Skip to content
Home » [NEW] การทำหมันหญิง 8 ข้อดี-ข้อเสีย & วิธีทำหมันและแก้หมันหญิง !! | เพลง ทํา ไม ได้ แต่ บอก ทํา ไม – NATAVIGUIDES

[NEW] การทำหมันหญิง 8 ข้อดี-ข้อเสีย & วิธีทำหมันและแก้หมันหญิง !! | เพลง ทํา ไม ได้ แต่ บอก ทํา ไม – NATAVIGUIDES

เพลง ทํา ไม ได้ แต่ บอก ทํา ไม: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Table of Contents

การทำหมัน

การทำหมันในบ้านเรามีมาตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ.2470 แล้ว ในสมัยแรกจะนิยมทำกันในหมู่คนที่มีการศึกษาสูงหรือผู้มีฐานะดี โดยจะทำกันเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ แต่ในปัจจุบันนี้การทำหมันได้รับความนิยมมากขึ้นและแพร่หลาย และเมื่อถึงจุดหนึ่งของชีวิตเราก็ต้องตัดสินใจได้แล้วว่าจะไม่มีลูกอีกต่อไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม การทำหมันก็เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่ควรใช้ เพราะเป็นการคุมกำเนิดถาวรที่ทำได้ง่าย สะดวก ปลอดภัย ใช้เวลาน้อย สุขภาพร่างกายไม่เปลี่ยนแปลง และได้ผลดีเกือบ 100% เพราะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้ตัวเชื้ออสุจิของฝ่ายชายมาพบกับไข่ของฝ่ายหญิง ซึ่งก็สามารถทำได้ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง แต่ในที่นี้จะขอกล่าวถึงเฉพาะการทำหมันหญิงครับ

การทําหมันหญิง

การทำหมันหญิง (Female Sterilization) คือ การคุมกำเนิดชนิดหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูงมาก เป็นวิธีที่ประหยัด ปลอดภัย มีอัตราการล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์น้อยมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีบุตรเพียงพอแล้ว และเกิดจากการตัดสินใจร่วมกันทั้งสามีและภรรยา รวมถึงผู้ที่มีข้อห้ามในการตั้งครรภ์ โดยจะเป็นการทำให้ท่อนำไข่ (Fallopian Tube) อุดตัน โดยการใช้ไฟฟ้าจี้ (D), ผูกและตัด (A), ใช้คลิปหนีบ (C), หรือใช้วงแหวนพลาสติก (B) รัดทางเดินของท่อนำไข่ หรือที่เรียกกันว่าปีกมดลูกทั้งสองข้าง ไข่ที่ตกจากรังไข่เดือนละ 1 ใบ จะไม่สามารถเข้ามาผสมกับตัวอสุจิจากฝ่ายชายได้ เมื่อไข่ไม่ถูกผสมก็จะฝ่อไปเองภายใน 1 วัน ส่วนรังไข่ก็ผลิตไข่และฮอร์โมนไปตามปกติ หลังทำหมันแล้วก็สามารถทำงานได้ตามปกติ เพียงแต่ห้ามยกของหนักในช่วง 3-4 วันแรกเท่านั้น ไม่มีข้อห้ามอื่น ๆ สามารถร่วมเพศได้เลย เพราะให้ผลในการคุมกำเนิดแบบทันที ไม่ต้องรอนาน 3-4 เดือนเหมือนที่เข้าใจกัน

ในสมัยก่อนนั้นการทำหมันหญิงจะทำกันเฉพาะในรายที่เพิ่งคลอดบุตรใหม่ ๆ เพราะสามารถทำได้ง่ายและรวดเร็ว เนื่องจากหลังคลอดใหม่ มดลูกยังสูงอยู่ จึงง่ายที่จะผ่าแผลเล็ก ๆ แพทย์จะทำบริเวณใต้สะดือหรือในขอบสะดือ โดยผ่าประมาณ 2-3 เซนติเมตร เข้าไปหาท่อนำไข่แล้วทำให้อุดตัน ซึ่งวิธีนี้เรียกว่า “การทําหมันเปียก” (การทำหมันหลังคลอด) เมื่อทำเสร็จแล้วต้องนอนพักโรงพยาบาลประมาณ 1-2 วัน จึงจะกลับบ้านได้ แต่ในปัจจุบันความก้าวหน้าทางการแพทย์พัฒนาไปมาก จึงทำให้การทำหมันหญิงเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว มีความปลอดภัย และประหยัดมาก ทั้งยังสามารถทำได้ในระยะเวลาปกติโดยไม่ต้องรอทำหลังการคลอดบุตร วิธีนี้จึงได้รับความนิยมกันมากขึ้นและแพร่หลายไปทั่วโลก หรือที่เรียกว่า “การทําหมันแห้ง” ซึ่งใช้เวลาไม่นานครับ เมื่อทำเสร็จแล้วหมอจะให้นอนพักประมาณ 2-3 ชั่วโมงก็กลับบ้านได้เลย

ประเภทของการทำหมันหญิง

1.) การทำหมันหลังคลอด (การทำหมันเปียก) เป็นการทำหมันภายใน 6 สัปดาห์แรกหลังการคลอดบุตร โดยนิยมทำในช่วง 48 ชั่วโมงแรกหลังการคลอดบุตร เนื่องจากสามารถทำได้โดยง่าย แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก เนื่องจากมดลูกยังมีขนาดโตลอยอยู่ในช่องท้องเหนืออุ้งเชิงกราน จึงทำให้สามารถหาท่อนำไข่ทั้ง 2 ข้างได้ง่าย วิธีที่นิยมทำกันก็คือ การลงแผลผ่าตัดใต้สะดือ ขนาดแผลยาวประมาณ 2-5 เซนติเมตร แล้วทำการผูกท่อนำไข่และตัดท่อนำไข่บางส่วนออกทั้งสองข้าง เมื่อทำเสร็จแล้วต้องนอนพักโรงพยาบาลประมาณ 1-2 วัน จึงจะกลับบ้านได้ หลังผ่าตัดประมาณ 6-7 วัน จึงมาตัดไหม ส่วนคนที่ผ่าท้องคลอด แพทย์จะทำหมันไปพร้อมกันเลย จะได้ไม่ต้องมาทำใหม่อีก ซึ่งจะต้องนอนพักในโรงพยาบาลประมาณ 4-5 วัน และแพทย์ส่วนใหญ่มักจะแนะนำให้ทำหมันด้วยวิธีนี้ ด้วยเหตุผลดังกล่าว เพราะฉะนั้นผู้ที่คิดจะทำหมันด้วยวิธีนี้จะต้องคิดและตัดสินใจให้แน่วแน่ในขณะที่กำลังตั้งครรภ์ เมื่อคลอดเสร็จจะได้ทำหมันได้เลย

2.) การทำหมันปกติ (การทำหมันแห้ง) เป็นการทำหมันในระยะที่ไม่ใช่ในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังการคลอดบุตร มดลูกจะมีขนาดปกติและอยู่ในอุ้งเชิงกราน การผ่าตัดจึงมีความยากในการหาท่อนำไข่มากกว่าการทำหมันเปียก แต่ก็ใช้เวลาไม่นานครับ เพียงแค่ 10-15 นาที เมื่อทำเสร็จแล้วหมอจะให้นอนพักประมาณ 2-3 ชั่วโมงก็กลับบ้านได้เลย พร้อมกับให้ยาแก้ปวดไปกิน อีกประมาณ 6-7 วันจึงค่อยกลับมาให้หมอตัดไหม ซึ่งการทำหมันแห้งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 วิธี คือ

  • การผ่าตัดหน้าท้อง (Laparotomy) เป็นการลงแผลผ่าตัดบริเวณเหนือหัวหน่าว จากนั้นหาท่อนำไข่เพื่อทำการผูกและตัด (A) ท่อนำไข่บางส่วนออกทั้ง 2 ข้าง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการผ่าตัดด้วยวิธีนี้จะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ในขั้นตอนแรกนั้น ผู้เข้ารับการผ่าตัดทำหมันจะถูกจัดให้อยู่ในท่านอนหงาย แล้วแพทย์จะทำการฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณที่จะทำการผ่าตัด (ในบางรายอาจใช้วิธีการบล็อกหลัง หรือในรายที่คาดว่าจะทำการผ่าตัดได้ยาก เช่น ผู้ที่อ้วนมาก แพทย์อาจเลือกใช้วิธีการดมยาสลบ ซึ่งการที่แพทย์จะเลือกใช้วิธีใดก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมครับ) หลังจากนั้นพยาบาลจะทำความสะอาดบริเวณหน้าท้องด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และปูผ้าสะอาดปราศจากเชื้อโรคคลุมหน้าท้องเหลือไว้เฉพาะบริเวณที่จะทำการผ่าตัด แล้วคุณหมอจะทำการผ่าเป็นแผลขนาดเล็กในตำแหน่งที่เหมาะสม ยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร เมื่อผ่าเข้าไปในช่องท้องจะใช้อุปกรณ์จับท่อนำไข่ ไล่ไปจนเห็นปลายเปิดของท่อนำไข่ซึ่งมีลักษณะคล้ายปากแตร เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นท่อนำไข่ (ท่อนำไข่จะมีอยู่ 2 ข้าง ซ้ายและขวา มีขนาดยาวประมาณ 8-10 เซนติเมตร มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางผิวนอก 3-4 มิลลิเมตร และมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางในรูท่อ 1 มิลลิเมตร) แล้วใช้ไหมผูกท่อนำไข่ 2 ปม (แบบข้าวต้มมัด) แล้วตัดส่วนกลางของท่อนำไข่ให้แยกออกจากกัน (เนื่องจากท่อนำไข่มี 2 ข้าง การผูกและตัดจึงต้องทำกับท่อนำไข่ทั้ง 2 ข้าง) หลังจากนั้นแพทย์จะตรวจดูว่าบริเวณส่วนของปลายท่อที่เหลือมีเลือดออกหรือไม่ ถ้าไม่มีก็จะทำการเย็บปิดแผลหน้าท้องก็เป็นอันเสร็จ

  • การผ่าตัดผ่านกล้อง (Laparoscopy) เป็นการใช้จี้ไฟฟ้าจี้ท่อนำไข่ร่วมกับตัดท่อนำไข่ทั้ง 2 ข้างออกบางส่วน หรือใช้อุปกรณ์รัดท่อนำไข่ ใช้คลิปหนีบท่อนำไขทั้ง 2 ข้างให้เกิดการอุดตัน โดยส่วนที่ทำได้จะมีอยู่ 2 ตำแหน่ง คือ บริเวณใกล้สะดือ แพทย์จะทำการฉีดยาชา แล้วเจาะรูเล็ก ๆ ขนาดเท่าปากกา และใช้กล้องสอดเข้าไปทำหมัน เมื่อเสร็จแล้วก็เย็บแผลปิดเพียงเข็มเดียว ส่วนอีกที่คือบริเวณเหนือหัวหน่าว แพทย์จะฉีดยาชาแล้วผ่าแผลเล็ก ๆ ประมาณ 2-3 เซนติเมตร เพื่อเข้าไปทำหมัน เสร็จแล้วจึงเย็บแผลปิด 1-2 เข็ม แต่การทำหมันผ่านกล้องนี้มีข้อจำกัดคือ ต้องดมยาสลบ นอนในท่าศีรษะต่ำ และต้องใช้ก๊าซในช่องท้องระหว่างการผ่าตัดทำหมัน ซึ่งเป็นข้อห้ามของผู้ป่วยโรคหัวใจหรือผู้มีภาวะผิดปกติของระบบไหลเวียนเลือด รวมทั้งอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับอวัยวะข้างเคียงในกรณีที่ใช้จี้ไฟฟ้า

ในรายที่มีการตัดส่วนของท่อนำไข่ออกมา ถ้ายังไม่แน่ว่าเป็นท่อนำไข่จริงหรือไม่ แพทย์หรือพยาบาลที่ช่วยผ่าตัดจะทำการตรวจสอบเพื่อยืนยันว่าเป็นท่อนำไข่อีกครั้ง (เพราะอาจไปตัดส่วนของเอ็นที่ยึดมดลูกออกมาก็ได้) ด้วยการร้อยไหมให้ผ่านรูของชิ้นเนื้อที่ตัดออกมา หากร้อยไหมได้แสดงว่าส่วนที่ตัดออกมาเป็นท่อนำไข่จริง แต่ในกรณีที่แพทย์ไม่สามารถมองเห็นส่วนปลายของท่อนำไข่หรือพยาบาลไม่สามารถร้อยไหมผ่านรูชิ้นเนื้อได้ หรือมีข้อสงสัยอื่น ๆ แพทย์อาจจะส่งชิ้นเนื้อที่ตัดออกมาไปตรวจทางพยาธิวิทยาว่าเป็นท่อนำไข่จริงหรือไม่

3.) การทำหมันแบบ Essure เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดมากกว่า 2 วิธีแรก โดยกระบวนการ Essure จะเป็นการสกัดกั้นไม่ให้ไข่กับสเปิร์มมาเจอกัน โดยใช้วัตถุขนาดเล็กที่ทำขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์หรือนิกเกิลที่มีลักษณะเป็นขดลวด 2 ขด (ข้างละ 1 ขด) สอดเข้าไปในท่อนำไข่ โดยใช้กล้องส่องตรวจโพรงมดลูก ใส่เข้าไปทางช่องคลอด ผ่านปากมดลูก ซึ่งกล้องที่ใส่เข้าไปนี้สามารถหมุนเข้าไปอุดท่อนำไข่ได้ เพื่อสร้างปฏิกิริยากระตุ้นให้ร่างกายสร้างพังผืดขึ้นมาปิดท่อนำไข่ ซึ่งใช้เวลาในการทำเพียง 5 นาทีเท่านั้น พูดได้ว่าพักงานเที่ยงไปทำหมันเสร็จกลับมาบ่ายก็ไม่มีใครรู้ เพราะไม่จำเป็นต้องพักฟื้น หลังทำเสร็จก็ไม่ทำให้เกิดรอยแผลเป็นจากการผ่าตัดแต่อย่างใด แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการทำหมันด้วยวิธีนี้คือช่วงแรกหลังจากประจำเดือนหมด เนื่องจากเยื่อบุโพรงมดลูกจะบางมากจนสามารถมองเห็นท่อนำไข่ทั้ง 2 ข้างได้อย่างชัดเจน และเพียงชั่วเวลา 3 เดือนหลังทำหมัน เนื้อเยื่อที่อยู่รอบ ๆ ขดลวดก็จะเจริญเติบโตจนท่อนำไข่ถูกอุดตันลงอย่างสมบูรณ์ หลังจากใส่อุปกรณ์เข้าไป ผู้ทำหมันสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ แต่ต้องใช้วิธีการคุมกำเนิดอย่างอื่นร่วมด้วยเพื่อรอให้ร่างกายสร้างพังผืดขึ้นมาปิดท่อรังไข่ได้ทั้งหมดก่อน

หลังจากใส่เครื่องมือไปแล้ว 3 เดือน แพทย์จะนัดกลับมาตรวจอีกครั้งเพื่อดูความคืบหน้าของการทำหมันว่าเรียบร้อยดีหรือไม่ ด้วยการฉีดสีเข้าไป หรือเอกซเรย์ดูว่าตัวโลหะที่ใส่เข้าไปอยู่ในจุดที่ถูกต้องดีหรือไม่ ถ้าเรียบร้อยดีจึงจะถือว่าเป็นการทำหมันถาวรได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ในส่วนของผลข้างเคียงนั้น อุปกรณ์ที่ใส่เข้าไปจะเป็นนิกเกิลกับไทเทเนียม ซึ่งเป็นโลหะที่มีปฏิกิริยาต่อร่างกายต่ำอยู่แล้ว จึงไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด

4.) การทำหมันโดยการตัดมดลูกในเพศหญิง (Hysterectomy) เป็นการผ่าตัดเพื่อเอามดลูกออกไปจากร่างกาย แต่ไม่ได้หมายความรวมถึงการตัดรังไข่ออกด้วย ซึ่งเป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ได้แบบถาวร และวิธีนี้ยังใช้สำหรับการรักษาโรคบางโรคได้อีกด้วย เช่น มะเร็งของระบบอวัยวะสืบพันธุ์สตรี เช่น เนื้องอกมดลูก, มดลูกหย่อน, เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, ประจำเดือนมามาก, มะเร็งปากมดลูก มะเร็งกล้ามเนื้อมดลูก มะเร็งท่อนำไข่ หรือมะเร็งรังไข่ เป็นต้น

หมายเหตุ : ปกติแล้วถ้าพูดถึงการทำหมันสตรี ในความหมายของคนส่วนใหญ่จะเข้าใจว่าเป็นการทำหมันเปียกหรือการทำหมันแห้งครับ

ประสิทธิภาพในการทำหมันหญิง

การทำหมันหญิงถือเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากมีผลข้างเคียงน้อย และมีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูง (แม้จะไม่ 100% ก็ตาม) ซึ่งตามหลักการแล้วการทำหมันหญิงอย่างถูกต้อง (Perfect use) จะมีโอกาสล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้เพียง 0.5% ซึ่งหมายความว่า จำนวนการตั้งครรภ์ต่อปีของสตรีที่คุมกำเนิดด้วยการทำหมันแบบ Tubal ligation จำนวน 200 คน จะมีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 1 คน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ด้วย เช่น ความชำนาญของแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด วิธีการผ่าตัด ความยาวของท่อนำไข่ที่ตัดออก หรือผู้เข้ารับการผ่าตัดมีการตั้งครรภ์อยู่ก่อนแล้วก่อนการทำหมัน ฯลฯ และแม้ว่าจะทำการผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและทำการผ่าตัดอย่างถูกต้อง แต่ก็ยังมีรายงานพบการเชื่อมต่อกันเองของปลายท่อนำไข่และทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้อยู่ และในส่วนของการทำหมันหญิงแบบ Essure อย่างถูกต้อง พบว่าจะมีโอกาสล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้เพียง 0.26% หรือคิดเป็น 1 ใน 384 คน ส่วนด้านล่างนี้เป็นตารางเปรียบเทียบระหว่างการคุมกำเนิดด้วยวิธีการทำหมันหญิงกับวิธีการคุมกำเนิดแบบอื่น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจครับ

วิธีคุมกำเนิด
การใช้แบบทั่วไป
การใช้อย่างถูกต้อง
ระดับความเสี่ยง

ยาฝังคุมกำเนิด

0.05

 (1 ใน 2,000 คน)

0.05

ต่ำมาก

ทำหมันชาย

0.15

(1 ใน 666 คน)

0.1

ต่ำมาก

ห่วงอนามัยเคลือบฮอร์โมน

0.2

 (1 ใน 500 คน)

0.2

ต่ำมาก

ยาฉีดคุมกำเนิด (ฮอร์โมนรวม)

0.2

(1 ใน 500 คน)

0.2

ต่ำมาก

ทำหมันหญิงแบบไร้แผล (Essure)

0.26

(1 ใน 384 คน)

0.26

ต่ำมาก

ทำหมันหญิงแบบทั่วไป

0.5

(1 ใน 200 คน)

0.5

ต่ำมาก

ห่วงอนามัยหุ้มทองแดง

0.8

(1 ใน 125 คน)

0.6

ต่ำมาก

ยาฉีดคุมกำเนิด (ฮอร์โมนเดี่ยว)

6

(1 ใน 17 คน)

0.2

ปานกลาง

แผ่นแปะคุมกำเนิด

9

(1 ใน 11 คน)

0.3

ปานกลาง

วงแหวนคุมกำเนิด (NuvaRing)

9

(1 ใน 11 คน)

0.3

ปานกลาง

ยาเม็ดคุมกำเนิด

9

(1 ใน 11 คน)

0.3

ปานกลาง

ฝาครอบปากมดลูก (Diaphragm)

12

(1 ใน 8 คน)

6

สูง

ถุงยางอนามัยชาย

18

(1 ใน 5 คน)

2

สูง

การหลั่งนอก

22

(1 ใน 4 คน)

4

สูงมาก

การหลั่งใน (ไม่มีการป้องกัน)

85

(6 ใน 7 คน)

85

สูงมาก

หมายเหตุ

: ตัวเลขที่แสดงเป็นจำนวนการตั้งครรภ์ต่อปี (first year of use) ของสตรีที่คุมกำเนิดด้วยวิธีดังกล่าวจำนวน 100 คน โดยกำหนดให้

สีฟ้า

= ความเสี่ยงต่ำมาก /

สีเขียว

= ความเสี่ยงต่ำ /

สีเหลือง

= ความเสี่ยงปานกลาง /

สีส้ม

= ความเสี่ยงสูง /

สีแดง

= ความเสี่ยงสูงมาก (ข้อมูลจาก : www.contraceptivetechnology.org, Comparison of birth control methods – Wikipedia)

ผู้ที่ไม่เหมาะจะทำหมันหญิง

  • ผู้ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะมีลูกหรือไม่ในอนาคต หรือผู้ที่ยังต้องการมีลูกอีกในอนาคต (สำหรับผู้ที่มีอายุน้อยหรือลูกยังไม่โตควรคิดให้ดีก่อนทำหมัน)
  • ผู้ที่อายุยังน้อยและยังไม่มีลูกหรือมีลูกเพียง 1 คน ถ้าไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงจริง ๆ แพทย์มักจะไม่ยอมทำหมันให้ครับ เนื่องจากอายุยังน้อย ยังมีโอกาสเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตได้อีกมาก เพราะอนาคตไม่มีความแน่นอน เพราะลูกอาจป่วย มีพัฒนาการไม่ดี ลูกหรือสามีอาจเสียชีวิต อาจเกิดการหย่าร้าง แต่งงานมีครอบครัวใหม่ (สามีใหม่ต้องการมีลูกไว้สืบสกุล) ฯลฯ ในภายหลังเมื่อทำหมันไปแล้วเกิดอยากมีลูกใหม่ การผ่าตัดแก้หมันจะทำได้ยาก มีค่าใช้จ่ายสูง และโอกาสสำเร็จก็ไม่มาก เพราะเทียบกันแล้ว ยังมีการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น ๆ ที่มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการทำหมัน (หรือมากกว่า) อีกหลายวิธี เช่น การใช้ยาฝังคุมกำเนิด การใส่ห่วงอนามัย การฉีดยาคุมกำเนิด ฯลฯ ที่สามารถคุมกำเนิดได้ยาวนานกว่าปกติอะไรแบบนั้นจะดีกว่า แล้วรอให้คุณแม่อายุมากขึ้นหน่อยและมั่นใจจริง ๆ ว่าไม่ต้องการที่จะมีลูก แล้วจึงค่อยมาทำหมันก็ยังไม่สายครับ (ในกรณีที่ผู้ป่วยยืนยันจะทำหมัน แพทย์ก็คงต้องดูเป็นราย ๆ ไปครับ แต่โดยส่วนมากแล้วจะแนะนำทางเลือกอื่น ๆ ตามที่บอกมาแล้วมากกว่า)
  • ผู้ที่เป็นโรคหัวใจหรือโรคปอด
  • ผู้ที่มีภาวะการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานหรือมีการอักเสบของเยื่อบุช่องท้อง หรือเป็นวัณโรคช่องท้อง
  • มีภาวะไส้เลื่อนที่หน้าท้องหรือกะบังลม
  • มีการติดเชื้อที่ผิวหนังหน้าท้องบริเวณที่จะผ่าตัด หรือมีพังผืดในช่องท้องมาก
  • ผู้ที่เคยผ่าตัดในช่องท้องมาแล้วหลายครั้ง หรือมีก้อนเนื้องอกขนาดใหญ่ในท้อง

: ตัวเลขที่แสดงเป็นจำนวนการตั้งครรภ์ต่อปี (first year of use) ของสตรีที่คุมกำเนิดด้วยวิธีดังกล่าวจำนวน 100 คน โดยกำหนดให้= ความเสี่ยงต่ำมาก /= ความเสี่ยงต่ำ /= ความเสี่ยงปานกลาง /= ความเสี่ยงสูง /= ความเสี่ยงสูงมาก (ข้อมูลจาก : www.contraceptivetechnology.org, Comparison of birth control methods – Wikipedia)

ข้อจำกัดในการทำหมันหญิง

  • ต้องเข้ารับการผ่าตัดในห้องผ่าตัด และทำการผ่าตัดโดยแพทย์ผู้มีความรู้และความชำนาญในการผ่าตัดทำหมัน
  • ต้องใช้ยาระงับปวดและยาดมสลบในระหว่างการผ่าตัด
  • ผู้เข้ารับการผ่าตัดทำหมันจะมีแผลผ่าตัดที่หน้าท้อง
  • ในบางรายที่เคยผ่าตัดในช่องท้องมาก่อนอาจจะมีพังผืดมาก หรือรายที่มีก้อนเนื้องอกบริเวณท่อนำไข่ซึ่งพบโดยบังเอิญ หรือท่อนำไข่มีหลอดเลือดที่มีขนาดใหญ่อยู่ใกล้ ๆ การผ่าตัดทำหมันอาจเสี่ยงต่อการเสียเลือดมากได้ ในกรณีเหล่านี้แพทย์อาจยุติการผ่าตัดทำหมันเพื่อความปลอดภัยก็เป็นได้
  • ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดทำหมันจะต้องไม่มีภาวะแข็งตัวของเลือดผิดปกติ หากได้รับยาละลายลิ่มเลือดหรือยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือดควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนและงดยาก่อนทำการผ่าตัดตามที่แพทย์สั่ง
  • ผู้ที่มีการเสียเลือดมากจากการคลอดจนความดันโลหิตต่ำ (ควรแก้ไขให้สัญญาณชีพคงตัวและร่างกายพร้อมรับการผ่าตัดก่อน)
  • หากการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ล้มเหลว จะมีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้สูง
  • เนื่องจากวิธีนี้เป็นการคุมกำเนิดแบบถาวร หากต้องการกลับมาตั้งครรภ์หรือมีลูกอีกจะต้องมาผ่าตัดแก้ไข ซึ่งอัตราการประสบความสำเร็จจากการแก้หมันจะต่ำและมีค่าใช้จ่ายสูง

การเตรียมตัวก่อนการทำหมันหญิง

  • ควรเตรียมประวัติโรคประจำตัว ประวัติการแพ้ยา ยาที่รับประทานอยู่ รวมทั้งยาที่ซื้อมารับประทานเอง หากรับประทานยา aspirin, ibuprofen ควรจะหยุดรับประทานยาก่อนทำหมันประมาณ 7 วัน แต่หากรับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด warfarin ควรจะปรึกษาแพทย์ก่อนการหยุดยา
  • ก่อนเข้ารับการผ่าตัดทำหมันหญิงควรถอดฟันปลอมและคอนแทคเลนส์ออกก่อนเข้าห้องผ่าตัด
  • ควรปัสสาวะเพื่อให้กระเพาะปัสสาวะแฟบก่อนเข้ารับการผ่าตัด เพื่อลดโอกาสการเกิดการบาดเจ็บต่อกระเพาะปัสสาวะ
  • การผ่าตัดในบางครั้งจำเป็นต้องใช้ยาดมสลบหรือยาฉีดให้สลบ ดังนั้น เพื่อลดการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการสำลักอาหารจากกระเพาะอาหารระหว่างที่สลบ จึงควรงดน้ำ งดอาหารก่อนทำหมันอย่างน้อยประมาณ 6-8 ชั่วโมง

การดูแลตัวเองหลังการทำหมันหญิง

  1. ส่วนใหญ่ผู้เข้ารับการผ่าตัดทำหมันหญิงจะสามารถกลับบ้านได้เลยหลังจากตื่นจากยาสลบ แต่บางรายอาจจะต้องนอนโรงพยาบาลอีก 1 คืน
  2. หลังผ่าตัดทำหมันหญิงควรนอนพักเพื่อสังเกตอาการอย่างน้อยประมาณ 2-3 ชั่วโมง ในบางครั้งยังอาจมีอาการมึนงงจากยาชาและยาสลบ จึงควรมีญาติพากลับบ้าน ไม่ควรเดิน ขับรถ หรือกลับบ้านเพียงลำพัง จากนั้นจึงสังเกตอาการด้วยตนเอง หากมีอาการปวดแผลผ่าตัดมากหรือมีเลือดออกบริเวณผ่าตัด ให้รีบกลับไปโรงพยาบาล
  3. หลังการผ่าตัดแผลจะหายเป็นปกติภายใน 4-5 วัน ในระหว่างนี้ควรระมัดระวังไม่ให้แผลผ่าตัดถูกน้ำ ไม่ควรอาบน้ำร้อน หรือว่ายน้ำจนกว่าจะครบกำหนดเปิดแผล หรือประมาณ 1 สัปดาห์หลังการผ่าตัด
  4. ควรหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือน เช่น การยกของหนัก การเดินนาน ๆ การเล่นกีฬาที่ต้องออกแรงมาก ๆ หรือการทำงานหนักหลังการผ่าตัดทำหมันอย่างน้อย 1 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหายสนิทดีแล้ว ทั้งนี้เพื่อป้องกันการตกเลือดหรืออาการปวดแผลหลังการผ่าตัด (หากเย็บแผลด้วยไหมละลาย หลังเปิดแผลถ้าแผลหายดีก็สามารถอาบน้ำได้เลย แต่ถ้าเป็นการเย็บแผลด้วยไหมธรรมดา ต้องไปตัดไหมก่อนเมื่อครบ 7 วัน แล้วจึงจะอาบน้ำได้)
  5. สำหรับการทำหมันแห้งควรงดมีเพศสัมพันธ์หลังการทำหมันอย่างน้อย 7 วัน หรือจนกว่าจะไม่เจ็บแผลผ่าตัด ส่วนการทำหมันเปียก สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้หลังจากคลอดบุตรแล้วประมาณ 4-6 สัปดาห์
  6. หากมีอาการปวดแผลผ่าตัดให้รีบประทานยาเพื่อบรรเทาอาการปวด เช่น พาราเซตามอล (แต่ส่วนมากจะมีอาการปวดเพียงเล็กน้อย และไม่จำเป็นต้องใช้ยาครับ) แต่หากมีอาการปวดมากก็ควรรีบไปพบแพทย์ครับ และหากมีอาการดังต่อไปนี้ ก็ควรรีบไปพบแพทย์เช่นกัน เช่น

    มีอาการปวดท้องมาก ทานยาแก้ปวดแล้วยังไม่หายปวด, มีน้ำหรือเลือดออกจากแผลผ่าตัด, มีอาการตกเลือดมาก, หายใจหอบ หน้ามืด, มีไข้มากกว่า 100.5 °F หรือหนาวสั่น, คลื่นไส้อาเจียน

  7. ในระยะยาวอาจมีอาการปวดแปลบ ๆ บริเวณท้องน้อยทั้งสองข้างเล็กน้อย ซึ่งมีสาเหตุมาจากพังผืดจากการผ่าตัด ซึ่งเป็นอาการที่พบได้ตามปกติ แต่หากมีอาการปวดท้องน้อยมาก ควรรีบไปพบแพทย์
  8. ในกรณีที่ประจำเดือนขาดหลังทำหมันควรรีบตรวจการตั้งครรภ์ เพราะการทำหมันหญิงไม่สามารถคุมกำเนิดได้เต็ม 100% หากพบมีการตั้งครรภ์ควรรีบไปพบแพทย์ เนื่องจากมีโอกาสเสี่ยงเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้สูง
  9. เมื่อครบกำหนดเวลานัด หรือครบกำหนด 1 เดือนหลังการผ่าตัดทำ หรือมีอาการผิดปกติ ควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายอีกครั้ง และควรมาตรวจสุขภาพทั่วไปและตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกปีละ 1 ครั้ง

ผลข้างเคียงจากการทำหมันหญิง

อันตรายจากการผ่าตัดทำหมันหญิงมีน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย เพราะในปัจจุบันมีเครื่องมือที่ทันสมัยและมีความปลอดภัยมาก ส่วนอาการแทรกซ้อนอาจพบได้บ้างแต่ก็มีน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย หรือพบได้น้อยกว่า 1% (การทำหมันหญิงอันตรายน้อยกว่าการคลอดลูกและการทำแท้งหลายสิบเท่า และมีเพียง 1-2 คนใน 100,000 คน เท่านั้นที่เสียชีวิตจากการทำหมัน) เพราะโดยทั่วไปแล้วการผ่าตัดทำหมันเป็นหัตถการที่สามารถทำได้โดยง่าย ผู้ที่ได้รับการฝึกฝนจะใช้เวลาในการผ่าตัดไม่เกิน 15-30 นาที จึงจัดเป็นหัตถการที่พบภาวะแทรกซ้อนได้น้อยมาก ซึ่งภาวะแทรกซ้อนส่วนใหญ่มักมาจากการดมยาสลบ ดังนั้นการหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนด้วยการเปลี่ยนมาใช้ยาชาเฉพาะที่พร้อมกับงดน้ำและอาหารก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ก็จะช่วยลดภาวะแทรกซ้อนส่วนนี้ได้ โดยผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้หลังการผ่าตัดทำหมันหญิงมีดังนี้

  1. อวัยวะข้างเคียงภายในอาจได้รับบาดเจ็บร่วมด้วย เช่น มดลูก กระเพาะปัสสาวะ และลำไส้
  2. อาจเกิดภาวะเสียเลือด ในระหว่างการผ่าตัดอาจมีการฉีกขาดของหลอดเลือดบริเวณท่อนำไข่ได้ หรือไหมที่ผูกบริเวณท่อนำไข่ที่เป็นตัวช่วยห้ามเลือดจากแผลผ่าตัดท่อนำไข่หลุด ทำให้มีเลือดออกในช่องท้องได้
  3. การติดเชื้อ เช่น การติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน การติดเชื้อที่แผลผ่าตัดทำหมัน เป็นต้น
  4. หลังการทำหมันอาจเกิดอาการดังต่อไปนี้ได้ประมาณ 2-4 วัน ได้แก่ เจ็บไหล่ แสบคอ ท้องใหญ่และเกร็งหน้าท้อง อาจมีเลือดออกทางช่องคลอด และมีตกขาว
  5. ในบางรายอาจพบว่ามีอาการปวดท้องน้อย ส่วนมากแล้วจะเป็นอาการปวดท้องน้อยเรื้อรังหรือปวดพอรำคาญ ซึ่งมีสาเหตุมาจากการมีพังผืดบริเวณที่ตัดผูกท่อนำไข่ แต่ไม่พบว่าเป็นอันตรายแต่อย่างใด
  6. ในบางรายอาจพบว่ามีอาการแพ้ยาชาหรือยาดมสลบ หรือมีปัญหาต่อระบบไหลเวียนเลือดและการหายใจในกรณีที่ได้รับการดมยาสลบ
  7. การตั้งครรภ์นอกมดลูก แม้ว่าการทำหมันจะเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูง แต่ก็ยังมีโอกาสทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้ ซึ่งถ้ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นก็จะมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นการตั้งครรภ์นอกมดลูกสูง
  8. ผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น การแพ้ยา การติดเชื้อ ปอดบวม โรคแทรกซ้อนทางหัวใจ เป็นต้น

ข้อดีของการทำหมันหญิง

  1. การทำหมันหญิงเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการวางแผนครอบครัว
  2. เป็นวิธีที่ประหยัด สะดวก ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ในการคุมกำเนิด ไม่ต้องกลัวลืมรับประทานหรือฉีดยาคุมกำเนิด และไม่ต้องเสียเวลาในการเข้ารับบริการการคุมกำเนิด
  3. เนื่องจากไม่ใช่วิธีการคุมกำเนิดโดยใช้ฮอร์โมน จึงช่วยลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ฮอร์โมนได้
  4. ไม่ขัดขวางหรือเป็นอุปสรรคในการมีเพศสัมพันธ์
  5. ไม่มีผลต่อการให้นมบุตร

ข้อเสียของการทำหมันหญิง

  1. ผู้เข้ารับการผ่าตัดทำหมันจะมีแผลผ่าตัดที่หน้าท้อง
  2. หากการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ล้มเหลว จะมีโอกาสเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้สูง
  3. ไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

ทำหมันหญิงแล้วเขาลือกันว่า… ?

  • ทำหมันแล้วโทรม ทำงานหนักไม่ไหว !!

     :

    ไม่จริง

    เพราะการทำหมันหญิงจะเป็นการผูกท่อนำไข่ ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับอวัยวะส่วนอื่นของร่างกายแต่อย่างใด ส่วนที่ทำให้ร่างกายทรุดโทรมนั้นมาจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น หลงเชื่อข่าวลือผิด ๆ เกี่ยวกับการทำหมันหรือมีความกลัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งเหล่านี้เป็นภาวะทางด้านจิตใจ หรือบางคนอาจมีโรคอยู่ก่อนแล้วหรือเพิ่งเกิดโรคหลังจากที่ทำหมัน ซึ่งเป็นไปตามกาลเวลา แต่ไม่รู้จะโทษอะไรดี ก็เลยไปโทษว่าสาเหตุเป็นเพราะการทำหมัน ทั้งที่ความจริงแล้วไม่เกี่ยวข้องกันเลย หรือในอีกกรณีที่บางคนใช้การทำหมันเป็นข้ออ้างไม่อยากทำงานหนัก แต่ความจริงแล้วไม่เกิน 1 สัปดาห์แผลก็หายสนิทแล้วครับ สามารถทำงานหนักได้ทุกชนิด ไม่ต่างจากช่วงก่อนทำหมันเลย

  • ทำหมันหญิงแล้วจะอ้วนขึ้นหรือผอมลงหรือไม่ ?

    :

    ไม่เกี่ยวครับ

    เพราะการทำหมันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อต่อมหรืออวัยวะใด ๆ ที่เกี่ยวกับการกินอาหารและระบบการย่อยอาหารแต่อย่างใด การที่คนเราจะอ้วนหรือผอมนั้นหลัก ๆ แล้วจะขึ้นอยู่กับอาหารการกินหรือเกี่ยวกับสุขภาพทั่วไปของคน ๆ นั้นมากกว่า คนที่อ้วนขึ้นก็อาจเป็นเพราะพันธุกรรมเดิมหรือเกิดความสบายใจทำให้กินดีอยู่ดีจนอ้วนท้วนสมบูรณ์ขึ้น ส่วนคนที่ผอมลง ก็อาจเกิดจากการเจ็บป่วยอย่างอื่นก็ได้ ซึ่งมีอยู่หลายปัจจัยครับ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำหมันอย่างแน่นอน

  • ทำหมันหญิงแล้วก็ยังตั้งท้องได้

    :

    ได้ครับ

    แต่โอกาสมีก็น้อยมาก ๆ ซึ่งอาจเกิดจากการที่ปีกมดลูกที่ตัด ผูก หรือใช้ไฟฟ้าจี้ มาต่อกันเองได้สำหรับบางคน หรือใช้วงแหวนพลาสติกรัด แล้ววงแหวนเกิดหลุดก็ทำให้ตั้งครรภ์ได้ หรืออีกกรณีก็คือคุณแม่เริ่มตั้งครรภ์อ่อน ๆ แล้ว แต่ยังไม่รู้ตัว คือไข่มีการผสมและผ่านท่อนำไข่มาแล้ว ก่อนที่จะมาทำหมันโดยการผูกท่อนำไข่ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าทำหมันแล้วเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาจริง ๆ ลูกน้อยในครรภ์ก็ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด ขอให้สบายใจได้เลยครับ

  • ทำหมันแล้วจะเป็นโรคประสาท

    :

    ไม่เกี่ยวกันครับ

    เพราะการทำหมันไม่ได้ทำลายระบบประสาทแต่อย่างใด ดังนั้นจึงไม่ทำให้เกิดอาการหงุดหงิด ปวดศีรษะ หรือเป็นโรคประสาทได้ ถ้าจะเป็นก็เป็นเองครับ ไม่เกี่ยวกับการทำหมัน อย่างบางคนที่เคยมีอาการดังกล่าว พอทำหมันแล้วอาการหายไปเลยก็มี ซึ่งอาจเพราะไม่ต้องมากังวลเรื่องจะมีลูกนั่นเอง

  • ทำหมันแล้วจะไม่มีประจำเดือน

    :

    ไม่จริง

    การทำหมันหญิงจะไม่มีผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เพราะมดลูกและรังไข่ยังคงมีอยู่ตามปกติ จึงไม่มีผลต่อรังไข่และมดลูก ไม่มีผลรบกวนฮอร์โมนเพศในร่างกาย ผู้ที่ทำหมันแล้วยังสามารถมีประจำเดือนได้ตามปกติเหมือนเดิมจนถึงอายุ 49-50 ปี

  • ทำหมันแล้วมดลูกจะอักเสบ

    :

    ไม่จริง

    เพราะการทำหมันไม่ได้ไปแตะต้องส่วนของมดลูกเลย

  • ทำหมันแล้วจะเป็นมะเร็งที่มดลูก

    : ไม่จริง 100% เพราะในทางกลับกันคนที่มีลูกน้อยจะมีโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกน้อยกว่าคนที่มีลูกมากครับ

  • ทำหมันแล้วไข่ที่ตกออกมาจากรังไข่จะไม่มีทางออก จึงตกค้างและเกิดอันตรายได้

    :

    ก็ไม่จริงอีกแหละครับ

    ถ้าไข่ตกและไม่ได้รับการผสมก็จะฝ่อไปเองตามธรรมชาติ ไม่สะสมไว้ในร่างกาย

  • ทำหมันหญิงแล้วจะเจ้าชู้มากขึ้น

    :

    ไม่เกี่ยวกันอย่างแน่นอนครับ

    เพราะเรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับอุปนิสัยของแต่ละคน บางคนอาจจะเป็นคนเจ้าชู้มาตั้งแต่ยังไม่ได้ทำหมันก็ได้ โดยที่ก่อนหน้านี้ยังไม่ได้แสดงออกเพราะกลัวจะไปทำผู้หญิงอื่นท้อง หรือถ้าเป็นผู้หญิงก็อาจจะกลัวท้องขึ้นมาแล้วทำให้อับอายจึงยับยั้งชั่งใจไว้ พอทำหมันจนแน่ใจแล้วว่าไม่ตั้งท้อง ก็เลยปล่อยตัวตามนิสัยตัวเอง พอถูกจับได้ก็ไปโทษว่าการทำหมันทำให้เสียคน ทั้งที่ความจริงแล้วไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างใด

  • ทำหมันแล้วเซ็กซ์จัด

    : ไม่เกี่ยว น่าจะเป็นเพราะหมดความกังวลเรื่องการตั้งครรภ์หรือเป็นข้ออ้างของคนที่มีนิสัยอย่างนี้มากกว่า

  • ทำหมันแล้วหมดความรู้สึกทางเพศ

    :

    ไม่จริง 1,000%

    ถ้าจะเป็นก็เพราะเราคิดไปเอง อีกทั้งจากการศึกษาส่วนใหญ่ก็ยังพบว่าผู้ที่ทำหมันแล้วจะมีเพศสัมพันธ์บ่อยกว่าผู้ที่ไม่ได้ทำหมัน ซึ่งสาเหตุก็น่าจะมาจากหมดความกังวลเรื่องปัญหาการตั้งครรภ์ สรุปก็คือ การทำหมันหญิงไม่มีผลแทรกซ้อนหรือผลข้างเคียงที่ทำให้ความรู้สึกทางเพศลดลง

การแก้หมันหญิง

ในกรณีของผู้ที่ต้องการจะมีบุตรอีกหลังการทำหมัน เช่น มีการแต่งงานใหม่ บุตรเสียชีวิต หรืออยากมีบุตรเพิ่มอีก และอยากทำการแก้หมันหรือต่อหมันหญิง ก็สามารถตั้งครรภ์ใหม่ได้โดย

  • การผ่าตัดแก้หมันหญิง

     (Tubal ligation reversal) เป็นการผ่าตัดเชื่อมต่อท่อนำไข่ที่ถูกตัดให้ขาดออกจากกัน ต้องทำโดยแพทย์ที่มีความชำนาญและได้รับการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีโอกาสกลับมาตั้งครรภ์ได้อีกประมาณ 15-90% ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย เช่น ความชำนาญของแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดแก้หมัน เครื่องมือที่ใช้ในการผ่าตัด การใช้กล้องขยายช่วยในการผ่าตัด วิธีการผ่าตัดทำหมันที่ใช้ ความยาวของท่อนำไข่ที่เหลือ ตำแหน่งที่ถูกตัดท่อนำไข่ ระยะเวลาหลังจากการผ่าตัดทำหมัน อายุของผู้ทำหมัน สุขภาพของผู้ทำหมันและสามี เป็นต้น ถ้าเน้นประหยัดหรือมีงบประมาณจำกัดก็เลือกทำที่โรงพยาบาลรัฐครับ ราคาประมาณ 1-3 หมื่นบาท แต่ถ้าเป็นโรงพยาบาลเอกชนก็ประมาณ 8 หมื่นบาทถึง 1 แสนบาทขึ้นไป

  • การใช้เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์

    ได้แก่ การทำเด็กหลอดแก้ว (In vitro fertilisation – IVF) โดยการใช้ยากระตุ้นไข่และใช้เข็มดูดเก็บไข่จากรังไข่ จากนั้นจึงนำมาผสมกับอสุจิภายนอกร่างกาย จนได้ตัวอ่อน แล้วจึงย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก เพื่อให้ตัวอ่อนฝังตัวและเจริญเติบโตต่อไป ซึ่งจะมีโอกาสตั้งครรภ์ประมาณ 25-40% ต่อรอบ ขึ้นอยู่กับอายุและอีกหลายปัจจัย (บางข้อมูลระบุว่า มีอัตราการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 5-80% ต่อรอบ) วิธีนี้เป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายสูง ค่าใช้จ่ายต่อรอบก็หลักแสนขึ้นไป และต้องทำโดยแพทย์ผู้ชำนาญเฉพาะด้าน มีอุปกรณ์ และห้องปฏิบัติการที่มีเครื่องมือพิเศษ

เอกสารอ้างอิง

  1. หนังสือคู่มือตั้งครรภ์และเตรียมคลอด.  “การทำหมัน…ตัดสินใจที่จะไม่มีลูกอีก”.  (ศ. (คลินิก) นพ.สุวชัย อินทรประเสริฐ).  หน้า 456-465.
  2. หาหมอดอทคอม.  “การทำหมันหญิง (Tubal ligation)”.  (พญ.กีรติ ลีละพงศ์วัฒนา).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : haamor.com.  [21 ต.ค. 2015].
  3. Siamhealth.  “การทำหมันหญิง”.  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.siamhealth.net.  [21 ต.ค. 2015].
  4. ThaiLady Clinic.  “การแก้หมัน การต่อหมัน ในผู้หญิง”.  (นพ.ฉัตรชัย ตรีธรรมพินิจ).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : www.thailadyclinic.com.  [21 ต.ค. 2015].
  5. นิตยสาร M&C แม่และเด็ก.  “บอกลา..แผลผ่าตัด “คุมกำเนิด” ทางเลือกใหม่”.  (นพ.วิบูลย์ กมลพรวิจิตร).  [ออนไลน์].  เข้าถึงได้จาก : motherandchild.in.th.  [21 ต.ค. 2015].

เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (Medthai)

เรื่องที่น่าสนใจ

[NEW] เคล็ดลับสำหรับการฝึกร้องเพลง ที่จะทำให้เราเสียงดี – การฝึกร้องเพลง ฝึกเสียง | เพลง ทํา ไม ได้ แต่ บอก ทํา ไม – NATAVIGUIDES

สำหรับน้องๆ ที่มีความฝันอยากเป็นนักร้อง อย่ามัวแต่ฝันกัน เราสามารถฝึกทักษะการร้องเพลงได้ด้วยตัวเองที่บ้าน กระทู้นี้มีเคล็ดลับ เทคนิคมากมาย หลายข้อ ลองไปทำตามกันดูนะ

เคล็ดลับสำหรับการฝึกร้องเพลง ฝึกเสียง

การหายใจ

1. เคล็ดลับในการหายใจ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มหัดร้องเพลง เพราะมักจะหายใจไม่ทันและเหนื่อย ร้องแล้วบางทีลมไม่พอ ทำให้เสียงขาดหาย

ตอบ การหายใจที่ถูกต้องคือ การเก็บลมที่กระบังลม พองรับลมเก็บลมเข้าไว้ ใช้ลมจากกระบังลม Control ให้เส้นเสียงสั่นสะเทือน ถ้าเปลี่ยนวิธีการหายใจมาใช้กระบังลมได้ บางทีน้องจะหายใจง่ายขึ้น เพราะการหายใจด้วยกระบังลม มันใช้เวลาเสี้ยววินาทีในการเก็บลมให้เต็ม

เสียงไม่มีพลัง

2. รู้สึกว่าเสียงร้องของตัวเองไม่มีพลัง ควรทำไงดี อีกอย่างหนึ่งการที่จะร้องเพลงให้มีทั้งน้ำเสียงและ feeling ที่ดีควรทำอย่างไร

ตอบ ต้องรู้จัก Project เสียง เริ่มจากรู้จักการบังคับกระบังลม อย่างเช่น การบังคับกระบังลมเนี่ย เราหายใจเข้าเก็บลม กระบังลมพองเต็มที่แล้ว ปล่อยเสียง เราบังคับกระบังลมให้ Project เสียงทีเดียว ให้มีพลัง เราทำได้แล้ว เราจะเริ่ม Project เสียง บังคับกระบังลมได้นะ มันมีวิธีการฝึกฝน แบบฝึกหัดเยอะแยะ อย่างเช่น Sit Up หรือว่า เพิ่มพลังให้กระบังลม ยกน้ำหนักกระบังลม น้องๆ ก็คงต้องเน้นที่กระบังลม เก็บลมและ Control ได้เต็มที่ จะทำให้เสียงมีพลังมากขึ้น

เสียงสั่นๆ

3. ร้องเพลงแล้วรู้สึกเหมือนเสียงสั่นๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร

ตอบ เสียงสั่นมี 2 กรณีนะ- คือเกร็ง เวลาร้องเพลงแล้วเกร็ง เส้นเสียงมันจะตึง ทำให้สั่นสะเทือนไม่ได้เต็มที่ – อีกอันหนึ่งก็คือ ลมที่ใช้บังคับให้เส้นเสียงสั่นสะเทือน ไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นต้องลองเช็คดูว่า ลมพอรึเปล่า หรือว่าน้องร้องเกร็ง แล้วก็แก้ไขที่จุดนั้นๆ

ร้องเสียงสูงไม่ค่อยได้

4. ผมเป็นคนที่ร้องเสียงสูงไม่ค่อยได้ ทำอย่างไรให้สามารถร้องเสียงสูงได้บ้างครับ โดยเฉพาะเพลงพี่เบิร์ดร้องยากมาก ถ้าจะร้องให้ได้ตามคีย์เสียงพี่เขานั้นยากมากสำหรับผม

ตอบ จริง ๆ แล้ว อย่างที่บอกว่าการร้องเพลง เสียงจะถูกกำหนดโดยสรีระร่างกายคนเราแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นอยากจะเป็นคนอีกคนนึง มันก็ยาก แต่มันก็ไม่ถึงกับทำไม่ได้ จะต้องมีการฝึกฝนที่ถูกวิธี หายใจให้ถูกต้อง รูปปากถูกต้อง ค่อย ๆ Vocalize เสียงให้สูงขึ้น แต่ยังไงก็ตาม คนบางคนก็อาจจะไม่สามารถร้องได้ เพราะระดับของเสียงมันถูกกำหนดโดยสรีระร่างกาย เพราะฉะนั้นถ้าอยากร้องเพลงพี่เบิร์ด ก็อาจจะต้องลดคีย์ลงมาดีกว่า อย่าไปบังคับให้เสียงสูงขึ้นโดยการตะโกน มันจะทำให้เสียงเสีย

วิธีการร้องเสียงหลบ

5. วิธีการร้องเสียงหลบเป็นยังไง มีเทคนิคในการร้องแบบไหน แล้วร้องยากไหม

ตอบ การร้องเสียงหลบนี่ก็คือเสียง Head Tone ค่ะ วิธีการร้องก็ต้องเปิดคอ ก็คือให้คอ เราเป็นโพรง แล้วโยนเสียงขึ้นไปให้ก้องกังวานอยู่บริเวณที่เป็น Head Tone จริง ๆ ถามว่าร้องยากมั้ย ไม่ยากนะ แต่จะต้องมีการฝึกฝนที่ถูกวิธีนิดนึง แล้วก็มีครูที่มีประสบการณ์ช่วยชี้แนะ

ร้องเพลงแบบมีลูกคอ

6. ร้องเพลงไม่ค่อยเข้ากับดนตรีเลย เป็นคนเสียงต่ำทำให้ร้องเพลงเสียงสูงไม่ได้ พอร้องเสียงมันจะขาดไป อยากร้องเพลงเสียงสูงได้ และการร้องแบบมีลูกคอทำยังไงคะ อยากมีลูกคอเหมือนกับนักร้องดังๆ บ้าง ควรฝึกยังไง

ตอบ อยากร้องเสียงสูงได้ต้องฝึกนะ ก็คือฝึกการวอร์มเสียงด้วย แล้วก็จะต้องมี ครูที่ชำนาญช่วยในการ ฝึกฝน อย่างที่พี่แอนบอกว่า เสียงจะถูก Limit ด้วยสรีระร่างกาย เรา ดังนั้นการที่จะยืดให้เสียงสูงขึ้นหรือต่ำลงจะต้องมีคนที่มีประสบการณ์มีความรู้มากกว่าที่จะช่วยยืดเสียงนั้น ร้องแบบมีลูกคอทำยังไง? ลูกคอ คือการสั่นสะเทือนเราเรียกว่า Vibration ค่ะ เพราะฉะนั้นลูกคอก็คือการสั่นสะเทือนของโน้ต 2 ตัว ให้หาโน้ต 2 ตัว ลองฝึกฝนร้องจากโน้ตแต่ละโน้ต อย่างสมมุติ \”มีฟ้า มีฟ้า มีฟ้า…\” เราร้องให้เร็วขึ้น แล้วมันจะเกิดลูกคอได้

เทคนิคการร้องแบบ R&B

7. อยากทราบเทคนิคการร้องแบบ R&B ว่าทำยังไงคะ แล้วก็สนใจอยากร้องให้ได้แบบ Mariah (แบบหอนๆ หน่อย) อยากรู้ว่าหัดยังไง

ตอบ คนที่ร้อง R&B ได้จะต้องเป็นคนที่ฟังเพลงเยอะๆ แล้วก็รู้จักการใช้โน้ตหลายๆ ตัว แทนที่จะร้องลากเสียงแค่โน้ตเดียว ก็จะเปลี่ยนโน้ตไปเรื่อยๆ มันจะมีสเกลหลายสเกลที่จะใช้ฝึกนะคะ อย่างเช่น Melodic Scale คือสเกลที่เป็นเครื่องเสียงหมดเลย ฝึกอันนี้ก็ได้ หรือว่าฟังเพลงเยอะๆ ก็ได้

เสียงขาดพลัง

8. เพื่อนๆ มักจะบอกว่า ผมร้องเพลงสมูทมากๆ คือเรียบหมดทั้งเพลง ไม่มีสูง-ต่ำ ทั้งๆ ที่ผมรู้สึกว่าผมออกเสียงสูงต่ำชัด อาการของผมคือ ร้องเสียงต่ำปั๊บ ล่มทันที คือร้องได้ แต่ว่าไม่ค่อยมีคีย์ เสียงสูง ก็สูงมากไม่ได้ เพราะเสียงผมขาดพลัง ลงต่ำไม่ค่อยได้ แต่เพื่อนบอกว่าผมเนื้อเสียงดีนะ ช่วยตอบด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

ตอบ เป็นเสียงโมโนโทน คือร้องเสียงคีย์เดียวกันตลอด ปัญหาคงอยู่ที่ ear training คือปัญหาของการรับฟัง เพราะถ้าเรามีประสาทหูที่ดีเราจะรับฟังเสียงสูงและเสียงต่ำ แล้วก็สามารถทำตามได้จากสิ่งที่ได้ยิน เพราะฉะนั้น ของน้องคงต้องเริ่มตั้งแต่ ear training ก่อน คือฝึกประสาทรับฟังที่ถูกต้องก่อน เพื่อจะได้จับเสียงสูง-เสียงต่ำ และความแตกต่างของเสียงได้ เนื้อเสียงดีก็ดีแล้วค่ะ แต่จริงๆสิ่งที่สำคัญที่สุดอีกอย่างของการร้องเพลง คือประสาทรับฟัง

จะรู้ได้อย่างไรว่าเอกลักษณ์ของเราคืออะไร

9. “เอกลักษณ์การร้องเพลงที่เป็นตัวของตัวเอง” ฟังแล้วเหมือนง่าย แต่ยากจังนะคะ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเอกลักษณ์ของเราคืออะไร เพราะอย่างหนูเองเวลาร้องตามนักร้อง หนูมักจะหัดออกเสียงตามแบบที่เขาร้อง แรกๆหนูก็ไม่รู้ตัวหรอกค่ะ แต่พอมาฟังคนพูดเยอะๆว่า นักร้องคนนี้ ร้องเพลงมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองดี ก็เลยฉุกคิดว่า แล้วเราล่ะมีเอกลักษณ์การร้อง เป็นของตัวเองบ้างหรือเปล่า

ตอบ จริงๆ แล้วเอกลักษณ์ มันก็คือเทคนิคในการร้องเพลง อย่างที่เวลาน้องร้องเพลงตามศิลปินคนอื่นๆ เขาจะมีเทคนิคแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน ทีนี้การใช้เทคนิคในคำแต่ละคำในเพลง มันอาจจะมีหลายเทคนิค ที่จะใช้กับคำๆนั้น ถ้าน้องสามารถหาวิธีที่น้องถนัด แล้วก็ลงไปร้องคำกับคำๆนั้นให้เหมาะสม มันก็จะเป็นเทคนิค ส่วนตัวของเราได้ ซึ่งตรงนี้เป็นขั้น advance แต่จริงๆแล้วถ้าฟังเพลงเยอะๆ เราก็จะจับเทคนิคได้ ถ้าจะให้แนะนำก็ลองปรึกษาหรือลองไปเรียนกับครู ที่มีความรู้ความสามารถ เพื่อที่จะได้พัฒนาเทคนิคของตัวเองขึ้นไป แล้วจะได้เข้าใจว่าอะไรคือเอกลักษณ์ของตัวเอง

วิธีวอร์มเสียง

10. อยากทราบวิธีวอร์มเสียงก่อนขึ้นเวทีค่ะ

ตอบ วิธีการวอร์มเสียงง่ายๆ วอร์มสเกล เมเจอร์สเกล โด เร มี ฟา ซอล ลา ที โด หรือว่าเป็นอาเพ็จจิโอ โด มีซอล โด ซอล มี โด อะไรอย่างเนี้ย แล้วก็ค่อยไล่สเกลขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะช่วยได้ หรือว่าเป่าลม เป่าปาก ก็จะช่วยรีแล็กซ์กล้ามเนื้อที่ปาก ที่คาง ที่ขากรรไกรได้ อาจจะวอร์มร่างกายให้อบอุ่นด้วยอีกอย่างหนึ่งก็ดี

การใช้เสียงในเพลงร็อค

11. การร้องเพลงร็อค ควรใช้เสียงประมาณไหนครับ

ตอบ การร้องเพลงทุกเพลง ต้องเริ่มต้นที่การร้องเต็มเสียง เต็มเสียงยังไง? หมายความว่าเต็มเนื้อเสียงที่เราใช้ในการพูด เป็นเสียงมาตรฐานของการร้องให้เต็มเสียง เพลงร็อคก็ควรจะเป็นแบบนั้นเหมือนกัน แต่ว่าเพลงร็อคของน้อง อาจจะเป็นไฮร็อก หรือว่าเฮฟวี่เมทัล อาจจะต้องใช้เสียงมากกว่านั้น ซึ่งอาจจะต้องมีครูแนะนำ เพราะว่าบางทีถ้าใช้เสียงผิดวิธี มันจะทำให้เส้นเสียงอักเสบได้ แต่ว่าเริ่มร้องเพลงเนี่ย ควรจะร้องให้เต็มเสียงก่อนแล้วกัน

เคล็ดลับสำหรับการฝึกร้องเพลง

เสียงสูง เสียงเพี้ยน

12. อยากร้องเพลงเก่ง มีปัญหาตอนที่ร้องเสียงสูง เสียงจะเพี้ยนและแตกทุกครั้ง ตอนนี้ผมทำงานในด้านนี้ด้วย(ร้องเพลงที่ผับตอนกลางคืน) ช่วยบอกวิธีให้ด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ตอบ 1. เบสิค คือการหายใจที่ถูกต้อง ประสาทรับฟังที่ถูกต้อง รูปปากที่ถูกต้อง 2. ริธึ่มมิค คือ จังหวะที่ดี 3. เทคนิค คือ การร้องอย่างมีสไตล์ มีเทคนิคเป็นของตนเอง เพราะฉะนั้นถ้าอยากร้องเพลงเก่งๆ พี่ว่ากลับไปที่เบสิคของการร้องเพลง ต้องเช็คว่าหายใจถูกต้องหรือยัง? หายใจด้วยกระบังลมหรือเปล่า? รูปปากถูกต้องชัดเจนหรือยัง? เพราะว่าบางทีถ้าร้องเสียงสูงแล้วเสียงไม่ถึง มันมี 2 กรณีคือ เสียงไม่ถึงเพราะลมไม่พอ กับอีกกรณีหนึ่งคือร้องไม่ถึง เพราะว่ามันสูงเกินเร้นจ์ (Range)ของเสียงเราเกินไป เพราะฉะนั้นต้องเช็คให้ดีว่ามันเป็นเพราะอะไร แล้วก็แก้ไขที่สาเหตุนั้น ถ้าร้องไม่ถึง ร้องเพี้ยนหรือเสียงแตก เพราะว่าลมไม่พอ อาจจะเป็นเพราะว่าเบสิคของการใช้ลมหายใจเราผิด ต้องไปปรับแต่งตรงนั้นให้ได้

อยากให้เสียงใส

13. ทำยังไงเสียงของเราถึงจะใสและฟังเพราะ ไม่ตํ่าหรือสูงเกินไป

ตอบ จริงๆ การร้องเพลงมันต้องร้องตามเมโลดี้ ถ้าเมโลดี้มันต่ำหรือมันสูงก็ต้องร้องตามนั้น ทำยังไงให้เสียงใสตลอดเวลา ก็คงจะต้องอยู่ที่วิธีการรับประทานอาหาร สุขลักษณะ โภชนาการ แล้วก็การพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายให้เต็มที่

คอรัส

14. เวลาร้องคอรัสทำอย่างไร? ไม่ให้หลงไปกับ line ของเมโลดี้

ตอบ อันนี้ต้องฝึกที่ ear training นะคะ เพราะว่าถ้าประสาทรับฟังของเราดี ไม่ว่าจะมีเสียงอะไรมารบกวน เราก็จะไม่เป๋ไปตามเสียงนั้น ต้องฝึก ear training แล้วก็ต้องฝึกสมาธิในการร้องเพลง ซึ่งในการร้องเพลง เราต้องคิดหลายๆเรื่องพร้อมๆกัน เราจะต้องแยกประสาทส่วนต่างๆในการควบคุมตัวเองให้ได้ ถ้าเราฝึกตรงนี้ได้ มันจะช่วยให้เราร้องคอรัสได้ดีขึ้น แต่ที่สำคัญต้องเริ่มที่ ear training ก่อน

ร้องเพลงตอนหัวค่ำไม่ได้ เสียงแหบ

15. หนูมีปัญหาอยากถามพี่ดังนี้ คือเวลาที่ร้องเพลง (หนูเป็นนักร้องและนักดนตรี) ขึ้นเสียงสูงมาก ๆ เมื่อก่อนจะร้องไม่ได้ ปัจจุบันร้องได้แล้ว แต่จะมีปัญหาว่า ตอนช่วงเย็นถึงหัวค่ำ จะร้องเสียงสูงไม่ค่อยได้ คือเหมือนกับเสียงจะแหบ แต่ว่ายิ่งดึก เสียงจะยิ่งใสขึ้นมากๆ คนอื่นมีปัญหาแบบนี้บ้างมั้ย หนูจะร้องเพลงตั้งแต่ช่วงสองทุ่มถึงเที่ยงคืน คืนหนึ่งร้องถึง 30 เพลงรวด มีเบรค 1 ชั่วโมง และอยากรู้เคล็ดลับที่ทำให้เสียงไม่แหบ

ตอบ ถ้าเราใช้เสียงเยอะในช่วงกลางคืน ยิ่งดึกมันก็จะเหมือนคนทั่วไป คือตอนเช้าเพิ่งตื่นขึ้นมาเสียงจะแหบ แล้วเสียงมันจะค่อยวอร์มไปเรื่อยๆ คือค่อยๆทำงานไปเรื่อยๆ จนประมาณเที่ยงวัน พอถึงตอนเย็นเสียงมันก็จะใสเต็มที่ เพราะฉะนั้นถ้าน้องร้องเพลงกลางคืน น้องก็ต้องเปลี่ยนลักษณะการนอน การกินอยู่ เป็นนอนตอนกลางวันให้เต็มที่ เท่ากับคนทั่วไปที่เขานอนตอนกลางคืน แล้วตื่นขึ้นมาก็จะมีระยะเวลา ในการให้เสียงมันวอร์มอัพก่อน อาจจะพูดคุยกับเพื่อนให้เสียงมันเข้าที่ ก่อนที่จะไปทำงานตอน 2 ทุ่ม ไม่ใช่ว่าน้องตื่น 6 โมงเย็น แล้วรีบอาบน้ำ แต่งตัวไปทำงานตอน 2 ทุ่มเลย เสียงจะยังไม่มา มันต้องให้ระยะเวลาในการตื่น ในการให้เสียงมันวอร์มอัพก่อน จริงๆก็คือต้องเปลี่ยนวิธีการนอน เปลี่ยนวิธีการกินอยู่ ชีวิตประจำวันให้ต่างจากคนทั่วไป ถ้าไม่อยากให้เสียงแหบ หรือว่าใช้เสียงให้ถูกประเภท หายใจให้ถูกต้อง เบสิคในการร้องเพลงต้องถูกต้อง มันจะช่วยให้การร้องเพลงสบายขึ้น

รูปร่างและเสียงร้องมีผลมั้ย

16. อยากทราบว่ารูปร่างมีผลต่อการร้องเพลงหรือไม่ ถ้าผมอ้วนนี่จะมีส่วนต่อการร้องเพลงหรือเปล่าครับ แล้วมีผลอย่างไรบ้าง

ตอบ รูปร่างมีผลต่อการร้องเพลงอยู่แล้ว เพราะว่าเสียงในการร้องเพลง เกิดจาก 3 ส่วนในร่างกายของคนเรา ส่วนที่1 เราเรียกว่า เชสโทน คือทรวงอก ส่วนที่ 2 เราเรียกว่า เม้าธ์โทน คือโพรงปาก ส่วนที่ 3 เราเรียกว่า เฮดโทน คือโพรงสมอง ร่างกายของคนเรา สรีระแต่ละส่วนจะเป็นตัวกำหนดให้เสียงต่างกันไป อย่างเช่น ทรวงอก คนที่รูปร่างใหญ่จะร้องเสียงต่ำ มีพลังได้ดีกว่าคนที่ผอม หรือว่าคนที่มีโพรงสมอง อย่างเช่น พวกคนผิวดำหน้าผากเขาจะโหนกขึ้นมานิดหนึ่ง จะทำให้ช่วยในการร้องเสียงสูงได้ เพราะฉะนั้นสรีระร่างกายเป็นตัวกำหนดการร้องเพลง แต่จริงๆแล้วถ้าได้เรียนรู้หรือฝึกฝนเพิ่มเติม ก็จะช่วยยืดเร้นจ์ของเสียง หรือระดับระยะห่างของเสียงให้กว้างขึ้นได้

อยากให้เสียงคงที่

17. จะทำยังไงให้เสียงคงที่ ไม่แกว่งครับ ต้องทำไงดี

ตอบ เก็บลมให้ดี และ Control เสียงด้วยลมจากกระบังลม

เสียงร้องชอบเป็นเสียงแฟลต

18. ผมเรียนร้องเพลงเบื้องต้นอยู่ที่เชียงใหม่นะครับ ตอนนี้ใกล้จะจบคอร์สแล้ว แต่มีปัญหาว่าผม ร้องเพลงเสียงสูงๆ แล้วมักจะบีบเสียง ครูที่สอนบอกว่าผมเกร็งไป และเสียงผมชอบเป็นเสียงแฟลต จะทำอย่างไรดีครับ ช่วยแนะนำด้วย เพื่อการร้องเพลงของผมจะได้ไม่มีข้อผิดพลาดอีก

ตอบ ร้องเสียงสูงต้องเปิดคอและ Swing เสียงไปที่ Head Tone ลองให้ครูช่วยด้วย

เสียงกว้างๆ

19. อยากทราบว่าเราจะมี วิธีการร้องเพลงอย่างไรให้เสียงกว้างๆ

ตอบ หมั่น Vocalize เสียง จะช่วยยืดให้เสียงกว้างขึ้น

การรักษาเสียง

20. เคล็ดลับการรักษาเสียง เคล็ดไม่ลับในการรักษาเสียงและร้องเพลงคืออะไร

ตอบ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การร้องเเบบใช้เสียงลม

21. เทคนิคการร้องแบบใช้เสียงลม การร้องเเบบใช้เสียงลม ถือว่าเป็นการร้องที่ผิดวิธีรึเปล่าครับ เพราะว่าร้องแบบไม่เต็มเสียง เห็นนักร้องบางคนนำมาใช้กัน

ตอบ เสียงลมถือเป็นเทคนิคอย่างหนึ่ง แต่ควรใช้เฉพาะบางคำในเพลงเท่านั้น ไม่ใช่ตลอดทั้งเพลง เพราะจะทำให้ไม่มีพลังและ Control เสียงลำบาก

เสียงจริงๆ ของตัวเราเอง

22. ทำอย่างไรถึงจะรู้เสียงจริงๆ ของตัวเอง เวลาร้องเพลงแล้วพยายามร้องให้เต็มเสียงทีไร คนที่บ้านก็จะบอกว่าฟังแล้วแสบแก้วหูบ้าง บอกว่าเราเสียงแหลมบ้าง แต่พอเราทำเสียงให้ soft ลงมาหน่อยเค้าฟังแล้วก็รู้สึกดีขึ้นนะคะ แต่หนูก็รู้สึกว่าพอขึ้นเสียงสูงแล้วเสียงจะเหมือนคนเป็นหวัดค่ะ ตอนนี้ก็เลยสับสนว่าควรร้องยังไงให้ฟังออกมาดูไพเราะน่ะค่ะ เพราะหนูเป็นคนค่อนข้างเสียงแหลมค่ะ ทำอย่างไรถึงจะรู้เสียงจริงๆ ของเราคะ

ตอบ ใช้เทียบจากเสียงพูดตัวเองก่อน จะได้เสียงที่เป็นธรรมชาติที่สุดเวลาร้องเพลง

เสียงลงคอ หรือเสียงขึ้นจมูก

23. เวลาร้องเพลงจะรู้ได้อย่างไรว่า ควรให้เสียงลงคอ หรือขึ้นจมูกอย่างไร มากน้อยเพียงใด หรือว่าเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละคน

ตอบ เวลาร้องเพลง เสียงไม่ควรจะขึ้นจมูก เพราะว่าเวลาเสียงขึ้นจมูก คอมันจะปิด พอคอปิดเสียงจะแบน เสียงที่เราต้องการในการร้องเพลงก็คือเสียงกลม เสียงที่มาจากกำบังลมของเรา ทีนี้ก็คลิกเข้าไปดูในเรื่องการออกเสียงที่ถูกต้องนะคะ เพราะฉะนั้นการร้องเพลงมีวิธีง่ายๆก็คือ อย่าเรียกเสียงขึ้นคอหรือขึ้นจมูกดีกว่า เรียกว่าเราควรอ้าปากให้กว้างมากที่สุดเท่าที่สระตัวนั้นควรจะออกเสียงแบบนั้น เพราะบางคนร้องเพลงไม่อ้าปาก เสียงจะขึ้นจมูกและเสียงแบน

ร้องเพลงไม่ตรงคีย์

24. ร้องเพลงไม่ค่อยตรงคีย์ครับ ทำให้ไม่มั่นใจเลยเวลาจะต้องร้อง ต้องฝึกยังไงดีครับ

ตอบ ปัญหาร้องเพลงไม่ตรงคีย์ คนที่ร้องไม่ตรงคีย์ควรจะฝึกกับเครื่องดนตรี เป็นกีต้าร์หรือเปียโนนะคะ โดยเฉพาะเปียโนจะช่วยได้มาก กดโน้ตทีละตัวแล้วก็พยายามร้องให้เสียงเราตรงกับโน้ตที่เราได้ยิน ฝึกไปเรื่อยๆอย่าเพิ่งไปรีบร้องเพลง ฝึกโน้ตแต่ละตัวก่อน แล้วเมื่อไรที่เราเริ่มชินเสียงที่เราได้ยิน ให้เปล่งเสียงตามเสียงที่เราได้ยินได้ เราจะเริ่มร้องถูกคีย์ได้มากขึ้น

ทำยังไงให้หายตื่นเต้น

25. เป็นคนที่ชอบร้องเพลงมาก แต่พอมาร้องต่อหน้าคนอื่นหนูจะตื่นเต้นมาก ตอนนี้หนูก็พยายาม ร้องให้เพื่อนฟัง ก็พอจะร้องได้บ้าง แต่พอเวลามีงานทีไร พวกเพื่อนๆก็จะยุให้ขึ้นไปร้องบนเวที จะกลัวและตื่นเต้นจนร้องไม่ออก จะทำยังไงให้ร้องเพลงได้ และให้หายตื่นเต้นดี

ตอบ จริงๆแล้วคนที่ชอบร้องเพลง ถ้าตื่นเต้นมาก วิธีการทำให้คลายความตื่นเต้น ก็คือทำสมาธิกำหนดลมหายใจเข้า-ออก แล้วก็ทำสมาธิให้จิตใจสงบลง ต้องเป็นคนที่ฝึกซ้อมบ่อย ๆ ถ้าเราไม่อ่อนซ้อม ถึงเวลาที่เราต้องแสดงออก หรือต้องประกวด หรือว่าอะไรก็แล้วแต่ เราจะมีความมั่นใจมากกว่าคนอื่นๆ และเราก็สามารถระงับความตื่นเต้นนั้นได้บ้าง

**ทิ้งท้าย – ต้องมีความพยายามและฝึกฝนร้องเพลงบ่อยๆ นะครับแล้วก็ถนอมคอด้วยการร้องแบบผิดๆก็จะทำให้เกิดอันตรายต่อกล่องเสียงทำให้เสียงแหบ หรือไม่มีเสียงเลยได้ในภายภาคหน้า

-ใครมีข้อคิดเห็นอยากจะสอบถามหรืออื่นใดก็ช่วยคอมเมนต์หน่อยนะครับ Good luck

By Hibari Kyoya เครดิตภาพจาก : ภาพยนตร์เรื่อง God Help The Girl

แนะนำเว็บไซต์สำหรับเรียนดนตรี : tutorme.in.th/category/music


Making Of เพลง ทำไม ได้แต่บอกทำไม- BANKK CA$H


เบื้องหลังกว่าจะมาเป็นเพลง ทำไม ได้แต่บอกทำไม \r
ทั้งการแต่งเนื้อร้อง ทำนอง กระบวนการในห้องอัด ที่เขาคนนี้ BANKK CA$H ตั้งใจและทุ่ทเทกว่าจะออกมาเป็นพลงนี้\r
\r
\r
\”…ทำไมคนเราถึงยอมทนกับความเจ็บปวด…\”\r
\”…ทำไมคนเราถึงยอมอยู่กับคนที่ไม่เคยแคร์…\”\r
\”…ทำไมคนเราถึงไม่พยายามหาทางออกมาจากความทรมานนั้น…\”\r
\”…ทำไมคนเราถึงไม่เลือกรักคนดีๆ…\”\r
\r
\”ทำไม ได้แต่บอกทำไม\” เพลงที่เขียนขึ้นจากเรื่องจริง จากมุมมองของผู้ชายคนหนึ่งที่มองเห็นผู้หญิงที่เขารัก ต้องทนทรมานกับความเจ็บปวดที่ผู้ชายของเธอทําไว้ ผู้ชายที่ไม่เคยแคร์ ไม่ใส่ใจเธอเลย แต่กลับเป็นฉันที่คอยดูแล คอยปลอบ รับฟังเมื่อเธอเสียใจ และรักเธออย่างไม่มีข้อแม้ พร้อมที่จะรอไม่ว่านานเท่าไหร่ แต่มีคําถามในใจตลอดมา ว่า ทําไมเธอถึงต้องทน และทําไมฉันถึงต้องรอ \r
ความรู้สึกทั้งหมดถูกเรียบเรียงออกมาอยู่ในเพลงนี้ \”ทําไม ได้แต่บอกทําไม\” เพลงสะท้อนคำถามในใจของใครหลายๆคน ซิงเกิ้ลที่สองจากผู้ชายคนนี้ BANKK CA$H\r
\r
ติดตามเค้าคนนี้ได้ที่ http://facebook.com/BANKKCASH \r
ครั้งแรกในฐานะศิลปินเดี่ยวแนว R\u0026B ของ BANKK CA$H\r
\r
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา (2012)…\r
ระหว่างการเดินทางบนเส้นทางดนตรีไปพร้อมกับวง CLASH\r
BANKK ค้นหาตัวตนเพลงที่ใช่ แนวทางที่ชอบ และชัดเจนมาตลอด\r
ว่าตัวตนของเขาคือความเป็น R \u0026 B ทั้งสไตล์การร้อง แนวดนตรีที่ชอบ และความสามารถในการถ่ายทอดเนื้อหาของเพลง \r
\r
BANKK กลับมาในมาดใหม่ ใน Look นักร้องผิวเหลืองที่ร้องเพลงแบบฉบับของคนผิวดำ เพลงที่ถ่ายทอดตัวตน และความชัดเจนทางดนตรีที่เข้มข้นขึ้นไปอีกขั้น ในฐานะศิลปินเดี่ยวครั้งแรก\r
\r
เราเรียกเค้าคนนี้ในชื่อใหม่ว่า\r
BANKK CA$H\r
\r
1234343 กดโทรออก

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

Making Of เพลง ทำไม ได้แต่บอกทำไม- BANKK CA$H

ฉันเข้าใจ – สงกรานต์ [OFFICIAL MV]


เพลง ฉันเข้าใจ
ศิลปิน สงกรานต์
Executive Supervisor : วุฒินันต์ ภิรมย์ภักดี
Executive Producer : ปฏิเวธ อุทัยเฉลิม
โปรดิวเซอร์ : รังสรรค์ ปัญญาเรือน
เนื้อร้อง : รังสรรค์ ปัญญาเรือน
ทำนอง : รังสรรค์ ปัญญาเรือน
เรียบเรียง :ธีรวงศ์ วัฒนาจารุพงศ์,รังสรรค์ ปัญญาเรือน
Mixed and Mastered : อัครชัย สถาวรฤทธิ์

รู้ดีว่าเธอ คงอยู่ไม่ไหว
จะเอาอะไร กับคนอย่างฉัน
เมื่อในหัวใจ วันนี้มันไม่ใช่ฉัน
และเธอก็คงเลือกที่จะไปกับเขา
จากนี้ไม่มีอีกแล้วคำว่าเรา
ต่อให้พูดอะไร ก็คงไม่มีความหมาย
ต้องปล่อยเธอไปแม้ใจไม่ต้องการ
อยากบอกเธอว่ารัก แต่ทำไม่ได้
มันเจ็บจนเกินไป ที่จะพูดมัน
รีบไปจากตรงนี้ ถ้าเธอ ไม่รักกัน
ปล่อยให้มันผ่าน อย่างที่เธอต้องการ ฉันเข้าใจ
ถ้าเธอคิดมา ดีแล้วก็แล้วไป
เธอเอาอะไรคืนไปก็ตามแต่เธอ
ฉันจะไม่ขวาง ไม่รั้ง ไม่กวนใจเธอ
หากใจเธอมันเลือกที่จะไปกับเขา
จากนี้ไม่มีอีกแล้วคำว่าเรา
ต่อให้พูดอะไร ก็คงไม่มีความหมาย
ต้องปล่อยเธอไปแม้ใจไม่ต้องการ

อยากบอกเธอว่ารัก แต่ทำไม่ได้
มันเจ็บจนเกินไป ที่จะพูดมัน
รีบไปจากตรงนี้ (รีบๆ ไปได้ไหม) ถ้าเธอไม่รักกัน
ปล่อยให้มันผ่าน อย่างที่เธอต้องการ ฉันเข้าใจ

492 222 289
▶Available on iTunes :https://geo.itunes.apple.com/th/album/%E0%B8%89%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%88single/1318145443?app=itunes
▶Available on Joox : http://music.sanook.com/album/3322462/
▶Available on Spotify : http://open.spotify.com/album/3DR4YVOwOyKKWXNn2VPkHa

ติดต่องานจ้าง 0624949583
ติดตามผลงานเพิ่มเติม
https://www.facebook.com/Merecordslabel
https://web.facebook.com/Songkarn.The…
Instagram
https://www.instagram.com/merecordslabel
https://www.instagram.com/songkarn_ra…
Twitter
https://twitter.com/MeRecordsLabel

ฉันเข้าใจ - สงกรานต์ [OFFICIAL MV]

LEGENDBOY – ฟ้า (Demo Version)


Contact for work\r
0988891417 (คุณจีโน่)\r
ฝาก ig กับ fb ด้วยเน้อ 🤍
IG : lgb.twentybaht
FB : Chinnaphat Uaongkhetkan
เนื้อเพลง…
เหตุใดใยฟ้า จึงแกล้งลงทัณฑ์ให้ฉัน
ต้องเจ็บอย่างนี้ทุกวัน เพราะฉันมันไม่คู่ควร
ฉันไม่เหมาะสม กับคนอย่างเธอใช่ไหม
หรืออาจเป็นเพราะว่าใคร คนนั้นเค้าควรคู่เธอ
โชคดีที่ฟ้าลิขิต ให้เธอได้เจอคนใหม่
เธอบอกผู้ชายเลวๆอย่างฉัน มันไม่คู่ควรกับเธอ
หรือเพียงเธอต้องการจบ แล้วเริ่มความรักเธอใหม่
ทิ้งไว้เพียงข้อความสุดท้าย..ว่า
เธอบอกว่าแล้วแต่ฟ้า เธอบอกว่าแล้วแต่เทวดาลิขิต
หมดสิทธิ์ ชีวิต ที่เคยได้ร่วมทาง
เธอบอกว่าเพราะว่าฟ้า ทำให้เราได้เจอกัน
และเป็นเพราะฟ้าอีกเช่นกัน ที่ทำให้เราจากลา
โชคดีที่ฟ้าลิขิต ให้เธอได้เจอคนใหม่
เธอบอกผู้ชายเลวๆอย่างฉัน มันไม่คู่ควรกับเธอ
หรือเพียงเธอต้องการจบ แล้วเริ่มความรักเธอใหม่
ทิ้งไว้เพียงข้อความสุดท้าย..ว่า
เธอบอกว่าแล้วแต่ฟ้า เธอบอกว่าแล้วแต่เทวดาลิขิต
หมดสิทธิ์ ชีวิต ที่เคยได้ร่วมทาง
เธอบอกว่าเพราะว่าฟ้า ทำให้เราได้เจอกัน
และเป็นเพราะฟ้าอีกเช่นกัน ที่ทำให้เราจากลา
เธอบอกว่าแล้วแต่ฟ้า เธอบอกว่าแล้วแต่เทวดาลิขิต

LEGENDBOY - ฟ้า (Demo Version)

ไม่มีคำจำกัดความ – POTATO「Official MV」


ไม่มีคำจำกัดความ
POTATO
อัลบั้ม Friends
genie records
Follow POTATO : https://potatoofficial.com​
FB http://www.fb.com/potatoband​​ | IG @potatoband | Twitter @potatoband
ไม่มีคำจำกัดความ
คำร้อง: เหมือนเพชร อำมะระ
ทำนอง: เหมือนเพชร อำมะระ
เรียบเรียง: Potato

เคยคาดหวัง แต่ก็ผิดหวัง
กับความหลัง ที่มันไม่สวยงาม ถามตัวเองกี่ที
ผิดตรงไหน พลาดตรงไหน
ตื่นขึ้นมา ด้วยใจที่มันร้าวราน

คิดทบทวน ความหมายที่แท้ของคำว่ารัก
ยึดถือหรือเพียงปล่อยวาง
ยอมรับในกันและพร้อมร่วมทาง
จับมือกันจนวันสุดท้าย

นี่แหละความรัก มันต้องอย่างนี้
ไม่ต้องมีคำจำกัดความ คือคำถามที่เพิ่งรู้คำตอบ
เราอาจไม่ชอบกันบางมุม แต่ก็คุ้มที่เข้าใจ
หันหน้ามาคุยกันด้วยหัวใจ
นี่แหละความรัก มันต้องอย่างนี้
มีทั้งร้อนและเย็นปะปน
ต้องมีสักคนไม่ต้องเลิศเลอ
สุดท้ายก็มีแต่เธอคนเดียวที่ร้ายดี
ไม่หนีไม่จากกันไป อยู่เสมอ ไม่มีวันเปลี่ยน
ยังมีเธอที่จับมือกัน
ต่อให้เจอวันที่มันยากลำบาก
ยังไม่แปรเปลี่ยนไป
จะมีฉันที่ห่วงใย
ดีแค่ไหนที่เราได้มาพบกัน

คิดทบทวน ความหมายที่แท้ของคำว่ารัก
ยึดถือหรือเพียงปล่อยวาง
ยอมรับในกันและพร้อมร่วมทาง
จับมือกันจนวันสุดท้าย
นี่แหละความรัก มันต้องอย่างนี้
ไม่ต้องมีคำจำกัดความ คือคำถามที่เพิ่งรู้คำตอบ
เราอาจไม่ชอบกันบางมุม แต่ก็คุ้มที่เข้าใจ
หันหน้ามาคุยกันด้วยหัวใจ
นี่แหละความรัก มันต้องอย่างนี้
มีทั้งร้อนและเย็นปะปน
ต้องมีสักคนไม่ต้องเลิศเลอ
สุดท้ายก็มีแต่เธอคนเดียวที่ร้ายดี
ไม่หนีไม่จากกันไป อยู่เสมอ ไม่มีวันเปลี่ยน
ไม่มีวันเปลี่ยน
นี่แหละความรัก มันต้องอย่างนี้
ไม่ต้องมีคำจำกัดความ คือคำถามที่เพิ่งรู้คำตอบ
เราอาจไม่ชอบกันบางมุม แต่ก็คุ้มที่เข้าใจ
หันหน้ามาคุยกันด้วยหัวใจ
นี่แหละความรัก มันต้องอย่างนี้
มีทั้งร้อนและเย็นปะปน
ต้องมีสักคนไม่ต้องเลิศเลอ
สุดท้ายก็มีแต่เธอคนเดียวที่ร้ายดี
ไม่หนีไม่จากกันไป อยู่เสมอ ไม่มีวันเปลี่ยน
ไม่มีวันเปลี่ยน ไม่มีวันเปลี่ยน
ไม่หนีไม่จากกันไป อยู่เสมอ ไม่มีวันเปลี่ยน
Produced by NYQ / กัณฑ์กณัฐ อังคณาจีรธิติ
Recording Engineer : Ghun Wangthamkua
Recording at Ladaland Studio
Digital Editor : กัณฑ์กณัฐ อังคณาจีรธิติ / ทีฆทัศน์ ทวิอารยกุล
Mixed \u0026 Mastered by Ghun Wangthamkua
PotatoBand PotatoFriends
genierecords

ไม่มีคำจำกัดความ - POTATO「Official MV」

ทำไม ได้แต่บอกทำไม – BANKK CA$H [Official MV]


ดาวน์โหลดเพลงรอสาย ริงโทน และเพลงเต็ม \”ทำไม ได้แต่บอกทำไม\” กด 1234343 \r
This song available on iTunes :: http://itunes.apple.com/th/album/thamiditbxkthamitummai/id549646866\r
\r
เพลง : ทำไม ได้แต่บอกทำไม\r
คำร้อง : BANKK CA$H \r
ทำนอง : BANKK CA$H \r
เรียบเรียง : BANKK CA$H;Bell Snow Bear \r
\r
\”…ทำไมคนเราถึงยอมทนกับความเจ็บปวด…\”\r
\”…ทำไมคนเราถึงยอมอยู่กับคนที่ไม่เคยแคร์…\”\r
\”…ทำไมคนเราถึงไม่พยายามหาทางออกมาจากความทรมานนั้น…\”\r
\”…ทำไมคนเราถึงไม่เลือกรักคนดีๆ…\”\r
\r
\”ทำไม ได้แต่บอกทำไม\” เพลงที่เขียนขึ้นจากเรื่องจริง จากมุมมองของผู้ชายคนหนึ่งที่มองเห็นผู้หญิงที่เขารัก ต้องทนทรมานกับความเจ็บปวดที่ผู้ชายของเธอทําไว้ ผู้ชายที่ไม่เคยแคร์ ไม่ใส่ใจเธอเลย แต่กลับเป็นฉันที่คอยดูแล คอยปลอบ รับฟังเมื่อเธอเสียใจ และรักเธออย่างไม่มีข้อแม้ พร้อมที่จะรอไม่ว่านานเท่าไหร่ แต่มีคําถามในใจตลอดมา ว่า ทําไมเธอถึงต้องทน และทําไมฉันถึงต้องรอ \r
ความรู้สึกทั้งหมดถูกเรียบเรียงออกมาอยู่ในเพลงนี้ \”ทําไม ได้แต่บอกทําไม\” เพลงสะท้อนคำถามในใจของใครหลายๆคน ซิงเกิ้ลที่สองจากผู้ชายคนนี้ BANKK CA$H\r
\r
ติดตามเค้าคนนี้ได้ที่ http://facebook.com/BANKKCASH \r
ครั้งแรกในฐานะศิลปินเดี่ยวแนว R\u0026B ของ BANKK CA$H\r
\r
ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา (2012)…\r
ระหว่างการเดินทางบนเส้นทางดนตรีไปพร้อมกับวง CLASH\r
BANKK ค้นหาตัวตนเพลงที่ใช่ แนวทางที่ชอบ และชัดเจนมาตลอด\r
ว่าตัวตนของเขาคือความเป็น R \u0026 B ทั้งสไตล์การร้อง แนวดนตรีที่ชอบ และความสามารถในการถ่ายทอดเนื้อหาของเพลง \r
\r
BANKK กลับมาในมาดใหม่ ใน Look นักร้องผิวเหลืองที่ร้องเพลงแบบฉบับของคนผิวดำ เพลงที่ถ่ายทอดตัวตน และความชัดเจนทางดนตรีที่เข้มข้นขึ้นไปอีกขั้น ในฐานะศิลปินเดี่ยวครั้งแรก\r
\r
เราเรียกเค้าคนนี้ในชื่อใหม่ว่า\r
BANKK CA$H

ทำไม ได้แต่บอกทำไม - BANKK CA$H [Official MV]

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณมากสำหรับการดูหัวข้อโพสต์ เพลง ทํา ไม ได้ แต่ บอก ทํา ไม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *