Skip to content
Home » [NEW] ทำไมต้องเติม s ที่กริยา – Kru Whan | คํา นาม เติม s – NATAVIGUIDES

[NEW] ทำไมต้องเติม s ที่กริยา – Kru Whan | คํา นาม เติม s – NATAVIGUIDES

คํา นาม เติม s: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

ปัญหานี้เป็นเรื่องที่ก่อกวนใจคนไทยหลายๆคนเลยนะจ๊ะ นั่นก็คือปัญหาเรื่องการเติม s ที่กริยา (หรือแม้กระทั่งคำนาม)  ก่อนอื่นเลย เรามาทำความเข้าใจเบื้องต้นกันก่อน

1. ภาษาไทยและภาษาอังกฤษมันไม่เหมือนกัน เป็นภาษาที่มาจากคนละตระกูลกันเลย ดังนั้นหากจะเรียนภาษาอังกฤษแบบฝรั่ง เราก็ควรจะคิดให้เหมือนฝรั่งนะคะ 

2. นักเรียนต้องมีความรู้พื้นฐานก่อนว่า นามนับไม่ได้ และนามนับไม่ได้คืออะไร?

       
  นามนับได้ (countable noun) – คือคำนามที่นับได้ 55555 ก็คือเราสามารถนับได้จริงๆ นับเป็นชิ้นๆ อันๆ มองเห็นได้ชัดเจน เช่น student นี่ก็เป็นนามนับได้ เพราะเราเห็นเป็นคนหนึ่งคนเลย pencil ก็นับได้เพราะเราเห็นเป็นแท่งๆ

       
  นามนับไม่ได้ (uncountable noun) – คำนามที่เราไม่รู้จะนับยังไงเพราะเรามองไม่เห็นความชัดเจนจากมันเช่น milk – เพราะมันเป็นของเหลว เรานับไม่ได้แน่นอน เราจะนับได้ก็ต่อเมื่อมันอยู่ในกล่องบรรจุภัณฑ์เช่น A bottle of milk – นม 1 ขวด นอกจากนั้นนามนับได้จะมีพวกนามธรรมที่เรามองไม่เห็นเช่น honesty (ความซื่อสัตย์) ที่เราไม่รู้ว่ามันหน้าตาเป็นยังไง 

3. หากนักเรียนเข้าใจเรื่องคำนามนับได้-ไม่ได้แล้ว ทีนี้เราก็จะมาแต่งประโยคกัน 

ในภาษาไทยนั้น ไม่ว่าประธานจะเป็นอะไร เราก็ใช้กริยาเหมือนกันหมดเช่น 

       
               ฉันกิน

       
               เขากิน

       
               หล่อนกิน

เราใช้คำว่า “กิน” หมดเลยในภาษาไทย 5555    แต่!!!!   มันไม่ใช่แบบนี้กับภาษาอังกฤษ

ถ้าเหตุการณ์ที่เราจะพูด มันเกิดขึ้นในปัจจุบัน หรืออะไรก็ได้ที่มันเป็นความจริง เป็นนิสัย กิจวัตรต่างๆ เราจะใช้ tense ที่เรียกว่า “Present Simple Tense” ก็คือ ใส่ประธาน + กริยาช่อง 1 ไปเลย

ความงงใจของคนไทยคือ แล้วทำไมบางทีกริยาต้องเติม s ด้วยหละ!!!

คือกฏมันมีแบบนี้ค่ะนักเรียน ไม่ต้องเครียดไป 

ถ้าประธานมี 1 คน(เรียกว่า ประธานเอกพจน์)นะคะนักเรียน (1 คน/สิ่งเท่านั้นนะคะ)  เราจะต้องเอากริยามาเติม s/ es เช่น

       
                 Jane loves to eat
Thai food. – เจนชอบกินอาหารไทย     ไม่ใช่

           
             Jane love to eat Thai
food.  ตรงนี้ผิด เพราะ love ไม่เติม s 

หรือถ้าเป็น verb to be เราก็จะใช้ is/was นะคะ 

หรือถ้าเป็น verb to have เราจะใช้ has นะคะ 

       
                John is happy because
he works out every day. 

       
                Jimmy has a lot of
money so he goes shopping every week. 

       
                The baby is crying
now. 

       
                My cat has been sick
for four days. 

หลักการเติม s/es ก็คือ

1. เติม s หลังคำกริยาได้ทั่วๆไปเลย

       
                 eat   
        eats

       
                 walk   
     walks

       
                 stay   
       stays

2. ถ้าคำกริยาลงท้ายด้วย s,
sh, ch, x,  z และ o เราต้องเติม es หลังกริยานั้นๆ 

 
                miss   
    misses

 
                wish   
    wishes

 
                watch   
  watches

 
                fix     
     fixes

 
                buzz   
    buzzes

 
                go     
     goes

ประเด็นคือ ให้เราฝึกฟอร์มประโยคบ่อยๆ เพราะเวลาใช้จริงๆ จะได้ไม่ลืม!

 
               Tom goes to school every
day.

 
                Jack cooks d inner for
his wife twice a week.

 
                She has to work every
Sunday.

กฎข้อ 2 ค่ะ

ถ้าประธานมีมากกว่า 1 คน(นามพหูพจน์) รวมถึง you ด้วยนะจ๊ะเราไม่ต้องเติม s ที่กริยานะคะ ปล่อยมันไปเลยค่ะ  เช่น

 
               Jack and Tom want to eat
out tonight. 

 
               แจ็คและทอมอยากออกไปทานข้าวข้างนอกคืนนี้

 
               We have to study hard.

 
               พวกเราต้องเรียนให้หนักๆ

ถ้าเป็น verb to be เราก็จะใช้ are/were นะคะ 

ถ้าเป็น verb to have เราจะใช้ have นะคะ 

คำที่ไม่เข้าพวกหน่อยก็คือ “I” นี่แหละค่ะ 

       
               “I” (ฉัน) ดูเหมือนว่าจะมีคนเดียว เอ๊ะเติม s ที่กริยาป่าวนะ? 

       
               “I” ให้ใช้กริยาที่ไม่เติม s นะคะ เช่น

       
                I drive my car to work
every day.

       
                I have a lot of
friends.

       
      แต่!!  กับ verb to be ให้ใช้ I am นะคะ ไม่ใช่ I is 

       
               กับ verb to be นอดีต ให้ใช้ I was นะคะ 

ตัวอย่างประโยค

       
               My students are learning
Spanish right now.

       
               นักเรียนของฉันกำลังเรียนภาษาสเปนอยู่

       
               I want to go to England.

       
               ฉันอยากไปอังกฤษ

       
              We know where to find you!

       
              พวกเรารู้นะว่าจะไปหาเธอได้ที่ไหนอะ

แรกๆในการฝึกอาจจะไม่ชินและอาจจะลืมเติม s ได้ แต่ต้องฝึกต่อไปเรื่อยๆนะคะ ทำไปเรื่อยๆ ให้มันเป็นนิสัย สุดท้ายมันจะได้เองค่า <3 เป็นกำลังใจให้จ้า 

[NEW] ทำไมต้องเติม s ที่กริยา – Kru Whan | คํา นาม เติม s – NATAVIGUIDES

ปัญหานี้เป็นเรื่องที่ก่อกวนใจคนไทยหลายๆคนเลยนะจ๊ะ นั่นก็คือปัญหาเรื่องการเติม s ที่กริยา (หรือแม้กระทั่งคำนาม)  ก่อนอื่นเลย เรามาทำความเข้าใจเบื้องต้นกันก่อน

1. ภาษาไทยและภาษาอังกฤษมันไม่เหมือนกัน เป็นภาษาที่มาจากคนละตระกูลกันเลย ดังนั้นหากจะเรียนภาษาอังกฤษแบบฝรั่ง เราก็ควรจะคิดให้เหมือนฝรั่งนะคะ 

2. นักเรียนต้องมีความรู้พื้นฐานก่อนว่า นามนับไม่ได้ และนามนับไม่ได้คืออะไร?

       
  นามนับได้ (countable noun) – คือคำนามที่นับได้ 55555 ก็คือเราสามารถนับได้จริงๆ นับเป็นชิ้นๆ อันๆ มองเห็นได้ชัดเจน เช่น student นี่ก็เป็นนามนับได้ เพราะเราเห็นเป็นคนหนึ่งคนเลย pencil ก็นับได้เพราะเราเห็นเป็นแท่งๆ

       
  นามนับไม่ได้ (uncountable noun) – คำนามที่เราไม่รู้จะนับยังไงเพราะเรามองไม่เห็นความชัดเจนจากมันเช่น milk – เพราะมันเป็นของเหลว เรานับไม่ได้แน่นอน เราจะนับได้ก็ต่อเมื่อมันอยู่ในกล่องบรรจุภัณฑ์เช่น A bottle of milk – นม 1 ขวด นอกจากนั้นนามนับได้จะมีพวกนามธรรมที่เรามองไม่เห็นเช่น honesty (ความซื่อสัตย์) ที่เราไม่รู้ว่ามันหน้าตาเป็นยังไง 

3. หากนักเรียนเข้าใจเรื่องคำนามนับได้-ไม่ได้แล้ว ทีนี้เราก็จะมาแต่งประโยคกัน 

ในภาษาไทยนั้น ไม่ว่าประธานจะเป็นอะไร เราก็ใช้กริยาเหมือนกันหมดเช่น 

       
               ฉันกิน

       
               เขากิน

       
               หล่อนกิน

เราใช้คำว่า “กิน” หมดเลยในภาษาไทย 5555    แต่!!!!   มันไม่ใช่แบบนี้กับภาษาอังกฤษ

ถ้าเหตุการณ์ที่เราจะพูด มันเกิดขึ้นในปัจจุบัน หรืออะไรก็ได้ที่มันเป็นความจริง เป็นนิสัย กิจวัตรต่างๆ เราจะใช้ tense ที่เรียกว่า “Present Simple Tense” ก็คือ ใส่ประธาน + กริยาช่อง 1 ไปเลย

ความงงใจของคนไทยคือ แล้วทำไมบางทีกริยาต้องเติม s ด้วยหละ!!!

คือกฏมันมีแบบนี้ค่ะนักเรียน ไม่ต้องเครียดไป 

ถ้าประธานมี 1 คน(เรียกว่า ประธานเอกพจน์)นะคะนักเรียน (1 คน/สิ่งเท่านั้นนะคะ)  เราจะต้องเอากริยามาเติม s/ es เช่น

       
                 Jane loves to eat
Thai food. – เจนชอบกินอาหารไทย     ไม่ใช่

           
             Jane love to eat Thai
food.  ตรงนี้ผิด เพราะ love ไม่เติม s 

หรือถ้าเป็น verb to be เราก็จะใช้ is/was นะคะ 

หรือถ้าเป็น verb to have เราจะใช้ has นะคะ 

       
                John is happy because
he works out every day. 

       
                Jimmy has a lot of
money so he goes shopping every week. 

       
                The baby is crying
now. 

       
                My cat has been sick
for four days. 

หลักการเติม s/es ก็คือ

1. เติม s หลังคำกริยาได้ทั่วๆไปเลย

       
                 eat   
        eats

       
                 walk   
     walks

       
                 stay   
       stays

2. ถ้าคำกริยาลงท้ายด้วย s,
sh, ch, x,  z และ o เราต้องเติม es หลังกริยานั้นๆ 

 
                miss   
    misses

 
                wish   
    wishes

 
                watch   
  watches

 
                fix     
     fixes

 
                buzz   
    buzzes

 
                go     
     goes

ประเด็นคือ ให้เราฝึกฟอร์มประโยคบ่อยๆ เพราะเวลาใช้จริงๆ จะได้ไม่ลืม!

 
               Tom goes to school every
day.

 
                Jack cooks d inner for
his wife twice a week.

 
                She has to work every
Sunday.

กฎข้อ 2 ค่ะ

ถ้าประธานมีมากกว่า 1 คน(นามพหูพจน์) รวมถึง you ด้วยนะจ๊ะเราไม่ต้องเติม s ที่กริยานะคะ ปล่อยมันไปเลยค่ะ  เช่น

 
               Jack and Tom want to eat
out tonight. 

 
               แจ็คและทอมอยากออกไปทานข้าวข้างนอกคืนนี้

 
               We have to study hard.

 
               พวกเราต้องเรียนให้หนักๆ

ถ้าเป็น verb to be เราก็จะใช้ are/were นะคะ 

ถ้าเป็น verb to have เราจะใช้ have นะคะ 

คำที่ไม่เข้าพวกหน่อยก็คือ “I” นี่แหละค่ะ 

       
               “I” (ฉัน) ดูเหมือนว่าจะมีคนเดียว เอ๊ะเติม s ที่กริยาป่าวนะ? 

       
               “I” ให้ใช้กริยาที่ไม่เติม s นะคะ เช่น

       
                I drive my car to work
every day.

       
                I have a lot of
friends.

       
      แต่!!  กับ verb to be ให้ใช้ I am นะคะ ไม่ใช่ I is 

       
               กับ verb to be นอดีต ให้ใช้ I was นะคะ 

ตัวอย่างประโยค

       
               My students are learning
Spanish right now.

       
               นักเรียนของฉันกำลังเรียนภาษาสเปนอยู่

       
               I want to go to England.

       
               ฉันอยากไปอังกฤษ

       
              We know where to find you!

       
              พวกเรารู้นะว่าจะไปหาเธอได้ที่ไหนอะ

แรกๆในการฝึกอาจจะไม่ชินและอาจจะลืมเติม s ได้ แต่ต้องฝึกต่อไปเรื่อยๆนะคะ ทำไปเรื่อยๆ ให้มันเป็นนิสัย สุดท้ายมันจะได้เองค่า <3 เป็นกำลังใจให้จ้า 


คำนามพหูพจน์ที่ไม่ต้องเติม S หรือ ES l คำนามพหูพจน์เปลี่ยนรูป l คำศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน


ชวนน้องๆ มาเรียนรู้ คำศัพท์ภาษาอังกฤษ เกี่ยวกับ คำนามพหูพจน์เปลี่ยนรูป กันครับ
Man l Men
Woman l Women
Child l Children
Person l People
Foot l Feet
Tooth l Teeth
Goose l Geese
Louse l Lice
Ox l Oxen
Mouse l Mice
เยี่ยมชม Blog ของเรา: https://goo.gl/JthDFX
ติดตามช่องของเราได้ที่: https://goo.gl/Svd65u
============================================
แหล่งข้อมูลความรู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษสำหรับเด็กๆ เพิ่มเติม
============================================
ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ: https://goo.gl/EUg17d
ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน: https://goo.gl/cFosez
เพลงภาษาอังกฤษสำหรับอนุบาล: https://goo.gl/pv6srr
วิธีนับเลขภาษาอังกฤษ: http://bit.ly/2nYNBAx
คำศัพท์ภาษาอังกฤษสำหรับอนุบาล: http://bit.ly/2nYJBA2
เกมส์ผ่อนคลายสมอง: https://goo.gl/TE4kJS
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ สัตว์ต่างๆ: https://goo.gl/o7LmPY
เพลงภาษาอังกฤษสำหรับอนุบาล: https://goo.gl/nxPQEj
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ รูปร่าง รูปทรงเรขาคณิต: https://goo.gl/qpbF3q
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ สี color: https://goo.gl/ZuE2YB
เกมส์ฝึกภาษาอังกฤษ: https://gooXgl/Z7uE8G
แอพเรียนภาษาอังกฤษ: http://bit.ly/2nsZE7Y

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูเพิ่มเติม

คำนามพหูพจน์ที่ไม่ต้องเติม S หรือ ES l คำนามพหูพจน์เปลี่ยนรูป l คำศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

ຮຽນພາສາຫວຽດນາມ ທ່ອງ100ຄຳສັບ


ຮຽນພາສາຫວຽດນາມ SyXayyaseng

ຮຽນພາສາຫວຽດນາມ ທ່ອງ100ຄຳສັບ

วิธีเติม s, es สำหรับคำนามและคำกริยา


Vanilla English EP.233 วิธีเติม s, es สำหรับคำนามและคำกริยา
ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์ และอย่าลืม subscribe กดกระดิ่งเป็นกำลังใจให้กี๋ด้วยนะค้าาาา แล้วเจอกันคลิปต่อๆไป เย้ๆ เจอกันค่าาาาา
LINE: https://lin.ee/A5RQK7z
Apple Podcast: Vanillaenglishchannel
SoundCloud: https://soundcloud.com/vanillaenglish357145867
Facebook: https://www.facebook.com/vanillaenglishchannel
Instagram: https://www.instagram.com/vanillaenglishchannel
Twitter: https://twitter.com/ChannelVanilla
Vanilla English Channel มาพร้อมกับสาระน่ารู้เกี่ยวกับภาษาอังกฤษ เรียนอังกฤษแบบชิลๆหนุกๆ กลมกล่อมหอมหวานเหมือนวานิลลาไปกับกี๋ ผู้ใช้ภาษาอังกฤษ รับความรู้ภาษาอังกฤษ และถ่ายทอดภาษาอังกฤษมานานกว่า 20 ปี
CAMERA: PANASONIC LUMIX GH5
LENS: PANASONIC LUMIX G 1235 f2.8
EDITING PROGRAMME: Davinci Resolve \u0026 Final Cut Pro X

วิธีเติม s, es สำหรับคำนามและคำกริยา

Grammar ไม่น่าเบื่อ EP06 : คำนามเอกพจน์และพหูพจน์


เล่า Grammar แบบเข้าใจง่าย ไม่น่าเบื่อ ได้ฝึกฝนจริงจัง
ติดตามผลงานอื่นๆ ของทีมเราได้ที่
http://www.proudbookshop.com
IG : https://www.instagram.com/proudbook
Facebook : https://www.facebook.com/proudbook
twitter : https://www.twitter.com/proudbook

Grammar ไม่น่าเบื่อ EP06 : คำนามเอกพจน์และพหูพจน์

‘อนุทิน’ บินสวิตฯ ต้องฉีดเข็ม 4 ขอบคุณคำฝ่ายค้านแนะนำ ทำให้ไทยมีวัคซีนครบทุกแซ่


นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า คิดว่าขณะนี้ไทยเป็นประเทศเดียวที่เริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 สำหรับผู้ที่จำเป็น เพราะวันนี้ไทยเปิดประเทศ ก็เพื่อให้กิจกรรมที่เคยเป็นปกติทั่วไป ได้กลับมา ไม่ใช่เพียงรับเข้ามาประเทศ
แต่คนของเราก็ต้องออกไปค้าขาย ทั้งประชุม สัมมนา ท่องเที่ยวต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เร็วที่สุด บางประเทศโดยเฉพาะทางตะวันตก หลายประเทศยังไม่อนุญาตวัคซีนสูตรไขว้ หรือซิโนแวค หรือซิโนฟาร์ม เช่น ที่ตนต้องเดินทางไปร่วมงานประชุมกับองค์การอนามัยโลก ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่ยังไม่อนุญาตซิโนแวค 2 เข็ม แม้ตนได้รับการฉีดแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็มที่ 3 แล้ว แต่ประเทศปลายทางกำหนดให้รับ 2 เข็ม ก็ต้องเติมเป็นเข็มที่ 4
“การที่ไทยฉีดวัคซีนที่เป็นการไขว้ สถานการณ์ตอนนั้น เราไม่มีการเดินทาง เราต้องทำเพื่อสร้างภูมิต้านทานให้มากที่สุด แต่วันนี้ มีการเดินทางมากขึ้น เราต้องมีคู่วัคซีนที่เขารับ เช่น กระตุ้นด้วยแอสตร้าฯ 1 เข็ม เราก็ต้องใส่ไปอีก 1 เข็ม เป็น 4 เข็ม ดังนั้น สธ.ต้องพร้อมที่จะฉีดให้ประชาชนที่จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศที่ยังไม่รับวัคซีนไขว้ เพื่อไม่ให้ปิดโอกาสตัวเอง” นายอนุทินกล่าว
พร้อมระบุว่า ต้องขอบคุณทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล อย่าขี่ม้าตัวเดียว เอาวัคซีนหลายๆ ตระกูลมา สธ.เห็นว่าเป็นคำแนะนำที่ดี มีประโยชน์ เราก็เอามาทุกแซ่ ในเมื่อไวรัสมาหลายสายพันธุ์ เราก็เอาวัคซีนทุกแซ่มารับมือ

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://ch3plus.com/news/program/265457

เรื่องเล่าเช้านี้ (Morning News)
วันที่ 11 พฤศจิกายน 2564
ติดตามความเคลื่อนไหวข่าวสารก่อนใครได้ที่นี่
ch3plus : https://ch3plus.com/news/programs/morning
facebook : https://www.facebook.com/MorningNewsTV3
Twitter : https://twitter.com/MorningNewsTV3
YouTube : https://cutt.ly/MorningnewsTV3

'อนุทิน' บินสวิตฯ ต้องฉีดเข็ม 4 ขอบคุณคำฝ่ายค้านแนะนำ ทำให้ไทยมีวัคซีนครบทุกแซ่

นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE

ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ คํา นาม เติม s

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *