Skip to content
Home » [NEW] รวม ❝การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ ❞ แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ | ตารางการทํางาน ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

[NEW] รวม ❝การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ ❞ แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ | ตารางการทํางาน ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

ตารางการทํางาน ภาษาอังกฤษ: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

Table of Contents

รวม ❝การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ ❞ แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ

 

รวม ❝การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ ❞

แบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ

การแนะนำตัวภาษาอังกฤษ เป็นวิธีการสร้างความประทับใจที่ง่ายที่สุด และทำให้คนจดจำเราได้ตั้งแต่แรกพบ เพราะฉะนั้น ถ้าหากมีแพทเทิร์นในการแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษของตัวเองได้ก็จะยิ่งดีมาก ๆ 

 

และถ้ายิ่งได้ฝึกพูดแนะนำตัวภาษาอังกฤษอย่างสม่ำเสมอ ก็จะยิ่งพูดคล่อง และมั่นใจค่ะ เมื่อเจอกับเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนต่างชาติใหม่ ๆ ก็จะพูดได้เลย โดยที่ไม่ต้องคิดนาน

 

ถ้าหากฝึกซ้อมแนะนำตัวแล้ว อย่าลืมซ้อมตอบคำถาม และปรับบุคลิกภาพด้วย คลิก

 

20 ประโยคจำไว้ถาม-ตอบเวลาพรีเซนต์

How to พรีเซนต์งานภาษาอังกฤษ ให้โดนใจคนฟัง!

 

การแนะนำตัวเป็นภาษาอังกฤษสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ นั่นก็คือ การแนะนำตัวแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้ในสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น สัมภาษณ์งาน, Presentation หรือการไปเที่ยวแล้วพบเจอคนใหม่ ๆ ก็สามารถใช้ได้เช่นกัน

 

ซึ่งนอกจาก Globish จะมาแนะนำวิธีการและประโยคแล้ว ยังมีตัวอย่างการแนะนำตัวภาษาอังกฤษให้ทุกท่านนำไปใช้ได้เลยอีกด้วยค่ะ

 

แต่ก่อนจะเข้าเนื้อหา อยากให้ทุกท่านลองลิสต์คำตอบของคำถามเหล่านี้ดูก่อนค่ะ 

 

1) What is your name? 

ตัวอย่างคำตอบ

Pim, Jane, Sam etc.

 

2) Where are you from? 

ตัวอย่างคำตอบ

Bangkok, Thailand etc.

 

3) How are you related to the person who has introduced you? 

ตัวอย่างคำตอบ

Husband, wife, friend etc.

 

4) Why are you in that situation? 

ตัวอย่างคำตอบ

Party, Family introductions, Wedding etc.

 

5) What makes you interesting? 

ตัวอย่างคำตอบ

You’re good at singing, painting, playing the piano etc.

 

เมื่อคุณสามารถตอบคำถามครบแล้ว ก็จะเริ่มรู้แนวแล้วว่า คุณควรจะพรีเซนต์ตัวเองไปในทิศทางไหน และควรพูดเรื่องอะไรดี

 

แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าจะพูดแนะนำตัวเรื่องอะไรดีหรือยังไม่มีเรื่องในใจ Globish ได้เตรียมหัวข้อมาให้ทุกท่านเลือกเช่นกันค่ะ ได้แก่

 

Personality นิสัย

Likes สิ่งที่ชอบ

Dislikes สิ่งที่ไม่ชอบ

Hobbies งานอดิเรก

Skills ทักษะ

Talents พรสวรรค์

Qualifications คุณสมบัติ

Interests ความสนใจ

Awards รางวัลหรือความสำเร็จ

Ideas ความคิด

Opinions ความคิดเห็น

 

ซึ่งทุกท่านไม่จำเป็นต้องพูดในทุกหัวข้อเมื่อแนะนำตัวภาษาอังกฤษก็ได้ แต่เลือกเฉพาะสิ่งที่เข้ากับสถานการณ์นั้น ๆ เช่น ถ้าหากต้องแนะนำตัวสัมภาษณ์งาน อาจจะพูดถึง Personality, Hobbies, Qualifications, Skills, หรือ Awards ค่ะ

 

เชื่อว่าทุกท่านน่าจะพอเห็นภาพกันแล้ว เรามาเริ่มกันที่การแนะนำตัวภาษาอังกฤษแบบไม่เป็นทางการกันเลยค่ะ

1. การแนะนำตัวภาษาอังกฤษแบบ Informal (ไม่เป็นทางการ)

 

การแนะนำตัวแบบนี้ เหมาะมาก ๆ กับสถานการณ์อย่าง ไปเจอครอบครัวของเพื่อนหรือเพื่อนของเพื่อนในงานต่าง ๆ หรือเจอเพื่อนร่วมงานใหม่ ๆ ก็สามารถใช้ได้เช่นกันค่ะ 

 

  ■ สถานการณ์: แนะนำตัวในงานเลี้ยงของเพื่อน

 

เริ่มจากการทักทาย…

 

Hi everybody.

สวัสดีค่ะ/ครับทุกคน

 

Hello.

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

Hi there.

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

Hey there

สวัสดีค่ะ/ครับ

แนะนำตัวเอง…

 

I’m Sam, Jane’s friend. It’s a pleasure to meet you.

ฉันชื่อแซมนะ เป็นเพื่อนของเจน ยินดีที่ได้พบคุณมาก ๆ เลย

 

You can call me Sam. It’s nice to meet you.

คุณเรียกฉันว่าแซมก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ

พูดถึงงานปาร์ตี้หรือคนที่คุณทั้งสองคนรู้จักร่วมกัน

 

This is a fantastic party, very well-organised.

ปาร์ตี้นี้สุดยอดมากเลยนะครับ จัดได้ดีมาก ๆ

 

The food in this restaurant is so good, I’m on my third round!

อาหารในร้านนี้อร่อยมาก ๆ เลย นี่ผมตักอาหารรอบที่ 3 แล้ว

 

I work with Jane (the hostess) at Globish. We first met when we studied at Thammasart university together, so we’ve known each other for 10 years.

ฉันทำงานกับเจนที่โกลบิช แต่เราเจอกันครั้งแรกตั้งแต่สมัยเรียนธรรมศาสตร์ ตอนนี้ก็รู้จักกันมา 10 ปีแล้ว

 

ปิดท้ายการแนะนำตัว…

 

So, tell me a bit about yourself. How do you know Jane?

เล่าเรื่องของคุณซักหน่อยได้ไหม คุณรู้จักเจนได้ยังไง

 

By the way, please tell me about yourself. How did you and Jane meet?

ว่าแต่… คุณช่วยเล่าเรื่องของคุณได้ไหม แบบคุณกับเจนเจอกันได้ยังไง

 

 


■ สถานการณ์: แนะนำตัวในทีทำงาน (เพิ่งเริ่มทำงานวันแรก)

 

เริ่มจากการทักทาย….

 

Hi, everybody.

สวัสดีทุกคน

 

Hello.

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

Hi there.

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

Hey there

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

Good morning/ afternoon/ evening.

สวัสดีตอนเช้า/ บ่าย/ เย็น

แนะนำตัวเองและตำแหน่งงาน…

 

Nice to meet you. My name is Laticia. I’m the new graphic designer. 

ยินดีที่ได้รู้จัก ฉันชื่อลาทีเซีย เป็นกราฟิกดีไซน์คนใหม่ค่ะ

 

My name is Jack, your new marketing manager. 

ผมชื่อแจ็ค เป็นผู้จัดการแผนกมาร์เก็ตติ้ง

 

I’m Javier, an engineer in the IT department.

ฉันชื่อจาเวียร์ เป็นวิศวะแผนกไอทีค่ะ

 

Hi, I am Jeff from the Marketing Team.

สวัสดี ฉันชื่อเจฟจากทีมมาร์เก็ตติ้ง

   

I’m Mike, the new engineer. Nice to meet you.

ผมชื่อไมค์ เป็นวิศวะกรคนใหม่ ยินดีที่ได้รู้จักครับ

พูดถึงประวัติการทำงาน…

 

Previously, I worked as marketing manager in Noc Company. So, I have 10 years of experience.

ก่อนหน้านี้ ผมเคยทำงานในตำแหน่งผู้จัดการแผนกมาร์เก็ตติ้งที่บริษัทน็อค ผมเลยมีประสบการณ์ทางด้านนี้มากว่า 10 ปี 

สร้างความประทับใจ…

 

I believe I can lead this team to even more success, but I can’t produce great results alone. That’s why I need your utmost cooperation. Together, we can achieve great things.

ผมเชื่อว่าผมสามารถพาทีมไปสู่ความสำเร็จ แต่คงทำคนเดียวไม่ได้ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงต้องการความร่วมมือจากพวกคุณ หากร่วมมือกัน เราจะสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้แน่นอน

 

I worked at ABC Company for one year before joining this company. Outside of work, I enjoy doing yoga and reading novels at the beach. If you have any interesting books, feel free to recommend them to me.

ฉันทำงานที่บริษัท ABC มา 1 ปี ก่อนที่จะย้ายมาทำงานที่นี่ นอกเหนือจากการทำงาน ฉันชอบเล่นโยคะและนั่งอ่านหนังสือริมชายหาด ถ้าคุณมีหนังสือที่น่าสนใจ แนะนำฉันมาได้เลย

 

I graduated with my degree in Economics two months ago.

Although I don’t have real-life work-experience, I’m ready to learn new things from all of you.

ผมจบเศรษฐศาสตร์มาเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว แม้ว่าผมยังไม่มีประสบการณ์จริง แต่ผมพร้อมจะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จากคุณทุกคน

ปิดท้ายการแนะนำตัว…

 

I’m excited to work with all of you.

ผมตื่นเต้นมากที่จะได้ร่วมงานกับพวกคุณทุกคน

 

We’ll be working together in the future and I’m excited to be a part of the team

เราจะได้ร่วมงานกันในอนาคตแน่นอน และฉันตื่นเต้นมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีม

 

I’m looking forward to working with you in the future. See you around.

ฉันตั้งตารอที่จะได้ทำงานกับคุณในอนาคต แล้วพบกันนะคะ

 

 

 

2. การแนะนำตัวภาษาอังกฤษแบบ Formal (เป็นทางการ)

 

ข้อแตกต่างระหว่างการแนะนำแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ คือ ภาษาที่ใช้ค่ะ แบบเป็นทางการจะใช้ภาษาที่ค่อนข้างสุภาพมากกว่า เหมาะกับสถานการณ์แบบ สัมภาษณ์งาน หรือใช้เกริ่นก่อนนำเสนองานให้คนที่ไม่รู้จัก และเพื่อนร่วมงานแผนกอื่นในบริษัทฟัง ก็สามารถใช้ได้ค่ะ

 

■ สถานการณ์: แนะนำตัวเมื่อไปสัมภาษณ์งาน

 

เริ่มจากการทักทาย….

 

Good morning/ afternoon/ evening.

สวัสดีตอนเช้า/ บ่าย/ เย็น

 

Hello.

สวัสดีค่ะ/ครับ

 

แนะนำตัวเองพร้อมประวัติการเรียนหรือการทำงาน…

 

My name is Kevin Smith. Glad to meet you. I’m 21 years old and I’m a fresh graduate from XYZ University with Business management.

ผมชื่อเควิน สมิธ ยินดีที่ได้พบคุณนะครับ ผมอายุ 21 ปี เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัย XYZ ด้านการจัดการธุรกิจครับ

 

First of all, it’s my pleasure to speak with you today. My name is Paul Smith. I’m 23 years old and I have just completed my graduation from XYZ University with Human Resource Management as the subject.

ก่อนอื่นเลย ยินดีอย่างยิ่งที่ได้พูดคุยกับคุณวันนี้ครับ ผมชื่อพอล สมิธ อายุ 23 ปี เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย XYZ ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลครับ

 

Good morning, I’m Janejira Rakdee. Pleased to meet you. I’m from Bangkok. I completed my Bachelor of Engineering degree in 2009 from Abac university.

สวัสดีตอนเช้าค่ะ ดิฉันชื่อเจนจิรา รักดี ยินดีที่ได้พบคุณค่ะ ฉันมาจากกรุงเทพฯ จบการศึกษาจากคณะวิศวะกรรมศาสตร์ตอนปี 2009 จากมหาวิทยาลัยเอแบคค่ะ

 

Good afternoon, I’m Sam Brandon. I have been working as a Sales Professional for 5 years now. I joined as a Sales executive and worked my way up to the position of Sales Manager within 3 years.

สวัสดีตอนบ่ายครับ ผมชื่อแซม แบรนดอน ผมทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขายมา 5 ปีแล้ว นอกจากนี้ ผมเริ่มจากตำแหน่งพนักงานขายไปจนถึงผู้จัดการฝ่ายขายภายใน 3 ปี

พูดถึงสกิลที่ถนัด ความสามารถ หรือประสบการณ์ที่โดดเด่น…

 

One of my accomplishments during my university life was being a speaker at a Science seminar. I have completed my internship in ABC Motor company. During my internship, I gained a lot of useful skills that weren’t included in the academic curriculum such as negotiation and time management skills.

หนึ่งในความสำเร็จช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัยของดิฉันคือ การได้เป็นผู้บรรยายในงานสัมมนาวิทยาศาสตร์ อีกทั้งดิฉันยังได้ฝึกงานในบริษัทยานยนตร์ ABC ระหว่างการฝึกงาน ฉันได้เรียนรู้สกิลที่มีประโยชน์ และไม่มีสอนในรั้วมหาลัย เช่น สกิลการต่อรองและการจัดการเวลา

 

I’ve been hard-working and have taken my subjects quite seriously. Now, as I am graduated, I want to implement my knowledge in my work. That is the reason I applied for this job. 

ผมค่อนข้างทุ่มเทและจริงจังกับการเรียนมาตลอด และตอนนี้ ในฐานะที่เป็นเด็กจบใหม่ ผมอยากเอาความรู้ที่ได้เรียนมาปรับใช้กับการทำงาน นี่คือเหตุผลที่ผมสมัครงานในตำแหน่งนี้ครับ

ปิดท้ายการแนะนำตัว…

 

Now, I am all set to start my career, and hoping to get selected into your esteemed company which will help me explore my other abilities, and improve myself.

และตอนนี้ ดิฉันพร้อมแล้วที่จะเข้าสู่การทำงาน และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับเลือกให้ทำงานในบริษัทสามารถช่วยดิฉันค้นหาความสามารถอื่น ๆ ของตัวเองและพัฒนาตัวเองไปได้อีกค่ะ

 

Although I don’t have real-life work-experience, I have learned a lot about business through subjects during my graduation. So, I would assure you to be a valuable asset to your esteemed company by implementing all of my knowledge mixed up with hard work.

แม้ว่าผมจะไม่มีประสบการณ์ในการทำงานจริง แต่ผมได้เรียนรู้ด้านธุรกิจผ่านวิชาเรียนที่หลากหลายในรั้วมหาวิทยาลัย ผมจึงอยากให้คุณมั่นใจเลยว่า ผมจะเป็นพนักงานที่มีคุณค่าต่อบริษัท โดยการนำความรู้ทั้งหมดที่ผมมีมาปรับใช้ไปพร้อม ๆ กับความมุมานะในการทำงาน

 

 

■ สถานการณ์: แนะนำตัวก่อนพรีเซนต์งาน

 

เริ่มจากการทักทาย….

 

Hi, everyone. Thanks for coming.

สวัสดีค่ะ/ครับ ทุกคน ขอบคุณที่มาในวันนี้

 

Hello, everyone. I’d like, first of all, to thank the organizers of this meeting for inviting me here today.

สวัสดีครับ ก่อนอื่นเลย ผมขอขอบคุณผู้จัดงานที่เชิญผมมาในวันนี้

 

Good morning everyone and welcome to the meeting. First of all, let me thank you all for coming here today. 

สวัสดีตอนเช้าค่ะทุกคน ขอต้อนรับสู่การประชุมค่ะ ก่อนอื่นเลย ขอขอบคุณทุกท่านที่มาในวันนี้ค่ะ

แนะนำตัวเองและตำแหน่ง…

 

I’m John, who heads the marketing team.

ผมชื่อจอห์น เป็นหัวหน้าทีมมาร์เก็ตติ้งครับ

 

Let me introduce myself. I’m Jan from the marketing team.

ขอแนะนำตัวสักหน่อยนะคะ ดิฉันชื่อแจน มาจากทีมมาร์เก็ตติ้งค่ะ

 

For those of you who don’t know me, my name’s Jane from the operation management team.

สำหรับคนที่ยังไม่รู้จักดิฉันนะคะ ดิฉันชื่อเจน มาจากทีมการจัดการการผลิตค่ะ

บอกหัวข้อหลักของการพรีเซนต์…

 

What I’d like to present to you today is our annual sales report.

สิ่งทีผมต้องการจะนำเสนอในวันนี้คือรายงานยอดขายประจำปี

 

As you can see on the screen, our topic today is our annual sales report.

อย่างที่คุณเห็นบนหน้าจอ หัวข้อในวันนี้คือการรายงานยอดขายประจำปี

 

In my presentation I would like to report on our annual sales report.

ในการนำเสนอ ดิฉันจะชี้แจงเรื่องรายงานยอดขายประจำปี

 

I’m here today to present our annual sales report.

วันนี้ฉันจะมานำเสนอเรื่องการรายงานยอดขายประจำปี

บอกจุดมุ่งหมายของการพรีเซนต์…

 

The purpose of this presentation is for us to come up with short-term and long-term strategies to increase our profit. 

จุดประสงค์ของการนำเสนอคือต้องการให้พวกเราหาวิธีเพิ่มกำไรด้วยกลยุทธ์ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว

 

My main objective for today is for us to come up with short-term and long-term strategies to increase our profit. 

จุดประสงค์หลังของการนำเสนอคือต้องการให้พวกเราหาวิธีเพิ่มกำไรด้วยกลยุทธ์ทั้งแบบระยะสั้นและระยะยาว

บอกหัวข้อย่อยที่จะพรีเซนต์…

 

I’ve divided my presentation into three main parts.

ผมได้แบ่งการนำเสนอนี้ออกเป็น 3 หัวข้อหลัก ๆ

 

In my presentation I’ll focus on three major issues.

ในการนำเสนอ ผมจะมุ่งไปที่ 3 หัวข้อหลัก ๆ

 

I thought it would be useful to divide our talk into three main sections.

ฉันคิดว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์มาก ถ้าแบ่งการนำเสนอออกเป็น 3 ส่วน

บอกลำดับเรื่องที่จะพรีเซนต์…

 

First of all, I’d like to give you an overview of

our monthly sales report.

Next, I’ll focus on

our annual sales report.

Lastly, I’ll deal with

our company goals for next year.

อันดับแรก ดิฉันขอเริ่มด้วยภาพรวมของยอดขายในแต่ละเดือน หลังจากนั้น ดิฉันจะพูดถึงยอดขายในปีนี้ และสุดท้าย จะจบด้วยเป้าหมายของบริษัทในปีหน้าค่ะ

 

So, I’ll begin by bringing you up-to-date on

our monthly sales report.

And then, I’ll go on to

our annual sales report.

I’ll end with

our company goals for next year.

ผมจะเริ่มต้นด้วยภาพรวมของยอดขายในแต่ละเดือน หลังจากนั้น ผมจะพูดถึงยอดขายในปีนี้ และจบด้วยเป้าหมายของบริษัทในปีหน้าครับ

บอกระยะเวลาของการพรีเซนต์…

 

This should only last 20 minutes.

การนำเสนองานจะใช้เวลา 20 นาที

 

My presentation will take about an hour.

การนำเสนองานจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

 

It will take about 1 hour and a half to cover these issues.

การนำเสนองานจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อพูดถึงหัวข้อทั้งหมด

 

 

บอกเรื่องเอกสารประกอบการบรรยาย…

 

I’ll be handing out copies of the slides at the end of my talk.

ผมจะแจกเอกสารหลังจากจบการพรีเซนต์นะครับ

 

I can email the PowerPoint presentation to anybody who wants it.

ดิฉันจะส่งอีเมลแนบเพาเวอร์พ้อยท์ที่พรีเวนต์วันนี้ให้ผู้ที่ต้องการนะคะ

ปิดท้ายด้วยการให้ผู้ฟังถามคำถามหลังการพรีเซนต์…

 

There will be time for questions after my presentation.

เดี๋ยวจะมีช่วงให้ถามคำถามในตอนท้ายของการนำเสนอนะคะ

 

 

  

ทั้งหมดนี้คือการแนะนำตัวภาษาอังกฤษทั้งแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการค่ะ ทุกท่านสามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากบัสถานการณ์ของตัวเองได้นะคะ

ที่สำคัญ อย่าลืมหมั่นฝึกฝน และซ้อมบ่อย ๆ เพราะจะช่วยเรื่องการพูดอย่างเป็นธรรมชาติ และเป็นตัวของตัวเองค่ะ

 

ขอบคุณที่มาข้อมูลจาก:

เว็ปไซต์ Indeed

เว็ปไซต์ HQ hire

เว็ปไซต์ Interview Questions

 

เรียนภาษาอังกฤษเพิ่มความโปร พูดโฟลว์ได้อย่างมั่นใจ ได้ที่ Globish คอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดสำหรับวัยทำงาน พิสูจน์แล้วจากผู้เรียนกว่า 10,000 คน ว่าพูดได้จริง ไม่ใช่แค่ท่องจำ

วัดระดับภาษาอังกฤษ ฟรี! คลิก

[Update] บทสนทนาภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์ พูดคุยโทรศัพท์กับลูกค้าฉบับจัดเต็ม! ห้ามพลาด! | ตารางการทํางาน ภาษาอังกฤษ – NATAVIGUIDES

106

SHARES

Facebook

Twitter

บทสนทนาภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์ ไว้ฝึกพูดคุยกับลูกค้า การติดต่อทางโทรศัพท์เป็นช่องทางการติดต่อที่ค่อนข้างรวดเร็วกว่าช่องทางอื่น และการสนทนาทางโทรศัพท์ก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย เพราะคุณแค่จำประโยคไม่กี่ประโยค ก็สามารถรับสาย พูดคุยกันได้แล้วครับ

บทสนทนา ภาษา อังกฤษ ทาง โทรศัพท์

บทสนทนาภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์

ลองมาดูตัวอย่างการสนทนาภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์กันดูสักหน่อยนะครับ ที่บอกว่ามันไม่ได้ยากเย็นอะไรเลยนั้น มันเป็นความจริงหรือเปล่า

ตัวอย่างบทสนทนา 1

Operator: Hello, ABC Travel, Somying speaking. How can I help you?
โอเปอเรเตอร์ : เฮ็ลโล เอบีซี แทร๊เวิล สมหญิง สปีคคิง ฮาว แคน ไอ เฮ็ลพ ยู๊
(สวัสดีค่ะ เอบีซีทราว็ล ดิฉันสมหญิงรับสาย มีอะไรให้ช่วยเหลือคะ)

You: Yes, can I speak to Mr. John Doe, please?
คุณ: เย็ส แคน ไอ สปีค ทู มิ๊สเตอะ จอน โด พลีส
(ค่ะ ฉันขอคุยสายกับคุณจอห์นโดหน่อยค่ะ)

Operator: Who’s calling please?
โอเปอเรเตอร์ : ฮูส ค๊อลลิง พลีส
(ไม่ทราบว่าใครโทรมาคะ)

You: It’s Jenny White from  XYZ Tour.
คุณ: อิทส เจ็นนิ ไวท ฟรอม เอ็กซ วาย เซ็ด ทัว
(ชื่อเจนนี่ไวท์ จากเอ็กซ์วายแซดทัวร์ค่ะ)

Operator: Please hold and I’ll put you through.
โอเปอเรเตอร์ : พลีส โฮลด์ แอน ไอล พุท ยู ธรู
(ถือสายรอสักครู่ ฉันจะโอนสายให้นะคะ)

You: Thank you.
คุณ : แธ็งคิว
(ขอบคุณค่ะ)

ตัวอย่างบทสนทนาภาษาอังกฤษทางโทรศัพท์ด้านบนนี้ หมายความว่า คนที่คนโทรมาต้องการคุยด้วยอยู่ในสำนักงานนะครับ จะเห็นได้ว่ามีการโอนสายให้ได้พูดคุยกัน

ตัวอย่างบทสนทนา 2

Operator: Hello, ABC Travel. How may I help you?
โอเปอเรเตอร์ : เฮ็ลโล เอบีซี แทร๊เวิล ฮาว เม ไอ เฮ็ลพ ยู๊
(สวัสดีค่ะ เอบีซีทราว็ล มีอะไรให้ช่วยเหลือค่ะ)

You: Hello, this is Jenny White from  XYZ Tour.
May I speak to Mr. John Doe, please.
คุณ : เฮ็ลโล ดิส อิส เจ็นนิ ไวท ฟรอม เอ็กซ วาย เซ็ด ทัว
เม ไอ สปีค ทู มิ๊สเตอะ จอน โด พลีส
(สวัสดีค่ะ นี่คือเจนนี่ไวท์จากเอ็กซ์วายแซดทัวร์)
(ฉันขอคุยสายกับคุณจอห์นโดหน่อยค่ะ)

Operator: I’m sorry. He’s out.
Would you like to leave a message?
โอเปอเรเตอร์ : ไอม ซ๊อริ ฮีส เอ๊า
วุด ยู ไลค ทุ ลิฝ อะ เม็สสิจ
(ฉันขอโทษด้วยค่ะ เขาออกไปข้างนอก)
(คุณต้องการจะฝากข้อความไหมคะ)

You: Yes, please tell him to call me back later.
คุณ : เย็ส พลีส เท็ล ฮิม ทู คอล มี แบ็ค เล๊เทอะ
(ค่ะ ช่วยบอกให้เขาโทรหาฉันด้วยนะค่ะ)

Operator: Does he have your number?
โอเปอเรเตอร์ : ดัส ฮี แฮฝ ยัว นัมเบ๊อะ
(เขามีเบอร์โทรของคุณไหมคะ)

You: Yes, he does.
คุณ : เย็ส ฮี ดัส
(ครับ เขามี)

Operator: Okay, I’ll tell him to call back you as soon as possible.
Thanks for calling.
โอเปอเรเตอร์ : โอเค ไอล เท็ล ฮิม ทู คอล ยู แบ็ค แอ็ส ซูน แอ็ส พ๊อซเซอะเบิล
แธ็งส์ ฟอ ค็อลลิง
(ตกลงค่ะ ฉันจะบอกเขาให้โทรหาคุณโดยเร็วที่สุด)
(ขอบคุณค่ะที่โทรมา)

You: Thank you.
คุณ : แธ็งคิว
(ขอบคุณค่ะ)

สนทนาทางโทรศัพท์

ประโยคสำหรับการรับสาย

การรับสายโทรศัพท์ โดยมากจะเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ หรือ โอเปอเรเตอร์ของหน่วยงาน ซึ่งประโยคที่ใช้ในการรับสายโทรศัพท์มีง่ายๆ ดังนี้

การการทักทาย

การทักทายโดยใช้ภาษาสุภาพทั่วไปคือ Hello.

หรือจะใช้ภาษาทางการหน่อยก็จะใช้คำทักทายตามช่วงเวลาของวันคือ

  • Good morning.
    สวัสดีตอนเช้า
  • Good afternoon.
    สวัสดีตอนบ่าย
  • Good evening.
    สวัสดีตอนเย็น

การบอกชื่อบริษัท หรือแผนก

ถ้าเป็นบริษัทไม่ใหญ่โตมาก หรือเป็นสำนักงานเล็กๆ ก็จะบอกชื่อบริษัทไปเลย แต่ถ้าเป็นบริษัทขนาดใหญ่ มีหลายแผนก อาจจะบอกชื่อแผนกไปเลยก็ได้ เช่น

  • Hello, ABC Company.
    สวัสดีค่ะ บริษัทเอบีซี
  • Good morning, the marketing department.
    สวัสดียามเช้า ฝ่ายการตลาด
  • Hello, the customer service.
    สวัสดีค่ะ ฝ่ายบริการลูกค้า

การบอกชื่อผู้รับสาย

การบอกชื่อผู้รับสาย เพื่อให้ผู้โทรมาได้ทราบข้อมูลผู้ที่สามารถประสานงานได้ ในภายหลัง หรือจะไม่บอกก็ไม่เป็นไร

  • Hello, ABC Company, Somyin speaking.
    สวัสดีค่ะ บริษัทเอบีซี ดิฉันสมหญิงรับสาย
  • Good morning, the marketing department, Somchai speaking.
    สวัสดียามเช้า ฝ่ายการตลาด กระผมสมชายรับสาย

การถามความต้องการ

ประโยคสุดท้ายในการรับสายคือ ถามความต้องการของผู้ที่โทรมานั้นเอง ภาษาสุภาพจะใช้สำนวน “มีอะไรให้ช่วยเหลือคะ” ความหมายคือ “โทรมาทำไมคะ” นั่นแหละ

  • Hello, ABC Company, Somyin speaking. May I help you?
    สวัสดีค่ะ บริษัทเอบีซี ดิฉันสมหญิงรับสาย มีอะไรให้ช่วยเหลือคะ

สำนวนที่ใช้ถามความต้องการ หรือเสนอความช่วยเหลือให้ใช้สำนวนต่อไปนี้้ ซี่งมีความหมายเดียวกัน

  • May I help you?
  • Can I help you?
  • How may I help you?
  • How can I help you?

ประโยคสำหรับการบอกความต้องการ

ประโยคในการบอกความต้องการ จะเป็นฝ่ายคนที่โทรไปนะครับ ว่าจุดประสงค์ของการโทรไปเพื่ออะไร เช่น เพื่อพูดกับผู้จัดการ เพื่อยืนยัน เพื่อแจ้ง เพื่อร้องเรียน เป็นต้น

การแนะนำตัว

ถ้าเป็นการติดต่อประสานงานระหว่างบริษัท ประการแรกเลยให้แนะนำตัวเองก่อนว่าเป็นใคร มาจากไหน เพื่อให้ผู้รับสายได้ทราบข้อมูลเบื้องต้น แต่ถ้าคุณเป็นลูกค้าโทรไปหาบริษัท คงไม่จำเป็นต้องแนะนำตัวนะครับ

  • Hello, this is Jenny White from ABC Company.
    สวัสดี นี่คือเจนนี่ไวท์ จากบริษัทเอบีซี
  • Hello, it’s Jenny White from ABC Company.
    สวัสดี นี่คือเจนนี่ไวท์ จากบริษัทเอบีซี
  • Hello, I’m Jenny White from ABC Company.
    สวัสดี ฉันคือเจนนี่ไวท์ จากบริษัทเอบีซี

การบอกความต้องการ

ต่อมาคือการแจ้งให้ผู้รับสายทราบว่าที่เราโทรไปนั้น เรามีจุดประสงค์ใด

  • I’d like to speak to Mr. John Doe.
    ผมต้องการพูดกับคุณจอห์นโด
  • May I speak to Mr. John Doe?
    ผมขอพูดกับคุณจอห์นโดหน่อย
  • I’m calling to confirm the meeting next week.
    ผมโทรมาเพื่อยืนยันการประชุมสัปดาห์หน้า
  • I’m calling to inform the payment.
    ผมโทรมาเพื่อแจ้งการทำธุรกรรมการเงิน
  • I’m calling to cancel the reservation.
    ผมโทรมาเพื่อยกเลิกการจอง
  • I’m calling to claim the product.
    ผมโทรมาเพื่อเคลมสินค้า
  • I’d like to know more about your new phone.
    ผมต้องการทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับโทรศัพท์รุ่นใหม่ของคุณ
  • I want to buy a ticket.
    ผมต้องการซื้อตั๋ว
  • I want to buy an iPhone XS.
    ผมต้องการซื้อโอโฟน XS
  • etc…

การถามชื่อผู้โทรมา

การติดต่อกันระหว่างบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้บริหาร ผู้ที่มีตารางการทำงานชัดเจน การโทรไปคุยเล่นๆ ถ้าไม่ใช่เพื่อนกันคงทำไม่ได้ ดังนั้นโอเปอเรตอร์ต้องถามไถ่ก่อนว่าคนที่โทรมาเป็นใคร ต้องการอะไร สำนวนในการถามชื่อมีดังนี้

  • Who shall I say is calling? 
    ใครโทรมาคะ
  • Who’s calling, please?
    ใครโทรมาคะ
  • Who’s speaking?
    ใครกำลังพูดสายอยู่
  • Could I ask who’s calling, please?
    ขอถามหน่อยนะคะ ว่าใครโทรมา
  • May I have your name, please?
    ขอทราบชื่อด้วยค่ะ

การบอกให้สะกดชื่อ

การบอกให้สะกดชื่อในกรณีที่เขาบอกชื่อเราแล้ว แต่เราไม่แน่ใจว่าจะเขียนถูกไหม ก็สามารถให้เขาสะกดชื่อได้ครับ โดยใช้สำนวน

How do you spell….?

  • Operator: I’m sorry. He’s out. Would you like to leave a message?
    ขอโทษคะ เขาออกไปข้างนอก คุณต้องการฝากข้อความไหมคะ
  • You: Okay, please tell him that Ana Thomson Call?
    ค่ะ ช่วยบอกเขาด้วยว่าอันนา ทอมสันโทรมา
  • Operator: How do you spell Ana?  
    คุณสะกดคำว่าอันนาอย่างไร
  • You: It’s A-N-A.
    มันคือ A-N-A

ประโยคบอกให้รอสาย และการโอนสาย

หลังจากที่ทราบความต้องการของผู้โทรแล้ว ถ้าต้องการให้เขารอสาย เพื่อตามคนที่เขาต้องการคุยด้วย เพื่อหาข้อมูลตอบกลับไป หรือถือสายรอเพื่อโอนสาย สามารถใช้สำนวนเหล่านี้ได้เลย

  • Hold the line, please. I’ll check if he is available now.
    ถือสายรอสักครู่ ฉันจะเช็คดูว่าเขาว่างจะคุยหรือยัง
  • One moment please. I’ll put you through.
    ขอเวลาสักครู่ ฉันจะโอนสายให้
  • Please hold.  I’ll put you through to Mr. White. 
    กรุณาถือสายรอสักครู่ ฉันจะโอนสายคุณไปยังคุณไวท์

ประโยคบอกปฏิเสธ

การบอกปฏิเสธ หมายถึง ไม่สามารถปฏิตามที่ผู้โทรต้องการได้ เช่น ต้องการคุยกับผู้จัดการ แต่ผู้จัดการไม่อยู่ ไม่ว่าง เป็นต้น ถ้าคนนั้นไม่ว่าง หรือไม่อยู่ เราสามารถใช้สำนวนเหล่านี้ได้

  • I’m sorry, she’s not here today.
    ขอโทษครับ หล่อนไม่มาทำงานวันนี้
  • I’m sorry, he’s out.
    ขอโทษครับ เขาออกไปข้างนอก
  • I’m sorry, he’s in the meeting room.
    ขอโทษครับ เขากำลังประชุมอยู่
  • I’m sorry, he’s not available at the moment.
    ขอโทษครับ เขาไม่ว่างตอนนี้
  • I’m sorry, she’s busy.
    ขอโทษครับหล่อนไม่ว่าง
  • I’m sorry, you got the wrong number.
    ขอโทษครับ คุณโทรผิดแล้ว
  • I’m sorry, there’s nobody here by that name.
    ขอโทษครับ ไม่มีคนชื่อนั้นในนี้เลย

การรับฝากข้อความ

อันนี้ต่อเนื่องมาจากไม่สามารถพูดคุยกับคนที่คุณต้องการได้ ทำอย่างไรจะสามารถติดต่อกันได้ ก็โดยการฝากข้อความ  การฝากข้อความสั้นๆ ก็อาจจะจดโน๊ตไว้ หรือฝากด้วยวาจาก็ได้ เช่น ฝากบอกว่าบริษัท ABC ยอมรับข้อเสนอ หรือ ยืนยันการนัดหมาย เป็นต้น  แต่ถ้าเป็นการพูดคุยเพิ่มเติม ก็คงต้องฝากบอกให้โทรกลับอย่างเดียว

โอเปอเรเตอร์

  • Can I take a message?
    ขอรับฝากข้อความไว้นะคะ
  • Would you like to leave a message?
    คุณต้องการฝากข้อความไหมคะ

ผู้ติดต่อ

  • Can I leave a message?
    ขอฝากข้อความไว้หน่อยนะครับ
  • Could you give him a message?
    ช่วยฝากข้อความไปให้เขา/เธอด้วยนะครับ
  • Could you tell Mr. White that ABC Company accepted the offer?
    ช่วยบอกคุณไวท์ด้วยนะครับว่าบริษัทเอบีซียอมรับข้อเสนอ
  • Could you tell him that the flight will be delayed over 2 hours?
    คุณช่วยบอกเขาหน่อยว่าเที่ยวบินจะดีเลย์เกิน 2 ชั่วโมง
  • Could you tell her that Jo called?
    ช่วยบอกเธอหน่อยว่าโจโทรมา
  • Could you tell him to call me back?
    ช่วยบอกเขาให้โทรกลับหาผมหน่อย

การกล่าวลา

การกล่าวลาจากการพูดคุย ถ้าเป็นภาษาเราก็คือ สวัสดี ในภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า Goodbye หรือ ง่ายๆกันเองคือ Bye แต่มีสำนวนอื่นๆ ที่ควรนำไปใช้ ดังนี้

  • Thanks for calling.
    ขอบคุณที่โทรมา
  • Thanks for calling. Bye for now.
    ขอบคุณที่โทรมา สวัสดีค่ะ
  • Thank you for your time.
    ขอบคุณที่สละเวลา

ขอ 5 ดาวให้บทเรียนด้วยครับผม…

คลิกดาวดวงที่ขวามือสุดเลยครับครับ…

Average rating 4.6 / 5. Vote count: 108

ยังไม่มีใครให้ดาว คุณคือคนแรก….


จัดกระเป๋าไปอเมริกา ของจำเป็นที่ควรเอาไป? ผ่านตม.ง่ายมากๆ l Lotto green card the series Ep7


อีพีจัดกระเป๋ามาแล้ววววว ใครรออยู่ มารวมกันตรงนี้ค้าบ
พร้อมแชร์ประสบการณ์การเข้าตม. ที่ สนามบิน JFK ที่นิวยอร์กด้วย
คลิปนี้เสียงข้างนอกค่อนข้างดัง ขอโทษด้วยนะค้าบบบ
ฝากกด Like | Share | Subscribe
เป็นกำลังใจให้เมย์กับตั้มด้วยนะคะ ขอบคุณค่า

ติดตามเมย์กับตั้มได้ที่
FB : Tom \u0026 Me’ry
https://www.facebook.com/Tomandmery.k…
IG : k.mmays
https://www.instagram.com/
IG : tatum_hihi
https://www.instagram.com/tatum_hihi/
สนใจสนับสนุนช่อง/sponsor
ส่งเมล์มาที่: [email protected]
ทีมอเมริกา lottogreencard ย้ายประเทศ

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

จัดกระเป๋าไปอเมริกา ของจำเป็นที่ควรเอาไป? ผ่านตม.ง่ายมากๆ  l Lotto green card the series Ep7

How to succeed in your JOB INTERVIEW: Behavioral Questions


Think about your last job interview. What did you do to prepare for it, and how did it go? Job interviews are difficult whether you are an English learner or a native speaker. If you want to get the job, you need to prepare for the job interview. In many Englishspeaking countries, interviews often include behavioral questions. In this lesson, I will teach you about behavioral interview questions and how to answer them. This video also has a listening practice portion to train you to recognize these questions, as well as tips on how to prepare for them. Try our quiz at the end to practice what you have learned, nail that interview, and get that job! Then work like a dog for the rest of your life 🙂
Take the quiz: https://www.engvid.com/jobinterviewbehavioralquestions/
TRANSCRIPT
Hello. My name is Emma, and in today’s video I am going to teach you how to do really well on your interview. So, if you’re looking for a job and you have an interview coming up, I’m going to talk to you about a type of question you might hear during your interview. I’m going to tell you how to recognize this type of question, and how to answer this type of question, along with many tips that can help you. Okay? So if you’re about to do an interview, don’t stress out we can do it.
All right, so let’s look at the types of questions we’re going to talk about today. Today we’re talking about behavioural interview questions. Okay? So let’s look at some examples to understand what I mean by \”behavioural interview questions\”. Okay, so we have this question: \”Tell me about a time when you worked effectively under pressure.\” So take a moment to think about that question. \”Give an example of how you worked on a team.\”, \”Describe a time when you had to deal with a very upset customer.\”, \”Have you ever made a mistake? How did you handle it?\” Okay, so when we’re talking about behavioural questions, it’s important to think about: What is being asked of you? Okay? So, the main thing with these types of questions is this word here: \”Give an example\”. Behavioural questions… behavioural interview questions require that you give an example of how you have dealt with or handled a situation.
So, my next question to you is: Do you think we’re talking about an example of the past, something that’s happened; the present; or the future, something that could happen? So look at these questions. Are we talking about a past example, a present example, or a future example? If you said: \”Past example\”, you are correct. When we talk about behavioural interview questions, what the interviewer is asking is they want you to give a past example. Okay? Something you have done in the past. How can you recognize these types of questions? Because there are many different interview types of questions, these are just one type, so how do you know if it’s behavioural interview question? That’s a very good question. One way to know is by looking for key words. Okay? So, a lot of the times behavioural questions start off with some sort of hint or clue. \”Tell me about a time\” is an example. Okay? \”Tell me about a time when you worked effectively under pressure.\”, \”Tell me about a time when you disagreed with your boss.\”, \”Tell me about a time when you had problems with your coworkers.\” Okay? So lot of the times you will hear: \”Tell me about\” or \”Tell me about a time\”, and that’s a signal: Okay, this is probably a behavioural interview question. You might have this as a starter to the question, they might ask you: \”Give me an example of how you worked on a team.\” or \”Give me an example of a time when you showed leadership.\” Okay? So those would both be behavioural questions. Again: \”Describe a time\”. A lot of the times you’ll hear the word: \”a time\” or \”an example\”. So this is another common phrase you will hear with behavioural interview questions. You might also have a question like this: \”Have you ever made a mistake?\”, \”Have you ever had difficulties working with somebody?\”, \”Have you ever had a conflict with a customer?\”, \”How did you handle it? What did you do?\” So these types of questions, they don’t have the same key words as the ones above, but usually they’re written or they’re said with the present perfect tense, and usually you’ll hear a second followup question: \”How did you handle it?\” Okay? So, key word here: \”did\”. If you hear the past tense in the question, then they probably want you to answer the question using a past example. Okay? So, this might be a little bit confusing, you might be a bit worried, you know: \”Oh, these questions seem really hard.\” Well, the very first step is recognizing these questions, so that’s what we’re going to do right now. We are going to practice recognizing behavioural interview questions.
Okay, so now we are going to practice identifying behavioural interview questions. Okay? […]

How to succeed in your JOB INTERVIEW: Behavioral Questions

พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ – ตลอดเวลา (Long Version)【Official Audio】


ตลอดเวลา พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ เวอร์ชั่น 4 นาที โดยเพลง ตลอดเวลา เวอร์ชั่นนี้ มีเนื้อเพลงเพิ่มเติมจากเวอร์ชั่นแรกที่ถูกบรรจุในอัลบั้ม เสือตัวที่ 11 เมื่อปี 2533
Remastered by Woody Pornpitaksuk @Westside Mastering
เนื้อเพลง
พักสายตาเถอะนะคนดี
หลับลงตรงนี้ ที่ที่มีแต่เราสองคน
ผ่านเรื่องราวผ่านงานผ่านคน สับสนหลายความ
บางเวลาต้องการสักคน ไว้คอยปลอบใจ เข้าใจ พูดคุย
ความรักเอย งดงามอย่างนี้
จนชั่วชีวี โหยหาความรักไม่เคยพอ
จะอยู่ที่ใด หนใดก็ดี
ขอให้มีเธอ สุขอย่างนี้ไม่มีใดเทียม
พักกาย พักใจ หลับตาฝันดี
รักเอย รับที เข้าใจถึงกัน
ความรักเอย งดงามอย่างนี้
จนชั่วชีวี โหยหาความรักไม่เคยพอ
อยากให้เธอเคียงข้างอย่างนี้
บอกรักอีกที อยู่ใกล้กันตลอดเวลา
พักกาย พักใจ หลับตาฝันดี
รักเอย รับที เข้าใจถึงกัน
พักกาย พักใจ หลับตาฝันดี
รักเอย รับที เข้าใจถึงกัน
【 ช่องทางติดตามข่าวสาร ปู พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ 】
Facebook ► http://www.facebook.com/pupongsitofficial
Instagram ► http://instagram.com/pupongsitofficial
LINE ► @PuPongsitOfficial หรือ http://line.me/ti/p/%40pupongsitofficial
TikTok ► https://vt.tiktok.com/ZSJBeAeu5/

พงษ์สิทธิ์ คำภีร์ - ตลอดเวลา (Long Version)【Official Audio】

20 วลีใช้บ่อยในที่ทำงาน | ภาษาอังกฤษในที่ทำงาน | Active Ed.


ภาษาอังกฤษพื้นฐาน ฝึกพูดอังกฤษ
คุณสามารถติดตามเฟสบุคเพจ Active Education Thailand ของเราได้ที่
https://www.facebook.com/ActiveEducationThailand108204940738906
หากคุณต้องการเข้ากลุ่มที่มีการจัดการบทเรียนให้ฟรีสามาถเข้ากลุ่มเฟสบุค Inspiring English
https://www.facebook.com/groups/147036296575853/learning_content/
วันนี้เราจึงมาสอนประโยคที่คุณใช้พูดในที่ทำงาน ขอให้คุณพูดซ้ำๆย้ำๆทุกวัน สร้างความเชื่อมโยงระหว่างภาษาและการกระทำ
Active Education ช่วยให้คุณได้เรียนรู้ เรียนไวและนำไปใช้ได้จริง
ให้คุณลองฝึกพูดตาม ฝึกออกเสียงกันดูนะคะ เป็นประโยคพูดภาษาอังกฤษที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในที่ทำงาน มีคำอ่านภาษาอังกฤษ
จุดเเริ่มต้นของการฝึกพูดภาษาอังกฤษ เริ่มต้นด้วยการฝึกพูดจากประโยคง่ายๆ ที่เป็นพื้นฐานๆที่ได้ใช้จริงในชีวิตประจำวัน ฝึกการพูดออกเสียงเป็นประโยคและเข้าใจความหมายไปด้วยจะช่วยให้เราสามารถนำประโยคเหล่านั้นไปใช้งานในสถานการณ์จริงและรู้จักปรับเปลี่ยนให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆได้ จนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในหลากหลายบริบท

1) To whom it may concern
2) Please find attached
3) FYI (For your information)
4) ASAP (as soon as possible)
5) to collaborate
6) to start it from scratch
7) 9 to 5, nine to five
8) to set a deadline
9) to meet the deadline
10) to give the green light
11) to be ahead of schedule
12) to be behind schedule
13) to catch up
14) to stay on budget
15) to go over budget
16) to sign off on
17) to be ahead of the curve
18) a ballpark figure
19) to kick off
20) to look at the big picture

20 วลีใช้บ่อยในที่ทำงาน | ภาษาอังกฤษในที่ทำงาน | Active Ed.

ฝึกแนะนำตนเองเป็นภาษาอังกฤษแบบเป็นทางการ สำหรับสัมภาษณ์งาน Job Interview


สวัสดีค่ะ วันนี้เจน่าห์ทำคลิปการแนะนำตนเองเป็นภาษาอังกฤษอย่างเป็นทางการหรือ แบบ formal way สำหรับสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษมาตามคำขอนะคะ ถ้าชอบก็กด Like ชอบมากๆก็ช่วย share, subscribe และกด bell และอยากเรียนภาษาตากาล็อกเพิ่มฝาก comment ไว้ให้ด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ Cheers!
——————————————————————————————————————
สำหรับการ Subscribe
เพื่อนๆจะต้อง sign up หรือสมัครอีเมล์ของ Gmail ก่อนค่ะ แล้วเข้าไปที่หน้าหลักของ YouTube พิมพ์ “Learn English with TextAndTalk” ที่ช่องค้นหา และเมื่อเข้า page ของเจน่าห์แล้ว ตรงข้างบนทางขวามือจะเห็นปุ่ม Subscribe หรือเมนูภาษาไทยเรียกว่า ‘สมัครสมาชิก’ FREE! ไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
ทำไมต้อง Subscribe ก็เพื่อความสะดวกของเพื่อนๆค่ะ เพราะเมื่อสมัครแล้ว ทุกๆครั้งที่เจน่าห์ up clip ใหม่ๆ Clip ของเจน่าห์จะขึ้นที่ page ของเพื่อนๆค่ะ จะได้ไม่ต้องมา Search หากันทุกครั้ง และจะได้ไม่ลืมกันนะอิอิ ^^
——————————————————————————————————————
ตามหาเจน่าห์ที่อื่นๆได้ที่ Follow me:
Instagram: exchangeswithjeynah
Facebook: https://www.facebook.com/Exchangeswit…

สนใจเรียน at my school: TextAndTalk Academy
Facebook: English Training Thailand (รับเป็นวิทยากรและจัดเทรนนิ่งให้หน่วยงานและองค์กร) https://www.facebook.com/EnglishTrain…
Website: www.textandtalk.com

Clips แนะนำตนเองแบบไม่เป็นทางการ: https://www.youtube.com/watch?v=wGqYtur_YY

ฝึกแนะนำตนเองเป็นภาษาอังกฤษแบบเป็นทางการ สำหรับสัมภาษณ์งาน Job Interview

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ ตารางการทํางาน ภาษาอังกฤษ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *