Skip to content
Home » [NEW] การทำการนัดหมายจะพูดอย่างไร | เพิ่งจะ ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] การทำการนัดหมายจะพูดอย่างไร | เพิ่งจะ ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

เพิ่งจะ ภาษาอังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Making an appointment

A :   (On the phone) Tomorrow I’ll be coining on a two week business trip to the United States. I’d like to drop in on you Friday morning.

(ออน เธอะ โฟน) ทูมอร์โรว ไอ’ล บี คัมมิ่ง ออน อะ ทู วี๊ค บิซิเนส ทริป ทู เธอะ ยูไนเตด สเตด ไอ,ด ไลค ทู ดรอป อิน ออน ยู ฟรายเด มอร์นิ่ง)

(ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์) พรุ่งนี้ผมจะเดินทางไปทำธุรกิจเป็นเวลา 2 อาทิตย์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ผมอยากแวะเยี่ยมคุณในเช้าวันศุกร์ครับ

B :   I’m sorry, but I’m all booked up this week. How about next week ?

(ไอ’ม ซอร์รี่,บัท ไอ’ม ออล บุ๊คด อัพ ธีส วี๊ค ฮาว อะเบ้าท์ เน้ก สวี๊ค?) ขอโทษครับ ตารางผมเต็มตลอดสัปดาหนี้ เอาเป็นอาทิตย์หน้าได้ไหมครับ

A :   Can we make it next Monday, then ?

(แคน วี เมค อิท เน้กส์ มันเด, เธ็น?)

งั้น เราเจอกันวันจันทร์หน้าได้ไหมครับ

B :   What time are you thinking of ?

(ว้อท ไทม์ อา ยู ธิ้งกิ้ง ออฟ?)

กี่โมงครับที่คุณจะมา

A :   Is 11 o’clock all right with you ?

(อีส อีเลเว่น โอครอค ออล ไรท์ วิธ ยู?)

11 โมงสะดวกไหมครับ

B :   That’s 11 be fine with me.

(แธท‘ส อีเลเว่น บี ฟายน์ วิธ มี?)

นั่นเป็นเวลาที่ดีที่สุดครับ

คำศัพท์

drop in     แวะเยี่ยม

book up   เต็มแล้ว

A :   (On the phone) Hello. This is Henry Young.

((ออน เธอะ โฟน) เฮลโล ธีส อีส เฮนรี่ ยัง)

(ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์) สวัสดีครับ ผมคือเฮนรี่ ยังครับ

B :   Hi, Mr. Young. When did you arrive ?

(ไฮ, มิสเตอร์ ยัง เว็น ดิ๊ด ยู อะไรฟ์?)

สวัสดีครับ คุณยัง คุณมาถึงเมื่อไรครับ

A :   I just got here myself. I brought the samples you inquired about.

(ไอ จัสท์ ก๊อท เฮีย มายเซลฟ์ ไอ บร๊อท เธอะ แซมเพิ่ลส์ ยู อินไควล์ อะเบาท์)

ผมเพิ่งจะมาถึงที่นี่เองครับ ผมนำตัวอย่างที่คุณถามถึงมาครับ

B :   Glad to know you’re back. When would you like to come ?

(แกลด ทู โน ยู’อา แบ็ค เว็น วู๊ด ยู ไลค์ ทู คัม?)

ผมดีใจที่รูว่าคุณกลับมา คุณจะมาที่นี่เมื่อไรครับ

A :   How about tomorrow morning at 10 ?

(ฮาว อะเบาวท์ ทูมอร์โรว มอร์นิ่ง แอท เท็น?)

เอาเป็นว่าพรุ่งนี่เช้า 10 โมงดีไหมครับ

B :   Suits me fine.

(ซุทส มี ฟายน์)

ผมสะดวกครับ

A : I’ll see you then.

(ไอ’ล ซี ยู เธน)

แล้วผมจะไปพบคุณครับ

A :   (On the phone) Mr. Smith’s secretary speaking.

(ออน เธอะ โฟน) มิสเตอร์ สมิท’ส เซเคททอรี่ สปี๊คกิ้ง

(ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์) เลขาฯคุณสมิธกำลังพูดค่ะ

B :   May I speak to Mr. Smith, please?

(เม ไอ สปีค ทู มิสเตอร์ สมิท, พลีส?)

ผมขอเรียนสายกับคุณสมิธครับ

A :   I’m sorry he’s out right now. May I ask who’s calling ?

(ไอ’ม ซอร์รี่ ฮี’ส เอ้าท์ ไรท์ นาว เม ไอ อ๊าสค ฮู’ส คอลลิ่ง?)

ขอโทษคะคุณสมิธไม่อยู่ตอนนี้ค่ะ ขอทราบใครกำลังพูดอยู่ค๊ะ

B :   This is Henry Young of Great Electronic Corp.. I’d like to make an appointment with him tomorrow.

(ธีส อีส เฮนรี่ ยัง ออฟ แกรท อิเลคโทรนิค คอร์ป.. ไอ’ด ไลค์ ทู เมค แอน แอพพ้อยท์เม้นท์ วิธ ฮิม ทูมอร์โร่ว)

ผมคือเฮนรี่ ยังจากบริษัทเกรท อิเล็คทรอนิค ผมอยากขอนัดกับคุณสมิธ พรุ่งนี้ครับ

A :   May I ask what your business is ?

(เม ไอ อาค ว้อท ยัว บีซิเนส อีส?)

ขอรบกวนถามว่าคุณจะติดต่อธุรกิจเกี่ยวกับอะไรค๊ะ

B :   I’d like to introduce our products.

(ไอ’ด ไลค์ ทู อินโทรดิ้วส์ อาวเอ่อร์ โปรดักส์)

ผมอยากจะมาแนะนำผลิตภัณฑ์ของเราครับ

A :   I see. What time are you planning to come ?

(ไอ ซี ว้อท ไทม์ อา ยู แพลนนิ่ง ทู คัม?)

เข้าใจค๊ะ คุณจะมากี่โมงค่ะ

B :   Three o’clock would be fine. Is that convenient for him ?

(ทรี โอ’ครอค วู้ด บี ฟายน์ อีส แธท คอนวีเนียน ฟอ มี?)

3 โมงสะดวกไหมครับ ไม่ทราบคุณสมิธจะว่างไหม

A :   (On the phone) Mr. Smith’s secretary speaking.

(ออน เธอะ โฟน) มิสเตอร์ สมิท’ส เซเครทเทอรี่ สปี๊คกิ้ง)

(ระหว่างการสนทนาทางโทรศัพท์) เลขาฯคุณสมิธพูดค่ะ

B :   Good morning. This is Henry Young.

(กุด มอร์นิ่ง ธีส อีส เฮนรี่ ยัง)

สวัสดครับ ผมเฮนรี่ ยังครับ

A :   Oh ! Good morning, Mr. Young.

(โอ ! กุด มอร์นิ่ง, มิสเตอร์ ยัง)

โอ สวัสดีค่ะคุณยัง

B :   I’m just calling to confirm my appointment with Mr. Smith for this afternoon.

(ไอ’ม จัสท์ คอลลิ่ง ทู คอนเฟรม มาย แอพพ้อยท์เม้นท์ วิธ มิสเตอร์ สมิท ฟอ ธิส อ๊าฟเตอร์นูน)

ผมแค่โทรมายืนยันการนัดหมายกับคุณสมิธสำหรับบ่ายนี้ครับ

A :   Is it at 3 p.m .?

(อีส อีท แอท ทรี พี เอ็ม?)

ใช่เวลาบ่าย 3 โมงหรือไหมค๊ะ

B :   That’s right.

(แธท’ส ไรท์)

ใช่แล้วครับ

A :   He is expecting you at 3

(ฮี อีส เอ็กซ์เปคดิ้ง ยู แอท ทรี)

คุณสมิธรอคุณในเวลาบาย 3 โมงค่ะ

B :   Fine. Thank you.

(ฟายน์ แธ้งค์กิ้ว)

ดีครับ ขอบคุณ

บทสนทนาเพิ่มเติม

A :   Let’s make a date. How about 10 in the morning on Tuesday?

(เลท’ส เมค อะ เดท ฮาว อะเบ้าท์ เทน อิน เธอะ มอร์นิ่ง ออน ทิ้วสเดย์?)

เรามานัดเวลากันดีกว่า เอาเป็นเวลา 10 โมงเช้าวันอังคารดีไหมครั

B :   That’s fine with me.

(แธท’ส ฟายน์ วิธ มี)

นั่นเป็นเวลาที่ดีสำหรับผม

A :   Can you come at two o’clock ?

(แคน ยู คัม แอท ทู โอครอค?)

คุณมาเวลาบ่าย 2 โมงได้ไหมครับ

B :   Sorry, I have an important meeting at 2.30. Can you make it at 4 ?

(ซอร์รี่, ไอ แฮฟ แอน อิมพอร์แทน มีททิ้ง แอท ทู เทอตี้ แคน ยู เมค อิท แอท โฟร์?)

ขอโทษครับ ผมมีประชุมสำคัญในเวลา 2.30 น. เอาเป็นเวลา 4 โมงได้ ไหมครับ

A :   I wonder if I could change my appointment from 10.30 to 3.00 this afternoon ?

(ไอ วันเดอร์ฟูล อิฟ ไอ คู้ด แชนจ์ มาย แอพพ้อยท์เม้นท์ ฟรอม เทน เทอตี้ ทู ทรี ธีส อ๊าฟเตอร์นูน?)

ถ้าผมจะเปลี่ยนเวลานัดหมายจาก 10.30 เป็นบ่าย 3 โมงจะได้ไหมครับ

B :   No problem at all.

(โน พร้อเบลม แอท ออล)

ไม่มีปัญหาเลยครับ

A :   Something has come up. I won’t be able to make it today. (ซัมธิ่ง แฮส คัม อัพ ไอ โว้นท์ บี เอเบิล ทู เมค อิท ทูเด)

มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น ผมไม่สามารถจะไปตามนัดได้ครับ

B :   That’s quite all right. I know you are busy.

(แธท’ส ไค้วท์ ออล ไรท์ ไอ โน ยู อา บิซี่)

ไม่เป็นไรครับ ผมรู้ว่าคุณยุ่งมาก

 

(Visited 10,922 times, 6 visits today)

[Update] 12 English tense ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ | เพิ่งจะ ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

English Tense 

Tense คือรูปแบบ (หรือโครงสร้าง) ของกริยา  ที่แสดงให้เราทราบว่า การกระทำหรือเหตุการณ์นั้นๆเกิดขึ้นเมื่อใดซึ่งเรื่อง tense นี้เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเราใช้ tense ไม่ถูก เราก็จะสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ เพราะในประโยคภาษาอังกฤษนั้นจะอยู่ในรูปของ tense เสมอ ซึ่งต่างกับภาษาไทยที่เราจะมีข้อความบอกว่าเกิดขึ้นเมื่อใดมาช่วยเสมอ แต่ภาษาอังกฤษจะใช้รูป tense นี้มาเป็นตัวบอก ดังนี้การศึกษาเรื่อง  tense จึงเป็นเรื่องจำเป็น

Tense  ในภาษาอังกฤษนี้จะแบ่ง ออกเป็น  3  tense  ใหญ่ๆ คือ

1.     Present   tense        ปัจจุบัน

2.     Past   tense              อดีตกาล

3.     Future   tense          อนาคตกาล

ในแต่ละ  tense ยังแยกย่อยได้  tense  ละ  4  คือ

1 .   Simple   tense    ธรรมดา (ง่ายๆตรงๆไม่ซับซ้อน)

2.    Continuous  tense    กำลังกระทำอยู่ (กำลังเกิดอยู่)

3.     Perfect  tense     สมบูรณ์ (ทำเรียบร้อยแล้ว)

4.     Perfect  continuous  tense  สมบูรณ์กำลังกระทำ (ทำเรียบร้อยแล้วและกำลังดำเนินอยู่ด้วย)

โครงสร้างของ  Tense  ทั้ง  12  ได้แก่

Present  Tense

[Present]

[1.1]   S  +  Verb  1  +  ……(บอกความจริงที่เกิดขึ้นง่ายๆ ตรงๆไม่ซับซ้อน)

[1.2]   S  +  is, am, are  +  Verb  1  ing   +  …(บอกว่าเดี๋ยวนี้กำลังเกิดอะไรอยู่)

[1.3]   S  +  has, have  +  Verb  3 +  ….(บอกว่าได้ทำมาแล้วจนถึงปัจจุบัน)

[1.4]   S  +  has, have  +  been  +  Verb 1 ing  + …(บอกว่าได้ทำมาแล้วและกำลังทำต่อไปอีก)

Past Tense

[Past]

[2.1]  S  +  Verb 2  +  …..(บอกเรื่องที่เคยเกิดมาแล้วในอดีต)

[2.2]  S  +  was, were  +  Verb 1  +…(บอกเรื่องที่กำลังทำอยู่ในอดีต)

[2.2] S + was, were + Verb 1 +…(บอกเรื่องที่กำลังทำอยู่ในอดีต)

2.3]  S  +  had  +  verb 3  +  …(บอกเรื่องที่ทำมาแล้วในอดีตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง)

[2.4]  S  +  had  +  been  +  verb 1 ing  + …(บอกเรื่องที่ทำมาแล้วอย่างต่อเนื่องไม่หยุด)

Future Tense

[Future]

[3.1]  S  +  will, shall  +  verb 1  +….(บอก เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต)
[3.2]  S  +  will, shall  +  be  +  Verb 1 ing  + ….(บอกว่าอนาคตนั้นๆกำลังทำอะไร อยู่)
[3.3]  S  +  will,shall  +  have  +  Verb 3  +…(บอกเรื่องที่จะเกิดหรือสำเร็จ ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง)
[3.4]  S  +  will,shall  +  have  +  been  + verb 1 ing  +.. ..(บอกเรื่องที่จะทำอย่างต่อเนื่องในเวลาใด – เวลาหนึ่งในอนาคตและจะทำต่อไปเรื่อยข้างหน้า)

หลักการใช้แต่ละ  Tense  มีดังนี้

[2.4] S + had + been + verb 1 ing + …(บอกเรื่องที่ทำมาแล้วอย่างต่อเนื่องไม่หยุด)[3.1] S + will, shall + verb 1 +….(บอก เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต) [3.2] S + will, shall + be + Verb 1 ing + ….(บอกว่าอนาคตนั้นๆกำลังทำอะไร อยู่) [3.3] S + will,shall + have + Verb 3 +…(บอกเรื่องที่จะเกิดหรือสำเร็จ ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง) [3.4] S + will,shall + have + been + verb 1 ing +.. ..(บอกเรื่องที่จะทำอย่างต่อเนื่องในเวลาใด – เวลาหนึ่งในอนาคตและจะทำต่อไปเรื่อยข้างหน้า)

[1.1]   Present  simple  tense    เช่น    He  walks   เขาเดิน

1.    ใช้กับ เหตุการที่เกิดขึ้นตามความจริงของธรรมชาติ และคำสุภาษิตคำ พังเพย

2.    ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นความจริงในขณะที่พูด  (ก่อนหรือหลังจะไม่จริงก็ตาม)

3.    ใช้กับกริยาที่ทำนานไม่ได้   เช่น  รัก,  เข้าใจ, รู้  เป็นต้น

4.    ใช้กับการกระทำที่คิดว่าจะเกหิดขึ้นในอนาคตอันใกล้(จะมีคำวิเศษณ์บอกอนาคตร่วมด้วย)

5.    ใช้ในการเล่าสรุปเรื่องต่างๆในอดีต  เช่นนิยาย นิทาน

6.    ใช้ในประโยคเงื่อนไขในอนาคต    ที่ต้นประโยคจะขึ้นต้น ด้วยคำว่า    If    (ถ้า), unless   (เว้นเสียแต่ว่า),    as  soon  as  (เมื่อ,ขณะที่),    till  (จนกระทั่ง) ,   whenever   (เมื่อไรก็ ตาม),    while  (ขณะที่)   เป็นต้น

7.    ใช้กับเรื่องที่กระทำอย่างสม่ำเสมอ  และมีคำวิเศษณ์บอกเวลาที่สม่ำเสมอร่วมอยู่ด้วย  เช่น  always (เสมอๆ),  often   (บ่อยๆ),    every  day   (ทุกๆวัน)    เป็นต้น

8.    ใช้ในประโยคที่คล้อยตามที่เป็น  [1.1]  ประโยคตามต้องใช้   [1.1]  ด้วยเสมอ

[1.2]   Present  continuous  tense   เช่น   He  is  walking  เขากำลังเดิน

1.    ใช้ในเหตุการณ์ที่กำลังกระทำอยู่ในขณะที่พูด(ใช้  now ร่วมด้วยก็ได้ โดยใส่ไว้ต้น ประโยค, หลังกริยา หรือสุดประโยคก็ ได้)

2.    ใช้ในเหตุการณ์ที่กำลังกระทำอยู่ในระยะเวลาอันยาวนาน  เช่น  ในวันนี้ ,ในปีนี้

3.    ใช้กับเหตุการณ์ที่ผู้พูดมั่นใจว่าจะต้องเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้  เช่น เร็วๆนี้, พรุ่งนี้

*หมายเหตุ   กริยาที่ทำนานไม่ได้  เช่น  รัก ,เข้าใจ, รู้, ชอบ  จะนำมาแต่งใน  Tense  นี้ไม่ได้

[1.3] Present perfect tense เช่น He has walk เขาได้เดินแล้ว

1.    ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต และต่อเนื่องมาจนถึง ปัจจุบัน  และจะมีคำว่า Since  (ตั้งแต่) และ for  (เป็นเวลา) มาใช้ร่วมด้วยเสมอ

2.    ใช้กับเหตุการณ์ที่ได้เคยทำมาแล้วในอดีต (จะกี่ครั้งก็ได้ หรือจะทำอีกใน ปัจจุบัน หรือจะทำในอนาคต ก็ได้)และจะมีคำ ว่า  ever  (เคย) ,  never  (ไม่เคย) มาใช้ร่วมด้วย

3.    ใช้กับเหตุการณ์ที่จบลงแล้วแต่ผู้พูดยังประทับใจอยู่ (ถ้าไม่ประทับใจก็ใช้   Tense

4.    ใช้กับ เหตุการที่เพิ่งจบไปแล้วไม่นาน(ไม่ได้ประทับใจอยู่) ซึ่งจะมีคำเหล่านี้มาใช้ร่วมด้วยเสมอ คือ  Just   (เพิ่งจะ), already  (เรียบร้อยแล้ว), yet  (ยัง), finally  (ในที่สุด)  เป็นต้น

[1.4] Present  perfect  continuous  tense    เช่น  He  has  been  walking  เขาได้กำลังเดินแล้ว

*  มีหลักการใช้เหมือน  [1.3]  ทุกประการ เพียงแต่ว่าเน้นว่าจะทำต่อไปในอนาคตด้วย    ซึ่ง [1.3] นั้นไม่เน้นว่าได้กระทำอย่างต่อเนื่องหรือไม่  ส่วน [1.4]  นี้เน้นว่ากระทำมาอย่างต่อเนื่องและจะกระทำต่อไปในอนาคตอีกด้วย.

[2.1] Past  simple  tense      เช่น  He  walked  เขาเดิน แล้ว

1.   ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงแล้วในอดีต   มิได้ต่อเนื่องมาถึงขณะ ที่พูด และมักมีคำต่อไปนี้มาร่วมด้วยเสมอในประโยค เช่น  Yesterday, year  เป็นต้น

2.    ใช้กับเหตุการณ์ที่ทำเป็นประจำในอดีตที่ผ่านมาในครั้งนั้นๆ ซึ่งต้องมีคำวิเศษณ์บอกความถี่ (เช่น Always, every  day ) กับคำวิเศษณ์ บอกเวลา (เช่น  yesterday,  last  month )  2  อย่างมาร่วมอยู่ด้วยเสมอ

3.    ใช้กับเหตุการณ์ที่ได้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต  แต่ปัจจุบันไม่ได้เกิด อยู่ หรือไม่ได้เป็นดั่งในอดีตนั้นแล้ว  ซึ่งจะมีคำว่า  ago  นี้ร่วมอยู่ด้วย

4.      ใช้ในประโยคที่คล้อยตามที่เป็น [2.1]  ประโยคคล้อยตามก็ต้อง เป็น [2.1]  ด้วย

[2.2]   Past continuous  tense   เช่น    He  was  walking  เขากำลังเดินแล้ว

1.     ใช้กับเหตุการณ์   2   อย่างที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกัน  { 2.2  นี้ไม่นิยมใช้ตามลำพัง – ถ้าเกิดก่อนใช้  2.2   –  ถ้าเกิดทีหลังใช้ 2.1}

2.     ใช้กับเหตุการณ์ที่ ไดกระทำติดต่อกันตลอดเวลาที่ได้ระบุไว้ในประโยค  ซึ่งจะมีคำบอกเวลาร่วมอยู่ด้วยในประโยค  เช่น  all  day  yesterday  etc.

3.     ใช้กับเหตุการณ์  2  อย่างที่กำลังทำในเวลาเดียวกัน(ใช้เฉพาะกริยาที่ทำได้นานเท่านั้น  หากเป็นกริยาที่ทำนานไม่ได้ก็ใช้หลักข้อ 1 ) ถ้าแต่งด้วย 2.1  กับ  2.2  จะดูจืดชืดเช่น   He  was  cleaning  the  house  while  I was  cooking  breakfast.

[2.3]   Past  perfect  tense    เช่น  He  had walk  เขาได้เดินแล้ว

1.    ใช้กับ เหตุการณ์  2  อย่างที่เกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอดีต  มีหลักการใช้ดังนี้

เกิดก่อนใช้  2.3  เกิดทีหลังใช้  2.1

2.     ใช้กับเหตุการณ์หรือการกระทำอันเดียวก็ได้ในอดีต แต่ต้องระบุชั่วโมงและวันให้แน่ชัดไว้ในทุกประโยคด้วยทุกครั้ง  เช่น   She  had  breakfast  at  eight o’ clock  yesterday.

[2.4]   past  perfect  continuous  tense    เช่น   He  had  been  walking

มีหลักการใช้เหมือนกับ  2.3  ทุกกรณี  เพียงแต่  tense  นี้  ต้องการย้ำถึงความต่อเนื่องของการกระทำที่ 1  ว่าได้กระทำต่อเนื่องไปจนถึงการกระทำที่  2  โดยมิได้หยุด  เช่น  When  we  arrive  at  the  meeting ,  the  lecturer  had  been  speaking  for  an  hour  .   เมื่อพวกเราไปถึงที่ ประชุม  ผู้บรรยายได้พูดมาแล้ว เป็นเวลา 1  ชั่วโมง

[3.1]   Future  simple  tense      เช่น   He  will  walk   เขาจะเดิน

ใช้กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต  ซึ่งจะมีคำว่า  tomorrow,  to  night,  next  week,  next  month   เป็นต้น  มาร่วมอยู่ด้วย.

  • Shall   ใช้กับ     I    we

Will    ใช้กับบุรุษที่  2  และนามทั่วๆไป

Will,  shall  จะใช้สลับกันในกรณีที่จะให้คำมั่นสัญญา, ข่มขู่บังคับ, ตกลงใจแน่วแน่

Will,  shall   ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติหรือจงใจก็ได้

Be  going  to  (จะ)  ใช้กับความจงใจของมนุษย์ เท่านั้น  ห้ามใช้กับเหตุการณ์ของธรรมชาติและนิยมใช้ใน ประโยคเงื่อนไข

[3.2]    Future   continuous    tense    เช่น   He  will  be  walking   เขากำลังจะเดิน

1.     ใช้ในการบอกกล่าวว่าในอนาคตนั้นกำลังทำอะไรอยู่ (ต้องกำหนดเวลาแน่นอน ด้วยเสมอ)

2.     ใช้กับเหตุการณ์  2  อย่างที่จะเกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอนาคต  มีกลักการใช้ดังนี้

–   เกิดก่อนใช้    3.2      S  +  will  be,  shall  be  +  Verb 1  ing

–  เกิดทีหลังใช้   1.1     S  +  Verb  1

[3.3]   Future   prefect  tens    เช่น  He  will  have walked  เขาจะได้เดินแล้ว

  1. ใช้กับเหตุการณ์ที่จะ เกิดขึ้นหรือสำเร็จลงในเวลาใดเวลาหนึ่งในอนาคต  โดยจะมีคำว่า  by  นำหน้ากลุ่มคำที่บอกเวลา ด้วย  เช่น   by  tomorrow  ,   by  next  week   เป็นต้น

2.ใช้กับเหตุการณ์  2  อย่างที่จะเกิดขึ้นไม่พร้อมกันในอนาคต มีหลักดังนี้

  • เกิดก่อนใช้   3.3      S  +  will, shall  +  have  +  Verb 3
  • เกิด ที่หลังใช้   1.1    S  +  Verb 1

[3.4]  Future  prefect  continuous  tense เช่น He  will  have  been  walking เขาจะได้กำลังเดินแล้ว

ใช้เหมือน  3.3  ต่างกันเพียงแต่ว่า  3.4  นี้เน้นถึงการกระทำที่  1  ได้ทำต่อเนื่องมาจนถึงการกระทำที่  2  และจะกระทำต่อไปในอนาคต อีกด้วย Tense  นี้ไม่ค่อยนิยมใช้บ่อย นัก  โดยเฉพาะกริยาที่ทำนาน ไม่ได้ อย่านำมาแต่งใน  Tense  นี้เด็ดขาด

ที่มา:

marujo2524.igetweb.com

Like this:

Like

Loading…


เด็กวัด ละเมอ ข้าวกล่อง 100 ล้าน หนังสั้น | สามโคกฟิล์ม


เด็กวัด ละเมอ ข้าวกล่อง 100 ล้าน
📍 ติดตามอัปเดตข้อมูลข่าวสารได้ที่ 👇
➡️ YouTube : ละครสอนชีวิต By BSC Films
➡️ Facebook : ละครสอนชีวิต By BSC Films
ติดต่องานสปอร์นเซอร์ได้ที่ไลน์ jira_skyler_brianna
หรืออีเมล [email protected]
ขอบคุณคะ
แอดมิน

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่

เด็กวัด ละเมอ ข้าวกล่อง 100 ล้าน หนังสั้น | สามโคกฟิล์ม

ไสเจ้าว่า – อาร์ท มหาหอย 【 OFFICIAL MV 】 (ต้นฉบับ)


\” ไสเจ้าว่า สิฮักอ้ายผู้เดียว ไสเจ้าว่า สิฮักเดียวแค่อ้าย \”..
กดฟังภาคต่อ ไสเจ้าว่า เพลง บ่ต้องมาเผาผี : https://youtu.be/g86q28zyuLo
………….
เพลง : ไสเจ้าว่า
คำร้อง/ทำนอง : อิ๋ว เอไมเนอร์
เรียบเรียง : ONUTZ
ควบคุมการผลิต \u0026 คุมร้อง \u0026 โปรดิวเซอร์ : เฮียบาส
ขอซาวด์ดนตรี COVER ได้ที่ : https://www.facebook.com/bas.karuna
ถ่าย MV : บาส คร๊าบ Studio รับทำดนตรี รับถ่าย mv Cover ต่างๆ ราคากันเอง Line : 0849549815
ไสเจ้าว่าเพลงใหม่แชร์วนไป
เนื้อเพลง ไสเจ้าว่า
เพิ่งสิฮู้สึก ฮู้สากับความเจ็บ
เพิ่งสิมาพบมาเจอ
กับผู้สาวที่เป็นตาฮักส่ำนี้
ฮักโดยบ่คึดเลยว่าเจ้าสิไปจาก
ฮักโดยสิฮักนานบ่ไปไส
ฮอดมื้อตาย เป็นคู่กันไปแม่นบ่ติ๊
เจ้ากะดีแสนดีกับอ้ายคำแพง
แล้วจั่งใดมื้อนี่เจ้ามาเปลี่ยนแปลง
ใจเจ้าที่ปันให้อ้าย อยู่ไสอ้ายหาบ่เจอ
ไสเจ้าว่า สิฮักอ้ายผู้เดียว
ไสเจ้าว่า สิฮักเดียวแค่อ้าย
ไสเจ้าว่า สิบ่ไปฮักไผ จนฮอดมื้อตาย เฮาสิเป็นคู่กัน
ไสเจ้าว่า สิอยู่เคียงข้างอ้าย ดูแลยามป่วยไข้ เฮาบ่เคยถิ่มกัน
แล้วใด๋เจ้า กลับไปเอาคนนั้น มันเจ็บแท้เด้ ฮู้บ่
ใจหนอใจ ไสว่าบ่เปลี่ยนผัน ต้องมาเจ็บ ย้อนบ่จริงจัง
ไสสิฮัก สัญญาเอาไว้บ่แม่นติ
ติดต่องานแสดงสดทั่วประเทศ เต็มวง รับเชิญ
ติดต่อ Line คลิก: https://line.me/ti/p/nmZY_VNnhm
📞 0849549815
Facebook : https://www.facebook.com/bas.karuna

ไสเจ้าว่า - อาร์ท มหาหอย  【 OFFICIAL MV 】 (ต้นฉบับ)

เพลง หนอนผีเสื้อ ต้วมๆเตี้ยมๆออกมาจากไข่


ต้วมๆเตี้ยมๆออกมาจากไข่
เจ้าหนอนตัวใหญ่ลูกใครกันหน่อ
กระดึ๊บๆไปกระดึ๊บๆไป
กระดึ๊บ ดึ๊บ ไปบนใบไม้อ่อน
กัดๆกินๆอิ่มแล้วก็นอน
แล้วเจ้าหนอน ก็ชักใยหุ้มตัว
กระดึบๆๆๆ
แขวนตัวไว้กับกิ่ง นอนนิ่งนานๆ
วันและคืนเวียนผ่าน
หนอนนอนหลับสบาย
เจ้ากลายเป็นดักแด้
มีแต่เยื่อใยหุ้มห่อ
คงได้เวลาแล้วหนอ
ดักแด้ก็ เปลี่ยนแปลงกาย
ลัน ลัน ลัน ลั้น ลัน ลัน ลั่น ลัน ลา
ลัน ลัน ลัน ลั้น ลัน ลัน ลั่น ลัน ลา
กลายเป็นผีเสื้อตัวใหญ่
บินไปๆบินมา
บินชมดอกไม้นานา
ผีเสื้อจ๋าเจ้าสวยจังเลย

เพลง หนอนผีเสื้อ ต้วมๆเตี้ยมๆออกมาจากไข่

เพิ่งทำงานเสร็จ ภาษาอังกฤษ พูดยังไง?


เพราะการสื่อสาร ไม่ใช่แค่ไวยากรณ์
แต่คือ \”ความมั่นใจ\” และ \”ความรู้\”
ในการสื่อสาร และสร้างบทสนทนา
\”อยากใช้ได้ไม่ลืม จนเพื่อนฝรั่งว้าว
พิมพ์ฝึกใต้คอมเม้นได้เลยค่ะ\” 🥰

🌹 เรียนมั่นใจพูดอังกฤษ
https://www.facebook.com/englishsmilebymadame
🌷 อัพเดตความรู้ใหม่ๆ
https://englishsmileclub.com/
🌹 Englishsmile Instagram
https://www.instagram.com/englishsmilebymadame
🌺 ไดอารีจาก Day 1 ที่อิตาลี
https://www.facebook.com/Madameitaly.ploy
🌸 หนังสือจากประสบการณ์
แอร์โฮสเตทสายการบินห้าดาว 5 ปี
โหดมันฮาสายการบิก พีคทุกวัน
https://bit.ly/2DUt7R7
🌼 อัพเดทคำศัพท์ใหม่ๆเพื่อเพิ่มความมั่นใจในการพูดอังกฤษ
https://bit.ly/2DSzSlV
🌻สอบถามคอร์สเรียน
m.me/englishsmilebymadame

เพิ่งทำงานเสร็จ ภาษาอังกฤษ พูดยังไง?

ใกล้ถึงรึยัง ใกล้ถึงแล้ว ถึงแล้ว เพิ่งมาถึง ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร


รายละเอียดคอร์ส : http://www.ajarnadam.tv/
สอบถามเรื่องคอร์สทางไลน์ Aj.Adam, Info.Hollywood, KhunBaiTuey หรือโทร 02 612 9300, 081 353 7810, 089 422 4546
FBของอดัม : http://www.facebook.com/AjarnAdamBradshaw
IG : https://www.instagram.com/ajarnadam
Twitter : http://twitter.com/AjarnAdam
FB โรงเรียน : http://www.facebook.com/hollywoodlearning

ใกล้ถึงรึยัง ใกล้ถึงแล้ว ถึงแล้ว เพิ่งมาถึง ภาษาอังกฤษว่าอย่างไร

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูบทความเพิ่มเติมในหมวดหมู่LEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ เพิ่งจะ ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *