กริยา 3 ช่อง invite: นี่คือโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
Post on 16 / 02 / 20
1.5K viewed
Table of Contents
Pronouns (คำสรรพนาม)
เวลาเราจะเรียกหรือกล่าวถึงคนอื่น เราสามารถเรียกชื่อคนคนนั้นได้โดยตรง แต่หากต้องเรียกซ้ำหรือต้องกล่าวถึงโดยไม่รู้ชื่อหล่ะ จะทำอย่างไร จึงมีสิ่งที่เอาไว้เรียกแทนคน สัตว์ สิ่งของและสถานที่ แล้วเราเรียกสิ่งนี้ว่าคำสรรพนาม (Pronouns) โดย Pronouns ในภาษาอังกฤษสามารถแบ่งออกได้ถึง 7 กลุ่มด้วยกัน
Types (ชนิดของคำสรรพนาม)
Pronoun ( คำสรรพนาม ) คือคำที่ใช้แทนคำนามหรือคำเสมอนาม ( nouns- equivalent ) เพื่อหลีกเลี่ยงการกล่าวถึงซ้ำซาก หรือแทนสิ่งที่รู้กันอยู่แล้วระหว่างผู้พูด ผู้ฟัง หรือแทนสิ่งของที่ยังไม่รู้ หรือไม่แน่ใจว่าเป็นอะไร คำสรรพนาม (pronouns ) แยกออกเป็น 7 ชนิด คือ
- 1. Personal Pronoun ( บุรุษสรรพนาม ) เช่น I, you, we, he , she ,it, they
- 2. Possessive Pronoun ( สรรพนามเจ้าของ ) เช่น mine, yours, his, hers, its,theirs, ours
- 3. Reflexive Pronouns ( สรรพนามตนเอง ) เป็นคำที่มี – self ลงท้าย เช่น myself, yourself,ourselves
- 4. Definite Pronoun ( หรือ Demonstrative Pronouns สรรพนามเจาะจง ) เช่น this, that, these, those, one, such, the same
- 5. Indefinite Pronoun ( สรรพนามไม่เจาะจง ) เช่น all, some, any, somebody, something, someone
- 6. Interrogative Pronoun ( สรรพนามคำถาม ) เช่น Who, Which, What
- 7. Relative pronoun ( สรรพนามเชื่อมความ ) เช่น who, which, that
1. Personal Pronouns (บุรุษสรรพนาม)
คือสรรพนามที่ใช้แทนบุคคลหรือสิ่งของในการพูดสนทนา มี 3 บุรุษคือ
บุรุษที่ 1
ได้แก่ตัวผู้พูด
I, we
บุรุษที่ 2
ได้แก่ผู้ฟัง
you
บุรุษที่ 3
ได้แก่ผู้ ที่พูดถึง สิ่งที่พูดถึง
he, she. it , they
รูปที่สัมพันธ์กันของคำสรรพนาม
รูปประธาน
รูปกรรม
Possessive Form
Reflexive Pronoun
Adjective
Pronoun
I
me
my
mine
myself
we
us
our
ours
ourselves
you
you
your
yours
yourself
he
him
his
his
himself
she
her
her
hers
herself
it
it
its
its
itself
they
them
their
theirs
themselves
เช่น
I saw a boy on the bus. He seemed to recognize me.
ฉันเจอเด็กคนหนึ่งบนรถประจำทาง เขาดูเหมือนจะจำฉันได้ ( He ในประโยคที่สองแทน a boy และ me แทน I ในประโยคที่หนึ่ง )
My friend and her brother like to swim. They swim whenever they can.
เพื่อนฉันและน้องชายของเธอชอบว่ายน้ำ พวกเขาไปว่ายน้ำทุกครั้งที่มีโอกาส ( they ในประโยคที่สอง แทน My friend และ her brother ในประโยคที่ 1 )
การใช้ Personal Pronouns ที่ทำหน้าที่เป็นประธานและเป็นกรรมมีหลักดังนี้
Personal Pronoun ที่ตามหลังคำกริยาหรือตามหลังบุพบท ( preposition ) ต้องใช้ในรูปกรรม เช่น
Please tell him what you want. โปรดบอกเขาถึงสิ่งที่คุณต้องการ ( ตามหลังดำกริยา tell )
Mr. Wilson talked with him about the project.
คุณวิลสัน พูดกับเขาเกี่ยวกับโครงการ ( ตามหลังบุพบท with )
หมายเหตุ ถ้ากริยาเป็น verb to be สรรพนามที่ตามหลังจะใช้เป็นประธานหรือเป็นกรรม ให้พิจารณาดูว่า สรรพนามใน ประโยคนั้นอยู่ในรูปผู้กระทำ หรือ ผู้ถูกกระทำ เช่น
It was she who came here yesterday.
เธอคนนึ้ ที่มาเมื่อวานนี้ ( ใช้ she เพราะเป็นผู้กระทำ )
It was her whom you met at the party last night.
เธอคนนี้ที่คุณพบที่งานเลี้ยงเมื่อคืนนี้ (ใช้ her เพราะเป็นกรรมของ you met )
2. Possessive Pronouns (สรรพนามเจ้าของ)
คือสรรพนามที่ใช้แทนคำนามเมื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ได้แก่คำต่อไปนี้
mine,ours, yours, his, hers,its,theirs
The smallest gift is mine. ของขวัญชิ้นที่เล็กที่สุดเป็นของฉัน
This is yours. อันนี้ของคุณ
His is on the kitchen counter. ของเขาอยู่บนเคาน์เตอร์ในครัว
Theirs will be delivered tomorrow. ของพวกเขาจะเอามาส่งพรุ่งนี้
Ours is the green one on the table . ของพวกเราคืออันสีเขียวที่อยู่บนโต๊ะ
possessive pronouns มึความหมายเหมือน possessive adjectives แต่หลักการใช้ต่างกัน
This is my book.
นี่คือหนังสือของฉัน ( my ในประโยคนี้เป็น possessive adjective ขยาย book )
This book is mine.
หนังสือนี้เป็นของฉัน ( mine ในประโยคนี้เป็น possessive pronoun ทำหน้าที่เป็นส่วนสมบูรณ์ ( complement) ของคำกริยา is )
3. Reflexive Pronouns (สรรพนามตนเอง)
คือสรรพนามที่แสดงตนเอง แสดงการเน้น ย้ำให้เห็นชัดเจน มักเรียกว่า -self form of pronoun ได้แก่
myself. yourself, yourselves, himself, herself, ourselves. themselves, itself มีหลักการใช้ดังนี้
- ใช้เพื่อเน้นประธานให้เห็นว่าเป็นผู้กระทำการนั้นๆ ให้วางไว้หลังประธานนั้น ถ้าต้องการเน้นกรรม (object ) ให้วางหลังกรรม เช่น
She
herself doesn’t think she’ll get the job.
The film
itself wasn’t very good but I like the music.
I spoke toMr.Wilson
himself.
- วางหลังคำกริยา เมื่อกริยาของประโยคเป็นกริยาที่ทำต่อตัวประธานเอง
Theyblamed
themselves for the accident.
พวกเขาตำหนิตนเองในอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ( ตามหลังกริยา blamed )
Youare
not yourself today.
วันนี้คุณไม่เป็นตัวของคุณเอง ( ตามหลังกริยา are )
I don’t want you to pay for me. I’llpay
for myself.
ฉันไม่อยากให้คุณเป็นคนจ่ายเงินให้ ฉันจะจ่ายของฉันเอง
Julia had a great holiday. She enjoyed herself very much.
จูเลียมีวันหยุดที่ดี เธอสนุกมาก
George cut himself while he was shaving this morning.
จอร์จทำมีดบาดตัวเองขณะทีโกนหนวดเมื่อเช้านี้
หมายเหตุ ปกติ จะใช้ wash/shave/dress โดยไม่มี myself
- เมื่อต้องการจะเน้นว่า ประธานเป็นผู้ทำกิจกรรมนั้นเอง
Who repaired your bicycle for you? Nobody, I repaired it myself.ใครซ่อมรถจักรยานให้คุณ. ไม่มีใครทำให้ฉันซ่อมเอง
I’m not going to do it for you. You can do it yourself.
ฉันจะไม่ทำ( อะไรสักอย่างที่รู้กันอยู่ ) ให้นะ คุณต้องทำเองBy myself หมายถึงคนเดียว มีความหมายเหมือน on my own เช่นเดียวกับคำต่อไปนี้
on ( my/your/his/ her/ its/our/their ) own มีความหมายเหมือนกับ
by ( myself/yourself ( singular) /himself/ herself/ itself/ ourselves/ yourselves(plural)/ themselves )
เช่น
I like living on my own/by myself. ฉันชอบใช้ชีวิตอยู่คนเ้ดียว
Did you go on holiday on your own/by yourself? เธอไปเที่ยววันหยุดคนเดียวหรือเปล่า
Learner drivers are not allowed to drive on their own/ by themselves.
ผู้ที่เรียนขับรถไม่ได้รับอนุญาตให้ขับรถด้วยตัวเองคนเดียว
Jack was sitting on his own/by himself in a corner of the cafe.
แจ๊คนั่งอยู่คนเดียวทีีมุมห้องในคาเฟ
4. Definite Pronouns หรือ Demonstrative Pronouns (สรรพนามเจาะจง)
คือสรรพนามที่บ่งชี้ชัดเจนว่าใช้แทนสิ่งใด เช่น
this, that, these, those, one, ones, such, the same, the former, the latter
That is incredible! นั่นเหลือเชื่อจริงๆ (อ้างถึงสิ่งที่เห็น)
I will never forget this. ฉันจะไม่ลืมเรื่องนี้เลย (อ้างถึงประสบการณ์เมื่อเร็วๆนี้)
Such is my belief. นั่นเป็นสิ่งที่ฉันเชื่อ (อ้างถึงสิ่งที่ได้อธิบายไปก่อนหน้านี้ )
Grace and Jane ar good girls. The former is more beautiful than the latter.
เกรซและเจนเป็นเด็กดีทั้งคู่ แต่คนแรก (เกรซ)จะสวยกว่าคนหลัง (เจน)
5.Indefinite Pronouns (สรรพนามไม่เจาะจง)
หมายถึงสรรพนามที่ใช้แทนนามได้ทั่วไป มิได้ชี้เฉพาะเจาะจงว่าแทนคนนั้น คนนี้ เช่น
everyone
everybody
everything
some
each
someone
somebody
all
any
many
anyone
anybody
anything
either
neither
no one
nobody
nothing
none
one
more
most
enough
few
fewer
little
several
more
much
less
Everybody loves somebody. คนทุกคนย่อมมีความรักกับใครสักคน
Is there anyone here by the name of Smith? มีใครที่นีชื่อสมิธบ้าง
One should always look both ways before crossing the street. ใครก็ตามควรจะมองทั้งสองด้านก่อนข้ามถนน
Nobody will believe him. จะไม่มีใครเชื่อเขา
Little is expected. มีการคาดหวังไว้น้อยมาก
We, you, they ซึ่งปกติเป็น personal pronoun จะนำมาใช้เป็น indefinite pronoun เมื่อไม่เจาะจง โดยมากใช้ในคำบรรยาย คำปราศัย เช่น
We should prepare ourselves to deal with any emergency. เรา ( โดยทั่วไป) ควรจะเตรียมพร้อมไว้เสมอสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉิน)
You sometimes don’t know what to say in such a situation. บางครั้งพวกคุณก็ไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรในสถานการณ์เช่นนั้น.
6. Interrogative Pronouns (สรรพนามคำถาม)
เป็นสรรพนามที่แทนนามสำหรับคำถาม ได้แก่ Who, Whom, What, Which และ Whoever, Whomever,Whatever,Whichever เช่น
Who want to see the dentist first? ใครอยากจะเข้าไปหาหมอฟันเป็นคนแรก? ( who ในที่นี้เป็นประธาน )
Whom do you think we should invite? เธอคิดว่าเราควรจะัเชิญใคร? ( whom ในที่นี้เป็นกรรม – object )
To whom do to wish to speak ? เธออยากจะพูดกับใคร? ( whom ในที่นี้เป็นกรรม – object )
What did she say? เธอพูดว่าอะไรนะ? ( what เป็นกรรมของกริยา say )
Which is your cat ? แมวของเธอตัวไหน? ( which เป็นประธาน )
Which of these languages do you speak fluently? ภาษาไหนในบรรดาภาษาเหล่านี้ที่คุณพูดได้คล่อง? ( which เป็นกรรมของ speak )
หมายเหตุ which และ what สามารถใช้เป็น interrogative adjective และ who, whom , which สามารถใช้เป็น relative pronoun ได้
7. Relative Pronouns (สรรพนามเชื่อมความ)
คือ สรรพนามที่ใช้แทนคำนามที่กล่าวมาแล้วในประโยคข้างหน้า และพร้อมกันนั้นก็ทำหน้าที่เชื่อมประโยคทั้งสอง ให้เป็นประโยคเดียวกัน เช่นคำต่อไปนี้ who, whom, which whose ,what, that , และ indefinite relative pronouns เช่น whoever, whomever,whichever, whatever
Children who (that) play with fire are in great danger of harm.
The book that she wrote was the best-seller
He’s the man whose car was stolen last week.
She will tell you what you need to know.
The coach will select whomever he pleases.
Whoever cross this line will win the race.
You may eat whatever you like at this restaurant.
เนื้อหาในบทความคำสรรพนามนี้ยาวอีกแล้ว อต่ก็อยากให้เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ และลองอ่านทบทวนหลายๆ รอบ เพื่อทำความเข้าใจดีๆ
กลับไปหน้า บทเรียนไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ
[NEW] กริยา 3 ช่อง | กริยา 3 ช่อง invite – NATAVIGUIDES
คำกริยาในภาษาอังกฤษ
ตามหลักไวยากรณ์แบ่งออกเป็น
3
ช่อง
เรียกว่า
“
กริยา
3
ช่อง
“
ซึ่งแต่ละ
ช่องก็บอกถึง
เหตุการณ์ในแต่ละช่วงของเวลาได้อีกด้วย
คำที่แสดงถึงอาการต่าง
ๆ
หรือเหตุการณ์ต่าง
ๆ
ที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงของเวลา
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็
คือ
คำพูดที่แสดง
ถึงการกระทำของตัวประธานในประโยค
หรือคำที่ทำหน้าที่ช่วยคำกิริยาด้วยกันนั่นเอง
กิริยาเป็นคำที่มีบทบาทที่สำคัญ
ในแต่ละประโยค
ถ้าในประโยคนั้น
ๆ
ขาดคำกิริยา
ความหมายก็ไม่เกิด
และไม่สามารถทราบถึงเหตุการณ์ต่าง
ๆได้เลย
หรือมีใจความที่ไม่สมบูรณ์
คำกิริยาตามหน้าที่แบ่งออกเป็น
3
ประเภท
คือ
1.
สกรรมกริยา
(
Transitive Verb )
คือ
คำกิริยาที่ต้องมีตัวกรรม
หรือคำอื่นเข้ามารองรับความ
หมายจึง
จะสมบูรณ์
เช่น
The boys kick football in the field.
หมายความว่า
พวกเด็ก
ๆ
เตะ
ฟุตบอลอยู่ที่สนามหญ้า
คำว่า
“kick “
เป็น
คำกิริยา
บอกให้ทราบถึงเหตุการณ์ว่าในขณะนี้หรือปัจจุบัน
นี้เด็ก
ๆ
กำลังเล่นกันอยู่
ส่วนคำว่า
“ football ”
เป็นตัวกรรม
หรือตัวที่ทำหน้าที่รองรับกิริยาให้มีความ
หมายสมบูรณ์ขึ้น
เพราะถ้าใช้คำว่า
“ kick “
คำเดียวความหมายไม่สมบูรณ์
ไม่
รู้ว่าเตะอะไร
นั่นเอง
2.
อกรรมกริยา
(
Intransitive Verb )
คือ
คำกิริยาที่ไม่ต้องมีตัวกรรมหรือคำอื่นมารองรับก็ได้
ความหมายสมบูรณ์
เช่น
The dogs run in the field.
ประโยคนี้ไม่ต้องมีตัวกรรมมารองรับ
ก็ได้ใจ
ความสมบูรณ์ดี
ซึ่งคำว่า
“run “
แปลว่า
“
วิ่ง
“
คงไม่ต้องถามว่าใช้อะไรวิ่ง
3.
กริยาช่วย
(
Helping Verb
หรือ
Auxiliary Verb )
คือ
กิริยาที่มีหน้าที่ช่วยให้กิริยาด้วย
กันมีความหมายดีขึ้น
และ
ยังมีหน้าที่ทำให้ตัวของมันเองมีความหมายที่สมบูรณ์ขึ้นได้ดีอีกด้วย
เช่น
She studies in Lamp – Tech college . Does she study in Lamp – Tech College?
คำ
กิริยาในภาษาอังกฤษตามหลักไวยากรณ์แบ่งออกเป็น
3
ช่อง
เรียกว่า
“
กริยา
3
ช่อง
“
ซึ่งแต่ละ
ช่องก็บอกถึง
เหตุการณ์ในแต่ละช่วงของเวลาได้อีกด้วย
กริยาช่องที่
1
ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
กริยาช่องที่
2
ใช้กล่าวถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต
กริยา
ช่องที่
3
ใช้กล่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปอย่างสมบูรณ์ทั้งในปัจจุบันและอดีต
เรียก
อีกอย่างหนึ่งว่า
“
ส่วนสมบูรณ์ของกิริยา
หรือ
Complement
Base Form(
ช่อง
1)
Simple Past Tense(
ช่อง
2)
Past Participle(
ช่อง
3)
Meaning (
ความหมายเทียบเคียง
)
awake
awoke
awoken
ตื่น
be
was, were
been
เป็น
,
อยู่
,
คือ
bear
bore
born
ทน
beat
beat
beat
ตี
become
became
become
กลายเป็น
begin
began
begun
เริ่ม
bend
bent
bent
หัก
,
งอ
beset
beset
beset
โอบล้อมรอบด้าน
bet
bet
bet
พนัน
bid
bid/bade
bid/bidden
ประมูล
bind
bound
bound
ผูกติดกัน
bite
bit
bitten
กัด
bleed
bled
bled
เลือดออก
blow
blew
blown
เป่า
break
broke
broken
แตก
,
หัก
breed
bred
bred
ผสมพันธ์
bring
brought
brought
นำมา
broadcast
broadcast
broadcast
ออกอากาศ
build
built
built
สร้าง
burn
burned/burnt
burned/burnt
เผา
burst
burst
burst
ระเบิดออก
buy
bought
bought
ซื้อ
cast
cast
cast
หล่อ
catch
caught
caught
จับ
oose
chose
chosen
เลือก
cling
clung
clung
พิง
come
came
come
มา
cost
cost
cost
มีราคา
creep
crept
crept
คืบคลาน
cut
cut
cut
ตัด
deal
dealt
dealt
จัดการ
dig
dug
dug
ขุด
dive
dived/dove
dived
กระโดดน้ำ
do
did
done
ทำ
draw
drew
drawn
วาด
,
ล่อ
,
ชักดาบ
,
ถอนเงิน
dream
dreamed/dreamt
dreamed/dreamt
ฝัน
drive
drove
driven
ขับรถ
drink
drank
drunk
ดื่ม
eat
ate
eaten
กิน
fall
fell
fallen
ล้ม
feed
fed
fed
ให้อาหารสัตว์
feel
felt
felt
รู้สึก
fight
fought
fought
ต่อสู้
find
found
found
พบ
fit
fit
fit
พอเหมาะ
flee
fled
fled
หลบหนี
fling
flung
flung
เขวี้ยง
fly
flew
flown
บิน
,
นั่งเครื่องบิน
forbid
forbade
forbidden
ห้าม
forget
forgot
forgotten
ลืม
forego (forgo)
forewent
foregone
ยอม
,
ไม่เอา
forgive
forgave
forgiven
ให้อภัย
forsake
forsook
forsaken
สละ
,
ละทิ้ง
freeze
froze
frozen
หยุด
,
เป็นน้ำแข็ง
get
got
gotten
ได้
give
gave
given
ให้
go
went
gone
ไป
grind
ground
ground
บด
grow
grew
grown
เจริญงอกงาม
hang
hung
hung
แขวน
hang
hunged
hanged
แขวนคอ
hear
heard
heard
ได้ยิน
hide
hid
hidden
ซ่อน
hit
hit
hit
ตี
hold
held
held
ถือ
hurt
hurt
hurt
ทำร้าย
keep
kept
kept
เก็บรักษา
kneel
knelt
knelt
คุกเข่า
knit
knit
knit
ถัก
know
knew
know
รู้จัก
lay
laid
laid
วางไข่
lead
led
led
นำ
leap
leaped/lept
leaped/lept
กระโดด
learn
learned/learnt
learned/learnt
เรียน
leave
left
left
ออกจาก
lend
lent
lent
ให้ยืม
let
let
let
อนุญาต
lie
lay
lain
นอนลง
light
lighted/lit
lighted
จุดไฟ
lose
lost
lost
ทำหาย
make
made
made
ทำ
mean
meant
meant
หมายถึง
meet
met
met
พบ
misspell
misspelled /misspelt
misspelled/ misspelt
สะกดผิด
mistake
mistook
mistaken
ทำผิด
mow
mowed
mowed/mown
ตัดหญ้า
overcome
overcame
overcome
เอาชนะ
overdo
overdid
overdone
ทำมากเกินไป
overtake
overtook
overtaken
ตามทัน
overthrow
overthrew
overthrown
ปลดจากตำแหน่ง
pay
paid
paid
จ่าย
plead
pled
pled
อ้อนวอน
,
ขอโทษ
prove
proved
proved/proven
พิสูจน์
put
put
put
วาง
quit
quit
quit
เลิก
read
read
read
อ่าน
rid
rid
rid
ขจัด
ride
rode
ridden
ขี่
ring
rang
rung
กรดกริ่ง
rise
rose
risen
ลุกขึ้น
run
ran
run
วิ่ง
saw
sawed
sawed/sawn
เลื่อย
say
said
said
พูด
see
saw
seen
เห็น
seek
sought
sought
ค้นหา
sell
sold
sold
ขาย
send
sent
sent
ส่ง
set
set
set
จัดวาง
sew
sewed
sewed/sewn
เย็บ
shake
shook
shaken
สั่น
shave
shaved
shaved/shaven
โกน
shear
shore
shorn
ตัดขนแกะ
shed
shed
shed
เท
,
กันน้ำ
,
ทิ้ง
shine
shone
shone
เปล่งแสง
shoe
shoed
shoed/shod
ซ่อมรองเท้า
shoot
shot
shot
ยิง
show
showed
showed/shown
แสดง
shrink
shrank
shrunk
หด
shut
shut
shut
ปิด
sing
sang
sung
ร้องเพลง
sink
sank
sunk
จม
sit
sat
sat
นั่ง
sleep
slept
slept
นอน
slay
slew
slain
ฆ่า
slide
slid
slid
เลื่อน
sling
slung
slung
slit
slit
slit
สอดกรีดตามยาว
smite
smote
smitten
ตีอย่างแรง
sow
sowed
sowed/sown
หว่านพืช
speak
spoke
spoken
พูด
speed
sped
sped
เร่งความเร็ว
spend
spent
spent
ใช้จ่าย
spill
spilled/spilt
spilled/spilt
ทำหก
spin
spun
spun
ปั่น
spit
spit/spat
spit
บ้วนน้ำลาย
split
split
split
แยกออกจากกัน
spread
spread
spread
แผ่
spring
sprang/sprung
sprung
กระโดด
stand
stood
stood
ยืน
steal
stole
stolen
ขโมย
stick
stuck
stuck
ติดอยู่กับ
sting
stung
stung
ปล่อยเหล็กไน
stink
stank
stunk
เหม็น
stride
strod
stridden
เดินก้าวยาว
ๆ
strike
struck
struck
ตี
string
strung
strung
ขึ้นสาย
,
ร้อยลูกปัด
strive
strove
striven
ดิ้นรน
ต่อสู้
swear
swore
sworn
สาบาน
sweep
swept
swept
กวาด
swell
swelled
swelled/swollen
บวม
swim
swam
swum
ว่ายน้ำ
swing
swung
swung
แกว่ง
take
took
taken
นำไป
teach
taught
taught
สอน
tear
tore
torn
ฉีก
tell
told
told
บอก
think
thought
thought
คิด
thrive
thrived/throve
thrived
เติบโต
throw
threw
thrown
ขว้าง
thrust
thrust
thrust
เสือกเข้าไป
tread
trod
trodden
เดิน
understand
understood
understood
เข้าใจ
uphold
upheld
upheld
ยกไว้
upset
upset
upset
เสียใจ
wake
woke
woken
ตื่น
wear
wore
worn
สวม
weave
weaved/wove
weaved/woven
ทอ
wed
wed
wed
แต่งงาน
weep
wept
wept
ร้องไห้
wind
wound
wound
ไขลาน
win
won
won
ชนะ
withhold
withheld
withheld
เก็บไว้
withstand
withstood
withstood
ทนฟ้าทนฝน
wring
wrung
wrung
บิด
write
wrote
written
เขียน
กริยา3ช่อง และ เทคนิคการท่องกริยา3ช่อง เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE
กริยา3ช่อง และ เทคนิคการท่องกริยา3ช่อง ในคลิปนี้เรามาจะมาทำความเข้าใจกับกริยา3ช่องและลิสคำกริยา3ช่อง เราจะมาฝึกท่องคำศัพท์ไปพร้อมๆกัน เพื่อช่วยทำให้เราออกเสียงได้ถูกต้อง และ ยังรวมไปถึงเทคนิคการฝึกท่องกริยา3ช่องภาษาอังกฤษด้วย irregular verb และ regular verb คืออะไร คลิปนี้มีคำตอบ
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์กับESE
เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ ครบทุกหลักการใช้งานในคลิปเดียวแบบเต็มสูบทั้งหมด
หากสนใจมาเรียนภาษาอังกฤษตัวต่อตัว กับทางESE สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลได้ทางช่องทางเหล่านี้นะครับ
อย่าลืมกดติดตามเราทางช่องทางอื่นๆด้วยนะครับ
Follow us on Facebook: https://www.facebook.com/easyandsimpleenglish/
Follow us on Instagram: https://www.instagram.com/ese_stagram_th/
Visit our website: http://easysimpleenglish.com/
Contact: Tel: 0863537300
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูความรู้เพิ่มเติมที่นี่
50คำกริยา3ช่อง ภาษาอังกฤษ ที่ใช้บ่อย
50คำกริยา3ช่อง ภาษาอังกฤษ ที่ใช้บ่อย
กริยา3ช่อง ภาษาอังงกฤษ eng123
กริยา 3 ช่อง V1 ปัจจุบัน V2 อดีต V3อดีตเพิ่งผ่านไป ฝึกฟังในคลิป15-16 ตามครูมาจะพาพูดได้16ครูโจ
ถ้าต้องการเรียนพื้นฐานเริ่มจาก 0 ให้กดเรียนฟรีได้ ที่ลิ้งก์ หลังประโยคนี้ได้เลยครับhttps://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWcMfV8SWEJAHqPy12ur3bo แต่ถ้าต้องการเห็นวีดีโอเพลย์ลิสทั้งหมด ให้กดไปที่รูปหน้าครูโจ 1 ครั้งแล้วกด เพลย์ลิสต์ 1ครั้ง แล้วเลื่อนลงไปเลือกกดดูคลิปที่เราสนใจฝึกฟรีได้เลยครับ เพราะวีดีโอจะเล่นให้เราเองโดยอัตโนมัติ สามารถเปิดฟังยาวๆแล้วก็ทำงานบ้าน หรือทำงานอื่นๆในกิจวัตรประจำวันของเราได้เลยครับ เพราะวีดีโอจะเล่นยาวๆไปเองครับ ฟังบ่อยๆ แล้วหูของเราก็จะชินกับภาษาอังกฤษไปเอง
……………………………………………………………………
และถ้าผู้เรียนท่านใด ต้องการจะฝึกเฉพาะเรื่องที่เราสนใจ
ก็สามารถ กดเข้าไปที่ลิ้งก์ ที่ครูโจได้จัดทำไว้ให้พวกเราเรียบร้อยแล้ว
เพื่อฝึกภาษาอังกฤษฟรี ด้านล่างที่ครูได้จัดไว้ให้ตามหัวข้อต่างๆ
ที่ผู้เรียนต้องการได้เลยครับ เรามาดูหัวข้อต่างๆ กันได้เลยครับ
…………………………………………………………………..
ฝึกพูดประโยคบอกเล่า และปฏิเสธ จะมีให้ฝึกในคลิปที่ 17 ถึง 24
ครูได้จัดเรียงไว้ให้เรียบร้อยแล้ว จะดีที่สุดและ ง่ายที่สุดเลยครับ ให้กดที่ลิ้งก์นี้ได้เลยครับเพราะวีดีโอที่ 1724 จะเล่นเองโดยอัตโนมัติครับ
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWfqwEaDT36Ac29bPqPSl2gZ
ตามครูมาจะพาพูดได้ 17
ตามครูมาจะพาพูดได้ 18
ตามครูมาจะพาพูดได้ 19
ตามครูมาจะพาพูดได้ 20
คามครูมาจะพาพูดได้ 21
ตามครูมาจะพาพูดได้ 22
ตามครูมาจะพาพูดได้ 23
ตามครูมาจะพาพูดได้ 24
…………………………………………………………………..
การฝึกพูดประโยคคำถามที่ใช้บ่อยๆ ในชีวิตจริงแตั้งแต่เช้าถึงเข้านอน
เช่น คุณ …………..ไหม?จะมีให้ฝึกอยู่ในคลิป
ตามครูมาจะพาพูดได้คลิป25 ถึง 38 การแต่งประโยคคำถามที่ใช้ถามบ่อยที่สุดในชีวิตจริง
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWd8dbI0Z3Py_peBym5U1r2
………………………………………………………………….
ต่อไปเป็นการฝึกพูดประโยคคำถามพิเศษ What Where When Why จะมีให้ฝึกอยู่ในคลิป
ตามครูมาจะพาพูดได้คลิป39 ถึง 48 คำถาพิเศษ 15 คำที่ใช้บ่อย กดที่ลิ้งก์นี้เพื่อเรียนฟรีได้เลยครับ
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWfgjRaHU_iHwNyNjcKA57
………………………………………………………………….
ต่อไปเป็นการฝึกพูดประโยคบอกเล่า การเติม s , es , ies , มีให้ฝึกอยู่ในคลิป
คามครูมาจะพาพูดได้ 49 ถึง 62 การเติม s, es ies
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWf2Sm6fbR_n83cqRaZtAX_w
………………………………………………………………..
การใช้ Do และ Does มาขึ้นต้นในการแต่งประโยคคำถาม มีให้ฝึกในคลิป
ตามครูมาจะพาพูดได้ 63 ถึง 74 การใช้ Do และ Does มาแต่งประโยคคำถาม
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWep608Cm4xysOUUV1jQApql
……………………………………………………………….
การใช้ would , would like to อยาก อยากจะ เป็นคำสุภาพกว่า
want และ want to
มีให้ฝึกในคลิป
ตามครูมาจะพาพูดได้ 75 ถึง 82 การใช้ Would = อยาก
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWezhQjjHTG9QAKNbpP0r5
……………………………………………………………..
การใช้ สำนวนที่ควรจำ : ฉัน ต้องการให้คุณ…: ฉัน ไม่ต้องการให้คุณ… : คุณ ต้องการให้ฉัน…ไหม?
มีให้ฝึกในคลิป
ตามครูมาจะพาพูดได้83 ถึง 84 สำนวน ที่ควรจะ ในภาษาอังกฤษ
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWeh_Dqx1devHZ14ymPMMVC
…………………………………………………………….
ตามครูมาจะพาพูดได้ 85 การใช้ Should = ควรจะ
ตามครูมาจะพาพูดได้ 86 การใช้ Let’s…= …กันเถอะ
ตามครูมาจะพาพูดได้ 87 การใช้ Don’t…= อย่า …
……………………………………………………………
รวมการใช้ can คลิปที่ 8891
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWdM1XYSlqFi_e6FOtO5lMy
ตามครูมาจะพาพูดได้ 88 การใช้ Can= สามารถ…ได้
ตามครูมาจะพาพูดได้ 89 การใช้ cannot…= ไม่สามารถ…ได้
ตามครูมาจะพาพูดได้ 90 การใช้ Can you ….? คุณ …ได้ไหม?
ตามครูมาจะพาพูดได้ 91 การใช้ คำถามพิเศษ Wh + can +กริยา …?
………………………………………………………
รวมการใช้will
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWdCGpFETjnj_cgi_hs_436L
ตามครูมาจะพาพูดได้ 92 การใช้ will = จะ
ตามครูมาจะพาพูดได้ 93 การใช้ will not = จะไม่
ตามครูมาจะพาพูดได้ 94 การใช้ Will you….? คุณ จะ…ไหม?
ตามครูมาจะพาพูดได้ 95 การใช้ Will you…? คุณ จะ…ไหม?
ตามครูมาจะพาพูดได้ 96 การใช้ คำถามพิเศษ + will + you……?
………………………………………………………..
รวมการใช้Am Are Is มีอยู่ในคลิปที่57 , 97, 98
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWek2G6y8t7Kxs1BdOw4DmZM
ตามครูมาจะพาพูดได้ 97 การใช้ Are you…..? ความรู้สึกต่างๆ
ตามครูมาจะพาพูดได้ 98 การใช้ Are you…? ความรู้สึกต่างๆ , และสถานที่ , วัน เวลาลงท้าย
กริยา 3 ช่อง V1ปัจจุบัน V2อดีต V3อดีตเพิ่งผ่านไป ฝึกฟังในคลิป15-16 ตามครูมาจะพาพูดได้15ครูโจ
ถ้าต้องการเรียนพื้นฐานเริ่มจาก 0 ให้กดเรียนฟรีได้ ที่ลิ้งก์ หลังประโยคนี้ได้เลยครับhttps://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWcMfV8SWEJAHqPy12ur3bo แต่ถ้าต้องการเห็นวีดีโอเพลย์ลิสทั้งหมด ให้กดไปที่รูปหน้าครูโจ 1 ครั้งแล้วกด เพลย์ลิสต์ 1ครั้ง แล้วเลื่อนลงไปเลือกกดดูคลิปที่เราสนใจฝึกฟรีได้เลยครับ เพราะวีดีโอจะเล่นให้เราเองโดยอัตโนมัติ สามารถเปิดฟังยาวๆแล้วก็ทำงานบ้าน หรือทำงานอื่นๆในกิจวัตรประจำวันของเราได้เลยครับ เพราะวีดีโอจะเล่นยาวๆไปเองครับ ฟังบ่อยๆ แล้วหูของเราก็จะชินกับภาษาอังกฤษไปเอง
……………………………………………………………………
และถ้าผู้เรียนท่านใด ต้องการจะฝึกเฉพาะเรื่องที่เราสนใจ
ก็สามารถ กดเข้าไปที่ลิ้งก์ ที่ครูโจได้จัดทำไว้ให้พวกเราเรียบร้อยแล้ว
เพื่อฝึกภาษาอังกฤษฟรี ด้านล่างที่ครูได้จัดไว้ให้ตามหัวข้อต่างๆ
ที่ผู้เรียนต้องการได้เลยครับ เรามาดูหัวข้อต่างๆ กันได้เลยครับ
…………………………………………………………………..
ฝึกพูดประโยคบอกเล่า และปฏิเสธ จะมีให้ฝึกในคลิปที่ 17 ถึง 24
ครูได้จัดเรียงไว้ให้เรียบร้อยแล้ว จะดีที่สุดและ ง่ายที่สุดเลยครับ ให้กดที่ลิ้งก์นี้ได้เลยครับเพราะวีดีโอที่ 1724 จะเล่นเองโดยอัตโนมัติครับ
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWfqwEaDT36Ac29bPqPSl2gZ
ตามครูมาจะพาพูดได้ 17
ตามครูมาจะพาพูดได้ 18
ตามครูมาจะพาพูดได้ 19
ตามครูมาจะพาพูดได้ 20
คามครูมาจะพาพูดได้ 21
ตามครูมาจะพาพูดได้ 22
ตามครูมาจะพาพูดได้ 23
ตามครูมาจะพาพูดได้ 24
…………………………………………………………………..
การฝึกพูดประโยคคำถามที่ใช้บ่อยๆ ในชีวิตจริงแตั้งแต่เช้าถึงเข้านอน
เช่น คุณ …………..ไหม?จะมีให้ฝึกอยู่ในคลิป
ตามครูมาจะพาพูดได้คลิป25 ถึง 38 การแต่งประโยคคำถามที่ใช้ถามบ่อยที่สุดในชีวิตจริง
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWd8dbI0Z3Py_peBym5U1r2
………………………………………………………………….
ต่อไปเป็นการฝึกพูดประโยคคำถามพิเศษ What Where When Why จะมีให้ฝึกอยู่ในคลิป
ตามครูมาจะพาพูดได้คลิป39 ถึง 48 คำถาพิเศษ 15 คำที่ใช้บ่อย กดที่ลิ้งก์นี้เพื่อเรียนฟรีได้เลยครับ
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWfgjRaHU_iHwNyNjcKA57
………………………………………………………………….
ต่อไปเป็นการฝึกพูดประโยคบอกเล่า การเติม s , es , ies , มีให้ฝึกอยู่ในคลิป
คามครูมาจะพาพูดได้ 49 ถึง 62 การเติม s, es ies
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWf2Sm6fbR_n83cqRaZtAX_w
………………………………………………………………..
การใช้ Do และ Does มาขึ้นต้นในการแต่งประโยคคำถาม มีให้ฝึกในคลิป
ตามครูมาจะพาพูดได้ 63 ถึง 74 การใช้ Do และ Does มาแต่งประโยคคำถาม
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWep608Cm4xysOUUV1jQApql
……………………………………………………………….
การใช้ would , would like to อยาก อยากจะ เป็นคำสุภาพกว่า
want และ want to
มีให้ฝึกในคลิป
ตามครูมาจะพาพูดได้ 75 ถึง 82 การใช้ Would = อยาก
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWezhQjjHTG9QAKNbpP0r5
……………………………………………………………..
การใช้ สำนวนที่ควรจำ : ฉัน ต้องการให้คุณ…: ฉัน ไม่ต้องการให้คุณ… : คุณ ต้องการให้ฉัน…ไหม?
มีให้ฝึกในคลิป
ตามครูมาจะพาพูดได้83 ถึง 84 สำนวน ที่ควรจะ ในภาษาอังกฤษ
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWeh_Dqx1devHZ14ymPMMVC
…………………………………………………………….
ตามครูมาจะพาพูดได้ 85 การใช้ Should = ควรจะ
ตามครูมาจะพาพูดได้ 86 การใช้ Let’s…= …กันเถอะ
ตามครูมาจะพาพูดได้ 87 การใช้ Don’t…= อย่า …
……………………………………………………………
รวมการใช้ can คลิปที่ 8891
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWdM1XYSlqFi_e6FOtO5lMy
ตามครูมาจะพาพูดได้ 88 การใช้ Can= สามารถ…ได้
ตามครูมาจะพาพูดได้ 89 การใช้ cannot…= ไม่สามารถ…ได้
ตามครูมาจะพาพูดได้ 90 การใช้ Can you ….? คุณ …ได้ไหม?
ตามครูมาจะพาพูดได้ 91 การใช้ คำถามพิเศษ Wh + can +กริยา …?
………………………………………………………
รวมการใช้will
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWdCGpFETjnj_cgi_hs_436L
ตามครูมาจะพาพูดได้ 92 การใช้ will = จะ
ตามครูมาจะพาพูดได้ 93 การใช้ will not = จะไม่
ตามครูมาจะพาพูดได้ 94 การใช้ Will you….? คุณ จะ…ไหม?
ตามครูมาจะพาพูดได้ 95 การใช้ Will you…? คุณ จะ…ไหม?
ตามครูมาจะพาพูดได้ 96 การใช้ คำถามพิเศษ + will + you……?
………………………………………………………..
รวมการใช้Am Are Is มีอยู่ในคลิปที่57 , 97, 98
https://www.youtube.com/playlist?list=PLtIYgIxknWWek2G6y8t7Kxs1BdOw4DmZM
ตามครูมาจะพาพูดได้ 97 การใช้ Are you…..? ความรู้สึกต่างๆ
ตามครูมาจะพาพูดได้ 98 การใช้ Are you…? ความรู้สึกต่างๆ , และสถานที่ , วัน เวลาลงท้าย
-ED pronunciation – /t/ /d/ or /id/? (pronounce PERFECTLY every time!)
The ed endings of regular past tense verbs and adjectives are pronounced in 3 different ways learn how to pronounce them correctly every time! Download FREE lesson PDF here: http://bit.ly/pronounceEDpdf.
DO YOU WANT TO RECEIVE EMAILS FROM LUCY? Sign up here: https://bit.ly/EmailsFromLucy
Don’t forget to turn on subtitles if you need them! This is how I generate my subtitles (you can get a $10 subtitle coupon too): https://www.rev.com/blog/coupon/?ref=lucy (affiliate)
Visit my website for free PDFs and an interactive pronunciation tool! https://englishwithlucy.co.uk
MY SOCIAL MEDIA:
Personal Channel: http://bit.ly/LucyBella (I post subtitled vlogs of my life in the English countryside! Perfect for listening practice!)
Instagram: @Lucy http://bit.ly/lucyinsta
My British English Pronunciation Course is now LIVE: https://englishwithlucy.co.uk/pronunciationcourse (use code YOUTUBE10 for a 10% discount!)
Do you want to improve your pronunciation? I have launched my British English (Modern RP) pronunciation course! I’ll train you to read phonetic transcriptions, and produce each sound that comprises modern received pronunciation. I’ll also teach you how to implement the correct use of intonation, stress, rhythm, connected speech, and much more. We’ll compare similar sounds, and look at tricky topics like the glottal stop and the dark L.
Technically, I need to mark this as an AD even though it is my own company so AD 🙂
Want to get a copy of my English Vocabulary Planners? Click here: https://shop.englishwithlucy.co.uk The best offer is the 4book bundle where you get 4 planners for the price of 3. This product is very limited don’t miss out. The English Plan will be shipped from early August, from me here in England to you across the world! We ship internationally!
Watch my explainer video here: https://bit.ly/TheEnglishPlanVideo
Practice speaking: Earn $10 free italki credit: https://go.italki.com/englishwithlucy… (ad affiliate)
Improve listening! Free Audible audiobook: https://goo.gl/LshaPp
If you like my lessons, and would like to support me, you can buy me a coffee here: https://kofi.com/englishwithlucy
FREE £26 Airbnb credit: https://www.airbnb.co.uk/c/lcondesa (ad affiliate)
Email for business enquiries ONLY: [email protected]
Edit by Connor Hinde [email protected]
นอกจากการดูบทความนี้แล้ว คุณยังสามารถดูข้อมูลที่เป็นประโยชน์อื่นๆ อีกมากมายที่เราให้ไว้ที่นี่: ดูวิธีอื่นๆLEARN FOREIGN LANGUAGE
ขอบคุณที่รับชมกระทู้ครับ กริยา 3 ช่อง invite