Skip to content
Home » [NEW] การใช้ประโยคเกี่ยวกับอาชีพ สัญชาติ ข้อมูลส่วนบุคคล และอาชีพที่อยากทำในอนาคต | ฉัน อยาก เป็น ครู ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] การใช้ประโยคเกี่ยวกับอาชีพ สัญชาติ ข้อมูลส่วนบุคคล และอาชีพที่อยากทำในอนาคต | ฉัน อยาก เป็น ครู ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

ฉัน อยาก เป็น ครู ภาษา อังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

สวัสดีนักเรียนชั้นป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูวิธีการบอกข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับตัวเราในภาษาอังกฤษกันค่ะ ได้แก่ ประโยคเกี่ยวกับอาชีพ สัญชาติ ข้อมูลส่วนบุคคล และอาชีพที่อยากทำในอนาคต พร้อมทั้งตัวอย่างสถานการณ์ใกล้ตัวกันค่ะ ไปลุยกันเลย

 

Profile general info

Table of Contents

อาชีพ (Occupation)

 

Occupation:general info

 

ตารางคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาชีพ

คำศัพท์
แปล

engineer
วิศวกร

actor
นักแสดง

YouTuber
นักยูทูบเบอร์

Gamer
เกมเมอร์

air hostess, flight attendant
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน

gardener
คนสวน

 

photographer
ช่างถ่ายรูป

pilot
 นักบิน

 

singer

 

นักร้อง

soldier
ทหาร

 

freelancer
ฟรีแลนซ์/ ทำงานอิสระ

 

ตัวอย่างประโยคในการถามอาชีพเป็นภาษาอังกฤษที่ใช้ได้บ่อย

Q: What do you want to be?

A:  I want to be + อาชีพ เช่น I want to be a doctor. ฉันอยากเป็นหมอ

 

ถาม:

What do you do? หรือ What do you do for a living?  
= คุณทำงานอะไร

ตอบ:

I’m a teacher.  = ฉันเป็นครู

I’m an engineer. = ฉันเป็นวิศวกร

 

ตามโครงสร้าง: I am a + อาชีพ แต่ถ้าอาชีพขึ้นต้นด้วยสระ a, e, I, o จะเปลี่ยนจาก a เป็น an

 

ปล. ในสถาณกาณ์ที่เราว่างงานอย่าใช้  I have no job. นะคะ ให้เปลี่ยนประโยคเป็น
I am waiting for a job. หรือ I am available now. แทนจะดูหรูกว่าเยอะเลยค่า

 

ตัวอย่างประโยคบอกสถานที่ทำงาน

Situation: Asking about work
ถาม: Where do you work?

= คุณทำงานที่ไหน

I work in a police station.

= ฉันทำงานในโรงพักแห่งหนึ่ง
หรือจะใช้  I work at the US embassy.

= ฉันทำงานที่สถานทูตอเมริกา (แต่ไม่ได้เจาะจงว่าทำงานตรงส่วนไหน)

 

การบอกสัญชาติ (Nationality)

 

Nationality: general info

 

นักเรียนทุกคนคะ โดยทั่วไปแล้วเราจะใช้คำคุณศัพท์บอกสัญชาติที่ลงท้ายด้วย -ese หรือ -ish ร่วมกับคำกิริยาพหูพจน์เพื่อบอกถึงผู้คนในสัญชาตินั้น ๆ คำคุณศัพท์ที่ถูกเขียนออกมานี้มักจะถูกนำมาใช้เพื่ออ้างถึงภาษาที่คนสัญชาตินั้น ๆ ใช้พูดด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถใช้ได้ทุกกรณีก็ตาม แต่มันก็เป็นสิ่งจำเป็นมากค่ะ

ศัพท์จำเป็น

Nationality (N.) สัญชาติ
Nation (N.) ประเทศ

ตัวอย่างเช่น

I work in Japan.
= ฉันทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น

He likes Japanese woman.
= เขาชอบผู้หญิงญี่ปุ่น

Miko is a Japanese person. Or She is from Japan.

ทั้งสองประโยคนี้บอกได้ว่ามิโกะเป็นคนญี่ปุ่น หรือ หล่อนมาจากประเทศญี่ปุ่น

We speak Japanese.
พวกเราพูดภาษาญี่ปุ่น

อธิบายเพิ่มเติม:

เราจะใช้คำคุณศัพท์ที่มีความหมายกลาง ๆ + “คน” หรือใช้คำว่า “คนจาก” + ชื่อประเทศ

 

 

การให้และขอข้อมูลส่วนบุคคล

(Giving and Asking for Personal Information)

 

ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal information)
การถามข้อมูลส่วนตัวจะต้องระบุจุดประสงค์และต้องดูสถานการณ์ที่เราใช้ด้วยนะคะ เพราะว่าในบางกรณีเรา
ไม่ควรถาม น้ำหนัก รอบอก หรือข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ เพราะว่ามันไม่สุภาพ (impoliteness)

 

 general info

คำถาม
คำตอบ

How old are you?
= คุณอายุเท่าไร
I’m 12 years old.

=ผม/ฉัน อายุ 12 ขวบ

When is your birthday?

= คุณเกิดวันไหน

 

I was born on the 1st, January 1999.

= ผม/ฉันเกิดวันที่ 1 มกราคมปี 2542

How tall are you?

= คุณสูงเท่าไร

 

I’m 155 cm.
= ผม/ฉันสูง 155 ซม.

How much do you weigh?

= คุณหนักเท่าไร

ปล. ไม่ควรถามในชีวิตประจำวันเลยเพราะไม่สุภาพ

My weight is 40 kg.

= ฉัน/ผม หนัก 40 กก.

 

 

What’s your shoe size?

= รองเท้าคุณเบอร์ไหนคะ/ครับ

 

My shoe size is 9.

= ไซส์รองเท้าผม/ฉัน คือ 9

 

เพิ่มเติม:

ในประเทศสหรัฐอเมริกา (US) และประเทศอังกฤษ (UK) จะใช้ตัวเลขเดี่ยวๆบอกไซส์รองเท้า เช่น 8, 9
แต่ถ้าแถบประเทศยุโรปจะใช้ ตัวเลขสองหลักเช่น
41, 42

 

 ข้อมูลครอบครัว (Family information)

 

family giving and asking for general info

คำถาม
คำตอบ
Do you have any siblings?
= คุณมีพี่น้องมั้ย

I don’t have any brothers or sisters.
= ผม/ฉันไม่มีพี่น้องเลย 
How many people in your family?

= ครอบครัวของคุณมีสมาชิกกี่คน

There are 7 people in my family.
ครอบครัวผมมี 7 คนด้วยกัน

Who do you live with?

= คุณอาศัยอยู่กับใคร

I live with my + สมาชิกในครอบครัว, เพื่อน

เช่น

I live with my mom. ฉันอาศัยอยู่กับแม่
I live with my roommate. ฉันอาศัยอยู่กับรูมเมท

What does your father do?
= คุณพ่อทำงานอะไร 
He works as a + อาชีพ.

ตัวอย่างอื่นๆ เช่น

I work as a writer.
ฉันทำงานเป็นนักเขียน

I work as an English teacher.

ฉันทำงานเป็นครูภาษาอังกฤษ

 

นักเรียนสามารถเอาคำศัพท์จากหมวดอาชีพมาลองฝึกแต่งประโยคเพื่อตอบข้อนี้ได้นะคะ หรือถ้าหากว่าไม่รู้จักคำศัพท์คำไหนก็สามารถโพสต์ถามด้านล่างได้เลยเด้อ

 

3 เทคนิคการใช้กริยาบอกอาชีพในอนาคต

 

3เทคนิคกริยาบอกอนาคต

 

เทคนิคที่1 พูดถึงอนาคตโดยใช้ will

 

I will be + ตามด้วยอาชีพที่อยากจะทำ+( in the future)

ตัวอย่างประโยคเช่น: I will be a teacher (in the future.)

= ฉันจะเป็นครูในอนาคตข้างหน้า

แต่พออนาคตมาถึงอาจจะไม่เป็นก็ได้ใครจะรู้

ตัวอย่างอื่นๆที่ใช้โครงสร้าง Subject + will + V. infinitive ยังสามารถใช้ได้ดังนี้

เช่น I will go to school tomorrow.
= ฉันจะกำลังเรียนอยู่พรุ่งนี้

แค่พูด ณ ตอนที่นึกได้ว่าจะไปโรงเรียน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่แน่ใจที่สุดว่าจะไปโรงเรียนจริงไหม

ใช้ในกรณที่ เราตัดสินใจที่จะทำ หรือกะจะทำ

เช่น

Situation: Your friend is asking you to hang out tonight.
Nanny: Let’s go out tonight.
Danny: I will.

แนนนี่ชวนแดนนี่ไปเที่ยวกลางคืนแต่แดนนี่ที่พูดแบบไม่ได้คิดดีๆ ก็ตอบกลับไปว่า I will. = ไปดิ

(ซึ่งเป็นการตัดสินใจแบบกะทันหัน ไม่ได้กะว่าจะไปแต่เพื่อนชวน ก็ตอบ ไปไว้ก่อน)

 

เทคนิคที่ 2 พูดถึงอนาคตโดย Present Continuous

โครงสร้างประโยค: Subject + V. to be (is, am, are)+ V.ing

ตัวอย่าง: I am preparing to be an engineer at the age of 27.

เมื่อฉันอายุ 27 ปี ฉันจะต้องเป็นวิศวกรให้ได้ บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นว่าจะทำงานเป็นวิศวกรแน่ๆ เพราะกำลังเตรียมตัวอย่างหนัก (preparing)

Present Continuous ในการบอกอนาคตนั้นมีข้อสังเกตที่ชัดเจนมากคือ มักมีคำบอกเวลาแนบบอกอนาคต มาด้วย
ตัวอย่าง next week, tomorrow, next moth, next year, จุดๆ หนึ่งของเวลาในอนาคต เช่น
at age of + อายุ
(เมื่ออายุ…)

เช่น We are having dinner tonight.

ประโยคนี้แปลว่า เราจะกินข้าวกันเย็นนี้ เพราะมีตัวกำกับเวลา ก็คือคำว่า tonight

 

เทคนิคที่ 3: ” เหตุการณ์ที่จำทำแน่ๆ ใช้ โครงสร้าง V. to be + going to V.”

เราก็ยังอยู่ในโครงสร้างของ Present Continuous แต่เน้นที่ going to จะทำจริงๆนะ

ตัวอย่างการใช้
เป็นการพูดถึงอนาคตที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด เป็นสิ่งที่ตัดสินใจ หรือวางแผนว่าจะทำอยู่แล้ว

I am going to work at the JYP tomorrow.

ฉันจะไปทำงานที่ JYP พรุ่งนี้

ตัวอย่างอื่นๆ เช่น

เช่น I am going to go to the concert next month.
= ฉัน/ผมจะไปดูคอนเสิร์ตสัปดาห์หน้า (วางแผนแล้วว่าจะไป มีความเป็นไปได้สูง)

นอกจากนี้ going to จะใช้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ

เช่น

 Situation: The sky’s overcast. ท้องฟ้ามืดครึ้ม    

Nanny: The sky’s overcast out there.
= ข้างนอกนั่นท้องฟ้ามืดครึ้มจัง
Tommy: “It is going to rain soon.”
= ฝนกำลังจะตกแน่ๆเลย (เพราะว่ามันครึ้มมาก)

 

เป็นอย่างไรบ้างคะ บอกแล้วว่าการพูดถึงอนาคตไม่ใช่จะใช้เพียงแค่ will กับ going to เท่านั้น ก็สามารถบอกอนาคตได้แล้ว (บอกตอนไหนเนี่ย) ขอให้นักเรียนที่น่ารักทุกคนมีความสุขในการเรียนนะคะ หากว่าเรายังค้นหาตัวเองหรือความฝันไม่เจอ ครูอยากให้ลองค้นหาต่อไปในสิ่งที่เราชอบทำอาจจะเป็นงานอดิเรก หรือ เกมที่เราชอบเล่นก็ได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องมีอาชีพเหมือนใคร แค่เราได้ทำในสิ่งที่รักและรักในสิ่งที่ทำ ครูเชื่อว่าเราจะมีอาชีพที่มีความสุขได้อย่างแน่นอนค่ะ

อย่าลืมดูวีดีโอทบทวนบทเรียนในหัวข้อ “การใช้ประโยคเกี่ยวกับอาชีพ สัญชาติ ข้อมูลส่วนบุคคล และอาชีพที่อยากทำในอนาคต”กันด้วยเด้อ

เลิฟๆ

 

+2

[NEW] การใช้ประโยคเกี่ยวกับอาชีพ สัญชาติ ข้อมูลส่วนบุคคล และอาชีพที่อยากทำในอนาคต | ฉัน อยาก เป็น ครู ภาษา อังกฤษ – NATAVIGUIDES

สวัสดีนักเรียนชั้นป.5 ที่น่ารักทุกคน วันนี้เราจะไปดูวิธีการบอกข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับตัวเราในภาษาอังกฤษกันค่ะ ได้แก่ ประโยคเกี่ยวกับอาชีพ สัญชาติ ข้อมูลส่วนบุคคล และอาชีพที่อยากทำในอนาคต พร้อมทั้งตัวอย่างสถานการณ์ใกล้ตัวกันค่ะ ไปลุยกันเลย

 

Profile general info

อาชีพ (Occupation)

 

Occupation:general info

 

ตารางคำศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับอาชีพ

คำศัพท์
แปล

engineer
วิศวกร

actor
นักแสดง

YouTuber
นักยูทูบเบอร์

Gamer
เกมเมอร์

air hostess, flight attendant
พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน

gardener
คนสวน

 

photographer
ช่างถ่ายรูป

pilot
 นักบิน

 

singer

 

นักร้อง

soldier
ทหาร

 

freelancer
ฟรีแลนซ์/ ทำงานอิสระ

 

ตัวอย่างประโยคในการถามอาชีพเป็นภาษาอังกฤษที่ใช้ได้บ่อย

Q: What do you want to be?

A:  I want to be + อาชีพ เช่น I want to be a doctor. ฉันอยากเป็นหมอ

 

ถาม:

What do you do? หรือ What do you do for a living?  
= คุณทำงานอะไร

ตอบ:

I’m a teacher.  = ฉันเป็นครู

I’m an engineer. = ฉันเป็นวิศวกร

 

ตามโครงสร้าง: I am a + อาชีพ แต่ถ้าอาชีพขึ้นต้นด้วยสระ a, e, I, o จะเปลี่ยนจาก a เป็น an

 

ปล. ในสถาณกาณ์ที่เราว่างงานอย่าใช้  I have no job. นะคะ ให้เปลี่ยนประโยคเป็น
I am waiting for a job. หรือ I am available now. แทนจะดูหรูกว่าเยอะเลยค่า

 

ตัวอย่างประโยคบอกสถานที่ทำงาน

Situation: Asking about work
ถาม: Where do you work?

= คุณทำงานที่ไหน

I work in a police station.

= ฉันทำงานในโรงพักแห่งหนึ่ง
หรือจะใช้  I work at the US embassy.

= ฉันทำงานที่สถานทูตอเมริกา (แต่ไม่ได้เจาะจงว่าทำงานตรงส่วนไหน)

 

การบอกสัญชาติ (Nationality)

 

Nationality: general info

 

นักเรียนทุกคนคะ โดยทั่วไปแล้วเราจะใช้คำคุณศัพท์บอกสัญชาติที่ลงท้ายด้วย -ese หรือ -ish ร่วมกับคำกิริยาพหูพจน์เพื่อบอกถึงผู้คนในสัญชาตินั้น ๆ คำคุณศัพท์ที่ถูกเขียนออกมานี้มักจะถูกนำมาใช้เพื่ออ้างถึงภาษาที่คนสัญชาตินั้น ๆ ใช้พูดด้วยเช่นกัน ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถใช้ได้ทุกกรณีก็ตาม แต่มันก็เป็นสิ่งจำเป็นมากค่ะ

ศัพท์จำเป็น

Nationality (N.) สัญชาติ
Nation (N.) ประเทศ

ตัวอย่างเช่น

I work in Japan.
= ฉันทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น

He likes Japanese woman.
= เขาชอบผู้หญิงญี่ปุ่น

Miko is a Japanese person. Or She is from Japan.

ทั้งสองประโยคนี้บอกได้ว่ามิโกะเป็นคนญี่ปุ่น หรือ หล่อนมาจากประเทศญี่ปุ่น

We speak Japanese.
พวกเราพูดภาษาญี่ปุ่น

อธิบายเพิ่มเติม:

เราจะใช้คำคุณศัพท์ที่มีความหมายกลาง ๆ + “คน” หรือใช้คำว่า “คนจาก” + ชื่อประเทศ

 

 

การให้และขอข้อมูลส่วนบุคคล

(Giving and Asking for Personal Information)

 

ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal information)
การถามข้อมูลส่วนตัวจะต้องระบุจุดประสงค์และต้องดูสถานการณ์ที่เราใช้ด้วยนะคะ เพราะว่าในบางกรณีเรา
ไม่ควรถาม น้ำหนัก รอบอก หรือข้อมูลที่เป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ เพราะว่ามันไม่สุภาพ (impoliteness)

 

 general info

คำถาม
คำตอบ

How old are you?
= คุณอายุเท่าไร
I’m 12 years old.

=ผม/ฉัน อายุ 12 ขวบ

When is your birthday?

= คุณเกิดวันไหน

 

I was born on the 1st, January 1999.

= ผม/ฉันเกิดวันที่ 1 มกราคมปี 2542

How tall are you?

= คุณสูงเท่าไร

 

I’m 155 cm.
= ผม/ฉันสูง 155 ซม.

How much do you weigh?

= คุณหนักเท่าไร

ปล. ไม่ควรถามในชีวิตประจำวันเลยเพราะไม่สุภาพ

My weight is 40 kg.

= ฉัน/ผม หนัก 40 กก.

 

 

What’s your shoe size?

= รองเท้าคุณเบอร์ไหนคะ/ครับ

 

My shoe size is 9.

= ไซส์รองเท้าผม/ฉัน คือ 9

 

เพิ่มเติม:

ในประเทศสหรัฐอเมริกา (US) และประเทศอังกฤษ (UK) จะใช้ตัวเลขเดี่ยวๆบอกไซส์รองเท้า เช่น 8, 9
แต่ถ้าแถบประเทศยุโรปจะใช้ ตัวเลขสองหลักเช่น
41, 42

 

 ข้อมูลครอบครัว (Family information)

 

family giving and asking for general info

คำถาม
คำตอบ
Do you have any siblings?
= คุณมีพี่น้องมั้ย

I don’t have any brothers or sisters.
= ผม/ฉันไม่มีพี่น้องเลย 
How many people in your family?

= ครอบครัวของคุณมีสมาชิกกี่คน

There are 7 people in my family.
ครอบครัวผมมี 7 คนด้วยกัน

Who do you live with?

= คุณอาศัยอยู่กับใคร

I live with my + สมาชิกในครอบครัว, เพื่อน

เช่น

I live with my mom. ฉันอาศัยอยู่กับแม่
I live with my roommate. ฉันอาศัยอยู่กับรูมเมท

What does your father do?
= คุณพ่อทำงานอะไร 
He works as a + อาชีพ.

ตัวอย่างอื่นๆ เช่น

I work as a writer.
ฉันทำงานเป็นนักเขียน

I work as an English teacher.

ฉันทำงานเป็นครูภาษาอังกฤษ

 

นักเรียนสามารถเอาคำศัพท์จากหมวดอาชีพมาลองฝึกแต่งประโยคเพื่อตอบข้อนี้ได้นะคะ หรือถ้าหากว่าไม่รู้จักคำศัพท์คำไหนก็สามารถโพสต์ถามด้านล่างได้เลยเด้อ

 

3 เทคนิคการใช้กริยาบอกอาชีพในอนาคต

 

3เทคนิคกริยาบอกอนาคต

 

เทคนิคที่1 พูดถึงอนาคตโดยใช้ will

 

I will be + ตามด้วยอาชีพที่อยากจะทำ+( in the future)

ตัวอย่างประโยคเช่น: I will be a teacher (in the future.)

= ฉันจะเป็นครูในอนาคตข้างหน้า

แต่พออนาคตมาถึงอาจจะไม่เป็นก็ได้ใครจะรู้

ตัวอย่างอื่นๆที่ใช้โครงสร้าง Subject + will + V. infinitive ยังสามารถใช้ได้ดังนี้

เช่น I will go to school tomorrow.
= ฉันจะกำลังเรียนอยู่พรุ่งนี้

แค่พูด ณ ตอนที่นึกได้ว่าจะไปโรงเรียน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ยังไม่แน่ใจที่สุดว่าจะไปโรงเรียนจริงไหม

ใช้ในกรณที่ เราตัดสินใจที่จะทำ หรือกะจะทำ

เช่น

Situation: Your friend is asking you to hang out tonight.
Nanny: Let’s go out tonight.
Danny: I will.

แนนนี่ชวนแดนนี่ไปเที่ยวกลางคืนแต่แดนนี่ที่พูดแบบไม่ได้คิดดีๆ ก็ตอบกลับไปว่า I will. = ไปดิ

(ซึ่งเป็นการตัดสินใจแบบกะทันหัน ไม่ได้กะว่าจะไปแต่เพื่อนชวน ก็ตอบ ไปไว้ก่อน)

 

เทคนิคที่ 2 พูดถึงอนาคตโดย Present Continuous

โครงสร้างประโยค: Subject + V. to be (is, am, are)+ V.ing

ตัวอย่าง: I am preparing to be an engineer at the age of 27.

เมื่อฉันอายุ 27 ปี ฉันจะต้องเป็นวิศวกรให้ได้ บ่งบอกถึงความมุ่งมั่นว่าจะทำงานเป็นวิศวกรแน่ๆ เพราะกำลังเตรียมตัวอย่างหนัก (preparing)

Present Continuous ในการบอกอนาคตนั้นมีข้อสังเกตที่ชัดเจนมากคือ มักมีคำบอกเวลาแนบบอกอนาคต มาด้วย
ตัวอย่าง next week, tomorrow, next moth, next year, จุดๆ หนึ่งของเวลาในอนาคต เช่น
at age of + อายุ
(เมื่ออายุ…)

เช่น We are having dinner tonight.

ประโยคนี้แปลว่า เราจะกินข้าวกันเย็นนี้ เพราะมีตัวกำกับเวลา ก็คือคำว่า tonight

 

เทคนิคที่ 3: ” เหตุการณ์ที่จำทำแน่ๆ ใช้ โครงสร้าง V. to be + going to V.”

เราก็ยังอยู่ในโครงสร้างของ Present Continuous แต่เน้นที่ going to จะทำจริงๆนะ

ตัวอย่างการใช้
เป็นการพูดถึงอนาคตที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด เป็นสิ่งที่ตัดสินใจ หรือวางแผนว่าจะทำอยู่แล้ว

I am going to work at the JYP tomorrow.

ฉันจะไปทำงานที่ JYP พรุ่งนี้

ตัวอย่างอื่นๆ เช่น

เช่น I am going to go to the concert next month.
= ฉัน/ผมจะไปดูคอนเสิร์ตสัปดาห์หน้า (วางแผนแล้วว่าจะไป มีความเป็นไปได้สูง)

นอกจากนี้ going to จะใช้กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ

เช่น

 Situation: The sky’s overcast. ท้องฟ้ามืดครึ้ม    

Nanny: The sky’s overcast out there.
= ข้างนอกนั่นท้องฟ้ามืดครึ้มจัง
Tommy: “It is going to rain soon.”
= ฝนกำลังจะตกแน่ๆเลย (เพราะว่ามันครึ้มมาก)

 

เป็นอย่างไรบ้างคะ บอกแล้วว่าการพูดถึงอนาคตไม่ใช่จะใช้เพียงแค่ will กับ going to เท่านั้น ก็สามารถบอกอนาคตได้แล้ว (บอกตอนไหนเนี่ย) ขอให้นักเรียนที่น่ารักทุกคนมีความสุขในการเรียนนะคะ หากว่าเรายังค้นหาตัวเองหรือความฝันไม่เจอ ครูอยากให้ลองค้นหาต่อไปในสิ่งที่เราชอบทำอาจจะเป็นงานอดิเรก หรือ เกมที่เราชอบเล่นก็ได้ ไม่จำเป็นที่จะต้องมีอาชีพเหมือนใคร แค่เราได้ทำในสิ่งที่รักและรักในสิ่งที่ทำ ครูเชื่อว่าเราจะมีอาชีพที่มีความสุขได้อย่างแน่นอนค่ะ

อย่าลืมดูวีดีโอทบทวนบทเรียนในหัวข้อ “การใช้ประโยคเกี่ยวกับอาชีพ สัญชาติ ข้อมูลส่วนบุคคล และอาชีพที่อยากทำในอนาคต”กันด้วยเด้อ

เลิฟๆ

 

+2


Why I want to be an English teacher? ทำไมฉันอยากเป็นครูภาษาอังกฤษ?


นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

Why I want to be an English teacher?  ทำไมฉันอยากเป็นครูภาษาอังกฤษ?

วันสุดท้ายของการฝึกประสบการณ์ : ฉันจะเป็นครู I want to be a teacher (2 ก.พ. 62)


มาถึงบทสรุปของรายการ เมื่อนิสิตนักศึกษาที่เรียนด้านครุศาสตร์ ด้านศึกษาศาสตร์ ดำเนินการฝึกประสบการณ์จนครบระยะเวลาแล้ว พวกเขาได้เรียนรู้อะไรบ้าง และสะท้อนคิดถึงสิ่งที่ผ่านมา เพื่อนำมาพัฒนา ปรับปรุง และแก้ไขหลักสูตร หรือแนวทางปฏิบัติให้ดีขึ้นต่อไป รวมถึงคำตอบในท้ายที่สุดว่าพวกเขายังอยากเป็นครูอยู่หรือไม่
ติดตามชมในรายการ ฉันจะเป็นครู I want to be a teacher ตอน วันสุดท้ายของการฝึกประสบการณ์ วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา 17.05 – 18.00 น. ทางไทยพีบีเอส รับชมออนไลน์ http://www.thaipbs.or.th/Live

กด Subscribe
ติดตามรายการดีๆของช่อง ได้ที่ : http://goo.gl/hdy2ye
และ ติดตามไทยพีบีเอสออนไลน์ ได้ที่
Website : http://www.thaipbs.or.th
Facebook : http://www.fb.com/ThaiPBSFan
Twitter : http://www.twitter.com/ThaiPBS
Instagram : http://www.instagram.com/ThaiPBS
Google Plus : http://www.thaipbs.or.th/GooglePlus
LINE : http://bit.ly/2GtS44i
Youtube : http://www.youtube.com/user/ThaiPBS

วันสุดท้ายของการฝึกประสบการณ์ : ฉันจะเป็นครู I want to be a teacher (2 ก.พ. 62)

[แนะนำตัว] ค่ายสานฝันฉันอยากเป็นครูครั้งที่18 คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น


[แนะนำตัว] ค่ายสานฝันฉันอยากเป็นครูครั้งที่18 คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น

ใครยังไม่มีผัว (ໃຜຍັງບໍ່ມີຜົວ) – บุ๊ค ศุภกาญจน์ Ft แจ็ค ลูกอีสาน 【 Official​ MV 】


ฝากติดตามผลงาน ค่ายเพลง บังเอิญ มิวสิค ช่อง Youtube บังเอิญ มิวสิค บึงกาฬ
🛎 กด Subscribe : https://bit.ly/2OTOjdn
Facebook : https://www.facebook.com/a.pisit.graphic
……………………………………………………………………………………………………………
เพลง : .ใครยังไม่มีผัว (ໃຜຍັງບໍ່ມີຜົວ)
ศิลปิน : บุ๊ค ศุภกาญจน์ Feat. แจ็ค ลูกอีสาน
คำร้อง/ทำนอง : บุ๊ค ศุภกาญจน์
เรียบเรียง : HD สตูดิโอ โคกอิโด่ย สาขาสกล
ติดต่องาน โทร. : 082 126 1623 (ต.โต้ง ผู้จัดการ)
เนื้อเพลง
จะมองไปทางไหน ก็เจอแต่คนมีแฟน
เดินจับมือเดินควงแขน เยอะแยะไปหมด
คนน่าตาไม่ดีอย่างผม มันก็คงต้องอด
ต้องซื้อกิน
จะต้องรอในชาตินี้ หรือชาติหน้าตอน บ๊ายบ่าย
ถึงจะเจอกับรักแท้ หรือต้องรอชีพมะลาย
คบกับใครใครก็ทิ้ง เขาก็เทเซกู๊ดบ่าย ฟ่องตาย
( โอ้ยน้อล่ะท่านผู้ฟังเอ้ย
โอ้ยน้อ ขั้นแม่นเจ้าทันได้มีคู่ซ้อน
งามงอลให้มาเป็นของอ้ายสา
แลงมาอ้ายสิเอ็ดสุคืน นอนตื่นมา
อ้ายสิทื้นล่ะส่ำเช้า คนงามเอ้ย
บ่มีแปะปั่นปี้นเปลี่ยนไป ด่อกเป็นอื่น
ใจประสงค์ล่ะหมายหมั้นเจ้ายอดชู้
พออยากแปลงโขงขวมด่อกไปหา
แก้มปาลาบ่เห็นใจอ้ายแหน่ คนงามเอ้ย )
ยังไม่มีผัว ยกมือขึ้นที
ช่วยมองมาที่ผม แล้วคุณจะเห็นสามี
จะพาไปดินเนอร์ ล่องเรือที่กระบี่ แบบดี๊ดี
ยังไม่มีผัว ยกมือขึ้นหน่อย
จะพาไปเสม็ด กินของอร่อยๆ
โปรดีๆแบบนี้มันไม่ได้มีบ่อยๆ นะแม่เนื้อกรอย
ดาวน์โหลดเพลง \”ใครยังไม่มีผัว\” โทร 4922307267 ได้ทั้งริงโทน เต็มเพลง และเสียงรอสาย
Line Melody : https://melody.line.me/melody/26510
🎧 รับฟังได้แล้วทาง Music Streaming
Youtube Music : https://music.youtube.com/watch?v=bygzF7r9MI
Spotify : https://open.spotify.com/track/7GcbkBhmoKn4ECgpWvupxX
JOOX : https://open.joox.com/s/rd?k=jjjKI
Apple Music : https://music.apple.com/th/album/1543381292
Tidal Music : https://tidal.com/browse/track/164825552
ใครยังไม่มีผัว
บุ๊คศุภกาญจน์
แจ็คลูกอีสาน
บังเอิญมิวสิค

ใครยังไม่มีผัว (ໃຜຍັງບໍ່ມີຜົວ) - บุ๊ค ศุภกาญจน์ Ft  แจ็ค ลูกอีสาน 【 Official​ MV 】

ฉันอยากเป็นครู👩‍🏫


ฉันอยากเป็นครู👩‍🏫

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่MAKE MONEY ONLINE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ฉัน อยาก เป็น ครู ภาษา อังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *