Skip to content
Home » [NEW] การใช้ Possessive nouns คำนามแสดงความเป็นเจ้าของในภาษาอังกฤษ | การ แสดง ความ เป็น เจ้าของ – NATAVIGUIDES

[NEW] การใช้ Possessive nouns คำนามแสดงความเป็นเจ้าของในภาษาอังกฤษ | การ แสดง ความ เป็น เจ้าของ – NATAVIGUIDES

การ แสดง ความ เป็น เจ้าของ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

*ในตารางของช่อง คำคุณศัพท์แสดงความเป็นเจ้าของ Possessive adjective ถึงแม้จะไม่ใช่คำสรรพนาม แต่ครูจิ๊บใส่เข้ามาเพื่อให้พวกเราได้เทียบกับคำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive pronoun) เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้น เรื่องคำสรรพนาม

เรามาดูคำสรรพนามในแต่ละประเภทอย่างละเอียดกันค่ะ

Table of Contents

คำสรรพนามที่เป็นประธาน

มีคำว่า I, you, we, they, he, she, it ซึ่งหมายความว่าคำสรรพนามเหล่านี้จะต้องอยู่หน้าคำกริยาในประโยค เช่น

คำสรรพนาม บุรุษที่ 1 คำว่า I, we ซึ่งคำว่า we เป็นคำพหูพจน์ ที่รวม I หรือฉันเข้าไปด้วย
คำสรรพนาม บุรุษที่ 2 คำว่า you เป็นได้ทั้งรูปเอกพจน์และพหูพจน์
คำสรรพนาม บุรุษที่ 3 คำว่า they เป็นคำพหูพจน์ he, she, it เป็นเอกพจน์

  • I thought that this handbag had been stolen.
  • She regretted taking this job offer.
  • My neighbor has a dog. It barks so loud at night.

คำสรรพนามที่เป็นกรรม

มีคำว่า me, you, us, them, him, her, it ซึ่งจะอยู่ตามหลังคำกริยาในประโยค เช่น

  • Please don’t forget to wake me up tomorrow.
  • The coach told them to work harder.
  • The driver dropped her off at the office.

คำสรรพนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ

(Possessive pronoun) เช่น his, hers, theirs, mine, ours, yours ซึ่งจะใช้แทนคำนามที่บอกความเป็นเจ้าของที่มีการกล่าวถึงไปแล้วซึ่งจะต่างจาก Possessive adjective เช่น my, your, our, their, his, her, its

  • The police towed a car from the street. It was yours.
    คำว่าyours สื่อถึงรถที่ถูกลากไปซึ่งเป็นของเธอหรือแทนคำว่า your car
  • Do you like the buns? They are mine.
    คำว่า mine สื่อถึงขนมปังที่ถูกพูดถึง หรือแทนคำว่า my buns นั่นเอง
  • Whose notebook is this on my desk? Tony’s or Tina’s? I think it’s his.
    คำว่า his สื่อถึงสมุดของโทนี่ หรือแทนคำว่า Tony’s notebook นั่นเอง

Reflexive

คือ คำสรรพนามที่ลงท้ายด้วย -self หรือ -selves ขึ้นอยู่กับจำนวนของประธานในประโยคโดยใช้เพื่อสะท้อนถึงประธานในประโยคที่เป็นผู้กระทำกริยาที่กล่าวถึงในประโยคนั้นเอง ประธานและกรรมจะเป็นคน หรือสิ่งเดียวกัน

คำกริยาเหล่านี้สามาถใช้ Reflexive ตามหลังเพื่อเป็นกรรมได้

– blame        – introduce
– enjoy         – satisfy
– kill             – teach
– prepare     – dress

เช่น

  • I introduced myself to the group.
  • Don’t blame yourself for this.
  • The boy hurt himself while learning how to ride a bike.
  • She drove by herself for the first time.

Possessive nouns คือ การทำคำนามให้อยู่ในรูปของการแสดงความเป็นเจ้าของ สามารถทำได้ 2 วิธีดังต่อไปนี้

1. การใช้ Apostrophe + s (‘s)

โดยนำ ‘s ไปใส่ที่ท้ายคำนามที่ต้องการแสดงความเป็นเจ้าของ ซึ่งคำนามเอกพจน์ (Singular Noun) และคำนามพหูพจน์ (Plural Noun) มีวิธีการใส่ ‘s แตกต่างกันดังนี้

คำนามเอกพจน์ (Singular Noun) สามารถใส่ ‘s ที่หลังคำนามนั้นได้ทันที เช่น a boy’s bike, a girl’s book, a student’s name

Ex. My girlfriend’s favorite food is salad.
(อาหารโปรดของแฟนสาวของผมคือสลัด)

Ex. This is Jenny’s car.
(นี่คือรถของเจนนี่)

Ex. Who’s bag is this?
(กระเป๋าใบนี้คือของใคร)

Ex. Where is Phravid’s watch?
(นาฬิกาของประวิตรอยู่ที่ไหน)

หมายเหตุ:
หากชื่อบุคคลที่เป็นเจ้าของสิ่งนั้นลงท้ายด้วย s สามารถใส่ ‘s หรือใส่เพียง ‘ (Apostrophe) ก็ได้ เช่น Mr. Jones’s car / Mr. Jones’ car, James’s book / James’ book

Ex. James’s house is very big. หรือ James’ house is very big.
(บ้านของเจมส์ใหญ่มาก)

หากมีผู้เป็นเจ้าของร่วมกันมากกว่าหนึ่ง จะใส่ ‘s ท้ายคำนามที่เป็นเจ้าของคนสุดท้าย เช่น John and Jan’s house, Tom and Tim’s car

Ex. John and Jan’s house is luxury.
(บ้านของจอห์นกับแจนหรูหรา)

Ex. Tom and Tim’s car is old.
(รถของทอมและทิมเก่า)

หากต่างคนต่างเป็นเจ้าของสิ่งของคนละชิ้น จะใส่ ‘s ท้ายคำนามที่เป็นเจ้าของทุกคน เช่น John’s and Jan’s houses , Tom’s and Tim’s cars

Ex. John’s and Jan’s houses are luxury.
(บ้านของจอห์นและบ้านของแจนต่างก็หรูหรา)

Ex. Tom’s and Tim’s cars are old.
(รถของทอมและรถของทิมต่างก็เก่า)

คำนามพหูพจน์ (Plural Noun) เนื่องคำนามพหูพจน์มีทั้งแบบที่เติม s  กับคำนามพหูพจน์แบบผิดปกติ (Irregular Plural Noun) ที่เปลี่ยนรูป ซึ่งทั้งสองแบบนี้มีวิธีการใส่ ‘s ที่ต่างกันดังนี้

คำนามพหูพจน์ที่ลงท้ายด้วย s จะใส่ Apostrophe (‘) เพียงอย่างเดียวท้ายคำนามพหูพจน์นั้น เช่น The girls’ bags, sisters’ books

Ex. The players’ shirts are red.
(เสื้อของเหล่าผู้เล่นคือสีแดง)

Ex. Where are the dogs’ bones?
(กระดูกของพวกหมาอยู่ที่ไหน)

Ex. Fortunately, the girls’ toilet was open.
(โชคดีจัง ห้องน้ำของผู้หญิงเปิดอยู่)

คำนามพหูพจน์แบบผิดปกติ (Irregular Plural Noun) ที่เปลี่ยนรูปไปจากเอกพจน์ จะใส่ ‘s (Apostrophe + s) เสมอ เช่น men’s, women’s, children’s, people’s

Ex. The children’s toys are on the floor.
(ของเล่นของพวกเด็ก ๆ อยู่บนพื้น)

Ex. Some people’s names are hard to say.
(ชื่อของผู้คนบางคนนั้นเรียกยาก)

[NEW] คำนามแสดงความเป็นเจ้าของ ( possessive nouns )-ภาษาอังกฤษ ม.ปลาย | การ แสดง ความ เป็น เจ้าของ – NATAVIGUIDES

คำนามแสดงความเป็นเจ้าของ (Possessive nouns) คือ การทำคำนามให้อยู่ในรูปของการแสดงความเป็นเจ้าของ สามารถทำได้ 2 วิธีดังนี้

1. การใช้ Apostrophe + s (‘s)

Possessive Form of Nouns
ในภาษาอังกฤษ นอกจากจะใช้คำ Possessive Adjectives, Possessive Pronouns แสดงความเป็นเจ้าของ แล้ว ยังมีคำแสดงความเป็นเจ้าของอีกกลุ่มด้วยเช่นกัน ซี่งเราเรียกคำกลุ่มนี้ว่า “Possessive Form of Nouns”
Possessive Form of Nouns เป็นคำนามที่ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ มีอยู่ 2 รูป คือ ‘s และ of มีวิธีใช้ดังนี้
1. ‘s อ่านว่า Apostrophe s ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ และใช้กับสิ่งที่มีชีวิต
2. of ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ กับสิ่งที่ไม่มีชีวิต

1. ใช้แสดงความเป็นเจ้าของ โดยวางไว้หลังคำนามที่เป็นเจ้าของ เช่น

ตัวอย่างการใช้

 

 

‘s


ความหมาย

Kate’s car
Students’ shoes
My father’s hat
The children’s backpacks
A bird’s wings
His girlfriend’s gloves
Yupa and Yupin’s skirts

รถยนต์ของเคท
รองเท้าของนักเรียน
หมวกของคุณพ่อของฉัน
เป้ของพวกเด็ก ๆ
ปีกของนก
ถุงมือของแฟนเขา
กระโปรงของยุพาและยุพิน

จากตัวอย่าง…นักเรียนสังเกตการใช้ ‘s จะมีความแตกต่างกัน บางประโยคใช้ทั้ง ‘sบางประโยคใช้เฉพาะ ” ‘ ” เท่านั้น…มีหลักในการใช้อย่างไร…นักเรียนศึกษาตัวอย่างประโยคแสดงการใช้ ” ‘s ” ต่อไปนี้

หลักในการใช้  ‘s 
1. นามที่เป็นเจ้าของที่มีรูปเป็นเอกพจน์ ให้ใส่ ‘s หลังคำนามได้เลย เช่น

ตัวอย่างประโยค
ความหมาย
อื่นๆ
   My mother’s dress is very beautiful.

   ชุดของคุณแม่ของฉันสวยมาก

   A dog’s tail is short.

   หางของสุนัขสั้น

   That girl’s candies are 

very 

sweet.

   ขนมอมของเด็กคนนั้นหวาน

มาก

2. ชื่อบุคคลที่เป็นเจ้าของลงท้ายด้วย s หรือไม่ได้ลงท้ายด้วย s ให้ใส่ ” ‘s ” หลัง ชื่อบุคคลนั้นได้เลย เช่น

ตัวอย่างประโยค
ความหมาย
อื่นๆ

  That is Tommy’s car.

   

นั่นคือรถยนต์ของทอมมี่

  Somchai’s dog is very fat.

   

สุนัขของสมชัยอ้วน

  Those are Kanchana’s sisters.

   

ผู้หญิงเหล่านั้นเป็นน้องสาวของกาญจนา

  Mrs.Jones’ s sons are very naughty.

   

ลูกชายของนางโจนส์ซนมาก

  James’

s

 girlfriend is

 

a singer.

แฟนสาวของเจมส์เป็นนักร้อง

3. นามที่เป็นเจ้าของมีความหมายเป็นพหูพจน์ แต่รูปเป็นเอกพจน์ คือไม่ได้ลงท้ายด้วย s ให้ใส่ ” ‘s” หลังหลังคำนามนั้นได้เลย เช่น

ตัวอย่างประโยค
ความหมาย
อื่นๆ

   People’s cars are at the car park.

   รถของประชาชนจอดที่ ๆ จอดรถ

   The police’s guns are short.

   ปืนของพวกตำรวจสั้น

   The women’s blouses are green.

   เสื้อของผู้หญิงเหล่านั้นสีเขียว

4.นามที่เป็นเจ้าของมีรูปเป็นพหูพจน์และลงท้ายด้วย s ให้ใส่เฉพาะ” ‘ ” เท่านั้น เช่น

ตัวอย่างประโยค
ความหมาย
อื่นๆ

   The students’ shoes are very big.

    รองเท้าของนักเรียนคู่ใหญ่มาก

   My parents’ clothes are in the closet.

   เสื้อผ้าของคุณพ่อคุณแม่อยู่ในตู้เสื้อผ้า

   The 

boys’ desks are

 big.

   โต๊ะของเด็กพวกนั้นใหญ่มาก

5. ถ้ามีเจ้าของมากกว่าหนึ่ง และมี and เชื่อม หรือเป็นเจ้าของร่วมกัน ให้วาง ‘ s หลังคำนามตัวสุดท้ายเท่านั้น เช่น

ตัวอย่างประโยค
ความหมาย
อื่นๆ

    Bill and Susan’s car is a European car.

   รถยนต์ของบิลและซูซันเป็นรถยุโรป

   Bob and Kate’s father is a policeman.

 คุณพ่อของ บ๊อบและเคท เป็นตำรวจ

  John, Andy and James’s house is green.

 บ้านของจอห์น แอนดี้และเจมส์สีเขียว

2. การใช้ of

มักใช้แสดงความเป็นเจ้าของสำหรับคำนามที่ไม่ใช่บุคคล โดยวาง of ไว้หน้าคำนามที่แสดงความเป็นเจ้าของ เช่น The tail of a dog. (หางของหมา), The wings of a bird (ปีกของนก)

ตัวอย่าง

1. Pim is member of the basketball team.
(พิมเป็นสมาชิกของทีมบาสเก็ตบอล)

2. How long does it take to the top of Mt. Fuji?
(ใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะถึงยอดภูเขาฟูจิ)

3. Do you know the meaning of this word?
(คุณรู้ความหมายของคำนี้ไหม?)

” Of ” มีความหมายว่า ของ ใช้แสดงความเป็นเจ้าของสำหรับสิ่งของและสถานที่ หรือสิ่งที่ไม่มีชีวิต ดังตัวอย่างจากตารางข้างล่างนี้

ตัวอย่างประโยค
ความหมาย
อื่นๆ

   The cover of  this notebook is blue.

   ปกของสมุดเป็นสีฟ้า

   The cover of  this notebook is blue.

   เด็กชายคนนั้นยืนบนฝั่งน้ำ

   

The cover of  this notebook

 is blue.

  พวกนี้เป็นกิ่งก้านของต้นไม้


Ep.7 การแสดงความเป็นเจ้าของ


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Ep.7  การแสดงความเป็นเจ้าของ

Possessive Nouns การแสดงความเป็นเจ้าของของคำนาม


จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเรียนรู้
ติดตาม Facebook และ Instagram : The Happy Time with Q
หากผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำขออภัยมานะที่นี้ด้วยค่ะ 😀

Possessive Nouns การแสดงความเป็นเจ้าของของคำนาม

บุกพิสูจน์ \”หมูปิ้ง 7 ไม้ 10 บาท\” สนั่นโซเชียล | ข่าววันศุกร์ | ข่าวช่องวัน


หลังมีข่าวที่ทำคนตะลึง!!! ลูกค้าโพสต์ซื้อหมูปิ้ง 7 ไม้ 10 บาท มีแค่เนื้อหมูชื้นเล็ก ๆ ติดไม้ ล่าสุดทีมข่าวไปเปิดใจลูกค้ารายนี้ที่ จ.บุรีรัมย์ ขณะที่เจ้าของร้านยังยืนยันว่า จะขายแบบนี้ต่อไป หมูปิ้ง ข่าววันศุกร์
_______________________________________
\”ข่าวช่องวัน เข้าถึงข่าว เข้าถึงคุณ\”
ติดตามชม ข่าวช่องวัน ได้ตลอดทั้งวันทางหน้าจอ ช่องวัน31
และติดตามช่องทางได้ดังนี้
Facebook / Instagram / Twitter / TikTok / Youtube : onenews31

บุกพิสูจน์ \

ตอน การแสดงความเป็นเจ้าของ


เรียนภาษาญี่ปุ่นกับพี่ทุเรียน

ตอน การแสดงความเป็นเจ้าของ

ยืนบนเวทียังไง ให้ได้ใจผู้ฟังและดูน่าเชื่อถือ!?


เพราะผู้ฟังจ้องมาที่เรา การยืนบนเวทีจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม! โดยเฉพาะการพูดหรือการนำเสนอบนเวทีใหญ่ๆ ภาษากายนี้สามารถทำให้เราเสียบุคลิกได้โดยไม่รู้ตัว แต่ถ้ารู้ก็จะช่วยให้เราดูน่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพขึ้นมาทันที!
วิทยากร:
จีนา จีนาฟู

เรียนออนไลน์คอร์สเทคนิคการนำเสนอและการพูด:
https://go.auditorium.co.th/pp
แอ๊ดเราเป็นเพื่อนใน Line เพื่อรับข่าวสารคอร์สอบรม
Line ID: @auditorium.co.th
https://go.auditorium.co.th/line
Facebook:
https://facebook.com/auditorium.co.th
Music:
Nashville Love
https://hooksounds.com

ยืนบนเวทียังไง ให้ได้ใจผู้ฟังและดูน่าเชื่อถือ!?

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ การ แสดง ความ เป็น เจ้าของ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *