect progressive (เพสเซ่นทฺ เพอเฟ็กทฺ โพรเกรสซิฟวฺ) มีรูปและการใช้ดังนี้

รูปของ Present Perfect Continuous
(1) Statement form (สเตทเม้นทฺ ฟอม) หรือในภาษาโทยเรียกว่า “รูป บอกเล่า’’ ประกอบด้วย
ภาคประธาน + have/has + been + กริยาแท้เติม ing + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
อธิบาย ภาคประธาน (Subject ซับเจ็กทฺ) คือคำนามหรือสรรพนามที่ทำ หน้าที่เป็นผู้กระทำในอาการกิริยานั้นๆ
have เป็นคำกริยาช่วย ใช้เมื่ออยู่หลังภาคประธานที่เป็นพหูพจน์ (มีจำนวนมากกว่าหนึ่ง) หรือเป็นสรรพนาม ได้แก่ I, We, They
has เป็นคำกริยาช่วย ใช้เมื่ออยู่หลังภาคประธานที่เป็นเอกพจน์ (มีจำนวนเพียงหนึ่ง) หรือเป็นสรรพนามได้แก่ He, She, It
ภาคกรรมหรือส่วนขยาย (object or modifier อ็อบเจ็กทฺ ออ โมดิไฟเออะ) คือส่วนที่ทำให้ประโยคสมบูรณ์
ตัวอย่าง
I have been working for two hours.
ผมทำงานมาเป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว (แสดงว่า ทำงานโดยไม่ได้หยุดเลย
จนถึงบัดนี้)
He has been watching TV since 8 p.m.
เขาชมโทรทัศน์มาตั้งแต่ 2 ทุ่มแล้ว (แสดงว่า ชมมาตลอดตั้งแต่ 2 ทุ่ม จนถังบัดนี้)

(2) Negative form (เนเกอทิฟวฺ ฟอม) หรือในภาษาไทยเรียกว่า “รูป ปฏิเสธ’’ ประกอบด้วย
ภาคประธาน + haven’t/hasn’t + been + กริยาแท้เติม ing + ภาคกรรม หรือส่วนขยาย   
อธิบาย haven’t คือรูปย่อของ have not ซึ่ง have ถูกทำให้รูปปฏิเสธ โดยเติม not ข้างหลัง
hasn’t คือรูปย่อของ has not ซึ่ง has ถูกทำให้เป็นรูปปฏิเสธโดยเติม not ข้างหลัง
ตัวอย่าง
I haven’t been working for two hours.
ผมไม่ได้ทำงานมาตลอดเป็นเวลา 2 ชั่วโมงแล้ว (แสดงว่าไม่ได้ทำงานใดเลย จนถึงบัดนี้)
She hasn’t been washing clothes since she came back.
เธอไม่ได้ซักเสื้อผ้าเลยนับตั้งแต่ที่เธอกลับมา

(3) Yes-No question (เยส โน เควสเชิ่น) หรือในภาษาไทยคือ “คำถาม ที่ผู้ตอบจะตอบว่า Yes/No” ประกอบด้วย
Have/Has + ภาคประธาน + been + กริอาแท้เติม ing + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
อธิบาย Have เป็นกริยาช่วย ใช้เมื่อประธานของประโยคเป็นสรรพนาม I, We, You, They หรือ นามพหูพจน์ เช่น My friends, Mr. and Mrs. Brown เป็นต้น

Has เป็นกริยาช่วย ใช้เมื่อประธานของประโยคเป็นสรรพนาม He, She, It หรือนามเอกพจน์ เช่น Mr.Brown, My friend เป็นต้น

ท้ายประโยคคำถาม ต้องมีเครื่องหมาย ? (question – mark) ด้วย
ตัวอย่าง
Have you been doing a lot of cooking ?
คุณปรุงอาหารได้เยอะแล้วยัง (ตั้งแต่เริ่มปรุงมาจนถึงบัดนี้)
Has Helen been living here long ?
เฮเลนได้มาอาศัยอยู่ที่นี่นานแล้วหรือยัง (ตั้งแต่ต้นจนถึงบัดนี้)

(4) Wh-word question (ดับเบิลยู เอช เวิด เควสเชิ่น) หรือในภาษา ไทยคือ “คำถามที่ขึ้นต้นประโยคด้วย Wh-words ได้แก่ What, When. Where, Why, How long …. ฯลฯ’’ ประกอบด้วย
Wh-word + have/has + ภาคประธาน + been + กริยาแท้เติม ing +
ภาคกรรมหรือส่วนขยาย       
ยกเว้น “Who” ซึ่งแบ่งได้ 2 โครงสร้างคือ
Who + have/has + been + กริยาแท้เติม ing + ภาคกรรมหรือส่วนขยาย
เมื่อคำตอบเป็นภาคประธานของประโยค
Who + have/has + ภาคประธาน + been + กริยาแท้เติม ing + ส่วนขยาย
เมื่อคำตอบเป็นภาคกรรมของประโยค
ตัวอย่าง
How long have you been working for the company ?
คุณทำงานกับบริษัทนี้มานานเท่าใดแล้ว (ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน) Where have you been sleeping lately?
คุณไปนอนที่ไหนมาเมื่อเร็วๆ นี้ (ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน)
Susan has been waiting for Thomas for two hours.
A : Who has been waiting for Thomas for two hours ?
B : Susan.
ก – ใครที่รอโทมัสมาเป็นเวลาถึง 2 ชั่วโมง
ข – ซูซาน
A : Who has Susan been waiting for two hours ?
B : Thomas.
ก – ใครคือผู้ที่ซูซานรอคอยมานานถึง 2 ชั่วโมง
ข – โทมัส

การใช้ Present Perfect Continuous
1. ใช้แสดงช่วงเวลา (duration) ของกิจกรรมหรือการกระทำที่ได้เกิดขึ้น มาในอดีต และดำเนินสืบเนื่องเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันโดยไม่ขาดช่วง ปกติมักมีคำ หรือวลีที่แสดงเวลา (time expressions) อาทิ for (เป็นเวลา) since (ตั้งแต่) until now (จนถึงบัดนี้) all moming/evening/night/day/week/month/ year (ตลอด เช้า/บ่าย/เย็น/ กลางคืน/วัน/สัปดาห์/เดือน/ปี up to now (จนถึงเดี๋ยวนี้) all my life (ตลอดชีวิต) so far (ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา) recently/ lately (เมื่อไม่นานมานี้) อยู่ภายในประโยค
ตัวอย่าง
I have been sitting here since seven o’clock.
ผมนั่งอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ 7 โมงแล้ว
It has been raining all day. It is still raining right now.
ฝนตกตลอดทั้งวัน จนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังคงตกอยู่
Has Mr. Smith been working in the office all day?
นายสมิธทำงานในที่ทำงานตลอดทั้งวันใช่ไหม
Susan has been waiting for a bus for an hour.
ซูซานรอคอยรถประจำทางมาเป็นเวลา 1 ชั่วโมงแล้ว

หมายเหตุ (1) since (ซิ้นซฺ) ในที่นี้หมายถึง “ตั้งแต่” แสดงจุดใดจุดหนึ่งของเวลา (a point of time) อาทิ since 4:00 (ตั้งแต่บ่าย 4 โมง) since this morning (ตั้งแต่เช้านี้) since last week (ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว) since then(ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา) เป็นต้น

(2) for (ฟอร์) ในที่นี้หมายถึง “เป็นระยะเวลา” แสดงปริมาณมากน้อยของเวลา (an amount of time) อาทิ for five minutes (เป็นระยะเวลา 5 นาที) for two days (เป็นระยะเวลา 2 วัน) for several years (เป็นระยะเวลาหลายปี) เป็นต้น

(3) all (ออล) ในที่นี้หมายถึง “ตลอดช่วงเวลา” วางหน้าคำที่แสดงช่วงเวลาหนึ่ง (a time period) อาทิ all evening (ตลอดช่วงเย็น) all week (ตลอดสัปดาห์) all semester long (ตลอดภาคการศึกษา) เป็นต้น

2. ใช้แสดงการกระทำหรือกิจกรรมที่ดำเนินเรื่อยมาในอดีตจนจบสิ้นเมื่อไม่นานมานี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกระทำนั้นยังมีผลให้แลเห็นอยู่ในปัจจุบัน
ตัวอย่าง
It has been snowing before now.
หิมะตกมาตลอดก่อนหน้านี้ (ตอนนี้หยุดตกแล้ว แต่ยังมีหิมะให้แลเห็น ทั่วไปบนพื้น)
Have you been running ? You look hot.
คุณวิ่งมาใช่ไหม ดูท่าทางคุณจะร้อน (ตอนนี้ไม่ได้วิ่งแล้ว)
We have been reviewing our software development program. เราทำการทบทวนโปรแกรมการพัฒนาซอฟต์แวร์ (ทำมาตั้งแต่อดีต และปัจจุบันยังแลเห็นผลของการกระทำนั้น)

3. ใช้เพื่อกล่าวถึงการกระทำหรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ (repeated actions or situations) ในช่วงเวลาหนึ่งๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน หรือเสร็จสิ้นเมื่อไม่นานมานี้
ตัวอย่าง
I have been having driving lessons for six months.
ผมเรียนขับรถยนต์มาเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว (เรียนมาตลอด ปัจจุบันก็ ยังคงเรียนอยู่)
How long have you been living in New York?
คุณอาศัยอยู่ที่นิวยอร์กมานานเท่าไรแล้ว (อาศัยอยู่โดยตลอด)

ที่มา:รองศาสตราจารย์ทณุ  เตียวรัตนกุล

(Visited 29,519 times, 1 visits today)


Present Continuous Tense 📝


İngilizce’nin \”Present Continuous Tense\” ünitesini bu videoda anlatıyoruz. Sakın kaçırma! 😎
Yepyeni içerikler yolda, haberdar olmak için abone olmayı unutma 👉http://bit.ly/2Z2tqA1
Tamamen web sitesine özel, okul müfredatına göre düzenlenmiş ve güncel konu anlatımları içeren eğitimler Tonguç Akademi Sınıf Paketi’nde! Daha fazla bilgi için 👉http://tongucakademi.com/UyelikPaketleri
Tonguç Akademi kitaplarını buradan inceleyebilirsin 👉 https://tongucmagaza.com/

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Present Continuous Tense  📝

Learn English for Kids. Present Continuous Tense for kids


Learn English for Kids. ESL Students and will love this Present Continuous Tense video for kids. In the first part, students will learn about the affirmative or positive form. In the second part, English learners will learn about the negative form. In the third part, ESL students will learn about the interrogative or question form. Enjoy.
For more interactive ESL games and videos online check out: https://www.sanookenglish.com

Learn English for Kids. Present Continuous Tense for kids

Tense ตอน 2 Present Simple vs Present Continuous ภาษาอังกฤษ ป.4 – ม.6


Tense ตอน 2 Present Simple vs Present Continuous
ภาษาอังกฤษ ป.4 ม.6
มาตราฐาน ต 2.2
มาดูหลักการใช้และความแตกต่างระหว่าง Present Simple และ Present Continuous
โครงการพัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ DLIT (Distance Learning Information Technology)
http://www.dlit.ac.th

Tense ตอน 2 Present Simple vs Present Continuous ภาษาอังกฤษ ป.4 - ม.6

อ่านแถลงการณ์หน้าสถานทูตเยอรมนี #ม็อบ14พฤศจิกา64


ชมคลิปอื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ https://thestandard.co/video/
———————————————
THE STANDARD : STAND UP FOR THE PEOPLE
สำนักข่าวที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารในแนวทางสร้างสรรค์
THE STANDARD Website : http://www.thestandard.co
Facebook : https://www.facebook.com/thestandardth
Twitter : https://twitter.com/thestandardth
Ig : @thestandardth.ig
TheStandardco TheStandardth StandUpforThePeople

อ่านแถลงการณ์หน้าสถานทูตเยอรมนี #ม็อบ14พฤศจิกา64

How to Use the Present Continuous – English Verb Tenses Grammar Lesson


Learn how to use the present continuous verb tense in English. You can see different meanings of the present continuous and how to use them in English. Practice this tense and more with a certified English teacher: http://bit.ly/ooeteachers.
See the full version of this free lesson, including the full script and a quiz, here: https://www.oxfordonlineenglish.com/usepresentcontinuousverbtensevideolesson
In this lesson, you can learn about the present continuous verb tense in English.
Do you know to form and use the present continuous? Like many verb tenses in English, the present continuous has many different uses and meanings. You can learn more in this class.
You’ll see all the possible meanings of the present continuous; whether you’re a beginner or an advanced learner, you’re sure to find something new.
You can learn:
How to use the present continuous to talk about actions happening now or around this moment.
How to use the present continuous to talk about temporary or changing situations.
Using the present continuous to talk about the future.
Advanced ways to use the present continuous verb tense.
SUBSCRIBE to continue improving your English! https://goo.gl/UUQW8j
Become an OOE member to see our newest lessons before they’re available to the public, and more! https://www.youtube.com/channel/UCNbeSPp8RYKmHUliYBUDizg/join
You can see more of our free English lessons on this page: https://www.oxfordonlineenglish.com/freeenglishlessons

How to Use the Present Continuous - English Verb Tenses Grammar Lesson

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ present continuous ตัวอย่าง ประโยค

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *